กาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == {{เรียงลำดับ|กาพย์ห่เรเือ พระนิ…')
(ข้อมูลเบื้องต้น)
 
(การแก้ไข 5 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล)
แถว 4: แถว 4:
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
-
'''ผู้แต่ง:''' [[สุนทรภู่]]
+
'''พระนิพนธ์:''' [[พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์]]
 +
 
== บทประพันธ์ ==
== บทประพันธ์ ==
<tpoem>
<tpoem>
-
+
<sup>โคลง</sup>
 +
งามผงาดราชพ่าห์เพี้ยง  พรหมทรง
 +
พระธินั่งศรีสุพรรณหงส์  รเห็จห้วง
 +
หงส์ทองล่องลอยลง  รองบาท พระฤา
 +
กลอนเกริ่นเพลินพายจ้วง  พากย์แจ้งจำเรียง ถวายแล ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ คาบนี้มีศุภฤกษ์  ดังบัวเบิกเบิกบานใจ
 +
งามเวียงอันเกรียงไกร  ไกรเกรียงแม้นแมนมาทำ
 +
๏ กรุงเทพเทพรังสฤษฏ์  เจิดแจ่มจิตวิศวกรรม
 +
เพริศแพร้วแก้วแกมคำ  คำแกมมุกสุขนัยนา
 +
๏ ปราสาทราชมณเทียร  คือวิเชียรเชิดชูตา
 +
ลอยล้ำค้ำนภา  นภาผ่องส่องรับกัน
 +
๏ ปราการตระการกล้า  ท่วงทีท่าท้าโรมรัน
 +
หอยุทธ์เย้ยยุทธ์ยัน  ยรรยงเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
 +
๏ ไตรรัตน์จำรัสเลิศ  เจดีย์เทอดทีปังกร
 +
อาวาสศาสนาทร  ธัมมะเหมือนเดือนนำเดิน
 +
๏ พระเกียรติพระเกริกกลั่น  ชนทุกชั้นสรรเสริญ
 +
บ้านเมืองเรืองจำเริญ  จำรูญรัฐวัฒนากร
 +
๏ พระวงศ์องค์อิศราช  เสนามาตย์ราษฎร
 +
พร้อมพรักรักภูธร  ภูธเรศเลี้ยงเยี่ยงธาตรี ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
๏ แถลงปางสร้างอนุสรณ์  จอมนรากรปิ่นปัถพี
 +
ต้นวงศ์องค์จักรี  จักริศเกล้าเจ้าไผทไทย
 +
๏ พระเถลิงราชสมบัติ  เก้าชั้นฉัตรรัฐเรืองไชย
 +
ไอศูรย์เพิ่มพูนไพ-  บุลย์ประโยชน์โสตถิ์สำนาน
 +
๏ สองพันสามร้อยยี่-  สิบห้าปีศาสนกาล
 +
ฤกษ์งามยามศุภวาร  คราวศึกว่างสร้างพระนคร
 +
๏ อาวุธยุทธสถาน  ป้อมปราการปานปุษกร
 +
สามารถฟาดฟันบร  ผิวเห่อกล้าเข้ามาลอง
 +
๏ วังเวียงเพียงนิรมิต  แสนโสภิตพิศเพียงปอง
 +
ระเมียรมนเทียรทอง  เชิญช่อฟ้าใบระกากาญจน์
 +
๏ งามสุดฝ่ายยุทธจักร  วิมลมรรคสมาทาน
 +
กอบเกื้อเอื้อเอาภาร  อารักขาเนื้อนาบุญ
 +
๏ แสนสง่าอาณาจักร  ทรงฟูมฟักรักการุญ
 +
ปรายโปรยกอบโกยคุณ  ถ้วนทุกหน้าสาธุการ
 +
๏ ถิ่นฐานบ้านเมืองเรา  ต้องจับเจ่ามาเป็นนาน
 +
โชคหนุนบุญบันดาล  ได้เชิดหน้าครานั้นเอง
 +
๏ พม่าข้าศึกหลวง  ยกทัพจ้วงมาครื้นเครง
 +
หฤทัยไทยยำเยง  พอเพลี่ยงพล้ำเขาขยำเลย
 +
๏ เหลือผุดเจียวอยุธยา  เหลือจักกล้าชูหน้าเงย
 +
ถูกเค้นเหมือนเช่นเคย  ตัวเป็นทาสชาติเป็นไทย
 +
๏ วัดร้างเจดีย์ด้วน  วิหารห้วนโบสถ์หายไป
 +
โพธิ์หักปักหอไตร  ไตรปิฎกตกลงดิน
 +
๏ บ้านแตกสาแหรกขาด  นอนวินาศปราศทรัพย์สิน
 +
หมดท่าทางหากิน  เที่ยวซุกซ่อนซอกซอนเซา
 +
๏ ข้าเศิกเลิกทัพใหญ่  ยกกลับไปบ้านเมืองเขา
 +
กรุงร้างทางเมืองเรา  ให้ทัพน้อยคอยควบคุม
 +
๏ ไทยแยกแตกเป็นเหล่า  ต่างตั้งเจ้าเข้ามั่วสุม
 +
มากมายหลายชุมนุม  คึกขันแข่งแก่งแย่งกัน
 +
๏ ชุมนุมตีชุมนุม  คิดควบคุมรุมโรมรัน
 +
ใครอ่อนถูกฟอนฟัน  การปล้นฆ่าคือหากิน
 +
๏ หากเกิดผู้บุญหลาก  บุญท่านมากเจ้าตากสิน
 +
เกียรติ์แกว่นกู้แผ่นดิน  ตีพม่าล่าแหลกไป
 +
๏ พม่าเวียนมาอีก  เพียรจักฉีกแผ่นดินไทย
 +
เหนื่อยยากตรากตรำใจ  ความปราศร้อนบ่ห่อนมี
 +
๏ น้อยน้อยค่อยกระเตื้อง  เพียรปลดเปลื้องเครื่องยายี
 +
โชคยามงามพอดี  เกิดโชคร้ายบ้ายบีฑา
 +
๏ ภูเบศเกตุแผ่นดิน  ถึงคราวสิ้นวาสนา
 +
โรคทับอับปัญญา  ความดีดับกลับเป็นเลว
 +
๏ เปล่าปลดหมดสิทธิโชค  เพราะพระโรคพาแหลกเหลว
 +
เมืองไทยดังไฟเปลว  คือชีวิตจักปลิดปลง
 +
๏ ป่วนปั่นกันอีกครั้ง  นึกถอยหลังนั่งพิศวง
 +
แม้พม่าจู่มาคง  จักเป็นไฉนหนอไทยเรา
 +
๏ เคราะห์ดีมีบุรุษ  องค์เอกอุตม์สุดชาญเชาวน์
 +
เรื่องร้ายกลายเป็นเบา  โชคยังหนุนบุญยังมี
 +
๏ ครั้งนั้นน่าหวั่นใจ  แต่ไทยไม่หมดคนดี
 +
ต้นวงศ์องค์จักรี  ปัญญาอาจยุทธศาสตร์ทรง
 +
๏ เสด็จเถลิงราชสิงหาสน์  นำหน้าชาติกาจรณรงค์
 +
ยุคเข็ญเห็นตรงตรง  ทรงแก้กู้สู่สวัสดี
 +
๏ ผิวชาติปราศประมุข  ย่อมมีทุกข์มายายี
 +
ศัตรูจู่โจมตี  จักรบสู้ริปูไฉน
 +
๏ พม่ามาห้าด้าน  เราตีต้านแตกกลับไป
 +
มาอีกจักฉีกไทย  ไทยกลับฉีกอีกทุกที
 +
๏ บ้านเมืองเรืองยศลาภ  อานุภาพพระจักรี
 +
พร้อมพรักสามัคคี  จึงสุขสันต์แต่นั้นมา ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
๏ คาบนี้มีปราโมทย์  ทรงสมโภชราชพารา
 +
ปิ่นราชพยุหยาตรา  โดยชลมารคมากพลแมน
 +
๏ ทรงศรีสุพรรณหงส์  แลระหงส่งแสงแหน
 +
หงส์ทองล่องมาแทน  ไม่เพริดพริ้งยิ่งเรือทรง
 +
๏ พลเรือเสื้อแดงดาษ  ดูผุดผาดเอี่ยมอาจอง
 +
มือกรายพายยรรยง  ยกร่อนร่าท่านกบิน
 +
๏ เรือขบวนยวนตายล  เรี่ยวแรงพลในชลสินธุ์
 +
งามองค์ทรงแผ่นดิน  ดังเข้าหล้ามาธรณี
 +
๏ แลลำแม่น้ำกว้าง  ทั้งสองข้างทางชลธี
 +
หญิงชายมากมายมี  มาชื่นชมราชสมภาร
 +
๏ สวยสวยแม่สาวสาว  ผัดหน้าขาวในคราวงาน
 +
นวลแป้งแต่งตระการ  เจ้านวลพริ้งยิ่งนวลปลา
 +
๏ นั่นแน่แม่คนนั้น  เบือนหน้าหันหนีนัยน์นา
 +
อย่าอายเลยสายตา  จักถูกว่าปลาคางเบือน
 +
๏ แก้มแดงแสงสดสี  แดงลิ้นจี่กระมังเหมือน
 +
ถามนิดอย่าบิดเบือน  แก้มช้ำหรือดังชื่อปลา
 +
๏ เนื้ออ่อนอ่อนน่วมน่วม  แม่รูปท้วมท่วมนาวา
 +
นิ่มนุ่มชุ่มนัยน์นา  เนื้ออ่อนแน่แม่งามพี
 +
๏ งามสมแม่ผมดก  แสร้งหยิกหยกศกเสียบหวี
 +
นุ่มมวยสวยมากมี  บ้างศกสั้นสรรสมทรง
 +
๏ ฝูงคนมาคับคั่ง  สะพรึบพรั่งตั้งตาตรง
 +
เอิบอิ่มปริ่มใจจง  ทั้งผู้เฒ่าผู้เยาวภา
 +
๏ เหล่าเรือเหลือหลากหลาย  ไม่งามคล้ายเรือกันยา
 +
เครื่องยนต์ย่นมรคา  ว่องไววิ่งยิ่งลมปลิว
 +
๏ กึกก้องห้องเวหา  เรือล่องฟ้ามาฉิวฉิว
 +
แถวตามงามเป็นทิว  ดังวิหคผกโผผิน
 +
๏ บ้างมาหน้ากระดาน  แข่งขนานปานนกบิน
 +
เหาะเหินแทนเดินดิน  คนวิหคนกดอนเมือง
 +
๏ แลไปปลื้มใจยิ่ง  เห็นแต่สิ่งอันรองเรือง
 +
พระยศไป่ปลดเปลือง  ดูโน่นนี่ไม่มีระคาง
 +
๏ เหลียวไปในปัจฉิม  งามถนิมคือพระปรางค์
 +
พระสถูปรูปรางชาง  ชูยอดเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
 +
๏ ย่อมเห็นเป็นสัญญา  พุทธศาสนาสถาวร
 +
พระธรรมไกรกำจร  เครื่องนำหน้ากล้าในบุญ
 +
๏ จริงสุดพุทธดำรัส  ทรงแสดงอัตถ์สัตยาดุลย์
 +
รู้จักผู้มีคุณ  คราวเพลี่ยงพล้ำท่านค้ำชู
 +
๏ ย่อมเป็นเช่นมีพื้น  ที่ยันยืนแห่งดนู
 +
ผู้ไร้กตัญญู  เปรียบปราศพื้นจักยืนยัน
 +
๏ มาเราเอาคำพระ  เป็นสรณะประจำวัน
 +
เป็นผู้รู้คุณอัน  ท่านทำไว้ในคราวเพรง
 +
๏ จักสู่สวัสดี  เครื่องยายีจักยำเยง
 +
ปรีดีมีมาเอง  เพราะรู้รสพจน์พุทธองค์
 +
๏ ขอถวายพระพรสี่  แด่ภูมีวีรวงศ์
 +
ทุกข์โศกโรคภัยจง  แผ้วพระบาทปลดปราศเทอญ ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ สรวมชีพอัญชลิตซ้อง  อาเศียร
 +
ทศพิธราชธรรมเสถียร  เทิดหล้า
 +
ฉนำฉนำเนื่องจำเนียร  นิรทุกข์ พระเทอญ
 +
เผ่าพระพุทธยอดฟ้า  ยิ่งฟ้าสถาวร ฯ
 +
</tpoem>
 +
== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==
== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นปัจจุบันของ 01:46, 12 กรกฎาคม 2552

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระนิพนธ์: พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

บทประพันธ์

โคลง
๏ งามผงาดราชพ่าห์เพี้ยงพรหมทรง
พระธินั่งศรีสุพรรณหงส์รเห็จห้วง
หงส์ทองล่องลอยลงรองบาท พระฤา
กลอนเกริ่นเพลินพายจ้วงพากย์แจ้งจำเรียง ถวายแล ฯ
             
กาพย์
๏ คาบนี้มีศุภฤกษ์ดังบัวเบิกเบิกบานใจ
งามเวียงอันเกรียงไกรไกรเกรียงแม้นแมนมาทำ
๏ กรุงเทพเทพรังสฤษฏ์เจิดแจ่มจิตวิศวกรรม
เพริศแพร้วแก้วแกมคำคำแกมมุกสุขนัยนา
๏ ปราสาทราชมณเทียรคือวิเชียรเชิดชูตา
ลอยล้ำค้ำนภานภาผ่องส่องรับกัน
๏ ปราการตระการกล้าท่วงทีท่าท้าโรมรัน
หอยุทธ์เย้ยยุทธ์ยันยรรยงเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
๏ ไตรรัตน์จำรัสเลิศเจดีย์เทอดทีปังกร
อาวาสศาสนาทรธัมมะเหมือนเดือนนำเดิน
๏ พระเกียรติพระเกริกกลั่นชนทุกชั้นสรรเสริญ
บ้านเมืองเรืองจำเริญจำรูญรัฐวัฒนากร
๏ พระวงศ์องค์อิศราชเสนามาตย์ราษฎร
พร้อมพรักรักภูธรภูธเรศเลี้ยงเยี่ยงธาตรี ฯ
             
๏ แถลงปางสร้างอนุสรณ์จอมนรากรปิ่นปัถพี
ต้นวงศ์องค์จักรีจักริศเกล้าเจ้าไผทไทย
๏ พระเถลิงราชสมบัติเก้าชั้นฉัตรรัฐเรืองไชย
ไอศูรย์เพิ่มพูนไพ-บุลย์ประโยชน์โสตถิ์สำนาน
๏ สองพันสามร้อยยี่-สิบห้าปีศาสนกาล
ฤกษ์งามยามศุภวารคราวศึกว่างสร้างพระนคร
๏ อาวุธยุทธสถานป้อมปราการปานปุษกร
สามารถฟาดฟันบรผิวเห่อกล้าเข้ามาลอง
๏ วังเวียงเพียงนิรมิตแสนโสภิตพิศเพียงปอง
ระเมียรมนเทียรทองเชิญช่อฟ้าใบระกากาญจน์
๏ งามสุดฝ่ายยุทธจักรวิมลมรรคสมาทาน
กอบเกื้อเอื้อเอาภารอารักขาเนื้อนาบุญ
๏ แสนสง่าอาณาจักรทรงฟูมฟักรักการุญ
ปรายโปรยกอบโกยคุณถ้วนทุกหน้าสาธุการ
๏ ถิ่นฐานบ้านเมืองเราต้องจับเจ่ามาเป็นนาน
โชคหนุนบุญบันดาลได้เชิดหน้าครานั้นเอง
๏ พม่าข้าศึกหลวงยกทัพจ้วงมาครื้นเครง
หฤทัยไทยยำเยงพอเพลี่ยงพล้ำเขาขยำเลย
๏ เหลือผุดเจียวอยุธยาเหลือจักกล้าชูหน้าเงย
ถูกเค้นเหมือนเช่นเคยตัวเป็นทาสชาติเป็นไทย
๏ วัดร้างเจดีย์ด้วนวิหารห้วนโบสถ์หายไป
โพธิ์หักปักหอไตรไตรปิฎกตกลงดิน
๏ บ้านแตกสาแหรกขาดนอนวินาศปราศทรัพย์สิน
หมดท่าทางหากินเที่ยวซุกซ่อนซอกซอนเซา
๏ ข้าเศิกเลิกทัพใหญ่ยกกลับไปบ้านเมืองเขา
กรุงร้างทางเมืองเราให้ทัพน้อยคอยควบคุม
๏ ไทยแยกแตกเป็นเหล่าต่างตั้งเจ้าเข้ามั่วสุม
มากมายหลายชุมนุมคึกขันแข่งแก่งแย่งกัน
๏ ชุมนุมตีชุมนุมคิดควบคุมรุมโรมรัน
ใครอ่อนถูกฟอนฟันการปล้นฆ่าคือหากิน
๏ หากเกิดผู้บุญหลากบุญท่านมากเจ้าตากสิน
เกียรติ์แกว่นกู้แผ่นดินตีพม่าล่าแหลกไป
๏ พม่าเวียนมาอีกเพียรจักฉีกแผ่นดินไทย
เหนื่อยยากตรากตรำใจความปราศร้อนบ่ห่อนมี
๏ น้อยน้อยค่อยกระเตื้องเพียรปลดเปลื้องเครื่องยายี
โชคยามงามพอดีเกิดโชคร้ายบ้ายบีฑา
๏ ภูเบศเกตุแผ่นดินถึงคราวสิ้นวาสนา
โรคทับอับปัญญาความดีดับกลับเป็นเลว
๏ เปล่าปลดหมดสิทธิโชคเพราะพระโรคพาแหลกเหลว
เมืองไทยดังไฟเปลวคือชีวิตจักปลิดปลง
๏ ป่วนปั่นกันอีกครั้งนึกถอยหลังนั่งพิศวง
แม้พม่าจู่มาคงจักเป็นไฉนหนอไทยเรา
๏ เคราะห์ดีมีบุรุษองค์เอกอุตม์สุดชาญเชาวน์
เรื่องร้ายกลายเป็นเบาโชคยังหนุนบุญยังมี
๏ ครั้งนั้นน่าหวั่นใจแต่ไทยไม่หมดคนดี
ต้นวงศ์องค์จักรีปัญญาอาจยุทธศาสตร์ทรง
๏ เสด็จเถลิงราชสิงหาสน์นำหน้าชาติกาจรณรงค์
ยุคเข็ญเห็นตรงตรงทรงแก้กู้สู่สวัสดี
๏ ผิวชาติปราศประมุขย่อมมีทุกข์มายายี
ศัตรูจู่โจมตีจักรบสู้ริปูไฉน
๏ พม่ามาห้าด้านเราตีต้านแตกกลับไป
มาอีกจักฉีกไทยไทยกลับฉีกอีกทุกที
๏ บ้านเมืองเรืองยศลาภอานุภาพพระจักรี
พร้อมพรักสามัคคีจึงสุขสันต์แต่นั้นมา ฯ
             
๏ คาบนี้มีปราโมทย์ทรงสมโภชราชพารา
ปิ่นราชพยุหยาตราโดยชลมารคมากพลแมน
๏ ทรงศรีสุพรรณหงส์แลระหงส่งแสงแหน
หงส์ทองล่องมาแทนไม่เพริดพริ้งยิ่งเรือทรง
๏ พลเรือเสื้อแดงดาษดูผุดผาดเอี่ยมอาจอง
มือกรายพายยรรยงยกร่อนร่าท่านกบิน
๏ เรือขบวนยวนตายลเรี่ยวแรงพลในชลสินธุ์
งามองค์ทรงแผ่นดินดังเข้าหล้ามาธรณี
๏ แลลำแม่น้ำกว้างทั้งสองข้างทางชลธี
หญิงชายมากมายมีมาชื่นชมราชสมภาร
๏ สวยสวยแม่สาวสาวผัดหน้าขาวในคราวงาน
นวลแป้งแต่งตระการเจ้านวลพริ้งยิ่งนวลปลา
๏ นั่นแน่แม่คนนั้นเบือนหน้าหันหนีนัยน์นา
อย่าอายเลยสายตาจักถูกว่าปลาคางเบือน
๏ แก้มแดงแสงสดสีแดงลิ้นจี่กระมังเหมือน
ถามนิดอย่าบิดเบือนแก้มช้ำหรือดังชื่อปลา
๏ เนื้ออ่อนอ่อนน่วมน่วมแม่รูปท้วมท่วมนาวา
นิ่มนุ่มชุ่มนัยน์นาเนื้ออ่อนแน่แม่งามพี
๏ งามสมแม่ผมดกแสร้งหยิกหยกศกเสียบหวี
นุ่มมวยสวยมากมีบ้างศกสั้นสรรสมทรง
๏ ฝูงคนมาคับคั่งสะพรึบพรั่งตั้งตาตรง
เอิบอิ่มปริ่มใจจงทั้งผู้เฒ่าผู้เยาวภา
๏ เหล่าเรือเหลือหลากหลายไม่งามคล้ายเรือกันยา
เครื่องยนต์ย่นมรคาว่องไววิ่งยิ่งลมปลิว
๏ กึกก้องห้องเวหาเรือล่องฟ้ามาฉิวฉิว
แถวตามงามเป็นทิวดังวิหคผกโผผิน
๏ บ้างมาหน้ากระดานแข่งขนานปานนกบิน
เหาะเหินแทนเดินดินคนวิหคนกดอนเมือง
๏ แลไปปลื้มใจยิ่งเห็นแต่สิ่งอันรองเรือง
พระยศไป่ปลดเปลืองดูโน่นนี่ไม่มีระคาง
๏ เหลียวไปในปัจฉิมงามถนิมคือพระปรางค์
พระสถูปรูปรางชางชูยอดเยี่ยมเอี่ยมอัมพร
๏ ย่อมเห็นเป็นสัญญาพุทธศาสนาสถาวร
พระธรรมไกรกำจรเครื่องนำหน้ากล้าในบุญ
๏ จริงสุดพุทธดำรัสทรงแสดงอัตถ์สัตยาดุลย์
รู้จักผู้มีคุณคราวเพลี่ยงพล้ำท่านค้ำชู
๏ ย่อมเป็นเช่นมีพื้นที่ยันยืนแห่งดนู
ผู้ไร้กตัญญูเปรียบปราศพื้นจักยืนยัน
๏ มาเราเอาคำพระเป็นสรณะประจำวัน
เป็นผู้รู้คุณอันท่านทำไว้ในคราวเพรง
๏ จักสู่สวัสดีเครื่องยายีจักยำเยง
ปรีดีมีมาเองเพราะรู้รสพจน์พุทธองค์
๏ ขอถวายพระพรสี่แด่ภูมีวีรวงศ์
ทุกข์โศกโรคภัยจงแผ้วพระบาทปลดปราศเทอญ ฯ
             
โคลง
๏ สรวมชีพอัญชลิตซ้องอาเศียร
ทศพิธราชธรรมเสถียรเทิดหล้า
ฉนำฉนำเนื่องจำเนียรนิรทุกข์ พระเทอญ
เผ่าพระพุทธยอดฟ้ายิ่งฟ้าสถาวร ฯ
             

เชิงอรรถ

อ้างอิง

เครื่องมือส่วนตัว