บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸¡à¸“ีพิชัย ตà¸à¸™à¸žà¸£à¸²à¸«à¸¡à¸“์ยà¸à¸žà¸£à¸°à¸à¸¥à¸´à¹ˆà¸™à¸‚à¸à¸¡à¸“ีพิชัยไปเป็นทาส
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→) |
(→) |
||
แถว 413: | แถว 413: | ||
==== ==== | ==== ==== | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
+ | <sup>สามเส้า</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น พระมณีฟังความเจ้าพราหมณ์ว่า | ||
+ | ทอดถอนใจใหญ่ไปมา แล้วผัดผาว่ากล่าววิงวอน | ||
+ | วันนี้เวลาก็สายัณห์ จงอยู่นอนด้วยกันสักคืนก่อน | ||
+ | ต่อรุ่งรางสางแสงทินกร จึงค่อยบทจรก็เป็นไร | ||
+ | พี่จะให้ไพร่พลมนตรี ออกไปส่งถึงที่อาศัย | ||
+ | มรคาป่ากว้างทางไกล จงขี่วอกลับไปเหมือนเมื่อมา | ||
+ | เขาจะได้ลือเล่าว่าเจ้าพราหมณ์ ขี่วอคนหามงามนักหนา | ||
+ | เป็นหมองูรู้เวทมนตรา จะซ้องสาธุการสำราญใจ | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น เจ้าพราหมณ์กล่าวแกล้งแถลงไข | ||
+ | ข้าเป็นพราหมณ์ชีนี้ไซร้ จะนอนในรั้ววังไม่บังควร | ||
+ | เคยอยู่แต่ศาลาพนาเวศ รักษาพรตตามเพศพระอิศวร | ||
+ | อย่าเฝ้าหน่วงหนักชักชวน สายัณตะวันจวนจะด่วนไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>โอ้ปี่</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น สองกษัตริย์โศกศัลย์ไม่กลั้นได้ | ||
+ | สงสารลูกน้อยกลอยใจ จะต้องไปเป็นข้าพราหมณ์ชี | ||
+ | จะกะตรกกะตรำลำบาก อดอยากอยู่ในไพรศรี | ||
+ | ริ้นยุงบุ้งร่าสใช่พอดี ทุกทิวาราตรีจะตรอมใจ | ||
+ | ยากแค้นเพราะแทนพระคุณแม่ ความสัตย์เที่ยงแท้จะหาไหน | ||
+ | พลางกอดลูกยาโศกาลัย สะอึกสะอื้นไห้ไปมา | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ โอด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น โฉมเจ้าพราหมณ์น้อยคอยท่า | ||
+ | เห็นสามกษัตริย์โศกา พิไรร่ำล่ำลาอาลัย | ||
+ | จึงแย้มเยื้อนเตือนองค์พระมณี อย่าโศกีเศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
+ | แม้นรำลึกถึงสองท้าวไท จึงกลับมาก็ได้เป็นไรม่ | ||
+ | ว่าแล้วถวายบังคมลา บิตุเรศมารดาทั้งสองศรี | ||
+ | ผันพักตร์กวักเรียกพระมณี อย่าเซ้าซี้มาไปด้วยกัน | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ เมื่อนั้น พระมณีเศร้าสร้อยโศกศัลย์ | ||
+ | บังคลสององค์ทรงธรรม์ แล้วจรจรัลเดินตามเจ้าพราหมณ์ไป | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ ทยอย | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>โอ้ลาว</sup> | ||
+ | ๏ เดินพลางมากลางมรคา พระราชาทอดถอนใจใหญ่ | ||
+ | โอ้ว่าเวรกรรมได้ทำไว้ จำไปเป็นข้าเจ้าพราหมณ์ชี | ||
+ | อกเอ๋ยไม่เคยจะตกยาก ลำบากเคืองข้องหมองศรี | ||
+ | ไม่รู้ใจนายร้ายหรือดี แล้วจะตีกันเล่นไม่เว้นวัน | ||
+ | ครั้นเจ้าพราหมณ์เหลียวมาทำหน้าม่อย อุยหน่าหนามยอกน้อยไปหรือนั่น | ||
+ | ทำนิ่วพักตร์ชักหนามฉับพลัน ค่อยเหยียบยันโขยกเขยกมา | ||
+ | เห็นสุมทุมพุ่มไม้ในไพรชัฎ เกรงกริ่งสิงสัตว์ที่ในป่า | ||
+ | เดินพลางทางนึกภาวนา ร้องเตือนนายขาระวังตัว | ||
+ | ได้ยินเสียงสกุณีมี่ก้อง ชะนีเหนี่ยวไม้ร้องเรียกผัว | ||
+ | ใจหายกายสั่นอยู่รัวรัว คิดกลัวผีสางปะรางควาน | ||
+ | ดำเนินเดินตามเจ้าพราหมณ์ไป เปลี่ยวเปล่าเศร้าใจในไพรสาณฑ์ | ||
+ | ขึ้นเขาข้ามน้ำลำธาร ดัดดั้นดงดานเดินมา | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น เจ้าพราหมณ์ชีมีใจหรรษา | ||
+ | มาถึงที่บรรณศาลา จึงพาพระมณีเข้าไป | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ นั่งเหนือเสื่อสาดลาดปู ที่เคยอยู่นิทราอาศัย | ||
+ | พิศพักตร์ภัสดาก็อาลัย สงสารภูวไนยช่างไม่รู้ | ||
+ | ครั้นจะลามลวนชวนชิด ก็เกรงเดชโกสิตบิดาอยู่ | ||
+ | แต่ยิ้มใหญ่ยิ้มน้อยชม้อยดู คิดอดสูแสร้งกล่าวเป็นมารยา | ||
+ | วันนี้เหนื่อยนักจักเอนหลัง พระองค์จงนั่งระวังข้า | ||
+ | ต่อดึกหน่อยจึงค่อยนิทรา แล้วหลับตานิ่งอยู่ดูท่วงที | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ เมื่อนั้น พระมณีพิชัยเรืองศรี | ||
+ | ถ่อมตัวกลัวเกรงเจ้าพราหมณ์ชี ปรนนิบัติพัดวีให้นิทรา | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ชมโฉม</sup> | ||
+ | ๏ นั่งพินิจพิศโฉมเจ้าพราหมณ์น้อย แช่มช้อยน่ารักเป็นนักหนา | ||
+ | พิศพักตร์ผ่องผิวโสภา ดังจันทราทรงกลดหมดมลทิน | ||
+ | รูปทรงสารพัดไม่ขัดขวาง เหมือนละม้ายคล้ายนางยอพระกลิ่น | ||
+ | นวลละอองสองแก้มดังลูกอิน จะแย้มเยื้อนเหมือนสิ้นทุกสิ่งอัน | ||
+ | หรือจะเป็นนวลละอองน้องแก้ว เมียพี่คนนี้แล้วเป็นแม่นมั่น | ||
+ | พลางขยดเข้าใกล้ใจผูกพัน ลืมองค์หลงสำคัญว่ากัลยา | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ ค่อยยกพระหัตถ์สัมผัสต้อง ยิ้มพลางทางมองดูหน้า | ||
+ | เห็นคล้ายละม้ายเหมือนไม่เคลื่อนคลา พระราชาสวมสอดกอดรัด | ||
+ | ครั้นเจ้าพราหมณ์ถามมาว่าอะไร ก็ตกใจแก้เก้อว่ายุงกัด | ||
+ | ทำเหลียวหลังเหลียวหน้าคว้าพัด โบกปัดพัดวีไปมา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ เมื่อนั้น เจ้าพราหมณ์ยิ้มละไมอยู่ในหน้า | ||
+ | ดูทำนองพระมณีพี่ยา เห็นว่าจะจู่ลู่วู่วาม | ||
+ | จึงพลิกตัวถอยถอด้วยอดสู ลุกขึ้นนั่งตั้งกระทู้ขู่ถาม | ||
+ | เอออะไรไม่ควรมาลวนลาม เซ้าซี้ชีพราหมณ์เป็นน่าชัง | ||
+ | ข้านี้มิใช่นายหม่อมหรือ ไม่นับถือยำเยงเกรงใจมั่ง | ||
+ | จะว่าโดยดีก็มิฟัง ไม้เรียวจะลงหลังสักที | ||
+ | จงบรรทมเสียเถิดให้สำราญ รำคาญวานอย่าจู้จี้ | ||
+ | ว่าแล้วนิทราในราตรี พระมณีพิชัยก็ไสยา | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ รุ่งเอยรุ่งราง แสงทองส่องสว่างเวหา | ||
+ | เจ้าพราหมณ์นิ่งนึกตรึกตรา จะลองภัสดาสามี | ||
+ | ท้าวเธอจะสัตย์ซื่ออยู่หรือไม่ หรือจะเป็นไฉนให้รู้ที่ | ||
+ | คิดพลางทางว่าไปทันที นี่แน่พระมณีสุริย์วงศ์ | ||
+ | วันนี้ตัวข้าจะคลาไคล ออกไปหิมวาป่าระหง | ||
+ | เที่ยวหายาหยูกในแดนดง พระองค์จงอยู่เฝ้าศาลา | ||
+ | ข้าจะให้น้องสาวมาอยู่เพื่อน เสือสางกลางเถื่อนดุนักหนา | ||
+ | สั่งเสียเสร็จสรรพกำชับกำชา แล้วลงจากศาลาคลาไคล | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ ลัดแลงแฝงพุ่มพนาลี มิให้พระมณีสงสัย | ||
+ | จึงร่ายเวทมัฆวานประทานไว้ จำแลงแปลงได้ดังใจปอง | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
+ | |||
==== ==== | ==== ==== | ||
<tpoem> | <tpoem> |
การปรับปรุง เมื่อ 08:53, 24 สิงหาคม 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | นางจันทรเทวีศรีใส | ||
อินทรามาเข้าดลใจ | เผอิญให้ร้อนรนพ้นปัญญา | ||
คิดจะใคร่ไปสรงชลธี | ยังที่ฉนวนน้ำประจำท่า | ||
ชวนฝูงกำนัลในไคลคลา | ลีลามาสู่ตำหนักแพ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นถึงจึงลงสรงสนาน | กับบริวารข้าสาวชาวแม่ | ||
หัวระริกซิกซี้กันซ้อแซ้ | ชุ่มแช่ชลธารสำราญใจ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงฉิ่ง เจรจา | |||
๏ นางจันทรทอดทัศนา | เห็นดอกบัวลอยมาในน้ำไหล | ||
ไม่แจ้งว่างูร้ายอยู่ภายใน | ครั้นเข้ามาใกล้ก็หยิบเอา | ||
กลิ่นหอมรวยรื่นชื่นอารมณ์ | นางเชยชมดมแล้วดมเล่า | ||
แซมมวยเล่นลองต้องเบาเบา | งูงอดตอดเอาพระเศียรนาง | ||
ขึ้นมาบนฉนวนครวญคราง | นวลนางซอนชบสลบลง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
๏ บัดนั้น | กำนัลนางต่างคนตะลึงหลง | ||
บ้างเข้าประคองต้ององค์ | เห็นโฉมยงแน่นิ่งไม่ติงกาย | ||
บ้างว่างูขบสลบไป | ทำกระไรกระนี้จึงจะหาย | ||
บ้างวิ่งไปถึงโรงฝีพาย | หาหมอผู้ชายก็ไม่มี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บรรดาข้าหลวงทั้งปวงนั้น | ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหนี | ||
เข้ากลุ้มอุ้มองค์เทวี | พาไปยังที่พระบรรทม | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เถ้าแก่ท้าวนางต่างตกใจ | อลหม่านอกไหม้ไส้ขม | ||
บ้างไปเรียกขอเฝ้าเจ้ากรม | บ้างขึ้นมาบังคมทูลคดี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพิชัยนุราชเรืองศรี | ||
ครั้นรู้ก็รีบจรลี | พระมณีพิชัยก็ไคลคลา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ นั่งลงทรงลูบปฤษฏางค์ | กายนางเย็นฉ่ำดังน้ำท่า | ||
ตกใจสำคัญว่ากัลยา | มอดม้วยมรณาก็จาบัลย์ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
๏ จึงตรัสสั่งลูกรักให้เร่งหา | หมองูเข้ามาขมีขมัน | ||
ใครแก้ไขให้หายจะรางวัล | แพรพรรณเงินทองล้วนของดี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | พระโอรสรับสั่งใส่เกศี | ||
มาหาหมอวุ่นวิ่งเป็นสิงคลี | อึงมี่ตึงตังทั้งวังใน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ มดหมอแก้ไขก็หนักหนา | นางจะฟื้นคืนมาก็หาไม่ | ||
จึงให้ตีฆ้องร้องป่าวไป | หมองูอยู่ที่ไหน เอาตัวมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
ลาวปืนตลิ่ง | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมเจ้าพราหมณ์น้อยละห้อยหา | ||
นั่งอยู่ยังบรรณศาลา | เห็นเขามาร้องป่าวก็เข้าใจ | ||
ชะรอยท่านแม่ผัวตัวอิจฉา | บาปหนางูขบสลบไสล | ||
เหมือนคำโกสีย์ที่สาปไว้ | สมน้ำหน้าสาใจนางเทวี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นหยุดเสียงฆ้องก็ร้องถาม | ถ้อยความอะไรขาว่าเมื่อกี้ | ||
เชิญแวะมาหาข้าข้างนี้ | เล่าคดีให้ฟังมั่งเป็นไร | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | เสนาฟังพราหมณ์ถามไถ่ | ||
จึงบอกว่ามเหสีของท้าวไท | งูขบสลบไปไม่ฟื้นองค์ | ||
หมองูเอายาทาถวาย | ก็ไม่คลายสักนิดที่พิษสง | ||
ถ้าใครแก้ฟื้นคืนคง | พระองค์จะให้ทองเท่าลูกฟัก | ||
เข้าใจมั่งหรือพ่อเป็นหมองู | ชีพราหมณ์ความรู้มักแหลมหลัก | ||
ปากเปราะเราะรายมาทายทัก | จะรับรักษาได้หรือไรนา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ยิ้มพลางทางว่า | ||
ข้าเจ้าเป็นหมองูรู้มนตรา | จะรักษาก็ได้เป็นไรมี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนาได้ฟังถ้วนถี่ | ||
จึงว่าขอเชิญเจ้าพราหมณ์ชี | ไปรักษามเหสีท้าวไท | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์กล่าวแกล้งแถลงไข | ||
เท้าข้าป่วยเจ็บเป็นเหน็บไป | เดินเหินไม่ได้นะเสนา | ||
ท่าทางกลางดงก็กันดาร | แม้นท่านจะให้ไปรักษา | ||
จงไปทูลอาการพระผ่านฟ้า | ให้เอาวอออกมารับเรา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | เสนีดีใจใครจะเท่า | ||
ซักไซ้ได้ความตามลำเนา | แล้วกลับเข้าบุรีเร็วพลัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงทูลแถลงแจ้งความ | ข้าไปพบเจ้าพราหมณ์ในไพรสัณฑ์ | ||
เป็นหมองูรู้จบครบครัน | หยูกยาว่าขยันเคยทดลอง | ||
จะพามาด้วยก็ป่วยเท้า | เดินก้าวไม่ถนัดขัดข้อง | ||
สั่งมาว่าจะเอาวอทอง | ไปรับรองจึงเจ้าจะเข้ามา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพิชัยนุราชนาถา | ||
ได้ฟังจึงสั่งเสนา | อย่าช้าเร่งรัดกันบัดนี้ | ||
วอทองของกูที่ทำใหม่ | จงเอาไปให้เจ้าพราหมณ์ขี่ | ||
เชื้อเชิญพูดจาให้จงดี | รับเจ้าพราหมณ์ชีเข้ามา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | เสนีรับสั่งใส่เกศา | ||
มาจัดแจงแต่งวอช่อฟ้า | เสร็จแล้วก็พากันคลาไคล | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงบอกแก่เจ้าพราหมณ์ | เล่าความจะแจ้งแถลงไข | ||
บัดนี้พระองค์ทรงภพไตร | สั่งให้มารับฉับพลัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
จระเข้หางยาว | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์เพราเพริศเฉิดฉัน | ||
ในจิตคิดจะใคร่จรจรัล | ไปประสบพบกันกับผัวรัก | ||
แต่เมียพลัดพรากจากมา | พระจะแสนโศกาเพียงอกหัก | ||
วันนี้เข้าไปได้พบพักตร์ | จะรู้จักเมียบ้างหรืออย่างไร | ||
คิดคะนึงถึงความเสน่หา | จะอดกลั้นโศกามิใคร่ได้ | ||
เห็นเขาแลดูอดสูใจ | ทำเมียงเมินเดินไปในศาลา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ อาบน้ำชำระสระสวย | หวีผมเกล้ามวยแล้วนุ่งผ้า | ||
มาขึ้นวอสุวรรณมิทันช้า | ทั้งสี่เสนาก็นำไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ มาถึงปราการกั้นชั้นสอง | จึงลงจากวอทองผ่องใส | ||
เถ้าแก่ท้าวนางข้างใน | ออกไปรับเจ้าพราหมณ์ให้ตามมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
ช้าปี่ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีพิชัยใฝ่ฝันหา | ||
เห็นโฉมเจ้าพราหมณ์งามโสภา | กิริยารูปร่างเหมือนนางเมีย | ||
แล้วจะเป็นยอพระกลิ่นเมียพี่ | ที่พระชนนีขับเสีย | ||
ร้อนอกหมกไหม้ดังไฟเลีย | สำคัญคิดว่าเมียก็เข้ามา | ||
แย้มยิ้มหยอกยุดฉุดข้อมือ | ไปไหนน้อยหรือพึ่งเห็นหน้า | ||
พิศวงหลงใหลไขว่คว้า | อนิจจาถอยหนีพี่ไย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ปัดกรค้อนให้ | ||
แลสบหลบเนตรภูวไนย | แย้มยิ้มละไปไปมา | ||
คิดคะนึงถึงความเมื่อยามรัก | สงสารพระทรงศักดิ์เป็นหนักหนา | ||
ชลเนตรคลอคลองนัยนา | เมียงเมินพักตราไม่พาที | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีพิชัยโฉมศรี | ||
จึงกุมกรเจ้าพราหมณ์จรลี | มานั่งเหนือแท่นที่อันเดียวกัน | ||
คิดพะวงสงสัยอยู่ไม่วาย | เหมือนละม้ายยอพระกลิ่นเมียขวัญ | ||
จะใคร่รู้ข้อขำสำคัญ | จึงถามไถ่ไปพลันทันที | ||
นามกรของเจ้านั้นชื่อไร | อย่าใส่ไคร้ย้อนยอกจงบอกพี่ | ||
สุริยวงศ์พงศ์เผ่าของเจ้ามี | หรือกำเนิดเกิดที่แห่งใด | ||
อันถิ่นฐานบ้านช่องของน้องรัก | แรกเริ่มเดิมสำนักอยู่ที่ไหน | ||
บอกพี่เถิดเจ้าพราหมณ์อย่าขามใจ | เหตุไรมาอยู่ที่ศาลา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ยิ้มเยื้อนเบือนหน้า | ||
เสแสร้งแกล้วกล่าววาจา | พระอย่ากินแหนงแคลงใจ | ||
ตัวข้าชื่อว่าอารียพราหมณ์ | ขนานนามตามสังเกตเพศไสย | ||
บิดามารดาข้าบรรลัย | แต่อายุข้าได้สิบปี | ||
จึงเที่ยวสัญจรซอนซอก | อยู่บ้านนอกปลายแดนกรุงศรี | ||
เรียนวิชาหาครูความรู้ดี | แล้วมาอยู่ยังที่ศาลา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีนิ่งฟังให้กังขา | ||
ถ้อยคำน้ำเสียงจำนรรจา | เหมือนเสียงแก้วแววตาของพี่ชาย | ||
ขนงเนตรเกศแก้มแย้มเยื้อน | ละม้ายเหมือนยอพระกลิ่นโฉมฉาย | ||
กิริยาพาทีก็ขวยอวย | ผิดชายหนักหนาน่าอัศจรรย์ | ||
ถอยถอขยดเข้านั่งชิด | ทอดสนิทติดใจใฝ่ฝัน | ||
จะใคร่ดูให้รู้สำคัญ | เป็นไรนั่นกลิ่นอายก็หายไป | ||
นั่งนึกตรึกถวิลยังกินแหนง | จึงแสแสร้งแกล้งกล่าวถามไถ่ | ||
ยามร้อนผ้าผ่อนเจ้าห่มไย | ซื้อหรือใครให้จึงได้มา | ||
เนื้อหนังดีหนอจะขอชม | เจ้าพราหมณ์ห่มสมตัวหนักหนา | ||
ฉุดชิงชายสไบไขว่คว้า | นัยนาแลลอดสอดดู | ||
ไม่เห็นแยบคายก็อายใจ | ทอดถอนใจใหญ่แล้วยิ้มอยู่ | ||
แก้เก้อนั่งกัดปูนพลู | อดสูแก่ใจไม่เจรจา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ยิ้มพลางทางว่า | ||
ผ้าของข้านี้ที่ห่มมา | ไปรักษาคนไข้เขาให้ปัน | ||
ไม่เคยพบผ้าหรือเอามือหยิบ | มิใช่ว่าผ้าทิพย์ผ้าสวรรค์ | ||
ประเพณีชีพราหมณ์พรหมจรรย์ | ห่มผ้ามากระนั้นตามธรรมเนียม | ||
ข้าเจ้านี้หรือคนซื่อตาย | ไม่รู้ทำแยบคายอายเหนียม | ||
เป็นคนโง่เง่าไม่เท่าเทียม | สงบเสงี่ยมอยู่ตามพราหมณ์ชี | ||
อย่าทำลามลวนหาควรไม่ | สะบัดกรค้อนให้แล้วลุกหนี | ||
ไปรับมาให้รักษาชนนี | ก่นแต่เฝ้าเซ้าซี้รำคาญใจ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีนึกพะวงสงสัย | ||
ดำเนินเดินตามเจ้าพราหมณ์ไป | รอเรียงเคียงไหล่ชำเลืองดู | ||
จึงว่าตัวเจ้าก็เป็นชาย | ไม่พอที่จะอายอดสู | ||
หามาจะให้ปัดพิษงู | จงทำตามความรู้ที่เรียนไว้ | ||
เครื่องเทศเครื่องไทยอะไรมั่ง | พี่จะสั่งให้เขาเอามาให้ | ||
เหมือนหนึงกันเองอย่าเกรงใจ | จะต้องการสิ่งไรจะบอกเรา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ว่าร้อนใจไปไยเล่า | ||
เครื่องเทศสมุนไพรก็ไม่เอา | ข้าเจ้าจะให้หายด้วยวิทยา | ||
แม้นพระมารดาฟื้นคืนคง | พระองค์จะให้อะไรข้า | ||
จงให้ความสัตย์สัญญา | ต่อหน้าทั้งปวงเป็นพยาน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีพิชัยจึงว่าขาน | ||
แม้นรักษาหายไม่วายปราณ | จะทดแทนคุณท่านให้ถึงใจ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เจ้าเอยเจ้าพราหมณ์ | ทั้งนี้ก็ตามอัชฌาสัย | ||
น้องรักจักประสงค์สิ่งใด | พี่จะหาให้ดังใจนึก | ||
หรือจะใคร่ได้เมียที่สาวสาว | ขาวขาวดีดีมีไม่ตรึก | ||
สมบัติวัตถาโอฬารึก | จงเลือกนึกเอาตามชอบใจ | ||
เว้นแต่ดาวเดือนดอกฟ้า | นอกนั้นพี่ยาจะหาให้ | ||
เงินทองของข้าวจงเอาไป | สิ่งไรสารพัดไม่ขัดกัน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์สำรวลสรวลสันต์ | ||
จึงตอบว่าเงินทองของทั้งนั้น | ข้าเป็นพราหมณ์พรหมจรรย์ไม่ชอบใจ | ||
ถ้าพระจะยอมไปเป็นข้า | จึงจะรับรักษามารดาได้ | ||
ครูข้ากำชับบังคับไว้ | มิให้เอาสินบนเงินทอง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีได้ฟังก็เศร้าหมอง | ||
นิ่งนึกดำริตริตรอง | ดูทำนองโฉมงามเจ้าพราหมณ์นี้ | ||
จะเป็นยอพระกลิ่นดอกกระมัง | จึงจำเพาะเจาะจังเอาตัวพี่ | ||
แก้วแหวนเงินทองล้วนของดี | สาวสรรค์สตรีไม่ชอบใจ | ||
จำจะยอมถ่อมตัวเป็นทาสา | ตามไปถึงศาลาที่อาศัย | ||
จะเป็นชายหรือหญิงยังกริ่งใจ | ก็จะได้สำคัญเป็นมั่นคง | ||
คิดพลางทางว่ากับเจ้าพราหมณ์ | พี่จะตามใจน้องต้องประสงค์ | ||
จงช่วยชุบชีวาตม์มาตุรงค์ | ให้ฟื้นคืนคงเป็นมา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ได้ฟังก็หรรษา | ||
ชวนองค์พระมณีลีลา | เข้ามาสู่สถานพระมารดร | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
๏ จึงหยิบเอาหมากมาสามคำ | เสกคำทำตามที่โกสีย์สอน | ||
สำรวมจิตใจให้แน่นอน | ประนมกรมัสการอ่านมนต์ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
เชื้อ | |||
๏ โอมอสรพิษฤทธิ์กล้า | งูทับสมิงคลาเป็นต้น | ||
งูเห่างูงอดตอดคน | ก้นขบจงอางขว้างค้อน | ||
พระอินทร์ตรัสใช้ให้กูมา | ร้องเรียกร้อยหาอย่าซุ่มซ่อน | ||
ตัวใดที่ขบนางจันทร | เร่งมาสูบถอนเอกพิษไป | ||
แม้นข้าจะใช้ให้จักรเพชร | ตัดหัวขาดเด็ดไม่อยู่ได้ | ||
อ่านจบเจ็ดคาบกำราบไป | บัดใจงูร้ายก็เลื้อยมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ คุกพาทย์ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีตระหนกตกประหม่า | ||
สิ้นสติตกใจภาวนา | กลัวงูหูตาเหลือกลาน | ||
ร้องเรียกเจ้าพราหมณ์ให้ช่วยด้วย | พี่จะม้วยชีวาวังสังขาร | ||
น้อยหรือนั่นมันเลิกพังพาน | ไม่ได้การแล้วจะไปข้างไหนดี | ||
ฝ่ายฝูงสาวสรรค์กำนัลใน | ตกใจตัวสั่นขวัญหนี | ||
ร้องกรีดหวีดวิ่งเป็นสิงคลี | อึงมี่ไปทั้งวังใน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมเจ้าพราหมณ์ชีศรีใส | ||
จึงร่ายพระเวทอันเรืองชัย | เป่าไปได้ครบสามครา | ||
งูเห่าเข้าสูบเอาพิษสง | โดยดังจำนงปรารถนา | ||
แล้วเลื้อยหายไปมิได้ช้า | กัลยาค่อยรู้สึกองค์ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ รัว เชิด | |||
๏ เจ้าพราหมณ์จึงสั่งไปทันใด | เร่งให้เอาน้ำมาโสรจสรง | ||
สุคนธาลูบไล้ชโลมลง | นางโฉมยงคงคืนฟื้นกาย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ สาธุการ เจรจา | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพิชัยนุราชฤาสาย | ||
พิศโฉมเจ้าพราหมณ์งามเพริศพราย | เหมือนละม้ายเทวีศรีสะใภ้ | ||
หน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มแย้ม | สองแก้มนวลลอกดังปอกไข่ | ||
จึงตรัสแก่พระมณีพิชัย | เหมือนเมียเจ้ากระไรไม่ผิดเพี้ยน | ||
เอวองค์อรชรอ้อนแอ้น | แขนแมนรูปร่างเหมือนอย่างเขียน | ||
กิริยามารยาทแนบเนียน | พระพินิจพิศเพียนไม่วางตา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
ช้า | |||
๏ แล้วมีบัญชาว่าไป | เจ้าพราหมณ์ได้มีคุณหนักหนา | ||
อยู่ด้วยพ่อเถิดอย่าไคลคลา | บิดาจะเลี้ยงเป็นโอรส | ||
สาวสรรค์กัลยาจะหาให้ | อย่าพะวงสงสัยพ่อไม่ปด | ||
ข้าวของนองเนืองเครื่องยศ | ขอเชิญโอรสครอบครอง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์นบนิ้วทูลสนอง | ||
โภไคยไอศูรย์มูลมอง | แก้วแหวนเงินทองไม่ต้องการ | ||
พระมณีพิชัยได้สัญญา | จะยอมไปเป็นข้ากระหม่อมฉาน | ||
อย่าให้เสียสัตย์ปฏิญาณ | จะขอรับประทานเอาตัวไป | ||
ว่าแล้วเข้าไปในที่ | เฝ้าพระชนนีศรีใส | ||
จึงบังคมทูลถามความใน | เขาเลื่องลืออื้อไปทั้งพารา | ||
ก็มิใช่กลการของชีพราหมณ์ | แต่มีความสงสัยอยู่หนักหนา | ||
นึกแหนงจะใคร่แจ้งกิจจา | พระมารดาจงเล่าให้เข้าใจ | ||
ไหนว่ายอพระกลิ่นนั้นกินแมว | จริงแล้วเหมือนลือหรือไฉน | ||
สับปลับก็จะกลับตายไป | ลูกช่วยไม่ได้พระมารดา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | นางจันทรร้อนใจเป็นนักหนา | ||
ครั้นจะไม่แจ้งอรรถดังสัจจา | ก็กลัวว่าจะตายวายชีวิต | ||
แต่เหลียวหน้าเหลียวหลังกระทั่งไอ | ละอายใจอิดเอื้อนเบือนบิด | ||
ค่อยขยดเข้าไปให้ชิด | แล้วสะกินบอกความเจ้าพราหมณ์ไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เดิมเอยเดิมที | พระมณีลูกยาไปป่าใหญ่ | ||
ได้นางคนหนึ่งในปล้องไม้ | หลงใหลพิศวาสเทวี | ||
กรุงจีนให้มีราชสาร | ไปแต่งการกับลูกสาวศรี | ||
พระมณีพิชัยไม่ใยดี | รักเมียข้างนี้อยู่มิไป | ||
แม่กลัวกรุงจีนจะโกรธา | ยกมารบพุ่งเอากรุงใหญ่ | ||
จึงแกล้งทำแยบยลกลใน | พาโลลูกสะใภ้ด้วยมารยา | ||
เอาเลือดวิฬาร์ทาปากนาง | ตัดหางแซมใส่ในเกศา | ||
แล้วขับไล่ไปเสียจากพารา | พาลผิดริษยานางทรามวัย | ||
แม่ทำชั่วน่าชังทั้งนี้ | เพราะจะให้พระมณีมีเมียใหม่ | ||
บอกเจ้าตามจริงทุกสิ่งไป | อย่าให้แม่ม้วยชีวี | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพิชัยนุราชเรืองศรี | ||
แอบองค์แฝงบังฟังคดี | ภูมีกริ้วกราดตวาดไป | ||
ชิชะพระมเหสีเอก | ทำย้อนยอกโหยกเหยกอย่างนี้ได้ | ||
ใส่ถ้อยร้อยความลูกสะใภ้ | ช่างไม่สมเพชเวทนา | ||
ขับเมียเขาพรากไปจากผัว | ทำตามใจตัวไม่ปรึกษา | ||
ถึงกรุงจีนจะยกทัพมา | ก็สู้กันสิหนาไม่พรั่นใจ | ||
ทั้งแก่กระนี้ไม่หนีเลย | มึงไม่เคยเห็นฝีมือหรือไฉน | ||
ชาติเจ๊กกินหมูจะสู้ไทย | โกฎิแสนแน่นไปก็ไม่กลัว | ||
น้อยหรืออีเฒ่าเจ้าความคิด | ทุจริตอิจฉาขายหน้าผัว | ||
เสกสรรปั้นน้ำเป็นตัว | เอออะไรไม่กลัวเขานินทา | ||
นั่นแลเทวดาจึงอาเพศ | ปฏิเหตุงูขบสมน้ำหน้า | ||
เจ้าพราหมณ์แก้ไขขึ้นไยนา | ให้มันม้วยชีวาสาแก่ใจ | ||
พระพิโรธโกรธเกรี้ยวเคี้ยวฟัน | กระทืบบาทตัวสั่นมันไส้ | ||
ฉวยได้ไม้เรียวเลี้ยวไป | แล่นไล่ตีรันนางจันทร | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์พิดทูลผันผ่อน | ||
นางได้รับผิดแล้วบิดร | ขอโทษโปรดก่อนอย่าโบยตี | ||
เหตุนี้เพราะข้ามาไต่ถาม | นางจึงบอกออกความถ้วนถี่ | ||
จะเป็นบาปเป็นกรรมแก่พราหมณ์ชี | ภูมีจงทรงพระเมตตา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวพิชัยนุราชจึงร้องว่า | ||
จะขอโทษมันไว้ใยนา | ชังน้ำหน้าตีเสียให้แทบตาย | ||
เจ้าพราหมณ์ซ้ำวอนก็อ่อนจิต | ได้คิดดุเดือดค่อยเหือดหาย | ||
จึงว่ามันพาพ่อได้อาย | พอดีพอร้ายไปเมื่อไร | ||
นี่หากพ่อเห็นแก่เจ้าพราหมณ์ | ถ้าคนอื่นมาห้ามหาฟังไม่ | ||
ว่าแล้วทิ้งไม้เสียทันใด | ลงนั่งหอบหายใจไปมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมเจ้าพราหมณ์น้อยเสน่หา | ||
จึงชวนพระมณีพี่ยา | เวลาเย็นแล้วจะด่วนไป | ||
เป็นห่วงบ่วงใยอะไรเล่า | ลูกเต้าเมียมีอยู่ที่ไหน | ||
จะหนักหน่วงชักช้าอยู่ว่าไร | มาจะไปยังบรรณศาลา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
สามเส้า | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีฟังความเจ้าพราหมณ์ว่า | ||
ทอดถอนใจใหญ่ไปมา | แล้วผัดผาว่ากล่าววิงวอน | ||
วันนี้เวลาก็สายัณห์ | จงอยู่นอนด้วยกันสักคืนก่อน | ||
ต่อรุ่งรางสางแสงทินกร | จึงค่อยบทจรก็เป็นไร | ||
พี่จะให้ไพร่พลมนตรี | ออกไปส่งถึงที่อาศัย | ||
มรคาป่ากว้างทางไกล | จงขี่วอกลับไปเหมือนเมื่อมา | ||
เขาจะได้ลือเล่าว่าเจ้าพราหมณ์ | ขี่วอคนหามงามนักหนา | ||
เป็นหมองูรู้เวทมนตรา | จะซ้องสาธุการสำราญใจ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์กล่าวแกล้งแถลงไข | ||
ข้าเป็นพราหมณ์ชีนี้ไซร้ | จะนอนในรั้ววังไม่บังควร | ||
เคยอยู่แต่ศาลาพนาเวศ | รักษาพรตตามเพศพระอิศวร | ||
อย่าเฝ้าหน่วงหนักชักชวน | สายัณตะวันจวนจะด่วนไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ปี่ | |||
๏ เมื่อนั้น | สองกษัตริย์โศกศัลย์ไม่กลั้นได้ | ||
สงสารลูกน้อยกลอยใจ | จะต้องไปเป็นข้าพราหมณ์ชี | ||
จะกะตรกกะตรำลำบาก | อดอยากอยู่ในไพรศรี | ||
ริ้นยุงบุ้งร่าสใช่พอดี | ทุกทิวาราตรีจะตรอมใจ | ||
ยากแค้นเพราะแทนพระคุณแม่ | ความสัตย์เที่ยงแท้จะหาไหน | ||
พลางกอดลูกยาโศกาลัย | สะอึกสะอื้นไห้ไปมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมเจ้าพราหมณ์น้อยคอยท่า | ||
เห็นสามกษัตริย์โศกา | พิไรร่ำล่ำลาอาลัย | ||
จึงแย้มเยื้อนเตือนองค์พระมณี | อย่าโศกีเศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
แม้นรำลึกถึงสองท้าวไท | จึงกลับมาก็ได้เป็นไรม่ | ||
ว่าแล้วถวายบังคมลา | บิตุเรศมารดาทั้งสองศรี | ||
ผันพักตร์กวักเรียกพระมณี | อย่าเซ้าซี้มาไปด้วยกัน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีเศร้าสร้อยโศกศัลย์ | ||
บังคลสององค์ทรงธรรม์ | แล้วจรจรัลเดินตามเจ้าพราหมณ์ไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ ทยอย | |||
โอ้ลาว | |||
๏ เดินพลางมากลางมรคา | พระราชาทอดถอนใจใหญ่ | ||
โอ้ว่าเวรกรรมได้ทำไว้ | จำไปเป็นข้าเจ้าพราหมณ์ชี | ||
อกเอ๋ยไม่เคยจะตกยาก | ลำบากเคืองข้องหมองศรี | ||
ไม่รู้ใจนายร้ายหรือดี | แล้วจะตีกันเล่นไม่เว้นวัน | ||
ครั้นเจ้าพราหมณ์เหลียวมาทำหน้าม่อย | อุยหน่าหนามยอกน้อยไปหรือนั่น | ||
ทำนิ่วพักตร์ชักหนามฉับพลัน | ค่อยเหยียบยันโขยกเขยกมา | ||
เห็นสุมทุมพุ่มไม้ในไพรชัฎ | เกรงกริ่งสิงสัตว์ที่ในป่า | ||
เดินพลางทางนึกภาวนา | ร้องเตือนนายขาระวังตัว | ||
ได้ยินเสียงสกุณีมี่ก้อง | ชะนีเหนี่ยวไม้ร้องเรียกผัว | ||
ใจหายกายสั่นอยู่รัวรัว | คิดกลัวผีสางปะรางควาน | ||
ดำเนินเดินตามเจ้าพราหมณ์ไป | เปลี่ยวเปล่าเศร้าใจในไพรสาณฑ์ | ||
ขึ้นเขาข้ามน้ำลำธาร | ดัดดั้นดงดานเดินมา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ชีมีใจหรรษา | ||
มาถึงที่บรรณศาลา | จึงพาพระมณีเข้าไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
๏ นั่งเหนือเสื่อสาดลาดปู | ที่เคยอยู่นิทราอาศัย | ||
พิศพักตร์ภัสดาก็อาลัย | สงสารภูวไนยช่างไม่รู้ | ||
ครั้นจะลามลวนชวนชิด | ก็เกรงเดชโกสิตบิดาอยู่ | ||
แต่ยิ้มใหญ่ยิ้มน้อยชม้อยดู | คิดอดสูแสร้งกล่าวเป็นมารยา | ||
วันนี้เหนื่อยนักจักเอนหลัง | พระองค์จงนั่งระวังข้า | ||
ต่อดึกหน่อยจึงค่อยนิทรา | แล้วหลับตานิ่งอยู่ดูท่วงที | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระมณีพิชัยเรืองศรี | ||
ถ่อมตัวกลัวเกรงเจ้าพราหมณ์ชี | ปรนนิบัติพัดวีให้นิทรา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ชมโฉม | |||
๏ นั่งพินิจพิศโฉมเจ้าพราหมณ์น้อย | แช่มช้อยน่ารักเป็นนักหนา | ||
พิศพักตร์ผ่องผิวโสภา | ดังจันทราทรงกลดหมดมลทิน | ||
รูปทรงสารพัดไม่ขัดขวาง | เหมือนละม้ายคล้ายนางยอพระกลิ่น | ||
นวลละอองสองแก้มดังลูกอิน | จะแย้มเยื้อนเหมือนสิ้นทุกสิ่งอัน | ||
หรือจะเป็นนวลละอองน้องแก้ว | เมียพี่คนนี้แล้วเป็นแม่นมั่น | ||
พลางขยดเข้าใกล้ใจผูกพัน | ลืมองค์หลงสำคัญว่ากัลยา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ค่อยยกพระหัตถ์สัมผัสต้อง | ยิ้มพลางทางมองดูหน้า | ||
เห็นคล้ายละม้ายเหมือนไม่เคลื่อนคลา | พระราชาสวมสอดกอดรัด | ||
ครั้นเจ้าพราหมณ์ถามมาว่าอะไร | ก็ตกใจแก้เก้อว่ายุงกัด | ||
ทำเหลียวหลังเหลียวหน้าคว้าพัด | โบกปัดพัดวีไปมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | เจ้าพราหมณ์ยิ้มละไมอยู่ในหน้า | ||
ดูทำนองพระมณีพี่ยา | เห็นว่าจะจู่ลู่วู่วาม | ||
จึงพลิกตัวถอยถอด้วยอดสู | ลุกขึ้นนั่งตั้งกระทู้ขู่ถาม | ||
เอออะไรไม่ควรมาลวนลาม | เซ้าซี้ชีพราหมณ์เป็นน่าชัง | ||
ข้านี้มิใช่นายหม่อมหรือ | ไม่นับถือยำเยงเกรงใจมั่ง | ||
จะว่าโดยดีก็มิฟัง | ไม้เรียวจะลงหลังสักที | ||
จงบรรทมเสียเถิดให้สำราญ | รำคาญวานอย่าจู้จี้ | ||
ว่าแล้วนิทราในราตรี | พระมณีพิชัยก็ไสยา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
๏ รุ่งเอยรุ่งราง | แสงทองส่องสว่างเวหา | ||
เจ้าพราหมณ์นิ่งนึกตรึกตรา | จะลองภัสดาสามี | ||
ท้าวเธอจะสัตย์ซื่ออยู่หรือไม่ | หรือจะเป็นไฉนให้รู้ที่ | ||
คิดพลางทางว่าไปทันที | นี่แน่พระมณีสุริย์วงศ์ | ||
วันนี้ตัวข้าจะคลาไคล | ออกไปหิมวาป่าระหง | ||
เที่ยวหายาหยูกในแดนดง | พระองค์จงอยู่เฝ้าศาลา | ||
ข้าจะให้น้องสาวมาอยู่เพื่อน | เสือสางกลางเถื่อนดุนักหนา | ||
สั่งเสียเสร็จสรรพกำชับกำชา | แล้วลงจากศาลาคลาไคล | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
๏ ลัดแลงแฝงพุ่มพนาลี | มิให้พระมณีสงสัย | ||
จึงร่ายเวทมัฆวานประทานไว้ | จำแลงแปลงได้ดังใจปอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง มณีพิชัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๔๐
( ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)