บทละครเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(ที่มา)
(บทประพันธ์)
แถว 18: แถว 18:
  ระบือลือทั่วทุกประเทศ  ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์
  ระบือลือทั่วทุกประเทศ  ย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์
  บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ  โดยทางทศพิศราชธรรม์
  บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจ  โดยทางทศพิศราชธรรม์
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
   
   
แถว 33: แถว 34:
มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง  งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง
มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนาง  งานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง
โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง  จัดแจงแต่งตั้งครบครัน
โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลัง  จัดแจงแต่งตั้งครบครัน
 +
ฯ ๑๒ คำ ฯ
แถว 42: แถว 44:
นานานัคเรศประเทศราช  เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้
นานานัคเรศประเทศราช  เข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้
ต่างถวายสุวรรณมาลัย  โอรสยศไกรและธิดา
ต่างถวายสุวรรณมาลัย  โอรสยศไกรและธิดา
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ยานี</sup>
 +
๏ อันสี่ธานีราชฐาน  กว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา
 +
เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธา  สนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย
 +
มีปราสาททั้งสามตามฤดู  เสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย
 +
หลังคาฝาผนังนอกใน  แล้วไปด้วยโมราศิลาทอง
 +
ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบก  ยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง
 +
แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยอง  บัญชรช่องชัชวาลบานบัง
 +
พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถง  ท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง
 +
พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์  กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา
 +
บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณ  มีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา
 +
ที่เสวยที่สรงคงคา  ที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง
 +
พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถาง  ไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง
 +
ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากอง  อิฐทองปูลาดสะอาดตา
 +
ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์  นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา
 +
โรงแสงโรงภูษามาลา  เรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน
 +
เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลด  โรงม้าโรงรถคชสาร
 +
ติกาหลังสำหรับพระกุมาร  อยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ
 +
ฯ ๑๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ ประตูลักลงท่าชลาลัย  มีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง
 +
เรือศรีสุวรรณบัลลังก์  เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า
 +
เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบก  งามกระหนกลวดลายท้ายหน้า
 +
พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตรา  เกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี
 +
ตำหนักแพแลล้ำอำไพ  มุขดลพาไลหลังคาสี
 +
ช่อฟ้าหน้าบันปราลี  ล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล
 +
ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรง  สำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน
 +
เบื้องบนบังสาดดาดเพดาน  ผูกม่านมู่ลี่ลายทอง
 +
ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลง  ลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง
 +
ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซอง  ตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์
 +
อันถนนหนทางท้องฉนวน  ศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร
 +
มีตึกแถวทิมรอบขอบคัน  เรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ
 +
ฯ ๑๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>สมิงทอง</sup>
 +
๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่น  พ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า
 +
กว้างใหญ่ไพศาลสุดตา  เตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง
 +
มีสุวรรณพลับพลาบนปราการ  สูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง
 +
ช่อฟ้าปราลีลำยอง  ฉลักฉลุบุทองอร่ามไป
 +
สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนาน  ล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่
 +
ประลองเหล่าทหารชาญชัย  ยิงธนูศรใส่ยาพิษ
 +
ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่น  แม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด
 +
โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิด  เพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน
 +
บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชี  ขับขี่เคยศึกฝึกฝน
 +
ประลองคชสารสู้บำรูชน  ใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ
 +
ฯ ๑๐ คำฯ
 +
 +
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์  มีปราการแก้วกั้นสูงสุด
 +
ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุท  ประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน
 +
มีทิวแถวโรงช้างระวางค่าย  เชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์
 +
หอรบแลสล้างนางจรัล  ป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด
 +
รายปืนจินดาจังกาส่อง  วางประจำทุกช่องเสมาหมด
 +
เชิงเทินดังเนินบรรพต  บันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ชมตลาด</sup>
 +
๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศ  ลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา
 +
บ้านช่องสองข้างมรรคา  ล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน
 +
เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษี  มั่งมีสมบัติพัสถาน
 +
เรือนริมรัถยาฝากระดาน  ตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง
 +
สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยา  ก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง
 +
ศาลเทพารักษ์หลักเมือง  นับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร
 +
เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์  ทำตามประเพณีพิธีไสย
 +
หอกลองอยู่กลางเวียงชัย  แม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา
 +
สะพานข้างทางข้ามคชสาร  ก่ออิฐปูกระดานไม้หนา
 +
คลองหลอดแลลิ่วสุดตา  น้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง
 +
นาวาค้าขายพายขึ้นล่อง  ตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง
 +
แพจอดตลอดท่าหน้าเมือง  นองเนืองเป็นขนัดในนัที
 +
ข้าวของต่างต่างเอาวางขาย  แพรม้วนมากมายหลายสี
 +
ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลี  พลอยมณีเพชรนิลจินดา
 +
บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติ  แก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา
 +
ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนา  ย่อมเยาราคาสารพัน ฯ
 +
ฯ ๑๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>เบ้าหลุด</sup>
 +
๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์  มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์
 +
สำเภาจอดทอดท่าเรียงรัน  สลุบแขกกำปั่นวิลันดา
 +
จีนจามอะแจแซ่ซ้อง  คับคั่งทั้งสิบสองภาษา
 +
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา  ถ้วนหน้าประชาชนมนตรี
 +
บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาท  พิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่
 +
ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์  มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์
 +
พวกขุนนางต่างหัดมโหรี  ลาวสาวเสียงดีมีหลายคน
 +
บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนาน  มีงานการกึกก้องทุกแห่งหน
 +
บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชน  ทรหดอดทนเป็นเดิมพัน
 +
บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะ  ชนแพะแกะกระบือคูขัน
 +
บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนัน  ปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา
 +
ราตรีมีหนังประชันเชิด  ฉลุฉลักลายเลิศเลขา
 +
บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวา  ทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ
 +
ฯ ๑๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ชมตลาด</sup>
 +
๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุง  ก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน
 +
ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์  หวีผมคมสันกันไร
 +
ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดี  รูปทรงส่งศรีผ่องใส
 +
ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางใน  ถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู
 +
ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาว  เจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่
 +
บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้  หมากพลูพวงมาลัยให้กัน
 +
พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขาย  มุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน
 +
..............................วรรคนี้หายไป  ไม่มีในต้นฉบับ........................
 +
บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลง  ล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย
 +
ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบาย  หญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ปลิ่ม</sup>
 +
๏ ทิศใต้ภายนอกธานี  มีสระสวนศรีสะตาหมัน
 +
มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณ  ล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้
 +
บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อย  ช่อช้อยชูก้านบานไสว
 +
พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจ  มีตำหนักน้อยในวารี
 +
อันโบกขรณีสี่เหลี่ยม  น้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี
 +
ใสสะอาดปราศจากราคี  ดังแสงแก้วมณีรจนา
 +
มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์  ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า
 +
เกสรร่วงลงคงคา  พระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>สระบุหร่ง</sup>
 +
๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่ง  วารีลึกซึ้งเย็นใส
 +
ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้  ระบัดใบบังแสงสุริยง
 +
เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมา  แม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง
 +
ประดับด้วยโกมุทบุษบง  ลินจงอุบลบัวบาน
 +
มีพลับพลาที่ประทับยับยั้ง  อยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล
 +
สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณ  ทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ
 +
ฯ ๘ คำ ฯ 
 +
 +
 +
<sup>พระทอง</sup>
 +
๏ แต่กรุงดาหาธานี  มีคิรีวิลิศมาหรา
 +
อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพา  มรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต
 +
อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถาน  เชี่ยวชาญเดชาปรากฏ
 +
ย่อมเป็นที่นับถือลือยศ  แห่งชาวชนบทพระบุรี
 +
แม้นมีเหตุเภทพานประการใด  ก็บวงบนเทพไทเรืองศรี
 +
ทำตามบุราณราชประเพณี  ถึงปีไปเคารพอภิวันท์
 +
ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์  ดำรงนคเรศเกษมสันต์
 +
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้น  เป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ช้า</sup>
 +
๏ มาจะกล่าวบทไป  ถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา
 +
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปรา  บรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด
 +
เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานี  แต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์
 +
ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์  ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร
 +
มีหมู่มาตยาข้าเฝ้า  สองเหล่าพลเรือนแลทหาร
 +
โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญ  แต่ละคนเคยชำนาญในการรบ
 +
อยู่ยงคงกระพันสาตรา  วิชาโล่เขนเจนจบ
 +
ราชรถคชสารสินธพ  เลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ
 +
ฯ ๑๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ ปางก่อนพระนครหมันหยา  ประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี
 +
ตั้งแต่ระตูภูมี  สุดสิ้นชีวีทิวงคต
 +
ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจ  ทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท
 +
ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศ  โศกศัลย์รันทดทุกเวลา
 +
มีราชธิดาสามองค์  งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา
 +
พี่นางทรงนามสมญา  ชื่อนิหลาอระตาเทวี
 +
พระผู้ผ่านพิภพกุเรปัน  ตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี
 +
อันระเด่นดาหลาวาตี  บุตรีที่สองรองลงมา
 +
ท้าวดาหาตุนาหงันไป  เป็นประไหมสุหรีในดาหา
 +
ยังแต่น้องนุชสุดโสภา  กัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย
 +
ชื่อระเด่นจินดาส่าหรี  พระชนนีถนอมนักรักใคร่
 +
กษัตริย์ใดมาขออรทัย  ไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์
 +
หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตร  สืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง
 +
อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์  ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา
 +
ได้ครอบครองสวรรยาธานี  ทรงธรรม์นั้นมีโอรสา
 +
พระคิดถึงระตูผู้มรณา  จะบำรุงพาราให้เรืองไป
 +
จึงตกแต่ของมาตุนาหงัน  ชนนีนางนั้นก็อวยให้
 +
อภิเษกเอกองค์โอรสไว้  ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ
 +
ฯ ๑๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ เมื่อนั้น  ฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี
 +
เสวยราชสมบัติสวัสดี  สุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน
 +
จึงมีพระโอรสา  ด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร
 +
ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมาร  รูปทรงสัณฐานโสภา
 +
พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์  พิศวงจงรักหนักหนา
 +
เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลา  แสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อย  ถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้
 +
ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้  เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ
 +
ประทานทั้งเงินทองของขวัญ  ตามขนมครบครันเครื่องประดับ
 +
สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับ  เกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ
 +
ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยา  พร้อมคณะพรามหาดาบส
 +
ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรส  เลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร
 +
ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรี  ด้วยลิกูนารีศรีใส
 +
ชื่อบุษบารากายาใจ  ตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้น  ทรงครรภ์พระโอรสา
 +
จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวา  ดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ
 +
ฯ ๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวง  บำบวงเทวราชเรืองศรี
 +
ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธี  ได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด
 +
ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตร  เป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต
 +
ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์  ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง
 +
แม้นสมปรารถนาดังว่าขาน  จะแต่งแก้บนบานบวงสรวง
 +
เทียนทองชวาลาบุปผาพวง  พรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์
 +
จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาล  เอาตาดคำทำม่านเพดานดัด
 +
อีกทั้งทิวธงราชวัติ  ชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล
 +
ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อย  จะปล่อยไว้ในเทวสถาน
 +
จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาล  มีงานมหรสรพครบครัน ฯ
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ช้า</sup>
 +
๏ เมื่อนั้น  องค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน
 +
ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์  เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก
 +
ราตรีเข้าที่พระบรรทม  ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์
 +
บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นัก  ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา
 +
มีพระสุริยงทรงกลด  ชักรถมาในเวหา
 +
แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา  ตกลงตรงหน้านางรับไว้
 +
ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์  ให้หลากจิตพิศวงสงสัย
 +
จึงทูลพระภัสดาพลันทันใด  โดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ
 +
ฯ ๘ คำฯ
 +
 +
</tpoem>
</tpoem>
 +
== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==
== ที่มา ==
== ที่มา ==
* คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
* คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
* [http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=windchimedream&topic=1&Cate=6]
* [http://www.b.yimwhan.com/board/show.php?user=windchimedream&topic=1&Cate=6]

การปรับปรุง เมื่อ 08:54, 7 กันยายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

บทประพันธ์

ช้าปี่
๏ มาจะกล่าวบทไปถึงสี่องค์ทรงธรรม์นาถา
เป็นหน่อเนื้อเชื้อวงศ์เทวาบิตุเรศมารดาเดียวกัน
รุ่งเรืองฤทธาศักดาเดชได้ดำรงนคเรศเขตขัณฑ์
พระเชษฐาครองกรุงกุเรปันถัดนั้นครองดาหาธานี
องค์หนึ่งครองกาหลังบุรีรัตน์องค์หนึ่งครองสิงหัดส่าหรี
เฉลิมโลกโลกาธาตรีไม่มีผู้รอต่อฤทธิ์
ระบือลือทั่วทุกประเทศย่อมเกรงเดชเดชาอาญาสิทธิ์
บำรุงราษฎร์ดับเข็ญอยู่เป็นนิจโดยทางทศพิศราชธรรม์
ฯ ๘ คำ ฯ
ชมตลาด
๏ มีพระมเหษีห้าองค์ดั่งอนงค์นางฟ้ากระยาหงัน
เลือกล้วนสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์กษัตริย์ครองเขตขัณฑ์สวรรยา
ตั้งแต่งตามตำแหน่งครบที่คือประไหมสุหรีเสน่หา
มะเดหวีที่สองรองลงมาแล้วมะโตโสภานารี
ที่สี่ลิกูนงเยาว์ที่ห้านั้นเหมาหลาหงี
อันอัครชายาทั้งห้านี้ตั้งได้แต่สี่พารา
ประดับด้วยสุรางค์นางสนมล้วนอุดมรูปทรงวงศา
ถ้วนหมื่นหกพันกัลยาวิลาศเลิศลักขณาทุกนางใน
สำหรับขับรำบำเรอราชพิณพาทย์จำเรียงเสียงใส
ผลัดกันปั่นโมงมาคอยใช้พนักงานของใครระไวระวัง
มีเหล่าเถ้าแก่ท้าวนางงานเครื่องงานกลางผู้รับสั่ง
โขลนจ่าหลวงแม่เจ้าชาวคลังจัดแจงแต่งตั้งครบครัน
ฯ ๑๒ คำ ฯ
ร่าย
๏ มีหมู่มาตยาสามนต์โยธีรี้พลแข็งขัน
นับหมื่นพื้นหาญชาญฉกรรจ์เคยณรงค์โรมรันไม่ครั่นคร้าม
ม้ารถคชไกรไม่ใช่ชั่วแต่ละตัวแกล้วกล้ากลางสนาม
ทนปืนยืนยงในสงครามฦานามขามฤทธิทุกทิศไป
นานานัคเรศประเทศราชเข็ดขยาดย่อท้อไม่ต่อได้
ต่างถวายสุวรรณมาลัยโอรสยศไกรและธิดา
ฯ ๖ คำ ฯ
ยานี
๏ อันสี่ธานีราชฐานกว้างใหญ่ไพศาลหนักหนา
เทเวศร์นฤมิตด้วยฤทธาสนุกดั่งเมืองฟ้าสุราลัย
มีปราสาททั้งสามตามฤดูเสด็จอยู่โดยจินดาอัชฌาสัย
หลังคาฝาผนังนอกในแล้วไปด้วยโมราศิลาทอง
ภูเขาเงินรองฐานมีมารแบกยอดแทรกยอดใหญ่ไม้สิบสอง
แก้วไพฑูรย์ทำเป็นลำยองบัญชรช่องชัชวาลบานบัง
พระปรัศว์ซ้ายขวาอ่าโถงท้องพระโรงรจนาหน้าหลัง
พระแท่นแก้วกุดั่นบัลลังก์กางกั้นเศวตฉัตรอยู่อัตรา
บรรจถรณ์ที่ไสยาสน์อาสน์สุวรรณมีฉากแก้วแพรวพรรณคั่นฝา
ที่เสวยที่สรงคงคาที่นั่งเย็นอยู่หน้ามนเทียรทอง
พรรณไม้ดอกลูกปลกกระถางไว้หว่างอ่างแก้วเป็นแถวถ้อง
ราบรื่นพื้นชาลาดังหน้ากองอิฐทองปูลาดสะอาดตา
ที่ทิมที่ล้อมวงองครักษ์นอกกองเกณฑ์พิทักษ์รักษา
โรงแสงโรงภูษามาลาเรียงเรียบรัถยาหน้าพระลาน
เครื่องเนืองกันเป็นหลั่นลดโรงม้าโรงรถคชสาร
ติกาหลังสำหรับพระกุมารอยู่นอกปราการกำแพงวัง ฯ
ฯ ๑๖ คำ ฯ
ร่าย
๏ ประตูลักลงท่าชลาลัยมีโรงเรือเรียงไปริมฝั่ง
เรือศรีสุวรรณบัลลังก์เรือแข่งเรือที่นั่งตั้งบนม้า
เรือกิ่งเอกชัยใส่บุษบกงามกระหนกลวดลายท้ายหน้า
พนักงานตำรวจใหญ่ไตรตราเกณฑ์ไพร่ให้รักษานาวี
ตำหนักแพแลล้ำอำไพมุขดลพาไลหลังคาสี
ช่อฟ้าหน้าบันปราลีล้วนมณีเนาวรัตน์ชัชวาล
ข้างหน้าตำหนักน้ำนั้นทำเกรงสำหรับราชสุริย์วงศ์สรงสนาน
เบื้องบนบังสาดดาดเพดานผูกม่านมู่ลี่ลายทอง
ฤดูสิบเอ็ดเสด็จลงลอยกระทงทรงประทีปเป็นแถวถ้อง
ทอดทุ่นท้ายน้ำประจำซองตั้งกองล้อมวงพระทรงธรรม์
อันถนนหนทางท้องฉนวนศิลาลายลาดล้วนเลือกสรร
มีตึกแถวทิมรอบขอบคันเรือนสนมกำนัลเป็นหลั่นมา ฯ
ฯ ๑๒ คำ ฯ
สมิงทอง
๏ ท้องสนามแกล้งปราบราบรื่นพ่างพื้นปถพีไม่มีหญ้า
กว้างใหญ่ไพศาลสุดตาเตียนสะอาดดาษดาด้วยทรายทอง
มีสุวรรณพลับพลาบนปราการสูงตระหง่านเอื้อมฟ้าสิบห้าห้อง
ช่อฟ้าปราลีลำยองฉลักฉลุบุทองอร่ามไป
สำหรับที่ทอดพระเนตรสระสนานล่อแพนผัดพานเป็นการใหญ่
ประลองเหล่าทหารชาญชัยยิงธนูศรใส่ยาพิษ
ตั้งป้อมหัดปืนยิงหุ่นแม่นยำซ้ำกระสุนไม่มีผิด
โล่ดั้งดาบฟันกระชั้นชิดเพลงกริชสันทัดทั่วทุกตัวตน
บ้างรำทวนเปลี่ยนท่าบนพาชีขับขี่เคยศึกฝึกฝน
ประลองคชสารสู้บำรูชนใช้ชำนาญในกลการยุทธ์ ฯ
ฯ ๑๐ คำฯ
ร่าย
๏ รอบราชนิเวศน์เขตขัณฑ์มีปราการแก้วกั้นสูงสุด
ซุ้มทวารบานสุวรรณชมพูนุทประตูลักช่องกุฎิ์สลับกัน
มีทิวแถวโรงช้างระวางค่ายเชิงเรียงรายเขื่อนเพชรเขื่อนขัณฑ์
หอรบแลสล้างนางจรัลป้อมสูงสามชั้นเป็นหลั่นลด
รายปืนจินดาจังกาส่องวางประจำทุกช่องเสมาหมด
เชิงเทินดังเนินบรรพตบันไดลดเลี่ยนลาดสะอาดตา ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
ชมตลาด
๏ ท่ามกลางทางท้องสถลมาศลำดับดาดอิฐแผ่นแน่นหนา
บ้านช่องสองข้างมรรคาล้วนเคหาหน้าถังนั่งร้าน
เหล่าพวกกรมท่าเจ้าภาษีมั่งมีสมบัติพัสถาน
เรือนริมรัถยาฝากระดานตึกกว้านบ้านขุนนางนองเนือง
สุเหร่าเรียงเคียงคั่นปั้นหยาก่อผนังหลังคามุงกระเบื้อง
ศาลเทพารักษ์หลักเมืองนับถือลือเลื่องทั้งกรุงไกร
เสาชิงช้าอาวาสวัดพราหมณ์ทำตามประเพณีพิธีไสย
หอกลองอยู่กลางเวียงชัยแม้เกิดไฟไพรีตีสัญญา
สะพานข้างทางข้ามคชสารก่ออิฐปูกระดานไม้หนา
คลองหลอดแลลิ่วสุดตาน้ำลงคงคาไม่ขอดเคือง
นาวาค้าขายพายขึ้นล่องตามแม่น้ำลำคลองแน่นเนื่อง
แพจอดตลอดท่าหน้าเมืองนองเนืองเป็นขนัดในนัที
ข้าวของต่างต่างเอาวางขายแพรม้วนมากมายหลายสี
ยกทองล่องจวนเจ็ดตะคลีพลอยมณีเพชรนิลจินดา
บริบูรณ์พูนสุขด้วยสมบัติแก้วเก้าเนาวรัตน์วัตถา
ทุกสิ่งสรรพ์เอมโอชโภชนาย่อมเยาราคาสารพัน ฯ
ฯ ๑๖ คำ ฯ
เบ้าหลุด
๏ ลูกค้าวานิชทุกนิเวศน์มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์
สำเภาจอดทอดท่าเรียงรันสลุบแขกกำปั่นวิลันดา
จีนจามอะแจแซ่ซ้องคับคั่งทั้งสิบสองภาษา
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปราถ้วนหน้าประชาชนมนตรี
บ้างฝึกสอนคนรำทำบทบาทพิณพาทย์ระนาดฆ้องอึงมี่
ลูกค้าวาณิชทุกนิเวศน์มาแต่ต่างประเทศเขตขัณฑ์
พวกขุนนางต่างหัดมโหรีลาวสาวเสียงดีมีหลายคน
บ้างลงท่าโกนจุกสนุกสนานมีงานการกึกก้องทุกแห่งหน
บ้างตั้งบ่อนปลากัดงัดไก่ชนทรหดอดทนเป็นเดิมพัน
บ้างเล่นวิ่งวัวคนโคระแทะชนแพะแกะกระบือคูขัน
บ้างเล่นว่าวคุลาคว้าพนันปากเป้าสั้นโห่ฉาววิ่งราวมา
ราตรีมีหนังประชันเชิดฉลุฉลักลายเลิศเลขา
บ้างเล่นเพลงครึ่งท้อนกลอนสักวาทั้งสุดใจไก่ป่าสารพัน ฯ
ฯ ๑๒ คำ ฯ
ชมตลาด
๏ ฝ่ายฝูงสาวสาวชาวกรุงก็บำรุงรูปโฉมเฉิดฉัน
ขัดขมิ้นหนุนเนื้อเจือจันทน์หวีผมคมสันกันไร
ที่ลูกเหล่าพงศ์เผ่าพวกผู้ดีรูปทรงส่งศรีผ่องใส
ซ่อนตัวกลัวจะเก็บเป็นางในถึงมีงานการใหญ่ไม่ไปดู
ลางพวกเพิ่งดรุณีแรกสาวเจ้าบ่าวไปปลูกหอขอสู่
บ้างลอบลักรักเร้นเป็นชู้หมากพลูพวงมาลัยให้กัน
พวกหนุ่มหนุ่มพากเพียรเวียนแวดขายมุ่งหมายรักใคร่ใฝ่ฝัน
..............................วรรคนี้หายไปไม่มีในต้นฉบับ........................
บ้างดีดนิ้วผิวปากทำเพลงล้วนนักเลงเจ้าชู้ฉุยฉาย
ลดเลี้ยวเที่ยวเล่นตามสบายหญิงชายเป็นสุขทุกคืนวัน ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ปลิ่ม
๏ ทิศใต้ภายนอกธานีมีสระสวนศรีสะตาหมัน
มิ่งไม้หลายอย่างต่างพรรณล้วนแกล้งกลั่นสรรสาปลูกไว้
บ้างเผล็ดผลผการะย้าย้อยช่อช้อยชูก้านบานไสว
พ่างพื้นรื่นร่มสำราญใจมีตำหนักน้อยในวารี
อันโบกขรณีสี่เหลี่ยมน้ำเปี่ยมเทียบปากสระศรรี
ใสสะอาดปราศจากราคีดังแสงแก้วมณีรจนา
มีสุพรรณโกสุมปทุมมาลย์ตูมบานแย้มกลีบกลิ่นเกล้า
เกสรร่วงลงคงคาพระพายพาหอมฟุ้งจรุงใจ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
สระบุหร่ง
๏ นอกกเมืองมีสระตำยลหนึ่งวารีลึกซึ้งเย็นใส
ริมรอบขอบคันล้วนพรรณไม้ระบัดใบบังแสงสุริยง
เป็นที่ภูธรแต่ก่อนมาแม้นปราบข้าศึกเสร็จเสด็จสรง
ประดับด้วยโกมุทบุษบงลินจงอุบลบัวบาน
มีพลับพลาที่ประทับยับยั้งอยู่ริมฝั่งสระใหญ่ไพศาล
สำหรับเมืองเนื่องมาแต่บุราณทั้งสี่ราชฐานพารา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
พระทอง
๏ แต่กรุงดาหาธานีมีคิรีวิลิศมาหรา
อยู่นอกเมืองข้างเบื้องบูรพามรรคาวันหนึ่งถึงบรรพต
อารักษ์เรืองฤทธิ์สถิตสถานเชี่ยวชาญเดชาปรากฏ
ย่อมเป็นที่นับถือลือยศแห่งชาวชนบทพระบุรี
แม้นมีเหตุเภทพานประการใดก็บวงบนเทพไทเรืองศรี
ทำตามบุราณราชประเพณีถึงปีไปเคารพอภิวันท์
ทั้งที่พระองค์วงศ์เทเวศร์ดำรงนคเรศเกษมสันต์
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินสิ้นทั้งนั้นเป็นสุขทุกวันทุกเวลา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
ช้า
๏ มาจะกล่าวบทไปถึงพิชัยเขตขัณฑ์หมันหยา
แสนสนุกสุขเกษมเปรมปราบรรดากรุงชวาไม่เทียมทัด
เป็นใหญ่ยิ่งกว่าทุกธานีแต่ก่อนทั้งบุรีสี่กษัตริย์
ประกอบด้วยแก้วเก้าเนาวรัตน์ไอศูรย์สมบัติศฤงคาร
มีหมู่มาตยาข้าเฝ้าสองเหล่าพลเรือนแลทหาร
โยธีนับหมื่นพื้นเชี่ยวชาญแต่ละคนเคยชำนาญในการรบ
อยู่ยงคงกระพันสาตราวิชาโล่เขนเจนจบ
ราชรถคชสารสินธพเลิศลบเลือนกว่าทุกธานี ฯ
ฯ ๑๘ คำ ฯ
ร่าย
๏ ปางก่อนพระนครหมันหยาประชาราษฎร์มาตยาเกษมศรี
ตั้งแต่ระตูภูมีสุดสิ้นชีวีทิวงคต
ก็เย็นเยียบเงียบเหงาเปล่าใจทั่วนิเใศน์เวียงชัยชยนบท
ตั้งแต่ประไหมสุหรีมียศโศกศัลย์รันทดทุกเวลา
มีราชธิดาสามองค์งามทรงวงพักตร์เพียงเลขา
พี่นางทรงนามสมญาชื่อนิหลาอระตาเทวี
พระผู้ผ่านพิภพกุเรปันตุนาหงันเป็นประไหมสุหรี
อันระเด่นดาหลาวาตีบุตรีที่สองรองลงมา
ท้าวดาหาตุนาหงันไปเป็นประไหมสุหรีในดาหา
ยังแต่น้องนุชสุดโสภากัลยาแรกรุ่นจำเริญวัย
ชื่อระเด่นจินดาส่าหรีพระชนนีถนอมนักรักใคร่
กษัตริย์ใดมาขออรทัยไม่ยินยอมยกให้ไปไกลองค์
หวังจะให้เป็นเอกในเศวตฉัตรสืบตระกูลกษัตริย์สูงส่ง
อันท้าวมังกันฤทธิ์วงศ์ก็เนื่องในสุริย์วงศ์กันมา
ได้ครอบครองสวรรยาธานีทรงธรรม์นั้นมีโอรสา
พระคิดถึงระตูผู้มรณาจะบำรุงพาราให้เรืองไป
จึงตกแต่ของมาตุนาหงันชนนีนางนั้นก็อวยให้
อภิเษกเอกองค์โอรสไว้ในพิชัยหมันหยาธานี ฯ
ฯ ๑๘ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นฝ่ายท้าวกุเรปันเรืองศรี
เสวยราชสมบัติสวัสดีสุขเกษมเปรมปรีดิ์มาช้านาน
จึงมีพระโอรสาด้วยลิกูกัลยายอดสงสาร
ชื่อกระหรัดตะปาตีกุมารรูปทรงสัณฐานโสภา
พระบิตุเรศมารดาทั้งห้าองค์พิศวงจงรักหนักหนา
เย็นเช้าเฝ้าชมทุกเวลาแสนสนิทเสน่หาดังดวงใจ ฯ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ จึ่งจัดกิดาหยันน้องน้อยถ้วนร้อยโปรดปรานประทานให้
ทั้งนางนมพี่เลี้ยงแลสาวใช้เจ้าขรัวยายผู้ใหญ่ได้บังคับ
ประทานทั้งเงินทองของขวัญตามขนมครบครันเครื่องประดับ
สร้อยสุวรรณสังวาลบานพับเกี้ยวแก้วแวววับสำหรับยศ
ให้ตั้งกรรมทำกิจวิทยาพร้อมคณะพรามหาดาบส
ชุบกริชประสิทธิ์ให้โอรสเลื่องหล้าปรากฎฤทธิไกร
ครั้นท้าวกาหลังมีบุตรีด้วยลิกูนารีศรีใส
ชื่อบุษบารากายาใจตุนาหงันกล่าวไว้แก่ลูกยา ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ คิดจะให้ประไหมสุหรีนั้นทรงครรภ์พระโอรสา
จะได้สืบสุริวงศ์พงศ์เทวาดำรงขัณฑเสมาธานี ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ คิดพลางทางถวายเครื่องบวงสรวงบำบวงเทวราชเรืองศรี
ขออารักษ์หลักเมืองเรืองฤทธีได้ปรานีเชิญช่วยจงสคิด
ให้ประไหมสุหรีนั้นมีบุตรเป็นบุรุษรูปโฉมประโลมจิต
ได้ครอบครองพระนครขจรฤทธิ์ลือสะท้านทั่วทิศทั้งปวง
แม้นสมปรารถนาดังว่าขานจะแต่งแก้บนบานบวงสรวง
เทียนทองชวาลาบุปผาพวงพรรณรายรุ้งร่วงด้วยเนาวรัตน์
จะแผ่ทองเนื้อเก้าหุ้มเสาศาลเอาตาดคำทำม่านเพดานดัด
อีกทั้งทิวธงราชวัติชุมสายเศวตฉัตรชัชวาล
ทั้งแพะแกะโคกระทิงสิ่งละร้อยจะปล่อยไว้ในเทวสถาน
จะสมโภชเจ็ดทิวาราตรีกาลมีงานมหรสรพครบครัน ฯ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ช้า
๏ เมื่อนั้นองค์ปะไหมสุหรีเฉิดฉัน
ร่วมภิรมย์สมสุขด้วยทรงธรรม์เมื่อจวนจะมีครรภ์พระลูกรัก
ราตรีเข้าที่พระบรรทมด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์
บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรยบ์นักว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา
มีพระสุริยงทรงกลดชักรถมาในเวหา
แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกาตกลงตรงหน้านางรับไว้
ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ให้หลากจิตพิศวงสงสัย
จึงทูลพระภัสดาพลันทันใดโดยนัยนิมิตเยาวมาลย์ ฯ
ฯ ๘ คำฯ
             

เชิงอรรถ

ที่มา

  • คุณพรพรรณ วัฑฒนายน ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน
  • [1]
เครื่องมือส่วนตัว