บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸„าวี
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→) |
(→) |
||
แถว 882: | แถว 882: | ||
==== ==== | ==== ==== | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
+ | <sup>ชมตลาด</sup> | ||
+ | ๏ ไขสุหร่ายสายชลดังฝนตก อาบอุทกธารากระยาสนาน | ||
+ | รดน้ำมนตร์ล้นเหลือเชื่ออาจารย์ จนงกงันสั่นสท้านทั้งกายา | ||
+ | บรรจงทรงสุคนธ์มนตร์หมอเสก นางตัวเอกไม่แคล้วพี่แล้วหนา | ||
+ | ผงดินสอใส่พระหัตถ์ผัดพักตรา ลูบไล้ไปมาทั้งสารพางค์ | ||
+ | หยิบยกกระจกใหญ่ใส่คันฉ่อง เทียนตั้งนั่งมองส่องสว่าง | ||
+ | ดูเปนหนุ่มน่าชมสมกับนาง อวดหมอหัวร่อพลางทางแย้มยิ้ม | ||
+ | เสวยพระศรีสงทรงเคี้ยว สักประเดี๋ยวทันใจเอาไม้จิ้ม | ||
+ | นุ่งนอกอย่างวางชายกรายกรีดริม สีทับทิมคล้องคอพอพระทัย | ||
+ | เพ็ชรฑูริย์ธำมรงค์ทรงก้อย ตำราพลอยว่าผู้หญิงมักรักใคร่ | ||
+ | คาดเข็มขัดประจำยามงามสุดใจ พวงมาลัยใส่ข้อมือถือยาดม | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ ครั้นเสร็จเสด็จมาไม่ยั้งหยุด ดำเนินเดินสดุดนักสนม | ||
+ | ขึ้นบนมณเฑียรเจียนจะล้ม เข้าในห้องประธมเทวี | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ ยืนแฝงฝากั้นขยั้นอยู่ แอบประตูดูสุดามารศรี | ||
+ | ปากบ่นบริกรรมทำท่วงที สูบบุหรี่ร่ายมนตร์พ่นควันไป | ||
+ | นางเหลียวดูภูบาลก็อ่านเวท ประสมเนตรนึกรักยักคิ้วให้ | ||
+ | เห็นชอบกลกัลยาไม่ว่าไร หมายได้สมคิดด้วยวิทยา | ||
+ | จึงค่อยย่องย่างมาข้างหลัง ขึ้นนั่งบนเตียงเมียงเมินหน้า | ||
+ | ยิ้มแย้มกระแอมไอไปมา พูดจาปลอบนางพลางแลเลง | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ชาตรี</sup> | ||
+ | ๏ น้องเอยน้องรัก กำลังสาวราวสักปีมะเส็ง | ||
+ | พักตร์ผ่องเพียงจันทร์เมื่อวันเพ็ง ครัดเคร่งเปล่งปลั่งอยู่ทั้งตัว | ||
+ | น้อยฤๅพี่รักนักหนา กระนี้แล้วแก้วตายังว่าชั่ว | ||
+ | นี่เนื้อเคราะห์เพราะชราหูตามัว ไม่เหมือนผัวของเจ้าเฝ้าเคียดคุม | ||
+ | อย่าเลี้ยวลดทดลองให้ถ่องแท้ กลัวแต่แก่จะชนะหนุ่ม | ||
+ | ว่าพลางทางขยับจับกุม ให้ร้อนรุมราวกับไฟไหม้มือ | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ นึกพรั่นขยั้นขยดถดถอย เหงื่อไหลไคย้อยลงน้องฤๅ | ||
+ | แก้ขวยฉวยพัดปัดกระพือ ยังร้อนรื้อเรียกน้ำมากล้ำกลืน | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>โอ้โลม</sup> | ||
+ | ๏ หยุดพักสักประเดี๋ยวเกี้ยวใหม่ แขงใจพูดจาทำหน้าชื่น | ||
+ | จะเษกน้องครองวังให้ยั่งยืน วันรุ่งพรุ่งมะรืนได้ฤกษ์ดี | ||
+ | เอออายุนงเยาว์สักเท่าไร จงขับไล่ดูลองกับของพี่ | ||
+ | อย่าย้อนยอกบอกเบือนเดือนปี ตำรามีรู้มากนาคกะเฌอ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น จันท์สุดานึกในช่างไม่เก้อ | ||
+ | ชังน้ำหน้าบ้าเคอะกระเซอะกระเซอ เป้อเย้อเย่อหยิ่งจริงจริงเจียว | ||
+ | จะหุนหันโมโหโต้ตอบเล่า เหมือนทำให้ไอ้เถ้ามันเฝ้าเกี้ยว | ||
+ | ให้พูดจาบ้าบ่นอยู่คนเดียว นางขัดใจไม่เหลียวไม่แลดู | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ เมื่อนั้น ท้าวสันนุราชแย้มยิ้มกระหยิ่มอยู่ | ||
+ | หมายได้ด้วยคาถาของตาครู อุตส่าห์สู้บ่นตะบอยค่อยกระซิบ | ||
+ | ดูทำนองต้องจิตต์ผิดประหลาด ไม่ร้ายกาจก้มหนาตาปริบปริบ | ||
+ | น้อยหรือนางแสนคมคารมริบ นิ่งกริบไปทีเดียวไม่เหลียวเลย | ||
+ | ท่วงทีถูกเสน่ห์คะเนแน่ เห็นประจักษ์ทักแท้แล้วแม่เอ๋ย | ||
+ | กระดิกเข่าท้าวแขนแหงนเงย เอาเขนยหนุนหลังนั่งทำทรง | ||
+ | กินหมากดิบหยิบขี้ผึ้งเสกสี สูบบุหรี่ใส่จันทน์ควันโขมง | ||
+ | แล้วไกล่เกลี่ยเกลี้ยกล่อมล้อมวง ใหลลงพูดละเม้อเพ้อพก | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>โอ้โลม</sup> | ||
+ | ๏ ปลื้มเอยปลื้มจิตต์ ทีนี้คงปลงปริศนาตก | ||
+ | เหมือนทุกข์พี่มีผู้มาหยิบยก ให้เบาอกออกแล้วนะแก้วตา | ||
+ | จะนิ่งอยู่ไยน้องไม่ต้องการ นั่งนานเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหนักหนา | ||
+ | ขอเชิญเจ้าเข้าที่กับพี่ยา ให้เปนผาสุกสบายหายหาวนอน | ||
+ | วันนี้ทีทำเห็นอ้ำอึ้ง ไม่โกรธขึ้งตึงตังเหมือนครั้งก่อน | ||
+ | ดีจริงเจียวแม่ไม่แง่งอน จงโอนอ่อนผ่อนตามให้งามงด | ||
+ | แล้วร่ายมนตร์หมอเถ้าเป่าซ้ำ บริกรรมทำปากบดมด | ||
+ | เอ๊ะอ่อต่อจะอ่อนหย่อนพยศ ค่อยขยดลดไถลเข้าไปชิด | ||
+ | นางขยับกลับตัวกลัวจะเห็น ทำเปนผินหลังนั่งเกาหิด | ||
+ | มองเขม้นเห็นสไบไม่สู้มิด จึงยื่นมือมานิดสกิดกาย | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ร่าย</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น จันท์สุดาร้องกรีดหวีดว้าย | ||
+ | ชั่วชาติประหลาดเหลือเบื่อจะตาย ช่างไม่อายขายหน้าบ้าจริงจริง | ||
+ | ยังจะขืนยื่นมือมายื้อหยอก เดี๋ยวนี้อกจะได้ชมคารมหญิง | ||
+ | เหลือแค้นแน่นอกยกหมอนอิง กระแทกทิ้งลงตรงหน้าแล้วด่าทอ | ||
+ | ช่างกะไรไอ้หมอนไม่นอนหลับ จนเขาขับขืนเกี้ยวไปเจียวหนอ | ||
+ | แม้นมีไม้ใกล้ตัวหัวจะนอ ใจคอไม่ลื้นเหมือนหมื่นทน | ||
+ | เนื้อตัวหัวหูไปอยู่ไหน จึงทนได้ให้เขาด่าดังห่าฝน | ||
+ | ฤๅฟังเล่นเย็นฉ่ำเหมือนน้ำมนตร์ ช่างผิดคนทนทานด้านดึง | ||
+ | ไม่ว่าเล่นเห็นลึกอย่านึกหมาย ตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง | ||
+ | ลุกขึ้นกระทืบเตียงเสียงตึงตึง ดื้อดึงดุดะไม่ละลด | ||
+ | พานหมากพานพลูที่อยู่ใกล้ ก็ปัดไปเปรื่องปร่างขว้างเสียหมด | ||
+ | ฉวยน้ำซ้ำสาดราดรด ทำประชดชิงชังรังแก | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ เมื่อนั้น ท้าวสันนุราชแปลกจิตต์ผิดแล้วแหล | ||
+ | เสียน้ำใจในคอท้อแท้ จนเปนลมล้มแน่นิ่งไป | ||
+ | ให้เวียนหัวมัวตาหน้ามืด ครางอืดบ่นออดทอดใจใหญ่ | ||
+ | ดูดู๋เดิมเห็นดีมีน้ำใจ หมายได้ไม่แคล้วแล้วทีเดียว | ||
+ | มิรู้กลับแกล้วกล้าบ้าเลือด ดุเดือดเต็มประดาตาเขียว | ||
+ | ไม่รอติดผิดผู้หญิงจริงเจียว ขี้เกียจเกี้ยวรับแพ้แล้วแม่คุณ | ||
+ | ยังเจ็บช้ำระยำอยู่ไม่รู้หาย ราวกับถูกลูกปลายหลายกะสุน | ||
+ | ทำหน้าเซียวเคี้ยวเอื้องเงื่องงุน สิ้นทุนสิ้นรอนจะผ่อนปรน | ||
+ | แต่ยักย้ายหลายทำนองตรองตริ สิ้นสติตายด้านอั้นอ้น | ||
+ | สู้อุตส่าห์หน้าด้านทานทน ถึงสองหนแล้วเห็นไม่เอ็นดู | ||
+ | เอออะไรใจคอดังดินประสิว ฉุนฉิวยิ่งกว่าชุดจุดดินหู | ||
+ | เห็นไม่เปนเช่นตำราของตาครู ถ้าขืนอยู่จะหยาบคายร้ายแรง | ||
+ | ขยับลุกแล้วลงนั่งรั้งรอ ปากบ่นมนตร์หมอจนคอแห้ง | ||
+ | ไม่เห็นคุณเห็นค่าตาขี้แร้ง เหมือนหนึ่งแกล้งให้มาถูกด่าทอ | ||
+ | คิดเคืองขุ่นหมุนออกนอกปราสาท เกรี้ยวกราดกริ้วร้องให้ถองหมอ | ||
+ | เฆี่ยนให้หลังลายจนต้นคอ ด่าทอถีบเถ้าเจ้าตำรา | ||
+ | ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ๏ บัดนั้น หมอเถ้าซานซมล้มถลา | ||
+ | ถูกถองต้องพระราชอาญา ตกประหม่าตัวสั่นงันงก | ||
+ | วิ่งออกนอกวังไม่ยั้งหยุด จนสมุดทั้งมัดพลัดตก | ||
+ | เสนาในใหญ่น้อยตามต่อยชก วิ่งวกเข้าวัดลัดหนีไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sup>ช้า</sup> | ||
+ | ๏ เมื่อนั้น ท้าวสันนุราชมาดหมายหาหายไม่ | ||
+ | ไปเกี้ยวพานพูดจาเพลาไร ก็ไม่ได้สู่สมชมชิด | ||
+ | ประหลาดหนอหมอมดมาปดเล่น ทำอะไรไม่เห็นเปนสักหนิด | ||
+ | สาแก่ใจเจ็บปวดอวดอิทธิฤทธิ์ โทษผิดคิดจะใคร่เอาใส่คุก | ||
+ | พอเข็ดหลาบบาปกรรมทำเปล่าเปล่า บ่นออดกอดเข่าเจ่าจุก | ||
+ | นั่งโยกโงกหงับปรับทุกข์ กับหมู่มุขมนตรีเสนีใน | ||
+ | แต่เล่นชู้สู่สาวมาราวร้อย หางามงดชดช้อยเช่นนี้ไม่ | ||
+ | น่าชมสมสวาทระวาดระไว เอวไหล่ลมุนลม่อมพร้อมพริ้ง | ||
+ | เสียแต่ร้ายราวกับเสือเหลือแล้วพ่อ คารมรอไม่ติดผิดผู้หญิง | ||
+ | อุตส่าหืสู้อยู่อ้อนวอนวิง ไม่ยอมยิงยิ่งรื้อดื้อดึง | ||
+ | อันอดเหนียวเกี้ยวชู้รู้ท่วงที มิใช่ชั่วตัวดีไม่มีถึง | ||
+ | จะหักโหมโลมเล้าเคล้าคลึง ให้รุมรึงร้อนรนสกลกาย | ||
+ | มิขัดขวางอย่างนี้แล้วที่ไหน ประเดี๋ยวใจก็จะสมอารมณ์หมาย | ||
+ | ตรองตรึกปรึกษาหาอุบาย ไม่เหือดหายวายเว้นสักเวลา | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
การปรับปรุง เมื่อ 07:45, 24 สิงหาคม 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
ท้าวสันนุราชหานางผมหอม
ช้า | |||
๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสันนุราชจอมกษัตริย์ | ||
เสวยราชย์ธานีบุรีรัตน์ | กรุงพทธวิสัยสวรรยา | ||
ท้าวมีอัคเรศมเหษี | ชื่อคันธมาลีเสนหา | ||
อยู่ด้วยกันแต่หนุ่มคุ้มชรา | ชันษาหกสิบสี่ปีปลาย | ||
หน้าพระทนต์บนล่างห่างหัก | ดวงพระพักต์เหี่ยวเห็นเส้นสาย | ||
เกศาพึ่งจะประปราย | รูปกายชายจะพีมีเนื้อ | ||
พระเสวยมื้อละชามสามเวลา | ทรงกำลังวังชาประหลาดเหลือ | ||
พอใจเกี้ยวผู้หญิงริงเรือ | ผูกพันฟั่นเฝือไม่เบื่อใจ | ||
ราวกับหนุ่มคลุ้มคลั่งนั่งบ่น | จะหางามเล่นสักคนหนึ่งให้ได้ | ||
รำพึงคนึงคิดเปนนิจไป | มิได้ว่างเว้นสักเวลา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อจะมีเหตุเภทภัย | ให้เร่าร้อนฤทัยเปนหนักหนา | ||
จึงชวนกำนัลกัลยา | ลงมายังที่ตำหนักแพ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
๏ ท้าวเสด็จนั่งเหนือเรือบัลลังก์ | สาวสนมกรมวังเซงแซ่ | ||
พระเอนอิงพิงพนักผันแปร | เหลียวแลเห็นผะอบลอยมา | ||
หยิบขึ้นเขม้นอยู่เปนครู่ | เปิดดูก็เห็นเส้นเกศา | ||
หอมกลิ่นรวยรื่นชื่นวิญญา | พระนิ่งนึกตรึกตราในอารมณ์ | ||
ผมนี้ดีร้ายนางสาวน้อย | แกล้งลอยหาคู่สู่สม | ||
ชะรอยบุญเราเคยได้เชยชม | จึงพบผะอบผมกัลยา | ||
ฉุนคิดเคลิ้มคลั่งขึ้นทั้งแก่ | กะสันเสียวเหลียวแลชำเลืองหา | ||
เห็นนางพนักงานคลานเข้ามา | ยิ้มแย้มพยักหน้าว่านงลักษณ์ | ||
ค่อยขยดลดองค์ลงนั่งใกล้ | เห็นมิใช่ผุดลุกขึ้นกุกกัก | ||
ดูนางห้ามแหนยิ่งแค้นนัก | ให้ละล่ำละลักลืมองค์ | ||
ท้าวกอดผะอบทองประคองไว้ | มิได้ชำระสระสรง | ||
ขึ้นจากเรือสุวรรณ์บรรจง | เสด็จตรงมายังวังใน | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงเข้าไปในห้อง | ขึ้นบนแท่นทองผ่องใส | ||
กอดผะอบประทับกับทรวงไว้ | ถอนฤทัยครวญคร่ำรำพรรณ์ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โอ้ช้า | |||
๏ โอ้ว่านวลน้องเจ้าของผม | ถ้าได้ชมจะถนอมเปนจอมขวัญ | ||
เกศาหอมฟุ้งดังปรุงจันทน์ | จะทรงโฉมโนมพรรณ์ฉันใด | ||
ทรวดทรงสูงต่ำดำขาว | ชันษาแก่สาวสักคราวไหน | ||
แม้นรู้ว่าอยู่บุรีใด | พี่จะไปติดตามเจ้าทรามชม | ||
ถึงจะเปนกระไรก็ไม่ว่า | แต่ให้ได้เห็นหน้าเจ้าของผม | ||
คิดละห้อยละเหี่ยเสียอารมณ์ | ร้องไห้ร้องห่มไม่สมประดี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | นางคันธมาลีมเหษี | ||
เห็นพระพร่ำกำสรดโศกี | จึงเข้าไปในที่บรรธม | ||
แล้วนางทูลทัดภัศดา | พระอย่าโศกเศร้าด้วยเผ้าผม | ||
จงคิดรั้งรักหักอารมณ์ | แม้นเคยคู่สู่สมไม่คลาศแคล้ว | ||
หยุดยั้งตั้งสติตริตรอง | ดับความมัวหมองให้ผ่องแผ้ว | ||
ทรงพระชราหนักหนาแล้ว | ทูลกระหม่อมเมียแก้วจงหักใจ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชเคลิ้มองค์หลงไหล | ||
เห็นเมียมาเซ้าซี้พิรี้พิไร | ขัดใจเกรี้ยวกราดตวาดอึง | ||
ดูดู๋ทำราวกับสาวแส้ | ไม่เจียมตัวว่าแก่สักนิดหนึ่ง | ||
แกล้งมานั่งเฝ้าพเน้าพนึง | จะคอยหึงษ์หวงข้าฤๅว่าไร | ||
ฉวยพระขรรค์งันงกกะปลกกะเปลี้ย | พิโรธโกรธเมียดังเพลิงไหม้ | ||
สดุดโดนสาวสรรค์กำนัลใน | แล่นไล่ลุกล้มไม่สมประดี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เมื่อนั้น | องค์อัครชายามารศรี | ||
ความกลัวอาญาพระสามี | วิ่งหนีไปซ่อนซอนซุก | ||
เหล่าพวกสาวสรรค์กำนัลนาง | วิ่งวางวนเวียนจนเจียนจุก | ||
บ้างเข้าแฝงม่านคลานคลุก | บ้างลุกแอบเตียงเมียงมอง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชยิ่งเศร้าหมอง | ||
แสนคนึงถึงเจ้าผะอบทอง | เสด็จตรงออกท้องพระโรงไชย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
ช้า | |||
๏ ลดองค์ลงนั่งเหนืออาศน์ | พรั่งพร้อมอำมาตย์น้อยใหญ่ | ||
จึงตรัสสั่งมหาเสนาใน | เร่งไปร้องป่าวชาวพารา | ||
ผู้ใดใครรู้เห็นบ้าง | ตำแหน่งนางผมหอมเสนหา | ||
ถ้าแม้นนำไปได้นางมา | เงินทองเสื้อผ้าจะรางวัล | ||
ท้าเย่าเรือนไร่นาจะหาให้ | ข้าไทชายหญิงทุกสิ่งสรรพ์ | ||
จงเร่งรีบรัดจัดกัน | ไปป่าวร้องให้ทันวันนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | อำมาตย์รับสั่งใส่เกศี | ||
ออกมาเกณฑ์กันทันที | เสนีตีฆ้องร้องป่าวไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ฝ่ายเถ้าทัศประสาทชาติไพร่ | ||
ฟังเสียงร้องป่าวก็เข้าใจ | นึกได้ลูกสาวของเจ้านาย | ||
ผมหอมปรากฏรสเร้า | จะนำเขาไปพามาถวาย | ||
กูจะได้พึ่งบุญเปนคุณยาย | คิดแล้วเดินชายมาถามทัก | ||
ท่านขามานี่จะบอกเล่า | นางผมหอมข้าเจ้านี้รู้จัก | ||
รูปโฉมโนมพรรณ์ขยันนัก | จะอาสาทรงศักดิ์ไปพามา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนีถามซักเปนหนักหนา | ||
เห็นถ้อยยำคำมั่นสัญญา | ก็รีบพายายเถ้าเข้าวังใน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงคลานเข้าไปเฝ้า | ก้มเกล้าทูลแจ้งแถลงไข | ||
ยายเถ้ารับคำจะนำไป | ว่าได้รู้จักนางเทวี | ||
เปนลูกสาวท่านท้าวพรหมจักร | ปิ่นปักจันทราบุริศรี | ||
แต่เมืองนั้นพลไพร่ไม่มี | นกอินทรีย์กินตายเสียก่ายกอง | ||
ที่ในวังยังแต่นางผมหอม | งามพร้อมสารพัดไม่ขัดข้อง | ||
บิดาซ่อนนางไว้ที่ในกลอง | จงทราบลอองพระบาทา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชสำรวลร่า | ||
ชื่นชมสมถวิลจินดา | ดังได้เห็นหน้านางนงเยาว์ | ||
จึงตรัสว่าถ้าสมคะเนนึก | อึกกระทึกใจหายแล้วยายเถ้า | ||
มั่งมีดีกว่าค้าตะเภา | ทุกข์ร้อนอะไรเล่ากับเงินทอง | ||
ยายจะเอาอะไรไปบ้าง | ท่าทางกันดารบ้านช่อง | ||
เร่งรีบคลาไคลดังใจปอง | ให้ได้นางในกลองกลับมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าทูลพลันด้วยหรรษา | ||
จะเอาเรือเอกไชยไคลคลา | ไปรับกัลยามากรุงไกร | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชเปนใหญ่ | ||
ได้ฟังจึงสั่งเสนาใน | จงจัดเรือเอกไชยฉับพลัน | ||
เกณฑ์ยกสำรับใหญ่ใส่ให้เต็ม | เลือกล้วนแต่เล่มคอนขยัน | ||
เรือนำเรือตามจงครามครัน | ให้ทันแต่ในเวลานี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศี | ||
ออกจากวังวิ่งเปนสิงคลี | จัดเรือตามมีพระบัญชา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าทำประหนึ่งกิ้งก่า | ||
ขึ้นขี่แคร่คานหามคนตามมา | ประตูดินตีนท่าหน้าตะพาน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ลงนั่งยังเรือเอกไชย | พลพายนายไพร่อลหม่าน | ||
ออกเรือพร้อมกันมิทันนาน | ร้องขานโยนยาวฉาวมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เห่เรือ เชิด | |||
๏ ผ่อนพักพลพายมาหลายแห่ง | น้ำเชี่ยวเรี่ยวแรงหนักหนา | ||
สิบห้าวันถึงจันทบุรา | ประทับท่าที่ท้ายเวียงไชย | ||
จึงสั่งผู้คนพลพาย | ทั้งไพร่นายอย่าเที่ยวไปข้างไหน | ||
แต่ตัวของเราจะเข้าไป | สมคะเนเมื่อไรจะกลับมา | ||
สั่งแล้วเข้าสู่พระบูรี | พรั่นตัวกลัวผีเปนหนักหนา | ||
เห็นกระดูกเกลื่อนกลาดดาษดา | รีบเดินภาวนาเข้าในวัง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงขึ้นปราสาททอง | เมียงมองลับล่อแล้วถอยหลัง | ||
เสียงคนพูดอยู่เงี่ยหูฟัง | ทรุดนั่งแอบประตูดูท่วงที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมนางจันท์สุดามารศรี | ||
สมสู่อยู่ด้วยพระคาวี | เปรมปรีดิ์ประดิพัทธ์กำหนัดใน | ||
หยอกเย้ายิ้มแย้มแกมกล | จะระคายผู้คนก็หาไม่ | ||
สงัดเงียบเซียบเสียงทั้งเวียงไชย | สำราญใจอยู่ในห้องสองคน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าเพ่งพิศคิดฉงน | ||
ชายนี้ทีท่วงชอบกล | เห็นจะไม่ใช่คนต่ำช้า | ||
ใส่เครื่องประดับองค์ทรงพระขรรค์ | รูปโฉมโนมพรรณ์งามหนักหนา | ||
ต่อจะเปนลูกเต้าท้าวพระยา | จันท์สุดาจึงปลงลงใจ | ||
กูคิดไว้ไม่สมอารมณ์คิด | จะลงล้างชีวิตเสียให้ได้ | ||
แต่องค์กัลยาจะพาไป | ทูลถวายท้าวไทเอารางวัล | ||
คิดพลางทางคลานเข้าไปหา | ทำทีกิริยาโศกศัลย์ | ||
ก้มกราบบาทาสุดาจันท์ | แล้วตีอกงกงันร่ำไร | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมตรูดูยายก็จำได้ | ||
เปนข้าเก่าเจ้าเคยช่วงใช้ | จึงพูดจาปราไสด้วยเมตตา | ||
ยายหนีนกอินทรีย์ไปช้านาน | ลูกหลานอยู่ไหนไม่เห็นหน้า | ||
ฤๅนกมันกินสิ้นชีวา | เออตาผัวอยู่ดอกฤๅยาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้ากล่าวเกลี้ยงเบี่ยงบ่าย | ||
ลูกหลานกระจัดพลัดพราย | ท่านตาก็ตายแต่คราวนั้น | ||
ข้าไปอยู่เถื่อนถ้ำลำบาก | จึงพ้นปากปักษาไม่อาสัญ | ||
ได้ยินเหล่าชาวป่าพูดจากัน | ว่าแม่จันท์สุดาได้สามี | ||
ข้าสู้ดั้นด้นมาจนถึง | จะอยู่พึ่งบุญทั้งสองศรี | ||
ยังพรั่นตัวกลัวแต่นกอินทรีย์ | มันมานี่ฤๅไม่เยาวมาลย์ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมจันท์สุดาจึงว่าขาน | ||
ผัวข้ามาล้างมันวายปราณ | หายมาช้านานจนปานนี้ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าทำเปนเกษมศรี | ||
จึงว่าแม่คุณบุญสิ้นที | ได้สามีเรืองอิทธิฤทธา | ||
งามทั้งรูปโฉมโนมพรรณ์ | น่าชมสมกันหนักหนา | ||
สมคิดของยายที่หมายมา | จะอยู่กับกัลยาเปนข้าไท | ||
แล้วทำท่วงทีกะปรี้กะเปร่า | ตักน้ำตำเข้าเอาใจใส่ | ||
ครั้นสองเจ้าเข้าที่บรรธรมใน | ยายไปปฏิบัติพัดวี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
๏ เห็นพระราชานิทราสนิท | นั่งพินิจพิศดูถ้วนถี่ | ||
ผิดกับกษัตราทุกธานี | ขัดพระขรรค์เข้าที่บรรธมใน | ||
คิดพะวงสงสัยอย่างไรอยู่ | จะล่อลวงถามดูให้จงได้ | ||
ครั้นรุ่งรางส่างแสงอโณทัย | ยายเถ้าเข้าไปอยู่ในครัว | ||
จันท์สุดามาทำเครื่องเสวย | ตามเคยจัดแจงแต่งให้ผัว | ||
ยายเข้าเมียงหมอบยอบตัว | แล้วว่าแม่ทูลหัวอย่าไว้ใจ | ||
อันองค์ภัศดาสามี | เห็นทีหาซื่อต่อแม่ไม่ | ||
เหน็บพระขรรค์บรรธมทุกคืนไป | น่าจะแหนงแคลงฤทัยเทวี | ||
แม่จงถามไถ่ให้ประจักษ์ | ถ้าท้าวรักก็จะแจ้งถ้วนถี่ | ||
แม้นมิบอกออกความลับลี้ | นานไปจะหนีแม่มั่นคง | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาพาซื่อลุ่มหลง | ||
สำคัญมั่นหมายว่ายายตรง | โฉมยงเห็นชอบก็ตอบไป | ||
จริงอยู่ยายว่าข้านึกพรั่น | ขัดพระขรรค์ติดองค์น่าสงสัย | ||
จะทูลถามทรงศักดิ์ซักไซ้ | ให้ได้ความขำสำคัญ | ||
ว่าพลางนางเข้าไปในที่ | ปรนนิบัติพัดวีให้ผัวขวัญ | ||
ทำทีทอดสนิทติดพัน | นวดฟั้นนั่งแนบแอบอิง | ||
สัพยอกหยอกเย้าแย้มสรวล | ชักชวนพูดจามารยาหญิง | ||
ได้ช่องก็ฉะอ้อนวอนวิง | ทูลถามความจริงภูวไนย | ||
น้องนึกกินแหนงแคลงจิตต์ | พระขรรค์ของทรงฤทธิเปนไฉน | ||
มิได้ละวางให้ห่างไกล | ฤๅว่าไม่ไว้ใจน้อง | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีแจ้งระหัศขัดข้อง | ||
หวั่นหวาดประหลาดจิตต์ผิดทำนอง | ค่อยประคองเล้าโลมโฉมงาม | ||
รับขวัญกัลยาแล้วพาที | วันนี้หลากใจมาไต่ถาม | ||
ฤๅยายยุเจ้าจะเอาความ | บอกตามจริงเถิดนะเทวี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดากล่าวแกล้งแสร้งใส่สี | ||
บิดเบือนเอื้อนอำทำท่วงที | อะไรนี่มาตรัสสะกัดสะแกง | ||
น้องรักน้องถามตามซื่อ | ควรฤๅมิบอกให้แจ้ง | ||
เพราะพระทรงศักดิ์ไม่รักแรง | ว่าพลางนางกรรแสงโศกา | ||
ผันพักตร์ผลักไสมิให้ต้อง | สบิ้งสบัดปัดป้องหัตถา | ||
พิไรร่ำทำกลมารยา | ประหนึ่งว่าโฉมฉายจะวายวาง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีเห็นน้องหมองหมาย | ||
ค่อยตระโบมโลมลูบปฤษฎางค์ | ประคองนางนฤมลขึ้นบนเพลา | ||
สร้วมสอดกอดรัดแล้วตรัสปลอบ | คิดเช่นนี้มิชอบโฉมเฉลา | ||
พี่รักใคร่ในองค์นงเยาว์ | แม้จะเปรียบเทียบเท่าดวงใจ | ||
อย่าโศกนักพักตร์น้องจะหมองศรี | เจ้าผันหน้ามานี่จะบอกให้ | ||
พระขรรค์นี้พี่ฝังชีวิตต์ไว้ | ใครลักเข้าเผาไฟจะมรณา | ||
ความจริงบอกเจ้าไม่อำพราง | อย่าพูดมากปากสว่างฟังพี่ว่า | ||
เห็นประจักษ์แจ้งแล้วฤๅแก้วตา | พี่รักเจ้ายิ่งกว่าชีวาลัย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดายิ้มย่องสนองไข | ||
ทีนี้น้องเห็นรักประจักษ์ใจ | ภูวไนยโปรดปรานปรานี | ||
คุณของทรงฤทธิดังบิตุเรศ | เหมือนฉัตรแก้วกั้นเกศเกศี | ||
จะขอเป็นเกือกทองรองธุลี | ไปกว่าชีวีจะวายปราณ | ||
ทั้งสองสนิทพิศมัย | ถ้อยทีมีใจเกษมสานต์ | ||
คลึงเคล้าเย้ายวนชวนชื่นบาน | เยาวมาลย์ไม่มีราคีเคือง | ||
ครั้นเวลาตวันบ่ายชายแสง | นางออกมาจัดแจงแต่งเครื่อง | ||
ใส่สุพรรณภาชน์ทองรองเรือง | แลเห็นยายชายชำเลืองเข้ามา | ||
ยิ้มพลางทางว่าอย่าทุกข์เลย | ยายเอ๋ยผัวรักข้าหนักหนา | ||
เล่าความตามคำภัสดา | แล้วกำชับกำชาสารพัน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าฟังคำทำรับขวัญ | ||
จูบบาทซ้ายขวาแล้วว่าพลัน | ลูกไม่เปนเช่นนั้นดอกแม่คุณ | ||
เกลือกสามีมิรักจึงให้ถาม | ใช่จะแกล้งกล่าวความให้เคืองขุ่น | ||
ข้าเปนผู้น้อยพลอยพึ่งบุญ | ไม่โว้เว้เนรคุณอย่าแคลงใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาพาซื่อไม่สงสัย | ||
คิดว่าข้าหลวงเดิมเคลิ้มไป | หลงใหลนับถือว่าซื่อตรง | ||
ครั้นจัดแจงแต่งเครื่องเสร็จสรรพ | ให้ยายยกสำรับออกไปส่ง | ||
ตั้งถวายภูวไนยด้วยใจจง | โฉมยงหมอบกรานอยู่งานพัด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีฤทธิรงค์ทรงสวัสดิ์ | ||
แกล้งเสวยเข้าของจนท้องคัด | แล้วตรัสสัพยอกหยอกน้อง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้ากระหยิ่มยิ้มย่อง | ||
สมหวังดังจิตต์คิดปอง | ได้ช่องจะฆ่าพระคาวี | ||
ทำเปนเข้าไปให้ใช้สอย | หมอบคอยถือชุดจุดบุหรี่ | ||
พูดชักนิทานบ้านเมืองดี | ประเพณีกษัตริย์สุริวงศ์ | ||
แม้นได้สมบัติพัศถาน | ย่อมแต่งการมุรธาภิเษกสรง | ||
ไปยังฝั่งน้ำดังจำนง | สระเกศาทุกองค์กษัตรา | ||
นี่พระจะผ่านไอสูรย์ | สืบประยูรสุริย์วงศ์พงศา | ||
เชิญเสด็จไปสรงคงคา | ตามอย่างท้าวพระยามาแต่ไร | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีลุ่มหลงไม่สงสัย | ||
จึงตรัสว่าคิดชอบเราขอบใจ | จะทำให้ต้องตามประเพณี | ||
ยายเปนผู้ใหญ่ได้เคยพบ | จงแต่งเครื่องให้ครบตามที่ | ||
แม้นได้ฤกษ์งามยามดี | จะไปสระเกศีให้สำราญ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้ารับสั่งเกษมสานต์ | ||
หยิบโน่นฉวยนี่ตลีตลาน | จัดใส่ในพานแล้วยกมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | สองกษัตริย์ยินดีเปนหนักหนา | ||
ชวนเถ้าทัศประสาทยาตรา | ลงมาตามฉนวนในวัง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงช้า | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าเจ้าเล่ห์ทำล้าหลัง | ||
แวะเข้าก่อไฟใส่ประดัง | แล้ววิ่งตึงตังตามมา | ||
ทันสองกษัตริย์ริมนัที | วางพานไว้ที่ร่มพฤกษา | ||
เห็นพระจะลงในคงคา | ยายทำเปนว่าแล้วแย้มยิ้ม | ||
ไฉนเหน็บพระขรรค์ไว้มั่นคง | ลงสรงถูกน้ำจะเป็นถนิม | ||
เสียดายพลอยประดับล้วนทับทิม | จะช่วยเชิญไว้ริมชลธาร | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีฟังคำที่ว่าขาน | ||
ไม่ทันรู้เล่ห์กลคนบุราณ | เพราะกรรมนั้นบันดาลให้งวยงง | ||
ชักพระแสงทรงยื่นให้ยายเถ้า | แล้วชวนโฉมเฉลาลงสรง | ||
ชำระสระสนานสำราญองค์ | เวียนวงแหวกว่ายวารี | ||
พระหยอกนางทางกอบคงคาซัด | บังอรค้อนสบัดเบือนหนี | ||
เลี้ยวไล่ไขว่คว้ากัลยาณี | สรวลระริกซิกซี้สำราญใจ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าแสนร้ายหมายได้ | ||
เห็นสององค์ลงเล่นชลาลัย | ก็วิ่งไปยังกองอัคคี | ||
เอาพระขรรค์นั้นวางกลางเพลิงชุม | ฟืนสุมใส่เข้าเผาจี่ | ||
ก่อพลางเหลียวดูพระภูมี | แล้วเป่าปัดพัดวีวุ่นไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
๏ เมื่อนั้น | พระคาวีร้อนรนไม่ทนได้ | ||
เจียนจักพินาศขาดใจ | แลไปดูยายก็หายตัว | ||
เรียกเมียว่าช่วยพี่ด้วยเจ้า | ครั้งนี้อีเถ้ามันฆ่าผัว | ||
เรียกพลางองค์สั่นอยู่รันรัว | ค่อยทรงตัวขึ้นจากคงคาลัย | ||
จะยืนยั้งตั้งกายก็ไม่ตรง | นางโฉมยงเข้าประคองแล้วร้องไห้ | ||
ล้มลงกลางหาดจะขาดใจ | ภูวไนยร่ำสั่งบังอร | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โอ้ปี่ | |||
๏ โอ้ว่าโฉมยงนงลักษณ์ | มิเสียทีที่รักสายสมร | ||
ครั้งนี้ชีวิตต์จะม้วยมรณ์ | เพราะเจ้าวอนไต่ถามความลับ | ||
พี่ก็บอกออกให้ด้วยใจซื่อ | ควรฤๅย้อนยอกกลอกกลับ | ||
มิได้ฟังคำที่กำชับ | ไปบอกกับยายเถ้าเจ้ามารยา | ||
มันคิดร้ายหมายล้างชีวิตต์พี่ | ทีนี้สุดสิ้นวาศนา | ||
เวราเราแล้วนะแก้วตา | จะขอลาโฉมฉายวายปราณ | ||
พระสุดสิ้นกำลังไม่สั่งได้ | ด้วยดวงจิตต์พิษไฟเผาผลาญ | ||
เอนอิงพิงองค์นงคราญ | ภูบาลซอนซบสลบไป | ||
ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาเห็นผัวตักษัย | ||
กอดศพภัศดาโศกาลัย | ทรามวัยครวญคร่ำรำพรรณ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
๏ โอ้ว่าพระองค์ทรงเดช | เกิดเหตุทั้งนี้เพราะเมียขวัญ | ||
เชื่ออีเถ้าแพศยาอาธรรม์ | จนมันลอบทำให้จำตาย | ||
ครั้งนี้มิชั่วก็เหมือนชั่ว | คิดแค้นใจตัวไม่รู้หาย | ||
อดสูอยู่ไยให้ได้อาย | จะสู้ตายตามองค์พระทรงธรรม์ | ||
ว่าพลางทางกราบกับตีนผัว | ทอดตัวโศกาเพียงอาสัญ | ||
สองกรข้อนทรวงรุมรัน | ทรงกรรแสงซบสลบไป | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าเผาพระขรรค์จนเหงื่อไหล | ||
เสลือกสลนซนฟืนใส่ไฟ | หายใจกระหมอบหอบเต็มที | ||
แล้ววิ่งมาดูสององค์ | เห็นล้มลงนิ่งแน่อยู่กับที่ | ||
ไม่ไหวกายตายจริงแล้วคราวนี้ | วางวิ่งตาลีตาลานมา | ||
เห็นนางกอดศพสลบไสล | ก็แจ้งใจว่ายังไม่สังขาร์ | ||
จึงอุ้มองค์อรไทยไคลคลา | ไปยังท่าที่ประทับฉับไว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
๏ วางนางลงเหนือเรือนั่ง | ปิดบังม่านทองผ่องใส | ||
ให้เร่งออกนาวาคลาไคล | สุ่มไล่สามเล่มมาเต็มที่ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมจันท์สุดามารศรี | ||
ครั้นฟื้นคืนได้สมประดี | คว้าหาสามีไม่พบพาน | ||
ผันแปรแลเหลือบมาเห็นยาย | โฉมฉายชี้หน้าแล้วว่าขาน | ||
ทุดอีเถ้าทรชนคนพาล | อัปรีสีกระบานเปนพ้นไป | ||
ลอบฆ่าสามีแล้วมิหนำ | มึงจะซ้ำพากูไปข้างไหน | ||
ชั่วช้าสารพัดน่าขัดใจ | จะตบให้ย่อยยับลงกับมือ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าปลอบว่าอย่าอึงอื้อ | ||
จะพาไปบ้านเมืองให้เลื่องฦๅ | ได้ออกหน้าค่าชื่อยิ่งกว่านี้ | ||
ทรงธรรม์สันนุราชเรืองไชย | จะเษกให้แม่เปนมเหษี | ||
อย่าทรงโศกโศกาถึงสามี | เทวีจะเปนสุขทุกเพรางาน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาดาลเดือดไม่เหือดหาย | ||
โกรธาด่าทอมากมาย | อย่าพักพูดอุบายให้ตายใจ | ||
ผัวกูวอดวายจะตายด้วย | ที่จะให้เอออวยอย่าสงสัย | ||
ว่าพลางทางทรงโศกาลัย | ครวญคร่ำร่ำไรไปมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
โอ้ปี่ | |||
๏ โอ้พระทูลกระหม่อมของเมียเอ๋ย | พระคุณเคยปกเกล้าเกศา | ||
อยู่เย็นเปนสุขทุกเวลา | วันนี้มาจากองค์พระทรงฤทธิ | ||
เพราะเมียชั่วช้าพาซื่อ | เชื่อถืออีเถ้าทุจริต | ||
บอกความลับมันไม่ทันคิด | จนพระสิ้นชีวิตวายวาง | ||
พ่อเจ้าประคุณของน้องเอ๋ย | กรรมสิ่งไรเลยได้เคยสร้าง | ||
จึงมีอีเถ้ามาตามล้าง | เลิศร้างภัศดามาแต่ตัว | ||
น่าสงสารปานนี้ผัวแก้ว | จะตรำแดดอยู่แล้วพระทูลหัว | ||
ยิ่งคิดขุ่นข้องหมองมัว | ทอดตัวเกลือกกลิ้งนิ่งไป | ||
ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | ยายเถ้าวักน้ำมาลูบให้ | ||
เห็นนางสมประดีก็ดีใจ | เร่งฝีพายพายไล่สุ่มมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงประทับตำหนักแพ | พอเห็นท่านเถ้าแก่ก็ไปหา | ||
ยายเถ้าเล่าความตามกิจจา | อย่าช้าช่วยทูลพระทรงธรรม์ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เถ้าแก่แร่ไปขมีขมัน | ||
ครั้นถึงจึงทูลว่ายายนั้น | ได้นางจันท์สุดามาแล้ว | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชเร่งผ่องแผ้ว | ||
จึงเสด็จจากอาศน์คลาศแคล้ว | ตามแถวท้องฉนวนด่วนไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
๏ ครั้นถึงตำหนักแพแลเห็นยาย | พระแย้มยิ้มพริ้มพรายปราไส | ||
ยายทำความชอบข้าขอบใจ | ว่าพลางพยักให้เผยม่านทอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
ชมโฉม | |||
๏ พระพินิจพิศโฉมจันท์สุดา | นางในใต้ฟ้าไม่มีสอง | ||
ผิวเนื้อเรื่อเหลืองเรืองรอง | พักตร์ผ่องเพียงดวงจันทรา | ||
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์ | เนตรขนงน่ารักหนักหนา | ||
ตลึงแลดูนางไม่วางตา | พระราชาแย้มยิ้มกระหยิ่มใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ จึงเรียกวอสุวรรณ์บรรจง | รับองค์เทวีศรีใส | ||
แห่ห้อมพร้อมพรั่งเข้าวังใน | เสด็จตามทรามวัยมาทันที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงจึงสั่งให้พานาง | ไปอยู่ปรางค์ปราสาทศรี | ||
ตรัสพลางย่างเยื้องจรลี | มาเข้าที่ชำระสระสรงน้ำ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
โทน | |||
๏ ลูบไล้สุคนธ์ปนปรุง | ดมดูกลิ่นฟุ้งหอมฉ่ำ | ||
หยิบภูษามาทรงแล้วลูบคลำ | ยกทองท้องช้ำชอบพระทัย | ||
ห่มสีทับทิมกรองคล้องคอ | ใครดูกูหนุ่มฟ้อขึ้นฤๅไม่ | ||
นั่งมองส่องกระจกยิ้มละไม | ก็ยังไม่แก่กระไรทีเดียวนัก | ||
ผมเผ้าพิศดูไม่สู้หงอก | เสียสิ่งเดียวดอกแต่ฟันหัก | ||
ถึงกระนั้นโฉมยงก็คงรัก | แล้วทรงศักดิ์เสด็จจากแท่นทอง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
ร่าย | |||
๏ เดินเหินรัดกุมเหมือนหนุ่มแน่น | ลอยชายกรายแขนเข้าในห้อง | ||
พิศดูตัวพลางทางเยี่ยมมอง | ตามช่องฉากบังกระทั่งไอ | ||
เห็นนางซบพักตราโศกาอยู่ | จะเหลียวดูภูมีก็หาไม่ | ||
ค่อยนั่งลงข้างองค์อรไทย | แล้วปราไสเกี้ยวพานหว่านล้อม | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ชาตรี | |||
๏ สาวเอยสาวสวรรค์ | น้อยฤๅนั่นน่าชมนางผมหอม | ||
งามสิ้นทุกสิ่งพริ้งพร้อม | ดูละม่อมหมดอย่างเหมือนนางฟ้า | ||
นี่กุศลหนหลังเราทั้งสอง | เคยเปนคู่ครองเสนหา | ||
เก็บดอกไม้ไหว้พระด้วยกันมา | วาศนาทำไว้จึงได้น้อง | ||
แต่วันพบผะอบผมเจ้าลอยน้ำ | พี่ครวญคร่ำโศกาหาเจ้าของ | ||
ให้เสนาข้าเฝ้าเที่ยวป่าวร้อง | ได้ข่าวน้องเพราะยายค่อยคลายใจ | ||
ทีนี้เสร็จสมอารมณ์นึก | ดังเอาน้ำอำมฤตมารดให้ | ||
ถึงจะได้นางฟ้าสุราลัย | ไม่ดีใจเหมือนเจ้าเยาวมาลย์ | ||
เชิญผินพักตรามาพาที | เสียแรงพี่ว่าวอนด้วยอ่อนหวาน | ||
จะครวญคร่ำร่ำร้องไม่ต้องการ | จงพูดจาว่าขานกันโดยดี | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | โฉมจันท์สุดามารศรี | ||
ฟังท้าวเจ้าพาราพาที | เทวีกลุ้มกลัดขัดใจ | ||
ถอยองค์ออกไปเสียให้ห่าง | แล้วนางค่อนว่าไม่ปราไส | ||
นี่แน่ออเถ้าเจ้ากรุงไกร | ช่างไม่คิดถึงตัวมัวเมา | ||
จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รุ้ | ยังจะเที่ยวเกี้ยวชู้อยู่อีกเล่า | ||
จนฟันหักผมหงอกเหมือนดอกเลา | ลูกเขาเมียเขาก็ไม่คิด | ||
คบกันกับอีเถ้าเจ้าเล่ห์ | ทำการเกเรทุจริต | ||
ลอบฆ่าสามีกูม้วยมิด | มิหนำซ้ำปลิดเอาเมียมา | ||
อย่าพักว่าวอนให้อ่อนใจ | กูไม่มุ่งมาดปรารถนา | ||
ว่าพลางนางทรงโศกา | กัลยาโศกศัลย์รันทด | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ ทรามเอยทรามสงวน | อย่ารัญจวนครวญคร่ำกำสรด | ||
ถึงเจ้าโกรธโกรธาว่าประชด | จะออมอดไม่ถืออรไทย | ||
อย่าเยาะเย้ยเลยเจ้าว่าเถ้าแก่ | พี่แพ้ฟันดอกจะบอกให้ | ||
อันอายุอานามกับทรามวัย | เห็นจะไม่กะไรกันนัก | ||
อย่าชิงชังรังเกียจที่หนุ่มแก่ | จงชมแต่ยศถาบันดาศักดิ์ | ||
พี่จะเษกโฉมยงนงลักษณ์ | ให้เปนเอกอัครเทวี | ||
ทักวันท่านยายก็แก่เถ้า | ขอเชิญเจ้าร่วมแท่นแทนที่ | ||
สมบัติพัศถานเรามั่งมี | คงดีกว่าผัวเก่าของเจ้าจน | ||
พี่ให้ไปรับน้องมา | หวังว่าจะรักเปนพักผล | ||
จะแขงขัดตัดรอนไม่ผ่อนปรน | ใช่ที่นฤมลจะพ้นมือ | ||
ว่าพลางทางถัดเข้าใกล้ | ลูบไล้เลียมลองจะต้องถือ | ||
ให้เร่าร้อนฤทัยดังไฟฮือ | แล้วหดมือถอยหลังรั้งรอ | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาไม่กลัวทำหัวร่อ | ||
ตบมือชี้หน้าด่าทอ | เคืองขัดตัดพ้อภูวไนย | ||
อย่าอวดโอ้โอหังว่ามั่งมี | หานิยมยินดีของมึงไม่ | ||
พูดจาบ้าลำโพงโป้งไป | คนอะไรใครบ้างอย่างนี้ | ||
ไม่คิดว่าแก่เถ้าจะเข้าโลง | ยังโอ่โถงทำหนุ่มน่าบัดสี | ||
ไม่ช้านักสักปีหนึ่งสองปี | จะได้เกี้ยวกับผีที่ป่าช้า | ||
น่าหัวร่อทั้งทุกข์สนุกจ้าน | ดื้อด้านซานซมหนักหนมหนักหนา | ||
ดูเหมือนมิใช่ท้าวพระยา | เวทนาเชิญไปเสียให้พ้น | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชคิดขัดสน | ||
จะเล้าโฉมนางนฤมล | เห็นไม่หย่อนผ่อนปรนก็จนใจ | ||
อำนาจนางซื่อสัตย์ต่อภัศดา | พระราชาร้อนรนไม่ทนได้ | ||
จึงเสด็จย่างย่องจากห้องใน | รีบไปสรงชลกระวนกระวาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
๏ ตักวารีรดหมดแม่ขัน | แต่กระนั้นร้อนใจมิใคร่หาย | ||
หยิบเครื่องสุคนธามาละลาย | ลูบชะโลมโซมกายค่อยคลายร้อน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ พระนั่งง่วงโงกหงับหลับตา | คิดถึงจันท์สุดาดวงสมร | ||
นิจจาเจ้าช่างสลัดตัดรอน | ไม่ผันผ่อนปรานีพี่บ้างเลย | ||
เสียแรงให้ไปรับน้องมา | หวังว่าจะร่วมเรียงเคียงเขนย | ||
พี่เฝ้าปลอบโฉมงามทรามเชย | น้องเอ๋ยไม่ปลดปลงลงใจ | ||
อันเล่ห์กลสัตรีนี้ฦกล้ำ | จะเชื่อถือถ้อยคำยังไม่ได้ | ||
เห็นจะเปนมารยาพิราใน | จะเกี้ยวแก้มือใหม่อีกสักครั้ง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ คิดพลางแต่งองค์ทรงภูษา | ห่มห่มนอนราคากว่าสองชั่ง | ||
แล้วดำเนินเดินดุ่มสุ่มตะรัง | ขึ้นนั่งบนเตียงเคียงนาง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ น้องเอ๋ยน้องรัก | จงผินพักตร์มาพูดกับพี่บ้าง | ||
เอออะไรไม่พอที่พอทาง | จะทำให้เขินค้างอยู่กลางคัน | ||
แม้นมิได้เชยชมสมหมาย | จะสู้วายชีวาอาสัญ | ||
แต่พี่มีเมียมานับพัน | ไม่เหมือนขวัญเนตรต้องต้องติดใจ | ||
จริงจริงพี่รักเจ้าหนักหนา | ไม่เสแสร้งแกล้งว่าสบถได้ | ||
เจ้าจงเมตตาอาลัย | อย่าให้ไผ่ผอมตรอมใจตาย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ได้เอยได้ฟัง | แค้งคั่งเคืองหูไม่รู้หาย | ||
นางโกรธาด่าทอหยาบคาย | ถ่มน้ำลายรดให้ไม่ไยดี | ||
ขี้คร้านพูดจากับบ้าหลัง | น่าชังหนักหนาผินหน้าหนี | ||
ยิ่งคิดยิ่งแค้นแสนทวี | ก็โศกีครวญคร่ำรำพรรณ์ไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
โอ้โลม | |||
๏ แสนเอยแสนงอน | ช่างตัดรอนค่อนว่าไม่ปราไส | ||
เจ้าคารี้สีคารมสุดใจ | เปนไรเปนไปไม่ละกัน | ||
ว่าพลางทางขยับจะยุดยื้อ | เลียมลองต้องถือให้มือสั่น | ||
เดชะความสัตย์ของนางนั้น | ทรงธรรม์ร้อนรนกระวนกระวาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ จะช้านักสักครู่ไม่อยู่ได้ | จนใจจึงจำขย่ำขยาย | ||
เหลียวหลังดูนางพลางเสียดาย | ค่อยเดินชายออกไปเสียให้พ้น | ||
นั่งนิ่งพิงหมอนถอนใจใหญ่ | ภูไนยสิ้นคิดขัดสน | ||
ให้รักใคร่ในนางนฤมล | เปนทังวี้ทังวลวุ่นวาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
๏ พระกอดเข่าเจ่าจุกทุกข์ร้อน | นั่งนอนไม่หลับกระสับกระส่าย | ||
คิดถึงนงเยาว์เศร้าเสียดาย | มุ่งหมายจะชมไม่สมคะเน | ||
จำจะคิดแยบคายสายสน | หาหมอรู้มนตร์ทำเสน่ห์ | ||
แก้ไขใช้ทางอุปเทห์ | มิได้ด้วยเล่ห์เอาด้วยกล | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ทีนี้โฉมยงคงรักใคร่ | เห็นจะไม่โกรธาบ้าบ่น | ||
ด้วยเดชะฤทธิเดชเวทมนตร์ | อันจะพ้นมือพี่อย่าสงกา | ||
พระแย้มยิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ | หมายได้นึกกำหนัดสมบัติบ้า | ||
จึงเรียกเหล่าเถ้าแก่เข้ามา | แล้วกำชับกำชาสั่งความ | ||
จงพิทักษ์รักษามารศรี | อย่าพูดจาพาทีให้หยาบหยาม | ||
ช่วยกันเล้าโลมนางโฉมงาม | ถ้าโอนอ่อนผ่อนตามจะรางวัล | ||
แม้นกูมาทีหลังยังดื้อดึง | ชีวิตมึงเหล่านี้จะอาสัญ | ||
สั่งพลางย่างเยื้องจรจรัล | ออกท้องพระโรงคัลทันใด | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
๏ นั่งเหนือแท่นรัตน์ชัชวาลย์ | พร้อมข้าราชการน้อยใหญ่ | ||
จึงเรียกเสนีที่ไว้ใจ | มาใกล้หน้าที่นั่งแล้วสั่งพลัน | ||
จงสืบหาหมอเสน่ห์เล่ห์กล | ที่มนตร์ดลอาคมขลังขยัน | ||
ทำรูปรอยปลุกเสกเลขยันต์ | ตามทำนองของมันเคยใช้ | ||
ถ้าแม้ทำเปนเห็นจริง | ให้ผู้หญิงสมัครักใคร่ | ||
เสื้อผ้าเงินทองจะถึงใจ | ใครรับได้เอาตัวมันเข้ามา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนีดีใจอยากได้หน้า | ||
คำนับรับราชบัญชา | บังคมลามาริมทิมชาววัง | ||
เรียกบ่าวลูกเล็กเจ๊กหัวเปีย | ต่ำเตี้ยกะจิริดติดตามหลัง | ||
ถือห่อผ้าการ่มรุงรัง | ไม่รอรั้งเดินออกนอกประตู | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
๏ เที่ยวสืบหาหมอเสน่ห์เล่ห์กล | ทุกถนนในนครจนอ่อนหู | ||
วัดวาอารามเที่ยวถามดู | ไม่มีผู้รู้ทำล้ำฦกซึ้ง | ||
แสบท้องแทบตายสายเต็มที | เข้าซื้อหมี่เจ๊กกินสิ้นสองสลึง | ||
แล้วใส่เอาเหล้าเข้มพอเต็มตึง | หยุดอยู่ครู่หนึ่งจึงจะไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | หมอเถ้าเจ้าความรู้ครูใหญ่ | ||
ไม่มีมุลนายสบายใจ | อยู่โรงริมร่มไม้ในกำแพง | ||
เปนทิศาปาโมกข์พวกโหยกเหยก | ตัวเอกออกชื่อฦๅทุกแห่ง | ||
อวดกำลังหนังเหนียวเรี่ยวแรง | ฟันแทงไม่เข้าเปล่าทั้งนั้น | ||
ทำเสน่ห์เล่ห์กลให้คนเชื่อ | ฉลาดเหลือหลอกหลอนผ่อนผัน | ||
เมียขุนนางวางน้ำไปกำนัล | ขอเลขยันต์หยูกยาอาคม | ||
พวกหนุ่มหนุ่มปรารถนาจะหาเมีย | มาเรียนรู้สู้เสียผ้านุ่งห่ม | ||
เถ้าชราหากินด้วยลิ้นลม | ใครชิดชมฉิบหายเสียหลายคน | ||
เหล่านักเลงเล่นเบี้ยเสียถั่ว | มาฝากตัวตาหมอคิดฉ้อฉน | ||
บ้างเรียนชักไม้กงพัดหัดเล่นกล | คอยลวงคนชาวบ้านนอกขอกนา | ||
พวกหัวไม้ไปหัดอาพัดเหล่า | ฟันไม่เข้าคงสิ้นทั้งหินผา | ||
เงินทองไม่มีบี้สกา | อุตส่าห์มาติดเทียนเรียนรู้ | ||
ล้วนนักเลงเสงพากปากโป้ง | บ้าลำโพงเพื่อนบ้านรำคาญหู | ||
พอถึงวันพฤหัสนัดไหว้ครู | กินหัวหมูกับเหล้าเมาโมเย | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนีเหนื่อยเหน็ดเที่ยวเตร็จเตร่ | ||
ถึงบ้านหมอรอฟังยังลังเล | พอคะเนเพลาสักห้าโมง | ||
ได้ยินเสียงคนผู้อยู่นักหนา | เล่นหมากรุกฤๅสถาพูดจาโผง | ||
จึงข้ามร่องย่องยิ้มมาริมโรง | ฝาโปร่งเปนช่องเมียงมองดู | ||
เห็นหนุ่มหนุ่มนั่งล้อมพร้อมหน้า | ขอคาถาตาหมออวดจ้ออยู่ | ||
ค่อยเคาะเปาะเข้าที่เสาประตู | ถามหาตาครูดูท่วงที | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | ตาหมอมองป้องหน้าใครมานี่ | ||
เอออ่อต่อจะจับเจ้าเหล่านี้ | เสนีแล้วสิหว่าดูน่ากลัว | ||
พวกหลบเจ้าหนี้หนีนายบ่อน | ตกใจไปซ่อนนอนคลุมหัว | ||
บรรดามีความผิดติดตัว | อารามกลัวลุกทลึ่งตึงตัง | ||
ที่ใจกล้าว่าเกลออย่าเพ่อหนี | ร้ายดีคงสู้ดูสักตั้ง | ||
ตาหมอทำฮึกฮักทักเสียงดัง | ใครแปลกหน้ามานั่งรั้งรอ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ ครั้นเข้าใกล้ได้ความตามซื่อ | จูงมือมาพลางทางหัวร่อ | ||
ผูกรักชักชวนชอบพอ | พูดล้อเจรจาฮาเฮ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | เสนีนักเลงเก่าเจ้าเล่ห์ | ||
เข้าคบค้าสมาคมสมคะเน | บอกอุบายถ่ายเทธุระร้อน | ||
เดี๋ยวนี้นะพระองค์ทรงธรรม์ | แสนกะสันจันท์สุดาดวงสมร | ||
แต่เกี้ยวพานพูดจาว่าวอน | เปนหลายครั้งบังอรไม่เอออวย | ||
ถ้าทำได้ให้องค์นงลักษณ์ | พบพักตร์ภูมียินดีด้วย | ||
นางนิยมสมประสงค์งงงวย | คงรวยเต็มประดาแล้วตาครู | ||
เงินทองของเข้าจะเอาอะไร | อย่าสงสัยได้หมดไม่ปดปู่ | ||
ทั้งเมียสาวบ่าวไพร่พรั่งพรู | ที่อยู่ตึกกว้านบ้านเรือนรั้ว | ||
ฤๅจะเปนขุนนางข้างกรมท่า | แต่งสำเภาเลากาเป็นเจ๊สัว | ||
จงออกรับอาสาเถิดอย่ากลัว | จะซ่อนตัวอยู่ไยไม่ต้องการ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | หมอเถ้าได้ฟังลูบหลังหลาน | ||
หลงละโมภโลภล้นพ้นประมาณ | อยากจะได้ของประทานพานพูดเพ้อ | ||
จะทำให้สมประสงค์จงได้ | การเสน่ห์แล้วใครไม่เสมอ | ||
คอยดูความรู้เราเอาเถิดเธอ | อวดอ้อหัวร่อเร่อเอออือ | ||
อันอาคมคาถาตำราตำหรับ | มากมายหลายฉะบับเคยนับถือ | ||
คนมาขอเรียนร่ำล่ำฦๅ | เห็นแล้วฤๅศิษย์เราล้วนเจ้าชู้ | ||
ช่วยแนะแหนแต่เสน่ห์ขี้เหร่ขี้ร้าย | ได้สมหมายมนตร์ขลังอยู่มั่งอยู่ | ||
วันนี้เขาเอาของมาไหว้ครู | หัวหมูบายศรีอยู่นี่แน | ||
พอเลี้ยงท้องสองมือไม่ขัดสน | ได้นั่งกินสินบนมาจนแก่ | ||
เมื่อเย็นวานท่านผู้หญิงที่แพ | ให้ผ้าแพรปังสีสี่ห้าพับ | ||
ทั้งนอกในไปมาหาไม่ขาด | แต่ไม่อาจออกตัวกลัวเขาจับ | ||
นี่กันเองไม่เกรงดอกจึงออกรับ | เปนความลับฦกล้ำสำคัญ | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนาพาซื่อถือมั่น | ||
เห็นชอบกลมนตร์เวทวิเศษครัน | จะขยันทายาดดูลาดเลา | ||
คิดพลางทางว่ากับตาหมอ | จะรั้งรออยู่ไยทำไมเล่า | ||
มั่งมีดีกว่าค้าสำเภา | กลัวอะไรไปเฝ้าเอารางวัล | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ตาหมอมุ่งหมายจะผายผัน | ||
มาอาบน้ำในครัวแต่งตัวพลัน | แป้งน้ำมันมีพร้อมหอมฟุ้ง | ||
เลือกผ้านุ่งห่มสมรูปร่าง | ลายฉลางอย่างนอกเอาออกนุ่ง | ||
กรุกกรักประดักประเดิดเปิดฝาลุ้ง | เอาแพรบางกวางตุ้งคาดพุงพัน | ||
แล้วไขตู้ดูตำราของอาจารย์ | ปิดทองของบุราณลานสั้น | ||
สมุดขาวเขียนหมึกดึกดำบรรพ์ | ล้วนเลขยันต์เสน่ห์เล่ห์กล | ||
ห่อผ้าดำสำรองไปสองฉะบับ | ถึงไล่เดี่ยวเคี่ยวขับไม่ขัดสน | ||
ปากว่าสาธยายเวทมนตร์ | จำได้หัวใจสนธิ์บ่นออกมา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | เสนีดีใจเปนนักหนา | ||
จึงพาหมอเถ้าเจ้าตำรา | เดินมาตามทางกลางนคร | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
๏ ครั้นถึงทิมริมที่ทวารวัง | ให้หมอนั่งยั้งอยู่สักครู่ก่อน | ||
เข้าไปกราบบาทมูลทูลภูธร | ธุระร้อนพระองค์คงสมคิด | ||
ข้าไปพบหมอเถ้าเข้าคนหนึ่ง | ถ้าจะเปรียบเทียบถึงปโรหิต | ||
รู้วิชาชำนาญการอิทธิฤทธิ | ศักดิ์สิทธิ์วิทยาอาคม | ||
บัดนี้พำตาหมอมารออยู่ | ที่ทิมริมประตูท้ายสนม | ||
มนตร์ดลดีนักหนาน่านิยม | ไม่ประสมประสานแสร้งแกล้งกราบทูล | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ทรงธรรม์สันนุราชนเรนทร์สูรย์ | ||
ฟังแจ้งแถลงเล่าเค้ามูล | ให้เพิ่มพูนภิรมย์สมนึก | ||
จึงให้หาตาหมอจรดล | มาเฝ้าบนชานพักตำหนักตึก | ||
แล้วเล่าตามความขำล้ำฦก | ตรองตรึกปรึกษากับตาครู | ||
เราได้นางนฤมลมาคนหนึ่ง | ผัวพึ่งวอดวายเปนหม้ายอยู่ | ||
รูปทรงโสภาน่าเอนดู | ควรเปนคู่เคียงเขนยเชยชม | ||
จะเล้าโลมโฉมเฉลาสักเท่าไร | ก็มิได้มีจิตต์สนิทสนม | ||
หมอเถ้าเจ้าเสน่ห์เล่ห์ลม | จงทำให้ได้สมความคิดเรา | ||
แม้นว่าแก้วกัลยาการุญ | บญคุณของครูเท่าภูเขา | ||
ถึงได้ทองสักสองลำสำเภา | ก็ไม่เท่าได้ของที่ต้องใจ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | หมอเถ้าเจ้าตำราอัชฌาสัย | ||
จึงแกล้งทูลถ่อมตัวกลัวโพยภัย | ข้าเข้าใจบ้างอยู่ความรู้บุราณ | ||
เมื่อหนุ่มหนุ่มคนองลองคาถา | ผู้หญิงงามตามมาจนถึงบ้าน | ||
ครั้นแก่ตัวกลัวผิดคิดขี้คร้าน | เขาบนบานบ่อยไปไม่ไยดี | ||
ได้ทราบ่าฝ่าลอองต้องประสงค์ | นางโฉมยงยังระคางขนางหนี | ||
จะอาสาหน้าที่นั่งครั้งนี้ | ให้สิ้นดีโดยอุบายถ่ายเท | ||
ผงดินสอขอถวายให้ผัดพักตร์ | นารีรักรูปทรงหลงเล่ห์ | ||
ขี้ผึ้งสีเสกด้วยฤทธิ์อิทธิเจ | เปนเสน่ห์พูดผู้หญิงให้ยิงยอม | ||
เครื่องสุคนธ์มนตร์เทพรำจวน | ให้เนื้อหนังนุ่มนวลหวนหอม | ||
สรงสนานน้ำทิพย์สิบกละออม | นางผมหอมเห็นพระองค์คงทักทาย | ||
ทูลพลางพลิกหาตำราเสน่ห์ | อุปเทห์ที่ใบลานอ่านถวาย | ||
เคยทำเปนเห็นจริงหญิงรักชาย | บ้าน้ำลายพูดโผงโป้งไป | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชลุ่มหลงไม่สงสัย | ||
น้อยฤๅหมอเถ้าคนเข้าใจ | เรียนร่ำจำไว้ได้มากมาย | ||
ทีนี้นางนฤมลไม่พ้นพี่ | เพราะเวทมนตร์ดลดีใจหาย | ||
ตบเพลาเข้าพลางทางยิ้มพราย | คงได้ชมสมหมายถ่ายเดียว | ||
ชิชะหมอคนนี้ดีทายาด | รู้หลักนักปราชญ์ฉลาดเฉลียว | ||
เนื้อตัวตกกระยังประเปรียว | ไล่เดี่ยวเคี่ยวขับไม่อับจน | ||
ถ้าทำได้สมหวังดังว่า | เสื้อผ้าสารพัดไม่ขัดสน | ||
จะให้เมียรูปงามสักสามคน | เปนสินบนหมอเถ้าเจ้าตำรา | ||
ประทานทั้งเงินตราห้าสิบชั่ง | แล้วจะตั้งเปนขุนนางข้างกรมท่า | ||
ฤๅรักทำโรงเหล้าเตาสุรา | ตามแต่ตัวขรัวตาจะชอบใจ | ||
ว่าพลางทางสำรวลสรวลเส | สมคะเนแม่นมั่นพะนันได้ | ||
แล้วตรัสสั่งขุนนางวางพระทัย | อย่าอื้ออึงคนึงไปให้ใครรู้ | ||
จงจัดแจงแต่งที่สรงสนาน | เครื่องอานต่างต่างหลายอย่างอยู่ | ||
ให้ต้องตามตำราของตาครู | เห็นได้ช่องลองความรู้ดูอีกครั้ง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | เสนีคำนับรับคำสั่ง | ||
ออกมาที่ทิมริมคลัง | เจ็บหลังนั่งอิงพิงพนัก | ||
บ่าวตะบันหมากสงส่งมาให้ | เคี้ยวไม่ได้ฟันฟางห่างหัก | ||
ฉวยคนโทดื่มน้ำจนสำลัก | เปลื้องสมปักเปียกไปให้ทนาย | ||
หยิบน้ำชามารินกินสองป้าน | สั่งพันภาณให้เสมียนเขียนหมาย | ||
หมอเถ้าจะเสดาะพระเคราะห์ร้าย | บอกอุบายมิให้ใครสงกา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ บัดนั้น | ตำรวจรับหมายบ่ายหนักหนา | ||
ลนลานการด่วนจวนเวลา | วิ่งหานายมุลวุ่นทั้งเวร | ||
บ้างตกแต่งเตียงสรงองค์เก่า | ออกไปเอาช่างมาทาเสน | ||
นายงานพานสันทัดชัดเจน | อึดอัดขัดเขนยกเข้ามา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ยานิ | |||
๏ แต่งตั้งเตียงที่พิธีสนาน | ผูกม่านเพดานดวงพวงบุปผา | ||
ขันสาครใหญ่ใส่คงคา | ครอบสำริดปิดฝาม้ารอง | ||
เครื่องสำอางวางเรียงเคียงกัน | เกณฑ์กำนัลนั่งเฝ้าเปนเจ้าของ | ||
ภูษาผ้าทรงใส่พานทอง | จัดแจงแต่งต้องามธรมเนียม | ||
ตาเถ้าชาวที่สามสี่คน | ตักเติมหม้อน้ำมนตร์จนออกเปี่ยม | ||
เตียงสำหรับตาครูปูพรมเจียม | ตระเตรียมพร้อมเสร็จสำเร็จการ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
ร่าย | |||
๏ บัดนั้น | หมอเถ้าเจ้าตำราตราสาร | ||
ให้แต่งตั้งกำนนบนบาน | ตามบุราณคำรบครบครัน | ||
เรียกเอาเข้าของคำนับครู | หัวหมูบายศรีขมีขมัน | ||
สารพัดบัดพลีพะลีกรรม์ | กระแจะจันทน์น้ำมันหอมพร้อมเพรียง | ||
ครั้นเสร็จสรรพทุกสิ่งไม่นิ่งช้า | หมอเถ้าเอาผ้าสไบเฉียง | ||
ขึ้นทำการอ่านมนตร์บนเตียง | เสกเสียงพึมพำพร่ำไป | ||
ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ ว่าตามความรู้ของครูสอน | พลัดเปนครึ่งท่อนกลอนปรบไก่ | ||
ได้สติตีอกชกใจ | ลงปลายกลายไปเปนเวทมนตร์ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ สาธุการ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชมาดหมายมาหลายหน | ||
วันนี้นางทรามวัยเห็นไม่พ้น | พากเพียรเรียนมนตร์บ่นเต็มที่ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
๏ จำได้คาถามหาเสน่ห์ | อุปเทห์ทั้งมวญถ้วนถี่ | ||
ครั้นโพล้เพล้เวลาราตรี | มาเข้าที่สรงน้ำทำการ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
ชมตลาด | |||
๏ ไขสุหร่ายสายชลดังฝนตก | อาบอุทกธารากระยาสนาน | ||
รดน้ำมนตร์ล้นเหลือเชื่ออาจารย์ | จนงกงันสั่นสท้านทั้งกายา | ||
บรรจงทรงสุคนธ์มนตร์หมอเสก | นางตัวเอกไม่แคล้วพี่แล้วหนา | ||
ผงดินสอใส่พระหัตถ์ผัดพักตรา | ลูบไล้ไปมาทั้งสารพางค์ | ||
หยิบยกกระจกใหญ่ใส่คันฉ่อง | เทียนตั้งนั่งมองส่องสว่าง | ||
ดูเปนหนุ่มน่าชมสมกับนาง | อวดหมอหัวร่อพลางทางแย้มยิ้ม | ||
เสวยพระศรีสงทรงเคี้ยว | สักประเดี๋ยวทันใจเอาไม้จิ้ม | ||
นุ่งนอกอย่างวางชายกรายกรีดริม | สีทับทิมคล้องคอพอพระทัย | ||
เพ็ชรฑูริย์ธำมรงค์ทรงก้อย | ตำราพลอยว่าผู้หญิงมักรักใคร่ | ||
คาดเข็มขัดประจำยามงามสุดใจ | พวงมาลัยใส่ข้อมือถือยาดม | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ ครั้นเสร็จเสด็จมาไม่ยั้งหยุด | ดำเนินเดินสดุดนักสนม | ||
ขึ้นบนมณเฑียรเจียนจะล้ม | เข้าในห้องประธมเทวี | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
๏ ยืนแฝงฝากั้นขยั้นอยู่ | แอบประตูดูสุดามารศรี | ||
ปากบ่นบริกรรมทำท่วงที | สูบบุหรี่ร่ายมนตร์พ่นควันไป | ||
นางเหลียวดูภูบาลก็อ่านเวท | ประสมเนตรนึกรักยักคิ้วให้ | ||
เห็นชอบกลกัลยาไม่ว่าไร | หมายได้สมคิดด้วยวิทยา | ||
จึงค่อยย่องย่างมาข้างหลัง | ขึ้นนั่งบนเตียงเมียงเมินหน้า | ||
ยิ้มแย้มกระแอมไอไปมา | พูดจาปลอบนางพลางแลเลง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ชาตรี | |||
๏ น้องเอยน้องรัก | กำลังสาวราวสักปีมะเส็ง | ||
พักตร์ผ่องเพียงจันทร์เมื่อวันเพ็ง | ครัดเคร่งเปล่งปลั่งอยู่ทั้งตัว | ||
น้อยฤๅพี่รักนักหนา | กระนี้แล้วแก้วตายังว่าชั่ว | ||
นี่เนื้อเคราะห์เพราะชราหูตามัว | ไม่เหมือนผัวของเจ้าเฝ้าเคียดคุม | ||
อย่าเลี้ยวลดทดลองให้ถ่องแท้ | กลัวแต่แก่จะชนะหนุ่ม | ||
ว่าพลางทางขยับจับกุม | ให้ร้อนรุมราวกับไฟไหม้มือ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ นึกพรั่นขยั้นขยดถดถอย | เหงื่อไหลไคย้อยลงน้องฤๅ | ||
แก้ขวยฉวยพัดปัดกระพือ | ยังร้อนรื้อเรียกน้ำมากล้ำกลืน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ หยุดพักสักประเดี๋ยวเกี้ยวใหม่ | แขงใจพูดจาทำหน้าชื่น | ||
จะเษกน้องครองวังให้ยั่งยืน | วันรุ่งพรุ่งมะรืนได้ฤกษ์ดี | ||
เอออายุนงเยาว์สักเท่าไร | จงขับไล่ดูลองกับของพี่ | ||
อย่าย้อนยอกบอกเบือนเดือนปี | ตำรามีรู้มากนาคกะเฌอ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดานึกในช่างไม่เก้อ | ||
ชังน้ำหน้าบ้าเคอะกระเซอะกระเซอ | เป้อเย้อเย่อหยิ่งจริงจริงเจียว | ||
จะหุนหันโมโหโต้ตอบเล่า | เหมือนทำให้ไอ้เถ้ามันเฝ้าเกี้ยว | ||
ให้พูดจาบ้าบ่นอยู่คนเดียว | นางขัดใจไม่เหลียวไม่แลดู | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชแย้มยิ้มกระหยิ่มอยู่ | ||
หมายได้ด้วยคาถาของตาครู | อุตส่าห์สู้บ่นตะบอยค่อยกระซิบ | ||
ดูทำนองต้องจิตต์ผิดประหลาด | ไม่ร้ายกาจก้มหนาตาปริบปริบ | ||
น้อยหรือนางแสนคมคารมริบ | นิ่งกริบไปทีเดียวไม่เหลียวเลย | ||
ท่วงทีถูกเสน่ห์คะเนแน่ | เห็นประจักษ์ทักแท้แล้วแม่เอ๋ย | ||
กระดิกเข่าท้าวแขนแหงนเงย | เอาเขนยหนุนหลังนั่งทำทรง | ||
กินหมากดิบหยิบขี้ผึ้งเสกสี | สูบบุหรี่ใส่จันทน์ควันโขมง | ||
แล้วไกล่เกลี่ยเกลี้ยกล่อมล้อมวง | ใหลลงพูดละเม้อเพ้อพก | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
๏ ปลื้มเอยปลื้มจิตต์ | ทีนี้คงปลงปริศนาตก | ||
เหมือนทุกข์พี่มีผู้มาหยิบยก | ให้เบาอกออกแล้วนะแก้วตา | ||
จะนิ่งอยู่ไยน้องไม่ต้องการ | นั่งนานเหน็ดเหนื่อยเมื่อยหนักหนา | ||
ขอเชิญเจ้าเข้าที่กับพี่ยา | ให้เปนผาสุกสบายหายหาวนอน | ||
วันนี้ทีทำเห็นอ้ำอึ้ง | ไม่โกรธขึ้งตึงตังเหมือนครั้งก่อน | ||
ดีจริงเจียวแม่ไม่แง่งอน | จงโอนอ่อนผ่อนตามให้งามงด | ||
แล้วร่ายมนตร์หมอเถ้าเป่าซ้ำ | บริกรรมทำปากบดมด | ||
เอ๊ะอ่อต่อจะอ่อนหย่อนพยศ | ค่อยขยดลดไถลเข้าไปชิด | ||
นางขยับกลับตัวกลัวจะเห็น | ทำเปนผินหลังนั่งเกาหิด | ||
มองเขม้นเห็นสไบไม่สู้มิด | จึงยื่นมือมานิดสกิดกาย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
๏ เมื่อนั้น | จันท์สุดาร้องกรีดหวีดว้าย | ||
ชั่วชาติประหลาดเหลือเบื่อจะตาย | ช่างไม่อายขายหน้าบ้าจริงจริง | ||
ยังจะขืนยื่นมือมายื้อหยอก | เดี๋ยวนี้อกจะได้ชมคารมหญิง | ||
เหลือแค้นแน่นอกยกหมอนอิง | กระแทกทิ้งลงตรงหน้าแล้วด่าทอ | ||
ช่างกะไรไอ้หมอนไม่นอนหลับ | จนเขาขับขืนเกี้ยวไปเจียวหนอ | ||
แม้นมีไม้ใกล้ตัวหัวจะนอ | ใจคอไม่ลื้นเหมือนหมื่นทน | ||
เนื้อตัวหัวหูไปอยู่ไหน | จึงทนได้ให้เขาด่าดังห่าฝน | ||
ฤๅฟังเล่นเย็นฉ่ำเหมือนน้ำมนตร์ | ช่างผิดคนทนทานด้านดึง | ||
ไม่ว่าเล่นเห็นลึกอย่านึกหมาย | ตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง | ||
ลุกขึ้นกระทืบเตียงเสียงตึงตึง | ดื้อดึงดุดะไม่ละลด | ||
พานหมากพานพลูที่อยู่ใกล้ | ก็ปัดไปเปรื่องปร่างขว้างเสียหมด | ||
ฉวยน้ำซ้ำสาดราดรด | ทำประชดชิงชังรังแก | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชแปลกจิตต์ผิดแล้วแหล | ||
เสียน้ำใจในคอท้อแท้ | จนเปนลมล้มแน่นิ่งไป | ||
ให้เวียนหัวมัวตาหน้ามืด | ครางอืดบ่นออดทอดใจใหญ่ | ||
ดูดู๋เดิมเห็นดีมีน้ำใจ | หมายได้ไม่แคล้วแล้วทีเดียว | ||
มิรู้กลับแกล้วกล้าบ้าเลือด | ดุเดือดเต็มประดาตาเขียว | ||
ไม่รอติดผิดผู้หญิงจริงเจียว | ขี้เกียจเกี้ยวรับแพ้แล้วแม่คุณ | ||
ยังเจ็บช้ำระยำอยู่ไม่รู้หาย | ราวกับถูกลูกปลายหลายกะสุน | ||
ทำหน้าเซียวเคี้ยวเอื้องเงื่องงุน | สิ้นทุนสิ้นรอนจะผ่อนปรน | ||
แต่ยักย้ายหลายทำนองตรองตริ | สิ้นสติตายด้านอั้นอ้น | ||
สู้อุตส่าห์หน้าด้านทานทน | ถึงสองหนแล้วเห็นไม่เอ็นดู | ||
เอออะไรใจคอดังดินประสิว | ฉุนฉิวยิ่งกว่าชุดจุดดินหู | ||
เห็นไม่เปนเช่นตำราของตาครู | ถ้าขืนอยู่จะหยาบคายร้ายแรง | ||
ขยับลุกแล้วลงนั่งรั้งรอ | ปากบ่นมนตร์หมอจนคอแห้ง | ||
ไม่เห็นคุณเห็นค่าตาขี้แร้ง | เหมือนหนึ่งแกล้งให้มาถูกด่าทอ | ||
คิดเคืองขุ่นหมุนออกนอกปราสาท | เกรี้ยวกราดกริ้วร้องให้ถองหมอ | ||
เฆี่ยนให้หลังลายจนต้นคอ | ด่าทอถีบเถ้าเจ้าตำรา | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
๏ บัดนั้น | หมอเถ้าซานซมล้มถลา | ||
ถูกถองต้องพระราชอาญา | ตกประหม่าตัวสั่นงันงก | ||
วิ่งออกนอกวังไม่ยั้งหยุด | จนสมุดทั้งมัดพลัดตก | ||
เสนาในใหญ่น้อยตามต่อยชก | วิ่งวกเข้าวัดลัดหนีไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
ช้า | |||
๏ เมื่อนั้น | ท้าวสันนุราชมาดหมายหาหายไม่ | ||
ไปเกี้ยวพานพูดจาเพลาไร | ก็ไม่ได้สู่สมชมชิด | ||
ประหลาดหนอหมอมดมาปดเล่น | ทำอะไรไม่เห็นเปนสักหนิด | ||
สาแก่ใจเจ็บปวดอวดอิทธิฤทธิ์ | โทษผิดคิดจะใคร่เอาใส่คุก | ||
พอเข็ดหลาบบาปกรรมทำเปล่าเปล่า | บ่นออดกอดเข่าเจ่าจุก | ||
นั่งโยกโงกหงับปรับทุกข์ | กับหมู่มุขมนตรีเสนีใน | ||
แต่เล่นชู้สู่สาวมาราวร้อย | หางามงดชดช้อยเช่นนี้ไม่ | ||
น่าชมสมสวาทระวาดระไว | เอวไหล่ลมุนลม่อมพร้อมพริ้ง | ||
เสียแต่ร้ายราวกับเสือเหลือแล้วพ่อ | คารมรอไม่ติดผิดผู้หญิง | ||
อุตส่าหืสู้อยู่อ้อนวอนวิง | ไม่ยอมยิงยิ่งรื้อดื้อดึง | ||
อันอดเหนียวเกี้ยวชู้รู้ท่วงที | มิใช่ชั่วตัวดีไม่มีถึง | ||
จะหักโหมโลมเล้าเคล้าคลึง | ให้รุมรึงร้อนรนสกลกาย | ||
มิขัดขวางอย่างนี้แล้วที่ไหน | ประเดี๋ยวใจก็จะสมอารมณ์หมาย | ||
ตรองตรึกปรึกษาหาอุบาย | ไม่เหือดหายวายเว้นสักเวลา | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
ท้าวสันนุราชชุบตัว
๏ | |||
นางคันธมาลีขึ้นเฝ้า
๏ | |||
พระคาวีรบกับไวยทัต
๏ | |||
เพลงยาวชมพระราชนิพนธ์
๏ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง คาวี สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๔๐
( ขอขอบคุณ คุณโอม สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน )