บทละครนà¸à¸à¹€à¸£à¸·à¹ˆà¸à¸‡à¹„ชยเชษà¸à¹Œ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→ตอนที่ ๑ นางสุวิญชาถูกขับไล่) |
(→ตอนที่ ๒ พระไชยเชษฐ์ตามนางสุวิญชา) |
||
| แถว 707: | แถว 707: | ||
===ตอนที่ ๒ พระไชยเชษฐ์ตามนางสุวิญชา=== | ===ตอนที่ ๒ พระไชยเชษฐ์ตามนางสุวิญชา=== | ||
| + | ==== ==== | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น ฝ่ายท้าวธรรมึกเป็นใหญ่ | ||
| + | แต่ละห้อยคอยหาพระดนัย มิได้เป็นสุขสักเวลา | ||
| + | จึงตรัสกับมเหสีพี่ทุกข์นัก ลูกรักของเรานี้ไปป่า | ||
| + | จะคล้องช้างอยู่กลางพนาวา หรือกลับมายังไม่ถึงธานี | ||
| + | สงสารสุวิญชาทรงครรภ์ จะเป็นฉันใดอยู่ไม่รู้ที่ | ||
| + | จำจะไปเยี่ยมเยือนเทวี ให้แจ้งเหตุร้ายดีประการใด | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ จึงชวนพระมเหสีบังอร บทจรจากแท่นที่อาศัย | ||
| + | สองกษัตริย์ลีลาคลาไคล เสด็จไปปราสาทพระโอรส | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงแลดูประตูปิด ประหลาดจิตเงียบเชียบไปไหนหมด | ||
| + | พระดำเนินเดินเที่ยวเลี้ยวลด รอบปราสาทโอรสด้วยสงกา | ||
| + | จึงร้องเรียกสุวิญชานารี ชนนีบิตุรงค์ลงมาหา | ||
| + | หลับไปหรือไรไม่พูดจา แก้วตาเปิดรับพ่อฉับไว | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ทอดถอนใจใหญ่ | ||
| + | แว่วเสียงพระชนกก็ตกใจ พรั่นตัวกลัวภัยเป็นสุดคิด | ||
| + | ด้วยขับไล่สุวิญชาบังอร ไม่ทูลก่อนทำตามอำเภอจิต | ||
| + | กลัวความทั้งนี้จะมิมิด ทรงฤทธิ์อ้นอั้นตันใจ | ||
| + | จึงค่อยย่องมามองเมียงดู เปิดประตูมิใคร่จะออกได้ | ||
| + | จำเป็นก็จำออกไป บังคมไหว้ทั้งสองกษัตรา | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระบิตุรงค์เห็นองค์โอรสา | ||
| + | สะกิดบอกมเหสีโสภา หน้าตาลูกเราเศร้าโศกไป | ||
| + | ดูท่วงทีกิริยาไม่สบาย ดีร้ายชะรอยจะเจ็บไข้ | ||
| + | จึงตรัสถามไปพลันทันใด เจ้ามาถึงเมื่อไรนะลูกยา | ||
| + | ซึ่งว่าช้างเผือกพลายพัง ได้พบมั่งหรือไม่ที่ในป่า | ||
| + | จริงเหมือนหนังสือเขาถือมา หรือว่าเหตุผลประการใด | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ทูลแจ้งแถลงไข | ||
| + | ลูกอุตส่าห์จัดแจงเสียแรงไป เชือกบาศเชือกใช้ก็เตรียมครบ | ||
| + | หมายใจว่าจะได้ช้างสำคัญ ดันดั้นในป่าเที่ยวหาจบ | ||
| + | ชั้นแต่รอยเท้าก็ไม่พบ พอครบเจ็ดวันก็รีบมา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น สองกษัตริย์สุริย์วงศ์นาถา | ||
| + | จึงตรัสแก่องค์พระลูกยา สงสารสุวิญชาทรามวัย | ||
| + | นางไกลชนนีบิตุรงค์ เจ้าจงเอาใจดูหูใส่ | ||
| + | จะคลอดลูกคลอดเต้าไม่เข้าใจ ให้นอนฟืนนอนไฟอย่าใจเบา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์บังคมก้มเกล้า | ||
| + | คิดเสียดายสุวิญชานงเยาว์ จึงทูลเล่าเนื้อความตามกิจจา | ||
| + | ลูกไปป่ามาถึงไม่ทันนั่ง เห็นท่อนไม้มาตั้งอยู่ตรงหน้า | ||
| + | เจ็ดนางว่าลูกสุวิญชา เกิดมาเป็นกลีไม่ดีจริง | ||
| + | สองพระองค์จงโปรดปรานี ลูกนี้อับอายชายหญิง | ||
| + | เขาว่าขานมีพยานอ้างอิง พิเคราะห์ความจริงข้างสุริยา | ||
| + | ให้เคืองขัดอัดอั้นตันจิต สุดคิดที่จะงดอดโทษา | ||
| + | จึงขับไล่นางไปกับวิฬาร์ ออกนอกทวาราแต่คืนนี้ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระบิตุรงค์ธิราชเรืองศรี | ||
| + | ได้ฟังคั่งแค้นแสนทวี จึงว่าแก่มเหสีทรามวัย | ||
| + | ดูดู๋ไชยเชษฐ์ทะนงศักดิ์ ฮึกฮักไม่บอกเล่าเราผู้ใหญ่ | ||
| + | ที่ไหนมั่งลูกคนเป็นท่อนไม้ ผิดเพศวิสัยในแผ่นดิน | ||
| + | เราก็ได้มีเมียมาเสียหนัก จนฟันหักหัวหงอกไปหมดสิ้น | ||
| + | เกิดมาแก่จะตายพึ่งได้ยิน ช่างเชื่อลิ้นหลงกลคนมารยา | ||
| + | ชิชะขอบใจไชยเชษฐ์ ฤทธิ์เดชสุงสิงหยิ่งนักหนา | ||
| + | ทำตามลำพังอหังการ์ ไม่เกรงศักดาพระยามาร | ||
| + | ว่าแล้วสั่งสี่พี่เลี้ยงพลัน จงเกณฑ์กันพลเรือนแลทหาร | ||
| + | ไปติดตามสุวิญชานงคราญ เที่ยวค้นดูทุกบ้านแลดงดอน | ||
| + | แม้นประสบพบนางเทวี ว่าเรานี้ให้คืนเข้ามาก่อน | ||
| + | จะถามดูให้รู้โทษกรณ์ อ้อนวอนว่ากล่าวทั้งวิฬาร์ | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศา | ||
| + | ต่างถวายบังคมแล้วไคลคลา ออกมาบอกเวรเกณฑ์กัน | ||
| + | เรียกหาบ่าวไพร่วุ่นวาย จัดแจงแต่งกายขมีขมัน | ||
| + | ครั้นเสร็จก็รีบจรจรัล แยกกันไปตามมรคา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ออกนอกพารามาถึง ทางหนึ่งจะเข้าประตูป่า | ||
| + | เที่ยวดูสำคัญสัญญา ก็พบรอยวิฬาร์จำปาทอง | ||
| + | ทั้งสี่ยินดีปรีดา หัวเราะร่ากระหยิ่มยิ้มย่อง | ||
| + | ให้บ่าวสนิทติดพี่น้อง เป็นนายกองเก็บดอกจำปาไป | ||
| + | แล้วรีบตามทรามวัยจะให้ทัน ดันดั้นเดินมาในป่าใหญ่ | ||
| + | สักครู่หนึ่งก็ถึงต้นไทร แลไปเห็นหีบก็สงกา | ||
| + | ต่างวุ่นวิ่งชิงกันเข้าเพ่งพิศ ประหลาดจิตเปิดดูเห็นภูษา | ||
| + | จำปาทองตกกลาดดาษดา พี่เลี้ยงพูดจาหารือกัน | ||
| + | แล้วแยกย้ายเดินไปด้อมมอง เที่ยวท่องตามไปในไพรสัณฑ์ | ||
| + | บ้างระวังนั่งเฝ้าของสำคัญ บ้างชวนกันขึ้นบนต้นไม้ดู | ||
| + | บ้างเที่ยวไปพบรอยอัสดร ซอกซอนเที่ยวหาเป็นหมู่หมู่ | ||
| + | ไม่ประสบพบนางโฉมตรู ต่างกู่บ่าวไพร่มาพร้อมกัน | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ จงปรึกษาหารือกันทั้งสี่ เรานี้จำจะรีบผายผัน | ||
| + | ไปทูลความตามได้ของสำคัญ ทรงธรรม์จะโปรดประการใด | ||
| + | ครั้นจะเที่ยวหาองค์นงลักษณ์ ไม่ประจักษ์ว่าไปตำบลไหน | ||
| + | ว่าแล้วพากันคลาไคล บ่าวไพร่แบกหีบรีบตามมา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงตรงเข้าไปเฝ้า ก้มเกล้าบังคมเหนือเกศา | ||
| + | แล้วกราบทูลความตามกิจจา เดิมข้าไปถึงชายไพร | ||
| + | พบรอยเท้าแมวเป็นแถวถ้อง ดอกจำปาทองก็ใหม่ใหม่ | ||
| + | จึงตามรอยดำเนินเดินไป ถึงต้นไทรได้หีบกับผ้านี้ | ||
| + | ทั้งจำปาทองก็กองกลาด ผิดประหลาดไม่พบนางโฉมศรี | ||
| + | ข้าเที่ยวดูในดงพงพี พบแต่รอยพาชีรอยรถ | ||
| + | ครั้นดั้นดันค้นหาต่อไป รอยรถมโนมัยก็หายหมด | ||
| + | สุดที่จะเที่ยวเลี้ยวลด พระทรงยศจงทราบฝ่าธุลี | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวธรรมึกเรืองศรี | ||
| + | เห็นหีบกับสไบของเทวี ภูมีสงสัยในวิญญาณ์ | ||
| + | จึงตรัสแก่มเหสีทรามวัย พิเคราะห์ไปสมสิ้นดังเราว่า | ||
| + | เจ้าจะเห็นอย่างไรให้ว่ามา อันนางสุวิญชานงเยาว์ | ||
| + | อีเหล่านี้ริษยาสาธารณ์ เอาท่อนไม้ใส่พานว่าลูกเขา | ||
| + | เฝ้าตะบอยบอกผัวยั่วเย้า อนิจจาลูกเราช่างเบาความ | ||
| + | ถึงจะเป็นกาลีดีชั่ว เมียของตัวเป็นไรไม่ไต่ถาม | ||
| + | ผิดชอบก็ไม่รู้วู่วาม ขับไล่เล่นตามสบายใจ | ||
| + | นี่แน่ไชยเชษฐ์ลูกเอ๋ย กระไรเลยงวยงงหลงใหล | ||
| + | จงพินิจพิศดูผ้าสไบ เห็นเจ้าจะจำได้ดอกกระมัง | ||
| + | อันหีบใหญ่ใบนี้อยู่กลางดง มันคงจะใส่เอาไปฝัง | ||
| + | แต่จนใจว่าไปก็อำปลัง จะคอยฟังถ้อยคำสุวิญชา | ||
| + | เออสิ่งของร่องรอยก็พบสิ้น จะแทรกดินบินไปไหนหนักหนา | ||
| + | อ้ายทั้งสี่พี่เลี้ยงมึงกลับมา มุสาเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | ||
| + | เสียแรงกู้ไว้เนื้อเชื่อใจ ช่างนิ่งได้มุดหัวอยู่กับบ้าน | ||
| + | ชอบแต่เฆี่ยนให้หลังเป็นทาลาน การงานหนักเบาไม่เข้าใจ | ||
| + | ฯ ๑๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น นางแก้วสัจจาอัชฌาสัย | ||
| + | เคืองแค้นลูกยาแล้วว่าไป นั่งดูอยู่ไยไม่พาที | ||
| + | ของนี้จำได้หรือไม่เล่า ลูกเต้าอะไรที่ไหนนี่ | ||
| + | พลอยเฟือนเปื้อนปนเจ้าคนดี ช่างไม่มีความคิดสักนิดเดียว | ||
| + | เชื่อลิ้นหลงกลคนโกหก มีแต่พกโมโหฉุนเฉียว | ||
| + | ใจคอพอดีกระนี้เจียว จะบอกแม่คำเดียวไม่น้อยใจ | ||
| + | นิจจาเอ๋ยสุวิญชาบังอร จะซอกซอนไปตำบลหนไหน | ||
| + | จะอดอยากลำบากประการใด ว่าพลางอรไทก็โศกี | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ โอด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์สุริย์วงศ์เรืองศรี | ||
| + | เห็นองค์สมเด็จพระชนนี โศกีรำพันว่าไป | ||
| + | คิดถึงเมียเสียใจอาลัยนัก พระเมินพักตร์ผินผันกลั้นร้องไห้ | ||
| + | พลางหยิบดอกจำปาผ้าสไบ ภูวไนยแลเล็งเพ่งพิศ | ||
| + | แล้วทูลสองพระองค์ทรงเดช จงโปรดเกศเกศีลูกนี้ผิด | ||
| + | เพราะโมโหหุนหันไม่ทันคิด อกุศลดลจิตให้เป็นไป | ||
| + | หากสี่พี่เลี้ยงเข้ากั้นกาง ขอโทษนางอ้อนวอนเป็นไหนไหน | ||
| + | จึงมิได้ฆ่าฟันให้บรรลัย ขับไล่เสียจากพารา | ||
| + | เดชะบุญจางตลอดรอดฝั่ง อีคนชังคนคิดริษยา | ||
| + | จะเสี่ยงสับแล่เนื้อเอาเกลือทา แก้แค้นแสนสาแก่ใจมัน | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวธรรมึกนึกหุนหัน | ||
| + | จึงตรัสว่าไม่เห็นถึงเช่นนั้น น้อยหรือให้ฆ่าฟันกัลยา | ||
| + | นี่หากอ้ายทั้งสี่พี่เลี้ยง มันว่ากล่าวบ่ายเบี่ยงเป็นหนักหนา | ||
| + | ยังขับไล่เสียจากพารา งามหน้าแล้วคราวนี้ดีแท้ | ||
| + | จะพูดไปเหนื่อยเปล่าไม่เข้าข้อ ถึงเป็นพ่อก็ทำไมกับคนแก่ | ||
| + | นับวันแต่จะเฟือนเชือนแช ไม่รู้คุ้งรู้แควประตูไร | ||
| + | แต่คิดมาหรือหนึ่งจะต้องว่า จะพลอยพาความผิดถึงผู้ใหญ่ | ||
| + | หยาบหยามทำตามอำเภอใจ ยิ่งกว่าข้าสินไถ่ที่ได้มา | ||
| + | ถ้านางไปทูลท้าวกล่าวโทษ จะกริ้วโกรธขัดแค้นแสนสา | ||
| + | ก็จะยกพวกพลอสุรา รีบมาเคี้ยวกันสิ้นทั้งเมือง | ||
| + | จงเร่งคิดติดตามทรามวัย ไปแก้ไขทูลความตามเรื่อง | ||
| + | ชี้แจงบรรยายให้หายเคือง เร่งออกจากเมืองในวันนี้ | ||
| + | ว่าพลางชวนนางแก้วสัจจา ลีลาลงจากปราสาทศรี | ||
| + | พร้อมสนมกำนัลขันที ภูมีเสด็จคลาไคล | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์รัศมีศรีใส | ||
| + | ครวญคร่ำกำสรดระทดใจ อยู่ในแท่นที่ศรีไสยา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>พญาโศก</sup> | ||
| + | ๏ ทอดองค์ลงนอนเหนืออาสน์ กรก่ายพระนลาฏละห้อยหา | ||
| + | คิดคะนึงถึงโฉมสุวิญชา ให้มีความเมตตาอาลัยนัก | ||
| + | แต่เจ้าพลัดพรากจากบุรี พี่นี้วิตกเพียงอกหัก | ||
| + | จากเมียเสียทั้งพระลูกรัก ทรงศักดิ์รัญจวนครวญคราง | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>โอ้</sup> | ||
| + | ๏ โอ้ว่าสุวิญชาของผัวเอ๋ย บาปสิ่งไรเลยเราเคยสร้าง | ||
| + | บันดาลดลให้มีอีเจ็ดนาง มันเกิดมาตามล้างในชาตินี้ | ||
| + | จึงเผอิญให้ผัวมัวนิยม สมาคมคบพวกเดียรถีย์ | ||
| + | ไม่รู้กลคนกาลกิณี จึงเสียมิ่งมารศรีน่าน้อยใจ | ||
| + | สงสารปานนี้นางโฉมตรู จะไปอยู่แห่งหนตำบลไหน | ||
| + | หรือจะตายวายวางเสียกลางไพร หรือจะไปได้ถึงพระบิดร | ||
| + | ยิ่งคิดยิ่งแค้นแสนเทวษ ชลเนตรซึมซาบอาบหมอน | ||
| + | พระโศกศัลย์กันแสงถึงบังอร แน่นอนสะอื้นไห้ไปมา | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ โอด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น นางศรีสุริยาเสน่หา | ||
| + | เห็นพระโฉมยงทรงโศกา สะอื้นถึงสุวิญชาก็พรั่นใจ | ||
| + | จึงเรียกนางอุบลวดี ครั้นนี้เราจะคิดเป็นไฉน | ||
| + | หยูกยาอาคมที่ทำไว้ ก็เสื่อมคลายหายไปทุกเวลา | ||
| + | พระรื้อครวญคร่ำรำพึง คิดถึงสุวิญชาเป็นหนักหนา | ||
| + | แม้นตามไปได้ตัวกลับมา เบื้องหน้าก็จะเกิดวุ่นวาย | ||
| + | จำเราจะพากันขึ้นไป เยาะเย้ยไยไพพระโฉมฉาย | ||
| + | ให้เธออัปยศอดอาย แล้วเดินกรายตรงไปไม่รั้งรอ | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>เย้ย</sup> | ||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงเข้าผลักไส ทุกข์ร้อนถึงใครกระนี้หนอ | ||
| + | เฝ้าครวญคร่ำน้ำเนตรยังคลอคลอ เห็นต่อจะรำลึกถึงเมียรัก | ||
| + | นางสุวิญชาเป็นกาลี เผอิญมีลูกอ่อนเป็นท่อนสัก | ||
| + | ยังอาลัยในหญิงทรลักษณ์ ไม่อายพักตร์นักสนมกรมใน | ||
| + | เขาจะว่าพระองค์หลงเมีย ขับไล่ไปเสียแล้วร้องไห้ | ||
| + | นางอื่นหมื่นแสนแน่นไป มิใช่สตรีมีจำเพาะ | ||
| + | ไม่เหมือนนางหน้านวลไม่ควรคู่ แต่เจ้าสุวิญชาจะพาเหาะ | ||
| + | เดี๋ยวนี้พรากจากท้าวเป็นคราวเคราะห์ ไปสืบเสาะตามหาเอามาซิ | ||
| + | รักเมียสุดอย่างห่างไม่รอด เป็นไรไม่กอดกันไว้สิ | ||
| + | ขับเสียจากวังแล้วนั่งมิ สิ้นสติมึนตึงตะลึงตะไล | ||
| + | สมเพชเวทนาน่าหัวร่อ ทุกข์ร้อนงอนหง่อเหมือนจับไข้ | ||
| + | รู้กระนี้ขับเมียเสียทำไม แล้วจะมาอาลัยเมื่อปลายมือ | ||
| + | น้ำลายคายถ่มลงถึงดิน จะกลับคืนกลืนกินไม่เกลียดหรือ | ||
| + | ไพร่บ้านพลเมืองจะเลืองลือ อึงอื้อไปทั่วทั้งเหมันต์ | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
| + | ==== ==== | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์เคืองแค้นแสนศัลย์ | ||
| + | งุ่นง่านดาลเดือดดุดัน ขบฟันเกรี้ยวกราดตวาดไป | ||
| + | เหม่อีขี้ข้าหน้าเป็น มาเยาะเย้ยกูเล่นหรือไฉน | ||
| + | กูขับเมียกูเสียก็เพราะใคร พวกมึงหรือมิใช่มายุยง | ||
| + | มึงอย่าพักชมชื่นรื่นรวย ชีวิตมึงจะม้วยเป็นผุยผง | ||
| + | แม้นตามไปได้สมดังใจจง จะปลดปลงทั้งโคตรอีเจ็ดคน | ||
| + | วันนั้นเสียความไม่ถามไถ่ กูหลงเชื่ออีใจอกุศล | ||
| + | ไม่ทันคิดพิเคราะห์ดูเล่ห์กล บันดาลดลจิตใจให้ขับน้อง | ||
| + | มึงทั้งเจ็ดคนอีชาติข้า เห็นกูไปมาก็จองหอง | ||
| + | ทำแก่เนื้อแก่ตัวหนังหัวพอง เหมือนกิ้งก่าได้ทองผูกคอไว้ | ||
| + | กูได้หีบมาเป็นสำคัญ จะได้เล่นเห็นกันให้จงได้ | ||
| + | ช่างพันผูกว่าลูกเป็นท่อนไม้ นั่นเล่ห์กลของใครอีมารยา | ||
| + | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น นางอุบลวดีเสน่หา | ||
| + | เคืองค้อนย้อนตอบพระวาจา ถึงหีบหีบได้มาไม่ตกใจ | ||
| + | ใครยั่งยืนว่าข้าทำร้าย อันจะคิดตัวตายอย่าสงสัย | ||
| + | ถึงจะดำน้ำลุยไฟ ไม่ย่อท้อต่อใครอย่าสงกา | ||
| + | สิได้หีบมาเห็นเป็นสำคัญ ก็เชิญไปตามกันที่ในป่า | ||
| + | เกลือกว่าจะพบพระลูกยา จะได้พามาให้พร้อมพรัก | ||
| + | ข้านี้ขี้ข้าอยู่ในเรือน มันไม่เหมือนหม่อมแม่เจ้าท่อนสัก | ||
| + | แต่ขับไล่ไปแล้วยังร่ำรัก จนพระพักตร์ดูดำดังหมึกทา | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์เคืองแค้นแสนสา | ||
| + | ดูดู๋ลิ้นลมเจรจา ต่อล้อเล่นหน้าคารมดี | ||
| + | อุตส่าห์เร่งขึ้นเสียงเถียงให้อึง หัวมึงจะขาดอยู่ที่นี่ | ||
| + | พระกริ้วโกรธนักดังอัคคี เหม่อีกาลีมึงเย้ยใคร | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ศัพท์ไทย</sup> | ||
| + | ๏ ว่าเอยว่าแล้ว ฉวยพระขรรค์แก้วเลี้ยวไล่ | ||
| + | ทุดอีจัญไร วิ่งไปไยนา | ||
| + | ปากกล้าสาหัส กูจะตัดเกศา | ||
| + | อีเจ้ามายา ขี้ข้าอาธรรม์ | ||
| + | พระยิ่งโกรธเกรี้ยว ไล่เลี้ยวห้ำหั่น | ||
| + | กระชิดติดพัน ฟาดฟันวุ่นไป | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>รื้อ</sup> | ||
| + | ๏ เจ็ดเอยเจ็ดนาง เถียงพลางวิ่งพลางไม่เข้าใกล้ | ||
| + | เขาว่าถูกใจ ออกไล่ฆ่าฟัน | ||
| + | คลั่งถึงเมียรัก ฮึกฮักหุนหัน | ||
| + | ว่าพลางพากัน พัลวันวิ่งไป | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>รื้อ</sup> | ||
| + | ๏ อีเอยอีเจ็ดคน ยังขึ้นเสียงเถียงลนทะเลาะได้ | ||
| + | กล้าดีหนีไย อีใจฉกรรจ์ | ||
| + | หัวมึงจะพับ ลงกับพระขรรค์ | ||
| + | ว่าพลางทรงธรรม์ ไล่ฟันกัลยา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ ครั้นเห็นเจ็ดนางหนีไป คั่งแค้นพระทัยเป็นหนักหนา | ||
| + | หวนรำลึกถึงสุวิญชา เสด็จมายังพระโรงรูจี | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ลดองค์ลงนั่งเหนืออาสน์ ประภาษสั่งพี่เลี้ยงทั้งสี่ | ||
| + | ให้ผูกม้าเตรียมพลมนตรี พรุ่งนี้น้องจะไปไพรวัน | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พระพี่เลี้ยงรับสั่งแล้วผายผัน | ||
| + | มาจัดพลผูกม้าเครื่องสุวรรณ เตรียมท่าทรงธรรม์ที่เกยลา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ลือเดชทุกทิศา | ||
| + | ครั้นสว่างสร่างแสงพระสุริยา เสด็จมาสระสรงสาคร | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ทรงเครื่องประดับสรรพเสร็จ ขัดพระขรรค์ใจเพชรสะพักศร | ||
| + | แล้วลีลามาทรงอัศดร ให้เลิกพลนิกรไคลคลา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ชมดง</sup> | ||
| + | ๏ พระเสด็จเข้าในไพรไพฤกษ์ คะนึงนึกถึงเจ้ายอดเสน่หา | ||
| + | พลางชมรุกขชาติดาษดา บ้างทรงผลผกาอรชร | ||
| + | หอมหวนอวลอบมารวยริน กลั้วกลิ่นเหมือนกลิ่นดวงสมร | ||
| + | พระผันแปรแลเห็นทิชากร บ้างบินร่อนเรียกคู่บ้างจับคอย | ||
| + | เบญจวรรณจับวัลย์พ้นอุโลก ถวิลวันวิโยคที่โศกสร้อย | ||
| + | กระลิงจับไม้กระลิงลอย เหมือนขับไล่สาวน้อยให้คลาดแคล้ว | ||
| + | นกหว้าจับไม้ขานางนอน เหมือนน้องวอนว่าพี่อยู่แจ้วแจ้ว | ||
| + | นกกระเต็นเต้นไต่ต้นช้องแมว เหมือนน้องแก้วไต่เต้าตามวิฬาร์ | ||
| + | ชมพลางทางคะนึงถึงเมียรัก พระทรงศักดิ์เศร้าสร้อยละห้อยหา | ||
| + | ไม่แลดูหมู่ไม้สกุณา รีบเร่งอาชาจรลี | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ตะนาว</sup> | ||
| + | ๏ เดินพลางทางเห็นจำปาทอง เรี่ยรายก่ายกองตามวิถี | ||
| + | ทั้งรอยแมวขุดคุ้ยปัถพี จึงบอกสี่พี่เลี้ยงมิได้ช้า | ||
| + | อันนวลนางมาทางสิงหลได้ น้องนี้ดีใจเป็นหนักหนา | ||
| + | ชะรอยเจ้าเศร้าโศกไคลคลา ดอกจำปาจึงตกตามทางไป | ||
| + | แล้วสั่งบรรดาพวกพล ให้ดั้นด้นค้นคว้าในป่าใหญ่ | ||
| + | สั่งพลางทางขับมโนมัย ตามรอยดอกไม้ไปดู | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร้องเชิดฉิ่ง</sup> | ||
| + | ๏ เห็นจอมปลวกตอไม้หมายว่าน้อง พระก้มองค์ลงมองอยู่เป็นครู่ | ||
| + | ครั้นแลไปมิใช่นางโฉมตรู ให้คิดอายอดสูในพระทัย | ||
| + | เห็นเงาไวไวอยู่ในรก รื้อขับม้าหกมาดูใหม่ | ||
| + | เข้าใกล้มิใช่นางทรามวัย ชลนัยน์ไหลหลั่งลงหลังม้า | ||
| + | ได้ยินเสียงดุเหว่าเร่าร้อง เอ๊ะเสียงน้องโน่นแล้วกระมังหนา | ||
| + | ฟังไปมิใช่เสียงสุวิญชา พระทรงโศกาแล้วคลาไคล | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ ครั้นถึงปลายแดนเมืองสิงหล ให้พักพลหยุดอยู่ในป่าใหญ่ | ||
| + | พระตรัสแก่พี่เลี้ยงทันใด เราจะตั้งแรมไรอยู่ที่นี้ | ||
| + | จะได้ซับซาบดูให้รู้ข่าว ว่านางมาถึงท้าวยักษี | ||
| + | หรือเวียนวนหลงอยู่พนาลี จะได้ยกโยธีไปเที่ยวค้น | ||
| + | พี่ออกไปบอกเสนา ให้ตั้งพลับพลาพนาสณฑ์ | ||
| + | อย่าเกรียวกราวป่าวร้องจงทุกคน รู้ถึงสิงหลจะวุ่นวาย | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พระพี่เลี้ยงรับสั่งแล้วผันผาย | ||
| + | จึงเรียกหาบรรดาตัวนาย แล้วบรรยายสั่งความตามบัญชา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เสนาตำรวจในซ้ายขวา | ||
| + | ให้บ่าวไพร่ตัดไม้เกี่ยวคา มาปลูกพลับพลาฉับพลัน | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์พระไชยเชษฐ์เฉิดฉัน | ||
| + | พอพระสุริยาสายัณห์ จรจรัลขึ้นสู่พลับพลาชัย | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ลดองค์ลงนั่นเหนืออาสน์ จะดำรัสตรัสประภาษก็หาไม่ | ||
| + | ให้คิดรำพึงคะนึงใน ถึงนางทรามวัยสุวิญชา | ||
| + | ครั้นเพลาพลบค่ำย่ำฆ้อง เสียงนกหกร้องก้องป่า | ||
| + | จึงเสด็จเข้าในที่ไสยา เอนองค์ลงนิทราไม่มีสบาย | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ ตระ ประทมไพร | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้าปี่</sup> | ||
| + | ๏ พระแน่นอนถอนทอดใจใหญ่ คิดใคร่ครวญไปฤทัยหาย | ||
| + | กูขับเมียเสียรู้อีแสนร้าย มันอุบายพูดพ้อล่อลวง | ||
| + | พอฉุกจิตคิดกลับสิขับแล้ว ดังดวงแก้วตกลงชเลหลวง | ||
| + | น้อยใจเจ็บช้ำระกำทรวง มันแกล้งเด็ดเอาดวงชีวิตไป | ||
| + | แต่จากมิ่งเมียขวัญจนวันนี้ ผัวจะมีความสุขก็หาไม่ | ||
| + | เจ้าคิดถึงพี่บ้างหรืออย่างไร หรือจะแค้นเคืองใจไม่ไยดี | ||
| + | นิจจาเอ๋ยป่านนี้สุวิญชา จะอยู่ป่าหรือจะอยู่ในกรุงศรี | ||
| + | พระรัญจวนครวญหาในราตรี จนม่อยหลับไปกับที่ไสยา | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ช้า</sup> | ||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| + | อยู่ในสิงหลพารา จนชันษาอายุได้เจ็ดปี | ||
| + | รูปทรงละม่อมพร้อมพริ้ง งามยิ่งเทวาในราศี | ||
| + | เสวยรมย์สมบัติสวัสดี กับพระชนนีโฉมตรู | ||
| + | เมื่อวันจะพบพระบิตุเรศ ให้บังเหตุโอรสคิดอดสู | ||
| + | น่าเจ็บใจใครหนอเป็นพ่อกู จึงถามมารดาดูทันใด | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <sup>ร่าย</sup> | ||
| + | ๏ อันพระบิตุเรศของลูกรัก ไม่รู้จักรูปทรงว่าองค์ไหน | ||
| + | เห็นแต่แม่ผู้เดียวเปลี่ยวใจ กับท้าวไทอัยกาเป็นสองคน | ||
| + | สุริย์วงศ์พงศ์ประยูรที่คุ้นเคย ช่างไม่มีบ้างเลยในสิงหล | ||
| + | โปรดเกล้าเล่าแถลงแจ้งยุบล เหตุผลเป็นไฉนพระชนนี | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น นวลนางสุวิญชามารศรี | ||
| + | ได้ฟังลูกยาพาที เทวีก็คิดสะดุ้งใจ | ||
| + | เหตุนี้ดีร้ายพระบิดา ตามมาแล้วลูกจึงนึกได้ | ||
| + | แสนสงสารลูกน้อยกลอยใจ ชลนัยน์ไหลหลั่งดังธารา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ โอด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณธิเบศร์โอรสา | ||
| + | แลเห็นสมเด็จพระมารดา ชลนาไหลพรากก็หลากใจ | ||
| + | จึงทูลว่าข้าถามถึงบิตุรงค์ เป็นไฉนไยทรงกันแสงไห้ | ||
| + | เหตุผลต้นปลายประการใด จงบอกเล่าลูกไปตามสัจจา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น สุวิญชากล่าวแกล้งแสร้งว่า | ||
| + | เมื่อกี้แม่แหงนดูหลังคา ผงปลิวเข้าตาให้เคืองคาย | ||
| + | ชลเนตรไหลหลั่งลงพรั่งพรู เคืองอยู่เดี๋ยวนี้ยังมิหาย | ||
| + | ซึ่งถามถึงบิดาอย่าวุ่นวาย แม่จะบอกฤาสายอย่าร้อนรน | ||
| + | อันบิตุเรศเกิดเกศของเจ้านั้น คือพระองค์ทรงธรรม์ท้าวสิงหล | ||
| + | จงไปเฝ้าอัยกาเจ้าสากล ทูลถามเหตุผลให้แจ้งใจ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์สิ้นสงสัย | ||
| + | แล้วบังคมลาคลาไคล ไปเฝ้าท้าวไทอัยกา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงมหาปราสาท จึงลีลาสเข้าไปใกล้ยักษา | ||
| + | ลดองค์ลงกราบกับบาทา นั่งเฝ้าอัยกาพระยายักษ์ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์บังคมไหว้ | ||
| + | แล้วกราบทูลความถามท้าวไท พ่อข้าคนไหนอัยกา | ||
| + | แต่หลานรักรู้คำจำความ ยังไม่รู้จักนามรู้จักหน้า | ||
| + | ครั้นทูลถามพระแม่สุวิญชา บอกว่าตาเป็นพ่อเห็นผิดนัก | ||
| + | มารดาข้ายังเป็นสาวแส้ ตาแก่โคร่งคร่างฟันฟางหัก | ||
| + | ไม่ร่วมแท่นบรรทมภิรมย์รัก สงสัยนักตาเล่าให้เข้าใจ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวสิงหลเป็นใหญ่ | ||
| + | ได้ฟังหลานสนองต้องพระทัย ยิ้มแย้มละไมแล้วว่ามา | ||
| + | เขาเห็นว่าตาชรานัก หลานรักจะอับอายขายหน้า | ||
| + | ไม่สมกันกับแม่สุวิญชา จึงให้เรียกพ่อตาแล้วเป็นไร | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์สิ้นสงสัย | ||
| + | สำคัญว่าพ่อจริงก็นิ่งไป จึงกราบทูลท้าวไทยอัยกา | ||
| + | หลานจะลาไปเล่นพนาลี จับหมู่มฤคีแลปักษา | ||
| + | ตะวันชายบ่ายคล้อยจะกลับมา พระอัยกาจงโปรดปรานี | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น ท่านท้าวสิงหลยักษี | ||
| + | แสนสวาทนัดดาพ้นทวี กอดจูบแล้วมีพระบัญชา | ||
| + | หลานจะใคร่ไปเที่ยวเล่นไพร ก็ตามแต่น้ำใจตาไม่ว่า | ||
| + | จึงเรียกสี่พี่เลี้ยงเข้ามา กำชับกำชาสารพัน | ||
| + | แล้วบัญชาการว่าหลานรัก พ่ออย่าอยู่ช้านักในไพรสัณฑ์ | ||
| + | พอบ่ายชายแสงสุริยัน จงรีบผายผันมาพารา | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| + | ชื่นชมยินดีชลีลา มาทรงอาชาทันใด | ||
| + | พร้อมพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ เสนีขี่ม้ามาไสว | ||
| + | ควบขับคับคั่งเวียงชัย เร่งอาชาไนยให้เคลื่อนคลาย | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงป่าใหญ่ไพรสาณฑ์ จึงสั่งพนักงานบ่วงข่าย | ||
| + | ให้เร่งลงหลักดักราย พวกม้าผันผายไปไล่มา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เหล่าพวกพนักงานถ้วนหน้า | ||
| + | ผูกบ่วงถ่วงทิ้งโยทะกา ดักตามมรคาที่เนื้อจร | ||
| + | บ้างวงข่ายรายรอบปากชนาง ใส่สายรยางค์ชักหลอน | ||
| + | พวกม้าไล่ไปชายดงดอน หุ้มต้อนฝูงสัตว์สะพัดมา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บ้างจับได้สิงโตโคกระทิง สารพัดสัตว์สิงมหิงสา | ||
| + | บ้างได้เนื้อเบื้อนานา ต่างเอามาถวายพระกุมาร | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์เกษมศานต์ | ||
| + | ชมสัตว์จัตุบาทแสนสำราญ แล้วพระกุมารก็ปล่อยไป | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นเสร็จขึ้นสายธนูศิลป์ ฟ้าดินกัมปนาทหวาดไหว | ||
| + | ยิงต้นรังพลันทันใด เสียงสนั่นลั่นไปในอารัญ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ตระหนกอกสั่น | ||
| + | กับสี่พี่เลี้ยงทั้งนั้น พากันหวั่นหวาดประหลาดใจ | ||
| + | พี่เลี้ยงว่าเสียงเหมือนฟ้าผ่า บ้างว่าเขายิงปืนใหญ่ | ||
| + | จึงลงจากพลับพลาคลาไคล เที่ยวด้อมเดินไปจะใคร่รู้ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ค่อยแลลอดสอดเห็นพระกุมาร กับทวยหาญน้อยน้อยมาเล่นอยู่ | ||
| + | รูปทรงโสภาน่าเอ็นดู ถือธนูน้าวประลองคะนองนัก | ||
| + | พระจึงว่ากับสี่พี่เลี้ยงไป ลูกใครกระจิริดสิทธิศักดิ์ | ||
| + | งามทั้งรูปทรงวงพักตร์ น่ารักน่าชมภิรมย์ใจ | ||
| + | ครั้นเราจะเข้าไปพูดจา เด็กดูแปลกหน้าจะร้องไห้ | ||
| + | จะใคร่ชักชวนมาพลับพลาชัย จะเกลี้ยกล่อมฉันใดพี่ช่วยคิด | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น ทั้งสี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมจิต | ||
| + | ต่างคนแลเล็งเพ่งพิศ แล้วทูลทรงฤทธิ์ไปทันใด | ||
| + | อันทรวดทรงองค์พระกุมารนี้ เหมือนภูมีจริงจังดังเถือใส่ | ||
| + | ทั้งท่วงทีกิริยาละม่อมละไม จะดูไหนไม่ผิดสักสิ่งอัน | ||
| + | อย่าสงสัยไปเลยพระทรงยศ โอรสของพระองค์เป็นแม่นมั่น | ||
| + | ชะรอยบุตรสุวิญชาลาวัณย์ พระทรงธรรม์อย่าแหนงแคลงใจ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์จึงตอบแถลงไข | ||
| + | พี่ว่าเห็นจริงทุกสิ่งไป จึงดลใจให้น้องนี้เมตตา | ||
| + | ถ้าแม้นเป็นลูกเต้าของเราจริง จะปรากฏยศยิ่งในใต้หล้า | ||
| + | ชาตินี้มีกรรมได้ทำมา พลัดพรากสุวิญชานงลักษณ์ | ||
| + | เผอิญเห็นเป็นไปเข้าใจดล หลงกลอีคนอัปลักษณ์ | ||
| + | จนจากเมียเสียองค์พระลูกรัก แสนวิตกอกจะหักสู้ตามมา | ||
| + | อนิจจาสุวิญชาของผัวเอ๋ย เมื่อไรเลยจะได้เห็นหน้า | ||
| + | เจ้าช่างวางใจไม่อัชฌา ละให้ลูกยามาเล่นไพร | ||
| + | พระคิดถึงเมียแก้วแล้วโศกศัลย์ ยิ่งกลืนกลั้นชลเนตรก็ยิ่งไหล | ||
| + | เสด็จออกไปนอกพุ่มไม้ ตั้งใจยืนดูพระกุมาร | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์ใจหาญ | ||
| + | เล่นอยู่กับหมู่บริวาร เห็นคนยืนหน้าฉานก็ขัดใจ | ||
| + | จึงชี้หัตถ์ตรัสว่าอ้ายเหล่านี้ ชีวีมึงจะม้วยหารู้ไม่ | ||
| + | ยืนเขม่นจะเล่นกูเท่าไร ตำรวจในเร่งออกไปถามดู | ||
| + | ว่ามายืนทำไมที่ไหนนั่น หรือชวนกันหลอกล้อจะต่อสู้ | ||
| + | จึงมิได้ยำเยงเกรงกู ไปถามดูแล้วกลับมาฉับพลัน | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | ==== ==== | ||
| + | <tpoem> | ||
| + | ๏ บัดนั้น พวกตำรวจในคนขยัน | ||
| + | ก้มเกล้ารับสั่งบังคมคัล พากันวิ่งไปเก้กัง | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงว่าตานั่งลง ทำไมมายืนตรงหน้าที่นั่ง | ||
| + | ตาเหล่านี้นักหนาว่าไม่ฟัง จะเอาหวายลงหลังหรือว่าไร | ||
| + | แกล้งออกมาเผ่นเห็นถนัด รับสั่งตรัสให้เข้ามาถามไถ่ | ||
| + | ตัวยืนหน้าที่นั่งบังอาจใจ ไม่เห็นเจ้าหรือไรให้ว่ามา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์พระไชยเชษฐ์ก็หรรษา | ||
| + | ได้ฟังเด็กเด็กมาพูดจา ยิ้มแย้มไปมาในพระทัย | ||
| + | จึงตรัสว่าน้อยน้อยเท่านี้ สำนวนถ้วนถี่ดังผู้ใหญ่ | ||
| + | ว่าพลางทางยื่นพระหัตถ์ไป จับเกศาเลือกไสไปมา | ||
| + | ทำไมจะให้กูกลัวเกรง เจ้าเอ็งเป็นอะไรมานักหนา | ||
| + | ยืนอยู่ไม่ได้หรือไรนา กูมิรู้ที่จะว่าให้การเป็น | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เด็กเด็กโกรธใจมิใช่เล่น | ||
| + | พากันกลับมาน้ำตากระเด็น ร้องว่าจะได้เห็นกันเดี๋ยวนี้ | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ มาถึงจึงกราบบาทมูล สะอื้นพลางทางทูลถ้วนถี่ | ||
| + | ข้าถือรับสั่งพระภูมี ครั้งนี้สุดแค้นแสนเจ็บใจ | ||
| + | ไต่ถามตาแก่รังแกนัก จะให้หลักให้การก็หาไม่ | ||
| + | ตัวนายนั้นดื้อทั้งมือไว จับศีรษะข้าไว้จะให้กลัว | ||
| + | แล้วว่ากูยืนนดูไม่ได้หรือ พูดพลางเอามือสั่นหัว | ||
| + | เห็นว่าเป็นเด็กเล็กกว่าตัว มิได้กลัวพระราชอาญา | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| + | ฟังคำอำมาตย์ทูลมา พระกริ้วโกรธาตละไฟ | ||
| + | น้อยหรือทำได้ไม่ยำเกรง ข่มเหงเสนาผู้ใหญ่ | ||
| + | กูกลับเข้าไปในเวียงชัย จะกราบทูลท้าวไทอัยกา | ||
| + | อุกอาจราชศักดิ์เป็นสุดคิด น้อยจิตน้อยใจหนักหนา | ||
| + | สิถามไถ่ไม่ให้การมา ไปผูกคอคร่ามาบัดนี้ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น เด็กเด็กรับสั่งใส่เกศี | ||
| + | บ้างบิดผ้าหาเชือกมาทันที เปรมปรีดิ์ดีใจแล้ววิ่งมา | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงร้องว่าไป สาแก่ใจบาปกรรมที่ทำข้า | ||
| + | พระองค์ทรงกริ้วโกรธา ให้ผูกคอตาห้าคนไป | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ผู้มีอัชฌาสัย | ||
| + | แจ้งการว่ากุมารเคืองใจ ภูวไนยถวิลจินดา | ||
| + | จำจะไปเล้าโลมโฉมงาม จะได้ชมสมความปรารถนา | ||
| + | คิดพลางย่างเยื้องลีลา ไคลคลามากับพี่เลี้ยงพลัน | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงจึงมีวาจา พ่ออย่าเคืองขุ่นหุนหัน | ||
| + | รักกันนั้นดีกว่าชังกัน จะทำน้ำใจสั้นไม่เข้ายา | ||
| + | ข้าเห็นเจ้าเล่นกับบ่าวไพร่ ให้มีใจจงรักเป็นหนักหนา | ||
| + | ขออุ้มเจ้าหน่อยเถิดรา พลางคว้าข้อมือยื้อยุดไว้ | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น นารายณ์ธิเบศร์โกรธหนักผลักไส | ||
| + | สะบัดมือเสียพลางทางว่าไป นี่รู้จักใครมายุดมือ | ||
| + | เมื่อกี้เราใช้ให้ไปว่า ควรทำเสนาเราได้หรือ | ||
| + | ยังกลับมาอุตลุดยุดยื้อ ทำบ่าวแล้วรื้อมาทำเรา | ||
| + | ตาเห็นเป็นเด็กไม่ยำเกรง แกล้งข่มเหงกันเล่นเปล่าเปล่า | ||
| + | เป็นผู้ใหญ่ทำได้ก็ทำเอา แล้วเดินหนีมิให้เข้าใกล้องค์ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์พระไชยเชษฐ์สูงส่ง | ||
| + | จึงตรัสปลอบตอบคำจำนง เพราะใจตรงจงรักจึงหักมา | ||
| + | ข้าไม่หลอกล่อดอกพ่อเอ๋ย อย่าโกรธเลยรักกันเสียดีกว่า | ||
| + | เจ้าก็ตัดเยื่อใยไม่เมตตา อนิจจาเดินหนีหลีกลี้ไย | ||
| + | เมื่อกี้เจ้าใช้บ่าวออกไปห้าม ข้าพาลเขลาเบาความไม่ถามไถ่ | ||
| + | ไม่ทันรู้ว่าเสนาใน เกิดมายังไม่เห็นใครเป็น | ||
| + | เมื่อแต่ล้วนเล็กเล็กกระจิริด ข้ามีจิตคิดรักจึงหยอกเล่น | ||
| + | ลูกเท่าหัวเหาเต่าเล็น ไม่เคยพบเคยเห็นแต่บุราณ | ||
| + | ตรัสพลางทางสั่งพี่เลี้ยงไป เอาขนมมาให้แก่พระหลาน | ||
| + | แล้วโลมเล้าเอาใจพระกุมาร เชิญเสวยของหวานเถิดหลานชาย | ||
| + | ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์ว่าอย่าพึงหมาย | ||
| + | ถึงจะแสบท้องให้แทบตาย ไม่มักง่ายกินอะไรของใครเป็น | ||
| + | มิใช่ฝีปีศาจที่เดินหน จะเสือกสนเที่ยวท่องกินของเซ่น | ||
| + | อย่าปลอบไปให้เลือดตากระเด็น พลางเดินเที่ยวเล่นไม่เจรจา | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์ความแสนเสน่หา | ||
| + | พยายามตามปลอบกุมารา อนิจจาปลื้มใจไม่ดูดี | ||
| + | ข้ามิใช่ชายพาล ย่อมวงศ์วานกษัตริย์เรืองศรี | ||
| + | ครอบครองเหมันต์ธานี ไม่มีโอรสแลนัดดา | ||
| + | ไร้ทั้งสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ ที่จะผ่านเหมันต์ไปวันหน้า | ||
| + | เป็นบุตรข้าเถิดนะพ่ออา บิดาจะให้ครองพระเวียงชัย | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์เคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| + | พระกริ้วโกรธพลางว่าไป คนอะไรที่ไหนนี่หยาบช้า | ||
| + | อุเหม่ตาเฒ่านี้เจ้าเล่ห์ เฉโกโว้เว้นักหนา | ||
| + | และเลียมเทียมเล่นเจรจา จะเป็นผัวแม่ข้าหรือว่าไร | ||
| + | ถึงตัวเราเล็กก็เหล็กเพชร ไม่ขามเข็ดพวกตาอย่าสงสัย | ||
| + | ปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งเป็นพ้นไป ผู้ใหญ่แสนรู้มาสู้กัน | ||
| + | ว่าพลางทางขึ้นธนูศิลป์ ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น | ||
| + | พาดสายหมายล้างชีวัน ผาดแผลงไปพลันทันใด | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ศรทรงองค์พระกุมาร กลายเป็นมาลาแลไสว | ||
| + | ไม่สังหารผลาญชีพชีวาลัย พระกุมารโกรธใจเป็นโกลี | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| + | เห็นศรกุมารชาญฤทธี กลับเป็นมาลีประหลาดใจ | ||
| + | วิปริตผิดเพศไม่เคยพบ พระปรารภพิศวงสงสัย | ||
| + | คิดพลางทางเสี่ยงศิลป์ชัย เดชะฤทธิไกรธนูนี้ | ||
| + | แม้นกุมารมิใช่โอรสา ของนางสุวิญชามารศรี | ||
| + | ขอให้ศรสิทธิ์ฤทธี สังหารกุมารนี้ให้วายปราณ | ||
| + | แม้นเป็นลูกน้อยนางโฉมฉาย ให้ศรกลายเป็นทิพย์อาหาร | ||
| + | เสี่ยงแล้วขึ้นศรรอนราญ แผลงไปให้ผลาญกุมารา | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ศรทรงองค์พระไชยเชษฐ์ อาเพศไม่พานโอรสา | ||
| + | กลับเป็นเอมโอชโภชนา เกลื่อนกลาดดาษดาพนาวัน | ||
| + | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ พระทิ้งศรทรงลงทันใด วิ่งไปกอดลูกแล้วรับขวัญ | ||
| + | พ่อลูกมาประสบพบกัน จะหักโหมโรมรันด้วยอันใด | ||
| + | ปลอบพลางทางเห็นธำมรงค์ ที่กุมารสอดทรงก็จำได้ | ||
| + | จึงว่าแหวนนี้ข้าให้ไว้ กับโฉมงามทรามวัยสุวิญชา | ||
| + | มิเชื่อเราเจ้าถามพี่เลี้ยงดู เขารู้จักอยู่ถ้วนหน้า | ||
| + | แม้นเขาว่าข้ามิใช่บิดา จึงค่อยว่าล่อลวงเจ้าดวงใจ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์ยังสงสัย | ||
| + | แล้วตริตรึกนึกแหนงแคลงพระทัย ด้วยออกนามทรามวัยสุวิญชา | ||
| + | พลางเรียกพี่เลี้ยงเข้ามาถาม จงแจ้งความตามสัตย์อย่าพรางข้า | ||
| + | จริงหรือเขาว่าเป็นบิดา ผัวแม่สุวิญชาชนนี | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ บัดนั้น พระพี่เลี้ยงประณตบทศรี | ||
| + | จึงทูลว่าอัยกาธิบดี ห้ามปรามความนี้อยู่มากมาย | ||
| + | แม้นว่าบอกกล่าวเล่าพระองค์ จะลงอาญาข้าทั้งหลาย | ||
| + | ฉวยรู้ไปในวังสิหลังลาย พระเบี่ยงบ่ายอย่าให้ข้าถูกตี | ||
| + | มั่นคงองค์นี้แลบิตุเรศ ทรงนามไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| + | ครองเมืองเหมันต์ธานี สามีพระเม่สุวิญชา | ||
| + | อันพระบิตุรงค์ทรงฤทธิ์ โทษผิดใหญ่หลวงนักหนา | ||
| + | พระยายักษ์เคืองขัดอัธยา ไม่ให้มาพานพบพระชนนี | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์เรืองศรี | ||
| + | ได้ฟังพี่เลี้ยงพาที มีความยินดีเป็นพ้นไป | ||
| + | จึงยอกรกราบบาทบิตุเรศ ชลเนตรแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| + | สะอื้นพลางทางทูลถามไป เหตุผลกลใดพระทรงธรรม์ | ||
| + | บิตุรงค์กับองค์พระมารดร ไม่สมัครสโมสรเกษมสันต์ | ||
| + | หรือวิวาทบาดหมายอะไรกัน ทรงธรรม์จงเล่าให้เข้าใจ | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระไชยเชษฐ์เศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| + | ฟังลูกทูลถามถึงความใน ชลเนตรหลั่งไหลฟูมฟาย | ||
| + | จึงว่าพ่อจะเล่าแก่ลูกแก้ว กรรมของพ่อแล้วนะโฉมฉาย | ||
| + | ข้างแม่เจ้าเล่าก็เคราะห์ร้าย จึงเผอิญวุ่นวายวิวาทกัน | ||
| + | เหตุผลต้นยนต์อีสุริยา มันทำกับบิดานี้แสนศัลย์ | ||
| + | ให้บอกกล่าวข่าวช้างสำคัญ พ่อต้องผายผันมาอยู่ไพร | ||
| + | ภายหลังแม่คลอดเจ้าออกมา สุริยาลอบลักเอาไปได้ | ||
| + | ครั้นบิดากลับมาถึงวังใน เห็นแต่ท่อนไม้ใส่พานมา | ||
| + | มันว่าลูกของนางโฉมยง พ่อหลงเชื่อฟังอีแพศยา | ||
| + | จึงขับแม่พลัดพรากจากพารา จนเจ้าชันษาถึงเพียงนี้ | ||
| + | กับท้าวสิงหลภูวไนย ขึ้งโกรธเป็นไฉนนะโฉมศรี | ||
| + | ด่าทอพ่อมั่งหรือไม่มี จะใคร่ไปอัญชลีพระเจ้าตา | ||
| + | ถ้าท่านแค้นขัดตัดรอนพ่อ ลูกรักช่วยทูลขอซึ่งโทษา | ||
| + | ถึงจะม้วยลงด้วยพระอาญา แต่พอให้มารดาเจ้าเห็นใจ | ||
| + | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์บังคมไหว้ | ||
| + | จึงทูลว่าพระอย่าทุกข์ฤทัย เกรงกลัวโพยภัยพระยามาร | ||
| + | ลูกจะทูลเบี่ยงบ่ายให้หายโกรธ ถึงพ่อต้องโทษก็โปรดหลาน | ||
| + | พอจะขอได้อยู่ดูอาการ เห็นจะคิดสงสารแก่นัดดา | ||
| + | ขอเชิญพระองค์คลาไคล เข้าไปกรุงไกรด้วยกับข้า | ||
| + | เกลือกทูลขอโทษโปรดลูกยา พระบิดาจะได้เฝ้าท้าวทันที | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| + | ฟังลูกทูลความเห็นงามดี สมที่พระทัยนึกตรึกไตร | ||
| + | จะเข้าไปตรงตรงคงพรายแพร่ง จำจะแปลงปลอมองค์ให้สงสัย | ||
| + | คิดพลางเปลื้องเครื่องออกทันใด ให้พี่เลี้ยงซ่อนใส่ย่ามตะพาย | ||
| + | พระจึงจัดแจงแปลงองค์ แกล้งทรงผ้าตาเล็ดงาด้าย | ||
| + | ห่มแพรเพลาะดำเนินกราย มาชวนพระลูกชายไคลคลา | ||
| + | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ธิเบศร์หัวเราะร่า | ||
| + | ชะงามพ้นคิดพระบิดา ขายหน้าขายตาชนนี | ||
| + | ว่าพลางทางทรงอาชาไนย ให้เลิกพลกลับไปกรุงศรี | ||
| + | พระบิดาเดินหลังรั้งโยธี กับสี่พี่เลี้ยงจรจรัล | ||
| + | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๏ ครั้นถึงที่ประตูเวียงชัย ลงจากมโนมัยผายผัน | ||
| + | มาบังคมบิตุรงค์ทรงธรรม์ พลางทูลไปพลันทันที | ||
| + | พระจงนั่งในทิมริมประตู อย่าให้ใครรู้ว่าอยู่นี่ | ||
| + | ลูกยาจะลาจรลี ไปเฝ้าชนนีกับเจ้าตา | ||
| + | ถ้าวันนี้เห็นทีจะทูลได้ ถึงมืดค่ำอย่างไรจะมาหา | ||
| + | แล้วกำชับนายประตูดูอัชฌา กูฝากตาห้าคนไว้ด้วยกัน | ||
| + | สั่งแล้วบังคมก้มเกศ ลาองค์บิตุเรศรังสรรค์ | ||
| + | รีบเสด็จลีลามาพลัน จรจรัลไปเฝ้าพระอัยกา | ||
| + | ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | ||
| + | </tpoem> | ||
| + | |||
===ตอนที่ ๓ พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล=== | ===ตอนที่ ๓ พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล=== | ||
<tpoem> | <tpoem> | ||
การปรับปรุง เมื่อ 15:18, 27 สิงหาคม 2552
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
บทประพันธ์
ตอนที่ ๑ นางสุวิญชาถูกขับไล่
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| แต่มาอยู่ป่าพนาลี | ได้เจ็ดราตรีทิวาวัน | ||
| ให้หมอเฒ่าเอาช้างไปเที่ยวค้น | ทุกตำบลโป่งป่าพนาสัณฑ์ | ||
| ไม่ประสบพบช้างตัวสำคัญ | จนสิ้นแดนเหมันต์พารา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ปีนตลิ่ง | |||
| ๏ เมื่อพระมเหสีจะมีเหตุ | ให้เขม่นนัยน์เนตรทั้งซ้ายขวา | ||
| พระทอดถอนหฤทัยไปมา | หวนรำลึกตรึกตราถึงเวียงวัง | ||
| สงสารสุวิญชาโฉมศรี | เทวีมีครรภ์อยู่ข้างหลัง | ||
| จะประสูติลูกแก้วแล้วหรือยัง | ไม่มีที่หวังที่ไว้ใจ | ||
| นางก็ไร้สุริย์วงศ์พงศ์เผ่า | ใครจะเอาใจดูหูใส่ | ||
| จำจะเลิกพหลพลไกร | กลับคืนเข้าไปยังพารา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| คิดพลางทางสั่งเสนี | จงตระเตรียมโยธีทั้งซ้ายขวา | ||
| เร่งรัดผูกช้างผูกม้า | จะคืนเข้าพาราเวลานี้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนีรับสั่งใส่เกศี | ||
| ออกมาจัดกันทันที | พร้อมเสร็จดังมีพระบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์ก็หรรษา | ||
| จึงสระสรงทรงเครื่องสุคนธา | ทรงมหาภูษิตพรายพรรณ | ||
| ครั้นเสร็จเสด็จบทจร | ขึ้นทรงอัสดรผายผัน | ||
| ให้ยกพวกพลช้างดั้นกัน | คืนเข้าเหมันต์ธานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา กราวนอก เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงประทับม้าทรง | เสด็จลงเกยแก้วมณีศรี | ||
| พอสิ้นแสงสนธยาราตรี | จรลีเข้ายังวังใน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ็ดนางนารีศรีใส | ||
| แจ้งเหตุว่าเสด็จมาแต่ไพร | ดีใจเปรมปริ่มยิ้มพราย | ||
| ชวนกันอาบน้ำทาแป้ง | จัดแจงแต่งตัวเฉิดฉาย | ||
| นุ่งยกห่มตาดนาดกราย | ผันผายไปเฝ้าพระภูมี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เพลงช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| เห็นนางสาวสรรค์มาอัญชลี | จึงปราศรัยนารีทั้งเจ็ดคน | ||
| พี่จากน้องไปคล้องคชสาร | ทรมานนอนป่าพนาสณฑ์ | ||
| เช้าค่ำรำลึกถึงนฤมล | เจ้าทุกคนอยู่ดีหรือฉันใด | ||
| อันนางสุวิญชานงเยาว์ | พี่ฝากฝังให้เจ้าเอาใจใส่ | ||
| ครรภ์นางก็แก่แต่วันไป | เป็นกระไรคลอดลูกแล้วหรือยัง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ็ดนางทูลไปดังใจหวัง | ||
| ข้าทุกข์แทนนฤมลพ้นกำลัง | เป็นธุระระวังนั่งรำพึง | ||
| พอวันหนึ่งนางคลอดโอรสา | ก่อนหน้าพระเสด็จเข้ามาถึง | ||
| รูปร่างพริ้งพร้อมดั่งกล่อมกลึง | งามแม้นเหมือนหนึ่งเทวดา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ฟังคำที่ร่ำว่า | ||
| เห็นทั้งท่อนไม้ใส่พานมา | ผ่านฟ้านิ่งอึ้งตะลึงตะไล | ||
| เสน่ห์นางเจ็ดคนเข้าดลจิต | จะทันพิจารณาก็หาไม่ | ||
| ให้ชึงชังสุวิญชาแล้วว่าไป | จะเลี้ยงไว้ทำไมในธานี | ||
| ว่าพลางทางขยับจับพระขรรค์ | หมายจะไปห้ำหั่นบั่นเกศี | ||
| ลงจากแท่นแค้นใจจรลี | เจ็ดนางนารีก็ตามไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเห็นนางสุวิญชา | ยิ่งโกรธาหุนหันมันไส้ | ||
| กระทืบบาทกึกก้องทั้งห้องใน | ชี้หน้าว่าไปกับนงลักษณ์ | ||
| เสียแรงเราชุบเลี้ยงถึงเพียงนี้ | ควรหรือมีลูกอ่อนเป็นท่อนสัก | ||
| ให้อับอายขายหน้านักหนานัก | สิ้นรักใคร่กันแล้วหรือวันนี้ | ||
| แม้นเลี้ยงไว้ในเมืองจะเลื่องลือ | ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียเสียศักดิ์ศรี | ||
| ชอบแต่สังหารผลาญชีวี | ภูมีฮึดฮัดขัดแค้นใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| โอ้ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาตัวสั่นหวั่นไหว | ||
| กันแสงพลางทางทูลภูวไนย | เขาจะคิดอย่างไรเมียไม่รู้ | ||
| แต่แรกเจ็บท้องร้องครวญคราง | เจ็ดนางมานั่งหนุนหลังอยู่ | ||
| แล้วขับไล่ข้าไทมิให้ดู | เมียไม่รู้ทันเท่าเขาคิดคด | ||
| นางว่าข้าไม่เคยจะคลอดลูก | เอาผ้าผูกพันตาเสียมืดหมด | ||
| เมื่อแรกประสูติพระโอรส | เสียงร้องปรากฏเหมือนเสียงคน | ||
| บัดนี้ลูกอ่อนเป็นท่อนไม้ | เพราะเขาปิดตาไว้ไม่เห็นหน | ||
| พระองค์จงคิดดูเล่ห์กล | ลูกคนใครห่อนเป็นท่อนไม้ | ||
| เมื่อฟังคำข้างเดียวมาเกรี้ยวโกรธ | จะลงโทษน้องรักให้ตักษัย | ||
| เมียจะผินพักตราไปหาใคร | ร่ำพลางสะอื้นไห้ไปมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ฟังคำจึงซ้ำว่า | ||
| เหม่เหม่ดูดู๋สุวิญชา | ยังขืนกลับมาว่าเขาพาโล | ||
| ยักเยื้องพูดจาสารพัด | เจ้าสำบัดสำนวนกวนโมโห | ||
| เมื่อลูกเป็นท่อนไม้ไอ้กะโต | ข้ามิใช่ชายโง่จะงงงวย | ||
| เจ็ดนางรักเจ้าเรารู้แจ้ง | ว่าเขาแกล้งใส่ไคล้ไม่เห็นด้วย | ||
| อย่าพักทำกำสรดระทดระทวย | จะมอดม้วยไม่ทันรุ่งพรุ่งนี้ | ||
| ว่าพลางทางเรียกเสนา | ใครอยู่บ้างข้างหน้าเข้ามานี่ | ||
| จงเอาตัวสุวิญชากาลี | ไปประหารชีวิตให้วายปราณ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาคำนับรับบรรหาร | ||
| เข้าผูกรัดมัดมือเยาวมาลย์ | ลนลานรีบพาออกมาพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาตระหนกอกสั่น | ||
| เหลียวดูภัสดาแล้วจาบัลย์ | ครวญคร่ำรำพันวิงวอน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระองค์ทรงเดช | โปรดเกศหยุดยั้งมั่งก่อน | ||
| พระจะให้ห้ำหั่นบั่นรอน | โทษกรณ์น้องนี้ไม่มีเลย | ||
| ช่างเชื่อแต่เจ็ดนางไปข้างเดียว | ไม่แลเหลียวดูมั่งนั่งนิ่งเฉย | ||
| แต่ก่อนร่อนชะไรก็ไม่เคย | อกเอ๋ยน้องคิดเห็นผิดใจ | ||
| นางวิ่งเข้ากอดบาทภัสดา | ขอโทษกรณ์วอนว่ากราบไหว้ | ||
| เสนาเข้าคร่าเอาตัวไป | อรไทครวญคร่ำร่ำโศกา | ||
| ฯ ๖คำ ฯ โอด เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นออกมานอกทวารวัง | พอเห็นพี่เลี้ยงนั่งอยู่พร้อมหน้า | ||
| นางร้องเรียกไปมิได้ช้า | เชษฐาโปรดด้วยช่วยน้องไว้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | สี่พี่เลี้ยงย่างเหย่าเข้ามาใกล้ | ||
| เห็นเขาจูงสุวิญชาพาไป | ตกใจตัวสั่นเข้ากั้นกาง | ||
| พวกเสนาว่าหลีกไปให้พ้น | ต่างคนฮึดฮัดขัดขวาง | ||
| พระพี่เลี้ยงชิงไว้ไม่ละวาง | แล้วถามว่าโทษนางเป็นอย่างไร | ||
| ฯ ๔คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นรู้แน่ตระหนักประจักษ์ความ | จึงห้ามเสนาว่าไม่ได้ | ||
| ถ้าแม้นขืนฆ่าฟันให้บรรลัย | นานไปเราร่อยจะพลอยตาย | ||
| ท่านจงหยุดยั้งรั้งรอ | ข้าจะไปทูลขอนางโฉมฉาย | ||
| มิให้ม้วยมอดวอดวาย | ว่าแล้วสี่นายจรลี | ||
| ฯ ๔คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงคลานเข้าไปเฝ้า | ก้มเกล้าประณตบทศรี | ||
| กราบทูลไปพลันทันที | พระภูมีเป็นไฉนจึงใจเบา | ||
| ธรรมดาลูกอ่อนเป็นท่อนไม้ | มีมั่งหรือไม่แต่ก่อนเก่า | ||
| แต่เพียงนี้มิรู้ดูเอา | ยิ่งกว่ามัวเมามึนตึง | ||
| ธรรมดาเมียหลวงกับเมียน้อย | ย่อมคอยหยิบผิดคิดหวงหึง | ||
| ช่างไม่ตรองตรึกให้ลึกซึ้ง | เหมือนไม่รู้ถึงทันเมีย | ||
| ล้วนเหล่าริษยาเป็นอารมณ์ | มีแต่จะเรียกลมให้เรือเสีย | ||
| ทั้งเล่ห์กลกระทำยำเยีย | จะให้เขาผัวเมียได้รำคาญ | ||
| ถึงว่านางจะเป็นเช่นนั้นไซร้ | ก็ยังไม่ควรสั่งให้สังหาร | ||
| รู้ถึงสิงหลมิเป็นการ | จะมาผลาญเสียสิ้นทั้งเหมันต์ | ||
| มนุษย์หรือจะสู้กับหมู่ยักษ์ | จะเคี้ยวเล่นเป็นผักไม่พักหั่น | ||
| พระองค์จงโปรดยกโทษทัณฑ์ | อย่าให้ชีวันนางมอดม้วย | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| สามเส้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ได้ฟังก็เห็นด้วย | ||
| จริงอยู่พี่ว่าข้างงงวย | เพราะใครใครไม่ช่วงห้ามปราม | ||
| มีแต่จะเติมเสริมซ้ำ | จึงพลอยพล้ำเผลอไปไม่ไต่ถาม | ||
| น้องนี้โฉดเฉาเบาความ | นี่หากว่าพี่ห้ามจึงได้คิด | ||
| ถ้าสิงหลรู้ไปที่ไหนนั่น | จะพากันย่อยยับดับจิต | ||
| ใครจะออกต่อต้านทานฤทธิ์ | น่าที่ชีวิตจะม้วยมรณ์ | ||
| ตายแล้วหรือยังอยู่สุวิญชา | กลับไปให้หาเข้ามาก่อน | ||
| อย่าให้ห้ำหั่นบั่นรอน | ทำโทษโรธกรณ์เยาวมาลย์ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ็ดนางนั่งฟังอยู่ในม่าน | ||
| ได้ยินสี่พี่เลี้ยงทูลทัดทาน | ว่าขานเป็นแยบก็แปลบใจ | ||
| นิ่งอยู่ดูเห็นจะเป็นรอง | ชวนกันเผยม่านทองสองไข | ||
| โกรธาชี้หน้าแล้วว่าไร | นี่อะไรมากลุ้มรุมชิงชัง | ||
| ชิชะท่านสารพัดรู้ | มาข่มขู่ตะคอกหลอกผู้หญิง | ||
| ลิ้นลมคมสันขยันจริง | พูดแยบแอบอิงสอพลอพลอย | ||
| หรือทั้งสี่แจ้งใจว่าใครทำ | จึงพิดทูลปรักปรำให้ยับย่อย | ||
| ช่างซื้อหน้ามาเฝ้าทูลตะบอย | ข้าสิน่ากลัวน้องไปเมื่อไร | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงเคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| จึงว่าข้าทูลขออรไท | กลการอะไรมาโกรธฟุ้ง | ||
| ชาติวัวระวังสันหลังขาด | เห็นแต่กาบินผาดก็สะดุ้ง | ||
| เรารู้อยู่เต็มใจในไส้พุง | อย่าหยาบยุ่งกรุ่งกริ่งเจรจา | ||
| หากว่าภูวไนยไม่ให้ถาม | นางรูปงามจึงออกมาลอยหน้า | ||
| แม้นทรงฤทธิ์ให้เราพิจารณา | ที่ไหนเจ้าจะมาท้าทายอึง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ็ดนางพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| จึงร้องว่าอย่าพักรำพึง | ข้าไม่อยากพรั่นพรึงทั้งสี่นาย | ||
| จะถามไถ่อย่างไรก็ถามกัน | ที่จะเป็นเช่นนั้นอย่านึกหมาย | ||
| มาช่วยกันแก้หน้าว่าไม่อาย | เที่ยวเอาความร้ายมาบ้ายทา | ||
| ทั้งสี่นี้ดูเหมือนงูงอด | จะคอยมองย่องตอดกระมังหนา | ||
| เมื่อลูกเป็นท่อนสักประจักษ์ตา | ยังจะแค่นมีหน้าว่ากั้นกาง | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| สมิงทองไทย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์นิ่งฟังทั้งสองข้าง | ||
| ผลกรรมจำให้เริดร้าง | พระเคืองข้องหมองหมางในอารมณ์ | ||
| ฟังสี่พี่เลี้ยงก็เห็นชอบ | ฟังเจ็ดนางตอบก็เห็นสม | ||
| เห็นชอบเป็นผิดคิดนิยม | ด้วยว่าอาคมเข้าดลใจ | ||
| พระตรัสห้ามความเสียทั้งสองข้าง | จะถากถางเถียงกันหาควรไม่ | ||
| อันนางสุวิญชานั้นไซร้ | พี่ขอชีวิตไว้ก็ตามที | ||
| แต่ตัวมันนั้นอัปมังคล | เร่งขับไปให้พ้นจากกรุงศรี | ||
| อย่าให้มานั่งเฝ้าเซ้าซี้ | แม้นช้าชีวีจะบรรลัย | ||
| ฯ ๘คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาได้ฟังนั่งร้องไห้ | ||
| โศกศัลย์รันทดสลดใจ | ทรามวัยไม่เป็นสมประดี | ||
| ดังหนึ่งจะพินาศขาดจิต | สุดสิ้นชีวิตลงกับที่ | ||
| นางเข้ากอดบาทาพระสามี | โศกีครวญคร่ำร่ำไร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระทูลกระหม่อมแก้ว | จะขับเมียเสียแล้วหรือไฉน | ||
| พระเคืองข้องน้องผิดด้วยสิ่งไร | ภูวไนยไม่ทรงพระเมตตา | ||
| ถึงกระไรไต่ถามความสักนิด | ถ้าแม้นผิดแล้วก็ตามแต่โทษา | ||
| นี่ทรงฤทธิ์ไม่พิจารณา | ชะรอยกรรมเวราของน้องนี้ | ||
| เมื่อเมียได้กุมภามาเลี้ยงไว้ | ก็จากเวียงชัยไปในไพรศรี | ||
| มาเป็นบาทบริจาพระสามี | พอประจบครบปีจะจำไกล | ||
| เที่ยงนางกลางคืนถึงเพียงนี้ | จะเดินดงพงพีกระไรได้ | ||
| ตัวเป็นผู้หญิงจะวิ่งไป | หนทางกลางไรพนาดร | ||
| โปรดให้เมียพักแต่สักคืน | พออยู่ไฟอยู่ฟืนเสียหน่อยก่อน | ||
| ร่ำพลางนางคิดอาวรณ์ | สองกรข้อนทรวงเข้าโศกา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ฟังคำที่ร่ำว่า | ||
| ยิ่งมีโมโหโกรธา | จึงร้องด่าสำทับขับไป | ||
| เหม่อีอัปรีย์ทรลักษณ์ | มึงอย่างพักมานั่งร้องไห้ | ||
| ยังขืนขัดผัดวันขออยู่ไฟ | หัวจะขาดปลิวไปไม่ทันรู้ | ||
| อย่าว่าแต่คืนหนึ่งถึงครู่เดียว | พระอินทร์มาเขียวเขียวไม่ให้อยู่ | ||
| เร่งไปให้พ้นบ้านเมืองกู | ค่ำมืดไม่รู้ไม่เข้าใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์ฟังว่าน่าหมั่นไส้ | ||
| เจ็บจิตสุดที่จะคิดไป | น้อยใจเป็นพ้นคณนา | ||
| ถึงโศกีก็ไม่มีใครเอ็นดู | ยังจะอยู่เอาอะไรให้เร่งว่า | ||
| จึงวิ่งเข้าแย่งยุดฉุดมือมา | ไปพาราเราเถิดนะทรามวัย | ||
| เมื่อพลัดพรากจากเมืองมาคราวแล้ว | แต่หม่อมแม่กับอีแมวยังมาได้ | ||
| ดึกดื่นคืนค่ำค่อยคลำไป | ร้องไห้ไยให้เสียน้ำตา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาตอบคำวิฬาร์ว่า | ||
| ข้าก็รู้อยู่สิ้นแล้ววิฬาร์ | ท่านไม่เมตตาจึงขับไป | ||
| เมื่อความผิดนิดหนึ่งก็ไม่มี | คิดแค้นเท่านี้จึงร้องไห้ | ||
| วิฬาร์อย่าเพ่อคลาไคล | ทรามวัยวิ่งกลับคืนมา | ||
| โอ้ | |||
| ๏ ยอกรก้มกราบกับตีนผัว | พ่อทูนหัวจงโปรดเกศา | ||
| ซึ่งว่าโทษตัวน้องชั่วช้า | พระจงพิจารณาให้แจ้งใจ | ||
| นี่ไม่ถามความเลยมาเฉยเสีย | พระจะดูหน้าเมียก็หาไม่ | ||
| ว่าพลางนางทรงโศกาลัย | อรไทพ่างเพียงจะมรณา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์น้อยใจเป็นนักหนา | ||
| คิดแค้นแล่นไปด้วยโกรธา | ฉุดมือนางมาแล้วว่าไป | ||
| คิดบ้างเป็นไรในสวนขวัญ | หนียักษ์ตัวสั่นดังลูกไก่ | ||
| จักแหล่านชีวันจะบรรลัย | ยังแต่ลมหายใจอยู่รวยรวย | ||
| ไม่พบเราบบ่าวนายก็ตายแล้ว | พูดอ้อนวอนแมวให้ช่วยด้วย | ||
| ที่นี้แทนคุณให้ที่ไม่ม้วย | ทั้งเจ้าข้ารื่นรวยบริบูรณ์ | ||
| เสียแรงรักภักดีสุจริต | แทบจะเอาชีวิตมาสาบสูญ | ||
| อนิจจาอาภัพลับเหมือนปูน | หม่อมเมียท่านทูลท่านเชื่อกัน | ||
| ว่าพลางพานางลีลาศ | ลงจากปราสาทเฉิดฉัน | ||
| วิฬาร์นำหน้าจรจรัล | นางโศกศัลย์ดำเนินเดินมา | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ ทยอย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ผันแปรแลหา | ||
| เห็นโฉมงามเดินตามหลังวิฬาร์ | ให้คืนคิดเมตตาอาลัย | ||
| ความรักหักห้ามโมโหหาย | แสนเสียดายไม่กลั้นน้ำตาได้ | ||
| นี่เนื้อว่าเวรกรรมได้ทำไว้ | จึงเกิดเข็ญเป็นไปถึงเพียงนี้ | ||
| เสียทีเพียรพากลำบากกาย | ปิ้มจะตายเพราะมิ่งมารศรี | ||
| ได้สมสองครองกันพอครบปี | จะมาจากอกพี่ไปทั้งรัก | ||
| นิจจาเอ๋ยเดินพลางร้องไห้พลาง | สงสารนางนักหนาน่าอกหัก | ||
| จะเรียกกลับอับอายเสนานัก | พระทรงศักดิ์อักอ่วนป่วนใจ | ||
| ไม่มีสุขผุดลุกผุดนั่ง | ร้อนรุมคลุ้มคลั่งดังเพลิงไหม้ | ||
| แต่รัญจวนครวญคร่ำร่ำไร | ภูวไนยโศกาจาบัลย์ | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชามิใคร่จะผายผัน | ||
| กันแสงพลางทางลงอัฒจันทร์ | แว่วเสียงโศกศัลย์สะดุ้งใจ | ||
| จึงยืนยั้งฟังศัพท์สำเนียง | ได้ยินเสียงผัวรักร้องไห้ | ||
| นางตีอกฟกช้ำร่ำไร | ทรามวัยวิ่งกลับคืนมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| โอ้ | |||
| ๏ ยอกรกราบลงกับเบื้องบาท | ใจจะขาดด้วยความเสน่หา | ||
| เป็นกรรมตามสนองทั้งสองรา | พระจะทรงโศกาไปว่าไร | ||
| ธรรมดาจารีตเป็นกษัตริย์ | โองการตรัสขาดแล้วไม่คืนได้ | ||
| น้องนี้จะขอลาคลาไคล | สัญจรไปตามกรรมได้ทำมา | ||
| นางยกบาทผัวขึ้นทูลเกศ | ชลเนตรไหลหลั่งทั้งซ้ายขวา | ||
| ตีอกชกเกล้าเข้าโศกา | ซบกับบาทาพระสามี | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | เจ็ดนางร้อนใจดังไฟจี้ | ||
| เห็นนางสุวิญชามาโศกี | กลัวว่าเขาจะดีกันผัวเมีย | ||
| คิดวิตกอกไหม้ไส้ขม | ในอารมณ์นั้นจะใคร่ให้ขับเสีย | ||
| จึงชี้หน้าว่านางช่างทำเยีย | มาอะลิ้มอะเหลี่ยภูวไนย | ||
| อีหน้าด้านมารยาพิรากวน | ทำกระบวนชวนผัวให้ร้องไห้ | ||
| จะพะนึงพะเน้าเอาอะไร | ไปไปแล้ววกหกกลับมา | ||
| คนกระลีกระลำส่ำเสีย | ให้เพื่อนเมียพลอยอายขายหน้า | ||
| ไสหัวไปให้พ้นพารา | มึงอย่ามายียวนกวนพระทัย | ||
| บ้างว่าน่าเกลียดเคียดค้อน | ขอดค่อนงอนว่าไม่ปราศรัย | ||
| บ้างยั่วเย้าเฝ้าทูลตะบอยไป | ปรานีมันไยอีใจคด | ||
| แต่เลือดร้ายในกายยังกอกเสีย | มานั่งนับกับเมียที่อัปยศ | ||
| ชั่วชาติอุบาทว์ไม่เป็นรส | เชิญเสด็จทรงยศเข้าห้องใน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์ฟังว่าไม่อดได้ | ||
| ความโกรธกระโดดโลดเข้าไป | แล้วจูงมืออรไทออกมา | ||
| ทำลอยหน้าลอยตาพาที | ตัวเป็นทาสีแล้วมิสา | ||
| ทั้งโหดไร้ไม่มีปัญญา | ขืนจะขึ้นแข่งหน้าว่าไม่ฟัง | ||
| รูปร่างของตัวก็ชั่วช้า | แล้วหยูกยาอาคมก็ไม่ขลัง | ||
| สารพัดวิบัติให้ผัวชัง | ถึงจะโปรดปรานมั่งก็เจ็บใจ | ||
| ช่างอาภัพอับจนหม่นหมอง | จะผินพึ่งพี่น้องก็ไม่ได้ | ||
| จึงต้องจ้างช่างทำท่อนไม้ | ไปซ่อนใส่สมหวังแล้วครั้งนี้ | ||
| เอออะไรที่ไหนมานั่งวอน | ให้เขาค่อนแคะว่าน่าบัดสี | ||
| มิใช่แม่แก่เฒ่าเมื่อไรมี | แต่เป็นม่ายเพียงนี้ไม่น้อยใจ | ||
| มันไม่ต้องอารมณ์สมประกอบ | ผิดชอบชั่วดีมีผัวใหม่ | ||
| เที่ยงนางกลางคืนแม่มาไป | กลัวอะไรมือค่ำกรรมของตัว | ||
| จะเที่ยวหาหมอยามนต์ดล | ทำเสน่ห์กลซนหาผัว | ||
| ให้มันขลังทั้งรักทั้งกลัว | ขึ้นนั่งซังตั้งตัวเป็นผู้ดี | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุริยาเคืองเคียดมันเสียดสี | ||
| จึงชี้หน้าว่าอีวิฬารี | มึงพาทีเถียงแทนช่วยแค้นเคือง | ||
| กูจะตอบสำนวนไม่ควรคู่ | เหมือนเอาทองไปถูรู่กระเบื้อง | ||
| ไสหัวมึงไปเสียจากเมือง | จะยักเยื้องอย่างไรเขาไม่ฟัง | ||
| อีแมวอุบาทว์ชาติขี้ข้า | มึงไม่รู้ว่าฟ้าจะเคืองหลัง | ||
| แม้นเจ้าข้ามิไปให้พ้นวัง | กูจะสั่งให้เขาไสคอไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์ฟังว่าน่าหมั่นไส้ | ||
| จะออมอดลดละมันทำไม | ตายไหนตายไปคงให้ลือ | ||
| จึงร้องว่าแน่คะหม่อมเมียเอก | อภิเษกขึ้นใหม่เมื่อไรหรือ | ||
| บัญชาแทนรับสั่งนั่งชี้มือ | มาออกหน้าค่าชื่อไม่อายใจ | ||
| เจ้าสิคนสบเสียนางเมียต้น | จะฆ่าผู้ฟันคนก็ทำได้ | ||
| มานั่งขับเหนื่อยปากลำบากใจ | เอาจับใส่หีบฝังเสียทั้งเป็น | ||
| อีพวกเหล่าเจ้าเสน่ห์เล่ห์กล | แต่ละคนใจคอไม่พอเล่น | ||
| มันตาร้อนตาไฟมิใช่เย็น | เอาคนฝังทั้งเป็นอีอัปรีย์ | ||
| แม้นเจ้าข้าพากันวายชนม์ | ถ้ารู้ถึงสิงหลยักษี | ||
| เหมันต์ก็จะหมดทั้งธานี | อสุรีเคี้ยวเล่นเป็นผักไป | ||
| ว่าพลางพานางจรลี | ลงจากปราสาทศรีที่อาศัย | ||
| ออกนอกพระทวารวังใน | เดินไปตามถนนธานี | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นออกมานอกประตูเมือง | พอเรื่อเรืองรุ่งแจ้งแสงสี | ||
| วิฬาร์ทูลความตามคดี | เมื่อเทวีประสูติพระโอรส | ||
| ข้าระวังนั่งเฝ้าแฝงประตู | แอบดูเห็นแน่แก่ตาหมด | ||
| อีทั้งเจ็ดทุจริตคิดคด | ลักองค์โอรสใส่หีบมา | ||
| ข้าวิ่งแอบอ้อมด้อมตามไป | พอถึงต้นไทรสาขา | ||
| มันยั้งหยุดขุดหลุมที่ฉายา | แล้วฝังหีบรีบมาเสียทันที | ||
| ข้าไปดูที่ฝังสังเกตไว้ | จำได้สันทัดสนัดสนี่ | ||
| ทูลพลางทางรีบจรลี | นำนางเทวีไปทันใด | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงพระไทรสาขา | วิฬาร์จึงแจ้งแถลงไข | ||
| มันฝังองค์พระโอรสไว้ | อยู่ใต้ร่มไทรต้นนี้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางสุวิญชาโฉมศรี | ||
| ดีใจเป็นพ้นพันทวี | ก็ขุดลงตรงที่ฝังไว้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ล่องเรือ | |||
| ๏ ขุดไปไม่พบพระโอรส | นางกำสรดดิ้นโดยโหยไห้ | ||
| สะอื้นพลางทางถามวิฬาร์ไป | เหตุไฉนไม่พบพระลูกยา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์หลากใจเป็นนักหนา | ||
| หรือผีสางบังหูบังตา | มาหลอนหลอกหยอกข้าดอกกระมัง | ||
| คิดแล้วนางแมวยกมือไหว้ | ขอให้ได้พระกุมารเหมือนใจหวัง | ||
| เทพไทองค์ใดที่กำบัง | จะแต่งตั้งสังเวยที่ร่มไทร | ||
| ข้าจะรำฉุยฉายถวายมือ | ให้เลื่องลือว่าแมวนี้รำได้ | ||
| บนพลางทางแลดูไป | ก็เห็นหีบที่ในหลุมนั้น | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา ฉุยฉาย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาปรีดิ์เปรมเกษมสันต์ | ||
| เอาหีบมาเปิดฝาดูพลัน | จึงเห็นโอรสนั้นเป็นชาย | ||
| ยกพระลูกน้อยขึ้นใส่ตัก | พิศพักตร์ลักขณาเฉิดฉาย | ||
| ทรงศรพระขรรค์สำหรับกาย | ทั้งม้ารถพรรณรายก็มีมา | ||
| นางแสนพิศวาสพระลูกรัก | จูบพักตร์แล้วทูนเหนือเกศา | ||
| พ่อคุณทูนหัวของมารดา | จะหาไหนได้เหมือนเช่นนี้ | ||
| แม่คิดว่าอาสัญบรรลัย | ตามจากแม่ไปไม่เห็นผี | ||
| ร่ำพลางทางทรงโศกี | มารศรีพ่างเพียงจะขาดใจ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ ครั้นสร่างโศกาปรึกษาแมว | เราพบลูกแล้วจะไปไหน | ||
| หรือจะกลับหลังยังเวียงชัย | ทูลให้ทราบเบื้องบาทา | ||
| เมียท่านทำการถึงเพียงนี้ | จะดูพระสามีพิพากษา | ||
| เจ้าจะเห็นอย่างไรนางวิฬาร์ | จงว่ามาให้แม่แจ้งใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์เคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| จึงตอบวาจาไปทันใด | ช่างไม่อายแก่ใจหรือไรนา | ||
| เขาขับหนีตีด่าว่าตัวชั่ว | ยังแค่นคิดถึงผัวจะไปหา | ||
| ไม่เจ็บจำน้ำคำอีสุริยา | มันด่าว่านั้นน้อยไปเมื่อไร | ||
| ข้างผัวก็หลงงงงวย | เมียว่าไรว่าด้วยไม่ถามไถ่ | ||
| จะขืนไปบอกเล่าเขาทำไม | เขาจะเชื่อที่ไหนว่าลูกตน | ||
| เมื่อรักผัวไม่คิดถึงตัวแล้ว | อีแมวก็จะในไพรสณฑ์ | ||
| จะอุตส่าห์สัญจรซอนซน | กว่าจะถึงสิงหลเวียงชัย | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาฟังแจ้งแถลงไข | ||
| แต่วิฬาร์ยังว่าน่าอายใจ | คิดมานะพระทัยขึ้นมา | ||
| จำจะผายผันสัญจร | ไปนครสิงหลยักษา | ||
| แต่ขัดสนจนเสียด้วยมรคา | ไม่รู้ว่าตำแหน่งแห่งใด | ||
| นางจึงยอกรขึ้นเพียงผม | บังคมเทวาในป่าใหญ่ | ||
| เชิญช่วยนำข้าคลาไคล | ไปถึงเวียงชัยฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ยานี | |||
| ๏ มาจะกล่าวบทไป | ถึงท้าวสหัสนัยน์รังสรรค์ | ||
| อาสน์อ่อนร้อนเร่าดังไฟกัลป์ | เร่งคิดอัศจรรย์เป็นพ้นนัก | ||
| จึงเล็งทิพเนตรลงมา | เห็นนางสุวิญชามีศักดิ์ | ||
| มาประสบพบองค์โอรสรัก | จะไปสู่สำนักพระบิดา | ||
| จำกูจะให้นำไป | ถึงกรุงไกรสิงหลยักษา | ||
| อย่าให้นางทนทุกข์ทรมา | เวทนาแก่องค์พระกุมาร | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ จึงตรัสสั่งพระวิษณุกรรม์ | จงจรจรัลไปในไพรสาณฑ์ | ||
| พานางสุวิญชานงคราญ | ไปส่งถึงสถานธานี | ||
| ฯ ๒คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พระวิษณุกรรม์เรืองศรี | ||
| รับสั่งท้าวสุชัมบดี | บังคมลาจรลีลงมาพลัน | ||
| ฯ ๒คำ ฯ กลม | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงมีวาจา | เจ้าอย่าวิโยคโศกศัลย์ | ||
| เราจะมาพานางจรจรัล | ไปส่งยังเขตขัณฑ์เวียงชัย | ||
| ฯ ๒คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชานารีศรีใส | ||
| ชื่นชมเปรมปรีดิ์ดีใจ | ยอกรบังคมไหว้เทวา | ||
| แล้วอุ้มองค์โอรสยศยง | วางลงยังราชรถา | ||
| พระวิษณุกรรมขับมา | วิฬาร์นำหน้าคลาไคล | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงหิมวันต์บรรพต | ให้หยุดรถอยู่ริมภูเขาใหญ่ | ||
| เห็นน้ำพุจากผาชลาลัย | อรไทยินดีปรีดา | ||
| จึงยกเอาลูกน้อยกลอยใจ | ลงจากพิชัยรถา | ||
| พาไปสระสรงคงคา | วิฬาร์ก็พาเสด็จไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ลงสรง | |||
| ๏ ครั้นชำระสระสรงพระลูกแล้ว | คลาดแคล้วจากเชิงเขาใหญ่ | ||
| นางเปลื้องภูษาผ้าสไบ | ผูกเป็นเปลให้เจ้าไสยา | ||
| กอดจูบลูกแก้วแล้วเชยชม | ค่อยวางลงบรรทมในเปลผ้า | ||
| นอนเสียเถิดพ่ออย่าโศกา | ปลอบพลางกัลยาก็กล่อมไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| กล่อม | |||
| ๏ เจ้านอนไปเถิดแม่จะกล่อม | เจ้างามละม่อมจะไกวให้ | ||
| ขวัญอ่อนอย่าอ้อนอาลัย | หลับไปเถิดพ่ออย่าโศกา | ||
| แม่ลูกมีกรรมลำบาก | ต้องตกยากนอนหลับกับเปลผ้า | ||
| แม้นอยู่เวียงวังพระบิดา | จะไสยาอู่ทองรององค์ | ||
| ตื่นบรรทมนางนมจะแซ่ซ้อง | ค่อยประคององค์วางในอ่างสรง | ||
| ครั้นเห็นลูกหลับไปดังใจจง | บังอรเอนองค์ลงไสยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นพระสุริยันตะวันชาย | แสงสายบ่ายบังพฤกษา | ||
| พระกุมารก็ฟื้นตื่นนิทรา | กัลยาโอบอุ้มเอามาพลัน | ||
| โลมลูบจูบกอดให้กินนม | เชยชมรับมิ่งสิ่งขวัญ | ||
| แล้ววางองค์ลงเหนือรถสุวรรณ | วิษณุกรรม์นำหน้าพาจรลี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ สุริยาสายัณห์ลงรอนรอน | ก็ถึงพระนครท้าวยักษี | ||
| เทวาลากลับไปทันที | เทวีอุ้มลูกคลาไคล | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เดินพลางทางทรงโศกา | ชลนาแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| ชวนนางวิฬาร์ผู้ร่วมใจ | รีบไปเฝ้าองค์พระบิดา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นถึงท้องพระโรงรูจี | เทวีคิดเกรงท้าวยักษา | ||
| ยั้งหยุดยืนแฝงทวารา | ตรึกตรองกิจจาจะเพ็ดทูล | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสิงหลราชนเรนทร์สูร | ||
| สถิตเหนือแท่นรัตน์เรืองจำรูญ | พร้อมมูลข้าเฝ้าท้าวพระยา | ||
| ว่าขานกิจการนคเรศ | ให้เขม่นนัยน์เนตรทั้งซ้ายขวา | ||
| พระยายักษ์นิ่งนึกตรึกตรา | จะได้ลาภหรือว่าจะได้ทุกข์ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ แต่ก่อนร่อนชะไรไม่เคยเป็น | จะพูดเล่นเจรจาไม่ผาสุก | ||
| จึงตรัสเรียกกระดานหมากรุก | มาทรงเล่นกับมุขมนตรี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางสุวิญชาโฉมศรี | ||
| แอบประตูดูองค์อสุรี | เห็นท่วงทีเริงรื่นชื่นบาน | ||
| อุ้มองค์ลูกน้อยกลอยใจ | ร้องไห้เข้าไปตรงหน้าฉาน | ||
| ก้มเกล้าประณตบทมาลย์ | นงคราญซวนซบสลบลง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสิงหลเร่งคิดพิศวง | ||
| แปลกนางสุวิญชาโฉมยง | ด้วยพระองค์ชราหูตามัว | ||
| พิศดูเอ๊ะนี่มีธิดา | เป็นไรมาสลบซบหัว | ||
| ท้าวค่อยประคองต้องตัว | ลูบทั่วสรรพางค์นางเทวี | ||
| ตรัสเรียกเท่าไรก็ไม่ขาน | พระยามารเรียกหมออึงมี่ | ||
| พลางทรงนวดฟั้นให้ทันที | เสนีนิ่งได้ไม่ช่วยกู | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นนางค่อยฟื้นสมประดี | เทวียังทรงกันแสงอยู่ | ||
| ประคอบปลอบเล้าโลมนางโฉมตรู | จะใคร่รู้เนื้อความจึงถามไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ จอมเอยจอมขวัญ | เหมันต์เกิดเข็ญเป็นไฉน | ||
| หรือผัวเจ้าเขาทำให้ช้ำใจ | ได้ลำบากยากไร้อับจน | ||
| มีธุระอะไรนะบังอร | จึงมายังนครสิงหล | ||
| เหตุไรไม่มีรี้พล | มาแต่สองคนกับอีแมว | ||
| นี่ลูกเต้าของใครได้ไหนมา | ดูหน้าตายิ้มยิ่งผ่องแผ้ว | ||
| ยังเล็กนักได้สักกี่เดือนแล้ว | ลูกแก้วจงแถลงแจ้งกิจจา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาบังคมก้มหน้า | ||
| นางคิดพิดทูลแต่อัชฌา | ด้วยกลัวจะโกรธาพระสามี | ||
| เดิมยกลูกให้พระไชยเชษฐ์ | ไปจากนคเรศยักษี | ||
| เธอร่วมเรียงเลี้ยงลูกไว้ดิบดี | มิได้มีอาธรรม์อันใด | ||
| เมื่อจะเกิดเหตุนั้นลูกครรภ์แก่ | เป็นกรรมแต่หนหลังมาซัดให้ | ||
| เขาบอกข่าวช้างเผือกที่ในไพร | พระสามีดีใจไปคล้องช้าง | ||
| ข้าคลอดลูกชายภายหลัง | เพื่อนเมียมานั่งอยู่รอบข้าง | ||
| สมคะเนเล่ห์กลอีเจ็ดนาง | จะแกล้งล้างผลาญข้าให้บรรลัย | ||
| เอาลูกน้อยนี้ใส่ในหีบผ้า | ให้ทาสาไปฝังนอกกรุงใหญ่ | ||
| พอผัวกลับมาถึงเวียงชัย | มันเอาท่อนไม้ไปให้ดู | ||
| พระไชยเชษฐ์นั้นไม่ทันคิด | จำจิตขับข้าด้วยอดสู | ||
| อันที่ฝังลูกยาวิฬาร์รู้ | มาขุดดูได้ลูกที่ต้นไทร | ||
| เดชะสมภารพระหลานขวัญ | เทวัญเอารถลงมาให้ | ||
| แล้วช่วยพามาส่งถึงกรุงไกร | จงทราบใต้บาทบงสุ์พระทรงฤทธิ์ | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสิงหลฟังเรื่องให้เคืองจิต | ||
| จึงว่าชะไชยเชษฐ์ช่างไม่คิด | ถึงชอบผิดก็ควรจะบอกกู | ||
| น้อยหรือขับไล่ไม่ไว้หน้า | ให้พ่อตาอัปยศอดสู | ||
| มันเชื่อฤทธิ์จะลองฝีมือดู | เห็นว่ากูแก่เฒ่าจะเข้าโลง | ||
| เมื่อเมียมันพาลผิดริษยา | เห็นตัวอยู่อิจฉาโต้งโต้ง | ||
| อ้ายคนหลับตาบ้าลำโพง | โป้งโย้งพูดฮึกไม่ตรึกตรา | ||
| งมเงาแล้วมิหนำซ้ำจองหอง | ถ้าอยู่ใกล้จะถองให้หนักหนา | ||
| จำจะหามาถามตามกิจจา | มันจะว่าอย่างไรจะใคร่ฟัง | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | วิฬาร์แค้นคิดถึงความหลัง | ||
| เห็นนางทูลปิดงำอำปลัง | นี่เนื้อยังรักผัวกลัวจะเคือง | ||
| วิฬาร์ขัดใจเข้าไปทูล | ว่านางเล่าเค้ามูลไม่สิ้นเรื่อง | ||
| พอผัวเขากลับมาถึงเมือง | มันยักเยื้องยุยงให้โกรธา | ||
| หม่อมเมียว่าไรก็เป็นนั่น | สารพันแคะไค้พิไรว่า | ||
| ไม่ไต่ถามความพิจารณา | สั่งให้เข่นฆ่านางโฉมตรู | ||
| หากสี่พี่เลี้ยงมาขอไว้ | ทั้งเจ้าข้าจึงได้รอดอยู่ | ||
| เธอว่ายับขับเสียไม่เลี้ยงดู | นางผัดพอเช้าตรู่จะจรลี | ||
| เธอยิ่งกราดเกรี้ยวเคี่ยวเข็ญ | ถ้าขืนอยู่ก็เห็นจะเป็นผี | ||
| ข้าจึงพานางมาในราตรี | ปิ้มชีวีจะม้วยด้วยเจ็บใจ | ||
| ทั้งผัวเมียเขารุมกันด่าว่า | หาเกรงใต้บาทาผ่านฟ้าไม่ | ||
| ขันศึกฮึกฮักเป็นพ้นไป | ว่าจะสู้ภูวไนยไม่พรั่นพรึง | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสิงหลพิโรธโกรธขึ้ง | ||
| ลุกขึ้นกระทืบบาทตวาดอึง | สุวิญชาดูดู๋มึงไม่บอกกู | ||
| ช่างรักผัวกระไรกระนี้หนอ | ให้หม่อมพ่อไชยเชษฐ์มาลบหลู่ | ||
| ความโตความใหญ่พ่อไม่รู้ | หากวิฬาร์ลูกกูมันเจ็บอาย | ||
| อัปยศครั้งนี้เป็นที่สุด | ถึงชีวิตม้วยมุดก็ไม่หาย | ||
| มันดูหมิ่นถิ่นแคลนกูมากมาย | จะปล่อยแก่แก้อายไม่เกรงมัน | ||
| ชะอ้ายไชยเชษฐ์ลูกเขย | คงได้เล่นกันเหวยอย่าคึกขัน | ||
| ขัดเขมรเป็นเกลียวเคี้ยวฟัน | โจนจากแท่นสุวรรณทันที | ||
| เขี้ยวงอกออกข้างละสามวา | นัยนาดังแสงพระสุริย์ศรี | ||
| สำแดงแผลงฤทธิ์อสุรี | เพียงพื้นปัถพีจะโทรมทรุด | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ คุกพาทย์ | |||
| ๏ จับศรสะพายแล่งแกว่งตระบอง | ขึ้นฆาตกลองสำคัญชั้นสุด | ||
| แล้วให้เตรียมทัพสำหรับยุทธ์ | กู้จะไปรบมนุษย์เมืองเหมันต์ | ||
| พระยามารมายังเกยลา | ยืนท่าพหลพลขันธ์ | ||
| ร้องเรียกโยธีนี่นัน | หุนหันฮึดฮัดขัดใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ ครั้นพร้อมเสร็จเสด็จขึ้นทรงรถ | ยกอสุรจัตุรงค์ทัพใหญ่ | ||
| กระทืบบาทเร่งราชรถชัย | ออกไปจากวังไม่รั้งรอ | ||
| ฯ ๒คำ ฯ กราว | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาขวัญหนีดีฝ่อ | ||
| วิ่งตะกายน้ำลายไม่ติดคอ | กลัวพ่อจะไปฆ่าพระสามี | ||
| ตามยุดท้ายรถกำสรดพลาง | นวลนางร้องทูลท้าวยักษี | ||
| จงผินพักตรามาพาที | เทวีครวญคร่ำร่ำวิงวอน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| โอ้ปี่ | |||
| ๏ โอ้ว่าพระองค์ผู้ทรงเดช | โปรดเกศลูกมั่งจงยั้งก่อน | ||
| พระจะยกพลมารไปราญรอน | ทำโทษโรธกรณ์กับเขาไย | ||
| คิดเห็นเป็นกรรมลูกเที่ยงแท้ | จึงได้แต่ทุกข์ทนหม่นไหม้ | ||
| พลัดพรากพ่อแม่มาเดินไพร | นี่หากได้พึ่งบาทพระบิดา | ||
| ชีวิตจึงรอดไม่วอดวาย | ทั้งกุมารหลานชายเป็นสุขา | ||
| ครั้งนี้มิทรงพระเมตตา | ก็จะเป็นเวราแก่ข้านี้ | ||
| ประทานโทษเถิดทูลกระหม่อมเอ๋ย | อย่าไปเลยจงคืนเข้ากรุงศรี | ||
| ให้เห็นแก่นัดดาของภูมี | เทวีทูลพลางทางโศกา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ บัดนั้น | ท้าวสิงหลให้คิดเสนหา | ||
| เหลียวมาปลอบพระธิดา | อย่าโศกาอาวรณ์ร้อนรน | ||
| จึงมีสิงหนาทประกาศร้อง | ให้เลิกกองทัพกลับเข้าสิงหล | ||
| ง่าหัตถ์รับนางนฤมล | ขึ้นนั่งบนรถาแล้วพาที | ||
| พ่อขัดใจไชยเชษฐ์มันดูแคลน | เจ็บแค้นดังหัวอกเป็นฝี | ||
| หากสงสารหลานน้อยคนนี้ | ดับโมโหเสียทีเอาบุญไว้ | ||
| ตรัสพลางทางเหลือบเห็นวิฬาร์ | รื้อคิดโกรธาขึ้นมาใหม่ | ||
| ชังลูกชังหลานงุ่นง่านใจ | แกว่งตระบองร้องให้กลับรถ | ||
| เสนาเร่งขับพลขันธ์ | จะไปเหยียบเหมันต์ให้แหลกหมด | ||
| กูจะได้แก้แค้นแทนทด | กระทืบบาทเร่งรถรีบไป | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชาอกสั่นหวั่นไหว | ||
| วอนว่าพาทีรี้พิไร | พระบิตุรงค์จงได้เมตตา | ||
| หลานน้อยนี้จะเป็นกำพร้าพ่อ | ลูกขอประทานโทษา | ||
| ทูลพลางนางซบพักตรา | กอดบาทพระบิดาโศกาลัย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท้าวสิงหลกลับคิดพิสมัย | ||
| จึงโลมเล้าธิดายาใจ | อย่าร้องได้ไปเลยนะลูกรัก | ||
| พ่อคิดแค้นขึ้นมาก็งุ่นง่าน | จะใคร่ยกพลมารไปหาญหัก | ||
| อันโทษตัวผัวเจ้ามันฮึกฮัก | จะยกให้หลานรักอย่าทุกข์ร้อน | ||
| แล้วดำรัสตรัสร้องเปรยไป | ลูกหลานมันร้องไห้ไม่หยุดหย่อน | ||
| ให้กลับพหลพลนิกร | คืนเข้าพระนครมิทันช้า | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงขึ้นบนปราสาท | เสด็จนั่งเหนืออาสน์อันเลขา | ||
| เชยชมพระราชนัดดา | เป็นที่เสน่หาพระยายักษ์ | ||
| ขนานนามประทานหลานชาย | ชื่อนารายณ์ธิเบศร์สมศักดิ์ | ||
| ให้พี่เลี้ยงนางนมพร้อมพรัก | บำรุงรักษ์พระกุมารสำราญใจ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ตอนที่ ๒ พระไชยเชษฐ์ตามนางสุวิญชา
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ฝ่ายท้าวธรรมึกเป็นใหญ่ | ||
| แต่ละห้อยคอยหาพระดนัย | มิได้เป็นสุขสักเวลา | ||
| จึงตรัสกับมเหสีพี่ทุกข์นัก | ลูกรักของเรานี้ไปป่า | ||
| จะคล้องช้างอยู่กลางพนาวา | หรือกลับมายังไม่ถึงธานี | ||
| สงสารสุวิญชาทรงครรภ์ | จะเป็นฉันใดอยู่ไม่รู้ที่ | ||
| จำจะไปเยี่ยมเยือนเทวี | ให้แจ้งเหตุร้ายดีประการใด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ จึงชวนพระมเหสีบังอร | บทจรจากแท่นที่อาศัย | ||
| สองกษัตริย์ลีลาคลาไคล | เสด็จไปปราสาทพระโอรส | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นถึงแลดูประตูปิด | ประหลาดจิตเงียบเชียบไปไหนหมด | ||
| พระดำเนินเดินเที่ยวเลี้ยวลด | รอบปราสาทโอรสด้วยสงกา | ||
| จึงร้องเรียกสุวิญชานารี | ชนนีบิตุรงค์ลงมาหา | ||
| หลับไปหรือไรไม่พูดจา | แก้วตาเปิดรับพ่อฉับไว | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ทอดถอนใจใหญ่ | ||
| แว่วเสียงพระชนกก็ตกใจ | พรั่นตัวกลัวภัยเป็นสุดคิด | ||
| ด้วยขับไล่สุวิญชาบังอร | ไม่ทูลก่อนทำตามอำเภอจิต | ||
| กลัวความทั้งนี้จะมิมิด | ทรงฤทธิ์อ้นอั้นตันใจ | ||
| จึงค่อยย่องมามองเมียงดู | เปิดประตูมิใคร่จะออกได้ | ||
| จำเป็นก็จำออกไป | บังคมไหว้ทั้งสองกษัตรา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบิตุรงค์เห็นองค์โอรสา | ||
| สะกิดบอกมเหสีโสภา | หน้าตาลูกเราเศร้าโศกไป | ||
| ดูท่วงทีกิริยาไม่สบาย | ดีร้ายชะรอยจะเจ็บไข้ | ||
| จึงตรัสถามไปพลันทันใด | เจ้ามาถึงเมื่อไรนะลูกยา | ||
| ซึ่งว่าช้างเผือกพลายพัง | ได้พบมั่งหรือไม่ที่ในป่า | ||
| จริงเหมือนหนังสือเขาถือมา | หรือว่าเหตุผลประการใด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ทูลแจ้งแถลงไข | ||
| ลูกอุตส่าห์จัดแจงเสียแรงไป | เชือกบาศเชือกใช้ก็เตรียมครบ | ||
| หมายใจว่าจะได้ช้างสำคัญ | ดันดั้นในป่าเที่ยวหาจบ | ||
| ชั้นแต่รอยเท้าก็ไม่พบ | พอครบเจ็ดวันก็รีบมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สองกษัตริย์สุริย์วงศ์นาถา | ||
| จึงตรัสแก่องค์พระลูกยา | สงสารสุวิญชาทรามวัย | ||
| นางไกลชนนีบิตุรงค์ | เจ้าจงเอาใจดูหูใส่ | ||
| จะคลอดลูกคลอดเต้าไม่เข้าใจ | ให้นอนฟืนนอนไฟอย่าใจเบา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์บังคมก้มเกล้า | ||
| คิดเสียดายสุวิญชานงเยาว์ | จึงทูลเล่าเนื้อความตามกิจจา | ||
| ลูกไปป่ามาถึงไม่ทันนั่ง | เห็นท่อนไม้มาตั้งอยู่ตรงหน้า | ||
| เจ็ดนางว่าลูกสุวิญชา | เกิดมาเป็นกลีไม่ดีจริง | ||
| สองพระองค์จงโปรดปรานี | ลูกนี้อับอายชายหญิง | ||
| เขาว่าขานมีพยานอ้างอิง | พิเคราะห์ความจริงข้างสุริยา | ||
| ให้เคืองขัดอัดอั้นตันจิต | สุดคิดที่จะงดอดโทษา | ||
| จึงขับไล่นางไปกับวิฬาร์ | ออกนอกทวาราแต่คืนนี้ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระบิตุรงค์ธิราชเรืองศรี | ||
| ได้ฟังคั่งแค้นแสนทวี | จึงว่าแก่มเหสีทรามวัย | ||
| ดูดู๋ไชยเชษฐ์ทะนงศักดิ์ | ฮึกฮักไม่บอกเล่าเราผู้ใหญ่ | ||
| ที่ไหนมั่งลูกคนเป็นท่อนไม้ | ผิดเพศวิสัยในแผ่นดิน | ||
| เราก็ได้มีเมียมาเสียหนัก | จนฟันหักหัวหงอกไปหมดสิ้น | ||
| เกิดมาแก่จะตายพึ่งได้ยิน | ช่างเชื่อลิ้นหลงกลคนมารยา | ||
| ชิชะขอบใจไชยเชษฐ์ | ฤทธิ์เดชสุงสิงหยิ่งนักหนา | ||
| ทำตามลำพังอหังการ์ | ไม่เกรงศักดาพระยามาร | ||
| ว่าแล้วสั่งสี่พี่เลี้ยงพลัน | จงเกณฑ์กันพลเรือนแลทหาร | ||
| ไปติดตามสุวิญชานงคราญ | เที่ยวค้นดูทุกบ้านแลดงดอน | ||
| แม้นประสบพบนางเทวี | ว่าเรานี้ให้คืนเข้ามาก่อน | ||
| จะถามดูให้รู้โทษกรณ์ | อ้อนวอนว่ากล่าวทั้งวิฬาร์ | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงรับสั่งใส่เกศา | ||
| ต่างถวายบังคมแล้วไคลคลา | ออกมาบอกเวรเกณฑ์กัน | ||
| เรียกหาบ่าวไพร่วุ่นวาย | จัดแจงแต่งกายขมีขมัน | ||
| ครั้นเสร็จก็รีบจรจรัล | แยกกันไปตามมรคา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ออกนอกพารามาถึง | ทางหนึ่งจะเข้าประตูป่า | ||
| เที่ยวดูสำคัญสัญญา | ก็พบรอยวิฬาร์จำปาทอง | ||
| ทั้งสี่ยินดีปรีดา | หัวเราะร่ากระหยิ่มยิ้มย่อง | ||
| ให้บ่าวสนิทติดพี่น้อง | เป็นนายกองเก็บดอกจำปาไป | ||
| แล้วรีบตามทรามวัยจะให้ทัน | ดันดั้นเดินมาในป่าใหญ่ | ||
| สักครู่หนึ่งก็ถึงต้นไทร | แลไปเห็นหีบก็สงกา | ||
| ต่างวุ่นวิ่งชิงกันเข้าเพ่งพิศ | ประหลาดจิตเปิดดูเห็นภูษา | ||
| จำปาทองตกกลาดดาษดา | พี่เลี้ยงพูดจาหารือกัน | ||
| แล้วแยกย้ายเดินไปด้อมมอง | เที่ยวท่องตามไปในไพรสัณฑ์ | ||
| บ้างระวังนั่งเฝ้าของสำคัญ | บ้างชวนกันขึ้นบนต้นไม้ดู | ||
| บ้างเที่ยวไปพบรอยอัสดร | ซอกซอนเที่ยวหาเป็นหมู่หมู่ | ||
| ไม่ประสบพบนางโฉมตรู | ต่างกู่บ่าวไพร่มาพร้อมกัน | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ จงปรึกษาหารือกันทั้งสี่ | เรานี้จำจะรีบผายผัน | ||
| ไปทูลความตามได้ของสำคัญ | ทรงธรรม์จะโปรดประการใด | ||
| ครั้นจะเที่ยวหาองค์นงลักษณ์ | ไม่ประจักษ์ว่าไปตำบลไหน | ||
| ว่าแล้วพากันคลาไคล | บ่าวไพร่แบกหีบรีบตามมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงตรงเข้าไปเฝ้า | ก้มเกล้าบังคมเหนือเกศา | ||
| แล้วกราบทูลความตามกิจจา | เดิมข้าไปถึงชายไพร | ||
| พบรอยเท้าแมวเป็นแถวถ้อง | ดอกจำปาทองก็ใหม่ใหม่ | ||
| จึงตามรอยดำเนินเดินไป | ถึงต้นไทรได้หีบกับผ้านี้ | ||
| ทั้งจำปาทองก็กองกลาด | ผิดประหลาดไม่พบนางโฉมศรี | ||
| ข้าเที่ยวดูในดงพงพี | พบแต่รอยพาชีรอยรถ | ||
| ครั้นดั้นดันค้นหาต่อไป | รอยรถมโนมัยก็หายหมด | ||
| สุดที่จะเที่ยวเลี้ยวลด | พระทรงยศจงทราบฝ่าธุลี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวธรรมึกเรืองศรี | ||
| เห็นหีบกับสไบของเทวี | ภูมีสงสัยในวิญญาณ์ | ||
| จึงตรัสแก่มเหสีทรามวัย | พิเคราะห์ไปสมสิ้นดังเราว่า | ||
| เจ้าจะเห็นอย่างไรให้ว่ามา | อันนางสุวิญชานงเยาว์ | ||
| อีเหล่านี้ริษยาสาธารณ์ | เอาท่อนไม้ใส่พานว่าลูกเขา | ||
| เฝ้าตะบอยบอกผัวยั่วเย้า | อนิจจาลูกเราช่างเบาความ | ||
| ถึงจะเป็นกาลีดีชั่ว | เมียของตัวเป็นไรไม่ไต่ถาม | ||
| ผิดชอบก็ไม่รู้วู่วาม | ขับไล่เล่นตามสบายใจ | ||
| นี่แน่ไชยเชษฐ์ลูกเอ๋ย | กระไรเลยงวยงงหลงใหล | ||
| จงพินิจพิศดูผ้าสไบ | เห็นเจ้าจะจำได้ดอกกระมัง | ||
| อันหีบใหญ่ใบนี้อยู่กลางดง | มันคงจะใส่เอาไปฝัง | ||
| แต่จนใจว่าไปก็อำปลัง | จะคอยฟังถ้อยคำสุวิญชา | ||
| เออสิ่งของร่องรอยก็พบสิ้น | จะแทรกดินบินไปไหนหนักหนา | ||
| อ้ายทั้งสี่พี่เลี้ยงมึงกลับมา | มุสาเปล่าเปล่าไม่เข้าการ | ||
| เสียแรงกู้ไว้เนื้อเชื่อใจ | ช่างนิ่งได้มุดหัวอยู่กับบ้าน | ||
| ชอบแต่เฆี่ยนให้หลังเป็นทาลาน | การงานหนักเบาไม่เข้าใจ | ||
| ฯ ๑๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางแก้วสัจจาอัชฌาสัย | ||
| เคืองแค้นลูกยาแล้วว่าไป | นั่งดูอยู่ไยไม่พาที | ||
| ของนี้จำได้หรือไม่เล่า | ลูกเต้าอะไรที่ไหนนี่ | ||
| พลอยเฟือนเปื้อนปนเจ้าคนดี | ช่างไม่มีความคิดสักนิดเดียว | ||
| เชื่อลิ้นหลงกลคนโกหก | มีแต่พกโมโหฉุนเฉียว | ||
| ใจคอพอดีกระนี้เจียว | จะบอกแม่คำเดียวไม่น้อยใจ | ||
| นิจจาเอ๋ยสุวิญชาบังอร | จะซอกซอนไปตำบลหนไหน | ||
| จะอดอยากลำบากประการใด | ว่าพลางอรไทก็โศกี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์สุริย์วงศ์เรืองศรี | ||
| เห็นองค์สมเด็จพระชนนี | โศกีรำพันว่าไป | ||
| คิดถึงเมียเสียใจอาลัยนัก | พระเมินพักตร์ผินผันกลั้นร้องไห้ | ||
| พลางหยิบดอกจำปาผ้าสไบ | ภูวไนยแลเล็งเพ่งพิศ | ||
| แล้วทูลสองพระองค์ทรงเดช | จงโปรดเกศเกศีลูกนี้ผิด | ||
| เพราะโมโหหุนหันไม่ทันคิด | อกุศลดลจิตให้เป็นไป | ||
| หากสี่พี่เลี้ยงเข้ากั้นกาง | ขอโทษนางอ้อนวอนเป็นไหนไหน | ||
| จึงมิได้ฆ่าฟันให้บรรลัย | ขับไล่เสียจากพารา | ||
| เดชะบุญจางตลอดรอดฝั่ง | อีคนชังคนคิดริษยา | ||
| จะเสี่ยงสับแล่เนื้อเอาเกลือทา | แก้แค้นแสนสาแก่ใจมัน | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวธรรมึกนึกหุนหัน | ||
| จึงตรัสว่าไม่เห็นถึงเช่นนั้น | น้อยหรือให้ฆ่าฟันกัลยา | ||
| นี่หากอ้ายทั้งสี่พี่เลี้ยง | มันว่ากล่าวบ่ายเบี่ยงเป็นหนักหนา | ||
| ยังขับไล่เสียจากพารา | งามหน้าแล้วคราวนี้ดีแท้ | ||
| จะพูดไปเหนื่อยเปล่าไม่เข้าข้อ | ถึงเป็นพ่อก็ทำไมกับคนแก่ | ||
| นับวันแต่จะเฟือนเชือนแช | ไม่รู้คุ้งรู้แควประตูไร | ||
| แต่คิดมาหรือหนึ่งจะต้องว่า | จะพลอยพาความผิดถึงผู้ใหญ่ | ||
| หยาบหยามทำตามอำเภอใจ | ยิ่งกว่าข้าสินไถ่ที่ได้มา | ||
| ถ้านางไปทูลท้าวกล่าวโทษ | จะกริ้วโกรธขัดแค้นแสนสา | ||
| ก็จะยกพวกพลอสุรา | รีบมาเคี้ยวกันสิ้นทั้งเมือง | ||
| จงเร่งคิดติดตามทรามวัย | ไปแก้ไขทูลความตามเรื่อง | ||
| ชี้แจงบรรยายให้หายเคือง | เร่งออกจากเมืองในวันนี้ | ||
| ว่าพลางชวนนางแก้วสัจจา | ลีลาลงจากปราสาทศรี | ||
| พร้อมสนมกำนัลขันที | ภูมีเสด็จคลาไคล | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์รัศมีศรีใส | ||
| ครวญคร่ำกำสรดระทดใจ | อยู่ในแท่นที่ศรีไสยา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| พญาโศก | |||
| ๏ ทอดองค์ลงนอนเหนืออาสน์ | กรก่ายพระนลาฏละห้อยหา | ||
| คิดคะนึงถึงโฉมสุวิญชา | ให้มีความเมตตาอาลัยนัก | ||
| แต่เจ้าพลัดพรากจากบุรี | พี่นี้วิตกเพียงอกหัก | ||
| จากเมียเสียทั้งพระลูกรัก | ทรงศักดิ์รัญจวนครวญคราง | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| โอ้ | |||
| ๏ โอ้ว่าสุวิญชาของผัวเอ๋ย | บาปสิ่งไรเลยเราเคยสร้าง | ||
| บันดาลดลให้มีอีเจ็ดนาง | มันเกิดมาตามล้างในชาตินี้ | ||
| จึงเผอิญให้ผัวมัวนิยม | สมาคมคบพวกเดียรถีย์ | ||
| ไม่รู้กลคนกาลกิณี | จึงเสียมิ่งมารศรีน่าน้อยใจ | ||
| สงสารปานนี้นางโฉมตรู | จะไปอยู่แห่งหนตำบลไหน | ||
| หรือจะตายวายวางเสียกลางไพร | หรือจะไปได้ถึงพระบิดร | ||
| ยิ่งคิดยิ่งแค้นแสนเทวษ | ชลเนตรซึมซาบอาบหมอน | ||
| พระโศกศัลย์กันแสงถึงบังอร | แน่นอนสะอื้นไห้ไปมา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ โอด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางศรีสุริยาเสน่หา | ||
| เห็นพระโฉมยงทรงโศกา | สะอื้นถึงสุวิญชาก็พรั่นใจ | ||
| จึงเรียกนางอุบลวดี | ครั้นนี้เราจะคิดเป็นไฉน | ||
| หยูกยาอาคมที่ทำไว้ | ก็เสื่อมคลายหายไปทุกเวลา | ||
| พระรื้อครวญคร่ำรำพึง | คิดถึงสุวิญชาเป็นหนักหนา | ||
| แม้นตามไปได้ตัวกลับมา | เบื้องหน้าก็จะเกิดวุ่นวาย | ||
| จำเราจะพากันขึ้นไป | เยาะเย้ยไยไพพระโฉมฉาย | ||
| ให้เธออัปยศอดอาย | แล้วเดินกรายตรงไปไม่รั้งรอ | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เพลง | |||
| เย้ย | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงเข้าผลักไส | ทุกข์ร้อนถึงใครกระนี้หนอ | ||
| เฝ้าครวญคร่ำน้ำเนตรยังคลอคลอ | เห็นต่อจะรำลึกถึงเมียรัก | ||
| นางสุวิญชาเป็นกาลี | เผอิญมีลูกอ่อนเป็นท่อนสัก | ||
| ยังอาลัยในหญิงทรลักษณ์ | ไม่อายพักตร์นักสนมกรมใน | ||
| เขาจะว่าพระองค์หลงเมีย | ขับไล่ไปเสียแล้วร้องไห้ | ||
| นางอื่นหมื่นแสนแน่นไป | มิใช่สตรีมีจำเพาะ | ||
| ไม่เหมือนนางหน้านวลไม่ควรคู่ | แต่เจ้าสุวิญชาจะพาเหาะ | ||
| เดี๋ยวนี้พรากจากท้าวเป็นคราวเคราะห์ | ไปสืบเสาะตามหาเอามาซิ | ||
| รักเมียสุดอย่างห่างไม่รอด | เป็นไรไม่กอดกันไว้สิ | ||
| ขับเสียจากวังแล้วนั่งมิ | สิ้นสติมึนตึงตะลึงตะไล | ||
| สมเพชเวทนาน่าหัวร่อ | ทุกข์ร้อนงอนหง่อเหมือนจับไข้ | ||
| รู้กระนี้ขับเมียเสียทำไม | แล้วจะมาอาลัยเมื่อปลายมือ | ||
| น้ำลายคายถ่มลงถึงดิน | จะกลับคืนกลืนกินไม่เกลียดหรือ | ||
| ไพร่บ้านพลเมืองจะเลืองลือ | อึงอื้อไปทั่วทั้งเหมันต์ | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ร่าย | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์เคืองแค้นแสนศัลย์ | ||
| งุ่นง่านดาลเดือดดุดัน | ขบฟันเกรี้ยวกราดตวาดไป | ||
| เหม่อีขี้ข้าหน้าเป็น | มาเยาะเย้ยกูเล่นหรือไฉน | ||
| กูขับเมียกูเสียก็เพราะใคร | พวกมึงหรือมิใช่มายุยง | ||
| มึงอย่าพักชมชื่นรื่นรวย | ชีวิตมึงจะม้วยเป็นผุยผง | ||
| แม้นตามไปได้สมดังใจจง | จะปลดปลงทั้งโคตรอีเจ็ดคน | ||
| วันนั้นเสียความไม่ถามไถ่ | กูหลงเชื่ออีใจอกุศล | ||
| ไม่ทันคิดพิเคราะห์ดูเล่ห์กล | บันดาลดลจิตใจให้ขับน้อง | ||
| มึงทั้งเจ็ดคนอีชาติข้า | เห็นกูไปมาก็จองหอง | ||
| ทำแก่เนื้อแก่ตัวหนังหัวพอง | เหมือนกิ้งก่าได้ทองผูกคอไว้ | ||
| กูได้หีบมาเป็นสำคัญ | จะได้เล่นเห็นกันให้จงได้ | ||
| ช่างพันผูกว่าลูกเป็นท่อนไม้ | นั่นเล่ห์กลของใครอีมารยา | ||
| ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นางอุบลวดีเสน่หา | ||
| เคืองค้อนย้อนตอบพระวาจา | ถึงหีบหีบได้มาไม่ตกใจ | ||
| ใครยั่งยืนว่าข้าทำร้าย | อันจะคิดตัวตายอย่าสงสัย | ||
| ถึงจะดำน้ำลุยไฟ | ไม่ย่อท้อต่อใครอย่าสงกา | ||
| สิได้หีบมาเห็นเป็นสำคัญ | ก็เชิญไปตามกันที่ในป่า | ||
| เกลือกว่าจะพบพระลูกยา | จะได้พามาให้พร้อมพรัก | ||
| ข้านี้ขี้ข้าอยู่ในเรือน | มันไม่เหมือนหม่อมแม่เจ้าท่อนสัก | ||
| แต่ขับไล่ไปแล้วยังร่ำรัก | จนพระพักตร์ดูดำดังหมึกทา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์เคืองแค้นแสนสา | ||
| ดูดู๋ลิ้นลมเจรจา | ต่อล้อเล่นหน้าคารมดี | ||
| อุตส่าห์เร่งขึ้นเสียงเถียงให้อึง | หัวมึงจะขาดอยู่ที่นี่ | ||
| พระกริ้วโกรธนักดังอัคคี | เหม่อีกาลีมึงเย้ยใคร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ศัพท์ไทย | |||
| ๏ ว่าเอยว่าแล้ว | ฉวยพระขรรค์แก้วเลี้ยวไล่ | ||
| ทุดอีจัญไร | วิ่งไปไยนา | ||
| ปากกล้าสาหัส | กูจะตัดเกศา | ||
| อีเจ้ามายา | ขี้ข้าอาธรรม์ | ||
| พระยิ่งโกรธเกรี้ยว | ไล่เลี้ยวห้ำหั่น | ||
| กระชิดติดพัน | ฟาดฟันวุ่นไป | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| รื้อ | |||
| ๏ เจ็ดเอยเจ็ดนาง | เถียงพลางวิ่งพลางไม่เข้าใกล้ | ||
| เขาว่าถูกใจ | ออกไล่ฆ่าฟัน | ||
| คลั่งถึงเมียรัก | ฮึกฮักหุนหัน | ||
| ว่าพลางพากัน | พัลวันวิ่งไป | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| รื้อ | |||
| ๏ อีเอยอีเจ็ดคน | ยังขึ้นเสียงเถียงลนทะเลาะได้ | ||
| กล้าดีหนีไย | อีใจฉกรรจ์ | ||
| หัวมึงจะพับ | ลงกับพระขรรค์ | ||
| ว่าพลางทรงธรรม์ | ไล่ฟันกัลยา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นเห็นเจ็ดนางหนีไป | คั่งแค้นพระทัยเป็นหนักหนา | ||
| หวนรำลึกถึงสุวิญชา | เสด็จมายังพระโรงรูจี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ลดองค์ลงนั่งเหนืออาสน์ | ประภาษสั่งพี่เลี้ยงทั้งสี่ | ||
| ให้ผูกม้าเตรียมพลมนตรี | พรุ่งนี้น้องจะไปไพรวัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงรับสั่งแล้วผายผัน | ||
| มาจัดพลผูกม้าเครื่องสุวรรณ | เตรียมท่าทรงธรรม์ที่เกยลา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ลือเดชทุกทิศา | ||
| ครั้นสว่างสร่างแสงพระสุริยา | เสด็จมาสระสรงสาคร | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ทรงเครื่องประดับสรรพเสร็จ | ขัดพระขรรค์ใจเพชรสะพักศร | ||
| แล้วลีลามาทรงอัศดร | ให้เลิกพลนิกรไคลคลา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ชมดง | |||
| ๏ พระเสด็จเข้าในไพรไพฤกษ์ | คะนึงนึกถึงเจ้ายอดเสน่หา | ||
| พลางชมรุกขชาติดาษดา | บ้างทรงผลผกาอรชร | ||
| หอมหวนอวลอบมารวยริน | กลั้วกลิ่นเหมือนกลิ่นดวงสมร | ||
| พระผันแปรแลเห็นทิชากร | บ้างบินร่อนเรียกคู่บ้างจับคอย | ||
| เบญจวรรณจับวัลย์พ้นอุโลก | ถวิลวันวิโยคที่โศกสร้อย | ||
| กระลิงจับไม้กระลิงลอย | เหมือนขับไล่สาวน้อยให้คลาดแคล้ว | ||
| นกหว้าจับไม้ขานางนอน | เหมือนน้องวอนว่าพี่อยู่แจ้วแจ้ว | ||
| นกกระเต็นเต้นไต่ต้นช้องแมว | เหมือนน้องแก้วไต่เต้าตามวิฬาร์ | ||
| ชมพลางทางคะนึงถึงเมียรัก | พระทรงศักดิ์เศร้าสร้อยละห้อยหา | ||
| ไม่แลดูหมู่ไม้สกุณา | รีบเร่งอาชาจรลี | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด | |||
| ตะนาว | |||
| ๏ เดินพลางทางเห็นจำปาทอง | เรี่ยรายก่ายกองตามวิถี | ||
| ทั้งรอยแมวขุดคุ้ยปัถพี | จึงบอกสี่พี่เลี้ยงมิได้ช้า | ||
| อันนวลนางมาทางสิงหลได้ | น้องนี้ดีใจเป็นหนักหนา | ||
| ชะรอยเจ้าเศร้าโศกไคลคลา | ดอกจำปาจึงตกตามทางไป | ||
| แล้วสั่งบรรดาพวกพล | ให้ดั้นด้นค้นคว้าในป่าใหญ่ | ||
| สั่งพลางทางขับมโนมัย | ตามรอยดอกไม้ไปดู | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ร้องเชิดฉิ่ง | |||
| ๏ เห็นจอมปลวกตอไม้หมายว่าน้อง | พระก้มองค์ลงมองอยู่เป็นครู่ | ||
| ครั้นแลไปมิใช่นางโฉมตรู | ให้คิดอายอดสูในพระทัย | ||
| เห็นเงาไวไวอยู่ในรก | รื้อขับม้าหกมาดูใหม่ | ||
| เข้าใกล้มิใช่นางทรามวัย | ชลนัยน์ไหลหลั่งลงหลังม้า | ||
| ได้ยินเสียงดุเหว่าเร่าร้อง | เอ๊ะเสียงน้องโน่นแล้วกระมังหนา | ||
| ฟังไปมิใช่เสียงสุวิญชา | พระทรงโศกาแล้วคลาไคล | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เชิด | |||
| ร่าย | |||
| ๏ ครั้นถึงปลายแดนเมืองสิงหล | ให้พักพลหยุดอยู่ในป่าใหญ่ | ||
| พระตรัสแก่พี่เลี้ยงทันใด | เราจะตั้งแรมไรอยู่ที่นี้ | ||
| จะได้ซับซาบดูให้รู้ข่าว | ว่านางมาถึงท้าวยักษี | ||
| หรือเวียนวนหลงอยู่พนาลี | จะได้ยกโยธีไปเที่ยวค้น | ||
| พี่ออกไปบอกเสนา | ให้ตั้งพลับพลาพนาสณฑ์ | ||
| อย่าเกรียวกราวป่าวร้องจงทุกคน | รู้ถึงสิงหลจะวุ่นวาย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงรับสั่งแล้วผันผาย | ||
| จึงเรียกหาบรรดาตัวนาย | แล้วบรรยายสั่งความตามบัญชา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | เสนาตำรวจในซ้ายขวา | ||
| ให้บ่าวไพร่ตัดไม้เกี่ยวคา | มาปลูกพลับพลาฉับพลัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์เฉิดฉัน | ||
| พอพระสุริยาสายัณห์ | จรจรัลขึ้นสู่พลับพลาชัย | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ลดองค์ลงนั่นเหนืออาสน์ | จะดำรัสตรัสประภาษก็หาไม่ | ||
| ให้คิดรำพึงคะนึงใน | ถึงนางทรามวัยสุวิญชา | ||
| ครั้นเพลาพลบค่ำย่ำฆ้อง | เสียงนกหกร้องก้องป่า | ||
| จึงเสด็จเข้าในที่ไสยา | เอนองค์ลงนิทราไม่มีสบาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ ตระ ประทมไพร | |||
| ช้าปี่ | |||
| ๏ พระแน่นอนถอนทอดใจใหญ่ | คิดใคร่ครวญไปฤทัยหาย | ||
| กูขับเมียเสียรู้อีแสนร้าย | มันอุบายพูดพ้อล่อลวง | ||
| พอฉุกจิตคิดกลับสิขับแล้ว | ดังดวงแก้วตกลงชเลหลวง | ||
| น้อยใจเจ็บช้ำระกำทรวง | มันแกล้งเด็ดเอาดวงชีวิตไป | ||
| แต่จากมิ่งเมียขวัญจนวันนี้ | ผัวจะมีความสุขก็หาไม่ | ||
| เจ้าคิดถึงพี่บ้างหรืออย่างไร | หรือจะแค้นเคืองใจไม่ไยดี | ||
| นิจจาเอ๋ยป่านนี้สุวิญชา | จะอยู่ป่าหรือจะอยู่ในกรุงศรี | ||
| พระรัญจวนครวญหาในราตรี | จนม่อยหลับไปกับที่ไสยา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ ตระ | |||
| ช้า | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| อยู่ในสิงหลพารา | จนชันษาอายุได้เจ็ดปี | ||
| รูปทรงละม่อมพร้อมพริ้ง | งามยิ่งเทวาในราศี | ||
| เสวยรมย์สมบัติสวัสดี | กับพระชนนีโฉมตรู | ||
| เมื่อวันจะพบพระบิตุเรศ | ให้บังเหตุโอรสคิดอดสู | ||
| น่าเจ็บใจใครหนอเป็นพ่อกู | จึงถามมารดาดูทันใด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ร่าย | |||
| ๏ อันพระบิตุเรศของลูกรัก | ไม่รู้จักรูปทรงว่าองค์ไหน | ||
| เห็นแต่แม่ผู้เดียวเปลี่ยวใจ | กับท้าวไทอัยกาเป็นสองคน | ||
| สุริย์วงศ์พงศ์ประยูรที่คุ้นเคย | ช่างไม่มีบ้างเลยในสิงหล | ||
| โปรดเกล้าเล่าแถลงแจ้งยุบล | เหตุผลเป็นไฉนพระชนนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นวลนางสุวิญชามารศรี | ||
| ได้ฟังลูกยาพาที | เทวีก็คิดสะดุ้งใจ | ||
| เหตุนี้ดีร้ายพระบิดา | ตามมาแล้วลูกจึงนึกได้ | ||
| แสนสงสารลูกน้อยกลอยใจ | ชลนัยน์ไหลหลั่งดังธารา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณธิเบศร์โอรสา | ||
| แลเห็นสมเด็จพระมารดา | ชลนาไหลพรากก็หลากใจ | ||
| จึงทูลว่าข้าถามถึงบิตุรงค์ | เป็นไฉนไยทรงกันแสงไห้ | ||
| เหตุผลต้นปลายประการใด | จงบอกเล่าลูกไปตามสัจจา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | สุวิญชากล่าวแกล้งแสร้งว่า | ||
| เมื่อกี้แม่แหงนดูหลังคา | ผงปลิวเข้าตาให้เคืองคาย | ||
| ชลเนตรไหลหลั่งลงพรั่งพรู | เคืองอยู่เดี๋ยวนี้ยังมิหาย | ||
| ซึ่งถามถึงบิดาอย่าวุ่นวาย | แม่จะบอกฤาสายอย่าร้อนรน | ||
| อันบิตุเรศเกิดเกศของเจ้านั้น | คือพระองค์ทรงธรรม์ท้าวสิงหล | ||
| จงไปเฝ้าอัยกาเจ้าสากล | ทูลถามเหตุผลให้แจ้งใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์สิ้นสงสัย | ||
| แล้วบังคมลาคลาไคล | ไปเฝ้าท้าวไทอัยกา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
| ๏ ครั้นถึงมหาปราสาท | จึงลีลาสเข้าไปใกล้ยักษา | ||
| ลดองค์ลงกราบกับบาทา | นั่งเฝ้าอัยกาพระยายักษ์ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์บังคมไหว้ | ||
| แล้วกราบทูลความถามท้าวไท | พ่อข้าคนไหนอัยกา | ||
| แต่หลานรักรู้คำจำความ | ยังไม่รู้จักนามรู้จักหน้า | ||
| ครั้นทูลถามพระแม่สุวิญชา | บอกว่าตาเป็นพ่อเห็นผิดนัก | ||
| มารดาข้ายังเป็นสาวแส้ | ตาแก่โคร่งคร่างฟันฟางหัก | ||
| ไม่ร่วมแท่นบรรทมภิรมย์รัก | สงสัยนักตาเล่าให้เข้าใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสิงหลเป็นใหญ่ | ||
| ได้ฟังหลานสนองต้องพระทัย | ยิ้มแย้มละไมแล้วว่ามา | ||
| เขาเห็นว่าตาชรานัก | หลานรักจะอับอายขายหน้า | ||
| ไม่สมกันกับแม่สุวิญชา | จึงให้เรียกพ่อตาแล้วเป็นไร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์สิ้นสงสัย | ||
| สำคัญว่าพ่อจริงก็นิ่งไป | จึงกราบทูลท้าวไทยอัยกา | ||
| หลานจะลาไปเล่นพนาลี | จับหมู่มฤคีแลปักษา | ||
| ตะวันชายบ่ายคล้อยจะกลับมา | พระอัยกาจงโปรดปรานี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | ท่านท้าวสิงหลยักษี | ||
| แสนสวาทนัดดาพ้นทวี | กอดจูบแล้วมีพระบัญชา | ||
| หลานจะใคร่ไปเที่ยวเล่นไพร | ก็ตามแต่น้ำใจตาไม่ว่า | ||
| จึงเรียกสี่พี่เลี้ยงเข้ามา | กำชับกำชาสารพัน | ||
| แล้วบัญชาการว่าหลานรัก | พ่ออย่าอยู่ช้านักในไพรสัณฑ์ | ||
| พอบ่ายชายแสงสุริยัน | จงรีบผายผันมาพารา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| ชื่นชมยินดีชลีลา | มาทรงอาชาทันใด | ||
| พร้อมพระพี่เลี้ยงทั้งสี่ | เสนีขี่ม้ามาไสว | ||
| ควบขับคับคั่งเวียงชัย | เร่งอาชาไนยให้เคลื่อนคลาย | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงป่าใหญ่ไพรสาณฑ์ | จึงสั่งพนักงานบ่วงข่าย | ||
| ให้เร่งลงหลักดักราย | พวกม้าผันผายไปไล่มา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เหล่าพวกพนักงานถ้วนหน้า | ||
| ผูกบ่วงถ่วงทิ้งโยทะกา | ดักตามมรคาที่เนื้อจร | ||
| บ้างวงข่ายรายรอบปากชนาง | ใส่สายรยางค์ชักหลอน | ||
| พวกม้าไล่ไปชายดงดอน | หุ้มต้อนฝูงสัตว์สะพัดมา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด เจรจา | |||
| ๏ บ้างจับได้สิงโตโคกระทิง | สารพัดสัตว์สิงมหิงสา | ||
| บ้างได้เนื้อเบื้อนานา | ต่างเอามาถวายพระกุมาร | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์เกษมศานต์ | ||
| ชมสัตว์จัตุบาทแสนสำราญ | แล้วพระกุมารก็ปล่อยไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ ครั้นเสร็จขึ้นสายธนูศิลป์ | ฟ้าดินกัมปนาทหวาดไหว | ||
| ยิงต้นรังพลันทันใด | เสียงสนั่นลั่นไปในอารัญ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิดฉิ่ง เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ตระหนกอกสั่น | ||
| กับสี่พี่เลี้ยงทั้งนั้น | พากันหวั่นหวาดประหลาดใจ | ||
| พี่เลี้ยงว่าเสียงเหมือนฟ้าผ่า | บ้างว่าเขายิงปืนใหญ่ | ||
| จึงลงจากพลับพลาคลาไคล | เที่ยวด้อมเดินไปจะใคร่รู้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | เพลง | ||
| ๏ ค่อยแลลอดสอดเห็นพระกุมาร | กับทวยหาญน้อยน้อยมาเล่นอยู่ | ||
| รูปทรงโสภาน่าเอ็นดู | ถือธนูน้าวประลองคะนองนัก | ||
| พระจึงว่ากับสี่พี่เลี้ยงไป | ลูกใครกระจิริดสิทธิศักดิ์ | ||
| งามทั้งรูปทรงวงพักตร์ | น่ารักน่าชมภิรมย์ใจ | ||
| ครั้นเราจะเข้าไปพูดจา | เด็กดูแปลกหน้าจะร้องไห้ | ||
| จะใคร่ชักชวนมาพลับพลาชัย | จะเกลี้ยกล่อมฉันใดพี่ช่วยคิด | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | ทั้งสี่พี่เลี้ยงผู้ร่วมจิต | ||
| ต่างคนแลเล็งเพ่งพิศ | แล้วทูลทรงฤทธิ์ไปทันใด | ||
| อันทรวดทรงองค์พระกุมารนี้ | เหมือนภูมีจริงจังดังเถือใส่ | ||
| ทั้งท่วงทีกิริยาละม่อมละไม | จะดูไหนไม่ผิดสักสิ่งอัน | ||
| อย่าสงสัยไปเลยพระทรงยศ | โอรสของพระองค์เป็นแม่นมั่น | ||
| ชะรอยบุตรสุวิญชาลาวัณย์ | พระทรงธรรม์อย่าแหนงแคลงใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์จึงตอบแถลงไข | ||
| พี่ว่าเห็นจริงทุกสิ่งไป | จึงดลใจให้น้องนี้เมตตา | ||
| ถ้าแม้นเป็นลูกเต้าของเราจริง | จะปรากฏยศยิ่งในใต้หล้า | ||
| ชาตินี้มีกรรมได้ทำมา | พลัดพรากสุวิญชานงลักษณ์ | ||
| เผอิญเห็นเป็นไปเข้าใจดล | หลงกลอีคนอัปลักษณ์ | ||
| จนจากเมียเสียองค์พระลูกรัก | แสนวิตกอกจะหักสู้ตามมา | ||
| อนิจจาสุวิญชาของผัวเอ๋ย | เมื่อไรเลยจะได้เห็นหน้า | ||
| เจ้าช่างวางใจไม่อัชฌา | ละให้ลูกยามาเล่นไพร | ||
| พระคิดถึงเมียแก้วแล้วโศกศัลย์ | ยิ่งกลืนกลั้นชลเนตรก็ยิ่งไหล | ||
| เสด็จออกไปนอกพุ่มไม้ | ตั้งใจยืนดูพระกุมาร | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์ใจหาญ | ||
| เล่นอยู่กับหมู่บริวาร | เห็นคนยืนหน้าฉานก็ขัดใจ | ||
| จึงชี้หัตถ์ตรัสว่าอ้ายเหล่านี้ | ชีวีมึงจะม้วยหารู้ไม่ | ||
| ยืนเขม่นจะเล่นกูเท่าไร | ตำรวจในเร่งออกไปถามดู | ||
| ว่ามายืนทำไมที่ไหนนั่น | หรือชวนกันหลอกล้อจะต่อสู้ | ||
| จึงมิได้ยำเยงเกรงกู | ไปถามดูแล้วกลับมาฉับพลัน | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | พวกตำรวจในคนขยัน | ||
| ก้มเกล้ารับสั่งบังคมคัล | พากันวิ่งไปเก้กัง | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงว่าตานั่งลง | ทำไมมายืนตรงหน้าที่นั่ง | ||
| ตาเหล่านี้นักหนาว่าไม่ฟัง | จะเอาหวายลงหลังหรือว่าไร | ||
| แกล้งออกมาเผ่นเห็นถนัด | รับสั่งตรัสให้เข้ามาถามไถ่ | ||
| ตัวยืนหน้าที่นั่งบังอาจใจ | ไม่เห็นเจ้าหรือไรให้ว่ามา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์ก็หรรษา | ||
| ได้ฟังเด็กเด็กมาพูดจา | ยิ้มแย้มไปมาในพระทัย | ||
| จึงตรัสว่าน้อยน้อยเท่านี้ | สำนวนถ้วนถี่ดังผู้ใหญ่ | ||
| ว่าพลางทางยื่นพระหัตถ์ไป | จับเกศาเลือกไสไปมา | ||
| ทำไมจะให้กูกลัวเกรง | เจ้าเอ็งเป็นอะไรมานักหนา | ||
| ยืนอยู่ไม่ได้หรือไรนา | กูมิรู้ที่จะว่าให้การเป็น | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เด็กเด็กโกรธใจมิใช่เล่น | ||
| พากันกลับมาน้ำตากระเด็น | ร้องว่าจะได้เห็นกันเดี๋ยวนี้ | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ มาถึงจึงกราบบาทมูล | สะอื้นพลางทางทูลถ้วนถี่ | ||
| ข้าถือรับสั่งพระภูมี | ครั้งนี้สุดแค้นแสนเจ็บใจ | ||
| ไต่ถามตาแก่รังแกนัก | จะให้หลักให้การก็หาไม่ | ||
| ตัวนายนั้นดื้อทั้งมือไว | จับศีรษะข้าไว้จะให้กลัว | ||
| แล้วว่ากูยืนนดูไม่ได้หรือ | พูดพลางเอามือสั่นหัว | ||
| เห็นว่าเป็นเด็กเล็กกว่าตัว | มิได้กลัวพระราชอาญา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์โอรสา | ||
| ฟังคำอำมาตย์ทูลมา | พระกริ้วโกรธาตละไฟ | ||
| น้อยหรือทำได้ไม่ยำเกรง | ข่มเหงเสนาผู้ใหญ่ | ||
| กูกลับเข้าไปในเวียงชัย | จะกราบทูลท้าวไทอัยกา | ||
| อุกอาจราชศักดิ์เป็นสุดคิด | น้อยจิตน้อยใจหนักหนา | ||
| สิถามไถ่ไม่ให้การมา | ไปผูกคอคร่ามาบัดนี้ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ บัดนั้น | เด็กเด็กรับสั่งใส่เกศี | ||
| บ้างบิดผ้าหาเชือกมาทันที | เปรมปรีดิ์ดีใจแล้ววิ่งมา | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงร้องว่าไป | สาแก่ใจบาปกรรมที่ทำข้า | ||
| พระองค์ทรงกริ้วโกรธา | ให้ผูกคอตาห้าคนไป | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ผู้มีอัชฌาสัย | ||
| แจ้งการว่ากุมารเคืองใจ | ภูวไนยถวิลจินดา | ||
| จำจะไปเล้าโลมโฉมงาม | จะได้ชมสมความปรารถนา | ||
| คิดพลางย่างเยื้องลีลา | ไคลคลามากับพี่เลี้ยงพลัน | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ | |||
| ๏ ครั้นถึงจึงมีวาจา | พ่ออย่าเคืองขุ่นหุนหัน | ||
| รักกันนั้นดีกว่าชังกัน | จะทำน้ำใจสั้นไม่เข้ายา | ||
| ข้าเห็นเจ้าเล่นกับบ่าวไพร่ | ให้มีใจจงรักเป็นหนักหนา | ||
| ขออุ้มเจ้าหน่อยเถิดรา | พลางคว้าข้อมือยื้อยุดไว้ | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | นารายณ์ธิเบศร์โกรธหนักผลักไส | ||
| สะบัดมือเสียพลางทางว่าไป | นี่รู้จักใครมายุดมือ | ||
| เมื่อกี้เราใช้ให้ไปว่า | ควรทำเสนาเราได้หรือ | ||
| ยังกลับมาอุตลุดยุดยื้อ | ทำบ่าวแล้วรื้อมาทำเรา | ||
| ตาเห็นเป็นเด็กไม่ยำเกรง | แกล้งข่มเหงกันเล่นเปล่าเปล่า | ||
| เป็นผู้ใหญ่ทำได้ก็ทำเอา | แล้วเดินหนีมิให้เข้าใกล้องค์ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์สูงส่ง | ||
| จึงตรัสปลอบตอบคำจำนง | เพราะใจตรงจงรักจึงหักมา | ||
| ข้าไม่หลอกล่อดอกพ่อเอ๋ย | อย่าโกรธเลยรักกันเสียดีกว่า | ||
| เจ้าก็ตัดเยื่อใยไม่เมตตา | อนิจจาเดินหนีหลีกลี้ไย | ||
| เมื่อกี้เจ้าใช้บ่าวออกไปห้าม | ข้าพาลเขลาเบาความไม่ถามไถ่ | ||
| ไม่ทันรู้ว่าเสนาใน | เกิดมายังไม่เห็นใครเป็น | ||
| เมื่อแต่ล้วนเล็กเล็กกระจิริด | ข้ามีจิตคิดรักจึงหยอกเล่น | ||
| ลูกเท่าหัวเหาเต่าเล็น | ไม่เคยพบเคยเห็นแต่บุราณ | ||
| ตรัสพลางทางสั่งพี่เลี้ยงไป | เอาขนมมาให้แก่พระหลาน | ||
| แล้วโลมเล้าเอาใจพระกุมาร | เชิญเสวยของหวานเถิดหลานชาย | ||
| ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์ว่าอย่าพึงหมาย | ||
| ถึงจะแสบท้องให้แทบตาย | ไม่มักง่ายกินอะไรของใครเป็น | ||
| มิใช่ฝีปีศาจที่เดินหน | จะเสือกสนเที่ยวท่องกินของเซ่น | ||
| อย่าปลอบไปให้เลือดตากระเด็น | พลางเดินเที่ยวเล่นไม่เจรจา | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์ความแสนเสน่หา | ||
| พยายามตามปลอบกุมารา | อนิจจาปลื้มใจไม่ดูดี | ||
| ข้ามิใช่ชายพาล | ย่อมวงศ์วานกษัตริย์เรืองศรี | ||
| ครอบครองเหมันต์ธานี | ไม่มีโอรสแลนัดดา | ||
| ไร้ทั้งสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์ | ที่จะผ่านเหมันต์ไปวันหน้า | ||
| เป็นบุตรข้าเถิดนะพ่ออา | บิดาจะให้ครองพระเวียงชัย | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์เคืองขัดอัชฌาสัย | ||
| พระกริ้วโกรธพลางว่าไป | คนอะไรที่ไหนนี่หยาบช้า | ||
| อุเหม่ตาเฒ่านี้เจ้าเล่ห์ | เฉโกโว้เว้นักหนา | ||
| และเลียมเทียมเล่นเจรจา | จะเป็นผัวแม่ข้าหรือว่าไร | ||
| ถึงตัวเราเล็กก็เหล็กเพชร | ไม่ขามเข็ดพวกตาอย่าสงสัย | ||
| ปั้นเจ๋อเย่อหยิ่งเป็นพ้นไป | ผู้ใหญ่แสนรู้มาสู้กัน | ||
| ว่าพลางทางขึ้นธนูศิลป์ | ฟ้าดินสะเทือนเลื่อนลั่น | ||
| พาดสายหมายล้างชีวัน | ผาดแผลงไปพลันทันใด | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ศรทรงองค์พระกุมาร | กลายเป็นมาลาแลไสว | ||
| ไม่สังหารผลาญชีพชีวาลัย | พระกุมารโกรธใจเป็นโกลี | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| เห็นศรกุมารชาญฤทธี | กลับเป็นมาลีประหลาดใจ | ||
| วิปริตผิดเพศไม่เคยพบ | พระปรารภพิศวงสงสัย | ||
| คิดพลางทางเสี่ยงศิลป์ชัย | เดชะฤทธิไกรธนูนี้ | ||
| แม้นกุมารมิใช่โอรสา | ของนางสุวิญชามารศรี | ||
| ขอให้ศรสิทธิ์ฤทธี | สังหารกุมารนี้ให้วายปราณ | ||
| แม้นเป็นลูกน้อยนางโฉมฉาย | ให้ศรกลายเป็นทิพย์อาหาร | ||
| เสี่ยงแล้วขึ้นศรรอนราญ | แผลงไปให้ผลาญกุมารา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
| ๏ ศรทรงองค์พระไชยเชษฐ์ | อาเพศไม่พานโอรสา | ||
| กลับเป็นเอมโอชโภชนา | เกลื่อนกลาดดาษดาพนาวัน | ||
| ฯ ๒ คำ ฯ | |||
| ๏ พระทิ้งศรทรงลงทันใด | วิ่งไปกอดลูกแล้วรับขวัญ | ||
| พ่อลูกมาประสบพบกัน | จะหักโหมโรมรันด้วยอันใด | ||
| ปลอบพลางทางเห็นธำมรงค์ | ที่กุมารสอดทรงก็จำได้ | ||
| จึงว่าแหวนนี้ข้าให้ไว้ | กับโฉมงามทรามวัยสุวิญชา | ||
| มิเชื่อเราเจ้าถามพี่เลี้ยงดู | เขารู้จักอยู่ถ้วนหน้า | ||
| แม้นเขาว่าข้ามิใช่บิดา | จึงค่อยว่าล่อลวงเจ้าดวงใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์ยังสงสัย | ||
| แล้วตริตรึกนึกแหนงแคลงพระทัย | ด้วยออกนามทรามวัยสุวิญชา | ||
| พลางเรียกพี่เลี้ยงเข้ามาถาม | จงแจ้งความตามสัตย์อย่าพรางข้า | ||
| จริงหรือเขาว่าเป็นบิดา | ผัวแม่สุวิญชาชนนี | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ | |||
| ๏ บัดนั้น | พระพี่เลี้ยงประณตบทศรี | ||
| จึงทูลว่าอัยกาธิบดี | ห้ามปรามความนี้อยู่มากมาย | ||
| แม้นว่าบอกกล่าวเล่าพระองค์ | จะลงอาญาข้าทั้งหลาย | ||
| ฉวยรู้ไปในวังสิหลังลาย | พระเบี่ยงบ่ายอย่าให้ข้าถูกตี | ||
| มั่นคงองค์นี้แลบิตุเรศ | ทรงนามไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| ครองเมืองเหมันต์ธานี | สามีพระเม่สุวิญชา | ||
| อันพระบิตุรงค์ทรงฤทธิ์ | โทษผิดใหญ่หลวงนักหนา | ||
| พระยายักษ์เคืองขัดอัธยา | ไม่ให้มาพานพบพระชนนี | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์เรืองศรี | ||
| ได้ฟังพี่เลี้ยงพาที | มีความยินดีเป็นพ้นไป | ||
| จึงยอกรกราบบาทบิตุเรศ | ชลเนตรแถวถั่งหลั่งไหล | ||
| สะอื้นพลางทางทูลถามไป | เหตุผลกลใดพระทรงธรรม์ | ||
| บิตุรงค์กับองค์พระมารดร | ไม่สมัครสโมสรเกษมสันต์ | ||
| หรือวิวาทบาดหมายอะไรกัน | ทรงธรรม์จงเล่าให้เข้าใจ | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระไชยเชษฐ์เศร้าสร้อยละห้อยไห้ | ||
| ฟังลูกทูลถามถึงความใน | ชลเนตรหลั่งไหลฟูมฟาย | ||
| จึงว่าพ่อจะเล่าแก่ลูกแก้ว | กรรมของพ่อแล้วนะโฉมฉาย | ||
| ข้างแม่เจ้าเล่าก็เคราะห์ร้าย | จึงเผอิญวุ่นวายวิวาทกัน | ||
| เหตุผลต้นยนต์อีสุริยา | มันทำกับบิดานี้แสนศัลย์ | ||
| ให้บอกกล่าวข่าวช้างสำคัญ | พ่อต้องผายผันมาอยู่ไพร | ||
| ภายหลังแม่คลอดเจ้าออกมา | สุริยาลอบลักเอาไปได้ | ||
| ครั้นบิดากลับมาถึงวังใน | เห็นแต่ท่อนไม้ใส่พานมา | ||
| มันว่าลูกของนางโฉมยง | พ่อหลงเชื่อฟังอีแพศยา | ||
| จึงขับแม่พลัดพรากจากพารา | จนเจ้าชันษาถึงเพียงนี้ | ||
| กับท้าวสิงหลภูวไนย | ขึ้งโกรธเป็นไฉนนะโฉมศรี | ||
| ด่าทอพ่อมั่งหรือไม่มี | จะใคร่ไปอัญชลีพระเจ้าตา | ||
| ถ้าท่านแค้นขัดตัดรอนพ่อ | ลูกรักช่วยทูลขอซึ่งโทษา | ||
| ถึงจะม้วยลงด้วยพระอาญา | แต่พอให้มารดาเจ้าเห็นใจ | ||
| ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์บังคมไหว้ | ||
| จึงทูลว่าพระอย่าทุกข์ฤทัย | เกรงกลัวโพยภัยพระยามาร | ||
| ลูกจะทูลเบี่ยงบ่ายให้หายโกรธ | ถึงพ่อต้องโทษก็โปรดหลาน | ||
| พอจะขอได้อยู่ดูอาการ | เห็นจะคิดสงสารแก่นัดดา | ||
| ขอเชิญพระองค์คลาไคล | เข้าไปกรุงไกรด้วยกับข้า | ||
| เกลือกทูลขอโทษโปรดลูกยา | พระบิดาจะได้เฝ้าท้าวทันที | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | องค์พระไชยเชษฐ์เรืองศรี | ||
| ฟังลูกทูลความเห็นงามดี | สมที่พระทัยนึกตรึกไตร | ||
| จะเข้าไปตรงตรงคงพรายแพร่ง | จำจะแปลงปลอมองค์ให้สงสัย | ||
| คิดพลางเปลื้องเครื่องออกทันใด | ให้พี่เลี้ยงซ่อนใส่ย่ามตะพาย | ||
| พระจึงจัดแจงแปลงองค์ | แกล้งทรงผ้าตาเล็ดงาด้าย | ||
| ห่มแพรเพลาะดำเนินกราย | มาชวนพระลูกชายไคลคลา | ||
| ฯ ๖ คำ ฯ | |||
| ๏ เมื่อนั้น | พระนารายณ์ธิเบศร์หัวเราะร่า | ||
| ชะงามพ้นคิดพระบิดา | ขายหน้าขายตาชนนี | ||
| ว่าพลางทางทรงอาชาไนย | ให้เลิกพลกลับไปกรุงศรี | ||
| พระบิดาเดินหลังรั้งโยธี | กับสี่พี่เลี้ยงจรจรัล | ||
| ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
| ๏ ครั้นถึงที่ประตูเวียงชัย | ลงจากมโนมัยผายผัน | ||
| มาบังคมบิตุรงค์ทรงธรรม์ | พลางทูลไปพลันทันที | ||
| พระจงนั่งในทิมริมประตู | อย่าให้ใครรู้ว่าอยู่นี่ | ||
| ลูกยาจะลาจรลี | ไปเฝ้าชนนีกับเจ้าตา | ||
| ถ้าวันนี้เห็นทีจะทูลได้ | ถึงมืดค่ำอย่างไรจะมาหา | ||
| แล้วกำชับนายประตูดูอัชฌา | กูฝากตาห้าคนไว้ด้วยกัน | ||
| สั่งแล้วบังคมก้มเกศ | ลาองค์บิตุเรศรังสรรค์ | ||
| รีบเสด็จลีลามาพลัน | จรจรัลไปเฝ้าพระอัยกา | ||
| ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
ตอนที่ ๓ พระไชยเชษฐ์เข้าเฝ้าท้าวสิงหล
ตอนที่ ๔ อภิเษกพระไชยเชษฐ์
เชิงอรรถ
ที่มา
บทละครนอกเรื่อง ไชยเชษฐ์ สถาบันภาษาไทย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ๒๕๓๘
(ขอขอบคุณ คุณ gignoi สมาชิก kaewkao.com ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)
