นิราศสุโขทัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
()
()
แถว 390: แถว 390:
=== ๓ ===
=== ๓ ===
 +
<tpoem>
 +
ถึงหนองปลิงปลิงทากต้องบากบิด  กลัวเกาะติดทำให้หัวใจขุ่น
 +
สูบโลหิตสดสดให้หมดทุน  หลงวายวุ่นลงหนองจะต้องคราง
 +
มาถึงปากน้ำโพโกลาหล  เสียงผู้คนเซ็งแซ่แลสล้าง
 +
รถหยุดยั้งบ้างลงบ้างตรงทาง  บ้างขนพลางหาบขนปนกันไป
 +
บ้างขายของร้องถามตามหน้าต่าง  ชูของพลางเชิญดูหมูเป็ดไก่
 +
หมี่ก๋วยเตี๋ยวข้าวผัดถนัดใจ  ข้ามต้มใส่ชามช้อนร้อนร้อนดี
 +
ทั้งข้าวโพดข้าวหมากอ้อยและน้อยหน่า  เสียงจ๊ะจ๋าซื้อกันสนั่นมี่
 +
ได้ลงเดินชมจังหวัดฝั่งนที  เรือแพมีคับคั่งสองฝั่งชล
 +
เป็นทางร่วมรวมสามแม่น้ำมา  เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาโอฬาร์ผล
 +
ได้ชื่นชุ่มภูมิพื้นรื่นกมล  ประชาชนขายซื้อกันอื้ออึง
 +
ตลาดนี้สำคัญมากทางภาคเหนือ  ทั้งบกเรือเป็นแอ่งที่แข็งขึง
 +
ขนสินค้าคับคั่งเสียงดังตึง  บ้างฉุดดึงไม้ซุงมุ่งทำแพ
 +
นับพันหมื่นดื่นดาษดูกลาดกลุ้ม  เป็นที่ประชุมซื้อขายกระจายแพร่
 +
บ้างค้าซุงเป็นเศรษฐีก็มีแท้  บ้างค้าแพฝรั่งแขกจนแหลกลาญ
 +
การค้าขายถ้าไม่มีไหวพริบ  ย่อมจะฉิบหายป่นธนสาร
 +
ไหวพริบไม่มีตำราและอาจารย์  จะสอนอ่านเขียนให้ได้วิชา
 +
ไหวพริบอาจเกิดจากเหตุสังเกตทั่ว  สิ่งดีชั่วเลวงามตามยถา
 +
บรรดาได้เห็นรู้ทางหูตา  พิจารณาโดยสุขุมมิสุ่มไป
 +
จะบังเกิดวิทยาอันสามารถ  ประจำอาตม์เป็นนิจติดนิสัย
 +
เมื่อได้ยินได้เห็นการเช่นใด  ย่อมมีไหวพริบผับโดยฉับพลัน
 +
จะขอกล่าวเปรียบเทียบไว้  ถึงศรีธนญชัยคนขยัน
 +
เป็นตลกหลวงสำคัญ  ปัจจุบันคิดคล่องไม่ต้องนาน
 +
ทรงธรรม์พันวษาลงสรง  สนานองค์ในท้องธารละหาน
 +
จึงมีพระราชโองการ  ธนญชัยเจ้าชาญปรีชา
 +
ถ้าเอ็งหลอกข้าขึ้นฝั่งได้  จะตั้งให้ยงยศปรากฏกล้า
 +
หลอกไม่ได้ไม่ไว้ชีวา  เร่งว่าเร็วพลันจะบรรลัย
 +
  ธนญชัยไม่พรั่นหวั่นไหว
 +
บังคมทูลยอหัตถ์บัดใจ  ชีวิตอยู่ใต้บาทบงสุ์
 +
แม้พระเสด็จขึ้นก่อน  พอจะวอนทูลให้กลับไปสรง
 +
นี่จนเกล้าอยู่เพราะรู้องค์  แล้วแต่ทรงกรุณาข้าธุลี
 +
กรุงกษัตริย์ตรัสว่าถ้าเช่นนั้น  ข้าจะผันผายขึ้นพื้นที่
 +
จึงเสด็จจากฟากวารี  อ้ายอวดดีจะหลอกบอกมา
 +
ธนญชัยกราบปลกยกมือตั้ง  รับสั่งให้หลอกออกจากท่า
 +
ก็ลวงองค์ขึ้นฝั่งดังจินดา  พระกลับมารับสั่งดังนี้
 +
จะให้ลวงล่อต่อไป  เล่นกับไฟไม่พ้นเป็นผี
 +
ผู้อื่นจะชอบตอบคดี  พระองค์มีคุณตอบไม่ชอบทาง
 +
พระรู้สึกเสียกลธนญชัย  โปรดอภัยไม่ทรงอางขนาง
 +
เสด็จกลับขึ้นคืนปรางค์  ประทานรางวัลล้นธนญชัย
 +
ดำรัสชมสมกายชายชาติ  สามารถเอากูแพ้รู้ได้
 +
มีไหวพริบดีนี่กระไร  คนใดมีวิชาสารพัน
 +
แต่ไหวพริบปัจจุบันไม่ทันเพื่อน  มัวคิดฝันเฝือนเหมือนฝัน
 +
เสียประโยชน์โทษขำสำคัญ  ไม่ทันที่เขาผู้เชาวน์ไว
 +
ดูแต่พระมหากษัตริย์ยังตรัสชม  ผู้อุดมปฏิภาณวิตถารใหญ่
 +
ชมนิยมชมชอบระบอบนัย  ซึ่งมิใช่เอาคารมเที่ยวข่มกัน
 +
รถหยุดสิบนาทีที่กำหนด  แล้วเคลื่อนรถจากตอนนครสวรรค์
 +
ตามทางนี้ดีเหมาะเพาะปลูกกัน  กล้วยแลพันธุ์ข้าวโพดประโยชน์รวย
 +
ที่ขายสดเหลือมากก็ตากแห้ง  คั่วขายแพงราคาดีกว่ากล้วย
 +
เขาปลูกันแลตลอดยอดระทวย  พระพายชวยริ้วริ้วเหมือนทิวธง
 +
บ้านทับกฤชกฤชแขกแปลกภาษา  ดูไม่น่าจะคมสมประสงค์
 +
ดาบของไทยใสขาวแบนยาวตรง  ใครเห็นทรงยำเยงกลัวเกรงคม
 +
อันคมกฤชคมดาบย่อมทราบฤทธิ์  แต่ดวงจิตคมเข้มทั้งเค็มขม
 +
เห็นสุดรู้อยู่ลับดังจับลม  ไม่นั่งงมก็เหมือนนั่งรู้อย่างใด
 +
มาถึงคลองปลากดกำสรดเศร้า  ให้ง่วงเหงาแทบกับจะหลับใหล
 +
ตาไม่หลับแต่กลับเป็นหลับใน  จนรถไฟถึงชุมแสงจึงแจ้งการ
 +
สถานีผู้คนดูล้นหลาม  บ้างหิ้วหามขึ้นลงส่งเสียงฉาน
 +
ตลาดยาวยืดตั้งใกล้ฝั่งธาร  แม่น้ำน่านเรือแพเซ็งแซ่จริง
 +
ทั้งตลาดหันหน้ามาทางรถ  ขายของสดของแห้งทุกแจ้งสิ่ง
 +
ยุ้งข้าวเจ๊กมากหนักหนามองตาวิง  คอยแย่งชิงซื้อข้าวของชาวไทย
 +
บรรทุกข้าวมาทางเกวียนเดียรดาษ  เป็นตลาดข้าวแท้แลไสว
 +
เจ๊กหามขนเป็นพัลวันไป  ใส่ยุ้งไว้เต็มรักกักราคา
 +
คอยฟังว่าราคาดีแล้วพี่เจ๊ก  ก็ขายเขกเต็มแรงไม่แกล้งว่า
 +
ทั้งพ่อพวกโรงสีก็ปรีดา  แต่ชาวนาเหนื่อยมากกลับยากจน
 +
เขาจนทรัพย์ขัดสนเพียรขวนขวาย  ก็เหือดหายจนได้กำไรผล
 +
ฉันจนจิตคิดตั้งหวังกมล  มิได้พ้นจนใจแทบวายปราณ
 +
ครั้นถึงบ้านวังกร่างค่อยสร่างหลับ  แต่กระสับกระส่ายหลายสถาน
 +
ให้ปวดเศียรเวียนวิงนิ่งรำคาญ  ไม่อุทานนั่นมองตามช่องแกล
 +
แต่นิ่งยลถึงตำบลบางมูลนาค  บ้านเรือนมากสะพรั่งฝั่งกระแส
 +
ตลาดบกทางน้ำส่ำเรือนแพ  ฉางข้าวแลวัดวาสถานี
 +
คนขึ้นลงขายค้ากันหนาแน่น  ตามพื้นแผ่นดินแดงทุกแห่งที่
 +
มีเกร็ดกล่าวว่านาคจากวารี  แปลงอินทรีย์เป็นนางสำอางตา
 +
มาภิรมย์สมพาสชาติมนุษย์  จนเกิดบุตรผิดอย่างต่างภาษา
 +
เป็นไข่ฟองใหญ่ประหลาดชาตินาคา  แล้วหายหน้าไม่มีใครที่ได้พบ
 +
ฝ่ายฟองไข่อยู่ชายกระแสสินธุ์  กะเทาะบินขยายคลายประกบ
 +
เป็นเด็กชายงามสะอ้านอาการครบ  ออกนั่งตบน้ำเล่นน่าเอ็นดู
 +
พากันไปถวายเด็กชายประหลาด  ก็องอาจเดินได้ในผลู
 +
พระราชาปราโมทย์โปรดเชิดชู  เลี้ยงไว้อยู่เป็นโอรสยศไกร
 +
ภายหลังบุตรภุชงค์ผู้ทรงเดช  ได้ประเวศพนาพฤกษาไสว
 +
ลงบังคนบ้านบ่นเหม็นกระไร  ขัดพระทัยสาปต้องเป็นของกลืน
 +
ซึ่งติว่าเฝื่อนเหม็นจงเห็นหอม  อย่าให้ยอมกินสวัสดิ์จงขัดขืน
 +
ให้หนามเหนียวเกี่ยวยับดังสับฟืน  จึงได้กลืนเนื้ออยากทำปากบอน
 +
พระวาจาประสิทธิ์สฤษดิ์ผล  เกิดเป็นต้นชูดอกออกสลอน
 +
คือทุเรียนเดียรดาษกลาดดินดอน  ยังอีกตอนว่านั่งฝั่งคงคา
 +
ทรงเสวยโภชนามีปลาทอด  พระหัตถ์สอดแกะกระทั่งหมดมังสา
 +
ยังแต่ก้างพระวางในธารา  ดำรัสปลาว่ายไปในสายชล
 +
ก้างปลากลายว่ายน้ำบ้างดำผุด  คนสมมติเรียกนามตามนุสนธิ์
 +
ว่าพระร่วงร่วงมาแต่ฟ้าบน  จึงฝูงคนเรียกมูลนาคติดปากมา
 +
แต่พระราชพงศาวดารเหนือ  ว่ากษัตริย์ชาติเชื้อพราหมณ์นาถา
 +
นามอภัยคามมุนีศิลาจาริ์  ไปรักษาองค์ศีลอภิญญาณ
 +
ที่เขาใหญ่ไกลปราสาทราชนิเวศน์  นาคแปลงเพศเป็นกัลยามาสมาน
 +
พระชื่นชมนางนั้นเจ็ดวันวาร  นางกรายกรานทูลลาท้าวอาลัย
 +
พระราชทานประวิชภูษิตทรง  ไว้ต่างองค์จงคิดพิสมัย
 +
นางนาคาลาย่างลับร่างไป  ภูวนัยเศร้าสะอื้นกลับคืนวัง
 +
ฝ่ายนาคีมีครรภ์แต่วันจาก  นางคลอดฝากผู้ใดไม่สมหวัง
 +
พระฤๅษีหนีไปไม่จีรัง  นางทรุดนั่งแหวนผูกกรลูกยา
 +
ทั้งผ้าทรงวงพันกระสันห่อ  ของของพ่อให้อยู่ดูต่างหน้า
 +
แล้ววางไว้ในบรรณศาลา  พรานป่ามาพบกุมารสงสารครัน
 +
พาไปเลี้ยงเพียงบุตรสุดถนอม  อยู่กระท่อมตามยากสู้บากบั่น
 +
สองคนกับภรรยาไม่อาธรรม์  แต่ช่วยกันเลี้ยงมาได้กว่าปี
 +
มาวันหนึ่งจึงท้าวอภัยราช  สร้างปราสาทเพิ่มเติมเฉลิมศรี
 +
อำมาตย์จึงเกณฑ์เหล่าชาวบุรี  ทำหน้าที่ถากไม้ไสกระดาน
 +
ฝ่ายนายช่างตั้งเสาเอาขื่อทอด  แล้วยกยอดปรางค์รวมสวมประสาน
 +
ติดทวยเทพประนมพรหมประธาน  ครุฑทะยานเหนี่ยวพระยาวาสุกรี
 +
อันเครื่องบนต่างต่างวางสำเร็จ  ทั้งมุขเด็จบุษบกยกขึ้นที่
 +
ยังอยู่แต่พื้นล่างทางปัถพี  รีบทวีแรงแต่งทุกแห่งการ
 +
ฝ่ายพรานป่ามาทำประจำกิจ  เป็นห่วงคิดถึงบุตรสุดสงสาร
 +
ให้ภรรยาพาเอาเจ้ากุมาร  พักชายชานปราสาทชัยในเวลา
 +
สุริยงค์ส่งแสงอันแรงร้อน  ต้องเด็กอ่อนเหงื่อหลั่งตามมังสา
 +
องค์ปราสาทไหวหวั่นเอนหันมา  ให้ฉายาร่มทรงองค์กุมาร
 +
พระจอมเจ้านครินทร์ปิ่นประเทศ  ได้ยลเหตุอัศจรรย์จึงบรรหาร
 +
ให้สอบถามได้ความของประทาน  ภูษาสร้านธำมรงค์ไม่สงกา
 +
ท้าวปราโมทย์โปรดประกาศราชโอรส  ให้ทรงยศอำนาจวาสนา
 +
ครั้นต่อไปได้เป็นพระราชา  คนเรียกว่าพระร่วงตามท่วงที
 +
คนละองค์หรือองค์เดียวกันแน่  สุดจะแก้ปัญหาว่าคงที่
 +
เพราะต่างคนต่างก็ว่าตำราดี  ตามแต่มีความเห็นกันเช่นใด
 +
ดงตะขบไม่ประสบตะขบต้น  เขาว่าคนขบไม่แตกแปลกหรือไม่
 +
ผลมะตูมแข็งนอกออกง่ายใจ  มะกอกในแข็งกระด้างช่างต่างกัน
 +
เมื่อพิเคราะห์ดูต้นผลไม้  ช่างกระไรธรรมชาติประสาทสรรค์
 +
มีลูกมิได้ผิดชนิดพันธุ์  เป็นที่มั่นหมายแน่มิแปรปรวน
 +
จะปลูกฝังหวังผลต้นอะไร  ก็ย่อมได้รับผลไม่พ้นส่วน
 +
ลูกสิงห์สัตว์จัตุบาทอาจคำนวณ  มีลูกล้วนเหมือนพันธุ์ไม่ผันแปร
 +
แต่ส่วนลูกมนุษย์สุดมุ่งหมาย  มักกลับกลายกล่นเกลื่อนไม่เหมือนแม่
 +
ไม่เหมือนพ่อหนอช่างน่าชังแท้  ควรหรือแชเชือนไปไกลพืชพันธุ์
 +
ที่ลูกดีมีหน้าพาตระกูล  เรืองจรูญดังผ่านพิมานสวรรค์
 +
ที่ลูกชั่วตัวมารผลาญฉกรรจ์  ครอบครัวนั้นก็ต้องตรมหนองบวม
 +
ถึงตำบลตะพานหินถิ่นสถาน  อันสะพานเหมือนวิชารีบหาสวม
 +
ใส่กายตนขนควบเร่งรวบรวม  มัวแต่ต้วมเตี้ยมช้าหาไม่ทัน
 +
รวยวิชาถ้ามีอุปสรรค  วิชาชักจูงตนพ้นอาถรรพณ์
 +
ข้ามกันดารผ่านขุ่นคุณอนันต์  ช่วยเลื่อนชั้นฐานาลาภาพูน
 +
มาถึงบ้านคลองลาวกล่าวสำเหนียก  ช่างมาเรียกคลองลาวให้เค้าสูญ
 +
ควรเรียกร้องคลองไทยให้ไพบูลย์  สืบประยูรเผ่าพงศ์ของวงศ์ไทย
 +
ถึงหัวดงพงรกปกคลุมเครือ  น่าเกรงเสือจะมาอยู่อาศัย
 +
เรามานั่งพร้อมหมดบนรถไฟ  สัตว์ร้ายไม่หาญกล้ามาราวี
 +
แต่มนุษย์สุทธิชาติอนาถหลาย  ควรหรือกลายชาติเชื้อเป็นเสือหมี
 +
อยู่บ้านเรือนนอนสบายไม่ว่าดี  ต้องหลบหนีกระดอนไปนอนดิน
 +
หนุนรากไม้ใบหญ้าต่างผ้าหมอน  ต้องซุกซ่อนแอบตัวกลัวหัวบิ่น
 +
ทั้งอดอยากปากแห้งแย่งเขากิน  มดยุงริ้นกัดตอมจนผอมโซ
 +
เที่ยวฆ่าปล้นซนทำกรรมอุบาทว์  ไม่พ้นราชอาชญามาอักโข
 +
ประพฤติดีมีสัมมากัมมันโต  จะภิญโญดีกว่าเจือเสือเป็นพาล
 +
การเข้าใจตัวเองว่าเก่งกาจ  ทำอำนาจวางโตอวดโวหาร
 +
เที่ยวขัดใจขัดคอก่อรำคาญ  ที่เขาคร้านหลีกตัวว่ากลัวตน
 +
ยิ่งโอหังบังอาจประมาทหมิ่น  ไม่มองดินมองแต่ฟ้าคอยท่าฝน
 +
ไม่ทำมาหากินปลอกปลิ้นชน  ไหนจะพ้นเวรกรรมนำบันดาล
 +
บ้านวังกลมสร้างแต่ปางไหน  ก็มิได้แจ้งเค้าสำเนาสาร
 +
หรือจะเป็นวังวนชลธาร  ไม่ทราบการณ์เลยไม่ใส่ใจจำ
 +
ถึงพิจิตรคิดคะนึงถึงขุนแผน  ชมว่าแสนเป็นเจ้าชู้ดูไม่ขำ
 +
จากนางพิมไปทัพกลับมาทำ  ให้พิมช้ำใจร้าวเพราะลาวทอง
 +
เรือมาถึงบันไดไม่ขึ้นบ้าน  ไม่สมานพิมให้คลายเศร้าหมอง
 +
หล่อนละห้อยคอยท่าน้ำตานอง  ไม่เข้าห้องหอขุนช้างอย่างเห็นใจ
 +
เพราะความรักขุนแผนแสนสวาท  แม่เกรี้ยวกราดเฆี่ยนป่นสู้ทนได้
 +
รู้ผัวกลับวิ่งมารับถึงบันได  ขุนแผนไม่เที่ยงธรรมนำเหตุเอง
 +
แล้วกลับมาพาหนีสู่พิจิตร  นี่ก็ผิดอีกกรรมทำข่มเหง
 +
พระไวยรับแม่มาหากริ่งเกรง  กลับใช้เพลงเจ้าชู้อีกไม่หลีกกลัว
 +
กระทำจนวันทองต้องโทษตาย  ขุนแผนร้ายวันทองจึงต้องชั่ว
 +
พระพันวษาก็กระไรไปพันพัว  เรื่องส่วนตัวเอาเขาฆ่าน่ารำคาญ
 +
จะฆ่ากันให้บรรลัยทำไมหนา  คนเกิดมาต้องตายเองเพลงสังขาร
 +
ใครจะอยู่คู่ฟ้าสุธาธาร  ไม่ช้านานเท่าใดในระวาง
 +
พิจิตรเมืองโบราณนัยการกล่าว  ว่าลูกท้าวโคตะบองปกครองสร้าง
 +
ยังมีซากอิฐกำแพงพอแจ้งทาง  เมืองวัดร้างหญ้ารกขึ้นปกคลุม
 +
พิจิตรใหม่ย้ายมาอยู่แม่น้ำน่าน  ภูมิสถานใหญ่กว้างอย่างสุขุม
 +
มีบึงมากนักหนาข้าวปลาชุม  เพราะน้ำชุ่มชื้นชะกสิการ
 +
เดิมชื่อเมืองสระหลวงทบวงเก่า  พื้นที่เล่าใหญ่โตรโหฐาร
 +
มีบึงใหญ่ดังทะเลคะเนการ  กว้างประมาณเจ็ดพันไร่น่าใคร่ชม
 +
ปลูกบัวหลวงช่วงโชติประโยชน์หลาย  เก็บเมล็ดขายบรรทุกเกวียนเดียรดาษถม
 +
เป็นสินค้าหากำไรได้อุดม  ควรนิยมกันปองแต่ของไทย
 +
เมล็ดบัวกินดีมีกำลัง  ทำได้ทั้งคาวหวานสมานไส้
 +
ทำเป็นแป้งแห้งเก็บไปกินไกล  ดัดแปลงได้โอชาสารพัน
 +
อุตริตริอย่างใดอยากให้บอก  ซื้อของนอกกินกันเล่นไม่เห็นขัน
 +
ให้เงินทองล่องไหลไปทุกวัน  ค่าน้ำมันเราก็แย่ยังแส่กิน
 +
การกินอยู่ฟูฟ่องเป็นของง่าย  การหาเงินยากหลายแทบตายสิ้น
 +
เห็นแต่กินพล่อยพล่อยอร่อยลิ้น  มิได้จินตนานัยครวจไตร่ตรอง
 +
ถึงท่าฬ่อล่อหลอกกันออกฉาว  ให้นึกหนาวร้อนตัวกลัวสยอง
 +
กลัวทั่งล่อทั้งชนขนหัวพอง  ขอจงผ่องพ้นล่อจนมรณา
 +
บ้านกระท่อมคิดดูอยู่กระท่อม  มีกินพร้อมนุ่งห่มพอสมหน้า
 +
ไม่มีหนี้ไม่มีผู้บีฑา  ก็ดีกว่าอยู่สถานบ้านโตโต
 +
แต่ขัดสนจนทวีเจ้าหนี้แหนบ  เหมือนคับแคบทั้งศัตรูก็ขู่โห่
 +
งานสะบักสะบอมเผือดผอมโซ  ต้องโอดโอ้ประดาษอนาถตา
 +
ไร้วิชาอาหารกันดารกิจ  สิ้นลาภยศหมดมิตรเสน่หา
 +
ถึงอยู่ตึกเจ็ดชั้นสุวรรณทา  ก็ไม่ผาสุกจิตเหมือนติดกรง
 +
ถึงแม่เทียบเห็นแต่ป่าไร่นาอ้อย  ตะวันคล้อยลับไม้ไพรระหง
 +
ให้หวิวหวิวรันทดสลดทรง  นั่งบรรจงตัวไปหัวใจลอย
 +
ถึงบ้านใหม่เขาปองแต่ของใหม่  ของเก่าไม่รักษาน่าละห้อย
 +
เห็นเป็นเก่าแก่แล้วยังนั่งตะบอย  ยังไม่ค่อยจะตายช่างร้ายจริง
 +
อันของใหม่อาศัยเก่าเอากำเนิด  ใช่จะเกิดอุปาติกะระดะสิ่ง
 +
ย่อมได้นามชลัมพุชยุดพึ่งพิง  ควรหรือชิงชังทำใจลำเอียง
 +
</tpoem>
 +
=== ๔ ===
=== ๔ ===
=== ๕ ===
=== ๕ ===

การปรับปรุง เมื่อ 14:51, 31 พฤษภาคม 2556

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง: [คุณหญิงเขื่อนเพ็ชรเสนา] (ส้มจีน อุณหะนันท์)

บทประพันธ์

๏ นิราศรักหักใจจำไกลบ้าน
ไปสุโขทัยเบื้องเมืองโบราณชมสถานแถวทางให้สร่างใจ
ทั้งประสงค์ส่งพ่อเถียวเกี่ยวเป็นญาติไปรับราชกิจวินิจฉัย
เป็นอัยการจังหวัดนัดกันไปพออุทัยไขศรีฉวีเรือง
ที่ยี่สิบเจ็ดมิถุนาวันคลาคลาดพุทธศักราชสองพันกันต่อเนื่อง
สี่ร้อยเจ็ดสิบสามยามประเทืองจึงย่างเยื้องยังหมู่ที่บูชา
จุดเทียนน้อมเศียรกราบพุทธรูปและจุดธูปที่อัฐิปริปากว่า
ขอลาไกลไปดูเมืองบูราณ์แล้วไคลคลาจากตึกรู้สึกงง
เห็นเด็กเด็กเลี้ยงมาล้อมหน้าหลังล้วนแต่ตั้งใจงามจะตามส่ง
คิดห่วงหลังห่วงหน้าพะว้าพะวงค่อยดำรงกายออกนอกประตู
ระทวยอ่อนถอนใจอาลัยเหลียวเคยไปเที่ยวครั้งใดก็ไปคู่
ไปคนเดียวเสียวเจตน์น้ำเนตรพรูมิได้ดูสิ่งใดหักใจจร
ถึงสถานีใหญ่รถไฟจวนจะออกล้วนเซ็งแซ่แลสลอน
เป็นหลายสายย้ายพรากจากนครเรารีบจรพร้อมเสร็จรวมเจ็ดคน
นั่งที่สองของใช้ไปรถตู้ดูคนผู้ส่งรับกันสับสน
บ้างอวยชัยให้ล้วนส่วนมงคลส่งกันจนรถออกนอกชาลา
เป็นขบวนขบวนไม่ป่วนปั่นแต่ละคันท่วงทีมีสง่า
ควรภูมิใจไทยเจริญเพลิดเพลินตานับเวลายิ่งทวีบริบูรณ์
ลอดสะพานกษัตริย์ศึกจารึกยศอันปรากฏเกียรติไว้มิให้สูญ
พระกำจัดไพรินทร์จนสิ้นมูลทรงเพิ่มพูนอำนาจของชาติไทย
เป็นดิเรกเอกราชชาติในโลกอุปโภคสารพันทันสมัย
พระสร้างทำบำรุงเป็นกรุงไกรสืบมาให้ไปภายหน้าคุ้มฟ้าดิน
มาถึงจิตรลดาสถานีมิใช่ที่ชาวประชาอย่าถวิล
สำหรับพระราชะจอมนรินทร์เสด็จลินลาศตรงทรงรถไฟ
เห็นดุสิตคิดเหมือนได้ไปดุสิตชวลิตแลตลอดยอดไสว
พระที่นั่งดังสถานพิมานไชยสวยดังไกรลาสสวรรค์อันรุ่งเรือง
เห็นโบสถ์วัดเบญจมบพิตรแลวิจิตรสี่มุขแสงสุกเหลือง
ดังทองทาบปลาบปลั่งมลังเมลืองสีกระเบื้องแลระยับจังนภางค์
ฉันน้อมกายถวายอภิวาทพระชินราชองค์ที่สองจำลองสร้าง
โปรดพิทักษ์รักษาทุกท่าทางให้สำอางสำเร็จเจตนา
ข้าพเจ้าเขาทั้งหลายทุกชายหญิงจงพ้นสิ่งโรคภัยให้ถ้วนหน้า
มีดวงใจใสกระจ่างทางสัมมาวัฒนาลาภล้ำอร่ามเรือง
ถึงสามเสนไม่ได้ความเรื่องสามเสนใครประเคนชื่อไว้ไฉนเรื่อง
เอาพิมเสนแลกเกลือเห็นเหลือเปลืองล้วนแต่เครื่องเสียค่าราคาควร
ถึงบางซื่อซื่อตรงลงว่าโง่โอ้พุทโธ่คิดมาก็น่าสรวล
ที่ตลบแตลงแต่งสำนวนกลับชมชวนกันว่าอาจฉลาดดี
คนชนิดไหนนะเรียกฉลาดที่จอมปราชญ์ยกย่องว่าผ่องศรี
ถ้าจะมีใครโผล่โต้วาทีและทั้งมีกรรมการประหารความ
คงได้ฟังคารมอุดมแปลกต่างจะแหวกเอาชัยในสนาม
ต่างชี้เลศเหตุผลจนให้งามซึ่งจะคร้ามปากกันนั้นไม่มี
ฉลาดใดไม่เหมือนการชาญฉลาดรักษาอาตม์ให้ดำรงตรงวิถี
แห่งสัมมาอาชีวะนั่นแหละดีมิให้มีอกุศลปนมลทิน
จึงควรนับว่าเป็นปราชญ์ฉลาดล้ำอันบาปกรรมมิให้เข้ากายสิ้น
ครองชีวิตสุขาเป็นอาจิณอยู่ในศีลซื่อสัตย์สวัสดี
เห็นตึกเตาเผาดินเป็นหินผงแล้วขายส่งเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี
ทำสะพานบ้านเรือนเขื่อนกุฎีแห้งเป็นศีลาแท่งแข็งแรงทน
บางซื่อนี้โรงมีทหารบกปลูกล้อมวกกว้างใหญ่ดั่งไพรสณฑ์
มีทหารชาญชัยหลายกองพลเป็นน่ายลยินดีบุรีเรา
ถึงบางเขนเลนมากต้องลากเข็นเรือติดเลนหรือเช่นเข็นซุงเสา
ก็พอจะเข็นได้สบายเบาแต่ว่าเจ้าความรักนี้หนักครัน
ลงติดตรังฝังใจเข็นไม่ออกยิ่งกว่าตอกด้วยตะปูคิดดูขัน
บางทีถึงร่างกายวายชีวันเพราะรักนั้นมิได้สมอารมณ์ปอง
สมรักแล้วแคล้วคลาดนิราศร้างนี่อีกอย่างก็ระทมอกตรมหนอง
เป็นโรคร้ายหายยากมากทำนองยิ่งตรองตรองเรื่องรักชักรำคาญ
ถึงหลักสี่มีนาธัญญาไสวขอขอบใจชาวนามหาศาล
สู้เหนื่อยยากตรากตรำกระทำการไถคราดหว่านเก็บเกี่ยวด้วยเรี่ยวแรง
การกินอยู่ดูทุเรศสมเพชเหลือกะปิเกลือปลาร้าน่าแสยง
นอนโรงจากฟากปูสู้ตะแคงโคลนตมแห้งเกรอะกรังเขายังทน
เราลำบากยากใจอะไรหน่อยบ่นตะบอยกันทั้งวันตั้งพันหน
มีที่อยู่ดังวิมานสำราญตนกินดังปนเพชรทองยังร้องคราง
เอาแต่สุขส่วนตัวทั่วทุกผองขอเชิญมองดูคั่นคนชั้นล่าง
ตรองสักนิดคิดสักหน่อยอย่างปล่อยวางจะเห็นทางเพื่อนมนุษย์สะดุดใจ
อันหลักสี่นี้นามยังงามอยู่หลักหนึ่งสองสามไม่รู้ไปอยู่ไหน
รัชกาลที่สี่มีพระทัยบำรุงไพร่พลเมืองให้เฟื่องฟู
ให้ขุดคลองแยกจากคลองผดุงผ่านท้องทุ่งป่าละเมาะถึงเกาะคู่
ตำบลบางปะอินถิ่นควรรู้ปักไว้ให้ดูตลอดทาง
หลักละ ๕๐ เส้นเป็นหลักหลักตั้งแต่หนึ่งถึงสำนักหลักที่สอง
ที่สามที่สี่ห้าหกเจ็ดเขตรองรองนับเกือบสองพันเส้นสร้างกว้าง ๕ วา
ราวร้อยเส้นเป็นมีศาลาพักตัวไม้สักมุงกระเบื้องเขื่องอยู่หนา
เมื่อยังเยาว์เราได้เห็นเด่นนัยน์ตาแต่เวลานี้ไม่เห็นดังเช่นเคย
ทรงพระราชทานนามตามนุสรณ์ชื่อคลองเปรมประชากรสุนทรเฉลย
ชื่อตามหลักยักเป็นอื่นไม่คืนเลยเหลือพิเปรยสี่กับหกก็ตกลง
อันบูราณสถานที่มีประวัติถ้าเปลี่ยนผลัดชื่อใหม่ย่อมไหลหลง
ต้องเรียนใหม่ไถ่ถามเพราะความงงเอาไว้คงชื่อไม่ได้ไฉนนา
ถึงดอนเมืองเนืองนองกองเครื่องบินวิชาศิลป์สิ่งนี้ดีหนักหนา
ชวนกันหัดให้จบทางนพภาจะไปมาเร็วพลันเท่าทันการณ์
มิควรกลัวตกดินสิ้นชีวิตความตายคิดไม่ประหลาดชาติสังขาร
ถ้าถึงที่ชีวันอันตรธานอยู่กับบ้านมันก็มรณา
เป็นทหารนักบินควรยินดีเกิดมามีโชคแก่ชาติศาสนา
ถ้ามาตรแม้นไพรีมาบีฑาอาจรักษาปกป้องได้ว่องไว
แม้จะเสียชีวาตม์อย่าขลาดหลบต้องรุกรบจนศัตรูอยู่ไม่ได้
ช่วยกันรักษาเอกราชของชาติไทยถาวรไว้ในหล้าคุ้งฟ้าดิน
ให้สมศักดิ์อัครฐานทหารกล้ายามเวลาสงบสมอารมณ์ถวิล
รีบฝึกหัดให้ชำนาญในการบินรอบรู้ถิ่นทั่วประเทศเขตของเรา
รู้ทางหนีทีไล่ย่อมได้เปรียบไหวพริบเฉียบแหลมดีไม่มีเศร้า
สามัคคีมีไว้ไม่ใจเบาแม้ภูเขาก็อาจสามารถทำลาย
ทหารบกทหารเรือและเสือป่าย่อมมีหน้าที่เหมือนกันดังมั่นหมาย
ควรไว้เกียรติศักดิ์หลักผู้ชายมิให้อายแก่เขาชาวโลกา
ดูเขาหรือคือบุคคลที่ต้นคิดเพียรประดิษฐ์ยานยนตร์ด้นเวหา
มิได้เกรงตกตายวายชีวมทำจนสามารถเสร็จสำเร็จการ
โลกมนุษย์สุดประเสริฐเกิดชีวิตนักประดิษฐ์ต่างต่างอย่างวิตถาร
ถ้าช่างคิดประดิษฐ์ทำเครื่องสำราญเครื่องประหารชีวิตไม่คิดทำ
มีเมตตาอารีเหมือนพี่น้องใครขัดข้องช่วยชุบอุปถัมภ์
โลกจะแสนสุขประเสริฐเลิศล้ำเหมือนหนึ่งสำนักสวรรค์ชั้นอินทรา
ทางซ้ายมือมีตลาดขนาดใหญ่ของกินใช้สารพันน่าหรรษา
ใกล้ทางรถทางน้ำส่ำนาวาคลองเปรมประชากรขนานยานรถไฟ
ถึงหลักหกจีนยกร่องทำสวนแต่ผักล้วนแลลิ่วทิวไสว
ในท้องร่องปลูกข้าวไม่เปล่าไปเขาทำได้ประโยชน์คล่องทั้งสองทาง
การขยันขันข้อแล้วหนอเจ๊กงานใหญ่เล็กไม่เลือกคลำทำทุกอย่าง
ที่สุดขนอุจจาระไม่ระคางได้เงินอย่างเดียวนั้นเป็นชั้นดี
การหากินถูกอย่างทางสัมมาไม่เลวทรามต่ำช้าน่าบัดสี
การทุจริตมิจฉาชีพราคีและเป็นที่อับอายขายหน้าตา
เห็นบัวหลวงตระการบานแฉล้มบ้างตูมแย้มงามเล่ห์ดังเลขา
สัตตบุษย์ผุดพ้นชลธาร์สัตตบันวรรณาน่ายินดี
สัตตบงกชสดใสวิลัยลักษณ์บัวเผื่อนสะพักบัวผันกระชั้นสี
สะพรั่งพร้อมเยียยงจงกลมณีให้เปรมปรีดิ์เจริญเพลินกมล
ดอกไม้น้ำดอกไม้ดินสิ้นทั้งหลายดอกกล้วยไม้กินน้ำค้างกลางเวหน
ล้วนเป็นเครื่องชูจิตยามพิศยลกลิ่นระคนยั่วยวนชวนสำราญ
ความอยากชมดมกลิ่นถวิลหวังจึงปลูกฝังกันชุกแทบทุกบ้าน
ที่ใดมีผกาสุมามาลย์ดูสง่าพาบ้านโอฬารงาม
คลองรังสิตพิศตรงไม่โค้งคดมีการทดน้ำมาทำนาหลาม
มีคลองน้อยซอยสลับนับหนึ่งนามไปจนสามสิบกว่าล้วนนาดี
มีประตูระวังปิดขังน้ำถ้าเหลือล้ำระบายออกนอกวิถี
แต่น้ำรักไหลรวมท่วมฤดีมิรู้ที่จะระบายให้คลายใจ
มาถึงเชียงรากใหญ่ไฉนหรือจึงระบือชื่อเสียงเวียงที่ไหน
หรือเป็นเพียงตั้งรากแล้วจากไกลก็มิได้เห็นซากของรากเลย
สถานที่ย่อมมีประวัติการณ์จึงเรียกขานตำบลนุสนธิ์เฉลย
ทั้งบกเรือเหนือใต้ใช้กันเคยไปมาเอ่ยชื่อเค้าได้เข้าใจ
เหมือนความดีความชั่วตัวบุคคลแม้ร่างกายตายหล่นไปไหนไหน
ชื่อยังอยู่รู้แจ้งทุกแห่งไปลมน้ำไฟก็มิอาจสามารถทำลาย
รถข้ามสะพานเหล็กรองก้องกระทบดังตลบวับหวือหูอื้อหาย
ความเร็วของรถมองตาลายมิได้วายอาวรณ์อ่อนอารมณ์
มาถึงเชียงรากน้อยยิ่งสร้อยเศร้าไฉนเล่าจะทราบเรื่องเบื้องประถม
เชียงรากคู่อยู่ใกล้ไม่ระทมเราโศกซมเพราะคู่ไปอยู่ไกล
ข้ามสะพานเรียกร้องคลองเชียงรากเสียงดังมากอีกเหมือนกันสนั่นไหว
รถหยุดหน้าสถานีค่อยมีใจลืมอาลัยลืมตัวมัวแต่ดู
เขาขึ้นลงส่งรับกันสับสนเดินมาชนถูกตัวและหัวหู
ไม่ถือโกรธทำจำคำครูเบียดเสียดสู้อดทนปนกันไป
เชียงรากหรือเชิงลากยากจะคิดถูกหรือผิดตามแต่จะแก้ไข
เขาเล่ายักษ์สถุลมารพาลสุดใจหวังจะให้พระรถหมดชีวา
ทำประชวรกวนผัวดังตัวเปรตสยายเกศกระสับกระส่ายทั้งซ้ายขวา
เอาข้าวเกรียบเรียบไว้ใต้ไสยาแล้วครางว่ากระดูกลั่นจะบรรลัย
ทำฉะอ้อนวอนทูลอาดูรดิ้นว่าเคยกินผลพฤกษาในป่าใหญ่
มะม่วงผู้รู้หาวขาวอำไพมะนาวไซร้รู้โห่รสโอชา
จงโปรดให้พระรถทรงยศเดชไปแจ้งเหตุแก่เมรีที่ภูผา
ได้มากินก็จะสิ้นซึ่งโรคาซองสารานี้นำไปให้แก่นาง
พระราชางวยงงด้วยหลงใหลดำรัสใช้โอรสาไปป่ากว้าง
ฝ่ายพระรถขับม้ามาหลงทางจึงพักค้างที่กุฎีพระชีไพร
เห็นอักษรแก้ขยายชายภูสิตในลิขิตว่าผู้ถือหนังสือไข
ถึงกลางวันกินกลางวันอย่าพรั่นใจถึงกลางคืนกลืนให้มันวายปราณ
พระฤๅษีสงสารกุมารน้อยจึงแปลงถ้อยความใหม่ลงในสาร
ถึงกลางคืนรับกลางคืนให้ชื่นบานถึงกลางวันพลันสมานการไมตรี
พระรถไปได้นางได้ดวงเนตรยาวิเศษหนีลับกลับกรุงศรี
พระบิตุรงค์ทราบความตามคดีอสุรีมันแกล้งจำแลงมา
จึงลงโทษนางนั้นชีวันวายราพณ์ร้ายกลายพักตร์เป็นยักษา
มีร่างกายใหญ่โตต้องโกลาลากใหญ่มาหยุดหน่อยลากน้อยไป
ต้องตัดกรรอนเช่นกันเป็นชิ้นโลหิตนองกองดินดั่งธารไหล
ที่ตำบลขนกายมารร้ายไซร้พื้นไผทแดงดลจนทุกวัน
ตรงเนื้อหนาผ่าวิ่นเป็นชิ้นจิ๋วเป็นแปดริ้วหิ้วหามตามขยัน
จึงเรียกแปดริ้วนามไปตามกันเท็จจริงนั้นอยู่แก่เขาผู้เล่ามา
ถึงบางปะอินถิ่นเหมาะเป็นเกาะคู่พระราชวังตั้งอยู่ดูสง่า
แต่ตัวเราว้าเหว่อยู่เอกาอนิจจาเหมือนเกาะแกล้งเยาะเรา
มีคำกล่าวเล่าว่าเกาะนี้เดิมเป็นที่อาศัยของผู้เฒ่า
มีบุตรหลานหลายกระท่อมล้วนย่อมเยาปลูกน้ำเต้าฟักแฟงไว้แกงกิน
ที่ราบต่ำทำนาเป็นอาหารสุขสำราญตามทำนองของท้องถิ่น
มีหลานสาวขาวบางชื่อนางอินเขาเรียกถิ่นนี้เฉพาะเกาะเลนตม
ภายหลังมีสุริยวงศ์พระองค์หนึ่งเรือมาถึงหัวเกาะจำเพาะล่ม
เกิดพายุแรงกล้านาวาจมต้องระทมว่ายน้ำแทบจำตาย
ถึงตลิ่งทิ้งองค์ลงกับพื้นจะเดินยืนไม่ไหวฤทัยหาย
เห็นแสงไฟกระท่อมน้อยอยู่พร้อยพรายเรียกโวยวายช่วยด้วยจะม้วยมรณ์
พวกชายหญิงวิ่งไปเอาไฟส่องช่วยกันประคองมาประทับลงกับหมอน
ได้สมสองนางอินครั้นทินกรรุ่งแล้วจรกลับไปไม่ได้มา
ฝ่ายนางอินมีครรภ์ถ้วนกำหนดคลอดโอรสงามพักตร์เป็นหนักหนา
ได้เจ็ดขวบองอาจประหลาดตาจึงจัดพาไปถวายให้บิตุรงค์
ครั้นเติบใหญ่ได้เป็นมหาอำมาตย์ในพระราชทินนามตาประสงค์
เป็นเจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์แล้วได้ดำรงสยามราชปราสาททอง
ทรงสร้างวัดไชยชุมพลมงคลสถานซึ่งพระองค์ท่านสมภพประสบสนอง
ชาวบ้านเรียกเกาะอออินอออินครองบ้างเรียกร้องบางปะอินถิ่นพบกัน
อันเกาะนี้มีกษัตริย์หลายรัชช์ประทับสร้างสำหรับประพาสเปรมเกษมสันต์
แล้วเลิกร้างห่างมาช้านานครันพระทรงธรรม์มหาปิยายง
วงศ์จักรีที่ห้าพระปราโมทย์พระองค์โปรดสร้างขนาดราชประสงค์
พระที่นั่งใหญ่ใหญ่เป็นหลายองค์ที่งามทรงเลื่องลือฝีมือไทย
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์เป็นปราสาทปลูกสร้างกลางสระใหญ่
ที่เกาะนอกออกมหาชลาลัยสร้างวัดไว้ท้ายเกาะเพราะศรัทธา
ทรงพระราชทานนามความพิเศษวัดนิเวศธรรมประวัติจัดศึกษา
ให้พระสงฆ์เรียนร่ำพระธรรมาบำรุงพุทธศาสนาถาวรเนา
ถึงบางโพธิโพธิมีที่ไหนแน่เห็นแต่แพปากคลองขายของข้าว
รถวิ่งข้ามสะพานปร๋อไม่รอเบาดูไม่เท่าไม่ทั่วของตัวคลอง
เลียบใกล้ทางข้างแม่น้ำเจ้าพระยาเห็นนาวากลไฟแล่นไวว่อง
จูงเรือข้าวยาวยืดเป็นพืดมองบ้างขึ้นล่องขนสินค้าทั้งมาไป
ทางน้ำนั้นก็นั่งสบายไม่พายถ่อทางบกก็ไม่ต้องเดินเพลินหรือไม่
ถ้าไม่ต้องกินอาหารประการใดจะสำราญบานใจไปทุกคน
การเหนื่อยยากกรากกรำทำทั้งสิ้นเพราะต้องกินเป็นเหตุประเภทผล
จะนั่งนอนร้อนเร่าเฝ้ากังวลจนวายชนม์นั่นแหละสิ้นถวิลปอง
             

ถึงศรีอยุธยาเวลาสายน่าเสียดายกรุงเก่ามาเศร้าหมอง
เคยรุ่งเรืองจำรัสกษัตริย์ครองโอ้มาต้องกลับกลายเป็นไร่นา
ตำนานเก่าเล่าเรื่องแต่เบื้องก่อนพระนครไพบูลย์พูนสุขา
แต่ครั้งหนึ่งไร้กษัตริย์ขัดติยาพวกเสนาพร้อมเพรียงกันเสี่ยงเรือ
สุพรรณหงส์เอกชัยไปตามน้ำประหลาดล้ำเรือคว้างไปทางเหนือ
ดุจจะมีวิญญาณมาจานเจือไปหยุดเกื้อกูลเผ่าพวกชาวนา
มีฝูงเด็กเลี้ยงโคบ้างโห่ร้องเล่นทำนองยกทัพรับอาสา
ตั้งหัวหน้าหนึ่งเป็นเจ้าชาวประชามีเสนาหมอบก้มประนมกร
เอาจอมปลวกต่างบัลลังก์นั่งบัญชาลงอาชญาผู้ผิดกิจสังหรณ์
เอาต้นกกต่างดาบปราบฟันฟอนถูกคนนอนมรณาน่าอัศจรรย์
พวกอำมาตย์ถ้วนทั่วเชิญหัวหน้าลงนาวาประโคมร้องฆ้องกลองสนั่น
ให้ครองศรีอโยธยาเป็นราชันย์ทรงนามนั้นสายน้ำผึ้งซึ่งก็มี
ว่าพระนามกษัตริย์สายน้ำผึ้งครองกรุงถึงสุโขทัยหาใช่ที่นี่
องค์เดียวกันหรือไฉนไม่ทราบดีแต่ก็มีเรื่องเกี่ยวข้อเดียวกัน
ว่าไปได้ธิดามหาประเทศกรุงจีนเขตห่างไกลไอศวรรย์
ได้เงินทองเภตราสารพันบริวารนั้นตามมาพาราไทย
ถึงบางกระจะพระเสด็จนิเวศน์ก่อนแล้วย้อนเสด็จกลับมารับใหม่
พระนางสร้อยดอกหมากมิอยากไปกลั้นพระทัยแดดิ้นจนสิ้นชนม์
พระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงให้สร้างวัดพระนางเชิงไว้ให้กุศล
ทั้งสร้างวัดกุฎีดาวคราวมงคลนิรมลมเหสีมีศรัทธา
ทรงสร้างวัดมเหยงค์ยังคงอยู่สังเกตดูตามทางแนวข้างขวา
พระเจดีย์เรียงรายสุดสายตาล้วนมหาเจดีย์มีมากองค์
จะเห็นได้ใช่ชั้นสามัญสร้างชำรุดร้างไม่มีใครใจประสงค์
แนวแม่น้ำเก่ายังอยู่เป็นคู่ตรงแต่ในพงศาวดารข้ามฐานมา
จับเอาครั้งตั้งกรุงเทพฯทวาราวดีลงบัญชีปึกแผ่นไว้แน่นหนา
ยกเอานามบุรีศรีอยุธยารวมเข้ามากล้ำกลืนเป็นพื้นเดียว
ก็เริดร้างอย่างอนาถขาดชะตากลายเป็นป่าอีกไม่มีที่แลเหลียว
ความจริงคนละเมืองต่างเรื่องเจียวคิดแล้วเหี่ยวแห้งใจครรไลลา
โอ้สิ่งใดก็ไม่เที่ยงทุกเยี่ยงอย่างจะก่อสร้างปึกแผ่นไว้แน่นหนา
ถึงหลอมเหล็กหล่อแล่นแผ่นศิลาก็ไม่ถาวรเที่ยงจะเถียงใย
มนุษย์เรากระดูกหนอเนื้อห่อหุ้มมันนิ่มนุ่มกระทบกระเทือนความเคลื่อนไหว
หรือจะอาจทนทานการณ์โลกัยย่อยบรรลัยเปื่อยเน่าไม่เนานาน
ความประพฤติดีและข้อทรลักษณ์นั่นแหละจักดำรงคงสัณฐาน
ไม่เปื่อยพังตั้งมั่นอันตรธานตลอดกาลฟ้าดินจะสิ้นไป
ถึงบ้านม้าม้าที่มีพยศทั้งโกงคดเหลือกำลังจะรั้งไหว
ขืนขับขี่มีแต่จะแพ้ภัยไม่ขอใกล้กายาของม้าโกง
กลัวม้าร้ายควายขวิดไม่ชิดใกล้มันก็ไม่มีเรื่องเครื่องโขมง
คนทมิฬหินชาติอุบาทว์โครงหลีกอยู่โพรงเขายังแผ่กระแสลาม
เกิดเป็นคนยากจะพ้นวิกลเหตุดังอยู่เขตรบระหว่างกลางสนาม
ล้วนแต่ศึกกึกก้องทำนองความมีสงครามกว่าชีวันจะบรรลัย
นั่งรำพึงถึงระยะมาบพระจันทร์ยิ่งร้าวรัญจวนจิตพิสมัย
ดวงจันทร์แจ่มแรมกลับมืดลับไปข้างขึ้นได้กลับมาแจ่มแอร่มตา
แต่ดวงพักตร์ลักขณาลี้ลาลับมิได้กลับมาเหมือนจันทร์ดั้นเวหา
จะชมอื่นเอี่ยมโอ่ทั่วโลกาไม่เหมือนหน้าคนรักประจักษ์ใจ
ถึงพระแก้วมิประสบพบพระแก้วแต่จิตแน่วถึงพระไม่ไถล
คำนึงถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นฉัตรชัยกั้นเกล้าทุกเช้าเย็น
มาถึงบ้านภาชีที่ใหญ่กว้างรถหลีกทางรางไขว่น่าใคร่เห็น
มีโรงใหญ่ปลูกขวางคร่อมทางเป็นกั้นร่มเช่นฝนแดดระแวดระวัง
รางรถค้อมอ้อมไปทั้งซ้ายขวาตัวสถานีวางอยู่กลางตั้ง
มีตลาดสองฟากดุจฉากประดังใต้ทางยังมีอุโมงค์เป็นโพรงยาว
เดินได้ตลอดลอดทางกว้างวากว่าคนไปมาทางนั้นกันอื้อฉาว
ได้ปลอดภัยรถไขว่กันระนาวถ้าเดินก้าวข้ามข้างบนรถชนตาย
เสียงจ้อกแจ้กจอแจกันแซ่ซ้องขนข้าวของขึ้นลงกลัวหลงหาย
ที่รู้จักทักถามความต้นปลายบ้างเรียกฝ่ายไกลเพียงสุ้มเสียงเครือ
ดูอะไรไม่เห็นยุ่งเท่าพุงมนุษย์ช่างแสนสุดยุ่งยากลำบากเหลือ
พอรุ่งเช้างันงกทั้งบกเรือวุ่นจนเหงื่อเป็นน้ำมันทุกวันไป
บ้างขายค้าหากำไรได้ง่ายคล่องแลกเปลี่ยนของสุจริตติดนิสัย
บ้างทุจริตบิดงอไม่ขอใครเห็นถ้าได้เป็นประชิดไม่คิดอาย
บ้างขี้เกียจทำงานขอทานเขาบ้านปล้นเอาซึ่งหน้าฆ่าเสียหาย
บ้างแย่งชิงวิ่งราวฉาวกระจายบ้างตะกายตลบตะแลงตะแคงลิ้น
สุดแต่ได้เอาทั้งนั้นไม่หวั่นหวาดได้โอกาสแล้วไม่เลือกกระเดือกปลิ้น
มิได้มีจรรยาเป็นอาจิณพอได้กินได้ผดุงให้พุงเต็ม
การกินอยู่มนุษย์นี้สุดยากต้องกินมากหลายประการคาวหวานเข้ม
ทั้งของอ่อนแข็งเคี้ยวรสเปรี้ยวเค็มต้องและเล็มตามคอหอยน้อยเมื่อไร
จะบรรจุเรือกำปั่นสักพันหมื่นให้เต็มพื้นแล้วมิต้องเติมของใหม่
บรรจุท้องมนุษย์นั้นทุกวันไปย่อมมิได้เต็มตามความยินดี
ถึงหนองวิวาทอยู่ดีไม่วิวาทเห็นต่างอาตม์ต่างอยู่ไม่สูสี
มนุษย์เราถ้าวิวาทขาดไมตรีไม่มีดีมีแต่ร้ายทำลายกัน
ทำอย่างใดจะให้เราเหล่ามนุษย์ละสมมุติโทโสไม่โมหันธ์
ไม่อิจฉาพยาบาทขาดสัมพันธ์ยุติธรรม์ถ้วนทั่วทุกตัวคน
แม้ผิดบ้างพลั้งให้อภัยผิดกระทำจิตมุ่งหมายฝ่ายกุศล
ไม่เบียนเบียดเสียดส่อก่อกังวลจะมีผลสุขศานติ์สำราญกัน
ถึงท่าเรือเมื่อสัปปุรุษไปพุทธบาทที่ชายหาดเรือเรียงเคียงมหันต์
ข้ามสะพานเหล็กรานสะท้านครันแล้วลอดขั้นสะพานไม้ครรไลคลา
เพราะที่ทางจอแจจำแก้ไขกลัวรถไฟจะทับดับสังขาร์
ช่างรอบคอบกอบโกยโปรยเมตตาโมทนาสิ่งที่ทำดีกระไร
หน้าสถานีใหญ่รถไฟหยุดสัปปุรุษเซ็งแซ่แลไสว
ทั้งทางบกทางนทีที่ใกล้ไกลพากันไปล้นหลามตามมรรคา
มีรถไฟสายน้อยคอยรับส่งฝ่าทุ่งดงเลียบเดินริมเนินผา
ผู้ที่ไปได้กุศลผลบูชาทั้งได้ค่าบันเทิงสำเริงรมย์
ไปเที่ยวเขาเข้าถ้ำดูน้ำบ่อได้เคลียคลอรวยรินชื่นกลิ่นฉม
ซื้อของลาวชาวต้องสู้เที่ยวดูชมขอบรมบูราณตระการครัน
ถึงบ้านหมอหมอยาหรือผ่าตัดช่วยกำจัดเชื้อโรคโศกกระศัลย์
ให้สูญหายได้สนิทไม่ติดพันไม่เห็นชั้นหมอกล้ามารับรอง
ไม่มีหมอท้อจิตคิดวิตกโอ้เอ๋ยอกเราเห็นต้องเป็นหนอง
เพราะโรครักหมักหมมระทมมองหมดทางช่องเยียวยารักษาเลย
ถึงหนองโดนโดนอีกตั้งกระมังนี่โดนแต่ที่ทุกข์ซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
มาจ่อตาว่าวุ่นดังคุ้นเคยพลางเมินเฉยชมตลาดสะอาดตา
มีโรงพักตำรวจตรวจผิดจับคอยระงับความทุกข์เป็นสุขา
ตามแผ่นดินราบรื่นล้วนพื้นนามีมรรคาไปถึงซึ่งคีรี
ใกล้มณฑปบริสุทธิ์พุทธบาทประชาราษฎร์ครึกครื้นในพื้นที่
ความเจริญเดินถึงพนาลีก็เพราะมีน้ำใช้ไม่กันดาร
ที่แห่งใดไร้น้ำสำคัญมากเจริญยากขัดสนผลอาหาร
ถ้ามีห้วยน้ำหนองคลองลำธารอาจตั้งบ้านตั้งหน้าการหากิน
ถึงบ้านกลับคิดใคร่กลับไปบ้านเคยสำราญสถิตนิจศีล
มานั่งเมื่อยเหนื่อยตาดูป่าดินกว่าถึงถิ่นกำหนดรันทดใจ
ถึงป่าหวายหวายเหนียวเป็นเกลียวเชือกมีแ...อกเหนียวแน่นแค่นไม่ไหว(ต้นฉบับขาดหายไป)
ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ใดมีเงินไม่มีโชคแก่โลกเอย
ที่เหลือล้นขนเข้าไว้ไม่จ่ายแจกตายจะแบกเอาไปได้ไฉนเอ๋ย
คิดบางคนจนยากอ้าปากเงยกินน้ำเคยนุ่งห่มโสมมมอม
ควรเมตตาการุณย์เจือจุนบ้างพอประทังร่างกายที่ผ่ายผอม
เหมือนช่วยคนเรือล่มระทมงอมกุศลย่อมจะได้หลายประการ
มาถึงลพบุรีทวีเศร้าเห็นซากเก่าปรางค์ปราสาทราชฐาน
สร้างลำดับนับกษัตริย์หลายรัชกาลเป็นบูราณนานครันกว่าพันปี
เดิมพระยากาวัณดิศราชให้พราหมณ์อำมาตย์มาสร้างถางถิ่นที่
ตั้งปราสาทราชวังทั้งมณฑีร์สิบเก้าปีพร้อมพรั่งทั้งอาราม
เมื่อพุทธศกดกพันเศษสองส่วนจุลสิบถ้วนระกาภาษาสยาม
เรียกว่าเมืองละโว้โสภณนามพันสี่สิบสามบรรจุธาตุพระศาสดา
จุลมีสี่สิบสองในปีเถาะอันงามเหมาะชูชาติศาสนา
ได้สองพรรษกษัตริย์ก็มรณาครั้นต่อมาพระยาศรีธรรมไตร
ปิฎกองค์ทรงภิเศกเจ้าไกรสรณ์ครองนครละโว้อันโตใหญ่
แล้วก็มาพระยาจันทปโชติไซร้ต่อมานัยจะสูญสิ้นบุญญา
ภายหลังจึงพระนารายณ์มหาราชโปรดประพาสเมืองละโว้อันโอ่อ่า
ให้สร้างซ่อมพร้อมหมดรจนาเปลี่ยนนามว่าลพบุรีที่ยิ่งยง
พระเดชาอำนาจราชประวัติสารพัดสมพระราชประสงค์
พอประชวรควรหรือหมดเดชยศลงเป็นน่าสงสารเหตุสังเวชใจ
ต้องกำจัดตัดอำนาจราชศักดิ์ไม่ปกปักษ์ข้าหลวงทั้งปวงได้
ทรงสลดรันทดพระราชหฤทัยเอาธงชัยอรหันต์กันผดุง
ทรงอุทิศปรางค์ปราสาทราชมณฑีร์ให้เป็นที่สีมาเขตวิสุง
บวชเสวกสามสิบสองปองบำรุงได้สมมุ่งทุกคนพ้นไพรี
ยังเหลือแต่พระปิยะไม่ละราชฉลองพระบาทบงกชบทศรี
กตัญญูรู้กตเวทีพวกไพรีผลักตกฟกบรรลัย
เป็นกษัตริย์ขัตติยามหาเดชต่างประเทศทั้งหลายไม่กรายใกล้
แต่เกิดมีศัตรูอยู่ภายในกระทำให้ราชอำนาจถึงขาดลอย
พิโรธล้ำดำรงองค์พระแสงจะตัดแล่งกบฏให้ถดถอย
ไม่สมหวังด้วยกำลังพระองค์น้อยวาโยพลอยพาท่านสวรรคต
ปลูกไม้ใหญ่ใกล้เรือนเหมือนเช่นว่าทับเคหาพังทลายกระจายหมด
ขับขี่ม้าตัวดีมีพยศแต่ว่าหมดกำลังจะรั้งไว้
ลพบุรีมีตำนานหลายท่านสร้างแต่ก็ร้างแล้วกลับต่อก่อสร้างใหม่
เป็นหลายครั้งหลายคราน่าอาลัยขอจงให้มีผู้สร้างอย่างร้างเลย
ข้างขวามือมีศาลพระกาฬสูงมีพวกฝูงลิงไพรอาศัยเฉย
ตามต้นไม้ใหญ่น้อยคอยก้มเงยคนที่เคยขึ้นไปไหว้พระกาฬ
ให้ขนมส้มกล้วยรวยกินเสมอถ้าใครเผลอไม่ได้ให้อาหาร
เข้าแย่งของจากกายหลายประการแล้วทะยานเอาไปทิ้งไว้กิ่งไม้
ต้องนำกล้วยอ้อยไปวางพลางเรียกหาเอาคืนมาเถิดเจ้าเราเปลี่ยนให้
รู้เหมือนคนเอามาวางอย่างเห็นใจรวบของไปกินพลางยื่นคางชู
บางทีขึ้นรถไฟไปเที่ยวป่านั่งหลังคาเต็มหมดไม่หดหู
คนไล่ขับกลับคะนองจ้องตาดูตะคอกขู่เลิกคิ้วพลิ้วร่างกาย
พอรถหยุดสถานีที่ประสงค์ก็เผ่นลงจากหลังคาเข้าป่าหาย
เที่ยวเสียสองสามคืนชื่นสบายแล้วก็ผายมาคอยท่าสถานี
พอรถไฟใช้จักรมาพักหยุดต่างรีบรุดขึ้นหลังคาไม่ล่าหนี
กลับยังที่เคยอยู่ลพบุรีสัตว์ยังมีใจสมัครรักถิ่นครอง
เราเกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐรักชาติเถิดบำรุงไว้อย่าให้หมอง
จงร่วมใจร่วมจิตคิดปรองดองอย่าคอยมองผิดกันฉะนั้นเลย
ถึงตำบลโคกกระเทียมเรียมวิโยคมาพบโคกกระเทียมซ้ำอีกกรรมเอ๋ย
หวนสะท้อนร้อนใจไม่เสบยจำแลเชยชมอื่นให้คืนคลาย
เห็นสีดินดำคล้ำดังหมึกมีไพรพฤกษ์ทัศนาภูผาหลาย
เป็นแนวทิววิเวกเทียมเมฆพรายจดสุดสายเนตรไม่หมดบรรพตเวียน
ถึงหนองเต่าเท้าสั้นกระนั้นเต่าแข่งเอาเจ้ากระต่ายแพ้พ่ายเลี่ยน
ถือขายาวก้าวไวไปจวนเจียนแต่เต่าเพียรเดินไม่หย่อนถึงก่อนพลัน
ความเพียรดีมีตำราว่าไว้มากแต่มิอยากทำตามเป็นความขัน
ไม่เพียรหาเพียรแต่จ่ายทุกรายวันจะป้องกันความจนได้กลใด
ถึงทรายขาวขาวหรือดำในน้ำจิตสุดที่จะพิศให้แจ้งแถลงไข
ที่ใจดำอำมหิตยิ่งพิษไฟภายนอกใสขาวช่วงหลอกปวงชน
ที่ภายนอกมัวคล้ำแต่น้ำจิตขาวสนิทใจฉ่ำดังน้ำฝน
เห็นใครมีทุกข์ร้อนช่วยผ่อนปรนถ้าดูคนดูแต่ผิวมักพลิ้วแพลง
ถึงบ้านหมี่มี่ก้องมองระเหิดเขาระเบิดภูผามาเป็นแผง
เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนแรงเอาเหล็กแทงพะเนินดอกออกกระจาย
ที่เป็นก้อนคอนขนขึ้นบนรถทำมีหมดทุกขนาดตามมาดหมาย
พ่วงรถไฟยาวยืดไม่ฝืดคลายส่งไปขายตามระยะพระนคร
เขามีเพียรไม่น้อยขุดต่อยหินเราขุดดินง่ายง่ายไม่สังหรณ์
ร้องลำบากยากเหนื่อยเมื่อยบาทกรจะนั่งนอนคอยท่าเวลาตาย
ศิลาแข็งแกร่งกล้าหนาแน่นสุดเขายังอุตส่าห์ทยอยงัดต่อยขาย
หวังได้เงินมาบำรุงผดุงกายให้สบายพูนสวัสดิ์วัฒนา
ถึงห้วยแก้วเงินหรือคือเหมือนแก้วถ้ามีแล้วก็อาจปรารถนา
นึกสิ่งใดได้สิ่งนั้นทันวิญญาณ์เขาบูชาเงินกันทุกวันมี
จะเลวทรามต่ำช้าถ้ามีทรัพย์เขามักนับว่าเลิศประเสริฐศรี
ที่ยากจนข้นแค้นถึงแสนดีเขาไม่ชี้เชิดชมนิยมยิน
ถึงจันเสนชื่อแฝงจันแดงแน่เป็นยาแก้โรคภัยได้ทั้งสิ้น
กล่าวกันว่าถ้าใครได้ไปกินจะมีอินทรีย์อ้วนเป็นนวลแดง
ไม่รู้แก่รู้ป่วยสวยเสมอหาไม่เจอกันสักคราเป็นน่าแหนง
ถ้าฉันพบจะผจญขนเต็มแรงเอามาแบ่งให้ทุกคนได้ฝนกิน
ไม่เจ็บป่วยสวยแท้ไม่แก่เฒ่ามนุษย์เราก็จะสมอารมณ์ถวิล
จะมีสุขสำราญปานเมืองอินทร์จะแสนยินดีตัวทั่วทุกมวล
ถึงช่องแคแลบุกค้นทุกช่องไม่เห็นร่องรอยใดฤทัยหวน
รถสะท้อนร้อนอบนั่งซบซวนยิ่งเรรวนใจหวามมาตามทาง
ถึงตำบลบ้านตาคลีนี้ประหลาดแผ่นดินดาดแดงทั่วไม่มัวหมาง
พฤกษาเขียวเกลียวกลมสมสำอางถึงห้วยหวายดินก็อย่างแดงต่างกัน
สีชมพูดูงามอร่ามฉายบ้านหนองโพธิดินก็คล้ายกับที่นั่น
แต่แดงสีมีคล้ำเป็นสำคัญบ้านหัวงิ้วก็เช่นนั้นช่างขันจริง
สี่ตำบลนี้กระมังครั้งพระรถฆ่ารากษสตัดแล่งเป็นแง่งขิง
ว่าเลือดนองพสุธาน่าประวิงมาเห็นสิ่งสีดินให้กินใจ
มาถึงบ้านมะกอกยิ่งชอกช้ำดังใครนำกรดมากรอกทุกซอกใส่
ปวดระทมโทมนัสดวงฤทัยโอ้เวรใดแน่หนอมาทรมาน
มาถึงบ้านเขาทองมองดูถิ่นเป็นเนินดินเหลืองแดงแข่งขนาน
รถไฟไปกลางเนินเหินทะยานถึงสถานอ่างหินดินธรรมดา
เถาวัลย์วกกกพันวรรณพฤกษ์เป็นเซิงซึกซึ้งไปไกลหนักหนา
ทั้งสองข้างป่าชัฏริมรัถยาสกุณาเคียงคลอกันจอแจ
เหมือนจะทักถามเราเจียวเจ้านกพลอยวิตกเห็นเรานั่งเศร้าแน่
โอปักษียังมีแก่ใจแท้มนุษย์แชเชือนชาไม่การุณย์
             

ถึงหนองปลิงปลิงทากต้องบากบิดกลัวเกาะติดทำให้หัวใจขุ่น
สูบโลหิตสดสดให้หมดทุนหลงวายวุ่นลงหนองจะต้องคราง
มาถึงปากน้ำโพโกลาหลเสียงผู้คนเซ็งแซ่แลสล้าง
รถหยุดยั้งบ้างลงบ้างตรงทางบ้างขนพลางหาบขนปนกันไป
บ้างขายของร้องถามตามหน้าต่างชูของพลางเชิญดูหมูเป็ดไก่
หมี่ก๋วยเตี๋ยวข้าวผัดถนัดใจข้ามต้มใส่ชามช้อนร้อนร้อนดี
ทั้งข้าวโพดข้าวหมากอ้อยและน้อยหน่าเสียงจ๊ะจ๋าซื้อกันสนั่นมี่
ได้ลงเดินชมจังหวัดฝั่งนทีเรือแพมีคับคั่งสองฝั่งชล
เป็นทางร่วมรวมสามแม่น้ำมาเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาโอฬาร์ผล
ได้ชื่นชุ่มภูมิพื้นรื่นกมลประชาชนขายซื้อกันอื้ออึง
ตลาดนี้สำคัญมากทางภาคเหนือทั้งบกเรือเป็นแอ่งที่แข็งขึง
ขนสินค้าคับคั่งเสียงดังตึงบ้างฉุดดึงไม้ซุงมุ่งทำแพ
นับพันหมื่นดื่นดาษดูกลาดกลุ้มเป็นที่ประชุมซื้อขายกระจายแพร่
บ้างค้าซุงเป็นเศรษฐีก็มีแท้บ้างค้าแพฝรั่งแขกจนแหลกลาญ
การค้าขายถ้าไม่มีไหวพริบย่อมจะฉิบหายป่นธนสาร
ไหวพริบไม่มีตำราและอาจารย์จะสอนอ่านเขียนให้ได้วิชา
ไหวพริบอาจเกิดจากเหตุสังเกตทั่วสิ่งดีชั่วเลวงามตามยถา
บรรดาได้เห็นรู้ทางหูตาพิจารณาโดยสุขุมมิสุ่มไป
จะบังเกิดวิทยาอันสามารถประจำอาตม์เป็นนิจติดนิสัย
เมื่อได้ยินได้เห็นการเช่นใดย่อมมีไหวพริบผับโดยฉับพลัน
จะขอกล่าวเปรียบเทียบไว้ถึงศรีธนญชัยคนขยัน
เป็นตลกหลวงสำคัญปัจจุบันคิดคล่องไม่ต้องนาน
ทรงธรรม์พันวษาลงสรงสนานองค์ในท้องธารละหาน
จึงมีพระราชโองการธนญชัยเจ้าชาญปรีชา
ถ้าเอ็งหลอกข้าขึ้นฝั่งได้จะตั้งให้ยงยศปรากฏกล้า
หลอกไม่ได้ไม่ไว้ชีวาเร่งว่าเร็วพลันจะบรรลัย
ธนญชัยไม่พรั่นหวั่นไหว
บังคมทูลยอหัตถ์บัดใจชีวิตอยู่ใต้บาทบงสุ์
แม้พระเสด็จขึ้นก่อนพอจะวอนทูลให้กลับไปสรง
นี่จนเกล้าอยู่เพราะรู้องค์แล้วแต่ทรงกรุณาข้าธุลี
กรุงกษัตริย์ตรัสว่าถ้าเช่นนั้นข้าจะผันผายขึ้นพื้นที่
จึงเสด็จจากฟากวารีอ้ายอวดดีจะหลอกบอกมา
ธนญชัยกราบปลกยกมือตั้งรับสั่งให้หลอกออกจากท่า
ก็ลวงองค์ขึ้นฝั่งดังจินดาพระกลับมารับสั่งดังนี้
จะให้ลวงล่อต่อไปเล่นกับไฟไม่พ้นเป็นผี
ผู้อื่นจะชอบตอบคดีพระองค์มีคุณตอบไม่ชอบทาง
พระรู้สึกเสียกลธนญชัยโปรดอภัยไม่ทรงอางขนาง
เสด็จกลับขึ้นคืนปรางค์ประทานรางวัลล้นธนญชัย
ดำรัสชมสมกายชายชาติสามารถเอากูแพ้รู้ได้
มีไหวพริบดีนี่กระไรคนใดมีวิชาสารพัน
แต่ไหวพริบปัจจุบันไม่ทันเพื่อนมัวคิดฝันเฝือนเหมือนฝัน
เสียประโยชน์โทษขำสำคัญไม่ทันที่เขาผู้เชาวน์ไว
ดูแต่พระมหากษัตริย์ยังตรัสชมผู้อุดมปฏิภาณวิตถารใหญ่
ชมนิยมชมชอบระบอบนัยซึ่งมิใช่เอาคารมเที่ยวข่มกัน
รถหยุดสิบนาทีที่กำหนดแล้วเคลื่อนรถจากตอนนครสวรรค์
ตามทางนี้ดีเหมาะเพาะปลูกกันกล้วยแลพันธุ์ข้าวโพดประโยชน์รวย
ที่ขายสดเหลือมากก็ตากแห้งคั่วขายแพงราคาดีกว่ากล้วย
เขาปลูกันแลตลอดยอดระทวยพระพายชวยริ้วริ้วเหมือนทิวธง
บ้านทับกฤชกฤชแขกแปลกภาษาดูไม่น่าจะคมสมประสงค์
ดาบของไทยใสขาวแบนยาวตรงใครเห็นทรงยำเยงกลัวเกรงคม
อันคมกฤชคมดาบย่อมทราบฤทธิ์แต่ดวงจิตคมเข้มทั้งเค็มขม
เห็นสุดรู้อยู่ลับดังจับลมไม่นั่งงมก็เหมือนนั่งรู้อย่างใด
มาถึงคลองปลากดกำสรดเศร้าให้ง่วงเหงาแทบกับจะหลับใหล
ตาไม่หลับแต่กลับเป็นหลับในจนรถไฟถึงชุมแสงจึงแจ้งการ
สถานีผู้คนดูล้นหลามบ้างหิ้วหามขึ้นลงส่งเสียงฉาน
ตลาดยาวยืดตั้งใกล้ฝั่งธารแม่น้ำน่านเรือแพเซ็งแซ่จริง
ทั้งตลาดหันหน้ามาทางรถขายของสดของแห้งทุกแจ้งสิ่ง
ยุ้งข้าวเจ๊กมากหนักหนามองตาวิงคอยแย่งชิงซื้อข้าวของชาวไทย
บรรทุกข้าวมาทางเกวียนเดียรดาษเป็นตลาดข้าวแท้แลไสว
เจ๊กหามขนเป็นพัลวันไปใส่ยุ้งไว้เต็มรักกักราคา
คอยฟังว่าราคาดีแล้วพี่เจ๊กก็ขายเขกเต็มแรงไม่แกล้งว่า
ทั้งพ่อพวกโรงสีก็ปรีดาแต่ชาวนาเหนื่อยมากกลับยากจน
เขาจนทรัพย์ขัดสนเพียรขวนขวายก็เหือดหายจนได้กำไรผล
ฉันจนจิตคิดตั้งหวังกมลมิได้พ้นจนใจแทบวายปราณ
ครั้นถึงบ้านวังกร่างค่อยสร่างหลับแต่กระสับกระส่ายหลายสถาน
ให้ปวดเศียรเวียนวิงนิ่งรำคาญไม่อุทานนั่นมองตามช่องแกล
แต่นิ่งยลถึงตำบลบางมูลนาคบ้านเรือนมากสะพรั่งฝั่งกระแส
ตลาดบกทางน้ำส่ำเรือนแพฉางข้าวแลวัดวาสถานี
คนขึ้นลงขายค้ากันหนาแน่นตามพื้นแผ่นดินแดงทุกแห่งที่
มีเกร็ดกล่าวว่านาคจากวารีแปลงอินทรีย์เป็นนางสำอางตา
มาภิรมย์สมพาสชาติมนุษย์จนเกิดบุตรผิดอย่างต่างภาษา
เป็นไข่ฟองใหญ่ประหลาดชาตินาคาแล้วหายหน้าไม่มีใครที่ได้พบ
ฝ่ายฟองไข่อยู่ชายกระแสสินธุ์กะเทาะบินขยายคลายประกบ
เป็นเด็กชายงามสะอ้านอาการครบออกนั่งตบน้ำเล่นน่าเอ็นดู
พากันไปถวายเด็กชายประหลาดก็องอาจเดินได้ในผลู
พระราชาปราโมทย์โปรดเชิดชูเลี้ยงไว้อยู่เป็นโอรสยศไกร
ภายหลังบุตรภุชงค์ผู้ทรงเดชได้ประเวศพนาพฤกษาไสว
ลงบังคนบ้านบ่นเหม็นกระไรขัดพระทัยสาปต้องเป็นของกลืน
ซึ่งติว่าเฝื่อนเหม็นจงเห็นหอมอย่าให้ยอมกินสวัสดิ์จงขัดขืน
ให้หนามเหนียวเกี่ยวยับดังสับฟืนจึงได้กลืนเนื้ออยากทำปากบอน
พระวาจาประสิทธิ์สฤษดิ์ผลเกิดเป็นต้นชูดอกออกสลอน
คือทุเรียนเดียรดาษกลาดดินดอนยังอีกตอนว่านั่งฝั่งคงคา
ทรงเสวยโภชนามีปลาทอดพระหัตถ์สอดแกะกระทั่งหมดมังสา
ยังแต่ก้างพระวางในธาราดำรัสปลาว่ายไปในสายชล
ก้างปลากลายว่ายน้ำบ้างดำผุดคนสมมติเรียกนามตามนุสนธิ์
ว่าพระร่วงร่วงมาแต่ฟ้าบนจึงฝูงคนเรียกมูลนาคติดปากมา
แต่พระราชพงศาวดารเหนือว่ากษัตริย์ชาติเชื้อพราหมณ์นาถา
นามอภัยคามมุนีศิลาจาริ์ไปรักษาองค์ศีลอภิญญาณ
ที่เขาใหญ่ไกลปราสาทราชนิเวศน์นาคแปลงเพศเป็นกัลยามาสมาน
พระชื่นชมนางนั้นเจ็ดวันวารนางกรายกรานทูลลาท้าวอาลัย
พระราชทานประวิชภูษิตทรงไว้ต่างองค์จงคิดพิสมัย
นางนาคาลาย่างลับร่างไปภูวนัยเศร้าสะอื้นกลับคืนวัง
ฝ่ายนาคีมีครรภ์แต่วันจากนางคลอดฝากผู้ใดไม่สมหวัง
พระฤๅษีหนีไปไม่จีรังนางทรุดนั่งแหวนผูกกรลูกยา
ทั้งผ้าทรงวงพันกระสันห่อของของพ่อให้อยู่ดูต่างหน้า
แล้ววางไว้ในบรรณศาลาพรานป่ามาพบกุมารสงสารครัน
พาไปเลี้ยงเพียงบุตรสุดถนอมอยู่กระท่อมตามยากสู้บากบั่น
สองคนกับภรรยาไม่อาธรรม์แต่ช่วยกันเลี้ยงมาได้กว่าปี
มาวันหนึ่งจึงท้าวอภัยราชสร้างปราสาทเพิ่มเติมเฉลิมศรี
อำมาตย์จึงเกณฑ์เหล่าชาวบุรีทำหน้าที่ถากไม้ไสกระดาน
ฝ่ายนายช่างตั้งเสาเอาขื่อทอดแล้วยกยอดปรางค์รวมสวมประสาน
ติดทวยเทพประนมพรหมประธานครุฑทะยานเหนี่ยวพระยาวาสุกรี
อันเครื่องบนต่างต่างวางสำเร็จทั้งมุขเด็จบุษบกยกขึ้นที่
ยังอยู่แต่พื้นล่างทางปัถพีรีบทวีแรงแต่งทุกแห่งการ
ฝ่ายพรานป่ามาทำประจำกิจเป็นห่วงคิดถึงบุตรสุดสงสาร
ให้ภรรยาพาเอาเจ้ากุมารพักชายชานปราสาทชัยในเวลา
สุริยงค์ส่งแสงอันแรงร้อนต้องเด็กอ่อนเหงื่อหลั่งตามมังสา
องค์ปราสาทไหวหวั่นเอนหันมาให้ฉายาร่มทรงองค์กุมาร
พระจอมเจ้านครินทร์ปิ่นประเทศได้ยลเหตุอัศจรรย์จึงบรรหาร
ให้สอบถามได้ความของประทานภูษาสร้านธำมรงค์ไม่สงกา
ท้าวปราโมทย์โปรดประกาศราชโอรสให้ทรงยศอำนาจวาสนา
ครั้นต่อไปได้เป็นพระราชาคนเรียกว่าพระร่วงตามท่วงที
คนละองค์หรือองค์เดียวกันแน่สุดจะแก้ปัญหาว่าคงที่
เพราะต่างคนต่างก็ว่าตำราดีตามแต่มีความเห็นกันเช่นใด
ดงตะขบไม่ประสบตะขบต้นเขาว่าคนขบไม่แตกแปลกหรือไม่
ผลมะตูมแข็งนอกออกง่ายใจมะกอกในแข็งกระด้างช่างต่างกัน
เมื่อพิเคราะห์ดูต้นผลไม้ช่างกระไรธรรมชาติประสาทสรรค์
มีลูกมิได้ผิดชนิดพันธุ์เป็นที่มั่นหมายแน่มิแปรปรวน
จะปลูกฝังหวังผลต้นอะไรก็ย่อมได้รับผลไม่พ้นส่วน
ลูกสิงห์สัตว์จัตุบาทอาจคำนวณมีลูกล้วนเหมือนพันธุ์ไม่ผันแปร
แต่ส่วนลูกมนุษย์สุดมุ่งหมายมักกลับกลายกล่นเกลื่อนไม่เหมือนแม่
ไม่เหมือนพ่อหนอช่างน่าชังแท้ควรหรือแชเชือนไปไกลพืชพันธุ์
ที่ลูกดีมีหน้าพาตระกูลเรืองจรูญดังผ่านพิมานสวรรค์
ที่ลูกชั่วตัวมารผลาญฉกรรจ์ครอบครัวนั้นก็ต้องตรมหนองบวม
ถึงตำบลตะพานหินถิ่นสถานอันสะพานเหมือนวิชารีบหาสวม
ใส่กายตนขนควบเร่งรวบรวมมัวแต่ต้วมเตี้ยมช้าหาไม่ทัน
รวยวิชาถ้ามีอุปสรรควิชาชักจูงตนพ้นอาถรรพณ์
ข้ามกันดารผ่านขุ่นคุณอนันต์ช่วยเลื่อนชั้นฐานาลาภาพูน
มาถึงบ้านคลองลาวกล่าวสำเหนียกช่างมาเรียกคลองลาวให้เค้าสูญ
ควรเรียกร้องคลองไทยให้ไพบูลย์สืบประยูรเผ่าพงศ์ของวงศ์ไทย
ถึงหัวดงพงรกปกคลุมเครือน่าเกรงเสือจะมาอยู่อาศัย
เรามานั่งพร้อมหมดบนรถไฟสัตว์ร้ายไม่หาญกล้ามาราวี
แต่มนุษย์สุทธิชาติอนาถหลายควรหรือกลายชาติเชื้อเป็นเสือหมี
อยู่บ้านเรือนนอนสบายไม่ว่าดีต้องหลบหนีกระดอนไปนอนดิน
หนุนรากไม้ใบหญ้าต่างผ้าหมอนต้องซุกซ่อนแอบตัวกลัวหัวบิ่น
ทั้งอดอยากปากแห้งแย่งเขากินมดยุงริ้นกัดตอมจนผอมโซ
เที่ยวฆ่าปล้นซนทำกรรมอุบาทว์ไม่พ้นราชอาชญามาอักโข
ประพฤติดีมีสัมมากัมมันโตจะภิญโญดีกว่าเจือเสือเป็นพาล
การเข้าใจตัวเองว่าเก่งกาจทำอำนาจวางโตอวดโวหาร
เที่ยวขัดใจขัดคอก่อรำคาญที่เขาคร้านหลีกตัวว่ากลัวตน
ยิ่งโอหังบังอาจประมาทหมิ่นไม่มองดินมองแต่ฟ้าคอยท่าฝน
ไม่ทำมาหากินปลอกปลิ้นชนไหนจะพ้นเวรกรรมนำบันดาล
บ้านวังกลมสร้างแต่ปางไหนก็มิได้แจ้งเค้าสำเนาสาร
หรือจะเป็นวังวนชลธารไม่ทราบการณ์เลยไม่ใส่ใจจำ
ถึงพิจิตรคิดคะนึงถึงขุนแผนชมว่าแสนเป็นเจ้าชู้ดูไม่ขำ
จากนางพิมไปทัพกลับมาทำให้พิมช้ำใจร้าวเพราะลาวทอง
เรือมาถึงบันไดไม่ขึ้นบ้านไม่สมานพิมให้คลายเศร้าหมอง
หล่อนละห้อยคอยท่าน้ำตานองไม่เข้าห้องหอขุนช้างอย่างเห็นใจ
เพราะความรักขุนแผนแสนสวาทแม่เกรี้ยวกราดเฆี่ยนป่นสู้ทนได้
รู้ผัวกลับวิ่งมารับถึงบันไดขุนแผนไม่เที่ยงธรรมนำเหตุเอง
แล้วกลับมาพาหนีสู่พิจิตรนี่ก็ผิดอีกกรรมทำข่มเหง
พระไวยรับแม่มาหากริ่งเกรงกลับใช้เพลงเจ้าชู้อีกไม่หลีกกลัว
กระทำจนวันทองต้องโทษตายขุนแผนร้ายวันทองจึงต้องชั่ว
พระพันวษาก็กระไรไปพันพัวเรื่องส่วนตัวเอาเขาฆ่าน่ารำคาญ
จะฆ่ากันให้บรรลัยทำไมหนาคนเกิดมาต้องตายเองเพลงสังขาร
ใครจะอยู่คู่ฟ้าสุธาธารไม่ช้านานเท่าใดในระวาง
พิจิตรเมืองโบราณนัยการกล่าวว่าลูกท้าวโคตะบองปกครองสร้าง
ยังมีซากอิฐกำแพงพอแจ้งทางเมืองวัดร้างหญ้ารกขึ้นปกคลุม
พิจิตรใหม่ย้ายมาอยู่แม่น้ำน่านภูมิสถานใหญ่กว้างอย่างสุขุม
มีบึงมากนักหนาข้าวปลาชุมเพราะน้ำชุ่มชื้นชะกสิการ
เดิมชื่อเมืองสระหลวงทบวงเก่าพื้นที่เล่าใหญ่โตรโหฐาร
มีบึงใหญ่ดังทะเลคะเนการกว้างประมาณเจ็ดพันไร่น่าใคร่ชม
ปลูกบัวหลวงช่วงโชติประโยชน์หลายเก็บเมล็ดขายบรรทุกเกวียนเดียรดาษถม
เป็นสินค้าหากำไรได้อุดมควรนิยมกันปองแต่ของไทย
เมล็ดบัวกินดีมีกำลังทำได้ทั้งคาวหวานสมานไส้
ทำเป็นแป้งแห้งเก็บไปกินไกลดัดแปลงได้โอชาสารพัน
อุตริตริอย่างใดอยากให้บอกซื้อของนอกกินกันเล่นไม่เห็นขัน
ให้เงินทองล่องไหลไปทุกวันค่าน้ำมันเราก็แย่ยังแส่กิน
การกินอยู่ฟูฟ่องเป็นของง่ายการหาเงินยากหลายแทบตายสิ้น
เห็นแต่กินพล่อยพล่อยอร่อยลิ้นมิได้จินตนานัยครวจไตร่ตรอง
ถึงท่าฬ่อล่อหลอกกันออกฉาวให้นึกหนาวร้อนตัวกลัวสยอง
กลัวทั่งล่อทั้งชนขนหัวพองขอจงผ่องพ้นล่อจนมรณา
บ้านกระท่อมคิดดูอยู่กระท่อมมีกินพร้อมนุ่งห่มพอสมหน้า
ไม่มีหนี้ไม่มีผู้บีฑาก็ดีกว่าอยู่สถานบ้านโตโต
แต่ขัดสนจนทวีเจ้าหนี้แหนบเหมือนคับแคบทั้งศัตรูก็ขู่โห่
งานสะบักสะบอมเผือดผอมโซต้องโอดโอ้ประดาษอนาถตา
ไร้วิชาอาหารกันดารกิจสิ้นลาภยศหมดมิตรเสน่หา
ถึงอยู่ตึกเจ็ดชั้นสุวรรณทาก็ไม่ผาสุกจิตเหมือนติดกรง
ถึงแม่เทียบเห็นแต่ป่าไร่นาอ้อยตะวันคล้อยลับไม้ไพรระหง
ให้หวิวหวิวรันทดสลดทรงนั่งบรรจงตัวไปหัวใจลอย
ถึงบ้านใหม่เขาปองแต่ของใหม่ของเก่าไม่รักษาน่าละห้อย
เห็นเป็นเก่าแก่แล้วยังนั่งตะบอยยังไม่ค่อยจะตายช่างร้ายจริง
อันของใหม่อาศัยเก่าเอากำเนิดใช่จะเกิดอุปาติกะระดะสิ่ง
ย่อมได้นามชลัมพุชยุดพึ่งพิงควรหรือชิงชังทำใจลำเอียง
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

รถไฟไทยดอทคอม [1]

เครื่องมือส่วนตัว