บทเสภาเรื่à¸à¸‡à¸‚ุนช้างขุนà¹à¸œà¸™
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→ข้อมูลเบื้องต้น) |
(→ตอนที่ ๒๔) |
||
| แถว 101: | แถว 101: | ||
๏ | ๏ | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
| - | === ตอนที่ ๒๔ === | + | === ตอนที่ ๒๔ กำเนิดพลายงาม=== |
| + | ==== ==== | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
| - | ๏ | + | ๏ ครานั้นวันทองผ่องโสภา อยู่เคหากับขุนช้างให้หมางหมอง |
| + | ไม่มีสุขทุกเวลาน้ำตานอง ด้วยว่าท้องสิบเดือนไม่เคลื่อนคลา | ||
| + | จะคลอดบุตรสุดปวดให้รวดร้าว ตึงหัวเหน่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยต้นขา | ||
| + | แสงห่องห้อยพรอยพรายพร่างสายตา จะเรียกหาขุนช้างให้หมางใจ | ||
| + | แต่นวดนวดปวดมวนให้ป่วนปั่น สุดจะกลั้นกลอกหน้าน้ำตาไหล | ||
| + | พยุงท้องร้องเรียกพวกข้าไท จะขาดใจแล้วช่วยด้วยแม่คุณ | ||
| + | ขุนช้างตื่นฟื้นตัวหัวผงก เห็นเมียตกใจผวาออกว้าวุ่น | ||
| + | ประคองนางพลางบนเอาต้นทุน อย่าท้อแท้แม่คุณจงแข็งใจ | ||
| + | พลางดูท้องร้องว่าเออออกแล้วซิ ตั้งสติอารมณ์จะข่มให้ | ||
| + | นางวันทองร้องเสือกกลิ้งเกลือกไป ขุนช้างได้หมอนรองประคองคอ | ||
| + | เรียกหาข้าคนอลหม่าน บนนอกชานพวกผู้หญิงออกวิ่งสอ | ||
| + | ให้ไปรับยายสายกับยายยอ แต่ล้วนหมอตำแยเซ็งแซ่มา | ||
| + | เข้าถือท้องต้องถูกว่าลูกต่ำ เอาหน้าคว่ำไขว่ขวางไปข้างขวา | ||
| + | ช่วยผันแปรแก้ไขใกล้เวลา บ้างตำยาขยำส้มต้มน้ำร้อน | ||
| + | นางวันทองร้องไห้ใจจะขาด พอกรรมชวาตวาตะประทะถอน | ||
| + | อรุณฤกษ์เบิกสุรินทร์ทินกร อุทรคลอนเคลื่อนคลอดไม่วอดวาย | ||
| + | พอพ้นท้องร้องแว้นางแม่หวีด หน้าซีดอกสั่นมิ่งขวัญหาย | ||
| + | ขุนช้างมองร้องอ้ายหนูเป็นผู้ชาย ทั้งย่ายายเยี่ยมลูกให้หยูกยา | ||
| + | แล้วทอดเตาเข้าไฟไม่ไข้เจ็บ ครั้นจะเก็บความกล่าวยาวหนักหนา | ||
| + | ค่อยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้จนใหญ่มา กระทั่งอายุเจ้าได้เก้าปี | ||
| + | ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนแม้นขุนแผนพ่อ เหลืองลอออวบอ้วนเป็นนวลศรี | ||
| + | ทั้งจุกผมกลมกล่อมกระหม่อมดี ช่างพาทีฉอเลาะพูดเพราะพราย | ||
| + | นางวันทองน้องคะนึงถึงขุนแผน ด้วยลูกแม้นเหมือนเหลือเป็นเชื้อสาย | ||
| + | บอกบ่าวไพร่ให้สำเหนียกเรียกลูกชาย ชื่อว่าพลายงามน้อยแก้วกลอยใจ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ฝ่ายขุนช้างหมางจิตให้คิดแค้น ลูกขุนแผนมั่นคงไม่สงสัย | ||
| + | เมื่อกระนั้นเหมือนกูครั้นดูไป ก็กลับไพร่เหมือนพ่ออ้ายทรพี | ||
| + | อีแม่มันวันทองก็สองจิต ช่างประดิษฐ์ชื่อลูกให้ถูกที่ | ||
| + | เรียกพ่อพลายคล้ายผัวอีตัวดี ทุกราตรีตรึกตราจะฆ่าฟัน | ||
| + | พอวันทองน้องป่วยลงด้วยเคราะห์ มาจำเพาะจะวิโยคให้โศกศัลย์ | ||
| + | ฟังเสียงเงียบระงับหลับกลางวัน พลายงามนั้นนั่งกับพ่อที่หอกลาง | ||
| + | ขุนช้างเห็นเป็นทีไม่มีเพื่อน แกล้งชี้เชือนชักพาลงมาล่าง | ||
| + | ให้ขี่หลังนั่งบ่าแล้วว่าพลาง ไปชมช้างกวางทรายมีหลายพรรณ | ||
| + | ทั้งนกยูงฝูงหงส์มันลงเกลื่อน จับไก่เถือนมาเลี้ยงฟังเสียงขัน | ||
| + | พูดให้เพลินเดินพลางกลางอรัญ แกล้งให้หมั่นดูแลฝูงแกกา | ||
| + | โพระดกนกงั่นกระตั้วเต้น กระแตเล่นไม้โจนโผนผวา | ||
| + | เจ้าพลายงามถามพ่อพูดจ้อมา ขุนช้างพาเลี้ยวไปปะไม้ซุง | ||
| + | เห็นลับลี้ที่สงัดขัดเเขมร สะบัดเบนเบือนเหวี่ยงลงเสียงผลุง | ||
| + | ปะเตะซ้ำต้ำผางเข้ากลางพพุง ถีบกระทุ้งถองทุบเสียงอุบโอย | ||
| + | พลายงามร้องสองมือมันอุดปาก ดิ้นกระดากถลากไถลร้องไห้โหย | ||
| + | พอหลุดมือรื้อร้องวันทองโวย หม่อมพ่อโบยตีฉันแทบบรรลัย | ||
| + | ไม่เห็นแม่แลหาน้ำตาตก ขุนช้างชกฉุดคร่าไม่ปราศรัย | ||
| + | จนเหงื่อตกกระปรกประปรอมขึ้นคร่อมไว้ หอบหายใจฮักฮักเข้าหักคอ | ||
| + | พลายงามดิ้นสิ้นเสียงสำเนียงร้อง ยกแต่สองมือไหว้หายใจฝ่อ | ||
| + | มันห้ามว่าอย่าร้องก็ต้องรอ เรียกหม่อมพ่อเจ้าขาอย่าฆ่าเลย | ||
| + | จงเห็นแก่แม่วันทองของลูกบ้าง พ่อขุนช้างใจบุญพ่อคุณเอ๋ย | ||
| + | ช่วยฝังปลูกลูกไว้ใช้เช่นเคย ผงกเงยมันก้ทุบหงุบลงไป | ||
| + | บีบจมูกจุกปากลากกระแทก เสียงแอ้กแอ้กอ่อนซบสลบไสล | ||
| + | พอผีพรายนายขุนแผนผู้แว่นไว เข้ากอดไว้มิให้ถูกลูกของนาย | ||
| + | ขุนช้างเห็นว่าทับจนตับแตก เอาคาแฝกฝุ่นกลบให้ศพหาย | ||
| + | แล้วกลิ้งขอนซ้อนทับให้ลับกาย ทำลอยชายชมป่ากลับมาเรือนฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ฝ่ายผีพรายนายขุนแผนแค้นขุนช้าง อุตส่าห์ง้างขอนใหญ่ให้เขยื้อน | ||
| + | แล้วเป่าแผลแก้หายละลายเลือน เจ้าพลายเคลื่อนคลายฟื้นเหมือนตื่นนอน | ||
| + | นางพรายบอกว่าเราบ่าวขุนแผน มาทำแทนเมื่อมันทับช่วยรับขอน | ||
| + | ไม่ม้วยแล้วแก้วตาอย่าอาวรณ์ อยู่นี่ก่อนเถิดนะเจ้าอย่าเศร้าใจ | ||
| + | แม่ของเจ้าเราจะบอกออกมารับ แล้วหายวับวู่วามตามนิสัย | ||
| + | เจ้าพลายงามยามเย็นไม่เห็นใคร เที่ยวร้องไห้หาแม่ชะแง้คอย | ||
| + | จะไปเรือนเพื่อนทางที่กลางป่า นึกน้ำตาหยดเหยาะลงเผาะผ็อย | ||
| + | เจ้าแหงนดูสุริย์ฉายก็บ่ายคล้อย ให้นึกน้อยใจพ่อพูดล่อลวง | ||
| + | เสียแรงลูกผูกใจจะได้พึ่ง พ่อโกรธขึ้งสิ่งใดเป็นใหญ่หลวง | ||
| + | โอ้มีพ่อก็ไม่เหมือนเพื่อทั้งปวง มีแต่ลวงลูกรักไปหักคอ | ||
| + | รู้กระนี้มิอยากเรียกพ่อดอก จะไปบอกแม่วันทองให้ฟ้องพ่อ | ||
| + | เที่ยวผันแปรแลหาน้ำตาคลอ นึกระย่อเยือกเย้นไม่เห็นใคร | ||
| + | ดูครึ้มครึกฟฤกษาป่าสงัด ไม่แกว่งกวัดก้านกิ่งประวิงไหว | ||
| + | จังหรีดร้องก้องเสียงเคียงเรไร ทั้งลองไนเรื่อยแร่แวแววับ | ||
| + | ดุเหว่าร้องมองเมียงเสียงว่าแม่ ยืนชะแง้แลดูเงี่ยหูตรับ | ||
| + | อยู่นี่แน่แม่จ๋าจงมารับ วิ่งกระสับกระสนวนเวียนไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ฝ่ายพวกพรายกายสิทธิ์ฤทธิรุทร เหมือนลมวุดวู่หนึ่งถึงไหนไหน | ||
| + | ไปเข้าฝันวันทองถึงห้องใน เหมือนจะให้เห็นลูกคิดผูกพัน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นวันทองผ่องโสภา เมื่อลูกแก้วแววตาจะอาสัญ | ||
| + | คิ้วกระเหม่นเป็นลางแต่กลางวัน ให้หวั่นหวั่นหวิวหวิวหิวหาวนอน | ||
| + | พอม่อยหลับคลับคล้ายเห็นพลายน้อย ขุนช้างถ่อยทับไว้ด้วยไม้ขอน | ||
| + | ผวาฟื้นตื่นตาด้วยอาวรณ์ สะอื้นอ่อนในอกตกตะลึง | ||
| + | พอแมงมุมอุ้มไข่ไต่ตีตก นางผงกเงี่ยฟังดังผึงผึง | ||
| + | ประหลาดลางหมางจิตคิดคะนึง รำลึกถึงลูกชายเจ้าพลายงาม | ||
| + | ลุกออกมาหาจบไม่พบเห็น ที่เคยเล่นอยู่กับใครเที่ยวไต่ถาม | ||
| + | แต่อีดูกลูกครอกมันบอกความ ว่าเห็นตามพ่อขุนช้างไปกลางไพร | ||
| + | นางแคลงผัวกลัวจะพาไปฆ่าเสีย น้ำตาเรี่ยเรี่ยตกซกซกไหล | ||
| + | ออกนอกรั้วตัวคนเดียวเที่ยวเดินไป โอ้อาลัยเหลียวแลชะแง้เงย | ||
| + | เห็นคุ่มคุ่มพุ่มไม้ใจจะขาด พ่อพลายงามทรามสวาทของแม่เอ๋ย | ||
| + | เจ้าไปไหนไม่มาหาแม่เลย ที่โคกเคยวิ่งเล่นไม่เห็นตัว | ||
| + | หรือล้มตายควายขวิดงูพิษขบ ไฉนศพสาบสูญพ่อทูนหัว | ||
| + | ยิ่งเย็นย่ำค่ำคลุ้มชอุ่มมัว ยิ่งเริ่มรัวเรียกร่ำระกำใจ | ||
| + | เสียงซ้อแซ้แกกาผวาว่อน จิ้งจอกหอนโหยหาที่อาศัย | ||
| + | จักจั่นเจื้อยร้องริมลองไน เสียงเรไรหริ่งหริ่งที่กิ่งรัง | ||
| + | ทั้งเป็ดผีปี่แก้วแว่วแว่วหวีด เสียงจังหรีดกรีดแซ่ดังแตรสังข์ | ||
| + | นางวันทองมองหาละล้าละลัง หรือผีบังซ่อนเร้นไม่เห็นเลย | ||
| + | จะบนหมูสุรารำว่าครบ ขอให้พบลูกตัวทูนหัวเอ๋ย | ||
| + | แล้วลดเลี้ยวเที่ยวแลชะแง้เงย โอ้ทรามเชยหลากแล้วพ่อแก้วตา | ||
| + | ตะโกนเรียกพลายงามทรามสวาท ใจจะขาดคนเดียวเที่ยวตามหา | ||
| + | สะอื้นโอ้โพล้เพล้เดินเอกา สกุณานอนรังสะพรั่งไพร | ||
| + | เห็นฝูงนกกกบุตรยิ่งสุดเศร้า โอ้ลูกเราไม่รู้ว่าอยู่ไหน | ||
| + | ชะนีโหวยโหยหวนรัญจวนใจ ยิ่งอาลัยแลหาน้ำตานอง | ||
| + | พอแจ้วแจ้วแว่วเสียงสำเนียงเรียก นึกสำเหนียกหลายหนขนสยอง | ||
| + | ตรงเซิงซุ้มคุ่มเคียงนางเมียงมอง เห็นลูกร้องไห้สะอื้นยืนเหลียวแล | ||
| + | ความดีใจไปกอดเอาลูกแก้ว แม่มาแล้วอย่ากลัวทูนหัวแม่ | ||
| + | เป็นไรไม่ไปเรือนเที่ยวเชือนแช แม่ตามแต่ตะวันบ่ายเห็นหายไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายน้อยสร้อยเศร้าแล้วเล่าว่า หม่อมพ่อพาเวียนวงให้หลงใหล | ||
| + | แล้วทุบถีบบีบจมูกของลูกไว้ เอาขอนไม้ทับคอแทบมรณา | ||
| + | พอพวกพ้องของขุนแผนแล่นมาช่วย จึงไม่ม้วยแม่คุณบุญหนักหนา | ||
| + | ยังช้ำชอกยอกเหน็บเจ็บกายา พูดน้ำตาผ็อยผ็อยด้วยน้อยใจฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางวันทองร้องไห้ใจจะขาด โอ้ชาตินี่มีกรรมจะทำไฉน | ||
| + | แล้วเล่าความตามจริงทุกสิ่งไป เจ้ามิใช่ลูกเต้าเขาจึงชัง | ||
| + | พ่อของเจ้านั้นหรือชื่อขุนแผน เป็นคนแค้นกับขุนช้างแต่ปางหลัง | ||
| + | เอาทุกข์ร้อนก่อนเก่าเล่าให้ฟัง เดี๋ยวนี้ยังอยู่ในคุกเป็นทุกข์ทน | ||
| + | จึงจนใจไม่มีที่จะพึ่ง มันทำถึงสาหัสก็ขัดสน | ||
| + | ครั้นจะฟ้องร้องเล่าเราก็จน แม้นไม่พ้นมือมันจะอันตราย | ||
| + | แต่รู้อยู่ว่าย่าทองประศรี อยู่บ้านกาญจน์บุรีวัดเชิงหวาย | ||
| + | แม้นไปถึงพึ่งพาย่าพ่อพลาย จะสบายบุญปลอดตลอดไป | ||
| + | แต่ทางนั้นวันครึ่งจึงถึงบ้าน ทางกันดารเดินดงจะหลงใหล | ||
| + | โอ้ใครเล่าเขาจะพาเจ้าคลาไคล นางร้องไห้สะอื้นกลืนน้ำตา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามถามซักตระหนักแน่ พลางบอกแม่ลูกแสนแค้นหนักหนา | ||
| + | อ้ายคนนี้มิใช่พ่อจะขอลา ไปหาย่าอยู่บ้านกาญจน์บุรี | ||
| + | สงสารแต่แม่คุณของลูกแก้ว จะลับแล้วตายเป็นไม่เห็นผี | ||
| + | เพราะพ่อเลี้ยงเดียงสาไม่ปรานี อยู่ที่นี่ชีวันจะบรรลัย | ||
| + | ไปสู้ตายวายวางเสียข้างหน้า ด้วยเกิดมามีกรรมจะทำไฉน | ||
| + | ขอลาแม่แต่นี้นับปีไป แล้วร้องไห้หวลคิดถึงบิดา | ||
| + | โอ้พ่อคุณขุนแผนของลูกเอ๋ย เมื่อไรเลยลูกจะได้ไปเห็นหน้า | ||
| + | ต้องติดคุกทุกข์ทุเรศเวทนา เจ้าครวญคร่ำร่ำว่าด้วยอาลัย ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางวันทองร้องไห้จิตใจหาย กอดเจ้าพลายงามน้อยละห้อยไห้ | ||
| + | โอ้ลูกแก้วแววตาจะลาไป หนทางป่าค่าไม้พ่อไม่เคย | ||
| + | จะเลี้ยวหลงวงวกระหกระเหิน เจ้าจะเดินไปถูกหรือลูกเอ๋ย | ||
| + | โอ้ยากเย็นเข็ญใจกระไรเลย เพราะกรรมเคยพรากสัตว์ให้พลัดพราย | ||
| + | เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าจะพรากไปจากแม่ แม่จะแลเห็นใครน่าใจหาย | ||
| + | พลางสวมสอดกอดแอบไว้แนบกาย สะอื้นไห้ไม่วายฟายน้ำตา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จนจวนค่ำน้ำค้างลงพร่างพราย ปลอบลูกชายพลายน้อยเสน่หา | ||
| + | อ้ายศัตรูรู้ความจะตามมา แม่จะพาเจ้าไปฝากขรัวนากไว้ | ||
| + | แล้วพากันดั้นดัดไปวัดเขา เห็นสมภารคลานเข้าไปกราบไหว้ | ||
| + | แล้วเล่าความตามจริงทุกสิ่งไป เจ้าคุณได้โปรดด้วยช่วยธุระ | ||
| + | เอาลูกอ่อนซ่อนไว้เสียในห้อง เผื่อพวกพ้องเขามาหาอย่าให้ปะ | ||
| + | ท่านขรัวครูผู้เฒ่าว่าเอาวะ ไว้ธุระเถิดอย่ากลัวที่ผัวเลย | ||
| + | ถ้าหากว่ามาค้นจนถึงห้อง กูมิถองก็จงว่าสีกาเอ๋ย | ||
| + | ฆ่าลูกเลี้ยงเอี้ยงดูกูไม่เคย อย่าทุกข์เลยลุงจะช่วยลูกอ่อนไว้ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางวันทองหมองหมางไม่สร่างทุกข์ กระหมวดจุกลูกยาน้ำตาไหล | ||
| + | เห็นจวนค่ำจำลาทั้งอาลัย ลงบันไดเดินด่วนด้วยจวนเย็น | ||
| + | พอเข้าไปในรั้วด่าผัวโผง อ้ายตายโหงหักคอไม่ขอเห็น | ||
| + | แต่ชาตินี้กีกรรมจึงจำเป็น ได้ชายเช่นนี้มาเป็นสามี | ||
| + | ขึ้นบนเรือนเหมือนใจจะจากร่าง เห็นขุนช้างชิงชังผินหลังหนี | ||
| + | เข้าในห้องหมองอารมณ์ไม่สมประดี เห็นแต่ที่นอนเปล่ายิ่งเศร้าใจ | ||
| + | คิดถึงลูกผูกพันให้หวั่นอก น้ำตาตกผ็อยผ็อยละห้อยไห้ | ||
| + | โอ้ลูกเอ๋ยเคยนอนแต่ก่อนไร จนเจ้าได้สิบปีเข้านี่แล้ว | ||
| + | อยู่หลัดหลัดพลัดพรากไปจากแม่ แม่ยังแลเห็นแต่ฟูกของลูกแก้ว | ||
| + | โอ้พลายงามทรามสวาทจะคลาดแคล้ว เสียงแจ้วแจ้วเจ้าวันทองนองน้ำตาฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ฝ่ายขุนช้างคางเคราอ้ายเจ้าเล่ห์ เมาโมเมยิ้มกริ่มอยู่ริมฝา | ||
| + | เสียงวันทองร้องไห้จุดไฟมา ส่องดูหน้านั่งเคียงบนเตียงนอน | ||
| + | ทำไถลไถ่ถามเป็นความหยอก หรือหนามยอกเจ็บป่วยจะช่วยถอน | ||
| + | พลางรับขวัญวันทองร้องละคร เจ้าทุกข์ร้อนรำคาญประการใด ฯ | ||
| + | นางวันทองข้องขัดสะบัดหน้า ขุนช้างรำทำท่าเข้าคว้าไขว่ | ||
| + | นางผลักพลิกหยิกข่วนว่ากวนใจ ไฮ้อะไรนี่เล่าเฝ้าเซ้าซี้ | ||
| + | ลูกข้าหายตายเป็นไม่เห็นศพ อย่ามากลบรอยเสือเบื่อบัดสี | ||
| + | เจ้าพาไปในป่าพนาลี แล้วก็มิพามาว่ากระไร ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขุนช้างฟังช่างแก้อีแม่เจ้า ข้าเมาเหล้าหลับซบสลบไสล | ||
| + | ใครบอกเจ้าเล่าว่าข้าพาไป หล่อนไม่ได้ตามข้าผ่าเถิดซิ | ||
| + | เมื่อกลางวันยังเห็นเล่นไม้หึ่ง กับอ้ายอึ่งอีดูกลูกอีปิ | ||
| + | แล้วว่าเจ้าเล่าก็ช่างนั่งมึนมิ ว่าแล้วซิอย่าให้ลงไปดิน | ||
| + | ลูกปะหล่ำกำไลใส่ออกกลบ ฉวยว่าพบคนร้ายอ้ายคอฝิ่น | ||
| + | มันจะทุบยุบยับเหมือนกับริ้น ง้างกำไลไปกินเสียแล้วกรรม | ||
| + | แล้วแก้เก้อเร่อออกไปนอกห้อง ตะโกนร้องเรียกข้ามาด่าพร่ำ | ||
| + | ไปเที่ยวตามถามหาถึงท่าน้ำ ไม่พบทำถอนใจกลับไปเรือน | ||
| + | รินสุรามาดื่มลืมสติ อุตริร้องไห้ใครจะเหมือน | ||
| + | ขึ้นหอขวางกลางแจ้งเห็นแสงเดือน โอ้พ่อเพื่อนชีวิตของบิตุรงค์ | ||
| + | แกล้งร้องร่ำคร่ำครวญทำหวนโหย สะโอดโอยเอกทุ้มจนลุ่มหลง | ||
| + | ถึงท่อนปลายกรายเกริ่นเป็นเดินดง ปีกเจ้าอ่อนร่อนลงในดงเตย | ||
| + | แล้วรู้ตัวกลัวเมียร้องเสียใหม่ เจ้าจำไกลพ่อแล้วลูกแก้วเอ๋ย | ||
| + | เสียงอ้อแอ้แผ่กายนอนหงายเลย จนลืมเลยซบเซาด้วยเมามาย ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นวลนางวันทองค่อยย่องย่าง เห็นขุนช้างหลับสมอารมณ์หมาย | ||
| + | สะอื้นอั้นพันผูกถึงลูกชาย จนพลัดพรายเพราะผัวเป็นตัวมาร | ||
| + | จึงเย็บไถ้ใส่ขนมกับส้มลิ้ม ทั้งแช่อิ่มจันอับลูกพลับหวาน | ||
| + | แหวนราคาห้าช่างทองบางตะพาน ล้วนต้องการเก็บใส่ในไถ้น้อย | ||
| + | ไปอยู่บ้านท่านย่าจะหายาก เมื่ออดอยากอย่างไรได้ใช้สอย | ||
| + | แล้วนั่งนึกตรึกตราน้ำตาย้อย รำคาญคอยสุริยาจะคลาไคล ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จะกล่าวถึงพลายงามทรามสงสาร พึ่งสมภารอยู่ในห้องนั่งร้องไห้ | ||
| + | พวกศิษย์เณรเถรชีต้นช่วยฝนไพล มาลูบไล้แผลที่มันตีรัน | ||
| + | แล้วสมภารท่านก็หลับระงับเงียบ ยิ่งเย็นเยียบเยือกใจเมื่อไก่ขัน | ||
| + | เพราะแม่ลูกผูกจิตคิดถึงกัน เฝ้าใฝ่ฝันเฟือนแลเห็นแม่มา | ||
| + | ดุเหว่าร้องซ้องเสียงสำเนียงแจ้ว ให้แว่วว่าวันทองร้องเรียกหา | ||
| + | สะดุ้งใจไหววับทั้งหลับตา ร้องขานขาสุดเสียงแต่เที่ยงคืน | ||
| + | ครั้นรู้สึกนึกได้ให้ละห้อย เจ้าพลายน้อยนิ่งนอนถอนสะอื้น | ||
| + | จนเคาะระฆังหงั่งเหง่งเสียงเครงครื้น สมภารตื่นเตือนชีต้นสวดมนตร์เกณฑ์ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางวันทองร้องไห้เมื่อใกล้รุ่ง น้ำค้างฟุ้งฟ้าแดงเป็นแสงเสน | ||
| + | ด้วยวัดเขาเข้าใจเคยไปเจน โจงกระเบงมั่นเหมาะห่มเพลาะดำ | ||
| + | แล้วถือไถ้ใส่ขนมผ้าห่มหุ้ม ออกย่างดุ่มเดินเหย่าก้าวถลำ | ||
| + | ลงจากเรือนเชือนมาข้างท่าน้ำ แล้วรีบร่ำเดินตรงเข้าดงตาล | ||
| + | ถึงวัดเขาเช้าตรู่ดูลูกน้อย เห็นมาคอยนั่งท่าน่าสงสาร | ||
| + | จะนั่งหยุดพูดจาจะช้าการ ลาสมภารพามาป่าสะแก | ||
| + | ให้ขนมส้มสูกแก่ลูกรัก สงสารนักจะร้างไปห่างแม่ | ||
| + | หนทางบ้านกาญจน์บุรีตรงนี้แล จำให้แน่นะอย่าหลงเที่ยววงเวียน | ||
| + | อุตส่าห์ไปให้ถึงเหมือนหนึ่งว่า ให้คุณย่าเป็นอาจารย์สอนอ่านเขียน | ||
| + | จงหมายมุ่งทุ่งกว้างตามทางเกวียน ที่โล่งเลี่ยนลัดไปในไพรวัน | ||
| + | แล้วเกล้าจุกผูกไถ้ที่ใส่ของ ให้แหวนทองทุกสิ่งทำมิ่งขวัญ | ||
| + | แล้วกอดลูกผูกใจจะไกลกัน สะอื้นอั้นออกปากฝากเทวา | ||
| + | ขอเดชะพระไพรข้าไหว้กราบ ช่วยกำราบเสือสิงห์มหิงสา | ||
| + | ทั้งปู่เจ้าเขาเขินขอเชิญพา ไปถึงย่าอย่าให้หลงเที่ยววงวน | ||
| + | ทั้งพ่อคุณขุนแผนแสนวิเศษ บังเกิดเกศแก้วตาสถาผล | ||
| + | ช่วยลูกชายพลายงามเมื่อยามจน ให้รอดพ้นภัยพาลถึงกาญจน์บุรี | ||
| + | นางคร่ำครวญร่ำว่าน้ำตาตก เหมือนหนึ่งอกพุพองเป็นหนองฝี | ||
| + | แม่อุ้มท้องครองเลี้ยงถึงเพียงนี้ ได้สิบปีเศษแล้วจะแคล้วกัน | ||
| + | เคยกินนอนวอนแม่ไม่แหห่าง จะอ้างว้างเปล่าใจในไพรสัณฑ์ | ||
| + | ทั้งจุกไรใครเล่าจะเกล้าพัน จะนับวันนับเดือนไปเลือนลับ | ||
| + | นับปีมิได้มาเห็นหน้าแม่ จะห่างแหหายเหมือนเมื่อเดือนดับ | ||
| + | โอ้เสียชาติวาสนาแม่อาภัพ ให้ย่อยยับยากแค้นแสนระอา | ||
| + | จะมีผัวผัวก็พลัดกำจัดจาก จนแสนยากอย่างนี้แล้วมิหนำ | ||
| + | มามีลูกลูกก็จากวิบากกรม สะอื้นร่ำรันทดสลดใจ ฯ | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
| + | ==== ==== | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | ๏ เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล | ||
| + | แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ | ||
| + | แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะอ้ายขุน | ||
| + | เที่ยวหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยือน | ||
| + | แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน | ||
| + | จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน จะจากเรือนร้างแม่ไปแต่ตัว | ||
| + | แม่วันทองของลูกจงกลับบ้าน เขาจะพาลว้าวุ่นแม่ทูนหัว | ||
| + | จะก้มหน้าลาไปมิได้กลัว แม่อย่ามัวหมองนักจงหักใจ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน อำนวยพรพลายน้อยละห้อยไห้ | ||
| + | พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กำจัดภัย จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน | ||
| + | ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน | ||
| + | แล้วพาลูกออกมาข้างท่าเกวียน จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ | ||
| + | ลูกก็และดูแม่แม่ดูลูก ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล | ||
| + | สะอื้นร่ำอำลาด้วยอาลัย แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา | ||
| + | เหลียวหลังยังเห็นแม่แลเขม้น แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา | ||
| + | แต่เหลียวเหลียวเลี้ยวลับวับวิญญาณ์ โอ้เปล่าตาต่างสะอื้นยืนตะลึง ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นางวันทองหมองมัวกลัวขุนช้าง ไม่เหมือนอย่างคนทั้งปวงมันหวงหึง | ||
| + | ออกชายทุ่งมุ่งเมินเดินตะบึง กลับมาถึงเรือนร่ำระกำตรอม | ||
| + | ทุกเช้าเย็นเศร้าหมองเฝ้าร้องไห้ ด้วยอาลัยพลายงามทรามถนอม | ||
| + | ถึงยามกินสิ้นรสสู้อดออม จนซูบผอมผิวพรรณทุกวันคืน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามตามทางไปกลางทุ่ง เขม้นมุ่งเขาเขินเดินสะอื้น | ||
| + | ออกหลังบ้านตาลตะคุ่มเป็นพุ่มพื้น ร่มรื่นรังเรียงเคียงตะเคียน | ||
| + | ต้นแคคางกร่างกระทุ่มชอุ่มออก ทั้งช่อดอกดูไสวเหมือนไม้เขียน | ||
| + | เจ้าพลายเพลินเดินพลางตามทางเกวียน ตลอดเลี่ยนลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยมา | ||
| + | ถงโคกฆ้องหนองสะพานบ้านกะเหรี่ยง เห็นโรงเรียงไร่ฝ้ายทั้งซ้ายขวา | ||
| + | พริกมะเขือเหลืออร่ามงามตา สาลิกาแก้วกินแล้วบินฮือ | ||
| + | เห็นไก่เตี้ยเขี่ยคุ้ยที่ขุยไผ่ กระโชกไล่ลดเลี้ยวมันเปรียวปรื๋อ | ||
| + | พบนกยูงฝูงใหญ่ไล่กระพือ มันบินหวือโห่ร้องคะนองใจ | ||
| + | จนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยข้อให้ท้อแท้ คิดถึงแม่วันทองแล้วร้องไห้ | ||
| + | พระสุริยาสายัณห์ลงเรไร เหมือนจิตใจเจ้าจะขาดลงรอนรอน | ||
| + | พอจวนพลบพบฝูงจิ้งจอกน้อย วิ่งร่อยร่อยตามเขาแล้วเห่าหอน | ||
| + | แสยงเส้นโลมาให้อาวรณ์ ถึงดงดอนแดนบ้านกาญจน์บุรี | ||
| + | เห็นวัดร้างข้างเขาดูเก่าแก่ ยังมีแต่รูปพระชินสีห์ | ||
| + | โบสถ์โบราณบานประตูยังดูดี พอราตรีกราบไหว้อาศัยนอน | ||
| + | ครั้นรุ่งเช้าเอาขนมทั้งส้มลิ้ม พอกินอิ่มแล้วออกเดินเนินสิงขร | ||
| + | ถึงบ้านกร่างทางคนเขาหาบคอน เห็นเด็กต้อนควายอึงคะนึงไป | ||
| + | ไม่รู้ความถามเหล่าพวกชาวบ้าน ว่าเรือนท่านทองประศรีอยู่ที่ไหน | ||
| + | เด็กบ้านนอกบอกเล่าให้เข้าใจ แกอยู่ไร่โน่นแน่ะยังแลลับ | ||
| + | มะยมใหญ่ในบ้านกินหวานนัก กูไปลักบ่อยบ่อยแกคอยจับ | ||
| + | พอฉวยได้อ้ายขิกหยิกเสียยับ ร้ายเหมือนกับผีเสื้อแกเหลือตัว | ||
| + | ถ้าลูกใครไปเล่นแกเห็นเข้า แกจับเอานมยานฟัดกบาลหัว | ||
| + | มาถามหาว่าไรช่างไม่กลัว แกจับตัวตีตายยายนมยาน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามถามแจ้งแล้วแกล้งว่า เอ็งช่วยพาเราไปชมมะยมหวาน | ||
| + | จะขึ้นลักหักห่อให้พอการ มาสู่ท่านทั้งสิ้นกินด้วยกัน | ||
| + | พวกเด็กเด็กดีใจไปสิหวา ซ่อนข้าวปลาปล่อยควายแล้วผายผัน | ||
| + | บ้างเหน็บหน้าผ้านุ่งเกี้ยวพุงพัน หัวเราะกันกูจะห่อให้พอแรง | ||
| + | พอถึงบ้านท่านยายทองประศรี พวกเด็กชี้เรือนให้แล้วแอบแฝง | ||
| + | เจ้าพลายงามขามจิตยังคิดแคลง ค่อยลัดแลงเล็งแลมาแต่ไกล | ||
| + | ดูเงียบเชียบเลียบรอบริมขอบรั้ว ไม่เห็นตัวท่านย่าน่าสงสัย | ||
| + | ประตูหับยับยั้งยืนฟังไป เสียงแต่ในออดแอดแรดแรแร | ||
| + | รู้ว่าคนบนนั้นนั่งปั่นฝ้าย จะอุบายบอกความตามกระแส | ||
| + | ขึ้นมะยมห่มล้อทำตอแย ให้ท่านแลเห็นเรามาเอาตัว | ||
| + | จึงจะบอกออกตามเนื้อความลับ ได้อยู่กับย่าบังเกิดกำเนิดหัว | ||
| + | แล้วเมียงมองย่องดอดเข้าลอดรั้ว ค่อยแฝงตัวขึ้นบนต้นมะยม | ||
| + | แล้วพยักกวักเรียกอ้ายเด็กเด็ก ลูกเล็กหลบลอบค่อยหมอบก้ม | ||
| + | ระวังตัวกลัวยายเฒ่าเจ้าคารม เก็บมะยมซุบซิบกระหยิบตา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นท่านยายทองประศรี กับยายปลียายเปลอยู่เคหา | ||
| + | ให้พวกเหล่าบ่าวไพร่ไปไร่นา ตามประสาเพศบ้านกาญจน์บุรี | ||
| + | แต่ขุนแผนแสนสนิทต้องติดคุก ไม่มีสุขเศร้าหมองทองประศรี | ||
| + | จนซูบผอมตรอมใจมาหลายปี อยู่แต่ที่ในห้องนองน้ำตา | ||
| + | แต่หูไวได้ยินมะยมหล่น เป็นทำวลแหวกมองตามช่องฝา | ||
| + | เห็นเด็กเด็กเล็ดดลอดดอเข้ามา แกฉวยคว้าไม้ตระบองค่อยมองเมียง | ||
| + | ลงบันไดอ้ายเด็กเล็กกเล็กวิ่ง แกไล่ทิ้งด่าทอมันล้อเถียง | ||
| + | ชกโคตรเหง้าเหล่ากอเอาพอเพียง พอแว่วเสียงอยู่บนต้นมะยม | ||
| + | มองเขม้นเห็นลูกหัวจุกน้อย เหม่อ้ายจ้อยโจรป่าด่าขรม | ||
| + | อย่าแอบอิงนิ่งนั่งตั้งเทพนม ลงมาก้มหลังลองตระบองกู ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามคร้ามพรั่นขยั้นหยุด ความกลัวสุดแสนกลัวตัวเป็นหนู | ||
| + | จึงว่าฉานหลานดอกบอกให้รู้ อันอยู่ที่เมืองสุพรรณบ้านวันทอง | ||
| + | ทองประศรีชี้หน้าว่าอุเหม่ อ้ายเจ้าเล่ห์หลานข้ามันน่าถอง | ||
| + | มาเถิดมาย่าจะให้ไม้ตระบอง แกคอยจ้องจะทำให้หนำใจ | ||
| + | เจ้าพลายงามความกลัวจนตัวสั่น หยุดขยั้นอยู่ไม่กล้าลงมาได้ | ||
| + | แล้วนึกว่าย่าตัวกลัวอะไร โจนลงไปกราบย่าที่ฝ่าตีน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทองประศรีตีหลังเสียงดังผึง จะมัดมึงกูไม่ปรับเอาทรัพย์สิน | ||
| + | มาแต่ไหนลูกไทยหรือลูกจีน เฝ้าลักปีนมะยมห่มหักราน | ||
| + | เจ้าพลายน้อยคอยหลบแล้วนบนอบ ฉันเจ็บบอบแล้วย่าเมตตาหลาน | ||
| + | ข้าเป็นลูกพ่อขุนแผนแสนสะท้าน ข้างฝ่ายมารดาชื่อแม่วันทอง | ||
| + | จะมาหาย่าชื่อทองประศรี อย่าเพ่อตีฉันจะเล่าความเศร้าหมอง | ||
| + | ย่าเขม้นเห็นจริงทิ้งตระบอง กอดประคองรับขวัญกลั้นน้ำตา | ||
| + | แล้วด่าตัวชั่วเหลือไม่เชื่อเจ้า ขืนตีเอาหลานรักเป็นหนักหนา | ||
| + | จนหัวห้อยพลอยนอพ่อนี่นา แล้วพามาขึ้นเรือนเตือนยายปลี | ||
| + | ช่วยฝนไพลให้เหลวเร็วเร็วเข้า อีเปลเอาขันล้างหน้าออกมานี่ | ||
| + | แกตักน้ำร่ำรดหมดราคี ช่วยขัดสีโซมขมิ้นสิ้นเป็นชาม | ||
| + | แล้วทาไพลให้หลานสงสารเลหือ มานั่งเสื่อลันไตปราศรัยถาม | ||
| + | เจ้าชื่อไรใครบอกออกเนื้อความ จึงได้ตามขึ้นมาถึงย่ายาย ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายน้อยสร้อยเศร้าแล้วเล่าเรื่อง แต่อยู่เมืองสุพรรณเหมือนมั่นหมาย | ||
| + | แม่วันทองครองเลี้ยงไว้เคียงกาย ให้ชื่อพลายงามน้อยแก้วกลอยใจ | ||
| + | ให้ไหว้บุญขุนช้างเหมือนอย่างพ่อ มันลวงล่อหลานหลงไม่สงสัย | ||
| + | พาหลานเที่ยวเลี้ยวทางไปกลางไพร เอาขอนไม้ทับคอแทบมรณา | ||
| + | แม่จึงบอกออกว่าพ่อชื่อขุนแผน ขุนช้างแค้นเคืองคิดริษยา | ||
| + | อยู่ไม่ได้ในสุพรรณจึงดั้นมา ขอพึ่งบุญคุณย่าประสาจน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทองประศรีตีอกชกผางผาง ทุดอ้ายช้างชาติข้าอ้ายหน้าขน | ||
| + | ลูกอีเฒ่าเทพทองคลองน้ำชน จะฆ่าคนเสียทั้งเป็นไม่เอ็นดู | ||
| + | ทำราวเจ้าชีวิตกูคิดฟ้อง ให้มันต้องโทษกรณ์จนอ่อนหู | ||
| + | แกบ่นว่าด่าร่ำออกพร่ำพรู พ่อมาอยู่บ้านย่าแล้วอย่ากลัว | ||
| + | แม้นอ้ายขุนวุ่นมาว่าเป็นลูก มันมิถูกนมยานฟัดกบาลหัว | ||
| + | พลางเรียกอีไหมที่ในครัว เอาแกงคั่วข้าวปลามาให้กิน | ||
| + | พอบ่ายเบี่ยงเสียงละว้าพวกข้าบ่าว ทั้งมอญลาวเลิกนาเข้ามาสิ้น | ||
| + | บ้างสุมไฟใส่ควันกันยุงริ้น ตามถิ่นบ้านนอกอยู่คอกนา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นพลบค่ำย่ำฆ้องทองประศรี เรียกยายปลียายเปลเข้าเคหา | ||
| + | เย็บบายศรีนมแมวจอกแก้วมา ใส่ข้าวปลาเปรี้ยวหวานเอาจานรอง | ||
| + | เทียนดอกไม้ไข่ข้าวมะพร้าวพร้อม น้ำมันหอมแป้งปรุงฟุ้งทั้งห้อง | ||
| + | ลูกปะหล่ำกำไลไขออกกอง บอกว่าของพ่อเจ้าแต่เยาว์มา | ||
| + | เอาสอดใส่ให้หลานสงสารเหลือ ด้วยหน่อเนื้อนึกรักเป็นหนักหนา | ||
| + | เหมือนพ่อแผนแสนเหมือนไม่เคลื่อนคลา ทั้งหูตาคมสันเป็นมันยับ | ||
| + | พลางเรียกหาข้าคนมาบนหอ ให้นั่งต่อต่อกันเป็นอันดับ | ||
| + | บายศรีตั้งพรั่งพร้อมน้อมคำนับ เจริญรับมิ่งขวัญรำพันไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขวัญพ่อพลายงามทรามสวาท มาชมภาชนะทองอันผ่องใส | ||
| + | ล้วนของขวัญจันทร์จวงพวงมาลัย ขวัญอย่าไปป่าเขาลำเนาเนิน | ||
| + | เห็นแต่เนื้อเสือสิงห์ฝูงลิงค่าง จะอ้างว้างเวียนวกระหกระเหิน | ||
| + | ขวัญมาหาย่าเถิดอย่าเพลิดเพลิน จงเจริญร้อยปีอย่ามีภัย | ||
| + | แล้วจุดเทียนเวียนวงส่งให้บ่าว มันโห่กราวเกรียวลั่นสนั่นไหว | ||
| + | คอยรับเทียนเเวียนส่งเป็นวงไป แล้วดับไฟโบกควันให้ทันที | ||
| + | มะพร้าวอ่อนป้อนเจ้าทั้งข้าวขวัญ กระแจะจันทน์เจิมหน้าเป็นราศี | ||
| + | ให้สาวสาวลาวเวียงที่เสียงดี มาซอปี่อ้อซั้นทำขวัญนาย ฯ | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | ๏ พ่อเมื้อเมืองดง เอาพงเป็นเหย้า อึดปลาอึดข้าว ขวัญเจ้าตกหาย | ||
| + | ขวัญอ่อนร่อแร่ ว้าเหว่สู่กาย อยู่ปลายยางยูง ท้องทุ่งท้องนา | ||
| + | ขวัญเผือเมื้อเมิน ขอเชิญขวัญพ่อ ฟังซอเสียงอ้อ ขวัญพ่อเจ้าจ๋า | ||
| + | ข้าวเหนียวเต็มพ้อม ข้าวป้อมเต็มป่า ขวัญเจ้าจงมา สู่กายพลายเอยฯ | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | ๏ แล้วพวกมอญซ้อนซอเสียงอ้อแอ้ ร้องทะแยย่องกระเหนาะย่ายเตาะเหย | ||
| + | ออระน่ายพลายงามพ่อทรามเชย ขวัญเอ๋ยกกกะเนียงเกรียงเกลิง | ||
| + | ให้อยู่ดีกินดีมีเมียสาว เนียงกะราวกนตะละเลิงเคลิ่ง | ||
| + | มวยบามาขวัญจงบันเทิง จะเปิงยี่อิกะปิปอน | ||
| + | ทองประศรีดีใจให้เงินบาท เห็นแต่ทาสพรั่งพร้อมล้อมสลอน | ||
| + | ถึงเวลาพาเจ้าเข้าที่นอน มีฟูกหมอนมุ้งม่านสำราญใจ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามถามย่าว่าพ่อแผน ต้องคับแค้นเคืองเข็ญเป็นไฉน | ||
| + | ไม่เคยคุ้นคุณย่าช่วยพาไป พอหลานได้เห็นหน้าบิดาตัว | ||
| + | ได้ฟังหลานท่านย่าน้ำตาตก สะอื้นอกอาดูรว่าทูนหัว | ||
| + | พ่อเอ็งย่าว่าไรเขาไม่กลัว เพราะเมามัวเมียลาวนางชาววัง | ||
| + | ไปทูลขอพระองค์ทรงพระโกรธ ให้ลงโทษทนทุกข์ใส่คุกขัง | ||
| + | แต่ไม่ต้องจองจำอยู่ลำพัง ถึงสิบปีแล้วยังไม่พ้นเลย | ||
| + | รุ่งพรุ่งนี้สิย่าจะพาเจ้า ไปหาเขาอยู่ที่ทับริมหับเผย | ||
| + | ให้พ่อเห็นเย็นอารมณ์ได้ชมเชย พูดจนเลยลืมหลับระงับไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เห็นแสงทองหมองจิตคิดถึงลูก สั่งบ่าวผูกช้างสัปคับใหญ่ | ||
| + | ใส่ข้าวปลาผ้าผ่อนท่อนสไบ กับไต้ไฟฟักแฟงแตงน้ำตาล | ||
| + | ทั้งปูนยาสาคูแลพลูหมาก จะไปฝากขุนแผนแสนสงสาร | ||
| + | อ้ายกุลาตาหลอเป็นหมอควาญ แล้วพาหลานขึ้นช้างตามทางมา | ||
| + | ลงบางขามข้ามบ้านสะพานโขลง ออกทุ่งโล่งเลี้ยวทางไปข้างขวา | ||
| + | สองวันครึ่งถึงกรุงอยุธยา ลงเดินพาพลายงามไปตามทาง ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จะกล่าวฝ่ายนายขุนแผนที่แสนทุกข์ แต่ติดคุกขัดข้องให้หมองหมาง | ||
| + | อยู่หับเผยเคยสะอาดขาดสำอาง จนผอมซูบรูปร่างดูรุงรัง | ||
| + | ผมยาวเกล้ากระหวัดตัดไม่เข้า เหตุด้วยเขาคงทนทั้งมนตร์ขลัง | ||
| + | อยู่เปล่าเปล่าเล่าก็จนพ้นกำลัง อุตส่าห์นั่งทำการสานกระทาย | ||
| + | ให้นางแก้วกิริยาช่วยทารัก ขุนแผนถักขอบรัดกระหวัดหวาย | ||
| + | ใบละบาทคาดได้ด้วยง่ายดาย แขวนไว้ขายทั้งเรือนออกเกลื่อนไป | ||
| + | พอมารดามาถึงทับรับเข้าห้อง ทั้งข้าวของผู้คนขนมาให้ | ||
| + | เห็นลูกชายพลายงามถามทันใด นี่ลูกใครหน้าตาน่าเอ็นดู ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทองประศรีชี้แจงแถลงเล่า นี่ลูกเจ้าแล้วเป็นไรไหว้เสียหนู | ||
| + | แล้วบอกความตามที่มีศัตรู ขุนแผนรู้รับขวัญกลั้นน้ำตา | ||
| + | เข้าสวมสอดกอดจูบแล้วลูบหลัง น้ำตาพรั่งพรั่งพรายทั้งซ้ายขวา | ||
| + | แค้นขุนช้างดังจะดิ้นสิ้นชีวา มันชะล่าชะเลยจนเคยตัว | ||
| + | ฉุดคร่าพาวันทองไปครองคู่ เห็นว่ากูถือสัตย์ไม่ตัดหัว | ||
| + | ทั้งลูกเต้าเอาไปฆ่าเหมือนม้าวัว หมายว่ากลัวแล้วกระมังอ้ายจังไร | ||
| + | วันนี้ค่ำจำจะไปให้ถึงบ้าน สับกบาลหัวเชือดให้เลือดไหล | ||
| + | ลูกผู้ชายตายไหนก็ตายไป ขัดใจฮึดฮัดกัดฟันฟาง ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ท่านย่าทองประศรีว่าอีพ่อ แม่จะขอทัดทานเหมือนขัดขวาง | ||
| + | ไปฆ่าผีดีกว่าฆ่าขุนช้าง จะสืบสร้างบาปกรรมไปทำไม | ||
| + | ลูกของเจ้าเล่าก็มาหาเจ้าแล้ว ใช่เชื้อแถวเจ้ายังมีอยู่ที่ไหน | ||
| + | จงฟังแม่แต่เท่านั้นแล้วกันไป พ่อจะได้ภาวนารักษากาย | ||
| + | ลูกของเจ้าเล่าแม่จะรับเลี้ยง ช่วยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้ได้ถวาย | ||
| + | ที่กริ้วโกรธโทษกรณ์จะผ่อนคลาย คราวเคราะห์ร้ายเจ้าจงเจียมเสงี่ยมตน | ||
| + | โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้ ยากแล้วมีใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน | ||
| + | ที่ทุกข์โศกโรคร้อนค่อยผ่อนปรน คงจะพ้นโทษทัณฑ์ไม่บรรลัย ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นขุนแผนแสนสุภาพ ก้มกราบมารดาน้ำตาไหล | ||
| + | ลูกเห็นแต่แม่คุณค่อยอุ่นใจ ช่วยสอนให้พลายงามเรียนความรู้ | ||
| + | อันตำรับตำราสารพัด ลูกเก็บจัดแจงไว้ที่ในตู้ | ||
| + | ถ้าลืมหลงตรงไหนไขออกดู ทั้งของครูของพ่อต่อกันมา | ||
| + | แล้วลูบหลังสั่งความพลายงามน้อย เจ้าจงค่อยร่ำเรียนเขียนคาถา | ||
| + | รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา ไปเบื้องหน้าเติบใหญ่จะให้คุณ | ||
| + | เรายากแล้วแก้วตาอย่าประมาท ทั้งสิ้นญาติสิ้นเชื้อจะเกื้อหนุน | ||
| + | ทุกวันนี้มีแต่ย่ายังการุญ พ่อพึ่งบุญเถิดลูกได้ปลูกเลี้ยง | ||
| + | จงนึกว่าย่าเหมือนกับแม่พ่อ ถึงด่าทอเท่าไรอย่าได้เถียง | ||
| + | อันพ่อนี้มิได้อยู่ใกล้เคียง ไม่ได้เลี้ยงลูกแล้วนาแก้วตา | ||
| + | พลางกอดพลายงามแอบไว้แนบอก น้ำตาตกพร่างพรายทั้งซ้ายขวา | ||
| + | โอ้มีกรรมทำไว้แต่ไรมา พอเห็นหน้าลูกแล้วจะแคล้วกัน | ||
| + | มาหาพ่อพ่อไม่มีสิ่งไรผูก ยังแต่ลูกประคำจะทำขวัญ | ||
| + | อยู่หอกปืนยืนยงคงกระพัน ได้ป้องกันกายาข้างหน้าไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เจ้าพลายงามความแสนสงสารพ่อ น้ำตาคลอคลอตกซกซกไหล | ||
| + | รับประคำร่ำว่าประสาใจ ฉันจะใคร่อยู่ด้วยช่วยบิดา | ||
| + | ได้ตักน้ำตำข้าวทุกเช้าค่ำ ที่พอทำฟืนผักจะหักหา | ||
| + | ให้พ่อพ้นทนทุกข์แล้วลูกยา จะอุตส่าห์เล่าเรียนค่อยเพียรไป ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขุนแผนแสนสวาทจะขาดจิต กะจิริดรู้ว่าจะหาไหน | ||
| + | น่าสงสารท่านย่าพลอยอาลัย น้ำตาไหลพรากพรากเพราะยากเย็น | ||
| + | ขุนแผนว่าจะอยู่ดูไม่ได้ ในคุกใหญ่มันยากแค้นถึงแสนเข็ญ | ||
| + | เหมือนกับนรกตกทั้งเป็น มิได้เว้นโทษทัณฑ์สักวันเลย | ||
| + | แต่พ่อนี้ท่านเจ้ากรมยมราช อนุญาตให้อยู่ทับในหับเผย | ||
| + | คนทั้งหลายนายมุลก็คุ้นเคย เขาละเลยพ่อไม่ต้องถูกจองจำ | ||
| + | ทั้งข้าวปลาสารพันทุกวันนี้ พระหมื่นศรีเธอช่วยชุบอุปถัมภ์ | ||
| + | ค่อยเบาใจไม่พักต้องตักตำ คุณท่านล้ำล้นฟ้าด้วยปรานี | ||
| + | ถ้าแม้นเจ้าเล่าเรียนความรู้ได้ จะพาไปพึ่งพระจมื่นศรี | ||
| + | ถวายตัวพระองค์ทรงธรณี จะได้มีเกียรติยศปรากฏไป ฯ | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | ==== ==== | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | ๏ พลายงามน้อยสร้อยเศร้ารับเจ้าคะ ดีฉันจะพากเพียรเรียนให้ได้ | ||
| + | ต่างพูดจาพาทีค่อยดีใจ จนจวนใกล้โพล้เพล้ถึงเวลา | ||
| + | ทองประศรีสั่งความว่ายามค่ำ แม่จะจำจากพ่อแก้วไปแล้วหนา | ||
| + | ขุนแผนแสนสะท้านไหว้มารดา พลายงามลาพ่อลูกผูกอาลัย | ||
| + | ตามย่ามาพ้นทับที่หับเผย ไม่ลืมเลยเหลียวหน้าน้ำตาไหล | ||
| + | ทั้งขุนแผนแสนสวาทเพียงขาดใจ ต่างอาลัยแลลับวับวิญญาณ์ | ||
| + | ไปขึ้นช้างข้างวัดท่าการ้อง พอเดือนส่องแสงสว่างกลางเวหา | ||
| + | ออกข้ามทุ่งกรุงศรีอยุธยา รีบกลับมาถึงบ้านกาญจน์บุรีฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี | ||
| + | ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนตร์ | ||
| + | ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน | ||
| + | หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนตร์เสกขมิ้นกินน้ำมัน | ||
| + | เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น | ||
| + | มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน ทั้งเลขยันตร์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย | ||
| + | แล้วทำตัวหัวใจปิติโส สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย | ||
| + | สะกดคนมนตร์จังงังกำบังกาย เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี | ||
| + | ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี | ||
| + | ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา | ||
| + | จนอายุพลายงามสิบสามขวบ ดูขาวอวบอ้วนท้วนเป็นนวลหน้า | ||
| + | ด้วยเนื้อแตกแรกรุ่นละมุนตา กิริยาแย้มยิ้มหงิมหงิมงาม | ||
| + | นัยน์ตากลมคมขำดูดำขลับ ใครแลลับรักใคร่ปราศรัยถาม | ||
| + | ทองประศรีดีใจได้ฤกษ์ยาม ได้สิบสามปีแล้วหลานแก้วกู | ||
| + | จะโกนจุกสุกดิบขึ้นสิบค่ำ แกทำน้ำยาจีนต้มตีนหมู | ||
| + | พวกเพื่อนบ้านวานมาผ่าหมากพลู บ้างปัดปูเสื่อสาดลาดพรมเจียม | ||
| + | ทั้งหม้อเงินหม้อทองสำรองตั้ง มีทั้งสังข์ใส่น้ำมนตร์ไว้จนเปี่ยม | ||
| + | อัฒจันทร์ชั้นพระก็ตระเตรียม ตามธรรมเนียมห้องกลองฉลองทาน | ||
| + | ถึงวันดีนิมนต์ขรัวเกิดเฒ่า อยู่วัดเขาชนไก่ใกล้กับบ้าน | ||
| + | พอพิณพาทย์คาดตระสาธุการ ท่านสมภารพาพระสงฆ์สิบองค์มา | ||
| + | นั่งสวดมนตร์จนจบพอพลบค่ำ ก็ซัดน้ำมนตร์สาดเสียงฉาดฉ่า | ||
| + | ผู้ชายเสียดเบียดสาวชาวละว้า เสียงเฮฮาฮึดฮัดเมื่อซัดน้ำ | ||
| + | ผู้หญิงหยิกตะกายผู้ชายทับ เสียงหนุบหนับเหนาะแหนะแขยะขยำ | ||
| + | จนอีหังคลั่งใจถีบอ้ายดำ ลุกขึ้นปล้ำกันออกอึงเสียงตึงตัง | ||
| + | ทองประศรีดีใจว่าใครแพ้ สนุกแน่แล้วอ้ายดำปล้ำอีหัง | ||
| + | แล้วให้หลานผลัดผ้ามาเก้กัง เข้าไปนั่งกราบกรานสมภารครู | ||
| + | ขรัวเกิดแลมองเห็นทองประศรี ถามว่านี่ลูกใครเล่าไอ้หนู | ||
| + | เจ้าขรัวย่าอ้าปากน้ำหมากพรู เล่าให้รู้แต่ต้นมาจนปลาย | ||
| + | เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าขุนแผนยังติดคุก นี่โกนจุกแล้วจะได้ไปถวาย | ||
| + | ท่านขรัวครูดูพ่อของออพลาย เคราะห์จะคลายเคลื่อนบ้างหรืออย่างไร ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ท่านขรัวครูรู้เรื่องให้เคืองแค้น ทุดอ้ายแผนถ่อยแท้ไม่แก้ไข | ||
| + | เมื่อความรู้กูสอนเจ้าหล่อนไว้ ยังวิ่งไปเข้าคุกสนุกจริง | ||
| + | อ้ายเจ้าชู้กูได้ว่ามาแต่ก่อน จะทุกข์ร้อนอ่อนหูเพราะผู้หญิง | ||
| + | หัวเราะพลางทางเอกเขนกอิง พินิจนิ่งดูกายเจ้าพลายงาม | ||
| + | เห็นน่ารักลักษณะก็ฉลาด จะมีวาสนาดีขี่คานหาม | ||
| + | ถ้าถึงวันชั้นโชคโฉลกยาม ก็ต้องตามลักษณะว่าจะรวย | ||
| + | แต่ที่เมียเสียถนัดปัตนิ ตัวตำหนิรูปขาวเป็นสาวสวย | ||
| + | แต่อ้ายนี่ขี้หลงจะงงงวย ต้องถูกด้วยละโมบโลภโลกีย์ | ||
| + | แล้วท่านขรัวหัวร่อว่าออหนู มันเจ้าชู้เกินการหลานอีศรี | ||
| + | ก็แต่ว่าอายุสิบแปดปี จะได้ที่หมื่นขุนเป็นมุลนาย | ||
| + | ทั้งเมียสาวชาวเหนือเป็นเชื้อแถว อีนั่นแล้วมันจะมาพาฉิบหาย | ||
| + | อันอ้ายขุนแผนพ่อของออพลาย จะพ้นปลายเดือนยี่ในปีกุน | ||
| + | นับแต่นี้มีสุขไม่ทุกข์ร้อน ได้เตียงนอนนั่งเก้าอี้เป็นที่ขุน | ||
| + | ทองประศรีดีใจไหว้เจ้าคุณ ช่วยแบ่งบุญให้ได้ฟื้นคืนสักที | ||
| + | สมภารรับกลับมายังอาวาส เสียงพิณพาทย์พวกพ้องทองประศรี | ||
| + | หาเสภามาทั่วที่ตัวดี ท่านตามีช่างประทัดถนัดรบ | ||
| + | ดูทำนองพองคอเสีบงอ้อแอ้ พวกคนแก่ชอบหูว่ารู้จบ | ||
| + | ตารองศรีดีแต่ขันรู้ครันครบ กรับกระทบทำหลอกแล้วกลอกตา | ||
| + | แล้วนายทั่งดังโด่งเสียงโว่งโวก ว่ากระโชกกระชั้นขันหนักหนา | ||
| + | ฝ่ายนายเพรชเม็ดมากลากช้าช้า ตั้งสามวาสองศอกเหมือนบอกยาว | ||
| + | ส่วนนายมาพระยานนท์คนตลก ว่าหยกหยกหยาบช้าคนฮาฉาว | ||
| + | ตาทองอยู่รู้ว่าภาษาลาว แล้วส่งกราวเชิดเพลงโหน่งเหน่งไป | ||
| + | ครั้นรุ่งเช้าเจ้าพลายก็โกนจุก เป็นพ้นทุกข์พ้นร้อนนอนหลับใหล | ||
| + | จนผมยาวเจ้าได้ตัดมหัดไทย คิดจะใคร่ไปเป็นข้าฝ่าธุลี | ||
| + | เดชะบุญทูลขอพ่อพ้นโทษ เหมือนได้โปรดบิดาเป็นราศี | ||
| + | แต่นิ่งนึกตรึกตราจนราตรี เข้าข้างที่นอนย่าน้ำตาคลอ | ||
| + | ทำคลึงเคล้าเว้าวอนด้วยอ่อนหวาน พรุ่งนี้หลานจะลาไปหาพ่อ | ||
| + | จะได้เฝ้าเจ้าชีวิตชิดชอบพอ ทูลขอเผื่อจะโปรดที่โทษทัณฑ์ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทองประศรีดีใจให้อนุญาต เจ้าเชื้อชาติพงศ์พลายจงผายผัน | ||
| + | จะได้ช่วยพ่อแม่คิดแก้กัน ตามกตัญญูเถิดประเสริฐดี | ||
| + | ย่าจะให้ไปส่งจนถึงพ่อ จึงพาต่อไปหาพระหมื่นศรี | ||
| + | ตามแต่บุญวาสนาบารมี อันย่านี้นับวันจะบรรลัย | ||
| + | มีลูกเต้าเล่าก็ทำให้ซ้ำทุกข์ ไม่มีสุขสักเวลาน้ำตาไหล | ||
| + | โรคก็ซ้ำช้ำบอบทั้งหอบไอ ใครจะได้เผาผีก็มิรู้ | ||
| + | เจ้าจงจำตำราที่ย่าสอน จะถาวรเพิ่มยศไม่อดสู | ||
| + | ย่าจะให้ไอ้พลัดไอ้ปัดไอ้ปู เข้าไปอยู่ติดตามทั้งสามคน | ||
| + | พอถือร่มสมปักตักน้ำท่า หุงข้าวปลาสารพัดไม่ขัดสน | ||
| + | พูดจนดึกตรึกการกับหลานตน แล้วหลับจนแจ่มแจ้งแสงตะวัน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ รู้สึกกายยายทองประศรีย่า เอาเงินผ้าเสื้อใส่ในกำปั่น | ||
| + | ทั้งหวานคาวข้าวปลาสารพัน ขนขึ้นบรรทุกสัปคับช้าง | ||
| + | พลายงามลาย่าช่วยอวยสวัสดิ์ ได้ฤกษ์พาสารพัดไม่ขัดขวาง | ||
| + | ขึ้นขี่หลังพังสะเทินเดินตามทาง ไม่แรมค้างข้ามทุ่งถึงกรุงไกร | ||
| + | ไปหาพ่อพอพบนั่งนบนอบ ขุนแผนสอบไต่ถามความสงสัย | ||
| + | เจ้าพลายน้อยค่อยเล่าให้เข้าใจ ลูกจะใคร่ให้พระนายถวายตัว ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขุนแผนแสนสวาทอนุญาตว่า จงอุตส่าห์สืบตะรกูลเถิดทูนหัว | ||
| + | พ่อพงศ์พลายหมายศึกอย่านึกกลัว จะพาตัวเจ้าไปให้พระนาย | ||
| + | แล้วซักไซ้ไต่ถามถึงความรู้ ให้ท่องดูได้สมอารมณ์หมาย | ||
| + | ที่เข้าออกบอกความตามอุบาย สอนลูกชายอยู่จนสนธยา | ||
| + | พอเสียงฆ้องกลองย่ำเข้าค่ำพลบ ถึงเดินพบผู้ใดไม่เห็นหน้า | ||
| + | ชวนลูกชายพลายงามตามกันมา ไปเคหาพระหมื่นศรีที่ริมคลอง | ||
| + | ขึ้นบันไดไฟอร่ามถามพวกบ่าว พอรู้ข่าวว่าสบายค่อยคลายหมอง | ||
| + | ตรงมาหอรอรั้งยั้งหยุดมอง หมื่นศรีร้องเรียกว่ามาซิเกลอ | ||
| + | ด้วยรักใคร่ใจซื่อถือว่าเพื่อน ไม่บากเบือนหน้าหนีดีเสมอ | ||
| + | ขุนแผนพาลูกไปนั่งไหว้เธอ ถามว่าเออนั่นใครที่ไหนมา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ขุนแผนบอกออกว่าลูกเจ้าวันทอง ที่มีท้องเกือบแก่มาแต่ป่า | ||
| + | เอาความหลังทั้งนั้นพรรณนา จะพามามอบไว้ให้เจ้าคุณ | ||
| + | ด้วยไม่มีที่เห็นแต่เป็นโทษ พระนายโปรดช่วยเหลือทั้งเกื้อหนุน | ||
| + | เป็นที่พึ่งจึงมาจงการุญ เอาแต่บุญเถิดพ่อเจ้าเมื่อคราวจน | ||
| + | อันวิชาย่าสอนลูกอ่อนแล้ว เห็นคล่องแคล่วการศึกพอฝึกฝน | ||
| + | ถ้ากระไรได้ช่องเห็นชอบกล ช่วยผ่อนปรนโปรดถวายเจ้าพลายงาม ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ พระหมื่นศรีดีใจปราศรัยทัก ดูแหลมหลักลูกทหารชาญสนาม | ||
| + | เป็นข้าเฝ้าเจ้าชีวิตอย่าคิดคร้าม มีสงครามเมื่อไรคงได้ดี | ||
| + | ไว้ธุระจะถวายช่วยบ่ายเบี่ยง ให้ชุบเลี้ยงลูกรักเป็นศักดิ์ศรี | ||
| + | ที่กินอยู่ผู้คนของเรามี อยู่เรือนนี่นั่งนอนไม่ร้อนรน | ||
| + | ขุนแผนเล่าเจ้าก็รู้อยู่ว่ารัก จนเจียนจักแหล่นตายด้วยหลายหน | ||
| + | ก็เอ็นดูอยู่ว่าเกลอถึงเธอจน ที่ขัดสนสารพัดไม่ขัดกัน | ||
| + | แต่สุดช่วยด้วยว่าอาญาหลวง ต่อได้ท่วงทีก่อนจะผ่อนผัน | ||
| + | จริงนะเจ้าเราก็คิดทุกคืนวัน คงช่วยกันไปกว่ากายจะวายวาง ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ นายขุนแผนแสนชื่นให้ตื้นอก อุตส่าห์ยกมือไหว้มิได้หมาง | ||
| + | สู้กลืนกล้ำน้ำตาแล้วว่าพลาง พ่อเหมือนอย่างพ่อแม่ช่วยแก้ทุกข์ | ||
| + | จนยากเย็นเป็นโทษเห็นโหดไร้ ยังส่งให้ข้าวปลาเป็นผาสุก | ||
| + | ก็หมายมั่นกตัญญูถึงอยู่คุก กราบพ่อทุกทุกคืนได้ชื่นใจ | ||
| + | อันลูกชายพลายงามตามแต่พ่อ ลูกจะขอกราบลาช้าไม่ได้ | ||
| + | พลางลูบหลังสั่งลูกผูกอาลัย พ่อจะไปก่อนแล้วนะแก้วตา | ||
| + | อยู่พึ่งบุญคุณพ่อต่อไปเถิด จะประเสริฐสมหวังเป็นฝั่งฝา | ||
| + | แล้วลงเรือนเดือนสว่างกระจ่างตา ก็กลับมาหับเผยที่เคยนอน ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช เรียกพลายงามทรามสวาทมาสั่งสอน | ||
| + | จะเป็นข้าจอมนรินทร์ปิ่นนคร อย่านั่งนอนเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | ||
| + | พระกำหนดกฎหมายมีหลายเล่ม เก็บไว้เต็มตู้ใหญ่ไขออกอ่าน | ||
| + | กรมศักดิ์หลักชัยพระอัยการ มนเทียรบาลพระบัญญัติตัดสำนวน | ||
| + | แล้วให้รู้สุภาษิตบัณฑิตพระร่วง ตามกระทรวงผิดชอบคิดสอบสวน | ||
| + | ราชาศัพท์รับสั่งให้บังควร รู้จงถ้วนถี่ไว้จึงได้การ | ||
| + | ที่ไม่สู้รู้อะไรผู้ใหญ่เด็ก มหาดเล็กสามต่อพ่อลูกหลาน | ||
| + | เสียตระกูลสูญลับอัประมาณ เพราะเกียจคร้านคร่ำคร่าเหมือนพร้ามอญ | ||
| + | นี่ตัวเจ้าเหล่ากอทั้งพ่อแม่ อย่าเชือนแชอุตส่าห์จำเอาคำสอน | ||
| + | แล้วจัดแจงห้องหับให้หลับนอน ไม่อาวรณ์เธอช่วยเลี้ยงเป็นเที่ยงธรรม์ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นพลายงามทรามสวาท แหลมฉลาดเลขผาปัญญาขยัน | ||
| + | อยู่บ้านพระหมื่นศรียินดีครัน ทุกคืนวันตามหลังเข้าวังใน | ||
| + | เธอเข้าเฝ้าเจ้าก็นั่งบังไม้ดัด คอยฟังตรัสตรึกตราอัชฌาสัย | ||
| + | ค่อยรู้กิจผิดชอบรอบคอบไป ด้วยมิได้คบเพื่อนเที่ยวเชือนแช | ||
| + | ครั้นอยู่บ้านอ่านคำพระธรรมศาสตร์ ตำรับราชสงครามตามกระแส | ||
| + | ค่อยชื่นชุ่มหนุ่ตะกอดูฟ้อแฟ้ นางสาวแส้ใส่ใจจะใคร่พบ | ||
| + | เข้าไปหามาสู่ไม่รู้เกี้ยว แต่พอเหลียวเห็นผู้หญิงก็วิ่งหลบ | ||
| + | อุตส่าห์เพียรเรียนรู้ดูจนครบ รู้ขนบธรรมเนียมก็เจียมใจ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นท่านพระจมื่นศรี ถึงวันดีได้ช่องก็ผ่องใส | ||
| + | จึงจัดแจงแต่งธูปเทียนดอกไม้ จะเข้าไปทูลถวายเจ้าพลายงาม | ||
| + | นุ่งสมปักชักกลีบจีบสลับ ครั้นเสร็จสรรพสำราญขึ้นคานหาม | ||
| + | พวกข้าคนอลหม่านถือพานตาม เจ้าพลายงามตามหลังเข้าวังใน | ||
| + | ถึงพระลานวานเขาพวกชาวที่ ที่ค่อยมีกิริยาอัชฌาสัย | ||
| + | ถือพานทองรองธูปเทียนดอกไม้ ยกเข้าไปเตรียมตั้งพอบังควร | ||
| + | ให้พลายงามตามไปนั่งตรงตั้งของ ตามทำนองพระหมื่นศรีสั่งถี่ถ้วน | ||
| + | ฝ่ายข้าเฝ้าเจ้าพระยาเวลาจวน ต่างก็ชวนกันเข้ามาหน้าพระโรง | ||
| + | นุ่งสมปักชักชายกรายกรีดเล็บ ผ้ากราบเหน็บแนบหน้าดูอ่าโถง | ||
| + | พอเวลานาทีถ้วนสี่โมง เข้าพระโรงพร้อมหน้าข้าราชการ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงเดช มงกุฎเกศอยุธยามหาสถาน | ||
| + | สถถิตแท่นแว่นฟ้าโอฬาฬาร ดังวิมานเมืองฟ้าสุราลัย | ||
| + | ห้ามแหนแน่นหนุนละมุนหมอบ งามประกอบกิริยาอัชฌาสัย | ||
| + | ระเรื่อยรับขับร้องทำนองใน สำราญราชหฤทัยทุกเวลา | ||
| + | ยามกลางวันนั้นก็ออกพระโรงรัตน์ มีแต่ตรัสสรวลสันต์ทรงหรรษา | ||
| + | ทั้งเหนือใต้ไพรีไม่มีมา สำราญใจไพร่ฟ้าประชาชี | ||
| + | ด้วยเดชะบุญญาอานุภาพ มีแต่ลาภมาประมูลพูนภาษี | ||
| + | แต่บรรดาข้าเฝ้าเหล่าเสนี ใครทำดีได้ประทานถึงพานทอง ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ฝ่ายพระจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช อภิวาทบาทมูลทูลฉลอง | ||
| + | ขอเดชะพระกรุณาฝ่าละออง ดอกไม้ธูปเทียนทองของพลายงาม | ||
| + | บุตรขุนแผนแสนสะท้านหลานทองประศรี ความรู้มีเรียบราบไม่หยาบหยาม | ||
| + | จะขอรองมุลิกาพยายาม พลางกราบสามทีสดับตรับโองการ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครานั้นสมเด็จพระพันวษา เหลือบเห็นหน้าพลายงามความสงสาร | ||
| + | จะออกโอษฐ์โปรดขขุนแผนแสนสะท้าน แต่กรรมนั้นบันดาลดลพระทัย | ||
| + | ให้เคลิ้มองค์ทรงกลอนละครนอก นึกไม่ออกเวียนวงให้หลงใหล | ||
| + | ลืมประภาษราชกิจที่คิดไว้ กลับเข้าในแท่นที่ศรีไสยา ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ อันเรื่องกล่าวความพลายงามสวาท เป็นมหาดเล็กแล้วค่อยแกล้วกล้า | ||
| + | อยู่ด้วยพระหมื่นศรีผู้ปรีชา เฝ้าเวลาเช้าเย็นไม่เว้นวัน | ||
| + | มุลนายถ้วนหน้าก็ปรานี มิได้มีใครรังเกียจเดียดฉันท์ | ||
| + | ถึงว่าท่านจางวางทั้งสองนั้น ก็ฝากตัวกลัวทั่นทุกคนไป ฯ | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | |||
=== ตอนที่ ๒๕ === | === ตอนที่ ๒๕ === | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
การปรับปรุง เมื่อ 11:56, 7 กันยายน 2552
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ ผู้แต่ง:
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓
| ๏ | |||
ตอนที่ ๔
| ๏ | |||
ตอนที่ ๕
| ๏ | |||
ตอนที่ ๖
| ๏ | |||
ตอนที่ ๗
| ๏ | |||
ตอนที่ ๘
| ๏ | |||
ตอนที่ ๙
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๐
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๑
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๒
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๓
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๔
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๕
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๖
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๗
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๘
| ๏ | |||
ตอนที่ ๑๙
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๐
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๑
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๒
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๓
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๔ กำเนิดพลายงาม
| ๏ ครานั้นวันทองผ่องโสภา | อยู่เคหากับขุนช้างให้หมางหมอง | |||
| ไม่มีสุขทุกเวลาน้ำตานอง | ด้วยว่าท้องสิบเดือนไม่เคลื่อนคลา | |||
| จะคลอดบุตรสุดปวดให้รวดร้าว | ตึงหัวเหน่าเหน็ดเหนื่อยเมื่อยต้นขา | |||
| แสงห่องห้อยพรอยพรายพร่างสายตา | จะเรียกหาขุนช้างให้หมางใจ | |||
| แต่นวดนวดปวดมวนให้ป่วนปั่น | สุดจะกลั้นกลอกหน้าน้ำตาไหล | |||
| พยุงท้องร้องเรียกพวกข้าไท | จะขาดใจแล้วช่วยด้วยแม่คุณ | |||
| ขุนช้างตื่นฟื้นตัวหัวผงก | เห็นเมียตกใจผวาออกว้าวุ่น | |||
| ประคองนางพลางบนเอาต้นทุน | อย่าท้อแท้แม่คุณจงแข็งใจ | |||
| พลางดูท้องร้องว่าเออออกแล้วซิ | ตั้งสติอารมณ์จะข่มให้ | |||
| นางวันทองร้องเสือกกลิ้งเกลือกไป | ขุนช้างได้หมอนรองประคองคอ | |||
| เรียกหาข้าคนอลหม่าน | บนนอกชานพวกผู้หญิงออกวิ่งสอ | |||
| ให้ไปรับยายสายกับยายยอ | แต่ล้วนหมอตำแยเซ็งแซ่มา | |||
| เข้าถือท้องต้องถูกว่าลูกต่ำ | เอาหน้าคว่ำไขว่ขวางไปข้างขวา | |||
| ช่วยผันแปรแก้ไขใกล้เวลา | บ้างตำยาขยำส้มต้มน้ำร้อน | |||
| นางวันทองร้องไห้ใจจะขาด | พอกรรมชวาตวาตะประทะถอน | |||
| อรุณฤกษ์เบิกสุรินทร์ทินกร | อุทรคลอนเคลื่อนคลอดไม่วอดวาย | |||
| พอพ้นท้องร้องแว้นางแม่หวีด | หน้าซีดอกสั่นมิ่งขวัญหาย | |||
| ขุนช้างมองร้องอ้ายหนูเป็นผู้ชาย | ทั้งย่ายายเยี่ยมลูกให้หยูกยา | |||
| แล้วทอดเตาเข้าไฟไม่ไข้เจ็บ | ครั้นจะเก็บความกล่าวยาวหนักหนา | |||
| ค่อยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้จนใหญ่มา | กระทั่งอายุเจ้าได้เก้าปี | |||
| ไม่คลาดเคลื่อนเหมือนแม้นขุนแผนพ่อ | เหลืองลอออวบอ้วนเป็นนวลศรี | |||
| ทั้งจุกผมกลมกล่อมกระหม่อมดี | ช่างพาทีฉอเลาะพูดเพราะพราย | |||
| นางวันทองน้องคะนึงถึงขุนแผน | ด้วยลูกแม้นเหมือนเหลือเป็นเชื้อสาย | |||
| บอกบ่าวไพร่ให้สำเหนียกเรียกลูกชาย | ชื่อว่าพลายงามน้อยแก้วกลอยใจ ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายขุนช้างหมางจิตให้คิดแค้น | ลูกขุนแผนมั่นคงไม่สงสัย | |||
| เมื่อกระนั้นเหมือนกูครั้นดูไป | ก็กลับไพร่เหมือนพ่ออ้ายทรพี | |||
| อีแม่มันวันทองก็สองจิต | ช่างประดิษฐ์ชื่อลูกให้ถูกที่ | |||
| เรียกพ่อพลายคล้ายผัวอีตัวดี | ทุกราตรีตรึกตราจะฆ่าฟัน | |||
| พอวันทองน้องป่วยลงด้วยเคราะห์ | มาจำเพาะจะวิโยคให้โศกศัลย์ | |||
| ฟังเสียงเงียบระงับหลับกลางวัน | พลายงามนั้นนั่งกับพ่อที่หอกลาง | |||
| ขุนช้างเห็นเป็นทีไม่มีเพื่อน | แกล้งชี้เชือนชักพาลงมาล่าง | |||
| ให้ขี่หลังนั่งบ่าแล้วว่าพลาง | ไปชมช้างกวางทรายมีหลายพรรณ | |||
| ทั้งนกยูงฝูงหงส์มันลงเกลื่อน | จับไก่เถือนมาเลี้ยงฟังเสียงขัน | |||
| พูดให้เพลินเดินพลางกลางอรัญ | แกล้งให้หมั่นดูแลฝูงแกกา | |||
| โพระดกนกงั่นกระตั้วเต้น | กระแตเล่นไม้โจนโผนผวา | |||
| เจ้าพลายงามถามพ่อพูดจ้อมา | ขุนช้างพาเลี้ยวไปปะไม้ซุง | |||
| เห็นลับลี้ที่สงัดขัดเเขมร | สะบัดเบนเบือนเหวี่ยงลงเสียงผลุง | |||
| ปะเตะซ้ำต้ำผางเข้ากลางพพุง | ถีบกระทุ้งถองทุบเสียงอุบโอย | |||
| พลายงามร้องสองมือมันอุดปาก | ดิ้นกระดากถลากไถลร้องไห้โหย | |||
| พอหลุดมือรื้อร้องวันทองโวย | หม่อมพ่อโบยตีฉันแทบบรรลัย | |||
| ไม่เห็นแม่แลหาน้ำตาตก | ขุนช้างชกฉุดคร่าไม่ปราศรัย | |||
| จนเหงื่อตกกระปรกประปรอมขึ้นคร่อมไว้ | หอบหายใจฮักฮักเข้าหักคอ | |||
| พลายงามดิ้นสิ้นเสียงสำเนียงร้อง | ยกแต่สองมือไหว้หายใจฝ่อ | |||
| มันห้ามว่าอย่าร้องก็ต้องรอ | เรียกหม่อมพ่อเจ้าขาอย่าฆ่าเลย | |||
| จงเห็นแก่แม่วันทองของลูกบ้าง | พ่อขุนช้างใจบุญพ่อคุณเอ๋ย | |||
| ช่วยฝังปลูกลูกไว้ใช้เช่นเคย | ผงกเงยมันก้ทุบหงุบลงไป | |||
| บีบจมูกจุกปากลากกระแทก | เสียงแอ้กแอ้กอ่อนซบสลบไสล | |||
| พอผีพรายนายขุนแผนผู้แว่นไว | เข้ากอดไว้มิให้ถูกลูกของนาย | |||
| ขุนช้างเห็นว่าทับจนตับแตก | เอาคาแฝกฝุ่นกลบให้ศพหาย | |||
| แล้วกลิ้งขอนซ้อนทับให้ลับกาย | ทำลอยชายชมป่ากลับมาเรือนฯ | |||
| ๏ ฝ่ายผีพรายนายขุนแผนแค้นขุนช้าง | อุตส่าห์ง้างขอนใหญ่ให้เขยื้อน | |||
| แล้วเป่าแผลแก้หายละลายเลือน | เจ้าพลายเคลื่อนคลายฟื้นเหมือนตื่นนอน | |||
| นางพรายบอกว่าเราบ่าวขุนแผน | มาทำแทนเมื่อมันทับช่วยรับขอน | |||
| ไม่ม้วยแล้วแก้วตาอย่าอาวรณ์ | อยู่นี่ก่อนเถิดนะเจ้าอย่าเศร้าใจ | |||
| แม่ของเจ้าเราจะบอกออกมารับ | แล้วหายวับวู่วามตามนิสัย | |||
| เจ้าพลายงามยามเย็นไม่เห็นใคร | เที่ยวร้องไห้หาแม่ชะแง้คอย | |||
| จะไปเรือนเพื่อนทางที่กลางป่า | นึกน้ำตาหยดเหยาะลงเผาะผ็อย | |||
| เจ้าแหงนดูสุริย์ฉายก็บ่ายคล้อย | ให้นึกน้อยใจพ่อพูดล่อลวง | |||
| เสียแรงลูกผูกใจจะได้พึ่ง | พ่อโกรธขึ้งสิ่งใดเป็นใหญ่หลวง | |||
| โอ้มีพ่อก็ไม่เหมือนเพื่อทั้งปวง | มีแต่ลวงลูกรักไปหักคอ | |||
| รู้กระนี้มิอยากเรียกพ่อดอก | จะไปบอกแม่วันทองให้ฟ้องพ่อ | |||
| เที่ยวผันแปรแลหาน้ำตาคลอ | นึกระย่อเยือกเย้นไม่เห็นใคร | |||
| ดูครึ้มครึกฟฤกษาป่าสงัด | ไม่แกว่งกวัดก้านกิ่งประวิงไหว | |||
| จังหรีดร้องก้องเสียงเคียงเรไร | ทั้งลองไนเรื่อยแร่แวแววับ | |||
| ดุเหว่าร้องมองเมียงเสียงว่าแม่ | ยืนชะแง้แลดูเงี่ยหูตรับ | |||
| อยู่นี่แน่แม่จ๋าจงมารับ | วิ่งกระสับกระสนวนเวียนไป ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพวกพรายกายสิทธิ์ฤทธิรุทร | เหมือนลมวุดวู่หนึ่งถึงไหนไหน | |||
| ไปเข้าฝันวันทองถึงห้องใน | เหมือนจะให้เห็นลูกคิดผูกพัน ฯ | |||
| ๏ ครานั้นวันทองผ่องโสภา | เมื่อลูกแก้วแววตาจะอาสัญ | |||
| คิ้วกระเหม่นเป็นลางแต่กลางวัน | ให้หวั่นหวั่นหวิวหวิวหิวหาวนอน | |||
| พอม่อยหลับคลับคล้ายเห็นพลายน้อย | ขุนช้างถ่อยทับไว้ด้วยไม้ขอน | |||
| ผวาฟื้นตื่นตาด้วยอาวรณ์ | สะอื้นอ่อนในอกตกตะลึง | |||
| พอแมงมุมอุ้มไข่ไต่ตีตก | นางผงกเงี่ยฟังดังผึงผึง | |||
| ประหลาดลางหมางจิตคิดคะนึง | รำลึกถึงลูกชายเจ้าพลายงาม | |||
| ลุกออกมาหาจบไม่พบเห็น | ที่เคยเล่นอยู่กับใครเที่ยวไต่ถาม | |||
| แต่อีดูกลูกครอกมันบอกความ | ว่าเห็นตามพ่อขุนช้างไปกลางไพร | |||
| นางแคลงผัวกลัวจะพาไปฆ่าเสีย | น้ำตาเรี่ยเรี่ยตกซกซกไหล | |||
| ออกนอกรั้วตัวคนเดียวเที่ยวเดินไป | โอ้อาลัยเหลียวแลชะแง้เงย | |||
| เห็นคุ่มคุ่มพุ่มไม้ใจจะขาด | พ่อพลายงามทรามสวาทของแม่เอ๋ย | |||
| เจ้าไปไหนไม่มาหาแม่เลย | ที่โคกเคยวิ่งเล่นไม่เห็นตัว | |||
| หรือล้มตายควายขวิดงูพิษขบ | ไฉนศพสาบสูญพ่อทูนหัว | |||
| ยิ่งเย็นย่ำค่ำคลุ้มชอุ่มมัว | ยิ่งเริ่มรัวเรียกร่ำระกำใจ | |||
| เสียงซ้อแซ้แกกาผวาว่อน | จิ้งจอกหอนโหยหาที่อาศัย | |||
| จักจั่นเจื้อยร้องริมลองไน | เสียงเรไรหริ่งหริ่งที่กิ่งรัง | |||
| ทั้งเป็ดผีปี่แก้วแว่วแว่วหวีด | เสียงจังหรีดกรีดแซ่ดังแตรสังข์ | |||
| นางวันทองมองหาละล้าละลัง | หรือผีบังซ่อนเร้นไม่เห็นเลย | |||
| จะบนหมูสุรารำว่าครบ | ขอให้พบลูกตัวทูนหัวเอ๋ย | |||
| แล้วลดเลี้ยวเที่ยวแลชะแง้เงย | โอ้ทรามเชยหลากแล้วพ่อแก้วตา | |||
| ตะโกนเรียกพลายงามทรามสวาท | ใจจะขาดคนเดียวเที่ยวตามหา | |||
| สะอื้นโอ้โพล้เพล้เดินเอกา | สกุณานอนรังสะพรั่งไพร | |||
| เห็นฝูงนกกกบุตรยิ่งสุดเศร้า | โอ้ลูกเราไม่รู้ว่าอยู่ไหน | |||
| ชะนีโหวยโหยหวนรัญจวนใจ | ยิ่งอาลัยแลหาน้ำตานอง | |||
| พอแจ้วแจ้วแว่วเสียงสำเนียงเรียก | นึกสำเหนียกหลายหนขนสยอง | |||
| ตรงเซิงซุ้มคุ่มเคียงนางเมียงมอง | เห็นลูกร้องไห้สะอื้นยืนเหลียวแล | |||
| ความดีใจไปกอดเอาลูกแก้ว | แม่มาแล้วอย่ากลัวทูนหัวแม่ | |||
| เป็นไรไม่ไปเรือนเที่ยวเชือนแช | แม่ตามแต่ตะวันบ่ายเห็นหายไป ฯ | |||
| ๏ เจ้าพลายน้อยสร้อยเศร้าแล้วเล่าว่า | หม่อมพ่อพาเวียนวงให้หลงใหล | |||
| แล้วทุบถีบบีบจมูกของลูกไว้ | เอาขอนไม้ทับคอแทบมรณา | |||
| พอพวกพ้องของขุนแผนแล่นมาช่วย | จึงไม่ม้วยแม่คุณบุญหนักหนา | |||
| ยังช้ำชอกยอกเหน็บเจ็บกายา | พูดน้ำตาผ็อยผ็อยด้วยน้อยใจฯ | |||
| ๏ นางวันทองร้องไห้ใจจะขาด | โอ้ชาตินี่มีกรรมจะทำไฉน | |||
| แล้วเล่าความตามจริงทุกสิ่งไป | เจ้ามิใช่ลูกเต้าเขาจึงชัง | |||
| พ่อของเจ้านั้นหรือชื่อขุนแผน | เป็นคนแค้นกับขุนช้างแต่ปางหลัง | |||
| เอาทุกข์ร้อนก่อนเก่าเล่าให้ฟัง | เดี๋ยวนี้ยังอยู่ในคุกเป็นทุกข์ทน | |||
| จึงจนใจไม่มีที่จะพึ่ง | มันทำถึงสาหัสก็ขัดสน | |||
| ครั้นจะฟ้องร้องเล่าเราก็จน | แม้นไม่พ้นมือมันจะอันตราย | |||
| แต่รู้อยู่ว่าย่าทองประศรี | อยู่บ้านกาญจน์บุรีวัดเชิงหวาย | |||
| แม้นไปถึงพึ่งพาย่าพ่อพลาย | จะสบายบุญปลอดตลอดไป | |||
| แต่ทางนั้นวันครึ่งจึงถึงบ้าน | ทางกันดารเดินดงจะหลงใหล | |||
| โอ้ใครเล่าเขาจะพาเจ้าคลาไคล | นางร้องไห้สะอื้นกลืนน้ำตา ฯ | |||
| ๏ เจ้าพลายงามถามซักตระหนักแน่ | พลางบอกแม่ลูกแสนแค้นหนักหนา | |||
| อ้ายคนนี้มิใช่พ่อจะขอลา | ไปหาย่าอยู่บ้านกาญจน์บุรี | |||
| สงสารแต่แม่คุณของลูกแก้ว | จะลับแล้วตายเป็นไม่เห็นผี | |||
| เพราะพ่อเลี้ยงเดียงสาไม่ปรานี | อยู่ที่นี่ชีวันจะบรรลัย | |||
| ไปสู้ตายวายวางเสียข้างหน้า | ด้วยเกิดมามีกรรมจะทำไฉน | |||
| ขอลาแม่แต่นี้นับปีไป | แล้วร้องไห้หวลคิดถึงบิดา | |||
| โอ้พ่อคุณขุนแผนของลูกเอ๋ย | เมื่อไรเลยลูกจะได้ไปเห็นหน้า | |||
| ต้องติดคุกทุกข์ทุเรศเวทนา | เจ้าครวญคร่ำร่ำว่าด้วยอาลัย ฯ | |||
| ๏ นางวันทองร้องไห้จิตใจหาย | กอดเจ้าพลายงามน้อยละห้อยไห้ | |||
| โอ้ลูกแก้วแววตาจะลาไป | หนทางป่าค่าไม้พ่อไม่เคย | |||
| จะเลี้ยวหลงวงวกระหกระเหิน | เจ้าจะเดินไปถูกหรือลูกเอ๋ย | |||
| โอ้ยากเย็นเข็ญใจกระไรเลย | เพราะกรรมเคยพรากสัตว์ให้พลัดพราย | |||
| เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าจะพรากไปจากแม่ | แม่จะแลเห็นใครน่าใจหาย | |||
| พลางสวมสอดกอดแอบไว้แนบกาย | สะอื้นไห้ไม่วายฟายน้ำตา ฯ | |||
| ๏ จนจวนค่ำน้ำค้างลงพร่างพราย | ปลอบลูกชายพลายน้อยเสน่หา | |||
| อ้ายศัตรูรู้ความจะตามมา | แม่จะพาเจ้าไปฝากขรัวนากไว้ | |||
| แล้วพากันดั้นดัดไปวัดเขา | เห็นสมภารคลานเข้าไปกราบไหว้ | |||
| แล้วเล่าความตามจริงทุกสิ่งไป | เจ้าคุณได้โปรดด้วยช่วยธุระ | |||
| เอาลูกอ่อนซ่อนไว้เสียในห้อง | เผื่อพวกพ้องเขามาหาอย่าให้ปะ | |||
| ท่านขรัวครูผู้เฒ่าว่าเอาวะ | ไว้ธุระเถิดอย่ากลัวที่ผัวเลย | |||
| ถ้าหากว่ามาค้นจนถึงห้อง | กูมิถองก็จงว่าสีกาเอ๋ย | |||
| ฆ่าลูกเลี้ยงเอี้ยงดูกูไม่เคย | อย่าทุกข์เลยลุงจะช่วยลูกอ่อนไว้ ฯ | |||
| ๏ นางวันทองหมองหมางไม่สร่างทุกข์ | กระหมวดจุกลูกยาน้ำตาไหล | |||
| เห็นจวนค่ำจำลาทั้งอาลัย | ลงบันไดเดินด่วนด้วยจวนเย็น | |||
| พอเข้าไปในรั้วด่าผัวโผง | อ้ายตายโหงหักคอไม่ขอเห็น | |||
| แต่ชาตินี้กีกรรมจึงจำเป็น | ได้ชายเช่นนี้มาเป็นสามี | |||
| ขึ้นบนเรือนเหมือนใจจะจากร่าง | เห็นขุนช้างชิงชังผินหลังหนี | |||
| เข้าในห้องหมองอารมณ์ไม่สมประดี | เห็นแต่ที่นอนเปล่ายิ่งเศร้าใจ | |||
| คิดถึงลูกผูกพันให้หวั่นอก | น้ำตาตกผ็อยผ็อยละห้อยไห้ | |||
| โอ้ลูกเอ๋ยเคยนอนแต่ก่อนไร | จนเจ้าได้สิบปีเข้านี่แล้ว | |||
| อยู่หลัดหลัดพลัดพรากไปจากแม่ | แม่ยังแลเห็นแต่ฟูกของลูกแก้ว | |||
| โอ้พลายงามทรามสวาทจะคลาดแคล้ว | เสียงแจ้วแจ้วเจ้าวันทองนองน้ำตาฯ | |||
| ๏ ฝ่ายขุนช้างคางเคราอ้ายเจ้าเล่ห์ | เมาโมเมยิ้มกริ่มอยู่ริมฝา | |||
| เสียงวันทองร้องไห้จุดไฟมา | ส่องดูหน้านั่งเคียงบนเตียงนอน | |||
| ทำไถลไถ่ถามเป็นความหยอก | หรือหนามยอกเจ็บป่วยจะช่วยถอน | |||
| พลางรับขวัญวันทองร้องละคร | เจ้าทุกข์ร้อนรำคาญประการใด ฯ | |||
| นางวันทองข้องขัดสะบัดหน้า | ขุนช้างรำทำท่าเข้าคว้าไขว่ | |||
| นางผลักพลิกหยิกข่วนว่ากวนใจ | ไฮ้อะไรนี่เล่าเฝ้าเซ้าซี้ | |||
| ลูกข้าหายตายเป็นไม่เห็นศพ | อย่ามากลบรอยเสือเบื่อบัดสี | |||
| เจ้าพาไปในป่าพนาลี | แล้วก็มิพามาว่ากระไร ฯ | |||
| ๏ ขุนช้างฟังช่างแก้อีแม่เจ้า | ข้าเมาเหล้าหลับซบสลบไสล | |||
| ใครบอกเจ้าเล่าว่าข้าพาไป | หล่อนไม่ได้ตามข้าผ่าเถิดซิ | |||
| เมื่อกลางวันยังเห็นเล่นไม้หึ่ง | กับอ้ายอึ่งอีดูกลูกอีปิ | |||
| แล้วว่าเจ้าเล่าก็ช่างนั่งมึนมิ | ว่าแล้วซิอย่าให้ลงไปดิน | |||
| ลูกปะหล่ำกำไลใส่ออกกลบ | ฉวยว่าพบคนร้ายอ้ายคอฝิ่น | |||
| มันจะทุบยุบยับเหมือนกับริ้น | ง้างกำไลไปกินเสียแล้วกรรม | |||
| แล้วแก้เก้อเร่อออกไปนอกห้อง | ตะโกนร้องเรียกข้ามาด่าพร่ำ | |||
| ไปเที่ยวตามถามหาถึงท่าน้ำ | ไม่พบทำถอนใจกลับไปเรือน | |||
| รินสุรามาดื่มลืมสติ | อุตริร้องไห้ใครจะเหมือน | |||
| ขึ้นหอขวางกลางแจ้งเห็นแสงเดือน | โอ้พ่อเพื่อนชีวิตของบิตุรงค์ | |||
| แกล้งร้องร่ำคร่ำครวญทำหวนโหย | สะโอดโอยเอกทุ้มจนลุ่มหลง | |||
| ถึงท่อนปลายกรายเกริ่นเป็นเดินดง | ปีกเจ้าอ่อนร่อนลงในดงเตย | |||
| แล้วรู้ตัวกลัวเมียร้องเสียใหม่ | เจ้าจำไกลพ่อแล้วลูกแก้วเอ๋ย | |||
| เสียงอ้อแอ้แผ่กายนอนหงายเลย | จนลืมเลยซบเซาด้วยเมามาย ฯ | |||
| ๏ นวลนางวันทองค่อยย่องย่าง | เห็นขุนช้างหลับสมอารมณ์หมาย | |||
| สะอื้นอั้นพันผูกถึงลูกชาย | จนพลัดพรายเพราะผัวเป็นตัวมาร | |||
| จึงเย็บไถ้ใส่ขนมกับส้มลิ้ม | ทั้งแช่อิ่มจันอับลูกพลับหวาน | |||
| แหวนราคาห้าช่างทองบางตะพาน | ล้วนต้องการเก็บใส่ในไถ้น้อย | |||
| ไปอยู่บ้านท่านย่าจะหายาก | เมื่ออดอยากอย่างไรได้ใช้สอย | |||
| แล้วนั่งนึกตรึกตราน้ำตาย้อย | รำคาญคอยสุริยาจะคลาไคล ฯ | |||
| ๏ จะกล่าวถึงพลายงามทรามสงสาร | พึ่งสมภารอยู่ในห้องนั่งร้องไห้ | |||
| พวกศิษย์เณรเถรชีต้นช่วยฝนไพล | มาลูบไล้แผลที่มันตีรัน | |||
| แล้วสมภารท่านก็หลับระงับเงียบ | ยิ่งเย็นเยียบเยือกใจเมื่อไก่ขัน | |||
| เพราะแม่ลูกผูกจิตคิดถึงกัน | เฝ้าใฝ่ฝันเฟือนแลเห็นแม่มา | |||
| ดุเหว่าร้องซ้องเสียงสำเนียงแจ้ว | ให้แว่วว่าวันทองร้องเรียกหา | |||
| สะดุ้งใจไหววับทั้งหลับตา | ร้องขานขาสุดเสียงแต่เที่ยงคืน | |||
| ครั้นรู้สึกนึกได้ให้ละห้อย | เจ้าพลายน้อยนิ่งนอนถอนสะอื้น | |||
| จนเคาะระฆังหงั่งเหง่งเสียงเครงครื้น | สมภารตื่นเตือนชีต้นสวดมนตร์เกณฑ์ฯ | |||
| ๏ นางวันทองร้องไห้เมื่อใกล้รุ่ง | น้ำค้างฟุ้งฟ้าแดงเป็นแสงเสน | |||
| ด้วยวัดเขาเข้าใจเคยไปเจน | โจงกระเบงมั่นเหมาะห่มเพลาะดำ | |||
| แล้วถือไถ้ใส่ขนมผ้าห่มหุ้ม | ออกย่างดุ่มเดินเหย่าก้าวถลำ | |||
| ลงจากเรือนเชือนมาข้างท่าน้ำ | แล้วรีบร่ำเดินตรงเข้าดงตาล | |||
| ถึงวัดเขาเช้าตรู่ดูลูกน้อย | เห็นมาคอยนั่งท่าน่าสงสาร | |||
| จะนั่งหยุดพูดจาจะช้าการ | ลาสมภารพามาป่าสะแก | |||
| ให้ขนมส้มสูกแก่ลูกรัก | สงสารนักจะร้างไปห่างแม่ | |||
| หนทางบ้านกาญจน์บุรีตรงนี้แล | จำให้แน่นะอย่าหลงเที่ยววงเวียน | |||
| อุตส่าห์ไปให้ถึงเหมือนหนึ่งว่า | ให้คุณย่าเป็นอาจารย์สอนอ่านเขียน | |||
| จงหมายมุ่งทุ่งกว้างตามทางเกวียน | ที่โล่งเลี่ยนลัดไปในไพรวัน | |||
| แล้วเกล้าจุกผูกไถ้ที่ใส่ของ | ให้แหวนทองทุกสิ่งทำมิ่งขวัญ | |||
| แล้วกอดลูกผูกใจจะไกลกัน | สะอื้นอั้นออกปากฝากเทวา | |||
| ขอเดชะพระไพรข้าไหว้กราบ | ช่วยกำราบเสือสิงห์มหิงสา | |||
| ทั้งปู่เจ้าเขาเขินขอเชิญพา | ไปถึงย่าอย่าให้หลงเที่ยววงวน | |||
| ทั้งพ่อคุณขุนแผนแสนวิเศษ | บังเกิดเกศแก้วตาสถาผล | |||
| ช่วยลูกชายพลายงามเมื่อยามจน | ให้รอดพ้นภัยพาลถึงกาญจน์บุรี | |||
| นางคร่ำครวญร่ำว่าน้ำตาตก | เหมือนหนึ่งอกพุพองเป็นหนองฝี | |||
| แม่อุ้มท้องครองเลี้ยงถึงเพียงนี้ | ได้สิบปีเศษแล้วจะแคล้วกัน | |||
| เคยกินนอนวอนแม่ไม่แหห่าง | จะอ้างว้างเปล่าใจในไพรสัณฑ์ | |||
| ทั้งจุกไรใครเล่าจะเกล้าพัน | จะนับวันนับเดือนไปเลือนลับ | |||
| นับปีมิได้มาเห็นหน้าแม่ | จะห่างแหหายเหมือนเมื่อเดือนดับ | |||
| โอ้เสียชาติวาสนาแม่อาภัพ | ให้ย่อยยับยากแค้นแสนระอา | |||
| จะมีผัวผัวก็พลัดกำจัดจาก | จนแสนยากอย่างนี้แล้วมิหนำ | |||
| มามีลูกลูกก็จากวิบากกรม | สะอื้นร่ำรันทดสลดใจ ฯ | |||
| ๏ เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ | ชำเลืองแลดูหน้าน้ำตาไหล | ||
| แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย | ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ | ||
| แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก | ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะอ้ายขุน | ||
| เที่ยวหาพ่อขอให้ปะเดชะบุญ | ไม่ลืมคุณมารดาจะมาเยือน | ||
| แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก | คนอื่นสักหมื่นแสนไม่แม้นเหมือน | ||
| จะกินนอนวอนว่าเมตตาเตือน | จะจากเรือนร้างแม่ไปแต่ตัว | ||
| แม่วันทองของลูกจงกลับบ้าน | เขาจะพาลว้าวุ่นแม่ทูนหัว | ||
| จะก้มหน้าลาไปมิได้กลัว | แม่อย่ามัวหมองนักจงหักใจ ฯ | ||
| ๏ นางกอดจูบลูบหลังแล้วสั่งสอน | อำนวยพรพลายน้อยละห้อยไห้ | ||
| พ่อไปดีศรีสวัสดิ์กำจัดภัย | จนเติบใหญ่ยิ่งยวดได้บวชเรียน | ||
| ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ | เจ้าจงอตส่าห์ทำสม่ำเสมียน | ||
| แล้วพาลูกออกมาข้างท่าเกวียน | จะจากเจียนใจขาดอนาถใจ | ||
| ลูกก็และดูแม่แม่ดูลูก | ต่างพันผูกเพียงว่าเลือดตาไหล | ||
| สะอื้นร่ำอำลาด้วยอาลัย | แล้วแข็งใจจากนางตามทางมา | ||
| เหลียวหลังยังเห็นแม่แลเขม้น | แม่ก็เห็นลูกน้อยละห้อยหา | ||
| แต่เหลียวเหลียวเลี้ยวลับวับวิญญาณ์ | โอ้เปล่าตาต่างสะอื้นยืนตะลึง ฯ | ||
| ๏ นางวันทองหมองมัวกลัวขุนช้าง | ไม่เหมือนอย่างคนทั้งปวงมันหวงหึง | ||
| ออกชายทุ่งมุ่งเมินเดินตะบึง | กลับมาถึงเรือนร่ำระกำตรอม | ||
| ทุกเช้าเย็นเศร้าหมองเฝ้าร้องไห้ | ด้วยอาลัยพลายงามทรามถนอม | ||
| ถึงยามกินสิ้นรสสู้อดออม | จนซูบผอมผิวพรรณทุกวันคืน ฯ | ||
| ๏ เจ้าพลายงามตามทางไปกลางทุ่ง | เขม้นมุ่งเขาเขินเดินสะอื้น | ||
| ออกหลังบ้านตาลตะคุ่มเป็นพุ่มพื้น | ร่มรื่นรังเรียงเคียงตะเคียน | ||
| ต้นแคคางกร่างกระทุ่มชอุ่มออก | ทั้งช่อดอกดูไสวเหมือนไม้เขียน | ||
| เจ้าพลายเพลินเดินพลางตามทางเกวียน | ตลอดเลี่ยนลมเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยมา | ||
| ถงโคกฆ้องหนองสะพานบ้านกะเหรี่ยง | เห็นโรงเรียงไร่ฝ้ายทั้งซ้ายขวา | ||
| พริกมะเขือเหลืออร่ามงามตา | สาลิกาแก้วกินแล้วบินฮือ | ||
| เห็นไก่เตี้ยเขี่ยคุ้ยที่ขุยไผ่ | กระโชกไล่ลดเลี้ยวมันเปรียวปรื๋อ | ||
| พบนกยูงฝูงใหญ่ไล่กระพือ | มันบินหวือโห่ร้องคะนองใจ | ||
| จนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยข้อให้ท้อแท้ | คิดถึงแม่วันทองแล้วร้องไห้ | ||
| พระสุริยาสายัณห์ลงเรไร | เหมือนจิตใจเจ้าจะขาดลงรอนรอน | ||
| พอจวนพลบพบฝูงจิ้งจอกน้อย | วิ่งร่อยร่อยตามเขาแล้วเห่าหอน | ||
| แสยงเส้นโลมาให้อาวรณ์ | ถึงดงดอนแดนบ้านกาญจน์บุรี | ||
| เห็นวัดร้างข้างเขาดูเก่าแก่ | ยังมีแต่รูปพระชินสีห์ | ||
| โบสถ์โบราณบานประตูยังดูดี | พอราตรีกราบไหว้อาศัยนอน | ||
| ครั้นรุ่งเช้าเอาขนมทั้งส้มลิ้ม | พอกินอิ่มแล้วออกเดินเนินสิงขร | ||
| ถึงบ้านกร่างทางคนเขาหาบคอน | เห็นเด็กต้อนควายอึงคะนึงไป | ||
| ไม่รู้ความถามเหล่าพวกชาวบ้าน | ว่าเรือนท่านทองประศรีอยู่ที่ไหน | ||
| เด็กบ้านนอกบอกเล่าให้เข้าใจ | แกอยู่ไร่โน่นแน่ะยังแลลับ | ||
| มะยมใหญ่ในบ้านกินหวานนัก | กูไปลักบ่อยบ่อยแกคอยจับ | ||
| พอฉวยได้อ้ายขิกหยิกเสียยับ | ร้ายเหมือนกับผีเสื้อแกเหลือตัว | ||
| ถ้าลูกใครไปเล่นแกเห็นเข้า | แกจับเอานมยานฟัดกบาลหัว | ||
| มาถามหาว่าไรช่างไม่กลัว | แกจับตัวตีตายยายนมยาน ฯ | ||
| ๏ เจ้าพลายงามถามแจ้งแล้วแกล้งว่า | เอ็งช่วยพาเราไปชมมะยมหวาน | ||
| จะขึ้นลักหักห่อให้พอการ | มาสู่ท่านทั้งสิ้นกินด้วยกัน | ||
| พวกเด็กเด็กดีใจไปสิหวา | ซ่อนข้าวปลาปล่อยควายแล้วผายผัน | ||
| บ้างเหน็บหน้าผ้านุ่งเกี้ยวพุงพัน | หัวเราะกันกูจะห่อให้พอแรง | ||
| พอถึงบ้านท่านยายทองประศรี | พวกเด็กชี้เรือนให้แล้วแอบแฝง | ||
| เจ้าพลายงามขามจิตยังคิดแคลง | ค่อยลัดแลงเล็งแลมาแต่ไกล | ||
| ดูเงียบเชียบเลียบรอบริมขอบรั้ว | ไม่เห็นตัวท่านย่าน่าสงสัย | ||
| ประตูหับยับยั้งยืนฟังไป | เสียงแต่ในออดแอดแรดแรแร | ||
| รู้ว่าคนบนนั้นนั่งปั่นฝ้าย | จะอุบายบอกความตามกระแส | ||
| ขึ้นมะยมห่มล้อทำตอแย | ให้ท่านแลเห็นเรามาเอาตัว | ||
| จึงจะบอกออกตามเนื้อความลับ | ได้อยู่กับย่าบังเกิดกำเนิดหัว | ||
| แล้วเมียงมองย่องดอดเข้าลอดรั้ว | ค่อยแฝงตัวขึ้นบนต้นมะยม | ||
| แล้วพยักกวักเรียกอ้ายเด็กเด็ก | ลูกเล็กหลบลอบค่อยหมอบก้ม | ||
| ระวังตัวกลัวยายเฒ่าเจ้าคารม | เก็บมะยมซุบซิบกระหยิบตา ฯ | ||
| ๏ ครานั้นท่านยายทองประศรี | กับยายปลียายเปลอยู่เคหา | ||
| ให้พวกเหล่าบ่าวไพร่ไปไร่นา | ตามประสาเพศบ้านกาญจน์บุรี | ||
| แต่ขุนแผนแสนสนิทต้องติดคุก | ไม่มีสุขเศร้าหมองทองประศรี | ||
| จนซูบผอมตรอมใจมาหลายปี | อยู่แต่ที่ในห้องนองน้ำตา | ||
| แต่หูไวได้ยินมะยมหล่น | เป็นทำวลแหวกมองตามช่องฝา | ||
| เห็นเด็กเด็กเล็ดดลอดดอเข้ามา | แกฉวยคว้าไม้ตระบองค่อยมองเมียง | ||
| ลงบันไดอ้ายเด็กเล็กกเล็กวิ่ง | แกไล่ทิ้งด่าทอมันล้อเถียง | ||
| ชกโคตรเหง้าเหล่ากอเอาพอเพียง | พอแว่วเสียงอยู่บนต้นมะยม | ||
| มองเขม้นเห็นลูกหัวจุกน้อย | เหม่อ้ายจ้อยโจรป่าด่าขรม | ||
| อย่าแอบอิงนิ่งนั่งตั้งเทพนม | ลงมาก้มหลังลองตระบองกู ฯ | ||
| ๏ เจ้าพลายงามคร้ามพรั่นขยั้นหยุด | ความกลัวสุดแสนกลัวตัวเป็นหนู | ||
| จึงว่าฉานหลานดอกบอกให้รู้ | อันอยู่ที่เมืองสุพรรณบ้านวันทอง | ||
| ทองประศรีชี้หน้าว่าอุเหม่ | อ้ายเจ้าเล่ห์หลานข้ามันน่าถอง | ||
| มาเถิดมาย่าจะให้ไม้ตระบอง | แกคอยจ้องจะทำให้หนำใจ | ||
| เจ้าพลายงามความกลัวจนตัวสั่น | หยุดขยั้นอยู่ไม่กล้าลงมาได้ | ||
| แล้วนึกว่าย่าตัวกลัวอะไร | โจนลงไปกราบย่าที่ฝ่าตีน ฯ | ||
| ๏ ทองประศรีตีหลังเสียงดังผึง | จะมัดมึงกูไม่ปรับเอาทรัพย์สิน | ||
| มาแต่ไหนลูกไทยหรือลูกจีน | เฝ้าลักปีนมะยมห่มหักราน | ||
| เจ้าพลายน้อยคอยหลบแล้วนบนอบ | ฉันเจ็บบอบแล้วย่าเมตตาหลาน | ||
| ข้าเป็นลูกพ่อขุนแผนแสนสะท้าน | ข้างฝ่ายมารดาชื่อแม่วันทอง | ||
| จะมาหาย่าชื่อทองประศรี | อย่าเพ่อตีฉันจะเล่าความเศร้าหมอง | ||
| ย่าเขม้นเห็นจริงทิ้งตระบอง | กอดประคองรับขวัญกลั้นน้ำตา | ||
| แล้วด่าตัวชั่วเหลือไม่เชื่อเจ้า | ขืนตีเอาหลานรักเป็นหนักหนา | ||
| จนหัวห้อยพลอยนอพ่อนี่นา | แล้วพามาขึ้นเรือนเตือนยายปลี | ||
| ช่วยฝนไพลให้เหลวเร็วเร็วเข้า | อีเปลเอาขันล้างหน้าออกมานี่ | ||
| แกตักน้ำร่ำรดหมดราคี | ช่วยขัดสีโซมขมิ้นสิ้นเป็นชาม | ||
| แล้วทาไพลให้หลานสงสารเลหือ | มานั่งเสื่อลันไตปราศรัยถาม | ||
| เจ้าชื่อไรใครบอกออกเนื้อความ | จึงได้ตามขึ้นมาถึงย่ายาย ฯ | ||
| ๏ เจ้าพลายน้อยสร้อยเศร้าแล้วเล่าเรื่อง | แต่อยู่เมืองสุพรรณเหมือนมั่นหมาย | ||
| แม่วันทองครองเลี้ยงไว้เคียงกาย | ให้ชื่อพลายงามน้อยแก้วกลอยใจ | ||
| ให้ไหว้บุญขุนช้างเหมือนอย่างพ่อ | มันลวงล่อหลานหลงไม่สงสัย | ||
| พาหลานเที่ยวเลี้ยวทางไปกลางไพร | เอาขอนไม้ทับคอแทบมรณา | ||
| แม่จึงบอกออกว่าพ่อชื่อขุนแผน | ขุนช้างแค้นเคืองคิดริษยา | ||
| อยู่ไม่ได้ในสุพรรณจึงดั้นมา | ขอพึ่งบุญคุณย่าประสาจน ฯ | ||
| ๏ ทองประศรีตีอกชกผางผาง | ทุดอ้ายช้างชาติข้าอ้ายหน้าขน | ||
| ลูกอีเฒ่าเทพทองคลองน้ำชน | จะฆ่าคนเสียทั้งเป็นไม่เอ็นดู | ||
| ทำราวเจ้าชีวิตกูคิดฟ้อง | ให้มันต้องโทษกรณ์จนอ่อนหู | ||
| แกบ่นว่าด่าร่ำออกพร่ำพรู | พ่อมาอยู่บ้านย่าแล้วอย่ากลัว | ||
| แม้นอ้ายขุนวุ่นมาว่าเป็นลูก | มันมิถูกนมยานฟัดกบาลหัว | ||
| พลางเรียกอีไหมที่ในครัว | เอาแกงคั่วข้าวปลามาให้กิน | ||
| พอบ่ายเบี่ยงเสียงละว้าพวกข้าบ่าว | ทั้งมอญลาวเลิกนาเข้ามาสิ้น | ||
| บ้างสุมไฟใส่ควันกันยุงริ้น | ตามถิ่นบ้านนอกอยู่คอกนา ฯ | ||
| ๏ ครั้นพลบค่ำย่ำฆ้องทองประศรี | เรียกยายปลียายเปลเข้าเคหา | ||
| เย็บบายศรีนมแมวจอกแก้วมา | ใส่ข้าวปลาเปรี้ยวหวานเอาจานรอง | ||
| เทียนดอกไม้ไข่ข้าวมะพร้าวพร้อม | น้ำมันหอมแป้งปรุงฟุ้งทั้งห้อง | ||
| ลูกปะหล่ำกำไลไขออกกอง | บอกว่าของพ่อเจ้าแต่เยาว์มา | ||
| เอาสอดใส่ให้หลานสงสารเหลือ | ด้วยหน่อเนื้อนึกรักเป็นหนักหนา | ||
| เหมือนพ่อแผนแสนเหมือนไม่เคลื่อนคลา | ทั้งหูตาคมสันเป็นมันยับ | ||
| พลางเรียกหาข้าคนมาบนหอ | ให้นั่งต่อต่อกันเป็นอันดับ | ||
| บายศรีตั้งพรั่งพร้อมน้อมคำนับ | เจริญรับมิ่งขวัญรำพันไป ฯ | ||
| ๏ ขวัญพ่อพลายงามทรามสวาท | มาชมภาชนะทองอันผ่องใส | ||
| ล้วนของขวัญจันทร์จวงพวงมาลัย | ขวัญอย่าไปป่าเขาลำเนาเนิน | ||
| เห็นแต่เนื้อเสือสิงห์ฝูงลิงค่าง | จะอ้างว้างเวียนวกระหกระเหิน | ||
| ขวัญมาหาย่าเถิดอย่าเพลิดเพลิน | จงเจริญร้อยปีอย่ามีภัย | ||
| แล้วจุดเทียนเวียนวงส่งให้บ่าว | มันโห่กราวเกรียวลั่นสนั่นไหว | ||
| คอยรับเทียนเเวียนส่งเป็นวงไป | แล้วดับไฟโบกควันให้ทันที | ||
| มะพร้าวอ่อนป้อนเจ้าทั้งข้าวขวัญ | กระแจะจันทน์เจิมหน้าเป็นราศี | ||
| ให้สาวสาวลาวเวียงที่เสียงดี | มาซอปี่อ้อซั้นทำขวัญนาย ฯ | ||
| ๏ พ่อเมื้อเมืองดง | เอาพงเป็นเหย้า | อึดปลาอึดข้าว | ขวัญเจ้าตกหาย | |||
| ขวัญอ่อนร่อแร่ | ว้าเหว่สู่กาย | อยู่ปลายยางยูง | ท้องทุ่งท้องนา | |||
| ขวัญเผือเมื้อเมิน | ขอเชิญขวัญพ่อ | ฟังซอเสียงอ้อ | ขวัญพ่อเจ้าจ๋า | |||
| ข้าวเหนียวเต็มพ้อม | ข้าวป้อมเต็มป่า | ขวัญเจ้าจงมา | สู่กายพลายเอยฯ | |||
| ๏ แล้วพวกมอญซ้อนซอเสียงอ้อแอ้ | ร้องทะแยย่องกระเหนาะย่ายเตาะเหย | |||
| ออระน่ายพลายงามพ่อทรามเชย | ขวัญเอ๋ยกกกะเนียงเกรียงเกลิง | |||
| ให้อยู่ดีกินดีมีเมียสาว | เนียงกะราวกนตะละเลิงเคลิ่ง | |||
| มวยบามาขวัญจงบันเทิง | จะเปิงยี่อิกะปิปอน | |||
| ทองประศรีดีใจให้เงินบาท | เห็นแต่ทาสพรั่งพร้อมล้อมสลอน | |||
| ถึงเวลาพาเจ้าเข้าที่นอน | มีฟูกหมอนมุ้งม่านสำราญใจ ฯ | |||
| ๏ เจ้าพลายงามถามย่าว่าพ่อแผน | ต้องคับแค้นเคืองเข็ญเป็นไฉน | |||
| ไม่เคยคุ้นคุณย่าช่วยพาไป | พอหลานได้เห็นหน้าบิดาตัว | |||
| ได้ฟังหลานท่านย่าน้ำตาตก | สะอื้นอกอาดูรว่าทูนหัว | |||
| พ่อเอ็งย่าว่าไรเขาไม่กลัว | เพราะเมามัวเมียลาวนางชาววัง | |||
| ไปทูลขอพระองค์ทรงพระโกรธ | ให้ลงโทษทนทุกข์ใส่คุกขัง | |||
| แต่ไม่ต้องจองจำอยู่ลำพัง | ถึงสิบปีแล้วยังไม่พ้นเลย | |||
| รุ่งพรุ่งนี้สิย่าจะพาเจ้า | ไปหาเขาอยู่ที่ทับริมหับเผย | |||
| ให้พ่อเห็นเย็นอารมณ์ได้ชมเชย | พูดจนเลยลืมหลับระงับไป ฯ | |||
| ๏ เห็นแสงทองหมองจิตคิดถึงลูก | สั่งบ่าวผูกช้างสัปคับใหญ่ | |||
| ใส่ข้าวปลาผ้าผ่อนท่อนสไบ | กับไต้ไฟฟักแฟงแตงน้ำตาล | |||
| ทั้งปูนยาสาคูแลพลูหมาก | จะไปฝากขุนแผนแสนสงสาร | |||
| อ้ายกุลาตาหลอเป็นหมอควาญ | แล้วพาหลานขึ้นช้างตามทางมา | |||
| ลงบางขามข้ามบ้านสะพานโขลง | ออกทุ่งโล่งเลี้ยวทางไปข้างขวา | |||
| สองวันครึ่งถึงกรุงอยุธยา | ลงเดินพาพลายงามไปตามทาง ฯ | |||
| ๏ จะกล่าวฝ่ายนายขุนแผนที่แสนทุกข์ | แต่ติดคุกขัดข้องให้หมองหมาง | |||
| อยู่หับเผยเคยสะอาดขาดสำอาง | จนผอมซูบรูปร่างดูรุงรัง | |||
| ผมยาวเกล้ากระหวัดตัดไม่เข้า | เหตุด้วยเขาคงทนทั้งมนตร์ขลัง | |||
| อยู่เปล่าเปล่าเล่าก็จนพ้นกำลัง | อุตส่าห์นั่งทำการสานกระทาย | |||
| ให้นางแก้วกิริยาช่วยทารัก | ขุนแผนถักขอบรัดกระหวัดหวาย | |||
| ใบละบาทคาดได้ด้วยง่ายดาย | แขวนไว้ขายทั้งเรือนออกเกลื่อนไป | |||
| พอมารดามาถึงทับรับเข้าห้อง | ทั้งข้าวของผู้คนขนมาให้ | |||
| เห็นลูกชายพลายงามถามทันใด | นี่ลูกใครหน้าตาน่าเอ็นดู ฯ | |||
| ๏ ทองประศรีชี้แจงแถลงเล่า | นี่ลูกเจ้าแล้วเป็นไรไหว้เสียหนู | |||
| แล้วบอกความตามที่มีศัตรู | ขุนแผนรู้รับขวัญกลั้นน้ำตา | |||
| เข้าสวมสอดกอดจูบแล้วลูบหลัง | น้ำตาพรั่งพรั่งพรายทั้งซ้ายขวา | |||
| แค้นขุนช้างดังจะดิ้นสิ้นชีวา | มันชะล่าชะเลยจนเคยตัว | |||
| ฉุดคร่าพาวันทองไปครองคู่ | เห็นว่ากูถือสัตย์ไม่ตัดหัว | |||
| ทั้งลูกเต้าเอาไปฆ่าเหมือนม้าวัว | หมายว่ากลัวแล้วกระมังอ้ายจังไร | |||
| วันนี้ค่ำจำจะไปให้ถึงบ้าน | สับกบาลหัวเชือดให้เลือดไหล | |||
| ลูกผู้ชายตายไหนก็ตายไป | ขัดใจฮึดฮัดกัดฟันฟาง ฯ | |||
| ๏ ท่านย่าทองประศรีว่าอีพ่อ | แม่จะขอทัดทานเหมือนขัดขวาง | |||
| ไปฆ่าผีดีกว่าฆ่าขุนช้าง | จะสืบสร้างบาปกรรมไปทำไม | |||
| ลูกของเจ้าเล่าก็มาหาเจ้าแล้ว | ใช่เชื้อแถวเจ้ายังมีอยู่ที่ไหน | |||
| จงฟังแม่แต่เท่านั้นแล้วกันไป | พ่อจะได้ภาวนารักษากาย | |||
| ลูกของเจ้าเล่าแม่จะรับเลี้ยง | ช่วยกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงไว้ได้ถวาย | |||
| ที่กริ้วโกรธโทษกรณ์จะผ่อนคลาย | คราวเคราะห์ร้ายเจ้าจงเจียมเสงี่ยมตน | |||
| โบราณท่านสมมุติมนุษย์นี้ | ยากแล้วมีใหม่สำเร็จถึงเจ็ดหน | |||
| ที่ทุกข์โศกโรคร้อนค่อยผ่อนปรน | คงจะพ้นโทษทัณฑ์ไม่บรรลัย ฯ | |||
| ๏ ครานั้นขุนแผนแสนสุภาพ | ก้มกราบมารดาน้ำตาไหล | |||
| ลูกเห็นแต่แม่คุณค่อยอุ่นใจ | ช่วยสอนให้พลายงามเรียนความรู้ | |||
| อันตำรับตำราสารพัด | ลูกเก็บจัดแจงไว้ที่ในตู้ | |||
| ถ้าลืมหลงตรงไหนไขออกดู | ทั้งของครูของพ่อต่อกันมา | |||
| แล้วลูบหลังสั่งความพลายงามน้อย | เจ้าจงค่อยร่ำเรียนเขียนคาถา | |||
| รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา | ไปเบื้องหน้าเติบใหญ่จะให้คุณ | |||
| เรายากแล้วแก้วตาอย่าประมาท | ทั้งสิ้นญาติสิ้นเชื้อจะเกื้อหนุน | |||
| ทุกวันนี้มีแต่ย่ายังการุญ | พ่อพึ่งบุญเถิดลูกได้ปลูกเลี้ยง | |||
| จงนึกว่าย่าเหมือนกับแม่พ่อ | ถึงด่าทอเท่าไรอย่าได้เถียง | |||
| อันพ่อนี้มิได้อยู่ใกล้เคียง | ไม่ได้เลี้ยงลูกแล้วนาแก้วตา | |||
| พลางกอดพลายงามแอบไว้แนบอก | น้ำตาตกพร่างพรายทั้งซ้ายขวา | |||
| โอ้มีกรรมทำไว้แต่ไรมา | พอเห็นหน้าลูกแล้วจะแคล้วกัน | |||
| มาหาพ่อพ่อไม่มีสิ่งไรผูก | ยังแต่ลูกประคำจะทำขวัญ | |||
| อยู่หอกปืนยืนยงคงกระพัน | ได้ป้องกันกายาข้างหน้าไป ฯ | |||
| ๏ เจ้าพลายงามความแสนสงสารพ่อ | น้ำตาคลอคลอตกซกซกไหล | |||
| รับประคำร่ำว่าประสาใจ | ฉันจะใคร่อยู่ด้วยช่วยบิดา | |||
| ได้ตักน้ำตำข้าวทุกเช้าค่ำ | ที่พอทำฟืนผักจะหักหา | |||
| ให้พ่อพ้นทนทุกข์แล้วลูกยา | จะอุตส่าห์เล่าเรียนค่อยเพียรไป ฯ | |||
| ๏ ขุนแผนแสนสวาทจะขาดจิต | กะจิริดรู้ว่าจะหาไหน | |||
| น่าสงสารท่านย่าพลอยอาลัย | น้ำตาไหลพรากพรากเพราะยากเย็น | |||
| ขุนแผนว่าจะอยู่ดูไม่ได้ | ในคุกใหญ่มันยากแค้นถึงแสนเข็ญ | |||
| เหมือนกับนรกตกทั้งเป็น | มิได้เว้นโทษทัณฑ์สักวันเลย | |||
| แต่พ่อนี้ท่านเจ้ากรมยมราช | อนุญาตให้อยู่ทับในหับเผย | |||
| คนทั้งหลายนายมุลก็คุ้นเคย | เขาละเลยพ่อไม่ต้องถูกจองจำ | |||
| ทั้งข้าวปลาสารพันทุกวันนี้ | พระหมื่นศรีเธอช่วยชุบอุปถัมภ์ | |||
| ค่อยเบาใจไม่พักต้องตักตำ | คุณท่านล้ำล้นฟ้าด้วยปรานี | |||
| ถ้าแม้นเจ้าเล่าเรียนความรู้ได้ | จะพาไปพึ่งพระจมื่นศรี | |||
| ถวายตัวพระองค์ทรงธรณี | จะได้มีเกียรติยศปรากฏไป ฯ | |||
| ๏ พลายงามน้อยสร้อยเศร้ารับเจ้าคะ | ดีฉันจะพากเพียรเรียนให้ได้ | |||
| ต่างพูดจาพาทีค่อยดีใจ | จนจวนใกล้โพล้เพล้ถึงเวลา | |||
| ทองประศรีสั่งความว่ายามค่ำ | แม่จะจำจากพ่อแก้วไปแล้วหนา | |||
| ขุนแผนแสนสะท้านไหว้มารดา | พลายงามลาพ่อลูกผูกอาลัย | |||
| ตามย่ามาพ้นทับที่หับเผย | ไม่ลืมเลยเหลียวหน้าน้ำตาไหล | |||
| ทั้งขุนแผนแสนสวาทเพียงขาดใจ | ต่างอาลัยแลลับวับวิญญาณ์ | |||
| ไปขึ้นช้างข้างวัดท่าการ้อง | พอเดือนส่องแสงสว่างกลางเวหา | |||
| ออกข้ามทุ่งกรุงศรีอยุธยา | รีบกลับมาถึงบ้านกาญจน์บุรีฯ | |||
| ๏ อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย | ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี | |||
| ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี | เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนตร์ | |||
| ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด | แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน | |||
| หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล | แล้วเล่ามนตร์เสกขมิ้นกินน้ำมัน | |||
| เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก | แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น | |||
| มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน | ทั้งเลขยันตร์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย | |||
| แล้วทำตัวหัวใจปิติโส | สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย | |||
| สะกดคนมนตร์จังงังกำบังกาย | เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี | |||
| ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร | ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี | |||
| ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี | ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา | |||
| จนอายุพลายงามสิบสามขวบ | ดูขาวอวบอ้วนท้วนเป็นนวลหน้า | |||
| ด้วยเนื้อแตกแรกรุ่นละมุนตา | กิริยาแย้มยิ้มหงิมหงิมงาม | |||
| นัยน์ตากลมคมขำดูดำขลับ | ใครแลลับรักใคร่ปราศรัยถาม | |||
| ทองประศรีดีใจได้ฤกษ์ยาม | ได้สิบสามปีแล้วหลานแก้วกู | |||
| จะโกนจุกสุกดิบขึ้นสิบค่ำ | แกทำน้ำยาจีนต้มตีนหมู | |||
| พวกเพื่อนบ้านวานมาผ่าหมากพลู | บ้างปัดปูเสื่อสาดลาดพรมเจียม | |||
| ทั้งหม้อเงินหม้อทองสำรองตั้ง | มีทั้งสังข์ใส่น้ำมนตร์ไว้จนเปี่ยม | |||
| อัฒจันทร์ชั้นพระก็ตระเตรียม | ตามธรรมเนียมห้องกลองฉลองทาน | |||
| ถึงวันดีนิมนต์ขรัวเกิดเฒ่า | อยู่วัดเขาชนไก่ใกล้กับบ้าน | |||
| พอพิณพาทย์คาดตระสาธุการ | ท่านสมภารพาพระสงฆ์สิบองค์มา | |||
| นั่งสวดมนตร์จนจบพอพลบค่ำ | ก็ซัดน้ำมนตร์สาดเสียงฉาดฉ่า | |||
| ผู้ชายเสียดเบียดสาวชาวละว้า | เสียงเฮฮาฮึดฮัดเมื่อซัดน้ำ | |||
| ผู้หญิงหยิกตะกายผู้ชายทับ | เสียงหนุบหนับเหนาะแหนะแขยะขยำ | |||
| จนอีหังคลั่งใจถีบอ้ายดำ | ลุกขึ้นปล้ำกันออกอึงเสียงตึงตัง | |||
| ทองประศรีดีใจว่าใครแพ้ | สนุกแน่แล้วอ้ายดำปล้ำอีหัง | |||
| แล้วให้หลานผลัดผ้ามาเก้กัง | เข้าไปนั่งกราบกรานสมภารครู | |||
| ขรัวเกิดแลมองเห็นทองประศรี | ถามว่านี่ลูกใครเล่าไอ้หนู | |||
| เจ้าขรัวย่าอ้าปากน้ำหมากพรู | เล่าให้รู้แต่ต้นมาจนปลาย | |||
| เดี๋ยวนี้เล่าเจ้าขุนแผนยังติดคุก | นี่โกนจุกแล้วจะได้ไปถวาย | |||
| ท่านขรัวครูดูพ่อของออพลาย | เคราะห์จะคลายเคลื่อนบ้างหรืออย่างไร ฯ | |||
| ๏ ท่านขรัวครูรู้เรื่องให้เคืองแค้น | ทุดอ้ายแผนถ่อยแท้ไม่แก้ไข | |||
| เมื่อความรู้กูสอนเจ้าหล่อนไว้ | ยังวิ่งไปเข้าคุกสนุกจริง | |||
| อ้ายเจ้าชู้กูได้ว่ามาแต่ก่อน | จะทุกข์ร้อนอ่อนหูเพราะผู้หญิง | |||
| หัวเราะพลางทางเอกเขนกอิง | พินิจนิ่งดูกายเจ้าพลายงาม | |||
| เห็นน่ารักลักษณะก็ฉลาด | จะมีวาสนาดีขี่คานหาม | |||
| ถ้าถึงวันชั้นโชคโฉลกยาม | ก็ต้องตามลักษณะว่าจะรวย | |||
| แต่ที่เมียเสียถนัดปัตนิ | ตัวตำหนิรูปขาวเป็นสาวสวย | |||
| แต่อ้ายนี่ขี้หลงจะงงงวย | ต้องถูกด้วยละโมบโลภโลกีย์ | |||
| แล้วท่านขรัวหัวร่อว่าออหนู | มันเจ้าชู้เกินการหลานอีศรี | |||
| ก็แต่ว่าอายุสิบแปดปี | จะได้ที่หมื่นขุนเป็นมุลนาย | |||
| ทั้งเมียสาวชาวเหนือเป็นเชื้อแถว | อีนั่นแล้วมันจะมาพาฉิบหาย | |||
| อันอ้ายขุนแผนพ่อของออพลาย | จะพ้นปลายเดือนยี่ในปีกุน | |||
| นับแต่นี้มีสุขไม่ทุกข์ร้อน | ได้เตียงนอนนั่งเก้าอี้เป็นที่ขุน | |||
| ทองประศรีดีใจไหว้เจ้าคุณ | ช่วยแบ่งบุญให้ได้ฟื้นคืนสักที | |||
| สมภารรับกลับมายังอาวาส | เสียงพิณพาทย์พวกพ้องทองประศรี | |||
| หาเสภามาทั่วที่ตัวดี | ท่านตามีช่างประทัดถนัดรบ | |||
| ดูทำนองพองคอเสีบงอ้อแอ้ | พวกคนแก่ชอบหูว่ารู้จบ | |||
| ตารองศรีดีแต่ขันรู้ครันครบ | กรับกระทบทำหลอกแล้วกลอกตา | |||
| แล้วนายทั่งดังโด่งเสียงโว่งโวก | ว่ากระโชกกระชั้นขันหนักหนา | |||
| ฝ่ายนายเพรชเม็ดมากลากช้าช้า | ตั้งสามวาสองศอกเหมือนบอกยาว | |||
| ส่วนนายมาพระยานนท์คนตลก | ว่าหยกหยกหยาบช้าคนฮาฉาว | |||
| ตาทองอยู่รู้ว่าภาษาลาว | แล้วส่งกราวเชิดเพลงโหน่งเหน่งไป | |||
| ครั้นรุ่งเช้าเจ้าพลายก็โกนจุก | เป็นพ้นทุกข์พ้นร้อนนอนหลับใหล | |||
| จนผมยาวเจ้าได้ตัดมหัดไทย | คิดจะใคร่ไปเป็นข้าฝ่าธุลี | |||
| เดชะบุญทูลขอพ่อพ้นโทษ | เหมือนได้โปรดบิดาเป็นราศี | |||
| แต่นิ่งนึกตรึกตราจนราตรี | เข้าข้างที่นอนย่าน้ำตาคลอ | |||
| ทำคลึงเคล้าเว้าวอนด้วยอ่อนหวาน | พรุ่งนี้หลานจะลาไปหาพ่อ | |||
| จะได้เฝ้าเจ้าชีวิตชิดชอบพอ | ทูลขอเผื่อจะโปรดที่โทษทัณฑ์ ฯ | |||
| ๏ ทองประศรีดีใจให้อนุญาต | เจ้าเชื้อชาติพงศ์พลายจงผายผัน | |||
| จะได้ช่วยพ่อแม่คิดแก้กัน | ตามกตัญญูเถิดประเสริฐดี | |||
| ย่าจะให้ไปส่งจนถึงพ่อ | จึงพาต่อไปหาพระหมื่นศรี | |||
| ตามแต่บุญวาสนาบารมี | อันย่านี้นับวันจะบรรลัย | |||
| มีลูกเต้าเล่าก็ทำให้ซ้ำทุกข์ | ไม่มีสุขสักเวลาน้ำตาไหล | |||
| โรคก็ซ้ำช้ำบอบทั้งหอบไอ | ใครจะได้เผาผีก็มิรู้ | |||
| เจ้าจงจำตำราที่ย่าสอน | จะถาวรเพิ่มยศไม่อดสู | |||
| ย่าจะให้ไอ้พลัดไอ้ปัดไอ้ปู | เข้าไปอยู่ติดตามทั้งสามคน | |||
| พอถือร่มสมปักตักน้ำท่า | หุงข้าวปลาสารพัดไม่ขัดสน | |||
| พูดจนดึกตรึกการกับหลานตน | แล้วหลับจนแจ่มแจ้งแสงตะวัน ฯ | |||
| ๏ รู้สึกกายยายทองประศรีย่า | เอาเงินผ้าเสื้อใส่ในกำปั่น | |||
| ทั้งหวานคาวข้าวปลาสารพัน | ขนขึ้นบรรทุกสัปคับช้าง | |||
| พลายงามลาย่าช่วยอวยสวัสดิ์ | ได้ฤกษ์พาสารพัดไม่ขัดขวาง | |||
| ขึ้นขี่หลังพังสะเทินเดินตามทาง | ไม่แรมค้างข้ามทุ่งถึงกรุงไกร | |||
| ไปหาพ่อพอพบนั่งนบนอบ | ขุนแผนสอบไต่ถามความสงสัย | |||
| เจ้าพลายน้อยค่อยเล่าให้เข้าใจ | ลูกจะใคร่ให้พระนายถวายตัว ฯ | |||
| ๏ ขุนแผนแสนสวาทอนุญาตว่า | จงอุตส่าห์สืบตะรกูลเถิดทูนหัว | |||
| พ่อพงศ์พลายหมายศึกอย่านึกกลัว | จะพาตัวเจ้าไปให้พระนาย | |||
| แล้วซักไซ้ไต่ถามถึงความรู้ | ให้ท่องดูได้สมอารมณ์หมาย | |||
| ที่เข้าออกบอกความตามอุบาย | สอนลูกชายอยู่จนสนธยา | |||
| พอเสียงฆ้องกลองย่ำเข้าค่ำพลบ | ถึงเดินพบผู้ใดไม่เห็นหน้า | |||
| ชวนลูกชายพลายงามตามกันมา | ไปเคหาพระหมื่นศรีที่ริมคลอง | |||
| ขึ้นบันไดไฟอร่ามถามพวกบ่าว | พอรู้ข่าวว่าสบายค่อยคลายหมอง | |||
| ตรงมาหอรอรั้งยั้งหยุดมอง | หมื่นศรีร้องเรียกว่ามาซิเกลอ | |||
| ด้วยรักใคร่ใจซื่อถือว่าเพื่อน | ไม่บากเบือนหน้าหนีดีเสมอ | |||
| ขุนแผนพาลูกไปนั่งไหว้เธอ | ถามว่าเออนั่นใครที่ไหนมา ฯ | |||
| ๏ ขุนแผนบอกออกว่าลูกเจ้าวันทอง | ที่มีท้องเกือบแก่มาแต่ป่า | |||
| เอาความหลังทั้งนั้นพรรณนา | จะพามามอบไว้ให้เจ้าคุณ | |||
| ด้วยไม่มีที่เห็นแต่เป็นโทษ | พระนายโปรดช่วยเหลือทั้งเกื้อหนุน | |||
| เป็นที่พึ่งจึงมาจงการุญ | เอาแต่บุญเถิดพ่อเจ้าเมื่อคราวจน | |||
| อันวิชาย่าสอนลูกอ่อนแล้ว | เห็นคล่องแคล่วการศึกพอฝึกฝน | |||
| ถ้ากระไรได้ช่องเห็นชอบกล | ช่วยผ่อนปรนโปรดถวายเจ้าพลายงาม ฯ | |||
| ๏ พระหมื่นศรีดีใจปราศรัยทัก | ดูแหลมหลักลูกทหารชาญสนาม | |||
| เป็นข้าเฝ้าเจ้าชีวิตอย่าคิดคร้าม | มีสงครามเมื่อไรคงได้ดี | |||
| ไว้ธุระจะถวายช่วยบ่ายเบี่ยง | ให้ชุบเลี้ยงลูกรักเป็นศักดิ์ศรี | |||
| ที่กินอยู่ผู้คนของเรามี | อยู่เรือนนี่นั่งนอนไม่ร้อนรน | |||
| ขุนแผนเล่าเจ้าก็รู้อยู่ว่ารัก | จนเจียนจักแหล่นตายด้วยหลายหน | |||
| ก็เอ็นดูอยู่ว่าเกลอถึงเธอจน | ที่ขัดสนสารพัดไม่ขัดกัน | |||
| แต่สุดช่วยด้วยว่าอาญาหลวง | ต่อได้ท่วงทีก่อนจะผ่อนผัน | |||
| จริงนะเจ้าเราก็คิดทุกคืนวัน | คงช่วยกันไปกว่ากายจะวายวาง ฯ | |||
| ๏ นายขุนแผนแสนชื่นให้ตื้นอก | อุตส่าห์ยกมือไหว้มิได้หมาง | |||
| สู้กลืนกล้ำน้ำตาแล้วว่าพลาง | พ่อเหมือนอย่างพ่อแม่ช่วยแก้ทุกข์ | |||
| จนยากเย็นเป็นโทษเห็นโหดไร้ | ยังส่งให้ข้าวปลาเป็นผาสุก | |||
| ก็หมายมั่นกตัญญูถึงอยู่คุก | กราบพ่อทุกทุกคืนได้ชื่นใจ | |||
| อันลูกชายพลายงามตามแต่พ่อ | ลูกจะขอกราบลาช้าไม่ได้ | |||
| พลางลูบหลังสั่งลูกผูกอาลัย | พ่อจะไปก่อนแล้วนะแก้วตา | |||
| อยู่พึ่งบุญคุณพ่อต่อไปเถิด | จะประเสริฐสมหวังเป็นฝั่งฝา | |||
| แล้วลงเรือนเดือนสว่างกระจ่างตา | ก็กลับมาหับเผยที่เคยนอน ฯ | |||
| ๏ ครานั้นจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช | เรียกพลายงามทรามสวาทมาสั่งสอน | |||
| จะเป็นข้าจอมนรินทร์ปิ่นนคร | อย่านั่งนอนเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | |||
| พระกำหนดกฎหมายมีหลายเล่ม | เก็บไว้เต็มตู้ใหญ่ไขออกอ่าน | |||
| กรมศักดิ์หลักชัยพระอัยการ | มนเทียรบาลพระบัญญัติตัดสำนวน | |||
| แล้วให้รู้สุภาษิตบัณฑิตพระร่วง | ตามกระทรวงผิดชอบคิดสอบสวน | |||
| ราชาศัพท์รับสั่งให้บังควร | รู้จงถ้วนถี่ไว้จึงได้การ | |||
| ที่ไม่สู้รู้อะไรผู้ใหญ่เด็ก | มหาดเล็กสามต่อพ่อลูกหลาน | |||
| เสียตระกูลสูญลับอัประมาณ | เพราะเกียจคร้านคร่ำคร่าเหมือนพร้ามอญ | |||
| นี่ตัวเจ้าเหล่ากอทั้งพ่อแม่ | อย่าเชือนแชอุตส่าห์จำเอาคำสอน | |||
| แล้วจัดแจงห้องหับให้หลับนอน | ไม่อาวรณ์เธอช่วยเลี้ยงเป็นเที่ยงธรรม์ ฯ | |||
| ๏ ครานั้นพลายงามทรามสวาท | แหลมฉลาดเลขผาปัญญาขยัน | |||
| อยู่บ้านพระหมื่นศรียินดีครัน | ทุกคืนวันตามหลังเข้าวังใน | |||
| เธอเข้าเฝ้าเจ้าก็นั่งบังไม้ดัด | คอยฟังตรัสตรึกตราอัชฌาสัย | |||
| ค่อยรู้กิจผิดชอบรอบคอบไป | ด้วยมิได้คบเพื่อนเที่ยวเชือนแช | |||
| ครั้นอยู่บ้านอ่านคำพระธรรมศาสตร์ | ตำรับราชสงครามตามกระแส | |||
| ค่อยชื่นชุ่มหนุ่ตะกอดูฟ้อแฟ้ | นางสาวแส้ใส่ใจจะใคร่พบ | |||
| เข้าไปหามาสู่ไม่รู้เกี้ยว | แต่พอเหลียวเห็นผู้หญิงก็วิ่งหลบ | |||
| อุตส่าห์เพียรเรียนรู้ดูจนครบ | รู้ขนบธรรมเนียมก็เจียมใจ ฯ | |||
| ๏ ครานั้นท่านพระจมื่นศรี | ถึงวันดีได้ช่องก็ผ่องใส | |||
| จึงจัดแจงแต่งธูปเทียนดอกไม้ | จะเข้าไปทูลถวายเจ้าพลายงาม | |||
| นุ่งสมปักชักกลีบจีบสลับ | ครั้นเสร็จสรรพสำราญขึ้นคานหาม | |||
| พวกข้าคนอลหม่านถือพานตาม | เจ้าพลายงามตามหลังเข้าวังใน | |||
| ถึงพระลานวานเขาพวกชาวที่ | ที่ค่อยมีกิริยาอัชฌาสัย | |||
| ถือพานทองรองธูปเทียนดอกไม้ | ยกเข้าไปเตรียมตั้งพอบังควร | |||
| ให้พลายงามตามไปนั่งตรงตั้งของ | ตามทำนองพระหมื่นศรีสั่งถี่ถ้วน | |||
| ฝ่ายข้าเฝ้าเจ้าพระยาเวลาจวน | ต่างก็ชวนกันเข้ามาหน้าพระโรง | |||
| นุ่งสมปักชักชายกรายกรีดเล็บ | ผ้ากราบเหน็บแนบหน้าดูอ่าโถง | |||
| พอเวลานาทีถ้วนสี่โมง | เข้าพระโรงพร้อมหน้าข้าราชการ ฯ | |||
| ๏ ครานั้นพระองค์ผู้ทรงเดช | มงกุฎเกศอยุธยามหาสถาน | |||
| สถถิตแท่นแว่นฟ้าโอฬาฬาร | ดังวิมานเมืองฟ้าสุราลัย | |||
| ห้ามแหนแน่นหนุนละมุนหมอบ | งามประกอบกิริยาอัชฌาสัย | |||
| ระเรื่อยรับขับร้องทำนองใน | สำราญราชหฤทัยทุกเวลา | |||
| ยามกลางวันนั้นก็ออกพระโรงรัตน์ | มีแต่ตรัสสรวลสันต์ทรงหรรษา | |||
| ทั้งเหนือใต้ไพรีไม่มีมา | สำราญใจไพร่ฟ้าประชาชี | |||
| ด้วยเดชะบุญญาอานุภาพ | มีแต่ลาภมาประมูลพูนภาษี | |||
| แต่บรรดาข้าเฝ้าเหล่าเสนี | ใครทำดีได้ประทานถึงพานทอง ฯ | |||
| ๏ ฝ่ายพระจมื่นศรีเสาวรักษ์ราช | อภิวาทบาทมูลทูลฉลอง | |||
| ขอเดชะพระกรุณาฝ่าละออง | ดอกไม้ธูปเทียนทองของพลายงาม | |||
| บุตรขุนแผนแสนสะท้านหลานทองประศรี | ความรู้มีเรียบราบไม่หยาบหยาม | |||
| จะขอรองมุลิกาพยายาม | พลางกราบสามทีสดับตรับโองการ ฯ | |||
| ๏ ครานั้นสมเด็จพระพันวษา | เหลือบเห็นหน้าพลายงามความสงสาร | |||
| จะออกโอษฐ์โปรดขขุนแผนแสนสะท้าน | แต่กรรมนั้นบันดาลดลพระทัย | |||
| ให้เคลิ้มองค์ทรงกลอนละครนอก | นึกไม่ออกเวียนวงให้หลงใหล | |||
| ลืมประภาษราชกิจที่คิดไว้ | กลับเข้าในแท่นที่ศรีไสยา ฯ | |||
| ๏ อันเรื่องกล่าวความพลายงามสวาท | เป็นมหาดเล็กแล้วค่อยแกล้วกล้า | |||
| อยู่ด้วยพระหมื่นศรีผู้ปรีชา | เฝ้าเวลาเช้าเย็นไม่เว้นวัน | |||
| มุลนายถ้วนหน้าก็ปรานี | มิได้มีใครรังเกียจเดียดฉันท์ | |||
| ถึงว่าท่านจางวางทั้งสองนั้น | ก็ฝากตัวกลัวทั่นทุกคนไป ฯ | |||
ตอนที่ ๒๕
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๖
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๗
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๘
| ๏ | |||
ตอนที่ ๒๙
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๐
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๑
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๒
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๓
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๔
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๕
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๖
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๗
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๘
| ๏ | |||
ตอนที่ ๓๙
| ๏ | |||
ตอนที่ ๔๐
| ๏ | |||
ตอนที่ ๔๑
| ๏ | |||
ตอนที่ ๔๒
| ๏ | |||
ตอนที่ ๔๓
| ๏ | |||
