บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¸ªà¸±à¸‡à¸‚์ทà¸à¸‡
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
												
			
		 (→ตอนที่ ๕ ท้าวสามนต์ให้นางทั้งเจ็ดเลือกคู่)  | 
		 (→ตอนที่ ๖ พระสังข์ได้นางรจนา)  | 
		||
| แถว 2,759: | แถว 2,759: | ||
</tpoem>  | </tpoem>  | ||
===ตอนที่ ๖ พระสังข์ได้นางรจนา===  | ===ตอนที่ ๖ พระสังข์ได้นางรจนา===  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | <sub>ช้า</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท่านท้าวสามนต์จนจิต  | ||
| + | กอดเข่าเข้าตะลึงรำพึงคิด   อกกูดูผิดประหลาดใจ  | ||
| + | บุรุษในแผ่นดินก็สิ้นแล้ว   ควรหรือลูกแก้วไม่เลือกได้  | ||
| + | คิดพลางทางเสด็จคลาไคล   ออกบัญชรชัยมิได้ช้า  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>เพลงฝรั่ง</sub>  | ||
| + | ๏ จึงตรัสแก่เสนาข้าเฝ้า   คนในเมืองเราถึงแสนกว่า  | ||
| + | ที่อยู่บ้านนอกขอกนา   ขับมาหมดสิ้นแล้วหรือยัง  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนาทูลไปดังใจหวัง  | ||
| + | ไพร่ฟ้ามาประชุมอยู่ในวัง   ทั่วทั้งแผ่นดินสิ้นชาย  | ||
| + | เหลือแต่เงาะป่าทรพล   หน้าตาผิดคนทั้งหลาย  | ||
| + | หัวพริกหยิกยุ่งหยาบคาย   ตัวลายคล้ายกันกับเสือปลา  | ||
| + | ใครจะบอกจะเล่าไม่เข้าใจ   พูดจาไม่ได้เหมือนใบ้บ้า  | ||
| + | เล่นอยู่กับเด็กที่กลางนา   จงทราบบาทาภูวไนย  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ฟังแจ้งแถลงไข  | ||
| + | ด้วยเดชะเทพเจ้าเข้าดลใจ   เผอิญให้กริ้วโกรธบุตรี  | ||
| + | จึงตรัสแก่องค์อัครชายา   น้อยหรือรจนาลูกสาวศรี  | ||
| + | เลือกคู่ดูใครไม่ไยดี   จนสิ้นชายไม่มีทั้งพารา  | ||
| + | เหลือแต่เงาะป่าเป็นบ้าใบ้   เอามาให้มันเลือกสมน้ำหน้า  | ||
| + | ว่าพลางทางสั่งเสนา   จงไปพาอ้ายเงาะมาในวัง  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนาคำนับรับสั่ง  | ||
| + | ต่างวิ่งวางไปมิได้ยั้ง   มายังกลางทุ่งท้องนา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงบอกแก่เจ้าเงาะ   รับสั่งจำเพาะให้หา  | ||
| + | เร็วเร็วมาไปอย่าได้ช้า   ต่างคนฉุดคร่าวุ่นวาย  | ||
| + | บ้างเปลื้องผ้าคาดพุงผูกมัด   เจ้าเงาะวัดถูกอกหกล้มหงาย  | ||
| + | ลางคนวิ่งออกมาบอกนาย   แรงมันมากมายเหมือนควายวัว  | ||
| + | บ้างพยักกวักเรียกเจ้าเงาะขา   ไม่พูดจาด้วยกันเฝ้าสั่นหัว  | ||
| + | ที่ใจคอขี้ขลาดหวาดกลัว   ระวังตัวยืนดูอยู่แต่ไกล  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บ้างทำเย้ายั่วให้หัวเราะ   ค่อยปะเหลาะลูบหลังเข้านั่งใกล้  | ||
| + | เกลอเอ๋ยอย่าช้ามาจะไป   นี่คนหรือตอไม้ไม่พูดจา  | ||
| + | เสนีนายใหญ่ให้ไพร่เลว   เอาพวนผูกบั้นเอวเจ้าเงาะป่า  | ||
| + | ต่างเข้าฉุดชักเต็มประดา   สาระพาเฮโลโย้ตามกัน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เชือกขาดล้มคว่ำคะมำไป   ลุกขึ้นดัดหลังไหล่กระดูกลั่น  | ||
| + | นิ่วหน้าสั่นหัวกลัวแรงมัน   ต่างปรึกษากันเป็นจนใจ  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ฝูงเด็กเลี้ยงโคน้อยใหญ่  | ||
| + | เห็นคนกลุ้มรุมฉุดเงาะไพร   ขัดใจวิ่งพลางทางร้อง  | ||
| + | จะเอาเงาะเขาไปข้างไหนนั่น   ข่มเหงกันไม่บอกเราเจ้าของ  | ||
| + | มิถูกอิฐหัวผ่าก็อย่าลอง   ไว้ไยไล่ถ่องให้แทบตาย  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนาฮึกฮักชักหวาย  | ||
| + | เหม่เจ้าเหล่านี้หลังจะลาย   อย่าวุ่นวายอ้ายหัวเหาเต่าเล็น  | ||
| + | รับสั่งให้เอาตัวอ้ายเงาะป่า   จะทอดพระเนตรหน้าตาไม่เคยเห็น  | ||
| + | มันเป็นใบ้บ้าว่ายากเย็น   เอ็งรู้ใจได้เล่นกับมันมา  | ||
| + | เคยอย่างไรจงบอกอย่าหลอกกัน   ให้ได้มันเข้าไปถวายหน้า  | ||
| + | กูจะให้ขนมเข่งของทยา   กินอร่อยหนักหนาประสาจน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ฝูงเด็กดีใจเสลือกสลน  | ||
| + | ต่างชิงกันบอกออกลน   แต่เป็นคนแล้วอย่าฉุดให้เหนื่อยแรง  | ||
| + | ถ้าขืนหยักเหย้าเซ้าซี้   มันขัดใจจะหนีไปแอบแฝง  | ||
| + | จงให้ไปเก็บดอกไม้แดง   มาผูกปลายไม้แกว่งแต่ไกลไกล  | ||
| + | ค่อยวิ่งรอรอล่อเล่น   เงาะเห็นก็จะผลุนหมุนไล่  | ||
| + | จะพาไปถึงวังได้ดังใจ   เอาขนมมาให้ข้าเถิดรา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   อำมาตย์ตบมือหัวเราะร่า  | ||
| + | ต่างวิ่งชิงเก็บดอกชบา   ผูกปลายไม้มาล่อเงาะ  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ พวกหลังไสส่งให้ตรงไป   ถือดอกไม้นำหน้าพาวิ่งเหยาะ  | ||
| + | ลางคนบ้างกลัวบ้างหัวเราะ   ล่อเงาะเข้ามาถึงวังใน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   ฝูงสนมกำนัลน้อยใหญ่  | ||
| + | แอบดูอยู่ที่บัญชรชัย   แลไปเห็นเงาะหัวเราะอึง  | ||
| + | บ้างว่าน่าชังเป็นหนักหนา   แลดูหูตาตื่นทะลึ่ง  | ||
| + | รูปร่างอัปรีย์ขี้ทึ้ง   เหมือนหนึ่งภูตผีที่กลางนา  | ||
| + | ลางคนบ่นว่าถ้าเช่นนี้   ฟ้าผี่เถิดไม่นึกปรารถนา  | ||
| + | น่ากลัวตัวดำเหมือนคุลา   ต่างติเงาะป่าว่าวุ่นไป  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนามาทูลแถลงไข  | ||
| + | ข้าออกไปเอาตัวอ้ายเงาะไพร   บัดนี้ได้มาแล้วพระราชา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์เห็นเงาะชังน้ำหน้า  | ||
| + | เนื้อตัวเป็นลายคล้ายเสือปลา   ไม่กลัวใครใจกล้าดุดัน  | ||
| + | ผมหยิกยุ่งเหยิงเหมือนเซิงฟัก   หน้าตาตละยักษ์มักกะสัน  | ||
| + | พระเมินเสียมิได้ดูมัน   แล้วมีบัญชาประชดรจนา  | ||
| + | จงออกไปเลือกคู่ดูอ้ายเงาะ   มันงามเหมาะเหลือใจเป็นใบ้บ้า  | ||
| + | หรือจะชอบอารมณ์สมหน้าตา   หน่อกษัตริย์จัดมาไม่พอใจ  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนานารีศรีใส  | ||
| + | เทวดาเดินหนดลฤทัย   อยากจะใคร่ดูเงาะจำเพาะเป็น  | ||
| + | จึงตรัสแก่พี่เลี้ยงกัลยา   เงาะป่าอย่างไรไม่เคยเห็น  | ||
| + | เขาว่าหน้ามันปั้นยากเย็น   เราออกไปดูเล่นก็เป็นไร  | ||
| + | ซึ่งบิดาเคืองขัดตรัสประชด   เผอิญลืมไปหมดไม่สงสัย  | ||
| + | จึงเสด็จลีลาคลาไคล   มายังพระโรงชัยฉับพลัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เพลง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ลีลากระทุ่ม</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน  | ||
| + | พิศโฉมพระธิดาวิลาวัณย์   ผุดผาดผิวพรรณดังดวงเดือน  | ||
| + | งามละม่อมพร้อมสิ้นทั้งอินทรีย์   นางในธรณีไม่มีเหมือน  | ||
| + | แสร้งทำแลเลี่ยงเบี่ยงเบือน   ให้ฟั่นเฟือนเตือนจิตคิดปอง  | ||
| + | พระจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน   แม้นบุญญาธิการเคยสมสอง  | ||
| + | ขอให้ทรามสงวนนวลน้อง   เห็นรูปพี่เป็นทองต้องใจรัก  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนานารีมีศักดิ์  | ||
| + | เทพไทอุปถัมภ์นำชัก   นงลักษณ์ดูเงาะเจาะจง  | ||
| + | นางเห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน   รูปเงาะสวมไว้ให้คนหลง  | ||
| + | ใครใครไม่เห็นรูปทรง   พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา  | ||
| + | ชะรอยบุญไซร้จึงได้เห็น   ต่อจะเป็นคู่ครองกระมังหนา  | ||
| + | คิดพลางนางเสี่ยงมาลา   แม้ว่าเคยสมภิรมย์รัก  | ||
| + | ขอให้พวงมาลยนี้ไปต้อง   เจ้าเงาะรูปทองจงประจักษ์  | ||
| + | เสี่ยงแล้วโฉมยงนงลักษณ์   ผินพักตร์ทิ้งพวงมาลัยไป  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   พระพี่เลี้ยงหลากจิตคิดสงสัย  | ||
| + | อกเอ๋ยนี่เห็นเป็นอย่างไร   มารักใคร่ไอ้เงาะมีเคราะห์กรรม  | ||
| + | ทำให้อายขายพักตร์เผ่าพงศ์   ไม่รักองค์เลยสักนิดผิดส่ำ  | ||
| + | ไม่ปรึกษาหารือแต่สักคำ   จะมาทำให้พี่นี้พลอยยับ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์เสียใจจนลมจับ  | ||
| + | นางมณฑาเข้าประคองรองรับ   ขยำขยับไปสักหน่อยก็ค่อยคลาย  | ||
| + | ลุกขึ้นกระทืบบาทตวาดอึง   อีรจนาดูดู๋มึงช่างมักง่าย  | ||
| + | ทรลักษณ์อัปรีย์ไม่มีอาย   หน่อกษัตริย์ทั้งหลายไม่เอื้อเฟื้อ  | ||
| + | มารักเงาะทรพลคนอุบาทว์   ทุดช่างชั่วชาติประหลาดเหลือ  | ||
| + | แค้นนักจักใครให้แล่เนื้อ   แล้วเอาเกลือทาซ้ำให้หนำใจ  | ||
| + | ว่าพลางฉวยได้ไม้เรียว   โกรธเกรี้ยวตัวสั่นหมั่นไส้  | ||
| + | อีลูกชั่วน่าชังจังไร   เอาไว้ไยดีเสียให้แทบตาย  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาอกสั่นขวัญหาย  | ||
| + | เห็นสามีเคืองขุ่นวุ่นวาย   จะพิดทูลเบี่ยงบ่ายก็เกรงกลัว  | ||
| + | จึงออกมาว่ากับลูกสาว   ช่างทำความงามฉาวอีคนชั่ว  | ||
| + | เสียยศเสียศักดิ์ไม่รักตัว   เลือกผัวได้เงาะเห็นเหมาะใจ  | ||
| + | เขาจะเยาะเย้ยเล่นเป็นตำรา   พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน  | ||
| + | จะเชิดชื่อลือลั่นสนั่นไป   ถึงบรรลัยก็ไม่สิ้นเขานินทา  | ||
| + | ควรหรือมาเป็นได้เช่นนี้   เสียทีแม่รักเจ้าหนักหนา  | ||
| + | ร่ำพลางนางทรงโศกา   กัลยาเพียงจะสิ้นสมประดี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางรจนามารศรี  | ||
| + | กล่าวแกล้งแสร้งทูลชนนี   ทั้งนี้เพราะกรรมได้ทำไว้  | ||
| + | แต่น้ำใสใจจริงของข้า   จะรักใคร่เงาะป่านั้นหาไม่  | ||
| + | ซึ่งหมายมั่นครั้นลูกจะว่าไป   ที่ไหนใครเลยจะเห็นจริง  | ||
| + | อันชั่วดีมิใช่จะไม่รู้   แม่น้ำท่วมปากอยู่จึงสู้นิ่ง  | ||
| + | ถึงชนกชนนีจะชังชิง   ลูกจะวิงวอนง้อขอโทษกรณ์  | ||
| + | ทั้งนี้สุดแท้แต่วาสนา   จะก้มหน้าใช้กรรมให้สิ้นก่อน  | ||
| + | ยากเย็นอย่างไรไม่ทุกข์ร้อน   มารดรอย่าทรงโศกาลัย  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางมณฑาหวั่นจิตคิดสงสัย  | ||
| + | เฝ้าปลอบถามลูกรักเฝ้าซักไซ้   จนอ่อนใจไม่บอกออกความ  | ||
| + | กูชังน้ำหน้าลูกว่ายาก   เหนื่อยปากรำคาญขี้คร้านถาม  | ||
| + | มึงเห็นอ้ายเงาะว่าเหมาะงาม   จะแร่ตามมันไปช่างไม่อาย  | ||
| + | ว่าพลางนางกลับเข้ามาเฝ้า   กระซิบทูลแบ่งเบาเบี่ยงบ่าย  | ||
| + | ข้าไปถามอีลูกแสนร้าย   มันพูดเป็นแยบคายไม่เข้าใจ  | ||
| + | หลากนักมารักอ้ายเงาะป่า   ชอบลงอาญาอย่าปราศรัย  | ||
| + | แต่พระได้ออกโอษฐ์โปรดไว้   ให้เลือกตามชอบใจทั้งเจ็ดคน  | ||
| + | ครั้นจะลงโทษทัณฑ์มันเล่า   จะนินทาว่าเราทุกแห่งหน  | ||
| + | โปรดเพียงขับไล่เสียให้พ้น   มันอดอยากยากจนอย่านำพา  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ท้าวสามนต์ฟังชังน้ำหน้า  | ||
| + | ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา   นิ่งนึกตรึกตราอยู่ในใจ  | ||
| + | จำจะต้องเงือดงดอดกลั้น   คอยหยิบผิดมันให้จงได้  | ||
| + | คิดพลางทางสั่งเสนาใน   อีรจนากูไม่ขอเห็นมัน  | ||
| + | จะใคร่ฆ่าเสียให้ตายก็อายเขา   จะว่าเรากลับคำทำหุนหัน  | ||
| + | จะขับไล่ไปเสียด้วยกัน   ปลูกกระท่อมให้มันอยู่ปลายนา  | ||
| + | แต่แรกกูตั้งจิตคิดหวัง   จะแต่งทั้งเจ็ดคนให้หนักหนา  | ||
| + | อีเจ้ากรรมทำให้ขายหน้าตา   จะแต่งการวิวาห์ก็ขี้คร้าน  | ||
| + | ให้อยู่เสียด้วยกันเถิดตามที   ในข้างขึ้นเดือนสี่ปีขาล  | ||
| + | ตรัสพลางทางคิดเดือดดาล   ปิดบานพระแกลไม่แลไป  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   เสนีมี่ฉาวเรียกบ่าวไพร่  | ||
| + | ต่างถือมีดพร้าแล้วคลาไคล   ตรงไปปลายนานอกธานี  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงเที่ยวเกี่ยวแฝก   ตัดไม้ไผ่แบกมาอึงมี่  | ||
| + | บ้างกล่อมเสามเกลาฟากมากมี   ปลูกกระท่อมลงที่ท้องนา  | ||
| + | แล้วปัดปูเสื่อฟูกผูกมุ้งม่าน   หม้อข้าวเชิงกรานตุ่มน้ำท่า  | ||
| + | ทั้งปลูกผักฟักแฟงแตงกวา   จอบเสียมมีดพร้าหาพร้อมไว้  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   ทั้งหกบุตรีศรีใส  | ||
| + | รู้ว่ารจนาทรามวัย   ได้ไอ้เงาะป่าเป็นสามี  | ||
| + | ต่างคนแค้นขัดอัธยา   มันทำให้เขาว่าขายหน้าพี่  | ||
| + | เราจะไปพ้อตัดให้เต็มที   ว่าแล้วจรลีออกมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เพลงเร็ว  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงหยุดยืนอยู่   แลดูน้องสาวกับเงาะป่า  | ||
| + | เคืองค้อนงอนจริตกิริยา   เปรียบประชดชี้หน้าแล้วว่าไป  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>เย้ย</sub>  | ||
| + | ๏ ชะนางคนดีไม่มีชั่ว   ช่างเลือกผัวงามนักน่ารักใคร่  | ||
| + | รูปร่างน่าหัวร่อเหมือนตอไม้   เอออะไรพุงโรสันหลังยาว  | ||
| + | มันน่าเชยน่าชมสมประกอบ   พอชอบทำนองหม่อมน้องสาว  | ||
| + | หูตาบั้งแบวเหมือนแมวคราว   เขาเล่าลืออื้อฉาวช่างไม่อาย  | ||
| + | นอกรีตนอกรอยน้อยหรือนั่น   แร่รันไปรักอีมักง่าย  | ||
| + | ให้พี่สาวชาวแส้พลอยวุ่นวาย   อัปยศอดอายขายหน้าตา  | ||
| + | ถึงมิดีมิชั่วเช่นผัวกู   จะร่วมเรียงเคียงคู่พอสมหน้า  | ||
| + | อันอ้ายเงาะเหมาะเหลือเหมือนเสือปลา   ทุดช่างเสน่หาได้ลงคอ  | ||
| + | หรือชะรอยถูกเสน่ห์เล่ห์กล   เวทมนตร์ดลใจไฉนหนอ  | ||
| + | ไม่คิดถึงพงศ์เผ่าเหล่ากอ   น้ำใจในคอมึงผิดคน  | ||
| + | ยังจะทำแสนงอนค้อนข้าหรือ   คันมือจะใคร่ต่อยสักร้อยหน  | ||
| + | กูจะกรวดน้ำคว่ำคะนน   ถึงยากจนขาดจากพี่น้องกัน  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาตอบไปขมีขมัน  | ||
| + | อุแม่เอ๋ยอื้ออึงขึ้นมึงมัน   เสกแสร้งสารพันโพนทะนา  | ||
| + | ท้าคารมสมทบจะตบต่อย   มิใช่ลูกเมียน้อยร้อยภาษา  | ||
| + | ถึงได้เงาะเป็นผัวชั่วช้า   ก็สุดแต่วาสนาได้สร้างไว้  | ||
| + | อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหน่อ   เห็นต่อจะบุญหนักศักดิ์ใหญ่  | ||
| + | รูปร่างน้อยจ้อยอร่อยใจ   จงกอดไว้เถิดคะอย่าละวาง  | ||
| + | ถึงพี่จะรุ่งเรืองไปเบื้องหน้า   ก็ไม่พึ่งวาสนาอย่าอวดอ้าง  | ||
| + | ดีแต่จะมาพานรานทาง   ไม่อดสูผีสางบ้างเลย  | ||
| + | สำคัญว่าพี่น้องท้องเดียวกัน   มิรู้มันเหลือแหล่อุแม่เอย  | ||
| + | เป็นผู้ใหญ่ไม่เหมาะมาเยาะเย้ย   ข้าเกินเลยไปมั่งขอสมา  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   หกนางเคืองค้อนแล้วค้อนว่า  | ||
| + | ชะช่างเลี้ยวลดอีรจนา   กลับพาโลข้าว่าเย้ยเยาะ  | ||
| + | เออคะกระนั้นและจริงอยู่   รูปร่างผัวกูไม่สู้เหมาะ  | ||
| + | ที่ไหนจะงามพร้อมเหมือนหม่อมเงาะ   ใครเห็นก็หัวเราะว่ารูปงาม  | ||
| + | ยังจะแค่นขึ้นเสียงเถียงเก้อเก้อ   ทำกรุ่งกริ่งหยิ่งเย่อหยาบหยาม  | ||
| + | อีกคนชาติชั่วตัวตะกลาม   จะละเมอเร่อตามไอ้เงาะไป  | ||
| + | น้อยหรือปากคอมันพอสม   ข้าสู้รบคารมเจ้าไม่ไหว  | ||
| + | ขี้คร้านเถียงให้เหนื่อยเมื่อยขาตะไกร   ก็กลับไปห้องหับฉับพลัน  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เพลงเร็ว  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น   จึงมหาเสนาคนขยัน  | ||
| + | เข้าไปทูลรจนาสารพัน   พระบิดาคาดคั้นให้ขับไป  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาเศร้าสร้อยละห้อยไห้  | ||
| + | ครวญคร่ำกำสรดสลดใจ   เข้าไปกราบกรานพระมารดา  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้ปี่</sub>  | ||
| + | ๏ โอ้ว่าพระชนนีเจ้า   พระคุณเคยปกเกล้าเกศา  | ||
| + | ถนอมเลี้ยงลูกไว้จนใหญ่มา   เป็นสุขทุกทิวาราตรี  | ||
| + | พระองค์จงจิตคิดหวัง   จะปลูกฝังลูกรักเป็นศักดิ์ศรี  | ||
| + | มาทำขายบาทาครานี้   ถึงจะให้ขับหนีไม่น้อยใจ  | ||
| + | กรรมของลูกแล้วจะขอลา   พระแม่อย่าทุกข์ทนหม่นไหม้  | ||
| + | แม้นว่าชีวันไม่บรรลัย   คงจะได้แทนคุณการุญรัก  | ||
| + | ร่ำพลางกำสรดสลดจิต   ยิ่งคิดเป้นห่วงหน่วงหนัก  | ||
| + | ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์   นงลักษณ์โศกศัลย์พันทวี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ โอด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางมณฑามเหสี  | ||
| + | คิดพะวงสงสารพระบุตรี   เทวีอัดอั้นกลั้นโศกา  | ||
| + | ลูกรักเฝ้าชะอ้อนวอนวิง   นางนั่งนิ่งเฉยอยู่ไม่ดูหน้า  | ||
| + | ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา   ชลนาคลอเนตรสังเวชใจ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาทุกข์ทนหม่นไหม้  | ||
| + | เห็นเจ้าเงาะพยักหน้าเป็นนัย   ชี้มือบอกใบ้ไปปลายนา  | ||
| + | นางสะทกสะเทินเขินขวย   จะไปด้วยง่ายง่ายก็อายหน้า  | ||
| + | ครั้นจะหน่วงหนักชักช้า   ก็กลัวเกรงบิดาจะฆ่าตี  | ||
| + | จึงกราบกรานมารดาด้วยอาดูร   ทรามวัยพิไรทูลถ้วนถี่  | ||
| + | ลูกจะขออำลาฝ่าธุลี   ครั้นนี้มีกรรมจะจำไกล  | ||
| + | ว่าพลางนางถวายบังคมลา   ชลนาแถวถั่งหลั่งไหล  | ||
| + | แล้วดำเนินเดินตามเจ้าเงาะไป   เสนาในนำหน้าจรลี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ ทยอย  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ทยอย</sub>  | ||
| + | ๏ ครั้นออกมานอกทวารวัง   เหลียวหลังมาดูปราสาทศรี  | ||
| + | เคยอยู่สุขเกษมเปรมปรีดิ์   อนิจจาครานี้จะจำไกล  | ||
| + | แสนวิตกอกเอ๋ยไม่เคยยาก   จะลำบากเคืองเข็ญเป็นไฉน  | ||
| + | ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ฉุกใจ   จะตามไปไม่รู้ว่าร้ายดี  | ||
| + | นางสะอื้นยืนเช็ดชลนา   ครั้นเจ้าเงาะเหลียวมาก็เมินหนี  | ||
| + | แล้วคิดรักหักใจจรลี   ตรงไปยังที่ปลายนา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ ครั้นถึงกระท่อมทับที่อยู่   แลดูสมเพชเป็นหนักหนา  | ||
| + | ไม่เคยเห็นเช่นนี้แต่เกิดมา   ก็โศกาทรุดนั่งอยู่นอกชาน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ โอด  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ==== ====  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะปรีดิ์เปรมเกษมศานต์  | ||
| + | เข้าไปในห้องมิทันนาน   เที่ยวดูของประทานทั้งปวง  | ||
| + | แกล้งหยิบกระโถนมาโยนเล่น   ทำเป็นเหมือนกับรับลูกช่วง  | ||
| + | แลเขม้นเห็นหวดกันกลวง   เอามาจ้วงตักน้ำทำจะกิน  | ||
| + | รจนาว่าไฮ้ช่างไม่อาย   เบื่อจะตายผมเผ้าเขาเปียกสิ้น  | ||
| + | เจ้าเงาะเมินขายหูไม่ได้ยิน   ทำฉวยพัดปัดริ้นปัดยุง  | ||
| + | แล้วแกล้งหยิบครุตั้งบนเชิงกราน   ควักข้าวสารมาใส่ก่อไฟหุง  | ||
| + | คลี่ผ้ากุศราชออกคาดพุง   กางมุ้งเสียให้ดีแต่วี่วัน  | ||
| + | แล้วหยิบหมอนมาอิงยิงฟันขาว   กระดิกเท้าทำเล่นให้เห็นขัน  | ||
| + | พอโพล้เพล้เพลาสายัณห์   จึงรำพันพูดเกี้ยวเลี้ยวลด  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ชาตรี</sub>  | ||
| + | ๏ น้องเอยน้องรัก   ผิวพักตร์เพียงจันทร์อันทรงกลด  | ||
| + | โฉมนางแน่งน้อยช้อยชด   จะกำสรดเศร้าหมองไม่ต้องการ  | ||
| + | บุญพี่กับนางได้สร้างสม   เคยภิรมย์ร่วมรักสมัครสมาน  | ||
| + | พี่อยู่ถึงนอกฟ้าหิมพานต์   เทวัญบันดาลให้เที่ยวมา  | ||
| + | เหมือนหนึ่งแกล้งชักนำจำเพาะ   จึงได้เมียงามเหมาะจนเกินหน้า  | ||
| + | ไม่ควรเคียงลูกสาวท้าวพระยา   แต่วาสนาของเงาะเคราะห์ดี  | ||
| + | พระโปรดปรานประทานทับกระหม่อม   ทั้งเครื่องใช้ได้พร้อมเพราะบุญพี่  | ||
| + | น่าชมสมบัติเรามั่งมี   มารศรีอย่าเศร้าเสียใจ  | ||
| + | จะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเจ้า   มิให้อายกับเขาเขยใหญ่  | ||
| + | ขอเชิญโฉมงามทรามวัย   มานั่งในห้องหับกับพี่ชาย  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางรจนาโฉมฉาย  | ||
| + | ได้ฟังเจ้าเงาะพูดเราะราย   แยบคายคมสันขันคะนอง  | ||
| + | น่าสำรวลสรวลสันต์ไม่กลั้นได้   อรไทสะเทินเมินยิ้มย่อง  | ||
| + | แก้ขวยฉวยมีดมาเจียนตอง   กรีดเล็บเย็บซองจะใส่พลู  | ||
| + | เจ้าเงาะรื้อเรียกซ้ำทำกระบวน   เมียงชม้อยม่อยม้วนหน้าอยู่  | ||
| + | อิดเอื้อนเชือนแชไม่แลดู   เป็นครู่มิใคร่จะพาที  | ||
| + | คิดถึงรูปทองยังต้องใจ   เสียแรงได้ติดตามมาถึงนี่  | ||
| + | ครั้นจะมิพูดด้วยก็ไม่ดี   เทวีจึงตอบวาจา  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ น่าเอยน่าชัง   ช่างอวดมั่งอวดมีไม่อายหน้า  | ||
| + | เหย้าเรือนเหมือนกันกับรังกา   แค่นคิดสมบัติบ้าน่าหัวเราะ  | ||
| + | เมื่อกลางวันนั้นทำเป็นบ้าใบ้   เดี๋ยวนี้เอออะไรพูดออกเหราะ  | ||
| + | ฉลาดเฉลี่ยวเจียวจริงเจ้าเงาะ   กลับมาเยาะเย้ยหยันขันจริง  | ||
| + | นี่หรือชาวนอกฟ้าหิมพานต์   ซมซานมาเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง  | ||
| + | อุแม่เอ๋ยช่างชะอ้อนวอนวิง   เพราะพริ้งหวานฉ่ำดังน้ำตาล  | ||
| + | น้อยหรือนั่นน่ารักอยู่อักโข   หูหนาตาโตเท่าไข่ห่าน  | ||
| + | รูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษ์มาร   บ่ำสันขันจ้านสักเท่าพ้อม  | ||
| + | บิตุรงค์ทรงศักดิ์รักใคร่   จึงโปรดให้สิงสู่อยู่กระท่อม  | ||
| + | จอบเสียมสารพัดจัดให้พร้อม   พอสมที่ทำปลอมแปลงมา  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ แสนเอยแสนแขนง   น้อยหรือแกล้งตัดพ้อเล่นต่อหน้า  | ||
| + | ติเล็กติน้อยคอยนินทา   ค่อนว่าพิไรไค้แคะ  | ||
| + | พี่ก็ไม่หลีกเลี่ยงเถียงสักสิ่ง   มันก็จริงกระนั้นนั่นแหละ  | ||
| + | เจ้าเย้ยเยาะว่าเงาะไม่งามแงะ   แฮะแฮะว่าเล่นหรือว่าจริง  | ||
| + | อย่าประมาทรูปพี่เห็นขี้เหร่   ไม่ว่าเล่นเป็นเสน่ห์ชอบใจหญิง  | ||
| + | ชาวรั้วชาวงังไม่ชังชิง   อุตส่าห์ทิ้งมาลัยมาให้เงาะ  | ||
| + | ใช่ว่าจะแสร้งแกล้งอวดตัว   นานไปพี่กลัวจะชมเปาะ  | ||
| + | ว่าพลางเย้ายวนชวนหัวเราะ   แกล้งปะเหลาะปะแหละและเลียม  | ||
| + | นี่แน่น้องผินหน้ามาข้างนี้   ไม่พอที่จะระคายอายเหนียม  | ||
| + | ดูดู๋ขืนยังนั่งเอื้ยมเฟี้ยม   ใจคอเหี้ยมเกรียมหนักหนานัก  | ||
| + | มาเถิดเจ้าเข้าไปเสียในมุ้ง   กลางนากลางทุ่งยุงมันหนัก  | ||
| + | อย่าทำบิดตะกูดพูดเยื้องยัก   แสนงอนค้อนควักไปทีเดียว  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ น่าเอยน่าสรวล   เจ้าสำนวนทายาดฉลาดเฉลียว  | ||
| + | ล้ำเลิศคนขยันขันจริงเจียว   แก้เกี้ยวเลี้ยวลัดสกัดสแกง  | ||
| + | แต่มาลัยให้ทานก็นินทา   ค่อนว่าแคะไค้ไปทุกแห่ง  | ||
| + | เห็นเงาะชอบใจดอกไม้แดง   จึงแกล้งทิ้งให้ไปกระนั้น  | ||
| + | กลับว่าเขารักตัวน่าหัวเราะ   รูปร่างเจ้าสิเหมาะน้อยหรือนั่น  | ||
| + | หนวดเคราครุ่มคร่ามงามครัน   หน้าตาตละปั้นขันสุดใจ  | ||
| + | เอออะไรไม่อายขายหน้า   เอารูปเงาะสวมมาทำบ้าใบ้  | ||
| + | แกล้งซ่อนรูปสุวรรณไว้ชั้นใน   ข้าเข้าใจอยู่ดอกอย่าหลอกลวง  | ||
| + | พระบิดาขับไล่เพราะใครเล่า   ได้ความทุกขเท่าภูเขาหลวง  | ||
| + | อัปยศอดสูเขาทั้งปวง   เพราะไม่หน่วงไม่นักรักรูปทอง  | ||
| + | จนตกยากอย่างนี้แล้วมิสา   ยังจะมาเรียกให้ไปในห้อง  | ||
| + | ข้ากลัวรูปเงาะป่าตาพอง   จะให้น้องนั่งใกล้จนใจจริง  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ โฉมเอยโฉมเฉลา   เอออะไรรู้เท่าไปทุกสิ่ง  | ||
| + | แสนเฉลียวฉลาดล่วงท้วงติง   มันก็จริงกระนั้นนั่นและซิ  | ||
| + | ขืนจะมาควักค้อนค่อนว่า   เงาะของข้าเคยใส่ทำไมสิ  | ||
| + | ผู้หญิงมักต้องจิตประสิทธิ   อย่าเฝ้าติตะบอยไปหน่อยเลย  | ||
| + | ถึงหนวดเครารุงรังช่างเป็นไร   เอาแหนบถอนเสียได้ดอกน้องเอ๋ย  | ||
| + | หัวพริกหยิกยุ่งอย่าเยาะเย้ย   ถ้าหวีเสยสอยหย่งแล้วคงงาม  | ||
| + | ทำไมกับรูปชั่วตัวดำ   จะอาบน้ำขัดสีสัมมะขาม  | ||
| + | ละลายดินสอพองสักสองชาม   ทำให้งามตลอดเท้าขาวทั้งตัว  | ||
| + | ถึงตาพองท้องพลุ้ยพีพลุ   อย่าดูหมิ่นกินจุมิใช่ชั่ว  | ||
| + | จงปรานีเงาะป่าเถิดอย่ากลัว   จะแต่งตัวให้งามตามใจน้อง  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ ว่าพลางทางถอดเงาะเสีย   เอาซ่อนเมียวางไว้ในห้อง  | ||
| + | รูปทรงโสภาดังทาทอง   ค่อยย่องมานั่งข้างหลังนาง  | ||
| + | เห็นห่มผ้าสไบไพล่พลิ้ว   ทำยื่นนิ้วจะจี้ที่สีข้าง  | ||
| + | กระทั่งไอกระแอมแย้มยิ้มพลาง   สะกิดนางให้รู้ดูนี่แน  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาไม่ทะยาทะแยแส  | ||
| + | คิดว่าเงาะลูบหลังทำรังแก   ไม่เหลียวแลร้องอึงคะนึงไป  | ||
| + | โมโหหันหน้ามาหยิกทึ้ง   เห็นรูปงามก็ตะลึงหลงไหล  | ||
| + | น้อยหรือถอดเงาะเหมาะสุดใจ   เนื้อหนังช่างกระไรราวกับทอง  | ||
| + | หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา   นงเยาว์กระหยิ่มยิ้มย่อง  | ||
| + | คิดไว้ก็สมอารมณ์ปอง   บริสุทธิ์ผุดผ่องผิวพรรณ  | ||
| + | งามจริงยิ่งมนุษย์ในใต้หล้า   ดูดังเทวาบนสวรรค์  | ||
| + | เฝ้าชม้ายชม้อยม่อยเมียงมัน   สะเทินจิตบิดผันไม่พูดจา  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์เกษมสันต์หรรษา  | ||
| + | เห็นนางอายเอียงเมียงพักตรา   จึงแกล้งว่าสัพยอกหยอกเอิน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ เจ้าเอยเจ้าพี่   ไม่พอที่จะระคางห่างเหิน  | ||
| + | เฝ้าผินหน้าผินหลังนั่งเมิน   อย่าสะทกสะเทินเชิญดูเงาะ  | ||
| + | นิ่งอยู่ไยสิไม่ติเล่า   นี่แน่เจ้าจะเหมาะหรือมิเหมาะ  | ||
| + | ไม่แกล้งอวดทรวดทรงจงพิเคราะห์   อย่าหัวเราะเยาะเย้าไปเลยคะ  | ||
| + | เมื่อกี้ค่อนว่าพี่ตาพอง   เดี๋ยวนี้น้องจงติเถิดสิหนะ  | ||
| + | หน้าตาหายเคอะไม่เทอะทะ   มันต่อจะกระนั้นเป็นมั่นคง  | ||
| + | หนวดเคราพี่ถอนเสียล่อนเลี่ยน   ไม่ว่าเล่นเห็นเจียนจะลุ่มหลง  | ||
| + | ยังพ่วงพีเท่าพ้อมหรือย่อมลง   รูปทรงคงขยันแล้วกัลยา  | ||
| + | ถึงเจ้าจะเข้าหอก็พอได้   เห็นจะไม่อับอายขายหน้า  | ||
| + | ตามมีตามเกิดเถิดน้องอา   ตามประสายากเย็นเข็ญใจ  | ||
| + | เชิญเจ้าเข้าไปในห้องหับ   นอนหลับเสียมั่งเจ็บหลังไหล่  | ||
| + | แล้วกุมกรกัลยาช้าอยู่ไย   มาไปดีดีอย่าดื้อดึง  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ บัดเอยบัดสี   อะไรนี่น่าพิโรธโกรธขึ้ง  | ||
| + | นางค้อนควักผลักไสหยิกทิ้ง   ร้องไห้อึงดอกเจ้าเฝ้ายื้อยุด  | ||
| + | ช่างทำได้ไม่เกรงข่มเหงคน   ฉุดกระชากลากจนไหล่จะหลุด  | ||
| + | เห็นแล้วว่าประเสริฐเลิศมนุษย์   ราวกับเทพบุตรสุดปัญญา  | ||
| + | งามแล้วคะชะเจ้าอย่าเฝ้าอวด   เพริศพริ้งยิ่งยวดเป็นหนักหนา  | ||
| + | ใครใช้ให้แกล้งแปลงปลอมมา   เขาก็ติก็ว่าให้สาใจ  | ||
| + | แม้นมิทำยอกย้อนซ่อนรูปทรง   ไหนเลยบิตุรงค์จะขับไล่  | ||
| + | นี่เป็นเหตุเพราะเงาะหรือเพราะใคร   จึงได้อัประมาณรำคาญเคือง  | ||
| + | ยังจะมาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน   พูดจาน่ารำคาญหูเหือง  | ||
| + | ว่าพลางทางทำชำเลือง   ค้อนควักยักเยื้องเป็นแยบคาย  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ ดวงเอยดวงสมร   เจ้าแสนแง่แสนงอนใจหาย  | ||
| + | ไม่ควรจะเคืองขุ่นวุ่นวาย   ตีโพยตีพายพาโลเงาะ  | ||
| + | พี่เสี่ยงแสร้งแปลงมาทำบ้าใบ้   ถ้าแม้นใครเป็นคู่ก็ดูเหมาะ  | ||
| + | แม้นไม่เคยอุปถัมภ์จำเพาะ   ก็เย้ยเยาะยิ้มหัวว่าชั่วช้า  | ||
| + | ซึ่งสวมรูปเงาะป่ามานี้ไซร้   หวังจะให้น้องคิดปริศนา  | ||
| + | เจ้าก็ปลงถูกแล้วนะแก้วตา   จึงรู้ว่าเงาะงามเป็นรูปทอง  | ||
| + | อย่าบิดเบือนเชือนเฉยนะแก้วตา   จูงนางย่างเข้าไปในห้อง  | ||
| + | นั่งแอบแนบเนื้อนวลละออง   เลียมลองโลมเล้าเคล้าคลึง  | ||
| + | อะไรเฝ้าฮึดฮัดปัดมือ   รำคาญวานอย่าดื้อไปน่อยหนึ่ง  | ||
| + | ว่าพลางทางกระหวัดรัดรึง   จะร้องอึงก็ร้องเถิดน้องรัก  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ น้อยเอยน้อยใจ   นี่อะไรรุกรานหาญหัก  | ||
| + | ข่มเหงคะเนงร้ายน่าอายนัก   นางค้อนควักชักหน้าแล้วว่าไป  | ||
| + | น้องยังเคลือบแคลงไม่แจ้งความ   อย่าวู่วามลามลวนหาควรไม่  | ||
| + | นามวงศ์พงศ์ประยูรอย่างไร   ประหลาดเหลือเชื้อไพร่หรือผู้ดี  | ||
| + | ไม่บอกไม่เล่าเฝ้าแอบอิง   แม้นรักจริงนิ่งอยู่อย่าจู้จี้  | ||
| + | จะหยิกให้ขาเขียวประเดี๋ยวนี้   อะไรนี่ไม่เสงี่ยมเลียมและ  | ||
| + | ยิ่งว่าให้นิ่งเหมือนยิ่งยุ   ดูดู๋น่าตีเล่นดีแหละ  | ||
| + | จงแถลงแจ้งความให้งามแงะ   อย่าเหลาะแหละลวงหลอกเร่งบอกมา  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ ยอดเอยยอดมิ่ง   จะแจ้งความตามจริงไม่มุสา  | ||
| + | ตัวพี่นี้หน่อกษัตรา   นามกรชื่อว่าพระสังข์ทอง  | ||
| + | แถลงเล่าแต่ต้นไปจนปลาย   บรรยายตามเรื่องที่เคืองข้อง  | ||
| + | เป็นความในใจพี่เช่นนี้น้อง   นวลละอองอย่าแหนงแคลงใจ  | ||
| + | ว่าพลางทางถดเข้าชิด   จะอายเอียงเบี่ยงบิดไปข้างไหน  | ||
| + | ยื้อยุดฉุดชักชายสไบ   คว้าไขว่สัพยอกหยอกเย้า  | ||
| + | ช่างหยิกข่วนไปได้เหมือนไม่เจ็บ   ข่มเหงนักหักเล็บเสียดอกเจ้า  | ||
| + | ดีจริงยิ่งว่ายิ่งหยิกเอา   เบาเบาอุยหน่าไม่ปรานี  | ||
| + | พระอุ้มองค์อรไทขึ้นใส่ตัก   อะไรเล่าเฝ้าผลักมือพี่  | ||
| + | ความรักรัญจวนยวนยี   เปรมปรีดิ์ประดิพัทธ์กำหนัดนาง  | ||
| + | อัศจรรย์บันดาลในกลางหาว   เดือนดาวส่องแสงเจ้งกระจ่าง  | ||
| + | เย็นซาบอาบละอองน้ำค้าง   ค่อยสระสร่างเศร้าหมองทั้งสองรา  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ โลมพิณพาทย์  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ช้าปี่</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาเยาวยอดเสน่หา  | ||
| + | นั่งแนบแอบองค์ภัสดา   จำนรรจาพาทีซี้ซิก  | ||
| + | ที่ทุกข์ร้อนผ่อนผันบรรเทา   นงเยาว์ยิ้มเหยาะหัวเราะหริก  | ||
| + | พระอุ้มขึ้นใส่ตักนางผลักพลิก   ทำกระบวนข่วนหยิกด้วยมารยา  | ||
| + | แลสบหลบเนตรภูวไนย   สะเทินใจอายเอียงเมียงหน้า  | ||
| + | แย้มสรวลยวนยีปรีดา   กัลยานิยมสมคิด  | ||
| + | แสนสมัครรักใคร่ใหลหลง   ด้วยรูปทรงเป็นทองต้องจิต  | ||
| + | ถ้อยทีบรรทมชมชิด   แนบสนิทนิทราในราตรี  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ ตระ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี  | ||
| + | เชยชมสมสวาทด้วยเทวี   ในที่กระท่อมทับลับแลง  | ||
| + | ครั้นประจุสมัยไก่ขัน   สุริยันเรืองรองส่องแสง  | ||
| + | เอารูปเงาะสวมองค์ทรงแปลง   หวังมิให้ใครแจ้งความใน  | ||
| + | แล้วว่าแก่รจนานงลักษณ์   น้องรักผู้ยอดพิสมัย  | ||
| + | เราผัวเมียสองคนจนใจ   มาจะไปหาหุงโภชนา  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาโศกศัลย์รำพันว่า  | ||
| + | น้องนี้แต่กำเนิดเกิดมา   จะหุงข้าวหุงปลาก็ไม่เคย  | ||
| + | แต่ก่อนร่อนชะไรอยู่ในวัง   วิเสทหามาตั้งให้เสวย  | ||
| + | ไม่เข้าเนื้อเข้าใจอย่างไรเลย   อกเอ๋ยมีกรรมก็จำเป็น  | ||
| + | ว่าพลางนางทรงโศกี   ครั้งนี้ยากแค้นแสนเข็ญ  | ||
| + | ดังหนึ่งเลือดตาจะกระเด็น   จำเป็นจำใจออกไปพลัน  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ  เพลง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน  | ||
| + | ครั้นโพล้เพล้เพลาสายัณห์   สองราพากันเข้าในทับ  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จึงถอดเงาะออกเสียให้เมียเห็น   รูปเป็นทองอร่ามงามสรรพ  | ||
| + | เอารูปเงาะซ่อนไว้ให้ลับ   แล้วกลับมานั่งสั่งสนทนา  | ||
| + | อิงแอบแนบชิดสะกิดเกา   สัพยอกหยอกเย้าขนิษฐา  | ||
| + | เชยแก้มแนมปรางปรีดา   สรวลสันต์หรรษาพาที  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   รจนาแน่งน้อยนวลศรี  | ||
| + | พลางชะอ้อนวอนว่ากับสามี   จงปรานีน้องเถิดอย่าทรงเงาะ  | ||
| + | ผู้คนทั้งปวงไม่ล่วงรู้   ให้เขาดูถูกเล่าช่างเห็นเหมาะ  | ||
| + | น้องว่าก็ไม่เชื่อนี่เนื้อเคราะห์   กลับจะมาหัวเราะน่าขัดใจ  | ||
| + | นางนิ่งนึกตรึกแล้วตรึกเล่า   จะลักรูปเงาะเผาเสียให้ได้  | ||
| + | จึงปูปัดฟูกหมอนที่นอนใน   ชวนให้ทรงธรรม์บรรทม  | ||
| + | แล้วนั่งนวดฟั้นคั้นบาทา   คลี่ผ้าของตัวให้ผ้าห่ม  | ||
| + | ปรนนิบัตรพัดวีโบกลม   นงเยาว์นิยมสมปอง  | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ   | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์เชยชมสมสอง  | ||
| + | อิงแอบแนบเนื้อนวลละออง   กรตระกองน้องแก้วแล้วหลับไป  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ ตระ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นางรจนานารีศรีใส  | ||
| + | คิดจะลักรูปเงาะภูวไนย   นางมิได้สนิทนิทรา  | ||
| + | เห็นพระหลับไหลไม่ไหวองค์   โฉมยงยินดีเป็นหนักหนา  | ||
| + | ค่อยขยายยกหัตถ์ภัสดา   ขยับตัวออกมาเอาหมอนรอง  | ||
| + | ฟากลั่นเกรียบเกรียบเหยียบย่าง   มืดไม่เห็นทางถลำล่อง  | ||
| + | ลุกขึ้นลดเลี้ยวเที่ยวมอง   หาเงาะในห้องกระท่อมทับ  | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นเห็นหิ้วหัวมาครัวไฟ   ฉวยพร้าโต้ใหญ่เข้าเสี่ยงสับ  | ||
| + | ฟันซ้ำร่ำไปมิได้นับ   รูปเงาะไม่ยับยิ่งขัดใจ  | ||
| + | เหน็ดเหนี่อยเมื่อยแขนสิ้นแรงเรี่ยว   ทุดช่างหนังเหนียวน่าหมั่นไส้  | ||
| + | นางโกรธาหาฟืนมาก่อไฟ   เอารูปเงาะเข้าใส่ในอัคคี  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ แล้วฉวยเอาพร้ามาสับซ้ำ   นางทำร้อยอย่างร้อยสี  | ||
| + | อ้ายเงาะสัปดนทนสิ้นที   เผาจี่เท่าไรไม่ไหม้มัน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   พระสังข์หลับไหลใฝ่ฝัน  | ||
| + | ละเมอกอดหมอนข้างพลางสำคัญ   คิดว่าเมียขวัญอยู่แนบนอน  | ||
| + | ลืมตาคว้าไขว่ไปเป็นครู่   จึงรู้ตระหนักแน่อุแม่หมอน  | ||
| + | แลดูโฉมยงองค์บังอร   ไม่เห็นนอนในมุ้งสะดุ้งใจ  | ||
| + | ลุกขึ้นมองหาละล้าละหลัง   ไม่เห็นทั้งเงาะทรงยิ่งสงสัย  | ||
| + | เห็นแสงเพลิงสว่างข้างครัวไฟ   ตกใจออกมาเที่ยวหาเมีย  | ||
| + | เห็นนงเยาว์เผาเงาะเอาไฟสุม   จึงตักน้ำในตุ่มมาดับเสีย  | ||
| + | แล้วว่าน่าชังช่างทำเยีย   ขิงเงาะทะเลาะเมียมี่ไป  | ||
| + | ดูดู๋ยังดื้อเข้ายื้อคร่า   ยิ่งว่าแล้วยังหาฟังไม่  | ||
| + | จะเอาเงาะของเขาไปเผาไฟ   ทำได้ไม่เกรงข่มเหงกัน  | ||
| + | หรือเจ้าชอบใจจะใส่เล่น   จะได้เป็นนางเงาะเหมาะขัน  | ||
| + | นอกรีตน้อยหรือมือคันคัน   จะใคร่รันเข้าสักผางนางคนดี  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทรงเอยทรงฤทธิ์   ชอบผิดจะรับใส่เกศี  | ||
| + | แม้นไม่เมตตาจะฆ่าตี   น้องนี้จะสู้ม้วยมุด  | ||
| + | พระสวมเงาะร้ายขายหน้าเมีย   จะชิงเอาเผาเสียให้สิ้นสุด  | ||
| + | ถึงพระเรี่ยวแรงจะแย่งยุด   ผิดชอบแขนหลุดไม่วางมือ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ น่าเอยน่าหัวเราะ   เก้อแล้วนี่เงาะของเจ้าหรือ  | ||
| + | กลับเถียงเสียงแข็งเข้าแย่งยื้อ   เอออะไรใจดื้อจริงจริงเจียว  | ||
| + | ถึงเจ้ามิให้ก็ไม่ฟัง   น่าชังน้อยหรอืนางมือเหนียว  | ||
| + | ฮึดฮัดขัดเขมรเป็นเกลียว   แย่งยุดฉุดเหนี่ยวกันไปมา  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ชิงรูปเงาะได้ใส่สวมองค์   ทำก้มลงหลอนหลอกกลอกหน้า  | ||
| + | ตบมือเย้ยหยันกัลยา   แล้วคืนเข้าเคหาห้องนอน  | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น   นวลนางรจนาดวงสมร  | ||
| + | จึงตามมางอนง้อขอโทษกรณ์   วิงวอนสามีพิรี้พิไร  | ||
| + | น้องได้ผิดพลั้งแต่ครั้งหนึ่ง   จะพิโรธโกรธขึ้งไปถึงไหน  | ||
| + | ผัวเมียสองคนจนไร้   ชั่วดีได้เห็นหน้ากัน  | ||
| + | ถ้าทีหลังยังขืนทำเช่นนี้   จงทำโพยโบยตีให้อาสัญ  | ||
| + | ว่าพลางนางเข้าไปนวดฟั้น   หลังไหล่ไหนคันจะช่วยเกา  | ||
| + | ยื่นมือมาจี้ที่สีข้าง   จะหย่าร้างกันจริงเจียวหรือเจ้า  | ||
| + | เอนอิงพิงทับลงกับเพลา   ถอนหนวดถอนเคราให้เจ้าเงาะ  | ||
| + | แล้วหยิบหมากมาป้อนวอนขอชาน   เคี้ยวประทานสักคำทำปะเหลาะ  | ||
| + | ยียวนชวนผัวให้หัวเราะ   แสร้งออเซาะสรวลสันต์จำนรรจา  | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>โอ้โลม</sub>  | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น   เจ้าเงาะยิ้มพลางทางว่า  | ||
| + | ที่นี้พี่จะอดนางรจนา   แม้นถ้าทีหลังไม่ฟังกัน  | ||
| + | นี่หากว่ารักเจ้าอักโข   จึงสู้ดับโมโหไม่หุนหัน  | ||
| + | ว่าพลางเชยชิดติดพัน   ถ้อยทีดีกันดังใจจง  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sub>ร่าย</sub>  | ||
| + | ๏ พระสังข์ตั้งแต่วันนั้นมา   ไม่ไว้ใจรจนานวลหง  | ||
| + | เอารูปเงาะศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรงค์   สวมองค์ทรงใส่ไว้อัตรา  | ||
| + | เช้าค่ำพร่ำสอนสั่งเสีย   ให้เมียปั่นฝ้ายทอผ้า  | ||
| + | เจ้าเงาะหัดตีกรับขับเสภา   รจนาปั่นฝ้ายสบายใจ  | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | '''บทเสภาเจ้าเงาะขับ'''  | ||
| + | |||
| + | (บทเสภานี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์)  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ครานั้นขุนแผนแสนสนิท   สบายจิตชื่นชมประสมสอง  | ||
| + | นั่งอยู่ด้วยกันกับวันทอง   ที่ร่มไทรในห้องอรัญวา  | ||
| + | ให้วิเวกอ้างว้างอยู่กลางดง   ตะวันบ่ายชายลงลับเหลี่ยมผา  | ||
| + | ลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉี่อยเฉี่อยมา   ดอกไม้ป่าหอมหวนชวนชื่นใจ  | ||
| + | รวยระรินกลิ่นพุทธิชาดชื่น   รื่นรื่นลำดวนดกดอกไสว  | ||
| + | เรไรร้องหริ่งหริ่งที่กิ่งไทร   เสียงลองไนให้เสนาะเพราะสำเนียง  | ||
| + | แจ้วแจ้วจักจั่นสนั่นป่า   ดังซอสีปี่ชวาวังเวงเสียง  | ||
| + | สกุณาพาคู่เข้ารังเรียง   ขุนแผนเคียงข้างน้องประคองเชย  | ||
| + | ตัวพี่กับรจนามาได้แค้น   เหมือนขุนแผนกับวันทองเจียวน้องเอ๋ย  | ||
| + | อยู่กระท่อมตรอมใจไม่เสบย   กระไรเลยอนิจจาช่างอาภัพ  | ||
| + | เคยนอนเตียงเสียงประโคมด้วยแตรสังข์   มาตกไร้ได้ฟังแต่เสียงกรับ  | ||
| + | พลางอิงแอบแนบน้องในห้องทับ   ถนอมรับขวัญให้เข้าไสยา  | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===ตอนที่ ๗ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ===  | ===ตอนที่ ๗ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ===  | ||
การปรับปรุง เมื่อ 06:07, 18 พฤศจิกายน 2552
เนื้อหา
  | 
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ กำเนิดพระสังข์
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวยศวิมลไอศวรรย์ | ||
| ไร้บุตรสุดวงศ์พงศ์พันธุ์ | วันหนึ่งนั้นไปเลียบพระนคร | ||
| ราษฏรร้องว่าให้หาบุตร | พระทรงภุชร้อนจิตดังพิษศร | ||
| มิได้เสวยสรงสาคร | นั่งนอนร้อนใจใช่พอดี | ||
| ประชาชนจนจิตไม่คิดหวัง | ยิ่งประดังพลุกพล่านทั้งกรุงศรี | ||
| เวทนาเป็นพระยาสมบัติมี | มาไร้ที่โอรสยศไกร | ||
| จึงดำรัสตรัสเล่ามเหสี | ถ้วนถี่ชี้แจงแถลงไข | ||
| เจ้ามาช่วยพี่คิดนะดวงใจ | ค้นคว้าหาไปดูตามบุญ | ||
| บวงสรวงซ่องเซทุกเวลา | รักษาศีลด้วยช่วยอุดหนุน | ||
| ถ้วนทุกนางในให้พร้อมมูล | เกลือกบุญของใครได้สร้างมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีมิได้คิดอิจฉา | ||
| คำนับรับราชบัญชา | พระอย่าระคางหมางใจ | ||
| จะพึ่งพ่อขอฝากดวงชีวัน | หาคิดเกียดกันฉันทาไม่ | ||
| ตามแต่กุศลของใคร | ให้สิ้นสงสัยพระทัยปอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังนาฏ | พิศวาสในน้ำคำสนอง | ||
| สั่งท้าวนางในดังใจปอง | ให้แต่งของบูชาบรรณาการ | ||
| พลบค่ำย่ำแสงสุริยา | ยกมาเตรียมไว้ในสถาน | ||
| บอกเหล่าสาวศรีบริวาร | สั่งการให้ทั่วทุกตัวนาง | ||
| จัดแจงแต่งเครื่องบูชา | ธูปเทียนชวาลาต่างต่าง | ||
| ทุกวันทุกเวรอย่าเว้นว่าง | นอนปรางค์ข้างที่เราทุกคน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวไนยมีพระทัยขวายขวน | ||
| เห็นนางในนอนทั่วทุกตัวคน | ตรัสบอกยุบลสนทนา | ||
| ดูก่อนเหล่านางทั้งหลาย | เราหมายมุ่งมาดปรารถนา | ||
| จำนงจะประสงค์ลูกยา | ไม่เห็นแก่หน้าฉันทาใคร | ||
| ชวนกันตั้งจิตพิษฐาน | บนบานตามชอบอัชฌาสัย | ||
| ใครเกิดบุตรายาใจ | เวียงชัยจะให้แก่ลูกรัก | ||
| ตรัสพลางทางเข้าแท่นที่ | ชวนพระมเหสีมีศักดิ์ | ||
| บวงสรวงเทวาสุรารักษ์ | ในห้องทองสุรศักดิ์ตำหนักชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| สระบุหรง | |||
| ๏ จึงจุดธูปเทียนประทีปแล้ว | เพริศแพรวพร้อมที่ศรีใส | ||
| ทั้งสองพระองค์จำนงใน | ตั้งใจบริสุทธิ์ดุษฎี | ||
| นอบน้อมพร้อมจิตพิษฐาน | เดชะสมภารข้าสองศรี | ||
| ปกป้องไพร่ฟ้าประชาชี | โดยดีเป็นธรรม์นิรันดร์มา | ||
| ข้าไซร้ไร้บุตรสุดสวาท | จะบำรุงราษฏร์ไปภายหน้า | ||
| พระเสื้อเมืองเรืองชับได้เมตตา | ขอให้เกิดบุตรายาใจ | ||
| เสร็จแล้วพระแก้วก็ไสยา | ทรงศีลห้าทุกวันหาขาดไม่ | ||
| ทศธรรมไม่ลำเอียงใคร | ภูวไนยเข้าที่บรรทมพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | สุราลัยในดาวดึงส์สวรรค์ | ||
| เมื่อผลจะสิ้นพระชนม์นั้น | อัศจรรย์ร้อนรนเป็นพ้นไป | ||
| รัศมีศรีตนก็หม่นหมอง | สิ่งของของตัวก็มัวไหม้ | ||
| เทวาตระหนกตกใจ | แจ้งในพระทัยจะวายชนม์ | ||
| แล้วจึงตรึกตรองส่องเนตร | แจ้งใจในเหตุเภทผล | ||
| พระเจ้าท้าวยศวิมล | ให้พรากจากดาวดึงส์สวรรค์ | ||
| อย่าเลยจะจุติพลัน | อย่าให้เทวัญทันนิมนต์ | ||
| ลงไปเกิดในมนุสสา | แสวงหาศีลทานการกุศล | ||
| คิดแล้วกลั้นใจให้วายชนม์ | ปฏิสนธิ์ยังครรภ์กัลยา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ คุกพากย์ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฝันว่า | ||
| วันเมื่อจะได้พระลูกยา | เข้าที่นิทราในราตรี | ||
| ฝันเห็นเป็นเทพสังหรณ์ | ทินกรจะใกล้ไขสี | ||
| สะดุ้งตื่นฟื้นพลันทันที | จำได้ถ้วนถี่ในนิมิต | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พอรุ่งสางสว่างสุริยง | สระสรงทรงเครื่องไพจิตร | ||
| ออกท้องพระโรงชัยอำไพพิศ | สถิตบัลลังก์กระจังทอง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เสนาข้าเฝ้าก็กราบกราน | จึงมีโองการสารสนอง | ||
| กับโหรผู้ใหญ่ดังใจปอง | ท่านจงตรึกตรองดูในสุบิน | ||
| ฝันว่าอาทิตย์ฤทธิรงค์ | ตกลงตรงพักตร์ข้างทักษิณ | ||
| ดาวน้อยพลอยค้างอยู่กลางดิน | เราผินพักตร์ฉวยเอาด้วยพลัน | ||
| มือซ้ายได้ดวงดารา | มือขวาคว้าได้สุริย์ฉัน | ||
| แล้วหายไปแต่พระสุริยัน | ต่อโศกศัลย์ร่ำไรจึงได้คืน | ||
| สักสามยามหย่อนค่อนรุ่ง | เราสะดุ้งคว้าหาผวาตื่น | ||
| ดีร้ายทายตามอย่ากล้ำกลืน | ตาหมี่นโหราจงว่าไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ยอดโหราหามีเสมอไม่ | ||
| คิดคูณหารดูรู้แจ้งใจ | ภูวไนยจะเกิดบุตรา | ||
| จึงทูลทายทำนายตามสุบิน | ว่าพระปิ่นนางในฝ่ายขวา | ||
| จะทรงครรภ์พระราชบุตรา | บุญญาธิการมากมี | ||
| แต่จะพลัดพรากไปจากวัง | ภายหลังจึงจะคืนกรุงศรี | ||
| ดาราคือพระบุตรี | จะเกิดที่สนมอันควร | ||
| ฝันว่าพระทรงโศกา | จะได้ชมลูกยาเกษมสรวล | ||
| ทายตามสุบินสิ้นกระบวน | ถี่ถ้วนจงทราบพระบาทา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังทูล | พระไพบูลย์ภิรมย์หรรษา | ||
| แย้มโอษฐ์โปรดตรัสแก่โหรา | แม้นเหมือนท่านว่าจะรางวัล | ||
| ราษฏร์ฟ้องร้องว่าให้หาบุตร | สุดคิดที่เราจะผ่อนผัน | ||
| บัดสีกับใจใครจะทัน | ว่าแล้วผายผันเข้าวังใน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงแจ้งกับองค์มเหสี | ถ้วนถี่ชี้แจงแถลงไข | ||
| พระค่อยเป็นสุขสนุกใจ | ทรามวัยงานขึ้นทุกคืนวัน | ||
| เปล่งปลั่งมังสาดังทาทอง | พระเต้าคล้ำมัวหมองทั้งสองถัน | ||
| เส้นพาดพานทรวงดวงจันทร์ | แจ้งว่าทรงครรภ์มั่นคง | ||
| ผิวพรรณผุดผ่องละอองพักตร์ | พระแสนสุดที่รักนวลหง | ||
| จัดเลือกแสนสาวที่รูปทรง | มาห้อมล้อมโฉมยงอนงค์นวล | ||
| แล้วหยอกถามว่าใครอย่างไรบ้าง | ได้การแล้วหรือยังพระแย้มสรวล | ||
| อุตส่าห์ทาแป้งแต่งนวล | สำรวลสรวลวสันต์บันเทิงใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ จึงเห็นจันเทวีพระสนม | เนื้อนมครัดเคร่งเร่งสงสัย | ||
| แจ้งว่ามีครรภ์มั่นแม่นใจ | จัดแจงแต่งให้นางเทวี | ||
| นางใดที่ไม่มีครรภ์ | แก้ฝันเห็นของก็หมองศรี | ||
| ก้มเกล้ากราบลาพระจักรี | จันทาเทวีก็ลีลา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ฝ่ายนางจันทามาถึงห้อง | เศร้าหมองตรองจิตคอยอิจฉา | ||
| อาบเอิบกำเริบด้วยโภคา | ผ่านฟ้าว่าใครมีครรภ์ | ||
| สมบัติจะยกให้ลูกครอง | มีสองต้องคิดผิดผัน | ||
| ท่านมียศศักดิ์จะรักกัน | ลูกเต้าเหล่านั้นจะหมองมัว | ||
| ที่ไหนจะได้พระบุรี | สาวศรีจะชวนกันยิ้มหัว | ||
| ยิ่งตรึกยิ่งตรองยิ่งหมองมัว | จึงเรียกนางแม่ครัวเข้าห้องใน | ||
| สาวศรีเจ้าจงเอ็นดูเรา | เบี้ยข้าวเงินทองจะกองให้ | ||
| จงช่วยปิดงำอำไว้ | เอาทองไปให้แก่โหรา | ||
| เขียนหนังสือลับกำชับสั่ง | เราหวังไว้ใจเจ้าหนักหนา | ||
| ถอดแหวนสั่งให้มิได้ช้า | นี่ข้าถึงใจให้พลาง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ได้กินสินจ้าง | ||
| เคารพนบนอบแล้วตอบพลาง | ลูกแล้วอย่าหมางระคางใจ | ||
| สู้ตายจะตายด้วยแม่เจ้า | ลูกเล่าหาพีงผู้ใดไม่ | ||
| แม่ได้ดีลูกนี้จะดีใจ | ลากห่อทองได้ใส่แหวนมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ มาถึงซึ่งบ้านโหรเฒ่า | จู่เข้าไปได้ในเคหา | ||
| ไหว้แล้วแก้ทองของจันทา | คุณแม่ให้มาแต่ในวัง | ||
| ว่าคุณตายาใจปรานีด้วย | จงช่วยให้สมอารมณ์หวัง | ||
| จงเห็นไมตรีให้จีรัง | แล้วยื่นหนังสือให้มิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรใหญ่สงสัยเป็นหนักหนา | ||
| รับเอาหนังสือที่มือมา | ใส่แว่นตาดูก็รู้ความ | ||
| นิ่งนึกตรึกตรองอยู่ในใจ | โลภเห็นแต่จะได้ไม่เกรงขาม | ||
| แม้นภูมิรับกลับความ | ทองคำสามชั่งจะคืนไป | ||
| ถ้ากูแก้ไขนางจันทา | เงินตราห้าชั่งนั้นจะได้ | ||
| จึงว่ากับสาวศรีด้วยดีใจ | พอแก้ไขได้เป็นไรมี | ||
| แลเหลียวเปลี่ยวคนที่บนเรือน | อิดเอื้อนจะใคร่ประสมศรี | ||
| สาวใช้เจ้าเข้าไปในที่ | วานหยิบบุหรี่ที่ริมเตียง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ สาวใช้อดสูก็รู้เท่า | ไฮ้คุณตาเจ้าช่างกล่าวเกลี้ยง | ||
| ใครจะเข้าไปถึงในเตียง | ข้าวของรายเรียงจะหายไป | ||
| สะบัดมือได้แล้วไหว้ลา | อย่านะฉันหาอะไรไม่ | ||
| จึงวิ่งผลุนหนีพลันทันใด | มายังวังในไปแจ้งความ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีโฉมฉินปิ่นห้าม | ||
| ค่อยเพียรรักษาพยายาม | พระครรภ์โฉมงามได้สิบเดือน | ||
| จวนใกล้ฤกษ์พานาที | นาภีใหญ่น้อยก็คล้อยเคลื่อน | ||
| ระดมลมเส้นก็เต้นเตือน | ลูกน้อยคล้อยเคลื่อนเลื่อนลง | ||
| เจ็บครรภ์กระสันขึ้นทุกที | พ่างเพียงชีวีจะผุยผง | ||
| ร้องเรียกแสนสาวเหล่าอนงค์ | มาพร้อมล้อมองค์นางเทวี | ||
| เรียกพลางทางป่วนครวญครรภ์ | ช่วยกันเร็วเร็วนางสาวศรี | ||
| องค์สั่นยัยยุดทรุดอินทรีย์ | มเหสีโอดโอยโรยแรง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงนางผู้รักษากล้าแข็ง | ||
| ฝืนท้องต้องนางยังคลางแคลง | เห็นแข็งไปสิ้นไม่ดิ้นรน | ||
| กลมกลมกลิ้งกลิ้งยิ่งสงสัย | หลากใจไม่เห็นตัวทั่วค้น | ||
| บ้างไปทูลองค์ทรงสกล | ให้ทราบยุบลกิจจา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงกราบทูลพระภูมินทร์ | ว่าพระปิ่นนางในฝ่ายขวา | ||
| จะคลอดสมเด็จพระลูกยา | ขอเชิญผ่านฟ้าเสด็จไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลเร่งผ่องใส | ||
| จะได้เห็นลูกน้อยกลอยใจ | ในวันนี้แล้วแก้วตา | ||
| รีบไปด้วยไร้โอรส | พระทรงยศแสนโสมนัสสา | ||
| นางในใครรู้ก็ตรูมา | โฉมนางจันทาก็ตามไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ | |||
| จึงกล่าวเอาใจมเหสี | เจ้าพี่อย่าพรั่นหวั่นไหว | ||
| ลูกของเทวัญท่านให้ไว้ | แข็งใจขบฟันกลั้นทน | ||
| นักเทศจงไปสั่งการ | พนักงานของใครให้ขวายขวน | ||
| เตรียมไว้ในพระราชมณฑล | ขนมาประโคมพระลูกเรา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีป่วนปั่นพระครรภ์เจ้า | ||
| มิได้วายว่างบางเบา | เจ็บราวกับเขาผูกคร่าร้า | ||
| เป็นกรรมตามทันมเหสี | จะจากที่สมบัติวัตถา | ||
| ยามปลอดก็คลอดพระลูกยา | กุมารากำบังเป็นสังข์ทอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา มโหรี | |||
| ๏ มเหสีตระหนกอกสั่น | สาวสรรค์หวั่นไหวทั้งในห้อง | ||
| ผ่านฟ้าดังเลือดตานอง | แตรสังข์แซ่ซ้องประโคมพลัน | ||
| พระทัยวาบสำเนียงเสียงศรี | ภูมีขับเหล่านางสาวสรรค์ | ||
| ภูมินทร์เพียงจะสิ้นชีวัน | อับอายสาวสรรค์กำนัลใน | ||
| จึงตรัสแก่องค์มเหสี | เจ้าพี่เราจะคิดเป็นไฉน | ||
| ไม่พอที่จะเป็นก็เป็นไป | เมื่อหาลูกไม่ก็ทุกข์ทน | ||
| อุตส่าห์บนบานศาลกล่าว | ครั้นมีมาเล่าไม่เป็นผล | ||
| อับอายไพร่ฟ้าข้าคน | พี่จะใคร่กลั้นชนม์ให้พ้นอาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังตรัส | ดังใครตัดเศียรเด็ดกระเด็นหาย | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าฟูมฟาย | นางถวายบังคมก้มโศกา | ||
| พ่อเจ้าพระคุณของเมียเอ๋ย | กรรมสิ่งไรเลยเป็นหนักหนา | ||
| เสียแรงอุ้มทองประคองมา | ดีใจหมายว่างามหน้าเมีย | ||
| มิรู้ว่ามาได้อัปยศ | พลอยยศพระคุณให้สูญเสีย | ||
| พระองค์ทรงพระขรรค์ฟาดฟันเมีย | ตายเสียอยู่ขายบาทบงสุ์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาได้ช่องต้องประสงค์ | ||
| กับโหรดูรู้กันไว้มั่นคง | ครั้นเข้าเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ทูลว่าอนาถประหลาดจิต | ข้าคิดพิศวงสงสัย | ||
| ลูกคนเป็นหอยน่าน้อยใจ | หาเยี่ยงอย่างไม่แต่ก่อนมา | ||
| มีครรภ์เหมือนกันก็พรั่นตัว | ดีชั่วก็ยังกังขา | ||
| เดิมว่าโหรทายทำนายมา | แต่แรกชายาจะทรงครรภ์ | ||
| ว่าโอรสนั้นจะมีบุญ | ได้เพ็ดทูลไว้ตามทำนายฝัน | ||
| เข้าไฟให้หายโรคัน | แล้วทรงธรรม์ตรัสถามเนื้อความดู | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังคำ | ผลกรรมจะพรากจากคู่ | ||
| แยบคายภายในมิได้รู้ | จริงอยู่โหรทายทำนายมา | ||
| ว่าจะมีท้องทั้งสองนั้น | แม่นมั่นจริงจังดังปากว่า | ||
| เคยได้นับถือลือชา | ลูกยามาเป็นเช่นนี้ไป | ||
| จริงแล้วจะถามความก่อน | ให้แน่นอนว่าเห็นเป็นไฉน | ||
| จึงให้ทรามชมบรรทมไฟ | คลาไคลออกท้องพระโรงพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ให้หาโหราเข้ามาเฝ้า | พระเจ้าตรัสถามเนื้อความฝัน | ||
| เดิมทายโฉมยงว่าทรงครรภ์ | ก็แม่นมั่นเหมือนคำจำนรรจา | ||
| เหตุไรลูกน้อยเป็นหอยสังข์ | พลาดพลั้งบิดเบือนไม่เหมือนว่า | ||
| จะเป็นชายทายทูลว่าบุญญา | ถ้อยคำท่านว่านั้นผิดไป | ||
| ให้ดูแลหมายว่าจริงจัง | เลือดตากูดังจะย้อยไหล | ||
| เป็นเหตุเภทพาลประการใด | โหราว่าไปอย่าอำพราง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | โหรใหญ่ได้กินสินจ้าง | ||
| สมจิตคิดไว้จะให้นาง | พลัดพรากจากปรางค์ไปทางไกล | ||
| ทำค้นตำรามาดุแล | บิดเบือนเชือนแชแก้ไข | ||
| แล้วทูลพระองค์ผู้ทรงชัย | ทายไว้มิใคร่จะคลาดคลา | ||
| เพราะบ้านเมืองร้ายต้องกลายกลับ | พระองค์ว่ากับโอรสา | ||
| เป็นกรรมตามทันกัลยา | แม้นพระบุตราเป็นมนุษย์ | ||
| จะเลิศเรืองเฟื่องฟุ้งงทั้งกรุงไกร | เคราะห์ร้ายกลายไปเสียสิ้นสุด | ||
| บ้านเมืองก็จะล่มโทรมทรุด | ม้วยมุดฉิบหายวายปราณ | ||
| แม้นขับไล่ไปไกลบุรี | ธานีจะเย็นเกษมศานต์ | ||
| อย่าไว้พระทัยให้เนิ่นนาน | เพลิงกาฬจะเผาเอาพารา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังโหรทาย | ดังจะวายชีวังสังขาร์ | ||
| กระนั้นจริงเจียวหรือโหรา | อนิจจาหลัดหลัดมาพลัดกัน | ||
| ว่าพลางสะท้อนถอนใจ | กลั้นน้ำพระเนตรไว้แล้วผายผัน | ||
| คืนเข้าห้องแก้วแพรวพรรณ | หามิ่งเมียขวัญทันใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงทิ้งพระองค์ลง | บอกพลางทางทรงกันแสงไห้ | ||
| โอ้กรรมเราทำไว้ปางใด | จะไกลกันไปแล้วนะแก้วตา | ||
| มิพอที่จะเป็นก็มาเป็น | เกิดเข็ญเพราะลูกเสน่หา | ||
| โหรทายร้ายนักเจ้าพี่อา | ว่าแก้วกัลยาเป็นกาลี | ||
| อยู่ไปจะได้แค้นเคือง | บ้านเมืองจะยับต้องขับหนี | ||
| พี่จะขาดใจม้วยด้วยเทวี | ไม่มีความผิดสักนิดเลย | ||
| แสนสงสารนักด้วยรักใคร่ | จะจากกันฉันใดได้เฉยเฉย | ||
| อยู่อยู่ดีดีเจ้าพี่เอย | ไม่รู้ตัวเลยจะจากกัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังสาร | ดังคนผลาญชีวาให้อาสัญ | ||
| นางตระหนกตกใจดังไฟกัลป์ | อกสั่นขวัญหนีไม่มีใจ | ||
| สวมสอดกอดบาทของผัวแก้ว | ข้อนทรวงเข้าแล้วก็ร้องไห้ | ||
| เมียให้ฆ่าฟันให้บรรลัย | รักใคร่เมตตาไม่ฆ่าตี | ||
| โหรามันว่าเป็นคำสอง | พ่อตรองให้ควรถ้วนถี่ | ||
| ขับไล่ไม่มาฆ่าตี | เหมือนม้วยชีวีไปจากกัน | ||
| ร่ำพลางนางเกลือกเสือกกาย | ดังจะวายชีวาด้วยโศกศัลย์ | ||
| ซบพักตร์กับตักพระทรงธรรม์ | หวาดหวั่นนิ่งไปไม่พาที | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เอะเอยเอะน้องแก้ว | ผิดแล้วองค์เย็นดังเป็นผี | ||
| ร้องไห้นิ่ไปไม่พาที | อยู่บนตักพี่ไม่หายใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้จันท์เทวีเจ้าพี่เอ๋ย | ทรามเชยเงยหน้าอย่าร้องไห้ | ||
| อกของผัวรักจักหักไป | ลุกขึ้นดูใจปราศรัยกัน | ||
| พี่พูดด้วยเป็นไรไม่เจรจา | แน่แล้วแก้วตาพี่อาสัญ | ||
| เจ้าอ้อนวอนพี่ให้ฆ่าฟัน | จะทำกันฉันใดไฉนนา | ||
| ถึงพลัดพรากลำบากกาย | มิตายได้เห็นกันวันหน้า | ||
| ไม่เงยพักตร์ขึ้นบ้างสั่งพี่ยา | แก้วตามาตีตัวตาย | ||
| ตัดช่องน้อยไปแต่ตัว | ทิ้งผัวเสียได้น่าใจหาย | ||
| ร่ำพลางกอดพลางฟูมฟาย | ระทวยกายกอดซบสลบพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาแสนกลคนขยัน | ||
| เห็นสองสลบทบทับกัน | ผันผินรินน้ำกุหลาบมา | ||
| ชโลมองค์ทรงทาทั้งสองศรี | ค่อยได้สมประดีที่โหยหา | ||
| แล้วโลมเล้ากล่าวคำด้วยหยาบช้า | เคราะห์กรรมทำมาจะโทษใคร | ||
| โหรเล่าใช่เขาจะชั่วช้า | เคยนับถือมาแต่ไหนไหน | ||
| จำไปให้สิ้นเคราะห์ภัย | เกลือกไปเคราะห์นั้นจะบรรเทา | ||
| ไม่ม้วยดับชีพสูญหาย | มิใช่ล้มตายอะไรเล่า | ||
| แต่พอเคราะห์นั้นค่อยบรรเทา | แล้วเราจึงรับกันกลับมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระฤาสายค่อนคลายที่โหยหา | ||
| ได้ฟังถ้อยคำนางจันทา | ตรึกตราสะท้อนถอนใจ | ||
| เห็นจริงไม่กริ่งถ้อยคำ | ด้วยเวรากรรมมาทำให้ | ||
| จึงมีวาจาว่าไป | เจ้าเอาใจด้วยช่วยจัดแจง | ||
| ให้องค์นงเยาว์เจ้าไปกิน | ทรัพย์สินเงินทองของแห้ง | ||
| สั่งเสนาในให้จัดแจง | เรือแผงม่านวงให้จงดี | ||
| ส่งไปให้พ้นขอบเขต | จะเนรเทศยอดรักมเหสี | ||
| ตรัสพลางดูนางแล้วโศกี | ภูมีเมินอายนางจันทา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันทาตัวคิดริษยา | ||
| ดีใจรับสั่งบังคมลา | ทำเช็ดน้ำตาแล้วคลาไคล | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ มิได้จัดแจงแต่งของ | เงินทองข้าวปลาไม่หาให้ | ||
| กระซิบสั่งสาวศรีที่ร่วมใจ | เอาเงินไปให้แก่เสนา | ||
| ว่าเอ็นดูด้วยช่วยเรา | พาเอานางไปอย่าไว้หน้า | ||
| ไกลคนพ้นแดนพารา | เสนาฆ่าเสียให้วอดวาย | ||
| สุดแต่อย่าให้มันครองวัง | ปิดความกำบังให้สูญหาย | ||
| จะทดแทนคุณให้มากมาย | เจ้าอย่าแพร่งพรายให้ใครฟัง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสร็จสรรพกลับเข้าปราสาทศรี | ทูลความตามที่รับสั่ง | ||
| เงินทองของกินสิ้นยัง | เตรียมแล้วพร้อมพรั่งทั้งนาวา | ||
| บัดนี้ไพร่ฟ้าข้าเมือง | ลือเลื่องฮึกฮักหนักหนา | ||
| มันจะกลุ้มรุมกันทั้งพารา | โกรธว่าจะพาให้ยากเย็น | ||
| ว่าช้าไปมิใคร่จะจากวัง | มันจะพังบ้านเมืองเคืองเข็ญ | ||
| น้ำตาข้าน้อยพลอยกระเด็น | กรรมเวรเป็นไปทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังข่าว | พระร้อนเร่าฤทัยไหวหวั่น | ||
| หลงกลด้วยกรรมาตามทัน | สำคัญว่าจริงทุกสิ่งไป | ||
| พินิจพิศพักตร์อัคเรศ | คลอเนตรสะท้อนถอนใจใหญ่ | ||
| จะออกปากก็คับอับใจ | ด้วยความรักใคร่ชายา | ||
| ครั้นจะมิให้เจ้าไปเล่า | ร้อนเร่าด้วยคำจันทาว่า | ||
| บ่ายเบื้อนเยื้อนออกวาจา | เจ้าแก้วตาของพี่ผู้มีกรรม | ||
| เจ้าเคยพรากสัตว์ให้พลัดคู่ | เวรมาชูชุบอุปถัมภ์ | ||
| แม้นมีกรรมไม่ไปใช้กรรม | ไพร่ฟ้ามันจะทำย่ำยี | ||
| มิใช่พี่ไม่รักน้อง | ร่วมห้องอกสั่นกันแสงศรี | ||
| ไม่ยับดับสูญบุญมี | เคราะห์ดีสิ้นกรรมจะเห็นกัน | ||
| ตรัสพลางดูนางมิใคร่ได้ | ชลนัยน์ไหลรินแล้วผินผัน | ||
| เดินเข้าห้องแก้วแพรวพรรณ | รูดพันม่านทองเข้าโศกา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เสมอ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีตีทรวงไห้โหยหา | ||
| พ่างเพียงจะสิ้นชีวา | โศกาไม่เป็นสมประดี | ||
| ครั้นจะอ้อนวอนผ่อนผัน | ทรงธรรม์ก็เมินดำเนินหนี | ||
| ทุกข์แค้นแสนโศกโศกี | พระพันปีหนีเมียเสียว่าไร | ||
| มีกรรมจำจากพระบาทแล้ว | น้องแก้วหาขัดขืนไม่ | ||
| จะขอผัดผ่อนต่อนอนไฟ | มิให้ช้านักสักเจ็ดวัน | ||
| แต่พอให้แห้งเหือดเลือดลม | จะซุกซมซ่อนไปในไพรสัณฑ์ | ||
| พ่อไม่ขึ้งโกรธโทษทัณฑ์ | เหตุไรไม่ทันบัญชา | ||
| ว่าพลางนางข้อนทรวงไห้ | เพียงขาดใจม้วยด้วยโหยหา | ||
| เหล่ากำนัลไม่กลั้นน้ำตา | ชวนกันโศการิมแท่นทอง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวดีไม่มีสอง | ||
| สมจิตคิดไว้ดังใจปอง | ได้ช่องให้หน้าแล้วว่าไป | ||
| กับนางสาวศรีที่ร่วมคิด | ว่ารับสั่งทรงฤทธิ์เป็นใหญ่ | ||
| ให้พาโฉมยงเจ้าลงไป | มอบองค์ส่งให้แก่เสนี | ||
| ช้าไปไพร่ฟ้าจะขึ้งโกรธ | จะคุมโทษโลภแย่งเอากรุงศรี | ||
| ตามบุญตามกรรมของเทวี | ช้าไปบูรีจะมีภัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ผู้ร่วมอัชฌาสัย | ||
| รู้กันในกลยลใน | ลอบเข้าไปใกล้นางชายา | ||
| ทูลว่าภูมินทร์ปิ่นเกล้า | อาวรณ์ร้อนเร่าหนักหนา | ||
| ด้วยกลัวไพรีจะบีฑา | เตือนมาให้พาแม่คลาไคล | ||
| จะมีโทษแต่ข้าน้อย | ดับความโศกสร้อยละห้อยไห้ | ||
| มีกรรมจำเป็นเข็ญใจ | อย่าให้ข้าไทต้องภัยโพย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ฟังคำ | นางโศกช้ำรัญจวนหวนโหย | ||
| อนิจจังทั้งสิ้นมาดิ้นโดย | โพยภัยมิให้แก่ใครมี | ||
| คิดว่าพอผัดผ่อนได้ | เมื่อไม่โปรดเกล้าเกศี | ||
| ตามแต่เวราของข้านี้ | สาวศรีอย่าได้ทุกข์ทน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ว่าพลางยกเอาลูกน้อย | น้ำเนตรหยดย้อยดังฝอยฝน | ||
| ร้องทูลพระองค์ทรงสกล | น้องคนมีกรรมจะขอลา | ||
| ดูรูปจำร่างเสียยังแล้ว | พระแก้วจะไม่ได้เห็นหน้า | ||
| จะไม่คืนคงอย่าสงกา | มิได้รองฝ่าพระบาทไป | ||
| สิ่งใดเมียได้พลาดพลั้ง | แต่หลังให้ขัดอัชฌาสัย | ||
| เมียขอสมาอาภัย | อย่าได้เป็นเวราเลย | ||
| ให้พ่ออยู่ยืนได้หมื่นปี | โรคาอย่ามีพ่อคุณเอ๋ย | ||
| ไม่เยี่ยมม่านทองดูน้องเลย | ทำเฉยเสียได้ไม่นำพา | ||
| นิ่งได้ให้เขามาสั่งเสีย | ตัดเมียเสียได้ไม่ดูหน้า | ||
| ว่าแล้วนางแก้วบังคับลา | สาวใช้ซ้ายขวาก็ตามไป | ||
| ค่อยอยู่เถิดเจ้านางสาวศรี | บุญน้อยแล้วมิอยู่ด้วยได้ | ||
| ข้าได้เรียกขานวานใช้ | อภัยอย่าได้เป็นกรรมกัน | ||
| ว่าพลางนางอุ้มลูกยา | จันทาพยักหน้านางสาวสรรค์ | ||
| เดินทรงโศกามาพลัน | กำนัลจันทาก็พาไป | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เพลง เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีที่ร่วมอัชฌาสัย | ||
| รับเอาโฉมงามทรามวัย | สาวใช้ขึ้นไปยังในวัง | ||
| กินเหล้าเมาโป้งโฉงเฉง | ไม่เกรงไม่ขวยด้วยโอหัง | ||
| เชิญแม่มาไปให้พ้นวัง | รับสั่งจะช้าอยู่ว่าไร | ||
| ทำให้คนยากลำบากด้วย | คราวรวยหาทักรู้จักไม่ | ||
| ที่มีปัญญาก็ว่าไป | นี่พูดอะไรไม่ต้องการ | ||
| ว่าพลางเชิญนางลงนาวา | มิช้าบ่ายบากจากสถาน | ||
| ทางสิบห้าวันกันดาร | พ้นบ้านไกลที่ไม่มีคน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงส่งนางเทวี | ดูน่าปรานีระเหระหน | ||
| เสนีที่ได้กินสินบน | ขัดสนด้วยคนเขามากมาย | ||
| จะฆ่าเทวีก็มิได้ | มารยาว่าไปดังใจหมาย | ||
| ไหนไหนไม่พ้นเป็นคนตาย | จะลองดาบกรายเล่มนี้ดู | ||
| เพื่อนกันช่วยฉุดยุดไว้ | ผิดไปไม่ได้อย่าจู่ลู่ | ||
| ตามกรรมตามเวรนางโฉมตรู | จู่ลู่จะพากันวุ่นวาย | ||
| ไม่คิดถึงตัวกลัวกรรม | เวรามาทำเองง่ายง่าย | ||
| ถึงชั่วดีเล่าเป็นเจ้านาย | จะทำผิดคิดร้ายก็ไม่ดี | ||
| กลับไปบ้านเราจะดีกว่า | ว่าพลางทางลานางโฉมศรี | ||
| ที่ใจเมตตาปรานี | บ้างข้าวของมีก็ให้ทาน | ||
| แล้วออกนาวาคลาไคล | ดูไปใจหายน่าสงสาร | ||
| ฝ่ายว่าเสนีที่เป็นพาล | งุ่นง่านไม่ไหว้ไม่ลาใคร | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีโศกาอยู่ป่าใหญ่ | ||
| ขึ้นมาจากท่าชลาลัย | ไม่รู้ที่จะไปแห่งใดเลย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ ชาตุม | |||
| ๏ เดินพลางทางอุ้มลูกพลาง | เห็นทุกข์แม่บ้างพ่อสังข์เอ๋ย | ||
| บุกป่าฝ่าไพรแม่ไม่เคย | เพราะกรรมทรามเชยเจ้าเกิดมา | ||
| เป็นคนหรือจะได้มาเป็นเพื่อน | มีเหมือนไม่มีโอรสา | ||
| ทั้งนี้เพราะอีจันทา | กับอ้ายโหรามันรู้กัน | ||
| ทั้งอีสาวศรีมันร่วมใจ | มันเร่งรัดให้แม่ผายผัน | ||
| ทั้งอ้ายเสนาจะฆ่าฟัน | อัศจรรย์ใจแม่นี้แน่แล้ว | ||
| พระร่วมห้องของน้องยังอาลัย | เหตุไรไม่เกรงทูลกระหม่อมแก้ว | ||
| พ่อหลงกลมนตร์มันแน่แล้ว | เดินพลางนางแก้วก็โศกี | ||
| เสียงเสือแรดช้างกวางทราย | ใจหายอกสั่นขวัญหนี | ||
| เล็ดลอดกอดลูกเข้าโศกี | เทวีอุ้มสังข์ดำเนินไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เดินมา | สุริยาร้อนแรงแสงใส | ||
| แลเห็นบ้านป่าพนาลัย | โฉมยงดีใจเข้าไปพลัน | ||
| พบสองเฒ่าปลูกถั่วงา | นางนั่งวันทาขมีขมัน | ||
| ฝ่ายว่าสองราดูหน้ากัน | ยายถามตานั้นทันใด | ||
| ตานี่ดีร้ายจะไม่ตรง | มั่นคงกูคิดหาผิดไม่ | ||
| นัดแนะกันมาหรือว่าไร | ตาเอาใจออกนอกกัน | ||
| น้อยหรือนั่นรูปร่างอย่างกินนร | ยายค้อนตาผัวจนตัวสั่น | ||
| ฝ่ายตาโกรธยายเอาไม้รัน | มึงเห็นสำคัญด้วยอันใด | ||
| คราวลูกคราวหลานก็ไม่ว่า | มันบ้าอย่าถือแม่ข้าไหว้ | ||
| มาแต่ตำบลหนใด | บอกให้แจ้งใจยายตา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ นางเล่าแต่ต้นจนปลาย | ตายายพาไปยังเคหา | ||
| จัดเหย้าเรือนให้มิได้ช้า | ด้วยความเมตตาปรานี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมจันท์กัลยามารศรี | ||
| อยู่ด้วยยายตาได้ห้าปี | ยากแค้นแสนทวีทุกเวลา | ||
| ครั้นค่ำตักน้ำตำข้าว | ครั้นรุ่งเช้าเจ้าเข้าป่า | ||
| เก็บผักเที่ยวหักฟืนมา | กัลยาค้าขายได้เลี้ยงตัว | ||
| อุ้มเอาลูกน้อยหอยสังข์ | สุดกำลังแม่แล้วพ่อทูลหัว | ||
| เลี้ยงไว้ว่าจะได้เป็นเพื่อนตัว | ทูนหัวไม่ช่วยแม่ด้วยเลย | ||
| เนื้อเย็นเป็นคนนะลูกแก้ว | ห้าหกขวบแล้วนะลูกเอ๋ย | ||
| กำดัดจะภิรมย์ชมเชย | ลูกเอ๋ยจะเบาทุเลาแรง | ||
| นางมิได้เอนองค์ลงนิทรา | สุรียารุ่งรางสว่างแสง | ||
| วางลูกไว้ไปจัดแจง | ลากแผงออกวางที่กลางดิน | ||
| เอาข้าวออกตากแล้วฝากยาย | จับหาบผันผายเข้าไพรสิณฑ์ | ||
| เที่ยวเก็บผักหญ้าเป็นอาจิณ | โฉมฉินซอนซนต้นมา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ยานี | |||
| มาจะกล่าวบทไป | เทพไทสิงสู่อยู่พฤกษา | ||
| สงสารนางจันท์กัลยา | เจ้ามาเหนี่อยยากลำบากกาย | ||
| เทพบุตรจุติมาบังเกิด | กำเนิดผิดพ้นคนทั้งหลาย | ||
| บุญญาธิการนั้นมากมาย | จะล้ำเลิศเพริศพรายเมื่อปลายมือ | ||
| ถึงจะตกน้ำก็ไม่ไหล | ตกในกองกูณฑ์ไม่สูญชื่อ | ||
| จะได้ผ่านบ้านเมืองเลื่องลือ | อึงอื้อดินฟ้าบาดาล | ||
| คู่สร้างกับนางรจนา | มารดาจะสุขเกษมศานต์ | ||
| นิ่งไว้จะยากลำบากนาน | กุมารซ่อนตนจะดลใจ | ||
| จึงบันดาลให้เป็นไก่ป่า | กินมารดาหาช้าไม่ | ||
| ขันก้องร้องตีกันมี่ไป | คุ้ยเขี่ยข้าวให้กระจายดิน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ คุกพาทย์ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ซ่อนอยู่ก็รู้สิ้น | ||
| พระแม่ไปป่าเป็นอาจิณ | ในจิตคิดถวิลทุกเวลา | ||
| จะใคร่ออกช่วยพระแม่เจ้า | สงสารผ่านเกล้าเป้นหนักหนา | ||
| เหนื่อยยากลำบากกายา | กลับมาจนค่ำแล้วร่ำไร | ||
| ไม่ว่าลูกน้อยเป็นหอยปู | อุ้มชูชมชิดพิสมัย | ||
| พระคุณล้ำลบภพไตร | จะออกให้เห็นตัวก็กลัวการ | ||
| ไก่ป่าพาฝูงมากินข้าว | ของพระแม่เข้าอยู่ฉาวฉาน | ||
| คุ้ยเขี่ยเรี่ยรายทั้นดินดาน | พระมารดามาเห็นจะร่ำไร | ||
| เยี่ยมลอดสอดดูทั้งซ้ายขวา | จะเห็นใครไปมาก็หาไม่ | ||
| ออกจากสังข์พลันทันใด | ฉวยจับไม้ได้ไล่ตี | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ กอบเก็บข้าวหกที่ตกดิน | ผันผินลอยลับขยับหนี | ||
| เหลืยวดูผู้คนชนนี | จะหนีเข้าสังข์กำบังตน | ||
| หุงข้าวหาปลาไว้ท่าแม่ | ดูแลจัดแจงทุกแห่งหน | ||
| ช่วยขับไก่ป่าประสาจน | สาละวนเล่นพลางไม่ห่างดู | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉิ่ง เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระมารดานึกในพระทัยอยู่ | ||
| คิดถึงลูกน้อยหอยปู | เดินไปสักครู่แล้วจู่มา | ||
| เก็บได้ฟืนผักเผือกมัน | สารพันกินได้ที่ในป่า | ||
| ใส่หาบหาบเดินดำเนินมา | ไม่ช้าครู่หนึ่งก็ถึงเรือน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ จึงเห็นลูกแก้วแววไว | ลูกใครคนนี้ไม่มีเหมือน | ||
| มานั่งเล่นอยู่ประตูเรือน | พักตร์ดังดวงเดือนเลื่อนลอย | ||
| พระสังข์แลเห็นชนนี | แล่นหนีตกใจเข้าในหอย | ||
| ประหวั่นพรั่นใจมิใช่น้อย | เศร้าสร้อยคอยฟังพระมารดา | ||
| มารดรวางหาบตามติด | เห็นผิดเปิดห้องมองหา | ||
| รีบร้นค้นดูกุมารา | กัลยาไม่เห็นประหลาดใจ | ||
| หรือว่าผีเรือนเป็นเพื่อนร้อน | แกล้งหลอกหลอนเล่นเป็นไฉน | ||
| จึงสาบสูญกายหายไป | คิดวนเวียนในพระทัยนาง | ||
| ข้าวปลาสุกสรรพเก็บปิด | เห็นผิดเร่งคิดอางขนาง | ||
| โฉมตรูมาดูข้าวพลาง | แล้วนางมาถามตายาย | ||
| ไม่กินข้าวปลาอาหาร | เยาวมาลย์รำพึงคะนึงหมาย | ||
| คอยดูให้รู้แยบคาย | อุ้มเอาลูกชายไม่สงกา | ||
| พินิจพิศดูแล้วทูนเกศ | น้ำเนตรหลั่งไหลทั้งซ้ายขวา | ||
| จวนรุ่งพุ่งแสงพระสุรียา | ทำเป็นไปหาสาแหรกคาน | ||
| ลงจากกระท่อมแล้วด้อมมอง | ค่อยย่องแอบไม้ไม่ไกลบ้าน | ||
| แอบซ่อนมองดูอยู่ช้านาน | นงคราญกลั้นไว้ไม่พูดจา | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระกุมารเยี่ยมหอยแลหา | ||
| ไม่แจ้งว่าองค์พระมารดา | แฝงฝาคอยอยู่ไม่รู้กาย | ||
| สงัดเงียบผู้คนไม่พูดจา | เล็ดลอดออกมาแล้วผันผาย | ||
| นั่งที่นอกชานสำราญกาย | เก็บกรวดทรายเล่นไม่รู้ตัว | ||
| มารดาซ่อนเร้นเห็นพร้อมมูล | อุแม่เอ๋ยพ่อคุณทูนหัว | ||
| ซ่อนอยู่ในสังข์กำบังตัว | พ่อทูนหัวของแม่ประหลาดคน | ||
| ย่างเข้าในห้องทับจับได้ไม้ | ก็ต่อยสังข์ให้แหลกแตกป่น | ||
| พระสังข์ตกใจดังไฟลน | จะหนีเข้าหอยตนก็จนใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง โอ้ | |||
| ๏ สวมสอดกอดบาทพระมารดา | ซบเกศาพลางทางร้องไห้ | ||
| แม่ต่อยสังข์แตกแหลกไป | ร่ำไรเสียดายไม่วายคิด | ||
| เหมือนแม่ฆ่าลูกให้ม้วยมรณ์ | มารดรไม่รักแต่สักนิด | ||
| พระแม่ต่อยสังข์ดังชีวิต | จะชมชิดลูกนี้สักกี่วัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังลูกว่า | พระมารดาเสียวใจไหวหวั่น | ||
| กอดจูบลูบเนตรเกศกรรณ | ร่วมวันขวัญตาพ่อว่าไย | ||
| สิ้นเคราะห์สิ้นกรรมทำมา | ลูกยาอย่าว่าแม่เสียวไส้ | ||
| ตกทุกข์ได้ยากลำบากใจ | เพราะอ้ายหอยสังข์มันจังฑาล | ||
| มันมาหุ้มห่อเอาพ่อไว้ | ทำไมให้โหรามันว่าขาน | ||
| บิตุรงค์หลงกลอีคนพาล | ไม่ช้าไม่นานจะคืนวัง | ||
| ยากเย็นเห็นหน้ากันแม่ลูก | อย่าพันผูกโศกสร้อยถึงหอยสังข์ | ||
| รักใคร่มันไยไม่จีรัง | หอยสังข์เช่นนี้มีถมไป | ||
| ว่าพลางนางเรียกยายตา | เล่ากิจจาแจ้งแถลงไข | ||
| ตั้งแต่เบื้องต้นจนปลายไป | ทั้งสองสงสัยไม่เชื่อนาง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ตายายให้คิดอางขนาง | ||
| พากันเข้าไปในทับนาง | แลเห็นรูปร่างกุมารา | ||
| ตะลึงขึงแข็งไปทั้งตัว | ทูนหัวน่ารักเป็นหนักหนา | ||
| พ่อคุณเป็นบุญของยายตา | เกิดมายังไม่ได้ยินเลย | ||
| พึ่งพบพึ่งเห็นเป็นเที่ยงแท้ | ลูกของเจ้าแน่หรือแม่เอ๋ย | ||
| บุญหนักศักดิ์ใหญ่กระไรเลย | พ่อเอ๋ยรูปร่างช่างสร้างมา | ||
| ชั่วปู่ชั่วย่าชั่วตายาย | ล้มตายไม่เห็นเป็นหนักหนา | ||
| กอดจูบลูบไล้ทั้งยายตา | สองราเกษมเปรมปรีดิ์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๒ ถ่วงพระสังข์
| พญาโศก | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลหมองศรี | ||
| ไสยาสน์เหนืออาสน์รูจี | คิดถึงมเหสีที่จากไป | ||
| ยกหัตถ์พาดพักตร์พูนเทวษ | น้ำเนตรอาบหมอนถอนใจใหญ่ | ||
| โอ้เจ้างามทรามกอดยอดจิตใจ | เจ้าจะเป็นฉันใดไม่รู้เลย | ||
| จะตกระกำลำบากยากเย็น | หรือวอดวายตายเป็นนะน้องเอ๋ย | ||
| หลายปีมิได้ข่าวเจ้าเลย | น้องเอ๋ยจะด้นไปหนใด | ||
| ลูกเสียเมียช้ำไปจากร่าง | โอ้กรรมตามล้างแต่ปางไหน | ||
| ครวญคร่ำกำสรดสลดใจ | มิได้สระสรงคงคา | ||
| โอ้จันท์เทวีเจ้าพี่เอ๋ย | ทรามเชยเคยเคียงเรียงหน้า | ||
| เช้าเย็นเคยเห็นนกันมา | เคยร่วมนิทราทุกราตรี | ||
| เห็นแต่ที่นอนหมอนเปล่า | ขวัญข้าวของผัวเอาตัวหนี | ||
| เคยล้อมพร้อมหน้าทุกนารี | แก้วพี่หนีกายไปหายองค์ | ||
| กอดเอาหมอนนางพลางพิลาป | ชลนัยน์ไหลอาบดังโสรจสรง | ||
| เจ้าจะเป็นฉันใดที่ในดง | กอดหมอนแนบองค์เข้าร่ำไร | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวเข็ญจะเป็นใหญ่ | ||
| ยังไม่เหมือนจิตที่คิดไว้ | มุ่งมาดหมายใจอยู่ไปมา | ||
| จึงเรียกสาวใช้เข้าในห้อง | ปรองดองตรองตรึกปรึกษา | ||
| จะคิดฉันใดไฉนนา | ให้ข้าสมจิตที่คิดปอง | ||
| ลอยเมฆเป็นเอกมเหสี | อย่าให้ใครมีเสมอสอง | ||
| พระฤาสายไม่วายตรึกตรอง | เศร้าหมองคะนึงคิดถึงเมีย | ||
| นางจันท์เทวียังมิตาย | ดีร้ายเสนาไม่ฆ่าเสีย | ||
| แม้นว่าพระจะกลับไปรับเมีย | จะเสียการเราเจ้าคิดดู | ||
| หรือว่าหอยกลายไปเป็นคน | เหตุผลอย่างนี้ก็มีอยู่ | ||
| อย่าได้ไว้ใจแก้ไขดู | ให้สิ้นรู้เราอย่าเบาความ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ใจเพชรไม่เข็ดขาม | ||
| จึงทูลแถลงให้แจ้งความ | จะครั่นคร้ามขามใจไปไยมี | ||
| แม่เรียกธิดามาสอนสั่ง | ความหลังทั้งมวลให้ถ้วนถี่ | ||
| เฝ้าองค์ทรงศักดิ์พระจักรี | ทูลพ่อขอที่มารดร | ||
| ด้วยพระสัญญาว่าไว้ | แก้ไขโดยดีกระนี้ก่อน | ||
| ซึ่งพระโศกาอาวรณ์ | แม่ผันผ่อนแนมเหน็บให้เจ็บใจ | ||
| แม้นมิสมคะเนเล่ห์กล | เอาด้วยเวทมนตร์ให้หลงใหล | ||
| คนดีมีถมอย่าตรมใจ | ข้าได้ข่าวอยู่สุเมธา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | สมดังใจจิตอิจฉา | ||
| ร้องเรียกบุตรีจันทีมา | เสี้ยมสอนให้ว่าสารพัน | ||
| แล้วให้สระสรงทรงเครื่อง | รุ่งเรืองเพราเพริศเฉิดฉัน | ||
| พี่เลี้ยงนางนมระดมกัน | ผัดพักตร์ดังจันทร์เมื่อวันเพ็ญ | ||
| แต่งลูกแล้วแต่งตัวนาง | ชำระสระสางให้ปลั่นเปล่ง | ||
| แสนสาวชาวแม่แช่แข็ง | รีบเร่งอุ้มพาธิดาตาม | ||
| มาถึงซึ่งที่พระบรรทม | ชื่นชมในจิตไม่คิดขาม | ||
| แหวกม่านเห็นองค์พระทรงนาม | ก้มเกล้ากราบงามสามลา | ||
| ทั้งพระบุตรีพี่เลี้ยง | นบนอบหมอบเคียงเรียงหน้า | ||
| แล้วจึงสะกิดพระธิดา | พยักหน้าเข้าไปให้ใกล้องค์ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระทรงธรรม์รัญจวนครวญหลง | ||
| เห็นลูกโฉมฉายก็อายองค์ | ผันพักตร์สบตรงนางจันทา | ||
| ขวยเขินเมินเช็ดชลนัยน์ | เคืองใจมิใคร่จะดูหน้า | ||
| บ่ายเบือนเยื้อนทักพระธิดา | รับมาวางตักพระพักตร์เชย | ||
| จูบพลางทางคิดถึงหอยสังข์ | กรรมตามแต่หลังนะลูกเอ๋ย | ||
| เป็นคนจะได้ไว้ชมเชย | ลูกเอ๋ยพี่น้องจะครองกัน | ||
| มิให้พ่อแม่ได้ลำบาก | พลัดพรากวิโยคโศกศัลย์ | ||
| จึงถามธิดาวิลาวัณย์ | แม่ขวัญเมืองมาจะว่าไร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทีศรีใส | ||
| จำคำมารดาที่สอนไว้ | ถือใจไม่รู้ว่าขุ่นเคือง | ||
| ทูลว่าประสาทารก | หยิบยกข้อความตามเรื่อง | ||
| บิดาว่าไว้จะให้เมือง | ราวเรื่องระบือลือชา | ||
| ลูกเกิดเพริดพลัดเป็นสตรี | ไม่ควรที่สมบัติวัตถา | ||
| จะขอที่ประทานให้มารดา | ให้เลื่องชื่อลือชาสถาวร | ||
| แทนที่แม่หนีไปจากวัง | แต่งตั้งแทนตนแม่คนก่อน | ||
| ยกหน้าข้าบาทประสาทพร | แม่ก่อนบิดาอย่าอาลัย | ||
| เมื่อโหรเขาว่าเป็นกาลี | ชั่วดีอื่นพอจะเลี้ยงได้ | ||
| เลือดก้อนออกแล้วก็แล้วไป | ร้องไห้ใครรู้จะดูแคลน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังลูก | เจ็บปวดดังถูกหลาวแหลน | ||
| ใครสอนให้ว่าเจรจาแทน | มั่นแม่นตัวกูพอรู้ทัน | ||
| ยิ่งกว่าลูกเล็กเด็กน้อย | ตะบอยสาระวอนทุกสิ่งสรรพ์ | ||
| เหน็บแนมแกมกลปนกัน | เด็กนั้นว่าได้เมื่อไรมี | ||
| ความหลังแต่ยังไม่เกิดมา | มันว่าทั้งมวลเป็นถ้วนถี่ | ||
| สอนบ้างหรือไม่เล่าอีเหล่านี้ | กาลีกาลำมารำพัน | ||
| หรือหนึ่งแม่แสนงอนเจ้าสอนลูก | เรียนผูกเรียนแก้ช่างแปรผัน | ||
| เป็นกรรมจึงจำจากกัน | ทุกวันเหมือนเงาอยู่วาวแวว | ||
| เว้นแต่จะจับไม่ถูกต้อง | คนมันคอยปองพระน้องแก้ว | ||
| ได้ทีที่ทางว่างอยู่แล้ว | สอนลูกแก้วมาให้พาที | ||
| น้อยหรือน้ำใจใหญ่หลวง | โจมจ้วงเอาดวงพระสุริย์ศรี | ||
| กูไม่ให้ปันอีจันที | เจ้าของเขามียังมิตาย | ||
| สิ้นเคราะห์จะรับเจ้ากลับมา | แม่นางจันทาเจ้าอย่าหมาย | ||
| จงพากันไปให้สบาย | ลูกเต้าบ่าวนายบรรดามา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาเสียวไส้อยู่ในหน้า | ||
| เสียใจทูลไปด้วยปัญญา | อนิจจาเคราะห์ร้ายให้อายคน | ||
| นั่งอยู่ดีดีก็มีโทษ | ได้โปรดซักไซ้ให้เห็นหน | ||
| วอนมาเฝ้าองค์ทรงสกล | ให้คนพลอยผิดนางคิดดี | ||
| ลูกเต้าน่าแค้นมันแสนงอน | ใครสอนอย่าบอกออกมานี่ | ||
| บนบานเจ้าไว้เมื่อไรมี | หยิกตีเท่าไรก็ไม่จำ | ||
| เก็บเอาเขาพูดที่ไหนไหน | ทูลให้ติดต่อเป้นข้อขำ | ||
| นี่ใครสั่งสอนฉะอ้อนคำ | เที่ยวจำเค้ามูลมาทูลเอง | ||
| ไม่จ้วงไม่เจิ้นให้เกินหน้า | มันว่าออเซาะไม่เหมาะเหม็ง | ||
| เมื่อพระสัญญาว่าไว้เอง | จึงครื้นเครงไปเขาได้ยิน | ||
| ใครมองปองล้างมเหสี | เฆี่ยนตีซักไซ้เอาให้สิ้น | ||
| แล่เนื้อเกลือทาให้กากิน | มันเป็นเสี้ยนแผ่นดินจะไว้ไย | ||
| ใครได้ชิงชังนางยอดสร้อย | เมื่อไปก็พลอยน้ำตาไหล | ||
| อาภัพกลับกลายหายไป | จัดแจงแต่งให้ทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังคำ | ซอกซ้ำหมกมุ่นหุนหัน | ||
| เห็นจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน | แดกดันเล่นได้เป็นไรมี | ||
| กระนั้นนานไปจะใช้ทุน | เจ้าทำบุญคุณมเหสี | ||
| รักใคร่ตกใจไปไยมี | ตัวดีอยู่แล้วก็แล้วไป | ||
| อีจันท่ไม่มีใครสอนสั่ง | มันชั่งต่อติดประดิษฐ์ได้ | ||
| จริงอยู่สัญญาว่าไว้ | ลูกใครเป็นชายจะให้วัง | ||
| นางแม่จะแร่เอายศถา | ใครได้สัญญามาแต่หลัง | ||
| ไม่รับกลับเถียงเสียงดัง | แฝงหลังบังเงากูเข้าใจ | ||
| ยังไม่ทันได้ยศศักดิ์ | ฮึกฮักลิ้นลมคารมใหญ่ | ||
| ดูเหมือนเพื่อนกันหรือฉันใด | ไสหัวลงไปอีใจพาล | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังตรัส | สะบัดพักตร์ควักค้อนแล้วตอบสาร | ||
| ผิดแผกเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | แกล้งพาลพาโลโกรธา | ||
| เพราะคิดถึงเมียจึงเสียใจ | มิรับมาไยใครเขาว่า | ||
| แม้นเกิดกลีมีมา | ยากเย็นเป็นข้าคนอื่นไป | ||
| ต้องขับต้องไล่ไสหัว | ไม่รู้ตัวว่าโกรธาข้าโทษใหญ่ | ||
| ยั่งยืนว่ากลืนแก้วไว้ | ขับไล่ยิ่งกว่าเป็นกาลี | ||
| แค้นด้วยลูกเต้ามาเข้าท้อง | จองหองแอบพักตร์ศักดิ์ศรี | ||
| ต่อเป็นผู้ชายจะได้ดี | เสียทีเลี้ยงเปล่าไม่เข้ายา | ||
| จะใคร่หักคอใส่หม้อฝัง | แต่ยังแดงแดงไม่แข็งกล้า | ||
| ยังชั่วตัวตีนมันมีมา | คิดว่าหอยสังข์สิจังไร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | มืดกลุ้มคลุ้มคลั่งดังเพลิงไหม้ | ||
| เหม่อีจันทาชะล่าใจ | จะเกรงกลัวใครก็ไม่มี | ||
| จองหองพองขนเป็นพ้นนัก | เยื้องยักแยบคายใส่สี | ||
| เพราะเกิดลูกเต้าด้วยเท่านี้ | พาทีเกินตัวไม่กลัวตาย | ||
| เหมือนหนึ่งกิ่งก่าได้ทาทอง | ยกย่องหัวหูดูเฉิดฉาย | ||
| มึงประจานใครให้ได้อาย | แยบคายทบเทียบเปรียบมา | ||
| หัวจะปลิวไปไม่ทันรู้ | มึงดูถูกเล่นเป็นหนักหนา | ||
| ฉวยพระแสงพลันมิทันช้า | จันทาลุกวิ่งเป็นสิงคลี | ||
| พระฟาดฟันผิดติดทวาร | บ้างล้มลุกคลุกคลานทะยานหนี | ||
| มึงอย่าเข้ามาพันอีจันที | พระบุตรีฉวยฉุดยุดกร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาหนีองค์พระทรงศร | ||
| เข้าห้องโศกาอาวรณ์ | ทุกข์ร้อนอดสูแก่หมู่นาง | ||
| จึงเรียกสาวศรีที่สนิท | เจ้าคิดไว้เหมาะช่วยเสาะสาง | ||
| คนดีที่เจ้าว่าอย่าพราง | สู้เสียสินจ้างให้ล้างอาย | ||
| ไปหาพามาเวลาเย็น | อย่าให้ใครเห็นเงื่อนสาย | ||
| หยูกยาเสร็จสรรพสำหรับกาย | เบี่ยงบ่ายเล็ดลอดดอดมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สาวใช้ว่องไวใจกล้า | ||
| กำชับรับคำแล้วอำลา | เที่ยวเสาะสืบมาก็พบพาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ถึงเรือนยายเฒ่าก็เข้าไป | พูดจาปราศรัยด้วยอ่อนหวาน | ||
| เที่ยวเสาะสืบมาช้านาน | บุญหลานจึงพบประสบยาย | ||
| เอาลาภมาให้ใหญ่หลวง | จะล่อลวงว่านั้นอย่าหมาย | ||
| แล้วค่อยงุบงิบกระซิบยาย | แต่ต้นจนปลายทุกสิ่งอัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฝ่ายว่ายายเฒ่าสุเมธา | ฟังสาวศรีว่าเกษมสันต์ | ||
| เต็มใจเห็นจะได้รางวัล | จึงว่าไปพลันทันใด | ||
| เจ้าหวังตั้งใจออกมาหา | จะหาญหักผลักหน้ากระไรได้ | ||
| ตามรู้ตามเห็นจะเป็นไร | พอแก้ไขได้อย่าปรารมภ์ | ||
| ว่าพลางทางผลัดผ้านุ่ง | หยิบถุงย่ามยากับผ้าห่ม | ||
| ออกจากประตูแล้วดูลม | เห็นสมดังใจแล้วไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงซึ่งราชวังใน | สาวใช้พายายเข้ามาหา | ||
| โปร่งปลอดกำนัลกัลยา | ก้มเกล้าวันทาเทวี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทามเหสี | ||
| ปราศรัยด้วยยายยินดี | มานั่งถึงนี่อย่าก้มคลาน | ||
| ข้าเห็นหน้ายายค่อยหายไข้ | ยินดีมีใจเกษมศานต์ | ||
| จงช่วยให้เสร็จสำเร็จการ | ยายเมตตาหลานจะแทนคุณ | ||
| เงินทองจะกองให้ยายเฒ่า | ขวัญข้าวค่ายามิให้สูญ | ||
| หยูกยาหามาพร้อมมูล | จะพูนราคาค่ายายาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สุเมธาแย้มยิ้มกระหยิ่มหมาย | ||
| เรียนตอบนอบนบอภิปราย | ตกพนักงานยายอย่าปรารมภ์ | ||
| จะให้สมดั่งจิตคิดปอง | ให้พระทองมาอยู่สู่สม | ||
| ด้วยฤทธิ์วิทยาอาคม | เอาให้หลงงมซมไป | ||
| เห็นชั่วดีกันในวันนี้ | แม้นมิลงมาสัญญาได้ | ||
| ขวัญข้าวค่ายาจะว่าไป | ทิ้งลูกเสียได้เมื่อไรมี | ||
| เวลาก็ควรจวนเย็น | จะทำให้แม่เห็นเป็นถ้วนถี่ | ||
| แก้ย่ามยาพลันทันที | หัวผีโหงพรายที่เอามา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| เชิญ | |||
| ๏ ว่าแล้วจุดเทียนเข้าติดพาน | โหงพรายลนลานหาญกล้า | ||
| ปลุกเสกด้วยฤทธิ์วิทยา | มิช้าลุกขึ้นทั้งโหงพราย | ||
| ยายเฒ่าจึงลนเอาน้ำมัน | ต่อหน้านางจันท์น่าขวัญหาย | ||
| ขี้ผึ้งปิดปากผีพราย | ปั้นเป็นรูปกายพระภูมี | ||
| กับนางจันทาให้กอดกัน | แล้วผูกพันไปด้วยด้ายผี | ||
| เอาใส่ใต้ที่นอนนางเทวี | น้ำมันผีเสกใส่ในเครื่องทา | ||
| ลงชื่อใส่ไส้เทียนตาม | สองยามให้หลงลงมาหา | ||
| เสกหมากพลูไว้ให้มิได้ช้า | มิมาอย่านับข้าสืบไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วบอกมนตรามหาละลวย | เป่าให้งวยงงหลงใหล | ||
| เพ็ดทูลเชื่อฟังดังใจ | ว่าไรเห็นจริงทุกสิ่งอัน | ||
| เชิญแม่สระสรงทรงทา | ตัวข้าจะลาผายผัน | ||
| เก็บหัวโหงพรายใส่ย่ามพลัน | ลานางจอมขวัญไปทันที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทามารศรี | ||
| สุริยนสนธยาราตรี | เข้าที่สระสางสำอางองค์ | ||
| ตกแต่งทาแป้งน้ำมันยาย | เฉิดฉายผิวผ่องละอองผง | ||
| หอมฟุ้งรุ่งเรืองด้วยเครื่องทรง | ผุดผาดประหลาดองค์แต่ก่อนมา | ||
| แล้วจุดเทียนชัยเข้าในที่ | ชุลีกรวอนไหว้ทั้งซ้ายขวา | ||
| ทรามวัยมิได้นิทรา | วิญญาณ์ผูกพันมั่นใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวดลหม่นหมองไม่ผ่องใส | ||
| คุณยาอาคมระดมใจ | ร้อนรนพระทัยดังไฟลาม | ||
| อยู่ในไสยาสน์อาสน์อ่อน | ดังนอนที่ฟากขวากหนาม | ||
| ลุกขึ้นนั่งฟังฆ้องได้สองยาม | ลมชวยรวยตามพระบัญชร | ||
| หอมแป้งน้ำมันของจันทา | ยิ่งกว่ากลิ่นทิพเกสร | ||
| อบอาบซาบใจขจายจร | อาวรณ์ใฝ่ฝันถึงจันทา | ||
| ขับไล่ด่าทอไม่พอที่ | กูนี้ได้คิดผิดหนักหนา | ||
| เสงี่ยมหงิมจิ้มลิ้มทั้งกายา | จะหาเปรียบแก้วตาไม่มีเลย | ||
| อีจันท์เทวีนี้ชั่วชาติ | หลงคิดพิศวาสนะอกเอ๋ย | ||
| จันทาหน้านวลเจ้าควรเชย | ควรร่วมเขนยเสวยวัง | ||
| ทั้งจริตกิริยามารยาท | สมชาตินางในข้างฝ่ายหลัง | ||
| งามปลอดยอดฟ้าสง่าวัง | ควรกูจะตั้งแต่งนาง | ||
| พุ่มพวงดวงเนตรจะน้อยใจ | มิไปง้อน้องจะหมองหมาง | ||
| เสน่หาประหวัดกำหนัดนาง | เงียบปรางค์ย่างย่องมองมา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นถึงแลเห็นแสงไฟ | แอบแฝงองค์ไว้ไม่กังขา | ||
| เกาะเกาะค่อยเคาะทวารา | แก้วตาเปิดรับพี่ฉับไว | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางจันทาอัชฌาสัย | ||
| ฟังดูรู้แจ้งไม่แคลงใจ | เชื่อในคุณฤทธิ์วิทยา | ||
| ดับเทียนเสียพลันมิทันนาน | ชื่นบานสมมาดปรารถนา | ||
| ทำแกล้งแต่งกลมารยา | ย่อมมาค่อยชักสลักกลอน | ||
| แล้วกลับเข้าไปในแท่นที่ | ข้างพระบุตรีศรีสมร | ||
| ค่อยค่อยวางองค์ลงนอน | นิ่งซ่อนกายอยู่จะดูที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ น้องเอยน้องแก้ว | หลับแล้วหรือโกรธโทษพี่ | ||
| งามพริ้งนิ่งได้ไม่พาที | เมื่อกี้แจ่มแจ้งเห็นแสงไฟ | ||
| ว่าพลางทางผลักทวารา | เปิดเปล่าเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| เยื้องย่องจรลีด้วยดีใจ | ห้องในมืดล้นพ้นประมาณ | ||
| ถึงเตียงค่อยนั่งลงข้างองค์ | พบลูกโฉมยงยอดสงสาร | ||
| แล้วคว้าคลำซ้ำปะเยาวมาลย์ | สั่นองค์นงคราญไม่ฟื้นกาย | ||
| ค่อยค่อยกระซิบเจรจา | ลุกขึ้นเถิดพี่มาหาโฉมฉาย | ||
| จงดับความโศกสร้อยค่อยคลาย | นางแกล้งแฝงกายไม่ฟื้นองค์ | ||
| ค่อยยกลูกแยกเข้าแทรกกลาง | พระพลางป่วนจิตพิศวง | ||
| ไล้ลูบจูบน้องประคององค์ | โฉมยงของพี่อย่าขี้เซา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบุตรีภูมีโฉมเฉลา | ||
| ผวาตื่นฟื้นองค์นงเยาว์ | คว้าเอาบิดาว่ามารดร | ||
| คลำหาพระเต้าเจ้าจะกิน | ผิดกลิ่นตกใจร้องไห้อ้อน | ||
| ใครนี่แม่ขาเข้ามานอน | แทรกซ้อนซ่อนแม่ข้าไว้ใย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายนางจันทาอายจิต | เปลื้องปลิดกรทิ้งไม่นิ่งได้ | ||
| ค่อยลัดหลีกองค์พระทรงชัย | กอดลูกปลอยให้เสวยนม | ||
| อดสูสาวสรรค์กัลยา | กล่าวแกล้งแสร้งว่าไม่เห็นสม | ||
| ขวัญอ่อนนอนเถิดอย่าเตรียมตรม | เจ้าปรารมภ์ด้วยแม่เมื่อกลางวัน | ||
| ท่านจะสังหารผลาญชีวิต | หวาดจิตละเมอเพ้อฝัน | ||
| แมวคราวไต่ราวมาเป็นพัน | กลัวมันกินตับจงหลับไป | ||
| หลอนพลางทางยกเอาลูกน้อย | ถดถอยออกมาหาช้าไม่ | ||
| เรียกสั่งสาวศรีที่ร่วมใจ | เอาไปแกว่งไกวให้หลับนอน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ภูวไนยมีใจสโมสร | ||
| ด้วยคุณฤทธิ์วิทยาให้อาวรณ์ | ง้องอนเดินตามนางงามมา | ||
| คว้าไปไม่พบประสบน้อง | ร่วมห้องเจ้าแกล้งแฝงฝา | ||
| โลมลูบรับขวัญกัลยา | แก้วตาอย่าละห้อยน้อยใจ | ||
| ผัวผิดจึงตามมาง้องอน | จะตัดรอนโกรธขึ้นไปถึงไหน | ||
| รู้ตัวชั่วแล้วแก้วกลอยใจ | โมโหมืดไปไม่ทันคิด | ||
| จึงบุกลงมาสารภาพ | ให้หายบาปหายกรรมที่ทำผิด | ||
| มาไปบรรทมชมชิด | จะม้วนมิดซ่อนพี่อยู่นี่ไย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ผ่านเอยผ่านเกล้า | จะมาเฝ้าเย้ายวนหาควรไม่ | ||
| ทรพลคนชั่วกลัวภัย | จึงไม่อาจใจอยู่ใกล้องค์ | ||
| ศักดิ์ต่ำแล้วซ้ำเป็นคนโทษ | มีโปรดโกรธกริ้วจะผุยผง | ||
| หนีทันชีวันจึงคืนคง | หาไม่กลิ้งลงกับกลางดิน | ||
| ลูกน้อยจะพลอยเป็นกำพร้า | น้ำตาก็จะไหลเป็นสายสินธุ์ | ||
| หากปลอดทอดอยู่จึงภูมินทร์ | ดัดแปลงแต่งลิ้นมาเจรจา | ||
| ถึงว่าจะตายก็ไม่คิด | เจ็บช้ำน้ำจิตที่ร่ำด่า | ||
| อายคนเป็นพ้นคณนา | เสด็จมาพระเดชพระคุณนัก | ||
| จนใจจะให้ไปร่วมเรียง | นั่งเตียงเคียงชมไม่สมศักดิ์ | ||
| จะอยู่ตามอำเภอเสมอพักตร์ | พระองค์ทรงศักดิ์จงโปรดปราน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้โลม | |||
| ๏ ดวงเอยดวงสมร | สมนามงามงอนอ่อนหวาน | ||
| ตัดพ้อล้อเล่นเป็นประมาณ | เผ็ดร้อนอ่อนหวานระคนกัน | ||
| จนจิตด้วยผิดเป็นล้นเหลือ | จะนอนให้เจ้าเถือจนเนื้อสั่น | ||
| งามชื่นจะขืนมารำพัน | คุ้มโทษทัณฑ์อยู่ไม่รู้แล้ว | ||
| ว่าพลางตะโบมโลมลูบ | จับจูบพุ่มพวงดวงแก้ว | ||
| พี่จะให้ประเสริฐเพริศแพร้ว | น้องแก้วแววตาอย่าเกียจกล | ||
| กรกอดสอดอุ้มขึ้นแท่นที่ | ฤดีเตือนเต้นไม่เห็นหน | ||
| สมสนิทจิตปองทั้งสองคน | ที่ทุกข์ทนโพยภัยก็หายกัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โลม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาดังได้ไอศวรรย์ | ||
| คุณยาอาคมระดมกัน | รุ่งแจ้งแสงฉันทันใด | ||
| สระสรงสำเร็จเสร็จแล้ว | นางแก้วหยิบหมากที่ยายให้ | ||
| ถวายแก่พระองค์ทรงชัย | ภูวไนยเสวยชมเชยนาง | ||
| พระองค์งงงวยด้วยมารยา | จันทาแนบชิดสนิทข้าง | ||
| ร่ายมนต์ยายเฒ่าเป่าพลาง | ได้ทางทูลแอบด้วยแยบคาย | ||
| ทุกวันนางจันท์เทวี | บัดนี้ลือหลากมามากหลาย | ||
| อยู่ป่าผาสุกสนุกสบาย | ฉวยได้ลูกชายที่ไหนมา | ||
| พันผูกว่าลูกของภูธร | ราษฎรนับถือระบือว่า | ||
| ให้อับอายขายบาทบาทา | หอยที่ชั่วช้าว่าเป็นคน | ||
| แม้นมิสังหารผลาญเสีย | นานไปเมียเห็นไม่เป็นผล | ||
| มันเสี้ยนพาราจลาจล | นานไปใหญ่ตนจะปล้นเมือง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังสาร | ภูบาลผ่านกรุงฟุ้งเฟื่อง | ||
| เศร้าหมองต้องคุณจึงขุ่นเคือง | ฟังเรื่องเห็นจริงทุกสิ่งไป | ||
| หอยหรือจะรื้อมาเป็นคน | เล่ห์กลมันแกล้งแต่งใส่ | ||
| พี่รู้เพราะเจ้าจึงเข้าใจ | เสียแรงรักใคร่อาลัยมัน | ||
| ชะรอยได้ลูกชู้สู่หา | ไม่กลัวชีวาจะอาสัญ | ||
| เอาแต่ลูกยามาฆ่าฟัน | แต่แม่มันงดไว้ให้ได้ความ | ||
| เจ้าจงเป็นเอกมเหสี | แต่นี้สืบไปพี่ไม่ห้าม | ||
| ให้แก่โฉมยงนงราม | ว่ากล่าวเอาตามอำเภอใจ | ||
| จูบพลางทงลุกไคลคลา | พักตรามัวคล้ำดำไหม้ | ||
| ออกนั่งยังท้องพระโรงชัย | พรั่งพร้อมล้อมไปด้วยเสนี | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงมีโอกาสประภาษสั่ง | แก่ตำรวจวังทั้งสี่ | ||
| จงเร่งไปป่าพนาลี | ที่จันท์เทวีมันอยู่กิน | ||
| จับเอาลูกยาไปฆ่าฟัน | ใครอย่าเกียดกันผันผิน | ||
| ว่าเป็นลูกกูดูหมิ่น | ผิดเภทแผ่นดินแต่ก่อนมา | ||
| หอยกลายเป็นคนฉงนใจ | ที่ไหนมีบ้างมันช่างว่า | ||
| แม้นมิย่อยยับอย่ากลับมา | ตามแต่จะฆ่าให้วายปราณ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาได้ฟังรับสั่งสาร | ||
| ลูบอกตกใจลนลาน | บังคมก้มกรานคลานออกมา | ||
| ไม่เห็นว่าจะเป็นประการใด | ตกใจชวนชักพยักหน้า | ||
| พาบ่าวเข้าในพนาวา | เสาะหามาบ้านนางเทวี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงซึ่งบ้านตายาย | วางรายคนไว้มิให้หนี | ||
| ซ่อนเร้นแลเห็นนางเทวี | เสนีรู้จักไม่ทักทาย | ||
| ซูบผอมผ้าผ่อนก็ปะปุ | ขาดทะลุปรุโปร่งน่าใจหาย | ||
| ชะแง้แลเห็นพระลูกชาย | ก็มาดหมายสำคัญสัญญา | ||
| เพ่งพิศพินิจดูรูปทรง | เหมือนองค์ทรงศักดิ์หนักหนา | ||
| ลูกท่านมั่นคงไม่สงกา | เราจะออกปากว่าก็จนใจ | ||
| หยอกเย้าเคล้าอยู่กับมารดา | วิงวอนเจรจาปราศัย | ||
| น่ารักปากคอเป็นพ้นไป | จะคิดอย่างไรไฉนดี | ||
| สงสารมารดาจะเกลือกกลิ้ง | เรานิ่งให้ไปเสียไพรศรี | ||
| คิดพร้อมยอมกันทันที | เสนีลัดแลงแผงกาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | มเหสีมีกรรมระส่ำระสาย | ||
| หาสู่ลูกเต้าทุกเพรางาย | เมื่อวันอันตรายมาถึงตัว | ||
| จูบสั่งลูกแก้วแววไว | อยู่ดูกาไก่พ่อทูนหัว | ||
| เสือแผ้วแมวคราวจะเอาตัว | นอกรั้วกลัวมันอย่าออกไป | ||
| ปั้นวัวควายเล่นแต่ในร่ม | ถูกต้องแดดลมจะล้มไข้ | ||
| ลูกเอ๋ยมีกรรมก็จำไป | เงินเฟื้องเบี้ยไพก็ไม่มี | ||
| ว่าพลางทางจับสาแหรกคาน | จากบ้านเข้าสู่ไพรศรี | ||
| พุพองสองเท้าไม่มีดี | มเหสีเกียกกายชังตายไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีผู้มีอัชฌาสัย | ||
| เห็นนางกัลยาเจ้าคลาไคล | ทำเดินเข้าไปแต่ผู้เดียว | ||
| ยืนมองร้องเรียกกุมารา | ออกมาหาน้าสักประเดี๋ยว | ||
| เจ้านั่งเล่นอยู่แต่ผู้เดียว | ปั้นวัวควายเปลี่ยวไม่แงะงาม | ||
| น้าเอามาฝากเป็นหนักหนา | ตุ๊กตาม้าไก่อยู่ในย่าม | ||
| แต่ล้วนดีดีงามงาม | ในย่ามดีกว่าของเจ้าทำ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | พระสังข์หลงกลคนขำ | ||
| ดีใจไว้เนื้อเชื่อคำ | ผลกรรมจะจากพระมารดา | ||
| สำคัญว่าจริงไม่กริ่งใจ | หน่อไทไม่รู้ว่าหลอกหลอน | ||
| เสนีพยักหน้ากวักกร | บังอรมิได้กลัวเกรง | ||
| จริงจริงหรือขาน้าจะให้ | รูปร่างอย่างไรว่าเหมาะเหม็ง | ||
| ลุกวิ่งทิ้งของของเอ็ง | เหมาะเหม็งอย่างไรจะใคร่แล | ||
| อยู่ไหนจะให้ก็ใส่มือ | น้ารู้จักหรือกับพระแม่ | ||
| ต่อเย็นจึงมาหาแก | นี่มาแต่ตำบลหนใด | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสนาเห็นงงงวยก็ฉวยมือ | วิ่งฮิ่อกันมาหาช้าไป | ||
| พระสังข์ตระหนกตกใจ | ร้องไห้เรียกหาตายาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ตาร้องด่าพลันมิทันรู้ | ใครทำหลานกูไอ้ฉิบหาย | ||
| วิ่งพันกันมาทั้งตายาย | เห็นเขาวุ่นวายก็ตกใจ | ||
| ระรัวตัวสั่นดังตีปลา | กลับวิ่งหนีมาหาช้าไม่ | ||
| ปากตัวกูชั่งเป็นพ้นไป | ด่าให้หากเขามิได้ยิน | ||
| เสนาท่านมาแต่ในเมือง | ราวเรื่องเขารู้อยู่สิ้น | ||
| เรามาเลี้ยงดูให้อยู่กิน | สืบสาวเอาสิ้นจะถึงใคร | ||
| เข้าในใต้ร้านฟักทอง | ตาลอดลอดมองแล้วร้องไห้ | ||
| สงสารหลานน้อยกลอยใจ | ค่อยค่อยร่ำไรมิให้ดัง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์กุมารน้อยหอยสังข์ | ||
| จะร้องไห้เท่าไรเขาไม่ฟัง | อีกทั้งตายายก็หายไป | ||
| แม่เจ้าประคุณของลูกยา | เมื่อไรจะมาแต่ป่าใหญ่ | ||
| พวกเผ่าเหล่าโลนโจรไพร | จับลูกทำไมไม่รู้เลย | ||
| ข้ามีแต่ผักฟักแฟง | เอาไปแกงกินบ้างเถิดน้าเอ๋ย | ||
| เงินทองของดีไม่มีเลย | ลุงตาน้าเอ๋ยได้เอ็นดู | ||
| แม่ข้ายากจนเป็นพ้นนัก | มีแต่ฟืนผักอักโขอยู่ | ||
| พลัดบ้านเมืองมาน้าก็รู้ | เอ็นดูบาปกรรมอย่าทำเรา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เสนีเดินหน้าน้ำตาไหล | สุดใจปากคอแล้วพ่อเจ้า | ||
| น้าใช่พวกไพรใจเบา | ข้าเฝ้าเจ้านายท่านใช้มา | ||
| ให้พาตัวเจ้าเข้าไป | พ่ออย่าร้องไห้ฟังน้าว่า | ||
| ปลอบพลางทางอุ้มกุมารา | ขึ้นใส่บนบ่าแล้วพาไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นมาถึงวัดท้ายเมือง | ลือเลื่องบกเรือเหนือใต้ | ||
| หยุดพักสำนักที่ต้นไทร | เอาใจปลอบโยนกุมารา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายฝูงหญิงชายประชาชน | เกลื่อนกล่นพรั่งพรูมาดูหน้า | ||
| งุบงิบซุบซิบกันเจรจา | ว่าเหมือนผ่านฟ้าเป็นพ้นไป | ||
| กำเนิดเกิดเป็นเช่นี้ | มิควรที่พระองค์จะสงสัย | ||
| แต่เรารู้แจ้งไม่แคลงใจ | ดูไหนไม่ผิดพระบิดา | ||
| สงสารเวทนาน่ารัก | ยังเด็กเล็กนักหนักหนา | ||
| บ้างให้กล้วยอ้อยน้อยหน่า | ข้าวปลาขนมนมเนย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฝ่ายพระกุมารชาญชัย | รับของมาไว้ไม่เสวย | ||
| น้ำตาหลั่งไหลไม่เสบย | น้าเอ๋ยข้าคิดถึงมารดร | ||
| ขนมท่านให้ยังไม่กิน | กลับบ้านถิ่นของข้าก่อน | ||
| จะได้แบ่งปันให้มารดร | อ้อนวอนเสนาให้พาไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เสเอยเสนา | ฟังถ้อยคำว่าน้ำตาไหล | ||
| ปลอบว่าพ่ออย่าร่ำไร | เย็นหน่อยค่อยไปพนาวา | ||
| หาองค์สมเด็จพระมารดร | หลับนอนเสียงบ้างฟังข้าว่า | ||
| หาไม่ก็ไม่ไคลคลา | ถ้าแม้นนิทราจะพาไป | ||
| ว่าพลางทางปูผ้าผ่อน | ขับต้อนคนผู้ไม่อยู่ใกล้ | ||
| ล่อลวงหลอกหลอนให้นอนไป | หมายใจเสนาจะฆ่าตี | ||
| อาเพศด้วยเดชกุมารา | เทวารักษาพระไทรศรี | ||
| ออกช่วยป้องกันทันที | เมื่อเสนีมันทุบด้วยท่อนจันทน์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ พระสังข์ตกใจตื่นฟื้นผวา | กึกก้องร้องจ้าไม่อาสัญ | ||
| น้าทำไมนี่มาตีรัน | ขึ้งโกรธโทษทัณฑ์ด้วยอันใด | ||
| แม่เจ้าประคุณของลูกยา | จะติดตามลูกมาก็หาไม่ | ||
| ลูกรักจักม้วยบรรลัย | โจรไพรไปลวงมาฆ่าตี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาน้ำตาไหลรี่ | ||
| เหตุไรไม่ม้วยชีวี | เสนีกลัวราชอาชญา | ||
| บอกว่าตัวน้าไม่ชิงชัง | รับสั่งให้ลงโทษา | ||
| เป็นผลกรรมพ่อทำมา | อย่าเป็นเวรากับข้าไป | ||
| ว่าพลางทางถอดหอกดาบเมียง | เดินเคียงเข้ามาหาช้าไม่ | ||
| พระสังข์ตระหนกตกใจ | ร้องไห้เกลือกกลิ้งวิงวอน | ||
| เสนาขืนทำด้วยจำเป็น | หอกหักกระเด็นเป็นสองท่อง | ||
| ดาบบิ่นสิ้นคมระทมบอน | มิได้ม้วยมรณ์เร่งสงกา | ||
| เหตุไรมาเป็นเช่นนี้ | เสนีตริตรึกแล้วปรึกษา | ||
| ของดีจะมีในกายา | ฟันฆ่าอย่างไรจึงไม่ตาย | ||
| เห็นวิปริตผิดประหลาด | รับสั่งให้พิฆาตมาดหมาย | ||
| ตามแต่จะฆ่าให้วอดวาย | มิตายไม่พ้นพระอาญา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เสนีคิดพร้อมยอมกัน | เบิกช้างน้ำมันตัวกล้า | ||
| แก้ปลอกกรอกเหล้าแล้วเอามา | มิช้าก็ไสให้ทิ่มแทง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ช้างร้องระรัวตัวสั่น | งาดันปักดินดิ้นแหยง | ||
| ควาญไสเท่าไรก็ไม่แทง | ยิ่งคิดยิ่งแหนงแคลงใจ | ||
| วิปริตผิดกาลกิณี | ของดีจะมีก็หาไม่ | ||
| บุญญาธิการชาญชัย | จึงทำอย่างไรไม่ม้วยมรณ์ | ||
| จำเราจะเข้าไปทูลแถลง | ให้แจ้งแห่งน้ำพระทัยก่อน | ||
| เอาช้างส่งยังโรงกุญชร | ผันผ่อนเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงจึงเห็นพระผ่านฟ้า | กับนางจันทาพิสมัย | ||
| ออกนั่งยังหน้าบัญชรชัย | เข้าไปบังคมคัลทันที | ||
| จึงทูลสมเด็จภูวนาถ | ขอพระบาทจงโปรดเกศี | ||
| ซึ่งใช้ให้ไปป่าพนาลี | บัดนี้ก็จับได้ตัวมา | ||
| ทำตามรับสั่งให้สังหาร | กุมารชาญชัยไม่สังขาร์ | ||
| หลากจิตผิดคนทั้งโลกา | สาตราอาวุธก็หักไป | ||
| จึงเอาช้างร้ายเข้าให้แทง | งาปักดินแหยงไม่แทงได้ | ||
| บัดนี้ชุมนุมคุมตัวไว้ | ภูวไนยจงทราบบาทบงสุ์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังเอยฟังเหตุ | บิตุเรศรำพึงตะลึงหลง | ||
| หลากจิตผิดใจให้งวยงง | เร่งคิดพิศวงสงกา | ||
| อัศจรรย์ต้องกันกับหอยปู | ลูกกูจริงจังกระมังหนา | ||
| วิปริตผิดคนในโลกา | เป็นมาแต่ต้นจนปลาย | ||
| เสนาเอ็งว่าให้มั่นคง | เราสงสัยอยู่ไม่รู้หาย | ||
| เมื่อพบประสบลูกชาย | มีใครใกล้กรายกุมารา | ||
| รินเรียงเคียงบ้านมารดร | หลับนอนกินอยู่สู่หา | ||
| รูปทรงส่งศรีกิริยา | กุมาราประมาณสักปานใคร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาทูลแจ้งแถลงไข | ||
| เมื่อพบโฉมงามทรามวัย | ที่ในบ้านไร่ไพรวัน | ||
| มีเรือนตาเฒ่ายายแก่ | แคร่ริมชายคาฝากั้น | ||
| กระท่อมของเจ้าสักเท่านั้น | เห็นแต่จอมขวัญกับลูกยา | ||
| ไม่มีผู้ใดมาใกล้กราย | อยู่จนโฉมฉายออกไปป่า | ||
| จึงเข้าจับกุมกุมารา | ร้องอ้อนวอนว่าน่าปรานี | ||
| เรียกหาตาเฒ่าเจ้าเรือน | ต่างคนต่างเชือนเอาตัวหนี | ||
| เด็กนักสักห้าหกปี | เหมือนพระภูมีดังพิมพ์เดียว | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังทูล | พระอาดูรในจิตคิดเฉลียว | ||
| แน่แล้วลูกแก้วพ่อคนเดียว | จึงเหลียวถามพลันกับจันทา | ||
| น้องรักเจ้าจะเห็นเป็นไฉน | พี่จะให้ไปรับโอรสา | ||
| กับนางนงเยาว์เจ้าเข้ามา | สิ้นเคราะห์พาราที่กาลี | ||
| โหราดูว่าเป็นมนุษย์ | จะสูงสุดเฟื่องฟุ้งทั้งกรุงศรี | ||
| ลูกข้าบุญญาบารมี | ล้างผลาญชีวีจึงไม่ตาย | ||
| แล้วตรัสสั่งเสนาพฤฒามาตย์ | เอ็งเร่งประกาศบาตรหมาย | ||
| รับนางกัลยาที่ตายาย | กับลูกชายของเราให้เข้ามา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาทูลทัดขัดว่า | ||
| เป่ามนต์จนสิ้นตำรา | ร้องห้ามเสนาอย่าเพ่อไป | ||
| พระองค์หลงรับมันมาเถิด | จะก่อเกิดความเข็ญหาเห็นไม่ | ||
| แต่เป็นหอยสังข์ยังจัญไร | กลับเป็นคนไปอย่าชื่นชม | ||
| มิใช่มนุษย์แต่ผลุดมา | ว่ามีบุญญาไม่เห็นสม | ||
| มันจะให้บ้านเมืองเคืองระทม | ด้วยผิดบูรมบูราณไป | ||
| ฆ่าฟันมันจึงไม่ปลดปลง | จะมาล้างพระองค์ให้จงได้ | ||
| แม้นทอดทิ้งลงคงคาลัย | มีบุญจริงไซร้คงไม่ตาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเอยฟังความ | ครั่นคร้ามขามจิตคิดหมาย | ||
| จริงแล้วเมียแก้วเจ้าทักทาย | เสนาทั้งหลายอย่าไปเลย | ||
| มันคือตัวการมาผลาญกู | จริงอยู่เขาว่าเสนาเอ๋ย | ||
| เราหลงไหลไปกระไรเลย | หากนางทรามเชยเจ้าตักเตือน | ||
| เนื้อเย็นควรเป็นมเหสี | ปัญญาพาทีไม่มีเหมือน | ||
| เสนาดูแลอย่าแชเชือน | ตักเตือนจองจำให้มั่นคง | ||
| พรุ่งนี้แกกูจะดูไป | บุญมันฉันใดไม่ผุยผง | ||
| ว่าพลางทางชวนนางโฉมยง | สององค์คืนเข้าปราสาทชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์มารดาอยู่ป่าใหญ่ | ||
| เขม่นเนตรเหตุมีไม่แจ้งใจ | เก็บได้ผักฟืนก็คืนมา | ||
| หาบเดินดำเนินมาตามทาง | นกกาลางบินลัดสกัดหน้า | ||
| เศียรพองสยองโลมา | ตรึกตราหวาดหวั่นพรั่นใจ | ||
| หาวนอนอ่านเศียรให้เวียนวัง | ยืนนิ่งพิงหลับกับไม้ใหญ่ | ||
| ฝันว่าขุนมารชาญชัย | ตัดเอาเกล้าไปไม่ปรานี | ||
| หาบหกตกผลุกสะดุ้งตื่น | นางฝืนองค์สั่นขวัญหนี | ||
| จิตผูกลูกแก้วแล้วโศกี | จับหาบตะลีตะลานมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ถึงเรือนเรียกลูกด้วยผูกพัน | ยังมิทันปลงหาบลงจากบ่า | ||
| เจ้าไปไหนไม่ขานพระมารดา | ส้มสูกลูกหว้าพ่อมาเอา | ||
| ทิ้งหาบวาบใจเข้าในทับ | งามสรรพเปิดห้องมองเปล่า | ||
| ดังใครมาแขวะแคะเอา | ล้วงดวงใจเจ้าไปจากองค์ | ||
| ทูนหัวของแม่หายไปไหน | หลากใจให้คิดพิศวง | ||
| ปั้นวัวควายเล่นอยู่เป็นวง | หรือพ่อลงเรือนไปแห่งไร่นา | ||
| ขวายขวนชลนัยน์เจ้าฟูมฟอง | แลเหลียวเที่ยวมองร้องหา | ||
| เต้เคร่งเต่งทรวงของมารดา | กินนมแม่ราพ่อยาใจ | ||
| ใต้ต้นสะดือลมอื้อเย็น | ลูกเอ๋ยเคยเล่นหาเห็นไม่ | ||
| ผีเสื้อเสือสางที่กลางไพร | เอาลูกข้าไปหรือไรนา | ||
| วู่วามมาถามตายาย | หลานชายไปไหนไม่เห็นหน้า | ||
| หาจบไม่พบพระลูกยา | อยู่ที่ยายตาหรือว่าไร | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สองเฒ่าเล่าพลางร้องไห้ | ||
| แม่อย่าค้นคว้าหาไป | สุดใจยายตาจะป้องกัน | ||
| เสนาท่านมาแต่ในกรุง | แย่งยุ่งอลหม่านพระหลานขวัญ | ||
| ใส่บ่าพาไปแต่กลางวัน | ไม่รู้ว่าโทษทัณฑ์ประการใด | ||
| เห็นทีจะมีรับสั่ง | เมียผัวกลัวดังจะตักษัย | ||
| มุดนอนซ่อนดูอยู่แต่ไกล | ดังจะขาดใจม้วยด้วยหลานยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ยิน | ล้มผางกลางดินไม่เงยหน้า | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าโศกา | กัลยากลิ้งเกลือกเสือกองค์ | ||
| แน่ไปไม่ได้สมประดี | เกศีติดต้องละอองผง | ||
| ตายายนวดฟื้นคืนคง | โฉมยงจับมีดกรีดคอ | ||
| ตาฉวยยายชิงทิ้งขว้าง | นางง้างเถาวัลย์จะพันศอ | ||
| สองเฒ่าเข้าปล้ำน้ำตาคลอ | แก้จากคอนางพลางร่ำไร | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ นางทุ่มทอดกายสยายเกศ | ชลเนตรแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| พ่อคุณทูนหัวแม่หนักใจ | อัศจรรย์หวั่นไหวแต่ในดง | ||
| แม่รีบมาไม่เห็นหน้าเจ้า | ดังใครตัดเกล้าให้ผุยผง | ||
| ลูกแก้วไม่แคล้วจะปลดปลง | มั่นคงทั้งนี้อีจันทา | ||
| แม่ไม่ขออยู่จะสู้ม้วย | จะตายตามไปด้วยพระลูกข้า | ||
| ครวญคร๋ำทางร่ำพรรณนา | โศกาแน่นิ่งไม่ติงกาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์กัลยาโฉมฉาย | ||
| คิดพลางทางผลุนวุ่นวาย | ตายายห้ามไว้ก็ไม่ฟัง | ||
| ค่ำมืดดึกดื่นก็ตามที | ตายเป็นเห็นผีพ่อหอยสังข์ | ||
| วิ่งหนีตายายเข้าในวัง | คลุ้มคลั่งพระทัยร้องไห้มา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ สิบห้าวันกันดารฝูงคน | เทพย่นหนทางที่กลางป่า | ||
| คืนหนึ่งมาถึงพระพารา | แฝงฟังกิจจาพระลูกชาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฤาสาย | ||
| ไสยาสน์เหนืออาสน์พรรณราย | ไม่วายคำนึงถึงลูกยา | ||
| หรือจะเป็นหน่อเนื้อเชื้อไข | จึงล้างผลาญอย่างไรไม่สังขาร์ | ||
| วิปริตผิดคนในโลกา | บุญญาธิการชาญชัย | ||
| จำกูจะดูกุมารา | รูปร่างหน้าตาเป็นไฉน | ||
| พระมิได้บรรทมภิรมย์ใน | จนรุ่งแจ้งแสงใสพรายพรรณ | ||
| เข้าที่ชำระสระสรง | สำอางค์องค์ทรงเครื่องแล้วผายผัน | ||
| เสด็จออกยังท้องพระโรงคัล | จันทรเฉิดฉันก็ตามไป | ||
| จึงดำรัสตรัสแก่เสนี | เรานี้ยังพะวงสงสัย | ||
| กุมารารูปร่างนั้นอย่างไร | เสรีเร่งไปเอาตัวมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่ามหาเสนี | รับสั่งวางรี่ออกไปหา | ||
| เบิกพระกุมารพลันมิทันช้า | แล้วพามาเฝ้าองค์พระทรงชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลเป็นใหญ่ | ||
| ผาดเห็นลูกยาเข้ามาใน | ท้าวไทพิศเพ่งเล็งแล | ||
| ทรวดทรงส่งศรีนรลักษณ์ | พิศพักตร์ผ่องช่วงดังดวงแข | ||
| แก้มเนตรเกศกรรณผันแปร | ดูละม้ายคล้ายแม่ที่ขับไป | ||
| ทั้งจริตกิริยามารยาท | เชื้อชาติผู้ดีไม่มีไพร่ | ||
| พระจึงดำรัสตรัสไป | เราไซร้ขอถามกุมารา | ||
| เดิมเหตุเภทพาลประการใด | เป็นไฉนจึงได้ไปอยู่ป่า | ||
| พ่อแม่ชื่อไรไฉนนา | ชันษาเจ้าได้สักกี่ปี | ||
| เราเห็นใช่ทรพลเป็นพ้นนัก | เห็นสมศักดิ์พักตราเป็นราศี | ||
| บอกพ่อเถิดราอย่าโศกี | เจ้านี้มีนามกรใด | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ไหว้พลางทางร้องไห้ | ||
| แม่ข้าอยู่ป่าพนาลัย | เก็บผักหักไม้ด้วยยากจน | ||
| แม่ข้าว่าพ่อเสวยวัง | เกิดมาข้ายังไม่เห็นหน | ||
| แม่ข้าคลอดมาประหลาดคน | หอยสังข์บังตนข้าออกมา | ||
| คนยุบิดาให้ขับไล่ | แม่ข้าพาไปอยู่ในป่า | ||
| อยู่หลังข้าออกจากสังข์มา | มารดาตีแตกให้แหลกไป | ||
| แม่ข้าชื่อจันท์เทวี | ข้านี้ชื่อสังข์ตามวิสัย | ||
| ด้วยความยากจนเป็นพ้นใจ | ข้านี้เขาไปจับเข้ามา | ||
| ลุงหรือเขาลือว่าเป็นเจ้า | ใช้เขาไปจับเอาตัวข้า | ||
| กริ้วโกรธโทษภัยไฉนนา | จำจองขื่อคาดังข้าไท | ||
| ลุงโปรดปล่อยข้าไปหาแม่ | ป่านนี้ตั้งแต่จะร้องไห้ | ||
| ใครจะช่วยหาหม้อก่อไฟ | เฝ้าทับขับไล่ไก่กา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้ฟัง | ชลเนตรไหลหลั่งทั้งซ้ายขวา | ||
| แน่แล้วลูกแก้วของพ่ออา | ให้ถอดลูกยาออกทันใด | ||
| รับมาใส่ตักแล้วชมเชย | ลูกเอ๋ยมาเป็นเช่นนี้ได้ | ||
| สงสารมารดามาแต่ไพร | ไม่เห็นจะไห้โศกี | ||
| จูบพักตร์ลูบพลางทางรับขวัญ | ทรงธรรม์ไม่วายกันแสงศรี | ||
| ลืมคำจันทาพาที | ภูมีพิศวาสเพียงขาดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาตัวเข็ญเป็นใหญ่ | ||
| เดือดฟุ้งพลุ่งพล่านทะยานใจ | เข้าใกล้แฝงหลังบังองค์ | ||
| ว่ายมนต์เป่าพลางทางทูลมา | อนิจจาผ่านฟ้านี้คนหลง | ||
| เหตุไรจึงให้งวยงง | หลงเชื่อฟังมันฉันใด | ||
| เพลิงกาฬจะมาผลาญพระบุรี | เพราะลูกคนนี้หรือมิใช่ | ||
| แม้นมิถ่วงลงคงคาลัย | ภูวไนยจะม้วยมรณา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังเมียแก้ว | จริงแล้วลืมเสียที่เจ้าว่า | ||
| เสื่อมสร่างวางองค์พระลูกยา | เหวยเหวยเสนาเอาตัวไป | ||
| ผูกมัดรัดถ่วงให้มรณา | จะงดใว้ช้านานไม่ได้ | ||
| เพลิงกาฬจะมาผลาญเอาเวียงชัย | เร่งไปบัดนี้อย่าได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศา | ||
| เคืองแค้นแสนสันนางจันทา | กระซิบด่าในใจใม่เว้นคน | ||
| พระทรงฤทธิ์ผิดกว่าแต่ก่อน | กลับกลอกยอกย้อนไม่เป็นผล | ||
| กลัวพระกาฬจะมาผลาญอยู่ลานลน | ต่างคนต่างพาเอาตัวไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่าสังข์ทองเจ้าร้องจ้า | น้าขาจะพาข้าไปไหน | ||
| ทุบตีฆ่าฟันหรือฉันใด | ข้าไหว้อย่าพาข้าไปเลย | ||
| ลุงเจ้าขาจงมาช่วยฉันด้วย | ลูกจะม้วยจริงแล้วพ่อคุณเอ๋ย | ||
| แม่ข้าไม่มาตามลูกเลย | ลุงตาน้าเอ๋ยไม่เห็นใคร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายว่าองค์พระบิตุเรศ | สังเวชไม่กลั้นกันแสงได้ | ||
| ตรัสสั่งมหาเสนาใน | อย่าพาไปเลยเจ้าเอากลับมา | ||
| จันทาทูลพลันทันที | ตรัสเล่นเช่นนี้ดีหนักหนา | ||
| แม้นมิถ่วงมันให้มรณา | ข้าจะกินยาตายไม่อยู่เลย | ||
| พระดำรัสตรัสสั่งเสนี | เอาไปเถิดสิเสนาเอ๋ย | ||
| เอาไว้กูไม่สบายเลย | กรรมเอ๋ยเวรใดได้ทำมา | ||
| ล้างผลาญอย่างไรก็ไม่ม้วย | กูจะไปดูด้วยเมื่อเข่นฆ่า | ||
| สั่งพลางชวนนางจันทา | เสนานำไปที่หน้าแพ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เสนาจูงมาผูกมัด | ฝูงคนแออัดอยู่เซ็งแซ่ | ||
| แล้วใส่นาวาไปหน้าแพ | ด้วยกระแสรับสั่งพระภูวไนย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โล้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางจันท์ชนนีศรีใส | ||
| ได้ข่าวลูกแก้วแววไว | ดังจะขาดใจตายด้วยลูกยา | ||
| สองกรข้อนทรวงเข้าผางผาง | ดังนางจะม้วยสังขาร์ | ||
| ผุดลุกหันหุนหมุนมา | ตรงไปยังท่าชลาลัย | ||
| บาทาแตกคุพุพอง | หนามต้องตามติดหาปลิดไม่ | ||
| ล้มลุกคลุกคลานทะยานไป | กลัวจะไม่เห็นองค์พระลูกยา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงเห็นองค์พระลูกแก้ว | ทอดองค์ลงแล้วก็โหยหา | ||
| เสือกสนบนฝั่งชลธาร์ | ไม่รู้ว่าจะทำประการใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายองค์พระสังข์กุมารน้อย | ตั้งแต่ละห้อยโหยไห้ | ||
| แลเห็นมารดามาแต่ไกล | ดีใจร้องเรียกพระมารดา | ||
| แม่คุณจงช่วยลูกด้วยที | เขาผูกมัดรัดตีแล้วทุบด่า | ||
| แล้วมิหนำซ้ำมัดรัดกรมา | มารดานิ่งได้ไม่ปรานี | ||
| เขาจะโยนลูกลงในคงคา | ไม่ช้าจะม้วยไปเป็นผี | ||
| แม่วานเขาส่งลงมาที | ชนนีนิ่งได้ไม่เอ็นดู | ||
| ลูกอยากขนมนมแม่ | น้าแก้ปล่อยให้ไปสักครู่ | ||
| เสนาน้ำตาลงไหลพรู | ที่พาลข่มขู่ด้วยกลัวภัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฟังลูกว่า | มารดาข้อนทรวงเข้าร้องไห้ | ||
| มิได้คิดชีวิตจะขาดใจ | จะโจนน้ำลงไปมิได้นาน | ||
| คนดูที่รู้จักองค์ | ยุดห้ามโฉมยงด้วยสงสาร | ||
| นางเสือกเกลือกกลิ้งกับดินดาน | เยาวมาลย์ข้อนทรวงเข้าโศกี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ แล้วแลเห็นองค์ผัวขวัญ | ยอกรอภิวันท์เหนือเกศี | ||
| ลูกข้ากระจิริดผิดไม่มี | ขอประทานชีวีพระลูกชาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวยศวิมลฤาสาย | ||
| พะว้าพะวงไม่ตั้งกาย | แว่วเสียงโฉมฉายเจ้าเรียกมา | ||
| ชะแง้แลเห็นมเหสี | เทวีบังคมเหนือเกศา | ||
| จำได้มั่นคงไม่สงกา | พระราชาพยักกวักกร | ||
| เร่งเรียกสำเหนียกแก่เสนา | ให้ถอยนาวาเข้ามาก่อน | ||
| เสนากลับท้ายพายคอน | จันทาโบกกรไปทันที | ||
| ไม่กลัวหัวจะขาดหรือไฉน | โยนมันลงไปให้เป็นผี | ||
| ไว้ใยให้นานจนป่านนี้ | อ้ายนี่ขัดรับสั่งหรือฉันใด | ||
| เสนาตกใจอยู่ลนลาน | อุ้มพระกุมารมาหาช้าไม่ | ||
| ผูกหินโยนพลันทันใด | สองกษัตริย์สลบไปทั้งสองรา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิดฉิ่ง โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | จันทาดีใจเป็นหนักหนา | ||
| เห็นพระสลบซบพักตรา | ต้องดูรู้ว่าไม่บรรลัย | ||
| เอาน้ำสุคนธามาลูบพักตร์ | ผัวรักค่อยฟื้นคืนมาได้ | ||
| ร่ายมนต์เป่าพลางทางทูลไป | จะโศกาอาลัยไปไยมี | ||
| เชื่อว่าบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | พอโยนลงไปก็เป็นผี | ||
| มันเสี้ยนทรชนคนไพรี | แม้นดีลูกชายจะตายไย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระภูวดลยังหม่นไหม้ | ||
| แสนสงสารบุตรนั้นสุดใจ | น้ำพระเนตรหลั่งไหลลงนองแนว | ||
| ขุ่นข้องต้องมนต์ของจันทา | เสื่อมสร่างวิญญาณ์ถึงน้องแก้ว | ||
| เจ้าว่าถูกทุกสิ่งจริงแล้ว | คลาดแคล้วคืนหลังเข้าวังใน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงคนถ้วนหน้าน้ำตาไหล | ||
| แลเห็นโฉมงามทรามวัย | เกลือกกลิ้งนิ่งไปไม่ไหวองค์ | ||
| จึงวักตักเอาชลธี | ประพรมโฉมศรีไม่ผุยผง | ||
| ครั้นเจ้าค่อยฟื้นคืนคง | ปลอบโยนโฉมยงให้ไคลคลา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | โฉมศรีมีจิตคิดโหยหา | ||
| ชะแง้แลดูพระลูกยา | นางข้อนอุราเข้าร่ำไร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ร่าย | |||
| ๏ พ่อคุณทูลกระหม่อมของแม่เอ๋ย | ทรามเชยทิ้งแม่ให้โหยไห้ | ||
| เช้าเย็นแม่จะเห็นหน้าใคร | ดังกาเหยี่ยวเฉี่ยวไปก็เหมือนกัน | ||
| ลูกเอ๋ยเคยรับพระมารดา | เมื่อมาแต่ป่าพนาสัณฑ์ | ||
| พูดพลอดกอดแม่ไม่วายวัน | กินนมชมกันทุกเวลา | ||
| ตัวกรรมันตามมาล้างผลาญ | พลัดบ้านเมืองแล้วยังมิสา | ||
| ยังมิหน้ำซ้ำพรากจากลูกยา | อนิจจามีกรรมต้องจำไกล | ||
| รำพันพลางนางลาคนทั้งปวง | เจ้าเหงาง่วงเดินมาน้ำตาไหล | ||
| เปล่าจิตผิดทางชังตายไป | ดั้นด้นพงไพรร้องไห้มา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์โอดโอยโหยหา | ||
| จมลงตรงปล่องนาคา | ฟุมฟายน้ำตาจาบัลย์ | ||
| แม่เจ้าประคุณทูลกระหม่อมแก้ว | จะกลิ้งเกลือกอยู่แล้วเป็นแม่นมั่น | ||
| เพราะแม่ต่อยหอยสังข์ไม่ยั้งทัน | จึงพลัดพรากจากกันกับลูกยา | ||
| ที่นี้จะได้ผู้ใดเล่า | อยู่ด้วยช่วยผ่านเกล้าเฝ้าเคหา | ||
| อยู่ทับขับไล่ไก่กา | แม่มาเย็นเย็นจะเห็นใคร | ||
| ว่าพลางทางซบเกศเกล้า | คิดถึงแม่เจ้าแล้วร้องไห้ | ||
| สลบซบซอนอ่อนใจ | อยู่ในใต้น้ำไม่ทำลาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
ตอนที่ ๓ นางพันธุรัตเลี้ยงพระสังข์
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวภุชงค์องค์สหาย | ||
| กับดักกระตักโหรคนทาย | ล้ำเลิศเพริศพรายในบาดาล | ||
| ปรากฎพระยศศักดิ์ศรี | บรรดานาคีไม่ต่อต้าน | ||
| ศาลารักษาศีลทาน | อยู่ใต้บาดาลพิมานชัย | ||
| เทพเจ้าเข้าในใจดล | ท่านท้าวกำพลหม่นไหม้ | ||
| ด้วยพระสังข์ทองยองใย | ลำบากยากใจในคงคา | ||
| จะใคร่ไปตามวิสัยนาค | ออกจาเปลวปล่องช่องผา | ||
| ระวังตัวด้วยกลัวครุฑา | ทอดตาเหลียวดูมาแต่ไกล | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ กลม | |||
| ๏ เที่ยวเล่นมาเห็นกุมาร | นอนจมดินดานธารไหล | ||
| เห็นศิลาผูกมาก็แจ้งใจ | ลูกใครทิ้งถ่วงลงคงคา | ||
| โฉมศรีบริสุทธิ์มนุษย์น้อย | กระจ้อยร่อยน่ารักหนักหนา | ||
| ภุชงค์สงสารกุมารา | เข้าต้องดูรู้ว่าไม่บรรลัย | ||
| จับกรช้อนองค์เห็นกงจักร | น้อยหรือบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| จะเกิดเหตุเภทพาลประการใด | ใครช่างทำได้ไม่ปรานี | ||
| จะเอาเจ้าไปไว้เป็นลูกยา | เห็นว่าบุญหนักศักดิ์ศรี | ||
| แล้วแก้ศิลาพลันทันที | นาคีอุ้มพาไปบาดาล | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงวางบนแท่นแก้ว | ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| บอกเมียรักพลันมิทันนาน | บริวารแวดล้อมอยู่พร้อมเพรียง | ||
| พี่ไปได้มาแต่วารี | จมในชลธีไม่มีเสียง | ||
| ช่วยแก้ไขให้คืนจะได้เลี้ยง | กล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้เอาบุญ | ||
| ว่าพลางตั้งสัตย์อธิฐาน | ถ้าบุญเรากับกุมารเคยอุดหนุน | ||
| แต่ชาติหลังทั้งสองเคยค้ำจุน | เดชะบุญกุมารไม่วอดวาย | ||
| เสี่ยงพลางพลางเอาสุคนธ์ทิพย์ | ลูบหลังดังหยิบให้เหือดหาย | ||
| ค่อยฟื้นคืนสมประดีคลาย | โฉมฉายเป่ามนต์ด้วยฤทธี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุวรรณสังข์เรืองศรี | ||
| ฟื้นองค์หลงว่ายวารี | แลเห็นนาคีก็ดีใจ | ||
| รูปร่างโสภาเป็นมนุษย์ | ทรงภุชบังคมประนมไหว้ | ||
| ผินผันอั้นอ้นฉงนใจ | กล่าวความถามไปกับนาคา | ||
| ข้าเจ้าเขาเอามาถ่วงน้ำ | บาปกรรมทำไว้เป็นหนักหนา | ||
| ผู้ใดเอาข้าเจ้ามา | โปรดช่วยชีวาให้คืนคง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวนาคีมีจิตพิศวง | ||
| ตรัสถามเนื้อความไปโดยจง | เจ้าเชื้อแถวแนววงศ์พระองค์ใด | ||
| ใครเล่าถ่วงเจ้าลงวารี | โฉมศรีโทษทัณฑ์นั้นไฉน | ||
| เราช่วยจึงไม่ม้วยลรรลัย | จึงพามาไว้ในบ้านเมือง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เล่าความตามเรื่อง | ||
| บิดาข้าไซร้ได้ผ่านเมือง | ราวเรื่องแม่ว่าให้ข้าฟัง | ||
| เมียน้อยมันชื่อนางจันทา | มารดาคลอดข้าเป็นหอยสังข์ | ||
| เขาขับไล่ให้ไปอยู่ไพรรัง | มันชิงชังทูลว่าข้าจัญไร | ||
| อยู่หลังข้าออกมานอกหอย | เขาคอยจับข้าหาช้าไม่ | ||
| ทุบตีฆ่าฟันไม่บรรลัย | จึงให้ถ่วงข้าลงสาคร | ||
| บอกพลางทงทรงโศกี | คิดถึงชนนีสะอื้นอ้อน | ||
| พระองค์ช่วยส่งให้มารดร | วิงวอนร่ำไห้อยู่ไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวภุชงค์สงสารเป็นหนักหนา | ||
| ได้ฟังทั้งนางนาคา | เสน่หาฟักฟูมอุ้มองค์ | ||
| บุญญาธิการก็มากมี | จึงเข่นฆ่าร้าตีไม่ผุยผง | ||
| แกล้งเดียดฉันท์กันเป็นมั่นคง | ยุยงชิงชังว่าจังไร | ||
| อยู่ด้วยแม่เถิดจะเลี้ยงเจ้า | ร่วมวันขวัญข้าวอย่าโหยไห้ | ||
| ชนนีเจ้านั้นมิบรรลัย | นานไปจะพบประสบกัน | ||
| จึงให้ชำระสระล้าง | ล้อมข้างดังนางในสวรรค์ | ||
| เอมโอชโภชนาสารพัน | นึกสิ่งใรนั้นก็มีมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายท้าวภุชงค์ทรงศักดิ์ | คิดถึงแม่รักยักษา | ||
| อย่าเลยจะให้กุมารา | ไปเป็นบุตรายาใจ | ||
| ผัวตายเป็นม่ายมาช้านาน | ลูกหลานยักษีหามีไม่ | ||
| จึ่งบอกพระสังข์ทองยองใย | พ่อไซค้มิใช่เป็นมนุษย์ | ||
| ถึงรักเจ้าเอาไว้ไม่ได้ด้วย | จะชูช่วยบำรุงให้สูงสุด | ||
| ไปกว่าบิดาจะม้วยมุด | สิ้นสุดทุกข์ภัยที่ได้มา | ||
| เจ้าคิดถึงบิดาจะมาถึง | ครู่หนึ่งบัดใจจะไปหา | ||
| ว่าพลางทางสั่งนาคา | ตกแต่งกายาให้อ่าองค์ | ||
| ทองกรอ่อนห้อยสร้อยสะอิ้ง | เพริศพริ้งเฟื่องฟูดูระหง | ||
| นาคาข้าพร้อมล้อมวง | อุ้มองค์พามาจากบาดาล | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ขึ้นจากฟากฝั่งพระสมุทร | พ้นแดนมนุษย์สุดสถาน | ||
| ริมสะดือทะเลคะเนการ | หมายมุ่งกรุงมารไม่ใกล้ไกล | ||
| จึงนฤมิตด้วยฤทธา | เป็นมหาสำเภาทองผ่องใส | ||
| โภชนาสารพันทันใด | พร้อมไปในลำสำเภาทอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ จึงอุ้มลูกน้อยกลอยสวาท | นาคราชทูนเกล้าเศร้าหมอง | ||
| วางไว้ในลำสำเภาทอง | ทั้งสองโศกาด้วยปรานี | ||
| แล้วเอาแผ่นสุวรรณบันทึก | จารึกเป็นราชสารศรี | ||
| สั่งลูกชายพลันทันที | จงส่งให้ยักษีที่ลงมา | ||
| แล้วเธอตั้งสัตย์อธิษฐาน | ขุนมารอันคิดริษยา | ||
| จะจับลูกอย่าให้ถูกลำเภตรา | ให้ตรงซึ่งพาราอย่าขัดไป | ||
| เสี่ยงพลางทางเลือกสำเภาทอง | ลอยล่องในท้องทะเลใหญ่ | ||
| สงสารลูกแก้วแววไว | แล้วกลับหลังวังในสู่ไพชน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสุวรรณสังข์ระเหระหน | ||
| คว้างเคว้งมาในกลางทะเลวน | ทุกข์ทนแลเหลียวเปลี่ยวใจ | ||
| มีอยู่แต่น้ำกับฟ้า | จะแลเห็นฝั่งฝาก็หาไม่ | ||
| ดูเป็นหมอกมัวออกทั่วไป | หวั่นไหวไม่เคยไปมา | ||
| เห็นฉนากฉลามตามกัน | ดาษดื่นหมื่นพันล้วนมัจฉา | ||
| เงือกงูราหูเหรา | ทั้งกระโห้โลมาปลาวาฬ | ||
| มังกรลอยล่องท้องน้ำ | คลื่นซัดซัดน้ำมาฉ่าฉาน | ||
| คิดถึงพระแม่อยู่แดดาล | เหมือนม้วยวายปราณไปจากกัน | ||
| ลูกรักพลัดไปแห่งใด | แม่อยู่หนไหนไม่ผายผัน | ||
| มิตายใหญ่กล้าจะมาพลัน | เสาะหาแม่นั้นให้พบพาน | ||
| ร่ำไรอยู่ในเภตรา | เทวาพิศวงน่าสงสาร | ||
| ช่วยส่งให้ตรงเมืองมาร | เข้ายังสถานด่านแดน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | กุมภัณฑ์ยักษาอยู่กว่าแสน | ||
| ลาดตะเวณเกณฑ์กันปันแดน | แว่นแคว้นนางมารชาญชัย | ||
| ยืนเยี่ยมหอคอยลอยลิ่ว | เห็นกระโดงธงทิวปลิวไสว | ||
| แลลิบลิบพริบตามาไวไว | เข้าใกล้แลเห็นเป็นสำเภา | ||
| คิดว่าข้าศึกมาฮึกฮัก | ขุนยักษ์วุ่นวายทั้งนายบ่าว | ||
| ออกรับจะจับเอาสำเภา | เร่งป่าวร้องเสร็จระเห็จมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กราว | |||
| ๏ ตรูกันลงหาดทรายชายฝั่ง | เห็นสำเภายังไม่กังขา | ||
| ทองคำทั้งลำทำมา | คนในเภตราก็ไม่มี | ||
| เห็นอยู่แต่กุมารน้อย | แช่มช้อยจรัสรัศมี | ||
| แจ้งใจมิใช่ไพรี | ยักษีตรูกันมาทันใด | ||
| เผ่นโผนโจนฉวยด้วยความอยาก | อ้าปากแลบลิ้นน้ำลายไหล | ||
| เร่งรีบฉวยพลันทันใด | ประหลาดใจไม่ถูกเภตรา | ||
| ทะลึ่งโลดโดดคว้าผวาเปล่า | เหมือนหนึ่งจับดาวในเวหา | ||
| ลอยเด่นเห็นอยู่แก่ตา | ยักษากริ้วโกรธพิโรธใจ | ||
| ดีด้วยกระบองก้องเวหา | จะถูกลำเภตราก็หาไม่ | ||
| ล้อมรุมกลุ้มกันเข้าทันใด | เปล่าไปไม่ปะปะทะกัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวรรณสังข์นรังสรรค์ | ||
| เห็นหมู่อสูรกุมภัณฑ์ | คร้ามครั่นพรั่นอกตกใจ | ||
| แต่ละตัวหัวพริกหยิกหยอง | ดำกาตาพองท้องใหญ่ | ||
| เขี้ยวขาวยาวรีไม่มีใจ | คิดได้ถึงท้าวนาคี | ||
| แล้วจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน | อย่าให้ขุนมารยักษี | ||
| มาทำอันตรายราวี | แก่ตัวข้านี้เลยนา | ||
| คิดแล้วเท่านั้นมิทันนาน | จึงโยนแผ่นทองสารให้ยักษา | ||
| แผ่นทองลอยละลิ่วปลิวมา | คอยท่ายักษีดังมีใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ยักษาโลดโผนโจนจับ | กลอกกลับรับราชสารได้ | ||
| คืนเข้าฝั่งพลันทันใด | หอบรวนหายใจอยู่ไปมา | ||
| จึงรู้สาราที่จารึก | มิใช่ข้าศึกจึงปรึกษา | ||
| สารทองของท้าวเจ้านาคา | เภตราเขียนลายระบายทอง | ||
| จำเพาะให้โฉมยงลงมารับ | เราจึงจู่จับมิได้ต้อง | ||
| ปรึกษาแล้วนำเอาแผ่นทอง | นายรองระเห็จเตร็ดมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงซึ่งราชธานี | จึงนำสารศรีเข้าไปหา | ||
| บอกแจ้งแถลงกิจจา | แก่ท่านมหาเสนาใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เสนารับสารใส่พานแก้ว | คลาดแคล้วพามาหาข้าไม่ | ||
| เข้าเฝ้านางมารชาญชัย | ที่ในพระโรงอันรูจี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ มาถึงจึงคลานเข้าไปเฝ้า | ก้มเกล้าบังคมเหนือเกศี | ||
| แล้วทูลไปพลันทันที | ท้าวนาคีมีราชสารมา | ||
| ให้ราชฑูตมนุษย์น้อย | ล่องลอยสำเภาไม่เข้าหา | ||
| ทองคำทั้งลำทำมา | คนในเภตราก็ไม่มี | ||
| จับต้องจะถูกก็หาไม่ | โยนให้แต่ราชสารศรี | ||
| ผิดอย่างปางก่อนบห่อนมี | เทวีจงทราบพระบาทา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เร่งคิดถวิลจินตนา | ทูตถือสาราประหลาดใจ | ||
| จึงสั่งสาวศรีที่หมอบเฝ้า | รับเอาสาราเข้ามาให้ | ||
| แล้วอ่านดูพลันทันใด | ที่ในพระราชสารา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เอกบท | |||
| ๏ สารท้าวภุชงค์ทรงศักดิ์ | คิดถึงแม่รักยักษา | ||
| แต่สหายวายปราณนานมา | ชั่วช้ามิได้มาเยี่ยมเยือน | ||
| องค์ท้าวกุมภัณฑ์ที่บรรลัย | ความสมัครรักใคร่ใครจะเหมือน | ||
| เจ้าน้อยใจที่ไม่เยี่ยมเยือน | รักเจ้าเท่าเทียมเหมือนกัน | ||
| เป็นหญิงครองเมืองมณฑล | เสนีรี้พลจะเดียดฉันท์ | ||
| เราไซร้ได้บุตรบุญธรรม์ | มนุษย์จ้อยน้อยนั้นถือสารไป | ||
| เจ้าจงเลี้ยงไว้เป็นลูกรัก | เราเห็นบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| จะได้ครอบครองพระเวียงชัย | เลี้ยงไว้ค้ำชูแทนหูตา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ อ่านจบแจ้งในสารศรี | คิดถวิลยินดีเป็นหนักหนา | ||
| เอาสารทูนเกล้าไว้มิได้ช้า | ขอบใจหนักหนาท้าวนาคี | ||
| องค์ท้าวกุมภัณฑ์ที่บรรลัย | ยังคิดรักใคร่ไม่หน่ายหนี | ||
| ซื่อตรงต่อองค์พระสามี | คุณของนาคียังบิดา | ||
| แล้วตรัสแก่มหาเสนาใน | ใครเห็นอย่างไรให้ปรึกษา | ||
| มนุษย์น้อยจ้อยในเภตรา | นาคาให้มาให้รับรอง | ||
| ให้เลี้ยงต่างลูกดวงใจ | บุญหนักศักดิ์ใหญ่ไม่มีสอง | ||
| เรานี้มีจิตคิดปอง | จะใคร่รับรองกุมารา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | กุมภัณฑ์โหรใหญ่ฝ่ายขวา | ||
| พินิจคิดคูณแล้วทูลมา | โหราขอโทษได้โปรดปราน | ||
| อย่าเพ่อชื่นชมภิรมย์ใจ | มิได้สงสัยที่ในสาร | ||
| ตำราทายว่าพระกุมาร | มิใช่ลูกหลานท้าวนาคา | ||
| มนุษย์กับยักษ์จะรักกัน | ห้ามปรามกวดขันเป็นหนักหนา | ||
| เหมือนหนึ่งดุเหว่าเหล่กา | เลี้ยงรักษาได้เมื่อไรมี | ||
| ทำนองเมรีกับพระรถ | ลักหยูกยาหมดแล้วลอบหนี | ||
| โฉมยงเหมือนองค์เมรี | รับมาน่าที่จะวายปราณ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | มืดคลุ้มกลุ้มคลั่งดังเพลิงผลาญ | ||
| เหม่อ้ายโหรใหญ่ใจพาล | ช่างเปรียบเทียบทัดทานด้วยมารยา | ||
| มึงนี้ผูกจิตคิดคด | จะขบถจริงจังกระมังหนา | ||
| กูไซร้จะได้ลูกยา | กีดหน้าขวางตาหรือว่าไร | ||
| กูไซร้ใช่นางเมรี | หลงด้วยโลกีย์หาดีไม่ | ||
| อันท้าวภุชงค์ทรงชัย | ชั่วแล้วที่ไหนจะให้มา | ||
| ว่าพลางทางสั่งสาวสวรรค์ | จงช่วยกันขับไล่ไสเกศา | ||
| แต่นี้สืบไปอย่าให้มา | มันว่ากูเล่นให้เป็นลาง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วสั่งกุมภัณฑ์ให้จัดแจง | ตกแต่งเร่งรัดอย่าขัดขวาง | ||
| อีกทั้งข้าเฝ้าท้าวนาง | ต่างต่างแผลงฤทธิ์นิมิตกาย | ||
| ให้เป็นมนุษย์สุดสิ้น | ตรัสพลางเทพินผันผาย | ||
| เข้าที่นฤมิตบิดเบือนกาย | เฉิดฉายโสภาอ่าองค์ | ||
| ออกจากวังแก้วแพรวพรรณ | กำนัลพรั่งพรูดูระหง | ||
| แห่แหนแน่นอัดจัตุรงค์ | เสนาพาลงไปคงคา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กลองโยน เชิด | |||
| ๏ มาถึงหาดทราบชายทะเล | เห็นเภตราลอยคอยท่า | ||
| ลดองค์ลงริมชลธาร์ | หัตถาจบน้ำได้สามที | ||
| แล้วนางตั้งจิตพิษฐาน | กุมารบุญหนักศักดิ์ศรี | ||
| จะมาเป็นลูกข้าในครานี้ | เทวัญจันทรีจงเล็งแล | ||
| ขอให้ลอยเข้ามาถึงฝั่ง | เหมือนหนึ่งยังข้าเห็นให้เป็นแน่ | ||
| เสี่ยงพลางแล้วนางผันแปร | ลุกยืนชะแง้แลไป | ||
| สำเภาลอยเลื่อนเคลื่อนคลา | ไม่ทันพริบตาเข้ามาใกล้ | ||
| เกยยังฝั่งพลันทันใด | บัดใจเห็นทั่วทุกตัวมาร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ สาธุการ | |||
| ๏ แล้วนางย่างลงในเภตรา | มิช้าเห็นองค์น่าสงสาร | ||
| พินิจพิศดูพระกุมาร | งามปานรูปทรงดังองค์อินทร์ | ||
| ฝ่ายว่าพระสังข์ก็บังคม | ชื่นชมในจิตคิดถวิล | ||
| แม่นยำเหมือนคำท้าวนาคิน | เสร็จสิ้นทุกสิ่งไม่กริ่งใจ | ||
| นางมารฟักฟูมอุ้มองค์ | โฉมยงยินดีจะมีไหน | ||
| ลงจากเภตราคลาไคล | สำเภาหายไปมิได้นาน | ||
| สาวศรีรับรองประคองเคียง | พร้อมเพรียงพิศวงสงสาร | ||
| เบียดเสียดกันดูพระกุมาร | คืนเข้าสถานสำราญใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงวังพลันทันที | วางยังแท่นมณีศรีใส | ||
| จึงดำรัสตรัสถามความใน | พ่อเป็นลูกหลานใครไฉนนา | ||
| จึงพระยาภุชงค์ทรงศักดิ์ | ส่งองค์ลูกรักให้แก่ข้า | ||
| เหตุผลต้นปลายอย่างไรมา | ลูกยาทรงนามกรใด | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทูลแจ้งแถลงไข | ||
| คิดถึงมารดายิ่งอาลัย | ร่ำไรทูลความแต่หลังมา | ||
| อันพระบิตุรงค์ทรงภพ | ประเสริฐเลิศลบจบทิศา | ||
| เมียน้อยนั้นชื่อจันทา | เขายุยงบิดาให้ฆ่าตี | ||
| จับลูกถ่วงท้องชลาลัย | ตัวแม่ขับไล่อยู่ไพรศรี | ||
| บุญช่วยจึงไม่ม้วยชีวี | ท้าวนาคีจึงใส่สำเภามา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ฟังเอยฟังการ | นางมารสงสารเป็นหนักหนา | ||
| รับขวัญไม่กลั้นน้ำตา | ลูบหลังลูบหน้าให้ปรานี | ||
| แม่จะถนอมกล่อมเกลี้ยง | จะเลี้ยงเจ้าเป็นบุตรนะโฉมศรี | ||
| พ่ออย่าได้กังขาราคี | พระบุรีจะให้แก่ลูกยา | ||
| จูบพลางนางอุ้มขึ้นใส่ตัก | ความรักแสนสุดเสน่หา | ||
| ดังดวงฤทัยนัยนา | แล้วสั่งมหาเสนาใน | ||
| ท่านจงเร่งรัดจัดแจง | ตกแต่งพาราอย่าช้าได้ | ||
| จะสมโภชลูกแก้วแววไว | บาดหมายกันไปอย่าได้นาน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนารับราชบรรหาร | ||
| แล้วถวายบังคมก้มกราน | มาสั่งการตามมีพระบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ให้แต่งโรงราชพิธี | เทียนชัยบายศรีทั้งซ้ายขวา | ||
| หุ่นละครโขนหนังช่องระทา | เครื่องเล่นนานาบรรดามี | ||
| ทั้งระเบ็งระบำปล้ำมวย | พร้อมด้วยสังคีตดีดสี | ||
| งิ้วง้าวเสภาชาตรี | มโหรีครึ่งท่อนมอญรำ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ แล้วกลับมาทูลความตามเรื่อง | บ้านเมืองแต่งอร่ามงามขำ | ||
| ราชวัติฉัตรธงโยงรำ | พร้อมสำเร็จแล้วพระเทวี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ช้า ร่าย | |||
| ๏ ฟังเอยฟังสาร | นางมารปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| ครั้นว่าสนธยาราตรี | ก็เข้าที่บรรทมภิรมย์ใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ ครั้นรุ่งแจ้งแต่งองค์ลูกยา | ภูษาอย่างดีศรีใส | ||
| ทองกรสังวาลตระการใจ | แล้วมุ่นจุไรใส่ชฎา | ||
| สรรพเสร็จเสด็จจรลี | สาวศรีไสวทั้งซ้ายขวา | ||
| เชิญเครื่องตามกันเป็นหลั่นมา | ยาตราสถิตยังพิธี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ร้องเพลงมหาชัย | |||
| ๏ ร่าย | |||
| ได้เอยได้ฤกษ์ | นางมารให้เบิกบายศรี | ||
| ลั่นฆ้องกลองชัยเภรี | ดีดสีตีทับฉับพลัน | ||
| จุดแว่นเวียนซ้ายย้ายขวา | โห่ขึ้นสามลาขมีขมัน | ||
| เซ็งแซ่แตรสังข์ประดังกัน | ฆาตฆ้องกลองลั่นสนั่นไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ มโหรี | |||
| ๏ เวียนเทียนสำเร็จเสร็จสรรพ | โบกจับจุณเจิมเฉลิมให้ | ||
| แล้วนางอำนวนอวยชัย | ทุกข์โศกโรคภัยอย่าให้มี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายเจ้าพนักงานการเล่น | ทั้งมวยปล้ำรำเต้นถ้วนถี่ | ||
| โขนละครไก่ป่าชาตรี | เป่าปี่ตีกลองกึกก้องไป | ||
| หกคะเมนไต่ลวดกวดขัน | เจ็ดคืนเจ็ดวันหวั่นไหว | ||
| ครั้นราตรีมีดอกไม้ไฟ | หนังจีนหนังไทยดอกไม้กล | ||
| อีกทั้งครึ่งท่อนมอญรำ | จับระบำรำท่าโกลาหล | ||
| งิ้วง้าวฉาวแฉ่งแต่งตน | เกลื่อนกล่นอื้ออึงคะนึงไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ นางมารสมโภชพระลูกแก้ว | ผ่องแผ้วยินดีจะมีไหน | ||
| จึงชวนลูกยาคลาไคล | เข้าในวังพลันทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนแท่นแก้ว | ผ่องแผ้วปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| แล้วจัดแจงนักเทศน์ขันที | นางนมทั้งสี่พี่เลี้ยง | ||
| กำนัลนางมโหรีขับไม้ | สำหรับให้ขับกล่อมพระเนื้อเกลี้ยง | ||
| แม่มอบให้พระสังข์ทั้งวังเวียง | ใครทุ่มเถียงจงเฆี่ยนฆ่าตี | ||
| นางถนอมกล่อมเกลี้ยงรักษา | มิให้พระลูกยาเจ้าหมองศรี | ||
| จนพระชันษาสิบห้าปี | ยังทวีความรักอยู่ทุกวัน | ||
| นางค่อยเคลื่อนคลายสบายใจ | จะใคร่ไปเที่ยวป่าพนาสัณฑ์ | ||
| เผอิญใจทึกทึนนึกผูกพัน | คิดพรั่นกลัวลูกจะหนีไป | ||
| อย่าเลยจะแสร้งแกล้งล่อลวง | อย่าให้ล่วงหมายคำสำคัญได้ | ||
| ว่าไปช้าแล้วกลับมาเร็วไว | ถึงจะหนีไปไม่พ้นกร | ||
| แม่จะไปป่าเจ็ดราตรี | พันปีจงฟังแม่สั่งสอน | ||
| บ่อน้ำซ้ายขวาเจ้าอย่าจร | หอข้างหัวนอนเจ้าอย่าไป | ||
| สั่งลูกแล้วพบันมิทันช้า | พรั่งพร้อมทหารหน้าห้องใหญ่ | ||
| ออกจากพาราคลาไคล | แปลงไปเป็นยักษ์ฉับพลัน | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ กราว | |||
| ๏ ครั้นมาถึงป่าพนาลัย | จับได้ช้างเสือเนื้อสมัน | ||
| ฟาดฟันล้มตายวายชีวัน | ได้ห้าหกตัวนั้นไม่พอพุง | ||
| ครั้นเหลือบเห็นช้างฝูงใหญ่ | ดีใจฟาดด้วยกระบองผลุง | ||
| หักคอตายกลาดฟาดดังปุง | ทหารหอบพะรุงพะรังมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ วางกองไว้หน้าศาลาลัย | แล้วนางไปสรงน้ำที่เพิงผา | ||
| แล้วขึ้นนั่งบนบัลลังก์ศิลา | เสวยสัตว์นานาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| มาจะกล่าวบทไป | ถึงองค์พระสังข์เรืองศรี | ||
| อยู่ในไพชนอสุรี | มีจิตคิดถึงมารดา | ||
| เหตุไฉนไปไพรกรุ่นกรุ่น | พระคุณไปไยที่ในป่า | ||
| ว่าไปวันเดียวจะกลับมา | ไม่เหมือนวาจาที่ว่าไว้ | ||
| เหตุใดถ้อยคำฟั่นเฟื่อน | คลาดเคลื่อนคืนวันหามั่นไม่ | ||
| ตรัสว่าจะไปคืนเดียวไซร้ | เจ็ดวันจึ่งได้กลับมา | ||
| ครั้นว่าจะไปเจ็ดวัน | กลับพลันวันเดียวไม่เหมือนว่า | ||
| ผิดแล้วถ้อยคำพระมารดา | ดีร้ายจะมาต่อเจ็ดวัน | ||
| ห้ามไว้มิให้ไปที่ครัวไฟ | อะไรจะมีอยู่ที่นั่น | ||
| ลับตาสาวใช้ลอบไปพลัน | ได้เห็นสำคัญในทันที | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เห็นโครงเสือช้างกวางทราย | ทั้งกายมนุษย์กับซากผี | ||
| ตกใจไม่เป็นสมประดี | ผิดแล้วชนนีเห็นสำคัญ | ||
| พระมารดาว่าบ่อที่ปิดไว้ | จะมีอะไรเป็นแม่นมั่น | ||
| ลอบหนีพี่เลี้ยงลงไปพลัน | เปิดบ่อซ้ายนั้นขึ้นทันใด | ||
| ค่อยเอานิ้วพระหัตถ์ชี้ | จุ่มจี้บ่อเงินที่ผ่องใส | ||
| เปิดบ่อขวาพลันทันใด | แจ่มใสสว่างอยู่เรืองรอง | ||
| เอานี้วชี้ที่เป็นเงินนั้น | จิ้มลงดูพลันเป็นทองผ่อง | ||
| คิดตกใจเจ้าเฝ้ามอง | เช็ดทองด้วยกลัวพระมารดา | ||
| จะเช็ดสีเท่าใดก็ไม่ออก | พระแม่มาจะบอกกระมังหนา | ||
| รีบมาคิดได้ด้วยมารยา | ฉีกผ้าพันนิ้วพระหัตถ์ไว้ | ||
| แล้วพระจึงซ่องฝูงนาง | มาดูที่ปรางค์ปราสาทใหญ่ | ||
| แลเห็นรูปเงาะเหมาะสุดใจ | พระจึงสวมใส่เข้าลองดู | ||
| สอดใส่เกือกแก้วทั้งซ้ายขวา | ประดับเพชรพรายตาทั้งคู่ | ||
| จับไม้เท้าทองลองฤทธิ์ดู | เหาะวู่ตามช่องบัญชรชัย | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เหาะลองดูเล่นพอเห็นดี | กลัวพระชนนีไม่ช้าได้ | ||
| ถอดออกแล้ววางดังเก่าไว้ | ดีใจสอดมองดูมารดา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ทีเอยทีนี้ | ชอบที่จะหนีแม่ยักษา | ||
| จะเหาะไปหาพระมารดา | ถึงไร่ยายตาที่เลี้ยงเรา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอ้ร่าย | |||
| ๏ โอ้อนิจจาพระชนนี | ป่านฉะนี้จะร่ำโศกเศร้า | ||
| จะข้อนทรวงสลบซบเซา | พระเกิดเกล้าลูกเอ๋ยจะโศกา | ||
| ตัวกูมาอยู่ในเมืองนี้ | พระชนนีเลี้ยงเป็นยักษา | ||
| ไว้ใจยากนักถ้าฉวยช้า | ไหนจะหนีมารดาไปได้เลย | ||
| เห็นจะวายชีวิตเสียเปล่าเปล่า | โอ้พระเกิดเกล้าของลูกเอ๋ย | ||
| จะแทนคุณชนนีมิอยู่เลย | เงยเห็นพี่เลี้ยงซ่อนทันที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พี่เลี้ยงวิ่งหาพระโฉมศรี | ||
| ตกใจไม่เห็นอยู่ในที่ | วิ่งตีอกหาประหม่าใจ | ||
| เมื่อกี้วิ่งเล่นก็เห็นตัว | ทูนหัวเอ๋ยซ่อนอยู่แห่งไหน | ||
| มองมาพบพระองค์ก็ดีใจ | พี่เลี้ยงสาวใช้ก็เปรมปรีดิ์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษี | ||
| เล็ดลอดสอดหามฤดี | ได้เจ็ดราตรีอยู่ไพรวัน | ||
| สายัณห์ตะวันรอนรอน | ใกล้จะลับสิงขรพนาสัณฑ์ | ||
| รำลึกถึงลูกใจผูกพัน | เร่งรีบเร็วพลันระเห็จมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ถึงรับขวัญอุ้มพระลูกรัก | จูบพักตร์เศียรเกล้าเกศา | ||
| กอดชมดังดวงนัยนา | นางแสนเสน่หาดังดวงใจ | ||
| แลเห็นนิ้วหัตถาพันผ้า | เอ็ววันของแม่เป็นไฉน | ||
| ผ้าผูกนิ้วถูกอะไร | เป็นไรหรือพ่อจงบอกมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ได้ฟังคำว่า | ||
| ครั้นแม่จับนิ้วทำมารยา | กลัวพระมารดาจะเคืองใจ | ||
| ทำผิดลูกกลัววพระแม่ตี | ลูกนี้ไม่มีอัชฌาสัย | ||
| จับมีดเข้ามาผ่าไม้ | บาดเลือดซับไหลฝนไพลทา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | ชะนางพี่เลี้ยงช่างให้ไม้ผ่า | ||
| จับมือพิศดูพันผ้า | ทูนเหนือเกศารำคาญใจ | ||
| จะมากหรือน้อยแม่ขอดู | นิ่งอยู่หาทำให้เจ็บไม่ | ||
| กำมิดปิดซ่อนแม่ทำไม | บาดแผลน้อยใหญ่ไฉนนา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| สังข์เอยสังข์ทอง | ทำร้องกุมนิ้วพันผ้า | ||
| อุยอุยพระแ ม่อย่าแก้นา | เจ็บปวดหนักหนาเป็นพ้นไป | ||
| โลหิตติดกรังผ้าอยู่ | เจ็บปวดพ้นรู้ไม่แก้ได้ | ||
| ลูกลวนลามเล่นจึงเป็นไป | พระแม่จงได้ปรานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | นางมารโกรธพี่เลี้ยงสาวศรี | ||
| น้ำตาคลอตาด้วยปรานี | ให้มัดตีพี่เลี้ยงนางใน | ||
| นางนมพี่เลี้ยงเรียงหน้า | มึงไม่นำพาเอาใจใส่ | ||
| ให้เล่นมีดแล่นพร้าผ่าไม้ | ตีให้บรรลัยประเดี๋ยวนี้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ได้เอยได้ฟัง | พระสังข์บังคมขอโทษพี้ | ||
| อ้อนวอนกราบไหว้ทั้งโศกี | มิให้ต้องตีชิงไม้ไว้ | ||
| ลูกแข็งเขาห้ามแล้วไม่ฟัง | เขารักข้าหาชังลูกน้อยไม่ | ||
| ถ้าเขาต้องโทษโพยภัย | ไหนเขาจะรักลูกน้อยนี้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา กล่อม | |||
ตอนที่ ๔ พระสังข์หนีนางพันธุรัต
| ช้า | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงนางพันธุรัตยักษี | ||
| แต่ว่างเว้นเป็นม่ายมาหลายปี | สามีมอดม้วยด้วยไข้พิษ | ||
| ได้ลูกน้อยหอยสังข์มาเลี้ยงไว้ | รักใคร่เป็นบุตรสุจริต | ||
| ฟักฟูมอุ้มชูชมชิด | ลืมคิดถึงผัวของตัวตาย | ||
| เมื่อเวรามาติดตามทัน | นางนั้นจะสิ้นบุญสูญหาย | ||
| ให้ร้อนเนื้อเดือดใจไม่สบาย | ผันผายไปป่าพนาวัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ จึงอุ้มองค์พระสังข์นั่งตัก | โลมลูบจูบพักตร์แล้วรับขวัญ | ||
| วันนี้แม่จะลาไปอารัญ | สายัณห์เลี้ยวลับจะกลับมา | ||
| แล้วกำชับสาวศรีพี่เลี้ยง | จงถนอมกล่อมเกลี้ยงโอรสา | ||
| ตามใจอย่าให้โกรธา | เคืองขัดอัธยาสิ่งใด | ||
| สั่งพลางย่างเยื้องยุรยาตร | จากปราสาทเรืองรองผ่องใส | ||
| มาลับตาลูกน้อยกลอยใจ | อรไทเปลี่ยนแปลงกายา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ บัดใจรูปร่างเป็นนางยักษ์ | ล่ำสันคึกคักหนักหนา | ||
| ถือตระบองป้องพักตร์ทำศักดา | ดั้นดงตรงมาพนาลี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ กราวใน เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงหิมวาป่าสูง | เห็นฝูงเนื้อเบื้อเสือสีห์ | ||
| นางยักษ์อยากกินก็ยินดี | เข้าไล่ตีเลี้ยวลัดสกัดสแกง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พิฆาตฆ่าโคกระทิงมหิงสา | ด้วยกำลังฤทธากล้าแข็ง | ||
| โจนจับฉับเฉียวเรี่ยวแรง | หักแข็งขาไว้ในดงดาน | ||
| ตัวไหนพ่วงพีมีมัน | เลือกสรรกินเล่นเป็นอาหาร | ||
| กระดูกกระเดี้ยวเคี้ยวป่นไม่ทนทาน | คชสารควายวัวตัวละคำ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ นางกินเหลือล้นจนเรอ | ท้องไส้เอ้อเร้ออิ่มหนำ | ||
| ลงล้างปากล้างคอในบ่อน้ำ | พอพลบค่ำย่ำแสงสนธยา | ||
| จึงไปยังที่หยุดพัก | เคยสำนักแรมทางกลางป่า | ||
| ปัดผงลงนอนในศาลา | นิทรากลิ้งกลับจนหลับไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระสังข์ทองผ่องใส | ||
| ราตรีเข้าที่บรรทมใน | ถอนฤทัยรำลึกตรึกตรา | ||
| คิดถึงชนนีที่เกิดเกล้า | จะโศกเศร้าทุกข์ทนบ่นหา | ||
| แต่มาอยู่เมืองมารก็นานช้า | ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดี | ||
| ซึ่งกูจะหลงอยู่ในเมืองยักษ์ | แม้นมิลักรูปเงาะเหาะหนี | ||
| ที่ไหนจะได้เห็นชนนี | นับปีเดือนแล้วจะแคล้วไป | ||
| จำจะคิดติดตามสืบหา | ให้พบพานมารดาจงได้ | ||
| วันนี้แม่พันธุรัตไปแรมไพร | ได้ช่องคล่องใจจะไคลคลา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นกลางคืนดื่นดึกเดือนเที่ยง | เห็นพี่เลี้ยงหลับสนิทถ้วนหน้า | ||
| ค่อยย่องลงจากเตียงเมียงออกมา | จากห้องไสยาทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ลอบลงชุบองค์ในบ่อทอง | ผิวเนื้อนวลละอองผ่องศรี | ||
| เป็นทองคำธรรมชาติชาตรี | สมถวิลยินดีดังใจคิด | ||
| แล้วขึ้นไปบนปราสาทชัย | ที่ไว้รูปเงาะศักดิ์สิทธิ์ | ||
| หยิบขึ้นแลเล็งเพ่งพิศ | ขุกคิดขึ้นมาก็อาลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้อนิจจามารดาเลี้ยง | เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงรักใคร่ | ||
| แสนสนิทพิศวาสดังดวงใจ | มิให้ลูกยาอนาทร | ||
| พระคุณล้ำลบจบดินแดน | ยังมิได้ทดแทนพระคุณก่อน | ||
| วันนี้จะพลัดพรากจากจร | มารดรค่อยอยู่จงดี | ||
| แม้นลูกไปไม่ม้วยมรณา | จะกลับมากราบบาทบทศรี | ||
| ร่ำพลางทางทรงโศกี | อยู่ปราสาทเพียงขาดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นคลายทุกข์ขุกคิดขึ้นมา | จะอยู่ช้าฉะนี้ก็มิได้ | ||
| เกลือกว่ามารดามาแต่ไพร | หนีไปไม่ทันจะเสียการ | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงเข้าแล้ว | ใส่เกือกแก้วถือไม้เท้าห้าวหาญ | ||
| เหาะขึ้นเวหาเหินทะยาน | ออกจากเมืองมารรีบมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ กลม เชิด | |||
| ๏ เหาะระเห็จเจ็ดคืนถึงเขาหลวง | สูงกว่าเขาทั้งปวงที่ในป่า | ||
| พอสิ้นกำลังวังชา | เหน็ดเหนื่อยเลื่อยล้าเต็มที | ||
| จำจะหยุดพักสักหน่อยก่อน | ทินกรร้อนแรงแสงสี | ||
| จึงเลื่อนลงยังยอดคีรี | จรลีเข้าใต้ร่มไทร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพี่เลี้ยงนางนมน้อยใหญ่ | ||
| ครั้นรุ่งแจ้งแสงสุริโยทัย | นางในต่างฟื้นตื่นตา | ||
| ม้วนที่นอนหมอนข้างเก็บงำ | ฉวยขันตักน้ำมาล้างหน้า | ||
| แล้วเข้าไปในที่ไสยา | แลหาไม่เห็นพระสังข์ทอง | ||
| ตกประหม่าตาขาวคิดฉงน | ฝูงนางต่างตนเร่งหม่นหมอง | ||
| ชวนกันลดเลี้ยวเที่ยวมอง | ทุกแห่งห้องตำหนักนอกใน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ ค้นคว้าหาทั่วที่เคยเล่น | จะประสบพบเห็นก็หาไม่ | ||
| ต่างตีอกชกหัวร่ำไร | ครั้งนี้ที่ไหนจะรอดตาย | ||
| แม้นแม่พันธุรัตมาแต่ป่า | จะตีด่าดุเดือดไม่เหือดหาย | ||
| จะปลิ้นปลอกออกตัวยักย้าย | ด้วยแยบคายแก้ไขเห็นไม่ฟัง | ||
| ปรับทุกข์กันทุกคนบ้างบนผี | เอ็นดูช่วยสักทีพอรอดหลัง | ||
| บ้างว่าเลี้ยงลูกเจ้าเฝ้าคลัง | มักมีภัยสมดังว่ามา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เที่ยวป่าเล่นสบายหลายเวลา | ก็เหาะกลับคืนมายังเมืองมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงปราสาทมณีที่สำนัก | ร้องเรียกลูกรักก็ไม่ขาน | ||
| แลหาแห่งไรไม่พบพาน | นางมารหวั่นหวาดประหลาดใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพี่เลี้ยงนางนมน้อยใหญ่ | ||
| เห็นนางยักษามาแต่ไพร | กลัวภัยภาวนาละล้าละลัง | ||
| แต่เขยื้อนขยับลับล่อ | เข้าไปแล้วให้ท้อถอยหลัง | ||
| จึงก้มเกล้าเล่าเหตุให้ฟัง | พระลูกน้อยหอยสังข์นั้นหายไป | ||
| ข้าเที่ยวค้นหานักหนาแล้ว | จะพบพระลูกแก้วก็หาไม่ | ||
| เล่าพลางต่างคนก็ร่ำไร | ขอชีวิตไว้อย่าฆ่าตี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษี | ||
| ได้ฟังดังจะสิ้นลมประดี | เอออะไรกระนี้อีพี่เลี้ยง | ||
| กูไว้ใจให้อยู่กับลูกรัก | คอยพิทักษ์ถนอมกล่อมเกลี้ยง | ||
| ช่างละให้หายไปจากวังเวียง | มันน่าเสี่ยงสับซ้ำให้หนำใจ | ||
| ว่าพลางนางร่ำโศกา | น้ำตาแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| ไปเปิดดูบ่อทองเห็นพร่องไป | เร่งพะวงสงสัยไม่รู้แล้ว | ||
| มาดูรูปเงาะป่าไม่ปรากฎ | หายหมดทั้งไม้เท้าและเกือกแก้ว | ||
| ลูกน้อยกลอยสวาทเจ้าคลาดแคล้ว | หนีแม่ไปแล้วนะอกอา | ||
| จะอยู่ช้าฉะนี้ก็มิได้ | จำจะเร็วรีบไปตามหา | ||
| จึงขึ้นหอคอยสูงลอยฟ้า | ตีกลองสัญญาเข้าเจ็ดที | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ รัว | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกพลกุมภัณฑ์ภูตผี | ||
| ทั้งหมู่อสูรศักดิ์ยักขิณี | ได้ยินเสียงเภรีสัญญา | ||
| ไม่แจ้งเหตุเภทผลกลใด | ต่างตระหนกตกใจเป็นหนักหนา | ||
| สำแดงเผลงอิทธิฤทธา | ชวนกันเหาะมายังเมืองมาร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นเอยครั้นถึง | จึงคลานเข้ามายังหน้าฉาน | ||
| ไหว้พลางทางถามมิทันนาน | เหตุการณ์อะมีจึงตีกลอง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตร้อนเร่าเศร้าหมอง | ||
| จึงแถลงเล่าความตามทำนอง | เจ้าสังข์ทองลูกรักของเรานี้ | ||
| ลอบลักรูปเงาะและเกือกแก้ว | สวมใส่เข้าแล้วก็เหาะหนี | ||
| เร่งไปตามหาอย่าช้าที | วันนี้ให้ได้ตัวมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงหมู่อสูรศักดิ์ยักษา | ||
| คำนับรับคำแล้วอำลา | นฤมิตกายากำยำ | ||
| เหาะเหินเที่ยวหาในป่ากว้าง | ทุกทิศทุกทางเถื่อนถ้ำ | ||
| แยกไปบกบ้างไปข้างน้ำ | ต่างสำแดงเดชเกรียงไกร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ กราว เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์นั่งอยู่บนเขาใหญ่ | ||
| เห็นมืดมิดปิดแสงอโณทัย | เสียงสนั่นหวั่นไหวนี่นัน | ||
| จึงคิดว่าดีร้ายอสุรา | ติดตามเรามาเป็นแม่นมั่น | ||
| จวนตัวเต็มทีหนีไม่ทัน | จำจะผ่อนผันด้วยปัญญา | ||
| พระจึงถอดรูปเงาะออกซ่อนไว้ | ขึ้นนั่งบนต้นไทรสาขา | ||
| ทำเป็นเช่นรุกขเทวา | พลางนึกภาวนาอยู่ในใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ รัว เชิด (ยักษ์ออก) | |||
| ๏ บัดนั้น | หมู่มารทหารน้อยใหญ่ | ||
| เห็นพระสังข์นั่งอยู่บนต้นไทร | มิได้รู้จักแต่สักตน | ||
| เพ่งพิศดูพลางไม่วางตา | คิดว่าเทวาในไพรสนฑ์ | ||
| ผิวพรรณผุดผาดประหลาดคน | ให้งวยงงฉงนสนเท่ห์ใจ | ||
| จึงถามว่าดูก่อนเทวา | เห็นเจ้าเงาะเหาะมามั่งหรือไม่ | ||
| อย่าแกล้งกล่าวคำอำไว้ | จงบอกไปตามจริงบัดนี้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ฟังคำยักษี | ||
| บอกพลางทางยกมือชี้ | เห็นเหาะไปทิศนี้นะขุนมาร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ยักษาได้ฟังว่าขาน | ||
| ดีใจเสือกสนลนลาน | เหาะทะยานติดตามไปพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ตริตรึกนึกพรั่น | ||
| แต่กูเหาะระเห็จมาเจ็ดวัน | มันยังตามทันด้วยฤทธิไกร | ||
| จะอยู่ก็ใช่ไม่ชอบกล | หนีไปจะพ้นมันที่ไหน | ||
| ให้คิดขัดสนจนใจ | จะแก้ตัวต่อไปอย่างไรดี | ||
| พลางตั้งจิตพิษฐานด้วยสัจจา | คุณพระมารดาปกเกศี | ||
| จงค้ำชูช่วยข้าครานี้ | อย่าให้มีอันตรายสิ่งใด | ||
| ถึงแม่พันธุรัตจะพบข้า | ขออย่าให้ขึ้นมาบนเขาได้ | ||
| ให้ลูกแก้วตัวรอดปลอดภัย | พลางยกมือไหว้ภาวนา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางพันธุรัตยักษา | ||
| เรียกเหล่าบ่าวไพร่มิได้ช้า | ออกจากพารารีบตามไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาเอยมาถึง | ซึ่งเนินบรรพตภูเขาใหญ่ | ||
| แลไปเห็นคนบนต้นไทร | งามวิไลผิวผ่องดังทองทา | ||
| ยืนพินิจพิศเพ่งอยู่เป็นครู่ | ลูกรักของกูแล้วสิหน่า | ||
| ตบมือหัวเราะทั้งน้ำตา | ร้องเรียกลูกยาด้วยยินดี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ นั่งอยู่ไยนั่นพ่อขวัญข้าว | ขัดเคืองอะไรเล่าเจ้าจึงหนี | ||
| มาเถิดทูนหัวอย่ากลัวตี | ดูเอาเถิดซียังมิมา | ||
| นางร้องไห้ร่ำแล้วซ้ำเรียก | ปืนตะกายตะเกียกขึ้นไปหา | ||
| ด้วยเดชะอำนาจสัตยา | เผอิญให้เลื่อยล้าสิ้นกำลัง | ||
| พลัดตกหกล้มนอนตะแคง | ขาแข้งสีข้างขัดขึ้นดัดหลัง | ||
| โศกีตีอกเพียงจะพัง | ทรุดนั่งกระแทกก้นจนใจ | ||
| ลูกน้อยกลอยสวาทของมารดา | แม่บำรุงเลี้ยงมาจนใหญ่ | ||
| มิให้ระคายเคืองสิ่งใด | เจ้าหนีแม่มาได้ช่างไม่คิด | ||
| แม่อุตส่าห์มาตามด้วยความรัก | เจ้าไม่พูดไม่ทักแต่สักหนิด | ||
| อกแม่จะแตกตายวายชีวิต | สุดคิดอยู่แล้วนะลูกยา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ แม่เอยแม่เจ้า | เลี้ยงข้ามาแต่เยาว์จนใหญ่ | ||
| พระคุณล่ำลบภพไตร | จะเปรียบด้วยสิ่งใดนั้นไม่มี | ||
| ใช่ลูกจะเคืองแค้นแสนเข็ญ | ด้วยความจำเป็นดอกจึงหนี | ||
| เหตุด้วยมารดาขอข้านี้ | ทุกข์ร้อนไร้ที่พึ่งพา | ||
| จะยากเย็นเป็นตายก็ไม่แจ้ง | จะไปสืบเสาะแสวงทุกแห่งหา | ||
| ครั้นจะบอกออกอรรถตามสัจจา | ก็คิดกลัวเกลือกว่ามิให้ไป | ||
| ลูกจึงลักรูปเงาะเหาะหนี | โทษผิดทั้งนี้เป็นข้อใหญ่ | ||
| อย่าพิโรธโกรธขึ้งขัดใจ | ถึงไปไม่ช้าจะมาพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตฟังว่าเพียงอาสัญ | ||
| ฟูมฟายน้ำตาจาบัลย์ | เจ้าไปแล้วไหนนั่นจะกลับมา | ||
| คิดอ่านอุบายจะหน่ายหนี | เอาเหตุชนนีนั้นมาว่า | ||
| ถึงไปก็ไม่ขัดอัธยา | เชิญลงมาหาแม่แต่สักน้อย | ||
| พอแม่ได้ชมโฉมเจ้า | ให้สบายบรรเทาที่เศร้าสร้อย | ||
| แต่ร่ำร้องไห้หาเลือดตาย้อย | อุตส่าห์สู้ติดต้อยห้อยตาม | ||
| อย่านึกแหนงแคลงเลยว่าเป็นยักษ์ | มาเถิดลูกรักอย่าเกรงขาม | ||
| ถึงจะอยู่จะไปก็ให้งาม | เจ้าผู้ทรามรักร่วมชีวา | ||
| อันรูปเงาะไม้เท้าเกือกแก้ว | แม่ประสิทธิ์ให้แล้วดังปรารถนา | ||
| ยังมนต์บทหนึ่งของมารดา | ชื่อว่ามหาจินดามนต์ | ||
| ถึงจะเรียกเต่ปลามัจฉาชาติ | ฝูงสัตว์จัตุบาทในไพรสณฑ์ | ||
| ครุฑาเทวัญชั้นบน | อ่านมนต์ขึ้นแล้วก็มาพลัน | ||
| เจ้าเรียนไว้สำหรับเมื่ออับจน | จะได้แก้บนตนที่คับขัน | ||
| แม่ก็คงจะตายวายชีวัน | จงลงมาให้ทันท่วงที | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ร่าย | |||
| เมื่อนั้น | พระสังข์ฟังคำยักษี | ||
| ยิ่งพะวงสงสารแสนทวี | แต่รีรอท้อฤทัยรันทด | ||
| จะลงไปก็ให้เกรงกริ่ง | เกลือกว่าไม่จริงจะแกล้งปด | ||
| คิดพลางทางกล่าวมธุสร | อย่ากำสรดโศกาอาวรณ์ | ||
| ลูกนี้เหนื่อยยากลำบากกาย | จะนั่งเล่นให้สบายบนนี้ก่อน | ||
| ตะวันเที่ยงอยู่ยังกำลังร้อน | พอให้แดดอ่อนอ่อนจะลงไป | ||
| ซึ่งมนต์ของชนนีว่าดีนัก | ลูกรักก็อยากจะใคร่ได้ | ||
| เมตตาลูกแล้วจงเขียนไว้ | ที่ในแผ่นพื้นพสุธา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พันธุรัตขัดสนเป็นนักหนา | ||
| แหงนดูลูกพลางทางโศกา | ดังหนึ่งว่าชีวันจะบรรลัย | ||
| โอ้ลูกน้อยหอยสังข์ของแม่เอ๋ย | กรรมสิ่งใดเลยมาซัดให้ | ||
| จะร่ำร้องเรียกเจ้าสักเท่าไร | ก็ช่างเฉยเสียได้ไม่ดูดี | ||
| สิ้นวาสนาแม่นี้แน่แล้ว | เผอิญให้ลูกแก้วเอาตัวหนี | ||
| จะขอลาอาสัญเสียวันนี้ | เจ้าช่วยเผาผีมารดา | ||
| อันพระเวทวิเศษของแม่ไซร้ | ก็จะเขียนลงให้ที่แผ่นผา | ||
| จงเรียนร่ำจำไว้เถิดขวัญตา | รู้แล้วอย่าว่าให้ใครฟัง | ||
| เขียนพลางทางเรียกลูกน้อย | มาหาแม่สักหน่อยพ่อหอยสังข์ | ||
| แต่พอให้ได้ชมเสียสักครั้ง | ขอสั่งสักคำจะอำลา | ||
| แม่อ้อนวอนว่านักหนาแล้ว | น้อยหรือลูกแก้วไม่มาหา | ||
| ทุ่มทอดตัวลงทรงโศกา | สองตาแดงเดือดดังเลือดนก | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นจิต | ยิ่งคิดเคืองขุ่มมุ่นหมก | ||
| กลิ้งกลับสับส่ายเพ้อพก | นางร่ำร้องจนอกแตกตาย | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกยักษาข้าไททั้งหลาย | ||
| เห็นนางมารม้วยมอดวอดวาย | ต่างร่ำรักนายไม่สมประดี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ทรงสวัสดิ์รัศมี | ||
| เห็นมารดาล้มดิ้นสิ้นชีวี | ตกใจแล่นตะลีตะลานมา | ||
| เข้าไปนั่งใกล้ดังใจจง | กราบลงแทบเท้าทั้งซ้ายขวา | ||
| ชลเนตรคลอคลองนัยนา | โศการ่ำรักชนนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ โอ้ปี่ | |||
| โอ้ว่ามารดาของลูกเอ๋ย | พระคุณเคยปกเกล้าเกศี | ||
| รักลูกผูกพันแสนทวี | เลี้ยงมาไม่มีให้เคืองใจ | ||
| จะหาไหนได้เหมือนพระแม่เจ้า | ดังมารดาเกิดเกล้าก็ว่าได้ | ||
| สู้ติดตามมาด้วยอาลัย | จนจำตายอยู่ในพนาวัน | ||
| โทษลูกนี้ผิดเป้นนักหนา | ดังแกล้งผลาญมารดาให้อาสัญ | ||
| ทั้งนี้เพราะกรรมมาตามทัน | จึงสุดสิ้นชีวัตบรรลัย | ||
| พระคุณล้ำลบจบดินแดน | ยังไม่ทันทดแทนสนองได้ | ||
| ร่ำพลางโศกีพิรี้พิไร | ซบพักตร์สะอื้นไห้ไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นคลายวายโศกเศร้าหมอง | พระจึงร้องสั่งเหล่ายักษา | ||
| ท่านจงเชิญศพพระมารดา | คืนไปพาราของเรา | ||
| แล้วตระเตรียมการไว้ให้เสร็จสรรพ | คอยท่าข้ากลับมาจึงเผา | ||
| การพระเมรุใหญ่อยู่อย่าดูเบา | ท่านจงเอาใจใส่ไตรตรา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีตัวนายซ้ายขวา | ||
| จึงเชิญศพใส่วอช่อฟ้า | กลับไปพาราทันที | ||
| ฯ ๒ ฯ เชิด | |||
| สมิงทอง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระโฉมยงทรงสวัสดิ์รัศมี | ||
| ครั้นพวกพลยักษาไปธานี | จึงเรียนเอามนต์ที่เขียนไว้ | ||
| เวียนเฝ้าสาธยายอยู่หลายตลบ | แต่ต้นจนจบก็จำได้ | ||
| ครั้นเสร็จเสด็จขึ้นไป | บนยอดเขาใหญ่มิได้ช้า | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงเกือกแก้ว | ถือไม้เท้าเข้าแล้วก็ป้องหน้า | ||
| เหาะระวังเห็จเตร็ดทะยานด้วยฤทธา | เลื่อนล่องลอยฟ้ามาไวไว | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ถึงแดนพาราสามนต์ | อาณาเขตมณฑลกว้างใหญ่ | ||
| ให้คิดฉงนสนเท่ห์ใจ | เมืองนี้ชื่อไรจะใคร่รู้ | ||
| เห็นภูมิฐานบ้านช่องเยียดยัด | ผู้คนแออัดอื้ออึงอยู่ | ||
| หรือจะเป็นพาราบิดากู | จะยับยั้งฟังดูกิจจา | ||
| คิดพลางทางค่อยคลาเคลื่อน | ลอยเลื่อนลงจากเวหา | ||
| หยุดอยู่เนินทรายปลายทุ่งนา | อาศัยร่มพฤกษาสำราญ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝ่ายพวกเด็กเด็กชาวบ้าน | ||
| ล้วนแต่ลูกหลานชายนายโคบาล | อยู่ปลายแดนด่านกรุงสามนต์ | ||
| ครั้นกินข้าวเช้าแล้วลงจากเรือน | เที่ยวร้องเรียกพวกเพื่อนสับสน | ||
| เปิดคอกไล่โคของตน | ถือปฏักต่างคนต้อนมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ ครั้นออกมาถึงที่ทำไร่ | จึงปล่อยโคไว้ให้กินหญ้า | ||
| เห็นเงาะยืนอยู่บนคันนา | อ้ายนี่บ้าหรือมิใช่ไยอย่างนี้ | ||
| รูปร่างหัวหูก็ดูแปลก | ลางคนว่าแขกกะลาสี | ||
| อย่าไว้ใจมันมักควักเอาดี | นึกกลัวเต็มที่วิ่งหนีพลาง | ||
| บ้างว่าอ้ายนี่ลิงทะโมนใหญ่ | บ้างเถียงว่าทำไมไม่มีหาง | ||
| หน้าตามันขันยิงฟันฟาง | หรือจะเป็นผีสางที่กลางนา | ||
| คนหนึ่งไม่กลัวยืนหัวเราะ | นี่เขาเรียกว่าเงาะแล้วสิหนา | ||
| มันไม่ทำไม่ใครดอกวา | ชวนกันเมียงเข้ามาเอาดินทิ้ง | ||
| บ้างได้ดอกหงอนไก่เสียบไม้ล่อ | ตบมือผัดพ่อล่อให้วิ่ง | ||
| ครั้งเงาะแล่นไล่โลดกระโดดชิง | บ้างล้มกลิ้งวิ่งปะทะกันไปมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ พวกเด็กเด็กหยอกเย้าเข้าฉุด | อุตลุดล้อมหลังล้อมหน้า | ||
| แล้วชวนเล่นจ้องเตเฮฮา | โห่ร้องฉาวฉ่านี่นัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นถึงเวลากินผอก | แก้ห่อข้าวออกขมีขมัน | ||
| เกลอเอ๋ยมากินด้วยกัน | เห็นเงาะนั้นเข้ากินก็ยินดี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นว่าเวลาบ่ายควาย | เด็กเด็กทั้งหลายเข้าล้อมมี่ | ||
| ไปบ้านด้วยกันหรือวันนี้ | เงาะเดินเชือนหนีเสียมิไป | ||
| ถ้ากระนั้นก็นอนอยู่เฝ้านา | ช่วยขับนกขับกาอย่าไปไหน | ||
| พรุ่งนี้จึงจะมาอย่าร้อนใจ | แล้วไล่โคคืนมาทันที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
ตอนที่ ๕ ท้าวสามนต์ให้นางทั้งเจ็ดเลือกคู่
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสามนต์เรืองศรี | ||
| เสวยราชสมบัติสวัสดี | ในบุรีสามนต์พระนคร | ||
| อันองค์เอกอัครชายา | ชื่อมณฑาเทวีศรีสมร | ||
| มีธิดานารีร่วมอุทร | ทั้งเจ็ดนามกรต่างกัน | ||
| น้องนุชสุดท้องชื่อรจนา | โสภาเพียงนางในสวรรค์ | ||
| พรั่งพร้อมพระสนมกำนัล | เป็นสุขทุกนิรันดร์วันคืน | ||
| ท้าวคิดรำพึงถึงเวียงชัย | นานไปจะเป็นของเขาอื่น | ||
| เห็นจะไม่จิรังยั่งยืน | ด้วยลูกเต้าแต่พื้นเป็นธิดา | ||
| จำจะคิดปลูกฝังเสียยังแล้ว | ให้ลูกแก้วมีคู่เสน่หา | ||
| ถ้าเขยคนใดดีมีปัญญา | จะยกพารามองให้ครอบครอง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คิดพลางทางเรียกมเหสี | พามาทีปรึกษาสองต่อสอง | ||
| เจ้าจงดำริตริตรอง | แต่เราครองราชฐานมานานช้า | ||
| ทุกวันนี้ดูพี่กับตัวเจ้า | ไม่เที่ยงแท้แก่เฒ่าลงนักหนา | ||
| เจ็บปวดครุ่นไปไข้ชรา | ถอยกำลังวังชาลงทุกปี | ||
| ยิ่งคิดคิดไปให้ใจสั้น | จะตายวันตายพรุ่งมิรู้ที่ | ||
| พี่ปรารมภ์สมบัติของเรานี้ | ถ้าแม้นหากบุญพี่ไม่จีรัง | ||
| จงช่วยกันดำริตริตรองดู | จะหาคู่ให้ลูกปลูกฝัง | ||
| จะแบ่งปันข้าวของในท้องคลัง | ให้ครอบครองเวียงวันเห็นทันตา | ||
| จะจัดแจงแต่งตามอารมณ์เรา | เหมือนข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า | ||
| กลัวเกลือกทั้งเจ็ดธิดา | มันจะไม่เสน่หาก็มิรู้ | ||
| ลางเนื้อชอบลางยาไม่ว่าได้ | ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ | ||
| คำบุราณท่านว่าไว้เป็นครู | พิเคราะห์ดูให้ต้องทำนองใน | ||
| พี่คิดจะประชุมให้พร้อมพรั่ง | กษัตริย์ทั้งร้อยเอ็ดหัวเมืองใหญ่ | ||
| ให้บุตรีเราเลือกตามชอบใจ | เจ้าจะเห็นกระไรจงว่ามา | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑาเสนหา | ||
| จึงทูลสนองพระบัญชา | ซึ่งตรัสมานี้ต้องประเพณี | ||
| จะให้เป็นแก่นสารแก่บ้านเมือง | ได้ลือเลื่องไปทั่วทุกกรุงศรี | ||
| ตามแต่ภูวไนยจะเห็นดี | อันน้องนี้ไม่ขัดทัดทาน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| เสด็จจากแท่นที่มิทันนาน | ออกพระโรงชัชวาลทันใด | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| สามไม้ | |||
| ๏ ลดองค์ลงนั่งเหนือเก้าอี้ | ตรัสสั่งเสนีผู้ใหญ่ | ||
| แต่บรรดาเมืองขืนของเราไซร้ | ทั้งร้อยเอ็ดเวียงชัยเคยไปมา | ||
| ผู้ใดมีโอรสรูปงาม | แต่ในสามสิบเศษชันษา | ||
| ที่ยังไม่มีภริยา | ให้จัดแจงแต่งมาทุกธานี | ||
| เราจะให้ธิดาทั้งเจ็ดองค์ | เลือกดูรูปทรงส่งศรี | ||
| ถ้าลูกเราชอบใจจะได้ดี | จะเสกกับบุตรีให้ครองกัน | ||
| จงแต่งตราว่าตามความใน | ให้คนเร็วรีบไปทุกเขตขัณฑ์ | ||
| กำหนดไว้โดยช้าสิบห้าวัน | ให้มาถึงพร้อมกันยังธานี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์รับสั่งใส่เกศี | ||
| ถวายบังคมคัลอัญชลี | มาแต่งตราตามมีพระบัญชา | ||
| แล้วจัดเสนากว่าร้อย | เคยใช้สอยคล่องแคล่วแกล้วกล้า | ||
| สั่งความตามมีในท้องตรา | จงรีบไปรีบมาอย่านอนใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ขุนหมื่นพันทนายน้อยใหญ่ | ||
| ต่างรีบผายผันแยกกันไป | เวียงชัยทั้งร้อยเอ็ดพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเข้าไปวันทา | กราบทูลกษัตราทุกเขตขัณฑ์ | ||
| แจ้งตามบัญชาสารพัน | ถวายหนังสือนั้นทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายพระยาร้อยเอ็ดบุรีศรี | ||
| คลี่สารอ่านดูรู้คดี | เปรมปรีดิ์เป็นพ้นคณนา | ||
| ต่างเรียกโอรสมาบอกเล่า | เป็นลาภเราแล้วลุกเสน่หา | ||
| จงตรวจตราบ่าวไพร่เร่งไคลคลา | ไปพาราสามนต์ให้ทันการ | ||
| บ้างคิดมุยุลูกให้หย่าเมีย | จำจะทิ้งเปรี้ยวเสียไปกินหวาน | ||
| ที่บุตรหามีไม่ใจทะยาน | คิดจัดแจงแต่งหลานเปลี่ยนไป | ||
| แล้วเลือกของอย่างยิ่งทุกสิ่งสรรพ์ | สำหรับบรรณาการประทานให้ | ||
| ต่างองค์อำนวนอวยชัย | เจ้าไปให้ได้ครองพระธิดา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์สรวลสันต์หรรษา | ||
| นบนิ้วประนมบังคมลา | แล้วมาแต่งองค์อร่ามเรือง | ||
| บ้างขึ้นทรงรถคชสาร | ขี่ม้าผ่านขาวเขียวกะเลียวเหลือง | ||
| ต่างยกโยธานองเนือง | ออกจากเมืองรีบร้อนสัญจรไพร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพาราสามนต์ | จึงพักพลไว้นอกกรุงใหญ่ | ||
| ชวนกันลีลาคลาไคล | เข้าหาเสนาในทันที | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ผู้ใหญ่ในกรุงศรี | ||
| พูดจาปราศรัยโดยไมตรี | เอาบาญชีท้าวพระยาที่มานั้น | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นได้นามทูลหน่อกษัตรา | เสนาสี่นายก็ผายผัน | ||
| เข้าไปในท้องพระโรงคัล | อภิวันท์ทูลแถลงให้แจ้งใจ | ||
| บันนี้หน่อกษัตริย์ทุกพารา | ทั้งร้อยเอ็ดนั้นมาถึงกรุงใหญ่ | ||
| แล้วอ่านรายชื่อเสียงเรียงลงไป | ตามในหางว่าวท้าวพระยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระผู้ผ่านเขตขัณฑ์หรรษา | ||
| จึงสั่งทั้งสี่เสนา | เร่งแต่งที่ข้างหน้าให้พร้อมไว้ | ||
| จงนำกษัตราทุกธานี | มาประชุมในที่พระโรงใหญ่ | ||
| เราจะให้ทั้งเจ็ดอรไท | มาเลือกตามชอบใจในพรุ่งนี้ | ||
| เร่งจัดวังให้เสร็จทั้งเจ็ดแห่ง | จะได้แต่งตั้งการภิเษกศรี | ||
| สั่งเสร็จพระเสด็จจรลี | ขึ้นสู่ที่ข้างในมิได้ช้า | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงเจ้าพนักงานถ้วนหน้า | ||
| เร่งจัดแจงแต่งที่ดังบัญชา | บ้างไปบอกกษัตราให้เตรียมกาย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พวกเหล่าท้าวพระยาทั้งหลาย | ||
| ต่างองค์กระหยิ่มพริ้มพราย | ให้กระสันมั่นหมายวุ่นวายใจ | ||
| บ้างหยิบผ้ายกทองนุ่งลองดู | ใครใครเห็นไม่สู้รูปกูได้ | ||
| พรุ่งนี้มิคนหนึ่งก็คนไร | จะจงจิตพิสมัยเป็นมั่นคง | ||
| บ้างนั่งนึกตริกหาอุปเท่ห์ | จะทำด้วยเสน่ห์ให้ลุ่มหลง | ||
| เห็นจะรุมรักเราทั้งเจ็ดองค์ | คิดทะนงเปรมปรี่มกระหยิ่มใจ | ||
| ลางองค์ถือมั่นโดยปัญญา | วาสนาหลังส่งแล้วคงได้ | ||
| สุดแท้แต่กุศลสร้างไว้ | จะเดือดเนื้อร้อนใจไปไยมี | ||
| บ้างเรียกหาหมอดูมาจับยาม | ให้ทายตามชะตาราศี | ||
| จะสมคะเนหรือไม่ในพรุ่งนี้ | แต่เซ้าซี้ซักไซ้ไม่นิทรา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| โทน | |||
| ๏ ครั้นรุ่งแสงสุริย์ใสไตรตรัส | ทั้งร้อยเอ็ดกษัตริย์ทรงภูษา | ||
| สอดเครื่องประดับระยับตา | แต่งกายาโอ่อวดประกวดกัน | ||
| บ้างถือห่อบุหงาทัดยาดม | ผ้าห่มชุบน้ำกุหลาบกลั่น | ||
| ต่างองค์กรายกรจรจรัล | พากันเข้าไปในวัง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงท้องพระโรงข้างหน้า | อำมาตย์มาจัดแจงให้ลุกนั่ง | ||
| ต่างชิงขึ้นหน้าว่าไม่ฟัง | บ้างถุ้งเถียงเสียงดังอึงไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ยิ้มแย้มเจ่มใส | ||
| จึงชวนเมียรักร่วมใจ | ออกไปแย้มแกลแลดู | ||
| เห็นหน่อกษัตริย์ที่มานั้น | หน้าตาคมสันขยันอยู่ | ||
| คนข้างหลังลาดเลาเป็นเจ้าชู้ | ตาหูชอบกลเจ้ามณฑา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ คนโน้นรูปร่างกระจ้อยร่อย | หนุ่มน้อยน่ารักหนักหนา | ||
| คนนี้ที่ถัดกันลงมา | หน้าตาเป็นประมาณพานพอดี | ||
| โน่นแน่คนนั้นอยู่ชั้นล่าง | รูปร่างจ้ำม่ำดำมิดหมี | ||
| เห็นหรือไม่คนนั้นขันสิ้นดี | หน้างอกออกฝีประปราย | ||
| ดูพลางทางสั่งเมียรัก | อย่าช้านักเลยเจ้าจะจวนสาย | ||
| จงเร่งรัดจัดแจงแต่งกาย | บุตรีโฉมฉายขึ้นมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑาเสน่หา | ||
| จึงพาทั้งเจ็ดธิดา | ไปสระสรงคงคาวารี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ แต่งตัวตั้งใจจะให้งาม | ขมิ้นใส่ส้มมะขามขัดสี | ||
| แล้วอาบน้ำชำระอินทรีย์ | ทาแป้งสารภีรื่นรวย | ||
| กระจกตั้งคันฉ่องส่องเงา | ผิวพรรณผมเผ้างามฉลวย | ||
| ใส่น้ำมันกันกวดกระหมวดมวย | ผัดหน้าด้วยแป้งญวนเป็นนวลแดง | ||
| นุ่งผ้ายกอย่างต่างกัน | ช่อชั้นเชิงชายลายก้านแย่ง | ||
| สไบหน้าเจียระบาดตาดทองแดง | เข็มขัดสายลายแทนประจำยาม | ||
| สร้อยนวมสวมสอดสังวาลวรรณ | ตาบกุดั่นเรืองรองทองอร่าม | ||
| กำไลสวมเก้าคู่ดูงาม | ใส่แหวนเพชรแวววามครามสอดซับ | ||
| ทรงกรอบพักตร์พรรณรายพรายแพรว | กรรเจียกแก้วมณีสีสลับ | ||
| ใส่ตุ้มหูห้อยพลอยระยับ | ครั้นเสร็จสรรพขึ้นเฝ้าท้าวไท | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| มูโล่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ยิ้มย่องผ่องใส | ||
| จึงตรัสแก่ธิดายาใจ | พ่อให้ประชุมกษัตรา | ||
| นงเยาว์เจ้าจงไปเลือกคู่ | ที่สมควรเป็นคู่เสน่หา | ||
| ถ้าแม้นประกอบชอบวิญญาณ์ | จงทิ้งมาลัยไปให้สวมมือ | ||
| พ่อจะแต่งตั้งการสยุมพร | ให้บังอรออกหน้าค่าชื่อ | ||
| แต่เฝ้าปลอบสองรื้อสามรื้อ | ดูดู๋ดื้อหนักหนาน่าขัดใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดบุตรีศรีใส | ||
| ผูกคิ้วนิ่วหน้าไม่คลาไคล | ก้มแกะเสื่อลันไตไปมา | ||
| ให้นึกอัปยศอดอาย | จะไปเลือกผู้ชายน่าขายหน้า | ||
| ยิ่งคิดยิ่งเขิมเมินพักตรา | กัลยามิได้จรลี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระบิตุเรศเรืองศรี | ||
| กล่าวเกลี้ยงเลี่ยงปลอบให้ชอบที | วันดีแล้วแม่อย่าแชเชือน | ||
| อุตส่าห์แข็งวิญญาณ์คลาไคล | พ่อจะให้พี่เลี้ยงไปเป็นเพื่อน | ||
| อะไรเฝ้าม้วนมิดบิดเบือน | ไม่เขยื้อนจากที่น่าตีรัน | ||
| นวลนางมณฑาช่วยว่ากล่าว | ลูบหลังลูกสาวแล้วรับขวัญ | ||
| ไปเถิดแม่ไปอย่าใจรั้น | ส่งมาลัยให้พลันทั้งเจ็ดองค์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบุตรีแน่งน้อยนวลหง | ||
| กลัวจะเคืองจิตบิตุรงค์ | โฉมองค์ขยัยกายแล้วอายใจ | ||
| แต่ทำม่อยม้วยกระบวนกระบิด | แก้เก้อสะกิดพี่ผู้ใหญ่ | ||
| ต่อบิดรเตือนซ้ำจึงจำไป | กำนัลในพี่เลี้ยงเคียงมา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ กินนรรำ | |||
| ๏ ถึงท้องพระโรงธารม่านกั้น | เจ็ดนางนึกพรั่นเป็นหนักหนา | ||
| ให้อดสูผู้ชายอายวิญญาณ์ | หน่วงหนักชักช้าไม่คลาไคล | ||
| พี่เลี้ยงทูลเตือนให้จรลี | นางหยิกตีค้อนควักผลักไส | ||
| เข้าแอบแฝงม่านกั้นชั้นใน | ขวยเขินสะเทินใจไปมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์นั่งคอยอยู่ข้างหน้า | ||
| บ้างสะกิดเพื่อนกันจำนรรจา | เมื่อไรจะออกมารำคาญใจ | ||
| ต่างคนกระหยิ่มยิ้มย่อง | ชะเง้อคอคอยมองหาเมินไม่ | ||
| แลตามตีนม่านเห็นไวไว | เอ๊ะแล้วมิใช่ดอกกระมัง | ||
| ลางคนคะนองทำร้องบอก | หลอนหลอกเพื่อนอยู่ข้างหลัง | ||
| ไม่เคยเห็นรูปร่างนางชาววัง | นิ่งนั่งตั้งสติอย่าเมินไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พี่เลี้ยงกัลยาอัชฌาสัย | ||
| จึงปลอบพระธิดายาใจ | เอออะไรมาเป็นเช่นนี้ | ||
| พระบิดาสั่งให้ไปเลือกคู่ | จะอดสูใครเล่านะเจ้าพี่ | ||
| เราเป็นใจไปเองเมื่อไรมี | ไม่พอที่จะขืนขัดบัญชา | ||
| แม้นพระบิตุเรศรู้เหตุผล | เห็นพี่จะไม่พ้นโทษา | ||
| ว่าพลางผลักไสให้ไคลคลา | รบเร้าเฝ้าว่าวิงวอน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดพระธิดาดวงสมร | ||
| จำเป็นจำใจบทจร | บังอรอดสูดูร้าย | ||
| ทำลับลับล่อล่อรอรั้ง | เบียดบังพี่เลี้ยงเมียงม่าย | ||
| ผันแปรแลหลบตาชาย | ทั้งอายทั้งสะเทินเดินเลือกไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงฉิ่ง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์นับร้อยน้อยใหญ่ | ||
| เห็นเจ็ดพระธิดายาใจ | ให้คิดพิสมัยในรูปทรง | ||
| ตั้งใจดูนางไม่วางตา | เสน่หารุมรึงตะลึงหลง | ||
| งามโฉมชะอ้อนอ่อนเอวองค์ | งามขนงวงพักตร์โสภา | ||
| บ้างพูดกับเพื่อนสนิทไม่คิดอาย | อันน้องนุชสุดท้ายคงตายข้า | ||
| เดี๋ยวนี้และมาลัยจะลอยมา | เจ้าคนนั้นกั้นหน้าข้าไว้ไย | ||
| บ้างนั่งหยัดดัดทรงดูนรลักษณ์ | เหลือบมาสบพักตร์ยักคิ้วให้ | ||
| ครั้นนางสะเทินเมินหน้าไป | แกล้งทำกระแอมไอเป็นแยบคาย | ||
| บ้างพลางโกรธขึ้งหึงเพื่อนกัน | นางคนนั้นของข้าใครอย่าหมาย | ||
| ต่างทะเลาะเกาะแกะกันวุ่นวาย | ถุ้งเถียงท้าทายมากมายไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งเจ็ดบุตรีศรีใส | ||
| แต่เก้อเก้ออายอายวุ่นวายใจ | เลือกกษัตริย์น้อยใหญ่ทุกหน้ามา | ||
| อันทั้งหกเทวีพี่นาง | เลือกได้รูปร่างงามหนักหนา | ||
| เมียงม่ายหมายทิ้งพวงมาลา | สวมหัตถ์กษัตราทั้งหกองค์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ฝ่ายโฉมรจนาทรามวัย | นางไม่ต้องจิตคิดประสงค์ | ||
| กลับมาเฝ้าบาทบิตุรงค์ | โฉมยงบังคมก้มพักตรา | ||
| จึงทูลว่ากษัตริย์ทั้งนั้นไซร้ | ลูกมิได้มุ่งมาดปรารถนา | ||
| จะขออยู่สนองรองบาทา | ไปกว่าชีวันจะบรรลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์บ่นออดทอดใจใหญ่ | ||
| ลูกเอ๋ยพ่อนี้หวังตั้งใจ | จะจัดแจงแต่งให้เห็นทันตา | ||
| จึงประชุมพร้อมพรั่งครั้งนี้ | แต่ล้วนลูกผู้ดีมียศถา | ||
| ทั้งรูปทรงส่งศรีโสภา | ยังไม่เสน่หาอาลัย | ||
| แม่มณฑาจะคิดกระไรเล่า | ยังคนเดียวดอกเจ้าทำกรรมให้ | ||
| มันไม่สิ้นห่วงบ่วงใย | ฉวยชั่วไปก็รำคาญขี้คร้านตี | ||
| พี่คิดว่าสุดแท้แต่เราเถิด | ไม่พักประดักประเดิดจู้จี้ | ||
| แต่งพร้อมกับพี่สาวเสียคราวนี้ | หรือไม่เห็นด้วยพี่จงท้วงติง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาหวั่นจิตคิดกริ่ง | ||
| จึงแถลงแจ้งในใจจริง | อันเป็นหญิงพงศ์เผ่าเหล่ากอ | ||
| ถ้าใจไม่สมัครรักผัว | มักทำชั่วให้อายขายหน้าพ่อ | ||
| พระองค์จงได้รั้งรอ | น้องจะขอให้ป่าวชาวพารา | ||
| ครั้งนี้อย่าเลือกว่าแก่หนุ่ม | หามาประชุมจงพร้อมหน้า | ||
| ให้เลือกตามใจรักอีกสักครา | สุดแต่วาสนาธิดาเรา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ตอบชอบแล้วเจ้า | ||
| ที่ความวิตกนั้นค่อยบรรเทา | น้อยหรือนั่นขวัญข้าวเจ้าช่างคิด | ||
| ว่าพลางทางมีบัญชา | ตรัสเรียกเสนาคนสนิท | ||
| จงเข้ามาข้างในให้ใกล้ชิด | ประกาศิตสั่งไปมิได้ช้า | ||
| อันหน่อกษัตริย์ทั้งหกองค์ | ซึ่งลูกรักเราจงเสน่หา | ||
| ให้อยู่วังยั้งท่ารจนา | จะแต่งการวิวาห์ให้พร้อมกัน | ||
| แต่พวกเมืองออกนอกนั้นไซร้ | ให้กลับไปนิเวศน์เขตขัณฑ์ | ||
| เร่งร้องป่าวชาวเมืองทั้งปวงนั้น | จนชั้นทรพลคนเข็ญใจ | ||
| ให้มันแต่งตัวตามทำนอง | มาประชุมหน้าท้องพระโรงใหญ่ | ||
| จะให้ลูกรักร่วมฤทัย | เลือกคู่ดูใหม่ในพรุ่งนี้ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เสนารับสั่งใส่เกศี | ||
| มาบอกกษัตราทุกธานี | ตามมีพระราชบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หน่อกษัตริย์ทั้งหกเร่งหรรษา | ||
| นั่งสบายอารมณ์ดมมาลา | หัวเราะร่าขาแข้งกระดิกเพลา | ||
| บ้างพูดจาเปรียบเปรยเย้ยเพื่อนกัน | อย่างไรนั่นลงนั่งกอดเข่า | ||
| วาสนาหาไม่แล้วชาวเรา | แต่ได้เข้ามาเห็นก็เป็นดี | ||
| หกองค์กระหยิ่มยิ้มย่อง | ผุดผ่องพักตราราศี | ||
| ต่างต่างย่างเยื้องจรลี | เสนีนำหน้าพาไปวัง | ||
| พวกที่ไม่สมปรารถนา | ดังจะเสียวิญญาณ์เป็นบ้าหลัง | ||
| น้อยใจด้วยผู้หญิงชิงชัง | วาสนาหนหลังช่างอาภัพ | ||
| ต่างแกล้งทำชื่นฝืนอารมณ์ | บ้างเดินหกล้มบ้างลมจับ | ||
| เหงื่อไหลอาบหน้าเอาผ้าซับ | ขึ้นม้าช้างต่างกลับไปเวียงชัย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนานายอำเภอน้อยใหญ่ | ||
| ทั้งรั้วแขวงตีฆ้องร้องป่าวไป | ทั่วในจังหวัดนัครา | ||
| พรุ่งนี้แต่มืดขมุกขมัว | จงจัดแต่งตัวให้โอ่อ่า | ||
| เข้าไปหน้าพระลานชานชาลา | พระธิดาจะเลือกเป็นคู่ครอง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ประชาชายรู้ทั่วทุกบ้านช่อง | ||
| บ้างเต้นบ้างรำทำคะนอง | กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ทุกคน | ||
| พวกนักเลงเล่นเบี้ยเสียถั่ว | ครอบครัวอัตคัดขัดสน | ||
| ไม่มีผ้าเสื้อแสงจะแต่งตน | เที่ยวซุกซนยืมหยิบเพื่อนกัน | ||
| เหล่าพวกอุตริริร่าง | ตัดผมยักอย่างให้สอยสั้น | ||
| หวีกระจายรายเส้นเป็นแปรงชัน | เช็ดน้ำมันกันหน้าด้วยมีดน้อย | ||
| บ้างติดตำรับใหญ่เอาไฟอัง | กระจกตั้งนั่งหย่งก่งคอสอย | ||
| แค้นใจไม่ใคร่จะเรียบร้อย | เฝ้าตะบอยหวีหัวมัวเมา | ||
| พวกเหล่าเจ้าชู้หัวอะกรม | เผ้าผมตกแสกทำหน้าเศร้า | ||
| เชิงจะพูดจะจาคิ้วตามเพรา | นั่งไหนกอดเข่าเฝ้าทำทุกข์ | ||
| พวกขุนนางต่างแต่งตัวลอง | นุ่งยกทองเกี้ยวส่านสีหมากสุก | ||
| บ้างนุ่งลายพื้นตองลองนั่งลุก | ดูกระปุกกระปุยกรุยกราย | ||
| ที่ป่วยไข้ได้ข่าวเขาป่าวร้อง | ลุกขึ้นเดินได้คล่องเหมือนหนึ่งหาย | ||
| พาลโกรธภรรยาด่าแม่ยาย | เคืองขุ่นวุ่นวายเพราะรายนึก | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นไก่ขันแซ่เสียงเที่ยงคืน | ต่างคนต่างตื่นขึ้นแต่ดึก | ||
| ตกแต่งกายาโอฬารึก | อื้ออึงอึกทึกไปทุกคน | ||
| บ้างทาแป้งแต่งตัวฉุยฉาย | นุ่งลายนอกอย่างหางปัดสัน | ||
| บ้างนุ่งห่มสมตัวตามจน | สับสนอลหม่านไม่หลับนอน | ||
| พอท้องฟ้าขาวเช้าตรู่ | ที่ใครอยู่บ้านใกล้ก็ไปก่อน | ||
| เนืองแน่นถนนในนคร | ค่อยผ่อนเข้าไปในวัง | ||
| ลางคนแก่เฒ่าเกือบเข้าโลง | ก็เดินหอบหิ้งโครงมาข้างหลัง | ||
| ถือไม้เท้าโซเซเก้กัง | เข้ามาด้วยเขามั่งไม่เจียมตน | ||
| ที่เป็นง่อยเพลียเสียแข้งขา | ก็นั่งถดถัดมาตามถนน | ||
| เจ็บปวดไม่ว่าอุตส่าห์ทน | เสลือกสลนกล่นเกลื่อนกันมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ คับคั่งทั้งท้องพระโรงชัย | ผู้ดีปนเข็ญใจก็ไม่ว่า | ||
| อยากจะใคร่ได้องค์พระธิดา | ต่างคิดสมบัติบ้าอยู่ทุกคน | ||
| บ้างชิงที่ตีต่อยปะเตะปะตะ | เอะอะอึงคะนึงสับสน | ||
| ตำรวจวังถือหวายวิ่งวน | ไล่ขู่ผู้คนอยู่เป็นควัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามานต์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ | ||
| จึงตรัสแก่ธิดาดวงจันทร์ | จอมขวัญของพ่อผู้ยอดรัก | ||
| บัดนี้ชาวเมืองมาพร้อมหน้า | จงไปทัศนาให้ประจักษ์ | ||
| เลือกคู่ดูให้งามพักตร์ | ตามแต่ใจรักเถิดลูกยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาเสน่หา | ||
| ก้มเกล้าดุษฎีแล้วลีลา | สองพี่เลี้ยงกัลยาก็ตามไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เดินดูเสนาข้าเฝ้า | ทั้งเหล่าเศรษฐีผู้ดีไพร่ | ||
| ให้เคืองคายนัยน์เนตรนางทรามวัย | มิได้ประกอบชอบวิญญาณ์ | ||
| นางจึงเสด็จกลับมาฉับพลัน | อภิวันท์บิตุเรศนาถา | ||
| ทูลว่าชาวเมืองที่ป่าวมา | ลูกไม่เสน่หาอาลัย | ||
| ขออยู่ด้วยชนกชนนี | ที่จะมีภัสดานั้นหาไม่ | ||
| เบื้องหน้าถ้าตัวลูกชั่วไป | จงฆ่าเสียอย่าไว้ชีวิต | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๖ พระสังข์ได้นางรจนา
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสามนต์จนจิต | ||
| กอดเข่าเข้าตะลึงรำพึงคิด | อกกูดูผิดประหลาดใจ | ||
| บุรุษในแผ่นดินก็สิ้นแล้ว | ควรหรือลูกแก้วไม่เลือกได้ | ||
| คิดพลางทางเสด็จคลาไคล | ออกบัญชรชัยมิได้ช้า | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| เพลงฝรั่ง | |||
| ๏ จึงตรัสแก่เสนาข้าเฝ้า | คนในเมืองเราถึงแสนกว่า | ||
| ที่อยู่บ้านนอกขอกนา | ขับมาหมดสิ้นแล้วหรือยัง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาทูลไปดังใจหวัง | ||
| ไพร่ฟ้ามาประชุมอยู่ในวัง | ทั่วทั้งแผ่นดินสิ้นชาย | ||
| เหลือแต่เงาะป่าทรพล | หน้าตาผิดคนทั้งหลาย | ||
| หัวพริกหยิกยุ่งหยาบคาย | ตัวลายคล้ายกันกับเสือปลา | ||
| ใครจะบอกจะเล่าไม่เข้าใจ | พูดจาไม่ได้เหมือนใบ้บ้า | ||
| เล่นอยู่กับเด็กที่กลางนา | จงทราบบาทาภูวไนย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังแจ้งแถลงไข | ||
| ด้วยเดชะเทพเจ้าเข้าดลใจ | เผอิญให้กริ้วโกรธบุตรี | ||
| จึงตรัสแก่องค์อัครชายา | น้อยหรือรจนาลูกสาวศรี | ||
| เลือกคู่ดูใครไม่ไยดี | จนสิ้นชายไม่มีทั้งพารา | ||
| เหลือแต่เงาะป่าเป็นบ้าใบ้ | เอามาให้มันเลือกสมน้ำหน้า | ||
| ว่าพลางทางสั่งเสนา | จงไปพาอ้ายเงาะมาในวัง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาคำนับรับสั่ง | ||
| ต่างวิ่งวางไปมิได้ยั้ง | มายังกลางทุ่งท้องนา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงบอกแก่เจ้าเงาะ | รับสั่งจำเพาะให้หา | ||
| เร็วเร็วมาไปอย่าได้ช้า | ต่างคนฉุดคร่าวุ่นวาย | ||
| บ้างเปลื้องผ้าคาดพุงผูกมัด | เจ้าเงาะวัดถูกอกหกล้มหงาย | ||
| ลางคนวิ่งออกมาบอกนาย | แรงมันมากมายเหมือนควายวัว | ||
| บ้างพยักกวักเรียกเจ้าเงาะขา | ไม่พูดจาด้วยกันเฝ้าสั่นหัว | ||
| ที่ใจคอขี้ขลาดหวาดกลัว | ระวังตัวยืนดูอยู่แต่ไกล | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บ้างทำเย้ายั่วให้หัวเราะ | ค่อยปะเหลาะลูบหลังเข้านั่งใกล้ | ||
| เกลอเอ๋ยอย่าช้ามาจะไป | นี่คนหรือตอไม้ไม่พูดจา | ||
| เสนีนายใหญ่ให้ไพร่เลว | เอาพวนผูกบั้นเอวเจ้าเงาะป่า | ||
| ต่างเข้าฉุดชักเต็มประดา | สาระพาเฮโลโย้ตามกัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เชือกขาดล้มคว่ำคะมำไป | ลุกขึ้นดัดหลังไหล่กระดูกลั่น | ||
| นิ่วหน้าสั่นหัวกลัวแรงมัน | ต่างปรึกษากันเป็นจนใจ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงเด็กเลี้ยงโคน้อยใหญ่ | ||
| เห็นคนกลุ้มรุมฉุดเงาะไพร | ขัดใจวิ่งพลางทางร้อง | ||
| จะเอาเงาะเขาไปข้างไหนนั่น | ข่มเหงกันไม่บอกเราเจ้าของ | ||
| มิถูกอิฐหัวผ่าก็อย่าลอง | ไว้ไยไล่ถ่องให้แทบตาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาฮึกฮักชักหวาย | ||
| เหม่เจ้าเหล่านี้หลังจะลาย | อย่าวุ่นวายอ้ายหัวเหาเต่าเล็น | ||
| รับสั่งให้เอาตัวอ้ายเงาะป่า | จะทอดพระเนตรหน้าตาไม่เคยเห็น | ||
| มันเป็นใบ้บ้าว่ายากเย็น | เอ็งรู้ใจได้เล่นกับมันมา | ||
| เคยอย่างไรจงบอกอย่าหลอกกัน | ให้ได้มันเข้าไปถวายหน้า | ||
| กูจะให้ขนมเข่งของทยา | กินอร่อยหนักหนาประสาจน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงเด็กดีใจเสลือกสลน | ||
| ต่างชิงกันบอกออกลน | แต่เป็นคนแล้วอย่าฉุดให้เหนื่อยแรง | ||
| ถ้าขืนหยักเหย้าเซ้าซี้ | มันขัดใจจะหนีไปแอบแฝง | ||
| จงให้ไปเก็บดอกไม้แดง | มาผูกปลายไม้แกว่งแต่ไกลไกล | ||
| ค่อยวิ่งรอรอล่อเล่น | เงาะเห็นก็จะผลุนหมุนไล่ | ||
| จะพาไปถึงวังได้ดังใจ | เอาขนมมาให้ข้าเถิดรา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | อำมาตย์ตบมือหัวเราะร่า | ||
| ต่างวิ่งชิงเก็บดอกชบา | ผูกปลายไม้มาล่อเงาะ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พวกหลังไสส่งให้ตรงไป | ถือดอกไม้นำหน้าพาวิ่งเหยาะ | ||
| ลางคนบ้างกลัวบ้างหัวเราะ | ล่อเงาะเข้ามาถึงวังใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ บัดนั้น | ฝูงสนมกำนัลน้อยใหญ่ | ||
| แอบดูอยู่ที่บัญชรชัย | แลไปเห็นเงาะหัวเราะอึง | ||
| บ้างว่าน่าชังเป็นหนักหนา | แลดูหูตาตื่นทะลึ่ง | ||
| รูปร่างอัปรีย์ขี้ทึ้ง | เหมือนหนึ่งภูตผีที่กลางนา | ||
| ลางคนบ่นว่าถ้าเช่นนี้ | ฟ้าผี่เถิดไม่นึกปรารถนา | ||
| น่ากลัวตัวดำเหมือนคุลา | ต่างติเงาะป่าว่าวุ่นไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนามาทูลแถลงไข | ||
| ข้าออกไปเอาตัวอ้ายเงาะไพร | บัดนี้ได้มาแล้วพระราชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เห็นเงาะชังน้ำหน้า | ||
| เนื้อตัวเป็นลายคล้ายเสือปลา | ไม่กลัวใครใจกล้าดุดัน | ||
| ผมหยิกยุ่งเหยิงเหมือนเซิงฟัก | หน้าตาตละยักษ์มักกะสัน | ||
| พระเมินเสียมิได้ดูมัน | แล้วมีบัญชาประชดรจนา | ||
| จงออกไปเลือกคู่ดูอ้ายเงาะ | มันงามเหมาะเหลือใจเป็นใบ้บ้า | ||
| หรือจะชอบอารมณ์สมหน้าตา | หน่อกษัตริย์จัดมาไม่พอใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนานารีศรีใส | ||
| เทวดาเดินหนดลฤทัย | อยากจะใคร่ดูเงาะจำเพาะเป็น | ||
| จึงตรัสแก่พี่เลี้ยงกัลยา | เงาะป่าอย่างไรไม่เคยเห็น | ||
| เขาว่าหน้ามันปั้นยากเย็น | เราออกไปดูเล่นก็เป็นไร | ||
| ซึ่งบิดาเคืองขัดตรัสประชด | เผอิญลืมไปหมดไม่สงสัย | ||
| จึงเสด็จลีลาคลาไคล | มายังพระโรงชัยฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลง | |||
| ลีลากระทุ่ม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน | ||
| พิศโฉมพระธิดาวิลาวัณย์ | ผุดผาดผิวพรรณดังดวงเดือน | ||
| งามละม่อมพร้อมสิ้นทั้งอินทรีย์ | นางในธรณีไม่มีเหมือน | ||
| แสร้งทำแลเลี่ยงเบี่ยงเบือน | ให้ฟั่นเฟือนเตือนจิตคิดปอง | ||
| พระจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน | แม้นบุญญาธิการเคยสมสอง | ||
| ขอให้ทรามสงวนนวลน้อง | เห็นรูปพี่เป็นทองต้องใจรัก | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนานารีมีศักดิ์ | ||
| เทพไทอุปถัมภ์นำชัก | นงลักษณ์ดูเงาะเจาะจง | ||
| นางเห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน | รูปเงาะสวมไว้ให้คนหลง | ||
| ใครใครไม่เห็นรูปทรง | พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา | ||
| ชะรอยบุญไซร้จึงได้เห็น | ต่อจะเป็นคู่ครองกระมังหนา | ||
| คิดพลางนางเสี่ยงมาลา | แม้ว่าเคยสมภิรมย์รัก | ||
| ขอให้พวงมาลยนี้ไปต้อง | เจ้าเงาะรูปทองจงประจักษ์ | ||
| เสี่ยงแล้วโฉมยงนงลักษณ์ | ผินพักตร์ทิ้งพวงมาลัยไป | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงหลากจิตคิดสงสัย | ||
| อกเอ๋ยนี่เห็นเป็นอย่างไร | มารักใคร่ไอ้เงาะมีเคราะห์กรรม | ||
| ทำให้อายขายพักตร์เผ่าพงศ์ | ไม่รักองค์เลยสักนิดผิดส่ำ | ||
| ไม่ปรึกษาหารือแต่สักคำ | จะมาทำให้พี่นี้พลอยยับ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์เสียใจจนลมจับ | ||
| นางมณฑาเข้าประคองรองรับ | ขยำขยับไปสักหน่อยก็ค่อยคลาย | ||
| ลุกขึ้นกระทืบบาทตวาดอึง | อีรจนาดูดู๋มึงช่างมักง่าย | ||
| ทรลักษณ์อัปรีย์ไม่มีอาย | หน่อกษัตริย์ทั้งหลายไม่เอื้อเฟื้อ | ||
| มารักเงาะทรพลคนอุบาทว์ | ทุดช่างชั่วชาติประหลาดเหลือ | ||
| แค้นนักจักใครให้แล่เนื้อ | แล้วเอาเกลือทาซ้ำให้หนำใจ | ||
| ว่าพลางฉวยได้ไม้เรียว | โกรธเกรี้ยวตัวสั่นหมั่นไส้ | ||
| อีลูกชั่วน่าชังจังไร | เอาไว้ไยดีเสียให้แทบตาย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาอกสั่นขวัญหาย | ||
| เห็นสามีเคืองขุ่นวุ่นวาย | จะพิดทูลเบี่ยงบ่ายก็เกรงกลัว | ||
| จึงออกมาว่ากับลูกสาว | ช่างทำความงามฉาวอีคนชั่ว | ||
| เสียยศเสียศักดิ์ไม่รักตัว | เลือกผัวได้เงาะเห็นเหมาะใจ | ||
| เขาจะเยาะเย้ยเล่นเป็นตำรา | พ่อแม่จะเอาหน้าไปไว้ไหน | ||
| จะเชิดชื่อลือลั่นสนั่นไป | ถึงบรรลัยก็ไม่สิ้นเขานินทา | ||
| ควรหรือมาเป็นได้เช่นนี้ | เสียทีแม่รักเจ้าหนักหนา | ||
| ร่ำพลางนางทรงโศกา | กัลยาเพียงจะสิ้นสมประดี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนามารศรี | ||
| กล่าวแกล้งแสร้งทูลชนนี | ทั้งนี้เพราะกรรมได้ทำไว้ | ||
| แต่น้ำใสใจจริงของข้า | จะรักใคร่เงาะป่านั้นหาไม่ | ||
| ซึ่งหมายมั่นครั้นลูกจะว่าไป | ที่ไหนใครเลยจะเห็นจริง | ||
| อันชั่วดีมิใช่จะไม่รู้ | แม่น้ำท่วมปากอยู่จึงสู้นิ่ง | ||
| ถึงชนกชนนีจะชังชิง | ลูกจะวิงวอนง้อขอโทษกรณ์ | ||
| ทั้งนี้สุดแท้แต่วาสนา | จะก้มหน้าใช้กรรมให้สิ้นก่อน | ||
| ยากเย็นอย่างไรไม่ทุกข์ร้อน | มารดรอย่าทรงโศกาลัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางมณฑาหวั่นจิตคิดสงสัย | ||
| เฝ้าปลอบถามลูกรักเฝ้าซักไซ้ | จนอ่อนใจไม่บอกออกความ | ||
| กูชังน้ำหน้าลูกว่ายาก | เหนื่อยปากรำคาญขี้คร้านถาม | ||
| มึงเห็นอ้ายเงาะว่าเหมาะงาม | จะแร่ตามมันไปช่างไม่อาย | ||
| ว่าพลางนางกลับเข้ามาเฝ้า | กระซิบทูลแบ่งเบาเบี่ยงบ่าย | ||
| ข้าไปถามอีลูกแสนร้าย | มันพูดเป็นแยบคายไม่เข้าใจ | ||
| หลากนักมารักอ้ายเงาะป่า | ชอบลงอาญาอย่าปราศรัย | ||
| แต่พระได้ออกโอษฐ์โปรดไว้ | ให้เลือกตามชอบใจทั้งเจ็ดคน | ||
| ครั้นจะลงโทษทัณฑ์มันเล่า | จะนินทาว่าเราทุกแห่งหน | ||
| โปรดเพียงขับไล่เสียให้พ้น | มันอดอยากยากจนอย่านำพา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสามนต์ฟังชังน้ำหน้า | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา | นิ่งนึกตรึกตราอยู่ในใจ | ||
| จำจะต้องเงือดงดอดกลั้น | คอยหยิบผิดมันให้จงได้ | ||
| คิดพลางทางสั่งเสนาใน | อีรจนากูไม่ขอเห็นมัน | ||
| จะใคร่ฆ่าเสียให้ตายก็อายเขา | จะว่าเรากลับคำทำหุนหัน | ||
| จะขับไล่ไปเสียด้วยกัน | ปลูกกระท่อมให้มันอยู่ปลายนา | ||
| แต่แรกกูตั้งจิตคิดหวัง | จะแต่งทั้งเจ็ดคนให้หนักหนา | ||
| อีเจ้ากรรมทำให้ขายหน้าตา | จะแต่งการวิวาห์ก็ขี้คร้าน | ||
| ให้อยู่เสียด้วยกันเถิดตามที | ในข้างขึ้นเดือนสี่ปีขาล | ||
| ตรัสพลางทางคิดเดือดดาล | ปิดบานพระแกลไม่แลไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีมี่ฉาวเรียกบ่าวไพร่ | ||
| ต่างถือมีดพร้าแล้วคลาไคล | ตรงไปปลายนานอกธานี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เจรจา | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเที่ยวเกี่ยวแฝก | ตัดไม้ไผ่แบกมาอึงมี่ | ||
| บ้างกล่อมเสามเกลาฟากมากมี | ปลูกกระท่อมลงที่ท้องนา | ||
| แล้วปัดปูเสื่อฟูกผูกมุ้งม่าน | หม้อข้าวเชิงกรานตุ่มน้ำท่า | ||
| ทั้งปลูกผักฟักแฟงแตงกวา | จอบเสียมมีดพร้าหาพร้อมไว้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ทั้งหกบุตรีศรีใส | ||
| รู้ว่ารจนาทรามวัย | ได้ไอ้เงาะป่าเป็นสามี | ||
| ต่างคนแค้นขัดอัธยา | มันทำให้เขาว่าขายหน้าพี่ | ||
| เราจะไปพ้อตัดให้เต็มที | ว่าแล้วจรลีออกมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงหยุดยืนอยู่ | แลดูน้องสาวกับเงาะป่า | ||
| เคืองค้อนงอนจริตกิริยา | เปรียบประชดชี้หน้าแล้วว่าไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| เย้ย | |||
| ๏ ชะนางคนดีไม่มีชั่ว | ช่างเลือกผัวงามนักน่ารักใคร่ | ||
| รูปร่างน่าหัวร่อเหมือนตอไม้ | เอออะไรพุงโรสันหลังยาว | ||
| มันน่าเชยน่าชมสมประกอบ | พอชอบทำนองหม่อมน้องสาว | ||
| หูตาบั้งแบวเหมือนแมวคราว | เขาเล่าลืออื้อฉาวช่างไม่อาย | ||
| นอกรีตนอกรอยน้อยหรือนั่น | แร่รันไปรักอีมักง่าย | ||
| ให้พี่สาวชาวแส้พลอยวุ่นวาย | อัปยศอดอายขายหน้าตา | ||
| ถึงมิดีมิชั่วเช่นผัวกู | จะร่วมเรียงเคียงคู่พอสมหน้า | ||
| อันอ้ายเงาะเหมาะเหลือเหมือนเสือปลา | ทุดช่างเสน่หาได้ลงคอ | ||
| หรือชะรอยถูกเสน่ห์เล่ห์กล | เวทมนตร์ดลใจไฉนหนอ | ||
| ไม่คิดถึงพงศ์เผ่าเหล่ากอ | น้ำใจในคอมึงผิดคน | ||
| ยังจะทำแสนงอนค้อนข้าหรือ | คันมือจะใคร่ต่อยสักร้อยหน | ||
| กูจะกรวดน้ำคว่ำคะนน | ถึงยากจนขาดจากพี่น้องกัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาตอบไปขมีขมัน | ||
| อุแม่เอ๋ยอื้ออึงขึ้นมึงมัน | เสกแสร้งสารพันโพนทะนา | ||
| ท้าคารมสมทบจะตบต่อย | มิใช่ลูกเมียน้อยร้อยภาษา | ||
| ถึงได้เงาะเป็นผัวชั่วช้า | ก็สุดแต่วาสนาได้สร้างไว้ | ||
| อันผัวพี่ดีเหลือเป็นเนื้อหน่อ | เห็นต่อจะบุญหนักศักดิ์ใหญ่ | ||
| รูปร่างน้อยจ้อยอร่อยใจ | จงกอดไว้เถิดคะอย่าละวาง | ||
| ถึงพี่จะรุ่งเรืองไปเบื้องหน้า | ก็ไม่พึ่งวาสนาอย่าอวดอ้าง | ||
| ดีแต่จะมาพานรานทาง | ไม่อดสูผีสางบ้างเลย | ||
| สำคัญว่าพี่น้องท้องเดียวกัน | มิรู้มันเหลือแหล่อุแม่เอย | ||
| เป็นผู้ใหญ่ไม่เหมาะมาเยาะเย้ย | ข้าเกินเลยไปมั่งขอสมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | หกนางเคืองค้อนแล้วค้อนว่า | ||
| ชะช่างเลี้ยวลดอีรจนา | กลับพาโลข้าว่าเย้ยเยาะ | ||
| เออคะกระนั้นและจริงอยู่ | รูปร่างผัวกูไม่สู้เหมาะ | ||
| ที่ไหนจะงามพร้อมเหมือนหม่อมเงาะ | ใครเห็นก็หัวเราะว่ารูปงาม | ||
| ยังจะแค่นขึ้นเสียงเถียงเก้อเก้อ | ทำกรุ่งกริ่งหยิ่งเย่อหยาบหยาม | ||
| อีกคนชาติชั่วตัวตะกลาม | จะละเมอเร่อตามไอ้เงาะไป | ||
| น้อยหรือปากคอมันพอสม | ข้าสู้รบคารมเจ้าไม่ไหว | ||
| ขี้คร้านเถียงให้เหนื่อยเมื่อยขาตะไกร | ก็กลับไปห้องหับฉับพลัน | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ บัดนั้น | จึงมหาเสนาคนขยัน | ||
| เข้าไปทูลรจนาสารพัน | พระบิดาคาดคั้นให้ขับไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาเศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| ครวญคร่ำกำสรดสลดใจ | เข้าไปกราบกรานพระมารดา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระชนนีเจ้า | พระคุณเคยปกเกล้าเกศา | ||
| ถนอมเลี้ยงลูกไว้จนใหญ่มา | เป็นสุขทุกทิวาราตรี | ||
| พระองค์จงจิตคิดหวัง | จะปลูกฝังลูกรักเป็นศักดิ์ศรี | ||
| มาทำขายบาทาครานี้ | ถึงจะให้ขับหนีไม่น้อยใจ | ||
| กรรมของลูกแล้วจะขอลา | พระแม่อย่าทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| แม้นว่าชีวันไม่บรรลัย | คงจะได้แทนคุณการุญรัก | ||
| ร่ำพลางกำสรดสลดจิต | ยิ่งคิดเป้นห่วงหน่วงหนัก | ||
| ชลเนตรฟูมฟองนองพักตร์ | นงลักษณ์โศกศัลย์พันทวี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางมณฑามเหสี | ||
| คิดพะวงสงสารพระบุตรี | เทวีอัดอั้นกลั้นโศกา | ||
| ลูกรักเฝ้าชะอ้อนวอนวิง | นางนั่งนิ่งเฉยอยู่ไม่ดูหน้า | ||
| ทั้งรักทั้งแค้นแน่นอุรา | ชลนาคลอเนตรสังเวชใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| เห็นเจ้าเงาะพยักหน้าเป็นนัย | ชี้มือบอกใบ้ไปปลายนา | ||
| นางสะทกสะเทินเขินขวย | จะไปด้วยง่ายง่ายก็อายหน้า | ||
| ครั้นจะหน่วงหนักชักช้า | ก็กลัวเกรงบิดาจะฆ่าตี | ||
| จึงกราบกรานมารดาด้วยอาดูร | ทรามวัยพิไรทูลถ้วนถี่ | ||
| ลูกจะขออำลาฝ่าธุลี | ครั้นนี้มีกรรมจะจำไกล | ||
| ว่าพลางนางถวายบังคมลา | ชลนาแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| แล้วดำเนินเดินตามเจ้าเงาะไป | เสนาในนำหน้าจรลี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ทยอย | |||
| ทยอย | |||
| ๏ ครั้นออกมานอกทวารวัง | เหลียวหลังมาดูปราสาทศรี | ||
| เคยอยู่สุขเกษมเปรมปรีดิ์ | อนิจจาครานี้จะจำไกล | ||
| แสนวิตกอกเอ๋ยไม่เคยยาก | จะลำบากเคืองเข็ญเป็นไฉน | ||
| ยิ่งคิดยิ่งทุกข์ฉุกใจ | จะตามไปไม่รู้ว่าร้ายดี | ||
| นางสะอื้นยืนเช็ดชลนา | ครั้นเจ้าเงาะเหลียวมาก็เมินหนี | ||
| แล้วคิดรักหักใจจรลี | ตรงไปยังที่ปลายนา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงกระท่อมทับที่อยู่ | แลดูสมเพชเป็นหนักหนา | ||
| ไม่เคยเห็นเช่นนี้แต่เกิดมา | ก็โศกาทรุดนั่งอยู่นอกชาน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ | ||
| เข้าไปในห้องมิทันนาน | เที่ยวดูของประทานทั้งปวง | ||
| แกล้งหยิบกระโถนมาโยนเล่น | ทำเป็นเหมือนกับรับลูกช่วง | ||
| แลเขม้นเห็นหวดกันกลวง | เอามาจ้วงตักน้ำทำจะกิน | ||
| รจนาว่าไฮ้ช่างไม่อาย | เบื่อจะตายผมเผ้าเขาเปียกสิ้น | ||
| เจ้าเงาะเมินขายหูไม่ได้ยิน | ทำฉวยพัดปัดริ้นปัดยุง | ||
| แล้วแกล้งหยิบครุตั้งบนเชิงกราน | ควักข้าวสารมาใส่ก่อไฟหุง | ||
| คลี่ผ้ากุศราชออกคาดพุง | กางมุ้งเสียให้ดีแต่วี่วัน | ||
| แล้วหยิบหมอนมาอิงยิงฟันขาว | กระดิกเท้าทำเล่นให้เห็นขัน | ||
| พอโพล้เพล้เพลาสายัณห์ | จึงรำพันพูดเกี้ยวเลี้ยวลด | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ชาตรี | |||
| ๏ น้องเอยน้องรัก | ผิวพักตร์เพียงจันทร์อันทรงกลด | ||
| โฉมนางแน่งน้อยช้อยชด | จะกำสรดเศร้าหมองไม่ต้องการ | ||
| บุญพี่กับนางได้สร้างสม | เคยภิรมย์ร่วมรักสมัครสมาน | ||
| พี่อยู่ถึงนอกฟ้าหิมพานต์ | เทวัญบันดาลให้เที่ยวมา | ||
| เหมือนหนึ่งแกล้งชักนำจำเพาะ | จึงได้เมียงามเหมาะจนเกินหน้า | ||
| ไม่ควรเคียงลูกสาวท้าวพระยา | แต่วาสนาของเงาะเคราะห์ดี | ||
| พระโปรดปรานประทานทับกระหม่อม | ทั้งเครื่องใช้ได้พร้อมเพราะบุญพี่ | ||
| น่าชมสมบัติเรามั่งมี | มารศรีอย่าเศร้าเสียใจ | ||
| จะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเจ้า | มิให้อายกับเขาเขยใหญ่ | ||
| ขอเชิญโฉมงามทรามวัย | มานั่งในห้องหับกับพี่ชาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาโฉมฉาย | ||
| ได้ฟังเจ้าเงาะพูดเราะราย | แยบคายคมสันขันคะนอง | ||
| น่าสำรวลสรวลสันต์ไม่กลั้นได้ | อรไทสะเทินเมินยิ้มย่อง | ||
| แก้ขวยฉวยมีดมาเจียนตอง | กรีดเล็บเย็บซองจะใส่พลู | ||
| เจ้าเงาะรื้อเรียกซ้ำทำกระบวน | เมียงชม้อยม่อยม้วนหน้าอยู่ | ||
| อิดเอื้อนเชือนแชไม่แลดู | เป็นครู่มิใคร่จะพาที | ||
| คิดถึงรูปทองยังต้องใจ | เสียแรงได้ติดตามมาถึงนี่ | ||
| ครั้นจะมิพูดด้วยก็ไม่ดี | เทวีจึงตอบวาจา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าชัง | ช่างอวดมั่งอวดมีไม่อายหน้า | ||
| เหย้าเรือนเหมือนกันกับรังกา | แค่นคิดสมบัติบ้าน่าหัวเราะ | ||
| เมื่อกลางวันนั้นทำเป็นบ้าใบ้ | เดี๋ยวนี้เอออะไรพูดออกเหราะ | ||
| ฉลาดเฉลี่ยวเจียวจริงเจ้าเงาะ | กลับมาเยาะเย้ยหยันขันจริง | ||
| นี่หรือชาวนอกฟ้าหิมพานต์ | ซมซานมาเที่ยวเกี้ยวผู้หญิง | ||
| อุแม่เอ๋ยช่างชะอ้อนวอนวิง | เพราะพริ้งหวานฉ่ำดังน้ำตาล | ||
| น้อยหรือนั่นน่ารักอยู่อักโข | หูหนาตาโตเท่าไข่ห่าน | ||
| รูปร่างช่างกระไรเหมือนยักษ์มาร | บ่ำสันขันจ้านสักเท่าพ้อม | ||
| บิตุรงค์ทรงศักดิ์รักใคร่ | จึงโปรดให้สิงสู่อยู่กระท่อม | ||
| จอบเสียมสารพัดจัดให้พร้อม | พอสมที่ทำปลอมแปลงมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ แสนเอยแสนแขนง | น้อยหรือแกล้งตัดพ้อเล่นต่อหน้า | ||
| ติเล็กติน้อยคอยนินทา | ค่อนว่าพิไรไค้แคะ | ||
| พี่ก็ไม่หลีกเลี่ยงเถียงสักสิ่ง | มันก็จริงกระนั้นนั่นแหละ | ||
| เจ้าเย้ยเยาะว่าเงาะไม่งามแงะ | แฮะแฮะว่าเล่นหรือว่าจริง | ||
| อย่าประมาทรูปพี่เห็นขี้เหร่ | ไม่ว่าเล่นเป็นเสน่ห์ชอบใจหญิง | ||
| ชาวรั้วชาวงังไม่ชังชิง | อุตส่าห์ทิ้งมาลัยมาให้เงาะ | ||
| ใช่ว่าจะแสร้งแกล้งอวดตัว | นานไปพี่กลัวจะชมเปาะ | ||
| ว่าพลางเย้ายวนชวนหัวเราะ | แกล้งปะเหลาะปะแหละและเลียม | ||
| นี่แน่น้องผินหน้ามาข้างนี้ | ไม่พอที่จะระคายอายเหนียม | ||
| ดูดู๋ขืนยังนั่งเอื้ยมเฟี้ยม | ใจคอเหี้ยมเกรียมหนักหนานัก | ||
| มาเถิดเจ้าเข้าไปเสียในมุ้ง | กลางนากลางทุ่งยุงมันหนัก | ||
| อย่าทำบิดตะกูดพูดเยื้องยัก | แสนงอนค้อนควักไปทีเดียว | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ น่าเอยน่าสรวล | เจ้าสำนวนทายาดฉลาดเฉลียว | ||
| ล้ำเลิศคนขยันขันจริงเจียว | แก้เกี้ยวเลี้ยวลัดสกัดสแกง | ||
| แต่มาลัยให้ทานก็นินทา | ค่อนว่าแคะไค้ไปทุกแห่ง | ||
| เห็นเงาะชอบใจดอกไม้แดง | จึงแกล้งทิ้งให้ไปกระนั้น | ||
| กลับว่าเขารักตัวน่าหัวเราะ | รูปร่างเจ้าสิเหมาะน้อยหรือนั่น | ||
| หนวดเคราครุ่มคร่ามงามครัน | หน้าตาตละปั้นขันสุดใจ | ||
| เอออะไรไม่อายขายหน้า | เอารูปเงาะสวมมาทำบ้าใบ้ | ||
| แกล้งซ่อนรูปสุวรรณไว้ชั้นใน | ข้าเข้าใจอยู่ดอกอย่าหลอกลวง | ||
| พระบิดาขับไล่เพราะใครเล่า | ได้ความทุกขเท่าภูเขาหลวง | ||
| อัปยศอดสูเขาทั้งปวง | เพราะไม่หน่วงไม่นักรักรูปทอง | ||
| จนตกยากอย่างนี้แล้วมิสา | ยังจะมาเรียกให้ไปในห้อง | ||
| ข้ากลัวรูปเงาะป่าตาพอง | จะให้น้องนั่งใกล้จนใจจริง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ โฉมเอยโฉมเฉลา | เอออะไรรู้เท่าไปทุกสิ่ง | ||
| แสนเฉลียวฉลาดล่วงท้วงติง | มันก็จริงกระนั้นนั่นและซิ | ||
| ขืนจะมาควักค้อนค่อนว่า | เงาะของข้าเคยใส่ทำไมสิ | ||
| ผู้หญิงมักต้องจิตประสิทธิ | อย่าเฝ้าติตะบอยไปหน่อยเลย | ||
| ถึงหนวดเครารุงรังช่างเป็นไร | เอาแหนบถอนเสียได้ดอกน้องเอ๋ย | ||
| หัวพริกหยิกยุ่งอย่าเยาะเย้ย | ถ้าหวีเสยสอยหย่งแล้วคงงาม | ||
| ทำไมกับรูปชั่วตัวดำ | จะอาบน้ำขัดสีสัมมะขาม | ||
| ละลายดินสอพองสักสองชาม | ทำให้งามตลอดเท้าขาวทั้งตัว | ||
| ถึงตาพองท้องพลุ้ยพีพลุ | อย่าดูหมิ่นกินจุมิใช่ชั่ว | ||
| จงปรานีเงาะป่าเถิดอย่ากลัว | จะแต่งตัวให้งามตามใจน้อง | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ว่าพลางทางถอดเงาะเสีย | เอาซ่อนเมียวางไว้ในห้อง | ||
| รูปทรงโสภาดังทาทอง | ค่อยย่องมานั่งข้างหลังนาง | ||
| เห็นห่มผ้าสไบไพล่พลิ้ว | ทำยื่นนิ้วจะจี้ที่สีข้าง | ||
| กระทั่งไอกระแอมแย้มยิ้มพลาง | สะกิดนางให้รู้ดูนี่แน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาไม่ทะยาทะแยแส | ||
| คิดว่าเงาะลูบหลังทำรังแก | ไม่เหลียวแลร้องอึงคะนึงไป | ||
| โมโหหันหน้ามาหยิกทึ้ง | เห็นรูปงามก็ตะลึงหลงไหล | ||
| น้อยหรือถอดเงาะเหมาะสุดใจ | เนื้อหนังช่างกระไรราวกับทอง | ||
| หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา | นงเยาว์กระหยิ่มยิ้มย่อง | ||
| คิดไว้ก็สมอารมณ์ปอง | บริสุทธิ์ผุดผ่องผิวพรรณ | ||
| งามจริงยิ่งมนุษย์ในใต้หล้า | ดูดังเทวาบนสวรรค์ | ||
| เฝ้าชม้ายชม้อยม่อยเมียงมัน | สะเทินจิตบิดผันไม่พูดจา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เกษมสันต์หรรษา | ||
| เห็นนางอายเอียงเมียงพักตรา | จึงแกล้งว่าสัพยอกหยอกเอิน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ | ไม่พอที่จะระคางห่างเหิน | ||
| เฝ้าผินหน้าผินหลังนั่งเมิน | อย่าสะทกสะเทินเชิญดูเงาะ | ||
| นิ่งอยู่ไยสิไม่ติเล่า | นี่แน่เจ้าจะเหมาะหรือมิเหมาะ | ||
| ไม่แกล้งอวดทรวดทรงจงพิเคราะห์ | อย่าหัวเราะเยาะเย้าไปเลยคะ | ||
| เมื่อกี้ค่อนว่าพี่ตาพอง | เดี๋ยวนี้น้องจงติเถิดสิหนะ | ||
| หน้าตาหายเคอะไม่เทอะทะ | มันต่อจะกระนั้นเป็นมั่นคง | ||
| หนวดเคราพี่ถอนเสียล่อนเลี่ยน | ไม่ว่าเล่นเห็นเจียนจะลุ่มหลง | ||
| ยังพ่วงพีเท่าพ้อมหรือย่อมลง | รูปทรงคงขยันแล้วกัลยา | ||
| ถึงเจ้าจะเข้าหอก็พอได้ | เห็นจะไม่อับอายขายหน้า | ||
| ตามมีตามเกิดเถิดน้องอา | ตามประสายากเย็นเข็ญใจ | ||
| เชิญเจ้าเข้าไปในห้องหับ | นอนหลับเสียมั่งเจ็บหลังไหล่ | ||
| แล้วกุมกรกัลยาช้าอยู่ไย | มาไปดีดีอย่าดื้อดึง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดเอยบัดสี | อะไรนี่น่าพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| นางค้อนควักผลักไสหยิกทิ้ง | ร้องไห้อึงดอกเจ้าเฝ้ายื้อยุด | ||
| ช่างทำได้ไม่เกรงข่มเหงคน | ฉุดกระชากลากจนไหล่จะหลุด | ||
| เห็นแล้วว่าประเสริฐเลิศมนุษย์ | ราวกับเทพบุตรสุดปัญญา | ||
| งามแล้วคะชะเจ้าอย่าเฝ้าอวด | เพริศพริ้งยิ่งยวดเป็นหนักหนา | ||
| ใครใช้ให้แกล้งแปลงปลอมมา | เขาก็ติก็ว่าให้สาใจ | ||
| แม้นมิทำยอกย้อนซ่อนรูปทรง | ไหนเลยบิตุรงค์จะขับไล่ | ||
| นี่เป็นเหตุเพราะเงาะหรือเพราะใคร | จึงได้อัประมาณรำคาญเคือง | ||
| ยังจะมาลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | พูดจาน่ารำคาญหูเหือง | ||
| ว่าพลางทางทำชำเลือง | ค้อนควักยักเยื้องเป็นแยบคาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ ดวงเอยดวงสมร | เจ้าแสนแง่แสนงอนใจหาย | ||
| ไม่ควรจะเคืองขุ่นวุ่นวาย | ตีโพยตีพายพาโลเงาะ | ||
| พี่เสี่ยงแสร้งแปลงมาทำบ้าใบ้ | ถ้าแม้นใครเป็นคู่ก็ดูเหมาะ | ||
| แม้นไม่เคยอุปถัมภ์จำเพาะ | ก็เย้ยเยาะยิ้มหัวว่าชั่วช้า | ||
| ซึ่งสวมรูปเงาะป่ามานี้ไซร้ | หวังจะให้น้องคิดปริศนา | ||
| เจ้าก็ปลงถูกแล้วนะแก้วตา | จึงรู้ว่าเงาะงามเป็นรูปทอง | ||
| อย่าบิดเบือนเชือนเฉยนะแก้วตา | จูงนางย่างเข้าไปในห้อง | ||
| นั่งแอบแนบเนื้อนวลละออง | เลียมลองโลมเล้าเคล้าคลึง | ||
| อะไรเฝ้าฮึดฮัดปัดมือ | รำคาญวานอย่าดื้อไปน่อยหนึ่ง | ||
| ว่าพลางทางกระหวัดรัดรึง | จะร้องอึงก็ร้องเถิดน้องรัก | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ น้อยเอยน้อยใจ | นี่อะไรรุกรานหาญหัก | ||
| ข่มเหงคะเนงร้ายน่าอายนัก | นางค้อนควักชักหน้าแล้วว่าไป | ||
| น้องยังเคลือบแคลงไม่แจ้งความ | อย่าวู่วามลามลวนหาควรไม่ | ||
| นามวงศ์พงศ์ประยูรอย่างไร | ประหลาดเหลือเชื้อไพร่หรือผู้ดี | ||
| ไม่บอกไม่เล่าเฝ้าแอบอิง | แม้นรักจริงนิ่งอยู่อย่าจู้จี้ | ||
| จะหยิกให้ขาเขียวประเดี๋ยวนี้ | อะไรนี่ไม่เสงี่ยมเลียมและ | ||
| ยิ่งว่าให้นิ่งเหมือนยิ่งยุ | ดูดู๋น่าตีเล่นดีแหละ | ||
| จงแถลงแจ้งความให้งามแงะ | อย่าเหลาะแหละลวงหลอกเร่งบอกมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ ยอดเอยยอดมิ่ง | จะแจ้งความตามจริงไม่มุสา | ||
| ตัวพี่นี้หน่อกษัตรา | นามกรชื่อว่าพระสังข์ทอง | ||
| แถลงเล่าแต่ต้นไปจนปลาย | บรรยายตามเรื่องที่เคืองข้อง | ||
| เป็นความในใจพี่เช่นนี้น้อง | นวลละอองอย่าแหนงแคลงใจ | ||
| ว่าพลางทางถดเข้าชิด | จะอายเอียงเบี่ยงบิดไปข้างไหน | ||
| ยื้อยุดฉุดชักชายสไบ | คว้าไขว่สัพยอกหยอกเย้า | ||
| ช่างหยิกข่วนไปได้เหมือนไม่เจ็บ | ข่มเหงนักหักเล็บเสียดอกเจ้า | ||
| ดีจริงยิ่งว่ายิ่งหยิกเอา | เบาเบาอุยหน่าไม่ปรานี | ||
| พระอุ้มองค์อรไทขึ้นใส่ตัก | อะไรเล่าเฝ้าผลักมือพี่ | ||
| ความรักรัญจวนยวนยี | เปรมปรีดิ์ประดิพัทธ์กำหนัดนาง | ||
| อัศจรรย์บันดาลในกลางหาว | เดือนดาวส่องแสงเจ้งกระจ่าง | ||
| เย็นซาบอาบละอองน้ำค้าง | ค่อยสระสร่างเศร้าหมองทั้งสองรา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ โลมพิณพาทย์ | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาเยาวยอดเสน่หา | ||
| นั่งแนบแอบองค์ภัสดา | จำนรรจาพาทีซี้ซิก | ||
| ที่ทุกข์ร้อนผ่อนผันบรรเทา | นงเยาว์ยิ้มเหยาะหัวเราะหริก | ||
| พระอุ้มขึ้นใส่ตักนางผลักพลิก | ทำกระบวนข่วนหยิกด้วยมารยา | ||
| แลสบหลบเนตรภูวไนย | สะเทินใจอายเอียงเมียงหน้า | ||
| แย้มสรวลยวนยีปรีดา | กัลยานิยมสมคิด | ||
| แสนสมัครรักใคร่ใหลหลง | ด้วยรูปทรงเป็นทองต้องจิต | ||
| ถ้อยทีบรรทมชมชิด | แนบสนิทนิทราในราตรี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์ปรีดิ์เปรมเกษมศรี | ||
| เชยชมสมสวาทด้วยเทวี | ในที่กระท่อมทับลับแลง | ||
| ครั้นประจุสมัยไก่ขัน | สุริยันเรืองรองส่องแสง | ||
| เอารูปเงาะสวมองค์ทรงแปลง | หวังมิให้ใครแจ้งความใน | ||
| แล้วว่าแก่รจนานงลักษณ์ | น้องรักผู้ยอดพิสมัย | ||
| เราผัวเมียสองคนจนใจ | มาจะไปหาหุงโภชนา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาโศกศัลย์รำพันว่า | ||
| น้องนี้แต่กำเนิดเกิดมา | จะหุงข้าวหุงปลาก็ไม่เคย | ||
| แต่ก่อนร่อนชะไรอยู่ในวัง | วิเสทหามาตั้งให้เสวย | ||
| ไม่เข้าเนื้อเข้าใจอย่างไรเลย | อกเอ๋ยมีกรรมก็จำเป็น | ||
| ว่าพลางนางทรงโศกี | ครั้งนี้ยากแค้นแสนเข็ญ | ||
| ดังหนึ่งเลือดตาจะกระเด็น | จำเป็นจำใจออกไปพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน | ||
| ครั้นโพล้เพล้เพลาสายัณห์ | สองราพากันเข้าในทับ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ จึงถอดเงาะออกเสียให้เมียเห็น | รูปเป็นทองอร่ามงามสรรพ | ||
| เอารูปเงาะซ่อนไว้ให้ลับ | แล้วกลับมานั่งสั่งสนทนา | ||
| อิงแอบแนบชิดสะกิดเกา | สัพยอกหยอกเย้าขนิษฐา | ||
| เชยแก้มแนมปรางปรีดา | สรวลสันต์หรรษาพาที | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | รจนาแน่งน้อยนวลศรี | ||
| พลางชะอ้อนวอนว่ากับสามี | จงปรานีน้องเถิดอย่าทรงเงาะ | ||
| ผู้คนทั้งปวงไม่ล่วงรู้ | ให้เขาดูถูกเล่าช่างเห็นเหมาะ | ||
| น้องว่าก็ไม่เชื่อนี่เนื้อเคราะห์ | กลับจะมาหัวเราะน่าขัดใจ | ||
| นางนิ่งนึกตรึกแล้วตรึกเล่า | จะลักรูปเงาะเผาเสียให้ได้ | ||
| จึงปูปัดฟูกหมอนที่นอนใน | ชวนให้ทรงธรรม์บรรทม | ||
| แล้วนั่งนวดฟั้นคั้นบาทา | คลี่ผ้าของตัวให้ผ้าห่ม | ||
| ปรนนิบัตรพัดวีโบกลม | นงเยาว์นิยมสมปอง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์เชยชมสมสอง | ||
| อิงแอบแนบเนื้อนวลละออง | กรตระกองน้องแก้วแล้วหลับไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ ตระ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางรจนานารีศรีใส | ||
| คิดจะลักรูปเงาะภูวไนย | นางมิได้สนิทนิทรา | ||
| เห็นพระหลับไหลไม่ไหวองค์ | โฉมยงยินดีเป็นหนักหนา | ||
| ค่อยขยายยกหัตถ์ภัสดา | ขยับตัวออกมาเอาหมอนรอง | ||
| ฟากลั่นเกรียบเกรียบเหยียบย่าง | มืดไม่เห็นทางถลำล่อง | ||
| ลุกขึ้นลดเลี้ยวเที่ยวมอง | หาเงาะในห้องกระท่อมทับ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
| ๏ ครั้นเห็นหิ้วหัวมาครัวไฟ | ฉวยพร้าโต้ใหญ่เข้าเสี่ยงสับ | ||
| ฟันซ้ำร่ำไปมิได้นับ | รูปเงาะไม่ยับยิ่งขัดใจ | ||
| เหน็ดเหนี่อยเมื่อยแขนสิ้นแรงเรี่ยว | ทุดช่างหนังเหนียวน่าหมั่นไส้ | ||
| นางโกรธาหาฟืนมาก่อไฟ | เอารูปเงาะเข้าใส่ในอัคคี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ แล้วฉวยเอาพร้ามาสับซ้ำ | นางทำร้อยอย่างร้อยสี | ||
| อ้ายเงาะสัปดนทนสิ้นที | เผาจี่เท่าไรไม่ไหม้มัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระสังข์หลับไหลใฝ่ฝัน | ||
| ละเมอกอดหมอนข้างพลางสำคัญ | คิดว่าเมียขวัญอยู่แนบนอน | ||
| ลืมตาคว้าไขว่ไปเป็นครู่ | จึงรู้ตระหนักแน่อุแม่หมอน | ||
| แลดูโฉมยงองค์บังอร | ไม่เห็นนอนในมุ้งสะดุ้งใจ | ||
| ลุกขึ้นมองหาละล้าละหลัง | ไม่เห็นทั้งเงาะทรงยิ่งสงสัย | ||
| เห็นแสงเพลิงสว่างข้างครัวไฟ | ตกใจออกมาเที่ยวหาเมีย | ||
| เห็นนงเยาว์เผาเงาะเอาไฟสุม | จึงตักน้ำในตุ่มมาดับเสีย | ||
| แล้วว่าน่าชังช่างทำเยีย | ขิงเงาะทะเลาะเมียมี่ไป | ||
| ดูดู๋ยังดื้อเข้ายื้อคร่า | ยิ่งว่าแล้วยังหาฟังไม่ | ||
| จะเอาเงาะของเขาไปเผาไฟ | ทำได้ไม่เกรงข่มเหงกัน | ||
| หรือเจ้าชอบใจจะใส่เล่น | จะได้เป็นนางเงาะเหมาะขัน | ||
| นอกรีตน้อยหรือมือคันคัน | จะใคร่รันเข้าสักผางนางคนดี | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ทรงเอยทรงฤทธิ์ | ชอบผิดจะรับใส่เกศี | ||
| แม้นไม่เมตตาจะฆ่าตี | น้องนี้จะสู้ม้วยมุด | ||
| พระสวมเงาะร้ายขายหน้าเมีย | จะชิงเอาเผาเสียให้สิ้นสุด | ||
| ถึงพระเรี่ยวแรงจะแย่งยุด | ผิดชอบแขนหลุดไม่วางมือ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ น่าเอยน่าหัวเราะ | เก้อแล้วนี่เงาะของเจ้าหรือ | ||
| กลับเถียงเสียงแข็งเข้าแย่งยื้อ | เอออะไรใจดื้อจริงจริงเจียว | ||
| ถึงเจ้ามิให้ก็ไม่ฟัง | น่าชังน้อยหรอืนางมือเหนียว | ||
| ฮึดฮัดขัดเขมรเป็นเกลียว | แย่งยุดฉุดเหนี่ยวกันไปมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ชิงรูปเงาะได้ใส่สวมองค์ | ทำก้มลงหลอนหลอกกลอกหน้า | ||
| ตบมือเย้ยหยันกัลยา | แล้วคืนเข้าเคหาห้องนอน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางรจนาดวงสมร | ||
| จึงตามมางอนง้อขอโทษกรณ์ | วิงวอนสามีพิรี้พิไร | ||
| น้องได้ผิดพลั้งแต่ครั้งหนึ่ง | จะพิโรธโกรธขึ้งไปถึงไหน | ||
| ผัวเมียสองคนจนไร้ | ชั่วดีได้เห็นหน้ากัน | ||
| ถ้าทีหลังยังขืนทำเช่นนี้ | จงทำโพยโบยตีให้อาสัญ | ||
| ว่าพลางนางเข้าไปนวดฟั้น | หลังไหล่ไหนคันจะช่วยเกา | ||
| ยื่นมือมาจี้ที่สีข้าง | จะหย่าร้างกันจริงเจียวหรือเจ้า | ||
| เอนอิงพิงทับลงกับเพลา | ถอนหนวดถอนเคราให้เจ้าเงาะ | ||
| แล้วหยิบหมากมาป้อนวอนขอชาน | เคี้ยวประทานสักคำทำปะเหลาะ | ||
| ยียวนชวนผัวให้หัวเราะ | แสร้งออเซาะสรวลสันต์จำนรรจา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| โอ้โลม | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ้าเงาะยิ้มพลางทางว่า | ||
| ที่นี้พี่จะอดนางรจนา | แม้นถ้าทีหลังไม่ฟังกัน | ||
| นี่หากว่ารักเจ้าอักโข | จึงสู้ดับโมโหไม่หุนหัน | ||
| ว่าพลางเชยชิดติดพัน | ถ้อยทีดีกันดังใจจง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ พระสังข์ตั้งแต่วันนั้นมา | ไม่ไว้ใจรจนานวลหง | ||
| เอารูปเงาะศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรงค์ | สวมองค์ทรงใส่ไว้อัตรา | ||
| เช้าค่ำพร่ำสอนสั่งเสีย | ให้เมียปั่นฝ้ายทอผ้า | ||
| เจ้าเงาะหัดตีกรับขับเสภา | รจนาปั่นฝ้ายสบายใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
บทเสภาเจ้าเงาะขับ
(บทเสภานี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์)
| ๏ ครานั้นขุนแผนแสนสนิท | สบายจิตชื่นชมประสมสอง | ||
| นั่งอยู่ด้วยกันกับวันทอง | ที่ร่มไทรในห้องอรัญวา | ||
| ให้วิเวกอ้างว้างอยู่กลางดง | ตะวันบ่ายชายลงลับเหลี่ยมผา | ||
| ลมพัดเรื่อยเรื่อยเฉี่อยเฉี่อยมา | ดอกไม้ป่าหอมหวนชวนชื่นใจ | ||
| รวยระรินกลิ่นพุทธิชาดชื่น | รื่นรื่นลำดวนดกดอกไสว | ||
| เรไรร้องหริ่งหริ่งที่กิ่งไทร | เสียงลองไนให้เสนาะเพราะสำเนียง | ||
| แจ้วแจ้วจักจั่นสนั่นป่า | ดังซอสีปี่ชวาวังเวงเสียง | ||
| สกุณาพาคู่เข้ารังเรียง | ขุนแผนเคียงข้างน้องประคองเชย | ||
| ตัวพี่กับรจนามาได้แค้น | เหมือนขุนแผนกับวันทองเจียวน้องเอ๋ย | ||
| อยู่กระท่อมตรอมใจไม่เสบย | กระไรเลยอนิจจาช่างอาภัพ | ||
| เคยนอนเตียงเสียงประโคมด้วยแตรสังข์ | มาตกไร้ได้ฟังแต่เสียงกรับ | ||
| พลางอิงแอบแนบน้องในห้องทับ | ถนอมรับขวัญให้เข้าไสยา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๗ ท้าวสามนต์ให้ลูกเขยหาปลาหาเนื้อ
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอก สังข์ทอง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๐
[ขอขอบคุณ คุณพิกุลแก้ว สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน]
