โคลงนิราศหริภุญชัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|คลโงนิราศหริภุญชั…')
()
แถว 373: แถว 373:
==== ====
==== ====
<tpoem>
<tpoem>
-
+
สาลีรักร่ำถ้อย  ถึงแล แลแม่
 +
ฦๅริตเสียงซอแซ  ซ่ำซ้ำ
 +
ชิงดวงดอกจอแจ  เถียงถ่อง กันนา
 +
ร้อยร่างเสวยรสน้ำ  ดอกนั้นนารีรมย์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ฉายาเพยียไผ่ผุ้ง  เหลืองหลาย
 +
สูรส่องยังรายราย  ร่มช้า
 +
ฟังบนโบกสลายสลาย  เสียงสวาสดิ์ ลมแฮ
 +
ปุนพี่ยังยั้งถ้า  ถ่อมถ้าถึงนิรมย์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ จรทิตเทิงต่อหั้น  ลองแหลง
 +
ข้อเขื่อนเข้าปูกแปง  ไต่เต้า
 +
ทิพโสภิตยังแยง  หาสู่ ยามเอย
 +
มาม่อนเรียงรสเข้า  ถ่านี้เรียงเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ อารามยังยิ่งร้อย  เรียงหลัง
 +
สองตาบมักคาฝัง  ค่นค้าน
 +
รอยเดิมแต่ยามยัง  งามเงื่อน รัดเอย
 +
เป็นที่พระเจ้าจ้าน  เสพสร้างวิริยา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ มัจฉะยาเยศร้อย  ดวงแด แดเลย
 +
พิษกำเดาปวนแปล  พรากชู้
 +
พานุชว่ายยามแปร  เกวียนกว่า ป่นเอย
 +
แกมก่ำเดาข้าผู้  เร่นร้อนรนทรวง ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ลุถึงยางหนุ่มหน้า  หนักทรวง อยู่แฮ
 +
คิดถ่องถึงทิพดวง  ดอกฟ้า
 +
รอยต้นรุนรสรวง  สวนเทพ พูนฤๅ
 +
ฤๅบยลเยื้อนข้า  ข่าวเยี้ยมยังทวง ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เนสาทผาดเผ่นผ้าย  เผาไพ พี่แฮ
 +
พระพรึบเสียงฟองไฟ  เฝ่าฟุ้ง
 +
อลพฤกษ์พนาลัย  สายเจ๊ด ม่อนแฮ
 +
รักเทพดาดินดุ้ง  เดือดดุ้งอกเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สิมพลีวันแว่นผ้ง  ผาผกา ดิฐแฮ
 +
เพลิงพลุ่งเพียงสาขา  ล่าล้อม
 +
ติณังแฝกเฝือคา  คมบาด งามแฮ
 +
แขมขวากเลาอ้ออ้อม  ดุจอ้อมอกเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ พฤกษาส่างต้นงอก  เงยโงะ
 +
เขียวเคิบคุยพลันโพละ  พลิบไม้
 +
บูนบสกลร่างร่วมโระ  อกพี่ เพานอ
 +
นิราศเลียงร่อนไร้  เร่งร้อนไฟลน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ททิพรสซอบซอบนี้  รมเรียม ราศเอย
 +
เจบจ่ำงือทวงเจียม  จากเจ้า
 +
จักเอาอันใดเทียม  ตามอ่อน อวรฮา
 +
ทุกข์พี่ยาร้อนเร้า  ถ่อมถ้าถนอมอวร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ลุถึงพิงเก่าหั้น  หัวฝาย
 +
เกียนก่อนชุมยงยาย  ยอบยั้ง
 +
พนิกพนมลาย  เหลือร่ม รุกข์แฮ
 +
ไทว่าสมเจ้าจั้ง  จวบหั้นหาอวร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ พพัดชูซ่อนอ้ำ  เห็นหัน
 +
อักเขบสวนราอัน  ตอบต้อง
 +
พาลีเลิกพันสัน  โกยพี่ นาแม่
 +
ใดด่วนต่างเนื้อน้อง  นาฎได้ฟุ้งมโน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ นาวาในน่านน้ำ  นทีทวาร
 +
หัวดาษกำพลธาร  ดอกไม้
 +
ฟกฟกช่อเซยปาน  เรือนาถ เมินเอย
 +
นำชินังน้อมไหว้  หว่ายหว้ายคงคา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ แสลวแสลวพายฟากฟุ้ง  สินธุ์สาย
 +
แสนสนุกนานาหลาย  หลากเหล้น
 +
ศัลเรียมกรรแสงฟาย  ฟองเนตร นุชเอย
 +
ยลเยื่องใดจักเล้น  ล่อให้หายทรวง ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ลุดาษถึงดาษต้น  รายเริง
 +
ชมคณานองเนิง  นั่งพร้อม
 +
ในดั่งดุจเมืองเทิง  เทพโลก พู้นแฮ
 +
ริมร่มทุกค่าค้อม  ย่อมยั้งเยานอน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ยอมนุชเนื้ออ่อนอ้อน  เชยชิน นาแม่
 +
อ่อยห่อยสรรเสริญยิน  ยิ่งล้ำ
 +
อัปศรบำเรออินทร์  อัครเทพ ทิพเอย
 +
อกอ่าวอำพลิกขว้ำ  เขือกร้อนรนเสน่ห์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
เกษณาจันทน์แจ่มก้าน  กระลำพัก
 +
ฝนขว่ายองค์อรอัคร  นุชเนื้อ
 +
มะยักน่าลูบโลมมะยัก  เขียรเช่น งามเอย
 +
ยลยิ่งขวานฟ้าเงื้อ  เงือดข้าขวัญสลาย ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ อัสดงค์คาค่ำแล้ว  รอนรอน
 +
สูรส่งเกวียนซอนซอน  คลาศคล้อย
 +
ปักษีส่งเสียงวอน  วอนเจต รักเอย
 +
โอ้เอนดูชูสร้อย  มิได้สุดาดล ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ยินเสียงโนเรศร้อง  งุมงุม
 +
คิดถ่อมถึงทิพจุม  แจ่มหน้า
 +
ปักษีส่ำแสนชุม  ชมมิ่ง เมียเอย
 +
หลอพี่แรมเร้นถ้า  ถ่อมชู้ชายฉงน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สาริรักร่ำร้อย  โกกิล
 +
ยะเยือกเสียงโยยิน  เยื่อซ้ำ
 +
เททรวงเดือดเดพิน  พิศเรก ไปแฮ
 +
เจ็บจ่ำงือคลืดคล้ำ  คลอบเนื้อนพคุณ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ นกเป้าจับเปล้าเป้า  เรรน
 +
ขวานแขวกเทบินบน  ร่ำร้อง
 +
เรียมวานโผดแผดล  โดยพี่ พลันรา
 +
บินบอกนุชเนื้อน้อง  พร่องเพื้อทิชาดล ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ราตรีเทียนทีปแจ้ง  เจาะงาม
 +
มัวม่อนนนตรีตาม  ติ่งถ้อ
 +
อุตส่าห์กั่นโลงนาม  ชักชอบ ชื่นเอย
 +
บุญพี่พอเปลื้องปล้อ  ปล่าซ้ำเซาทวง ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สนธยายามเยี่ยแล้ง  ลมถวิล
 +
หนาวอ่อนอรยุพิน  พรากข้าง
 +
อรชรชอบยามยิน  อุดเล่า ไปเอย
 +
ขามเขือดเขงน้องร้าง  เรียกขวัญขวัญมา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ปานนี้นักนิ่มเนื้อ  สมสมร
 +
จักโอบเอวองค์อร  อ่อนเหล้น
 +
หนาวลมล่วงอรชร  ใจพี่ มาเอย
 +
เปี่ยนเปล่าทุกข์น้องเร้น  ร่ำถ้อนถึงอวร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ รุ่งแลแล้วเช้าชอบ  ชวนรส
 +
ชมตื่นเตมไพคด  เล่าผ้าย
 +
พานุชเน่งบรรพต  รังเรื่อ มาแฮ
 +
เกวียนก่อนนุชยังย้าย  คั่งแคร้คลองถนน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สุญารามหนึ่งหั้น  บุญเลง
 +
ที่รูปไททังเมง  ม่านเงี้ยว
 +
ถือลาดาบกับเกวง  สกรรจ์แก่น คนแฮ
 +
ช้างฉวาดพันเกล้าเกลี้ยว  แกว่นสู้สงคราม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ส้มสูกซรอยผ่งแผ้  ผายงาม
 +
แดงดาดเต็มอาราม  หร่ามหน้า
 +
ปูนสนุกพ้นไพรสนาม  สนิทเช่น รักเอย
 +
ฤๅบ่มาพร้อมข้า  บุ่งชู้ชมผกา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ บงช้างเผียวไผ่ค้อม  ไกวกวัด
 +
อืออึดนูเนื้อคัด  คล่าร้อง
 +
สาอ่อนอรเทียวทัด  เทียมพี่ เพาเอย
 +
ยินสำเนียงนี้ถ้อง  เที่ยงถ้องถามเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ รลึกเห็นหน้าน้องดุจ  เห็นหัน นาแม่
 +
ยินแต่ตาจักฝัน  ใช่หน้า
 +
รอยตนแต่ใจขวัญ  แขวนขื่น มาฤๅ
 +
ศรีแม่มาน้องหน้า  คว่าค้อมกระหายหน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ อันรักร้อยฟ้าฟาก  ภูวดล ก็ดี
 +
คืออยู่กลางทวงหน  แห่งข้า
 +
บรักเสกสันขน  ในเว่น วักขเอย
 +
ฤๅห่อนยลแย้มหน้า  นาฏเอ้ยวัลพา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ มณีแก้วกล้าเกิด  กลางตา ก็ดี
 +
ยังมิเห็นยลนา  น่าน้อง
 +
อันอวรซึ่งทุรา  ยินโยชน์
 +
ยินยิ่งชวนชิดห้อง  ห่อไว้วักเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ถึงศาลาเทพหั้น  บริสุทธิ์ สว่างแฮ
 +
ชุมเที่ยวไทชินบุตร  ย่อมยั้ง
 +
พานุชแกว่งกงอุด  โอนอาต มาเอย
 +
เรียมดำเนินนิจจั้ง  จอดเจ้าจักดล ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ศาลาลินห่อหั้น  หักชล ก็ดี
 +
ชักเชือกเวถีบน  บ่อแห้ว
 +
พงศ์เทพเทพาตน  สักสาด เรียมเอย
 +
สามิมาน้องแก้ว  พี่ชี้ชวนดู ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ คราวนี้รมร่มเสี้ยง  ไพรแพระ ออกแฮ
 +
สายเสี่ยงผินพลานและ  ล่าวร้อน
 +
ฝูงเทียวเท่าทอแทะ  ครองร่ม รักแฮ
 +
โอ้เอนดูเนื้ออ้อน  อ่อนได้ดลเดิน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ คราวนี้รอนร้านร่ม  ราวหา ยากเอย
 +
จักจอดถึงนัครา  ร่มหร้า
 +
มัชยาขว่ายอาพา  ผัศราค รสเอย
 +
เจ็บจ่ำงือหม้ายหม้า  แม่ช้ำแถมถนอม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สงสารเจ็บจากชู้  แวนขสด
 +
ใดด่วนมาแทนทด  แทกได้
 +
มวนดีกว่าอันอด  อบโศก ทุกข์นี
 +
ดายชีลางแล้วให้  สว่างเสี้ยงใจเรียม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สงสารสุดเท่าน้อง  นุชศรี
 +
ใครมิเจียรสลายมี  มี่รู้
 +
หกสวรรค์สี่ธรณี  ฤๅแทบ เทียมเอย
 +
ตายกว่าลางแล้วสู้  สู่ก้ำดวงนิพาน ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ฐูรีรมเยศแล้ว  เลินถมอ
 +
คือข่ายบนบัวกอ  กีบตั้ง
 +
สี่มุขเมฆมุ่งหอ  เลยเลิศ งามแฮ
 +
ทวารเขื่อนขืนแข่งขั้ง  ข่ามข้าศึกแสลง ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ฤๅษีสรัพศาสตร์ไท้  ชฎาธาร ท่านแฮ
 +
ทั้งแปดสำมัชฌาญ  เสพสร้าง
 +
อัมพรวิ่งวงทะยาน  ยังเมฆ ไปแฮ
 +
ปดที่ออนอันร้าง  รีบหื้อสมสมร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ฤษีศักดิ์ศาสตร์สร้าง  เดียวเดิม
 +
ยังก่อนมังรายเริม  ราชท้าว
 +
สังขารคิดเขียนเติม  ตามรูป รอยเอย
 +
กอบก่อทุกด่านด้าว  หากแล้วโดยฤทธิ์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ยลเห็นพระธาตุเจ้า  จอมจักร
 +
เป็นปิ่นอุพารักษ์  เลิศล้ำ
 +
ทายกรอำรุงรักษ์  รมเจด งามเอย
 +
ปราสาทใส่แสงซ้ำ  เมื่อน้องนารีรม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ประทายทวารต่อด้าว  ถึงขง
 +
อเนกน้องป่าป่ง  เหนกช้า
 +
บริเวณส่ำแสนองค์  อกแน่ง น้องเอย
 +
ทั้งสี่สมควรข้า  ลอบเสี้ยงศุภสาร ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ มหาชินธาตุเจ้า  เจดีย์
 +
เหมือนแท่งคำสิงคี  คู่เพี้ยง
 +
สัตว์คำคาดมณี  ควรค่า เมืองแฮ
 +
เปลวเปล่างดินฟ้าเสี้ยง  สว่างท้าวอัมพรา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เจดีย์ชินธาตุเจ้า  ศรีสถาน
 +
ขามโสพิศพงาปราณ  เกศเกล้า
 +
ทัศมนมิพอปาน  พพคู่ คมเอย
 +
ฤๅเลิศใต้ทิพเท้า  เท่าเว้นอุบพาศรี ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ มหาชินธาตุเจ้า  จอมจักร
 +
เป็นปิ่นทศลักษณ์  เลิศหล้า
 +
เลงแลมิใครทัก  เทียมแทก ใดเลย
 +
เทาดิวางหว้ายฟ้า  ฟากด้าวดาวดึงส์ ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ระวังเวียงแวดขั้น  สมสอง สว่างแฮ
 +
ทุกแล่งเฉลิมฉัตรทอง  เทพเอื้อน
 +
พิหารสี่หลังยอง  ยังเงื่อน งามเอย
 +
เทียมลวังช่วนเชื้อน  สี่ต้านถึงถลู ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ บริเวณละเลื่อนล้อม  ปาณสัตว์
 +
สาวบ่าวหญิงชายคัด  ครั่งแคร้
 +
รัตตินทิวาวัด  อันค่ำ คืนเอย
 +
บห่างสักเมดแม้  เมื่อใกล้วิภาดา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ พะทีปตนแจ่มจ้อน  หทัย พี่แฮ
 +
บริเยศหาหนใด  บ่ได้
 +
ปารนีร่มคลาไคล  คองพี่ พูนแฮ
 +
แปงเจดเนื้อน้องให้  ช่วยตั้งอนุโม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ศศีใสส่องฟ้า  วรบัน
 +
แสลงส่องมนดนดัน  เพริดแพร้ว
 +
สะลาส่องเห็นหัน  ยังเพื่อน แพรวเอย
 +
โอ้ว่ายลน้องแก้ว  กว่านั้นนานเห็น ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ นิสาสาวบ่หร้อม  สมสนุก นั้นแฮ
 +
เมียงม่ายเผือผันทุก  แห่งห้อง
 +
สาอวรออกมาสุข  เริมเช่น รักเอย
 +
แพงเจดวางไว้น้อง  นาฏไท้ทิพารม ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ นับมือผับแผ่นพร้อม  พนิตา
 +
งามต่างงามภูษา  ย่องหยั้น
 +
จักเทียมแทรกเสน่หา  หายาก ยิ่งเอย
 +
หลอแต่ต่างเรียมดั้น  กลิ่นแก้วสาลัย ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ทุงทองทังทีปตั้ง  บูชา
 +
ปี่คู่ทักขิณา  หว่านไหว้
 +
เป็นผลเผื่อกิริยา  ยังขึ่น รักเอย
 +
ถวายอนงค์น้องได้  แด่แล้วเสน่หา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ กระษัตราติงเกศเกล้า  ก่อถวาย
 +
เป็นสาษีเรียมหมาย  เหมือดหมั้น
 +
วางเพาโพดทังสวาย  เสียรุ่ง ก็ดี
 +
ก่อเหตุนุชน้องกั้น  คอบชู้เจียนสลาย ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ สุพรมมาลมิ่งไม้  ทวายทุม ก็ดี
 +
ท่านทังถวายพินพุม  เรียกรู้
 +
ปราไสยพุธธังกุม  กวมโลก นี้เอย
 +
วุเทศทังช่วยชู้  ช่วยค้ำบารมี ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ รัชนีเพิ่งพุ่งแจ้ง  จวนตะวัน
 +
แสงส่องรังสีจันท์  แจ่มฟ้า
 +
สามิมีดุจดูวัน  รวีแว่น ยังเอย
 +
สนุกสนานด่าวหล้า  หล่อหล้มเมทนี ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ อุดสาเสียงสว่างสร้อย  รัชนี
 +
กรกั่นโลงทันที  อ่านอ้อย
 +
บารดเรียกมาลี  เบงบาต ทุมเอย
 +
ตรีโจกทูทุกถ้อย  เถี่ยงถ้อยถามชัย ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ เอนดูน้องน้อยพราก  เรียมไกล เซ่นนอ
 +
พอยเพื่อนฤๅอวรไส  ยาสโพ้น
 +
บมาแผ่นปราไสย  สงวนหมู่ ชุมนอ
 +
เปี่ยนเปล่าอกน้องโน้น  นาฏเอ้ยไคทยา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ ชินพิมเพาโพธเพี้ยง  พอกัน
 +
สองฝ่ายหนเหนือสัน  ฝ่ายใต้
 +
ลาชาแผ่นผายผัน  ผลเผื่อ อวรเอย
 +
ผลเผื่อถึงเจ้าได้  แต่เทิ้นทิโพชา ฯ
 +
 
 +
 
 +
๏ พิหารยาวยิ่งกว้าง  พิสดาร
 +
พุทธรูปองค์อุปพาน  เลิศหล้า
 +
ยืนยังเยี่ยมพิมาน  รมณิยอด โยงเอย
 +
สังมิมาพร้อมข้า  แต่งตั้งปณิธาน ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
==== ====
==== ====
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 16:36, 17 สิงหาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: ไม่ปรากฏ

โคลงนิราศหริภุญชัยเป็นวรรณกรรมล้านนาในยุคอยุธยา ฉบับที่นำมาลงในนี้มีสองฉบับ คือฉบับอยุธยาที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับแล้ว และฉบับล้านนาซึ่งยึดตามต้นฉบับของทางล้านนา

บทประพันธ์

ฉบับอยุธยา

๏ กชกรต่างแต่ตั้งศิรษา
นบพุทธธรรมสาวกาแผ่นเผ้า
สนำสลูเบิกนามมาขอมเรียก รักแฮ
ไทด่ำบลเมิงเป้าผ่านไว้วิวรณ์ ฯ
๏ ศุภสารเรียงร่ำถ้อยคราวคราน
หริภุญชัยเชษฐ์สถานธาตุตั้ง
สาระพัดเขตขาพาลพังด่ำ บนเทอญ
ยามม่อนมั่วรสยั้งจุ่งตั้งสดับสาร ฯ
๏ สงสารทุกข์แต่งตั้งอื่นฉงน
นิราศสัตวชนกล่าวได้
จักริร่ำยุบลบำราศ นุชนี
เป็นคะโลงหื้อให้โลกแจ้งใจคะนึง ฯ
๏ ดวงเดียวดูยิ่งฟ้าอัปศร
เป็นปิ่นกามาวจรเจื่องเจ้า
บุญบาปแต่ปางก่อนทักทำ นายนี
แสนชาติยังยั้งเฝ้าจึ่งล้วนลุคะนึง ฯ
๏ ดวงเดียวอาสาศเสี้ยงภัทรกัป
ทั้งสี่สรรเพ็ชญ์ลับล่วงแล้ว
อาไรยมีทันผับวรศาส นาแฮ
เจียนจุ่งละน้องแก้วก่อนแล้วดุสิดา ฯ
๏ ดวงเดียวดีซ่อนไว้หว่างวรรค
เขาะขอดหทัยลักษณ์หล่อน้อง
หทยังมีฝักฝังพี่ ทิพเอย
เห็นแห่งอวรโน้นข้องขอดผี้พัทมาร ฯ
๏ บุญญะมีมาศมื้อผลคุณ
ขงเขตในนพบุรโยกย้าย
เดินถวิลแห่งหริภุญชัยเชษฐ์ ชิดแฮ
นบธาตุพระเจ้าผ้ายแผ่นค้อมคุงชเล ฯ
๏ ชลไพรผงแผ่นพื้นบนบด
พายลุ่มปานจักรกรดเชือกขว้ำ
พาชีดำเรียรถจรเชือก ชักแฮ
ขงน่านเรือร้อยล้ำไขว่ขว้างขวางนที ฯ
๏ นบวรเชฐสร้อยสิหิงส์
ลาเทพเบญจาจริงจึ่งผ้าย
เชิญวานเทพดลถลิงถลากระหม่อม เรียมเอย
เทาดำเนินเยื้อนย้ายพร่ำพร้อมเดินเดียว ฯ
๏ ลาถึงปราสาทสร้อยสิงห์สอง
โอนต่ำลุงทิพทองที่อ้าง
เบญจาจำเนียรปองปดต่ำ งนรา
จากจ่ำเลวแล้วร้างราศนั้นฤๅดี ฯ
๏ ธรยูคีรีเกิดใกล้ผาเกียร
สามสี่อาวาสเจียนจิ่มไหว้
กุศลที่ทำเพียรพบราช เดียวเอย
มิใช่จงหวังได้แต่พื้นรสดล ฯ
๏ กุฎารามรวดด้านหลังเหลียว
ถวายกระพูมมือเทียวหว่านไหว้
ทำบุญเพื่อผลเยียวผัสแม่ นาแม่
ถึงถาบอุปแปนได้แต่ซ้ำปรารถนา ฯ
๏ เห็นหอมังราชเจ้าสูงศักดิ์
ยังบลืออารักษ์ราชไหว้
อังเชิญช่วยพิทักษ์เทียมพี่ คะนึงนา
ยามม่อนมัวเกลียดใกล้ร่วมเร้าชัยบาน ฯ
๏ อารักษ์อาราธน์เรื้องมังราย ราชแฮ
เชิญส่งศรีทิพนายหนึ่งร้า
เทียวทุงพี่จักถวายเป็นส่วน บุญแฮ
จูงจ่องเมื้อเมืองฟ้าเสพสร้างสุราลัย ฯ
๏ มหาอาวาสสร้อยสี่สถาน
ชิมรูปองค์อุปปานเลิศหล้า
อมรกฎค่าควรปานบูรหนึ่ง
ถวายพระนามน้อมหน้าเพื่อไท้นารีรมย์ ฯ
๏ อัษฎารสแรกสร้างสูงประทาน
เทียฆแทบตนทรมานเมื่อเนิ้น
เหมือนพระวรโพธิญาณยังโลก นี้นอ
ปดดำเนินนี้เทิ้นเทื่อนี้มัสการ ฯ
๏ สององค์อมเรศเอื้อมอุตร
ยุกขราชถือขรรคาฝ่ายใต้
เรียมวานเทพวรารักษ์ราษฎร์ มวลแฮ
เสียงล่ำเพียงเกลี่ยใกล้ช่วยค้ำชูเรียม ฯ
๏ นบเชษฐแซงซ่างไซร้ถลาถลิง รวดแฮ
บหุ่งเห็นทิพยิงยิ่งผ้าย
เททรวงกรรแสงสวิงมัวราช นักเอย
เสน่ห์บาดอกซ้ำร้ายร่างแต้มถึงถวิล ฯ
๏ ลลินลุแล้วเล่าศาลา เลิศแฮ
ครองคู่สายเสน่หาแห่งหั้น
วรลักษณ์เลิศสวรรคาเทพทิพ เรียมเอย
สามแผ่นผืนใดดั้นพี่ด้นหาอวร ฯ
๏ มรรคาทวารทอดตั้งอาราม หนึ่งแม่
เป็นปิ่นบูรีนามฟ่อนสร้อย
ดวงเดียวหนึ่งนิศยามสนิทเชฐ ชิดแฮ
ปอมแปกนุชเนื้อน้อยเลิศผู้ผิดองค์ ฯ
๏ จากเจียรช่อฟ้าลาศลงดิน แด่ฤๅ
มุขมาศนาสายินยิ่งแต้ม
ยามยลพี่จะถวิลถวายอำ รุงเอย
ไขโอษฐ์ดินฟ้าแย้มพี่แย้มยังทรง ฯ
๏ จงไปปราสาทฉ้ออัษฎา
บุญจึ่งลักกุนารอดเรื้อง
เชียงส่งพี่ส่งหาเยาวยอด ยิ่งแฮ
ซอมชอกตาทุกเบื้องบ่ได้ดลพงา ฯ
๏ ลุถึงเชียงใหม่หม้าทวารทอง
เวียงวาสปราการสองเขื่องขั้น
เหราเฟือดฟัดฟองคือค่าย งามเอย
หอเลิศเลยต้ายตั้งข่ามข้าศึกแสลง ฯ
๏ มเหศักขสาดไท้ทิพทวาร ท่านเอย
เชิญช่วยโปรดอันผ่านเจตชู้
บเห็นพี่รักครานใจเช่น ชั้นนี้
เมื่อข่าวไขน้องรู้ร่วมเบื้องยาถนอม ฯ
๏ หวังเห็นเช่นชม่อยหน้าบุญหนา
วานเทพสมสนองรารีบร้า
เททวนปั่นปองบาอกบ่า บินแฮ
ปดต่ำงนไว้ข้าข่าวน้องนำสนอง ฯ
๏ บุรีทวารต่อตั้งสมสถาน
นามชื่อศรีมหาทวารรวดเรื้อง
ทนทุกข์ทิวานานบน่อย ทวงเอย
ขวัญขาดยังข้อนเบื้องบาปห้อยเห็นอวร ฯ
๏ พ้นง้อมงามเงื้อมใกล้สุสาร
เรียมบังคมชิตมารเจื่องเจ้า
ทุรังสิ้นศิลบาลบใคร่ รักเอย
ก็ใช่จงจักเฝ้าเทพท้าวเองอวร ฯ
๏ ลุถึงเถียงเส่าสร้อยศรีเสถียร
อัศว์ด่ำเรียรถเกวียนคืดเกล้า
ไทเห็นอุพาเจียนจันแม่ มาแฮ
ยลใช่ชีพิตเข้าพี่ห้อยหฤทัย ฯ
๏ เรียงนันอาวาสแก้วกุฏิคำ
ทุกค่ำงนเรียมจำเจตไหว้
เทพาพิทักษ์ทำพุทธศาส นาเอย
จำเจตนงค์น้องไว้รีบร้างคนเดิน ฯ
๏ อารามเรียงรุ่นหั้นเงางาม
เป็นปิ่นบุรีนามน่างรั้ว
บเห็นนาฏนงรามบวรสวาท สยบเอย
ทั้งชื่อชีพิตกั้วโลกนี้นามนิพาน ฯ
๏ ทวารทองเริ่มเขื่อนขั้งศึกแสลง
รุตราชรังสรแปงหม่ายหม้า
จันถึงพี่ยังแยงหาแม่ นาแม่
บจวบโฉมสร้อยฟ้าไต่เต้าตามเรียม ฯ
๏ ด่าวนี้พ้นบั้งบาดบุรี นาแม่
รถราชพันรังสีส่องหล้า
ไหวกงแกว่งเกวียนจีวางเมฆ มาแฮ
เชิญช่วยดับทุกข์ข้าที่ร้างรามสมร ฯ
๏ รถทองเทียมแทบเอื้อมอุสภา
มิอาจจักคณนาเนกได้
หางยูงเยื่อนอาภาเพยเพิก งายเอย
ลางช่อปักหื้อให้กล่อมเกี้ยวเวถี ฯ
๏ พริพัดโคมคู่ห้อยดึงดัง
พัดใหม่ไหมขาวทังแอกอ้อม
หงส์ทองทอดคลานคลังกับโทก เทียมเยอ
เรืองร่วงวางวัดส้อมแส่วเส้นสานี ฯ
๏ ลาเจียนชม่อยเนื้อทิพมาลย์
ชลิ่วแลนงคราญคร่าวถ้า
เต็มเลงอื่นใครปานหัทเยศ เดแม่
เจียรบรู่เนื้อผ้ามิผู้ใครยล ฯ
๏ อุทยานท่านถากสร้อยสวนสนิท
ชล่ำลายเลยติดลูกล้อม
จุกจ้นจ่ำลองขวิดเกวนมาก มีแฮ
หนักหน่วงเนืองเนื่องค้อมกิ่งก้านปัฐพี ฯ
๏ จำปาบุนแบ่งสร้อยสบารงา
เหลืองหล่นเต็มฉายาคู่เค้า
ปุนเด็ดกีบกับสาลายแลก อวรแฮ
สีเสียดแสนซ้ำหล้าเปลี่ยนป้อนปันฉลา ฯ
๏ มาเทินจักยื่นไม้มาลถวาย
แถวท่องเวถีสายเกศเกล้า
เหมือนนางกิรีถวายทัดเมื่อ รมย์นา
หลากหลากหลายเล่ห์เร้าร่วมชู้ชมผกา ฯ
๏ กวาวกวิวอโศกสร้อยสุมสุก
อวนอ่อนแกมใบทุกกิ่งก้าน
บเห็นนิรมรุกข์ยังร่ม ยังแฮ
เห็นดอกดวงไม้ม้านยิ่งม้านอกเรียม ฯ
๏ พระสูรส่งสัตว์สิ้นเชยเชย
ลำง่างอนเสลยเสลยสว่างร้อน
อกบาบ่เหยเหยหายเหื่อ ทิพเอย
ยังค่ำเคาทุกข์ข้อนขอดข้อนขวัญสลาย ฯ
๏ ยลใครยังร่วมชู้ชมเมีย ม่อนแฮ
ถวายกลิ่นกับดวงเพียเพื่อนน้อง
เองเดียวทุราเสียสายเจต นี้นอ
ตายบ่ตายนี้ข้องขาดแล้วยังใย ฯ
๏ รถทองยังยื่นร้อยเรียงกง
เวหาสเห็นธุลีลงลุ่มเท้า
อกเรียมบิ่นเป็นผงยับย่อย ยุบเอย
ชลิ่วเลวแลงเจ้าจิ่มชู้ชาทอง ฯ
๏ ยังนึกหน้าน้องนาฏนงราม
เจียนจากถึงกุมกามก่อนแก้ว
บเห็นพงางามเทาทะง่อง ถูเอย
แสนล่ำกงื้อแอ้วใช่อั้นอรทอง ฯ
๏ อารามรมเยศเมิ้นมังราย
นามคู่คำหลวงหลายเช่นท้าว
หกสิบเสียมผู้ยายยังรอด รามแฮ
แปงคู่นุชน้องเหน้านาทโอ้โรทา ฯ
๏ ชันพิมพ์เพิ้งเจตสร้างสมาธี อยู่แฮ
โอ้อำรุงเรียมรีร่ำไหว้
ขอพรอาทีเทียมพี่ คะนึงรา
สองเสร็จถวายให้ได้แค่ซ้อนสิเน่หา ฯ
๏ ธาดามังราชเจ้าจุพาลักษณ์
สาส่วนเป็นอารักษ์ใฝ่เฝ้า
อังเชิญส่งสารอัครชาเยศ มารา
เป็นดังฤๅร้างเจ้าจากช้าใครโลม ฯ
๏ ดั่งฤๅร้างแก้วก่อนคำสัง
รอยแม่งสารีรังนิราศรื้อ
บพิตรพระเมืองมังรายราช รักเอย
เชิญต่านวายนั้นหื้อค่อยแก้คำสนอง ฯ
๏ อรรณพขวางขั้นขอบพิงเพิง รอดเอย
ผืนแผ่นลุยลงเลิงลวดยั้ง
คองเห็นพี่รักเทิงใจเช่น ครานี
ยลอื่นใส่เศียรตั้งต่อไว้วรรคเรียม ฯ
๏ นทีหันแห้งไป่พอเรือ
เกียนกว่าชุมชนเผือว่งหว้าย
สารถีสั่นสายเยือยังเชือก ชักแฮ
ดักค่วนคุงค่าท้ายถีบพ้นปาระเลือม ฯ
๏ วานไม้เมื่อข่าวน้องขอไข
เหลือหล่นบกบางใบกิ่งก้าน
บเห็นภิรมย์ใจเจียนจาก ห้องเฮย
เห็นโบกใบไม้ม้านเยี่ยงม้านมโนเรียม ฯ
๏ ม่อนยังยั้งหั้นร่มเรียงรึก
วานเทพทั้งไพรพฤกษ์น่าน้อง
โพคินทั่วทังทึกแถวน่าน นี้แม่
เชิญส่งสารพื้นพ้องข่าวข้าขอยิน ฯ
๏ น่านน้ำขลุงน่านน้ำเขินขุน
อกชเลยังวุนเล่าแล้ง
อังเดิรหากอาดุรแดเดือด รสแฮ
เห็นหาดหนหั้นแห้งเยี่ยงแห้งแถวถนอม ฯ
๏ พระไทรเจ้าไม้มุ่งเมืองคู่ แดรา
ปดที่ทนทุกข์ทูเรศแจ้ง
จักกินมิได้กูระนาพี่ เทานอ
วาเยศยังไล่แล้งลอดแล้งอกเรียม ฯ
๏ คณารถเร้นร่มเต็มไพร พี่แม่
ปานค่อยชมพูไพน่านน้อง
ยลคืนชั่วพิสัยตาเล่า ยังแฮ
ละเลิ่นเป็นถ้อยถ้องเผ่าย้ายยินประเหียน ฯ
๏ ชุมชนชมชื่นเหล้นธารา
สาวบ่าวลงสนามปาโมชย้าย
สาอวรอรวนิดาโดยพี่ มานี
จักจ่องจูงน้องผ้ายอาบอ้อยชมชล ฯ
๏ เผ่าสลวยสะอาดเท้าเทิงเลียง
เหมือนเมื่อพี่ชนูเมียงมุ่งเหยี้ยม
พัตรทองท่ำนงเอียงองค์อ่อน งามแฮ
บังอาจปานแสร้งเสี้ยมแต่ฟ้าสลายเหลา ฯ
๏ ลาพระประเทศขว้างขุงลมิง มิ่งแฮ
เปี่ยวเป่งสุรินทยิงยิ่งร้อย
พนิดาแต่ถริงตากระหม่อน เรียมเอย
มาด่วนดับทุกข์ข้อยข่าวเยื้อมยังทอง ฯ
๏ แม่เมือห้องฟากฟ้าใดที่ พู้นฤๅ
ฤๅบดลปัฐพีพี่ฟ้อน
ขุนเขาอุมาศรีไทแม่ เอาฤๅ
จำพึ่งอนแล้วม้อนมาดม้อนอาลัย ฯ
๏ ทิพญาโจมหอบอู้มเอาอวร อ่อนฤๅ
ฤๅบมาสมสงวนเพื่อนค้อย
บเห็นส่ำบุนปวนบรเมศ เมินแฮ
ซอมซ่อตาแห่งห้อยหากแล้งเลงดาย ฯ
๏ กวาวทองทังช่อช้อยสิมพลี
หลายหล่นเต็มปัฐพีแผ่นหล้า
ยลบนหมู่ปักษีแสวงเสพ ชุมเอย
ตายชื่อลางแล้วกล้ามิได้เชยชม ฯ
             

๏ สาลีรักร่ำถ้อยถึงแล แลแม่
ฦๅริตเสียงซอแซซ่ำซ้ำ
ชิงดวงดอกจอแจเถียงถ่อง กันนา
ร้อยร่างเสวยรสน้ำดอกนั้นนารีรมย์ ฯ
๏ ฉายาเพยียไผ่ผุ้งเหลืองหลาย
สูรส่องยังรายรายร่มช้า
ฟังบนโบกสลายสลายเสียงสวาสดิ์ ลมแฮ
ปุนพี่ยังยั้งถ้าถ่อมถ้าถึงนิรมย์ ฯ
๏ จรทิตเทิงต่อหั้นลองแหลง
ข้อเขื่อนเข้าปูกแปงไต่เต้า
ทิพโสภิตยังแยงหาสู่ ยามเอย
มาม่อนเรียงรสเข้าถ่านี้เรียงเรียม ฯ
๏ อารามยังยิ่งร้อยเรียงหลัง
สองตาบมักคาฝังค่นค้าน
รอยเดิมแต่ยามยังงามเงื่อน รัดเอย
เป็นที่พระเจ้าจ้านเสพสร้างวิริยา ฯ
๏ มัจฉะยาเยศร้อยดวงแด แดเลย
พิษกำเดาปวนแปลพรากชู้
พานุชว่ายยามแปรเกวียนกว่า ป่นเอย
แกมก่ำเดาข้าผู้เร่นร้อนรนทรวง ฯ
๏ ลุถึงยางหนุ่มหน้าหนักทรวง อยู่แฮ
คิดถ่องถึงทิพดวงดอกฟ้า
รอยต้นรุนรสรวงสวนเทพ พูนฤๅ
ฤๅบยลเยื้อนข้าข่าวเยี้ยมยังทวง ฯ
๏ เนสาทผาดเผ่นผ้ายเผาไพ พี่แฮ
พระพรึบเสียงฟองไฟเฝ่าฟุ้ง
อลพฤกษ์พนาลัยสายเจ๊ด ม่อนแฮ
รักเทพดาดินดุ้งเดือดดุ้งอกเรียม ฯ
๏ สิมพลีวันแว่นผ้งผาผกา ดิฐแฮ
เพลิงพลุ่งเพียงสาขาล่าล้อม
ติณังแฝกเฝือคาคมบาด งามแฮ
แขมขวากเลาอ้ออ้อมดุจอ้อมอกเรียม ฯ
๏ พฤกษาส่างต้นงอกเงยโงะ
เขียวเคิบคุยพลันโพละพลิบไม้
บูนบสกลร่างร่วมโระอกพี่ เพานอ
นิราศเลียงร่อนไร้เร่งร้อนไฟลน ฯ
๏ ททิพรสซอบซอบนี้รมเรียม ราศเอย
เจบจ่ำงือทวงเจียมจากเจ้า
จักเอาอันใดเทียมตามอ่อน อวรฮา
ทุกข์พี่ยาร้อนเร้าถ่อมถ้าถนอมอวร ฯ
๏ ลุถึงพิงเก่าหั้นหัวฝาย
เกียนก่อนชุมยงยายยอบยั้ง
พนิกพนมลายเหลือร่ม รุกข์แฮ
ไทว่าสมเจ้าจั้งจวบหั้นหาอวร ฯ
๏ พพัดชูซ่อนอ้ำเห็นหัน
อักเขบสวนราอันตอบต้อง
พาลีเลิกพันสันโกยพี่ นาแม่
ใดด่วนต่างเนื้อน้องนาฎได้ฟุ้งมโน ฯ
๏ นาวาในน่านน้ำนทีทวาร
หัวดาษกำพลธารดอกไม้
ฟกฟกช่อเซยปานเรือนาถ เมินเอย
นำชินังน้อมไหว้หว่ายหว้ายคงคา ฯ
๏ แสลวแสลวพายฟากฟุ้งสินธุ์สาย
แสนสนุกนานาหลายหลากเหล้น
ศัลเรียมกรรแสงฟายฟองเนตร นุชเอย
ยลเยื่องใดจักเล้นล่อให้หายทรวง ฯ
๏ ลุดาษถึงดาษต้นรายเริง
ชมคณานองเนิงนั่งพร้อม
ในดั่งดุจเมืองเทิงเทพโลก พู้นแฮ
ริมร่มทุกค่าค้อมย่อมยั้งเยานอน ฯ
๏ ยอมนุชเนื้ออ่อนอ้อนเชยชิน นาแม่
อ่อยห่อยสรรเสริญยินยิ่งล้ำ
อัปศรบำเรออินทร์อัครเทพ ทิพเอย
อกอ่าวอำพลิกขว้ำเขือกร้อนรนเสน่ห์ ฯ
เกษณาจันทน์แจ่มก้านกระลำพัก
ฝนขว่ายองค์อรอัครนุชเนื้อ
มะยักน่าลูบโลมมะยักเขียรเช่น งามเอย
ยลยิ่งขวานฟ้าเงื้อเงือดข้าขวัญสลาย ฯ
๏ อัสดงค์คาค่ำแล้วรอนรอน
สูรส่งเกวียนซอนซอนคลาศคล้อย
ปักษีส่งเสียงวอนวอนเจต รักเอย
โอ้เอนดูชูสร้อยมิได้สุดาดล ฯ
๏ ยินเสียงโนเรศร้องงุมงุม
คิดถ่อมถึงทิพจุมแจ่มหน้า
ปักษีส่ำแสนชุมชมมิ่ง เมียเอย
หลอพี่แรมเร้นถ้าถ่อมชู้ชายฉงน ฯ
๏ สาริรักร่ำร้อยโกกิล
ยะเยือกเสียงโยยินเยื่อซ้ำ
เททรวงเดือดเดพินพิศเรก ไปแฮ
เจ็บจ่ำงือคลืดคล้ำคลอบเนื้อนพคุณ ฯ
๏ นกเป้าจับเปล้าเป้าเรรน
ขวานแขวกเทบินบนร่ำร้อง
เรียมวานโผดแผดลโดยพี่ พลันรา
บินบอกนุชเนื้อน้องพร่องเพื้อทิชาดล ฯ
๏ ราตรีเทียนทีปแจ้งเจาะงาม
มัวม่อนนนตรีตามติ่งถ้อ
อุตส่าห์กั่นโลงนามชักชอบ ชื่นเอย
บุญพี่พอเปลื้องปล้อปล่าซ้ำเซาทวง ฯ
๏ สนธยายามเยี่ยแล้งลมถวิล
หนาวอ่อนอรยุพินพรากข้าง
อรชรชอบยามยินอุดเล่า ไปเอย
ขามเขือดเขงน้องร้างเรียกขวัญขวัญมา ฯ
๏ ปานนี้นักนิ่มเนื้อสมสมร
จักโอบเอวองค์อรอ่อนเหล้น
หนาวลมล่วงอรชรใจพี่ มาเอย
เปี่ยนเปล่าทุกข์น้องเร้นร่ำถ้อนถึงอวร ฯ
๏ รุ่งแลแล้วเช้าชอบชวนรส
ชมตื่นเตมไพคดเล่าผ้าย
พานุชเน่งบรรพตรังเรื่อ มาแฮ
เกวียนก่อนนุชยังย้ายคั่งแคร้คลองถนน ฯ
๏ สุญารามหนึ่งหั้นบุญเลง
ที่รูปไททังเมงม่านเงี้ยว
ถือลาดาบกับเกวงสกรรจ์แก่น คนแฮ
ช้างฉวาดพันเกล้าเกลี้ยวแกว่นสู้สงคราม ฯ
๏ ส้มสูกซรอยผ่งแผ้ผายงาม
แดงดาดเต็มอารามหร่ามหน้า
ปูนสนุกพ้นไพรสนามสนิทเช่น รักเอย
ฤๅบ่มาพร้อมข้าบุ่งชู้ชมผกา ฯ
๏ บงช้างเผียวไผ่ค้อมไกวกวัด
อืออึดนูเนื้อคัดคล่าร้อง
สาอ่อนอรเทียวทัดเทียมพี่ เพาเอย
ยินสำเนียงนี้ถ้องเที่ยงถ้องถามเรียม ฯ
๏ รลึกเห็นหน้าน้องดุจเห็นหัน นาแม่
ยินแต่ตาจักฝันใช่หน้า
รอยตนแต่ใจขวัญแขวนขื่น มาฤๅ
ศรีแม่มาน้องหน้าคว่าค้อมกระหายหน ฯ
๏ อันรักร้อยฟ้าฟากภูวดล ก็ดี
คืออยู่กลางทวงหนแห่งข้า
บรักเสกสันขนในเว่น วักขเอย
ฤๅห่อนยลแย้มหน้านาฏเอ้ยวัลพา ฯ
๏ มณีแก้วกล้าเกิดกลางตา ก็ดี
ยังมิเห็นยลนาน่าน้อง
อันอวรซึ่งทุรายินโยชน์
ยินยิ่งชวนชิดห้องห่อไว้วักเรียม ฯ
๏ ถึงศาลาเทพหั้นบริสุทธิ์ สว่างแฮ
ชุมเที่ยวไทชินบุตรย่อมยั้ง
พานุชแกว่งกงอุดโอนอาต มาเอย
เรียมดำเนินนิจจั้งจอดเจ้าจักดล ฯ
๏ ศาลาลินห่อหั้นหักชล ก็ดี
ชักเชือกเวถีบนบ่อแห้ว
พงศ์เทพเทพาตนสักสาด เรียมเอย
สามิมาน้องแก้วพี่ชี้ชวนดู ฯ
๏ คราวนี้รมร่มเสี้ยงไพรแพระ ออกแฮ
สายเสี่ยงผินพลานและล่าวร้อน
ฝูงเทียวเท่าทอแทะครองร่ม รักแฮ
โอ้เอนดูเนื้ออ้อนอ่อนได้ดลเดิน ฯ
๏ คราวนี้รอนร้านร่มราวหา ยากเอย
จักจอดถึงนัคราร่มหร้า
มัชยาขว่ายอาพาผัศราค รสเอย
เจ็บจ่ำงือหม้ายหม้าแม่ช้ำแถมถนอม ฯ
๏ สงสารเจ็บจากชู้แวนขสด
ใดด่วนมาแทนทดแทกได้
มวนดีกว่าอันอดอบโศก ทุกข์นี
ดายชีลางแล้วให้สว่างเสี้ยงใจเรียม ฯ
๏ สงสารสุดเท่าน้องนุชศรี
ใครมิเจียรสลายมีมี่รู้
หกสวรรค์สี่ธรณีฤๅแทบ เทียมเอย
ตายกว่าลางแล้วสู้สู่ก้ำดวงนิพาน ฯ
๏ ฐูรีรมเยศแล้วเลินถมอ
คือข่ายบนบัวกอกีบตั้ง
สี่มุขเมฆมุ่งหอเลยเลิศ งามแฮ
ทวารเขื่อนขืนแข่งขั้งข่ามข้าศึกแสลง ฯ
๏ ฤๅษีสรัพศาสตร์ไท้ชฎาธาร ท่านแฮ
ทั้งแปดสำมัชฌาญเสพสร้าง
อัมพรวิ่งวงทะยานยังเมฆ ไปแฮ
ปดที่ออนอันร้างรีบหื้อสมสมร ฯ
๏ ฤษีศักดิ์ศาสตร์สร้างเดียวเดิม
ยังก่อนมังรายเริมราชท้าว
สังขารคิดเขียนเติมตามรูป รอยเอย
กอบก่อทุกด่านด้าวหากแล้วโดยฤทธิ์ ฯ
๏ ยลเห็นพระธาตุเจ้าจอมจักร
เป็นปิ่นอุพารักษ์เลิศล้ำ
ทายกรอำรุงรักษ์รมเจด งามเอย
ปราสาทใส่แสงซ้ำเมื่อน้องนารีรม ฯ
๏ ประทายทวารต่อด้าวถึงขง
อเนกน้องป่าป่งเหนกช้า
บริเวณส่ำแสนองค์อกแน่ง น้องเอย
ทั้งสี่สมควรข้าลอบเสี้ยงศุภสาร ฯ
๏ มหาชินธาตุเจ้าเจดีย์
เหมือนแท่งคำสิงคีคู่เพี้ยง
สัตว์คำคาดมณีควรค่า เมืองแฮ
เปลวเปล่างดินฟ้าเสี้ยงสว่างท้าวอัมพรา ฯ
๏ เจดีย์ชินธาตุเจ้าศรีสถาน
ขามโสพิศพงาปราณเกศเกล้า
ทัศมนมิพอปานพพคู่ คมเอย
ฤๅเลิศใต้ทิพเท้าเท่าเว้นอุบพาศรี ฯ
๏ มหาชินธาตุเจ้าจอมจักร
เป็นปิ่นทศลักษณ์เลิศหล้า
เลงแลมิใครทักเทียมแทก ใดเลย
เทาดิวางหว้ายฟ้าฟากด้าวดาวดึงส์ ฯ
๏ ระวังเวียงแวดขั้นสมสอง สว่างแฮ
ทุกแล่งเฉลิมฉัตรทองเทพเอื้อน
พิหารสี่หลังยองยังเงื่อน งามเอย
เทียมลวังช่วนเชื้อนสี่ต้านถึงถลู ฯ
๏ บริเวณละเลื่อนล้อมปาณสัตว์
สาวบ่าวหญิงชายคัดครั่งแคร้
รัตตินทิวาวัดอันค่ำ คืนเอย
บห่างสักเมดแม้เมื่อใกล้วิภาดา ฯ
๏ พะทีปตนแจ่มจ้อนหทัย พี่แฮ
บริเยศหาหนใดบ่ได้
ปารนีร่มคลาไคลคองพี่ พูนแฮ
แปงเจดเนื้อน้องให้ช่วยตั้งอนุโม ฯ
๏ ศศีใสส่องฟ้าวรบัน
แสลงส่องมนดนดันเพริดแพร้ว
สะลาส่องเห็นหันยังเพื่อน แพรวเอย
โอ้ว่ายลน้องแก้วกว่านั้นนานเห็น ฯ
๏ นิสาสาวบ่หร้อมสมสนุก นั้นแฮ
เมียงม่ายเผือผันทุกแห่งห้อง
สาอวรออกมาสุขเริมเช่น รักเอย
แพงเจดวางไว้น้องนาฏไท้ทิพารม ฯ
๏ นับมือผับแผ่นพร้อมพนิตา
งามต่างงามภูษาย่องหยั้น
จักเทียมแทรกเสน่หาหายาก ยิ่งเอย
หลอแต่ต่างเรียมดั้นกลิ่นแก้วสาลัย ฯ
๏ ทุงทองทังทีปตั้งบูชา
ปี่คู่ทักขิณาหว่านไหว้
เป็นผลเผื่อกิริยายังขึ่น รักเอย
ถวายอนงค์น้องได้แด่แล้วเสน่หา ฯ
๏ กระษัตราติงเกศเกล้าก่อถวาย
เป็นสาษีเรียมหมายเหมือดหมั้น
วางเพาโพดทังสวายเสียรุ่ง ก็ดี
ก่อเหตุนุชน้องกั้นคอบชู้เจียนสลาย ฯ
๏ สุพรมมาลมิ่งไม้ทวายทุม ก็ดี
ท่านทังถวายพินพุมเรียกรู้
ปราไสยพุธธังกุมกวมโลก นี้เอย
วุเทศทังช่วยชู้ช่วยค้ำบารมี ฯ
๏ รัชนีเพิ่งพุ่งแจ้งจวนตะวัน
แสงส่องรังสีจันท์แจ่มฟ้า
สามิมีดุจดูวันรวีแว่น ยังเอย
สนุกสนานด่าวหล้าหล่อหล้มเมทนี ฯ
๏ อุดสาเสียงสว่างสร้อยรัชนี
กรกั่นโลงทันทีอ่านอ้อย
บารดเรียกมาลีเบงบาต ทุมเอย
ตรีโจกทูทุกถ้อยเถี่ยงถ้อยถามชัย ฯ
๏ เอนดูน้องน้อยพรากเรียมไกล เซ่นนอ
พอยเพื่อนฤๅอวรไสยาสโพ้น
บมาแผ่นปราไสยสงวนหมู่ ชุมนอ
เปี่ยนเปล่าอกน้องโน้นนาฏเอ้ยไคทยา ฯ
๏ ชินพิมเพาโพธเพี้ยงพอกัน
สองฝ่ายหนเหนือสันฝ่ายใต้
ลาชาแผ่นผายผันผลเผื่อ อวรเอย
ผลเผื่อถึงเจ้าได้แต่เทิ้นทิโพชา ฯ
๏ พิหารยาวยิ่งกว้างพิสดาร
พุทธรูปองค์อุปพานเลิศหล้า
ยืนยังเยี่ยมพิมานรมณิยอด โยงเอย
สังมิมาพร้อมข้าแต่งตั้งปณิธาน ฯ
             

             

เชิงอรรถ

ที่มา

ฉบับอยุธยา จากหนังสือ วรรณคดีสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ โคลงนิราศหริภุญชัย ทวาทศมาส นิราศสุพรรณ ของ นายมี (หมื่นพรหมสมพัตสร) โครงการพัฒนาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๐๔

เครื่องมือส่วนตัว