บทละครเรื่à¸à¸‡à¸à¸´à¹€à¸«à¸™à¸² พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→ที่มา) |
(→บทประพันธ์) |
||
| แถว 18: | แถว 18: | ||
ระบือลือทั่วทุกประเทศ ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์ | ระบือลือทั่วทุกประเทศ ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์ | ||
บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ โดยทางทศพิศราชธรรม์ | บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ โดยทางทศพิศราชธรรม์ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| แถว 33: | แถว 34: | ||
มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง | มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง | ||
โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง จัดแจงแต่งตั้งครบครัน | โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง จัดแจงแต่งตั้งครบครัน | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| แถว 42: | แถว 44: | ||
นานานัคเรศประเทศราช เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้ | นานานัคเรศประเทศราช เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้ | ||
ต่างถวายสุวรรณมาลัย โอรสยศไกรและธิดา | ต่างถวายสุวรรณมาลัย โอรสยศไกรและธิดา | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ยานี</sup> | ||
| + | ๏ อันสี่ธานีราชฐาน กว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา | ||
| + | เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย | ||
| + | มีปราสาททั้งสามตามฤดู เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย | ||
| + | หลังคาฝาผนังนอกใน แล้วไปด้วยโมราศิลาทอง | ||
| + | ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง | ||
| + | แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง บัญชรช่องชัชวาลบานบัง | ||
| + | พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง | ||
| + | พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์ กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา | ||
| + | บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา | ||
| + | ที่เสวยที่สรงคงคา ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง | ||
| + | พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถาง ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง | ||
| + | ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากอง อิฐทองปูลาดสะอาดตา | ||
| + | ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์ นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา | ||
| + | โรงแสงโรงภูษามาลา เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน | ||
| + | เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลด โรงม้าโรงรถคชสาร | ||
| + | ติกาหลังสำหรับพระกุมาร อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ ประตูลักลงท่าชลาลัย มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง | ||
| + | เรือศรีสุวรรณบัลลังก์ เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า | ||
| + | เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า | ||
| + | พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา เกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี | ||
| + | ตำหนักแพแลล้ำอำไพ มุขดลพาไลหลังคาสี | ||
| + | ช่อฟ้าหน้าบันปราลี ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล | ||
| + | ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรง สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน | ||
| + | เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง | ||
| + | ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลง ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง | ||
| + | ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์ | ||
| + | อันถนนหนทางท้องฉนวน ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร | ||
| + | มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน เรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>สมิงทอง</sup> | ||
| + | ๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น พ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า | ||
| + | กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา เตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง | ||
| + | มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ สูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง | ||
| + | ช่อฟ้าปราลีลำยอง ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป | ||
| + | สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน ล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่ | ||
| + | ประลองเหล่าทหารชาญชัย ยิงธนูศรใส่ยาพิษ | ||
| + | ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด | ||
| + | โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด เพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน | ||
| + | บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี ขับขี่เคยศึกฝึกฝน | ||
| + | ประลองคชสารสู้บำรูชน ใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ | ||
| + | ฯ ๑๐ คำฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์ มีปราการแก้วกั้นสูงสุด | ||
| + | ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท ประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน | ||
| + | มีทิวแถวโรงช้างระวางค่าย เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์ | ||
| + | หอรบแลสล้างนางจรัล ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด | ||
| + | รายปืนจินดาจังกาส่อง วางประจำทุกช่องเสมาหมด | ||
| + | เชิงเทินดังเนินบรรพต บันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ชมตลาด</sup> | ||
| + | ๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา | ||
| + | บ้านช่องสองข้างมรรคา ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน | ||
| + | เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษี มั่งมีสมบัติพัสถาน | ||
| + | เรือนริมรัถยาฝากระดาน ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง | ||
| + | สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง | ||
| + | ศาลเทพารักษ์หลักเมือง นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร | ||
| + | เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์ ทำตามประเพณีพิธีไสย | ||
| + | หอกลองอยู่กลางเวียงชัย แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา | ||
| + | สะพานข้างทางข้ามคชสาร ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา | ||
| + | คลองหลอดแลลิ่วสุดตา น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง | ||
| + | นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง | ||
| + | แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง นองเนืองเป็นขนัดในนัที | ||
| + | ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย แพรม้วนมากมายหลายสี | ||
| + | ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลี พลอยมณีเพชรนิลจินดา | ||
| + | บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติ แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา | ||
| + | ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>เบ้าหลุด</sup> | ||
| + | ๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์ มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| + | สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน สลุบแขกกำปั่นวิลันดา | ||
| + | จีนจามอะแจแซ่ซ้อง คับคั่งทั้งสิบสองภาษา | ||
| + | แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี | ||
| + | บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่ | ||
| + | ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์ มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| + | พวกขุนนางต่างหัดมโหรี ลาวสาวเสียงดีมีหลายคน | ||
| + | บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน | ||
| + | บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชน ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน | ||
| + | บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ ชนแพะแกะกระบือคูขัน | ||
| + | บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนัน ปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา | ||
| + | ราตรีมีหนังประชันเชิด ฉลุฉลักลายเลิศเลขา | ||
| + | บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวา ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ชมตลาด</sup> | ||
| + | ๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน | ||
| + | ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์ หวีผมคมสันกันไร | ||
| + | ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดี รูปทรงส่งศรีผ่องใส | ||
| + | ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางใน ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู | ||
| + | ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาว เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่ | ||
| + | บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้ หมากพลูพวงมาลัยให้กัน | ||
| + | พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขาย มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน | ||
| + | ..............................วรรคนี้หายไป ไม่มีในต้นฉบับ........................ | ||
| + | บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย | ||
| + | ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ปลิ่ม</sup> | ||
| + | ๏ ทิศใต้ภายนอกธานี มีสระสวนศรีสะตาหมัน | ||
| + | มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ ล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้ | ||
| + | บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย ช่อช้อยชูก้านบานไสว | ||
| + | พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ มีตำหนักน้อยในวารี | ||
| + | อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม น้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี | ||
| + | ใสสะอาดปราศจากราคี ดังแสงแก้วมณีรจนา | ||
| + | มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์ ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า | ||
| + | เกสรร่วงลงคงคา พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>สระบุหร่ง</sup> | ||
| + | ๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่ง วารีลึกซึ้งเย็นใส | ||
| + | ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้ ระบัดใบบังแสงสุริยง | ||
| + | เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง | ||
| + | ประดับด้วยโกมุทบุษบง ลินจงอุบลบัวบาน | ||
| + | มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล | ||
| + | สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณ ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>พระทอง</sup> | ||
| + | ๏ แต่กรุงดาหาธานี มีคิรีวิลิศมาหรา | ||
| + | อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต | ||
| + | อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน เชี่ยวชาญเดชาปรากฏ | ||
| + | ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ แห่งชาวชนบทพระบุรี | ||
| + | แม้นมีเหตุเภทพานประการใด ก็บวงบนเทพไทเรืองศรี | ||
| + | ทำตามบุราณราชประเพณี ถึงปีไปเคารพอภิวันท์ | ||
| + | ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์ ดำรงนคเรศเกษมสันต์ | ||
| + | ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา | ||
| + | แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด | ||
| + | เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี แต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์ | ||
| + | ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร | ||
| + | มีหมู่มาตยาข้าเฝ้า สองเหล่าพลเรือนแลทหาร | ||
| + | โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ | ||
| + | อยู่ยงคงกระพันสาตรา วิชาโล่เขนเจนจบ | ||
| + | ราชรถคชสารสินธพ เลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ | ||
| + | ฯ ๑๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ ปางก่อนพระนครหมันหยา ประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี | ||
| + | ตั้งแต่ระตูภูมี สุดสิ้นชีวีทิวงคต | ||
| + | ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจ ทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท | ||
| + | ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศ โศกศัลย์รันทดทุกเวลา | ||
| + | มีราชธิดาสามองค์ งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา | ||
| + | พี่นางทรงนามสมญา ชื่อนิหลาอระตาเทวี | ||
| + | พระผู้ผ่านพิภพกุเรปัน ตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี | ||
| + | อันระเด่นดาหลาวาตี บุตรีที่สองรองลงมา | ||
| + | ท้าวดาหาตุนาหงันไป เป็นประไหมสุหรีในดาหา | ||
| + | ยังแต่น้องนุชสุดโสภา กัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย | ||
| + | ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี พระชนนีถนอมนักรักใคร่ | ||
| + | กษัตริย์ใดมาขออรทัย ไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์ | ||
| + | หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตร สืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง | ||
| + | อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์ ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา | ||
| + | ได้ครอบครองสวรรยาธานี ทรงธรรม์นั้นมีโอรสา | ||
| + | พระคิดถึงระตูผู้มรณา จะบำรุงพาราให้เรืองไป | ||
| + | จึงตกแต่ของมาตุนาหงัน ชนนีนางนั้นก็อวยให้ | ||
| + | อภิเษกเอกองค์โอรสไว้ ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ | ||
| + | ฯ ๑๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| + | เสวยราชสมบัติสวัสดี สุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน | ||
| + | จึงมีพระโอรสา ด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร | ||
| + | ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมาร รูปทรงสัณฐานโสภา | ||
| + | พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์ พิศวงจงรักหนักหนา | ||
| + | เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลา แสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อย ถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้ | ||
| + | ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้ เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ | ||
| + | ประทานทั้งเงินทองของขวัญ ตามขนมครบครันเครื่องประดับ | ||
| + | สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับ เกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ | ||
| + | ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยา พร้อมคณะพรามหาดาบส | ||
| + | ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรส เลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร | ||
| + | ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี ด้วยลิกูนารีศรีใส | ||
| + | ชื่อบุษบารากายาใจ ตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้น ทรงครรภ์พระโอรสา | ||
| + | จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวา ดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวง บำบวงเทวราชเรืองศรี | ||
| + | ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธี ได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด | ||
| + | ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต | ||
| + | ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์ ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง | ||
| + | แม้นสมปรารถนาดังว่าขาน จะแต่งแก้บนบานบวงสรวง | ||
| + | เทียนทองชวาลาบุปผาพวง พรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์ | ||
| + | จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาล เอาตาดคำทำม่านเพดานดัด | ||
| + | อีกทั้งทิวธงราชวัติ ชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล | ||
| + | ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อย จะปล่อยไว้ในเทวสถาน | ||
| + | จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาล มีงานมหรสรพครบครัน ฯ | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน | ||
| + | ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์ เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก | ||
| + | ราตรีเข้าที่พระบรรทม ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์ | ||
| + | บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นัก ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา | ||
| + | มีพระสุริยงทรงกลด ชักรถมาในเวหา | ||
| + | แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา ตกลงตรงหน้านางรับไว้ | ||
| + | ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ ให้หลากจิตพิศวงสงสัย | ||
| + | จึงทูลพระภัสดาพลันทันใด โดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ | ||
| + | ฯ ๘ คำฯ | ||
| + | |||
| + | |||
</tpoem> | </tpoem> | ||
| + | |||
== เชิงอรรถ == | == เชิงอรรถ == | ||
== ที่มา == | == ที่มา == | ||
* คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน | * คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน | ||
* [http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=windchimedream&topic=1&Cate=6] | * [http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=windchimedream&topic=1&Cate=6] | ||
การปรับปรุง เมื่อ 08:54, 7 กันยายน 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
| ช้าปี่ | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงสี่องค์ทรงธรรม์นาถา | ||
| เป็นหน่อเนื้อเชื้อวงศ์เทวา | บิตุเรศมารดาเดียวกัน | ||
| รุ่งเรืองฤทธาศักดาเดช | ได้ดำรงนคเรศเขตขัณฑ์ | ||
| พระเชษฐาครองกรุงกุเรปัน | ถัดนั้นครองดาหาธานี | ||
| องค์หนึ่งครองกาหลังบุรีรัตน์ | องค์หนึ่งครองสิงหัดส่าหรี | ||
| เฉลิมโลกโลกาธาตรี | ไม่มีผู้รอต่อฤทธิ์ | ||
| ระบือลือทั่วทุกประเทศ | ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์ | ||
| บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ | โดยทางทศพิศราชธรรม์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ มีพระมเหษีห้าองค์ | ดั่งอนงค์นางฟ้ากระยาหงัน | ||
| เลือกล้วนสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | กษัตริย์ครองเขตขัณฑ์สวรรยา | ||
| ตั้งแต่งตามตำแหน่งครบที่ | คือประไหมสุหรีเสน่หา | ||
| มะเดหวีที่สองรองลงมา | แล้วมะโตโสภานารี | ||
| ที่สี่ลิกูนงเยาว์ | ที่ห้านั้นเหมาหลาหงี | ||
| อันอัครชายาทั้งห้านี้ | ตั้งได้แต่สี่พารา | ||
| ประดับด้วยสุรางค์นางสนม | ล้วนอุดมรูปทรงวงศา | ||
| ถ้วนหมื่นหกพันกัลยา | วิลาศเลิศลักขณาทุกนางใน | ||
| สำหรับขับรำบำเรอราช | พิณพาทย์จำเรียงเสียงใส | ||
| ผลัดกันปั่นโมงมาคอยใช้ | พนักงานของใครระไวระวัง | ||
| มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง | งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง | ||
| โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง | จัดแจงแต่งตั้งครบครัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ มีหมู่มาตยาสามนต์ | โยธีรี้พลแข็งขัน | ||
| นับหมื่นพื้นหาญชาญฉกรรจ์ | เคยณรงค์โรมรันไม่ครั่นคร้าม | ||
| ม้ารถคชไกรไม่ใช่ชั่ว | แต่ละตัวแกล้วกล้ากลางสนาม | ||
| ทนปืนยืนยงในสงคราม | ฦานามขามฤทธิทุกทิศไป | ||
| นานานัคเรศประเทศราช | เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้ | ||
| ต่างถวายสุวรรณมาลัย | โอรสยศไกรและธิดา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ อันสี่ธานีราชฐาน | กว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา | ||
| เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา | สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย | ||
| มีปราสาททั้งสามตามฤดู | เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย | ||
| หลังคาฝาผนังนอกใน | แล้วไปด้วยโมราศิลาทอง | ||
| ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก | ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง | ||
| แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง | บัญชรช่องชัชวาลบานบัง | ||
| พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง | ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง | ||
| พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์ | กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา | ||
| บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ | มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา | ||
| ที่เสวยที่สรงคงคา | ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง | ||
| พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถาง | ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง | ||
| ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากอง | อิฐทองปูลาดสะอาดตา | ||
| ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์ | นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา | ||
| โรงแสงโรงภูษามาลา | เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน | ||
| เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลด | โรงม้าโรงรถคชสาร | ||
| ติกาหลังสำหรับพระกุมาร | อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ประตูลักลงท่าชลาลัย | มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง | ||
| เรือศรีสุวรรณบัลลังก์ | เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า | ||
| เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก | งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า | ||
| พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา | เกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี | ||
| ตำหนักแพแลล้ำอำไพ | มุขดลพาไลหลังคาสี | ||
| ช่อฟ้าหน้าบันปราลี | ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล | ||
| ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรง | สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน | ||
| เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน | ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง | ||
| ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลง | ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง | ||
| ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง | ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์ | ||
| อันถนนหนทางท้องฉนวน | ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร | ||
| มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน | เรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| สมิงทอง | |||
| ๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น | พ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า | ||
| กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา | เตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง | ||
| มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ | สูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง | ||
| ช่อฟ้าปราลีลำยอง | ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป | ||
| สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน | ล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่ | ||
| ประลองเหล่าทหารชาญชัย | ยิงธนูศรใส่ยาพิษ | ||
| ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น | แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด | ||
| โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด | เพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน | ||
| บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี | ขับขี่เคยศึกฝึกฝน | ||
| ประลองคชสารสู้บำรูชน | ใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์ | มีปราการแก้วกั้นสูงสุด | ||
| ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท | ประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน | ||
| มีทิวแถวโรงช้างระวางค่าย | เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์ | ||
| หอรบแลสล้างนางจรัล | ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด | ||
| รายปืนจินดาจังกาส่อง | วางประจำทุกช่องเสมาหมด | ||
| เชิงเทินดังเนินบรรพต | บันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ | ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา | ||
| บ้านช่องสองข้างมรรคา | ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน | ||
| เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษี | มั่งมีสมบัติพัสถาน | ||
| เรือนริมรัถยาฝากระดาน | ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง | ||
| สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา | ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง | ||
| ศาลเทพารักษ์หลักเมือง | นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร | ||
| เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์ | ทำตามประเพณีพิธีไสย | ||
| หอกลองอยู่กลางเวียงชัย | แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา | ||
| สะพานข้างทางข้ามคชสาร | ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา | ||
| คลองหลอดแลลิ่วสุดตา | น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง | ||
| นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง | ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง | ||
| แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง | นองเนืองเป็นขนัดในนัที | ||
| ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย | แพรม้วนมากมายหลายสี | ||
| ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลี | พลอยมณีเพชรนิลจินดา | ||
| บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติ | แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา | ||
| ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา | ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
| เบ้าหลุด | |||
| ๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน | สลุบแขกกำปั่นวิลันดา | ||
| จีนจามอะแจแซ่ซ้อง | คับคั่งทั้งสิบสองภาษา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี | ||
| บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท | พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่ | ||
| ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์ | มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์ | ||
| พวกขุนนางต่างหัดมโหรี | ลาวสาวเสียงดีมีหลายคน | ||
| บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน | มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน | ||
| บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชน | ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน | ||
| บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ | ชนแพะแกะกระบือคูขัน | ||
| บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนัน | ปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา | ||
| ราตรีมีหนังประชันเชิด | ฉลุฉลักลายเลิศเลขา | ||
| บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวา | ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ชมตลาด | |||
| ๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง | ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน | ||
| ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์ | หวีผมคมสันกันไร | ||
| ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดี | รูปทรงส่งศรีผ่องใส | ||
| ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางใน | ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู | ||
| ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาว | เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่ | ||
| บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้ | หมากพลูพวงมาลัยให้กัน | ||
| พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขาย | มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน | ||
| ..............................วรรคนี้หายไป | ไม่มีในต้นฉบับ........................ | ||
| บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง | ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย | ||
| ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย | หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ปลิ่ม | |||
| ๏ ทิศใต้ภายนอกธานี | มีสระสวนศรีสะตาหมัน | ||
| มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ | ล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้ | ||
| บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย | ช่อช้อยชูก้านบานไสว | ||
| พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ | มีตำหนักน้อยในวารี | ||
| อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม | น้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี | ||
| ใสสะอาดปราศจากราคี | ดังแสงแก้วมณีรจนา | ||
| มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์ | ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า | ||
| เกสรร่วงลงคงคา | พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| สระบุหร่ง | |||
| ๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่ง | วารีลึกซึ้งเย็นใส | ||
| ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้ | ระบัดใบบังแสงสุริยง | ||
| เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา | แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง | ||
| ประดับด้วยโกมุทบุษบง | ลินจงอุบลบัวบาน | ||
| มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง | อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล | ||
| สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณ | ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| พระทอง | |||
| ๏ แต่กรุงดาหาธานี | มีคิรีวิลิศมาหรา | ||
| อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา | มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต | ||
| อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน | เชี่ยวชาญเดชาปรากฏ | ||
| ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ | แห่งชาวชนบทพระบุรี | ||
| แม้นมีเหตุเภทพานประการใด | ก็บวงบนเทพไทเรืองศรี | ||
| ทำตามบุราณราชประเพณี | ถึงปีไปเคารพอภิวันท์ | ||
| ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์ | ดำรงนคเรศเกษมสันต์ | ||
| ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น | เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา | ||
| แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา | บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด | ||
| เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี | แต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์ | ||
| ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ | ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร | ||
| มีหมู่มาตยาข้าเฝ้า | สองเหล่าพลเรือนแลทหาร | ||
| โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ | แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ | ||
| อยู่ยงคงกระพันสาตรา | วิชาโล่เขนเจนจบ | ||
| ราชรถคชสารสินธพ | เลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ปางก่อนพระนครหมันหยา | ประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี | ||
| ตั้งแต่ระตูภูมี | สุดสิ้นชีวีทิวงคต | ||
| ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจ | ทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท | ||
| ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศ | โศกศัลย์รันทดทุกเวลา | ||
| มีราชธิดาสามองค์ | งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา | ||
| พี่นางทรงนามสมญา | ชื่อนิหลาอระตาเทวี | ||
| พระผู้ผ่านพิภพกุเรปัน | ตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี | ||
| อันระเด่นดาหลาวาตี | บุตรีที่สองรองลงมา | ||
| ท้าวดาหาตุนาหงันไป | เป็นประไหมสุหรีในดาหา | ||
| ยังแต่น้องนุชสุดโสภา | กัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย | ||
| ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี | พระชนนีถนอมนักรักใคร่ | ||
| กษัตริย์ใดมาขออรทัย | ไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์ | ||
| หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตร | สืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง | ||
| อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์ | ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา | ||
| ได้ครอบครองสวรรยาธานี | ทรงธรรม์นั้นมีโอรสา | ||
| พระคิดถึงระตูผู้มรณา | จะบำรุงพาราให้เรืองไป | ||
| จึงตกแต่ของมาตุนาหงัน | ชนนีนางนั้นก็อวยให้ | ||
| อภิเษกเอกองค์โอรสไว้ | ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ | ||
| ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี | ||
| เสวยราชสมบัติสวัสดี | สุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน | ||
| จึงมีพระโอรสา | ด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร | ||
| ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมาร | รูปทรงสัณฐานโสภา | ||
| พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์ | พิศวงจงรักหนักหนา | ||
| เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลา | แสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อย | ถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้ | ||
| ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้ | เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ | ||
| ประทานทั้งเงินทองของขวัญ | ตามขนมครบครันเครื่องประดับ | ||
| สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับ | เกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ | ||
| ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยา | พร้อมคณะพรามหาดาบส | ||
| ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรส | เลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร | ||
| ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี | ด้วยลิกูนารีศรีใส | ||
| ชื่อบุษบารากายาใจ | ตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้น | ทรงครรภ์พระโอรสา | ||
| จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวา | ดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวง | บำบวงเทวราชเรืองศรี | ||
| ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธี | ได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด | ||
| ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร | เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต | ||
| ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์ | ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง | ||
| แม้นสมปรารถนาดังว่าขาน | จะแต่งแก้บนบานบวงสรวง | ||
| เทียนทองชวาลาบุปผาพวง | พรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์ | ||
| จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาล | เอาตาดคำทำม่านเพดานดัด | ||
| อีกทั้งทิวธงราชวัติ | ชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล | ||
| ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อย | จะปล่อยไว้ในเทวสถาน | ||
| จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาล | มีงานมหรสรพครบครัน ฯ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน | ||
| ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์ | เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก | ||
| ราตรีเข้าที่พระบรรทม | ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์ | ||
| บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นัก | ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา | ||
| มีพระสุริยงทรงกลด | ชักรถมาในเวหา | ||
| แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา | ตกลงตรงหน้านางรับไว้ | ||
| ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ | ให้หลากจิตพิศวงสงสัย | ||
| จึงทูลพระภัสดาพลันทันใด | โดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ | ||
| ฯ ๘ คำฯ | |||
เชิงอรรถ
ที่มา
- คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
- [1]
