บทละครนอกเรื่องไกรทอง

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|บทละครนอกรเืองกรไ…')
()
แถว 149: แถว 149:
==== ====
==== ====
<tpoem>
<tpoem>
 +
๏ น้อยเอยน้อยหรือ  นางคนซื่อสารพันขยันหมด
 +
ก่นแต่ติเตียนเวียนประชด  จริงแล้วคะข้าคดไม่งดงาม
 +
มันจะเหมือนผัวเก่าของเจ้าหรือ  สุดซื่อแล้วเจ้าเอ๋ยอย่าเย้ยหยาม
 +
แต่ออกชื่อชาลวันก็ครั่นคร้าม  สุดคิดจะติดตามให้ต้องใจ
 +
ไหนนั่นความชั่วตัวอัปรีย์  ว่าพี่มาปรำซ้ำใส่ให้
 +
เมื่ออื้ออึงไปเองไม่อายใจ  กลับว่าสาวไส้ให้กาทึ้ง
 +
เจ้าสินสนักสำบัดสำนวน  ทั้งกระบวนกระบิดติดปั้นปึ่ง
 +
ดังหนองน้ำลำธารอันเซาะซึ้ง  เป็นที่พึ่งสารพัดไม่ขัดใคร
 +
เลื่องลืออื้ออึงพี่จึงมา  หวังจะพาไปชมคารมใหญ่
 +
ให้ฟุ้งเฟื่องทั้งเมืองพิจิตรไว้  เขาจะได้ชมรสวาจา
 +
จะชมทั้งกิริยามารยาท  เชื้อชาติโฉมนางต่างภาษา
 +
เจ้าจะได้เห็นหัวผัวกุมภา  อยู่ที่ศาลเทวาอารักษ์บน
 +
รำลึกถึงเมื่อไรจะไปเยือน  ก็พอเคลื่อนคลายได้ไม่ขัดสน
 +
ล้วนหนุ่มหนุ่มประชุมชอบกล  เขาเคยไปบวงบนบูชา
 +
ฯ ๑๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ เจ็บเอยเจ็บใจ  ช่างพิไรเสกสรรรำพันว่า
 +
สารพัดจัดให้วิมาลา  สมน้ำหน้าแล้วสิสนัดใจ
 +
อันศาลเจ้าที่หัวผัวเก่าอยู่  ข้าไม่รู้แห่งหนตำบลไหน
 +
ทำตีอกยกมือขออภัย  เห็นแต่หัวผัวใหม่ที่งมมา
 +
อะไรไม่หยุดหย่อนเฝ้าค่อนแคะ  นั่นแหละพอสมกับแพศยา
 +
แต่กุมภีล์เท่านั้นไม่คัณนา  ยังซ้ำมนุสสาจึงสมใจ
 +
เขาจะได้เชิดชื่อลือทั่ว  ว่าหญิงชั่วตัวเจ้ามารักใคร่
 +
จะปรากฏยศศักดิ์ของหม่อมไกร  สืบไปชั่ววงศ์พงศ์พันธุ์
 +
ถ้าเห็นงามตามแต่จะเมตตา  ฝ่ายข้าไม่รังเกียจเดียดฉันท์
 +
จะชูราศีหม่อมขึ้นทุกวัน  เหมือนเอาจันทน์เฉลิมเจิมจุณ
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ ลมเอยลมเติบ  อย่ากำเริบนักนะมักจะวุ่น
 +
สัญชาติจระเข้เนรคุณ  ทำบุญไม่ขอพบสบใจ
 +
ชะนางตัวขยนกลั่นกล้า  ราคาสองสลึงหาถึงไม่
 +
ถึงจะเสียมีดหมอก็เสียไป  หาด้ามทำใหม่ประเดี๋ยวเดียว
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ น่าเอยน่ากลัว  หม่อมผัวโกรธาจนตาเขียว
 +
ส่วนว่าเขานั้นขยันเจียว  เขาว่าบ้างเข่นเขี้ยวจะฆ่าตี
 +
เหตุว่าเจ้าดีมีฝีมือ  เอาเถิดให้เขาลืออึงมี่
 +
เขาจะได้ว่าเจ้าห้าวหาญดี  ฆ่าฟันสตรีให้บรรลัย
 +
ฯ ๔ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ เหลือเอยเหลืออด  ยังประชดประชันน่าหมั่นไส้
 +
อย่าพักท้าทายมากมายไป  เขาจะเกรงอะไรกับนินทา
 +
หญิงร้ายปากกล้าไม่น่าเลี้ยง  คนผู้จะดูเยี่ยงไปภายหน้า
 +
ฉวยชักมีดหมอที่เหน็บมา  ทำเป็นโกรธาจะฆ่าตี
 +
จะไปไหนเล่าเจ้าคนคม  เอาคารมตั้งหน้าแล้วอย่าหนี
 +
น้ำตาคลอตาน่าปรานี  ชะช่างทำทีให้อ่อนใจ
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ ได้เอยได้ฟัง  ยิ่งคั่งแค้นอกหมกไหม้
 +
กระทีบเท้าเกาหัวแล้วว่าไป  ช่างกระไรไม่คิดเวทนา
 +
เห็นตัวน้องเป็นชาติกุมภีล์  ล้วนมีแต่ขู่เข็ญจะเข่นฆ่า
 +
เหน็บแนมเต้มเติมเต็มประดา  หยาบช้าลิ้นลมไม่สมตัว
 +
เป็นเคราะห์เพราะหลงด้วยถ้อยคำ  จึงกระหน่ำซ้ำว่าจนหน้าชั่ว
 +
เจ้าได้ร่วมรักก็เพรากลัว  ข้าจึงได้มีผัวถึงสองคน
 +
รู้แล้วว่าหม่อมไม่เมตตา  จะทิ้งขว้างร้างหย่าไว้กลางหน
 +
เจ้าอย่าพักเคลือบไคล้ใส่กล  เห็นว่าจนอยู่ที่จะตามไป
 +
ถึงน้องจะรักใคร่ให้ใจขาด  ไนจะอาจเอออวยไปด้วยได้
 +
จะเอาทีว่าชวนแล้วมิไป  แจ้งใจอยู่แล้วอย่าเจรจา
 +
ว่าพลางนางร่ำร้องไห้  น้ำตาไหลโซมซาบอาบหน้า
 +
โอ้แต่นี้ไปนะอกอา  จะบ่ายหน้าไปพึ่งผู้ใด
 +
ทั้งนี้เป็นต้นเพราะผลกรรม  ชักนำทำชั่วมีผัวใหม่
 +
คิดแค้นขึ้นมาไม่ว่ากระไร  เข้าหยิกข่วนเจ้าไกรแล้วโศกา
 +
ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด
 +
 +
 +
<sup>ชาตรี</sup>
 +
๏ ยอดเอยยอดมิ่ง  ความจริงพี่ก็รักเจ้าหนักหนา
 +
พี่ขู่หยอกดอกเจ้าอย่าโกรธา  ไม่ทิ้งขว้างร้างหย่าจะพาไป
 +
ซึ่งกลัวว่าจะกลายเป็นกุมภีล์  ไม่อาจออกจากที่ถ้ำได้
 +
พี่จะลงเลขยันต์กันไว้  มิให้รูปกลับเป็นกุมภีล์
 +
อย่านิ่งนั่งไถลทำไขหู  จะไปหรือจะอยู่ให้รู้ที่
 +
รำคาญขี้คร้านเซ้าซี้  เมื่อมิไปแล้วก็แล้วไป
 +
ฯ ๖ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ ได้เอยได้แจ้ง  มิรู้แห่งจะทำกระไรได้
 +
ทั้งรักทั้งแค้นแน่นใจ  แค้นใครไม่เท่าเจ้าไกรทอง
 +
คิดถึงความรักก็ชักแช  จะใคร่แร่รวยตามไปคล่องคล่อง
 +
แล้วถอยหลังดำริตริตรอง  เกลือกพวกพ้องลูกเมียของเขามี
 +
คิดพลางทางว่าแก่เจ้าไกร  ไฮ้อะไรรำคาญหูจู้จี้
 +
เจ้าจะพาน้องไปด้วยนี้  ก็ตามทีมิขัดจะไปตาม
 +
แต่เกรงเกลือกเจ้าจอมหม่อมเมียหลวง  จะหึงหวงจ้วงจาบหยาบหยาม
 +
จะว่าน้องโฉดเขลาเบาความ  ไม่ไต่ถามตามผัวเขาขึ้นไป
 +
น้องจะได้อัปยศอดสู  จะแลดูหน้าคนกระไรได้
 +
จะซ้ำร้ายอายยิ่งกว่าทิ้งไว้  เจ้าจงตรึกไตรดูให้ดี
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ แสนเอยแสนแขนง  ช่างกล่าวแกล้งบิดเบือนเชือนหนี
 +
ประเดี๋ยวใจไพล่ยักไปอย่างนี้  ร้อยสี่ร้อยอย่างช่างว่าไป
 +
เดิมทีทำกระบวนรวนเร  กลัจะเป็นจระเข้ไม่ไปได้
 +
พี่รับจะลงยันต์กันไว้  มิให้กลับเพศเป็นกุมภา
 +
ก็ขัดสนจนอยู่ที่ข้อนั้น  กลับหันว่าลูกเมียจะด่าว่า
 +
นี่หรือว่ารักแกล้งชักช้า  แต่แย้มมาก็เห็นว่าล่อลวง
 +
ลูกเมียของพี่ก็มีอยู่  แต่เขาไม่รู้หึงหวง
 +
พี่จะปราบปรามความทั้งปวง  มิให้จาบจ้วงล่วงเกินน้อง
 +
อย่าสงสัยว่าจะได้เคืองระคาย  อับอายเพื่อนบ้านร้านช่อง
 +
ถ้าสมัครรักจริงจงปรองดอง  เร่งแต่งตัวเถิดน้องจะด่วนไป
 +
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา
 +
 +
 +
๏ เมื่อนั้น  วิมาลานารีศรีใส
 +
ความรักกลัดกลุ้มคลุ้มใจ  กลัวเจ้าไกรทองจะหมองมัว
 +
ฯ ๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>โอ้ร่าย</sup>
 +
๏ จึงลุกเข้าไปในห้อง  จัดแจงสิ่งของจะตามผัว
 +
ผ้าผ่อนเงินทองของแต่งตัว  แหวนหัวแหวนมณฑปครบครัน
 +
แล้วเลือกของรักใคร่ใส่กระทาย  มากมายสารพัดจัดสรร
 +
พลางพิศดูห้องแก้วแพรวพรรณ  เตียงสุวรรณเคยนอนแต่ก่อนมา
 +
เสียดายของต่างต่างอย่างดี  เสียดายดวงมณีในคูหา
 +
มีคุณแก่ฝูงกุมภา  จะปรารถนาสิ่งใดก็สมคิด
 +
ให้อิ่มไปด้วยทิพอาหาร  ไม่มีความรำคาญแต่สักหนิด
 +
โอ้แต่นี้ไปจะมืดมิด  เร่งคิดสร้อยเศร้าโศกา
 +
ฯ ๘ คำ ฯ โอด
 +
 +
 +
<sup>สามเส้า</sup>
 +
๏ เมื่อนั้น  โฉมเจ้าไกรทองพงศา
 +
ค่อยย่องตามนางวิมาลา  เข้ามายังที่ห้องใน
 +
เห็นนางโศกศัลย์เศร้าหมอง  เป็นห่วงด้วยข้างของไม่ไปได้
 +
จึงร่ายเทพรำจวนป่วนใจ  เป่าไปให้ต้องนางกุมภีล์
 +
แล้วแกล้งแสร้งว่านี่แน่น้อง  เจ้าสิยังขัดข้องหมองศรี
 +
เป็นห่วงบ่วงใยอยู่เต็มที  จะมิไปด้วยพี่ก็ตามใจ
 +
เจ้าค่อยอยู่จงดีพี่ขอลา  จะคอยท่าช้านักนั้นไม่ได้
 +
ว่าพลางทางเดินออกไป  ทำนองลองใจวิมาลา
 +
ฯ ๘ คำ ฯ
 +
 +
 +
<sup>ร่าย</sup>
 +
๏ เมื่อนั้น  วิมาลาโศกศัลย์หนักหนา
 +
ต้องเทพรำจวนป่วนวิญญาณ์  ให้แสนเสน่หาเป็นสุดคิด
 +
ซึ่งอาลัยในของทั้งหลาย  ไม่มีความเสียดายแต่สักหนิด
 +
นึกแต่จะภิรมย์ชมชิด  นางจึงลุกติดตามไป
 +
ฉวยฉุดชายผ้าเจ้าไกรทอง  จะทิ้งน้องเสียแล้วหรือไฉน
 +
น้องได้ว่าหรือจะมิไป  จึงมาตัดอาลัยไคลคลา
 +
พ่อเจ้าไปไหนจะไปด้วย  ถึงชีวิตจะม้วยก็ไม่ว่า
 +
ว่าพลางนางจูงมือมา  คืนเข้าคูหาห้องทอง
 +
เมียจัดไว้สำเร็จเสร็จสรรพ  สินทรัพย์สารพันข้าวของ
 +
อีกทั้งแก้วแหวนเงินทอง  เจ้าจงท่าน้องบัดเดี๋ยวใจ
 +
จะอาบน้ำทาแป้งแต่งตัว  หวีหัวผัดหน้านุ่งผ้าใหม่
 +
ว่าแล้วกลับคืนเข้าห้องใน  ลูบไล้กระแจะแป้งแต่งกายา
 +
ฯ ๑๒ คำ ฯ
 +
 +
 +
๏ เมื่อนั้น  โฉมเจ้าไกรทองพงศา
 +
เปรมปริ่มยิ้มย่องต้องวิญญาณ์  ด้วยนางวิมาลาจะคลาไคล
 +
ครั้นเห็นนางแต่งตัวสรรพเสร็จ  จึงถอดแหวนเพชรที่นิ้วใส่
 +
เสกด้วยวิทยาเรืองชัย  เอาใส่ในมวยผมกัลยา
 +
แล้วลงยันต์เลขเสกซ้ำ  ปิดประจำท่ามกลางเกศา
 +
มิให้นวลนางวิมาลา  กลับคืนกายาเป็นกุมภีล์
 +
แล้วจุดเทียนระเบิดเลิศล้ำ  ออกจากถ้ำนำนางสาวศรี
 +
มาตามเปลวปล่องช่องนที  วารีแหวกกว้างเป็นทางไป
 +
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด
 +
 +
 +
๏ ขึ้นจากฟากฝั่งมหาสมุทร  จะยั้งหยุดอยู่ช้าก็หาไม่
 +
พานางย่างเยื้องคลาไคล  เข้าในเมืองพิจิตรพารา
 +
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง
</tpoem>
</tpoem>
 +
==== ====
==== ====
<tpoem>
<tpoem>

การปรับปรุง เมื่อ 10:05, 1 กันยายน 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

บทประพันธ์

ตอนที่ ๑ นางวิมาลาตามไกรทองมาจากถ้ำ

ช้าปี่
๏ เมื่อนั้นโฉมเจ้าไกรทองพงศา
สมสู่อยู่ด้วยวิมาลาสุขาสำราญบานใจ
ลืมสังเกตเวทมนตร์ที่ร่ำเรียนแต่เวียนนอนนั่งเจ็บหลังไหล่
ลืมสองภรรยาแลข้าไทอิ่มไปด้วยทิพโอชา
ร่วมภิรมย์ชมรสสาวศรีกุมภีล์ผิดอย่างต่างภาษา
อยู่เย็นเป็นสุขทุกเวลาถึงได้เป็นเจ้าพระยาก็ไม่ปาน
ฯ ๖ คำ ฯ
ปีนตลิ่ง
๏ วันเอยวันหนึ่งให้คิดคำนึงถึงบ้าน
แต่กูมาอยู่ก็ช้านานสักกี่วันสารไม่แจ้งใจ
ด้วยคุหาสว่างอยู่อย่างนั้นจะสำคัญวันคืนก็ไม่ได้
แต่คิดคะเนตึกตรึกไตรเห็นจะได้สักเจ็ดวันมา
ป่านนี้น้องสองคนจะบ่นถึงวันนี้จึงสำลักเป้นหนักหนา
ตัวกูหลงอยู่ด้วยกุมภาจะเสื่อมเสียวิชาที่เรียนรู้
อย่าเลยจะขวนนางขึ้นไปเลี้ยงเป็นเมียไว้จะดีอยู่
ให้คืนลือชื่อเราว่าเจ้าชู้จะมีผู้สรรเสริญสืบไป
ฯ ๘ คำ ฯ
ร่าย
๏ คิดพลางทางเรียกวิมาลาเข้ามาแล้วแจ้งเถลงไข
พี่รักนางพ่างเพียงจะกลืนไว้หมายจะไม่จากกันคุ้งวันตาย
แต่จนใจที่จะอยู่ในคูหาเวทมนตร์เรียนมาจะเสื่อมหาย
จำเป็นจำไปใจเสียดายไม่เคยขาดคลาดคลายสักเวลา
ขอเชิญดวงใจไปด้วยพี่เป็นที่สนิทเสน่หา
พี่จะเลี้ยงเจ้าเป็นภรรยาแก้วตาอย่าละห้อยน้อยใจ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นวิมาลานารีศรีใส
ได้ฟังคั่งแค้นขัดใจจึงตอบคำไปด้วยโกรธา
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ แต่เอยแต่เดิมช่างแต้มเติมต่อติดประดิษฐ์ว่า
ล้วนจะรักจะใคร่ให้สัญญามีสับปลับกับข้าหรือหม่อมไกร
สารพัดพูดคล่องเหมือนล่องน้ำจะมีจริงสักคำก็หาไม่
ลืมแล้วหรือขาที่ว่าไว้จะอยู่ด้วยน้องได้ในถ้ำทอง
ถ้อยยำคำมั่นเจ้าพาทีมิให้อายกุมภีล์สิ้นทั้งผอง
ครั้นสมใจได้ชิมลิ้มลองจะทิ้งน้องเสียได้ไม่เอ็นดู
มิหนำซ้ำจะพาเอาขึ้นไปจะให้อัปยศอดสู
จะมาล่อลวงเล่นเหมือนเช่นชู้สุดรู้ที่น้องจะตามไป
ฯ ๘ คำ ฯ
ปีนตลิ่ง
๏ เจ้าเอยเจ้าพี่ไม่พอที่จะพะวงสงสัย
ใช่จะกล่าวแกล้งแสร้งใส่ไคล้สิ่งไรมิจริงไม่เจรจา
พี่เป็นมนุษย์สุดวิสัยจะอยู่ในนทีคูหา
นี่มาได้ด้วยฤทธิ์วิทยาแม้นประมาทไม่ช้าจะบรรลัย
ถ้าอยู่ได้ไม่ร้างห่างห้องจริงจริงนะน้องอย่าสงสัย
จะลดเลี้ยวเบี้ยวบิดตะกูดไปเหมือนเจ้าไม่เมตตาปรานี
น้อยหรือรักเจ้าสักเท่าพ้อมยังไม่ยอมพร้อมใจไปด้วยพี่
จะเฝ้าวอนงอนง้อไปไยมีค่อยอยู่จงดีพี่ขอลา
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ สุดเอยสุดใจน้องไม่เบี่ยงบิดประดิษฐ์ว่า
เจ้าอย่าพะวงสงการตัวข้าได้บอกแต่เดิมที
ว่าฝูงกุมภาสิ้นทั้งผองอยู่ในถ้ำทองเกษมศรี
เดชะด้วยฤทธิ์แก้วมณีกุมภีล์จีงเป็นมนุษย์ไป
มีธุระจะออกไปนอกถ้ำถึงน้ำกลับเพศตามวิสัย
นี่แหละเป็นความจนใจไปได้หรือจะไม่ไปตาม
ข้าก็ได้บอกแล้วแต่หนหลังเจ้าก็ไม่หยุดยั้งฟังห้าม
ก่นแต่เฝ้าเย้ายวนลวนลามมันเป็นความงามหน้าแล้วครานี้
เมื่อผิดอย่างต่างชาติต่างวิสัยจะอยู่ด้วยกันได้ก็ใช่ที่
ไม่ช้าไม่พลันกี่วันมีจะมาหนีน้องไปให้ได้อาย
ฯ ๑๐ คำ ฯ
โอ้โลมนอก
๏ น้องเอยน้องรักเจ้าอย่าพักก้าวเฉียงเบี่ยงบ่าย
เห็นแล้วว่าสมัครรักพี่ชายจึงอุบายบิดเบือนเชือนแช
น้อยหรือนั่นชั้นเชิงมิดชิดป้องปิดมิดเม้นไม่เห็นแผล
แสนงอนอ่อนคอทำท้อแท้เรรวนปรวนแปรไม่ปรองดอง
ถ้าเจ้าจะเอออวยไปด้วยพี่จะเสียทีไม่ถนัดขัดข้อง
เสมือนหนึ่งรักพี่เสียดายน้องถ้ำทองเป็นสุขสนุกสบาย
ด้วยกุมภีล์หนุ่มหนุ่มประชุมพร้อมบริวารแวดล้อมเหลือหลาย
แต่ล้วนรูปนิมิตบิดเบือนกายจึงเสียดายเต็มทีอยู่มิไป
ฯ ๘ คำ ฯ
๏ น้ำเอยน้ำคำเจ็บอกปิ้มป้ำน้ำตาไหล
แม้นมิว่าบ้างเลยจะเคยใจนางจึงตอบคำไปด้วยโกรธา
ฯ ๒ คำ ฯ
๏ เจ้าเอยเจ้าไกรทองขอโทษเถิดใช่นอ้งจะแกล้งว่า
เจ้าอุตส่าห์ประดาน้ำดำลงมาค้นคว้าหาน้องที่ห้องใน
เจ้าก็จุดธูปเทียนเวียนส่องทั่วหม่อมผัวจะงมมาก็หาไม่
ก็ย่อมเห็นย่อมรู้อยู่แก่ใจที่ในชั่วดีวิมาลา
ไม่เห็นหรือหนุ่มหนุ่มในห้องน้องมันออกซ้องเสียนักอย่าพักว่า
ชั่วจริงเจ้าเอ๋ยชาติกุมภาใครเข้ามาก็พลอยพุดสะรุด
ถึงเจ้าก็เป็นคนไม่พ้นชั่วมาเกลือกกลั้วสตรีไม่บริสุทธิ์
เสียชาติญาติวงศ์พงศ์มนุษย์เป็นบุรุษโหดไร้น้ำใจพาล
มางงงวยด้วยหญิงแพศยาจนหน้าตาหมองคล้ำดำด้าน
เจ้าเป็นคนมนตร์เวทเชี่ยวชาญวิชาการมิเสื่อมก็จำคลาย
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ เจ้าเอยเจ้าคารมปากคอพอสมกับเป็นม่าย
แสนรู้ร้อยอย่างช่างอุบายยักย้ายหลายทำนองว่องไว
มิเสียทีที่เป็นเมียชาลวันน้อยหรือนั่นบุญหนักศักดิ์ใหญ่
น่าหัวผัวตายประเดี๋ยวใจไม่ทันไรหรือมาเป็นเช่นนี้
หญิงร้ายแพศยาสามานย์เขาขี้คร้านคบหาให้เสียศรี
เจ้าเอ๋ยแพศยากุมภามีอย่างนี้เจียวสิหว่าจะตราไว้
ถ้ารู้เหตุผลแต่ต้นมาที่จะไว้ชีวาอย่าสงสัย
อันน้ำใจสตรีนี้ไซร้ยากที่จะหยั่งได้ดังจินดา
พระมหาสมุทรสุดลึกซึ้งถ้าจะหยั่งให้ถึงก็ง่ายกว่า
หญิงสามร้อยกลมารยาสุดที่จะศึกษาให้แจ้งใจ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
ร่าย
๏ น่าเอยน่าหัวจริงแล้วคะข้าชั่วหาเถียงไม่
อายแก่ผีสางบ้างเป็นไรนี่ใครใช้ให้เจ้ามาคบค้า
ข้าเจียมตัวกลัวความหนามเสี้ยนมุดเมื้ยนอยู่หานี่ประสีประสา
เมื่อเจ้าซานซนงมงายมามิลืมตาขึ้นดูเสียก่อนเลย
คิดมาก็น่าสมเพชผัวมาพลอยชั่วด้วยข้านิจจาเอ๋ย
เหมือนพระยาราชหงส์เข้าดงเตยจะก้มเงยหนามเหนี่ยวเกี่ยวยับ
ขนข้างหางปีกไม่เหลือหลอเขาคั้นคอสิ้นเสียงใส่เขียงสับ
ไม่พอที่จะกล้าเข้ามารับเอาอาภัพอัปรีย์ใส่ตัว
เท่านั้นเถิดเป็นไรเจ้าไกรทองได้หม่นหมองแปดปนกับคนชั่ว
เสียเดชเวทมนตร์จนมืดมัวเชิญไปชำระตัวเสียเป็นไร
ถึงมิอยู่จะไปก็ให้งามอย่าเอาความอัปรีย์มาใส่ให้
รู้ว่าเจ้าอย่าว่าให้หนักไปอัชฌาอาศัยแต่พอควร
อย่าเพ่อสาวไส้ให้กาทิ้งอื้ออึงลือเลื่องเครื่องคนสรวล
เหนื่อยปากขี้คร้านต้านสำนวนอันกระบวนของเจ้าข้าเข้าใจ
ซึ่งกว่าสามร้อยกลสตรีมากมีเสียเปล่าไม่เอาได้
ไม่เหมือนบุรุษนี้สุดใจว่าไว้สามสินสองกล
ทำโกหกพกลมล่อลวงหึงหวงด่าว่าเหมือนบ้าบ่น
สารพัดตัดพ้อล่อชนเถิดข้าเสียกลเจ้าคนคต
ฯ ๑๘ คำ ฯ
             

๏ น้อยเอยน้อยหรือนางคนซื่อสารพันขยันหมด
ก่นแต่ติเตียนเวียนประชดจริงแล้วคะข้าคดไม่งดงาม
มันจะเหมือนผัวเก่าของเจ้าหรือสุดซื่อแล้วเจ้าเอ๋ยอย่าเย้ยหยาม
แต่ออกชื่อชาลวันก็ครั่นคร้ามสุดคิดจะติดตามให้ต้องใจ
ไหนนั่นความชั่วตัวอัปรีย์ว่าพี่มาปรำซ้ำใส่ให้
เมื่ออื้ออึงไปเองไม่อายใจกลับว่าสาวไส้ให้กาทึ้ง
เจ้าสินสนักสำบัดสำนวนทั้งกระบวนกระบิดติดปั้นปึ่ง
ดังหนองน้ำลำธารอันเซาะซึ้งเป็นที่พึ่งสารพัดไม่ขัดใคร
เลื่องลืออื้ออึงพี่จึงมาหวังจะพาไปชมคารมใหญ่
ให้ฟุ้งเฟื่องทั้งเมืองพิจิตรไว้เขาจะได้ชมรสวาจา
จะชมทั้งกิริยามารยาทเชื้อชาติโฉมนางต่างภาษา
เจ้าจะได้เห็นหัวผัวกุมภาอยู่ที่ศาลเทวาอารักษ์บน
รำลึกถึงเมื่อไรจะไปเยือนก็พอเคลื่อนคลายได้ไม่ขัดสน
ล้วนหนุ่มหนุ่มประชุมชอบกลเขาเคยไปบวงบนบูชา
ฯ ๑๔ คำ ฯ
๏ เจ็บเอยเจ็บใจช่างพิไรเสกสรรรำพันว่า
สารพัดจัดให้วิมาลาสมน้ำหน้าแล้วสิสนัดใจ
อันศาลเจ้าที่หัวผัวเก่าอยู่ข้าไม่รู้แห่งหนตำบลไหน
ทำตีอกยกมือขออภัยเห็นแต่หัวผัวใหม่ที่งมมา
อะไรไม่หยุดหย่อนเฝ้าค่อนแคะนั่นแหละพอสมกับแพศยา
แต่กุมภีล์เท่านั้นไม่คัณนายังซ้ำมนุสสาจึงสมใจ
เขาจะได้เชิดชื่อลือทั่วว่าหญิงชั่วตัวเจ้ามารักใคร่
จะปรากฏยศศักดิ์ของหม่อมไกรสืบไปชั่ววงศ์พงศ์พันธุ์
ถ้าเห็นงามตามแต่จะเมตตาฝ่ายข้าไม่รังเกียจเดียดฉันท์
จะชูราศีหม่อมขึ้นทุกวันเหมือนเอาจันทน์เฉลิมเจิมจุณ
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ ลมเอยลมเติบอย่ากำเริบนักนะมักจะวุ่น
สัญชาติจระเข้เนรคุณทำบุญไม่ขอพบสบใจ
ชะนางตัวขยนกลั่นกล้าราคาสองสลึงหาถึงไม่
ถึงจะเสียมีดหมอก็เสียไปหาด้ามทำใหม่ประเดี๋ยวเดียว
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ น่าเอยน่ากลัวหม่อมผัวโกรธาจนตาเขียว
ส่วนว่าเขานั้นขยันเจียวเขาว่าบ้างเข่นเขี้ยวจะฆ่าตี
เหตุว่าเจ้าดีมีฝีมือเอาเถิดให้เขาลืออึงมี่
เขาจะได้ว่าเจ้าห้าวหาญดีฆ่าฟันสตรีให้บรรลัย
ฯ ๔ คำ ฯ
๏ เหลือเอยเหลืออดยังประชดประชันน่าหมั่นไส้
อย่าพักท้าทายมากมายไปเขาจะเกรงอะไรกับนินทา
หญิงร้ายปากกล้าไม่น่าเลี้ยงคนผู้จะดูเยี่ยงไปภายหน้า
ฉวยชักมีดหมอที่เหน็บมาทำเป็นโกรธาจะฆ่าตี
จะไปไหนเล่าเจ้าคนคมเอาคารมตั้งหน้าแล้วอย่าหนี
น้ำตาคลอตาน่าปรานีชะช่างทำทีให้อ่อนใจ
ฯ ๖ คำ ฯ
๏ ได้เอยได้ฟังยิ่งคั่งแค้นอกหมกไหม้
กระทีบเท้าเกาหัวแล้วว่าไปช่างกระไรไม่คิดเวทนา
เห็นตัวน้องเป็นชาติกุมภีล์ล้วนมีแต่ขู่เข็ญจะเข่นฆ่า
เหน็บแนมเต้มเติมเต็มประดาหยาบช้าลิ้นลมไม่สมตัว
เป็นเคราะห์เพราะหลงด้วยถ้อยคำจึงกระหน่ำซ้ำว่าจนหน้าชั่ว
เจ้าได้ร่วมรักก็เพรากลัวข้าจึงได้มีผัวถึงสองคน
รู้แล้วว่าหม่อมไม่เมตตาจะทิ้งขว้างร้างหย่าไว้กลางหน
เจ้าอย่าพักเคลือบไคล้ใส่กลเห็นว่าจนอยู่ที่จะตามไป
ถึงน้องจะรักใคร่ให้ใจขาดไนจะอาจเอออวยไปด้วยได้
จะเอาทีว่าชวนแล้วมิไปแจ้งใจอยู่แล้วอย่าเจรจา
ว่าพลางนางร่ำร้องไห้น้ำตาไหลโซมซาบอาบหน้า
โอ้แต่นี้ไปนะอกอาจะบ่ายหน้าไปพึ่งผู้ใด
ทั้งนี้เป็นต้นเพราะผลกรรมชักนำทำชั่วมีผัวใหม่
คิดแค้นขึ้นมาไม่ว่ากระไรเข้าหยิกข่วนเจ้าไกรแล้วโศกา
ฯ ๑๔ คำ ฯ โอด
ชาตรี
๏ ยอดเอยยอดมิ่งความจริงพี่ก็รักเจ้าหนักหนา
พี่ขู่หยอกดอกเจ้าอย่าโกรธาไม่ทิ้งขว้างร้างหย่าจะพาไป
ซึ่งกลัวว่าจะกลายเป็นกุมภีล์ไม่อาจออกจากที่ถ้ำได้
พี่จะลงเลขยันต์กันไว้มิให้รูปกลับเป็นกุมภีล์
อย่านิ่งนั่งไถลทำไขหูจะไปหรือจะอยู่ให้รู้ที่
รำคาญขี้คร้านเซ้าซี้เมื่อมิไปแล้วก็แล้วไป
ฯ ๖ คำ ฯ
ร่าย
๏ ได้เอยได้แจ้งมิรู้แห่งจะทำกระไรได้
ทั้งรักทั้งแค้นแน่นใจแค้นใครไม่เท่าเจ้าไกรทอง
คิดถึงความรักก็ชักแชจะใคร่แร่รวยตามไปคล่องคล่อง
แล้วถอยหลังดำริตริตรองเกลือกพวกพ้องลูกเมียของเขามี
คิดพลางทางว่าแก่เจ้าไกรไฮ้อะไรรำคาญหูจู้จี้
เจ้าจะพาน้องไปด้วยนี้ก็ตามทีมิขัดจะไปตาม
แต่เกรงเกลือกเจ้าจอมหม่อมเมียหลวงจะหึงหวงจ้วงจาบหยาบหยาม
จะว่าน้องโฉดเขลาเบาความไม่ไต่ถามตามผัวเขาขึ้นไป
น้องจะได้อัปยศอดสูจะแลดูหน้าคนกระไรได้
จะซ้ำร้ายอายยิ่งกว่าทิ้งไว้เจ้าจงตรึกไตรดูให้ดี
ฯ ๑๐ คำ ฯ
๏ แสนเอยแสนแขนงช่างกล่าวแกล้งบิดเบือนเชือนหนี
ประเดี๋ยวใจไพล่ยักไปอย่างนี้ร้อยสี่ร้อยอย่างช่างว่าไป
เดิมทีทำกระบวนรวนเรกลัจะเป็นจระเข้ไม่ไปได้
พี่รับจะลงยันต์กันไว้มิให้กลับเพศเป็นกุมภา
ก็ขัดสนจนอยู่ที่ข้อนั้นกลับหันว่าลูกเมียจะด่าว่า
นี่หรือว่ารักแกล้งชักช้าแต่แย้มมาก็เห็นว่าล่อลวง
ลูกเมียของพี่ก็มีอยู่แต่เขาไม่รู้หึงหวง
พี่จะปราบปรามความทั้งปวงมิให้จาบจ้วงล่วงเกินน้อง
อย่าสงสัยว่าจะได้เคืองระคายอับอายเพื่อนบ้านร้านช่อง
ถ้าสมัครรักจริงจงปรองดองเร่งแต่งตัวเถิดน้องจะด่วนไป
ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา
๏ เมื่อนั้นวิมาลานารีศรีใส
ความรักกลัดกลุ้มคลุ้มใจกลัวเจ้าไกรทองจะหมองมัว
ฯ ๒ คำ ฯ
โอ้ร่าย
๏ จึงลุกเข้าไปในห้องจัดแจงสิ่งของจะตามผัว
ผ้าผ่อนเงินทองของแต่งตัวแหวนหัวแหวนมณฑปครบครัน
แล้วเลือกของรักใคร่ใส่กระทายมากมายสารพัดจัดสรร
พลางพิศดูห้องแก้วแพรวพรรณเตียงสุวรรณเคยนอนแต่ก่อนมา
เสียดายของต่างต่างอย่างดีเสียดายดวงมณีในคูหา
มีคุณแก่ฝูงกุมภาจะปรารถนาสิ่งใดก็สมคิด
ให้อิ่มไปด้วยทิพอาหารไม่มีความรำคาญแต่สักหนิด
โอ้แต่นี้ไปจะมืดมิดเร่งคิดสร้อยเศร้าโศกา
ฯ ๘ คำ ฯ โอด
สามเส้า
๏ เมื่อนั้นโฉมเจ้าไกรทองพงศา
ค่อยย่องตามนางวิมาลาเข้ามายังที่ห้องใน
เห็นนางโศกศัลย์เศร้าหมองเป็นห่วงด้วยข้างของไม่ไปได้
จึงร่ายเทพรำจวนป่วนใจเป่าไปให้ต้องนางกุมภีล์
แล้วแกล้งแสร้งว่านี่แน่น้องเจ้าสิยังขัดข้องหมองศรี
เป็นห่วงบ่วงใยอยู่เต็มทีจะมิไปด้วยพี่ก็ตามใจ
เจ้าค่อยอยู่จงดีพี่ขอลาจะคอยท่าช้านักนั้นไม่ได้
ว่าพลางทางเดินออกไปทำนองลองใจวิมาลา
ฯ ๘ คำ ฯ
ร่าย
๏ เมื่อนั้นวิมาลาโศกศัลย์หนักหนา
ต้องเทพรำจวนป่วนวิญญาณ์ให้แสนเสน่หาเป็นสุดคิด
ซึ่งอาลัยในของทั้งหลายไม่มีความเสียดายแต่สักหนิด
นึกแต่จะภิรมย์ชมชิดนางจึงลุกติดตามไป
ฉวยฉุดชายผ้าเจ้าไกรทองจะทิ้งน้องเสียแล้วหรือไฉน
น้องได้ว่าหรือจะมิไปจึงมาตัดอาลัยไคลคลา
พ่อเจ้าไปไหนจะไปด้วยถึงชีวิตจะม้วยก็ไม่ว่า
ว่าพลางนางจูงมือมาคืนเข้าคูหาห้องทอง
เมียจัดไว้สำเร็จเสร็จสรรพสินทรัพย์สารพันข้าวของ
อีกทั้งแก้วแหวนเงินทองเจ้าจงท่าน้องบัดเดี๋ยวใจ
จะอาบน้ำทาแป้งแต่งตัวหวีหัวผัดหน้านุ่งผ้าใหม่
ว่าแล้วกลับคืนเข้าห้องในลูบไล้กระแจะแป้งแต่งกายา
ฯ ๑๒ คำ ฯ
๏ เมื่อนั้นโฉมเจ้าไกรทองพงศา
เปรมปริ่มยิ้มย่องต้องวิญญาณ์ด้วยนางวิมาลาจะคลาไคล
ครั้นเห็นนางแต่งตัวสรรพเสร็จจึงถอดแหวนเพชรที่นิ้วใส่
เสกด้วยวิทยาเรืองชัยเอาใส่ในมวยผมกัลยา
แล้วลงยันต์เลขเสกซ้ำปิดประจำท่ามกลางเกศา
มิให้นวลนางวิมาลากลับคืนกายาเป็นกุมภีล์
แล้วจุดเทียนระเบิดเลิศล้ำออกจากถ้ำนำนางสาวศรี
มาตามเปลวปล่องช่องนทีวารีแหวกกว้างเป็นทางไป
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด
๏ ขึ้นจากฟากฝั่งมหาสมุทรจะยั้งหยุดอยู่ช้าก็หาไม่
พานางย่างเยื้องคลาไคลเข้าในเมืองพิจิตรพารา
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง
             

             

             

             

             

เชิงอรรถ

ที่มา

บทละครนอกเรื่องไกรทอง สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๔๐

เครื่องมือส่วนตัว