กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

จาก ตู้หนังสือเรือนไทย

(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
ข้ามไปที่: นำทาง, สืบค้น
(หน้าที่ถูกสร้างด้วย '== ข้อมูลเบื้องต้น == หมวดหมู่:วรรณคดีไทย [[หมวดหมู่…')
(เห่ชมเครื่องหวาน)
 
(การแก้ไข 12 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล)
แถว 1: แถว 1:
== ข้อมูลเบื้องต้น ==
== ข้อมูลเบื้องต้น ==
 +
{{เรียงลำดับ|กาพย์ห่เรเือ พระราชนิพนธ์พระบาทสมดเ็จพระพุทธลเิศหล้านภาลัย}}
[[หมวดหมู่:วรรณคดีไทย]]
[[หมวดหมู่:วรรณคดีไทย]]
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:วรรณคดีรัตนโกสินทร์]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
[[หมวดหมู่:กาพย์เห่เรือ]]
'''พระราชนิพนธ์:''' [[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]
'''พระราชนิพนธ์:''' [[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]
 +
== บทประพันธ์ ==
== บทประพันธ์ ==
 +
=== เห่ชมเครื่องคาว ===
<tpoem>
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ  นพคุณ พี่เอย
 +
หอมยี่หร่ารสฉุน  เฉียบร้อน
 +
ชายใดบริโภคภุญช์  พิศวาส หวังนา
 +
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน  อกให้หวนแสวง ฯ
</tpoem>
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ มัสมั่นแกงแก้วตา  หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
 +
ชายใดได้กลืนแกง  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
 +
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด  วางจานจัดหลายเหลือตรา
 +
รสดีด้วยน้ำปลา  ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
 +
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม  เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
 +
โอชาจะหาไหน  ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
 +
๏ หมูแนมแหลมเลิศรส  พร้อมพริกสดใบทองหลาง
 +
พิศห่อเห็นรางชาง  ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
 +
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น  วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
 +
รสทิพย์หยิบมาโปรย  ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
 +
๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง  เป็นมันย่องล่องลอยมัน
 +
น่าซดรสครามครัน  ของสวรรค์เสวยรมย์
 +
๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า  ทำน้ำยาอย่างอกงขม
 +
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม  ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
 +
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ  รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
 +
ใครหุงปรุงไม่เป็น  เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
 +
๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม  แกงคั่วส้มใส่ระกำ
 +
รอยแจ้งแห่งความขำ  ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
 +
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด  ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
 +
คิดความยามถนอม  สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
 +
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง  นอนเตียงทองทำเมืองบน
 +
ลดหลั่นชั้นชอบกล  ยลอยากนิทรคิดแนบนอน
 +
๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า  รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
 +
เจ็บไกลในอาวรณ์  ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
 +
๏ รังนกนึ่งน่าซด  โอชารสกว่าทั้งปวง
 +
นกพรากจากรังรวง  เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
 +
๏ ไตปลาเสแสร้งว่า  ดุจวาจากระบิดกระบวน
 +
ใบโศกบอกโศกครวญ  ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
 +
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง  เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
 +
ผักหวานซ่านทรวงใน  ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ฯ
 +
</tpoem>
 +
 +
=== เห่ชมผลไม้ ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ ผลชิดแช่อิ่มโอ้  เอมใจ
 +
หอมชื่นกลืนหวานใน  อกชู้
 +
รื่นรื่นรสรมย์ใด  ฤๅดุจ นี้แม่
 +
หวานเลิศเหลือรู้รู้  แต่เนื้อนงพาล ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ ผลชิดแช่อิ่มอบ  หอมตรลบล้ำเหลือหวาน
 +
รสไหนไม่เปรียบปาน  หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ
 +
๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริง  รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
 +
คิดความยามพิสมัย  หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น
 +
๏ ผลจากเจ้าลอยแก้ว  บอกความแล้วจากจำเป็น
 +
จากช้ำน้ำตากระเด็น  เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
 +
๏ หมากปรางนางปอกแล้ว  ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
 +
ยามชื่นรื่นโรยแรง  ปรางอิ่มอาบซาบนาสา
 +
๏ หวนห่วงม่วงหมอนทอง  อีกอกร่องรสโอชา
 +
คิดความยามนิทรา  อุราแนบแอบอกอร
 +
๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น  เรียกส้มฉุนใช้นามกร
 +
หวนถวิลลิ้นลมงอน  ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน
 +
๏ พลับจีนจักด้วยมีด  ทำประณีตน้ำตาลกวน
 +
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน  ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ
 +
๏ น้อยหน่านำเมล็ดออก  ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์
 +
มือใครไหนจักทัน  เทียบเทียมที่ฝีมือนาง
 +
๏ ผลเกดพิเศษสด  โอชารสล้ำเลิศปาง
 +
คำนึงถึงเอวบาง  สางเกศเส้นขนเม่นสอย
 +
๏ ทับทิมพริ้มตาตรู  ใส่จานดูดุจเม็ดพลอย
 +
สุกแสงแดงจักย้อย  อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย
 +
๏ ทุเรียนเจียนตองปู  เนื้อดีดูเหลือเรืองพราย
 +
เหมือนศรีฉวีกาย  สายสวาทพี่ที่คู่คิด
 +
๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอม  ผลงอมงอมรสหวานสนิท
 +
กลืนพลางทางเพ่งพิศ  คิดยามสารทยาตรามา
 +
๏ ผลเงาะไม่งามแงะ  มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
 +
หวนเห็นเช่นรจนา  จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม
 +
๏ สละสำแลงผล  คิดลำต้นแน่นหนาหนาม
 +
ท่าทิ่มปิ้มปืนกาม  นามสละมละเมตตา ฯ
 +
</tpoem>
 +
 +
=== เห่ชมเครื่องหวาน ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ สังขยาหน้าไข่คุ้น  เคยมี
 +
แกมกับข้าวเหนียวสี  โศกย้อม
 +
เป็นนัยนำวาที  สมรแม่ มาแม่
 +
แถลงว่าโศกเสมอพ้อม  เพียบแอ้อกอร ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ สังขยาหน้าตั้งไข่  ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
 +
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง  แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
 +
๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ  แทรกใส่น้ำกะทิเจือ
 +
วิตกอกแห้งเครือ  ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
 +
๏ ลำเจียกชื่อขนม  นึกโฉมฉมหอมชวยโชย
 +
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดย  โหยไห้หาบุหงางาม
 +
๏ มัศกอดกอดอย่างไร  น่าสงสัยใคร่ขอถาม
 +
กอดเคล้นจะเห็นความ  ขนมนามนี้ยังแคลง
 +
๏ ลุดตี่นี้น่าชม  แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
 +
โอชาหน้าไก่แกง  แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
 +
๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ  งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
 +
นึกน้องนุ่งจีบกราย  ชายพกจีบกลีบแนบเนียน
 +
๏ รสรักยักลำนำ  ประดิษฐ์ทำขนมเทียน
 +
คำนึงนิ้วนางเจียน  เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
 +
๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัด  สามหยิบชัดน่าเชยชม
 +
หลงหยิบว่ายาดม  ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
 +
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน  เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
 +
ร้อนนักรักแรมไกล  เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
 +
๏ รังไรโรยด้วยแป้ง  เหมือนนกแกล้งทำรังรวง
 +
โอ้อกนกทั้งปวง  ยังยินดีด้วยมีรัง
 +
๏ ทองหยอดทอดสนิท  ทองม้วนมิดคิดความหลัง
 +
สองปีสองปิดบัง  แต่ลำพังสองต่อสอง
 +
๏ งามจริงจ่ามงกุฏ  ใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
 +
เรียมร่ำคำนึงปอง  สะอิ้งน้องนั้นเคยยล
 +
๏ บัวลอยเล่ห์บัวงาม  คิดบัวกามแก้วกับตน
 +
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคล  สถนนุชดุจประทุม
 +
๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส  หอมปรากฏกลโกสุม
 +
คิดสีสไลคลุม  หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
 +
๏ ฝอยทองเป็นยองใย  เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
 +
คิดความยามเยาวมาลย์  เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ
 +
</tpoem>
 +
 +
=== เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์ ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ หวนเห็นหีบหมากเจ้า  จัดเจียน มาแม่
 +
พลูจีบต่อยอดเนียน  น่าเคี้ยว
 +
กลี่กล่องกระวานเขียน  มือญี่ ปุ่นเฮย
 +
บุหรี่ใส่กล่องเงี้ยว  ลอบให้เหลือหาญ ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ หมากเจียนเจ้างามปลอด  พลูต่อยอดน่าเอ็นดู
 +
กระวานอีกกานพลู  บุหรี่ให้ใจเหลือหาญ
 +
๏ เช็ดหน้าชุบน้ำอบ  หอมตรลบดอกดวงมาลย์
 +
บังอรซ่อนใส่พาน  ส่งมาให้ไม่เว้นวัน
 +
๏ เดือนสามสำเภามา  มีใบชาชาติจุหลัน
 +
ถ้ำคู่อยู่เคียงกัน  กับให้เห็นเป็นปริศนา
 +
๏ เดือนห้าหน้าร้อนจัด  เจ้าให้พัดด้ามจิ้วมา
 +
เรื่องร้อนผ่อนเพทนา  เพื่อพนิดาไม่ละเลย
 +
๏ คำนึงถึงเดือนหก  ทั่วทายกตามโคมเคย
 +
งามสุดนุชพี่เอย  ได้เห็นกันวันบูชา
 +
๏ เดือนแปดวันเพ็ญเจ้า  ย่อมไปเข้าพระพรรษา
 +
รับศีลอย่างสีกา  ด้วยเจตนาจำนงใน
 +
๏ เห็นนวลครวญครุ่นคิด  กำเริบจิตวาบหวั่นไหว
 +
ไปได้ก็จะไป  โอบเอวอุ้มพุ่มพวงพยุง
 +
๏ ยามฝนดลเดือนสิบ  เริ่มข้าวทิพย์เจ้าจะหุง
 +
หาของต้องการปรุง  มุ่งใจจิตประดิษฐ์ประดอย
 +
๏ เดือนสิบเอ็ดเด็ดแดดิ้น  ยามกฐินทุกวันคอย
 +
เห็นเรือไล่ถี่ซอย  กลอยกลับเห็นเช่นแรกสม
 +
๏ คิดรูปน่ารักเหลือ  คิดนุ่มเนื้อน่าเชยชม
 +
คิดเนตรขำค้อนคม  ผมหอมชื่นรื่นรสคนธ์
 +
๏ ฤดูเดือนสิบสอง  หญิงชายซ้องแซ่อึงอล
 +
ขึ้นล่องท่องเที่ยวชล  ยลผ้าป่าราตรีกาล
 +
๏ เซ็งแซ่เสียงเภรี  ปานเรียมตีทรวงประหาร
 +
พาทย์ฆ้องก้องกังวาน  สารดุจน้องร้องเรียกเรียม
 +
๏ ทุกลำลอบเล็งลักษณ์  ไม่พบพักตร์เจ้างามเสงี่ยม
 +
ดูไหนไม่เทียบเทียม  ร่วมรักเรียมรูปร่างรัด
 +
๏ เดือนยี่พิธีพญา  โยนชิงช้าชนแออัด
 +
สาวหนุ่มกำหนดนัด  ทัศนาแห่แลหากัน
 +
๏ เรียมเตร่ตรวจทุกช่อง  ไม่เห็นน้องเนื้อนวลจันทร์
 +
ว้าวิ่นดิ้นแดยัน  หันเห็นท่าชิงช้าโยน
 +
๏ เชี่ยวชาญกระดานต้น  โยกเยกยลคนหกโหน
 +
ถือท้ายกายอ่อนโอน  โดนคิดได้ดั่งใจถวิล
 +
๏ แรมค่ำร่ำไห้หวน  แห่อิศวรย่ำยามยิน
 +
เคยเห็นเป็นอาจิณ  ช้าหงส์เห่เล่ห์ลมพราหมณ์
 +
๏ โอมอวดสวดสำเนียง  ไม่เหมือนเสียงนางนงราม
 +
ล้ำเลิศเฉิดโฉมงาม  ยามเย็นเช้าเจ้าอ่านฉันท์
 +
๏ อ่อนหวานสารเสนาะ  เพราะอักษรกลอนพาดพัน
 +
แจ้งเจื้อยใจจาบัลย์  ทุกวันหวังฟังเสียงสมร
 +
๏ ห้าค่ำย่ำยามปลาย  แห่นารายณ์เร่งอาวรณ์
 +
อยู่ใกล้จะใคร่จร  ไปรับเจ้าเคล้าคลอมา
 +
๏ เดือนแรมเหมือนเรียมค้าง  เรื่องรักร้างแรมขนิษฐา
 +
แรมรสแรมพจนา  แรมเห็นหน้านิ่งนอนแรม ฯ
 +
</tpoem>
 +
 +
=== เห่บทเจ้าเซ็น ===
 +
<tpoem>
 +
<sup>โคลง</sup>
 +
๏ ดลเดือนมหะหร่ำเจ้า  เซ็นปี ใหม่แม่
 +
มะหง่นประปรานทวี  เทวษไห้
 +
ห่อนเห็นมิ่งมารศรี  เสมอชีพ มานา
 +
เรียมลูบอกไล้ไล้  คู่ข้อนทรวงเซ็น ฯ
 +
</tpoem>
 +
<tpoem>
 +
<sup>กาพย์</sup>
 +
๏ ดลเดือนเรียกมหะหร่ำ  ขึ้นสองค่ำแขกตั้งการ
 +
เจ้าเซ็นสิบวันวาร  ประหารอกฟกฟูมนัยน์
 +
๏ มหะหร่ำเรียมคอยเคร่า  ไม่เห็นเจ้าเศร้าเสียใจ
 +
ลูบอกโอ้อาลัย  ลาลดล้ำกำสรวลเซ็น ฯ
 +
</tpoem>
 +
== เชิงอรรถ ==
== เชิงอรรถ ==

รุ่นปัจจุบันของ 09:24, 14 ตุลาคม 2555

เนื้อหา

ข้อมูลเบื้องต้น

แม่แบบ:เรียงลำดับ พระราชนิพนธ์: พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย

บทประพันธ์

เห่ชมเครื่องคาว

โคลง
๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อนพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุนเฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อนอกให้หวนแสวง ฯ
             
กาพย์
๏ มัสมั่นแกงแก้วตาหอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกงแรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
๏ ยำใหญ่ใส่สารพัดวางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลาญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้มเจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหนไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
๏ หมูแนมแหลมเลิศรสพร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชางห่างห่อหวนป่วนใจโหย
๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่นวางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรยฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
๏ เทโพพื้นเนื้อท้องเป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครันของสวรรค์เสวยรมย์
๏ ความรักยักเปลี่ยนท่าทำน้ำยาอย่างอกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลมชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศรสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็นเช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
๏ เหลือรู้หมูป่าต้มแกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม
๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสดฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอมสนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้องนอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกลยลอยากนิทรคิดแนบนอน
๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้ารุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
๏ รังนกนึ่งน่าซดโอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวงเหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
๏ ไตปลาเสแสร้งว่าดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้องเป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงในใคร่ครวญรักผักหวานนาง ฯ
             

เห่ชมผลไม้

โคลง
๏ ผลชิดแช่อิ่มโอ้เอมใจ
หอมชื่นกลืนหวานในอกชู้
รื่นรื่นรสรมย์ใดฤๅดุจ นี้แม่
หวานเลิศเหลือรู้รู้แต่เนื้อนงพาล ฯ
             
กาพย์
๏ ผลชิดแช่อิ่มอบหอมตรลบล้ำเหลือหวาน
รสไหนไม่เปรียบปานหวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ
๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริงรสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจ
คิดความยามพิสมัยหมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น
๏ ผลจากเจ้าลอยแก้วบอกความแล้วจากจำเป็น
จากช้ำน้ำตากระเด็นเป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง
๏ หมากปรางนางปอกแล้วใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรงปรางอิ่มอาบซาบนาสา
๏ หวนห่วงม่วงหมอนทองอีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทราอุราแนบแอบอกอร
๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่นเรียกส้มฉุนใช้นามกร
หวนถวิลลิ้นลมงอนชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน
๏ พลับจีนจักด้วยมีดทำประณีตน้ำตาลกวน
คิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวนยลยิ่งพลับยับยับพรรณ
๏ น้อยหน่านำเมล็ดออกปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรย์
มือใครไหนจักทันเทียบเทียมที่ฝีมือนาง
๏ ผลเกดพิเศษสดโอชารสล้ำเลิศปาง
คำนึงถึงเอวบางสางเกศเส้นขนเม่นสอย
๏ ทับทิมพริ้มตาตรูใส่จานดูดุจเม็ดพลอย
สุกแสงแดงจักย้อยอย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย
๏ ทุเรียนเจียนตองปูเนื้อดีดูเหลือเรืองพราย
เหมือนศรีฉวีกายสายสวาทพี่ที่คู่คิด
๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอมผลงอมงอมรสหวานสนิท
กลืนพลางทางเพ่งพิศคิดยามสารทยาตรามา
๏ ผลเงาะไม่งามแงะมล่อนเมล็ดและเหลือปัญญา
หวนเห็นเช่นรจนาจ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม
๏ สละสำแลงผลคิดลำต้นแน่นหนาหนาม
ท่าทิ่มปิ้มปืนกามนามสละมละเมตตา ฯ
             

เห่ชมเครื่องหวาน

โคลง
๏ สังขยาหน้าไข่คุ้นเคยมี
แกมกับข้าวเหนียวสีโศกย้อม
เป็นนัยนำวาทีสมรแม่ มาแม่
แถลงว่าโศกเสมอพ้อมเพียบแอ้อกอร ฯ
             
กาพย์
๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลงแจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำแทรกใส่น้ำกะทิเจือ
วิตกอกแห้งเครือได้เสพหริ่มพิมเสนโรย
๏ ลำเจียกชื่อขนมนึกโฉมฉมหอมชวยโชย
ไกลกลิ่นดิ้นแดโดยโหยไห้หาบุหงางาม
๏ มัศกอดกอดอย่างไรน่าสงสัยใคร่ขอถาม
กอดเคล้นจะเห็นความขนมนามนี้ยังแคลง
๏ ลุดตี่นี้น่าชมแผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผง
โอชาหน้าไก่แกงแคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย
๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่องามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบกรายชายพกจีบกลีบแนบเนียน
๏ รสรักยักลำนำประดิษฐ์ทำขนมเทียน
คำนึงนิ้วนางเจียนเทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม
๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัดสามหยิบชัดน่าเชยชม
หลงหยิบว่ายาดมก้มหน้าเมินเขินขวยใจ
๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อนเพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน
ร้อนนักรักแรมไกลเมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง
๏ รังไรโรยด้วยแป้งเหมือนนกแกล้งทำรังรวง
โอ้อกนกทั้งปวงยังยินดีด้วยมีรัง
๏ ทองหยอดทอดสนิททองม้วนมิดคิดความหลัง
สองปีสองปิดบังแต่ลำพังสองต่อสอง
๏ งามจริงจ่ามงกุฏใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง
เรียมร่ำคำนึงปองสะอิ้งน้องนั้นเคยยล
๏ บัวลอยเล่ห์บัวงามคิดบัวกามแก้วกับตน
ปลั่งเปล่งเคร่งยุคลสถนนุชดุจประทุม
๏ ช่อม่วงเหมาะมีรสหอมปรากฏกลโกสุม
คิดสีสไลคลุมหุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน
๏ ฝอยทองเป็นยองใยเหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน
คิดความยามเยาวมาลย์เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ฯ
             

เห่ครวญเข้ากับนักขัตฤกษ์

โคลง
๏ หวนเห็นหีบหมากเจ้าจัดเจียน มาแม่
พลูจีบต่อยอดเนียนน่าเคี้ยว
กลี่กล่องกระวานเขียนมือญี่ ปุ่นเฮย
บุหรี่ใส่กล่องเงี้ยวลอบให้เหลือหาญ ฯ
             
กาพย์
๏ หมากเจียนเจ้างามปลอดพลูต่อยอดน่าเอ็นดู
กระวานอีกกานพลูบุหรี่ให้ใจเหลือหาญ
๏ เช็ดหน้าชุบน้ำอบหอมตรลบดอกดวงมาลย์
บังอรซ่อนใส่พานส่งมาให้ไม่เว้นวัน
๏ เดือนสามสำเภามามีใบชาชาติจุหลัน
ถ้ำคู่อยู่เคียงกันกับให้เห็นเป็นปริศนา
๏ เดือนห้าหน้าร้อนจัดเจ้าให้พัดด้ามจิ้วมา
เรื่องร้อนผ่อนเพทนาเพื่อพนิดาไม่ละเลย
๏ คำนึงถึงเดือนหกทั่วทายกตามโคมเคย
งามสุดนุชพี่เอยได้เห็นกันวันบูชา
๏ เดือนแปดวันเพ็ญเจ้าย่อมไปเข้าพระพรรษา
รับศีลอย่างสีกาด้วยเจตนาจำนงใน
๏ เห็นนวลครวญครุ่นคิดกำเริบจิตวาบหวั่นไหว
ไปได้ก็จะไปโอบเอวอุ้มพุ่มพวงพยุง
๏ ยามฝนดลเดือนสิบเริ่มข้าวทิพย์เจ้าจะหุง
หาของต้องการปรุงมุ่งใจจิตประดิษฐ์ประดอย
๏ เดือนสิบเอ็ดเด็ดแดดิ้นยามกฐินทุกวันคอย
เห็นเรือไล่ถี่ซอยกลอยกลับเห็นเช่นแรกสม
๏ คิดรูปน่ารักเหลือคิดนุ่มเนื้อน่าเชยชม
คิดเนตรขำค้อนคมผมหอมชื่นรื่นรสคนธ์
๏ ฤดูเดือนสิบสองหญิงชายซ้องแซ่อึงอล
ขึ้นล่องท่องเที่ยวชลยลผ้าป่าราตรีกาล
๏ เซ็งแซ่เสียงเภรีปานเรียมตีทรวงประหาร
พาทย์ฆ้องก้องกังวานสารดุจน้องร้องเรียกเรียม
๏ ทุกลำลอบเล็งลักษณ์ไม่พบพักตร์เจ้างามเสงี่ยม
ดูไหนไม่เทียบเทียมร่วมรักเรียมรูปร่างรัด
๏ เดือนยี่พิธีพญาโยนชิงช้าชนแออัด
สาวหนุ่มกำหนดนัดทัศนาแห่แลหากัน
๏ เรียมเตร่ตรวจทุกช่องไม่เห็นน้องเนื้อนวลจันทร์
ว้าวิ่นดิ้นแดยันหันเห็นท่าชิงช้าโยน
๏ เชี่ยวชาญกระดานต้นโยกเยกยลคนหกโหน
ถือท้ายกายอ่อนโอนโดนคิดได้ดั่งใจถวิล
๏ แรมค่ำร่ำไห้หวนแห่อิศวรย่ำยามยิน
เคยเห็นเป็นอาจิณช้าหงส์เห่เล่ห์ลมพราหมณ์
๏ โอมอวดสวดสำเนียงไม่เหมือนเสียงนางนงราม
ล้ำเลิศเฉิดโฉมงามยามเย็นเช้าเจ้าอ่านฉันท์
๏ อ่อนหวานสารเสนาะเพราะอักษรกลอนพาดพัน
แจ้งเจื้อยใจจาบัลย์ทุกวันหวังฟังเสียงสมร
๏ ห้าค่ำย่ำยามปลายแห่นารายณ์เร่งอาวรณ์
อยู่ใกล้จะใคร่จรไปรับเจ้าเคล้าคลอมา
๏ เดือนแรมเหมือนเรียมค้างเรื่องรักร้างแรมขนิษฐา
แรมรสแรมพจนาแรมเห็นหน้านิ่งนอนแรม ฯ
             

เห่บทเจ้าเซ็น

โคลง
๏ ดลเดือนมหะหร่ำเจ้าเซ็นปี ใหม่แม่
มะหง่นประปรานทวีเทวษไห้
ห่อนเห็นมิ่งมารศรีเสมอชีพ มานา
เรียมลูบอกไล้ไล้คู่ข้อนทรวงเซ็น ฯ
             
กาพย์
๏ ดลเดือนเรียกมหะหร่ำขึ้นสองค่ำแขกตั้งการ
เจ้าเซ็นสิบวันวารประหารอกฟกฟูมนัยน์
๏ มหะหร่ำเรียมคอยเคร่าไม่เห็นเจ้าเศร้าเสียใจ
ลูบอกโอ้อาลัยลาลดล้ำกำสรวลเซ็น ฯ
             

เชิงอรรถ

เครื่องมือส่วนตัว