บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸ªà¸±à¸‡à¸‚์ทà¸à¸‡
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
												
			
		 (→ตอนที่ ๗ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ)  | 
		 (→ตอนที่ ๘ พระสังข์ตีคลี)  | 
		||
| แถว 4,426: | แถว 4,426: | ||
</tpoem>  | </tpoem>  | ||
===ตอนที่ ๘ พระสังข์ตีคลี===  | ===ตอนที่ ๘ พระสังข์ตีคลี===  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | <sub>ยานี</sub>  | ||
| + | ๏ มาจะกล่าวบทไป   ถึงท้าวสหัสนัยตรัยตรึงศา  | ||
| + | ทิพอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา   กระด้างดังศิลาประหลาดใจ  | ||
| + | จะมีเหตุมั่นแม่นในแดนดิน   อมรินทร์เร่งคิดสงสัย  | ||
| + | จึงสอดส่องทิพเนตรดูเหตุภัย   ก็แจ้งใจในนางรจนา  | ||
| + | แม้นมิไปช่วยจะม้วยมอด   ด้วยสังข์ทองไม่ถอดรูปเงาะป่า  | ||
| + | จำจะยกพหลพลเทวา   ลงไปล้อมพาราสามนต์ไว้  | ||
| + | ชวนเจ้าธานีตีคลีพนัน   น้ำหน้ามันจะสู้ใครได้  | ||
| + | จะขู่ให้งันงกตกใจ   ออกไปหาบุตรสุดท้อง  | ||
| + | พระสังข์ครั้งนี้จะถอดเงาะ   งามเหมาะไม่มีเสมอสอง  | ||
| + | พ่อตาจะได้เห็นเป็นรูปทอง   ทั้งทำนองเพลงคลีตีต่อยุทธ์  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ คิดพลางทางมีพจนารถ   สั่งมาตุลีเทพบุตร  | ||
| + | จงเตรียมพลเทวาถืออาวุธ   นิมิตเหมือนมนุษย์ชาวพารา  | ||
| + | ทั้งหน้าหลังตั้งตามกระบวนทัพ   ให้เสร็จสรรพปีกซ้ายปีกขวา  | ||
| + | เราจะยกพลไกรไคลคลา   ไปล้อมพาราท้าวสามนต์  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   มาตุลีกราบงามลงสามหน  | ||
| + | รีบออกมานอกไพชยนต์   เตรียมพลเทวัญมิทันนาน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ ปฐม เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   อมรินทร์อินทร์องค์สรงสนาน  | ||
| + | สอดใส่เครื่องทรงอลงการ   เนาวรัตน์ชัชวาลวาวแวว  | ||
| + | แล้วลีลามาทรงเวไชยันต์   ยกทัพเทวัญเป็นถ้องแถว  | ||
| + | เดินโดยอากาศกคลาดแคล้ว   รีบขับรถแก้วลงมาพลัน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ กราวนอก เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงพาราสามนต์   ขับพลเข้าล้อมเขตขัณฑ์  | ||
| + | ตั้งค่ายรายรอบเรียงรัน   ปักธงสำคัญทุกหมวดกอง  | ||
| + | แล้วยิงปืนมณฑกนกสับ   ปล่อยตับตึงตังดังก้อง  | ||
| + | บ้างทำสิงหนาถฆาตฆ้องกลอง   โห่ร้องสำทับให้เกรงกลัว  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ รัว  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ชาวเมืองทั้งสิ้นได้ยินทั่ว  | ||
| + | ตื่นตระหนกตกใจจวนตัว   จะยักย้ายครอบครัวก็ไม่ทัน  | ||
| + | ต่างคนลนลานทุกบ้านช่อง   เสลือกสลนขนของเชี่ยนขัน  | ||
| + | หอบที่นอนหมอนฟูกผูกพัน   ถามกันว่าจะไปข้างไหนดี  | ||
| + | บ้างอุ้มบุตรฉุดมือเมียมา   ไหว้วอนพ่อตาให้พาหนี  | ||
| + | ลูกหลานรุงรังครั้งนี้   มิรู้ที่จะแอบแฝงอยู่แห่งไร  | ||
| + | บ้างปืนขึ้นแย่งฝาหลังคาเรือน   สำคัญฟั่นเฟื่อนว่าไฟไหม้  | ||
| + | ขนเอาข้าวของลงกองไว้   ร้องไห้เรียกหากันอึงอล  | ||
| + | พวกผู้หญิงสาวแก่แม่ค้า   ตกใจคิดว่าขโมยปล้น  | ||
| + | เบี้ยข้าวเททิ้งแล้ววิ่งวน   แน่นถนนปนไปกับผู้ชาย  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ พวกพระยาพระหลวงทั้งปวงนั้น   ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหาย  | ||
| + | ไม่รู้เหตุผลต้นปลาย   ชวนกันผันผายเข้าวังใน  | ||
| + | ครั้นถึงศาลาหน้าประตู   พอเพลาเช้าตรู่ประแจไข  | ||
| + | ร้องเรียกเถ้าแก่ออกแซ่ไป   เร่งให้ปลุกบรรทมบังคมทูล  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ราชนเรนทร์สูร  | ||
| + | หลับอยู่ไม่รู้เค้ามูล   แว่วเสียงสนมทูลก็ตกใจ  | ||
| + | ผวาตื่นฟื้นตัวยังมัวเมีย   งัวเงียโงกหงับหลับไปใหม่  | ||
| + | นางมณฑาตื่นก่อนนอนไว   หลงใหลทะลึ่งลุกปลุกสามี  | ||
| + | ท้าวสามนต์ละเมอเพ้อพำ   คิดว่าผีอำทำอู้อี้  | ||
| + | ลุกขึ้นแก้ฝันขันสิ้นที   เห็นจะดีหรือร้ายช่วยทายดู  | ||
| + | นางมณฑาว่าไฮ้อะไรนั่น   ยังจะมาแก้ฝันกันอยู่  | ||
| + | เสียงคนอึงมี่ที่ประตู   เป็นอย่างไรไม่รู้เลยพ่อคุณ  | ||
| + | ท้าวสามนต์หวาดหวั่นพรั่นพระทัย   เหลียวมาคว้าได้ดาบญี่ปุ่น  | ||
| + | งกเงิ่นเดินด่วนซวนซุน   เมียรุนหลังส่งตรงออกมา  | ||
| + | เปิดพระแกลแลเห็นเสนี   อึงมี่คึกคักหนักหนา  | ||
| + | ร้องถามลงไปมิได้ช้า   อ้ายเงาะมันเข้ามาหรือว่าไร  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนาข้าเฝ้าน้อยใหญ่  | ||
| + | ได้ยินสุรเสียงท้าวไท   ต่างคลานเข้าไปตรงบัญชร  | ||
| + | พิดทูลถ้อยคำละล่ำละลัก   หายใจหอบฮักขยักขย่อน  | ||
| + | ไม่รู้ว่าใครมาล้อมนคร   พระภูธรจงทราบพระบาทา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ตระหนกตกประหม่า  | ||
| + | ให้คิดคร้ามครั่นหวั่นวิญญาณ์   เหลียวซ้ายแลขวาละล้าละลัง  | ||
| + | ความกลัวตัวสั่นงันงก   เพ้อพกพูดจาเหมือนบ้าหลัง  | ||
| + | ค่อยกระซิบถามเมียเงี่ยหูฟัง   เสียงอะไรตึงตังดังเหมือนปืน  | ||
| + | เอ๊ะกูอยู่แล้วนะเสนี   เห็นไพรีจะมากมายหลายหมื่น  | ||
| + | นี่หากว่ากล้าหาญพานยั่งยืน   จึงไม่ตื่นตระหนกตกใจ  | ||
| + | เสียแต่แก่ชราหูตามัว   ทั้งตัวก็เจ็บปวดป่วยไข้  | ||
| + | ถ้าหนุ่มแน่นแม้นเหมือนแต่ก่อนไซร้   จะเกรงกลัวอะไรกับไพรี  | ||
| + | เหวยหมู่มาตยาข้าเฝ้า   อย่างไรเล่าเราจะสู้หรือจะหนี  | ||
| + | กูเห็นเหลือกำลังแล้วครั้งนี้   สุดที่จะต้านต่อให้ท้อแท้  | ||
| + | ได้ยินคนข้างหลังกระทั่งไอ   ตกใจจริงจริงออกวิ่งแร่  | ||
| + | ร้องเรียกเมียตัวสั่นว่านั่นแน   เสียงแซ่น่ากลัวทั้งรั้ววัง  | ||
| + | ลูกเขยของกูมันอยู่ไหน   จะให้ไปต่อสู้ดูสักตั้ง  | ||
| + | ขัดเขมรเหม่นเหม่ทำเก้กัง   ปากโป้งโผงดังสั่งเสนี  | ||
| + | เร็วเร็วเร่งรัดจัดโยธา   ขึ้นพิทักษ์รักษาหน้าที่  | ||
| + | นายมูลขุนหมื่นพื้นตัวดี   กินเบี้ยหวัดผ้าปีมีมากมาย  | ||
| + | เกณฑ์ให้ประจำซองป้องกัน   ระวังตัวกลัวมันจะปืนป่าย  | ||
| + | ประตูทั้งสี่ทิศให้ปิดตาย   แล้วคั่วทรายคั่วกรวดเตรียมไว้  | ||
| + | ฯ ๑๘ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนาข้าเฝ้าน้อยใหญ่  | ||
| + | บังคมลงพากันออกไป   เรียกหาบ่าวไพร่วุ่นวาย  | ||
| + | พวกเหล่าชาวคลังชาวแสง   เอาเสื้อแดงปืนผาออกมาจ่าย  | ||
| + | แล้วขับไพร่ให้ขึ้นเชิงเทินราย   ตัวนายถือดาบตรวจดู  | ||
| + | บ้างลากปืนใหญ่ขึ้นใส่ช่อง   ถือชุดจุดจ้องเทดินหู  | ||
| + | เร่งกันลั่นดาลบานประตู   เป็นหมู่หมุ่เยียดยัดอัดไป  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   องค์ท้าวมัฆวานเป็นใหญ่  | ||
| + | สั่งพระวิษณุกรรมทันใด   จงแต่งสารถือไปในเมือง  | ||
| + | บอกพระยาสามนต์มาตีคลี   พนันเอาบุรีให้ลือเลื่อง  | ||
| + | แม้นแพ้เราอย่าพักยักเยื้อง   จะริบเอาบ้านเมืองเสียบัดนี้  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   พระวิษณุกรมมเรืองศรี  | ||
| + | รับสั่งพระอินทร์ด้วยยินดี   อัญชลีแล้วลามาพลัน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถืงประตูพระนคร   เห็นใส่กลอนมั่นคงลงเขื่อนขัณฑ์  | ||
| + | คนรักษาหน้าที่นี่นัน   เทวัญร้องเรียกให้เปิดรับ  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ขุนหมื่นเฝ้าประตูผู้กำกับ  | ||
| + | จึงตอบว่าท่านมาแต่กองทัพ   จะเปิดรับไม่ได้อย่าเข้ามา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า  | ||
| + | ผาดแผลงสำแดงฤทธา   เท้าถีบทวาราทลายลง  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เห็นพวกรักษาหน้าที่   วิ่งหนีเกลื่อนกลาดตวาดส่ง  | ||
| + | แกล้งทำสิงหนาทอาจอง   เดินตรงเข้าพระโรงรจนา  | ||
| + | เห็นท้าวสามนต์อยู่บนอาสน์   หมู่อำมาตย์เฝ้าแหนแน่นหนา  | ||
| + | แกล้งกรายหัวข้าเฝ้าเข้ามา   ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าธานี  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ลนลานจะวิ่งหนี  | ||
| + | นางมณฑาคร่ามือไว้ทันที   ท้าวได้สมประดีก็แลดู  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ คิดได้ไพรีมาคนเดียว   ถึงรบรับขับเคี่ยวพอต่อสู้  | ||
| + | จึงร้องเรียกเสนีอย่าหนีกู   แล้วนิ่งดูท่วงทีกิริยา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า  | ||
| + | เสแสร้งแกล้งกล่าววาจา   เหวยเหวยพระยาเจ้าธานี  | ||
| + | จงก้มเกล้าเคารพอภิวาท   คอยสดับรับราชสารศรี  | ||
| + | นายเราให้มาว่าโดยดี   แล้วคลี่ราชสารออกอ่านไป  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ช้า</sub>  | ||
| + | ๏ ในสารว่าองค์พระทรงเดช   มงกุฎเกศกษัตริย์เป็นใหญ่  | ||
| + | ยกทัพมาประชิดติดเวียงชัย   มิใช่จะณรงค์สงคราม  | ||
| + | ให้พระยาสามนต์คนดี   มาตีคลีพนันในสนาม  | ||
| + | จะได้มีเกียรติยศปรากฏนาม   ให้ชีพราหมณ์ราชครูดูเป็นกลาง  | ||
| + | แม้นเราแพ้แก่ท่านในการเล่น   จะยอมเป็นเมืองขึ้นไม่ขัดขวาง  | ||
| + | เราชนะจะรีบไม่ละวาง   สาวสรรค์กำนัลนางเป็นของเรา  | ||
| + | ในวันนี้มิออกมาเล่นคลี   จะเข้าตีกรุงไกรเอาไฟเผา  | ||
| + | ท้าวสามนต์แม้นรู้อย่าดูเบา   จะวอดวายตายเปล่าทั้งเวียงชัย  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ ครั้นอ่านสิ้นสาราจึงว่ากล่าว   นี่แน่ท้าวสามนต์เป็นใหญ่  | ||
| + | นั่งนิ่งก้มหน้าอยู่ว่าไร   จะต่อตีหรือไม่จงบอกมา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ตัวสั่นพรั่นนักหนา  | ||
| + | ทำหน้าเซียวเหลียวดูนางมณฑา   หูตาบ้องแบวเหมือนแมวคราว  | ||
| + | เรียกเมียว่าช่วยพี่ด้วยซิ   สิ้นสติตกประหม่าตาขาว  | ||
| + | ความกลัวตัวสั่นอยู่ท้าวท้าว   มันให้หนาวสะท้านรำคาญใจ  | ||
| + | แล้วคิดว่าหกเขยของเรานี้   จะตีคลีต้านต่อเห็นพอได้  | ||
| + | ลุกขึ้นยืนยิ้มย่องร้องตอบไป   เราไม่ย่อท้อต่อไพรี  | ||
| + | ท่านอย่าฮึกฮักไปนักเลย   ออเขยทั้งหกมันไม่หนี  | ||
| + | จะแต่งให้ไปต้านตีคลี   ใครดีได้กันไม่พรั่นพรึง  | ||
| + | ท่านจงกลับออกไปบอกนาย   ผัดพอตะวันบ่ายสักหน่อยหนึ่ง  | ||
| + | พระแกล้งอวดโป้งโผงอึง   ตั้งปึ่งขึงไว้เหมือนไม่กลัว  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระวิษณุกรรมก็ยิ้มหัว  | ||
| + | นี่แน่ท้าวสามนต์คนเมามัว   ใจคอพอตัวยังชั่วครัน  | ||
| + | พูดจาปากกล้าแต่ตาขาว   เนื้อแท้ท้าวก็กลัวจนตัวสั่น  | ||
| + | จะให้หกเขยตีคลีพนัน   ว่าให้แม่นมั่นเหมือนสัญญา  | ||
| + | แม้นไม่ออกไปสนามตามกำหนด   มิริบลูกเมียหมดก็จึงว่า  | ||
| + | แกล้งขู่สำทับกำชับกำชา   แล้วเทวารีบกลับไปฉับไว  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์คิดพรั่นหวั่นไหว  | ||
| + | จึงตรัสแก่เขยขวัญทันใด   จนใจด้วยบิดาชราแล้ว  | ||
| + | ถ้ากำลังยังหนุ่มเหมือนแต่ก่อน   พ่อไม่ให้ร้อนถึงลูกแก้ว  | ||
| + | เมื่อกระนั้นหาอีกมันหลีกแคล้ว   ไม่อาจมาว่องแววโดยยำเกรง  | ||
| + | เดี๋ยวนี้เห็นบิดาชราลง   จึงทะนงอวดกล้ามาข่มเหง  | ||
| + | ขัดใจจะใคร่ออกตีเอง   แต่กริ่งเกรงตาหูไม่สู้ไว  | ||
| + | เจ้าหนุ่มแน่นแทนพ่อออกตีคลี   แก้กู้บุรีไว้ให้ได้  | ||
| + | เหมือนช่วยยกหน้าพ่อตาไว้   อย่าให้อัปยศอดอาย  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยคิดพรั่นขวัญหาย  | ||
| + | มิรู้ที่ทำกระไรให้วุ่นวาย   แต่เหลียวซ้ายเหลียวขวาดูตากัน  | ||
| + | จำเป็นจำรับวาจา   ลูกจะขออาสาพระอย่าพรั่น  | ||
| + | ว่าพลางทางถวายบังคมคัล   ลาไปตำหนักพลันทันที  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงสั่งข้าไท   เร่งผูกมโนมัยที่เคยขี่  | ||
| + | รับสั่งใช้ให้ออกไปตีคลี   ครั้งนี้หนักอกหนักใจ  | ||
| + | แพ้ชนะอย่างไรก็ไม่รู้   จะลองสู้ดูสักทีหาหนีไม่  | ||
| + | เร่งรัดจัดแจงแต่งตัวไว้   บรรดาเหล่าบ่าวไพร่ให้พร้อมพรัก  | ||
| + | ว่าพลางทางขึ้นบนชาลา   เปิดประตูเข้ามาในตำหนัก  | ||
| + | นั่งแอบแนบนางเมียรัก   ทุกข์นักก้มหน้าไม่พาที  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ทั้งหกธิดามารศรี  | ||
| + | ประหลาดใจนักหนาเห็นสามี   ท่วงทีทุกข์ร้อนถอนฤทัย  | ||
| + | นางจึงถามไถ่เป็นไรหม่อม   จึงหน้ามอมหมองคล้ำดำไหม้  | ||
| + | หรือบิดากริ้วโกรธทำโทษภัย   จงบอกให้ประจักษ์ที่หนักเบา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยหน้าจ๋อยหงอยเหงา  | ||
| + | ความทุกข์เหลือกำลังนั่งเขา   บอกเล่าเมียมิ่งทุกสิ่งอัน  | ||
| + | บัดนี้พระบิดาบัญชาใช้   ท่านวางใจว่าพี่นี้ขยัน  | ||
| + | ขืนให้ไปตีคลีพนัน   จะผ่อนผันฉันใดก็สุดคิด  | ||
| + | อันวิชาเช่นนี้เจ้าพี่เอ๋ย   ไม่ได้ร่ำเรียนเลยแต่สักหนิด  | ||
| + | ขุกเอาเดี๋ยวนี้ดั่งนิมิต   ต้องจนจิตซังตายตะกายไป  | ||
| + | โฉมยงจงไปคอยดูพี่   อยู่ที่พลับพลาทองผ่องใส  | ||
| + | จะได้ภาวนาช่วยอวยชัย   เหมือนทัพหนุนอุ่นใจไม่สู้กลัว  | ||
| + | ถึงพลั้งพลาดมาตรแม้นสติเสีย   เห็นหน้าเมียอยู่มั่งค่อยยังชั่ว  | ||
| + | แต่ลำพังยังไม่ไว้ใจตัว   เจ้าไปเป็นเพื่อนผัวไม่กลัวใคร  | ||
| + | ว่าพลางจรลีเข้าที่สรง   แต่งองค์ทางเครื่องล้วนใหม่ใหม่  | ||
| + | ส่องกระจกดูเงาเศร้าเสียใจ   จมูกใบหูวิ่นสิ้นงาม  | ||
| + | แล้วลีลามาทรงม้าที่นั่ง   บ่าวไพร่ตามหลังจนออกหลาม  | ||
| + | หกนางนึกประหวั่นครั่นคร้าม   ขี่วอคนหามตามผัวมา  | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงราชฐานทวารวัง   เขาบอกว่ารับสั่งคอยท่า  | ||
| + | จึงลนลานลงจากหลังม้า   ไปเฝ้าพ่อตาไม่ช้าเลย  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ครั้นเห็นหกเขย  | ||
| + | แสนสำราญอารมณ์ชมเชย   ลูกเอ๋ยแต่งตัวเต็มประดา  | ||
| + | เจ้าจะไปตีคลีวันนี้ไซร้   จงตั้งใจตั้งคอนะพ่อหนา  | ||
| + | อย่าให้อายขายพักตร์พ่อตา   แก้กู้พาราเอาหน้าไว้  | ||
| + | ว่าพลางย่างเยื้องจรจรัล   มาสรงน้ำที่ขันสาครใหญ่  | ||
| + | ตักวารีรดหมดเหงื่อไคล   ลูบไล้แป้งกระแจะจันทน์ปรุง  | ||
| + | ใส่เสื้อก้านแย่งแต่งเต็มที่   ผ้ายกอย่างดีเอาออกนุ่ง  | ||
| + | แล้วหยิบเจียระบาดมาคาดพุง   ทรงเครื่องเรืองรุ่งระยับตา  | ||
| + | สวมสอดกำไลใส่แหวนหัว   เพ่งพิศดูตัวงามหนักหนา  | ||
| + | นั่งมองส่องกระจกใส่ชฎา   เจ้ามณฑาดูทีดีหรือเอียง  | ||
| + | ครั้นเสร็จเสด็จทรงคชสาร   ทวยหาญโห่ลั่นสนั่นเสียง  | ||
| + | ซ้ายขวาม้าลูกเขยเป็นคู่เคียง   พร้อมเพรียงไพร่พลมนตรี  | ||
| + | เมียรักร่วมจิตกับธิดา   ขี่วอช่อฟ้าหลังคาสี  | ||
| + | เถ้าแก่กำนัลขันที   ตามเสด็จเทวีมาคึกคัก  | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนพลับพลา   ทั้งธิดามเหสีมีศักดิ์  | ||
| + | ท้าวสามนต์นั่งอิงพิงพนัก   อกใจทึกทักครั่นคร้าม  | ||
| + | ไพร่ฟ้ามาดูตีคลี   คับคั่งทั้งที่ท้องสนาม  | ||
| + | ตำรวจในไล่บุกคุกคาม   ห้ามปรามคนยืนหน้าพลับพลา  | ||
| + | หกเขยขับม้าออกมายืนที่   เห็นไพรีนับแสนแน่นหนา  | ||
| + | ต่างคนคิดพรั่นหวั่นวิญญาณ์   ชักม้าเกะกะปะทะกัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   อมรินทร์ปิ่นภพสรวงสวรรค์  | ||
| + | เห็นหกเขยมาตีคลีพนัน   ก็ลงจากสุวรรณพลับพลาชัย  | ||
| + | ทรงม้าวลาหกผกโผน   กระทืบโกลนแกล้งขับเข้ามาใกล้  | ||
| + | ร้องสำทับทั้งหกให้ตกใจ   พวกนี้หรือไรจะสู้เรา  | ||
| + | หน้าตาจมูกหูดูชอบกล   ช่างเหมือนกันทุกคนเจียวหนอเจ้า  | ||
| + | เห็นจะดีทายาดดูลาดเลา   เป็นลูกเต้าผ่าพงศ์ผู้ใด  | ||
| + | เลือกสรรกันมาล้วนตัวดี   ตีคลีมีฝีมือหรือไฉน  | ||
| + | จงเร่งบอกเราให้เข้าใจ   จึงจะได้สู้กันพนันเมือง  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยหน้าจ๋อยหงอยเหงื่อง  | ||
| + | อัปยศอายระคายเคือง   ต่างชำเลืองเหลียวมาดูตากัน  | ||
| + | เขยใหญ่ยิ้มแห้งแกล้งแก้หน้า   จึงร้องว่าพ่อเอ๋ยอย่าเย้ยหยัน  | ||
| + | ข้ามิใช่ชายชั่วตัวสำคัญ   แต่ล้วนลุกเขยขวัญท้าวสามนต์  | ||
| + | เรารับอาสาออกมานี้   จะตีคลีต่อสู้ดูสักหน  | ||
| + | ไม่ย่อท้อถอยหลังทั้งหกคน   ตามจนจะแก้หน้าพ่อตาไว้  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   โกสีย์ยิ้มแย้มเฉลยไข  | ||
| + | ลูกเขยเจ้าพาราแล้วว่าไย   ช่างกระไรไม่ชั่วล้วนตัวดี  | ||
| + | เร่งมาตีคลีสู้ดูฝีมือ   ให้ร่ำลือเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี  | ||
| + | ว่าพลางชักม้าเป็นท่วงที   แล้วเดาะคลีตีไปมิได้ช้า  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยตระหนกตกประหม่า  | ||
| + | เอามือขึ้นช่วยรับแล้วหลับตา   คนฮาโห่สนั่นยิ่งงันงก  | ||
| + | ต่างเข้าตะลุมบอนช้อนคลี   พาชีชุลมุนมุ่นหก  | ||
| + | ทำพยศหันเหียนเวียนวก   พลัดตกลงมาขาแพลง  | ||
| + | บ้างเดาะคลีตีผิดไปเป็นวา   เหลียวดูภรรยาแล้วยิ้มแห้ง  | ||
| + | อาชาพาโผนโดนกำแพง   สิ้นแรงร้องโยคนโห่เกรียว  | ||
| + | ที่ขี่ม้าไม่เป็นเต้นสามขา   ฉุดคร่าสายถือสองมือเหนี่ยว  | ||
| + | คิดกลัวพ่อตาทำหน้าเซียว   มันให้ลนลานเหลียวตละกวาง  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์คอตกตีอกผาง  | ||
| + | ดุเดือดเต็มประดาร้องด่าพลาง   ไอ้คนอะไรช่างไม่มีอาย  | ||
| + | ท่าทางสอนให้ก็ไม่จำ   จะแกล้งทำให้เขาริบฉิบหาย  | ||
| + | ดูเอาเล่าเถิดชินางแม่ยาย   ลูกเขยมันจะขายพ่อตา  | ||
| + | พลางด่าหกธิดาพาโล   ผัวมึงสำแดงโง่ทำงามหน้า  | ||
| + | ยังจะเท้าแขนหยัดดัดกิริยา   จะเป็นข้าเขาไม่ทุกข์สนุกใจ  | ||
| + | ท้าวคิดเคืองขุ่นงุ่นง่าน   ตัวสั่นสะท้านเหงี่อกาฬไหล  | ||
| + | กอดเข่ารำพึงตะลึงตะไล   คราวออดทอดใจใหญ่ไม่พาที  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   จึงองค์อมรินทร์เรืองศรี  | ||
| + | ร้องท้าว่าเหวยเขยคนดี   ทำไมไม่เดาะคลีตีโต้มา  | ||
| + | อย่างไรนั่นกลอกคอทำท้อแท้   จะยอมแพ้หรือไรให้เร่งว่า  | ||
| + | จะได้ริบเขตขัณฑ์ดังสัญญา   เอาตัวพ่อตาเป็นข้าไท  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยตัวสั่นหวั่นไหว  | ||
| + | เข้าช้อนคลีพัลวันกันไป   พลัดไพล่ไม่ขึ้นมาพ้นดิน  | ||
| + | อาชาตื่นแตกแหกกระแซง   แต่เหนี่ยวเหนี่ยวเรี่ยวแรงก็สุดสิ้น  | ||
| + | เรียกบ่าวงึมงำขอน้ำกิน   ก้มหน้าดูดินไม่เหลียวแล  | ||
| + | โกสีย์ยิ้มเยื้อนแล้วเตือนซ้ำ   ตอบคำอยู่ในคอพูดอ้อแอ้  | ||
| + | ยกมือขึ้นคำนับรับแพ้   ตามแต่จะเมตตาปรานี  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ชาวเมืองที่ดูอยู่อึงมี่  | ||
| + | เห็นหกเขยยอมแพ้แก่ไพรี   ไพร่ผู้ดีเสียใจสิ้นทุกคน  | ||
| + | ต่างพูดงุบงิบกระซิบด่า   ลูกเขยพระยาไม่เป็นผล  | ||
| + | มันพอสมน้ำหน้าท้าวสามนต์   พลอยให้คนฉิบหายทั้งพารา  | ||
| + | บ้างว่าจะร้อนใจไปไยเล่า   ใครเขามีบุญก็เป็นข้า  | ||
| + | เห็นจะต้องริบแน่แต่พระยา   เราเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน  | ||
| + | บ้างตะโกนโพนทะนาท้าวสามนต์   ช่างเชื่อคนหูแหว่งจมูกวิ่น  | ||
| + | หน่วยก้านเช่นนี้ดีแต่กิน   ต้องเป็นข้าเขาสิ้นสาแก่ใจ  | ||
| + | บ้างพูดจาฮึกฮักพยักพเยิด   ฟ้าผี่เถิดหาว่าเล่นไม่  | ||
| + | แม้นเราได้ลูกสาวของท้าวไท   จะตีคลีมิให้พ่ายแพ้  | ||
| + | เหล่าห้ามแหนแสนสาวท้าวนาง   งานกลางหลวงแม่เจ้าเถ้าแก่  | ||
| + | ผินหน้าปรับทุกข์กันซ้อแซ้   คงเขาริบเราแน่แล้วครั้งนี้  | ||
| + | ลางคนบ่นว่าข้านึกเดา   เห็นท่านจะเลี้ยงเราไว้คงที่  | ||
| + | ราชการข้าหมั่นขยันดี   จะมานั่งปรารี้ปรารมภ์ไย  | ||
| + | หญิงชายแซ่ซ้องทั้งท้องสนาม   บ่นบ้าไปตามอัชฌาสัย  | ||
| + | ต่างติโทษโกรธขึ้งอึงไป   ทั้งผู้ดีเข็ญใจไม่เว้นคน  | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระอินทร์ขับอาชาม้าต้น  | ||
| + | เข้ามาใกล้แล้วว่าท้าวสามนต์   เขยทั้งหกคนก็แพ้เรา  | ||
| + | ยังผัวลูกสาวน้อยนั้นอยู่ไหน   จะแก้มือหรือไม่อย่างไรเล่า  | ||
| + | อย่าลงนั่งปรารภซบเซา   ไม่สู้เราแล้วหรือจะได้ริบ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์เสียใจไม่ได้สิบ  | ||
| + | พิไรร่ำโศกาจนตาลิบ   แต่อุบอิบอู้อี้ขยี้ตา  | ||
| + | นั่งก้มหน้านึกตรึกไตร   มันก็ยังแต่ไอ้เงาะป่า  | ||
| + | จะแต่งให้ไปกู้สู้พารา   น้ำหน้าไหนจะตีคลีเป็น  | ||
| + | จะได้ใครดีหนอออกต่อสู้   สุดรู้ไม่มีที่เหลียวเห็น  | ||
| + | โศกาจนเลือดตากระเด็น   สิ้นสติไม่เป็นสมประดี  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางมณฑามเหสี  | ||
| + | เห็นพระภัสดาสามี   ไม่โต้ตอบไพรีประการใด  | ||
| + | กลัวเขาจะริบเอาพารา   กัลยาอกสั่นหวั่นไหว  | ||
| + | เข้านั่งชิดสะกิดภูวไนย   แล้วกราบทูลไปดังใจปอง  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ผ่านเอยผ่านเกล้า   อย่าซบเซาทุกข์ทนหม่นหมอง  | ||
| + | เออช่างสิ้นสติไม่ตริตรอง   จงฟังน้องชั่งจิตคิดดู  | ||
| + | ขอบใจไพรีที่กล่าวถ้อย   ให้แต่งลูกเขยน้อยออกต่อสู้  | ||
| + | เมียเห็นว่าเงาะนี้มีความรู้   พระอย่าได้ลบหลู่ว่าชั่วช้า  | ||
| + | เพื่อนพานถือตัวไม่กลัวใคร   น้ำใจในคอนั้นแกล้วกล้า  | ||
| + | เห็นจะรุ่งเรืองอิทธิฤทธา   จึงหาเนื้อหาปลาได้มากมาย  | ||
| + | แต่ก่อนผ่านเกล้าเฝ้าขึ้งโกรธ   จงไปง้อขอโทษเสียให้หาย  | ||
| + | แม้นเงาะรับผจญเห็นพ้นอาย   ดีร้ายจะได้เวียงชัยคืน  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ฟังถ้อยคำค่อยชื่นมื่น  | ||
| + | จึงระงับดับโศกกล้ำกลืน   ผุดลุกขึ้นยืนแล้วร้องไป  | ||
| + | ดูราข้าศึกจงงดก่อน   ข้าขอผัดผ่อนแก้ตัวใหม่  | ||
| + | อันผัวลูกสาวน้อยของเราไซร้   เป็นเงาะป่าบ้าใบ้ทรพล  | ||
| + | แต่ใจคอองอาจทายาดอยู่   จะลองให้ออกสู้อีกสักหน  | ||
| + | ถ้าเพลี่ยงพล้ำซ้ำแพ้ทั้งเจ็ดคน   มันก็จนแล้วพ่อไม่ขอตัว  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   สหัสนัยน์ได้ยินก็ยิ้มหัว  | ||
| + | แกล้งทำร้องว่าให้น่ากลัว   แม้นมิมาแก้ตัวไม่ละลด  | ||
| + | จะริบเอาข้าวของในท้องคลัง   อีกทั้งลูกเมียเสียให้หมด  | ||
| + | วันนี้ขอทุเลาเราจะงด   แล้วอย่าปดกันหนาท้าวสามนต์  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ตอบความตามขัดสน  | ||
| + | เราได้ให้ทานบาดคาดบน   เป็นคนมิให้เสียวาจา  | ||
| + | ว่าพลางทางชวนมเหสี   ทั้งกำนัลขันทีถ้วนหน้า  | ||
| + | ลงจากที่ประทับพลับพลา   กลับมานคเรศนิเวศน์วัง  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงไพชนมนเทียรทอง   เสด็จตรงขึ้นท้องพระโรงหลัง  | ||
| + | ลดองค์ลงนั่งบนบัลลังก์   นิ่งนั่งครางออดกอดมือ  | ||
| + | จึงดำรัสตรัสเรียกนางมณฑา   แม่เอ๋ยมาใกล้พี่ถึงนี่หรือ  | ||
| + | ความทุกข์จะปรึกษาหารือ   จะทำถือเชิงชั้นฉันนั้นไย  | ||
| + | เจ้าเตือนสติพี่เมื่อกี้นั้น   จริงอยู่หาทันคิดไม่  | ||
| + | อันเจ้าเงาะลูกเขยของเราไซร้   เห็นจะกู้เวียงชัยได้ดังคิด  | ||
| + | เจ้าอุตส่าห์แข็งใจออกไปหา   บอกว่าพี่เฒ่านี้รับผิด  | ||
| + | ให้เจ้าเงาะปรานีช่วยชีวิต   มาต่อฤทธิ์ตีคลีแทนบิดา  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   โฉมนางมณฑาเสน่หา  | ||
| + | นิ่งเสียไม่คำนับรับวาจา   นางนั่งนินทาว่าเปรียบเปรย  | ||
| + | จนจริงจะวิ่งไปหาเงาะ   น่าหัวเราะหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย  | ||
| + | สิ้นมานะสะทะแล้วพระเอย   เงาะเงยก็จะให้ไปง้องอน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>สร้อยสนตัด</sub>  | ||
| + | ๏ ว่าพลางทางยิ้มแย้มหยัน   แล้วลุกจากแท่นสุวรรณบรรณจถรณ์  | ||
| + | พรั่งพร้อมสาวสุรางคนิกร   บทจรไปยังบ้านปลายนา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เพลงช้า  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงหยุดอยู่แต่ไกล   ร้องเรียกลูกสายใจเสน่หา  | ||
| + | เหตุไรไม่ขานพระมารดา   รจนาไปไหนจะใคร่รู้  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาออกไปทำไร่อยู่  | ||
| + | เจ้าเงาะยืนฟื้นฟันร่องคู   ปลูกถั่วพูฟักแฟงแตงร้าน  | ||
| + | ได้ยินแว่วเสียงชนนี   มาร้องเรียกอยู่ที่ประตูบ้าน  | ||
| + | นางดีใจไปรับมิทันนาน   กราบกับบทมาล์แล้วโศกา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ แล้วทูลเชิญเสด็จชนนี   เข้าไปในที่เคหา  | ||
| + | ผลักไหล่ไสหลังเจ้าเงาะมา   ให้กราบกรานมารดาทันใด  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะทำเหมือนถวายตัวใหม่  | ||
| + | เฝ้าแต่แลมาแลไป   ไม่เข้าใจนบนอบหมอบกราน  | ||
| + | นั่งยองยองมองดูแล้วปูผ้า   พนมมือเมินหน้าท่าแบกขวาน  | ||
| + | ราวกับจะรับศีลสมภาร   พังพาบกราบกรานท่านแม่ยาย  | ||
| + | แล้วลุกมาหาครกตำหมาก   ไม่พบสากเจ้ากรรมใครทำหาย  | ||
| + | ล้วงมือค้นได้ในก้นกระทาย   เอาปูนป้ายพลูใส่ลงในครก  | ||
| + | ฉวยมีดผ่าหมากดิบหยิบใส่   อุตส่าห์ตำตั้งใจมิให้หก  | ||
| + | ทำเหมือนอยู่วัดวาดังทารก   ประเคนครกเข้าไปให้แม่ยาย  | ||
| + | แล้วมาเก็บแฟงฟักผักหญ้า   ใส่กระบุงแบกมาให้เมียถวาย  | ||
| + | รจนาว่าไฮ้เบื่อจะตาย   ช่างไม่อายสาวสรรค์กำนัลใน  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้ปี่</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางมณฑาจึงปราศรัย  | ||
| + | นิจจาเจ้าจากแม่มาอยู่ไกล   ยากเย็นเข็ญใจถึงเพียงนี้  | ||
| + | ผิดรูปซูบผอมเป็นหนักหนา   พักตราสร้อยเศร้าสลดศรี  | ||
| + | ต้องเก็บผักหักฟืนเลี้ยงชีวี   น่าปรานีลูกน้อยกลอยใจ  | ||
| + | ว่าพลางลูบหลังแล้วเชยพักตร์   ครวญคร่ำร่ำรักเพียงตักษัย  | ||
| + | ทั้งฝูงสาวสรรค์กำนัลใน   สงสารทรามวัยก็โศกา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ ครั้นสร่างกันแสงจึงแจ้งเหตุ   บัดนี้บิตุเรศละห้อยหา  | ||
| + | แต่เฝ้าเร้ารบมารดา   ให้ออกมาแจ้งความแก่ทรามวัย  | ||
| + | เจ้าก็รู้อยู่แล้วสินะลูก   เขาดูถูกมาล้อมกรุงใหญ่  | ||
| + | ขันพนันตีคลีเอาเวียงชัย   หมายใจจะริบบุรีเรา  | ||
| + | ท้าวให้ไอ้เขยทั้งหกคน   ออกประจญตีคลีก็แพ้เขา  | ||
| + | พระบิดาทุกข์ร้อนลงนอนเซา   เงียบเหงาไปสิ้นทั้งธานี  | ||
| + | จะผินหน้าพึ่งใครไม่ได้แล้ว   เห็นแต่ลูกแก้วทั้งสองศรี  | ||
| + | เจ้าช่วยวอนว่าแก่สามี   เชิญไปตีคลีอย่าน้อยใจ  | ||
| + | ขอพึ่งใบบุญของเจ้าเงาะ   อนุเคราะห์กู้เมืองไว้ให้ได้  | ||
| + | เจ้าอย่าเคืองขัดตัดอาลัย   ทำคุณแม่ไว้เถิดลูกน้อย  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาฟังเล่าก็เศร้าสร้อย  | ||
| + | สงสารมารดาน้ำตาย้อย   นางพลอยโศกศัลย์พันทวี  | ||
| + | กราบบาทภัสดาแล้วว่าวอน   พระมารดรอุตส่าห์มาถึงนี่  | ||
| + | พ่อไม่เมตตาปรานี   ช่วยกู้บุรีให้พ้นภัย  | ||
| + | จงถอดเงาะเสียเถิดนะทูนหัว   จะซ่อนเนื้อซ่อนตัวไปถึงไหน  | ||
| + | จนตกไร้ได้ยากลำบากใจ   ช่างกระไรไม่คิดแกล้งบิดเบือน  | ||
| + | พระแม่มาก็ไม่ทักแต่สักคำ   ดีแต่ทำละไลไหลเลื่อน  | ||
| + | ไม่เห็นทุกข์ร้อนเลยช่างเฉยเชือน   ดูเหมือนหนึ่งไม่มีเมตตา  | ||
| + | อันความทุกข์ครั้งนี้แม้นมิช่วย   เห็นเมียจะมอดม้วยสังขาร์  | ||
| + | ว่าพลางทางทรงโศกา   ปิ้มว่าชีวันจะบรรลัย  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ทองยอน</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะฟังเมียเสียไม่ได้  | ||
| + | สงสารรจนายาใจ   ร้องไห้วอนว่าน่าเอ็นดู  | ||
| + | แต่คิดแค้นแม่ยายกับพ่อตา   จะทรมาเสียก่อนให้อ่อนหู  | ||
| + | ถ้าแม้นไม่งอนง้อต่อกู   จะทำเชิงเฉยอยู่ให้ช้านาน  | ||
| + | แล้วผินผันหันหลังให้แม่ยาย   หยิบกระบายมาตั้งนั่งสาน  | ||
| + | กระดิกเท้าทีทำเป็นสำราญ   ใครว่าขานอย่างไรไม่นำพา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาถอนใจพิไรว่า  | ||
| + | เจ้าเงาะเอ๋ยนิ่งได้ไม่เมตตา   จะให้เมียมรณาเสียจริงจริง  | ||
| + | อันทุกข์ร้อนครั้งนี้มิใช่เล่น   ช่างไม่เห็นด้วยมั่งมานั่งนิ่ง  | ||
| + | หรือพ่อแค้นบิดาว่าชังชิง   แม่ก็วิงวอนง้อขออภัย  | ||
| + | เจ้ามาตัดอาลัยเยื่อใยเสีย   ทำให้เมียหม่นหมองนั่งร้องไห้  | ||
| + | จงเห็นแก่แม่เถิดอย่าถือใจ   นางพิรี้พิไรรำพัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะสำรวลสรวลสันต์  | ||
| + | จึงตอบวาจามารดาพลัน   จะรับอาสานั้นสุดปัญญา  | ||
| + | เงาะนี้พวกปีศาจอุบาทว์ร้าย   มากลับกลายสรรเสริญเห็นเกินหน้า  | ||
| + | จะล่อลวงให้หลงอย่าสงกา   ลูกกลัวพระบิดาจะฆ่าแกง  | ||
| + | ท่านคิดแยบยลเป็นกลใน   แต่หลังอย่างไรพระย่อมแจ้ง  | ||
| + | ใช่ลูกจะรับเกียจเสียดแทง   พระมารดาอย่าระแวงฤทัยนึก  | ||
| + | อันท่านทั้งหกเขยย่อมเคยคลี   ต่อตียังแพ้แก่ข้าศึก  | ||
| + | นับประสาหน้าเงาะนี้เห็นลึก   จะพึ่งพาอย่านึกให้ป่วยการ  | ||
| + | แต่ธุระของข้าหาใส่ปาก   แสนยากก็ไม่มีใครสงสาร  | ||
| + | พึ่งเห็นว่าชนนีนี้โปรดปราน   อุตส่าห์มาถึงบ้านข้าขอบใจ  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาชมเปาะเงาะพูดได้  | ||
| + | น้อยหรือถ้อยคำร่ำพิไร   สำคัญว่าบ้าใบ้ไม่รู้เลย  | ||
| + | สารพัดตัดพ้อพ่อตา   แหลมหลักหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย  | ||
| + | ทั้งกระทบกระเทียบเปรียบเปรย   ไม่ปรานีบ้างเลยหรือเจ้าเงาะ  | ||
| + | ถึงโกรธพ่อก็เห็นกับแม่บ้าง   อย่าให้นั่งน้ำตาลงเผาะเผาะ  | ||
| + | ดูหรูช่างตั้งใจแต่หัวเราะ   ไม่ช่วยอนุเคราะห์แล้วหรือไร  | ||
| + | เสียแรงแม่มาง้อขอโทษแล้ว   ลูกแก้วจะโกรธขึ้งไปถึงไหน  | ||
| + | นางรบเร้าเฝ้าวอนจนอ่อนใจ   จึงผินไปว่ากล่าวลูกสาวตัว  | ||
| + | โฉมยงจงเอ็นดูมารดร   ช่วยอ้อนวอนอีกสักครั้งเถิดทูนหัว  | ||
| + | แม่นี้จนจิตคิดกลัว   จะรอดก็เพราะผัวเจ้าเมตตา  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางรจนาเสน่หา  | ||
| + | ให้คิดสงสารพระมารดา   ก็โศกาวอนผัวรำพันไป  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | </sub>โอ้ปี่</sub>  | ||
| + | ๏ โอ้อนิจจาพระสามี   ไม่ปรานีน้องจริงนิ่งเสียได้  | ||
| + | ควรหรือมาสลัดตัดอาลัย   ช่างกระไรไม่คิดสักนิดเลย  | ||
| + | ทุกข์ของมารดาเหมือนทุกข์ตัว   จะผินหน้าพึ่งผัวก็เชือนเฉย  | ||
| + | ดีแต่ทำเปล่าเปล่าให้เขาเย้ย   อกเอ๋ยจะอยู่ไปไยมี  | ||
| + | นางชะอ้อนวอนแล้ววอนเล่า   แม้นพ่อเจ้าไม่โปรดเกศี  | ||
| + | น้องจะลาอาสัญเสียวันนี้   เทวีตีทรวงเข้าร่ำไร  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะทุกข์ร้อนถอนใจใหญ่  | ||
| + | กลัวเมียจะอาสัญบรรลัย   จึงโลมเล้าเอาใจไปมา  | ||
| + | อย่ากันแสงเศร้าหมองเลยน้องรัก   ไว้พนักงานพี่จะอาสา  | ||
| + | ออกตีคลีพนันดังสัญญา   มิให้เสียพาราประจามิตร  | ||
| + | แล้วผินหน้ามาทูลชนนี   ใช่ลูกนี้จะแกล้งเบือนบิด  | ||
| + | แต่หากข้นจนเป็นพ้นคิด   เครื่องทรงแต่สักนิดก็ไม่มี  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาค่อยสบายคลายคลี่  | ||
| + | จึงว่าแก่เขยขวัญทันที   เครื่องประดับดีดีมีถมไป  | ||
| + | แม่จะให้ไปทูลพระบิดา   จัดแจงแต่งมาประทานให้  | ||
| + | ว่าพลางนางสั่งสาวใช้   เร่งไปทูลองค์พระทรงธรรม์  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   สาวใช้รับสั่งขมีขมัน  | ||
| + | ถวายบังคมลาพากัน   จรจรัลเข้ามาในธานี  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ ชุบ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงทูลกิจจา   ว่าพระแม่มณฑามเหสี  | ||
| + | ให้ข้ามาทูลพระภูมี   บัดนี้สมจิตที่คิดไว้  | ||
| + | พระธิดาว่ากล่าวเจ้าเงาะป่า   จะอาสาออกตีคลีได้  | ||
| + | ให้จัดเครื่องทรงส่งออกไป   ที่ใหม่ใหม่งามงามอร่ามเรือง  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์หัวเราะเงาะทรงเครื่อง  | ||
| + | ชอบแต่นุ่งผ้าค่าบาทเฟื้อง   แหวนทองเหลืองลูกปัดจัดให้มัน  | ||
| + | หน้าตาหัวหูยู่ยี่   ถ้าใส่เครื่องชาตรีทีจะขัน  | ||
| + | ไม่สมกับเครื่องทองของทั้งนั้น   แต่จะต้องให้มันด้วยจำจน  | ||
| + | ว่าพลางทางมีบัญชาการ   สั่งเจ้าพนักงานเครื่องต้น  | ||
| + | จงไปจัดมงกุฏกุณฑล   สร้อยสนสังวาลบานพับ  | ||
| + | ของกูดีดีมีนักหนา   เก่าแก่แต่บรรดาเครื่องประดับ  | ||
| + | จะเลือกให้ไอ้เงาะสักสำรับ   เร็วเร็วรีบกลับมาฉับไว  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   พวกภูษามาลาบังคมไหว้  | ||
| + | รีบมายังโรงพระแสงใน   เข้าไปเปิดตู้ดูบาญชี  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จัดแจงเครื่องต้นขนออกมา   มอบหมายตรวจตราถ้วนถี่  | ||
| + | แล้วเชิญเครื่องตามกันมาทันที   วางถวายภูมีดังบัญชา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์เลือกสรรกันนักหนา  | ||
| + | คิดเสียหายเครื่องต้นพ้นปัญญา   จะให้ไอ้เงาะป่าด้วยจำใจ  | ||
| + | จึงจัดเครื่องประดับสำหรับกาย   แต่พอดีพอร้ายซังตายได้  | ||
| + | พลางสั่งกำชับสาวใช้   เร่งไปบอกมันเข้ามา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   สาวใช้รีบสั่งใส่เกศา  | ||
| + | เชิญเครื่องใส่พานแว่นฟ้า   แบกเดินลอยหน้ามาทันที  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงถวายเครื่องทรง   ทูลองค์มณฑามเหสี  | ||
| + | รับสั่งให้หาผัวพระบุตรี   เข้าไปประเดี๋ยวนี้อย่าช้า  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระชนนีดีใจเป็นนักหนา  | ||
| + | จึงว่าเจ้าเงาะของแม่อา   เครื่องประดับประดาเอามาแล้ว  | ||
| + | ธำมรงค์มงกุฏสังวาล   พระบิดาประทานลูกแก้ว  | ||
| + | เชิญเจ้าทรงเถิดให้เพริศแพร้ว   งามแล้วนุ่งห่มพอสมตัว  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะครั้นเห็นก็สั่นหัว  | ||
| + | ติว่าเครื่องทรงมัวซัว   เต็มชั่วนักหนาข้าไม่เอา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระมารดาว่าไม่ชอบใจเจ้า  | ||
| + | ยังมีตรึกมิถองของเรา   จะเลือกเอาให้งามตามฤทัย  | ||
| + | ว่าพลางทางสั่งสาวศรี   กลับไปธานีเดี๋ยวนี้ใหม่  | ||
| + | ทูลว่าเจ้าเงาะไม่ชอบใจ   เร่งให้จัดเครื่องอื่นมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   สาวใช้บังคมก้มเกศา  | ||
| + | รับพระเสาวนีย์มิได้ข้า   เดินด่วนเข้ามายังวังใน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงทูลพระภูมี   เครื่องทรงเมื่อตะกี้เอาไปให้  | ||
| + | เจ้าเงาะเลือกเสียไม่ชอบใจ   มิได้เครื่องใหม่ไม่เข้ามา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ฟังชังน้ำหน้า  | ||
| + | อ้ายเงาะถ่อยร้อยย่างช่างมารยา   กูว่าไม่ผิดปากจะยากเย็น  | ||
| + | นี่แม่ยายแล้วสิริให้   เมื่อมันไม่เคยพบเคยเห็น  | ||
| + | น้ำหน้าจะสอดใส่ที่ไหนเป็น   ทำเล่นเครื่องต้นเลือกคนรู้  | ||
| + | แล้วจัดเครื่องทรงอย่างเอก   แต่ครั้งอภิเษกพระเจ้าปู่  | ||
| + | คิดเสียดายนักของรักกู   จนอยู่จำใจต้องให้มัน  | ||
| + | ว่าพลางทางร้องเรียกไป   เหวยเสนาในใครอยู่นั่น  | ||
| + | จงเตรียมพลผูกช้างฉับพลัน   กูจะจรจรัลไปปลายนา  | ||
| + | พระมิได้สรงน้ำสว่ำเสวย   มาขึ้นเกยหยุดยืนคอยท่า  | ||
| + | พร้อมเสร็จเสด็จทรงคชา   เสนาแห่แหนแน่นไป  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงหยุดช้างทรง   อยู่ตรงกระท่อมที่ริมไร่  | ||
| + | ร้องเรียกรจนายาใจ   เป็นไรไม่มารับบิดา  | ||
| + | พ่อออกมางอนง้อขอโทษ   สิ้นขึ้งสิ้นโกรธเจ้าเงาะป่า  | ||
| + | เครื่องทรงสารพัดจัดแจงมา   ทีนี้งามนักหนามารับเอา  | ||
| + | นางแม่ยายแม่ย่อยก็พลอยเฉย   ไม่ตักเตือนลูกเขยเร็วเร็วเข้า  | ||
| + | รจนาก็ไม่เร่งรบเร้า   จะให้เขาริบข้าหรือว่าไร  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนานารีศรีใส  | ||
| + | แว่วเสียงบิตุรงค์ร้องเรียกไป   จำได้ไคลคลาออกมารับ  | ||
| + | ครั้นถึงจึงบังคมก้มเกล้า   รับเอาข้าวของเครื่องประดับ  | ||
| + | ทั้งมงกุฏสังวาลบานพับ   แล้วกลับเข้าไปให้เจ้าเงาะ  | ||
| + | สวมตัวผัวแก้วแล้วว่าขาน   พระบิดาประทานทีนี้เหมาะ  | ||
| + | งามนักงามหนาอย่าหัวเราะ   เชิญถอดรูปเงาะเถิดพ่อคุณ  | ||
| + | ท่านเสด็จมาเองด้วยเกรงใจ   ช้าไปก็เครื่องจะเคืองขุ่น  | ||
| + | ช่วยกู้เวียงชัยไว้เอาบุญ   พ่อเนื้อนพคุณจงเมตตา  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะนั่งนิ่งพิงฝา  | ||
| + | พิศดูเครื่องใหม่ที่ให้มา   แล้วมีวาจาว่าไป  | ||
| + | เหมือนกันนั่นแหละกับเครื่องเก่า   จะแต่งตัวผัวเจ้าหาควรไม่  | ||
| + | ขายหน้าข้าศึกจะไยไพ   คืนไปเสียเจ้าอย่าเอามา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   จึงองค์เจ้าตรัยตรึงศา  | ||
| + | แจ้งใจในทิพย์วิญญาณ์   จะนิ่งดูอยู่ถ้าเห็นช้าที  | ||
| + | จึงตรัสสั่งพระวิษณุกรรม์   จงจัดสรรเครื่องทรงเรืองศรี  | ||
| + | เอาไปให้พระสังข์ครั้งนี้   จะได้ใส่ตีคลีอวดพ่อตา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า  | ||
| + | คำนับรับเทวบัญชา   แล้วพาเครื่องประดับไปฉับไว  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงกระท่อมน้อยเจ้าหอยสังข์   กำบังกายาเข้ามาใกล้  | ||
| + | เอาเครื่องทรงขององค์สหัสนัยน์   วางลงส่งให้กับเจ้าเงาะ  | ||
| + | แล้วว่าเครื่องประดับสำรับนี้   สำหรับใส่ทรงตีคลีเดาะ  | ||
| + | มัฆวานประทานจำเพาะ   ว่าพลางทางเหาะกลับมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | <sub>ลมพัดชายเขา</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะเกษมสันต์หรรษา  | ||
| + | ได้เครื่องพระอินทร์ดังจินดา   จึงเดินเข้ามายังห้องใน  | ||
| + | รจนายกพานเครื่องทรง   ตามมาคอยส่งให้สอดใส่  | ||
| + | พระถอดรูปเงาะพลันทันใด   มอบให้รจนานงเยาว์  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | <sub>ลงสรงมอญ</sub>  | ||
| + | ๏ แล้วขัดสีฉวีวรรณผุดผ่อง   ดังทองชมพูนุทเนื้อเก้า  | ||
| + | สุคนธาประทิ่นกลิ่นเกลา   สนับเพลาเชิงงอนซ้อนซับ  | ||
| + | ภูษาผ้าทิพย์กระสันทรง   จีบโจงหางหงส์ประจงจับ  | ||
| + | ปั้นเหน่งเพชรพรรณรายสายบานพับ   เฟื่องห้อยพลอยประดับทับทรวง  | ||
| + | ทองกรแก้วพุกามงามเงา   ทับทิมเท่าเม็ดข้าวโพดโชติช่วง  | ||
| + | สร้อยสนสังวาลวรรณกุดั่นดวง   รุ้งร่วมธำมรงค์เรือนครุฑ  | ||
| + | กรรเจียกจอนจำหลักลายซ้ายขวา   บรรจงทรงมหามงกุฏ  | ||
| + | ห้อยอุบะนฤมิตผิดมนุษย์   งามดังเทพบุตรในชั้นฟ้า  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เสร็จทรงเครื่องประดับฉับพลัน   พระสังข์เกษมสันต์หรรษา  | ||
| + | จึงชวนนวลนางรจนา   มากราบกรานมารดาด้วยใจภักดิ์  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาแลดูไม่รู้จัก  | ||
| + | คิดว่าเทวาสุรารักษ์   อกใจทึกทักให้ครั่นคร้าม  | ||
| + | นางนบนอบหมอบกรานกราบไหว้   ลูกสาวยุดฉุดไว้แล้วร้องห้าม  | ||
| + | พระมารดานิ่งอยู่ไม่รู้ความ   ลูกเขยถอดเงาะงามแล้วเป็นไร  | ||
| + | นางมณฑาว่าอ่อกระนั้นหรือ   แม่คนซื่อสำคัญว่ามิใช่  | ||
| + | ลูกเขยข้าถอดเงาะเหมาะเหลือใจ   นางลูบไหล่ลูบหลังนั่งมอง  | ||
| + | น้อยหรือน่ารักเป็นนักหนา   หน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มย่อง  | ||
| + | สอดใส่เครื่องประดับก็รับรอง   ผิวพรรณผุดผ่องดังทองทา  | ||
| + | คิดคิดขึ้นมาน่าหัวเราะ   เอารูปเงาะสวมใส่ทำใบ้บ้า  | ||
| + | อัปยศอดอายขายหน้าตา   เจ้าแกล้งแปลงมาแม่ไม่รู้  | ||
| + | รจนายาจิตช่างคิดถูก   หมายมั่นพันผูกก็ควรอยู่  | ||
| + | ทีนี้แหละลอยแก้วแล้วลูกกู   โฉมตรูแย้มยิ้มกระหยิ่มใจ  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ แล้วร้องเรียกภัสดาสามี   เร็วเร็วมานี่จะบอกให้  | ||
| + | รวยแล้วทูนหัวอย่ากลัวใคร   เห็นจะกู้เมืองได้ดังใจปอง  | ||
| + | อย่าดูถูกลูกเขยคนนี้   ทั้งในธานีไม่มีสอง  | ||
| + | ผิวเนื้อเรื่อเหลืองเรืองรอง   เปล่งปลั่งดังทองนพคุณ  | ||
| + | งามเลิศเหลือมนุษย์สุดแล้วพอ   ปากคอคิ้วตาเหมือนหน้าหุ่น  | ||
| + | ถ้าใครได้เห็นก็เป็นบุญ   ไม่เชื่อเชิญพ่อคุณเข้ามาดู  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์หัวเราะเยาะยิ้มอยู่  | ||
| + | เออราวกับใครเขาไม่รู้   รำคาญหูจู้จี้ไปทีเดียว  | ||
| + | ขืนจะให้ไปดูลูกเขยเงาะ   มันสิเหมาะหนักหนาเหมือนม่าเหมี่ยว  | ||
| + | อย่าอวดโอ้โป้ปดลดเลี้ยว   พระอินทร์มาเขียวเขียวไม่เชื่อเลย  | ||
| + | แล้วตรัสกับเสนานินทาเมีย   ตะแกเสียจริตผิดแล้วเหวย  | ||
| + | รูปทองที่ไหนเล่าเฝ้าชมเชย   เงาะเงยน่าเกลียดขี้เกียจไป  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาว่าดู๋ดื้อไปได้  | ||
| + | เขาจะริบฉิบหายทั้งเวียงชัย   น่าชังช่างกระไรไม่เชื่อเลย  | ||
| + | กลับมาหัวเราะเยาะเย้ยข้า   จะว่าใครเป็นบ้านิจจาเอ๋ย  | ||
| + | ไม่ลวงหลอกดอกนะพระเอย   ลูกเขยเราไซร้มิใช่เงาะ  | ||
| + | ฟ้าผี่เถิดหนาไม่ว่าเล่น   ท้าวเห้นกลัวแต่จะชมเปาะ  | ||
| + | จริงจริงนะขาอย่าหัวเราะ   แม้นไม่เหมาะตีเมียเสียให้ตาย  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์สรวลสันต์ไม่ผันผาย  | ||
| + | เห็นนางมณฑาว่าวุ่นวาย   จึงชังตายดำเนินเดินมา  | ||
| + | เข้าไปในทับเห็นลูกเขย   พ่อเจ้าลูกเอ๋ยงามนักหนา  | ||
| + | น้อยหรือรูปร่างเหมือนเทวดา   หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา  | ||
| + | ผิวเนื้อเรื่อเรืองเหลืองประหลาด   ดังทองคำธรรมชาติหล่อเหลา  | ||
| + | ฟ้าผี่เถิดเอ๋ยลูกเขยเรา   งามจริงแล้วเจ้านางมณฑา  | ||
| + | ถึงตัวพี่เมื่อครั้งยังหนุ่มแน่น   รูปร่างก็อ้อนแอ้นโอ้อ่า  | ||
| + | ไม่แกล้งอวดทรวดทรงหน้าตา   ไส่ชฎาเครื่องประดับก็รับรอง  | ||
| + | แต่ไม่เหมาะเหมือนลูกเขยคนนี้   เป็นต่อพี่อยู่ราวสักสามสอง  | ||
| + | แพ้เขาที่เนื้อไม่เป็นทอง   กระนั้นน้องยังรักว่ารูปงาม  | ||
| + | ตรัสพลางแย้มยิ้มพริ้มพราย   แล้วภิปรายปราศรัยไต่ถาม  | ||
| + | ลูกรักจงแถลงแจ้งความ   เจ้านี้มีนามกรใด  | ||
| + | วงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อ   พงศ์เผ่าเหล่ากอเป็นไฉน  | ||
| + | อยู่ประเทศธานีบุรีไว   ทำไมจึงแกล้งแปลงปลอมมา  | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์บังคมก้มหน้า  | ||
| + | ยิ้มพลางทางทูลพ่อตา   ตัวข้านี้ชื่อพระสังข์ทอง  | ||
| + | เป็นโอรสท้าวยศวิมล   แจ้งตามความต้นที่หม่นหมอง  | ||
| + | ซื่งแปลงมาจะหาคู่ครอง   จงทราบฝ่าละอองบทมาลย์  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ตบพระหัตถ์ฉัดฉาน  | ||
| + | ลูกเขยกูผู้ดีสันดาน   เป็นเผ่าพงศ์วงศ์วานกษัตรา  | ||
| + | สมยศสมศักดิ์น่ารักใคร่   ทีนี้ไม่อับอายขายหน้า  | ||
| + | พระลูบหลังลูบไหล่ไปมา   จูบซ้ายจูบขวาลูกข้างาม  | ||
| + | อ้ายหกเขยยุพ่อให้ขับเจ้า   แค้นใจยายเฒ่าก็ไม่ห้าม  | ||
| + | บิดาโฉดเฉาเบาความ   ไม่รู้เลยว่างามถึงเพียงนี้  | ||
| + | อย่าถือโทษโกรธพ่อเลยหนอลูก   ว่าลบหลู่ดูถูกขับหนี  | ||
| + | แม้นเจ้ามีชัยชนะคลี   พ่อจะมอบบุรีให้ครอบครอง  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์บังคมทูลสนอง  | ||
| + | ข้าจะขออาสาฝ่าละออง   อย่าร้อนเร่าเศร้าหมองฤทัย  | ||
| + | ซึ่งข้าศึกมาขันพนันคลี   ลูกจะตีต้านต่อก็พอได้  | ||
| + | แต่จะขอมิ่งม้าอาชาไนย   ที่สูงใหญ่เคล่าคล่องทำนองคลี  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี  | ||
| + | จึงว่าอย่าร้อนใจไปไยมี   ม้าเราดีดีมีถมไป  | ||
| + | ว่าพลางทางสั่งกรมม้า   จงไปผูกอาชามาให้  | ||
| + | บรรดาม้าต้นที่โรงใน   มีอยู่เท่าไรเร่งเอามา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนีตัวนายซ้ายขวา  | ||
| + | คำนับรับพระราชบัญชา   บังคมลาแล่นไปดังใจปอง  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงผูกพาชี   ล้วนตัวดีฝีเท้าเคล่าคล่อง  | ||
| + | เบาะอานพานหน้าเครื่องทอง   เจ้าของคนเลื้ยงเคียงมา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงจูงม้าที่นั่ง   เข้าไปยังหน้าฉานขนานหน้า  | ||
| + | เหล่าพวกขุนนางข้างกรมม้า   หมอบคอยบัญชาพระภูมี  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์เลือกม้าไม่น่าขี่  | ||
| + | จึงทูลท้าวพ่อตาไปทันที   ม้าที่นั่งทั้งนี้ไม่ชอบใจ  | ||
| + | ข้าเห็นพาชีสีกะเลียว   มาเที่ยวกินถั่วริมรั้วไร่  | ||
| + | ท่วงทีขี่ขับจะว่องไว   ขอพระองค์จงให้ไปจับมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ได้ฟังพระสังข์ว่า  | ||
| + | จึงดำรัสตรัสสั่งเสนา   จงไปจับม้ามาให้ลูกกู  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนีสี่เหล่าที่เฝ้าอยู่  | ||
| + | รับสั่งแล้วชิงกันวิ่งพรู   มาดูเห็นม้าก็ยินดี  | ||
| + | จึงแยกย้ายรายกันเข้าล้อม   วิ่งอ้อมเอาเชือกขึงอึงมี่  | ||
| + | ไล่สกัดทางโน้นทางนี้   พาชีหนีหลบว่องไว  | ||
| + | ลางคนเข้ามาเอาหญ้าล่อ   ฉวยผมหน้าคว้าคอไว้ได้  | ||
| + | ม้าชกหกล้มคะมำไป   เลี้ยวไล่ดีดกัดกระจัดกระจาย  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เทวัญบันดาลให้เสนา   จับม้ามาได้ดังใจหมาย  | ||
| + | จึงผูกเครื่องสุวรรณพรรณราย   แล้วจูงมาถวายทันที  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์ทรงสวัสดิ์รัศมี  | ||
| + | สมคิดได้ม้าพาชี   ยินดีเดินออกนอกประตู  | ||
| + | พระจึงชวนนวลนางรจนา   ออกจากเคหาที่อยู่  | ||
| + | ท้าวสามนต์ร้องว่าหลีกลูกกู   ฉวยไม้ไล่ขู่ขับผู้คน  | ||
| + | ลูกเขยขึ้นขี่อาชา   พ่อตาก็วางขึ้นช้างต้น  | ||
| + | ทั้งสองโฉมศรีนฤมล   ทรงวอลรดลตามมา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   หญิงชายชาวเมืองถ้วนหน้า  | ||
| + | เห็นพระรูปทองล่องลอยฟ้า   ต่างว่าภูวไนยมิใช่เงาะ  | ||
| + | เกิดมาพึ่งเห็นเป็นบุญตัว   หม่อมผัวพระบุตรีคนนี้เหมาะ  | ||
| + | เทวดาพานำมาจำเพาะ   บังคมชมเปาะไปทั้งนั้น  | ||
| + | ต่างอำนวยอวยพรพระสังข์ทอง   หนุ่มแก่แซ่ซ้องทั้งเขตขัณฑ์  | ||
| + | มาตามดูภูมีนี่นัน   เบียดกันกลางถนนแน่นไป  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท่านท่าวสามนต์เป็นใหญ่  | ||
| + | ครั้งช้างที่นั่งถึงวังใน   ตรงไปประทับกับเกยพลัน  | ||
| + | เสด็จลงจากคอคชสาร   ภูบาลตรัสชวนเขยขวัญ  | ||
| + | ทั้งพระมเหสีบุตรีนั้น   จรจรัลขึ้นสู่ปราสาทชัย  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ฝ่ายเจ้าหกเขยใหญ่  | ||
| + | ปรับทุกข์กับเมียเสียน้ำใจ   จะทำให้ไอ้เงาะขึ้นหน้าตา  | ||
| + | ถ้อยทีเดือดดาลทะยานจิต   ต่างคนแค้นคิดริษยา  | ||
| + | ผัวเมียพากันรันขึ้นมา   เฝ้าพระบิดาทันใด  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงบังคมเคารพ   นอบนบสองกษัตริย์เป็นใหญ่  | ||
| + | เห็นพระสังข์ทองยองใย   จำได้แน่จิตสะกิดกัน  | ||
| + | อ้ายรูปทองคนนี้เจียวสิหว่า   ที่ทำเป็นเจ้าป่าพนาสัณฑ์  | ||
| + | หาปลาหาเนื้อเมื่อคราวนั้น   ต้องไปง้อขอมันไม่ทันรู้  | ||
| + | มันเป็นผัวรจนาอิจฉาเรา   จึงเล่นเอาจมูกกับใบหู  | ||
| + | ต่างก้มคลำแผลไม่แลดู   อัปยศอดสูเสียน้ำใจ  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ทั้งหกบุตรีพี่ผู้ใหญ่  | ||
| + | เห็นพระสังข์นั่งดูตะลึงตะไล   พิศวงหลงใหลใจปอง  | ||
| + | งามจริงยิ่งมนุษย์ในใต้หล้า   น้อยหรือน่าร่วมภิรมย์สมสอง  | ||
| + | สอดใส่เครื่องประดับก็รับรอง   ผิวเนื้อนวลละอองดังทองทา  | ||
| + | ดูพลางทางทำสะเทินอาย   ชักชายผ้าห่มก้มหน้า  | ||
| + | เมียงชม้อยคอยรับนัยนา   เสน่หาต้องจิตติดใจ  | ||
| + | แล้วเหลียวดูผัวของตัวมั่ง   เห็นนั่งทุกข์ร้อนก็ค้อนให้  | ||
| + | รู้กระนี้ทีทิ้งพวงมาลัย   จะเลือกเจ้าเงาะไว้เป็นของตัว  | ||
| + | ต่างคิดริษยาน้องสาว   มานั่งเท้าแขนเคียงอยู่กับผัว  | ||
| + | เริงร่าหน้าบานเป็นใบบัว   ลืมกลัวบิดาร้องว่าไป  | ||
| + | เมียเจ้ารูปทองสิบสองหนัก   ยศศักดิ์ปึ่งชาหาน้อยไม่  | ||
| + | พี่น้องพร้อมพรั่งชั่งกระไร   แต่จะยกมือไหว้ก็ไม่มี  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาได้ฟังทั้งหกพี่  | ||
| + | หัวเราะเยาะหยันขึ้นทันที   เออนี่อะไรช่างไม่อาย  | ||
| + | ออกมานั่งตั้งกระทู้ขู่ข่ม   เจ้าคารี้สีคารมใจหาย  | ||
| + | เมื่อแรกได้ผัวเงาะเยาะวุ่นวาย   ทั้งตัดเป็นตัดตายจะตบตี  | ||
| + | ประเดี๋ยวนี้จะกลับมานับถือ   นี่ลืมไปแล้วหรือนะหม่อมพี่  | ||
| + | เป็นผู้ใหญ่อะไรอย่างนี้   ข้ามิอยากไหว้ให้เสียมือ  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกนางต่างว่าน้อยไปหรือ  | ||
| + | ปากคอพ้อตัดได้หัดปรือ   ยกรื้อความหลังขึ้นพูดจา  | ||
| + | อุแม่เอ๋ยหม่อมเมียเจ้ารูปทอง   จองหองไม่น้อยออกลอยหน้า  | ||
| + | จะรวยรุ่งพลุ่มโพลงโด่งฟ้า   ยิ่งกว่ากรวดลาวแล้วคราวนี้  | ||
| + | เหตุว่าพระบิดาออกไปรับ   จึงได้กลับมาเถียงเสียงมี่  | ||
| + | ฝากไว้ก่อนเถิดเป็นไรมี   ใครดีนานไปได้เห็นกัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาเถียงทะเลาะเยาะหยัน  | ||
| + | ช่างแคะได้ค่อนว่าสารพัน   ฝากไว้กี่วันจะเอาไป  | ||
| + | อย่าอื้ออึงมึงมันกระนั้นนะ   ไม่ลดละกันดอกจะบอกให้  | ||
| + | ผัวพี่รอดตัวเพราะผัวใคร   เห็นเขาไม่ว่าไรแล้วได้ที  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกนางร้อนใจดังไฟจี้  | ||
| + | จึงว่าเห็นผัวกูชั่วดี   อย่างไรนี่ว่าไปให้จริงจัง  | ||
| + | อย่าสบประมาทกันกระนั้นเจ้า   นี่เปล่าเปล่าเตือนค้อนใส่สันหลัง  | ||
| + | เร่งว่าออกไปจะได้ฟัง   ใครอำปลังยั้งไว้มิใช่คน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยคิดพรั่นอั้นอ้น  | ||
| + | กลัวจะเกิดความใหญ่เห็นไม่พ้น   ต่างคนห้ามเมียเสียทันใด  | ||
| + | วานอย่าว่าวุ่นวายอายเขา   อะไรเจ้าไม่อดสูเป็นผู้ใหญ่  | ||
| + | ขายหูเสียมั่งชั่งเป็นไร   จะทำให้เคืองจิตพระบิดา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกนางต่างคนบ่นว่า  | ||
| + | เถียงทะเลาะผัวไปมิได้ช้า   มันว่าฟังเพราะเหมาะหรือไร  | ||
| + | เจ้าช่างอดโมโหไม่โต้ตอบ   หรือทำผิดมิชอบเป็นไฉน  | ||
| + | จะมานิ่งเกรงกลัวหัวมันไย   แล้วผินหน้าว่าไปแก่รจนา  | ||
| + | ผัวกูผิดอะไรไม่ว่าออก   พูดหลอกกันเล่นหรือสิหวา  | ||
| + | สดสดร้อนร้อนไม่เจรจา   แม้นว่าออกมิได้ขัดใจกัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาหัวเราะเยาะเย้ยหยัน  | ||
| + | จึงว่าพี่นี่แน่อย่าดุดัน   ผัวเมียถามกันก่อนเป็นไร  | ||
| + | เมื่อคราวไปหาเนื้อหาปลา   ผัวหาได้เองหรือใครให้  | ||
| + | จะใคร่แจ้งประจักษ์จงซักไซ้   จมูกหูอยู่ไหนไม่ถามกัน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกนางต่างคนหุนหัน  | ||
| + | ผินหน้าว่าผัวของตัวพลัน   ได้ยินมันหรือไม่เจ้าใจเย็น  | ||
| + | ไหนว่าจมูกเจ้าปากเป้ากัด   ผีตัดใบหูมีผู้เห็น  | ||
| + | ช่างเงียบเสียงเถียงเขาก็ไม่เป็น   ให้มันมาว่าเล่นเป็นอย่างไร  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยเงยหน้ามิใคร่ได้  | ||
| + | อุบอิบกระซิบตอบเมียไป   เขาว่าไรก็ชั่งมั่งเถิดนา  | ||
| + | ทำไมกับหูแหว่งจมูกวิ่น   ถึงจะด้วนเสียสิ้นก็ของข้า  | ||
| + | เถียงกันไปเปล่าเปล่าไม่เข้ายา   บุราณว่าอดใจได้เป็นพระ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ผุดลุกขึ้นเกะกะ  | ||
| + | กูได้ยินแว่วแว่วอยู่แล้วนะ   มันต่อจะชอบกลเจ้ามณฑา  | ||
| + | จึงซักถามรจนายาใจ   รู้เห็นเป็นอย่างไรให้เร่งว่า  | ||
| + | เมื่อพ่อใช้ไปหาเนื้อปลา   มันไปขอใครมาจงว่าไป  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่  | ||
| + | สรวลพลางทางทูลเป็นนัย   จะว่าไปก็ดูไม่สู้ดี  | ||
| + | เขาจะลืออื้ออึงเอิกเกริก   เหมือนหนึ่งแกล้งลำเลิกผัวพี่  | ||
| + | แต่มันน่าอดสูพระภูมี   เดิมทีเที่ยวหาเนื้อปลา  | ||
| + | ทั้งหกเขยใหญ่ไปกราบกราน   งอนง้อขอทานผัวข้า  | ||
| + | เสียของต้องใจจึงได้มา   จะทราบบาทาท้าวไท  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์สรวลสันต์ไม่กลั้นได้  | ||
| + | ตบมืออื้งอึงคะนึงไป   นางมณฑาชอบใจหัวร่องอ  | ||
| + | จึงถามพระสังข์สอบเห็นชอบกล   เหตุผลเป็นกระไรไฉนหนอ  | ||
| + | จงแจ้งตามจริงจังอย่ารั้งรอ   เล่าไปเถิดพ่อจะขอฟัง  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์ทูลตามความหลัง  | ||
| + | หกเขยไปหาข้าสองครั้ง   สิ้นทั้งบ่าวไพร่ก็ได้รู้  | ||
| + | เมื่อขอปลาข้าตัดจมูกไว้   เมื่อขอเนื้อก็ให้ใบหู  | ||
| + | พระองค์จงถามทั้งหกดู   เท็จจริงย่อมรู้อยู่เต็มใจ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ร้องเหวยหกเขยใหญ่  | ||
| + | มานั่งก้มหน้าอยู่ว่าไร   มึงตั้งใจเลี้ยวลดปดกู  | ||
| + | จมูกแหว่งแกล้วว่าปากเป้ากัด   ผีใขมดโกรธตัดเอาใบหู  | ||
| + | กูหลงเชื่อเมื่อแรกก็ไม่รู้   ต่อลูกกูบอกเล่าจึงเข้าใจ  | ||
| + | ไปหาเนื้อหาปลามาแต่หลัง   มึงไปขอพระสังข์จริงหรือไม่  | ||
| + | อย่าสับปลับรับเสียก็แล้วไป   กูจะไว้ชีวาไม่ฆ่าตี  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกเขยสุดรู้ทำอู้อี้  | ||
| + | กระอักกระไอมิใคร่พาที   มือขยี้หูตาประหม่าใจ  | ||
| + | พ่อตากริ้วกราดตวาดซ้ำ   ยิ่งละล่ำละลักหลงใหล  | ||
| + | เพ็ดทูลเลอะเลื่อนเปื้อนไป   ไม่ได้ความจริงสักสิ่งอัน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์เคืองขุ่นหุนหัน  | ||
| + | ผินหน้ามาว่ากับเมียพลัน   มันจริงสิ้นทั้งนั้นเจ้ามณฑา  | ||
| + | อ้ายเหล่านี้ดีแต่จะปดโป้   ไม่เป็นโล้เป็นพายขายหน้า  | ||
| + | จะฆ่าเสียก็สมเพชเวทนา   เอาไว้ให้เป็นข้าพระสังข์ทอง  | ||
| + | ลูกเขยเราคนนี้ดีเลิศแล้ว   ดังดวงแก้วบริสุทธิ์ผุดผ่อง  | ||
| + | จะยกบ้านเมืองมอบให้ครอบครอง   ปกป้องไพร่ฟ้าเสนาใน  | ||
| + | อันข้าศึกซึ่งขันพนันคลี   จะต่อตีสู้กันหาพรั่นไม่  | ||
| + | วันนี้จวนค่ำย่ำฆ้องชัย   หลับนอนเสียให้เต็มตา  | ||
| + | ว่าพลางขับเขยทั้งหกคน   ไสหัวไปให้พันชังน้ำหน้า  | ||
| + | ชวนพระสังข์กับนางรจนา   เข้าที่ไสยาผาสุกใจ  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ ตระ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นรุ่งสุริยาการ้อง   ท้าวสามนต์ตรึกตรองไม่หลับไหล  | ||
| + | จึงชวนพระสังข์ทองยองใย   กับเมียรักร่วมใจและธิดา  | ||
| + | สี่กษัตริย์สระสรงทรงเครื่อง   รุ่งเรืองระยับจับเวหา  | ||
| + | แล้วเสด็จยุรยาตรคลาดคลา   ตรงมาเกยสุวรรณทันใด  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขึ้นทรงคอคชสารศรี   พ่วงพีหกศอกสูงใหญ่  | ||
| + | พระสังข์ทรงมิ่งม้าอาชาไนย   สององค์อรไทขึ้นวอทอง  | ||
| + | เกณฑ์แห่เกณฑ์แหนแน่นหนา   ธงทวนนำหน้าเป็นแถวถ้อง  | ||
| + | แซ่เสียงแตรสังข์ฆ้องกลอง   ออกไปยังท้องสนามคลี  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงชวนพระสังข์   ขึ้นยังพลับพลาหลังคาสี  | ||
| + | พร้อมทั้งหกเขยและบุตรี   เสนีเฝ้าแหนแน่นนัน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   อมรินทร์ปิ่นภพสรวงสวรรค์  | ||
| + | ทอดพระเนตรเห็นท้าวสามนต์นั้น   พาลูกเขยขวัญออกมา  | ||
| + | จึงตรัสบอกเทวัญจันทรี   ที่นี้สมดังปรารถนา  | ||
| + | จำจะทำให้ไอ้เฒ่าพ่อตา   เห็นฤทธาพระสังข์ครั้งนี้  | ||
| + | ว่าแล้วแต่งองค์ทรงเครื่อง   รุ่งเรืองจำรัสรัศมี  | ||
| + | ทรงเทพอาชาพาชี   กรกุมคันคลีแกว่งไกว  | ||
| + | เทพบุตรครุฑาคนธรรพ   แห่แหนแน่นนับอสงไขย  | ||
| + | คลายคลี่รี้พลงสกลไกร   ตรงไปยังท้องสนามคลี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงหยุดโยธา   อยู่ตรงพลับพลาหลังคาสี  | ||
| + | แล้วร้องเตือนไปพลันทันที   ว่าเหวยภูมีท้าวสามนต์  | ||
| + | จะให้ใครไหนเล่ามาต่อสู้   หรือสุดรู้สิ้นคิดขัดสน  | ||
| + | จะได้รีบเวียงชัยเอาไพร่พล   เมียมีกี่คนจงบอกมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ได้ฟังยังประหม่า  | ||
| + | ให้นึกพรั่นหวั่นหวาดวิญญาณ์   ด้วยว่าหกเขยนั้นเคยแพ้  | ||
| + | จึงถามพระสังข์นั่งซักไซ้   เห็นว่าจะสู้ได้เป็นแน่  | ||
| + | ค่อยคลายหายอุธัจท้อแท้   ลุกขึ้นยืนยิ้มแต้แลไป  | ||
| + | เห็นไพรีขี่ม้าป้องหน้าดู   แล้วร้องว่ามาสู้กันใหม่  | ||
| + | ลูกเขยน้อยเรานี้ดีสุดใจ   ไม่เหมือนไอ้เขยเคอะเซอะซะ  | ||
| + | การคลีมีฝีมือลือเลิศ   ฟ้าผี่เถิดท่านแพ้แน่แล้วหนะ  | ||
| + | วันนี้ไม่มีลายหมายชนะ   อย่าเยาะเย้ยเลยคะไม่ย่อท้อ  | ||
| + | ว่าพลางทางปลอบลูกเขย   ลูกเอ๋ยอย่าให้อายขายหน้าพ่อ  | ||
| + | คอยระวังตั้งใจตั้งคอ   แข็งข้อต่อสู้ดูสักที  | ||
| + | แล้วบนบานศาลกล่าวเจ้านาย   จะถวายหัวหมูกับบายศรี  | ||
| + | มาตรแม้นมีชัยชนะคลี   จะให้มีอิเหนาสักเก้าวัน  | ||
| + | เล่นการมหรสพครบสิ่ง   จะเวียนเทียนทำมิ่งสิ่งขวัญ  | ||
| + | นวลนางมณฑามารดานั้น   ชวนกันอวยชัยให้ลูกรัก  | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์สุริย์วงศ์ทรงศักดิ์  | ||
| + | รับพรพ่อตาสามิภักดิ์   เหลียวดูเมียรักแล้วยิ้มพราย  | ||
| + | จึงบังคมลาบิตุรงค์   มาทรงอาชาเฉิดฉาย  | ||
| + | กรกุมคันคลีกรีดกราย   ชักม้าเรียงร่ายรำมา  | ||
| + | ชายหญิงแซ่ซ้องร้องชม   งามสมยศศักดิ์นักหนา  | ||
| + | งามทั้งท่วงทีขี่อาชา   ดังพระยาสีหราชอาจอง  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   โกสีย์มีศักดิ์สูงส่ง  | ||
| + | ชื่นชมสมคิดดังจิตจง   พลางทางสินธพกระทืบโกลน  | ||
| + | สะบัดย่างวางใหญ่ไวว่อง   ม้าต้นรนร้องลำพองโผน  | ||
| + | ชักบังเหียนหันหกผกเผ่นโจน   พลางโยนลูกคลีตีไป  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์คอยขยับรับไว้ได้  | ||
| + | เดาะคลีตีตอบไปทันใด   สหัสนัยน์กลอกกลับรับรอง  | ||
| + | ต่างแกว่งค้นคลีเป็นทีท่า   ขับม้ามีฝีเท้าเคล่าคล่อง  | ||
| + | เวียนวนวกวิ่งชิงคลอง   เปลี่ยนทำนองเข้าออกหลอกล้อ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ พระยาเดิน  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ร้องรับให้ดีพ่อ  | ||
| + | ตบมืออือเออชะเง้อคอ   เห็นลูกเขยเป็นต่อหัวร่อคัก  | ||
| + | ลุกขึ้นโลดเต้นเขม้นมุ่ง   พลัดผลุดลงมาขาแทบหัก  | ||
| + | มึนเมี่อยเหนื่อยบอบหอบฮัก   พิงพนักนั่งโยกตะโพกเพลีย  | ||
| + | ฉวยคนโทถมยามาดื่มน้ำ   หกคว่ำสำลักแล้วบ้วนเสีย  | ||
| + | หยิบบุหรี่จุดไฟไหม้ลามเลีย   วัดถูกจมูกเมียไม่รู้ตัว  | ||
| + | สาละวนตึงตังกำลังวุ่น   แม่คุณขอโทษอย่าโกรธผัว  | ||
| + | พี่ก็พานแก่ชราหูตามัว   ไม่เห็นตัวว่าใครข้างไหนเลย  | ||
| + | ว่าพลางทางเรียกเอาแว่นตา   ใส่จมูกแหงนหน้าดูลูกเขย  | ||
| + | ลุกขึ้นมองร้องเออชะเง้อเงย   ยายเอ๋ยอย่าปรารมภ์เป็นรองเรา  | ||
| + | แล้วผินมาด่าหกเขยใหญ่   เอออะไรกินข้าวสุกเสียเปล่าเปล่า  | ||
| + | สำคัญคิดว่าดีอ้ายขี้เค้า   ออกตีคลีแพ้เขาประเดี๋ยวใจ  | ||
| + | ดูเถิดซี้นี่แน่ลูกเขยกู   มาช่วยกู้แก้หน้าพ่อตาได้  | ||
| + | ไม่เหมือนมึงโง่งมก้มอยู่ไย   ขัดใจจะใคร่ถองสักสองตึง  | ||
| + | นางเมียเล่าปากคอก็พอสม   เจ้าคารมสิ้นทีไม่มีถึง  | ||
| + | พระกริ้วโกรธาด่าอึง   ผัวมึงอัปรีย์อ้ายขี้แพ้  | ||
| + | แล้วเรียกรจนาเข้ามานี่   พ่อนี้ไม่เห็นหนเป็นคนแก่  | ||
| + | ตาเจ้าสาวอยู่ช่วยดูแล   ช้างไหนแน่สามีจงชี้ตัว  | ||
| + | เสียงคนมี่ก้องร้องเออ   นางมณฑาชะเง้อง้ำผัว  | ||
| + | แพ้ลูกเขยข้าแล้วอย่ากลัว   ครั้งนี้รอดตัวไม่เสียเมือง  | ||
| + | ฯ ๒๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   อมรินทร์ปิ่นฟ้าฟุ้งเฟื่อง  | ||
| + | ควบม้ามุ่งหมายชายชำเลือง   ยักเยื้องย่างท่าสง่างาม  | ||
| + | ทรงเลี้ยงลูกคลีตีเดาะ   พระอินทร์เหาะขึ้นจากท้องสนาม  | ||
| + | พระสังข์ไม่พรั่นครั่นคร้าม   เหาะตามติดพันกระชั้นชิด  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ประชาชนคนดูอักนิษฐ์  | ||
| + | เห็นเหาะทั้งสองข้างต่างมีฤทธิ์   ให้คิดพิศวงงงงวย  | ||
| + | บ้างแหงนหน้าอ้าปากตะลึงตะไล   แลดูภูวไนยเอาใจช่วย  | ||
| + | เบียดเสียดเยียดยัดดังดูมวย   แซ่ซ้องรอ้งอำนวยอวยชัย  | ||
| + | พวกชาววังนั่งเลิกมูลี่ดู   อึงคะนึงหนวกหูห้ามไม่ไหว  | ||
| + | บ้างโกรธเพื่อนพ้อตัดด้วยขัดใจ   ที่ทางอะไรของตัว  | ||
| + | ท้าวสามนต์มองร้องตวาด   อีอุบาทว์เหล่านี้มิใช่ชั่ว  | ||
| + | ได้จะดูอะไรแล้วไม่กลัว   เคยตัวตีเสียให้แทบตาย  | ||
| + | ท้าวนางตกใจเข้าไปห้าม   อะไรรูปงามงามไม่กลัวหวาย  | ||
| + | แม่เจ้าเถิดแม่คุณอย่าวุ่นวาย   หลังจะลายเปล่าเปล่าไม่เข้าการ  | ||
| + | พวกผู้หญิงชั้นล่างข้างพลับพลา   เบียดกันรันเข้ามาถึงหน้าฉาน  | ||
| + | จ่าโขลนไล่ตีหนีลนลาน   สับสนอลหม่านมี่ไป  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระอินทร์แกล้งอ่อนหย่อนมือให้  | ||
| + | ชักม้าที่นั่งรั้งรอไว้   แล้วแกล้งว่าไปด้วยวาจา  | ||
| + | ลูกเขยท้าวสามนต์คนนี้   ฝีมือตีคลีดีนักหนา  | ||
| + | ต่อสู้เคี่ยวขับไม่อัปรา   หาไม่พ่อตาจะต้องริบ  | ||
| + | ควรที่จะครองเมืองเลื่องลือยศ   ปรากฏทั่วทิศทั้งสิบ  | ||
| + | ว่าแล้วเหาะคล้อยลอยลิบ   กลับไปยังทิพพิมานชัย  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์ผู้มีอัชฌาสัย  | ||
| + | ครั้นท้าวโกสีย์หนีไป   ก็ขับมโนมัยลงมา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ลนลานลงไปหา  | ||
| + | จูงกรต้อนรับขึ้นพลับพลา   แม่ยายพ่อตาเข้าเชยชม  | ||
| + | ปราศรัยสวมสอดกอดจูบ   โลมลูบหลังไหล่ลูกเขย  | ||
| + | ช่างเคล่าคล่องว่องไวกระไรเลย   ทรงสง่าง่าเงยก็งามครัน  | ||
| + | พ่อนี้แต่ครั้งยังไม่ชรา   อันตีคลีขี่ม้านี้ขยัน  | ||
| + | เมื่อครั้งบ้านเมืองดีตีพนัน   ก็ออกชื่อลือกันว่าตัวดี  | ||
| + | ทีหนีทีไล่ก็ไวว่อง   จะเป็นรองเจ้าราวห้าเอาสี่  | ||
| + | แต่ลืมเลอะทีเดียวแล้วเดี๋ยวนี้   ไพรีล่วงรู้จึงดูเบา  | ||
| + | ถ้าลูกแก้วแววตามิมาโปรด   หมดสิ้นทั้งโคตรเป็นข้าเขา  | ||
| + | เทวดาให้คุณบุญของเรา   จริงหรือไม่เล่าเจ้ามณฑา  | ||
| + | จะต้องรีบฉิบหายอยู่รอมร่อ   รอดตัวก็เพราะพ่อของข้า  | ||
| + | พลางกอดจูบลูบไล้ไปมา   ผัวเมียปูผ้าลงคำนับ  | ||
| + | เจ้าเหน็ดเหนื่อยหนักหนาหน้าตาแห้ง   ปรารมภ์ลมแล้งมันจะจับ  | ||
| + | ท้าวพ่อตาตรัสสั่งบังคับ   ยกสำรับมาสู่ลูกกูกิน  | ||
| + | แม่ยายละลายแป้งมาทาให้   น้ำดอกไม้หอมฟุ้งจรุงกลิ่น  | ||
| + | หยิบถาดน้ำชาออกมาริน   เจ้ากินให้สบายหายหิวมา  | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ พนักงานจัดสำรับคับคั่ง   ยกโต๊ะเข้าไปตั้งลงตรงหน้า  | ||
| + | พระสังข์นั่งกินกับพ่อตา   นางเมียมาหมอบพัดปัดแมลงวัน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นพ่อตาลูกเขยเสวยแล้ว   ท้าวสามนต์ผ่องแผ้วเกษมสันต์  | ||
| + | ลงจากที่ประทับพลับพลาพลัน   พากันเข้ายังวังใน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขึ้นบนพระโรงคัลไม่ทันนั่ง   ตรัสสั่งเสนาผู้ใหญ่  | ||
| + | ลูกเขยกูตีคลีมีชัย   จะเสกให้ครองกรุงในพรุ่งนี้  | ||
| + | จงช่วยกันเร่งรัดจัดแจง   ตกแต่งตั้งการภิเษกศรี  | ||
| + | แห่แหนให้สนุกกว่าทุกที   แล้วจะมีอิเหนาสักเก้าวัน  | ||
| + | ไปปรึกษาครูละครมันก่อนเหวย   ใครเคยรำดีทีขยัน  | ||
| + | อิเหนาเรื่องมิสาอุณากรรณ   จะประชันดาหลังเมื่อครั้งครวญ  | ||
| + | ทั้งหุ่นโขนโรงงิ้นผู้หญิง   ทุกสิ่งจงให้มีถี่ถ้วน  | ||
| + | กำชับกันทำงานการจวน   สั่งเสร็จเสด็จด่วนเข้าข้างใน  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนีธิบดีผู้ใหญ่  | ||
| + | มาสั่งเวรเกณฑ์กันทันใด   นายไพร่เร่งระดมสมทบ  | ||
| + | บ้างแต่งที่ปราสาทราชฐาน   บ้างปลูกโรงทานมหรสพ  | ||
| + | กระบวนแห่งแตรสังข์ครันครบ   ตามขนบธรรมเนียมเตรียมไว้  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ไม่อยู่สุขลุกวิ่งไขว่  | ||
| + | เที่ยวตรวจงานการข้างหน้าข้างใน   มิได้หยุดยั้งนั่งลงเลย  | ||
| + | บัดเดี๋ยวไปให้เมียแต่งธิดา   บัดเดี๋ยวมาจัดแจงแต่งลูกเขย  | ||
| + | ครั้นเสร็จนำหน้าพาไปเกย   ร้องห้ามเฮ้ยอย่าขวางทางลูกกู  | ||
| + | ให้สองทรงสีวิกายานุมาศ   อำมาตย์เดินเคียงเป็นคู่คู่  | ||
| + | เคลื่อนกระบวนหน้าหลังพรั่งพรู   เลี้ยวออกนอกประตูแห่ไป  | ||
| + | อภิรุมชุมสายพรายพรรณ   เสียงประโคมสนั่นหวั่นไหว  | ||
| + | ท้าวสามนต์กับเมียมาข้างใน   ตรงไปมณเทียรที่พิธี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ กลองโยน  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ถึงพร้อมแล้วพากันมานั่ง   บนบัลลังก์นั่งเคียงเตียงบายศรี  | ||
| + | พร้อมพระวงศาเสนี   ครั้นได้ฤกษ์ดีให้ลั่นฆ้อง  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ปุโรหิตผู้เฒ่าทั้งสอง  | ||
| + | จึงจุดเทียนติดกันแว่นทอง   ค่อยประคองเคารพอภิวันท์  | ||
| + | เวียนวงส่งไปข้างในรับ   ประโคมขับขานเสียงเสนาะสนั่น  | ||
| + | มหรสพครบสิ่งสิ้นทั้งนั้น   ก็เล่นขึ้นพร้อมกันทันใด  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ มหาชัย  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นครบเจ็ดรอบตามตำรับ   จึงดับเทียนโบกควันให้  | ||
| + | เอาจุณเจิมเฉลิมพักตร์ภูวไนย   ทั้งองค์อรไทพระธิดา  | ||
| + | แล้วอำนวยอวยพรศรีสวัสดิ์   สองกษัตริย์จงเป็นสุขา  | ||
| + | ทุกข์โศกโรคภัยอย่าพาธา   ให้ชันษายาวยืนหมื่นปี  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี  | ||
| + | จึงตรัสแก่เขยขวัญทันที   สมบัติในบุรีและรี้พล  | ||
| + | สารพัดพ่อให้แก่เจ้าหมด   ทั้งบ้านเมืองเครื่องยศเครื่องต้น  | ||
| + | ตัวพ่อก็ชราตามืดมน   ขอพึ่งลูกสองคนไปจนตาย  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์ชื่นชมสมหมาย  | ||
| + | รับสั่งแล้วหมอบยอบกาย   กราบถวายบังคมก้มพักตร์  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท่านท้าวสามนต์ผู้มีศักดิ์  | ||
| + | ครั้นเสร็จสมโภชลูกรัก   มอบเวนอาณาจักรกรุงไกร  | ||
| + | สี่กษัตริย์เสด็จเยื้องย่าง   จากปรางค์ปราสาททองผ่องใส  | ||
| + | แห่แหนเป็นขนัดอัดแอไป   คืนเข้าวังในมิได้ช้า  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ===ตอนที่ ๙ ท้าวยศวิมลตามพระสังข์===  | ||
== เชิงอรรถ ==  | == เชิงอรรถ ==  | ||
การปรับปรุง เมื่อ 10:56, 18 พฤศจิกายน 2552
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ กำเนิดพระสังข์
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวยศวิมลไอศวรรย์ | ||
| ไร้บุตรสุดวงศ์พงศ์พันธุ์ | วันหนึ่งนั้นไปเลียบพระนคร | ||
| ราษฏรร้องว่าให้หาบุตร | พระทรงภุชร้อนจิตดังพิษศร | ||
| มิได้เสวยสรงสาคร | นั่งนอนร้อนใจใช่พอดี | ||
| ประชาชนจนจิตไม่คิดหวัง | ยิ่งประดังพลุกพล่านทั้งกรุงศรี | ||
| เวทนาเป็นพระยาสมบัติมี | มาไร้ที่โอรสยศไกร | ||
| จึงดำรัสตรัสเล่ามเหสี | ถ้วนถี่ชี้แจงแถลงไข | ||
| เจ้ามาช่วยพี่คิดนะดวงใจ | ค้นคว้าหาไปดูตามบุญ | ||
| บวงสรวงซ่องเซทุกเวลา | รักษาศีลด้วยช่วยอุดหนุน | ||
| ถ้วนทุกนางในให้พร้อมมูล | เกลือกบุญของใครได้สร้างมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีมิได้คิดอิจฉา | ||
| คำนับรับราชบัญชา | พระอย่าระคางหมางใจ | ||
| จะพึ่งพ่อขอฝากดวงชีวัน | หาคิดเกียดกันฉันทาไม่ | ||
| ตามแต่กุศลของใคร | ให้สิ้นสงสัยพระทัยปอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังนาฏ | พิศวาสในน้ำคำสนอง | ||
| สั่งท้าวนางในดังใจปอง | ให้แต่งของบูชาบรรณาการ | ||
| พลบค่ำย่ำแสงสุริยา | ยกมาเตรียมไว้ในสถาน | ||
| บอกเหล่าสาวศรีบริวาร | สั่งการให้ทั่วทุกตัวนาง | ||
| จัดแจงแต่งเครื่องบูชา | ธูปเทียนชวาลาต่างต่าง | ||
| ทุกวันทุกเวรอย่าเว้นว่าง | นอนปรางค์ข้างที่เราทุกคน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวไนยมีพระทัยขวายขวน | ||
| เห็นนางในนอนทั่วทุกตัวคน | ตรัสบอกยุบลสนทนา | ||
| ดูก่อนเหล่านางทั้งหลาย | เราหมายมุ่งมาดปรารถนา | ||
| จำนงจะประสงค์ลูกยา | ไม่เห็นแก่หน้าฉันทาใคร | ||
| ชวนกันตั้งจิตพิษฐาน | บนบานตามชอบอัชฌาสัย | ||
| ใครเกิดบุตรายาใจ | เวียงชัยจะให้แก่ลูกรัก | ||
| ตรัสพลางทางเข้าแท่นที่ | ชวนพระมเหสีมีศักดิ์ | ||
| บวงสรวงเทวาสุรารักษ์ | ในห้องทองสุรศักดิ์ตำหนักชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| สระบุหรง | |||
| ๏ จึงจุดธูปเทียนประทีปแล้ว | เพริศแพรวพร้อมที่ศรีใส | ||
| ทั้งสองพระองค์จำนงใน | ตั้งใจบริสุทธิ์ดุษฎี | ||
| นอบน้อมพร้อมจิตพิษฐาน | เดชะสมภารข้าสองศรี | ||
| ปกป้องไพร่ฟ้าประชาชี | โดยดีเป็นธรรม์นิรันดร์มา | ||
| ข้าไซร้ไร้บุตรสุดสวาท | จะบำรุงราษฏร์ไปภายหน้า | ||
| พระเสื้อเมืองเรืองชับได้เมตตา | ขอให้เกิดบุตรายาใจ | ||
| เสร็จแล้วพระแก้วก็ไสยา | ทรงศีลห้าทุกวันหาขาดไม่ | ||
| ทศธรรมไม่ลำเอียงใคร | ภูวไนยเข้าที่บรรทมพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | สุราลัยในดาวดึงส์สวรรค์ | ||
| เมื่อผลจะสิ้นพระชนม์นั้น | อัศจรรย์ร้อนรนเป็นพ้นไป | ||
| รัศมีศรีตนก็หม่นหมอง | สิ่งของของตัวก็มัวไหม้ | ||
| เทวาตระหนกตกใจ | แจ้งในพระทัยจะวายชนม์ | ||
| แล้วจึงตรึกตรองส่องเนตร | แจ้งใจในเหตุเภทผล | ||
| พระเจ้าท้าวยศวิมล | ให้พรากจากดาวดึงส์สวรรค์ | ||
| อย่าเลยจะจุติพลัน | อย่าให้เทวัญทันนิมนต์ | ||
| ลงไปเกิดในมนุสสา | แสวงหาศีลทานการกุศล | ||
| คิดแล้วกลั้นใจให้วายชนม์ | ปฏิสนธิ์ยังครรภ์กัลยา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ คุกพากย์ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฝันว่า | ||
| วันเมื่อจะได้พระลูกยา | เข้าที่นิทราในราตรี | ||
| ฝันเห็นเป็นเทพสังหรณ์ | ทินกรจะใกล้ไขสี | ||
| สะดุ้งตื่นฟื้นพลันทันที | จำได้ถ้วนถี่ในนิมิต | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พอรุ่งสางสว่างสุริยง | สระสรงทรงเครื่องไพจิตร | ||
| ออกท้องพระโรงชัยอำไพพิศ | สถิตบัลลังก์กระจังทอง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เสนาข้าเฝ้าก็กราบกราน | จึงมีโองการสารสนอง | ||
| กับโหรผู้ใหญ่ดังใจปอง | ท่านจงตรึกตรองดูในสุบิน | ||
| ฝันว่าอาทิตย์ฤทธิรงค์ | ตกลงตรงพักตร์ข้างทักษิณ | ||
| ดาวน้อยพลอยค้างอยู่กลางดิน | เราผินพักตร์ฉวยเอาด้วยพลัน | ||
| มือซ้ายได้ดวงดารา | มือขวาคว้าได้สุริย์ฉัน | ||
| แล้วหายไปแต่พระสุริยัน | ต่อโศกศัลย์ร่ำไรจึงได้คืน | ||
| สักสามยามหย่อนค่อนรุ่ง | เราสะดุ้งคว้าหาผวาตื่น | ||
| ดีร้ายทายตามอย่ากล้ำกลืน | ตาหมี่นโหราจงว่าไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ยอดโหราหามีเสมอไม่ | ||
| คิดคูณหารดูรู้แจ้งใจ | ภูวไนยจะเกิดบุตรา | ||
| จึงทูลทายทำนายตามสุบิน | ว่าพระปิ่นนางในฝ่ายขวา | ||
| จะทรงครรภ์พระราชบุตรา | บุญญาธิการมากมี | ||
| แต่จะพลัดพรากไปจากวัง | ภายหลังจึงจะคืนกรุงศรี | ||
| ดาราคือพระบุตรี | จะเกิดที่สนมอันควร | ||
| ฝันว่าพระทรงโศกา | จะได้ชมลูกยาเกษมสรวล | ||
| ทายตามสุบินสิ้นกระบวน | ถี่ถ้วนจงทราบพระบาทา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังทูล | พระไพบูลย์ภิรมย์หรรษา | ||
| แย้มโอษฐ์โปรดตรัสแก่โหรา | แม้นเหมือนท่านว่าจะรางวัล | ||
| ราษฏร์ฟ้องร้องว่าให้หาบุตร | สุดคิดที่เราจะผ่อนผัน | ||
| บัดสีกับใจใครจะทัน | ว่าแล้วผายผันเข้าวังใน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงแจ้งกับองค์มเหสี | ถ้วนถี่ชี้แจงแถลงไข | ||
| พระค่อยเป็นสุขสนุกใจ | ทรามวัยงานขึ้นทุกคืนวัน | ||
| เปล่งปลั่งมังสาดังทาทอง | พระเต้าคล้ำมัวหมองทั้งสองถัน | ||
| เส้นพาดพานทรวงดวงจันทร์ | แจ้งว่าทรงครรภ์มั่นคง | ||
| ผิวพรรณผุดผ่องละอองพักตร์ | พระแสนสุดที่รักนวลหง | ||
| จัดเลือกแสนสาวที่รูปทรง | มาห้อมล้อมโฉมยงอนงค์นวล | ||
| แล้วหยอกถามว่าใครอย่างไรบ้าง | ได้การแล้วหรือยังพระแย้มสรวล | ||
| อุตส่าห์ทาแป้งแต่งนวล | สำรวลสรวลวสันต์บันเทิงใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ จึงเห็นจันเทวีพระสนม | เนื้อนมครัดเคร่งเร่งสงสัย | ||
| แจ้งว่ามีครรภ์มั่นแม่นใจ | จัดแจงแต่งให้นางเทวี | ||
| นางใดที่ไม่มีครรภ์ | แก้ฝันเห็นของก็หมองศรี | ||
| ก้มเกล้ากราบลาพระจักรี | จันทาเทวีก็ลีลา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ฝ่ายนางจันทามาถึงห้อง | เศร้าหมองตรองจิตคอยอิจฉา | ||
| อาบเอิบกำเริบด้วยโภคา | ผ่านฟ้าว่าใครมีครรภ์ | ||
| สมบัติจะยกให้ลูกครอง | มีสองต้องคิดผิดผัน | ||
| ท่านมียศศักดิ์จะรักกัน | ลูกเต้าเหล่านั้นจะหมองมัว | ||
| ที่ไหนจะได้พระบุรี | สาวศรีจะชวนกันยิ้มหัว | ||
| ยิ่งตรึกยิ่งตรองยิ่งหมองมัว | จึงเรียกนางแม่ครัวเข้าห้องใน | ||
| สาวศรีเจ้าจงเอ็นดูเรา | เบี้ยข้าวเงินทองจะกองให้ | ||
| จงช่วยปิดงำอำไว้ | เอาทองไปให้แก่โหรา | ||
| เขียนหนังสือลับกำชับสั่ง | เราหวังไว้ใจเจ้าหนักหนา | ||
| ถอดแหวนสั่งให้มิได้ช้า | นี่ข้าถึงใจให้พลาง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ได้กินสินจ้าง | ||
| เคารพนบนอบแล้วตอบพลาง | ลูกแล้วอย่าหมางระคางใจ | ||
| สู้ตายจะตายด้วยแม่เจ้า | ลูกเล่าหาพีงผู้ใดไม่ | ||
| แม่ได้ดีลูกนี้จะดีใจ | ลากห่อทองได้ใส่แหวนมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ มาถึงซึ่งบ้านโหรเฒ่า | จู่เข้าไปได้ในเคหา | ||
| ไหว้แล้วแก้ทองของจันทา | คุณแม่ให้มาแต่ในวัง | ||
| ว่าคุณตายาใจปรานีด้วย | จงช่วยให้สมอารมณ์หวัง | ||
| จงเห็นไมตรีให้จีรัง | แล้วยื่นหนังสือให้มิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรใหญ่สงสัยเป็นหนักหนา | ||
| รับเอาหนังสือที่มือมา | ใส่แว่นตาดูก็รู้ความ | ||
| นิ่งนึกตรึกตรองอยู่ในใจ | โลภเห็นแต่จะได้ไม่เกรงขาม | ||
| แม้นภูมิรับกลับความ | ทองคำสามชั่งจะคืนไป | ||
| ถ้ากูแก้ไขนางจันทา | เงินตราห้าชั่งนั้นจะได้ | ||
| จึงว่ากับสาวศรีด้วยดีใจ | พอแก้ไขได้เป็นไรมี | ||
| แลเหลียวเปลี่ยวคนที่บนเรือน | อิดเอื้อนจะใคร่ประสมศรี | ||
| สาวใช้เจ้าเข้าไปในที่ | วานหยิบบุหรี่ที่ริมเตียง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ สาวใช้อดสูก็รู้เท่า | ไฮ้คุณตาเจ้าช่างกล่าวเกลี้ยง | ||
| ใครจะเข้าไปถึงในเตียง | ข้าวของรายเรียงจะหายไป | ||
| สะบัดมือได้แล้วไหว้ลา | อย่านะฉันหาอะไรไม่ | ||
| จึงวิ่งผลุนหนีพลันทันใด | มายังวังในไปแจ้งความ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีโฉมฉินปิ่นห้าม | ||
| ค่อยเพียรรักษาพยายาม | พระครรภ์โฉมงามได้สิบเดือน | ||
| จวนใกล้ฤกษ์พานาที | นาภีใหญ่น้อยก็คล้อยเคลื่อน | ||
| ระดมลมเส้นก็เต้นเตือน | ลูกน้อยคล้อยเคลื่อนเลื่อนลง | ||
| เจ็บครรภ์กระสันขึ้นทุกที | พ่างเพียงชีวีจะผุยผง | ||
| ร้องเรียกแสนสาวเหล่าอนงค์ | มาพร้อมล้อมองค์นางเทวี | ||
| เรียกพลางทางป่วนครวญครรภ์ | ช่วยกันเร็วเร็วนางสาวศรี | ||
| องค์สั่นยัยยุดทรุดอินทรีย์ | มเหสีโอดโอยโรยแรง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงนางผู้รักษากล้าแข็ง | ||
| ฝืนท้องต้องนางยังคลางแคลง | เห็นแข็งไปสิ้นไม่ดิ้นรน | ||
| กลมกลมกลิ้งกลิ้งยิ่งสงสัย | หลากใจไม่เห็นตัวทั่วค้น | ||
| บ้างไปทูลองค์ทรงสกล | ให้ทราบยุบลกิจจา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงกราบทูลพระภูมินทร์ | ว่าพระปิ่นนางในฝ่ายขวา | ||
| จะคลอดสมเด็จพระลูกยา | ขอเชิญผ่านฟ้าเสด็จไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลเร่งผ่องใส | ||
| จะได้เห็นลูกน้อยกลอยใจ | ในวันนี้แล้วแก้วตา | ||
| รีบไปด้วยไร้โอรส | พระทรงยศแสนโสมนัสสา | ||
| นางในใครรู้ก็ตรูมา | โฉมนางจันทาก็ตามไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ | |||
| จึงกล่าวเอาใจมเหสี | เจ้าพี่อย่าพรั่นหวั่นไหว | ||
| ลูกของเทวัญท่านให้ไว้ | แข็งใจขบฟันกลั้นทน | ||
| นักเทศจงไปสั่งการ | พนักงานของใครให้ขวายขวน | ||
| เตรียมไว้ในพระราชมณฑล | ขนมาประโคมพระลูกเรา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีป่วนปั่นพระครรภ์เจ้า | ||
| มิได้วายว่างบางเบา | เจ็บราวกับเขาผูกคร่าร้า | ||
| เป็นกรรมตามทันมเหสี | จะจากที่สมบัติวัตถา | ||
| ยามปลอดก็คลอดพระลูกยา | กุมารากำบังเป็นสังข์ทอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา มโหรี | |||
| ๏ มเหสีตระหนกอกสั่น | สาวสรรค์หวั่นไหวทั้งในห้อง | ||
| ผ่านฟ้าดังเลือดตานอง | แตรสังข์แซ่ซ้องประโคมพลัน | ||
| พระทัยวาบสำเนียงเสียงศรี | ภูมีขับเหล่านางสาวสรรค์ | ||
| ภูมินทร์เพียงจะสิ้นชีวัน | อับอายสาวสรรค์กำนัลใน | ||
| จึงตรัสแก่องค์มเหสี | เจ้าพี่เราจะคิดเป็นไฉน | ||
| ไม่พอที่จะเป็นก็เป็นไป | เมื่อหาลูกไม่ก็ทุกข์ทน | ||
| อุตส่าห์บนบานศาลกล่าว | ครั้นมีมาเล่าไม่เป็นผล | ||
| อับอายไพร่ฟ้าข้าคน | พี่จะใคร่กลั้นชนม์ให้พ้นอาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังตรัส | ดังใครตัดเศียรเด็ดกระเด็นหาย | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าฟูมฟาย | นางถวายบังคมก้มโศกา | ||
| พ่อเจ้าพระคุณของเมียเอ๋ย | กรรมสิ่งไรเลยเป็นหนักหนา | ||
| เสียแรงอุ้มทองประคองมา | ดีใจหมายว่างามหน้าเมีย | ||
| มิรู้ว่ามาได้อัปยศ | พลอยยศพระคุณให้สูญเสีย | ||
| พระองค์ทรงพระขรรค์ฟาดฟันเมีย | ตายเสียอยู่ขายบาทบงสุ์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาได้ช่องต้องประสงค์ | ||
| กับโหรดูรู้กันไว้มั่นคง | ครั้นเข้าเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ทูลว่าอนาถประหลาดจิต | ข้าคิดพิศวงสงสัย | ||
| ลูกคนเป็นหอยน่าน้อยใจ | หาเยี่ยงอย่างไม่แต่ก่อนมา | ||
| มีครรภ์เหมือนกันก็พรั่นตัว | ดีชั่วก็ยังกังขา | ||
| เดิมว่าโหรทายทำนายมา | แต่แรกชายาจะทรงครรภ์ | ||
| ว่าโอรสนั้นจะมีบุญ | ได้เพ็ดทูลไว้ตามทำนายฝัน | ||
| เข้าไฟให้หายโรคัน | แล้วทรงธรรม์ตรัสถามเนื้อความดู | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังคำ | ผลกรรมจะพรากจากคู่ | ||
| แยบคายภายในมิได้รู้ | จริงอยู่โหรทายทำนายมา | ||
| ว่าจะมีท้องทั้งสองนั้น | แม่นมั่นจริงจังดังปากว่า | ||
| เคยได้นับถือลือชา | ลูกยามาเป็นเช่นนี้ไป | ||
| จริงแล้วจะถามความก่อน | ให้แน่นอนว่าเห็นเป็นไฉน | ||
| จึงให้ทรามชมบรรทมไฟ | คลาไคลออกท้องพระโรงพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ให้หาโหราเข้ามาเฝ้า | พระเจ้าตรัสถามเนื้อความฝัน | ||
| เดิมทายโฉมยงว่าทรงครรภ์ | ก็แม่นมั่นเหมือนคำจำนรรจา | ||
| เหตุไรลูกน้อยเป็นหอยสังข์ | พลาดพลั้งบิดเบือนไม่เหมือนว่า | ||
| จะเป็นชายทายทูลว่าบุญญา | ถ้อยคำท่านว่านั้นผิดไป | ||
| ให้ดูแลหมายว่าจริงจัง | เลือดตากูดังจะย้อยไหล | ||
| เป็นเหตุเภทพาลประการใด | โหราว่าไปอย่าอำพราง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรใหญ่ได้กินสินจ้าง | ||
| สมจิตคิดไว้จะให้นาง | พลัดพรากจากปรางค์ไปทางไกล | ||
| ทำค้นตำรามาดุแล | บิดเบือนเชือนแชแก้ไข | ||
| แล้วทูลพระองค์ผู้ทรงชัย | ทายไว้มิใคร่จะคลาดคลา | ||
| เพราะบ้านเมืองร้ายต้องกลายกลับ | พระองค์ว่ากับโอรสา | ||
| เป็นกรรมตามทันกัลยา | แม้นพระบุตราเป็นมนุษย์ | ||
| จะเลิศเรืองเฟื่องฟุ้งงทั้งกรุงไกร | เคราะห์ร้ายกลายไปเสียสิ้นสุด | ||
| บ้านเมืองก็จะล่มโทรมทรุด | ม้วยมุดฉิบหายวายปราณ | ||
| แม้นขับไล่ไปไกลบุรี | ธานีจะเย็นเกษมศานต์ | ||
| อย่าไว้พระทัยให้เนิ่นนาน | เพลิงกาฬจะเผาเอาพารา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังโหรทาย | ดังจะวายชีวังสังขาร์ | ||
| กระนั้นจริงเจียวหรือโหรา | อนิจจาหลัดหลัดมาพลัดกัน | ||
| ว่าพลางสะท้อนถอนใจ | กลั้นน้ำพระเนตรไว้แล้วผายผัน | ||
| คืนเข้าห้องแก้วแพรวพรรณ | หามิ่งเมียขวัญทันใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงทิ้งพระองค์ลง | บอกพลางทางทรงกันแสงไห้ | ||
| โอ้กรรมเราทำไว้ปางใด | จะไกลกันไปแล้วนะแก้วตา | ||
| มิพอที่จะเป็นก็มาเป็น | เกิดเข็ญเพราะลูกเสน่หา | ||
| โหรทายร้ายนักเจ้าพี่อา | ว่าแก้วกัลยาเป็นกาลี | ||
| อยู่ไปจะได้แค้นเคือง | บ้านเมืองจะยับต้องขับหนี | ||
| พี่จะขาดใจม้วยด้วยเทวี | ไม่มีความผิดสักนิดเลย | ||
| แสนสงสารนักด้วยรักใคร่ | จะจากกันฉันใดได้เฉยเฉย | ||
| อยู่อยู่ดีดีเจ้าพี่เอย | ไม่รู้ตัวเลยจะจากกัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังสาร | ดังคนผลาญชีวาให้อาสัญ | ||
| นางตระหนกตกใจดังไฟกัลป์ | อกสั่นขวัญหนีไม่มีใจ | ||
| สวมสอดกอดบาทของผัวแก้ว | ข้อนทรวงเข้าแล้วก็ร้องไห้ | ||
| เมียให้ฆ่าฟันให้บรรลัย | รักใคร่เมตตาไม่ฆ่าตี | ||
| โหรามันว่าเป็นคำสอง | พ่อตรองให้ควรถ้วนถี่ | ||
| ขับไล่ไม่มาฆ่าตี | เหมือนม้วยชีวีไปจากกัน | ||
| ร่ำพลางนางเกลือกเสือกกาย | ดังจะวายชีวาด้วยโศกศัลย์ | ||
| ซบพักตร์กับตักพระทรงธรรม์ | หวาดหวั่นนิ่งไปไม่พาที | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เอะเอยเอะน้องแก้ว | ผิดแล้วองค์เย็นดังเป็นผี | ||
| ร้องไห้นิ่ไปไม่พาที | อยู่บนตักพี่ไม่หายใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้จันท์เทวีเจ้าพี่เอ๋ย | ทรามเชยเงยหน้าอย่าร้องไห้ | ||
| อกของผัวรักจักหักไป | ลุกขึ้นดูใจปราศรัยกัน | ||
| พี่พูดด้วยเป็นไรไม่เจรจา | แน่แล้วแก้วตาพี่อาสัญ | ||
| เจ้าอ้อนวอนพี่ให้ฆ่าฟัน | จะทำกันฉันใดไฉนนา | ||
| ถึงพลัดพรากลำบากกาย | มิตายได้เห็นกันวันหน้า | ||
| ไม่เงยพักตร์ขึ้นบ้างสั่งพี่ยา | แก้วตามาตีตัวตาย | ||
| ตัดช่องน้อยไปแต่ตัว | ทิ้งผัวเสียได้น่าใจหาย | ||
| ร่ำพลางกอดพลางฟูมฟาย | ระทวยกายกอดซบสลบพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาแสนกลคนขยัน | ||
| เห็นสองสลบทบทับกัน | ผันผินรินน้ำกุหลาบมา | ||
| ชโลมองค์ทรงทาทั้งสองศรี | ค่อยได้สมประดีที่โหยหา | ||
| แล้วโลมเล้ากล่าวคำด้วยหยาบช้า | เคราะห์กรรมทำมาจะโทษใคร | ||
| โหรเล่าใช่เขาจะชั่วช้า | เคยนับถือมาแต่ไหนไหน | ||
| จำไปให้สิ้นเคราะห์ภัย | เกลือกไปเคราะห์นั้นจะบรรเทา | ||
| ไม่ม้วยดับชีพสูญหาย | มิใช่ล้มตายอะไรเล่า | ||
| แต่พอเคราะห์นั้นค่อยบรรเทา | แล้วเราจึงรับกันกลับมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระฤาสายค่อนคลายที่โหยหา | ||
| ได้ฟังถ้อยคำนางจันทา | ตรึกตราสะท้อนถอนใจ | ||
| เห็นจริงไม่กริ่งถ้อยคำ | ด้วยเวรากรรมมาทำให้ | ||
| จึงมีวาจาว่าไป | เจ้าเอาใจด้วยช่วยจัดแจง | ||
| ให้องค์นงเยาว์เจ้าไปกิน | ทรัพย์สินเงินทองของแห้ง | ||
| สั่งเสนาในให้จัดแจง | เรือแผงม่านวงให้จงดี | ||
| ส่งไปให้พ้นขอบเขต | จะเนรเทศยอดรักมเหสี | ||
| ตรัสพลางดูนางแล้วโศกี | ภูมีเมินอายนางจันทา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันทาตัวคิดริษยา | ||
| ดีใจรับสั่งบังคมลา | ทำเช็ดน้ำตาแล้วคลาไคล | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ มิได้จัดแจงแต่งของ | เงินทองข้าวปลาไม่หาให้ | ||
| กระซิบสั่งสาวศรีที่ร่วมใจ | เอาเงินไปให้แก่เสนา | ||
| ว่าเอ็นดูด้วยช่วยเรา | พาเอานางไปอย่าไว้หน้า | ||
| ไกลคนพ้นแดนพารา | เสนาฆ่าเสียให้วอดวาย | ||
| สุดแต่อย่าให้มันครองวัง | ปิดความกำบังให้สูญหาย | ||
| จะทดแทนคุณให้มากมาย | เจ้าอย่าแพร่งพรายให้ใครฟัง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสร็จสรรพกลับเข้าปราสาทศรี | ทูลความตามที่รับสั่ง | ||
| เงินทองของกินสิ้นยัง | เตรียมแล้วพร้อมพรั่งทั้งนาวา | ||
| บัดนี้ไพร่ฟ้าข้าเมือง | ลือเลื่องฮึกฮักหนักหนา | ||
| มันจะกลุ้มรุมกันทั้งพารา | โกรธว่าจะพาให้ยากเย็น | ||
| ว่าช้าไปมิใคร่จะจากวัง | มันจะพังบ้านเมืองเคืองเข็ญ | ||
| น้ำตาข้าน้อยพลอยกระเด็น | กรรมเวรเป็นไปทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังข่าว | พระร้อนเร่าฤทัยไหวหวั่น | ||
| หลงกลด้วยกรรมาตามทัน | สำคัญว่าจริงทุกสิ่งไป | ||
| พินิจพิศพักตร์อัคเรศ | คลอเนตรสะท้อนถอนใจใหญ่ | ||
| จะออกปากก็คับอับใจ | ด้วยความรักใคร่ชายา | ||
| ครั้นจะมิให้เจ้าไปเล่า | ร้อนเร่าด้วยคำจันทาว่า | ||
| บ่ายเบื้อนเยื้อนออกวาจา | เจ้าแก้วตาของพี่ผู้มีกรรม | ||
| เจ้าเคยพรากสัตว์ให้พลัดคู่ | เวรมาชูชุบอุปถัมภ์ | ||
| แม้นมีกรรมไม่ไปใช้กรรม | ไพร่ฟ้ามันจะทำย่ำยี | ||
| มิใช่พี่ไม่รักน้อง | ร่วมห้องอกสั่นกันแสงศรี | ||
| ไม่ยับดับสูญบุญมี | เคราะห์ดีสิ้นกรรมจะเห็นกัน | ||
| ตรัสพลางดูนางมิใคร่ได้ | ชลนัยน์ไหลรินแล้วผินผัน | ||
| เดินเข้าห้องแก้วแพรวพรรณ | รูดพันม่านทองเข้าโศกา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เสมอ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีตีทรวงไห้โหยหา | ||
| พ่างเพียงจะสิ้นชีวา | โศกาไม่เป็นสมประดี | ||
| ครั้นจะอ้อนวอนผ่อนผัน | ทรงธรรม์ก็เมินดำเนินหนี | ||
| ทุกข์แค้นแสนโศกโศกี | พระพันปีหนีเมียเสียว่าไร | ||
| มีกรรมจำจากพระบาทแล้ว | น้องแก้วหาขัดขืนไม่ | ||
| จะขอผัดผ่อนต่อนอนไฟ | มิให้ช้านักสักเจ็ดวัน | ||
| แต่พอให้แห้งเหือดเลือดลม | จะซุกซมซ่อนไปในไพรสัณฑ์ | ||
| พ่อไม่ขึ้งโกรธโทษทัณฑ์ | เหตุไรไม่ทันบัญชา | ||
| ว่าพลางนางข้อนทรวงไห้ | เพียงขาดใจม้วยด้วยโหยหา | ||
| เหล่ากำนัลไม่กลั้นน้ำตา | ชวนกันโศการิมแท่นทอง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวดีไม่มีสอง | ||
| สมจิตคิดไว้ดังใจปอง | ได้ช่องให้หน้าแล้วว่าไป | ||
| กับนางสาวศรีที่ร่วมคิด | ว่ารับสั่งทรงฤทธิ์เป็นใหญ่ | ||
| ให้พาโฉมยงเจ้าลงไป | มอบองค์ส่งให้แก่เสนี | ||
| ช้าไปไพร่ฟ้าจะขึ้งโกรธ | จะคุมโทษโลภแย่งเอากรุงศรี | ||
| ตามบุญตามกรรมของเทวี | ช้าไปบูรีจะมีภัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ผู้ร่วมอัชฌาสัย | ||
| รู้กันในกลยลใน | ลอบเข้าไปใกล้นางชายา | ||
| ทูลว่าภูมินทร์ปิ่นเกล้า | อาวรณ์ร้อนเร่าหนักหนา | ||
| ด้วยกลัวไพรีจะบีฑา | เตือนมาให้พาแม่คลาไคล | ||
| จะมีโทษแต่ข้าน้อย | ดับความโศกสร้อยละห้อยไห้ | ||
| มีกรรมจำเป็นเข็ญใจ | อย่าให้ข้าไทต้องภัยโพย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ฟังคำ | นางโศกช้ำรัญจวนหวนโหย | ||
| อนิจจังทั้งสิ้นมาดิ้นโดย | โพยภัยมิให้แก่ใครมี | ||
| คิดว่าพอผัดผ่อนได้ | เมื่อไม่โปรดเกล้าเกศี | ||
| ตามแต่เวราของข้านี้ | สาวศรีอย่าได้ทุกข์ทน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ว่าพลางยกเอาลูกน้อย | น้ำเนตรหยดย้อยดังฝอยฝน | ||
| ร้องทูลพระองค์ทรงสกล | น้องคนมีกรรมจะขอลา | ||
| ดูรูปจำร่างเสียยังแล้ว | พระแก้วจะไม่ได้เห็นหน้า | ||
| จะไม่คืนคงอย่าสงกา | มิได้รองฝ่าพระบาทไป | ||
| สิ่งใดเมียได้พลาดพลั้ง | แต่หลังให้ขัดอัชฌาสัย | ||
| เมียขอสมาอาภัย | อย่าได้เป็นเวราเลย | ||
| ให้พ่ออยู่ยืนได้หมื่นปี | โรคาอย่ามีพ่อคุณเอ๋ย | ||
| ไม่เยี่ยมม่านทองดูน้องเลย | ทำเฉยเสียได้ไม่นำพา | ||
| นิ่งได้ให้เขามาสั่งเสีย | ตัดเมียเสียได้ไม่ดูหน้า | ||
| ว่าแล้วนางแก้วบังคับลา | สาวใช้ซ้ายขวาก็ตามไป | ||
| ค่อยอยู่เถิดเจ้านางสาวศรี | บุญน้อยแล้วมิอยู่ด้วยได้ | ||
| ข้าได้เรียกขานวานใช้ | อภัยอย่าได้เป็นกรรมกัน | ||
| ว่าพลางนางอุ้มลูกยา | จันทาพยักหน้านางสาวสรรค์ | ||
| เดินทรงโศกามาพลัน | กำนัลจันทาก็พาไป | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เพลง เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีที่ร่วมอัชฌาสัย | ||
| รับเอาโฉมงามทรามวัย | สาวใช้ขึ้นไปยังในวัง | ||
| กินเหล้าเมาโป้งโฉงเฉง | ไม่เกรงไม่ขวยด้วยโอหัง | ||
| เชิญแม่มาไปให้พ้นวัง | รับสั่งจะช้าอยู่ว่าไร | ||
| ทำให้คนยากลำบากด้วย | คราวรวยหาทักรู้จักไม่ | ||
| ที่มีปัญญาก็ว่าไป | นี่พูดอะไรไม่ต้องการ | ||
| ว่าพลางเชิญนางลงนาวา | มิช้าบ่ายบากจากสถาน | ||
| ทางสิบห้าวันกันดาร | พ้นบ้านไกลที่ไม่มีคน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงส่งนางเทวี | ดูน่าปรานีระเหระหน | ||
| เสนีที่ได้กินสินบน | ขัดสนด้วยคนเขามากมาย | ||
| จะฆ่าเทวีก็มิได้ | มารยาว่าไปดังใจหมาย | ||
| ไหนไหนไม่พ้นเป็นคนตาย | จะลองดาบกรายเล่มนี้ดู | ||
| เพื่อนกันช่วยฉุดยุดไว้ | ผิดไปไม่ได้อย่าจู่ลู่ | ||
| ตามกรรมตามเวรนางโฉมตรู | จู่ลู่จะพากันวุ่นวาย | ||
| ไม่คิดถึงตัวกลัวกรรม | เวรามาทำเองง่ายง่าย | ||
| ถึงชั่วดีเล่าเป็นเจ้านาย | จะทำผิดคิดร้ายก็ไม่ดี | ||
| กลับไปบ้านเราจะดีกว่า | ว่าพลางทางลานางโฉมศรี | ||
| ที่ใจเมตตาปรานี | บ้างข้าวของมีก็ให้ทาน | ||
| แล้วออกนาวาคลาไคล | ดูไปใจหายน่าสงสาร | ||
| ฝ่ายว่าเสนีที่เป็นพาล | งุ่นง่านไม่ไหว้ไม่ลาใคร | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีโศกาอยู่ป่าใหญ่ | ||
| ขึ้นมาจากท่าชลาลัย | ไม่รู้ที่จะไปแห่งใดเลย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ ชาตุม | |||
| ๏ เดินพลางทางอุ้มลูกพลาง | เห็นทุกข์แม่บ้างพ่อสังข์เอ๋ย | ||
| บุกป่าฝ่าไพรแม่ไม่เคย | เพราะกรรมทรามเชยเจ้าเกิดมา | ||
| เป็นคนหรือจะได้มาเป็นเพื่อน | มีเหมือนไม่มีโอรสา | ||
| ทั้งนี้เพราะอีจันทา | กับอ้ายโหรามันรู้กัน | ||
| ทั้งอีสาวศรีมันร่วมใจ | มันเร่งรัดให้แม่ผายผัน | ||
| ทั้งอ้ายเสนาจะฆ่าฟัน | อัศจรรย์ใจแม่นี้แน่แล้ว | ||
| พระร่วมห้องของน้องยังอาลัย | เหตุไรไม่เกรงทูลกระหม่อมแก้ว | ||
| พ่อหลงกลมนตร์มันแน่แล้ว | เดินพลางนางแก้วก็โศกี | ||
| เสียงเสือแรดช้างกวางทราย | ใจหายอกสั่นขวัญหนี | ||
| เล็ดลอดกอดลูกเข้าโศกี | เทวีอุ้มสังข์ดำเนินไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เดินมา | สุริยาร้อนแรงแสงใส | ||
| แลเห็นบ้านป่าพนาลัย | โฉมยงดีใจเข้าไปพลัน | ||
| พบสองเฒ่าปลูกถั่วงา | นางนั่งวันทาขมีขมัน | ||
| ฝ่ายว่าสองราดูหน้ากัน | ยายถามตานั้นทันใด | ||
| ตานี่ดีร้ายจะไม่ตรง | มั่นคงกูคิดหาผิดไม่ | ||
| นัดแนะกันมาหรือว่าไร | ตาเอาใจออกนอกกัน | ||
| น้อยหรือนั่นรูปร่างอย่างกินนร | ยายค้อนตาผัวจนตัวสั่น | ||
| ฝ่ายตาโกรธยายเอาไม้รัน | มึงเห็นสำคัญด้วยอันใด | ||
| คราวลูกคราวหลานก็ไม่ว่า | มันบ้าอย่าถือแม่ข้าไหว้ | ||
| มาแต่ตำบลหนใด | บอกให้แจ้งใจยายตา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ นางเล่าแต่ต้นจนปลาย | ตายายพาไปยังเคหา | ||
| จัดเหย้าเรือนให้มิได้ช้า | ด้วยความเมตตาปรานี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมจันท์กัลยามารศรี | ||
| อยู่ด้วยยายตาได้ห้าปี | ยากแค้นแสนทวีทุกเวลา | ||
| ครั้นค่ำตักน้ำตำข้าว | ครั้นรุ่งเช้าเจ้าเข้าป่า | ||
| เก็บผักเที่ยวหักฟืนมา | กัลยาค้าขายได้เลี้ยงตัว | ||
| อุ้มเอาลูกน้อยหอยสังข์ | สุดกำลังแม่แล้วพ่อทูลหัว | ||
| เลี้ยงไว้ว่าจะได้เป็นเพื่อนตัว | ทูนหัวไม่ช่วยแม่ด้วยเลย | ||
| เนื้อเย็นเป็นคนนะลูกแก้ว | ห้าหกขวบแล้วนะลูกเอ๋ย | ||
| กำดัดจะภิรมย์ชมเชย | ลูกเอ๋ยจะเบาทุเลาแรง | ||
| นางมิได้เอนองค์ลงนิทรา | สุรียารุ่งรางสว่างแสง | ||
| วางลูกไว้ไปจัดแจง | ลากแผงออกวางที่กลางดิน | ||
| เอาข้าวออกตากแล้วฝากยาย | จับหาบผันผายเข้าไพรสิณฑ์ | ||
| เที่ยวเก็บผักหญ้าเป็นอาจิณ | โฉมฉินซอนซนต้นมา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ยานี | |||
| มาจะกล่าวบทไป | เทพไทสิงสู่อยู่พฤกษา | ||
| สงสารนางจันท์กัลยา | เจ้ามาเหนี่อยยากลำบากกาย | ||
| เทพบุตรจุติมาบังเกิด | กำเนิดผิดพ้นคนทั้งหลาย | ||
| บุญญาธิการนั้นมากมาย | จะล้ำเลิศเพริศพรายเมื่อปลายมือ | ||
| ถึงจะตกน้ำก็ไม่ไหล | ตกในกองกูณฑ์ไม่สูญชื่อ | ||
| จะได้ผ่านบ้านเมืองเลื่องลือ | อึงอื้อดินฟ้าบาดาล | ||
| คู่สร้างกับนางรจนา | มารดาจะสุขเกษมศานต์ | ||
| นิ่งไว้จะยากลำบากนาน | กุมารซ่อนตนจะดลใจ | ||
| จึงบันดาลให้เป็นไก่ป่า | กินมารดาหาช้าไม่ | ||
| ขันก้องร้องตีกันมี่ไป | คุ้ยเขี่ยข้าวให้กระจายดิน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ คุกพาทย์ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ซ่อนอยู่ก็รู้สิ้น | ||
| พระแม่ไปป่าเป็นอาจิณ | ในจิตคิดถวิลทุกเวลา | ||
| จะใคร่ออกช่วยพระแม่เจ้า | สงสารผ่านเกล้าเป้นหนักหนา | ||
| เหนื่อยยากลำบากกายา | กลับมาจนค่ำแล้วร่ำไร | ||
| ไม่ว่าลูกน้อยเป็นหอยปู | อุ้มชูชมชิดพิสมัย | ||
| พระคุณล้ำลบภพไตร | จะออกให้เห็นตัวก็กลัวการ | ||
| ไก่ป่าพาฝูงมากินข้าว | ของพระแม่เข้าอยู่ฉาวฉาน | ||
| คุ้ยเขี่ยเรี่ยรายทั้นดินดาน | พระมารดามาเห็นจะร่ำไร | ||
| เยี่ยมลอดสอดดูทั้งซ้ายขวา | จะเห็นใครไปมาก็หาไม่ | ||
| ออกจากสังข์พลันทันใด | ฉวยจับไม้ได้ไล่ตี | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ กอบเก็บข้าวหกที่ตกดิน | ผันผินลอยลับขยับหนี | ||
| เหลืยวดูผู้คนชนนี | จะหนีเข้าสังข์กำบังตน | ||
| หุงข้าวหาปลาไว้ท่าแม่ | ดูแลจัดแจงทุกแห่งหน | ||
| ช่วยขับไก่ป่าประสาจน | สาละวนเล่นพลางไม่ห่างดู | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉิ่ง เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระมารดานึกในพระทัยอยู่ | ||
| คิดถึงลูกน้อยหอยปู | เดินไปสักครู่แล้วจู่มา | ||
| เก็บได้ฟืนผักเผือกมัน | สารพันกินได้ที่ในป่า | ||
| ใส่หาบหาบเดินดำเนินมา | ไม่ช้าครู่หนึ่งก็ถึงเรือน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ จึงเห็นลูกแก้วแววไว | ลูกใครคนนี้ไม่มีเหมือน | ||
| มานั่งเล่นอยู่ประตูเรือน | พักตร์ดังดวงเดือนเลื่อนลอย | ||
| พระสังข์แลเห็นชนนี | แล่นหนีตกใจเข้าในหอย | ||
| ประหวั่นพรั่นใจมิใช่น้อย | เศร้าสร้อยคอยฟังพระมารดา | ||
| มารดรวางหาบตามติด | เห็นผิดเปิดห้องมองหา | ||
| รีบร้นค้นดูกุมารา | กัลยาไม่เห็นประหลาดใจ | ||
| หรือว่าผีเรือนเป็นเพื่อนร้อน | แกล้งหลอกหลอนเล่นเป็นไฉน | ||
| จึงสาบสูญกายหายไป | คิดวนเวียนในพระทัยนาง | ||
| ข้าวปลาสุกสรรพเก็บปิด | เห็นผิดเร่งคิดอางขนาง | ||
| โฉมตรูมาดูข้าวพลาง | แล้วนางมาถามตายาย | ||
| ไม่กินข้าวปลาอาหาร | เยาวมาลย์รำพึงคะนึงหมาย | ||
| คอยดูให้รู้แยบคาย | อุ้มเอาลูกชายไม่สงกา | ||
| พินิจพิศดูแล้วทูนเกศ | น้ำเนตรหลั่งไหลทั้งซ้ายขวา | ||
| จวนรุ่งพุ่งแสงพระสุรียา | ทำเป็นไปหาสาแหรกคาน | ||
| ลงจากกระท่อมแล้วด้อมมอง | ค่อยย่องแอบไม้ไม่ไกลบ้าน | ||
| แอบซ่อนมองดูอยู่ช้านาน | นงคราญกลั้นไว้ไม่พูดจา | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระกุมารเยี่ยมหอยแลหา | ||
| ไม่แจ้งว่าองค์พระมารดา | แฝงฝาคอยอยู่ไม่รู้กาย | ||
| สงัดเงียบผู้คนไม่พูดจา | เล็ดลอดออกมาแล้วผันผาย | ||
| นั่งที่นอกชานสำราญกาย | เก็บกรวดทรายเล่นไม่รู้ตัว | ||
| มารดาซ่อนเร้นเห็นพร้อมมูล | อุแม่เอ๋ยพ่อคุณทูนหัว | ||
| ซ่อนอยู่ในสังข์กำบังตัว | พ่อทูนหัวของแม่ประหลาดคน | ||
| ย่างเข้าในห้องทับจับได้ไม้ | ก็ต่อยสังข์ให้แหลกแตกป่น | ||
| พระสังข์ตกใจดังไฟลน | จะหนีเข้าหอยตนก็จนใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง โอ้ | |||
| ๏ สวมสอดกอดบาทพระมารดา | ซบเกศาพลางทางร้องไห้ | ||
| แม่ต่อยสังข์แตกแหลกไป | ร่ำไรเสียดายไม่วายคิด | ||
| เหมือนแม่ฆ่าลูกให้ม้วยมรณ์ | มารดรไม่รักแต่สักนิด | ||
| พระแม่ต่อยสังข์ดังชีวิต | จะชมชิดลูกนี้สักกี่วัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังลูกว่า | พระมารดาเสียวใจไหวหวั่น | ||
| กอดจูบลูบเนตรเกศกรรณ | ร่วมวันขวัญตาพ่อว่าไย | ||
| สิ้นเคราะห์สิ้นกรรมทำมา | ลูกยาอย่าว่าแม่เสียวไส้ | ||
| ตกทุกข์ได้ยากลำบากใจ | เพราะอ้ายหอยสังข์มันจังฑาล | ||
| มันมาหุ้มห่อเอาพ่อไว้ | ทำไมให้โหรามันว่าขาน | ||
| บิตุรงค์หลงกลอีคนพาล | ไม่ช้าไม่นานจะคืนวัง | ||
| ยากเย็นเห็นหน้ากันแม่ลูก | อย่าพันผูกโศกสร้อยถึงหอยสังข์ | ||
| รักใคร่มันไยไม่จีรัง | หอยสังข์เช่นนี้มีถมไป | ||
| ว่าพลางนางเรียกยายตา | เล่ากิจจาแจ้งแถลงไข | ||
| ตั้งแต่เบื้องต้นจนปลายไป | ทั้งสองสงสัยไม่เชื่อนาง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ตายายให้คิดอางขนาง | ||
| พากันเข้าไปในทับนาง | แลเห็นรูปร่างกุมารา | ||
| ตะลึงขึงแข็งไปทั้งตัว | ทูนหัวน่ารักเป็นหนักหนา | ||
| พ่อคุณเป็นบุญของยายตา | เกิดมายังไม่ได้ยินเลย | ||
| พึ่งพบพึ่งเห็นเป็นเที่ยงแท้ | ลูกของเจ้าแน่หรือแม่เอ๋ย | ||
| บุญหนักศักดิ์ใหญ่กระไรเลย | พ่อเอ๋ยรูปร่างช่างสร้างมา | ||
| ชั่วปู่ชั่วย่าชั่วตายาย | ล้มตายไม่เห็นเป็นหนักหนา | ||
| กอดจูบลูบไล้ทั้งยายตา | สองราเกษมเปรมปรีดิ์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๒ ถ่วงพระสังข์
| พญาโศก | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลหมองศรี | ||
| ไสยาสน์เหนืออาสน์รูจี | คิดถึงมเหสีที่จากไป | ||
| ยกหัตถ์พาดพักตร์พูนเทวษ | น้ำเนตรอาบหมอนถอนใจใหญ่ | ||
| โอ้เจ้างามทรามกอดยอดจิตใจ | เจ้าจะเป็นฉันใดไม่รู้เลย | ||
| จะตกระกำลำบากยากเย็น | หรือวอดวายตายเป็นนะน้องเอ๋ย | ||
| หลายปีมิได้ข่าวเจ้าเลย | น้องเอ๋ยจะด้นไปหนใด | ||
| ลูกเสียเมียช้ำไปจากร่าง | โอ้กรรมตามล้างแต่ปางไหน | ||
| ครวญคร่ำกำสรดสลดใจ | มิได้สระสรงคงคา | ||
| โอ้จันท์เทวีเจ้าพี่เอ๋ย | ทรามเชยเคยเคียงเรียงหน้า | ||
| เช้าเย็นเคยเห็นนกันมา | เคยร่วมนิทราทุกราตรี | ||
| เห็นแต่ที่นอนหมอนเปล่า | ขวัญข้าวของผัวเอาตัวหนี | ||
| เคยล้อมพร้อมหน้าทุกนารี | แก้วพี่หนีกายไปหายองค์ | ||
| กอดเอาหมอนนางพลางพิลาป | ชลนัยน์ไหลอาบดังโสรจสรง | ||
| เจ้าจะเป็นฉันใดที่ในดง | กอดหมอนแนบองค์เข้าร่ำไร | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวเข็ญจะเป็นใหญ่ | ||
| ยังไม่เหมือนจิตที่คิดไว้ | มุ่งมาดหมายใจอยู่ไปมา | ||
| จึงเรียกสาวใช้เข้าในห้อง | ปรองดองตรองตรึกปรึกษา | ||
| จะคิดฉันใดไฉนนา | ให้ข้าสมจิตที่คิดปอง | ||
| ลอยเมฆเป็นเอกมเหสี | อย่าให้ใครมีเสมอสอง | ||
| พระฤาสายไม่วายตรึกตรอง | เศร้าหมองคะนึงคิดถึงเมีย | ||
| นางจันท์เทวียังมิตาย | ดีร้ายเสนาไม่ฆ่าเสีย | ||
| แม้นว่าพระจะกลับไปรับเมีย | จะเสียการเราเจ้าคิดดู | ||
| หรือว่าหอยกลายไปเป็นคน | เหตุผลอย่างนี้ก็มีอยู่ | ||
| อย่าได้ไว้ใจแก้ไขดู | ให้สิ้นรู้เราอย่าเบาความ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ใจเพชรไม่เข็ดขาม | ||
| จึงทูลแถลงให้แจ้งความ | จะครั่นคร้ามขามใจไปไยมี | ||
| แม่เรียกธิดามาสอนสั่ง | ความหลังทั้งมวลให้ถ้วนถี่ | ||
| เฝ้าองค์ทรงศักดิ์พระจักรี | ทูลพ่อขอที่มารดร | ||
| ด้วยพระสัญญาว่าไว้ | แก้ไขโดยดีกระนี้ก่อน | ||
| ซึ่งพระโศกาอาวรณ์ | แม่ผันผ่อนแนมเหน็บให้เจ็บใจ | ||
| แม้นมิสมคะเนเล่ห์กล | เอาด้วยเวทมนตร์ให้หลงใหล | ||
| คนดีมีถมอย่าตรมใจ | ข้าได้ข่าวอยู่สุเมธา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | สมดังใจจิตอิจฉา | ||
| ร้องเรียกบุตรีจันทีมา | เสี้ยมสอนให้ว่าสารพัน | ||
| แล้วให้สระสรงทรงเครื่อง | รุ่งเรืองเพราเพริศเฉิดฉัน | ||
| พี่เลี้ยงนางนมระดมกัน | ผัดพักตร์ดังจันทร์เมื่อวันเพ็ญ | ||
| แต่งลูกแล้วแต่งตัวนาง | ชำระสระสางให้ปลั่นเปล่ง | ||
| แสนสาวชาวแม่แช่แข็ง | รีบเร่งอุ้มพาธิดาตาม | ||
| มาถึงซึ่งที่พระบรรทม | ชื่นชมในจิตไม่คิดขาม | ||
| แหวกม่านเห็นองค์พระทรงนาม | ก้มเกล้ากราบงามสามลา | ||
| ทั้งพระบุตรีพี่เลี้ยง | นบนอบหมอบเคียงเรียงหน้า | ||
| แล้วจึงสะกิดพระธิดา | พยักหน้าเข้าไปให้ใกล้องค์ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระทรงธรรม์รัญจวนครวญหลง | ||
| เห็นลูกโฉมฉายก็อายองค์ | ผันพักตร์สบตรงนางจันทา | ||
| ขวยเขินเมินเช็ดชลนัยน์ | เคืองใจมิใคร่จะดูหน้า | ||
| บ่ายเบือนเยื้อนทักพระธิดา | รับมาวางตักพระพักตร์เชย | ||
| จูบพลางทางคิดถึงหอยสังข์ | กรรมตามแต่หลังนะลูกเอ๋ย | ||
| เป็นคนจะได้ไว้ชมเชย | ลูกเอ๋ยพี่น้องจะครองกัน | ||
| มิให้พ่อแม่ได้ลำบาก | พลัดพรากวิโยคโศกศัลย์ | ||
| จึงถามธิดาวิลาวัณย์ | แม่ขวัญเมืองมาจะว่าไร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทีศรีใส | ||
| จำคำมารดาที่สอนไว้ | ถือใจไม่รู้ว่าขุ่นเคือง | ||
| ทูลว่าประสาทารก | หยิบยกข้อความตามเรื่อง | ||
| บิดาว่าไว้จะให้เมือง | ราวเรื่องระบือลือชา | ||
| ลูกเกิดเพริดพลัดเป็นสตรี | ไม่ควรที่สมบัติวัตถา | ||
| จะขอที่ประทานให้มารดา | ให้เลื่องชื่อลือชาสถาวร | ||
| แทนที่แม่หนีไปจากวัง | แต่งตั้งแทนตนแม่คนก่อน | ||
| ยกหน้าข้าบาทประสาทพร | แม่ก่อนบิดาอย่าอาลัย | ||
| เมื่อโหรเขาว่าเป็นกาลี | ชั่วดีอื่นพอจะเลี้ยงได้ | ||
| เลือดก้อนออกแล้วก็แล้วไป | ร้องไห้ใครรู้จะดูแคลน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังลูก | เจ็บปวดดังถูกหลาวแหลน | ||
| ใครสอนให้ว่าเจรจาแทน | มั่นแม่นตัวกูพอรู้ทัน | ||
| ยิ่งกว่าลูกเล็กเด็กน้อย | ตะบอยสาระวอนทุกสิ่งสรรพ์ | ||
| เหน็บแนมแกมกลปนกัน | เด็กนั้นว่าได้เมื่อไรมี | ||
| ความหลังแต่ยังไม่เกิดมา | มันว่าทั้งมวลเป็นถ้วนถี่ | ||
| สอนบ้างหรือไม่เล่าอีเหล่านี้ | กาลีกาลำมารำพัน | ||
| หรือหนึ่งแม่แสนงอนเจ้าสอนลูก | เรียนผูกเรียนแก้ช่างแปรผัน | ||
| เป็นกรรมจึงจำจากกัน | ทุกวันเหมือนเงาอยู่วาวแวว | ||
| เว้นแต่จะจับไม่ถูกต้อง | คนมันคอยปองพระน้องแก้ว | ||
| ได้ทีที่ทางว่างอยู่แล้ว | สอนลูกแก้วมาให้พาที | ||
| น้อยหรือน้ำใจใหญ่หลวง | โจมจ้วงเอาดวงพระสุริย์ศรี | ||
| กูไม่ให้ปันอีจันที | เจ้าของเขามียังมิตาย | ||
| สิ้นเคราะห์จะรับเจ้ากลับมา | แม่นางจันทาเจ้าอย่าหมาย | ||
| จงพากันไปให้สบาย | ลูกเต้าบ่าวนายบรรดามา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาเสียวไส้อยู่ในหน้า | ||
| เสียใจทูลไปด้วยปัญญา | อนิจจาเคราะห์ร้ายให้อายคน | ||
| นั่งอยู่ดีดีก็มีโทษ | ได้โปรดซักไซ้ให้เห็นหน | ||
| วอนมาเฝ้าองค์ทรงสกล | ให้คนพลอยผิดนางคิดดี | ||
| ลูกเต้าน่าแค้นมันแสนงอน | ใครสอนอย่าบอกออกมานี่ | ||
| บนบานเจ้าไว้เมื่อไรมี | หยิกตีเท่าไรก็ไม่จำ | ||
| เก็บเอาเขาพูดที่ไหนไหน | ทูลให้ติดต่อเป้นข้อขำ | ||
| นี่ใครสั่งสอนฉะอ้อนคำ | เที่ยวจำเค้ามูลมาทูลเอง | ||
| ไม่จ้วงไม่เจิ้นให้เกินหน้า | มันว่าออเซาะไม่เหมาะเหม็ง | ||
| เมื่อพระสัญญาว่าไว้เอง | จึงครื้นเครงไปเขาได้ยิน | ||
| ใครมองปองล้างมเหสี | เฆี่ยนตีซักไซ้เอาให้สิ้น | ||
| แล่เนื้อเกลือทาให้กากิน | มันเป็นเสี้ยนแผ่นดินจะไว้ไย | ||
| ใครได้ชิงชังนางยอดสร้อย | เมื่อไปก็พลอยน้ำตาไหล | ||
| อาภัพกลับกลายหายไป | จัดแจงแต่งให้ทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังคำ | ซอกซ้ำหมกมุ่นหุนหัน | ||
| เห็นจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน | แดกดันเล่นได้เป็นไรมี | ||
| กระนั้นนานไปจะใช้ทุน | เจ้าทำบุญคุณมเหสี | ||
| รักใคร่ตกใจไปไยมี | ตัวดีอยู่แล้วก็แล้วไป | ||
| อีจันท่ไม่มีใครสอนสั่ง | มันชั่งต่อติดประดิษฐ์ได้ | ||
| จริงอยู่สัญญาว่าไว้ | ลูกใครเป็นชายจะให้วัง | ||
| นางแม่จะแร่เอายศถา | ใครได้สัญญามาแต่หลัง | ||
| ไม่รับกลับเถียงเสียงดัง | แฝงหลังบังเงากูเข้าใจ | ||
| ยังไม่ทันได้ยศศักดิ์ | ฮึกฮักลิ้นลมคารมใหญ่ | ||
| ดูเหมือนเพื่อนกันหรือฉันใด | ไสหัวลงไปอีใจพาล | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังตรัส | สะบัดพักตร์ควักค้อนแล้วตอบสาร | ||
| ผิดแผกเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | แกล้งพาลพาโลโกรธา | ||
| เพราะคิดถึงเมียจึงเสียใจ | มิรับมาไยใครเขาว่า | ||
| แม้นเกิดกลีมีมา | ยากเย็นเป็นข้าคนอื่นไป | ||
| ต้องขับต้องไล่ไสหัว | ไม่รู้ตัวว่าโกรธาข้าโทษใหญ่ | ||
| ยั่งยืนว่ากลืนแก้วไว้ | ขับไล่ยิ่งกว่าเป็นกาลี | ||
| แค้นด้วยลูกเต้ามาเข้าท้อง | จองหองแอบพักตร์ศักดิ์ศรี | ||
| ต่อเป็นผู้ชายจะได้ดี | เสียทีเลี้ยงเปล่าไม่เข้ายา | ||
| จะใคร่หักคอใส่หม้อฝัง | แต่ยังแดงแดงไม่แข็งกล้า | ||
| ยังชั่วตัวตีนมันมีมา | คิดว่าหอยสังข์สิจังไร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | มืดกลุ้มคลุ้มคลั่งดังเพลิงไหม้ | ||
| เหม่อีจันทาชะล่าใจ | จะเกรงกลัวใครก็ไม่มี | ||
| จองหองพองขนเป็นพ้นนัก | เยื้องยักแยบคายใส่สี | ||
| เพราะเกิดลูกเต้าด้วยเท่านี้ | พาทีเกินตัวไม่กลัวตาย | ||
| เหมือนหนึ่งกิ่งก่าได้ทาทอง | ยกย่องหัวหูดูเฉิดฉาย | ||
| มึงประจานใครให้ได้อาย | แยบคายทบเทียบเปรียบมา | ||
| หัวจะปลิวไปไม่ทันรู้ | มึงดูถูกเล่นเป็นหนักหนา | ||
| ฉวยพระแสงพลันมิทันช้า | จันทาลุกวิ่งเป็นสิงคลี | ||
| พระฟาดฟันผิดติดทวาร | บ้างล้มลุกคลุกคลานทะยานหนี | ||
| มึงอย่าเข้ามาพันอีจันที | พระบุตรีฉวยฉุดยุดกร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาหนีองค์พระทรงศร | ||
| เข้าห้องโศกาอาวรณ์ | ทุกข์ร้อนอดสูแก่หมู่นาง | ||
| จึงเรียกสาวศรีที่สนิท | เจ้าคิดไว้เหมาะช่วยเสาะสาง | ||
| คนดีที่เจ้าว่าอย่าพราง | สู้เสียสินจ้างให้ล้างอาย | ||
| ไปหาพามาเวลาเย็น | อย่าให้ใครเห็นเงื่อนสาย | ||
| หยูกยาเสร็จสรรพสำหรับกาย | เบี่ยงบ่ายเล็ดลอดดอดมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ว่องไวใจกล้า | ||
| กำชับรับคำแล้วอำลา | เที่ยวเสาะสืบมาก็พบพาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ถึงเรือนยายเฒ่าก็เข้าไป | พูดจาปราศรัยด้วยอ่อนหวาน | ||
| เที่ยวเสาะสืบมาช้านาน | บุญหลานจึงพบประสบยาย | ||
| เอาลาภมาให้ใหญ่หลวง | จะล่อลวงว่านั้นอย่าหมาย | ||
| แล้วค่อยงุบงิบกระซิบยาย | แต่ต้นจนปลายทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฝ่ายว่ายายเฒ่าสุเมธา | ฟังสาวศรีว่าเกษมสันต์ | ||
| เต็มใจเห็นจะได้รางวัล | จึงว่าไปพลันทันใด | ||
| เจ้าหวังตั้งใจออกมาหา | จะหาญหักผลักหน้ากระไรได้ | ||
| ตามรู้ตามเห็นจะเป็นไร | พอแก้ไขได้อย่าปรารมภ์ | ||
| ว่าพลางทางผลัดผ้านุ่ง | หยิบถุงย่ามยากับผ้าห่ม | ||
| ออกจากประตูแล้วดูลม | เห็นสมดังใจแล้วไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงซึ่งราชวังใน | สาวใช้พายายเข้ามาหา | ||
| โปร่งปลอดกำนัลกัลยา | ก้มเกล้าวันทาเทวี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทามเหสี | ||
| ปราศรัยด้วยยายยินดี | มานั่งถึงนี่อย่าก้มคลาน | ||
| ข้าเห็นหน้ายายค่อยหายไข้ | ยินดีมีใจเกษมศานต์ | ||
| จงช่วยให้เสร็จสำเร็จการ | ยายเมตตาหลานจะแทนคุณ | ||
| เงินทองจะกองให้ยายเฒ่า | ขวัญข้าวค่ายามิให้สูญ | ||
| หยูกยาหามาพร้อมมูล | จะพูนราคาค่ายายาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สุเมธาแย้มยิ้มกระหยิ่มหมาย | ||
| เรียนตอบนอบนบอภิปราย | ตกพนักงานยายอย่าปรารมภ์ | ||
| จะให้สมดั่งจิตคิดปอง | ให้พระทองมาอยู่สู่สม | ||
| ด้วยฤทธิ์วิทยาอาคม | เอาให้หลงงมซมไป | ||
| เห็นชั่วดีกันในวันนี้ | แม้นมิลงมาสัญญาได้ | ||
| ขวัญข้าวค่ายาจะว่าไป | ทิ้งลูกเสียได้เมื่อไรมี | ||
| เวลาก็ควรจวนเย็น | จะทำให้แม่เห็นเป็นถ้วนถี่ | ||
| แก้ย่ามยาพลันทันที | หัวผีโหงพรายที่เอามา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| เชิญ | |||
| ๏ ว่าแล้วจุดเทียนเข้าติดพาน | โหงพรายลนลานหาญกล้า | ||
| ปลุกเสกด้วยฤทธิ์วิทยา | มิช้าลุกขึ้นทั้งโหงพราย | ||
| ยายเฒ่าจึงลนเอาน้ำมัน | ต่อหน้านางจันท์น่าขวัญหาย | ||
| ขี้ผึ้งปิดปากผีพราย | ปั้นเป็นรูปกายพระภูมี | ||
| กับนางจันทาให้กอดกัน | แล้วผูกพันไปด้วยด้ายผี | ||
| เอาใส่ใต้ที่นอนนางเทวี | น้ำมันผีเสกใส่ในเครื่องทา | ||
| ลงชื่อใส่ไส้เทียนตาม | สองยามให้หลงลงมาหา | ||
| เสกหมากพลูไว้ให้มิได้ช้า | มิมาอย่านับข้าสืบไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วบอกมนตรามหาละลวย | เป่าให้งวยงงหลงใหล | ||
| เพ็ดทูลเชื่อฟังดังใจ | ว่าไรเห็นจริงทุกสิ่งอัน | ||
| เชิญแม่สระสรงทรงทา | ตัวข้าจะลาผายผัน | ||
| เก็บหัวโหงพรายใส่ย่ามพลัน | ลานางจอมขวัญไปทันที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทามารศรี | ||
| สุริยนสนธยาราตรี | เข้าที่สระสางสำอางองค์ | ||
| ตกแต่งทาแป้งน้ำมันยาย | เฉิดฉายผิวผ่องละอองผง | ||
| หอมฟุ้งรุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง | ผุดผาดประหลาดองค์แต่ก่อนมา | ||
| แล้วจุดเทียนชัยเข้าในที่ | ชุลีกรวอนไหว้ทั้งซ้ายขวา | ||
| ทรามวัยมิได้นิทรา | วิญญาณ์ผูกพันมั่นใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวดลหม่นหมองไม่ผ่องใส | ||
| คุณยาอาคมระดมใจ | ร้อนรนพระทัยดังไฟลาม | ||
| อยู่ในไสยาสน์อาสน์อ่อน | ดังนอนที่ฟากขวากหนาม | ||
| ลุกขึ้นนั่งฟังฆ้องได้สองยาม | ลมชวยรวยตามพระบัญชร | ||
| หอมแป้งน้ำมันของจันทา | ยิ่งกว่ากลิ่นทิพเกสร | ||
| อบอาบซาบใจขจายจร | อาวรณ์ใฝ่ฝันถึงจันทา | ||
| ขับไล่ด่าทอไม่พอที่ | กูนี้ได้คิดผิดหนักหนา | ||
| เสงี่ยมหงิมจิ้มลิ้มทั้งกายา | จะหาเปรียบแก้วตาไม่มีเลย | ||
| อีจันท์เทวีนี้ชั่วชาติ | หลงคิดพิศวาสนะอกเอ๋ย | ||
| จันทาหน้านวลเจ้าควรเชย | ควรร่วมเขนยเสวยวัง | ||
| ทั้งจริตกิริยามารยาท | สมชาตินางในข้างฝ่ายหลัง | ||
| งามปลอดยอดฟ้าสง่าวัง | ควรกูจะตั้งแต่งนาง | ||
| พุ่มพวงดวงเนตรจะน้อยใจ | มิไปง้อน้องจะหมองหมาง | ||
| เสน่หาประหวัดกำหนัดนาง | เงียบปรางค์ย่างย่องมองมา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นถึงแลเห็นแสงไฟ | แอบแฝงองค์ไว้ไม่กังขา | ||
| เกาะเกาะค่อยเคาะทวารา | แก้วตาเปิดรับพี่ฉับไว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทาอัชฌาสัย | ||
| ฟังดูรู้แจ้งไม่แคลงใจ | เชื่อในคุณฤทธิ์วิทยา | ||
| ดับเทียนเสียพลันมิทันนาน | ชื่นบานสมมาดปรารถนา | ||
| ทำแกล้งแต่งกลมารยา | ย่อมมาค่อยชักสลักกลอน | ||
| แล้วกลับเข้าไปในแท่นที่ | ข้างพระบุตรีศรีสมร | ||
| ค่อยค่อยวางองค์ลงนอน | นิ่งซ่อนกายอยู่จะดูที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ น้องเอยน้องแก้ว | หลับแล้วหรือโกรธโทษพี่ | ||
| งามพริ้งนิ่งได้ไม่พาที | เมื่อกี้แจ่มแจ้งเห็นแสงไฟ | ||
| ว่าพลางทางผลักทวารา | เปิดเปล่าเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| เยื้องย่องจรลีด้วยดีใจ | ห้องในมืดล้นพ้นประมาณ | ||
| ถึงเตียงค่อยนั่งลงข้างองค์ | พบลูกโฉมยงยอดสงสาร | ||
| แล้วคว้าคลำซ้ำปะเยาวมาลย์ | สั่นองค์นงคราญไม่ฟื้นกาย | ||
| ค่อยค่อยกระซิบเจรจา | ลุกขึ้นเถิดพี่มาหาโฉมฉาย | ||
| จงดับความโศกสร้อยค่อยคลาย | นางแกล้งแฝงกายไม่ฟื้นองค์ | ||
| ค่อยยกลูกแยกเข้าแทรกกลาง | พระพลางป่วนจิตพิศวง | ||
| ไล้ลูบจูบน้องประคององค์ | โฉมยงของพี่อย่าขี้เซา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบุตรีภูมีโฉมเฉลา | ||
| ผวาตื่นฟื้นองค์นงเยาว์ | คว้าเอาบิดาว่ามารดร | ||
| คลำหาพระเต้าเจ้าจะกิน | ผิดกลิ่นตกใจร้องไห้อ้อน | ||
| ใครนี่แม่ขาเข้ามานอน | แทรกซ้อนซ่อนแม่ข้าไว้ใย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายนางจันทาอายจิต | เปลื้องปลิดกรทิ้งไม่นิ่งได้ | ||
| ค่อยลัดหลีกองค์พระทรงชัย | กอดลูกปลอยให้เสวยนม | ||
| อดสูสาวสรรค์กัลยา | กล่าวแกล้งแสร้งว่าไม่เห็นสม | ||
| ขวัญอ่อนนอนเถิดอย่าเตรียมตรม | เจ้าปรารมภ์ด้วยแม่เมื่อกลางวัน | ||
| ท่านจะสังหารผลาญชีวิต | หวาดจิตละเมอเพ้อฝัน | ||
| แมวคราวไต่ราวมาเป็นพัน | กลัวมันกินตับจงหลับไป | ||
| หลอนพลางทางยกเอาลูกน้อย | ถดถอยออกมาหาช้าไม่ | ||
| เรียกสั่งสาวศรีที่ร่วมใจ | เอาไปแกว่งไกวให้หลับนอน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวไนยมีใจสโมสร | ||
| ด้วยคุณฤทธิ์วิทยาให้อาวรณ์ | ง้องอนเดินตามนางงามมา | ||
| คว้าไปไม่พบประสบน้อง | ร่วมห้องเจ้าแกล้งแฝงฝา | ||
| โลมลูบรับขวัญกัลยา | แก้วตาอย่าละห้อยน้อยใจ | ||
| ผัวผิดจึงตามมาง้องอน | จะตัดรอนโกรธขึ้นไปถึงไหน | ||
| รู้ตัวชั่วแล้วแก้วกลอยใจ | โมโหมืดไปไม่ทันคิด | ||
| จึงบุกลงมาสารภาพ | ให้หายบาปหายกรรมที่ทำผิด | ||
| มาไปบรรทมชมชิด | จะม้วนมิดซ่อนพี่อยู่นี่ไย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ผ่านเอยผ่านเกล้า | จะมาเฝ้าเย้ายวนหาควรไม่ | ||
| ทรพลคนชั่วกลัวภัย | จึงไม่อาจใจอยู่ใกล้องค์ | ||
| ศักดิ์ต่ำแล้วซ้ำเป็นคนโทษ | มีโปรดโกรธกริ้วจะผุยผง | ||
| หนีทันชีวันจึงคืนคง | หาไม่กลิ้งลงกับกลางดิน | ||
| ลูกน้อยจะพลอยเป็นกำพร้า | น้ำตาก็จะไหลเป็นสายสินธุ์ | ||
| หากปลอดทอดอยู่จึงภูมินทร์ | ดัดแปลงแต่งลิ้นมาเจรจา | ||
| ถึงว่าจะตายก็ไม่คิด | เจ็บช้ำน้ำจิตที่ร่ำด่า | ||
| อายคนเป็นพ้นคณนา | เสด็จมาพระเดชพระคุณนัก | ||
| จนใจจะให้ไปร่วมเรียง | นั่งเตียงเคียงชมไม่สมศักดิ์ | ||
| จะอยู่ตามอำเภอเสมอพักตร์ | พระองค์ทรงศักดิ์จงโปรดปราน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้โลม | |||
| ๏ ดวงเอยดวงสมร | สมนามงามงอนอ่อนหวาน | ||
| ตัดพ้อล้อเล่นเป็นประมาณ | เผ็ดร้อนอ่อนหวานระคนกัน | ||
| จนจิตด้วยผิดเป็นล้นเหลือ | จะนอนให้เจ้าเถือจนเนื้อสั่น | ||
| งามชื่นจะขืนมารำพัน | คุ้มโทษทัณฑ์อยู่ไม่รู้แล้ว | ||
| ว่าพลางตะโบมโลมลูบ | จับจูบพุ่มพวงดวงแก้ว | ||
| พี่จะให้ประเสริฐเพริศแพร้ว | น้องแก้วแววตาอย่าเกียจกล | ||
| กรกอดสอดอุ้มขึ้นแท่นที่ | ฤดีเตือนเต้นไม่เห็นหน | ||
| สมสนิทจิตปองทั้งสองคน | ที่ทุกข์ทนโพยภัยก็หายกัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โลม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาดังได้ไอศวรรย์ | ||
| คุณยาอาคมระดมกัน | รุ่งแจ้งแสงฉันทันใด | ||
| สระสรงสำเร็จเสร็จแล้ว | นางแก้วหยิบหมากที่ยายให้ | ||
| ถวายแก่พระองค์ทรงชัย | ภูวไนยเสวยชมเชยนาง | ||
| พระองค์งงงวยด้วยมารยา | จันทาแนบชิดสนิทข้าง | ||
| ร่ายมนต์ยายเฒ่าเป่าพลาง | ได้ทางทูลแอบด้วยแยบคาย | ||
| ทุกวันนางจันท์เทวี | บัดนี้ลือหลากมามากหลาย | ||
| อยู่ป่าผาสุกสนุกสบาย | ฉวยได้ลูกชายที่ไหนมา | ||
| พันผูกว่าลูกของภูธร | ราษฎรนับถือระบือว่า | ||
| ให้อับอายขายบาทบาทา | หอยที่ชั่วช้าว่าเป็นคน | ||
| แม้นมิสังหารผลาญเสีย | นานไปเมียเห็นไม่เป็นผล | ||
| มันเสี้ยนพาราจลาจล | นานไปใหญ่ตนจะปล้นเมือง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังสาร | ภูบาลผ่านกรุงฟุ้งเฟื่อง | ||
| เศร้าหมองต้องคุณจึงขุ่นเคือง | ฟังเรื่องเห็นจริงทุกสิ่งไป | ||
| หอยหรือจะรื้อมาเป็นคน | เล่ห์กลมันแกล้งแต่งใส่ | ||
| พี่รู้เพราะเจ้าจึงเข้าใจ | เสียแรงรักใคร่อาลัยมัน | ||
| ชะรอยได้ลูกชู้สู่หา | ไม่กลัวชีวาจะอาสัญ | ||
| เอาแต่ลูกยามาฆ่าฟัน | แต่แม่มันงดไว้ให้ได้ความ | ||
| เจ้าจงเป็นเอกมเหสี | แต่นี้สืบไปพี่ไม่ห้าม | ||
| ให้แก่โฉมยงนงราม | ว่ากล่าวเอาตามอำเภอใจ | ||
| จูบพลางทงลุกไคลคลา | พักตรามัวคล้ำดำไหม้ | ||
| ออกนั่งยังท้องพระโรงชัย | พรั่งพร้อมล้อมไปด้วยเสนี | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงมีโอกาสประภาษสั่ง | แก่ตำรวจวังทั้งสี่ | ||
| จงเร่งไปป่าพนาลี | ที่จันท์เทวีมันอยู่กิน | ||
| จับเอาลูกยาไปฆ่าฟัน | ใครอย่าเกียดกันผันผิน | ||
| ว่าเป็นลูกกูดูหมิ่น | ผิดเภทแผ่นดินแต่ก่อนมา | ||
| หอยกลายเป็นคนฉงนใจ | ที่ไหนมีบ้างมันช่างว่า | ||
| แม้นมิย่อยยับอย่ากลับมา | ตามแต่จะฆ่าให้วายปราณ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาได้ฟังรับสั่งสาร | ||
| ลูบอกตกใจลนลาน | บังคมก้มกรานคลานออกมา | ||
| ไม่เห็นว่าจะเป็นประการใด | ตกใจชวนชักพยักหน้า | ||
| พาบ่าวเข้าในพนาวา | เสาะหามาบ้านนางเทวี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงซึ่งบ้านตายาย | วางรายคนไว้มิให้หนี | ||
| ซ่อนเร้นแลเห็นนางเทวี | เสนีรู้จักไม่ทักทาย | ||
| ซูบผอมผ้าผ่อนก็ปะปุ | ขาดทะลุปรุโปร่งน่าใจหาย | ||
| ชะแง้แลเห็นพระลูกชาย | ก็มาดหมายสำคัญสัญญา | ||
| เพ่งพิศพินิจดูรูปทรง | เหมือนองค์ทรงศักดิ์หนักหนา | ||
| ลูกท่านมั่นคงไม่สงกา | เราจะออกปากว่าก็จนใจ | ||
| หยอกเย้าเคล้าอยู่กับมารดา | วิงวอนเจรจาปราศัย | ||
| น่ารักปากคอเป็นพ้นไป | จะคิดอย่างไรไฉนดี | ||
| สงสารมารดาจะเกลือกกลิ้ง | เรานิ่งให้ไปเสียไพรศรี | ||
| คิดพร้อมยอมกันทันที | เสนีลัดแลงแผงกาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีมีกรรมระส่ำระสาย | ||
| หาสู่ลูกเต้าทุกเพรางาย | เมื่อวันอันตรายมาถึงตัว | ||
| จูบสั่งลูกแก้วแววไว | อยู่ดูกาไก่พ่อทูนหัว | ||
| เสือแผ้วแมวคราวจะเอาตัว | นอกรั้วกลัวมันอย่าออกไป | ||
| ปั้นวัวควายเล่นแต่ในร่ม | ถูกต้องแดดลมจะล้มไข้ | ||
| ลูกเอ๋ยมีกรรมก็จำไป | เงินเฟื้องเบี้ยไพก็ไม่มี | ||
| ว่าพลางทางจับสาแหรกคาน | จากบ้านเข้าสู่ไพรศรี | ||
| พุพองสองเท้าไม่มีดี | มเหสีเกียกกายชังตายไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีผู้มีอัชฌาสัย | ||
| เห็นนางกัลยาเจ้าคลาไคล | ทำเดินเข้าไปแต่ผู้เดียว | ||
| ยืนมองร้องเรียกกุมารา | ออกมาหาน้าสักประเดี๋ยว | ||
| เจ้านั่งเล่นอยู่แต่ผู้เดียว | ปั้นวัวควายเปลี่ยวไม่แงะงาม | ||
| น้าเอามาฝากเป็นหนักหนา | ตุ๊กตาม้าไก่อยู่ในย่าม | ||
| แต่ล้วนดีดีงามงาม | ในย่ามดีกว่าของเจ้าทำ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | พระสังข์หลงกลคนขำ | ||
| ดีใจไว้เนื้อเชื่อคำ | ผลกรรมจะจากพระมารดา | ||
| สำคัญว่าจริงไม่กริ่งใจ | หน่อไทไม่รู้ว่าหลอกหลอน | ||
| เสนีพยักหน้ากวักกร | บังอรมิได้กลัวเกรง | ||
| จริงจริงหรือขาน้าจะให้ | รูปร่างอย่างไรว่าเหมาะเหม็ง | ||
| ลุกวิ่งทิ้งของของเอ็ง | เหมาะเหม็งอย่างไรจะใคร่แล | ||
| อยู่ไหนจะให้ก็ใส่มือ | น้ารู้จักหรือกับพระแม่ | ||
| ต่อเย็นจึงมาหาแก | นี่มาแต่ตำบลหนใด | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสนาเห็นงงงวยก็ฉวยมือ | วิ่งฮิ่อกันมาหาช้าไป | ||
| พระสังข์ตระหนกตกใจ | ร้องไห้เรียกหาตายาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ตาร้องด่าพลันมิทันรู้ | ใครทำหลานกูไอ้ฉิบหาย | ||
| วิ่งพันกันมาทั้งตายาย | เห็นเขาวุ่นวายก็ตกใจ | ||
| ระรัวตัวสั่นดังตีปลา | กลับวิ่งหนีมาหาช้าไม่ | ||
| ปากตัวกูชั่งเป็นพ้นไป | ด่าให้หากเขามิได้ยิน | ||
| เสนาท่านมาแต่ในเมือง | ราวเรื่องเขารู้อยู่สิ้น | ||
| เรามาเลี้ยงดูให้อยู่กิน | สืบสาวเอาสิ้นจะถึงใคร | ||
| เข้าในใต้ร้านฟักทอง | ตาลอดลอดมองแล้วร้องไห้ | ||
| สงสารหลานน้อยกลอยใจ | ค่อยค่อยร่ำไรมิให้ดัง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์กุมารน้อยหอยสังข์ | ||
| จะร้องไห้เท่าไรเขาไม่ฟัง | อีกทั้งตายายก็หายไป | ||
| แม่เจ้าประคุณของลูกยา | เมื่อไรจะมาแต่ป่าใหญ่ | ||
| พวกเผ่าเหล่าโลนโจรไพร | จับลูกทำไมไม่รู้เลย | ||
| ข้ามีแต่ผักฟักแฟง | เอาไปแกงกินบ้างเถิดน้าเอ๋ย | ||
| เงินทองของดีไม่มีเลย | ลุงตาน้าเอ๋ยได้เอ็นดู | ||
| แม่ข้ายากจนเป็นพ้นนัก | มีแต่ฟืนผักอักโขอยู่ | ||
| พลัดบ้านเมืองมาน้าก็รู้ | เอ็นดูบาปกรรมอย่าทำเรา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เสนีเดินหน้าน้ำตาไหล | สุดใจปากคอแล้วพ่อเจ้า | ||
| น้าใช่พวกไพรใจเบา | ข้าเฝ้าเจ้านายท่านใช้มา | ||
| ให้พาตัวเจ้าเข้าไป | พ่ออย่าร้องไห้ฟังน้าว่า | ||
| ปลอบพลางทางอุ้มกุมารา | ขึ้นใส่บนบ่าแล้วพาไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นมาถึงวัดท้ายเมือง | ลือเลื่องบกเรือเหนือใต้ | ||
| หยุดพักสำนักที่ต้นไทร | เอาใจปลอบโยนกุมารา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายฝูงหญิงชายประชาชน | เกลื่อนกล่นพรั่งพรูมาดูหน้า | ||
| งุบงิบซุบซิบกันเจรจา | ว่าเหมือนผ่านฟ้าเป็นพ้นไป | ||
| กำเนิดเกิดเป็นเช่นี้ | มิควรที่พระองค์จะสงสัย | ||
| แต่เรารู้แจ้งไม่แคลงใจ | ดูไหนไม่ผิดพระบิดา | ||
| สงสารเวทนาน่ารัก | ยังเด็กเล็กนักหนักหนา | ||
| บ้างให้กล้วยอ้อยน้อยหน่า | ข้าวปลาขนมนมเนย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฝ่ายพระกุมารชาญชัย | รับของมาไว้ไม่เสวย | ||
| น้ำตาหลั่งไหลไม่เสบย | น้าเอ๋ยข้าคิดถึงมารดร | ||
| ขนมท่านให้ยังไม่กิน | กลับบ้านถิ่นของข้าก่อน | ||
| จะได้แบ่งปันให้มารดร | อ้อนวอนเสนาให้พาไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เสเอยเสนา | ฟังถ้อยคำว่าน้ำตาไหล | ||
| ปลอบว่าพ่ออย่าร่ำไร | เย็นหน่อยค่อยไปพนาวา | ||
| หาองค์สมเด็จพระมารดร | หลับนอนเสียงบ้างฟังข้าว่า | ||
| หาไม่ก็ไม่ไคลคลา | ถ้าแม้นนิทราจะพาไป | ||
| ว่าพลางทางปูผ้าผ่อน | ขับต้อนคนผู้ไม่อยู่ใกล้ | ||
| ล่อลวงหลอกหลอนให้นอนไป | หมายใจเสนาจะฆ่าตี | ||
| อาเพศด้วยเดชกุมารา | เทวารักษาพระไทรศรี | ||
| ออกช่วยป้องกันทันที | เมื่อเสนีมันทุบด้วยท่อนจันทน์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ พระสังข์ตกใจตื่นฟื้นผวา | กึกก้องร้องจ้าไม่อาสัญ | ||
| น้าทำไมนี่มาตีรัน | ขึ้งโกรธโทษทัณฑ์ด้วยอันใด | ||
| แม่เจ้าประคุณของลูกยา | จะติดตามลูกมาก็หาไม่ | ||
| ลูกรักจักม้วยบรรลัย | โจรไพรไปลวงมาฆ่าตี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาน้ำตาไหลรี่ | ||
| เหตุไรไม่ม้วยชีวี | เสนีกลัวราชอาชญา | ||
| บอกว่าตัวน้าไม่ชิงชัง | รับสั่งให้ลงโทษา | ||
| เป็นผลกรรมพ่อทำมา | อย่าเป็นเวรากับข้าไป | ||
| ว่าพลางทางถอดหอกดาบเมียง | เดินเคียงเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| พระสังข์ตระหนกตกใจ | ร้องไห้เกลือกกลิ้งวิงวอน | ||
| เสนาขืนทำด้วยจำเป็น | หอกหักกระเด็นเป็นสองท่อง | ||
| ดาบบิ่นสิ้นคมระทมบอน | มิได้ม้วยมรณ์เร่งสงกา | ||
| เหตุไรมาเป็นเช่นนี้ | เสนีตริตรึกแล้วปรึกษา | ||
| ของดีจะมีในกายา | ฟันฆ่าอย่างไรจึงไม่ตาย | ||
| เห็นวิปริตผิดประหลาด | รับสั่งให้พิฆาตมาดหมาย | ||
| ตามแต่จะฆ่าให้วอดวาย | มิตายไม่พ้นพระอาญา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสนีคิดพร้อมยอมกัน | เบิกช้างน้ำมันตัวกล้า | ||
| แก้ปลอกกรอกเหล้าแล้วเอามา | มิช้าก็ไสให้ทิ่มแทง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ช้างร้องระรัวตัวสั่น | งาดันปักดินดิ้นแหยง | ||
| ควาญไสเท่าไรก็ไม่แทง | ยิ่งคิดยิ่งแหนงแคลงใจ | ||
| วิปริตผิดกาลกิณี | ของดีจะมีก็หาไม่ | ||
| บุญญาธิการชาญชัย | จึงทำอย่างไรไม่ม้วยมรณ์ | ||
| จำเราจะเข้าไปทูลแถลง | ให้แจ้งแห่งน้ำพระทัยก่อน | ||
| เอาช้างส่งยังโรงกุญชร | ผันผ่อนเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงจึงเห็นพระผ่านฟ้า | กับนางจันทาพิสมัย | ||
| ออกนั่งยังหน้าบัญชรชัย | เข้าไปบังคมคัลทันที | ||
| จึงทูลสมเด็จภูวนาถ | ขอพระบาทจงโปรดเกศี | ||
| ซึ่งใช้ให้ไปป่าพนาลี | บัดนี้ก็จับได้ตัวมา | ||
| ทำตามรับสั่งให้สังหาร | กุมารชาญชัยไม่สังขาร์ | ||
| หลากจิตผิดคนทั้งโลกา | สาตราอาวุธก็หักไป | ||
| จึงเอาช้างร้ายเข้าให้แทง | งาปักดินแหยงไม่แทงได้ | ||
| บัดนี้ชุมนุมคุมตัวไว้ | ภูวไนยจงทราบบาทบงสุ์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังเอยฟังเหตุ | บิตุเรศรำพึงตะลึงหลง | ||
| หลากจิตผิดใจให้งวยงง | เร่งคิดพิศวงสงกา | ||
| อัศจรรย์ต้องกันกับหอยปู | ลูกกูจริงจังกระมังหนา | ||
| วิปริตผิดคนในโลกา | เป็นมาแต่ต้นจนปลาย | ||
| เสนาเอ็งว่าให้มั่นคง | เราสงสัยอยู่ไม่รู้หาย | ||
| เมื่อพบประสบลูกชาย | มีใครใกล้กรายกุมารา | ||
| รินเรียงเคียงบ้านมารดร | หลับนอนกินอยู่สู่หา | ||
| รูปทรงส่งศรีกิริยา | กุมาราประมาณสักปานใคร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาทูลแจ้งแถลงไข | ||
| เมื่อพบโฉมงามทรามวัย | ที่ในบ้านไร่ไพรวัน | ||
| มีเรือนตาเฒ่ายายแก่ | แคร่ริมชายคาฝากั้น | ||
| กระท่อมของเจ้าสักเท่านั้น | เห็นแต่จอมขวัญกับลูกยา | ||
| ไม่มีผู้ใดมาใกล้กราย | อยู่จนโฉมฉายออกไปป่า | ||
| จึงเข้าจับกุมกุมารา | ร้องอ้อนวอนว่าน่าปรานี | ||
| เรียกหาตาเฒ่าเจ้าเรือน | ต่างคนต่างเชือนเอาตัวหนี | ||
| เด็กนักสักห้าหกปี | เหมือนพระภูมีดังพิมพ์เดียว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังทูล | พระอาดูรในจิตคิดเฉลียว | ||
| แน่แล้วลูกแก้วพ่อคนเดียว | จึงเหลียวถามพลันกับจันทา | ||
| น้องรักเจ้าจะเห็นเป็นไฉน | พี่จะให้ไปรับโอรสา | ||
| กับนางนงเยาว์เจ้าเข้ามา | สิ้นเคราะห์พาราที่กาลี | ||
| โหราดูว่าเป็นมนุษย์ | จะสูงสุดเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี | ||
| ลูกข้าบุญญาบารมี | ล้างผลาญชีวีจึงไม่ตาย | ||
| แล้วตรัสสั่งเสนาพฤฒามาตย์ | เอ็งเร่งประกาศบาตรหมาย | ||
| รับนางกัลยาที่ตายาย | กับลูกชายของเราให้เข้ามา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาทูลทัดขัดว่า | ||
| เป่ามนต์จนสิ้นตำรา | ร้องห้ามเสนาอย่าเพ่อไป | ||
| พระองค์หลงรับมันมาเถิด | จะก่อเกิดความเข็ญหาเห็นไม่ | ||
| แต่เป็นหอยสังข์ยังจัญไร | กลับเป็นคนไปอย่าชื่นชม | ||
| มิใช่มนุษย์แต่ผลุดมา | ว่ามีบุญญาไม่เห็นสม | ||
| มันจะให้บ้านเมืองเคืองระทม | ด้วยผิดบูรมบูราณไป | ||
| ฆ่าฟันมันจึงไม่ปลดปลง | จะมาล้างพระองค์ให้จงได้ | ||
| แม้นทอดทิ้งลงคงคาลัย | มีบุญจริงไซร้คงไม่ตาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังความ | ครั่นคร้ามขามจิตคิดหมาย | ||
| จริงแล้วเมียแก้วเจ้าทักทาย | เสนาทั้งหลายอย่าไปเลย | ||
| มันคือตัวการมาผลาญกู | จริงอยู่เขาว่าเสนาเอ๋ย | ||
| เราหลงไหลไปกระไรเลย | หากนางทรามเชยเจ้าตักเตือน | ||
| เนื้อเย็นควรเป็นมเหสี | ปัญญาพาทีไม่มีเหมือน | ||
| เสนาดูแลอย่าแชเชือน | ตักเตือนจองจำให้มั่นคง | ||
| พรุ่งนี้แกกูจะดูไป | บุญมันฉันใดไม่ผุยผง | ||
| ว่าพลางทางชวนนางโฉมยง | สององค์คืนเข้าปราสาทชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์มารดาอยู่ป่าใหญ่ | ||
| เขม่นเนตรเหตุมีไม่แจ้งใจ | เก็บได้ผักฟืนก็คืนมา | ||
| หาบเดินดำเนินมาตามทาง | นกกาลางบินลัดสกัดหน้า | ||
| เศียรพองสยองโลมา | ตรึกตราหวาดหวั่นพรั่นใจ | ||
| หาวนอนอ่านเศียรให้เวียนวัง | ยืนนิ่งพิงหลับกับไม้ใหญ่ | ||
| ฝันว่าขุนมารชาญชัย | ตัดเอาเกล้าไปไม่ปรานี | ||
| หาบหกตกผลุกสะดุ้งตื่น | นางฝืนองค์สั่นขวัญหนี | ||
| จิตผูกลูกแก้วแล้วโศกี | จับหาบตะลีตะลานมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ถึงเรือนเรียกลูกด้วยผูกพัน | ยังมิทันปลงหาบลงจากบ่า | ||
| เจ้าไปไหนไม่ขานพระมารดา | ส้มสูกลูกหว้าพ่อมาเอา | ||
| ทิ้งหาบวาบใจเข้าในทับ | งามสรรพเปิดห้องมองเปล่า | ||
| ดังใครมาแขวะแคะเอา | ล้วงดวงใจเจ้าไปจากองค์ | ||
| ทูนหัวของแม่หายไปไหน | หลากใจให้คิดพิศวง | ||
| ปั้นวัวควายเล่นอยู่เป็นวง | หรือพ่อลงเรือนไปแห่งไร่นา | ||
| ขวายขวนชลนัยน์เจ้าฟูมฟอง | แลเหลียวเที่ยวมองร้องหา | ||
| เต้เคร่งเต่งทรวงของมารดา | กินนมแม่ราพ่อยาใจ | ||
| ใต้ต้นสะดือลมอื้อเย็น | ลูกเอ๋ยเคยเล่นหาเห็นไม่ | ||
| ผีเสื้อเสือสางที่กลางไพร | เอาลูกข้าไปหรือไรนา | ||
| วู่วามมาถามตายาย | หลานชายไปไหนไม่เห็นหน้า | ||
| หาจบไม่พบพระลูกยา | อยู่ที่ยายตาหรือว่าไร | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สองเฒ่าเล่าพลางร้องไห้ | ||
| แม่อย่าค้นคว้าหาไป | สุดใจยายตาจะป้องกัน | ||
| เสนาท่านมาแต่ในกรุง | แย่งยุ่งอลหม่านพระหลานขวัญ | ||
| ใส่บ่าพาไปแต่กลางวัน | ไม่รู้ว่าโทษทัณฑ์ประการใด | ||
| เห็นทีจะมีรับสั่ง | เมียผัวกลัวดังจะตักษัย | ||
| มุดนอนซ่อนดูอยู่แต่ไกล | ดังจะขาดใจม้วยด้วยหลานยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ยิน | ล้มผางกลางดินไม่เงยหน้า | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าโศกา | กัลยากลิ้งเกลือกเสือกองค์ | ||
| แน่ไปไม่ได้สมประดี | เกศีติดต้องละอองผง | ||
| ตายายนวดฟื้นคืนคง | โฉมยงจับมีดกรีดคอ | ||
| ตาฉวยยายชิงทิ้งขว้าง | นางง้างเถาวัลย์จะพันศอ | ||
| สองเฒ่าเข้าปล้ำน้ำตาคลอ | แก้จากคอนางพลางร่ำไร | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ นางทุ่มทอดกายสยายเกศ | ชลเนตรแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| พ่อคุณทูนหัวแม่หนักใจ | อัศจรรย์หวั่นไหวแต่ในดง | ||
| แม่รีบมาไม่เห็นหน้าเจ้า | ดังใครตัดเกล้าให้ผุยผง | ||
| ลูกแก้วไม่แคล้วจะปลดปลง | มั่นคงทั้งนี้อีจันทา | ||
| แม่ไม่ขออยู่จะสู้ม้วย | จะตายตามไปด้วยพระลูกข้า | ||
| ครวญคร๋ำทางร่ำพรรณนา | โศกาแน่นิ่งไม่ติงกาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์กัลยาโฉมฉาย | ||
| คิดพลางทางผลุนวุ่นวาย | ตายายห้ามไว้ก็ไม่ฟัง | ||
| ค่ำมืดดึกดื่นก็ตามที | ตายเป็นเห็นผีพ่อหอยสังข์ | ||
| วิ่งหนีตายายเข้าในวัง | คลุ้มคลั่งพระทัยร้องไห้มา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ สิบห้าวันกันดารฝูงคน | เทพย่นหนทางที่กลางป่า | ||
| คืนหนึ่งมาถึงพระพารา | แฝงฟังกิจจาพระลูกชาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฤาสาย | ||
| ไสยาสน์เหนืออาสน์พรรณราย | ไม่วายคำนึงถึงลูกยา | ||
| หรือจะเป็นหน่อเนื้อเชื้อไข | จึงล้างผลาญอย่างไรไม่สังขาร์ | ||
| วิปริตผิดคนในโลกา | บุญญาธิการชาญชัย | ||
| จำกูจะดูกุมารา | รูปร่างหน้าตาเป็นไฉน | ||
| พระมิได้บรรทมภิรมย์ใน | จนรุ่งแจ้งแสงใสพรายพรรณ | ||
| เข้าที่ชำระสระสรง | สำอางค์องค์ทรงเครื่องแล้วผายผัน | ||
| เสด็จออกยังท้องพระโรงคัล | จันทรเฉิดฉันก็ตามไป | ||
| จึงดำรัสตรัสแก่เสนี | เรานี้ยังพะวงสงสัย | ||
| กุมารารูปร่างนั้นอย่างไร | เสรีเร่งไปเอาตัวมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่ามหาเสนี | รับสั่งวางรี่ออกไปหา | ||
| เบิกพระกุมารพลันมิทันช้า | แล้วพามาเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลเป็นใหญ่ | ||
| ผาดเห็นลูกยาเข้ามาใน | ท้าวไทพิศเพ่งเล็งแล | ||
| ทรวดทรงส่งศรีนรลักษณ์ | พิศพักตร์ผ่องช่วงดังดวงแข | ||
| แก้มเนตรเกศกรรณผันแปร | ดูละม้ายคล้ายแม่ที่ขับไป | ||
| ทั้งจริตกิริยามารยาท | เชื้อชาติผู้ดีไม่มีไพร่ | ||
| พระจึงดำรัสตรัสไป | เราไซร้ขอถามกุมารา | ||
| เดิมเหตุเภทพาลประการใด | เป็นไฉนจึงได้ไปอยู่ป่า | ||
| พ่อแม่ชื่อไรไฉนนา | ชันษาเจ้าได้สักกี่ปี | ||
| เราเห็นใช่ทรพลเป็นพ้นนัก | เห็นสมศักดิ์พักตราเป็นราศี | ||
| บอกพ่อเถิดราอย่าโศกี | เจ้านี้มีนามกรใด | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ไหว้พลางทางร้องไห้ | ||
| แม่ข้าอยู่ป่าพนาลัย | เก็บผักหักไม้ด้วยยากจน | ||
| แม่ข้าว่าพ่อเสวยวัง | เกิดมาข้ายังไม่เห็นหน | ||
| แม่ข้าคลอดมาประหลาดคน | หอยสังข์บังตนข้าออกมา | ||
| คนยุบิดาให้ขับไล่ | แม่ข้าพาไปอยู่ในป่า | ||
| อยู่หลังข้าออกจากสังข์มา | มารดาตีแตกให้แหลกไป | ||
| แม่ข้าชื่อจันท์เทวี | ข้านี้ชื่อสังข์ตามวิสัย | ||
| ด้วยความยากจนเป็นพ้นใจ | ข้านี้เขาไปจับเข้ามา | ||
| ลุงหรือเขาลือว่าเป็นเจ้า | ใช้เขาไปจับเอาตัวข้า | ||
| กริ้วโกรธโทษภัยไฉนนา | จำจองขื่อคาดังข้าไท | ||
| ลุงโปรดปล่อยข้าไปหาแม่ | ป่านนี้ตั้งแต่จะร้องไห้ | ||
| ใครจะช่วยหาหม้อก่อไฟ | เฝ้าทับขับไล่ไก่กา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | ชลเนตรไหลหลั่งทั้งซ้ายขวา | ||
| แน่แล้วลูกแก้วของพ่ออา | ให้ถอดลูกยาออกทันใด | ||
| รับมาใส่ตักแล้วชมเชย | ลูกเอ๋ยมาเป็นเช่นนี้ได้ | ||
| สงสารมารดามาแต่ไพร | ไม่เห็นจะไห้โศกี | ||
| จูบพักตร์ลูบพลางทางรับขวัญ | ทรงธรรม์ไม่วายกันแสงศรี | ||
| ลืมคำจันทาพาที | ภูมีพิศวาสเพียงขาดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวเข็ญเป็นใหญ่ | ||
| เดือดฟุ้งพลุ่งพล่านทะยานใจ | เข้าใกล้แฝงหลังบังองค์ | ||
| ว่ายมนต์เป่าพลางทางทูลมา | อนิจจาผ่านฟ้านี้คนหลง | ||
| เหตุไรจึงให้งวยงง | หลงเชื่อฟังมันฉันใด | ||
| เพลิงกาฬจะมาผลาญพระบุรี | เพราะลูกคนนี้หรือมิใช่ | ||
| แม้นมิถ่วงลงคงคาลัย | ภูวไนยจะม้วยมรณา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเมียแก้ว | จริงแล้วลืมเสียที่เจ้าว่า | ||
| เสื่อมสร่างวางองค์พระลูกยา | เหวยเหวยเสนาเอาตัวไป | ||
| ผูกมัดรัดถ่วงให้มรณา | จะงดใว้ช้านานไม่ได้ | ||
| เพลิงกาฬจะมาผลาญเอาเวียงชัย | เร่งไปบัดนี้อย่าได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศา | ||
| เคืองแค้นแสนสันนางจันทา | กระซิบด่าในใจใม่เว้นคน | ||
| พระทรงฤทธิ์ผิดกว่าแต่ก่อน | กลับกลอกยอกย้อนไม่เป็นผล | ||
| กลัวพระกาฬจะมาผลาญอยู่ลานลน | ต่างคนต่างพาเอาตัวไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่าสังข์ทองเจ้าร้องจ้า | น้าขาจะพาข้าไปไหน | ||
| ทุบตีฆ่าฟันหรือฉันใด | ข้าไหว้อย่าพาข้าไปเลย | ||
| ลุงเจ้าขาจงมาช่วยฉันด้วย | ลูกจะม้วยจริงแล้วพ่อคุณเอ๋ย | ||
| แม่ข้าไม่มาตามลูกเลย | ลุงตาน้าเอ๋ยไม่เห็นใคร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่าองค์พระบิตุเรศ | สังเวชไม่กลั้นกันแสงได้ | ||
| ตรัสสั่งมหาเสนาใน | อย่าพาไปเลยเจ้าเอากลับมา | ||
| จันทาทูลพลันทันที | ตรัสเล่นเช่นนี้ดีหนักหนา | ||
| แม้นมิถ่วงมันให้มรณา | ข้าจะกินยาตายไม่อยู่เลย | ||
| พระดำรัสตรัสสั่งเสนี | เอาไปเถิดสิเสนาเอ๋ย | ||
| เอาไว้กูไม่สบายเลย | กรรมเอ๋ยเวรใดได้ทำมา | ||
| ล้างผลาญอย่างไรก็ไม่ม้วย | กูจะไปดูด้วยเมื่อเข่นฆ่า | ||
| สั่งพลางชวนนางจันทา | เสนานำไปที่หน้าแพ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เสนาจูงมาผูกมัด | ฝูงคนแออัดอยู่เซ็งแซ่ | ||
| แล้วใส่นาวาไปหน้าแพ | ด้วยกระแสรับสั่งพระภูวไนย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โล้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์ชนนีศรีใส | ||
| ได้ข่าวลูกแก้วแววไว | ดังจะขาดใจตายด้วยลูกยา | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าผางผาง | ดังนางจะม้วยสังขาร์ | ||
| ผุดลุกหันหุนหมุนมา | ตรงไปยังท่าชลาลัย | ||
| บาทาแตกคุพุพอง | หนามต้องตามติดหาปลิดไม่ | ||
| ล้มลุกคลุกคลานทะยานไป | กลัวจะไม่เห็นองค์พระลูกยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงเห็นองค์พระลูกแก้ว | ทอดองค์ลงแล้วก็โหยหา | ||
| เสือกสนบนฝั่งชลธาร์ | ไม่รู้ว่าจะทำประการใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายองค์พระสังข์กุมารน้อย | ตั้งแต่ละห้อยโหยไห้ | ||
| แลเห็นมารดามาแต่ไกล | ดีใจร้องเรียกพระมารดา | ||
| แม่คุณจงช่วยลูกด้วยที | เขาผูกมัดรัดตีแล้วทุบด่า | ||
| แล้วมิหนำซ้ำมัดรัดกรมา | มารดานิ่งได้ไม่ปรานี | ||
| เขาจะโยนลูกลงในคงคา | ไม่ช้าจะม้วยไปเป็นผี | ||
| แม่วานเขาส่งลงมาที | ชนนีนิ่งได้ไม่เอ็นดู | ||
| ลูกอยากขนมนมแม่ | น้าแก้ปล่อยให้ไปสักครู่ | ||
| เสนาน้ำตาลงไหลพรู | ที่พาลข่มขู่ด้วยกลัวภัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังลูกว่า | มารดาข้อนทรวงเข้าร้องไห้ | ||
| มิได้คิดชีวิตจะขาดใจ | จะโจนน้ำลงไปมิได้นาน | ||
| คนดูที่รู้จักองค์ | ยุดห้ามโฉมยงด้วยสงสาร | ||
| นางเสือกเกลือกกลิ้งกับดินดาน | เยาวมาลย์ข้อนทรวงเข้าโศกี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ แล้วแลเห็นองค์ผัวขวัญ | ยอกรอภิวันท์เหนือเกศี | ||
| ลูกข้ากระจิริดผิดไม่มี | ขอประทานชีวีพระลูกชาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฤาสาย | ||
| พะว้าพะวงไม่ตั้งกาย | แว่วเสียงโฉมฉายเจ้าเรียกมา | ||
| ชะแง้แลเห็นมเหสี | เทวีบังคมเหนือเกศา | ||
| จำได้มั่นคงไม่สงกา | พระราชาพยักกวักกร | ||
| เร่งเรียกสำเหนียกแก่เสนา | ให้ถอยนาวาเข้ามาก่อน | ||
| เสนากลับท้ายพายคอน | จันทาโบกกรไปทันที | ||
| ไม่กลัวหัวจะขาดหรือไฉน | โยนมันลงไปให้เป็นผี | ||
| ไว้ใยให้นานจนป่านนี้ | อ้ายนี่ขัดรับสั่งหรือฉันใด | ||
| เสนาตกใจอยู่ลนลาน | อุ้มพระกุมารมาหาช้าไม่ | ||
| ผูกหินโยนพลันทันใด | สองกษัตริย์สลบไปทั้งสองรา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิดฉิ่ง โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาดีใจเป็นหนักหนา | ||
| เห็นพระสลบซบพักตรา | ต้องดูรู้ว่าไม่บรรลัย | ||
| เอาน้ำสุคนธามาลูบพักตร์ | ผัวรักค่อยฟื้นคืนมาได้ | ||
| ร่ายมนต์เป่าพลางทางทูลไป | จะโศกาอาลัยไปไยมี | ||
| เชื่อว่าบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | พอโยนลงไปก็เป็นผี | ||
| มันเสี้ยนทรชนคนไพรี | แม้นดีลูกชายจะตายไย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระภูวดลยังหม่นไหม้ | ||
| แสนสงสารบุตรนั้นสุดใจ | น้ำพระเนตรหลั่งไหลลงนองแนว | ||
| ขุ่นข้องต้องมนต์ของจันทา | เสื่อมสร่างวิญญาณ์ถึงน้องแก้ว | ||
| เจ้าว่าถูกทุกสิ่งจริงแล้ว | คลาดแคล้วคืนหลังเข้าวังใน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงคนถ้วนหน้าน้ำตาไหล | ||
| แลเห็นโฉมงามทรามวัย | เกลือกกลิ้งนิ่งไปไม่ไหวองค์ | ||
| จึงวักตักเอาชลธี | ประพรมโฉมศรีไม่ผุยผง | ||
| ครั้นเจ้าค่อยฟื้นคืนคง | ปลอบโยนโฉมยงให้ไคลคลา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมศรีมีจิตคิดโหยหา | ||
| ชะแง้แลดูพระลูกยา | นางข้อนอุราเข้าร่ำไร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ร่าย | |||
| ๏ พ่อคุณทูลกระหม่อมของแม่เอ๋ย | ทรามเชยทิ้งแม่ให้โหยไห้ | ||
| เช้าเย็นแม่จะเห็นหน้าใคร | ดังกาเหยี่ยวเฉี่ยวไปก็เหมือนกัน | ||
| ลูกเอ๋ยเคยรับพระมารดา | เมื่อมาแต่ป่าพนาสัณฑ์ | ||
| พูดพลอดกอดแม่ไม่วายวัน | กินนมชมกันทุกเวลา | ||
| ตัวกรรมันตามมาล้างผลาญ | พลัดบ้านเมืองแล้วยังมิสา | ||
| ยังมิหน้ำซ้ำพรากจากลูกยา | อนิจจามีกรรมต้องจำไกล | ||
| รำพันพลางนางลาคนทั้งปวง | เจ้าเหงาง่วงเดินมาน้ำตาไหล | ||
| เปล่าจิตผิดทางชังตายไป | ดั้นด้นพงไพรร้องไห้มา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์โอดโอยโหยหา | ||
| จมลงตรงปล่องนาคา | ฟุมฟายน้ำตาจาบัลย์ | ||
| แม่เจ้าประคุณทูลกระหม่อมแก้ว | จะกลิ้งเกลือกอยู่แล้วเป็นแม่นมั่น | ||
| เพราะแม่ต่อยหอยสังข์ไม่ยั้งทัน | จึงพลัดพรากจากกันกับลูกยา | ||
| ที่นี้จะได้ผู้ใดเล่า | อยู่ด้วยช่วยผ่านเกล้าเฝ้าเคหา | ||
| อยู่ทับขับไล่ไก่กา | แม่มาเย็นเย็นจะเห็นใคร | ||
| ว่าพลางทางซบเกศเกล้า | คิดถึงแม่เจ้าแล้วร้องไห้ | ||
| สลบซบซอนอ่อนใจ | อยู่ในใต้น้ำไม่ทำลาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
ตอนที่ ๓ นางพันธุรัตเลี้ยงพระสังข์
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวภุชงค์องค์สหาย | ||
| กับดักกระตักโหรคนทาย | ล้ำเลิศเพริศพรายในบาดาล | ||
| ปรากฎพระยศศักดิ์ศรี | บรรดานาคีไม่ต่อต้าน | ||
| ศาลารักษาศีลทาน | อยู่ใต้บาดาลพิมานชัย | ||
| เทพเจ้าเข้าในใจดล | ท่านท้าวกำพลหม่นไหม้ | ||
| ด้วยพระสังข์ทองยองใย | ลำบากยากใจในคงคา | ||
| จะใคร่ไปตามวิสัยนาค | ออกจาเปลวปล่องช่องผา | ||
| ระวังตัวด้วยกลัวครุฑา | ทอดตาเหลียวดูมาแต่ไกล | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ กลม | |||
| ๏ เที่ยวเล่นมาเห็นกุมาร | นอนจมดินดานธารไหล | ||
| เห็นศิลาผูกมาก็แจ้งใจ | ลูกใครทิ้งถ่วงลงคงคา | ||
| โฉมศรีบริสุทธิ์มนุษย์น้อย | กระจ้อยร่อยน่ารักหนักหนา | ||
| ภุชงค์สงสารกุมารา | เข้าต้องดูรู้ว่าไม่บรรลัย | ||
| จับกรช้อนองค์เห็นกงจักร | น้อยหรือบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| จะเกิดเหตุเภทพาลประการใด | ใครช่างทำได้ไม่ปรานี | ||
| จะเอาเจ้าไปไว้เป็นลูกยา | เห็นว่าบุญหนักศักดิ์ศรี | ||
| แล้วแก้ศิลาพลันทันที | นาคีอุ้มพาไปบาดาล | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงวางบนแท่นแก้ว | ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| บอกเมียรักพลันมิทันนาน | บริวารแวดล้อมอยู่พร้อมเพรียง | ||
| พี่ไปได้มาแต่วารี | จมในชลธีไม่มีเสียง | ||
| ช่วยแก้ไขให้คืนจะได้เลี้ยง | กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้เอาบุญ | ||
| ว่าพลางตั้งสัตย์อธิฐาน | ถ้าบุญเรากับกุมารเคยอุดหนุน | ||
| แต่ชาติหลังทั้งสองเคยค้ำจุน | เดชะบุญกุมารไม่วอดวาย | ||
| เสี่ยงพลางพลางเอาสุคนธ์ทิพย์ | ลูบหลังดังหยิบให้เหือดหาย | ||
| ค่อยฟื้นคืนสมประดีคลาย | โฉมฉายเป่ามนต์ด้วยฤทธี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุวรรณสังข์เรืองศรี | ||
| ฟื้นองค์หลงว่ายวารี | แลเห็นนาคีก็ดีใจ | ||
| รูปร่างโสภาเป็นมนุษย์ | ทรงภุชบังคมประนมไหว้ | ||
| ผินผันอั้นอ้นฉงนใจ | กล่าวความถามไปกับนาคา | ||
| ข้าเจ้าเขาเอามาถ่วงน้ำ | บาปกรรมทำไว้เป็นหนักหนา | ||
| ผู้ใดเอาข้าเจ้ามา | โปรดช่วยชีวาให้คืนคง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวนาคีมีจิตพิศวง | ||
| ตรัสถามเนื้อความไปโดยจง | เจ้าเชื้อแถวแนววงศ์พระองค์ใด | ||
| ใครเล่าถ่วงเจ้าลงวารี | โฉมศรีโทษทัณฑ์นั้นไฉน | ||
| เราช่วยจึงไม่ม้วยลรรลัย | จึงพามาไว้ในบ้านเมือง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เล่าความตามเรื่อง | ||
| บิดาข้าไซร้ได้ผ่านเมือง | ราวเรื่องแม่ว่าให้ข้าฟัง | ||
| เมียน้อยมันชื่อนางจันทา | มารดาคลอดข้าเป็นหอยสังข์ | ||
| เขาขับไล่ให้ไปอยู่ไพรรัง | มันชิงชังทูลว่าข้าจัญไร | ||
| อยู่หลังข้าออกมานอกหอย | เขาคอยจับข้าหาช้าไม่ | ||
| ทุบตีฆ่าฟันไม่บรรลัย | จึงให้ถ่วงข้าลงสาคร | ||
| บอกพลางทงทรงโศกี | คิดถึงชนนีสะอื้นอ้อน | ||
| พระองค์ช่วยส่งให้มารดร | วิงวอนร่ำไห้อยู่ไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวภุชงค์สงสารเป็นหนักหนา | ||
| ได้ฟังทั้งนางนาคา | เสน่หาฟักฟูมอุ้มองค์ | ||
| บุญญาธิการก็มากมี | จึงเข่นฆ่าร้าตีไม่ผุยผง | ||
| แกล้งเดียดฉันท์กันเป็นมั่นคง | ยุยงชิงชังว่าจังไร | ||
| อยู่ด้วยแม่เถิดจะเลี้ยงเจ้า | ร่วมวันขวัญข้าวอย่าโหยไห้ | ||
| ชนนีเจ้านั้นมิบรรลัย | นานไปจะพบประสบกัน | ||
| จึงให้ชำระสระล้าง | ล้อมข้างดังนางในสวรรค์ | ||
| เอมโอชโภชนาสารพัน | นึกสิ่งใรนั้นก็มีมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายท้าวภุชงค์ทรงศักดิ์ | คิดถึงแม่รักยักษา | ||
| อย่าเลยจะให้กุมารา | ไปเป็นบุตรายาใจ | ||
| ผัวตายเป็นม่ายมาช้านาน | ลูกหลานยักษีหามีไม่ | ||
| จึ่งบอกพระสังข์ทองยองใย | พ่อไซค้มิใช่เป็นมนุษย์ | ||
| ถึงรักเจ้าเอาไว้ไม่ได้ด้วย | จะชูช่วยบำรุงให้สูงสุด | ||
| ไปกว่าบิดาจะม้วยมุด | สิ้นสุดทุกข์ภัยที่ได้มา | ||
| เจ้าคิดถึงบิดาจะมาถึง | ครู่หนึ่งบัดใจจะไปหา | ||
| ว่าพลางทางสั่งนาคา | ตกแต่งกายาให้อ่าองค์ | ||
| ทองกรอ่อนห้อยสร้อยสะอิ้ง | เพริศพริ้งเฟื่องฟูดูระหง | ||
| นาคาข้าพร้อมล้อมวง | อุ้มองค์พามาจากบาดาล | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ขึ้นจากฟากฝั่งพระสมุทร | พ้นแดนมนุษย์สุดสถาน | ||
| ริมสะดือทะเลคะเนการ | หมายมุ่งกรุงมารไม่ใกล้ไกล | ||
| จึงนฤมิตด้วยฤทธา | เป็นมหาสำเภาทองผ่องใส | ||
| โภชนาสารพันทันใด | พร้อมไปในลำสำเภาทอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ จึงอุ้มลูกน้อยกลอยสวาท | นาคราชทูนเกล้าเศร้าหมอง | ||
| วางไว้ในลำสำเภาทอง | ทั้งสองโศกาด้วยปรานี | ||
| แล้วเอาแผ่นสุวรรณบันทึก | จารึกเป็นราชสารศรี | ||
| สั่งลูกชายพลันทันที | จงส่งให้ยักษีที่ลงมา | ||
| แล้วเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน | ขุนมารอันคิดริษยา | ||
| จะจับลูกอย่าให้ถูกลำเภตรา | ให้ตรงซึ่งพาราอย่าขัดไป | ||
| เสี่ยงพลางทางเลือกสำเภาทอง | ลอยล่องในท้องทะเลใหญ่ | ||
| สงสารลูกแก้วแววไว | แล้วกลับหลังวังในสู่ไพชน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุวรรณสังข์ระเหระหน | ||
| คว้างเคว้งมาในกลางทะเลวน | ทุกข์ทนแลเหลียวเปลี่ยวใจ | ||
| มีอยู่แต่น้ำกับฟ้า | จะแลเห็นฝั่งฝาก็หาไม่ | ||
| ดูเป็นหมอกมัวออกทั่วไป | หวั่นไหวไม่เคยไปมา | ||
| เห็นฉนากฉลามตามกัน | ดาษดื่นหมื่นพันล้วนมัจฉา | ||
| เงือกงูราหูเหรา | ทั้งกระโห้โลมาปลาวาฬ | ||
| มังกรลอยล่องท้องน้ำ | คลื่นซัดซัดน้ำมาฉ่าฉาน | ||
| คิดถึงพระแม่อยู่แดดาล | เหมือนม้วยวายปราณไปจากกัน | ||
| ลูกรักพลัดไปแห่งใด | แม่อยู่หนไหนไม่ผายผัน | ||
| มิตายใหญ่กล้าจะมาพลัน | เสาะหาแม่นั้นให้พบพาน | ||
| ร่ำไรอยู่ในเภตรา | เทวาพิศวงน่าสงสาร | ||
| ช่วยส่งให้ตรงเมืองมาร | เข้ายังสถานด่านแดน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | กุมภัณฑ์ยักษาอยู่กว่าแสน | ||
| ลาดตะเวณเกณฑ์กันปันแดน | แว่นแคว้นนางมารชาญชัย | ||
| ยืนเยี่ยมหอคอยลอยลิ่ว | เห็นกระโดงธงทิวปลิวไสว | ||
| แลลิบลิบพริบตามาไวไว | เข้าใกล้แลเห็นเป็นสำเภา | ||
| คิดว่าข้าศึกมาฮึกฮัก | ขุนยักษ์วุ่นวายทั้งนายบ่าว | ||
| ออกรับจะจับเอาสำเภา | เร่งป่าวร้องเสร็จระเห็จมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กราว | |||
| ๏ ตรูกันลงหาดทรายชายฝั่ง | เห็นสำเภายังไม่กังขา | ||
| ทองคำทั้งลำทำมา | คนในเภตราก็ไม่มี | ||
| เห็นอยู่แต่กุมารน้อย | แช่มช้อยจรัสรัศมี | ||
| แจ้งใจมิใช่ไพรี | ยักษีตรูกันมาทันใด | ||
| เผ่นโผนโจนฉวยด้วยความอยาก | อ้าปากแลบลิ้นน้ำลายไหล | ||
| เร่งรีบฉวยพลันทันใด | ประหลาดใจไม่ถูกเภตรา | ||
| ทะลึ่งโลดโดดคว้าผวาเปล่า | เหมือนหนึ่งจับดาวในเวหา | ||
| ลอยเด่นเห็นอยู่แก่ตา | ยักษากริ้วโกรธพิโรธใจ | ||
| ดีด้วยกระบองก้องเวหา | จะถูกลำเภตราก็หาไม่ | ||
| ล้อมรุมกลุ้มกันเข้าทันใด | เปล่าไปไม่ปะปะทะกัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวรรณสังข์นรังสรรค์ | ||
| เห็นหมู่อสูรกุมภัณฑ์ | คร้ามครั่นพรั่นอกตกใจ | ||
| แต่ละตัวหัวพริกหยิกหยอง | ดำกาตาพองท้องใหญ่ | ||
| เขี้ยวขาวยาวรีไม่มีใจ | คิดได้ถึงท้าวนาคี | ||
| แล้วจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน | อย่าให้ขุนมารยักษี | ||
| มาทำอันตรายราวี | แก่ตัวข้านี้เลยนา | ||
| คิดแล้วเท่านั้นมิทันนาน | จึงโยนแผ่นทองสารให้ยักษา | ||
| แผ่นทองลอยละลิ่วปลิวมา | คอยท่ายักษีดังมีใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ยักษาโลดโผนโจนจับ | กลอกกลับรับราชสารได้ | ||
| คืนเข้าฝั่งพลันทันใด | หอบรวนหายใจอยู่ไปมา | ||
| จึงรู้สาราที่จารึก | มิใช่ข้าศึกจึงปรึกษา | ||
| สารทองของท้าวเจ้านาคา | เภตราเขียนลายระบายทอง | ||
| จำเพาะให้โฉมยงลงมารับ | เราจึงจู่จับมิได้ต้อง | ||
| ปรึกษาแล้วนำเอาแผ่นทอง | นายรองระเห็จเตร็ดมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงซึ่งราชธานี | จึงนำสารศรีเข้าไปหา | ||
| บอกแจ้งแถลงกิจจา | แก่ท่านมหาเสนาใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เสนารับสารใส่พานแก้ว | คลาดแคล้วพามาหาข้าไม่ | ||
| เข้าเฝ้านางมารชาญชัย | ที่ในพระโรงอันรูจี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ มาถึงจึงคลานเข้าไปเฝ้า | ก้มเกล้าบังคมเหนือเกศี | ||
| แล้วทูลไปพลันทันที | ท้าวนาคีมีราชสารมา | ||
| ให้ราชฑูตมนุษย์น้อย | ล่องลอยสำเภาไม่เข้าหา | ||
| ทองคำทั้งลำทำมา | คนในเภตราก็ไม่มี | ||
| จับต้องจะถูกก็หาไม่ | โยนให้แต่ราชสารศรี | ||
| ผิดอย่างปางก่อนบห่อนมี | เทวีจงทราบพระบาทา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เร่งคิดถวิลจินตนา | ทูตถือสาราประหลาดใจ | ||
| จึงสั่งสาวศรีที่หมอบเฝ้า | รับเอาสาราเข้ามาให้ | ||
| แล้วอ่านดูพลันทันใด | ที่ในพระราชสารา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เอกบท | |||
| ๏ สารท้าวภุชงค์ทรงศักดิ์ | คิดถึงแม่รักยักษา | ||
| แต่สหายวายปราณนานมา | ชั่วช้ามิได้มาเยี่ยมเยือน | ||
| องค์ท้าวกุมภัณฑ์ที่บรรลัย | ความสมัครรักใคร่ใครจะเหมือน | ||
| เจ้าน้อยใจที่ไม่เยี่ยมเยือน | รักเจ้าเท่าเทียมเหมือนกัน | ||
| เป็นหญิงครองเมืองมณฑล | เสนีรี้พลจะเดียดฉันท์ | ||
| เราไซร้ได้บุตรบุญธรรม์ | มนุษย์จ้อยน้อยนั้นถือสารไป | ||
| เจ้าจงเลี้ยงไว้เป็นลูกรัก | เราเห็นบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| จะได้ครอบครองพระเวียงชัย | เลี้ยงไว้ค้ำชูแทนหูตา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ อ่านจบแจ้งในสารศรี | คิดถวิลยินดีเป็นหนักหนา | ||
| เอาสารทูนเกล้าไว้มิได้ช้า | ขอบใจหนักหนาท้าวนาคี | ||
| องค์ท้าวกุมภัณฑ์ที่บรรลัย | ยังคิดรักใคร่ไม่หน่ายหนี | ||
| ซื่อตรงต่อองค์พระสามี | คุณของนาคียังบิดา | ||
| แล้วตรัสแก่มหาเสนาใน | ใครเห็นอย่างไรให้ปรึกษา | ||
| มนุษย์น้อยจ้อยในเภตรา | นาคาให้มาให้รับรอง | ||
| ให้เลี้ยงต่างลูกดวงใจ | บุญหนักศักดิ์ใหญ่ไม่มีสอง | ||
| เรานี้มีจิตคิดปอง | จะใคร่รับรองกุมารา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | กุมภัณฑ์โหรใหญ่ฝ่ายขวา | ||
| พินิจคิดคูณแล้วทูลมา | โหราขอโทษได้โปรดปราน | ||
| อย่าเพ่อชื่นชมภิรมย์ใจ | มิได้สงสัยที่ในสาร | ||
| ตำราทายว่าพระกุมาร | มิใช่ลูกหลานท้าวนาคา | ||
| มนุษย์กับยักษ์จะรักกัน | ห้ามปรามกวดขันเป็นหนักหนา | ||
| เหมือนหนึ่งดุเหว่าเหล่กา | เลี้ยงรักษาได้เมื่อไรมี | ||
| ทำนองเมรีกับพระรถ | ลักหยูกยาหมดแล้วลอบหนี | ||
| โฉมยงเหมือนองค์เมรี | รับมาน่าที่จะวายปราณ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | มืดคลุ้มกลุ้มคลั่งดังเพลิงผลาญ | ||
| เหม่อ้ายโหรใหญ่ใจพาล | ช่างเปรียบเทียบทัดทานด้วยมารยา | ||
| มึงนี้ผูกจิตคิดคด | จะขบถจริงจังกระมังหนา | ||
| กูไซร้จะได้ลูกยา | กีดหน้าขวางตาหรือว่าไร | ||
| กูไซร้ใช่นางเมรี | หลงด้วยโลกีย์หาดีไม่ | ||
| อันท้าวภุชงค์ทรงชัย | ชั่วแล้วที่ไหนจะให้มา | ||
| ว่าพลางทางสั่งสาวสวรรค์ | จงช่วยกันขับไล่ไสเกศา | ||
| แต่นี้สืบไปอย่าให้มา | มันว่ากูเล่นให้เป็นลาง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วสั่งกุมภัณฑ์ให้จัดแจง | ตกแต่งเร่งรัดอย่าขัดขวาง | ||
| อีกทั้งข้าเฝ้าท้าวนาง | ต่างต่างแผลงฤทธิ์นิมิตกาย | ||
| ให้เป็นมนุษย์สุดสิ้น | ตรัสพลางเทพินผันผาย | ||
| เข้าที่นฤมิตบิดเบือนกาย | เฉิดฉายโสภาอ่าองค์ | ||
| ออกจากวังแก้วแพรวพรรณ | กำนัลพรั่งพรูดูระหง | ||
| แห่แหนแน่นอัดจัตุรงค์ | เสนาพาลงไปคงคา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กลองโยน เชิด | |||
| ๏ มาถึงหาดทราบชายทะเล | เห็นเภตราลอยคอยท่า | ||
| ลดองค์ลงริมชลธาร์ | หัตถาจบน้ำได้สามที | ||
| แล้วนางตั้งจิตพิษฐาน | กุมารบุญหนักศักดิ์ศรี | ||
| จะมาเป็นลูกข้าในครานี้ | เทวัญจันทรีจงเล็งแล | ||
| ขอให้ลอยเข้ามาถึงฝั่ง | เหมือนหนึ่งยังข้าเห็นให้เป็นแน่ | ||
| เสี่ยงพลางแล้วนางผันแปร | ลุกยืนชะแง้แลไป | ||
| สำเภาลอยเลื่อนเคลื่อนคลา | ไม่ทันพริบตาเข้ามาใกล้ | ||
| เกยยังฝั่งพลันทันใด | บัดใจเห็นทั่วทุกตัวมาร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ สาธุการ | |||
| ๏ แล้วนางย่างลงในเภตรา | มิช้าเห็นองค์น่าสงสาร | ||
| พินิจพิศดูพระกุมาร | งามปานรูปทรงดังองค์อินทร์ | ||
| ฝ่ายว่าพระสังข์ก็บังคม | ชื่นชมในจิตคิดถวิล | ||
| แม่นยำเหมือนคำท้าวนาคิน | เสร็จสิ้นทุกสิ่งไม่กริ่งใจ | ||
| นางมารฟักฟูมอุ้มองค์ | โฉมยงยินดีจะมีไหน | ||
| ลงจากเภตราคลาไคล | สำเภาหายไปมิได้นาน | ||
| สาวศรีรับรองประคองเคียง | พร้อมเพรียงพิศวงสงสาร | ||
| เบียดเสียดกันดูพระกุมาร | คืนเข้าสถานสำราญใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงวังพลันทันที | วางยังแท่นมณีศรีใส | ||
| จึงดำรัสตรัสถามความใน | พ่อเป็นลูกหลานใครไฉนนา | ||
| จึงพระยาภุชงค์ทรงศักดิ์ | ส่งองค์ลูกรักให้แก่ข้า | ||
| เหตุผลต้นปลายอย่างไรมา | ลูกยาทรงนามกรใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทูลแจ้งแถลงไข | ||
| คิดถึงมารดายิ่งอาลัย | ร่ำไรทูลความแต่หลังมา | ||
| อันพระบิตุรงค์ทรงภพ | ประเสริฐเลิศลบจบทิศา | ||
| เมียน้อยนั้นชื่อจันทา | เขายุยงบิดาให้ฆ่าตี | ||
| จับลูกถ่วงท้องชลาลัย | ตัวแม่ขับไล่อยู่ไพรศรี | ||
| บุญช่วยจึงไม่ม้วยชีวี | ท้าวนาคีจึงใส่สำเภามา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังเอยฟังการ | นางมารสงสารเป็นหนักหนา | ||
| รับขวัญไม่กลั้นน้ำตา | ลูบหลังลูบหน้าให้ปรานี | ||
| แม่จะถนอมกล่อมเกลี้ยง | จะเลี้ยงเจ้าเป็นบุตรนะโฉมศรี | ||
| พ่ออย่าได้กังขาราคี | พระบุรีจะให้แก่ลูกยา | ||
| จูบพลางนางอุ้มขึ้นใส่ตัก | ความรักแสนสุดเสน่หา | ||
| ดังดวงฤทัยนัยนา | แล้วสั่งมหาเสนาใน | ||
| ท่านจงเร่งรัดจัดแจง | ตกแต่งพาราอย่าช้าได้ | ||
| จะสมโภชลูกแก้วแววไว | บาดหมายกันไปอย่าได้นาน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับราชบรรหาร | ||
| แล้วถวายบังคมก้มกราน | มาสั่งการตามมีพระบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ให้แต่งโรงราชพิธี | เทียนชัยบายศรีทั้งซ้ายขวา | ||
| หุ่นละครโขนหนังช่องระทา | เครื่องเล่นนานาบรรดามี | ||
| ทั้งระเบ็งระบำปล้ำมวย | พร้อมด้วยสังคีตดีดสี | ||
| งิ้วง้าวเสภาชาตรี | มโหรีครึ่งท่อนมอญรำ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วกลับมาทูลความตามเรื่อง | บ้านเมืองแต่งอร่ามงามขำ | ||
| ราชวัติฉัตรธงโยงรำ | พร้อมสำเร็จแล้วพระเทวี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ช้า ร่าย | |||
| ๏ ฟังเอยฟังสาร | นางมารปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| ครั้นว่าสนธยาราตรี | ก็เข้าที่บรรทมภิรมย์ใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ ครั้นรุ่งแจ้งแต่งองค์ลูกยา | ภูษาอย่างดีศรีใส | ||
| ทองกรสังวาลตระการใจ | แล้วมุ่นจุไรใส่ชฎา | ||
| สรรพเสร็จเสด็จจรลี | สาวศรีไสวทั้งซ้ายขวา | ||
| เชิญเครื่องตามกันเป็นหลั่นมา | ยาตราสถิตยังพิธี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ร้องเพลงมหาชัย | |||
| ๏ ร่าย | |||
| ได้เอยได้ฤกษ์ | นางมารให้เบิกบายศรี | ||
| ลั่นฆ้องกลองชัยเภรี | ดีดสีตีทับฉับพลัน | ||
| จุดแว่นเวียนซ้ายย้ายขวา | โห่ขึ้นสามลาขมีขมัน | ||
| เซ็งแซ่แตรสังข์ประดังกัน | ฆาตฆ้องกลองลั่นสนั่นไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ มโหรี | |||
| ๏ เวียนเทียนสำเร็จเสร็จสรรพ | โบกจับจุณเจิมเฉลิมให้ | ||
| แล้วนางอำนวนอวยชัย | ทุกข์โศกโรคภัยอย่าให้มี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายเจ้าพนักงานการเล่น | ทั้งมวยปล้ำรำเต้นถ้วนถี่ | ||
| โขนละครไก่ป่าชาตรี | เป่าปี่ตีกลองกึกก้องไป | ||
| หกคะเมนไต่ลวดกวดขัน | เจ็ดคืนเจ็ดวันหวั่นไหว | ||
| ครั้นราตรีมีดอกไม้ไฟ | หนังจีนหนังไทยดอกไม้กล | ||
| อีกทั้งครึ่งท่อนมอญรำ | จับระบำรำท่าโกลาหล | ||
| งิ้วง้าวฉาวแฉ่งแต่งตน | เกลื่อนกล่นอื้ออึงคะนึงไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ นางมารสมโภชพระลูกแก้ว | ผ่องแผ้วยินดีจะมีไหน | ||
| จึงชวนลูกยาคลาไคล | เข้าในวังพลันทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนแท่นแก้ว | ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| แล้วจัดแจงนักเทศน์ขันที | นางนมทั้งสี่พี่เลี้ยง | ||
| กำนัลนางมโหรีขับไม้ | สำหรับให้ขับกล่อมพระเนื้อเกลี้ยง | ||
| แม่มอบให้พระสังข์ทั้งวังเวียง | ใครทุ่มเถียงจงเฆี่ยนฆ่าตี | ||
| นางถนอมกล่อมเกลี้ยงรักษา | มิให้พระลูกยาเจ้าหมองศรี | ||
| จนพระชันษาสิบห้าปี | ยังทวีความรักอยู่ทุกวัน | ||
| นางค่อยเคลื่อนคลายสบายใจ | จะใคร่ไปเที่ยวป่าพนาสัณฑ์ | ||
| เผอิญใจทึกทึนนึกผูกพัน | คิดพรั่นกลัวลูกจะหนีไป | ||
| อย่าเลยจะแสร้งแกล้งล่อลวง | อย่าให้ล่วงหมายคำสำคัญได้ | ||
| ว่าไปช้าแล้วกลับมาเร็วไว | ถึงจะหนีไปไม่พ้นกร | ||
| แม่จะไปป่าเจ็ดราตรี | พันปีจงฟังแม่สั่งสอน | ||
| บ่อน้ำซ้ายขวาเจ้าอย่าจร | หอข้างหัวนอนเจ้าอย่าไป | ||
| สั่งลูกแล้วพบันมิทันช้า | พรั่งพร้อมทหารหน้าห้องใหญ่ | ||
| ออกจากพาราคลาไคล | แปลงไปเป็นยักษ์ฉับพลัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ กราว | |||
| ๏ ครั้นมาถึงป่าพนาลัย | จับได้ช้างเสือเนื้อสมัน | ||
| ฟาดฟันล้มตายวายชีวัน | ได้ห้าหกตัวนั้นไม่พอพุง | ||
| ครั้นเหลือบเห็นช้างฝูงใหญ่ | ดีใจฟาดด้วยกระบองผลุง | ||
| หักคอตายกลาดฟาดดังปุง | ทหารหอบพะรุงพะรังมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ วางกองไว้หน้าศาลาลัย | แล้วนางไปสรงน้ำที่เพิงผา | ||
| แล้วขึ้นนั่งบนบัลลังก์ศิลา | เสวยสัตว์นานาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| มาจะกล่าวบทไป | ถึงองค์พระสังข์เรืองศรี | ||
| อยู่ในไพชนอสุรี | มีจิตคิดถึงมารดา | ||
| เหตุไฉนไปไพรกรุ่นกรุ่น | พระคุณไปไยที่ในป่า | ||
| ว่าไปวันเดียวจะกลับมา | ไม่เหมือนวาจาที่ว่าไว้ | ||
| เหตุใดถ้อยคำฟั่นเฟื่อน | คลาดเคลื่อนคืนวันหามั่นไม่ | ||
| ตรัสว่าจะไปคืนเดียวไซร้ | เจ็ดวันจึ่งได้กลับมา | ||
| ครั้นว่าจะไปเจ็ดวัน | กลับพลันวันเดียวไม่เหมือนว่า | ||
| ผิดแล้วถ้อยคำพระมารดา | ดีร้ายจะมาต่อเจ็ดวัน | ||
| ห้ามไว้มิให้ไปที่ครัวไฟ | อะไรจะมีอยู่ที่นั่น | ||
| ลับตาสาวใช้ลอบไปพลัน | ได้เห็นสำคัญในทันที | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เห็นโครงเสือช้างกวางทราย | ทั้งกายมนุษย์กับซากผี | ||
| ตกใจไม่เป็นสมประดี | ผิดแล้วชนนีเห็นสำคัญ | ||
| พระมารดาว่าบ่อที่ปิดไว้ | จะมีอะไรเป็นแม่นมั่น | ||
| ลอบหนีพี่เลี้ยงลงไปพลัน | เปิดบ่อซ้ายนั้นขึ้นทันใด | ||
| ค่อยเอานิ้วพระหัตถ์ชี้ | จุ่มจี้บ่อเงินที่ผ่องใส | ||
| เปิดบ่อขวาพลันทันใด | แจ่มใสสว่างอยู่เรืองรอง | ||
| เอานี้วชี้ที่เป็นเงินนั้น | จิ้มลงดูพลันเป็นทองผ่อง | ||
| คิดตกใจเจ้าเฝ้ามอง | เช็ดทองด้วยกลัวพระมารดา | ||
| จะเช็ดสีเท่าใดก็ไม่ออก | พระแม่มาจะบอกกระมังหนา | ||
| รีบมาคิดได้ด้วยมารยา | ฉีกผ้าพันนิ้วพระหัตถ์ไว้ | ||
| แล้วพระจึงซ่องฝูงนาง | มาดูที่ปรางค์ปราสาทใหญ่ | ||
| แลเห็นรูปเงาะเหมาะสุดใจ | พระจึงสวมใส่เข้าลองดู | ||
| สอดใส่เกือกแก้วทั้งซ้ายขวา | ประดับเพชรพรายตาทั้งคู่ | ||
| จับไม้เท้าทองลองฤทธิ์ดู | เหาะวู่ตามช่องบัญชรชัย | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เหาะลองดูเล่นพอเห็นดี | กลัวพระชนนีไม่ช้าได้ | ||
| ถอดออกแล้ววางดังเก่าไว้ | ดีใจสอดมองดูมารดา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ทีเอยทีนี้ | ชอบที่จะหนีแม่ยักษา | ||
| จะเหาะไปหาพระมารดา | ถึงไร่ยายตาที่เลี้ยงเรา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ร่าย | |||
| ๏ โอ้อนิจจาพระชนนี | ป่านฉะนี้จะร่ำโศกเศร้า | ||
| จะข้อนทรวงสลบซบเซา | พระเกิดเกล้าลูกเอ๋ยจะโศกา | ||
| ตัวกูมาอยู่ในเมืองนี้ | พระชนนีเลี้ยงเป็นยักษา | ||
| ไว้ใจยากนักถ้าฉวยช้า | ไหนจะหนีมารดาไปได้เลย | ||
| เห็นจะวายชีวิตเสียเปล่าเปล่า | โอ้พระเกิดเกล้าของลูกเอ๋ย | ||
| จะแทนคุณชนนีมิอยู่เลย | เงยเห็นพี่เลี้ยงซ่อนทันที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พี่เลี้ยงวิ่งหาพระโฉมศรี | ||
| ตกใจไม่เห็นอยู่ในที่ | วิ่งตีอกหาประหม่าใจ | ||
| เมื่อกี้วิ่งเล่นก็เห็นตัว | ทูนหัวเอ๋ยซ่อนอยู่แห่งไหน | ||
| มองมาพบพระองค์ก็ดีใจ | พี่เลี้ยงสาวใช้ก็เปรมปรีดิ์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษี | ||
| เล็ดลอดสอดหามฤดี | ได้เจ็ดราตรีอยู่ไพรวัน | ||
| สายัณห์ตะวันรอนรอน | ใกล้จะลับสิงขรพนาสัณฑ์ | ||
| รำลึกถึงลูกใจผูกพัน | เร่งรีบเร็วพลันระเห็จมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ถึงรับขวัญอุ้มพระลูกรัก | จูบพักตร์เศียรเกล้าเกศา | ||
| กอดชมดังดวงนัยนา | นางแสนเสน่หาดังดวงใจ | ||
| แลเห็นนิ้วหัตถาพันผ้า | เอ็ววันของแม่เป็นไฉน | ||
| ผ้าผูกนิ้วถูกอะไร | เป็นไรหรือพ่อจงบอกมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังคำว่า | ||
| ครั้นแม่จับนิ้วทำมารยา | กลัวพระมารดาจะเคืองใจ | ||
| ทำผิดลูกกลัววพระแม่ตี | ลูกนี้ไม่มีอัชฌาสัย | ||
| จับมีดเข้ามาผ่าไม้ | บาดเลือดซับไหลฝนไพลทา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | ชะนางพี่เลี้ยงช่างให้ไม้ผ่า | ||
| จับมือพิศดูพันผ้า | ทูนเหนือเกศารำคาญใจ | ||
| จะมากหรือน้อยแม่ขอดู | นิ่งอยู่หาทำให้เจ็บไม่ | ||
| กำมิดปิดซ่อนแม่ทำไม | บาดแผลน้อยใหญ่ไฉนนา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| สังข์เอยสังข์ทอง | ทำร้องกุมนิ้วพันผ้า | ||
| อุยอุยพระแ ม่อย่าแก้นา | เจ็บปวดหนักหนาเป็นพ้นไป | ||
| โลหิตติดกรังผ้าอยู่ | เจ็บปวดพ้นรู้ไม่แก้ได้ | ||
| ลูกลวนลามเล่นจึงเป็นไป | พระแม่จงได้ปรานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | นางมารโกรธพี่เลี้ยงสาวศรี | ||
| น้ำตาคลอตาด้วยปรานี | ให้มัดตีพี่เลี้ยงนางใน | ||
| นางนมพี่เลี้ยงเรียงหน้า | มึงไม่นำพาเอาใจใส่ | ||
| ให้เล่นมีดแล่นพร้าผ่าไม้ | ตีให้บรรลัยประเดี๋ยวนี้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | พระสังข์บังคมขอโทษพี้ | ||
| อ้อนวอนกราบไหว้ทั้งโศกี | มิให้ต้องตีชิงไม้ไว้ | ||
| ลูกแข็งเขาห้ามแล้วไม่ฟัง | เขารักข้าหาชังลูกน้อยไม่ | ||
| ถ้าเขาต้องโทษโพยภัย | ไหนเขาจะรักลูกน้อยนี้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา กล่อม | |||
ตอนที่ ๔ พระสังข์หนีนางพันธุรัต
| ช้า | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงนางพันธุรัตยักษี | ||
| แต่ว่างเว้นเป็นม่ายมาหลายปี | สามีมอดม้วยด้วยไข้พิษ | ||
| ได้ลูกน้อยหอยสังข์มาเลี้ยงไว้ | รักใคร่เป็นบุตรสุจริต | ||
| ฟักฟูมอุ้มชูชมชิด | ลืมคิดถึงผัวของตัวตาย | ||
| เมื่อเวรามาติดตามทัน | นางนั้นจะสิ้นบุญสูญหาย | ||
| ให้ร้อนเนื้อเดือดใจไม่สบาย | ผันผายไปป่าพนาวัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ จึงอุ้มองค์พระสังข์นั่งตัก | โลมลูบจูบพักตร์แล้วรับขวัญ | ||
| วันนี้แม่จะลาไปอารัญ | สายัณห์เลี้ยวลับจะกลับมา | ||
| แล้วกำชับสาวศรีพี่เลี้ยง | จงถนอมกล่อมเกลี้ยงโอรสา | ||
| ตามใจอย่าให้โกรธา | เคืองขัดอัธยาสิ่งใด | ||
| สั่งพลางย่างเยื้องยุรยาตร | จากปราสาทเรืองรองผ่องใส | ||
| มาลับตาลูกน้อยกลอยใจ | อรไทเปลี่ยนแปลงกายา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ บัดใจรูปร่างเป็นนางยักษ์ | ล่ำสันคึกคักหนักหนา | ||
| ถือตระบองป้องพักตร์ทำศักดา | ดั้นดงตรงมาพนาลี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ กราวใน เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงหิมวาป่าสูง | เห็นฝูงเนื้อเบื้อเสือสีห์ | ||
| นางยักษ์อยากกินก็ยินดี | เข้าไล่ตีเลี้ยวลัดสกัดสแกง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พิฆาตฆ่าโคกระทิงมหิงสา | ด้วยกำลังฤทธากล้าแข็ง | ||
| โจนจับฉับเฉียวเรี่ยวแรง | หักแข็งขาไว้ในดงดาน | ||
| ตัวไหนพ่วงพีมีมัน | เลือกสรรกินเล่นเป็นอาหาร | ||
| กระดูกกระเดี้ยวเคี้ยวป่นไม่ทนทาน | คชสารควายวัวตัวละคำ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ นางกินเหลือล้นจนเรอ | ท้องไส้เอ้อเร้ออิ่มหนำ | ||
| ลงล้างปากล้างคอในบ่อน้ำ | พอพลบค่ำย่ำแสงสนธยา | ||
| จึงไปยังที่หยุดพัก | เคยสำนักแรมทางกลางป่า | ||
| ปัดผงลงนอนในศาลา | นิทรากลิ้งกลับจนหลับไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระสังข์ทองผ่องใส | ||
| ราตรีเข้าที่บรรทมใน | ถอนฤทัยรำลึกตรึกตรา | ||
| คิดถึงชนนีที่เกิดเกล้า | จะโศกเศร้าทุกข์ทนบ่นหา | ||
| แต่มาอยู่เมืองมารก็นานช้า | ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดี | ||
| ซึ่งกูจะหลงอยู่ในเมืองยักษ์ | แม้นมิลักรูปเงาะเหาะหนี | ||
| ที่ไหนจะได้เห็นชนนี | นับปีเดือนแล้วจะแคล้วไป | ||
| จำจะคิดติดตามสืบหา | ให้พบพานมารดาจงได้ | ||
| วันนี้แม่พันธุรัตไปแรมไพร | ได้ช่องคล่องใจจะไคลคลา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นกลางคืนดื่นดึกเดือนเที่ยง | เห็นพี่เลี้ยงหลับสนิทถ้วนหน้า | ||
| ค่อยย่องลงจากเตียงเมียงออกมา | จากห้องไสยาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ลอบลงชุบองค์ในบ่อทอง | ผิวเนื้อนวลละอองผ่องศรี | ||
| เป็นทองคำธรรมชาติชาตรี | สมถวิลยินดีดังใจคิด | ||
| แล้วขึ้นไปบนปราสาทชัย | ที่ไว้รูปเงาะศักดิ์สิทธิ์ | ||
| หยิบขึ้นแลเล็งเพ่งพิศ | ขุกคิดขึ้นมาก็อาลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้อนิจจามารดาเลี้ยง | เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงรักใคร่ | ||
| แสนสนิทพิศวาสดังดวงใจ | มิให้ลูกยาอนาทร | ||
| พระคุณล้ำลบจบดินแดน | ยังมิได้ทดแทนพระคุณก่อน | ||
| วันนี้จะพลัดพรากจากจร | มารดรค่อยอยู่จงดี | ||
| แม้นลูกไปไม่ม้วยมรณา | จะกลับมากราบบาทบทศรี | ||
| ร่ำพลางทางทรงโศกี | อยู่ปราสาทเพียงขาดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นคลายทุกข์ขุกคิดขึ้นมา | จะอยู่ช้าฉะนี้ก็มิได้ | ||
| เกลือกว่ามารดามาแต่ไพร | หนีไปไม่ทันจะเสียการ | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงเข้าแล้ว | ใส่เกือกแก้วถือไม้เท้าห้าวหาญ | ||
| เหาะขึ้นเวหาเหินทะยาน | ออกจากเมืองมารรีบมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ กลม เชิด | |||
| ๏ เหาะระเห็จเจ็ดคืนถึงเขาหลวง | สูงกว่าเขาทั้งปวงที่ในป่า | ||
| พอสิ้นกำลังวังชา | เหน็ดเหนื่อยเลื่อยล้าเต็มที | ||
| จำจะหยุดพักสักหน่อยก่อน | ทินกรร้อนแรงแสงสี | ||
| จึงเลื่อนลงยังยอดคีรี | จรลีเข้าใต้ร่มไทร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพี่เลี้ยงนางนมน้อยใหญ่ | ||
| ครั้นรุ่งแจ้งแสงสุริโยทัย | นางในต่างฟื้นตื่นตา | ||
| ม้วนที่นอนหมอนข้างเก็บงำ | ฉวยขันตักน้ำมาล้างหน้า | ||
| แล้วเข้าไปในที่ไสยา | แลหาไม่เห็นพระสังข์ทอง | ||
| ตกประหม่าตาขาวคิดฉงน | ฝูงนางต่างตนเร่งหม่นหมอง | ||
| ชวนกันลดเลี้ยวเที่ยวมอง | ทุกแห่งห้องตำหนักนอกใน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ ค้นคว้าหาทั่วที่เคยเล่น | จะประสบพบเห็นก็หาไม่ | ||
| ต่างตีอกชกหัวร่ำไร | ครั้งนี้ที่ไหนจะรอดตาย | ||
| แม้นแม่พันธุรัตมาแต่ป่า | จะตีด่าดุเดือดไม่เหือดหาย | ||
| จะปลิ้นปลอกออกตัวยักย้าย | ด้วยแยบคายแก้ไขเห็นไม่ฟัง | ||
| ปรับทุกข์กันทุกคนบ้างบนผี | เอ็นดูช่วยสักทีพอรอดหลัง | ||
| บ้างว่าเลี้ยงลูกเจ้าเฝ้าคลัง | มักมีภัยสมดังว่ามา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เที่ยวป่าเล่นสบายหลายเวลา | ก็เหาะกลับคืนมายังเมืองมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงปราสาทมณีที่สำนัก | ร้องเรียกลูกรักก็ไม่ขาน | ||
| แลหาแห่งไรไม่พบพาน | นางมารหวั่นหวาดประหลาดใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพี่เลี้ยงนางนมน้อยใหญ่ | ||
| เห็นนางยักษามาแต่ไพร | กลัวภัยภาวนาละล้าละลัง | ||
| แต่เขยื้อนขยับลับล่อ | เข้าไปแล้วให้ท้อถอยหลัง | ||
| จึงก้มเกล้าเล่าเหตุให้ฟัง | พระลูกน้อยหอยสังข์นั้นหายไป | ||
| ข้าเที่ยวค้นหานักหนาแล้ว | จะพบพระลูกแก้วก็หาไม่ | ||
| เล่าพลางต่างคนก็ร่ำไร | ขอชีวิตไว้อย่าฆ่าตี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษี | ||
| ได้ฟังดังจะสิ้นลมประดี | เอออะไรกระนี้อีพี่เลี้ยง | ||
| กูไว้ใจให้อยู่กับลูกรัก | คอยพิทักษ์ถนอมกล่อมเกลี้ยง | ||
| ช่างละให้หายไปจากวังเวียง | มันน่าเสี่ยงสับซ้ำให้หนำใจ | ||
| ว่าพลางนางร่ำโศกา | น้ำตาแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| ไปเปิดดูบ่อทองเห็นพร่องไป | เร่งพะวงสงสัยไม่รู้แล้ว | ||
| มาดูรูปเงาะป่าไม่ปรากฎ | หายหมดทั้งไม้เท้าและเกือกแก้ว | ||
| ลูกน้อยกลอยสวาทเจ้าคลาดแคล้ว | หนีแม่ไปแล้วนะอกอา | ||
| จะอยู่ช้าฉะนี้ก็มิได้ | จำจะเร็วรีบไปตามหา | ||
| จึงขึ้นหอคอยสูงลอยฟ้า | ตีกลองสัญญาเข้าเจ็ดที | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ รัว | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพลกุมภัณฑ์ภูตผี | ||
| ทั้งหมู่อสูรศักดิ์ยักขิณี | ได้ยินเสียงเภรีสัญญา | ||
| ไม่แจ้งเหตุเภทผลกลใด | ต่างตระหนกตกใจเป็นหนักหนา | ||
| สำแดงเผลงอิทธิฤทธา | ชวนกันเหาะมายังเมืองมาร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นเอยครั้นถึง | จึงคลานเข้ามายังหน้าฉาน | ||
| ไหว้พลางทางถามมิทันนาน | เหตุการณ์อะมีจึงตีกลอง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตร้อนเร่าเศร้าหมอง | ||
| จึงแถลงเล่าความตามทำนอง | เจ้าสังข์ทองลูกรักของเรานี้ | ||
| ลอบลักรูปเงาะและเกือกแก้ว | สวมใส่เข้าแล้วก็เหาะหนี | ||
| เร่งไปตามหาอย่าช้าที | วันนี้ให้ได้ตัวมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงหมู่อสูรศักดิ์ยักษา | ||
| คำนับรับคำแล้วอำลา | นฤมิตกายากำยำ | ||
| เหาะเหินเที่ยวหาในป่ากว้าง | ทุกทิศทุกทางเถื่อนถ้ำ | ||
| แยกไปบกบ้างไปข้างน้ำ | ต่างสำแดงเดชเกรียงไกร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ กราว เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์นั่งอยู่บนเขาใหญ่ | ||
| เห็นมืดมิดปิดแสงอโณทัย | เสียงสนั่นหวั่นไหวนี่นัน | ||
| จึงคิดว่าดีร้ายอสุรา | ติดตามเรามาเป็นแม่นมั่น | ||
| จวนตัวเต็มทีหนีไม่ทัน | จำจะผ่อนผันด้วยปัญญา | ||
| พระจึงถอดรูปเงาะออกซ่อนไว้ | ขึ้นนั่งบนต้นไทรสาขา | ||
| ทำเป็นเช่นรุกขเทวา | พลางนึกภาวนาอยู่ในใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ รัว เชิด (ยักษ์ออก) | |||
| ๏ บัดนั้น | หมู่มารทหารน้อยใหญ่ | ||
| เห็นพระสังข์นั่งอยู่บนต้นไทร | มิได้รู้จักแต่สักตน | ||
| เพ่งพิศดูพลางไม่วางตา | คิดว่าเทวาในไพรสนฑ์ | ||
| ผิวพรรณผุดผาดประหลาดคน | ให้งวยงงฉงนสนเท่ห์ใจ | ||
| จึงถามว่าดูก่อนเทวา | เห็นเจ้าเงาะเหาะมามั่งหรือไม่ | ||
| อย่าแกล้งกล่าวคำอำไว้ | จงบอกไปตามจริงบัดนี้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ฟังคำยักษี | ||
| บอกพลางทางยกมือชี้ | เห็นเหาะไปทิศนี้นะขุนมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ยักษาได้ฟังว่าขาน | ||
| ดีใจเสือกสนลนลาน | เหาะทะยานติดตามไปพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ตริตรึกนึกพรั่น | ||
| แต่กูเหาะระเห็จมาเจ็ดวัน | มันยังตามทันด้วยฤทธิไกร | ||
| จะอยู่ก็ใช่ไม่ชอบกล | หนีไปจะพ้นมันที่ไหน | ||
| ให้คิดขัดสนจนใจ | จะแก้ตัวต่อไปอย่างไรดี | ||
| พลางตั้งจิตพิษฐานด้วยสัจจา | คุณพระมารดาปกเกศี | ||
| จงค้ำชูช่วยข้าครานี้ | อย่าให้มีอันตรายสิ่งใด | ||
| ถึงแม่พันธุรัตจะพบข้า | ขออย่าให้ขึ้นมาบนเขาได้ | ||
| ให้ลูกแก้วตัวรอดปลอดภัย | พลางยกมือไหว้ภาวนา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เรียกเหล่าบ่าวไพร่มิได้ช้า | ออกจากพารารีบตามไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาเอยมาถึง | ซึ่งเนินบรรพตภูเขาใหญ่ | ||
| แลไปเห็นคนบนต้นไทร | งามวิไลผิวผ่องดังทองทา | ||
| ยืนพินิจพิศเพ่งอยู่เป็นครู่ | ลูกรักของกูแล้วสิหน่า | ||
| ตบมือหัวเราะทั้งน้ำตา | ร้องเรียกลูกยาด้วยยินดี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ นั่งอยู่ไยนั่นพ่อขวัญข้าว | ขัดเคืองอะไรเล่าเจ้าจึงหนี | ||
| มาเถิดทูนหัวอย่ากลัวตี | ดูเอาเถิดซียังมิมา | ||
| นางร้องไห้ร่ำแล้วซ้ำเรียก | ปืนตะกายตะเกียกขึ้นไปหา | ||
| ด้วยเดชะอำนาจสัตยา | เผอิญให้เลื่อยล้าสิ้นกำลัง | ||
| พลัดตกหกล้มนอนตะแคง | ขาแข้งสีข้างขัดขึ้นดัดหลัง | ||
| โศกีตีอกเพียงจะพัง | ทรุดนั่งกระแทกก้นจนใจ | ||
| ลูกน้อยกลอยสวาทของมารดา | แม่บำรุงเลี้ยงมาจนใหญ่ | ||
| มิให้ระคายเคืองสิ่งใด | เจ้าหนีแม่มาได้ช่างไม่คิด | ||
| แม่อุตส่าห์มาตามด้วยความรัก | เจ้าไม่พูดไม่ทักแต่สักหนิด | ||
| อกแม่จะแตกตายวายชีวิต | สุดคิดอยู่แล้วนะลูกยา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ แม่เอยแม่เจ้า | เลี้ยงข้ามาแต่เยาว์จนใหญ่ | ||
| พระคุณล่ำลบภพไตร | จะเปรียบด้วยสิ่งใดนั้นไม่มี | ||
| ใช่ลูกจะเคืองแค้นแสนเข็ญ | ด้วยความจำเป็นดอกจึงหนี | ||
| เหตุด้วยมารดาขอข้านี้ | ทุกข์ร้อนไร้ที่พึ่งพา | ||
| จะยากเย็นเป็นตายก็ไม่แจ้ง | จะไปสืบเสาะแสวงทุกแห่งหา | ||
| ครั้นจะบอกออกอรรถตามสัจจา | ก็คิดกลัวเกลือกว่ามิให้ไป | ||
| ลูกจึงลักรูปเงาะเหาะหนี | โทษผิดทั้งนี้เป็นข้อใหญ่ | ||
| อย่าพิโรธโกรธขึ้งขัดใจ | ถึงไปไม่ช้าจะมาพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตฟังว่าเพียงอาสัญ | ||
| ฟูมฟายน้ำตาจาบัลย์ | เจ้าไปแล้วไหนนั่นจะกลับมา | ||
| คิดอ่านอุบายจะหน่ายหนี | เอาเหตุชนนีนั้นมาว่า | ||
| ถึงไปก็ไม่ขัดอัธยา | เชิญลงมาหาแม่แต่สักน้อย | ||
| พอแม่ได้ชมโฉมเจ้า | ให้สบายบรรเทาที่เศร้าสร้อย | ||
| แต่ร่ำร้องไห้หาเลือดตาย้อย | อุตส่าห์สู้ติดต้อยห้อยตาม | ||
| อย่านึกแหนงแคลงเลยว่าเป็นยักษ์ | มาเถิดลูกรักอย่าเกรงขาม | ||
| ถึงจะอยู่จะไปก็ให้งาม | เจ้าผู้ทรามรักร่วมชีวา | ||
| อันรูปเงาะไม้เท้าเกือกแก้ว | แม่ประสิทธิ์ให้แล้วดังปรารถนา | ||
| ยังมนต์บทหนึ่งของมารดา | ชื่อว่ามหาจินดามนต์ | ||
| ถึงจะเรียกเต่ปลามัจฉาชาติ | ฝูงสัตว์จัตุบาทในไพรสณฑ์ | ||
| ครุฑาเทวัญชั้นบน | อ่านมนต์ขึ้นแล้วก็มาพลัน | ||
| เจ้าเรียนไว้สำหรับเมื่ออับจน | จะได้แก้บนตนที่คับขัน | ||
| แม่ก็คงจะตายวายชีวัน | จงลงมาให้ทันท่วงที | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ร่าย | |||
| เมื่อนั้น | พระสังข์ฟังคำยักษี | ||
| ยิ่งพะวงสงสารแสนทวี | แต่รีรอท้อฤทัยรันทด | ||
| จะลงไปก็ให้เกรงกริ่ง | เกลือกว่าไม่จริงจะแกล้งปด | ||
| คิดพลางทางกล่าวมธุสร | อย่ากำสรดโศกาอาวรณ์ | ||
| ลูกนี้เหนื่อยยากลำบากกาย | จะนั่งเล่นให้สบายบนนี้ก่อน | ||
| ตะวันเที่ยงอยู่ยังกำลังร้อน | พอให้แดดอ่อนอ่อนจะลงไป | ||
| ซึ่งมนต์ของชนนีว่าดีนัก | ลูกรักก็อยากจะใคร่ได้ | ||
| เมตตาลูกแล้วจงเขียนไว้ | ที่ในแผ่นพื้นพสุธา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตขัดสนเป็นนักหนา | ||
| แหงนดูลูกพลางทางโศกา | ดังหนึ่งว่าชีวันจะบรรลัย | ||
| โอ้ลูกน้อยหอยสังข์ของแม่เอ๋ย | กรรมสิ่งใดเลยมาซัดให้ | ||
| จะร่ำร้องเรียกเจ้าสักเท่าไร | ก็ช่างเฉยเสียได้ไม่ดูดี | ||
| สิ้นวาสนาแม่นี้แน่แล้ว | เผอิญให้ลูกแก้วเอาตัวหนี | ||
| จะขอลาอาสัญเสียวันนี้ | เจ้าช่วยเผาผีมารดา | ||
| อันพระเวทวิเศษของแม่ไซร้ | ก็จะเขียนลงให้ที่แผ่นผา | ||
| จงเรียนร่ำจำไว้เถิดขวัญตา | รู้แล้วอย่าว่าให้ใครฟัง | ||
| เขียนพลางทางเรียกลูกน้อย | มาหาแม่สักหน่อยพ่อหอยสังข์ | ||
| แต่พอให้ได้ชมเสียสักครั้ง | ขอสั่งสักคำจะอำลา | ||
| แม่อ้อนวอนว่านักหนาแล้ว | น้อยหรือลูกแก้วไม่มาหา | ||
| ทุ่มทอดตัวลงทรงโศกา | สองตาแดงเดือดดังเลือดนก | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นจิต | ยิ่งคิดเคืองขุ่มมุ่นหมก | ||
| กลิ้งกลับสับส่ายเพ้อพก | นางร่ำร้องจนอกแตกตาย | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกยักษาข้าไททั้งหลาย | ||
| เห็นนางมารม้วยมอดวอดวาย | ต่างร่ำรักนายไม่สมประดี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทรงสวัสดิ์รัศมี | ||
| เห็นมารดาล้มดิ้นสิ้นชีวี | ตกใจแล่นตะลีตะลานมา | ||
| เข้าไปนั่งใกล้ดังใจจง | กราบลงแทบเท้าทั้งซ้ายขวา | ||
| ชลเนตรคลอคลองนัยนา | โศการ่ำรักชนนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้ปี่ | |||
| โอ้ว่ามารดาของลูกเอ๋ย | พระคุณเคยปกเกล้าเกศี | ||
| รักลูกผูกพันแสนทวี | เลี้ยงมาไม่มีให้เคืองใจ | ||
| จะหาไหนได้เหมือนพระแม่เจ้า | ดังมารดาเกิดเกล้าก็ว่าได้ | ||
| สู้ติดตามมาด้วยอาลัย | จนจำตายอยู่ในพนาวัน | ||
| โทษลูกนี้ผิดเป้นนักหนา | ดังแกล้งผลาญมารดาให้อาสัญ | ||
| ทั้งนี้เพราะกรรมมาตามทัน | จึงสุดสิ้นชีวัตบรรลัย | ||
| พระคุณล้ำลบจบดินแดน | ยังไม่ทันทดแทนสนองได้ | ||
| ร่ำพลางโศกีพิรี้พิไร | ซบพักตร์สะอื้นไห้ไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นคลายวายโศกเศร้าหมอง | พระจึงร้องสั่งเหล่ายักษา | ||
| ท่านจงเชิญศพพระมารดา | คืนไปพาราของเรา | ||
| แล้วตระเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ | คอยท่าข้ากลับมาจึงเผา | ||
| การพระเมรุใหญ่อยู่อย่าดูเบา | ท่านจงเอาใจใส่ไตรตรา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีตัวนายซ้ายขวา | ||
| จึงเชิญศพใส่วอช่อฟ้า | กลับไปพาราทันที | ||
| ฯ ๒ ฯ เชิด | |||
| สมิงทอง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระโฉมยงทรงสวัสดิ์รัศมี | ||
| ครั้นพวกพลยักษาไปธานี | จึงเรียนเอามนต์ที่เขียนไว้ | ||
| เวียนเฝ้าสาธยายอยู่หลายตลบ | แต่ต้นจนจบก็จำได้ | ||
| ครั้นเสร็จเสด็จขึ้นไป | บนยอดเขาใหญ่มิได้ช้า | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงเกือกแก้ว | ถือไม้เท้าเข้าแล้วก็ป้องหน้า | ||
| เหาะระวังเห็จเตร็ดทะยานด้วยฤทธา | เลื่อนล่องลอยฟ้ามาไวไว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ถึงแดนพาราสามนต์ | อาณาเขตมณฑลกว้างใหญ่ | ||
| ให้คิดฉงนสนเท่ห์ใจ | เมืองนี้ชื่อไรจะใคร่รู้ | ||
| เห็นภูมิฐานบ้านช่องเยียดยัด | ผู้คนแออัดอื้ออึงอยู่ | ||
| หรือจะเป็นพาราบิดากู | จะยับยั้งฟังดูกิจจา | ||
| คิดพลางทางค่อยคลาเคลื่อน | ลอยเลื่อนลงจากเวหา | ||
| หยุดอยู่เนินทรายปลายทุ่งนา | อาศัยร่มพฤกษาสำราญ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายพวกเด็กเด็กชาวบ้าน | ||
| ล้วนแต่ลูกหลานชายนายโคบาล | อยู่ปลายแดนด่านกรุงสามนต์ | ||
| ครั้นกินข้าวเช้าแล้วลงจากเรือน | เที่ยวร้องเรียกพวกเพื่อนสับสน | ||
| เปิดคอกไล่โคของตน | ถือปฏักต่างคนต้อนมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ ครั้นออกมาถึงที่ทำไร่ | จึงปล่อยโคไว้ให้กินหญ้า | ||
| เห็นเงาะยืนอยู่บนคันนา | อ้ายนี่บ้าหรือมิใช่ไยอย่างนี้ | ||
| รูปร่างหัวหูก็ดูแปลก | ลางคนว่าแขกกะลาสี | ||
| อย่าไว้ใจมันมักควักเอาดี | นึกกลัวเต็มที่วิ่งหนีพลาง | ||
| บ้างว่าอ้ายนี่ลิงทะโมนใหญ่ | บ้างเถียงว่าทำไมไม่มีหาง | ||
| หน้าตามันขันยิงฟันฟาง | หรือจะเป็นผีสางที่กลางนา | ||
| คนหนึ่งไม่กลัวยืนหัวเราะ | นี่เขาเรียกว่าเงาะแล้วสิหนา | ||
| มันไม่ทำไม่ใครดอกวา | ชวนกันเมียงเข้ามาเอาดินทิ้ง | ||
| บ้างได้ดอกหงอนไก่เสียบไม้ล่อ | ตบมือผัดพ่อล่อให้วิ่ง | ||
| ครั้งเงาะแล่นไล่โลดกระโดดชิง | บ้างล้มกลิ้งวิ่งปะทะกันไปมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พวกเด็กเด็กหยอกเย้าเข้าฉุด | อุตลุดล้อมหลังล้อมหน้า | ||
| แล้วชวนเล่นจ้องเตเฮฮา | โห่ร้องฉาวฉ่านี่นัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นถึงเวลากินผอก | แก้ห่อข้าวออกขมีขมัน | ||
| เกลอเอ๋ยมากินด้วยกัน | เห็นเงาะนั้นเข้ากินก็ยินดี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นว่าเวลาบ่ายควาย | เด็กเด็กทั้งหลายเข้าล้อมมี่ | ||
| ไปบ้านด้วยกันหรือวันนี้ | เงาะเดินเชือนหนีเสียมิไป | ||
| ถ้ากระนั้นก็นอนอยู่เฝ้านา | ช่วยขับนกขับกาอย่าไปไหน | ||
| พรุ่งนี้จึงจะมาอย่าร้อนใจ | แล้วไล่โคคืนมาทันที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
ตอนที่ ๕ ท้าวสามนต์ให้นางทั้งเจ็ดเลือกคู่
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสามนต์เรืองศรี | ||
| เสวยราชสมบัติสวัสดี | ในบุรีสามนต์พระนคร | ||
| อันองค์เอกอัครชายา | ชื่อมณฑาเทวีศรีสมร | ||
| มีธิดานารีร่วมอุทร | ทั้งเจ็ดนามกรต่างกัน | ||
| น้องนุชสุดท้องชื่อรจนา | โสภาเพียงนางในสวรรค์ | ||
| พรั่งพร้อมพระสนมกำนัล | เป็นสุขทุกนิรันดร์วันคืน | ||
| ท้าวคิดรำพึงถึงเวียงชัย | นานไปจะเป็นของเขาอื่น | ||
| เห็นจะไม่จิรังยั่งยืน | ด้วยลูกเต้าแต่พื้นเป็นธิดา | ||
| จำจะคิดปลูกฝังเสียยังแล้ว | ให้ลูกแก้วมีคู่เสน่หา | ||
| ถ้าเขยคนใดดีมีปัญญา | จะยกพารามองให้ครอบครอง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดพลางทางเรียกมเหสี | พามาทีปรึกษาสองต่อสอง | ||
| เจ้าจงดำริตริตรอง | แต่เราครองราชฐานมานานช้า | ||
| ทุกวันนี้ดูพี่กับตัวเจ้า | ไม่เที่ยงแท้แก่เฒ่าลงนักหนา | ||
| เจ็บปวดครุ่นไปไข้ชรา | ถอยกำลังวังชาลงทุกปี | ||
| ยิ่งคิดคิดไปให้ใจสั้น | จะตายวันตายพรุ่งมิรู้ที่ | ||
| พี่ปรารมภ์สมบัติของเรานี้ | ถ้าแม้นหากบุญพี่ไม่จีรัง | ||
| จงช่วยกันดำริตริตรองดู | จะหาคู่ให้ลูกปลูกฝัง | ||
| จะแบ่งปันข้าวของในท้องคลัง | ให้ครอบครองเวียงวันเห็นทันตา | ||
| จะจัดแจงแต่งตามอารมณ์เรา | เหมือนข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า | ||
| กลัวเกลือกทั้งเจ็ดธิดา | มันจะไม่เสน่หาก็มิรู้ | ||
| ลางเนื้อชอบลางยาไม่ว่าได้ | ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ | ||
| คำบุราณท่านว่าไว้เป็นครู | พิเคราะห์ดูให้ต้องทำนองใน | ||
| พี่คิดจะประชุมให้พร้อมพรั่ง | กษัตริย์ทั้งร้อยเอ็ดหัวเมืองใหญ่ | ||
| ให้บุตรีเราเลือกตามชอบใจ | เจ้าจะเห็นกระไรจงว่ามา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑาเสนหา | ||
| จึงทูลสนองพระบัญชา | ซึ่งตรัสมานี้ต้องประเพณี | ||
| จะให้เป็นแก่นสารแก่บ้านเมือง | ได้ลือเลื่องไปทั่วทุกกรุงศรี | ||
| ตามแต่ภูวไนยจะเห็นดี | อันน้องนี้ไม่ขัดทัดทาน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| เสด็จจากแท่นที่มิทันนาน | ออกพระโรงชัชวาลทันใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| สามไม้ | |||
| ๏ ลดองค์ลงนั่งเหนือเก้าอี้ | ตรัสสั่งเสนีผู้ใหญ่ | ||
| แต่บรรดาเมืองขืนของเราไซร้ | ทั้งร้อยเอ็ดเวียงชัยเคยไปมา | ||
| ผู้ใดมีโอรสรูปงาม | แต่ในสามสิบเศษชันษา | ||
| ที่ยังไม่มีภริยา | ให้จัดแจงแต่งมาทุกธานี | ||
| เราจะให้ธิดาทั้งเจ็ดองค์ | เลือกดูรูปทรงส่งศรี | ||
| ถ้าลูกเราชอบใจจะได้ดี | จะเสกกับบุตรีให้ครองกัน | ||
| จงแต่งตราว่าตามความใน | ให้คนเร็วรีบไปทุกเขตขัณฑ์ | ||
| กำหนดไว้โดยช้าสิบห้าวัน | ให้มาถึงพร้อมกันยังธานี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์รับสั่งใส่เกศี | ||
| ถวายบังคมคัลอัญชลี | มาแต่งตราตามมีพระบัญชา | ||
| แล้วจัดเสนากว่าร้อย | เคยใช้สอยคล่องแคล่วแกล้วกล้า | ||
| สั่งความตามมีในท้องตรา | จงรีบไปรีบมาอย่านอนใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนหมื่นพันทนายน้อยใหญ่ | ||
| ต่างรีบผายผันแยกกันไป | เวียงชัยทั้งร้อยเอ็ดพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเข้าไปวันทา | กราบทูลกษัตราทุกเขตขัณฑ์ | ||
| แจ้งตามบัญชาสารพัน | ถวายหนังสือนั้นทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายพระยาร้อยเอ็ดบุรีศรี | ||
| คลี่สารอ่านดูรู้คดี | เปรมปรีดิ์เป็นพ้นคณนา | ||
| ต่างเรียกโอรสมาบอกเล่า | เป็นลาภเราแล้วลุกเสน่หา | ||
| จงตรวจตราบ่าวไพร่เร่งไคลคลา | ไปพาราสามนต์ให้ทันการ | ||
| บ้างคิดมุยุลูกให้หย่าเมีย | จำจะทิ้งเปรี้ยวเสียไปกินหวาน | ||
| ที่บุตรหามีไม่ใจทะยาน | คิดจัดแจงแต่งหลานเปลี่ยนไป | ||
| แล้วเลือกของอย่างยิ่งทุกสิ่งสรรพ์ | สำหรับบรรณาการประทานให้ | ||
| ต่างองค์อำนวนอวยชัย | เจ้าไปให้ได้ครองพระธิดา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์สรวลสันต์หรรษา | ||
| นบนิ้วประนมบังคมลา | แล้วมาแต่งองค์อร่ามเรือง | ||
| บ้างขึ้นทรงรถคชสาร | ขี่ม้าผ่านขาวเขียวกะเลียวเหลือง | ||
| ต่างยกโยธานองเนือง | ออกจากเมืองรีบร้อนสัญจรไพร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพาราสามนต์ | จึงพักพลไว้นอกกรุงใหญ่ | ||
| ชวนกันลีลาคลาไคล | เข้าหาเสนาในทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ผู้ใหญ่ในกรุงศรี | ||
| พูดจาปราศรัยโดยไมตรี | เอาบาญชีท้าวพระยาที่มานั้น | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นได้นามทูลหน่อกษัตรา | เสนาสี่นายก็ผายผัน | ||
| เข้าไปในท้องพระโรงคัล | อภิวันท์ทูลแถลงให้แจ้งใจ | ||
| บันนี้หน่อกษัตริย์ทุกพารา | ทั้งร้อยเอ็ดนั้นมาถึงกรุงใหญ่ | ||
| แล้วอ่านรายชื่อเสียงเรียงลงไป | ตามในหางว่าวท้าวพระยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านเขตขัณฑ์หรรษา | ||
| จึงสั่งทั้งสี่เสนา | เร่งแต่งที่ข้างหน้าให้พร้อมไว้ | ||
| จงนำกษัตราทุกธานี | มาประชุมในที่พระโรงใหญ่ | ||
| เราจะให้ทั้งเจ็ดอรไท | มาเลือกตามชอบใจในพรุ่งนี้ | ||
| เร่งจัดวังให้เสร็จทั้งเจ็ดแห่ง | จะได้แต่งตั้งการภิเษกศรี | ||
| สั่งเสร็จพระเสด็จจรลี | ขึ้นสู่ที่ข้างในมิได้ช้า | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงเจ้าพนักงานถ้วนหน้า | ||
| เร่งจัดแจงแต่งที่ดังบัญชา | บ้างไปบอกกษัตราให้เตรียมกาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พวกเหล่าท้าวพระยาทั้งหลาย | ||
| ต่างองค์กระหยิ่มพริ้มพราย | ให้กระสันมั่นหมายวุ่นวายใจ | ||
| บ้างหยิบผ้ายกทองนุ่งลองดู | ใครใครเห็นไม่สู้รูปกูได้ | ||
| พรุ่งนี้มิคนหนึ่งก็คนไร | จะจงจิตพิสมัยเป็นมั่นคง | ||
| บ้างนั่งนึกตริกหาอุปเท่ห์ | จะทำด้วยเสน่ห์ให้ลุ่มหลง | ||
| เห็นจะรุมรักเราทั้งเจ็ดองค์ | คิดทะนงเปรมปรี่มกระหยิ่มใจ | ||
| ลางองค์ถือมั่นโดยปัญญา | วาสนาหลังส่งแล้วคงได้ | ||
| สุดแท้แต่กุศลสร้างไว้ | จะเดือดเนื้อร้อนใจไปไยมี | ||
| บ้างเรียกหาหมอดูมาจับยาม | ให้ทายตามชะตาราศี | ||
| จะสมคะเนหรือไม่ในพรุ่งนี้ | แต่เซ้าซี้ซักไซ้ไม่นิทรา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| โทน | |||
| ๏ ครั้นรุ่งแสงสุริย์ใสไตรตรัส | ทั้งร้อยเอ็ดกษัตริย์ทรงภูษา | ||
| สอดเครื่องประดับระยับตา | แต่งกายาโอ่อวดประกวดกัน | ||
| บ้างถือห่อบุหงาทัดยาดม | ผ้าห่มชุบน้ำกุหลาบกลั่น | ||
| ต่างองค์กรายกรจรจรัล | พากันเข้าไปในวัง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงท้องพระโรงข้างหน้า | อำมาตย์มาจัดแจงให้ลุกนั่ง | ||
| ต่างชิงขึ้นหน้าว่าไม่ฟัง | บ้างถุ้งเถียงเสียงดังอึงไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ยิ้มแย้มเจ่มใส | ||
| จึงชวนเมียรักร่วมใจ | ออกไปแย้มแกลแลดู | ||
| เห็นหน่อกษัตริย์ที่มานั้น | หน้าตาคมสันขยันอยู่ | ||
| คนข้างหลังลาดเลาเป็นเจ้าชู้ | ตาหูชอบกลเจ้ามณฑา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คนโน้นรูปร่างกระจ้อยร่อย | หนุ่มน้อยน่ารักหนักหนา | ||
| คนนี้ที่ถัดกันลงมา | หน้าตาเป็นประมาณพานพอดี | ||
| โน่นแน่คนนั้นอยู่ชั้นล่าง | รูปร่างจ้ำม่ำดำมิดหมี | ||
| เห็นหรือไม่คนนั้นขันสิ้นดี | หน้างอกออกฝีประปราย | ||
| ดูพลางทางสั่งเมียรัก | อย่าช้านักเลยเจ้าจะจวนสาย | ||
| จงเร่งรัดจัดแจงแต่งกาย | บุตรีโฉมฉายขึ้นมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑาเสน่หา | ||
| จึงพาทั้งเจ็ดธิดา | ไปสระสรงคงคาวารี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ แต่งตัวตั้งใจจะให้งาม | ขมิ้นใส่ส้มมะขามขัดสี | ||
| แล้วอาบน้ำชำระอินทรีย์ | ทาแป้งสารภีรื่นรวย | ||
| กระจกตั้งคันฉ่องส่องเงา | ผิวพรรณผมเผ้างามฉลวย | ||
| ใส่น้ำมันกันกวดกระหมวดมวย | ผัดหน้าด้วยแป้งญวนเป็นนวลแดง | ||
| นุ่งผ้ายกอย่างต่างกัน | ช่อชั้นเชิงชายลายก้านแย่ง | ||
| สไบหน้าเจียระบาดตาดทองแดง | เข็มขัดสายลายแทนประจำยาม | ||
| สร้อยนวมสวมสอดสังวาลวรรณ | ตาบกุดั่นเรืองรองทองอร่าม | ||
| กำไลสวมเก้าคู่ดูงาม | ใส่แหวนเพชรแวววามครามสอดซับ | ||
| ทรงกรอบพักตร์พรรณรายพรายแพรว | กรรเจียกแก้วมณีสีสลับ | ||
| ใส่ตุ้มหูห้อยพลอยระยับ | ครั้นเสร็จสรรพขึ้นเฝ้าท้าวไท | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| มูโล่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ยิ้มย่องผ่องใส | ||
| จึงตรัสแก่ธิดายาใจ | พ่อให้ประชุมกษัตรา | ||
| นงเยาว์เจ้าจงไปเลือกคู่ | ที่สมควรเป็นคู่เสน่หา | ||
| ถ้าแม้นประกอบชอบวิญญาณ์ | จงทิ้งมาลัยไปให้สวมมือ | ||
| พ่อจะแต่งตั้งการสยุมพร | ให้บังอรออกหน้าค่าชื่อ | ||
| แต่เฝ้าปลอบสองรื้อสามรื้อ | ดูดู๋ดื้อหนักหนาน่าขัดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดบุตรีศรีใส | ||
| ผูกคิ้วนิ่วหน้าไม่คลาไคล | ก้มแกะเสื่อลันไตไปมา | ||
| ให้นึกอัปยศอดอาย | จะไปเลือกผู้ชายน่าขายหน้า | ||
| ยิ่งคิดยิ่งเขิมเมินพักตรา | กัลยามิได้จรลี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระบิตุเรศเรืองศรี | ||
| กล่าวเกลี้ยงเลี่ยงปลอบให้ชอบที | วันดีแล้วแม่อย่าแชเชือน | ||
| อุตส่าห์แข็งวิญญาณ์คลาไคล | พ่อจะให้พี่เลี้ยงไปเป็นเพื่อน | ||
| อะไรเฝ้าม้วนมิดบิดเบือน | ไม่เขยื้อนจากที่น่าตีรัน | ||
| นวลนางมณฑาช่วยว่ากล่าว | ลูบหลังลูกสาวแล้วรับขวัญ | ||
| ไปเถิดแม่ไปอย่าใจรั้น | ส่งมาลัยให้พลันทั้งเจ็ดองค์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบุตรีแน่งน้อยนวลหง | ||
| กลัวจะเคืองจิตบิตุรงค์ | โฉมองค์ขยัยกายแล้วอายใจ | ||
| แต่ทำม่อยม้วยกระบวนกระบิด | แก้เก้อสะกิดพี่ผู้ใหญ่ | ||
| ต่อบิดรเตือนซ้ำจึงจำไป | กำนัลในพี่เลี้ยงเคียงมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กินนรรำ | |||
| ๏ ถึงท้องพระโรงธารม่านกั้น | เจ็ดนางนึกพรั่นเป็นหนักหนา | ||
| ให้อดสูผู้ชายอายวิญญาณ์ | หน่วงหนักชักช้าไม่คลาไคล | ||
| พี่เลี้ยงทูลเตือนให้จรลี | นางหยิกตีค้อนควักผลักไส | ||
| เข้าแอบแฝงม่านกั้นชั้นใน | ขวยเขินสะเทินใจไปมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์นั่งคอยอยู่ข้างหน้า | ||
| บ้างสะกิดเพื่อนกันจำนรรจา | เมื่อไรจะออกมารำคาญใจ | ||
| ต่างคนกระหยิ่มยิ้มย่อง | ชะเง้อคอคอยมองหาเมินไม่ | ||
| แลตามตีนม่านเห็นไวไว | เอ๊ะแล้วมิใช่ดอกกระมัง | ||
| ลางคนคะนองทำร้องบอก | หลอนหลอกเพื่อนอยู่ข้างหลัง | ||
| ไม่เคยเห็นรูปร่างนางชาววัง | นิ่งนั่งตั้งสติอย่าเมินไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พี่เลี้ยงกัลยาอัชฌาสัย | ||
| จึงปลอบพระธิดายาใจ | เอออะไรมาเป็นเช่นนี้ | ||
| พระบิดาสั่งให้ไปเลือกคู่ | จะอดสูใครเล่านะเจ้าพี่ | ||
| เราเป็นใจไปเองเมื่อไรมี | ไม่พอที่จะขืนขัดบัญชา | ||
| แม้นพระบิตุเรศรู้เหตุผล | เห็นพี่จะไม่พ้นโทษา | ||
| ว่าพลางผลักไสให้ไคลคลา | รบเร้าเฝ้าว่าวิงวอน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดพระธิดาดวงสมร | ||
| จำเป็นจำใจบทจร | บังอรอดสูดูร้าย | ||
| ทำลับลับล่อล่อรอรั้ง | เบียดบังพี่เลี้ยงเมียงม่าย | ||
| ผันแปรแลหลบตาชาย | ทั้งอายทั้งสะเทินเดินเลือกไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์นับร้อยน้อยใหญ่ | ||
| เห็นเจ็ดพระธิดายาใจ | ให้คิดพิสมัยในรูปทรง | ||
| ตั้งใจดูนางไม่วางตา | เสน่หารุมรึงตะลึงหลง | ||
| งามโฉมชะอ้อนอ่อนเอวองค์ | งามขนงวงพักตร์โสภา | ||
| บ้างพูดกับเพื่อนสนิทไม่คิดอาย | อันน้องนุชสุดท้ายคงตายข้า | ||
| เดี๋ยวนี้และมาลัยจะลอยมา | เจ้าคนนั้นกั้นหน้าข้าไว้ไย | ||
| บ้างนั่งหยัดดัดทรงดูนรลักษณ์ | เหลือบมาสบพักตร์ยักคิ้วให้ | ||
| ครั้นนางสะเทินเมินหน้าไป | แกล้งทำกระแอมไอเป็นแยบคาย | ||
| บ้างพลางโกรธขึ้งหึงเพื่อนกัน | นางคนนั้นของข้าใครอย่าหมาย | ||
| ต่างทะเลาะเกาะแกะกันวุ่นวาย | ถุ้งเถียงท้าทายมากมายไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดบุตรีศรีใส | ||
| แต่เก้อเก้ออายอายวุ่นวายใจ | เลือกกษัตริย์น้อยใหญ่ทุกหน้ามา | ||
| อันทั้งหกเทวีพี่นาง | เลือกได้รูปร่างงามหนักหนา | ||
| เมียงม่ายหมายทิ้งพวงมาลา | สวมหัตถ์กษัตราทั้งหกองค์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ฝ่ายโฉมรจนาทรามวัย | นางไม่ต้องจิตคิดประสงค์ | ||
| กลับมาเฝ้าบาทบิตุรงค์ | โฉมยงบังคมก้มพักตรา | ||
| จึงทูลว่ากษัตริย์ทั้งนั้นไซร้ | ลูกมิได้มุ่งมาดปรารถนา | ||
| จะขออยู่สนองรองบาทา | ไปกว่าชีวันจะบรรลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์บ่นออดทอดใจใหญ่ | ||
| ลูกเอ๋ยพ่อนี้หวังตั้งใจ | จะจัดแจงแต่งให้เห็นทันตา | ||
| จึงประชุมพร้อมพรั่งครั้งนี้ | แต่ล้วนลูกผู้ดีมียศถา | ||
| ทั้งรูปทรงส่งศรีโสภา | ยังไม่เสน่หาอาลัย | ||
| แม่มณฑาจะคิดกระไรเล่า | ยังคนเดียวดอกเจ้าทำกรรมให้ | ||
| มันไม่สิ้นห่วงบ่วงใย | ฉวยชั่วไปก็รำคาญขี้คร้านตี | ||
| พี่คิดว่าสุดแท้แต่เราเถิด | ไม่พักประดักประเดิดจู้จี้ | ||
| แต่งพร้อมกับพี่สาวเสียคราวนี้ | หรือไม่เห็นด้วยพี่จงท้วงติง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาหวั่นจิตคิดกริ่ง | ||
| จึงแถลงแจ้งในใจจริง | อันเป็นหญิงพงศ์เผ่าเหล่ากอ | ||
| ถ้าใจไม่สมัครรักผัว | มักทำชั่วให้อายขายหน้าพ่อ | ||
| พระองค์จงได้รั้งรอ | น้องจะขอให้ป่าวชาวพารา | ||
| ครั้งนี้อย่าเลือกว่าแก่หนุ่ม | หามาประชุมจงพร้อมหน้า | ||
| ให้เลือกตามใจรักอีกสักครา | สุดแต่วาสนาธิดาเรา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตอบชอบแล้วเจ้า | ||
| ที่ความวิตกนั้นค่อยบรรเทา | น้อยหรือนั่นขวัญข้าวเจ้าช่างคิด | ||
| ว่าพลางทางมีบัญชา | ตรัสเรียกเสนาคนสนิท | ||
| จงเข้ามาข้างในให้ใกล้ชิด | ประกาศิตสั่งไปมิได้ช้า | ||
| อันหน่อกษัตริย์ทั้งหกองค์ | ซึ่งลูกรักเราจงเสน่หา | ||
| ให้อยู่วังยั้งท่ารจนา | จะแต่งการวิวาห์ให้พร้อมกัน | ||
| แต่พวกเมืองออกนอกนั้นไซร้ | ให้กลับไปนิเวศน์เขตขัณฑ์ | ||
| เร่งร้องป่าวชาวเมืองทั้งปวงนั้น | จนชั้นทรพลคนเข็ญใจ | ||
| ให้มันแต่งตัวตามทำนอง | มาประชุมหน้าท้องพระโรงใหญ่ | ||
| จะให้ลูกรักร่วมฤทัย | เลือกคู่ดูใหม่ในพรุ่งนี้ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศี | ||
| มาบอกกษัตราทุกธานี | ตามมีพระราชบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์ทั้งหกเร่งหรรษา | ||
| นั่งสบายอารมณ์ดมมาลา | หัวเราะร่าขาแข้งกระดิกเพลา | ||
| บ้างพูดจาเปรียบเปรยเย้ยเพื่อนกัน | อย่างไรนั่นลงนั่งกอดเข่า | ||
| วาสนาหาไม่แล้วชาวเรา | แต่ได้เข้ามาเห็นก็เป็นดี | ||
| หกองค์กระหยิ่มยิ้มย่อง | ผุดผ่องพักตราราศี | ||
| ต่างต่างย่างเยื้องจรลี | เสนีนำหน้าพาไปวัง | ||
| พวกที่ไม่สมปรารถนา | ดังจะเสียวิญญาณ์เป็นบ้าหลัง | ||
| น้อยใจด้วยผู้หญิงชิงชัง | วาสนาหนหลังช่างอาภัพ | ||
| ต่างแกล้งทำชื่นฝืนอารมณ์ | บ้างเดินหกล้มบ้างลมจับ | ||
| เหงื่อไหลอาบหน้าเอาผ้าซับ | ขึ้นม้าช้างต่างกลับไปเวียงชัย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนานายอำเภอน้อยใหญ่ | ||
| ทั้งรั้วแขวงตีฆ้องร้องป่าวไป | ทั่วในจังหวัดนัครา | ||
| พรุ่งนี้แต่มืดขมุกขมัว | จงจัดแต่งตัวให้โอ่อ่า | ||
| เข้าไปหน้าพระลานชานชาลา | พระธิดาจะเลือกเป็นคู่ครอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ประชาชายรู้ทั่วทุกบ้านช่อง | ||
| บ้างเต้นบ้างรำทำคะนอง | กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ทุกคน | ||
| พวกนักเลงเล่นเบี้ยเสียถั่ว | ครอบครัวอัตคัดขัดสน | ||
| ไม่มีผ้าเสื้อแสงจะแต่งตน | เที่ยวซุกซนยืมหยิบเพื่อนกัน | ||
| เหล่าพวกอุตริริร่าง | ตัดผมยักอย่างให้สอยสั้น | ||
| หวีกระจายรายเส้นเป็นแปรงชัน | เช็ดน้ำมันกันหน้าด้วยมีดน้อย | ||
| บ้างติดตำรับใหญ่เอาไฟอัง | กระจกตั้งนั่งหย่งก่งคอสอย | ||
| แค้นใจไม่ใคร่จะเรียบร้อย | เฝ้าตะบอยหวีหัวมัวเมา | ||
| พวกเหล่าเจ้าชู้หัวอะกรม | เผ้าผมตกแสกทำหน้าเศร้า | ||
| เชิงจะพูดจะจาคิ้วตามเพรา | นั่งไหนกอดเข่าเฝ้าทำทุกข์ | ||
| พวกขุนนางต่างแต่งตัวลอง | นุ่งยกทองเกี้ยวส่านสีหมากสุก | ||
| บ้างนุ่งลายพื้นตองลองนั่งลุก | ดูกระปุกกระปุยกรุยกราย | ||
| ที่ป่วยไข้ได้ข่าวเขาป่าวร้อง | ลุกขึ้นเดินได้คล่องเหมือนหนึ่งหาย | ||
| พาลโกรธภรรยาด่าแม่ยาย | เคืองขุ่นวุ่นวายเพราะรายนึก | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นไก่ขันแซ่เสียงเที่ยงคืน | ต่างคนต่างตื่นขึ้นแต่ดึก | ||
| ตกแต่งกายาโอฬารึก | อื้ออึงอึกทึกไปทุกคน | ||
| บ้างทาแป้งแต่งตัวฉุยฉาย | นุ่งลายนอกอย่างหางปัดสัน | ||
| บ้างนุ่งห่มสมตัวตามจน | สับสนอลหม่านไม่หลับนอน | ||
| พอท้องฟ้าขาวเช้าตรู่ | ที่ใครอยู่บ้านใกล้ก็ไปก่อน | ||
| เนืองแน่นถนนในนคร | ค่อยผ่อนเข้าไปในวัง | ||
| ลางคนแก่เฒ่าเกือบเข้าโลง | ก็เดินหอบหิ้งโครงมาข้างหลัง | ||
| ถือไม้เท้าโซเซเก้กัง | เข้ามาด้วยเขามั่งไม่เจียมตน | ||
| ที่เป็นง่อยเพลียเสียแข้งขา | ก็นั่งถดถัดมาตามถนน | ||
| เจ็บปวดไม่ว่าอุตส่าห์ทน | เสลือกสลนกล่นเกลื่อนกันมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ คับคั่งทั้งท้องพระโรงชัย | ผู้ดีปนเข็ญใจก็ไม่ว่า | ||
| อยากจะใคร่ได้องค์พระธิดา | ต่างคิดสมบัติบ้าอยู่ทุกคน | ||
| บ้างชิงที่ตีต่อยปะเตะปะตะ | เอะอะอึงคะนึงสับสน | ||
| ตำรวจวังถือหวายวิ่งวน | ไล่ขู่ผู้คนอยู่เป็นควัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามานต์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ | ||
| จึงตรัสแก่ธิดาดวงจันทร์ | จอมขวัญของพ่อผู้ยอดรัก | ||
| บัดนี้ชาวเมืองมาพร้อมหน้า | จงไปทัศนาให้ประจักษ์ | ||
| เลือกคู่ดูให้งามพักตร์ | ตามแต่ใจรักเถิดลูกยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาเสน่หา | ||
| ก้มเกล้าดุษฎีแล้วลีลา | สองพี่เลี้ยงกัลยาก็ตามไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เดินดูเสนาข้าเฝ้า | ทั้งเหล่าเศรษฐีผู้ดีไพร่ | ||
| ให้เคืองคายนัยน์เนตรนางทรามวัย | มิได้ประกอบชอบวิญญาณ์ | ||
| นางจึงเสด็จกลับมาฉับพลัน | อภิวันท์บิตุเรศนาถา | ||
| ทูลว่าชาวเมืองที่ป่าวมา | ลูกไม่เสน่หาอาลัย | ||
| ขออยู่ด้วยชนกชนนี | ที่จะมีภัสดานั้นหาไม่ | ||
| เบื้องหน้าถ้าตัวลูกชั่วไป | จงฆ่าเสียอย่าไว้ชีวิต | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๖ พระสังข์ได้นางรจนา
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสามนต์จนจิต | ||
| กอดเข่าเข้าตะลึงรำพึงคิด | อกกูดูผิดประหลาดใจ | ||
| บุรุษในแผ่นดินก็สิ้นแล้ว | ควรหรือลูกแก้วไม่เลือกได้ | ||
| คิดพลางทางเสด็จคลาไคล | ออกบัญชรชัยมิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| เพลงฝรั่ง | |||
| ๏ จึงตรัสแก่เสนาข้าเฝ้า | คนในเมืองเราถึงแสนกว่า | ||
| ที่อยู่บ้านนอกขอกนา | ขับมาหมดสิ้นแล้วหรือยัง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาทูลไปดังใจหวัง | ||
| ไพร่ฟ้ามาประชุมอยู่ในวัง | ทั่วทั้งแผ่นดินสิ้นชาย | ||
| เหลือแต่เงาะป่าทรพล | หน้าตาผิดคนทั้งหลาย | ||
| หัวพริกหยิกยุ่งหยาบคาย | ตัวลายคล้ายกันกับเสือปลา | ||
| ใครจะบอกจะเล่าไม่เข้าใจ | พูดจาไม่ได้เหมือนใบ้บ้า | ||
| เล่นอยู่กับเด็กที่กลางนา | จงทราบบาทาภูวไนย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังแจ้งแถลงไข | ||
| ด้วยเดชะเทพเจ้าเข้าดลใจ | เผอิญให้กริ้วโกรธบุตรี | ||
| จึงตรัสแก่องค์อัครชายา | น้อยหรือรจนาลูกสาวศรี | ||
| เลือกคู่ดูใครไม่ไยดี | จนสิ้นชายไม่มีทั้งพารา | ||
| เหลือแต่เงาะป่าเป็นบ้าใบ้ | เอามาให้มันเลือกสมน้ำหน้า | ||
| ว่าพลางทางสั่งเสนา | จงไปพาอ้ายเงาะมาในวัง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาคำนับรับสั่ง | ||
| ต่างวิ่งวางไปมิได้ยั้ง | มายังกลางทุ่งท้องนา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงบอกแก่เจ้าเงาะ | รับสั่งจำเพาะให้หา | ||
| เร็วเร็วมาไปอย่าได้ช้า | ต่างคนฉุดคร่าวุ่นวาย | ||
| บ้างเปลื้องผ้าคาดพุงผูกมัด | เจ้าเงาะวัดถูกอกหกล้มหงาย | ||
| ลางคนวิ่งออกมาบอกนาย | แรงมันมากมายเหมือนควายวัว | ||
| บ้างพยักกวักเรียกเจ้าเงาะขา | ไม่พูดจาด้วยกันเฝ้าสั่นหัว | ||
| ที่ใจคอขี้ขลาดหวาดกลัว | ระวังตัวยืนดูอยู่แต่ไกล | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บ้างทำเย้ายั่วให้หัวเราะ | ค่อยปะเหลาะลูบหลังเข้านั่งใกล้ | ||
| เกลอเอ๋ยอย่าช้ามาจะไป | นี่คนหรือตอไม้ไม่พูดจา | ||
| เสนีนายใหญ่ให้ไพร่เลว | เอาพวนผูกบั้นเอวเจ้าเงาะป่า | ||
| ต่างเข้าฉุดชักเต็มประดา | สาระพาเฮโลโย้ตามกัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เชือกขาดล้มคว่ำคะมำไป | ลุกขึ้นดัดหลังไหล่กระดูกลั่น | ||
| นิ่วหน้าสั่นหัวกลัวแรงมัน | ต่างปรึกษากันเป็นจนใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงเด็กเลี้ยงโคน้อยใหญ่ | ||
| เห็นคนกลุ้มรุมฉุดเงาะไพร | ขัดใจวิ่งพลางทางร้อง | ||
| จะเอาเงาะเขาไปข้างไหนนั่น | ข่มเหงกันไม่บอกเราเจ้าของ | ||
| มิถูกอิฐหัวผ่าก็อย่าลอง | ไว้ไยไล่ถ่องให้แทบตาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาฮึกฮักชักหวาย | ||
| เหม่เจ้าเหล่านี้หลังจะลาย | อย่าวุ่นวายอ้ายหัวเหาเต่าเล็น | ||
| รับสั่งให้เอาตัวอ้ายเงาะป่า | จะทอดพระเนตรหน้าตาไม่เคยเห็น | ||
| มันเป็นใบ้บ้าว่ายากเย็น | เอ็งรู้ใจได้เล่นกับมันมา | ||
| เคยอย่างไรจงบอกอย่าหลอกกัน | ให้ได้มันเข้าไปถวายหน้า | ||
| กูจะให้ขนมเข่งของทยา | กินอร่อยหนักหนาประสาจน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงเด็กดีใจเสลือกสลน | ||
| ต่างชิงกันบอกออกลน | แต่เป็นคนแล้วอย่าฉุดให้เหนื่อยแรง | ||
| ถ้าขืนหยักเหย้าเซ้าซี้ | มันขัดใจจะหนีไปแอบแฝง | ||
| จงให้ไปเก็บดอกไม้แดง | มาผูกปลายไม้แกว่งแต่ไกลไกล | ||
| ค่อยวิ่งรอรอล่อเล่น | เงาะเห็นก็จะผลุนหมุนไล่ | ||
| จะพาไปถึงวังได้ดังใจ | เอาขนมมาให้ข้าเถิดรา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ตบมือหัวเราะร่า | ||
| ต่างวิ่งชิงเก็บดอกชบา | ผูกปลายไม้มาล่อเงาะ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พวกหลังไสส่งให้ตรงไป | ถือดอกไม้นำหน้าพาวิ่งเหยาะ | ||
| ลางคนบ้างกลัวบ้างหัวเราะ | ล่อเงาะเข้ามาถึงวังใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงสนมกำนัลน้อยใหญ่ | ||
| แอบดูอยู่ที่บัญชรชัย | แลไปเห็นเงาะหัวเราะอึง | ||
| บ้างว่าน่าชังเป็นหนักหนา | แลดูหูตาตื่นทะลึ่ง | ||
| รูปร่างอัปรีย์ขี้ทึ้ง | เหมือนหนึ่งภูตผีที่กลางนา | ||
| ลางคนบ่นว่าถ้าเช่นนี้ | ฟ้าผี่เถิดไม่นึกปรารถนา | ||
| น่ากลัวตัวดำเหมือนคุลา | ต่างติเงาะป่าว่าวุ่นไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนามาทูลแถลงไข | ||
| ข้าออกไปเอาตัวอ้ายเงาะไพร | บัดนี้ได้มาแล้วพระราชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เห็นเงาะชังน้ำหน้า | ||
| เนื้อตัวเป็นลายคล้ายเสือปลา | ไม่กลัวใครใจกล้าดุดัน | ||
| ผมหยิกยุ่งเหยิงเหมือนเซิงฟัก | หน้าตาตละยักษ์มักกะสัน | ||
| พระเมินเสียมิได้ดูมัน | แล้วมีบัญชาประชดรจนา | ||
| จงออกไปเลือกคู่ดูอ้ายเงาะ | มันงามเหมาะเหลือใจเป็นใบ้บ้า | ||
| หรือจะชอบอารมณ์สมหน้าตา | หน่อกษัตริย์จัดมาไม่พอใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนานารีศรีใส | ||
| เทวดาเดินหนดลฤทัย | อยากจะใคร่ดูเงาะจำเพาะเป็น | ||
| จึงตรัสแก่พี่เลี้ยงกัลยา | เงาะป่าอย่างไรไม่เคยเห็น | ||
| เขาว่าหน้ามันปั้นยากเย็น | เราออกไปดูเล่นก็เป็นไร | ||
| ซึ่งบิดาเคืองขัดตรัสประชด | เผอิญลืมไปหมดไม่สงสัย | ||
| จึงเสด็จลีลาคลาไคล | มายังพระโรงชัยฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลง | |||
| ลีลากระทุ่ม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน | ||
| พิศโฉมพระธิดาวิลาวัณย์ | ผุดผาดผิวพรรณดังดวงเดือน | ||
| งามละม่อมพร้อมสิ้นทั้งอินทรีย์ | นางในธรณีไม่มีเหมือน | ||
| แสร้งทำแลเลี่ยงเบี่ยงเบือน | ให้ฟั่นเฟือนเตือนจิตคิดปอง | ||
| พระจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน | แม้นบุญญาธิการเคยสมสอง | ||
| ขอให้ทรามสงวนนวลน้อง | เห็นรูปพี่เป็นทองต้องใจรัก | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนานารีมีศักดิ์ | ||
| เทพไทอุปถัมภ์นำชัก | นงลักษณ์ดูเงาะเจาะจง | ||
| นางเห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน | รูปเงาะสวมไว้ให้คนหลง | ||
| ใครใครไม่เห็นรูปทรง | พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา | ||
| ชะรอยบุญไซร้จึงได้เห็น | ต่อจะเป็นคู่ครองกระมังหนา | ||
| คิดพลางนางเสี่ยงมาลา | แม้ว่าเคยสมภิรมย์รัก | ||
| ขอให้พวงมาลยนี้ไปต้อง | เจ้าเงาะรูปทองจงประจักษ์ | ||
| เสี่ยงแล้วโฉมยงนงลักษณ์ | ผินพักตร์ทิ้งพวงมาลัยไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงหลากจิตคิดสงสัย | ||
| อกเอ๋ยนี่เห็นเป็นอย่างไร | มารักใคร่ไอ้เงาะมีเคราะห์กรรม | ||
| ทำให้อายขายพักตร์เผ่าพงศ์ | ไม่รักองค์เลยสักนิดผิดส่ำ | ||
| ไม่ปรึกษาหารือแต่สักคำ | จะมาทำให้พี่นี้พลอยยับ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เสียใจจนลมจับ | ||
| นางมณฑาเข้าประคองรองรับ | ขยำขยับไปสักหน่อยก็ค่อยคลาย | ||
| ลุกขึ้นกระทืบบาทตวาดอึง | อีรจนาดูดู๋มึงช่างมักง่าย | ||
| ทรลักษณ์อัปรีย์ไม่มีอาย | หน่อกษัตริย์ทั้งหลายไม่เอื้อเฟื้อ | ||
| มารักเงาะทรพลคนอุบาทว์ | ทุดช่างชั่วชาติประหลาดเหลือ | ||
| แค้นนักจักใครให้แล่เนื้อ | แล้วเอาเกลือทาซ้ำให้หนำใจ | ||
| ว่าพลางฉวยได้ไม้เรียว | โกรธเกรี้ยวตัวสั่นหมั่นไส้ | ||
| อีลูกชั่วน่าชังจังไร | เอาไว้ไยดีเสียให้แทบตาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาอกสั่นขวัญหาย | ||
| เห็นสามีเคืองขุ่นวุ่นวาย | จะพิดทูลเบี่ยงบ่ายก็เกรงกลัว | ||
| จึงออกมาว่ากับลูกสาว | ช่างทำความงามฉาวอีคนชั่ว | ||
| เสียยศเสียศักดิ์ไม่รักตัว | เลือกผัวได้เงาะเห็นเหมาะใจ | ||
| เขาจะเยาะเย้ยเล่นเป็นตำรา | พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน | ||
| จะเชิดชื่อลือลั่นสนั่นไป | ถึงบรรลัยก็ไม่สิ้นเขานินทา | ||
| ควรหรือมาเป็นได้เช่นนี้ | เสียทีแม่รักเจ้าหนักหนา | ||
| ร่ำพลางนางทรงโศกา | กัลยาเพียงจะสิ้นสมประดี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนามารศรี | ||
| กล่าวแกล้งแสร้งทูลชนนี | ทั้งนี้เพราะกรรมได้ทำไว้ | ||
| แต่น้ำใสใจจริงของข้า | จะรักใคร่เงาะป่านั้นหาไม่ | ||
| ซึ่งหมายมั่นครั้นลูกจะว่าไป | ที่ไหนใครเลยจะเห็นจริง | ||
| อันชั่วดีมิใช่จะไม่รู้ | แม่น้ำท่วมปากอยู่จึงสู้นิ่ง | ||
| ถึงชนกชนนีจะชังชิง | ลูกจะวิงวอนง้อขอโทษกรณ์ | ||
| ทั้งนี้สุดแท้แต่วาสนา | จะก้มหน้าใช้กรรมให้สิ้นก่อน | ||
| ยากเย็นอย่างไรไม่ทุกข์ร้อน | มารดรอย่าทรงโศกาลัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาหวั่นจิตคิดสงสัย | ||
| เฝ้าปลอบถามลูกรักเฝ้าซักไซ้ | จนอ่อนใจไม่บอกออกความ | ||
| กูชังน้ำหน้าลูกว่ายาก | เหนื่อยปากรำคาญขี้คร้านถาม | ||
| มึงเห็นอ้ายเงาะว่าเหมาะงาม | จะแร่ตามมันไปช่างไม่อาย | ||
| ว่าพลางนางกลับเข้ามาเฝ้า | กระซิบทูลแบ่งเบาเบี่ยงบ่าย | ||
| ข้าไปถามอีลูกแสนร้าย | มันพูดเป็นแยบคายไม่เข้าใจ | ||
| หลากนักมารักอ้ายเงาะป่า | ชอบลงอาญาอย่าปราศรัย | ||
| แต่พระได้ออกโอษฐ์โปรดไว้ | ให้เลือกตามชอบใจทั้งเจ็ดคน | ||
| ครั้นจะลงโทษทัณฑ์มันเล่า | จะนินทาว่าเราทุกแห่งหน | ||
| โปรดเพียงขับไล่เสียให้พ้น | มันอดอยากยากจนอย่านำพา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังชังน้ำหน้า | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา | นิ่งนึกตรึกตราอยู่ในใจ | ||
| จำจะต้องเงือดงดอดกลั้น | คอยหยิบผิดมันให้จงได้ | ||
| คิดพลางทางสั่งเสนาใน | อีรจนากูไม่ขอเห็นมัน | ||
| จะใคร่ฆ่าเสียให้ตายก็อายเขา | จะว่าเรากลับคำทำหุนหัน | ||
| จะขับไล่ไปเสียด้วยกัน | ปลูกกระท่อมให้มันอยู่ปลายนา | ||
| แต่แรกกูตั้งจิตคิดหวัง | จะแต่งทั้งเจ็ดคนให้หนักหนา | ||
| อีเจ้ากรรมทำให้ขายหน้าตา | จะแต่งการวิวาห์ก็ขี้คร้าน | ||
| ให้อยู่เสียด้วยกันเถิดตามที | ในข้างขึ้นเดือนสี่ปีขาล | ||
| ตรัสพลางทางคิดเดือดดาล | ปิดบานพระแกลไม่แลไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีมี่ฉาวเรียกบ่าวไพร่ | ||
| ต่างถือมีดพร้าแล้วคลาไคล | ตรงไปปลายนานอกธานี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เจรจา | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเที่ยวเกี่ยวแฝก | ตัดไม้ไผ่แบกมาอึงมี่ | ||
| บ้างกล่อมเสามเกลาฟากมากมี | ปลูกกระท่อมลงที่ท้องนา | ||
| แล้วปัดปูเสื่อฟูกผูกมุ้งม่าน | หม้อข้าวเชิงกรานตุ่มน้ำท่า | ||
| ทั้งปลูกผักฟักแฟงแตงกวา | จอบเสียมมีดพร้าหาพร้อมไว้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบุตรีศรีใส | ||
| รู้ว่ารจนาทรามวัย | ได้ไอ้เงาะป่าเป็นสามี | ||
| ต่างคนแค้นขัดอัธยา | มันทำให้เขาว่าขายหน้าพี่ | ||
| เราจะไปพ้อตัดให้เต็มที | ว่าแล้วจรลีออกมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงหยุดยืนอยู่ | แลดูน้องสาวกับเงาะป่า | ||
| เคืองค้อนงอนจริตกิริยา | เปรียบประชดชี้หน้าแล้วว่าไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| เย้ย | |||
| ๏ ชะนางคนดีไม่มีชั่ว | ช่างเลือกผัวงามนักน่ารักใคร่ | ||
| รูปร่างน่าหัวร่อเหมือนตอไม้ | เอออะไรพุงโรสันหลังยาว | ||
| มันน่าเชยน่าชมสมประกอบ | พอชอบทำนองหม่อมน้องสาว | ||
| หูตาบั้งแบวเหมือนแมวคราว | เขาเล่าลืออื้อฉาวช่างไม่อาย | ||
| นอกรีตนอกรอยน้อยหรือนั่น | แร่รันไปรักอีมักง่าย | ||
| ให้พี่สาวชาวแส้พลอยวุ่นวาย | อัปยศอดอายขายหน้าตา | ||
| ถึงมิดีมิชั่วเช่นผัวกู | จะร่วมเรียงเคียงคู่พอสมหน้า | ||
| อันอ้ายเงาะเหมาะเหลือเหมือนเสือปลา | ทุดช่างเสน่หาได้ลงคอ | ||
| หรือชะรอยถูกเสน่ห์เล่ห์กล | เวทมนตร์ดลใจไฉนหนอ | ||
| ไม่คิดถึงพงศ์เผ่าเหล่ากอ | น้ำใจในคอมึงผิดคน | ||
| ยังจะทำแสนงอนค้อนข้าหรือ | คันมือจะใคร่ต่อยสักร้อยหน | ||
| กูจะกรวดน้ำคว่ำคะนน | ถึงยากจนขาดจากพี่น้องกัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาตอบไปขมีขมัน | ||
| อุแม่เอ๋ยอื้ออึงขึ้นมึงมัน | เสกแสร้งสารพันโพนทะนา | ||
| ท้าคารมสมทบจะตบต่อย | มิใช่ลูกเมียน้อยร้อยภาษา | ||
| ถึงได้เงาะเป็นผัวชั่วช้า | ก็สุดแต่วาสนาได้สร้างไว้ | ||
| อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหน่อ | เห็นต่อจะบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| รูปร่างน้อยจ้อยอร่อยใจ | จงกอดไว้เถิดคะอย่าละวาง | ||
| ถึงพี่จะรุ่งเรืองไปเบื้องหน้า | ก็ไม่พึ่งวาสนาอย่าอวดอ้าง | ||
| ดีแต่จะมาพานรานทาง | ไม่อดสูผีสางบ้างเลย | ||
| สำคัญว่าพี่น้องท้องเดียวกัน | มิรู้มันเหลือแหล่อุแม่เอย | ||
| เป็นผู้ใหญ่ไม่เหมาะมาเยาะเย้ย | ข้าเกินเลยไปมั่งขอสมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางเคืองค้อนแล้วค้อนว่า | ||
| ชะช่างเลี้ยวลดอีรจนา | กลับพาโลข้าว่าเย้ยเยาะ | ||
| เออคะกระนั้นและจริงอยู่ | รูปร่างผัวกูไม่สู้เหมาะ | ||
| ที่ไหนจะงามพร้อมเหมือนหม่อมเงาะ | ใครเห็นก็หัวเราะว่ารูปงาม | ||
| ยังจะแค่นขึ้นเสียงเถียงเก้อเก้อ | ทำกรุ่งกริ่งหยิ่งเย่อหยาบหยาม | ||
| อีกคนชาติชั่วตัวตะกลาม | จะละเมอเร่อตามไอ้เงาะไป | ||
| น้อยหรือปากคอมันพอสม | ข้าสู้รบคารมเจ้าไม่ไหว | ||
| ขี้คร้านเถียงให้เหนื่อยเมื่อยขาตะไกร | ก็กลับไปห้องหับฉับพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงมหาเสนาคนขยัน | ||
| เข้าไปทูลรจนาสารพัน | พระบิดาคาดคั้นให้ขับไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาเศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| ครวญคร่ำกำสรดสลดใจ | เข้าไปกราบกรานพระมารดา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระชนนีเจ้า | พระคุณเคยปกเกล้าเกศา | ||
| ถนอมเลี้ยงลูกไว้จนใหญ่มา | เป็นสุขทุกทิวาราตรี | ||
| พระองค์จงจิตคิดหวัง | จะปลูกฝังลูกรักเป็นศักดิ์ศรี | ||
| มาทำขายบาทาครานี้ | ถึงจะให้ขับหนีไม่น้อยใจ | ||
| กรรมของลูกแล้วจะขอลา | พระแม่อย่าทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| แม้นว่าชีวันไม่บรรลัย | คงจะได้แทนคุณการุญรัก | ||
| ร่ำพลางกำสรดสลดจิต | ยิ่งคิดเป้นห่วงหน่วงหนัก | ||
| ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์ | นงลักษณ์โศกศัลย์พันทวี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑามเหสี | ||
| คิดพะวงสงสารพระบุตรี | เทวีอัดอั้นกลั้นโศกา | ||
| ลูกรักเฝ้าชะอ้อนวอนวิง | นางนั่งนิ่งเฉยอยู่ไม่ดูหน้า | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา | ชลนาคลอเนตรสังเวชใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| เห็นเจ้าเงาะพยักหน้าเป็นนัย | ชี้มือบอกใบ้ไปปลายนา | ||
| นางสะทกสะเทินเขินขวย | จะไปด้วยง่ายง่ายก็อายหน้า | ||
| ครั้นจะหน่วงหนักชักช้า | ก็กลัวเกรงบิดาจะฆ่าตี | ||
| จึงกราบกรานมารดาด้วยอาดูร | ทรามวัยพิไรทูลถ้วนถี่ | ||
| ลูกจะขออำลาฝ่าธุลี | ครั้นนี้มีกรรมจะจำไกล | ||
| ว่าพลางนางถวายบังคมลา | ชลนาแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| แล้วดำเนินเดินตามเจ้าเงาะไป | เสนาในนำหน้าจรลี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ทยอย | |||
| ทยอย | |||
| ๏ ครั้นออกมานอกทวารวัง | เหลียวหลังมาดูปราสาทศรี | ||
| เคยอยู่สุขเกษมเปรมปรีดิ์ | อนิจจาครานี้จะจำไกล | ||
| แสนวิตกอกเอ๋ยไม่เคยยาก | จะลำบากเคืองเข็ญเป็นไฉน | ||
| ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ฉุกใจ | จะตามไปไม่รู้ว่าร้ายดี | ||
| นางสะอื้นยืนเช็ดชลนา | ครั้นเจ้าเงาะเหลียวมาก็เมินหนี | ||
| แล้วคิดรักหักใจจรลี | ตรงไปยังที่ปลายนา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงกระท่อมทับที่อยู่ | แลดูสมเพชเป็นหนักหนา | ||
| ไม่เคยเห็นเช่นนี้แต่เกิดมา | ก็โศกาทรุดนั่งอยู่นอกชาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| เข้าไปในห้องมิทันนาน | เที่ยวดูของประทานทั้งปวง | ||
| แกล้งหยิบกระโถนมาโยนเล่น | ทำเป็นเหมือนกับรับลูกช่วง | ||
| แลเขม้นเห็นหวดกันกลวง | เอามาจ้วงตักน้ำทำจะกิน | ||
| รจนาว่าไฮ้ช่างไม่อาย | เบื่อจะตายผมเผ้าเขาเปียกสิ้น | ||
| เจ้าเงาะเมินขายหูไม่ได้ยิน | ทำฉวยพัดปัดริ้นปัดยุง | ||
| แล้วแกล้งหยิบครุตั้งบนเชิงกราน | ควักข้าวสารมาใส่ก่อไฟหุง | ||
| คลี่ผ้ากุศราชออกคาดพุง | กางมุ้งเสียให้ดีแต่วี่วัน | ||
| แล้วหยิบหมอนมาอิงยิงฟันขาว | กระดิกเท้าทำเล่นให้เห็นขัน | ||
| พอโพล้เพล้เพลาสายัณห์ | จึงรำพันพูดเกี้ยวเลี้ยวลด | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ชาตรี | |||
| ๏ น้องเอยน้องรัก | ผิวพักตร์เพียงจันทร์อันทรงกลด | ||
| โฉมนางแน่งน้อยช้อยชด | จะกำสรดเศร้าหมองไม่ต้องการ | ||
| บุญพี่กับนางได้สร้างสม | เคยภิรมย์ร่วมรักสมัครสมาน | ||
| พี่อยู่ถึงนอกฟ้าหิมพานต์ | เทวัญบันดาลให้เที่ยวมา | ||
| เหมือนหนึ่งแกล้งชักนำจำเพาะ | จึงได้เมียงามเหมาะจนเกินหน้า | ||
| ไม่ควรเคียงลูกสาวท้าวพระยา | แต่วาสนาของเงาะเคราะห์ดี | ||
| พระโปรดปรานประทานทับกระหม่อม | ทั้งเครื่องใช้ได้พร้อมเพราะบุญพี่ | ||
| น่าชมสมบัติเรามั่งมี | มารศรีอย่าเศร้าเสียใจ | ||
| จะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเจ้า | มิให้อายกับเขาเขยใหญ่ | ||
| ขอเชิญโฉมงามทรามวัย | มานั่งในห้องหับกับพี่ชาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาโฉมฉาย | ||
| ได้ฟังเจ้าเงาะพูดเราะราย | แยบคายคมสันขันคะนอง | ||
| น่าสำรวลสรวลสันต์ไม่กลั้นได้ | อรไทสะเทินเมินยิ้มย่อง | ||
| แก้ขวยฉวยมีดมาเจียนตอง | กรีดเล็บเย็บซองจะใส่พลู | ||
| เจ้าเงาะรื้อเรียกซ้ำทำกระบวน | เมียงชม้อยม่อยม้วนหน้าอยู่ | ||
| อิดเอื้อนเชือนแชไม่แลดู | เป็นครู่มิใคร่จะพาที | ||
| คิดถึงรูปทองยังต้องใจ | เสียแรงได้ติดตามมาถึงนี่ | ||
| ครั้นจะมิพูดด้วยก็ไม่ดี | เทวีจึงตอบวาจา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าชัง | ช่างอวดมั่งอวดมีไม่อายหน้า | ||
| เหย้าเรือนเหมือนกันกับรังกา | แค่นคิดสมบัติบ้าน่าหัวเราะ | ||
| เมื่อกลางวันนั้นทำเป็นบ้าใบ้ | เดี๋ยวนี้เอออะไรพูดออกเหราะ | ||
| ฉลาดเฉลี่ยวเจียวจริงเจ้าเงาะ | กลับมาเยาะเย้ยหยันขันจริง | ||
| นี่หรือชาวนอกฟ้าหิมพานต์ | ซมซานมาเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง | ||
| อุแม่เอ๋ยช่างชะอ้อนวอนวิง | เพราะพริ้งหวานฉ่ำดังน้ำตาล | ||
| น้อยหรือนั่นน่ารักอยู่อักโข | หูหนาตาโตเท่าไข่ห่าน | ||
| รูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษ์มาร | บ่ำสันขันจ้านสักเท่าพ้อม | ||
| บิตุรงค์ทรงศักดิ์รักใคร่ | จึงโปรดให้สิงสู่อยู่กระท่อม | ||
| จอบเสียมสารพัดจัดให้พร้อม | พอสมที่ทำปลอมแปลงมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ แสนเอยแสนแขนง | น้อยหรือแกล้งตัดพ้อเล่นต่อหน้า | ||
| ติเล็กติน้อยคอยนินทา | ค่อนว่าพิไรไค้แคะ | ||
| พี่ก็ไม่หลีกเลี่ยงเถียงสักสิ่ง | มันก็จริงกระนั้นนั่นแหละ | ||
| เจ้าเย้ยเยาะว่าเงาะไม่งามแงะ | แฮะแฮะว่าเล่นหรือว่าจริง | ||
| อย่าประมาทรูปพี่เห็นขี้เหร่ | ไม่ว่าเล่นเป็นเสน่ห์ชอบใจหญิง | ||
| ชาวรั้วชาวงังไม่ชังชิง | อุตส่าห์ทิ้งมาลัยมาให้เงาะ | ||
| ใช่ว่าจะแสร้งแกล้งอวดตัว | นานไปพี่กลัวจะชมเปาะ | ||
| ว่าพลางเย้ายวนชวนหัวเราะ | แกล้งปะเหลาะปะแหละและเลียม | ||
| นี่แน่น้องผินหน้ามาข้างนี้ | ไม่พอที่จะระคายอายเหนียม | ||
| ดูดู๋ขืนยังนั่งเอื้ยมเฟี้ยม | ใจคอเหี้ยมเกรียมหนักหนานัก | ||
| มาเถิดเจ้าเข้าไปเสียในมุ้ง | กลางนากลางทุ่งยุงมันหนัก | ||
| อย่าทำบิดตะกูดพูดเยื้องยัก | แสนงอนค้อนควักไปทีเดียว | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ น่าเอยน่าสรวล | เจ้าสำนวนทายาดฉลาดเฉลียว | ||
| ล้ำเลิศคนขยันขันจริงเจียว | แก้เกี้ยวเลี้ยวลัดสกัดสแกง | ||
| แต่มาลัยให้ทานก็นินทา | ค่อนว่าแคะไค้ไปทุกแห่ง | ||
| เห็นเงาะชอบใจดอกไม้แดง | จึงแกล้งทิ้งให้ไปกระนั้น | ||
| กลับว่าเขารักตัวน่าหัวเราะ | รูปร่างเจ้าสิเหมาะน้อยหรือนั่น | ||
| หนวดเคราครุ่มคร่ามงามครัน | หน้าตาตละปั้นขันสุดใจ | ||
| เอออะไรไม่อายขายหน้า | เอารูปเงาะสวมมาทำบ้าใบ้ | ||
| แกล้งซ่อนรูปสุวรรณไว้ชั้นใน | ข้าเข้าใจอยู่ดอกอย่าหลอกลวง | ||
| พระบิดาขับไล่เพราะใครเล่า | ได้ความทุกขเท่าภูเขาหลวง | ||
| อัปยศอดสูเขาทั้งปวง | เพราะไม่หน่วงไม่นักรักรูปทอง | ||
| จนตกยากอย่างนี้แล้วมิสา | ยังจะมาเรียกให้ไปในห้อง | ||
| ข้ากลัวรูปเงาะป่าตาพอง | จะให้น้องนั่งใกล้จนใจจริง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ โฉมเอยโฉมเฉลา | เอออะไรรู้เท่าไปทุกสิ่ง | ||
| แสนเฉลียวฉลาดล่วงท้วงติง | มันก็จริงกระนั้นนั่นและซิ | ||
| ขืนจะมาควักค้อนค่อนว่า | เงาะของข้าเคยใส่ทำไมสิ | ||
| ผู้หญิงมักต้องจิตประสิทธิ | อย่าเฝ้าติตะบอยไปหน่อยเลย | ||
| ถึงหนวดเครารุงรังช่างเป็นไร | เอาแหนบถอนเสียได้ดอกน้องเอ๋ย | ||
| หัวพริกหยิกยุ่งอย่าเยาะเย้ย | ถ้าหวีเสยสอยหย่งแล้วคงงาม | ||
| ทำไมกับรูปชั่วตัวดำ | จะอาบน้ำขัดสีสัมมะขาม | ||
| ละลายดินสอพองสักสองชาม | ทำให้งามตลอดเท้าขาวทั้งตัว | ||
| ถึงตาพองท้องพลุ้ยพีพลุ | อย่าดูหมิ่นกินจุมิใช่ชั่ว | ||
| จงปรานีเงาะป่าเถิดอย่ากลัว | จะแต่งตัวให้งามตามใจน้อง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ว่าพลางทางถอดเงาะเสีย | เอาซ่อนเมียวางไว้ในห้อง | ||
| รูปทรงโสภาดังทาทอง | ค่อยย่องมานั่งข้างหลังนาง | ||
| เห็นห่มผ้าสไบไพล่พลิ้ว | ทำยื่นนิ้วจะจี้ที่สีข้าง | ||
| กระทั่งไอกระแอมแย้มยิ้มพลาง | สะกิดนางให้รู้ดูนี่แน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาไม่ทะยาทะแยแส | ||
| คิดว่าเงาะลูบหลังทำรังแก | ไม่เหลียวแลร้องอึงคะนึงไป | ||
| โมโหหันหน้ามาหยิกทึ้ง | เห็นรูปงามก็ตะลึงหลงไหล | ||
| น้อยหรือถอดเงาะเหมาะสุดใจ | เนื้อหนังช่างกระไรราวกับทอง | ||
| หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา | นงเยาว์กระหยิ่มยิ้มย่อง | ||
| คิดไว้ก็สมอารมณ์ปอง | บริสุทธิ์ผุดผ่องผิวพรรณ | ||
| งามจริงยิ่งมนุษย์ในใต้หล้า | ดูดังเทวาบนสวรรค์ | ||
| เฝ้าชม้ายชม้อยม่อยเมียงมัน | สะเทินจิตบิดผันไม่พูดจา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เกษมสันต์หรรษา | ||
| เห็นนางอายเอียงเมียงพักตรา | จึงแกล้งว่าสัพยอกหยอกเอิน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | ไม่พอที่จะระคางห่างเหิน | ||
| เฝ้าผินหน้าผินหลังนั่งเมิน | อย่าสะทกสะเทินเชิญดูเงาะ | ||
| นิ่งอยู่ไยสิไม่ติเล่า | นี่แน่เจ้าจะเหมาะหรือมิเหมาะ | ||
| ไม่แกล้งอวดทรวดทรงจงพิเคราะห์ | อย่าหัวเราะเยาะเย้าไปเลยคะ | ||
| เมื่อกี้ค่อนว่าพี่ตาพอง | เดี๋ยวนี้น้องจงติเถิดสิหนะ | ||
| หน้าตาหายเคอะไม่เทอะทะ | มันต่อจะกระนั้นเป็นมั่นคง | ||
| หนวดเคราพี่ถอนเสียล่อนเลี่ยน | ไม่ว่าเล่นเห็นเจียนจะลุ่มหลง | ||
| ยังพ่วงพีเท่าพ้อมหรือย่อมลง | รูปทรงคงขยันแล้วกัลยา | ||
| ถึงเจ้าจะเข้าหอก็พอได้ | เห็นจะไม่อับอายขายหน้า | ||
| ตามมีตามเกิดเถิดน้องอา | ตามประสายากเย็นเข็ญใจ | ||
| เชิญเจ้าเข้าไปในห้องหับ | นอนหลับเสียมั่งเจ็บหลังไหล่ | ||
| แล้วกุมกรกัลยาช้าอยู่ไย | มาไปดีดีอย่าดื้อดึง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดเอยบัดสี | อะไรนี่น่าพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| นางค้อนควักผลักไสหยิกทิ้ง | ร้องไห้อึงดอกเจ้าเฝ้ายื้อยุด | ||
| ช่างทำได้ไม่เกรงข่มเหงคน | ฉุดกระชากลากจนไหล่จะหลุด | ||
| เห็นแล้วว่าประเสริฐเลิศมนุษย์ | ราวกับเทพบุตรสุดปัญญา | ||
| งามแล้วคะชะเจ้าอย่าเฝ้าอวด | เพริศพริ้งยิ่งยวดเป็นหนักหนา | ||
| ใครใช้ให้แกล้งแปลงปลอมมา | เขาก็ติก็ว่าให้สาใจ | ||
| แม้นมิทำยอกย้อนซ่อนรูปทรง | ไหนเลยบิตุรงค์จะขับไล่ | ||
| นี่เป็นเหตุเพราะเงาะหรือเพราะใคร | จึงได้อัประมาณรำคาญเคือง | ||
| ยังจะมาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | พูดจาน่ารำคาญหูเหือง | ||
| ว่าพลางทางทำชำเลือง | ค้อนควักยักเยื้องเป็นแยบคาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ ดวงเอยดวงสมร | เจ้าแสนแง่แสนงอนใจหาย | ||
| ไม่ควรจะเคืองขุ่นวุ่นวาย | ตีโพยตีพายพาโลเงาะ | ||
| พี่เสี่ยงแสร้งแปลงมาทำบ้าใบ้ | ถ้าแม้นใครเป็นคู่ก็ดูเหมาะ | ||
| แม้นไม่เคยอุปถัมภ์จำเพาะ | ก็เย้ยเยาะยิ้มหัวว่าชั่วช้า | ||
| ซึ่งสวมรูปเงาะป่ามานี้ไซร้ | หวังจะให้น้องคิดปริศนา | ||
| เจ้าก็ปลงถูกแล้วนะแก้วตา | จึงรู้ว่าเงาะงามเป็นรูปทอง | ||
| อย่าบิดเบือนเชือนเฉยนะแก้วตา | จูงนางย่างเข้าไปในห้อง | ||
| นั่งแอบแนบเนื้อนวลละออง | เลียมลองโลมเล้าเคล้าคลึง | ||
| อะไรเฝ้าฮึดฮัดปัดมือ | รำคาญวานอย่าดื้อไปน่อยหนึ่ง | ||
| ว่าพลางทางกระหวัดรัดรึง | จะร้องอึงก็ร้องเถิดน้องรัก | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ น้อยเอยน้อยใจ | นี่อะไรรุกรานหาญหัก | ||
| ข่มเหงคะเนงร้ายน่าอายนัก | นางค้อนควักชักหน้าแล้วว่าไป | ||
| น้องยังเคลือบแคลงไม่แจ้งความ | อย่าวู่วามลามลวนหาควรไม่ | ||
| นามวงศ์พงศ์ประยูรอย่างไร | ประหลาดเหลือเชื้อไพร่หรือผู้ดี | ||
| ไม่บอกไม่เล่าเฝ้าแอบอิง | แม้นรักจริงนิ่งอยู่อย่าจู้จี้ | ||
| จะหยิกให้ขาเขียวประเดี๋ยวนี้ | อะไรนี่ไม่เสงี่ยมเลียมและ | ||
| ยิ่งว่าให้นิ่งเหมือนยิ่งยุ | ดูดู๋น่าตีเล่นดีแหละ | ||
| จงแถลงแจ้งความให้งามแงะ | อย่าเหลาะแหละลวงหลอกเร่งบอกมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ ยอดเอยยอดมิ่ง | จะแจ้งความตามจริงไม่มุสา | ||
| ตัวพี่นี้หน่อกษัตรา | นามกรชื่อว่าพระสังข์ทอง | ||
| แถลงเล่าแต่ต้นไปจนปลาย | บรรยายตามเรื่องที่เคืองข้อง | ||
| เป็นความในใจพี่เช่นนี้น้อง | นวลละอองอย่าแหนงแคลงใจ | ||
| ว่าพลางทางถดเข้าชิด | จะอายเอียงเบี่ยงบิดไปข้างไหน | ||
| ยื้อยุดฉุดชักชายสไบ | คว้าไขว่สัพยอกหยอกเย้า | ||
| ช่างหยิกข่วนไปได้เหมือนไม่เจ็บ | ข่มเหงนักหักเล็บเสียดอกเจ้า | ||
| ดีจริงยิ่งว่ายิ่งหยิกเอา | เบาเบาอุยหน่าไม่ปรานี | ||
| พระอุ้มองค์อรไทขึ้นใส่ตัก | อะไรเล่าเฝ้าผลักมือพี่ | ||
| ความรักรัญจวนยวนยี | เปรมปรีดิ์ประดิพัทธ์กำหนัดนาง | ||
| อัศจรรย์บันดาลในกลางหาว | เดือนดาวส่องแสงเจ้งกระจ่าง | ||
| เย็นซาบอาบละอองน้ำค้าง | ค่อยสระสร่างเศร้าหมองทั้งสองรา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ โลมพิณพาทย์ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาเยาวยอดเสน่หา | ||
| นั่งแนบแอบองค์ภัสดา | จำนรรจาพาทีซี้ซิก | ||
| ที่ทุกข์ร้อนผ่อนผันบรรเทา | นงเยาว์ยิ้มเหยาะหัวเราะหริก | ||
| พระอุ้มขึ้นใส่ตักนางผลักพลิก | ทำกระบวนข่วนหยิกด้วยมารยา | ||
| แลสบหลบเนตรภูวไนย | สะเทินใจอายเอียงเมียงหน้า | ||
| แย้มสรวลยวนยีปรีดา | กัลยานิยมสมคิด | ||
| แสนสมัครรักใคร่ใหลหลง | ด้วยรูปทรงเป็นทองต้องจิต | ||
| ถ้อยทีบรรทมชมชิด | แนบสนิทนิทราในราตรี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| เชยชมสมสวาทด้วยเทวี | ในที่กระท่อมทับลับแลง | ||
| ครั้นประจุสมัยไก่ขัน | สุริยันเรืองรองส่องแสง | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงแปลง | หวังมิให้ใครแจ้งความใน | ||
| แล้วว่าแก่รจนานงลักษณ์ | น้องรักผู้ยอดพิสมัย | ||
| เราผัวเมียสองคนจนใจ | มาจะไปหาหุงโภชนา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาโศกศัลย์รำพันว่า | ||
| น้องนี้แต่กำเนิดเกิดมา | จะหุงข้าวหุงปลาก็ไม่เคย | ||
| แต่ก่อนร่อนชะไรอยู่ในวัง | วิเสทหามาตั้งให้เสวย | ||
| ไม่เข้าเนื้อเข้าใจอย่างไรเลย | อกเอ๋ยมีกรรมก็จำเป็น | ||
| ว่าพลางนางทรงโศกี | ครั้งนี้ยากแค้นแสนเข็ญ | ||
| ดังหนึ่งเลือดตาจะกระเด็น | จำเป็นจำใจออกไปพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน | ||
| ครั้นโพล้เพล้เพลาสายัณห์ | สองราพากันเข้าในทับ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงถอดเงาะออกเสียให้เมียเห็น | รูปเป็นทองอร่ามงามสรรพ | ||
| เอารูปเงาะซ่อนไว้ให้ลับ | แล้วกลับมานั่งสั่งสนทนา | ||
| อิงแอบแนบชิดสะกิดเกา | สัพยอกหยอกเย้าขนิษฐา | ||
| เชยแก้มแนมปรางปรีดา | สรวลสันต์หรรษาพาที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาแน่งน้อยนวลศรี | ||
| พลางชะอ้อนวอนว่ากับสามี | จงปรานีน้องเถิดอย่าทรงเงาะ | ||
| ผู้คนทั้งปวงไม่ล่วงรู้ | ให้เขาดูถูกเล่าช่างเห็นเหมาะ | ||
| น้องว่าก็ไม่เชื่อนี่เนื้อเคราะห์ | กลับจะมาหัวเราะน่าขัดใจ | ||
| นางนิ่งนึกตรึกแล้วตรึกเล่า | จะลักรูปเงาะเผาเสียให้ได้ | ||
| จึงปูปัดฟูกหมอนที่นอนใน | ชวนให้ทรงธรรม์บรรทม | ||
| แล้วนั่งนวดฟั้นคั้นบาทา | คลี่ผ้าของตัวให้ผ้าห่ม | ||
| ปรนนิบัตรพัดวีโบกลม | นงเยาว์นิยมสมปอง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เชยชมสมสอง | ||
| อิงแอบแนบเนื้อนวลละออง | กรตระกองน้องแก้วแล้วหลับไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางรจนานารีศรีใส | ||
| คิดจะลักรูปเงาะภูวไนย | นางมิได้สนิทนิทรา | ||
| เห็นพระหลับไหลไม่ไหวองค์ | โฉมยงยินดีเป็นหนักหนา | ||
| ค่อยขยายยกหัตถ์ภัสดา | ขยับตัวออกมาเอาหมอนรอง | ||
| ฟากลั่นเกรียบเกรียบเหยียบย่าง | มืดไม่เห็นทางถลำล่อง | ||
| ลุกขึ้นลดเลี้ยวเที่ยวมอง | หาเงาะในห้องกระท่อมทับ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ ครั้นเห็นหิ้วหัวมาครัวไฟ | ฉวยพร้าโต้ใหญ่เข้าเสี่ยงสับ | ||
| ฟันซ้ำร่ำไปมิได้นับ | รูปเงาะไม่ยับยิ่งขัดใจ | ||
| เหน็ดเหนี่อยเมื่อยแขนสิ้นแรงเรี่ยว | ทุดช่างหนังเหนียวน่าหมั่นไส้ | ||
| นางโกรธาหาฟืนมาก่อไฟ | เอารูปเงาะเข้าใส่ในอัคคี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ แล้วฉวยเอาพร้ามาสับซ้ำ | นางทำร้อยอย่างร้อยสี | ||
| อ้ายเงาะสัปดนทนสิ้นที | เผาจี่เท่าไรไม่ไหม้มัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์หลับไหลใฝ่ฝัน | ||
| ละเมอกอดหมอนข้างพลางสำคัญ | คิดว่าเมียขวัญอยู่แนบนอน | ||
| ลืมตาคว้าไขว่ไปเป็นครู่ | จึงรู้ตระหนักแน่อุแม่หมอน | ||
| แลดูโฉมยงองค์บังอร | ไม่เห็นนอนในมุ้งสะดุ้งใจ | ||
| ลุกขึ้นมองหาละล้าละหลัง | ไม่เห็นทั้งเงาะทรงยิ่งสงสัย | ||
| เห็นแสงเพลิงสว่างข้างครัวไฟ | ตกใจออกมาเที่ยวหาเมีย | ||
| เห็นนงเยาว์เผาเงาะเอาไฟสุม | จึงตักน้ำในตุ่มมาดับเสีย | ||
| แล้วว่าน่าชังช่างทำเยีย | ขิงเงาะทะเลาะเมียมี่ไป | ||
| ดูดู๋ยังดื้อเข้ายื้อคร่า | ยิ่งว่าแล้วยังหาฟังไม่ | ||
| จะเอาเงาะของเขาไปเผาไฟ | ทำได้ไม่เกรงข่มเหงกัน | ||
| หรือเจ้าชอบใจจะใส่เล่น | จะได้เป็นนางเงาะเหมาะขัน | ||
| นอกรีตน้อยหรือมือคันคัน | จะใคร่รันเข้าสักผางนางคนดี | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ทรงเอยทรงฤทธิ์ | ชอบผิดจะรับใส่เกศี | ||
| แม้นไม่เมตตาจะฆ่าตี | น้องนี้จะสู้ม้วยมุด | ||
| พระสวมเงาะร้ายขายหน้าเมีย | จะชิงเอาเผาเสียให้สิ้นสุด | ||
| ถึงพระเรี่ยวแรงจะแย่งยุด | ผิดชอบแขนหลุดไม่วางมือ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าหัวเราะ | เก้อแล้วนี่เงาะของเจ้าหรือ | ||
| กลับเถียงเสียงแข็งเข้าแย่งยื้อ | เอออะไรใจดื้อจริงจริงเจียว | ||
| ถึงเจ้ามิให้ก็ไม่ฟัง | น่าชังน้อยหรอืนางมือเหนียว | ||
| ฮึดฮัดขัดเขมรเป็นเกลียว | แย่งยุดฉุดเหนี่ยวกันไปมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ชิงรูปเงาะได้ใส่สวมองค์ | ทำก้มลงหลอนหลอกกลอกหน้า | ||
| ตบมือเย้ยหยันกัลยา | แล้วคืนเข้าเคหาห้องนอน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาดวงสมร | ||
| จึงตามมางอนง้อขอโทษกรณ์ | วิงวอนสามีพิรี้พิไร | ||
| น้องได้ผิดพลั้งแต่ครั้งหนึ่ง | จะพิโรธโกรธขึ้งไปถึงไหน | ||
| ผัวเมียสองคนจนไร้ | ชั่วดีได้เห็นหน้ากัน | ||
| ถ้าทีหลังยังขืนทำเช่นนี้ | จงทำโพยโบยตีให้อาสัญ | ||
| ว่าพลางนางเข้าไปนวดฟั้น | หลังไหล่ไหนคันจะช่วยเกา | ||
| ยื่นมือมาจี้ที่สีข้าง | จะหย่าร้างกันจริงเจียวหรือเจ้า | ||
| เอนอิงพิงทับลงกับเพลา | ถอนหนวดถอนเคราให้เจ้าเงาะ | ||
| แล้วหยิบหมากมาป้อนวอนขอชาน | เคี้ยวประทานสักคำทำปะเหลาะ | ||
| ยียวนชวนผัวให้หัวเราะ | แสร้งออเซาะสรวลสันต์จำนรรจา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะยิ้มพลางทางว่า | ||
| ที่นี้พี่จะอดนางรจนา | แม้นถ้าทีหลังไม่ฟังกัน | ||
| นี่หากว่ารักเจ้าอักโข | จึงสู้ดับโมโหไม่หุนหัน | ||
| ว่าพลางเชยชิดติดพัน | ถ้อยทีดีกันดังใจจง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พระสังข์ตั้งแต่วันนั้นมา | ไม่ไว้ใจรจนานวลหง | ||
| เอารูปเงาะศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรงค์ | สวมองค์ทรงใส่ไว้อัตรา | ||
| เช้าค่ำพร่ำสอนสั่งเสีย | ให้เมียปั่นฝ้ายทอผ้า | ||
| เจ้าเงาะหัดตีกรับขับเสภา | รจนาปั่นฝ้ายสบายใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
บทเสภาเจ้าเงาะขับ
(บทเสภานี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์)
| ๏ ครานั้นขุนแผนแสนสนิท | สบายจิตชื่นชมประสมสอง | ||
| นั่งอยู่ด้วยกันกับวันทอง | ที่ร่มไทรในห้องอรัญวา | ||
| ให้วิเวกอ้างว้างอยู่กลางดง | ตะวันบ่ายชายลงลับเหลี่ยมผา | ||
| ลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉี่อยเฉี่อยมา | ดอกไม้ป่าหอมหวนชวนชื่นใจ | ||
| รวยระรินกลิ่นพุทธิชาดชื่น | รื่นรื่นลำดวนดกดอกไสว | ||
| เรไรร้องหริ่งหริ่งที่กิ่งไทร | เสียงลองไนให้เสนาะเพราะสำเนียง | ||
| แจ้วแจ้วจักจั่นสนั่นป่า | ดังซอสีปี่ชวาวังเวงเสียง | ||
| สกุณาพาคู่เข้ารังเรียง | ขุนแผนเคียงข้างน้องประคองเชย | ||
| ตัวพี่กับรจนามาได้แค้น | เหมือนขุนแผนกับวันทองเจียวน้องเอ๋ย | ||
| อยู่กระท่อมตรอมใจไม่เสบย | กระไรเลยอนิจจาช่างอาภัพ | ||
| เคยนอนเตียงเสียงประโคมด้วยแตรสังข์ | มาตกไร้ได้ฟังแต่เสียงกรับ | ||
| พลางอิงแอบแนบน้องในห้องทับ | ถนอมรับขวัญให้เข้าไสยา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๗ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสามนต์เป็นใหญ่ | ||
| ตั้งแต่เงาะพาธิดาไป | ให้แค้นขัดฤทัยทุกเวลา | ||
| รจนาเจ้ากรรมมันทำชั่ว | มีผัวเงาะร้ายให้ขายหน้า | ||
| จำจะคิดอ่านด้วยมารยา | พาลฆ่าเสียให้ได้ไม่ไว้เลย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดพลางทางสั่งเสนาใน | จงรีบไปบอกบรรดาลูกเขย | ||
| กูจะให้แต่งตั้งสังเวย | ตามเคยบวงสรวงเทวัญ | ||
| พรุ่งนี้หาปลามาคนละร้อย | ใครได้น้อยจะฆ่าให้อาสัญ | ||
| ทั้งอ้ายเงาะขี้ครอกจงบอกมัน | มิได้ปลามาทันจะบรรลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งบังคมไหว้ | ||
| วิ่งวางออกจากวังใน | มายังบ้านเขยใหญ่ทั้งหกองค์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงแถลงแจ้งคดี | บัดนี้รับสั่งต้องประสงค์ | ||
| เร่งหาปลามาให้ดังใจจง | เอาไปส่งให้ทันพระบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยเกษมสันต์หรรษา | ||
| ยิ้มพลางทางตอบเสนา | ผักปลาหน้านี้มีถมไป | ||
| อย่าว่าแต่เท่านั้นท่านจะเอา | ถึงจะลงสำเภาก็รับได้ | ||
| อาสาพ่อตาแล้วเต็มใจ | จะหาให้สุดฤทธิ์ไม่บิดพลิ้ว | ||
| สงสารแต่เงาะป่าประดาเสีย | จะพาเมียสุ่มช้อนจนอ่อนหิว | ||
| เต็มทีจะได้มาแค่ปลาซิว | ท้าวจะกริ้วโกรธาให้ฆ่าฟัน | ||
| ว่าพลางทางสั่งบ่าวไพร่ | พรุ่งนี้กูจะไปแต่ไก่ขัน | ||
| เรือแพแหอวนทุกสิ่งอัน | เร่งรัดจัดกันให้พร้อมไว้ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาลาหกเขยใหญ่ | ||
| ชวนกันรีบออกนอกเวียงชัย | ตรงไปยังบ้านปลายนา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงยืนอยู่นอกรั้ว | ระวังตัวกลัวสุนัขหนักหนา | ||
| ร้องเรียกเข้าไปมิได้ช้า | หม่อมแม่รจนาอยู่แห่งใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาสาละวนลนควันไต้ | ||
| จับกระเหม่าใส่น้ำมันกันไร | ถึงยากเย็นเข็ญใจมิให้รก | ||
| ทางแป้งแต่งตัวไม่มัวหมอง | ผัดหน้านั่งมองส่องกระจก | ||
| นุ่งผ้าจัดกลีบจีบชายพก | แล้วยกของมาให้ผัวกิน | ||
| จีบพลูใส่ซองรองลำดับ | เอามีดพับผ่าหมากจนปากบิ่น | ||
| เจ้าเงาะนอนถอนหนวดสวดสุบิน | เล่นลิ้นละลักยักลำนำ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| กาพย์เรื่องสุบิน | |||
| ๏ จะกล่าวตำนาน | สุบินกุมาร | ||
| อันสร้างสมมา | ร่ำเรียนเขียนธรรม | ||
| ปรากฏนักหนา | บวชในศาสนา | ||
| ลุถึงอรหันต์ | |||
| ๏ โปรดแม่พ้นทุกข์ | โปรดพ่อเสวยสุข | ||
| ไปยังเมืองสวรรค์ | นางฟ้าแห่ห้อม | ||
| แวดล้อมนับพัน | เครื่องทิพย์อนันต์ | ||
| อเนกนานา | |||
| ๏ แต่ก่อนยังมี | เมืองสาวัตถี | ||
| นครพารา | ท่านท้าวเจ้าเมือง | ||
| ฤาเลื่องนักหนา | รี้พลช้างม้า | ||
| ข้าคนบริวาร | |||
| ๏ นอกเมืองออกไป | มิใกล้มิไกล | ||
| มีบ้านนายพราน | เป็นส่วยมังสัง | ||
| เนื้อหนังตระการ | แต่ล้วนหมู่พราน | ||
| ย่อมเอามาถวาย | |||
| ๏ นายพรานผู้ใหญ่ | ชอบอัชฌาสัย | ||
| ตั้งให้เป็นนาย | คุมไพร่พรานป่า | ||
| ล่าเนื้อกวางทราย | พรานผู้เป็นนาย | ||
| ตักเตือนบ่คลา | |||
| ๏ รจนานิ่งฟังนั่งหัวเราะ | น้อยหรือเพราะแจ้วเจื่อยเฉื่อยฉ่ำ | ||
| ไม่ทันถึงใบสมุดหยุดกินน้ำ | สวดซ้ำอีกสักนิดยังติดใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ พอได้ยินแว่วเสียงเสนี | มาร้องเรียกอยู่ที่ริมไร่ | ||
| นางจึงลุกเดินออกไป | ยืนเยี่ยมกระไดมองดู | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาหยุดยั้งนั่งคอยอยู่ | ||
| เรียกพลางทางมองที่ช่องประตู | เห็นโฉมตรูเดินออกมานอกชาน | ||
| จึงเข้าไปบังคมก้มหน้า | น้ำตาไหลลงด้วยสงสาร | ||
| แล้วทูลแถลงเล่าเยาวมาลย์ | ตามบัญชาการพระทรงยศ | ||
| บัดนี้มีรับสั่งใช้มา | ให้เจ้าเงาะเสาะหาปลาสด | ||
| ทั้งหกเขยใหญ่ก็ไม่ลด | กำหนดให้ทันวันพรุ่งนี้ | ||
| ใครได้ไม่ครบร้อยน้อยไป | พระจะให้ฆ่าฟันบั่นเกศี | ||
| ทูลแถลงแจ้งความตามคดี | อัญชลีแล้วกลับไปฉับไว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาอกสั่นหวั่นไหว | ||
| เข้าไปในกระท่อมทันใด | กอดตีนผัวไว้แล้วโศกา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ อกเอ๋ยโอ้ว่าครานี้ | น่าที่จะม้วยสังขาร์ | ||
| สมเด็จบิตุเรศไม่เวทนา | จะคิดอ่านพาลฆ่าชีวาลัย | ||
| ให้หาปลาเป็นร้อยน้อยหรือนั่น | ประกวดกันกับเขาเหล่าเขยใหญ่ | ||
| มั่งมีศรีสุขทุกข์อะไร | ประเดี๋ยวเดียวก็จะได้ง่ายดาย | ||
| วิตกแต่ส่วนตัวผัวรัก | ยากนักจะซุกซนขวนขวาย | ||
| ผัวเมียสองคนจนจะตาย | จะหาปลาไปถวายที่ไหนทัน | ||
| ถ้าพระรูปทองน้องงบรรลัย | เมียจะตามเข้าไปมิได้พรั่น | ||
| จะให้เขาพิฆาตฟาดฟัน | สู้ตายตามกันไปไม่คิดกลัว | ||
| ไม่ขออยู่ดูหน้าคนทั้งหลาย | มิให้ชายอื่นต้องเป็นสองผัว | ||
| ว่าพลางนางทุ่มทอดตัว | ตีอกชกหัวเข้าร่ำไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะยิ่งคิดพิสมัย | ||
| ปลอบนางพลางเช็ดชลนัยน์ | โลมเล้าเอาใจให้เคลื่อนคลาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้โลมใน | |||
| ๏ น้องเอยน้องรัก | งามพักตร์ผ่องเหมือนดังเดือนหงาย | ||
| อย่าครวญคร่ำน้ำเนตรฟูมฟาย | แสนเสียดายนวลน้องจะหมองมัว | ||
| ทั้งในใต้ฟ้าไม่หาได้ | พี่ขอบใจเจ้านักที่รักผัว | ||
| ทำไมกับมัจฉาเจ้าอย่ากลัว | สักแสนตัวก็จะได้ไม่ยากนัก | ||
| ไปนอนเสียให้สบายหายเจ็บหลัง | จะมานั่งโศกาด้วยปลาผัก | ||
| แย้มสรวลชวนชิดจุมพิตพักตร์ | น้องรักเจ้าอย่าปรารมภ์เลย | ||
| ถึงยากจนคนเดียวก็หาได้ | พี่หาพรั่นไม่อ้ายหกเขย | ||
| ว่าพลางภิรมย์ชมเชย | หลับนอนตามเคยสบายใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ กล่อม | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นอุทัยไขแสงขึ้นสางสาง | พระโลมนางพลางลูบหลังไหล่ | ||
| สั่งเสียรจนาด้วยอาลัย | พี่จะไปสักประเดี๋ยวเที่ยวหาปลา | ||
| ว่าพลางทางจับไม้เท้าทรง | ใส่เกือกแก้วแล้วลงจากเคหา | ||
| แผลงฤทธิ์เหาะเหินเดินฟ้า | ตรงมายังฝั่งชลธาร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงหยุดนั่ง | ที่ร่มไทรใบบังสุริย์ฉาน | ||
| ถอดเงาะซ่อนเสียมิทันนาน | แล้วโอมอ่านมหาจินดามนต์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ล่องเรือ | |||
| ๏ เดชะเวทวิเศษของมารดา | ฝูงปลามาสิ้นทุกแห่งหน | ||
| เป็นหมู่หมู่มากมายในสายชล | บ้างว่ายวนพ่นน้ำคล่ำไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โล้ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายเจ้าเหล่าหกเขยใหญ่ | ||
| ครั้นรุ่งเรียกหาข้าไท | บ่าวไพร่นับร้อยไม่น้อยเลย | ||
| แต่งองค์ทรงเสื้อลงเรือญวน | แหวนของใครเอาไปเหวย | ||
| ภรรยาหาขนมนมเนย | ตามเคยขนส่งลงมาพลัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นจัดแจงพร้อมมุลไม่ขาดเหลือ | ให้ออกเรือจากที่ขมีขมัน | ||
| เรืออวนเรือแหแจจัน | เร่งกันตามนายพายมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โล้ | |||
| ๏ พ้นด่านบ้านช่องล่องเลย | ถึงท้องคุ้งที่เคยมีมัจฉา | ||
| หกองค์ทรงแหทอดปลา | ลอยมาสองฟากลากเบ็ดราว | ||
| บ้างเอาลอบลงดักตักสวิง | ริมตลิ่งลากอวนอื้อฉาว | ||
| ติดแต่จระเข้อยู่เกรียวกราว | นายบ่าวต่างโกรธโทษกัน | ||
| แล้วพายเลียบริมฝั่งมาทั้งพวก | ถือฉมวกยืนคอยแทงหวั่น | ||
| บ้างลงเฝือกปิดคลองไว้สองชั้น | แล้วช่วยกันตีน้ำร่ำมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ปลาผักสักตัวก็ไม่ได้ | คิดอัศจรรย์ใจเป็นหนักหนา | ||
| รีบพายมาจนถึงบึงปลายนา | พบมัจฉานับแสนแน่นไป | ||
| เห็นพระสังข์นั่งอยู่ที่ฝั่งชล | ต่างคนพิศวงสงสัย | ||
| จะเป็นเทพารักษ์หรืออะไร | เถียงกันวุ่นไปทั้งไพร่นาย | ||
| จึงวาดแวะนาวาเข้ามาพลัน | ทั้งหกอกสั่นขวัญหาย | ||
| ต่างก้มกรานหมอบยอบกาย | บ่าวนายนึกคะเนว่าเทวา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์นั่งยิ้มอยู่ในหน้า | ||
| เห็นหกเขยเคอะเซอะมา | สมดังจินดาก็ยินดี | ||
| จึงเสแสร้งแกล้งทำไม่รู้จัก | ถามทักซักไซ้ไปไหนนี่ | ||
| เอะแล้วออเจ้าเหล่านี้ | หน่วยก้านพานจะดีมีฝีมือ | ||
| เรือแพแหอวนก็เอามา | จะลอบลักดักปลาของข้าหรือ | ||
| เราเป็นเทพเจ้าเล่าลือ | นับถือทุกแห่งแพร่งพราย | ||
| แต่หักคอคนตายเสียหลายพัน | อย่าดุดันดูหมิ่นมักง่าย | ||
| มาหาเรานี้ดีหรือร้าย | บอกยุบลต้นปลายให้แจ้งใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกอกสั่นหวั่นไหว | ||
| สำคัญจิตคิดว่าพระไพร | กราบไหว้ท่วมหัวกลัวฤทธา | ||
| ใจคอทึกทึกนึกพรั่น | ปากสั่นเสียงสั่นซังตายว่า | ||
| ท่านท้าวสามนต์ผู้พ่อตา | ให้หาปลาประกวดกับอ้ายเงาะ | ||
| ข้าทอดแหแปรซ้อนแต่เช้าตรู่ | ออกอ่อนหูหิวหอบเที่ยวรอบเกาะ | ||
| ไม่ได้ปลาสักหน่อยชะรอยเคราะห์ | ฉวยแพ้อ้ายเงาะสิน่าอาย | ||
| กลัวท้าวพ่อตาจะฆ่าเสีย | สงสารแต่เมียจะเป็นม่าย | ||
| เทวดาเลี้ยงปลาไว้มากมาย | ข้าขอไปถวายพอรอดตัว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังก็ยิ้มหัว | ||
| จึงว่าหกเจ้านี้เมามัว | ไม่กลัวบาปกรรมทำประมง | ||
| แต่ได้มาขอแล้วก็จำให้ | เราไซร้จะขอมั่งดังประสงค์ | ||
| จะให้หรือมิให้ทั้งหกองค์ | ท่านจงปรึกษาหารือกัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยรับคำขมีขมัน | ||
| พระองค์จะประสงค์สิ่งใดนั้น | สารพันมีแล้วไม่ขัดเลย | ||
| สุดแท้แต่ตามจะเลือกเอา | เป็ดไก่เหล้าข้าวของเสวย | ||
| ทั้งกล้วยอ้อยขนมนมเนย | จะแต่งตั้งสังเวยเซ่นวัก | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์กล่าวแกล้งแจ้งประจักษ์ | ||
| เราเป็นเทวาสุรารักษ์ | จะเซ่นวักสิ่งของไม่ต้องใจ | ||
| จะขอปลายจมูกหม่อมลูกเขย | ตามเคยคนละน้อยหามากไม่ | ||
| แม้นให้เราเราจะให้ปลาไป | จะให้หรือมิให้ให้ว่ามา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยได้ฟังนั่งปรึกษา | ||
| ชิชะเจ้าเล่ห์เทวดา | จะเอาปลาแลกปลายจมูกคน | ||
| แม้นเชือดเสียเมียเห็นจมูกด้วน | จะทำกระบวนผินหลังนั่งบ่น | ||
| ของสำคัญหนักหนาเข้าตาจน | จะผ่อนปรนแก้ไขอย่างไรดี | ||
| บ้างว่าอย่าพักประดักประเดิด | ทนเจ็บเอาเถิดไม่จู้จี้ | ||
| หาปลาที่ไหนก็ไม่มี | อ้ายเงาะดีหาได้สิอายมัน | ||
| หกเขยรีรอท้อจิต | สุดคิดสุดที่จะผ่อนผัน | ||
| นั่งนิ่งก้มหน้าดูตากัน | เชือดเสียเห็นวันจะได้ไป | ||
| ต่างยอมพร้อมใจไม่กลัวเจ็บ | ฉวยได้มีดเหน็บของบ่าวไพร่ | ||
| ยื่นให้เทวัญทันใด | ทอดถอนใจใหญ่ย่อท้อ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์สรวลสันต์กลั้นหัวร่อ | ||
| ยิ้มพลางทางตรัสตัดพ้อ | เอออะไรใจคอเหมือนปลาซิว | ||
| แล้วเอามีดกรีดลับกับศิลา | ทั้งหกตกประหม่าหน้านิ่ว | ||
| มือบีบหนีบจมูกไว้สองนิ้ว | อย่าบิดพริ้วดุกดิกพลิกแพลง | ||
| ทำเงื้อมีดกระหยับจับจ้อง | ที่ใจชั่วกลัวร้องจนเสียงแห้ง | ||
| เอาแล้วนะฉะเชือดเลือดแดง | จมูกแหว่งโหว่วิ่นสิ้นทุกคน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ปี่กลอง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกลูบแผลพลางครางร่น | ||
| เจ็บแสบแทบตายเต็มทน | ต่างคนต่างแลดูแผลกัน | ||
| เขยใหญ่ใจแข็งทำแกล้งว่า | จมูกด้วนดูหน้าเห็นขบขัน | ||
| สะกิดเพื่อนเตือนทวงเทวัญ | แลกกันเมื่อไรจะให้ปลา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ล่องเรือ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้สมปรารถนา | ||
| จึงตั้งสัตย์อธิษฐานด้วยวาจา | มัจฉานัวใดถึงที่ตาย | ||
| จงกระโดดโลดขึ้นมาริมฝั่ง | ให้สมหวังดังจิตที่คิดหมาย | ||
| พอสิ้นคำประกาศไม่คลาดคลาย | ปลาตายบนตลิ่งกลิ้งเกลื่อนไป | ||
| แล้วแกล้งแบ่งมัจฉาที่ชั่วชั่ว | ให้คนละสองตัวหามากไม่ | ||
| หกองค์จึงชวนกันคลาไคล | เอาปลาไปให้สมอารมณ์คิด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยค่อยคลายสบายจิต | ||
| ต่างองค์อำลาสุราฤทธิ์ | บ่าวตะบิดเชือกน้อยร้อยปลา | ||
| หัวท้ายพายวาดนาวาออก | บ้างบอกโยนยาวฉาวฉ่า | ||
| รีบเร่งโดยด่วนจวนเวลา | กลับมาจะให้ทันเตือนกันพาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์สมจิตที่คิดหมาย | ||
| จึงหยิบรูปเงาะมาสวมกาย | แล้วตัดหวายต่อติดบิดพลิ้ว | ||
| ร้อยปลามากมายเหลือประมาณ | เอาไม้เท้าทำคานหาบหิ้ว | ||
| แผลงฤทธิ์รูปเงาะพาเหาะปลิว | ลอยลิ่วมาในเมฆา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงริมไร่ใกล้เรือน | ก็คล้อยเคลื่อนเลื่อนลงจากเวหา | ||
| เดินด่วนขึ้นกระไดมิได้ช้า | เอาหาบปลาเหวี่ยงวางกลางนอกชาน | ||
| ภรรยาพาไปให้ลูบตัว | แล้วเชิญผัวรูปทองกินของหวาน | ||
| เจ้าเงาะแถลงเล่าเยาวมาลย์ | วันนี้ขันจ้านไปหาปลา | ||
| พี่ถอดรูปเงาะออกซ่อนไว้ | ทำเป็นพระไพรพฤกษา | ||
| ร่ายมนต์มหาจินดา | เรียกมัจฉามาสิ้นทุกตำบล | ||
| อ้ายหกเขยเซอะกระเจอะกระเจิง | เที่ยวเซอะเซิงหาปลาก็ขัดสน | ||
| ไปประสบพบพี่ที่ฝั่งชล | ทั้งหกคนกราบกรานขอทานปลา | ||
| พี่แลกเปลี่ยนเจียนปลายจมูกมัน | แหว่งวิ่นสิ้นทั้งนั้นขันนักหนา | ||
| ว่าพลางเสสรวลชวนรจนา | ไปดูหน้ามันเล่นก็เป็นไร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนากลั้นยิ้มมิใคร่ได้ | ||
| สรวลพลางทางว่าข้าชอบใจ | เมียมันจะได้ดูหน้ากัน | ||
| ช่างแก้แค้นแทนทำพอสาสม | ที่เมียมาค้าคารมเย้ยหยัน | ||
| วันนี้น้องจะตามจรจรัล | ไปดูจมูกมันให้เต็มตา | ||
| ว่าแล้วทาแป้งแต่งตัว | ตามผัวออกจากเคหา | ||
| ปิดประตูเข็นกระไดแล้วไคลคลา | เจ้าเงาะหาบปลานำหน้าไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพระโรงรัตน์รูจี | อัญชลีสองกษัตริย์เป็นใหญ่ | ||
| เจ้าเงาะยืนยิ้มหัวไม่กลัวใคร | ทิ้งปลาลงไว้ให้พ่อตา | ||
| รจนาจึงทูลบิตุรงค์ | นี่ปลาส่งส่วนตัวผัวข้า | ||
| อุตส่าห์เสาะเพราะเกรงพระอาญา | ได้มาน้อยนักสักสองร้อย | ||
| ตามประสายากเย็นเข็ญใจ | ไม่มีบ่าวมีไพร่ใช้สอย | ||
| ผัวเมียสองคนจนกรองกรอย | ไม่เลิศลอยเหมือนลูกสาวของท้าว | ||
| หกเขยเขาดีมียศศักดิ์ | ท่านพ่อตาโปรดนักรักใคร่ | ||
| ไปหาปลามาแล้วหรืออย่างไร | เห็นจะได้มากมายหลายกระบุง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เคืองขัดฟัดหมอนผลุ | ||
| คันมือคันไม้หมั่นไส้พุง | ไม่สมที่หมายมุ่งจะฆ่าฟัน | ||
| อีรจนาพาผัวมาเย้ยได้ | แค้นใจเหลือที่จะอดกลั้น | ||
| เพราะอ้ายเขยขี้เค้าเหล่านั้น | พากันเซอะซะไปกระไร | ||
| จึงชี้หน้าด่าลูกทั้งหกนาง | มึงช่างหากำชับผัวไม่ | ||
| ปานนี้มิมาน่าแค้นใจ | กูจะใคร่ฆ่าเสียให้ม้วยมุด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยร้อนใจดังไฟจุด | ||
| เร่งฝีพายเต็มทีตีรุด | ครั้นถึงหยุดจอดเรือเข้าเหนือแพ | ||
| หิ้วปลาพากันมาโดยด่วน | บ่าวตามเป็นพราวแบกอวนแห | ||
| ตรงมาวังพลันไม่ผันแปร | หญิงชายร้องแซ่ว่าแพ้เงาะ | ||
| ทั้งหกอกสั่นขวัญหนี | ครั้งนี้ตายจริงวิ่งออกเหยาะ | ||
| คลานเข้าไปเฝ้าเขาหัวเราะ | เห็นปลาอ้ายเงาะยิ่งเสียใจ | ||
| คิดอายด้วยปลายจมูกวิ่น | ก้มหน้าดูดินหาเงยไม่ | ||
| พรั่นตัวกลัวตายเป็นพ้นไป | ภาวนาหายใจมิใคร่ทัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เคืองขุ่นหุนหัน | ||
| จึงว่าไปแก่หกเขยนั้น | กูจะใคร่ฆ่าฟันบั่นรอน | ||
| แต่อ้ายเงาะทรพลคนอัปรีย์ | มันยังดีกว่ามึงมาถึงก่อน | ||
| เออนี่มิไปเที่ยวจอดนอน | ไม่รู้เร็วรู้ร้อนเจ้าคนดี | ||
| บ่าวไพร่ไปด้วยก็หนักหนา | ได้ปลามาไม่พอจะเซ่นผี | ||
| กูคิดนิดเดียวดอกครั้งนี้ | หาไม่ชีวีจะบรรลัย | ||
| เออจมูกนั่นถูกอะไรนั่น | เหมือนกันกับเขาเชือดเลือดไหล | ||
| จงบอกให้แจ้งกูแคลงใจ | อย่าได้เอาเท็จมาเจรจา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เขยใหญ่ทั้งหกตกประหม่า | ||
| แกล้งทูลเลี้ยวลดปดพ่อตา | แต่เช้าข้าก็ไปไม่เชือนแช | ||
| ลงตีอวนฉุดลากที่ปากลัด | ปากเป้ากัดจมูกลูกเป็นแผล | ||
| ในแม่น้ำลำคลองทั้งสองแคว | ไม่มีปลาเลยแต่สักตัวเดียว | ||
| สู้ทนแดดแผนร้อนไปยังค่ำ | จนตัวลอกออกดำเหมือนม่าเหมี่ยว | ||
| อุตส่าห์บุกขึ้นบกรกเรี้ยว | ไปได้ปลายหน่อยเดียวที่ในบึง | ||
| ไม่เคยพบเคยเห็นเลยเช่นนี้ | ชะรอยผีโขมดมันโกรธขึ้ง | ||
| ให้ปวดหัวมัวตาหน้าตึง | แทบจะไม่มาถึงท้าวไท | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบุตรีพี่ผู้ใหญ่ | ||
| เห็นผัวแพ้เงาะป่าขัดใจ | ผักปลาหาได้มานิดเดียว | ||
| มิหนำซ้ำจมูกแหว่งหวะ | แล้วพระบิดาก็โกรธเกรี้ยว | ||
| ขายหน้าทุกสิ่งจริงเจียว | นางเหลียวชำเลืองเคืองค้อน | ||
| หกนางต่างคนบ่นบ้า | มันไม่น่าร่วมเรียงเคียงหมอน | ||
| บ้างกอดเข่าเจ่าจุกทุกข์ร้อน | มืออ่อนตีนอ่อนเสียน้ำใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาสรวลสันต์ไม่กลั้นได้ | ||
| เจ้าเงาะหัวร่ององอไป | ทำบุ้ยปากบอกใบ้ให้เมียดู | ||
| เห็นจมูกเขยใหญ่เลือดไหลย้อย | แหว่งวิ่นสิ้นทั้งหมดน่าอดสู | ||
| สาแก่ใจมันสิติผัวกู | นางยิ้มอยู่ในหน้าไม่พาที | ||
| แล้วแลดูพี่สาวทั้งหกคน | เห็นหน้าหม่นหมองคล้ำดำมิดหมี | ||
| ทำแยบคายชายตาดูสามี | เทวียิ้มแย้มกระแอมไอ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางเคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| ต่างคนชื้หน้าแล้วว่าไป | หัวเราะเยาะใครอีรจนา | ||
| เหตุว่าผัวมึงมาถึงก่อน | ทำแสนงอนเจ๋อเจ๊อะสะเออะหน้า | ||
| ผัวกูไม่รู้จักจับผักปลา | จึงได้มาไม่มากเหมือนหม่อมเงาะ | ||
| ดูเยี่ยงผัวเจ้ามันเคล่าคล่อง | ห้วยหนองเหนือใต้เข้าใจเสาะ | ||
| นางเมียขึ้นหน้ามาหัวเราะ | เปรียบเปรยเย้ยเยาะไม่เจียมตัว | ||
| เขาขับไล่ไปอยู่เสียปลายนา | ยังดื้อด้านเข้ามาว่าแทนผัว | ||
| ไม่มีความยำเยงเกรงกลัว | ไสหัวออกไปเสียจากวัง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาตอบไปดังใจหวัง | ||
| ชิชะหม่อมพี่ที่ขึ้นซัง | ออกประดังด่าทอเล่นพอแรง | ||
| เฝ้ามาขับไล่ไสหัวหู | โกรธหรือว่าดูจมูกแหว่ง | ||
| แต่เห็นเขาหัวร่อก็ระแวง | ออกสกัดสแกงแกล้งพาโล | ||
| ผัวพี่ไปหาปลากับบ่าวไพร่ | น้อยหรือช่างได้มาอักโข | ||
| ผัวข้าหาปลาประสาโซ | แต่จมูกไม่โหว่เหมือนผู้ดี | ||
| พอรู้เช่นเห็นอยู่ว่าเท็จจริง | สู้ปิดปากหากนิ่งเสียดอกพี่ | ||
| จะให้ว่าหรือจะว่าออกเดี๋ยวนี้ | แล้วเหลียวดูสามีเห็นขึงตา | ||
| แค้นใจคิดจะใคร่อยู่ทะเลาะ | แต่เจ้าเงาะชี้ชวนไปเคหา | ||
| ถ่มน้ำลายรดให้แล้วไคลคลา | ตามผัวออกมาไม่พรั่นพรึง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางต่างพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| ลุกขึ้นเดินตามมาด่าอึง | ทำไมมึงจึงหัวเราะเยาะกู | ||
| เท็จจริงอย่างไรนั่นขันจ้าน | ใครปิดปากไว้วานอย่านิ่งอยู่ | ||
| จองหองพองขนเป็นพ้นรู้ | ลบหลู่ดูหมิ่นถิ่นแคลน | ||
| ผัวหาปลาผักได้นักหนา | หม่อมเมียได้หน้าขึ้นกว่าแขน | ||
| ค้าคารมเปรี้ยงเปรี้ยงออกเถียงแทน | ขีนแค่นเปรียบเปรยเย้ยเย้า | ||
| อย่าดูถูกผัวกันกระนั้นนะ | ช่างเถิกคะค่อยยังชั่วกว่าผัวเจ้า | ||
| ถึงจมูกโหว่แหว่งก็ทำเนา | แต่หน้าตาของเขายังเพราพริ้ม | ||
| ไม่เหมือนเงาะอุบาทว์ชาติชั่ว | น่ากลัวหัวหูกระปุ่มกระปิ่ม | ||
| กลับจะมาหัวเราะเยาะยิ้ม | เปรมปริ่มในใจมิใช่น้อย | ||
| ชะช่างได้ผัวเงาะเหมาะสม | ปากกล้าค้าคารมดังต่อยหอย | ||
| ขึ้นเสียงเถียงคนบ่นตะบอย | มันน่าต่อยให้ยับลงกับมือ | ||
| แต่ปากเป้ากัดเขาก็เฝ้าถาก | นี่เป็นเบี้ยพอปากของเจ้าหรือ | ||
| ว่าพลางต่างเข้ายุดยื้อ | กล้าปากกลามมืออย่าหนีกัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะเห็นวุ่นวางเข้ากางกั้น | ||
| ทำบอกใบ้ให้รู้สำคัญ | แกล้งกระชั้นกระโชกโบกมือ | ||
| ก้มลงหลอนหลอกกลอกคอ | หกนางด่าทอก็ไม่ถือ | ||
| ทำเหมือนบ้าใบ้ได้แต่อือ | ตบมือหัวร่อล้อเลียนาง | ||
| เห็นพี่เมียชำเลืองเคืองค้อน | ก็ฉุดเมียมาสอนให้ค้อนบ้าง | ||
| ถือไม้เท้าก้าวเดินเป็นท่าทาง | ทีเสือลากหางให้นางกลัว | ||
| แล้วเด็ดใบไม้ปิดจมูกเล่น | ทำเป็นปัดแมลงวันสั่นหัว | ||
| ชี้มือให้เห็นแล้วเล่นตัว | เย้ายั่วพี่เมียไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยขัดใจเป็นหนักหนา | ||
| เห็นเงาะเยาะหยอกภรรยา | โกรธาตาเขียวเหลียวดูกัน | ||
| โมโหฮึดฮัดขัดเขมร | โจงกระเบนคาดกระเบนเสียให้มั่น | ||
| หมายเขม้นกำหมัดกัดฟัน | มุทะลุดุดันไม่พรั่นพรึง | ||
| ลางคนบ่นด่าเงาะอุบาทว์ | จะใคร่เอาเท้าคาดเข้าสักผึง | ||
| บ้างว่าจะถองสักสองตึง | ทำไมมึงมาหยอกหลอกเมียกู | ||
| ดูเถิดเกิดมาไม่เคยพบ | บ้าใบ้บัดซบทำลบหลู่ | ||
| จองหองถองเสียให้เมียดู | ด่าพลางทางกรูกันเข้าไป | ||
| เห็นเงาะเงื้อไม้ไล่กวัดแกว่ง | ระรันสันหน้าแข็งไม่เข้าใกล้ | ||
| บ้างนั่งลงลูบล่อยที่รอยไม้ | น้ำตาไหลครางออดกอดมือ | ||
| บ้างหลับตาหน้าเมินซ้อมหมัด | เงาะวัดล้มกลิ้งลุกวิ่งตื๋อ | ||
| ทรุดนั่งลงนวดปวดสะดือ | คราวฮือไปทีเดียวไม่เหลียวแล | ||
| เขยใหญ่ย่างเท้าก้าวถลำ | เงาะตำต่อยจมูกถูกแผล | ||
| ล้มลงกลอกคอทำท้อแท้ | เมียมาช่วยแก้ทุบต้นคอ | ||
| ลางคนถอยหลังเข้าบังเสา | ร้องว่าพวกเราอย่ากลัวพ่อ | ||
| บ้างกำหมัดขัดเขมรไม่ย่อท้อ | ใจคอเหี้ยมฮึกบึกบึน | ||
| เข้าชกเงาะเดาะเอาด้วยเข่าลา | ล้มผวาเจ็บจุกลุกไม่ขึ้น | ||
| พูดไม่ออกกลอกหัวมัวมึน | เพื่อนกันวิ่งครืนกระจายไป | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะทำเงื้อศอกบอกใบ้ | ||
| เหลียวหลังเหลียวหน้าคว้าไม้ | กวัดแกว่งแกล้งไล่กระชั้นชิด | ||
| เห็นเขยทั้งหกตกประหม่า | ก็หวดไปหวดมาให้ผิดผิด | ||
| ควงกระบองลองแรงแผลงฤทธิ์ | ไล่ติดตามตีหนีกระจุย | ||
| ดูเห็นเต็มกลัวก็หัวเราะ | ยิ้มเยาะยกมือขึ้นกุ๋ยกุ๋ย | ||
| ตั้งท่าทีทำเป็นรำซุย | เบี้ยวบุ้ยปากหลอกกลอกหน้าตา | ||
| เห็นหกเขยคอยจะถอยหลัง | ก็หยุดยั้งยืนมองป้องหน้า | ||
| แล้วย่างเท้าสาวหมัดเข้ามา | ถลึงตาขู่เข็ญเขม้นดู | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยเข็ดขยาดไม่อาจสู้ | ||
| เหลียวซ้ายแลขวาหาประตู | เอ๊ะอยู่แล้วกระมังครั้งนี้ | ||
| บ้างเข้าแอบหลังภรรยา | รุนเมียออกหน้าเจ้าอย่าหนี | ||
| ความกลัวตัวสั่นไม่สมประดี | เต็มทีลงนั่งภาวนา | ||
| บ้างกำหมัดขัดเขมรหมายเขม้น | ทำเป็นว่าพี่นี้คนกล้า | ||
| ครั้นเห็นเงาะถือไม้ใกล้เข้ามา | ก็วิ่งล้มถลาขาแข้งเพลีย | ||
| ลางคนยืนนิ่งไม่วิ่งหนี | อุตส่าห์ทำใจดีแก้เบี้ย | ||
| พูดจาอวดฮึกศึกหน้าเมีย | สู้เสียชีวิตไม่คิดกลัว | ||
| ทำเหน็บรั้งตั้งมวยอยู่แต่นอก | เห็นเจ้าเงาะเงื้อศอกก็กลอกหัว | ||
| ย่อท้อถอยหลังระวังตัว | ต่างกลัวเงาะป่าทุกคนไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบุตรีพี่ผู้ใหญ่ | ||
| เห็นผัวกลัวเงาะก็ขัดใจ | จึงว่าเอออะไรช่างไม่อาย | ||
| แต่เงาะป่าล้าใบ้บัดสี | ช่างชวนกันวิ่งหนีมันง่ายง่าย | ||
| เสียแรงกำเนิดเกิดเป็นชาย | ไม่อดสูดูร้ายเขามั่งเลย | ||
| โมโหหันมาด่าน้องสาว | ไม่ว่ากล่าวผัวมั่งทำนั่งเฉย | ||
| นิ่งให้ไอ้เงาะมาเยาะเย้ย | ต่อยตีพี่เขยของตัวเอง | ||
| ขึ้นเสียงเถียงพี่แล้วมิหนำ | ยังซ้ำให้ผัวตัวข่มเหง | ||
| ดูถูกผู้ใหญ่ช่างไม่เกรง | มันเหมาะเหม็งแล้วหรือนางรจนา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนายิ้มพลางทางว่า | ||
| เออพี่นี้อะไรช่างพูดจา | กลับมาว่ากระนั้นขันจริง | ||
| เดิมใครด่าทอก่อก่อน | ควักค้อนเคืองขัดสะบัดสะบิ้ง | ||
| ครั้นเขาว่ามั่งก็ชังชิง | ชวนกันวิ่งมาตามจะต่อยตี | ||
| หกเขยเข้ากลุ้มรุมกันชก | ให้เอามือใส่พกเสียหรือพี่ | ||
| สาแก่ใจเจ็บปวดอวดกล้าดี | เออเดี๋ยวนี้จะให้ใครห้ามปราม | ||
| เมื่อเป็นผู้ใหญ่ไม่ไว้ตัว | ยังจะมาว่าผัวข้าหยาบหยาม | ||
| ชะพี่เขยข้าหน้างามงาม | บุ่มบ่ามบ้าเลือดไม่เหือดเลย | ||
| นั่นแนแผลเก่าปากเป้ากัด | ซ้ำมาถูกหมัดนิจจาเอ๋ย | ||
| ว่าพลางทางหัวเราะเยาะเย้ย | พี่เขยพี่สาวฉาวไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาหนวกหูอยู่ไม่ได้ | ||
| ลุกเดินออกมาว่าอะไร | ไม่เกรงเนื้อเกรงใจผู้ใหญ่เลย | ||
| ล้วนแต่พี่น้องท้องเดียวกัน | จะฆ่าฟันกันได้แล้วหรือเหวย | ||
| ลูกเต้าเช่นนี้กูมิเคย | อกเอ๋ยแต่ละคนพ้นกำลัง | ||
| รจนาพาผัวออกไปเสีย | เจ้าเหล่านี้ห้ามเมียเสียมั่ง | ||
| เอออะไรอื้ออึงตึงตัง | หน้าที่ลุกที่นั่งชั่งไม่เกรง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามานต์ว่าเหม่มันข่มเหง | ||
| อ้ายเงาะป่ากล้าทำไม่ยำเยง | กูออกสู้ดูเองลองสักยก | ||
| ทำไมบ้าใบ้ตาขาว | อีสาวสาวเหล่านี้อย่าวิตก | ||
| ลุกขึ้นขบฟันงันงก | เห็นทั้งหกตาลายหมายว่าเงาะ | ||
| กระหยับย่างสามขุมสุ่มตะรัง | ไม่ทันตั้งต่อยตำซ้ำศอกเดาะ | ||
| ถองลงตรงจมูกถูกจำเพาะ | เขยใหญ่ใจเสาะร้องออกโอย | ||
| มองเขม้นเป็นครู่ก็รู้จัก | ลงนั่งเหนื่อยหอบฮักหิวโหย | ||
| แล้วร้องด่าเงาะมี่น่าตีโบย | มานี่โวยเล่นกับกูดูสักครั้ง | ||
| เห็นฮึกคึกคักขึ้นหนักหนา | ไล่ล่วงเข้ามาหน้าที่นั่ง | ||
| แต่แค้นอ้ายหกคนพ้นกำลัง | มันเฝ้าถอยหลังไปอย่างเดียว | ||
| ยังว่าตัวต่อตัวช่างชั่วชาติ | น้อยหรือนี่ขี้ขลาดตาเหมี่ยว | ||
| เป็นฝูงเป็นคณาทำหน้าเซียว | แต่อ้ายเงาะคนเดียวก็กลัวมัน | ||
| แล้วเรียกนางมณฑามาเสียนี่ | ไม่พอที่พอทางออกกางกั้น | ||
| อย่าห้ามปรามเลยปล่อยให้ต่อยกัน | ช่างมันเป็นไรจะได้ดู | ||
| น้อยหรือสนุกนักไม่พักหา | ยังว่าจะให้มีมวยหมู่ | ||
| ลูกเขยยายแต่ละคนพ้นรู้ | ชะต้าน่าเอ็นดูเหมือนลูกเล็ก | ||
| ทุดอ้ายหกเขยใหญ่ช่างใจเสาะ | ราวกับอ้ายเงาะมันกินเหล็ก | ||
| ถูกเจ็บเข้าไม่ได้ดังใจเจ๊ก | แต่เด็กเด็กมันก็ดีกว่ามึง | ||
| อีเมียก็สุดใจมิใช่ชั่ว | ดูหรือน้องของตัวก็โกรธขึ้ง | ||
| อีรจนาด่าพี่มี่อึง | กระทบตีนตึงตึงไม่เกรงกลัว | ||
| กูยังแค้นมึงอยู่ไม่รู้หาย | หน้าไม่อายเอาอ้ายเงาะเป็นผัว | ||
| นี่หากหาปลาได้จึงรอดตัว | หาไม่ก็หัวจะปลิวไป | ||
| ฯ ๒๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาหุนหันหมั่นไส้ | ||
| เห็นบิดาเคืองขุ่นฟุนไฟ | เข้าข้างเขยใหญ่ก็เดือดดาล | ||
| จึงชวนผัวไปลาพ่อตาเสีย | อย่าอยู่ช้าพาเมียออกไปบ้าน | ||
| นางสอนให้นั่งลุกคุกคลาน | กราบกรานท่านเสียหน่อยหนึ่งตามจน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะก้มกราบยิบสักสิบหน | ||
| แกล้งเลียนล้อต่อหน้าท้าวสามนต์ | เฝ้าก่นหัวเราะริกกระดิกเท้า | ||
| เห็นพ่อตาทำไรก็ทำมั่ง | เหมือนบ้าหลังจริงจริงยิงฟันขาว | ||
| ทำโจงกระเบนใหม่ไว้หางยาว | แกล้วปัดหัวผัวพี่สาวของเมียไป | ||
| แล้วยืนมองป้องหน้าดูจมูก | เห็นรอยถูกมีดเชือดเลือดยังไหล | ||
| ตบมือหัวเราะเยาะไยไพ | บอกใบ้บุ้ยปากให้เมียดู | ||
| เห็นทั้งหกตกประหม่าก้มหน้านิ่ง | ไม่ไหวติงเต็มกลัวตัวเป็นหนู | ||
| จึงชวนรจนาโฉมตรู | ออกประตูรีบกลับไปฉับพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เคืองขัดอัดอั้น | ||
| แกล้งให้หาปลาจะฆ่าฟัน | อ้ายเงาะมันกลับได้มามากมาย | ||
| ยิ่งคิดยิ่งแค้นแน่นใจ | แม้นมิฆ่ามันได้ก็ไม่หาย | ||
| จึงตรัสแสร้งเสเพทุบาย | จะต้องการเนื้อทรายมาเลี้ยงกัน | ||
| ทั้งหกหามาแก้ตัวใหม่ | แม้นมิได้ชีวาจะอาสัญ | ||
| เสนาในไปบอกอ้ายเงาะนั้น | หาเนื้อมาให้ทันวันพรุ่งนี้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์รับสั่งใส่เกศี | ||
| ออกจากวังวิ่งเป็นลิงคลี | ตรงไปยังที่บ้านปลายนา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงกระท่อมก็ด้อมดู | เอ๊ะแล้วหลับอยู่กระมังหนา | ||
| ประหลาดใจมิได้ยินพูดจา | เสนานั่งมองร้องเรียกอึง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาคลี่ผ้าตาชุนขึง | ||
| ที่ไหนหย่อนผ่อนผูกเสียให้ตึง | นั่งปักสะดึงกรึงกรอง | ||
| ตั้งเนื้อตั้งใจจะให้ผัว | แต่งตัวไปกฐินเดือนสิบสอง | ||
| เจ้าเงาะแสนกลคนคะนอง | หัดร้องนางนาคปากร่ายซอ | ||
| เอากระทายตีแทนรำมะนา | ทำให้ภรรยาน่าหัวร่อ | ||
| รจนานั่งนิ่งฟังเอียงคอ | เพราะหนักหนาหนอเจียวพ่อคุณ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ พอได้ยินเสนามาร้องเรียก | ตื่นตะเกียกตะกายวายวุ่น | ||
| โดนสะดุดสะดึงผ้าตาชุน | กระทายหกตกใต้ถุนลงไป | ||
| รจนาเดินออกมานอกชาน | อำมาตย์เห็นหมอบกรานกราบไหว้ | ||
| นางจึงถามทักซักไซ้ | ธุระอะไรนะเสนา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาบังคมก้มหน้า | ||
| ทูลว่าสมเด็จพระบิดา | ให้ข้ามาบอกนางโฉมยง | ||
| บัดนี้มีรับสั่งจำเพาะ | ให้เจ้าเงาะหาเนื้อเข้าไปส่ง | ||
| พรุ่งนี้มิได้ดังใจจง | จะให้ลงอาญาฆ่าฟัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาตระหนกอกสั่น | ||
| เข้าไปในทับฉับพลัน | รำพันบอกผัวแล้วโศกา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระองค์ทรงเดช | บิตุเรศพาลผิดจะคิดฆ่า | ||
| เมื่อวันวานท่านใช้ให้หาปลา | ก็นึกว่าไม่รอดจะวอดวาย | ||
| นี่หากมีมนต์ดลจึงพ้นภัย | หาปลามาได้เอาไปถวาย | ||
| วันนี้มิหนำซ้ำอุบาย | แกล้งย้ายสั่งมาให้หาเนื้อ | ||
| เป็นเหตุเพราะเงาะร้ายให้ถอดเสีย | พ่อรูปทองของเมียมิได้เชื่อ | ||
| อ้อนวอนเท่าไรไม่เอื้อเฟื้อ | นี่เนื้อแท้ว่าเวรากรรม | ||
| ว่าพลางทางทรงโศกา | ชลนาฟูมฟองร้องร่ำ | ||
| สองกรข้อนอกจนฟกช้ำ | ครวญคร่ำกำสรดโศกี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้โลมใน | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะเยาะหยอกนางโฉมศรี | ||
| ซึ่งสั่งให้หาเนื้อคราวนี้ | เห็นพี่จะอับจนไม่พ้นตาย | ||
| ถึงตัวจะบรรลัยก็ไม่ว่า | วิตกแต่รจนาจะเป็นม่าย | ||
| ว่าพลางแย้มยิ้มพริ้มพราย | โอบอุ้มโฉมฉายขึ้นบนเพลา | ||
| สวมสอดกอดรัดสัมผัสต้อง | นี่แน่น้องจะให้ตายเสียไยเปล่า | ||
| เชยแก้มแนมปรางทางโลมเล้า | พี่ว่าเล่นดอกเจ้าอย่าตกใจ | ||
| ทำไมกับเนื้อถึกอย่านึกพรั่น | สักพันหนึ่งสองพันก็หาได้ | ||
| ไม่เคยเห็นฝีมือพี่หรือไร | ร้องไห้ไยให้เสียน้ำตา | ||
| แต่เพียงนี้มิพอจะยากเย็น | ร้องละครนอนเล่นเสียดีกว่า | ||
| เหมือนกันนั่นและกับหาปลา | อะไรกับน้ำหน้าอ้ายหกคน | ||
| พรุ่งนี้มิปากก็ใบหู | จะเชือดเสียให้ดูอีกสักหน | ||
| เสสรวลชวนนางนฤมล | ขึ้นบนเตียงนอนสำราญใจ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ กล่อม | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นดาวเดือนเลื่อนลับเมฆา | สุริยาแย้มเยี่ยมเหลี่ยมไศล | ||
| พระชมโฉมโลมนางทรามวัย | ดวงใจเจ้าค่อยอยู่จงดี | ||
| ตะวันชายบ่ายหน่อยจะกลับมา | แก้วตาอย่าหม่นหมองศรี | ||
| สั่งเสียเมียแล้วจรลี | มาทรงเกือกแก้วมณีทันใด | ||
| จับไม้เท้าก้าวลงจากเคหา | สำแดงอานุภาพแผ่นดินไหว | ||
| เหาะทะยานผ่านเมฆมาไรไร | ตรงไปไพรวันอรัญวา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงหยุดยั้ง | ที่ร่มรังสูงใหญ่ใบหนา | ||
| พระถอดเงาะซ่อนไว้ให้ลับตา | แล้วร่ายมนต์มหาจินดาพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ ฝูงเนื้อไนป่ามามากมาย | ทั้งละมั่งกวางทรายและฉมัน | ||
| ดูดาษแดงไปทั้งไพรวัน | เป็นฝูงฝูงวิ่งพันกันมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยคิดวิตกหนักหนา | ||
| ครั้นรุ่งรีบแต่งตัวกลัวจะช้า | เรียกหาบ่าวไพร่พร้อมพรัก | ||
| บ้างหาแร้วบ่วงหวายหลายอย่าง | ไปถึงกลางพงไพรจะได้ดัก | ||
| บ้างเอาผ้าพันพุงจูงสุนัข | คึกคักขนข่ายขึ้นหลังช้าง | ||
| แล้วผูกม้าเคยขับสำหรับขา | บังเหียนอานพานหน้าซองหาง | ||
| ม้าหลังเปล่าบ้างผูกเบาะบาง | ต่างต่างแต่งอวดประกวดกัน | ||
| เกณฑ์กองกระบือบ่าวชาวบ้านนอก | ล้วนถือหอกเสวียนแทงแข็งขัน | ||
| พรานปืนพื้นแม่นหมายสำคัญ | โผงไรโผงนั้นไม่ผิดเลย | ||
| บ่าวผู้ชายตะพายย่ามถือกล่อง | หิ้วปิ่นโตลายทองของเสวย | ||
| บ้างแบกเสบียงหาบหามตามเคย | อย่าช้าเลยจวนสายจะเสียการ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นพร้อมเสร็จทุกสิ่งไม่นิ่งช้า | หกองค์ทรงม้าออกจากบ้าน | ||
| รีบขับพาชีตะลีตะลาน | พวกพรานนำหน้าพาไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ลุล่วงมรคามาถึง | ป่าซึ่งมฤคาเคยอาศัย | ||
| สั่งให้ขึงข่ายไว้ชายไพร | บ้างดักแร้วแล้วใส่บ่วงราว | ||
| ลางคนปักขวากที่ปากทาง | หาช่างสันทัดขัดจั่นห้าว | ||
| ขี่กระบือเข้าค้นอยู่เกรียวกราว | โห่ฉาวอึงไปทั้งไพรวัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พรานปืนซุ่มรกขึ้นนกง่า | สวนมาตามรอยจะคอยลั่น | ||
| หมายตรงหลงยิงเพื่อนกัน | ล้มดิ้นยันยันอยู่แทบตาย | ||
| เนื้อถึกที่ไหนก็ไม่มี | พบแต่เสือหมีหมูกระต่าย | ||
| ลงนั่งนึกปรึกษากับบ่าวนาย | ดีร้ายจะเป็นเช่นหาปลา | ||
| ลางคนบ่นว่าข้าได้ทัก | ไม่เซ่นวักพระไพรเจ้าป่า | ||
| จึงให้ปลูกศาลขึ้นเพียงตา | สังเวยเทวดาทันใด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วขึ้นม้าพากันเที่ยวค้น | พบรอยเกลื่อนกล่นมาใหม่ใหม่ | ||
| ตาสอดลอดแลเห็นแต่ไกล | โน่นมิใช่เนื้อหรือร้องอื้ออึง | ||
| หกเขยยินดีปรีดา | วางม้าขับใหญ่เข้าไปถึง | ||
| เห็นพระสังข์นั่งอยู่ดูตะลึง | งามละม้ายคล้ายคลึงเจ้าของปลา | ||
| เอ๊ะจะเป็นเช่นนั้นอีกกระมัง | จมูกยังไม่หายขายหน้า | ||
| ว่าพลางทางลงจากม้า | เข้าไปวันทาสุรารักษ์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์แสร้งทำไม่รู้จัก | ||
| ลุกขึ้นขู่เข็ญเต้นคึกคัก | ถามทักซักไซ้ไปไหนมา | ||
| เที่ยวซุกซี้ซุกซนเจ้าคนเอก | โหยกเหยกยุ่งหยาบบาปหนา | ||
| มาลอบลักไล่เนื้อเบื่อปลา | ข่มเหงเราเจ้าป่าพนาลี | ||
| ทำจู่ลู่ดูหมิ่นถิ่นแคลน | ล่วงลัดตัดแดนมาถึงนี่ | ||
| จะยำเยงเกรงใครก็ไม่มี | เจ้าเหล่านี้คอจะหักสักคราว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกตกประหม่าตาขาว | ||
| แข็งใจแจ้งความตามเรื่องราว | ข้าเป็นลูกเขยท้าวสามนต์ | ||
| พ่อตาให้หาเนื้อกับอ้ายเงาะ | ทูลเดาะข้อความมาแต่ต้น | ||
| เอ็นดูด้วยช่วยชีวิตทั้งหกคน | พอพ้นโพยภัยบรรลัยลาญ | ||
| ข้าหาเนื้อที่ไหนก็ไม่มี | มฤคีหนีมาอยู่หน้าฉาน | ||
| เทพเจ้าจงได้โปรดปราน | ขอประทานเนื้อไปให้พ่อตา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ยิ้มพลางทางว่า | ||
| อันหมู่มฤคีนี้นา | มันหนีมนุษย์มาพึ่งเรา | ||
| ข้างท่านก็ร้อนตัวกลัวภัย | มาขอแล้วมิให้อย่างไรเล่า | ||
| เถิดชิบาปกรรมก็ทำเนา | แต่จะให้เปล่าเปล่านั้นไม่เคย | ||
| ถ้ารักชีวิตจงคิดดู | เนื้อจะแลกใบหูหกเขย | ||
| แม้มิยอมให้ไม่ได้เลย | ผิดวิสัยสังเวยเทวา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยได้ฟังนั่งก้มหน้า | ||
| เสียใจทุกคนบ่นนินทา | เทวดาเดนแช่งมันแกล้งจริง | ||
| จมูกแล้วหูเล่าเจ้าเล่ห์ | สมคะเนคงยักเอาสักสิ่ง | ||
| ขี้คร้านง้องอนวอนวิง | ผิดก็เพียงผู้หญิงมันไม่รัก | ||
| ว่าพลางทางหยิบเอาดาบมา | ส่งให้เทวดาทั้งฝัก | ||
| แล้วเอียงหูเข้าไปใจทึกทัก | อย่าเชือดให้หนักนักเลยพ่อคุณ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ฉุดหูกระชากลากหลุน | ||
| จะเชือดแต่เบาเบาเอาบุญ | แล้วชักดาบญี่ปุ่นออกเงือดเงื้อ | ||
| เขยใหญ่ขยั้นพรั่นพรึง | ร้องอึงอุยหน่าน่าเจ็บเหลือ | ||
| อย่างนี้ที่ไหนจะได้เนื้อ | ทำทีจะเชือดเถือแล้วรั้งรอ | ||
| แกล้งขยับจับจ้องลองใจ | เลือกเอาข้างไหนจะดีหนอ | ||
| เหนี่ยวหูขวาลงให้ก่งคอ | แข็งข้อเชือดขาดเลือดสาดไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ปี่กลอง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยนิ่วหน้าน้ำตาไหล | ||
| จมูกแล้วหูเล่าเฝ้าเสียใจ | นี่เนื้อกรรมกระไรของเรา | ||
| เจ็บปวดหนักหนาอุตส่าห์ทน | ต่างคนบ่นออดนั่งกอดเข่า | ||
| เร่งอารักษ์ตักเตือนรบเร้า | เนื้อจะให้ไหนเล่าอย่านิ่งนาน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ตั้งสัตย์อธิษฐาน | ||
| เนื้อถึงที่ตายก็วายปราณ | มากประมาณสมหวังดังใจ | ||
| แล้วว่าอย่าพักประดักประเดิด | เอาไปเถิดคนละตัวตามได้ | ||
| ถ้าจะต้องการเนื้ออีกเมื่อไร | อย่างเกรงใจจงออกมาบอกเรา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยละห้อยสร้อยเศร้า | ||
| คำนับรับสั่งแต่เบาเบา | แล้วบังคมก้มเกล้าลามา | ||
| ทั้งบ่าวไพร่นายมุลวุ่นวาย | ผูกมัดเนื้อทรายขึ้นใส่บ่า | ||
| หกองค์ทรงม้าแล้วไคลคลา | ดั้นดัดลัดป่าไปธานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์สวมรูปเงาะของยักษี | ||
| ใส่เกือกแก้วแล้วมัดมฤคี | ครบยี่สิบถ้วนล้วนมรณา | ||
| เอาไม้เท้าทำคานหาบห้อย | ยกลอยขึ้นวางเหนืออังสา | ||
| สำแดงแผลงอิทธิฤทธา | เหาะทะยานผ่านฟ้ามาไรไร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงลงหยุดอยู่ | นอกประตูบ้านตัวริมรั้วไร่ | ||
| นึกจะชวนรจนาคลาไคล | กลัวจะไปทะเลาะเกาะแกะกัน | ||
| ไปแต่กูผู้เดียวดีกว่า | จะได้ล้อพ่อตาเล่นขันขัน | ||
| ถึงทั้งหกจะชกต่อยตีรัน | ได้สู้กันแต่ลำพังไม่กังวล | ||
| คิดแล้วเดินเดาะเหยาะย่าง | หาบเนื้อมากลางท้องถนน | ||
| แกล้งทำเกะกะปะผู้คน | เอาหาบชนล้มคว่ำคะมำไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | หญิงชายชาวเมืองน้อยใหญ่ | ||
| ต่างคนร้องว่าช่างกระไร | เรี่ยวแรงสุดใจเจียวเจ้าเงาะ | ||
| หาบเนื้อที่ไหนมานักหนาหนอ | ไม่หนักเลยหรือพ่อพาวิ่งเหยาะ | ||
| ลางคนบ้างกลัวบ้างหัวเราะ | บ้างร้องเยาะงามเหวยลูกเขยพระยา | ||
| เด็กเด็กเซ็งแซ่เข้าแห่ห้อม | พรั่งพร้อมล้อมหลังล้อมหน้า | ||
| บ้างร้องว่าเออเกลอกูมา | เฮฮาโห่ฉาวกราวเกรียว | ||
| บ้างชวนว่าอย่าเพ่อไปก่อน | อยู่รำละครสักประเดี๋ยว | ||
| เจ้าเงาะไม่หยุดฉุดเป็นเกลียว | หน่วงเหนี่ยวห้ามปรามมาตามทาง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะเห็นเด็กพร้อมล้อมรอบข้าง | ||
| พอถึงที่ราบราบเอาหาบวาง | เข้ายืนกลางแล้วเล่นเต้นรำไป | ||
| ใครตบมือผิดพลั้งจังหวะ | ประเตะปะตะต่อยถองจนร้องไห้ | ||
| แกล้งทำฮึดฮัดขัดใจ | ยกหาบขึ้นได้เดินดุ่มมา | ||
| ใครจะห้ามอย่างไรไม่ฟังเจ้า | ตรงเข้าท้องพระโรงข้างหน้า | ||
| ทิ้งเนื้อลงไว้ให้พ่อตา | แล้วเดินไปเดินมาไม่เกรงกลัว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เห็นมันให้คันหัว | ||
| เรี่ยวแรงกระไรเหมือนควายวัว | เนื้อยี่สิบตัวช่างหาบมา | ||
| ไม่สมหวังดังจิตที่คิดไว้ | หุนหันหมั่นไส้จะใคร่ฆ่า | ||
| เห็นมันแล้วหรือเจ้ามณฑา | หยาบช้าทะนงไม่กลัวใคร | ||
| แค้นใจไอ้เขยทั้งหกคน | มันไปเที่ยวซุกซนอยู่ข้างไหน | ||
| ทำให้อายขายหน้าทุกคราไป | อีเมียก็ไม่กำชับกัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยไม่สบายรีบผายผัน | ||
| ครั้นถึงจึ่งขึ้นพระโรงคัล | บ่าวแบกเนื้อรันขึ้นไปตาม | ||
| เห็นเนื้อเงาะหนักหนาช่างหาได้ | หลากใจใครช่วยมันหาบหาม | ||
| คิดกลัวตัวสั่นครั่นคร้าม | กราบสามทีแล้วลงก้มพักตร์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ผุดลุกขึ้นกุกกัก | ||
| ชะลูกเขยข้ามันน่ารัก | ช่างได้เนื้อขาหักที่ไหนมา | ||
| ยิ่งให้แก้ตัวยิ่งชั่วช้า | จะใคร่ทำโทษทัณฑ์ฟันฆ่า | ||
| นี่หากคิดนิดเดียวด้วยธิดา | จะเป็นม่ายอาบหน้าประชาชน | ||
| บ่าวไพร่ไปด้วยก็พร้อมเพรียง | ชอบแต่สับเสี่ยงเสียให้ป่น | ||
| ก้มหน้าอยู่ไยไอ้หกคน | ดีแต่จะบ่นนินทากัน | ||
| เออหูถูกอะไรเลือดไหลหยด | ช่างเป็นเหมือนกันหมดอย่างไรนั่น | ||
| ไปเรือจมูกวิ่นสิ้นทั้งนั้น | เข้าไพรวันหูแหว่งกูแคลงใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยก้มหน้าน้ำตาไหล | ||
| กราบทูลเยื้องยักกระอักกระไอ | ผันแปรแก้ไขตามจน | ||
| ข้าไปหาเนื้อวันนี้ | ช่างกระไรไม่มีทุกแห่งหน | ||
| ให้บ่าวไพร่ไล่บุกซุกซน | ลดเลี้ยวเที่ยวด้นค้นคว้า | ||
| ชะรอยฝีปีศาจประหลาดเหลือ | ซ่อนเนื้อเสียสิ้นทั้งป่า | ||
| แล้วดูเหมือนมืดน้อยลอยลงมา | ถูกหูข้าแหว่งวิ่นสิ้นทุกคน | ||
| ทั้งนี้ก็เพราะเคราะห์ของลูก | มาซ้ำถูกผีสางที่กลางหน | ||
| ต้องปลูกศาลเซ่นสรวงบวงบน | จึงได้เนื้อแต่คนละตัวเดียว | ||
| บ่ายคล้อยหน่อยหนึ่งก็กลับมา | ผีพาหลงไปในไพรเขียว | ||
| ลำบากบุกชัฎลัดเลี้ยว | จนหน้าเซียวแสบท้องเต็มที | ||
| รีบเดินแทบตายถึงชายทุ่ง | ก็ขับม้าหมายมุ่งมากรุงศรี | ||
| เป็นความสัตย์ทุกสิ่งจริงอย่างนี้ | ภูมีจงทรงพระเมตตา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์สำรวลสรวลร่า | ||
| ตบพระหัตถ์ตรัสแก่นางมณฑา | มันงามหน้าแล้วเหวยลูกเขยยาย | ||
| จมูกแหว่งหูวิ่นสิ้นทุกคน | สมประกอบชอบกลใจหาย | ||
| ทั้งสองหนก่นแต่เคราะห์ร้าย | ช่างไม่อายอดสูเลยดูเอา | ||
| ยังว่าจะหาญฮึกทำศึกเสือ | แต่หาปลาหาเนื้อก็แพ้เขา | ||
| คิดจะใคร่ฆ่าตีอ้ายขี้เค้า | มันจะตายเสียเปล่าไม่เข้าขา | ||
| แล้วเหลียวมาว่ากับลูกสาวใหญ่ | มึงเห็นผัวหรือไม่น่าขายหน้า | ||
| จมูกแหว่งหูวิ่นเวทนา | อนิจจานิจจาเป็นน่ากลัว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางต่างพิศดูผัว | ||
| สารพัดวิปริตผิดตัว | มันช่างชั่วจริงจริงทุกสิ่งไป | ||
| จมูกโหว่แล้วมิหนำซ้ำหูแหว่ง | เหมือนใครแกล้งเอามีดเชือดเลือดไหล | ||
| ลางคนบ่นว่าไม่น่าอะไร | จมูกใบหูวิ่นสิ้นงาม | ||
| บ้างว่าน่าอายกับอ้ายเงาะ | มันยิงฟันหัวเราะเยาะเย้ยหยาม | ||
| ดูดู๋หน้าดำเป็นน้ำคราม | ไม่หมดจดงดงามเหมือนเก่าเลย | ||
| ลางคนเคืองค้อนแล้วค่อนว่า | สมเพชเวทนานิจจาเอ๋ย | ||
| ไม่น่าสมาคมชมเชย | แต่นี้ไปไม่เลยแล้วพ่อคุณ | ||
| บ้างบ่นออดกอดเข่าเกาหัว | โกรธผัวตัวสั่นหันหุน | ||
| ทุกข์ทนพ้นกำลังนั่งง่วงงุน | ต่างคนเคืองขุ่นวุ่นวายใจ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะย่างย่องมองมาใกล้ | ||
| เห็นพ่อตาอาธรรม์เข้ากันไป | ไม่เอาโทษเขยใหญ่ดังสัญญา | ||
| ทำนับเนื้อที่กองลองเล่น | จะให้เห็นว่าใครได้มากกว่า | ||
| ชี้ไปตรงพระแสงแกล้งกลอกตา | เงื้อง่าท่าทีเหมือนฟาดฟัน | ||
| แล้วชี้เข้าที่คอเขยใหญ่ | บอกใบ้ให้รู้ดูขันขัน | ||
| ตบมือหัวร่ออยู่งองัน | เย้ยหยันหยอกล้อท่าพ่อตา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ว่าเหม่อ้ายเงาะป่า | ||
| จองหองพองขนพ้นปัญญา | ใบ้บ้าไม่เสงี่ยมเจียมตัวเลย | ||
| กลับจะมาชี้มือทำซื้อรู้ | สอนกูให้ฆ่าอ้ายหกเขย | ||
| มิหนำซ้ำหัวเราะเยาะเย้ย | เกินเลยนักหนาน่าขัดใจ | ||
| รู้แล้วคะชะเจ้ามันดีเหลือ | หาเนื้อได้มากกว่าเขยใหญ่ | ||
| ขึ้นหน้ามาอวดข้าหรือไร | กูฝากมึงไว้ด้วยเถิดวะ | ||
| คิดคิดขึ้นมาน่าต่อยตบ | บ้าใบ้บัดซบพึ่งพบปะ | ||
| เถิดจะงดอดโมโหถวายพระ | ถ้าทีหลังแล้วนะไม่ละมึง | ||
| ดูดู๋ยังทะนงองอาจ | หัวจะขาดแม่นมั่นสักวันหนึ่ง | ||
| พระกริ้วโกรธโกรธาด่าอึง | แล้วผินหลังนั่งบึ้งอยู่บนเตียง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เขยใหญ่ทูลขยายบ่ายเบี่ยง | ||
| อ้ายเงาะนี้หยาบช้าไม่น่าเลี้ยง | คนผู้จะดูเยี่ยงทั้งเวียงชัย | ||
| ไม่เกรงไม่ยำทำเกะกะ | จะกลัวพระบิดาก็หาไม่ | ||
| ชะรอยเป็นปีศาจประหลาดใจ | ดูตามันมิใคร่จะกะพริบ | ||
| วิปริตผิดมนุษย์นักหนา | ข้าเห็นว่าอ้ายนี่เป็นผีดิบ | ||
| มีกำลังพลังดังกินทิพย์ | เนื้อยี่สิบหาบมาถึงธานี | ||
| สารพัดผักปลาหาได้คล่อง | เพราะมันเป็นพวกพ้องกันกับผี | ||
| เงาะเงยไม่เคยเห็นเช่นนี้ | ภูมีอย่าไว้วางพระทัย | ||
| ขอให้ไสหัวเสียจากวัง | น่าชังชั่วชาติอุบาทว์ใหญ่ | ||
| จะละให้บ้าหลังเข้าวังใน | นานไปจะเคืองเบี้องบทมาลย์ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ร้อนใจดังไฟผลาญ | ||
| พิเคราะห์ดูเห็นจริงยิ่งรำคาญ | ให้หนาวสั่นสะท้านไปทั้งตัว | ||
| โบกพระหัตถ์ตรัสสั่งเสนา | อ้ายเงาะป่าปิศาจชาติชั่ว | ||
| ทั้งหกมันว่ากูน่ากลัว | ไสหัวออกไปเสียจากวัง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาคำนับรับสั่ง | ||
| ลุกขึ้นขัดเขมรเหน็บรั้ง | พร้อมพรั่งนายไพร่ไม่ย่อท้อ | ||
| บ้างขู่ขับจับไม้เงื้อง่า | เงาะป่าไม่กลัวทำหัวร่อ | ||
| ลางคนเข้าไปจะไสคอ | เจ้าเงาะงอหมัดชกก็ตกใจ | ||
| บ้างยุคนข้างหน้าว่าอย่ากลัว | ปลิ้นปลอกออกตัวไม่เข้าใกล้ | ||
| หกเขยร้องว่าช้าอยู่ไย | เข้าผลักไสเสนาให้คร่ายื้อ | ||
| ผู้คนเข้าพร้อมล้อมหน้าหลัง | ลากลู่ถูกังออกอึงอื้อ | ||
| เจ้าเงาะเหวี่ยงวัดสะบัดมือ | บ้างล้มกลิ้งวิ่งฮือกระจายไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะทำโกรธาคว้าไขว่ | ||
| ปะเตะต่อยทุบถองว่องไว | เลี้ยวไล่ประชิดติดพัน | ||
| มือจับอำมาตย์ข้างละคน | เอาหัวชนกันเล่นให้เห็นขัน | ||
| ทั้งสองร้องดิ้นอยู่ยันยัน | เจ้าเงาะหัวเราะงันชอบใจ | ||
| เห็นเขยทั้งหกทำงกเงิ่น | แกว่งไม้เท้าก้าวเดินเข้ามาใกล้ | ||
| ยิ่งถอยยิ่งประชิดติดไป | ยิ่งวิ่งยิ่งไล่กระโชกมา | ||
| เห็นท้าวสามนต์อยู่บนเตียง | ก้ยืนเมียงเขม้นมองป้องหน้า | ||
| ขู่ตะคอกหลอกล้อพ่อตา | เงื้อง่าทำทีจะตีรัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตื่นกลัวตัวสั่น | ||
| ไม่สู้ไม่รบหลบเป็นควัน | งันงันงกงกพลัดตกเตียง | ||
| สำคัญว่าเงาะตีถูกศีรษะ | สิ้นสติมานะร้องเต็มเสียง | ||
| นี่แน่ยายดูทีหรือที่เพรียง | หัวข้าแตกกี่เสี่ยงไม่รู้เลย | ||
| นางมณฑาว่าไฮ้ที่ไหนนั่น | เมื่อดีอยู่ทั้งนั้นนี่พ่อเอ๋ย | ||
| ตื่นเต้นเช่นนี้ข้ามิเคย | ลูกเขยของตัวกลัวมันไย | ||
| ท้าวสามนต์ว่ากล้าก็อย่าหนี | เหลือกำลังแล้วพี่ไม่อยู่ได้ | ||
| ว่าพลางเหวี่ยงวัดสะบัดไป | เมียยุดฉุดไว้พัลวัน | ||
| หกนางต่างชิงกันวิ่งหนี | สิ้นสติสมประดีไม่มีขวัญ | ||
| นักสนมกรมในทั้งนั้น | วิ่งปะทะปะกันล้มลุก | ||
| หกเจยผลุนโจนโดนพ่อตา | คิดว่าอ้ายเงาะซ้ำปล้ำปลุก | ||
| บ้างวิ่งไปซุ่มซ่อนซอนซุก | หมู่มุขมนตรีหนีพล่านไป | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาเห็นผัวกลัวเงาะใบ้ | ||
| วิ่งหนีเหนื่อยบอบหอบหายใจ | จึงว่าไฮ้อะไรนี่น่าชัง | ||
| พ่อเจ้าเถิดพ่อคุณอย่าวุ่นวาย | ไม่อดสูดูร้ายเขามั่ง | ||
| ว่าแล้วลากลู่ถูกัง | ผลักให้นั่งบนเตียงเสียงตึง | ||
| เห็นผัวตัวสั่นขวัญแขวน | คอยจะแล่นลุกยืนตื่นทะลึ่ง | ||
| นางฉวยฉุดยุดมืออย่าดื้อดึง | หยิกทึ้งทุบหลังให้นั่งลง | ||
| ท้าวสามนต์ได้คิดผิดแล้วแม่ | คนแก่คนเฒ่าเฝ้าลืมหลง | ||
| พี่ไม่ขี้ขลาดดอกบอกตรงตรง | ทีนี้คงค่อยยังชั่วไม่กลัวมัน | ||
| แต่เหน็ดเหนื่อยนักหนายังว้าวุ่น | แม่คุณเถิดขอน้ำกินสักขัน | ||
| หยิบจอกพลัดตกงกงัน | เห็นเงาะยังอยู่นั่นพรั่นพรั่นใจ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะทำเป็นหาเห็นไม่ | ||
| มองมองแล้วเมินเดินถือไม้ | เข้ามาข้างเขยใหญ่ทั้งหกคน | ||
| เห็นเหงื่อไหลไคลย้อยอยู่โซมหน้า | ก็หยิบกามาก้มอมน้ำพ่น | ||
| หัวหูเปียกปอนหายร้อนรน | ทำปากบ่นเสกน้ำชาซ่ำสาดรด | ||
| เห็นหกเขยเสยผมก้มหน้าอยู่ | ก็ฉุดหูออกไปเลือดไหลหยด | ||
| แกล้งจูงพาเที่ยวเลี้ยวลด | ถือไม้เท้าแทนตะพดเหมือนวิ่งวัว | ||
| เห็นพี่เมียเมียงมองอยู่ช่องฉาก | ก็บุ้ยปากให้ดูใบหูผัว | ||
| เอามือคลำทำเจ็บหูตัว | ปัดแมลงวันสั่นหัวยั่วเย้า | ||
| เห็นพ่อตาหน้าบึ้งขึ้งโกรธ | ทำขอโทษนั่งลุกคุกเข่า | ||
| ก้มกรานคลานหมอบพินอบพิเทา | กราบแล้วกราบเล่าเฝ้าหลอกล้อ | ||
| ฉวยได้ฝาชีที่ขันน้ำ | แกล้งทำปะเตะเล่นเช่นตะกร้อ | ||
| ท้าวสามนต์โกรธาด่าทอ | เจ้าเงาะหัวร่ององอไป | ||
| แล้วคุกเข่าเข้ามาลาแม่ยาย | ทำอุบายชี้มือบอกใบ้ | ||
| ลุกขึ้นเดินลอยชายสบายใจ | กลับไปกระท่อมทับฉับพลัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนเคหา | นั่งใกล้รจนาเมียขวัญ | ||
| แล้วแถลงแจ้งความทุกสิ่งอัน | สรวลสันต์สำราญทั้งสองรา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
ตอนที่ ๘ พระสังข์ตีคลี
| ยานี | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสหัสนัยตรัยตรึงศา | ||
| ทิพอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา | กระด้างดังศิลาประหลาดใจ | ||
| จะมีเหตุมั่นแม่นในแดนดิน | อมรินทร์เร่งคิดสงสัย | ||
| จึงสอดส่องทิพเนตรดูเหตุภัย | ก็แจ้งใจในนางรจนา | ||
| แม้นมิไปช่วยจะม้วยมอด | ด้วยสังข์ทองไม่ถอดรูปเงาะป่า | ||
| จำจะยกพหลพลเทวา | ลงไปล้อมพาราสามนต์ไว้ | ||
| ชวนเจ้าธานีตีคลีพนัน | น้ำหน้ามันจะสู้ใครได้ | ||
| จะขู่ให้งันงกตกใจ | ออกไปหาบุตรสุดท้อง | ||
| พระสังข์ครั้งนี้จะถอดเงาะ | งามเหมาะไม่มีเสมอสอง | ||
| พ่อตาจะได้เห็นเป็นรูปทอง | ทั้งทำนองเพลงคลีตีต่อยุทธ์ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดพลางทางมีพจนารถ | สั่งมาตุลีเทพบุตร | ||
| จงเตรียมพลเทวาถืออาวุธ | นิมิตเหมือนมนุษย์ชาวพารา | ||
| ทั้งหน้าหลังตั้งตามกระบวนทัพ | ให้เสร็จสรรพปีกซ้ายปีกขวา | ||
| เราจะยกพลไกรไคลคลา | ไปล้อมพาราท้าวสามนต์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | มาตุลีกราบงามลงสามหน | ||
| รีบออกมานอกไพชยนต์ | เตรียมพลเทวัญมิทันนาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ปฐม เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | อมรินทร์อินทร์องค์สรงสนาน | ||
| สอดใส่เครื่องทรงอลงการ | เนาวรัตน์ชัชวาลวาวแวว | ||
| แล้วลีลามาทรงเวไชยันต์ | ยกทัพเทวัญเป็นถ้องแถว | ||
| เดินโดยอากาศกคลาดแคล้ว | รีบขับรถแก้วลงมาพลัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ กราวนอก เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพาราสามนต์ | ขับพลเข้าล้อมเขตขัณฑ์ | ||
| ตั้งค่ายรายรอบเรียงรัน | ปักธงสำคัญทุกหมวดกอง | ||
| แล้วยิงปืนมณฑกนกสับ | ปล่อยตับตึงตังดังก้อง | ||
| บ้างทำสิงหนาถฆาตฆ้องกลอง | โห่ร้องสำทับให้เกรงกลัว | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ รัว | |||
| ๏ บัดนั้น | ชาวเมืองทั้งสิ้นได้ยินทั่ว | ||
| ตื่นตระหนกตกใจจวนตัว | จะยักย้ายครอบครัวก็ไม่ทัน | ||
| ต่างคนลนลานทุกบ้านช่อง | เสลือกสลนขนของเชี่ยนขัน | ||
| หอบที่นอนหมอนฟูกผูกพัน | ถามกันว่าจะไปข้างไหนดี | ||
| บ้างอุ้มบุตรฉุดมือเมียมา | ไหว้วอนพ่อตาให้พาหนี | ||
| ลูกหลานรุงรังครั้งนี้ | มิรู้ที่จะแอบแฝงอยู่แห่งไร | ||
| บ้างปืนขึ้นแย่งฝาหลังคาเรือน | สำคัญฟั่นเฟื่อนว่าไฟไหม้ | ||
| ขนเอาข้าวของลงกองไว้ | ร้องไห้เรียกหากันอึงอล | ||
| พวกผู้หญิงสาวแก่แม่ค้า | ตกใจคิดว่าขโมยปล้น | ||
| เบี้ยข้าวเททิ้งแล้ววิ่งวน | แน่นถนนปนไปกับผู้ชาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พวกพระยาพระหลวงทั้งปวงนั้น | ต่างตระหนกอกสั่นขวัญหาย | ||
| ไม่รู้เหตุผลต้นปลาย | ชวนกันผันผายเข้าวังใน | ||
| ครั้นถึงศาลาหน้าประตู | พอเพลาเช้าตรู่ประแจไข | ||
| ร้องเรียกเถ้าแก่ออกแซ่ไป | เร่งให้ปลุกบรรทมบังคมทูล | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ราชนเรนทร์สูร | ||
| หลับอยู่ไม่รู้เค้ามูล | แว่วเสียงสนมทูลก็ตกใจ | ||
| ผวาตื่นฟื้นตัวยังมัวเมีย | งัวเงียโงกหงับหลับไปใหม่ | ||
| นางมณฑาตื่นก่อนนอนไว | หลงใหลทะลึ่งลุกปลุกสามี | ||
| ท้าวสามนต์ละเมอเพ้อพำ | คิดว่าผีอำทำอู้อี้ | ||
| ลุกขึ้นแก้ฝันขันสิ้นที | เห็นจะดีหรือร้ายช่วยทายดู | ||
| นางมณฑาว่าไฮ้อะไรนั่น | ยังจะมาแก้ฝันกันอยู่ | ||
| เสียงคนอึงมี่ที่ประตู | เป็นอย่างไรไม่รู้เลยพ่อคุณ | ||
| ท้าวสามนต์หวาดหวั่นพรั่นพระทัย | เหลียวมาคว้าได้ดาบญี่ปุ่น | ||
| งกเงิ่นเดินด่วนซวนซุน | เมียรุนหลังส่งตรงออกมา | ||
| เปิดพระแกลแลเห็นเสนี | อึงมี่คึกคักหนักหนา | ||
| ร้องถามลงไปมิได้ช้า | อ้ายเงาะมันเข้ามาหรือว่าไร | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาข้าเฝ้าน้อยใหญ่ | ||
| ได้ยินสุรเสียงท้าวไท | ต่างคลานเข้าไปตรงบัญชร | ||
| พิดทูลถ้อยคำละล่ำละลัก | หายใจหอบฮักขยักขย่อน | ||
| ไม่รู้ว่าใครมาล้อมนคร | พระภูธรจงทราบพระบาทา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตระหนกตกประหม่า | ||
| ให้คิดคร้ามครั่นหวั่นวิญญาณ์ | เหลียวซ้ายแลขวาละล้าละลัง | ||
| ความกลัวตัวสั่นงันงก | เพ้อพกพูดจาเหมือนบ้าหลัง | ||
| ค่อยกระซิบถามเมียเงี่ยหูฟัง | เสียงอะไรตึงตังดังเหมือนปืน | ||
| เอ๊ะกูอยู่แล้วนะเสนี | เห็นไพรีจะมากมายหลายหมื่น | ||
| นี่หากว่ากล้าหาญพานยั่งยืน | จึงไม่ตื่นตระหนกตกใจ | ||
| เสียแต่แก่ชราหูตามัว | ทั้งตัวก็เจ็บปวดป่วยไข้ | ||
| ถ้าหนุ่มแน่นแม้นเหมือนแต่ก่อนไซร้ | จะเกรงกลัวอะไรกับไพรี | ||
| เหวยหมู่มาตยาข้าเฝ้า | อย่างไรเล่าเราจะสู้หรือจะหนี | ||
| กูเห็นเหลือกำลังแล้วครั้งนี้ | สุดที่จะต้านต่อให้ท้อแท้ | ||
| ได้ยินคนข้างหลังกระทั่งไอ | ตกใจจริงจริงออกวิ่งแร่ | ||
| ร้องเรียกเมียตัวสั่นว่านั่นแน | เสียงแซ่น่ากลัวทั้งรั้ววัง | ||
| ลูกเขยของกูมันอยู่ไหน | จะให้ไปต่อสู้ดูสักตั้ง | ||
| ขัดเขมรเหม่นเหม่ทำเก้กัง | ปากโป้งโผงดังสั่งเสนี | ||
| เร็วเร็วเร่งรัดจัดโยธา | ขึ้นพิทักษ์รักษาหน้าที่ | ||
| นายมูลขุนหมื่นพื้นตัวดี | กินเบี้ยหวัดผ้าปีมีมากมาย | ||
| เกณฑ์ให้ประจำซองป้องกัน | ระวังตัวกลัวมันจะปืนป่าย | ||
| ประตูทั้งสี่ทิศให้ปิดตาย | แล้วคั่วทรายคั่วกรวดเตรียมไว้ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาข้าเฝ้าน้อยใหญ่ | ||
| บังคมลงพากันออกไป | เรียกหาบ่าวไพร่วุ่นวาย | ||
| พวกเหล่าชาวคลังชาวแสง | เอาเสื้อแดงปืนผาออกมาจ่าย | ||
| แล้วขับไพร่ให้ขึ้นเชิงเทินราย | ตัวนายถือดาบตรวจดู | ||
| บ้างลากปืนใหญ่ขึ้นใส่ช่อง | ถือชุดจุดจ้องเทดินหู | ||
| เร่งกันลั่นดาลบานประตู | เป็นหมู่หมุ่เยียดยัดอัดไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ท้าวมัฆวานเป็นใหญ่ | ||
| สั่งพระวิษณุกรรมทันใด | จงแต่งสารถือไปในเมือง | ||
| บอกพระยาสามนต์มาตีคลี | พนันเอาบุรีให้ลือเลื่อง | ||
| แม้นแพ้เราอย่าพักยักเยื้อง | จะริบเอาบ้านเมืองเสียบัดนี้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พระวิษณุกรมมเรืองศรี | ||
| รับสั่งพระอินทร์ด้วยยินดี | อัญชลีแล้วลามาพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถืงประตูพระนคร | เห็นใส่กลอนมั่นคงลงเขื่อนขัณฑ์ | ||
| คนรักษาหน้าที่นี่นัน | เทวัญร้องเรียกให้เปิดรับ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนหมื่นเฝ้าประตูผู้กำกับ | ||
| จึงตอบว่าท่านมาแต่กองทัพ | จะเปิดรับไม่ได้อย่าเข้ามา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า | ||
| ผาดแผลงสำแดงฤทธา | เท้าถีบทวาราทลายลง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เห็นพวกรักษาหน้าที่ | วิ่งหนีเกลื่อนกลาดตวาดส่ง | ||
| แกล้งทำสิงหนาทอาจอง | เดินตรงเข้าพระโรงรจนา | ||
| เห็นท้าวสามนต์อยู่บนอาสน์ | หมู่อำมาตย์เฝ้าแหนแน่นหนา | ||
| แกล้งกรายหัวข้าเฝ้าเข้ามา | ยืนอยู่ตรงหน้าเจ้าธานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ลนลานจะวิ่งหนี | ||
| นางมณฑาคร่ามือไว้ทันที | ท้าวได้สมประดีก็แลดู | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดได้ไพรีมาคนเดียว | ถึงรบรับขับเคี่ยวพอต่อสู้ | ||
| จึงร้องเรียกเสนีอย่าหนีกู | แล้วนิ่งดูท่วงทีกิริยา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า | ||
| เสแสร้งแกล้งกล่าววาจา | เหวยเหวยพระยาเจ้าธานี | ||
| จงก้มเกล้าเคารพอภิวาท | คอยสดับรับราชสารศรี | ||
| นายเราให้มาว่าโดยดี | แล้วคลี่ราชสารออกอ่านไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ช้า | |||
| ๏ ในสารว่าองค์พระทรงเดช | มงกุฎเกศกษัตริย์เป็นใหญ่ | ||
| ยกทัพมาประชิดติดเวียงชัย | มิใช่จะณรงค์สงคราม | ||
| ให้พระยาสามนต์คนดี | มาตีคลีพนันในสนาม | ||
| จะได้มีเกียรติยศปรากฏนาม | ให้ชีพราหมณ์ราชครูดูเป็นกลาง | ||
| แม้นเราแพ้แก่ท่านในการเล่น | จะยอมเป็นเมืองขึ้นไม่ขัดขวาง | ||
| เราชนะจะรีบไม่ละวาง | สาวสรรค์กำนัลนางเป็นของเรา | ||
| ในวันนี้มิออกมาเล่นคลี | จะเข้าตีกรุงไกรเอาไฟเผา | ||
| ท้าวสามนต์แม้นรู้อย่าดูเบา | จะวอดวายตายเปล่าทั้งเวียงชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นอ่านสิ้นสาราจึงว่ากล่าว | นี่แน่ท้าวสามนต์เป็นใหญ่ | ||
| นั่งนิ่งก้มหน้าอยู่ว่าไร | จะต่อตีหรือไม่จงบอกมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตัวสั่นพรั่นนักหนา | ||
| ทำหน้าเซียวเหลียวดูนางมณฑา | หูตาบ้องแบวเหมือนแมวคราว | ||
| เรียกเมียว่าช่วยพี่ด้วยซิ | สิ้นสติตกประหม่าตาขาว | ||
| ความกลัวตัวสั่นอยู่ท้าวท้าว | มันให้หนาวสะท้านรำคาญใจ | ||
| แล้วคิดว่าหกเขยของเรานี้ | จะตีคลีต้านต่อเห็นพอได้ | ||
| ลุกขึ้นยืนยิ้มย่องร้องตอบไป | เราไม่ย่อท้อต่อไพรี | ||
| ท่านอย่าฮึกฮักไปนักเลย | ออเขยทั้งหกมันไม่หนี | ||
| จะแต่งให้ไปต้านตีคลี | ใครดีได้กันไม่พรั่นพรึง | ||
| ท่านจงกลับออกไปบอกนาย | ผัดพอตะวันบ่ายสักหน่อยหนึ่ง | ||
| พระแกล้งอวดโป้งโผงอึง | ตั้งปึ่งขึงไว้เหมือนไม่กลัว | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระวิษณุกรรมก็ยิ้มหัว | ||
| นี่แน่ท้าวสามนต์คนเมามัว | ใจคอพอตัวยังชั่วครัน | ||
| พูดจาปากกล้าแต่ตาขาว | เนื้อแท้ท้าวก็กลัวจนตัวสั่น | ||
| จะให้หกเขยตีคลีพนัน | ว่าให้แม่นมั่นเหมือนสัญญา | ||
| แม้นไม่ออกไปสนามตามกำหนด | มิริบลูกเมียหมดก็จึงว่า | ||
| แกล้งขู่สำทับกำชับกำชา | แล้วเทวารีบกลับไปฉับไว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์คิดพรั่นหวั่นไหว | ||
| จึงตรัสแก่เขยขวัญทันใด | จนใจด้วยบิดาชราแล้ว | ||
| ถ้ากำลังยังหนุ่มเหมือนแต่ก่อน | พ่อไม่ให้ร้อนถึงลูกแก้ว | ||
| เมื่อกระนั้นหาอีกมันหลีกแคล้ว | ไม่อาจมาว่องแววโดยยำเกรง | ||
| เดี๋ยวนี้เห็นบิดาชราลง | จึงทะนงอวดกล้ามาข่มเหง | ||
| ขัดใจจะใคร่ออกตีเอง | แต่กริ่งเกรงตาหูไม่สู้ไว | ||
| เจ้าหนุ่มแน่นแทนพ่อออกตีคลี | แก้กู้บุรีไว้ให้ได้ | ||
| เหมือนช่วยยกหน้าพ่อตาไว้ | อย่าให้อัปยศอดอาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยคิดพรั่นขวัญหาย | ||
| มิรู้ที่ทำกระไรให้วุ่นวาย | แต่เหลียวซ้ายเหลียวขวาดูตากัน | ||
| จำเป็นจำรับวาจา | ลูกจะขออาสาพระอย่าพรั่น | ||
| ว่าพลางทางถวายบังคมคัล | ลาไปตำหนักพลันทันที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงสั่งข้าไท | เร่งผูกมโนมัยที่เคยขี่ | ||
| รับสั่งใช้ให้ออกไปตีคลี | ครั้งนี้หนักอกหนักใจ | ||
| แพ้ชนะอย่างไรก็ไม่รู้ | จะลองสู้ดูสักทีหาหนีไม่ | ||
| เร่งรัดจัดแจงแต่งตัวไว้ | บรรดาเหล่าบ่าวไพร่ให้พร้อมพรัก | ||
| ว่าพลางทางขึ้นบนชาลา | เปิดประตูเข้ามาในตำหนัก | ||
| นั่งแอบแนบนางเมียรัก | ทุกข์นักก้มหน้าไม่พาที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกธิดามารศรี | ||
| ประหลาดใจนักหนาเห็นสามี | ท่วงทีทุกข์ร้อนถอนฤทัย | ||
| นางจึงถามไถ่เป็นไรหม่อม | จึงหน้ามอมหมองคล้ำดำไหม้ | ||
| หรือบิดากริ้วโกรธทำโทษภัย | จงบอกให้ประจักษ์ที่หนักเบา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยหน้าจ๋อยหงอยเหงา | ||
| ความทุกข์เหลือกำลังนั่งเขา | บอกเล่าเมียมิ่งทุกสิ่งอัน | ||
| บัดนี้พระบิดาบัญชาใช้ | ท่านวางใจว่าพี่นี้ขยัน | ||
| ขืนให้ไปตีคลีพนัน | จะผ่อนผันฉันใดก็สุดคิด | ||
| อันวิชาเช่นนี้เจ้าพี่เอ๋ย | ไม่ได้ร่ำเรียนเลยแต่สักหนิด | ||
| ขุกเอาเดี๋ยวนี้ดั่งนิมิต | ต้องจนจิตซังตายตะกายไป | ||
| โฉมยงจงไปคอยดูพี่ | อยู่ที่พลับพลาทองผ่องใส | ||
| จะได้ภาวนาช่วยอวยชัย | เหมือนทัพหนุนอุ่นใจไม่สู้กลัว | ||
| ถึงพลั้งพลาดมาตรแม้นสติเสีย | เห็นหน้าเมียอยู่มั่งค่อยยังชั่ว | ||
| แต่ลำพังยังไม่ไว้ใจตัว | เจ้าไปเป็นเพื่อนผัวไม่กลัวใคร | ||
| ว่าพลางจรลีเข้าที่สรง | แต่งองค์ทางเครื่องล้วนใหม่ใหม่ | ||
| ส่องกระจกดูเงาเศร้าเสียใจ | จมูกใบหูวิ่นสิ้นงาม | ||
| แล้วลีลามาทรงม้าที่นั่ง | บ่าวไพร่ตามหลังจนออกหลาม | ||
| หกนางนึกประหวั่นครั่นคร้าม | ขี่วอคนหามตามผัวมา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงราชฐานทวารวัง | เขาบอกว่ารับสั่งคอยท่า | ||
| จึงลนลานลงจากหลังม้า | ไปเฝ้าพ่อตาไม่ช้าเลย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ครั้นเห็นหกเขย | ||
| แสนสำราญอารมณ์ชมเชย | ลูกเอ๋ยแต่งตัวเต็มประดา | ||
| เจ้าจะไปตีคลีวันนี้ไซร้ | จงตั้งใจตั้งคอนะพ่อหนา | ||
| อย่าให้อายขายพักตร์พ่อตา | แก้กู้พาราเอาหน้าไว้ | ||
| ว่าพลางย่างเยื้องจรจรัล | มาสรงน้ำที่ขันสาครใหญ่ | ||
| ตักวารีรดหมดเหงื่อไคล | ลูบไล้แป้งกระแจะจันทน์ปรุง | ||
| ใส่เสื้อก้านแย่งแต่งเต็มที่ | ผ้ายกอย่างดีเอาออกนุ่ง | ||
| แล้วหยิบเจียระบาดมาคาดพุง | ทรงเครื่องเรืองรุ่งระยับตา | ||
| สวมสอดกำไลใส่แหวนหัว | เพ่งพิศดูตัวงามหนักหนา | ||
| นั่งมองส่องกระจกใส่ชฎา | เจ้ามณฑาดูทีดีหรือเอียง | ||
| ครั้นเสร็จเสด็จทรงคชสาร | ทวยหาญโห่ลั่นสนั่นเสียง | ||
| ซ้ายขวาม้าลูกเขยเป็นคู่เคียง | พร้อมเพรียงไพร่พลมนตรี | ||
| เมียรักร่วมจิตกับธิดา | ขี่วอช่อฟ้าหลังคาสี | ||
| เถ้าแก่กำนัลขันที | ตามเสด็จเทวีมาคึกคัก | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนพลับพลา | ทั้งธิดามเหสีมีศักดิ์ | ||
| ท้าวสามนต์นั่งอิงพิงพนัก | อกใจทึกทักครั่นคร้าม | ||
| ไพร่ฟ้ามาดูตีคลี | คับคั่งทั้งที่ท้องสนาม | ||
| ตำรวจในไล่บุกคุกคาม | ห้ามปรามคนยืนหน้าพลับพลา | ||
| หกเขยขับม้าออกมายืนที่ | เห็นไพรีนับแสนแน่นหนา | ||
| ต่างคนคิดพรั่นหวั่นวิญญาณ์ | ชักม้าเกะกะปะทะกัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | อมรินทร์ปิ่นภพสรวงสวรรค์ | ||
| เห็นหกเขยมาตีคลีพนัน | ก็ลงจากสุวรรณพลับพลาชัย | ||
| ทรงม้าวลาหกผกโผน | กระทืบโกลนแกล้งขับเข้ามาใกล้ | ||
| ร้องสำทับทั้งหกให้ตกใจ | พวกนี้หรือไรจะสู้เรา | ||
| หน้าตาจมูกหูดูชอบกล | ช่างเหมือนกันทุกคนเจียวหนอเจ้า | ||
| เห็นจะดีทายาดดูลาดเลา | เป็นลูกเต้าผ่าพงศ์ผู้ใด | ||
| เลือกสรรกันมาล้วนตัวดี | ตีคลีมีฝีมือหรือไฉน | ||
| จงเร่งบอกเราให้เข้าใจ | จึงจะได้สู้กันพนันเมือง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยหน้าจ๋อยหงอยเหงื่อง | ||
| อัปยศอายระคายเคือง | ต่างชำเลืองเหลียวมาดูตากัน | ||
| เขยใหญ่ยิ้มแห้งแกล้งแก้หน้า | จึงร้องว่าพ่อเอ๋ยอย่าเย้ยหยัน | ||
| ข้ามิใช่ชายชั่วตัวสำคัญ | แต่ล้วนลุกเขยขวัญท้าวสามนต์ | ||
| เรารับอาสาออกมานี้ | จะตีคลีต่อสู้ดูสักหน | ||
| ไม่ย่อท้อถอยหลังทั้งหกคน | ตามจนจะแก้หน้าพ่อตาไว้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โกสีย์ยิ้มแย้มเฉลยไข | ||
| ลูกเขยเจ้าพาราแล้วว่าไย | ช่างกระไรไม่ชั่วล้วนตัวดี | ||
| เร่งมาตีคลีสู้ดูฝีมือ | ให้ร่ำลือเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี | ||
| ว่าพลางชักม้าเป็นท่วงที | แล้วเดาะคลีตีไปมิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยตระหนกตกประหม่า | ||
| เอามือขึ้นช่วยรับแล้วหลับตา | คนฮาโห่สนั่นยิ่งงันงก | ||
| ต่างเข้าตะลุมบอนช้อนคลี | พาชีชุลมุนมุ่นหก | ||
| ทำพยศหันเหียนเวียนวก | พลัดตกลงมาขาแพลง | ||
| บ้างเดาะคลีตีผิดไปเป็นวา | เหลียวดูภรรยาแล้วยิ้มแห้ง | ||
| อาชาพาโผนโดนกำแพง | สิ้นแรงร้องโยคนโห่เกรียว | ||
| ที่ขี่ม้าไม่เป็นเต้นสามขา | ฉุดคร่าสายถือสองมือเหนี่ยว | ||
| คิดกลัวพ่อตาทำหน้าเซียว | มันให้ลนลานเหลียวตละกวาง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์คอตกตีอกผาง | ||
| ดุเดือดเต็มประดาร้องด่าพลาง | ไอ้คนอะไรช่างไม่มีอาย | ||
| ท่าทางสอนให้ก็ไม่จำ | จะแกล้งทำให้เขาริบฉิบหาย | ||
| ดูเอาเล่าเถิดชินางแม่ยาย | ลูกเขยมันจะขายพ่อตา | ||
| พลางด่าหกธิดาพาโล | ผัวมึงสำแดงโง่ทำงามหน้า | ||
| ยังจะเท้าแขนหยัดดัดกิริยา | จะเป็นข้าเขาไม่ทุกข์สนุกใจ | ||
| ท้าวคิดเคืองขุ่นงุ่นง่าน | ตัวสั่นสะท้านเหงี่อกาฬไหล | ||
| กอดเข่ารำพึงตะลึงตะไล | คราวออดทอดใจใหญ่ไม่พาที | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จึงองค์อมรินทร์เรืองศรี | ||
| ร้องท้าว่าเหวยเขยคนดี | ทำไมไม่เดาะคลีตีโต้มา | ||
| อย่างไรนั่นกลอกคอทำท้อแท้ | จะยอมแพ้หรือไรให้เร่งว่า | ||
| จะได้ริบเขตขัณฑ์ดังสัญญา | เอาตัวพ่อตาเป็นข้าไท | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยตัวสั่นหวั่นไหว | ||
| เข้าช้อนคลีพัลวันกันไป | พลัดไพล่ไม่ขึ้นมาพ้นดิน | ||
| อาชาตื่นแตกแหกกระแซง | แต่เหนี่ยวเหนี่ยวเรี่ยวแรงก็สุดสิ้น | ||
| เรียกบ่าวงึมงำขอน้ำกิน | ก้มหน้าดูดินไม่เหลียวแล | ||
| โกสีย์ยิ้มเยื้อนแล้วเตือนซ้ำ | ตอบคำอยู่ในคอพูดอ้อแอ้ | ||
| ยกมือขึ้นคำนับรับแพ้ | ตามแต่จะเมตตาปรานี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ชาวเมืองที่ดูอยู่อึงมี่ | ||
| เห็นหกเขยยอมแพ้แก่ไพรี | ไพร่ผู้ดีเสียใจสิ้นทุกคน | ||
| ต่างพูดงุบงิบกระซิบด่า | ลูกเขยพระยาไม่เป็นผล | ||
| มันพอสมน้ำหน้าท้าวสามนต์ | พลอยให้คนฉิบหายทั้งพารา | ||
| บ้างว่าจะร้อนใจไปไยเล่า | ใครเขามีบุญก็เป็นข้า | ||
| เห็นจะต้องริบแน่แต่พระยา | เราเป็นไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน | ||
| บ้างตะโกนโพนทะนาท้าวสามนต์ | ช่างเชื่อคนหูแหว่งจมูกวิ่น | ||
| หน่วยก้านเช่นนี้ดีแต่กิน | ต้องเป็นข้าเขาสิ้นสาแก่ใจ | ||
| บ้างพูดจาฮึกฮักพยักพเยิด | ฟ้าผี่เถิดหาว่าเล่นไม่ | ||
| แม้นเราได้ลูกสาวของท้าวไท | จะตีคลีมิให้พ่ายแพ้ | ||
| เหล่าห้ามแหนแสนสาวท้าวนาง | งานกลางหลวงแม่เจ้าเถ้าแก่ | ||
| ผินหน้าปรับทุกข์กันซ้อแซ้ | คงเขาริบเราแน่แล้วครั้งนี้ | ||
| ลางคนบ่นว่าข้านึกเดา | เห็นท่านจะเลี้ยงเราไว้คงที่ | ||
| ราชการข้าหมั่นขยันดี | จะมานั่งปรารี้ปรารมภ์ไย | ||
| หญิงชายแซ่ซ้องทั้งท้องสนาม | บ่นบ้าไปตามอัชฌาสัย | ||
| ต่างติโทษโกรธขึ้งอึงไป | ทั้งผู้ดีเข็ญใจไม่เว้นคน | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระอินทร์ขับอาชาม้าต้น | ||
| เข้ามาใกล้แล้วว่าท้าวสามนต์ | เขยทั้งหกคนก็แพ้เรา | ||
| ยังผัวลูกสาวน้อยนั้นอยู่ไหน | จะแก้มือหรือไม่อย่างไรเล่า | ||
| อย่าลงนั่งปรารภซบเซา | ไม่สู้เราแล้วหรือจะได้ริบ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เสียใจไม่ได้สิบ | ||
| พิไรร่ำโศกาจนตาลิบ | แต่อุบอิบอู้อี้ขยี้ตา | ||
| นั่งก้มหน้านึกตรึกไตร | มันก็ยังแต่ไอ้เงาะป่า | ||
| จะแต่งให้ไปกู้สู้พารา | น้ำหน้าไหนจะตีคลีเป็น | ||
| จะได้ใครดีหนอออกต่อสู้ | สุดรู้ไม่มีที่เหลียวเห็น | ||
| โศกาจนเลือดตากระเด็น | สิ้นสติไม่เป็นสมประดี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑามเหสี | ||
| เห็นพระภัสดาสามี | ไม่โต้ตอบไพรีประการใด | ||
| กลัวเขาจะริบเอาพารา | กัลยาอกสั่นหวั่นไหว | ||
| เข้านั่งชิดสะกิดภูวไนย | แล้วกราบทูลไปดังใจปอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ผ่านเอยผ่านเกล้า | อย่าซบเซาทุกข์ทนหม่นหมอง | ||
| เออช่างสิ้นสติไม่ตริตรอง | จงฟังน้องชั่งจิตคิดดู | ||
| ขอบใจไพรีที่กล่าวถ้อย | ให้แต่งลูกเขยน้อยออกต่อสู้ | ||
| เมียเห็นว่าเงาะนี้มีความรู้ | พระอย่าได้ลบหลู่ว่าชั่วช้า | ||
| เพื่อนพานถือตัวไม่กลัวใคร | น้ำใจในคอนั้นแกล้วกล้า | ||
| เห็นจะรุ่งเรืองอิทธิฤทธา | จึงหาเนื้อหาปลาได้มากมาย | ||
| แต่ก่อนผ่านเกล้าเฝ้าขึ้งโกรธ | จงไปง้อขอโทษเสียให้หาย | ||
| แม้นเงาะรับผจญเห็นพ้นอาย | ดีร้ายจะได้เวียงชัยคืน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังถ้อยคำค่อยชื่นมื่น | ||
| จึงระงับดับโศกกล้ำกลืน | ผุดลุกขึ้นยืนแล้วร้องไป | ||
| ดูราข้าศึกจงงดก่อน | ข้าขอผัดผ่อนแก้ตัวใหม่ | ||
| อันผัวลูกสาวน้อยของเราไซร้ | เป็นเงาะป่าบ้าใบ้ทรพล | ||
| แต่ใจคอองอาจทายาดอยู่ | จะลองให้ออกสู้อีกสักหน | ||
| ถ้าเพลี่ยงพล้ำซ้ำแพ้ทั้งเจ็ดคน | มันก็จนแล้วพ่อไม่ขอตัว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สหัสนัยน์ได้ยินก็ยิ้มหัว | ||
| แกล้งทำร้องว่าให้น่ากลัว | แม้นมิมาแก้ตัวไม่ละลด | ||
| จะริบเอาข้าวของในท้องคลัง | อีกทั้งลูกเมียเสียให้หมด | ||
| วันนี้ขอทุเลาเราจะงด | แล้วอย่าปดกันหนาท้าวสามนต์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตอบความตามขัดสน | ||
| เราได้ให้ทานบาดคาดบน | เป็นคนมิให้เสียวาจา | ||
| ว่าพลางทางชวนมเหสี | ทั้งกำนัลขันทีถ้วนหน้า | ||
| ลงจากที่ประทับพลับพลา | กลับมานคเรศนิเวศน์วัง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงไพชนมนเทียรทอง | เสด็จตรงขึ้นท้องพระโรงหลัง | ||
| ลดองค์ลงนั่งบนบัลลังก์ | นิ่งนั่งครางออดกอดมือ | ||
| จึงดำรัสตรัสเรียกนางมณฑา | แม่เอ๋ยมาใกล้พี่ถึงนี่หรือ | ||
| ความทุกข์จะปรึกษาหารือ | จะทำถือเชิงชั้นฉันนั้นไย | ||
| เจ้าเตือนสติพี่เมื่อกี้นั้น | จริงอยู่หาทันคิดไม่ | ||
| อันเจ้าเงาะลูกเขยของเราไซร้ | เห็นจะกู้เวียงชัยได้ดังคิด | ||
| เจ้าอุตส่าห์แข็งใจออกไปหา | บอกว่าพี่เฒ่านี้รับผิด | ||
| ให้เจ้าเงาะปรานีช่วยชีวิต | มาต่อฤทธิ์ตีคลีแทนบิดา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมนางมณฑาเสน่หา | ||
| นิ่งเสียไม่คำนับรับวาจา | นางนั่งนินทาว่าเปรียบเปรย | ||
| จนจริงจะวิ่งไปหาเงาะ | น่าหัวเราะหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย | ||
| สิ้นมานะสะทะแล้วพระเอย | เงาะเงยก็จะให้ไปง้องอน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| สร้อยสนตัด | |||
| ๏ ว่าพลางทางยิ้มแย้มหยัน | แล้วลุกจากแท่นสุวรรณบรรณจถรณ์ | ||
| พรั่งพร้อมสาวสุรางคนิกร | บทจรไปยังบ้านปลายนา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงหยุดอยู่แต่ไกล | ร้องเรียกลูกสายใจเสน่หา | ||
| เหตุไรไม่ขานพระมารดา | รจนาไปไหนจะใคร่รู้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาออกไปทำไร่อยู่ | ||
| เจ้าเงาะยืนฟื้นฟันร่องคู | ปลูกถั่วพูฟักแฟงแตงร้าน | ||
| ได้ยินแว่วเสียงชนนี | มาร้องเรียกอยู่ที่ประตูบ้าน | ||
| นางดีใจไปรับมิทันนาน | กราบกับบทมาล์แล้วโศกา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ แล้วทูลเชิญเสด็จชนนี | เข้าไปในที่เคหา | ||
| ผลักไหล่ไสหลังเจ้าเงาะมา | ให้กราบกรานมารดาทันใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะทำเหมือนถวายตัวใหม่ | ||
| เฝ้าแต่แลมาแลไป | ไม่เข้าใจนบนอบหมอบกราน | ||
| นั่งยองยองมองดูแล้วปูผ้า | พนมมือเมินหน้าท่าแบกขวาน | ||
| ราวกับจะรับศีลสมภาร | พังพาบกราบกรานท่านแม่ยาย | ||
| แล้วลุกมาหาครกตำหมาก | ไม่พบสากเจ้ากรรมใครทำหาย | ||
| ล้วงมือค้นได้ในก้นกระทาย | เอาปูนป้ายพลูใส่ลงในครก | ||
| ฉวยมีดผ่าหมากดิบหยิบใส่ | อุตส่าห์ตำตั้งใจมิให้หก | ||
| ทำเหมือนอยู่วัดวาดังทารก | ประเคนครกเข้าไปให้แม่ยาย | ||
| แล้วมาเก็บแฟงฟักผักหญ้า | ใส่กระบุงแบกมาให้เมียถวาย | ||
| รจนาว่าไฮ้เบื่อจะตาย | ช่างไม่อายสาวสรรค์กำนัลใน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑาจึงปราศรัย | ||
| นิจจาเจ้าจากแม่มาอยู่ไกล | ยากเย็นเข็ญใจถึงเพียงนี้ | ||
| ผิดรูปซูบผอมเป็นหนักหนา | พักตราสร้อยเศร้าสลดศรี | ||
| ต้องเก็บผักหักฟืนเลี้ยงชีวี | น่าปรานีลูกน้อยกลอยใจ | ||
| ว่าพลางลูบหลังแล้วเชยพักตร์ | ครวญคร่ำร่ำรักเพียงตักษัย | ||
| ทั้งฝูงสาวสรรค์กำนัลใน | สงสารทรามวัยก็โศกา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นสร่างกันแสงจึงแจ้งเหตุ | บัดนี้บิตุเรศละห้อยหา | ||
| แต่เฝ้าเร้ารบมารดา | ให้ออกมาแจ้งความแก่ทรามวัย | ||
| เจ้าก็รู้อยู่แล้วสินะลูก | เขาดูถูกมาล้อมกรุงใหญ่ | ||
| ขันพนันตีคลีเอาเวียงชัย | หมายใจจะริบบุรีเรา | ||
| ท้าวให้ไอ้เขยทั้งหกคน | ออกประจญตีคลีก็แพ้เขา | ||
| พระบิดาทุกข์ร้อนลงนอนเซา | เงียบเหงาไปสิ้นทั้งธานี | ||
| จะผินหน้าพึ่งใครไม่ได้แล้ว | เห็นแต่ลูกแก้วทั้งสองศรี | ||
| เจ้าช่วยวอนว่าแก่สามี | เชิญไปตีคลีอย่าน้อยใจ | ||
| ขอพึ่งใบบุญของเจ้าเงาะ | อนุเคราะห์กู้เมืองไว้ให้ได้ | ||
| เจ้าอย่าเคืองขัดตัดอาลัย | ทำคุณแม่ไว้เถิดลูกน้อย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาฟังเล่าก็เศร้าสร้อย | ||
| สงสารมารดาน้ำตาย้อย | นางพลอยโศกศัลย์พันทวี | ||
| กราบบาทภัสดาแล้วว่าวอน | พระมารดรอุตส่าห์มาถึงนี่ | ||
| พ่อไม่เมตตาปรานี | ช่วยกู้บุรีให้พ้นภัย | ||
| จงถอดเงาะเสียเถิดนะทูนหัว | จะซ่อนเนื้อซ่อนตัวไปถึงไหน | ||
| จนตกไร้ได้ยากลำบากใจ | ช่างกระไรไม่คิดแกล้งบิดเบือน | ||
| พระแม่มาก็ไม่ทักแต่สักคำ | ดีแต่ทำละไลไหลเลื่อน | ||
| ไม่เห็นทุกข์ร้อนเลยช่างเฉยเชือน | ดูเหมือนหนึ่งไม่มีเมตตา | ||
| อันความทุกข์ครั้งนี้แม้นมิช่วย | เห็นเมียจะมอดม้วยสังขาร์ | ||
| ว่าพลางทางทรงโศกา | ปิ้มว่าชีวันจะบรรลัย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ทองยอน | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะฟังเมียเสียไม่ได้ | ||
| สงสารรจนายาใจ | ร้องไห้วอนว่าน่าเอ็นดู | ||
| แต่คิดแค้นแม่ยายกับพ่อตา | จะทรมาเสียก่อนให้อ่อนหู | ||
| ถ้าแม้นไม่งอนง้อต่อกู | จะทำเชิงเฉยอยู่ให้ช้านาน | ||
| แล้วผินผันหันหลังให้แม่ยาย | หยิบกระบายมาตั้งนั่งสาน | ||
| กระดิกเท้าทีทำเป็นสำราญ | ใครว่าขานอย่างไรไม่นำพา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาถอนใจพิไรว่า | ||
| เจ้าเงาะเอ๋ยนิ่งได้ไม่เมตตา | จะให้เมียมรณาเสียจริงจริง | ||
| อันทุกข์ร้อนครั้งนี้มิใช่เล่น | ช่างไม่เห็นด้วยมั่งมานั่งนิ่ง | ||
| หรือพ่อแค้นบิดาว่าชังชิง | แม่ก็วิงวอนง้อขออภัย | ||
| เจ้ามาตัดอาลัยเยื่อใยเสีย | ทำให้เมียหม่นหมองนั่งร้องไห้ | ||
| จงเห็นแก่แม่เถิดอย่าถือใจ | นางพิรี้พิไรรำพัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะสำรวลสรวลสันต์ | ||
| จึงตอบวาจามารดาพลัน | จะรับอาสานั้นสุดปัญญา | ||
| เงาะนี้พวกปีศาจอุบาทว์ร้าย | มากลับกลายสรรเสริญเห็นเกินหน้า | ||
| จะล่อลวงให้หลงอย่าสงกา | ลูกกลัวพระบิดาจะฆ่าแกง | ||
| ท่านคิดแยบยลเป็นกลใน | แต่หลังอย่างไรพระย่อมแจ้ง | ||
| ใช่ลูกจะรับเกียจเสียดแทง | พระมารดาอย่าระแวงฤทัยนึก | ||
| อันท่านทั้งหกเขยย่อมเคยคลี | ต่อตียังแพ้แก่ข้าศึก | ||
| นับประสาหน้าเงาะนี้เห็นลึก | จะพึ่งพาอย่านึกให้ป่วยการ | ||
| แต่ธุระของข้าหาใส่ปาก | แสนยากก็ไม่มีใครสงสาร | ||
| พึ่งเห็นว่าชนนีนี้โปรดปราน | อุตส่าห์มาถึงบ้านข้าขอบใจ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาชมเปาะเงาะพูดได้ | ||
| น้อยหรือถ้อยคำร่ำพิไร | สำคัญว่าบ้าใบ้ไม่รู้เลย | ||
| สารพัดตัดพ้อพ่อตา | แหลมหลักหนักหนาเจ้าข้าเอ๋ย | ||
| ทั้งกระทบกระเทียบเปรียบเปรย | ไม่ปรานีบ้างเลยหรือเจ้าเงาะ | ||
| ถึงโกรธพ่อก็เห็นกับแม่บ้าง | อย่าให้นั่งน้ำตาลงเผาะเผาะ | ||
| ดูหรูช่างตั้งใจแต่หัวเราะ | ไม่ช่วยอนุเคราะห์แล้วหรือไร | ||
| เสียแรงแม่มาง้อขอโทษแล้ว | ลูกแก้วจะโกรธขึ้งไปถึงไหน | ||
| นางรบเร้าเฝ้าวอนจนอ่อนใจ | จึงผินไปว่ากล่าวลูกสาวตัว | ||
| โฉมยงจงเอ็นดูมารดร | ช่วยอ้อนวอนอีกสักครั้งเถิดทูนหัว | ||
| แม่นี้จนจิตคิดกลัว | จะรอดก็เพราะผัวเจ้าเมตตา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาเสน่หา | ||
| ให้คิดสงสารพระมารดา | ก็โศกาวอนผัวรำพันไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| </sub>โอ้ปี่</sub> | |||
| ๏ โอ้อนิจจาพระสามี | ไม่ปรานีน้องจริงนิ่งเสียได้ | ||
| ควรหรือมาสลัดตัดอาลัย | ช่างกระไรไม่คิดสักนิดเลย | ||
| ทุกข์ของมารดาเหมือนทุกข์ตัว | จะผินหน้าพึ่งผัวก็เชือนเฉย | ||
| ดีแต่ทำเปล่าเปล่าให้เขาเย้ย | อกเอ๋ยจะอยู่ไปไยมี | ||
| นางชะอ้อนวอนแล้ววอนเล่า | แม้นพ่อเจ้าไม่โปรดเกศี | ||
| น้องจะลาอาสัญเสียวันนี้ | เทวีตีทรวงเข้าร่ำไร | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะทุกข์ร้อนถอนใจใหญ่ | ||
| กลัวเมียจะอาสัญบรรลัย | จึงโลมเล้าเอาใจไปมา | ||
| อย่ากันแสงเศร้าหมองเลยน้องรัก | ไว้พนักงานพี่จะอาสา | ||
| ออกตีคลีพนันดังสัญญา | มิให้เสียพาราประจามิตร | ||
| แล้วผินหน้ามาทูลชนนี | ใช่ลูกนี้จะแกล้งเบือนบิด | ||
| แต่หากข้นจนเป็นพ้นคิด | เครื่องทรงแต่สักนิดก็ไม่มี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาค่อยสบายคลายคลี่ | ||
| จึงว่าแก่เขยขวัญทันที | เครื่องประดับดีดีมีถมไป | ||
| แม่จะให้ไปทูลพระบิดา | จัดแจงแต่งมาประทานให้ | ||
| ว่าพลางนางสั่งสาวใช้ | เร่งไปทูลองค์พระทรงธรรม์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้รับสั่งขมีขมัน | ||
| ถวายบังคมลาพากัน | จรจรัลเข้ามาในธานี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ชุบ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงทูลกิจจา | ว่าพระแม่มณฑามเหสี | ||
| ให้ข้ามาทูลพระภูมี | บัดนี้สมจิตที่คิดไว้ | ||
| พระธิดาว่ากล่าวเจ้าเงาะป่า | จะอาสาออกตีคลีได้ | ||
| ให้จัดเครื่องทรงส่งออกไป | ที่ใหม่ใหม่งามงามอร่ามเรือง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์หัวเราะเงาะทรงเครื่อง | ||
| ชอบแต่นุ่งผ้าค่าบาทเฟื้อง | แหวนทองเหลืองลูกปัดจัดให้มัน | ||
| หน้าตาหัวหูยู่ยี่ | ถ้าใส่เครื่องชาตรีทีจะขัน | ||
| ไม่สมกับเครื่องทองของทั้งนั้น | แต่จะต้องให้มันด้วยจำจน | ||
| ว่าพลางทางมีบัญชาการ | สั่งเจ้าพนักงานเครื่องต้น | ||
| จงไปจัดมงกุฏกุณฑล | สร้อยสนสังวาลบานพับ | ||
| ของกูดีดีมีนักหนา | เก่าแก่แต่บรรดาเครื่องประดับ | ||
| จะเลือกให้ไอ้เงาะสักสำรับ | เร็วเร็วรีบกลับมาฉับไว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกภูษามาลาบังคมไหว้ | ||
| รีบมายังโรงพระแสงใน | เข้าไปเปิดตู้ดูบาญชี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ จัดแจงเครื่องต้นขนออกมา | มอบหมายตรวจตราถ้วนถี่ | ||
| แล้วเชิญเครื่องตามกันมาทันที | วางถวายภูมีดังบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เลือกสรรกันนักหนา | ||
| คิดเสียหายเครื่องต้นพ้นปัญญา | จะให้ไอ้เงาะป่าด้วยจำใจ | ||
| จึงจัดเครื่องประดับสำหรับกาย | แต่พอดีพอร้ายซังตายได้ | ||
| พลางสั่งกำชับสาวใช้ | เร่งไปบอกมันเข้ามา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สาวใช้รีบสั่งใส่เกศา | ||
| เชิญเครื่องใส่พานแว่นฟ้า | แบกเดินลอยหน้ามาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงถวายเครื่องทรง | ทูลองค์มณฑามเหสี | ||
| รับสั่งให้หาผัวพระบุตรี | เข้าไปประเดี๋ยวนี้อย่าช้า | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระชนนีดีใจเป็นนักหนา | ||
| จึงว่าเจ้าเงาะของแม่อา | เครื่องประดับประดาเอามาแล้ว | ||
| ธำมรงค์มงกุฏสังวาล | พระบิดาประทานลูกแก้ว | ||
| เชิญเจ้าทรงเถิดให้เพริศแพร้ว | งามแล้วนุ่งห่มพอสมตัว | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะครั้นเห็นก็สั่นหัว | ||
| ติว่าเครื่องทรงมัวซัว | เต็มชั่วนักหนาข้าไม่เอา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระมารดาว่าไม่ชอบใจเจ้า | ||
| ยังมีตรึกมิถองของเรา | จะเลือกเอาให้งามตามฤทัย | ||
| ว่าพลางทางสั่งสาวศรี | กลับไปธานีเดี๋ยวนี้ใหม่ | ||
| ทูลว่าเจ้าเงาะไม่ชอบใจ | เร่งให้จัดเครื่องอื่นมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้บังคมก้มเกศา | ||
| รับพระเสาวนีย์มิได้ข้า | เดินด่วนเข้ามายังวังใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงทูลพระภูมี | เครื่องทรงเมื่อตะกี้เอาไปให้ | ||
| เจ้าเงาะเลือกเสียไม่ชอบใจ | มิได้เครื่องใหม่ไม่เข้ามา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังชังน้ำหน้า | ||
| อ้ายเงาะถ่อยร้อยย่างช่างมารยา | กูว่าไม่ผิดปากจะยากเย็น | ||
| นี่แม่ยายแล้วสิริให้ | เมื่อมันไม่เคยพบเคยเห็น | ||
| น้ำหน้าจะสอดใส่ที่ไหนเป็น | ทำเล่นเครื่องต้นเลือกคนรู้ | ||
| แล้วจัดเครื่องทรงอย่างเอก | แต่ครั้งอภิเษกพระเจ้าปู่ | ||
| คิดเสียดายนักของรักกู | จนอยู่จำใจต้องให้มัน | ||
| ว่าพลางทางร้องเรียกไป | เหวยเสนาในใครอยู่นั่น | ||
| จงเตรียมพลผูกช้างฉับพลัน | กูจะจรจรัลไปปลายนา | ||
| พระมิได้สรงน้ำสว่ำเสวย | มาขึ้นเกยหยุดยืนคอยท่า | ||
| พร้อมเสร็จเสด็จทรงคชา | เสนาแห่แหนแน่นไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงหยุดช้างทรง | อยู่ตรงกระท่อมที่ริมไร่ | ||
| ร้องเรียกรจนายาใจ | เป็นไรไม่มารับบิดา | ||
| พ่อออกมางอนง้อขอโทษ | สิ้นขึ้งสิ้นโกรธเจ้าเงาะป่า | ||
| เครื่องทรงสารพัดจัดแจงมา | ทีนี้งามนักหนามารับเอา | ||
| นางแม่ยายแม่ย่อยก็พลอยเฉย | ไม่ตักเตือนลูกเขยเร็วเร็วเข้า | ||
| รจนาก็ไม่เร่งรบเร้า | จะให้เขาริบข้าหรือว่าไร | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนานารีศรีใส | ||
| แว่วเสียงบิตุรงค์ร้องเรียกไป | จำได้ไคลคลาออกมารับ | ||
| ครั้นถึงจึงบังคมก้มเกล้า | รับเอาข้าวของเครื่องประดับ | ||
| ทั้งมงกุฏสังวาลบานพับ | แล้วกลับเข้าไปให้เจ้าเงาะ | ||
| สวมตัวผัวแก้วแล้วว่าขาน | พระบิดาประทานทีนี้เหมาะ | ||
| งามนักงามหนาอย่าหัวเราะ | เชิญถอดรูปเงาะเถิดพ่อคุณ | ||
| ท่านเสด็จมาเองด้วยเกรงใจ | ช้าไปก็เครื่องจะเคืองขุ่น | ||
| ช่วยกู้เวียงชัยไว้เอาบุญ | พ่อเนื้อนพคุณจงเมตตา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะนั่งนิ่งพิงฝา | ||
| พิศดูเครื่องใหม่ที่ให้มา | แล้วมีวาจาว่าไป | ||
| เหมือนกันนั่นแหละกับเครื่องเก่า | จะแต่งตัวผัวเจ้าหาควรไม่ | ||
| ขายหน้าข้าศึกจะไยไพ | คืนไปเสียเจ้าอย่าเอามา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จึงองค์เจ้าตรัยตรึงศา | ||
| แจ้งใจในทิพย์วิญญาณ์ | จะนิ่งดูอยู่ถ้าเห็นช้าที | ||
| จึงตรัสสั่งพระวิษณุกรรม์ | จงจัดสรรเครื่องทรงเรืองศรี | ||
| เอาไปให้พระสังข์ครั้งนี้ | จะได้ใส่ตีคลีอวดพ่อตา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระวิษณุกรรมแกล้วกล้า | ||
| คำนับรับเทวบัญชา | แล้วพาเครื่องประดับไปฉับไว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงกระท่อมน้อยเจ้าหอยสังข์ | กำบังกายาเข้ามาใกล้ | ||
| เอาเครื่องทรงขององค์สหัสนัยน์ | วางลงส่งให้กับเจ้าเงาะ | ||
| แล้วว่าเครื่องประดับสำรับนี้ | สำหรับใส่ทรงตีคลีเดาะ | ||
| มัฆวานประทานจำเพาะ | ว่าพลางทางเหาะกลับมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ลมพัดชายเขา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะเกษมสันต์หรรษา | ||
| ได้เครื่องพระอินทร์ดังจินดา | จึงเดินเข้ามายังห้องใน | ||
| รจนายกพานเครื่องทรง | ตามมาคอยส่งให้สอดใส่ | ||
| พระถอดรูปเงาะพลันทันใด | มอบให้รจนานงเยาว์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ลงสรงมอญ | |||
| ๏ แล้วขัดสีฉวีวรรณผุดผ่อง | ดังทองชมพูนุทเนื้อเก้า | ||
| สุคนธาประทิ่นกลิ่นเกลา | สนับเพลาเชิงงอนซ้อนซับ | ||
| ภูษาผ้าทิพย์กระสันทรง | จีบโจงหางหงส์ประจงจับ | ||
| ปั้นเหน่งเพชรพรรณรายสายบานพับ | เฟื่องห้อยพลอยประดับทับทรวง | ||
| ทองกรแก้วพุกามงามเงา | ทับทิมเท่าเม็ดข้าวโพดโชติช่วง | ||
| สร้อยสนสังวาลวรรณกุดั่นดวง | รุ้งร่วมธำมรงค์เรือนครุฑ | ||
| กรรเจียกจอนจำหลักลายซ้ายขวา | บรรจงทรงมหามงกุฏ | ||
| ห้อยอุบะนฤมิตผิดมนุษย์ | งามดังเทพบุตรในชั้นฟ้า | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เสร็จทรงเครื่องประดับฉับพลัน | พระสังข์เกษมสันต์หรรษา | ||
| จึงชวนนวลนางรจนา | มากราบกรานมารดาด้วยใจภักดิ์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาแลดูไม่รู้จัก | ||
| คิดว่าเทวาสุรารักษ์ | อกใจทึกทักให้ครั่นคร้าม | ||
| นางนบนอบหมอบกรานกราบไหว้ | ลูกสาวยุดฉุดไว้แล้วร้องห้าม | ||
| พระมารดานิ่งอยู่ไม่รู้ความ | ลูกเขยถอดเงาะงามแล้วเป็นไร | ||
| นางมณฑาว่าอ่อกระนั้นหรือ | แม่คนซื่อสำคัญว่ามิใช่ | ||
| ลูกเขยข้าถอดเงาะเหมาะเหลือใจ | นางลูบไหล่ลูบหลังนั่งมอง | ||
| น้อยหรือน่ารักเป็นนักหนา | หน้าตาจิ้มลิ้มยิ้มย่อง | ||
| สอดใส่เครื่องประดับก็รับรอง | ผิวพรรณผุดผ่องดังทองทา | ||
| คิดคิดขึ้นมาน่าหัวเราะ | เอารูปเงาะสวมใส่ทำใบ้บ้า | ||
| อัปยศอดอายขายหน้าตา | เจ้าแกล้งแปลงมาแม่ไม่รู้ | ||
| รจนายาจิตช่างคิดถูก | หมายมั่นพันผูกก็ควรอยู่ | ||
| ทีนี้แหละลอยแก้วแล้วลูกกู | โฉมตรูแย้มยิ้มกระหยิ่มใจ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ แล้วร้องเรียกภัสดาสามี | เร็วเร็วมานี่จะบอกให้ | ||
| รวยแล้วทูนหัวอย่ากลัวใคร | เห็นจะกู้เมืองได้ดังใจปอง | ||
| อย่าดูถูกลูกเขยคนนี้ | ทั้งในธานีไม่มีสอง | ||
| ผิวเนื้อเรื่อเหลืองเรืองรอง | เปล่งปลั่งดังทองนพคุณ | ||
| งามเลิศเหลือมนุษย์สุดแล้วพอ | ปากคอคิ้วตาเหมือนหน้าหุ่น | ||
| ถ้าใครได้เห็นก็เป็นบุญ | ไม่เชื่อเชิญพ่อคุณเข้ามาดู | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์หัวเราะเยาะยิ้มอยู่ | ||
| เออราวกับใครเขาไม่รู้ | รำคาญหูจู้จี้ไปทีเดียว | ||
| ขืนจะให้ไปดูลูกเขยเงาะ | มันสิเหมาะหนักหนาเหมือนม่าเหมี่ยว | ||
| อย่าอวดโอ้โป้ปดลดเลี้ยว | พระอินทร์มาเขียวเขียวไม่เชื่อเลย | ||
| แล้วตรัสกับเสนานินทาเมีย | ตะแกเสียจริตผิดแล้วเหวย | ||
| รูปทองที่ไหนเล่าเฝ้าชมเชย | เงาะเงยน่าเกลียดขี้เกียจไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาว่าดู๋ดื้อไปได้ | ||
| เขาจะริบฉิบหายทั้งเวียงชัย | น่าชังช่างกระไรไม่เชื่อเลย | ||
| กลับมาหัวเราะเยาะเย้ยข้า | จะว่าใครเป็นบ้านิจจาเอ๋ย | ||
| ไม่ลวงหลอกดอกนะพระเอย | ลูกเขยเราไซร้มิใช่เงาะ | ||
| ฟ้าผี่เถิดหนาไม่ว่าเล่น | ท้าวเห้นกลัวแต่จะชมเปาะ | ||
| จริงจริงนะขาอย่าหัวเราะ | แม้นไม่เหมาะตีเมียเสียให้ตาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์สรวลสันต์ไม่ผันผาย | ||
| เห็นนางมณฑาว่าวุ่นวาย | จึงชังตายดำเนินเดินมา | ||
| เข้าไปในทับเห็นลูกเขย | พ่อเจ้าลูกเอ๋ยงามนักหนา | ||
| น้อยหรือรูปร่างเหมือนเทวดา | หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา | ||
| ผิวเนื้อเรื่อเรืองเหลืองประหลาด | ดังทองคำธรรมชาติหล่อเหลา | ||
| ฟ้าผี่เถิดเอ๋ยลูกเขยเรา | งามจริงแล้วเจ้านางมณฑา | ||
| ถึงตัวพี่เมื่อครั้งยังหนุ่มแน่น | รูปร่างก็อ้อนแอ้นโอ้อ่า | ||
| ไม่แกล้งอวดทรวดทรงหน้าตา | ไส่ชฎาเครื่องประดับก็รับรอง | ||
| แต่ไม่เหมาะเหมือนลูกเขยคนนี้ | เป็นต่อพี่อยู่ราวสักสามสอง | ||
| แพ้เขาที่เนื้อไม่เป็นทอง | กระนั้นน้องยังรักว่ารูปงาม | ||
| ตรัสพลางแย้มยิ้มพริ้มพราย | แล้วภิปรายปราศรัยไต่ถาม | ||
| ลูกรักจงแถลงแจ้งความ | เจ้านี้มีนามกรใด | ||
| วงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อ | พงศ์เผ่าเหล่ากอเป็นไฉน | ||
| อยู่ประเทศธานีบุรีไว | ทำไมจึงแกล้งแปลงปลอมมา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์บังคมก้มหน้า | ||
| ยิ้มพลางทางทูลพ่อตา | ตัวข้านี้ชื่อพระสังข์ทอง | ||
| เป็นโอรสท้าวยศวิมล | แจ้งตามความต้นที่หม่นหมอง | ||
| ซื่งแปลงมาจะหาคู่ครอง | จงทราบฝ่าละอองบทมาลย์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตบพระหัตถ์ฉัดฉาน | ||
| ลูกเขยกูผู้ดีสันดาน | เป็นเผ่าพงศ์วงศ์วานกษัตรา | ||
| สมยศสมศักดิ์น่ารักใคร่ | ทีนี้ไม่อับอายขายหน้า | ||
| พระลูบหลังลูบไหล่ไปมา | จูบซ้ายจูบขวาลูกข้างาม | ||
| อ้ายหกเขยยุพ่อให้ขับเจ้า | แค้นใจยายเฒ่าก็ไม่ห้าม | ||
| บิดาโฉดเฉาเบาความ | ไม่รู้เลยว่างามถึงเพียงนี้ | ||
| อย่าถือโทษโกรธพ่อเลยหนอลูก | ว่าลบหลู่ดูถูกขับหนี | ||
| แม้นเจ้ามีชัยชนะคลี | พ่อจะมอบบุรีให้ครอบครอง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์บังคมทูลสนอง | ||
| ข้าจะขออาสาฝ่าละออง | อย่าร้อนเร่าเศร้าหมองฤทัย | ||
| ซึ่งข้าศึกมาขันพนันคลี | ลูกจะตีต้านต่อก็พอได้ | ||
| แต่จะขอมิ่งม้าอาชาไนย | ที่สูงใหญ่เคล่าคล่องทำนองคลี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| จึงว่าอย่าร้อนใจไปไยมี | ม้าเราดีดีมีถมไป | ||
| ว่าพลางทางสั่งกรมม้า | จงไปผูกอาชามาให้ | ||
| บรรดาม้าต้นที่โรงใน | มีอยู่เท่าไรเร่งเอามา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีตัวนายซ้ายขวา | ||
| คำนับรับพระราชบัญชา | บังคมลาแล่นไปดังใจปอง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงผูกพาชี | ล้วนตัวดีฝีเท้าเคล่าคล่อง | ||
| เบาะอานพานหน้าเครื่องทอง | เจ้าของคนเลื้ยงเคียงมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงจูงม้าที่นั่ง | เข้าไปยังหน้าฉานขนานหน้า | ||
| เหล่าพวกขุนนางข้างกรมม้า | หมอบคอยบัญชาพระภูมี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เลือกม้าไม่น่าขี่ | ||
| จึงทูลท้าวพ่อตาไปทันที | ม้าที่นั่งทั้งนี้ไม่ชอบใจ | ||
| ข้าเห็นพาชีสีกะเลียว | มาเที่ยวกินถั่วริมรั้วไร่ | ||
| ท่วงทีขี่ขับจะว่องไว | ขอพระองค์จงให้ไปจับมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ได้ฟังพระสังข์ว่า | ||
| จึงดำรัสตรัสสั่งเสนา | จงไปจับม้ามาให้ลูกกู | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีสี่เหล่าที่เฝ้าอยู่ | ||
| รับสั่งแล้วชิงกันวิ่งพรู | มาดูเห็นม้าก็ยินดี | ||
| จึงแยกย้ายรายกันเข้าล้อม | วิ่งอ้อมเอาเชือกขึงอึงมี่ | ||
| ไล่สกัดทางโน้นทางนี้ | พาชีหนีหลบว่องไว | ||
| ลางคนเข้ามาเอาหญ้าล่อ | ฉวยผมหน้าคว้าคอไว้ได้ | ||
| ม้าชกหกล้มคะมำไป | เลี้ยวไล่ดีดกัดกระจัดกระจาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เทวัญบันดาลให้เสนา | จับม้ามาได้ดังใจหมาย | ||
| จึงผูกเครื่องสุวรรณพรรณราย | แล้วจูงมาถวายทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทรงสวัสดิ์รัศมี | ||
| สมคิดได้ม้าพาชี | ยินดีเดินออกนอกประตู | ||
| พระจึงชวนนวลนางรจนา | ออกจากเคหาที่อยู่ | ||
| ท้าวสามนต์ร้องว่าหลีกลูกกู | ฉวยไม้ไล่ขู่ขับผู้คน | ||
| ลูกเขยขึ้นขี่อาชา | พ่อตาก็วางขึ้นช้างต้น | ||
| ทั้งสองโฉมศรีนฤมล | ทรงวอลรดลตามมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | หญิงชายชาวเมืองถ้วนหน้า | ||
| เห็นพระรูปทองล่องลอยฟ้า | ต่างว่าภูวไนยมิใช่เงาะ | ||
| เกิดมาพึ่งเห็นเป็นบุญตัว | หม่อมผัวพระบุตรีคนนี้เหมาะ | ||
| เทวดาพานำมาจำเพาะ | บังคมชมเปาะไปทั้งนั้น | ||
| ต่างอำนวยอวยพรพระสังข์ทอง | หนุ่มแก่แซ่ซ้องทั้งเขตขัณฑ์ | ||
| มาตามดูภูมีนี่นัน | เบียดกันกลางถนนแน่นไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท่าวสามนต์เป็นใหญ่ | ||
| ครั้งช้างที่นั่งถึงวังใน | ตรงไปประทับกับเกยพลัน | ||
| เสด็จลงจากคอคชสาร | ภูบาลตรัสชวนเขยขวัญ | ||
| ทั้งพระมเหสีบุตรีนั้น | จรจรัลขึ้นสู่ปราสาทชัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายเจ้าหกเขยใหญ่ | ||
| ปรับทุกข์กับเมียเสียน้ำใจ | จะทำให้ไอ้เงาะขึ้นหน้าตา | ||
| ถ้อยทีเดือดดาลทะยานจิต | ต่างคนแค้นคิดริษยา | ||
| ผัวเมียพากันรันขึ้นมา | เฝ้าพระบิดาทันใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงบังคมเคารพ | นอบนบสองกษัตริย์เป็นใหญ่ | ||
| เห็นพระสังข์ทองยองใย | จำได้แน่จิตสะกิดกัน | ||
| อ้ายรูปทองคนนี้เจียวสิหว่า | ที่ทำเป็นเจ้าป่าพนาสัณฑ์ | ||
| หาปลาหาเนื้อเมื่อคราวนั้น | ต้องไปง้อขอมันไม่ทันรู้ | ||
| มันเป็นผัวรจนาอิจฉาเรา | จึงเล่นเอาจมูกกับใบหู | ||
| ต่างก้มคลำแผลไม่แลดู | อัปยศอดสูเสียน้ำใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบุตรีพี่ผู้ใหญ่ | ||
| เห็นพระสังข์นั่งดูตะลึงตะไล | พิศวงหลงใหลใจปอง | ||
| งามจริงยิ่งมนุษย์ในใต้หล้า | น้อยหรือน่าร่วมภิรมย์สมสอง | ||
| สอดใส่เครื่องประดับก็รับรอง | ผิวเนื้อนวลละอองดังทองทา | ||
| ดูพลางทางทำสะเทินอาย | ชักชายผ้าห่มก้มหน้า | ||
| เมียงชม้อยคอยรับนัยนา | เสน่หาต้องจิตติดใจ | ||
| แล้วเหลียวดูผัวของตัวมั่ง | เห็นนั่งทุกข์ร้อนก็ค้อนให้ | ||
| รู้กระนี้ทีทิ้งพวงมาลัย | จะเลือกเจ้าเงาะไว้เป็นของตัว | ||
| ต่างคิดริษยาน้องสาว | มานั่งเท้าแขนเคียงอยู่กับผัว | ||
| เริงร่าหน้าบานเป็นใบบัว | ลืมกลัวบิดาร้องว่าไป | ||
| เมียเจ้ารูปทองสิบสองหนัก | ยศศักดิ์ปึ่งชาหาน้อยไม่ | ||
| พี่น้องพร้อมพรั่งชั่งกระไร | แต่จะยกมือไหว้ก็ไม่มี | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาได้ฟังทั้งหกพี่ | ||
| หัวเราะเยาะหยันขึ้นทันที | เออนี่อะไรช่างไม่อาย | ||
| ออกมานั่งตั้งกระทู้ขู่ข่ม | เจ้าคารี้สีคารมใจหาย | ||
| เมื่อแรกได้ผัวเงาะเยาะวุ่นวาย | ทั้งตัดเป็นตัดตายจะตบตี | ||
| ประเดี๋ยวนี้จะกลับมานับถือ | นี่ลืมไปแล้วหรือนะหม่อมพี่ | ||
| เป็นผู้ใหญ่อะไรอย่างนี้ | ข้ามิอยากไหว้ให้เสียมือ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางต่างว่าน้อยไปหรือ | ||
| ปากคอพ้อตัดได้หัดปรือ | ยกรื้อความหลังขึ้นพูดจา | ||
| อุแม่เอ๋ยหม่อมเมียเจ้ารูปทอง | จองหองไม่น้อยออกลอยหน้า | ||
| จะรวยรุ่งพลุ่มโพลงโด่งฟ้า | ยิ่งกว่ากรวดลาวแล้วคราวนี้ | ||
| เหตุว่าพระบิดาออกไปรับ | จึงได้กลับมาเถียงเสียงมี่ | ||
| ฝากไว้ก่อนเถิดเป็นไรมี | ใครดีนานไปได้เห็นกัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาเถียงทะเลาะเยาะหยัน | ||
| ช่างแคะได้ค่อนว่าสารพัน | ฝากไว้กี่วันจะเอาไป | ||
| อย่าอื้ออึงมึงมันกระนั้นนะ | ไม่ลดละกันดอกจะบอกให้ | ||
| ผัวพี่รอดตัวเพราะผัวใคร | เห็นเขาไม่ว่าไรแล้วได้ที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางร้อนใจดังไฟจี้ | ||
| จึงว่าเห็นผัวกูชั่วดี | อย่างไรนี่ว่าไปให้จริงจัง | ||
| อย่าสบประมาทกันกระนั้นเจ้า | นี่เปล่าเปล่าเตือนค้อนใส่สันหลัง | ||
| เร่งว่าออกไปจะได้ฟัง | ใครอำปลังยั้งไว้มิใช่คน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยคิดพรั่นอั้นอ้น | ||
| กลัวจะเกิดความใหญ่เห็นไม่พ้น | ต่างคนห้ามเมียเสียทันใด | ||
| วานอย่าว่าวุ่นวายอายเขา | อะไรเจ้าไม่อดสูเป็นผู้ใหญ่ | ||
| ขายหูเสียมั่งชั่งเป็นไร | จะทำให้เคืองจิตพระบิดา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางต่างคนบ่นว่า | ||
| เถียงทะเลาะผัวไปมิได้ช้า | มันว่าฟังเพราะเหมาะหรือไร | ||
| เจ้าช่างอดโมโหไม่โต้ตอบ | หรือทำผิดมิชอบเป็นไฉน | ||
| จะมานิ่งเกรงกลัวหัวมันไย | แล้วผินหน้าว่าไปแก่รจนา | ||
| ผัวกูผิดอะไรไม่ว่าออก | พูดหลอกกันเล่นหรือสิหวา | ||
| สดสดร้อนร้อนไม่เจรจา | แม้นว่าออกมิได้ขัดใจกัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาหัวเราะเยาะเย้ยหยัน | ||
| จึงว่าพี่นี่แน่อย่าดุดัน | ผัวเมียถามกันก่อนเป็นไร | ||
| เมื่อคราวไปหาเนื้อหาปลา | ผัวหาได้เองหรือใครให้ | ||
| จะใคร่แจ้งประจักษ์จงซักไซ้ | จมูกหูอยู่ไหนไม่ถามกัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางต่างคนหุนหัน | ||
| ผินหน้าว่าผัวของตัวพลัน | ได้ยินมันหรือไม่เจ้าใจเย็น | ||
| ไหนว่าจมูกเจ้าปากเป้ากัด | ผีตัดใบหูมีผู้เห็น | ||
| ช่างเงียบเสียงเถียงเขาก็ไม่เป็น | ให้มันมาว่าเล่นเป็นอย่างไร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยเงยหน้ามิใคร่ได้ | ||
| อุบอิบกระซิบตอบเมียไป | เขาว่าไรก็ชั่งมั่งเถิดนา | ||
| ทำไมกับหูแหว่งจมูกวิ่น | ถึงจะด้วนเสียสิ้นก็ของข้า | ||
| เถียงกันไปเปล่าเปล่าไม่เข้ายา | บุราณว่าอดใจได้เป็นพระ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ผุดลุกขึ้นเกะกะ | ||
| กูได้ยินแว่วแว่วอยู่แล้วนะ | มันต่อจะชอบกลเจ้ามณฑา | ||
| จึงซักถามรจนายาใจ | รู้เห็นเป็นอย่างไรให้เร่งว่า | ||
| เมื่อพ่อใช้ไปหาเนื้อปลา | มันไปขอใครมาจงว่าไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ | ||
| สรวลพลางทางทูลเป็นนัย | จะว่าไปก็ดูไม่สู้ดี | ||
| เขาจะลืออื้ออึงเอิกเกริก | เหมือนหนึ่งแกล้งลำเลิกผัวพี่ | ||
| แต่มันน่าอดสูพระภูมี | เดิมทีเที่ยวหาเนื้อปลา | ||
| ทั้งหกเขยใหญ่ไปกราบกราน | งอนง้อขอทานผัวข้า | ||
| เสียของต้องใจจึงได้มา | จะทราบบาทาท้าวไท | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์สรวลสันต์ไม่กลั้นได้ | ||
| ตบมืออื้งอึงคะนึงไป | นางมณฑาชอบใจหัวร่องอ | ||
| จึงถามพระสังข์สอบเห็นชอบกล | เหตุผลเป็นกระไรไฉนหนอ | ||
| จงแจ้งตามจริงจังอย่ารั้งรอ | เล่าไปเถิดพ่อจะขอฟัง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทูลตามความหลัง | ||
| หกเขยไปหาข้าสองครั้ง | สิ้นทั้งบ่าวไพร่ก็ได้รู้ | ||
| เมื่อขอปลาข้าตัดจมูกไว้ | เมื่อขอเนื้อก็ให้ใบหู | ||
| พระองค์จงถามทั้งหกดู | เท็จจริงย่อมรู้อยู่เต็มใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ร้องเหวยหกเขยใหญ่ | ||
| มานั่งก้มหน้าอยู่ว่าไร | มึงตั้งใจเลี้ยวลดปดกู | ||
| จมูกแหว่งแกล้วว่าปากเป้ากัด | ผีใขมดโกรธตัดเอาใบหู | ||
| กูหลงเชื่อเมื่อแรกก็ไม่รู้ | ต่อลูกกูบอกเล่าจึงเข้าใจ | ||
| ไปหาเนื้อหาปลามาแต่หลัง | มึงไปขอพระสังข์จริงหรือไม่ | ||
| อย่าสับปลับรับเสียก็แล้วไป | กูจะไว้ชีวาไม่ฆ่าตี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกเขยสุดรู้ทำอู้อี้ | ||
| กระอักกระไอมิใคร่พาที | มือขยี้หูตาประหม่าใจ | ||
| พ่อตากริ้วกราดตวาดซ้ำ | ยิ่งละล่ำละลักหลงใหล | ||
| เพ็ดทูลเลอะเลื่อนเปื้อนไป | ไม่ได้ความจริงสักสิ่งอัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เคืองขุ่นหุนหัน | ||
| ผินหน้ามาว่ากับเมียพลัน | มันจริงสิ้นทั้งนั้นเจ้ามณฑา | ||
| อ้ายเหล่านี้ดีแต่จะปดโป้ | ไม่เป็นโล้เป็นพายขายหน้า | ||
| จะฆ่าเสียก็สมเพชเวทนา | เอาไว้ให้เป็นข้าพระสังข์ทอง | ||
| ลูกเขยเราคนนี้ดีเลิศแล้ว | ดังดวงแก้วบริสุทธิ์ผุดผ่อง | ||
| จะยกบ้านเมืองมอบให้ครอบครอง | ปกป้องไพร่ฟ้าเสนาใน | ||
| อันข้าศึกซึ่งขันพนันคลี | จะต่อตีสู้กันหาพรั่นไม่ | ||
| วันนี้จวนค่ำย่ำฆ้องชัย | หลับนอนเสียให้เต็มตา | ||
| ว่าพลางขับเขยทั้งหกคน | ไสหัวไปให้พันชังน้ำหน้า | ||
| ชวนพระสังข์กับนางรจนา | เข้าที่ไสยาผาสุกใจ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ ครั้นรุ่งสุริยาการ้อง | ท้าวสามนต์ตรึกตรองไม่หลับไหล | ||
| จึงชวนพระสังข์ทองยองใย | กับเมียรักร่วมใจและธิดา | ||
| สี่กษัตริย์สระสรงทรงเครื่อง | รุ่งเรืองระยับจับเวหา | ||
| แล้วเสด็จยุรยาตรคลาดคลา | ตรงมาเกยสุวรรณทันใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ขึ้นทรงคอคชสารศรี | พ่วงพีหกศอกสูงใหญ่ | ||
| พระสังข์ทรงมิ่งม้าอาชาไนย | สององค์อรไทขึ้นวอทอง | ||
| เกณฑ์แห่เกณฑ์แหนแน่นหนา | ธงทวนนำหน้าเป็นแถวถ้อง | ||
| แซ่เสียงแตรสังข์ฆ้องกลอง | ออกไปยังท้องสนามคลี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงชวนพระสังข์ | ขึ้นยังพลับพลาหลังคาสี | ||
| พร้อมทั้งหกเขยและบุตรี | เสนีเฝ้าแหนแน่นนัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | อมรินทร์ปิ่นภพสรวงสวรรค์ | ||
| ทอดพระเนตรเห็นท้าวสามนต์นั้น | พาลูกเขยขวัญออกมา | ||
| จึงตรัสบอกเทวัญจันทรี | ที่นี้สมดังปรารถนา | ||
| จำจะทำให้ไอ้เฒ่าพ่อตา | เห็นฤทธาพระสังข์ครั้งนี้ | ||
| ว่าแล้วแต่งองค์ทรงเครื่อง | รุ่งเรืองจำรัสรัศมี | ||
| ทรงเทพอาชาพาชี | กรกุมคันคลีแกว่งไกว | ||
| เทพบุตรครุฑาคนธรรพ | แห่แหนแน่นนับอสงไขย | ||
| คลายคลี่รี้พลงสกลไกร | ตรงไปยังท้องสนามคลี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงหยุดโยธา | อยู่ตรงพลับพลาหลังคาสี | ||
| แล้วร้องเตือนไปพลันทันที | ว่าเหวยภูมีท้าวสามนต์ | ||
| จะให้ใครไหนเล่ามาต่อสู้ | หรือสุดรู้สิ้นคิดขัดสน | ||
| จะได้รีบเวียงชัยเอาไพร่พล | เมียมีกี่คนจงบอกมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ได้ฟังยังประหม่า | ||
| ให้นึกพรั่นหวั่นหวาดวิญญาณ์ | ด้วยว่าหกเขยนั้นเคยแพ้ | ||
| จึงถามพระสังข์นั่งซักไซ้ | เห็นว่าจะสู้ได้เป็นแน่ | ||
| ค่อยคลายหายอุธัจท้อแท้ | ลุกขึ้นยืนยิ้มแต้แลไป | ||
| เห็นไพรีขี่ม้าป้องหน้าดู | แล้วร้องว่ามาสู้กันใหม่ | ||
| ลูกเขยน้อยเรานี้ดีสุดใจ | ไม่เหมือนไอ้เขยเคอะเซอะซะ | ||
| การคลีมีฝีมือลือเลิศ | ฟ้าผี่เถิดท่านแพ้แน่แล้วหนะ | ||
| วันนี้ไม่มีลายหมายชนะ | อย่าเยาะเย้ยเลยคะไม่ย่อท้อ | ||
| ว่าพลางทางปลอบลูกเขย | ลูกเอ๋ยอย่าให้อายขายหน้าพ่อ | ||
| คอยระวังตั้งใจตั้งคอ | แข็งข้อต่อสู้ดูสักที | ||
| แล้วบนบานศาลกล่าวเจ้านาย | จะถวายหัวหมูกับบายศรี | ||
| มาตรแม้นมีชัยชนะคลี | จะให้มีอิเหนาสักเก้าวัน | ||
| เล่นการมหรสพครบสิ่ง | จะเวียนเทียนทำมิ่งสิ่งขวัญ | ||
| นวลนางมณฑามารดานั้น | ชวนกันอวยชัยให้ลูกรัก | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์สุริย์วงศ์ทรงศักดิ์ | ||
| รับพรพ่อตาสามิภักดิ์ | เหลียวดูเมียรักแล้วยิ้มพราย | ||
| จึงบังคมลาบิตุรงค์ | มาทรงอาชาเฉิดฉาย | ||
| กรกุมคันคลีกรีดกราย | ชักม้าเรียงร่ายรำมา | ||
| ชายหญิงแซ่ซ้องร้องชม | งามสมยศศักดิ์นักหนา | ||
| งามทั้งท่วงทีขี่อาชา | ดังพระยาสีหราชอาจอง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โกสีย์มีศักดิ์สูงส่ง | ||
| ชื่นชมสมคิดดังจิตจง | พลางทางสินธพกระทืบโกลน | ||
| สะบัดย่างวางใหญ่ไวว่อง | ม้าต้นรนร้องลำพองโผน | ||
| ชักบังเหียนหันหกผกเผ่นโจน | พลางโยนลูกคลีตีไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์คอยขยับรับไว้ได้ | ||
| เดาะคลีตีตอบไปทันใด | สหัสนัยน์กลอกกลับรับรอง | ||
| ต่างแกว่งค้นคลีเป็นทีท่า | ขับม้ามีฝีเท้าเคล่าคล่อง | ||
| เวียนวนวกวิ่งชิงคลอง | เปลี่ยนทำนองเข้าออกหลอกล้อ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ พระยาเดิน | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ร้องรับให้ดีพ่อ | ||
| ตบมืออือเออชะเง้อคอ | เห็นลูกเขยเป็นต่อหัวร่อคัก | ||
| ลุกขึ้นโลดเต้นเขม้นมุ่ง | พลัดผลุดลงมาขาแทบหัก | ||
| มึนเมี่อยเหนื่อยบอบหอบฮัก | พิงพนักนั่งโยกตะโพกเพลีย | ||
| ฉวยคนโทถมยามาดื่มน้ำ | หกคว่ำสำลักแล้วบ้วนเสีย | ||
| หยิบบุหรี่จุดไฟไหม้ลามเลีย | วัดถูกจมูกเมียไม่รู้ตัว | ||
| สาละวนตึงตังกำลังวุ่น | แม่คุณขอโทษอย่าโกรธผัว | ||
| พี่ก็พานแก่ชราหูตามัว | ไม่เห็นตัวว่าใครข้างไหนเลย | ||
| ว่าพลางทางเรียกเอาแว่นตา | ใส่จมูกแหงนหน้าดูลูกเขย | ||
| ลุกขึ้นมองร้องเออชะเง้อเงย | ยายเอ๋ยอย่าปรารมภ์เป็นรองเรา | ||
| แล้วผินมาด่าหกเขยใหญ่ | เอออะไรกินข้าวสุกเสียเปล่าเปล่า | ||
| สำคัญคิดว่าดีอ้ายขี้เค้า | ออกตีคลีแพ้เขาประเดี๋ยวใจ | ||
| ดูเถิดซี้นี่แน่ลูกเขยกู | มาช่วยกู้แก้หน้าพ่อตาได้ | ||
| ไม่เหมือนมึงโง่งมก้มอยู่ไย | ขัดใจจะใคร่ถองสักสองตึง | ||
| นางเมียเล่าปากคอก็พอสม | เจ้าคารมสิ้นทีไม่มีถึง | ||
| พระกริ้วโกรธาด่าอึง | ผัวมึงอัปรีย์อ้ายขี้แพ้ | ||
| แล้วเรียกรจนาเข้ามานี่ | พ่อนี้ไม่เห็นหนเป็นคนแก่ | ||
| ตาเจ้าสาวอยู่ช่วยดูแล | ช้างไหนแน่สามีจงชี้ตัว | ||
| เสียงคนมี่ก้องร้องเออ | นางมณฑาชะเง้อง้ำผัว | ||
| แพ้ลูกเขยข้าแล้วอย่ากลัว | ครั้งนี้รอดตัวไม่เสียเมือง | ||
| ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | อมรินทร์ปิ่นฟ้าฟุ้งเฟื่อง | ||
| ควบม้ามุ่งหมายชายชำเลือง | ยักเยื้องย่างท่าสง่างาม | ||
| ทรงเลี้ยงลูกคลีตีเดาะ | พระอินทร์เหาะขึ้นจากท้องสนาม | ||
| พระสังข์ไม่พรั่นครั่นคร้าม | เหาะตามติดพันกระชั้นชิด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ บัดนั้น | ประชาชนคนดูอักนิษฐ์ | ||
| เห็นเหาะทั้งสองข้างต่างมีฤทธิ์ | ให้คิดพิศวงงงงวย | ||
| บ้างแหงนหน้าอ้าปากตะลึงตะไล | แลดูภูวไนยเอาใจช่วย | ||
| เบียดเสียดเยียดยัดดังดูมวย | แซ่ซ้องรอ้งอำนวยอวยชัย | ||
| พวกชาววังนั่งเลิกมูลี่ดู | อึงคะนึงหนวกหูห้ามไม่ไหว | ||
| บ้างโกรธเพื่อนพ้อตัดด้วยขัดใจ | ที่ทางอะไรของตัว | ||
| ท้าวสามนต์มองร้องตวาด | อีอุบาทว์เหล่านี้มิใช่ชั่ว | ||
| ได้จะดูอะไรแล้วไม่กลัว | เคยตัวตีเสียให้แทบตาย | ||
| ท้าวนางตกใจเข้าไปห้าม | อะไรรูปงามงามไม่กลัวหวาย | ||
| แม่เจ้าเถิดแม่คุณอย่าวุ่นวาย | หลังจะลายเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | ||
| พวกผู้หญิงชั้นล่างข้างพลับพลา | เบียดกันรันเข้ามาถึงหน้าฉาน | ||
| จ่าโขลนไล่ตีหนีลนลาน | สับสนอลหม่านมี่ไป | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระอินทร์แกล้งอ่อนหย่อนมือให้ | ||
| ชักม้าที่นั่งรั้งรอไว้ | แล้วแกล้งว่าไปด้วยวาจา | ||
| ลูกเขยท้าวสามนต์คนนี้ | ฝีมือตีคลีดีนักหนา | ||
| ต่อสู้เคี่ยวขับไม่อัปรา | หาไม่พ่อตาจะต้องริบ | ||
| ควรที่จะครองเมืองเลื่องลือยศ | ปรากฏทั่วทิศทั้งสิบ | ||
| ว่าแล้วเหาะคล้อยลอยลิบ | กลับไปยังทิพพิมานชัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ผู้มีอัชฌาสัย | ||
| ครั้นท้าวโกสีย์หนีไป | ก็ขับมโนมัยลงมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ลนลานลงไปหา | ||
| จูงกรต้อนรับขึ้นพลับพลา | แม่ยายพ่อตาเข้าเชยชม | ||
| ปราศรัยสวมสอดกอดจูบ | โลมลูบหลังไหล่ลูกเขย | ||
| ช่างเคล่าคล่องว่องไวกระไรเลย | ทรงสง่าง่าเงยก็งามครัน | ||
| พ่อนี้แต่ครั้งยังไม่ชรา | อันตีคลีขี่ม้านี้ขยัน | ||
| เมื่อครั้งบ้านเมืองดีตีพนัน | ก็ออกชื่อลือกันว่าตัวดี | ||
| ทีหนีทีไล่ก็ไวว่อง | จะเป็นรองเจ้าราวห้าเอาสี่ | ||
| แต่ลืมเลอะทีเดียวแล้วเดี๋ยวนี้ | ไพรีล่วงรู้จึงดูเบา | ||
| ถ้าลูกแก้วแววตามิมาโปรด | หมดสิ้นทั้งโคตรเป็นข้าเขา | ||
| เทวดาให้คุณบุญของเรา | จริงหรือไม่เล่าเจ้ามณฑา | ||
| จะต้องรีบฉิบหายอยู่รอมร่อ | รอดตัวก็เพราะพ่อของข้า | ||
| พลางกอดจูบลูบไล้ไปมา | ผัวเมียปูผ้าลงคำนับ | ||
| เจ้าเหน็ดเหนื่อยหนักหนาหน้าตาแห้ง | ปรารมภ์ลมแล้งมันจะจับ | ||
| ท้าวพ่อตาตรัสสั่งบังคับ | ยกสำรับมาสู่ลูกกูกิน | ||
| แม่ยายละลายแป้งมาทาให้ | น้ำดอกไม้หอมฟุ้งจรุงกลิ่น | ||
| หยิบถาดน้ำชาออกมาริน | เจ้ากินให้สบายหายหิวมา | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ๏ พนักงานจัดสำรับคับคั่ง | ยกโต๊ะเข้าไปตั้งลงตรงหน้า | ||
| พระสังข์นั่งกินกับพ่อตา | นางเมียมาหมอบพัดปัดแมลงวัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นพ่อตาลูกเขยเสวยแล้ว | ท้าวสามนต์ผ่องแผ้วเกษมสันต์ | ||
| ลงจากที่ประทับพลับพลาพลัน | พากันเข้ายังวังใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ขึ้นบนพระโรงคัลไม่ทันนั่ง | ตรัสสั่งเสนาผู้ใหญ่ | ||
| ลูกเขยกูตีคลีมีชัย | จะเสกให้ครองกรุงในพรุ่งนี้ | ||
| จงช่วยกันเร่งรัดจัดแจง | ตกแต่งตั้งการภิเษกศรี | ||
| แห่แหนให้สนุกกว่าทุกที | แล้วจะมีอิเหนาสักเก้าวัน | ||
| ไปปรึกษาครูละครมันก่อนเหวย | ใครเคยรำดีทีขยัน | ||
| อิเหนาเรื่องมิสาอุณากรรณ | จะประชันดาหลังเมื่อครั้งครวญ | ||
| ทั้งหุ่นโขนโรงงิ้นผู้หญิง | ทุกสิ่งจงให้มีถี่ถ้วน | ||
| กำชับกันทำงานการจวน | สั่งเสร็จเสด็จด่วนเข้าข้างใน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีธิบดีผู้ใหญ่ | ||
| มาสั่งเวรเกณฑ์กันทันใด | นายไพร่เร่งระดมสมทบ | ||
| บ้างแต่งที่ปราสาทราชฐาน | บ้างปลูกโรงทานมหรสพ | ||
| กระบวนแห่งแตรสังข์ครันครบ | ตามขนบธรรมเนียมเตรียมไว้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ไม่อยู่สุขลุกวิ่งไขว่ | ||
| เที่ยวตรวจงานการข้างหน้าข้างใน | มิได้หยุดยั้งนั่งลงเลย | ||
| บัดเดี๋ยวไปให้เมียแต่งธิดา | บัดเดี๋ยวมาจัดแจงแต่งลูกเขย | ||
| ครั้นเสร็จนำหน้าพาไปเกย | ร้องห้ามเฮ้ยอย่าขวางทางลูกกู | ||
| ให้สองทรงสีวิกายานุมาศ | อำมาตย์เดินเคียงเป็นคู่คู่ | ||
| เคลื่อนกระบวนหน้าหลังพรั่งพรู | เลี้ยวออกนอกประตูแห่ไป | ||
| อภิรุมชุมสายพรายพรรณ | เสียงประโคมสนั่นหวั่นไหว | ||
| ท้าวสามนต์กับเมียมาข้างใน | ตรงไปมณเทียรที่พิธี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ กลองโยน | |||
| ๏ ถึงพร้อมแล้วพากันมานั่ง | บนบัลลังก์นั่งเคียงเตียงบายศรี | ||
| พร้อมพระวงศาเสนี | ครั้นได้ฤกษ์ดีให้ลั่นฆ้อง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ปุโรหิตผู้เฒ่าทั้งสอง | ||
| จึงจุดเทียนติดกันแว่นทอง | ค่อยประคองเคารพอภิวันท์ | ||
| เวียนวงส่งไปข้างในรับ | ประโคมขับขานเสียงเสนาะสนั่น | ||
| มหรสพครบสิ่งสิ้นทั้งนั้น | ก็เล่นขึ้นพร้อมกันทันใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ มหาชัย | |||
| ๏ ครั้นครบเจ็ดรอบตามตำรับ | จึงดับเทียนโบกควันให้ | ||
| เอาจุณเจิมเฉลิมพักตร์ภูวไนย | ทั้งองค์อรไทพระธิดา | ||
| แล้วอำนวยอวยพรศรีสวัสดิ์ | สองกษัตริย์จงเป็นสุขา | ||
| ทุกข์โศกโรคภัยอย่าพาธา | ให้ชันษายาวยืนหมื่นปี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| จึงตรัสแก่เขยขวัญทันที | สมบัติในบุรีและรี้พล | ||
| สารพัดพ่อให้แก่เจ้าหมด | ทั้งบ้านเมืองเครื่องยศเครื่องต้น | ||
| ตัวพ่อก็ชราตามืดมน | ขอพึ่งลูกสองคนไปจนตาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ชื่นชมสมหมาย | ||
| รับสั่งแล้วหมอบยอบกาย | กราบถวายบังคมก้มพักตร์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสามนต์ผู้มีศักดิ์ | ||
| ครั้นเสร็จสมโภชลูกรัก | มอบเวนอาณาจักรกรุงไกร | ||
| สี่กษัตริย์เสด็จเยื้องย่าง | จากปรางค์ปราสาททองผ่องใส | ||
| แห่แหนเป็นขนัดอัดแอไป | คืนเข้าวังในมิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
ตอนที่ ๙ ท้าวยศวิมลตามพระสังข์
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอก สังข์ทอง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๐
[ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน]
