บทละครขุนช้างขุนà¹à¸œà¸™ พระบวรราชนิพนธ์ในà¸à¸£à¸¡à¸žà¸£à¸°à¸£à¸²à¸Šà¸§à¸±à¸‡à¸šà¸§à¸£à¸¡à¸«à¸²à¸¨à¸±à¸à¸”ิพลเสพ
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
(ความแตกต่างระหว่างรุ่นปรับปรุง)
(→) |
(→ข้อมูลเบื้องต้น) |
||
(การแก้ไข 5 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล) | |||
แถว 5: | แถว 5: | ||
[[หมวดหมู่:กลอนสุภาพ]] | [[หมวดหมู่:กลอนสุภาพ]] | ||
[[หมวดหมู่:บทละคร]] | [[หมวดหมู่:บทละคร]] | ||
- | |||
'''พระบวรราชนิพนธ์:''' [[กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ]] | '''พระบวรราชนิพนธ์:''' [[กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ]] | ||
แถว 966: | แถว 965: | ||
มากลางทางพยาบาทไม่ขาดคะนึง กีดเกะกะจึงได้ละเลยมา | มากลางทางพยาบาทไม่ขาดคะนึง กีดเกะกะจึงได้ละเลยมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ว่าเอยว่าพลาง สัพยอกหยอกนางทางหรรษา | ||
+ | ไม่คลุกคลีทีถนอมด้วยกรุณา ฉวยคว้าจับต้องแต่ปลายมือ | ||
+ | พาชมดวงบุษบันเล่น แทรกเร้นมาให้พ้นคนอยู่อื้อ | ||
+ | เร่ร่ายชายแฝงเข้าดงปรือ รกชื้อบื้อชักกลัดกอบัว | ||
+ | ได้ท่วงทีที่ในเชิงสังวาส ก็แอบอิงพิงพาดเข้าเย้ายั่ว | ||
+ | เบี่ยงบ่ายพอให้รู้สึกตัว เหน็บแนมแกมกลั่วระคนรัก | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น สาวเวียงอกสั่นพรั่นหนัก | ||
+ | คิดใคร่อยู่แต่ใจให้ทึกทัก ทำพลิกผลักแล้วกล่าววาจา | ||
+ | อะไรจะเลียมเล่นเช่นนี้ มันไม่ดีหนานายพ่อคุณขา | ||
+ | ฉันนี้ประดาษชาติช้า เลี้ยงเป็นทาสข้าจึงจะควร | ||
+ | ไม่อาจเอื้อมเลยล่วงให้เกินศักดิ์ พิศพักตร์อยู่เช้าเย็นเห็นน่าสรวล | ||
+ | ไม่รอดชั่วกลับเขาจะสำรวล อย่ายียวนหยอกเย้าเลยเอาบุญ | ||
+ | แล้วสาววันคงจะรันไปยงยุ ลาวทองหล่อนจะดุหันหุน | ||
+ | จะก่อเกิดวิวาทชุลมุน หม่อมจะรำคาญขุ่นระคายเคือง | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | สาวเอยสาวเวียง อย่างหลีกเลี่ยงข้อนั้นจะปลดเปลื้อง | ||
+ | ข้าห่อหิ้วพามาแต่บ้านเมือง จะกระด้างกระเดื่องนั้นผิดไป | ||
+ | ลาวทองมิใช่ง่องจะโง่โง่ จะทำแต่โมโหหาเป็นไม่ | ||
+ | เราขืนแข็งแรงเรี่ยวคงตามใจ ไว้อัชฌาอาศัยไม่ดุดึง | ||
+ | ทำไมกับนางเลอะเคอะสาววัน มันไม่ขันที่จะเข้ามาหวงหึง | ||
+ | จะยุยงอย่างไรอย่าพรั่นพรึง ข้อที่ซึ่งพิศพักตร์อยู่เช้าเย็น | ||
+ | กลัวเสียสรวลถ่อมควรแต่ช่วงใช้ ยศศักดิ์ทำไม่ได้ไม่ว่าเล่น | ||
+ | สุดแต่ใจต่อใจเอาเป็น นัยน์ตาเห็นว่าดีไม่หนีตา | ||
+ | หน้านี้ไม่ชั่วอย่ากลัวร้าง ต้องส่วนนางลักษณะดีนักหนา | ||
+ | ฉะนี้แล้วไม่เพี้ยนผิดตำรา จะเป็นหม้ายผัวหย่าอย่าพึงคิด | ||
+ | นี่แน่อุแม่เอ๋ยนางพี่นาง ถึงจะแก่อ่อนอย่าหมางระคางจิต | ||
+ | เหย้าเรือนเฝืองฝาทำมิดชิด ไม้อ่อนดอกตะบิดผูกมัด | ||
+ | ถึงแก่ก็แต่กับลาวทอง เรียกพี่นางตามทำนองด้วยปากถนัด | ||
+ | อย่าทำแชห่างแหระแคระคัด ไผ่ใบขิงจะรึงรัดไม้สองน้อง | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ว่าเอยว่าแล้ว พ่อพลายแก้วชิดชมประสมสอง | ||
+ | แปลกเปลี่ยนเหียนหันผันประลอง เคล้าคล่องว่องไวไปมา | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
</tpoem> | </tpoem> | ||
+ | |||
+ | ===ตอน ๒ ตั้งแต่ขุนแผนครวญถึงนางลาวทอง แล้วกลับคิดถึงนางวันทอง จนถึงลักพานางวันทองไปอยู่ป่า=== | ||
==== ==== | ==== ==== | ||
+ | <tpoem> | ||
+ | <sub>ช้า</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนกำสรวลเศร้าหมอง | ||
+ | ให้ง่วงเหงาถึงเจ้าลาวทอง เขาร้องฟ้องต้องติดอยู่ในวัง | ||
+ | ไปเป็นชาวสะดึงเวทนา โอ้อนิจจาการปักมักเจ็บหลัง | ||
+ | เคยเป็นสุขเช้าค่ำแต่ลำพัง จะต้องนั่งตรากตรำทำสะดึง | ||
+ | เช่นลูกเมียอ้ายอนุเหมือนอย่างนั้น ผัวมันคิดขบถโทษควรถึง | ||
+ | ป่านนี้น้องของพี่จะรำพึง เคยหยอกเย้าเคล้าคลึงผัวเมีย | ||
+ | เคราะห์กรรมจำพรากจากไกล ดั่งเด็ดดวงใจเอาไปเสีย | ||
+ | ร้อนเหมือนได้ตามลามเลีย เสียเมียเก่าใหม่ทั้งสองคน | ||
+ | ไม่มีความสุขเฝ้าทุกข์ร้อน ยามนอนโหยไห้ระเหระหน | ||
+ | แต่ฟูมฟองนองคร่ำน้ำสุชล คิดแต่จนอยู่ด้วยกันกับวันทอง | ||
+ | ยิ่งน้อยจิตคิดแค้นขุนช้าง มาผ่ากลางวางเข้าเป็นเจ้าของ | ||
+ | เพียงนี้มิหนำยังซ้ำฟ้อง จนลาวทองต้องติดเป็นคนวัง | ||
+ | อิจฉาริษยาประดาเสีย มันไม่ให้มีเมียด้วยเขามั่ง | ||
+ | เป็นมิตรคิดร้ายมาหลายครั้ง เออจะนั่งน้อยหน้ามันว่าไร | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมียเอยเมียเรา มันชิงเข้ามาเป็นเจ้าผัวได้ | ||
+ | ขี้เกียจเกลียดความยิ่งย่ามไป ทะนงใจจองหองว่ามีทรัพย์ | ||
+ | มันก่อกรรมจำกูจะแก้แค้น ทดแทนล้วงไส้ให้ถึงตับ | ||
+ | ลักวันทองพาหนีให้ลี้ลับ มันจะปรับเอาใครอ้ายเฉโก | ||
+ | ถึงจะติดตามไปก็ไม่พรั่น จะขับม้าฝ่าฟันให้วิ่งโร่ | ||
+ | ให้มันสามสมใจร้องไห้โฮ โยโสว่ามีทรัพย์นับกระบุง | ||
+ | จะได้เล่นเห็นกันวันพรุ่งนี้ เอาสิ้นสมประดีตีอกผลุง | ||
+ | งุ่นง่านดาลเดือดอยู่ในมุ้ง ไม่หลับเลยจนรุ่งขึ้นแก่ตา | ||
+ | ลุกจากที่นอนถอนใจใหญ่ ออกไปหน้าต่างล้างหน้า | ||
+ | เปิดประตูลงเรือนรีบคลา เดินก้าวยาวมาด้วยขัดใจ | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | มาเอยมาถึง เปิดมุ้งปลุกท่านคุณผู้ใหญ่ | ||
+ | เล่าความให้ฟังแต่หลังไป จะจำไกลอำลาไปสุพรรณ | ||
+ | น้อยจิตคิดแค้นขุนช้างนัก ลูกรักเหลือที่จะอดกลั้น | ||
+ | มันร้องฟ้องกล่าวโทษโรธทัณฑ์ เสียแรงเป็นเกลอกันมันคิดคด | ||
+ | ปองผิดคิดร้ายมาหลายหน เมียลูกสองคนก็จนหมด | ||
+ | ตั้งใจเสียดส่อทรยศ โป้ปดร่ำไปอ้ายคนเท็จ | ||
+ | ลูกจะลักพาวันทองหนี ทำให้ถึงที่แก้เผ็ด | ||
+ | ให้มันนั่งก้มหน้าน้ำตาเล็ด นั่นแหละจึงจะเข็ดฝีมือกัน | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ทองประศรีห้ามลูกตัวสั่น | ||
+ | แม่ก็แก่กกงกงัน วันทองมันก็ชั่วแล้วอย่าเลย | ||
+ | เจ็บไข้เจ้าจะได้อยู่รักษา ฟังคำมารดาเถิดลูกเอ๋ย | ||
+ | เสียได้ใช่ว่าเจ้าไม่เคย อย่าสืบพันธุ์มันเลยแสนอัปรีย์ | ||
+ | หาเอาใหม่ลูกสาวชาวบางกอก ที่งามดีมีดอกอย่าจู้จี้ | ||
+ | เจ้านายชุบเลี้ยงถึงเพียงนี้ ไม่พอที่จะให้เคืองบทมาลย์ | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนตอบคำร่ำว่าขาน | ||
+ | มิใช่ลูกไม่ได้ทำราชการ เป็นทหารเลื่องชื่อลือยศ | ||
+ | ขุนช้างมั่งมีแต่เงินทอง มันจองหองทำให้ได้อัปยศ | ||
+ | อย่าห้ามลูกเลยแม่ไม่ละลด จะแก้แค้นแทนทดให้ถึงใจ | ||
+ | มันเอาเมียของลูกไปเป็นเมีย จะนอนกลิ้งนิ่งเสียกระไรได้ | ||
+ | กราบเท้ามารดาแล้วว่าไป วันเป็นวันธงชัยฤกษ์ดี | ||
+ | ฉันขอกราบลาคุณแม่ อย่าครั่นคร้ามว่าจะแพ้แก่อ้ายผี | ||
+ | ช่วยอวยชัยขอให้สวัสดี คุณแม่อยู่อย่าได้มีโรคา | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ทองประศรีอ้อนวอนไม่ผ่อนหา | ||
+ | จนใจอวยชัยให้ลูกยา อันไพรีบีฑาให้แพ้ฤทธิ์ | ||
+ | เวทมนตร์คาถาวิชาการ ที่ศึกษาอาจารย์จงประสิทธิ์ | ||
+ | พ่อจะคิดสิ่งใดให้สมคิด ราชทัณฑ์ความผิดอย่าพะพาน | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนผ่องแผ้วเกษมศานต์ | ||
+ | โดยด่วนร้อนใจไปจัดการ ให้ทันฤกษ์ศุภวารจะได้ไป | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | มาเอยมาถึง ปลูกศาลหนึ่งเพียงตาโตใหญ่ | ||
+ | เอาย่ามเครื่องกับดาบขึ้นพาดไว้ จุดเทียนชัยร่ายเวทองครักษ์ | ||
+ | มหาทมิฬโอมอ่านปลุกอาวุธ ฟ้าฟื้นฝักหลุกเห็นประจักษ์ | ||
+ | ลงยันต์ปถมังเป็นรูปยักษ์ ภควัมกระลำพักสำหรับตัว | ||
+ | เสกน้ำมันด้วยขันสัมฤทธิ์น้อย มะกรูดส้มป่อยสะหัว | ||
+ | บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่หมองมัว ยกเมฆดีชั่วอ้ายขุนช้าง | ||
+ | อ้ายจัญไรเมฆไขว่วิปริต แขนขาต่อไม่ติดกันสักอย่าง | ||
+ | รู้ตระหนักประจักษ์ไม่ระคาง เกลอเกลือจืดจางจะได้ดู | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ ชมตลาด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ขุนแผนจัดแจงแต่งกาย ใส่กางเกงริ้วลายมัสรู่ | ||
+ | กำลังวันเรียนไว้ใช้ตามครู นุ่งปูมเคยคู่ออกชิงชัย | ||
+ | รัดประคดหนามขนุนคาดรัด เข็มขัดมั่นเหมาะสายไหม | ||
+ | สลัปตุ่นยกเป็นอักษรใน สรรใส่อาวุธศรีมีศักดา | ||
+ | ลูกสะกดคดเขี้ยวหมูตัน นอเต่าเขาสำคัญกระต่ายป่า | ||
+ | ซังแซวตายซากกรากยา โขมดฟ้าฝ่าโหงพราย | ||
+ | พระไสกระเต่นประรางควาน สรรพว่านร้อยแปดทองถักสาย | ||
+ | คาดเอวเสกซ้ำประจำกาย อับจนมากมายได้ทดลอง | ||
+ | ใส่เสื้อสีแสดย้อมว่าน พระอาจารย์ให้ใหม่เมื่อเดือนสิบสอง | ||
+ | แล้วสวมสอดตะกรุดประคำทอง เครื่องของพระราชท่านบำเหน็จลือ | ||
+ | เมื่อครั้งไปตีเชียงทองได้ นิ้วชี้ใส่พิรอดเคยนับถือ | ||
+ | ก้อยซ้ายแหวนเพชรที่พึ่งซื้อ ติดมือชมเล่นสองสามวัน | ||
+ | แล้วโพกผ้าประเจียดพันมงคล ของท่านวัดสับประดนไม่มีพรั่น | ||
+ | ประจงจับฟ้าฟื้นยืนยัน ร่ายเวทสำคัญภาวนา | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ ตระ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เดชะคาถามหามนตร์ โหงพรายกุมารกล่นมากนักหนา | ||
+ | เป็นยักษ์ยัดอัดดึงกันเข้ามา ขุนแผนแหงนดูฟ้าฤกษ์บน | ||
+ | องศาผ่องแผ้วแจ่มจำรัส หมอกเมฆมิได้กลัดโพยมหน | ||
+ | ตามเกล็ดนาคาจรดล หลีกพ้นผีหลวงกาเลไท | ||
+ | แล้วตรงเข้าไปโรงสีหมอก ถอดขลุมออกแล้วเอาบังเหียนใส่ | ||
+ | กาววาวดาวเงินอร่ามไป ใบโพธิ๋หน้าก้าไหล่พู่พราย | ||
+ | อานปรุฉลุลายกระหนก รัดอกคาดมั่นกระสันสาย | ||
+ | เบาะอานพานหน้าพานท้าย หนังข้างขวาซ้ายลายพื้นแดง | ||
+ | เหยียบโกลนโผนเผ่นขึ้นหลัง เหนี่ยวรั้งสายถือกระทืบแผง | ||
+ | สีหมอกเผ่นลำพองคะนองแรง ออกกลางแปลงหน้าบ้านร่านรน | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ม้าเอยม้าหมอก มีขวัญพาดหอกแซมขน | ||
+ | หูกระหนกยกหน้าย่างยนตร์ อกใหญ่ทานทนตัวดี | ||
+ | ขับควบพริบไหวไวว่อง ขี่น้อยย่างย่องอยู่กับที่ | ||
+ | เยื้องเท้าย่อท้ายเตือนตี แต่เต้นถูกถี่มีพยศ | ||
+ | แท้ไทยเทียมเทศลาประสม ดังหมึกพรมหม่นมัวมรกต | ||
+ | สันทัดทีทวนเลี้ยวลด เหี้ยมห้าวทรหดปืนไฟ | ||
+ | ออกสู่สู้ศึกหลายหน ประจัญประจญรู้ทีหนีไล่ | ||
+ | อัสดรของเราตัวนี้ไซร้ สองเมียมาเปลี่ยนให้ไม่เอาเลย | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขับม้ารีบร้นมาพ้นบ้าน สั่งกุมารว่าจะไปเร็วเร็วเหวย | ||
+ | ทางตัดลัดป่าพ่อไม่เคย เจ้ากุมารทองเอ๋ยนำหน้าไป | ||
+ | กุมารทองพาเข้าป่าระหง ดั้นดงข้ามทุ่งเลียบไศล | ||
+ | ไม่เดินตามทางเกวียนเคยครรไล บัดเดี๋ยวใจพ้นย่านกาญจน์บุรี | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ชมดง</sub> | ||
+ | ดงดึกดูพิลึกน่าแสยง ไม่แจ่มแจ้งเลยชอุ่มอับสี | ||
+ | คลุ่มคลุ้มพุ่มมืดดังราตรี แต่พื้นเลี่ยนเล่ห์วิถีหนทางทำ | ||
+ | ใช่ทางมนุษย์เคยสัญจร ทางอมรปู่โป่งโขมดคล่ำ | ||
+ | กู่เพรียกเรียกกระหึมงึมงำ เยือกอย่างถ้ำเย็นอย่างเถื่อนเปล่าเปลี่ยวจริง | ||
+ | เทศกาลดูสุมาลย์นี้นักหนา ย้อยระย้าเหลือหลากมากหลายสิ่ง | ||
+ | บ้างหล่นดาษกลาดเห็นดังเททิ้ง หอมยิ่งตรลบอบเรณู | ||
+ | คิดใคร่เด็ดดมชมเล่น ป่านี้เป็นกระไรมิรู้อยู่ | ||
+ | กับพังเหยพญาไฟก็พอดู ไม่นานนักสักครู่ออกปากดง | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ ร้องกราว | ||
+ | |||
+ | |||
+ | รีบเอยรีบมา แคว้นสุพรรณไม่ช้าสมประสงค์ | ||
+ | พันกันดารเลียบละเมาะจำเพาะตรง ป่าระหงเลี่ยนตะลิบดังทรายโปรย | ||
+ | มิ่งไม้นานาดอกระบัด พระพายพัดพวงพะยอมหอมโหย | ||
+ | รวยรินกลิ่นสุกรมยมโดย ที่ร่วงโรยโอ้แม้นเหมือนวันทอง | ||
+ | แสนเสียดายลืมอายไม่รักตัว คบขุนช้างคนชั่วให้มัวหมอง | ||
+ | ดั่งดอกไม้สิ้นกลิ่นอายละออง ชะรอยกรรมนำน้องค้ำจุนจูง | ||
+ | คิดรัญจวนครวญให้อาลัยหา พลางขับม้าเลียบเดินตามเนินสูง | ||
+ | พอลมชายบ่ายเย็นเห็นนกยูง เป็นฝูงฝูงฟ้อนหางอยู่กลางเตียน | ||
+ | ถวิลถึงสองเมียเสียน้ำใจ พิศชอุ่มพุ่มไผ่เหมือนไม้เขียน | ||
+ | ที่ไฟป่าไหม้ซอจนตอเกรียน แลตะโล่งตลอดเลี่ยนเตียนตะลุย | ||
+ | หนามคาหญ้าแพรกพึ่งแตกหน่อ ระกะกอรวยกรายบ้างตายขุย | ||
+ | ไก่ป่าพาเมียมาเขี่ยคุ้ย ดินฟุ้งฝุ่นกระจุยกระจัดกระจาย | ||
+ | วันทองเอ๋ยพี่ยังไม่วายรัก แค้นนักนึกเดือดไม่เหือดหาย | ||
+ | เร่งรีบขับม้าจนตาลาย กำหนดหมายหนองตะเข้คะเนมา | ||
+ | ห้วยโรงตะพานบ้านกะเหรี่ยง เฉลียงเลี่ยงลัดออกชายป่า | ||
+ | ไม่หย่อนหยุดรุดตะบึงถึงโรงนา ยังไม่สนธยาเพลาวัน | ||
+ | ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | หยุดเอยหยุดอยู่ อีกสักครู่ก็จะดับพระสุริยฉัน | ||
+ | ระยะทางยามเศษอีกเท่านั้น พอดีกันกับเพลาคนหลับนอน | ||
+ | จึงขยายรัดอกสีหมอก ถอดบังเหียนออกทิ้งหญ้าป้อน | ||
+ | รวิวันสิ้นสีรวีวร จัดแจงอัสดรขึ้นขับไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | มาเอยมาถึง น้อยฤามึงอ้ายขุนช้างทำบ้านใหญ่ | ||
+ | สิงเมียเขาเกษมเปรมปรีดิ์ใจ เป็นสิทธิฤาไรจะเต้นโกรง | ||
+ | ถือแต่ว่ามั่งมีเงินทอง ทำทำนองเป็นพระยาอ่าโถง | ||
+ | รั้วทึบทำใหม่ใหม่ไม้โปลง โรงโกงกล่นเกลื่อนเรือนช้าไทย | ||
+ | บ่าวหนุ่มหนุ่มคะนองร้องพาดควาย บ้างเมามายลุกขึ้นเล่นเต้นปรบไก่ | ||
+ | บนเรือนนั่งยามตามไฟ ปั่นฝ้ายกรอไหมไนออกเกรียว | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น ขุนช้างเขม่นตาขวาเสียวเสียว | ||
+ | เรียกวันทองเข้าห้องเสียทีเดียว กอดเกี้ยวหยุกหยิกซิกซี้ | ||
+ | แล้วร้องโอ้โลมชมโฉม จี้ลองต้องกระโจมจับโน่นนี่ | ||
+ | ทำทีล่อกอดคอรอดูที หัวเราะรี่ระริกทนหยิกเอา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | จึงเอยจึงว่า ทุดไม่น่าเลยอะไรกระนี้เล่า | ||
+ | ตะกรามตะกรี้เช่นนี้เด็กขี้เมา ฉีอ้ายเถ้าหัวงูดูดู๋เป็น | ||
+ | ชกเอาเขกหนึ่งแต่ไม่หนัก โกรธระคนปนรักประจักษ์เห็น | ||
+ | ข้าไม่สบายมาแต่ตะวันเย็น วานอย่าเล่นงุ่นง่านรำคาญใจ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น ขุนช้างเสว่าแก้ไข | ||
+ | เป็นไรน้องเจ้าจึงหมองหฤทัย เล่านิยายเล่นเสียให้คลายทุกข์ | ||
+ | เรื่องหนึ่งยังมียายกับตา ไปทำนาบนเขากับส้มจุก | ||
+ | แล้วขี้ใส่สำเภาเน่าหนอกพลุก พวกคนนั่งฟังสนุกเลอะเทอะ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น วันทองร้องเอาอะไรมาว่าเปรอะ | ||
+ | หยาบคายร้ายกาจชาติคนเคอะ มีแต่หยำเยอะสมทรวดทรง | ||
+ | ขุนช้างว่าอย่าอย่าฮ่าอย่าโกรธ ขอโทษเถิดหยอกน้องคะนองหลง | ||
+ | หาวนอนหวอดกอดประคองต้องประจง กระแอมไอหวัดลงจมูกคัด | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนแอบฟังดูให้ถนัด | ||
+ | ได้ยินเสียงวิ่งไวเข้าใจชัด ร่ายมนตร์อัดมหาอุดมุดปิดตา | ||
+ | แล้วกลั้นใจหยิบดินสามก้อนเสก ลงเลขประจำซ้ำคาถา | ||
+ | ทิ้งด้วยกำลังข้ามหลังคา คนบนเรือนดังว่าอดนอนนาน | ||
+ | งุยง่วงโงกเหงาเงียบระงับ ล้มทับหลับแงบไปทั้งบ้าน | ||
+ | ขุนแผนจึงสั่งพรายกุมาร ให้ดาลใจอย่าให้ไหวติง | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น กุมารทองแรงฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สิง | ||
+ | รับคำทำได้ดังใจจริง ปิศาจวิ่งเข้าบ้านบันดาลดล | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | คืนเอยคืนนั้น ขุนช้างวันทองสยองขน | ||
+ | หายใจผ็อยม่อนมิดปิดตากรน ตั้งท่าง่าชนจับลิงเตียว | ||
+ | ประตูชานตอนลิ่มใส่กลอนไว้ ผีไขว่ไล่เปิดเสียประเดี๋ยว | ||
+ | แมวหมาซอนซอนพลอนเกรียว อะไรอร่อยค้นเคี้ยวหกตกตึง | ||
+ | สำรับกับข้าวปูปลา วางไว้บนม้าหมาค้นถึง | ||
+ | หม้อข้าวหม้อแกงแหลกแตกอึง บ้างหอนเห่าอึงคะนึงเคี้ยวคำราม | ||
+ | คนทั้งเรือนหลับใหลไม่ไหวติง ดั่งเขียงขอนท่อนทิ้งเขาเหยียบข้าม | ||
+ | น้ำลายไหลปากอ้าหมาเลียพลาม กะโล่กระทายถุงย่ามยื้อแย่งกัน | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนชำนาญมนตร์คนขยัน | ||
+ | เอาสีหมอกผูกไว้บันไดพลัน ให้โหงนั้นอยู่ระวังแล้วล่วงเลย | ||
+ | ถือฟ้าฟื้นกวัดแกว่งองอาจ ขึ้นบนเรือนน้อยนาดเดินเฉยเฉย | ||
+ | ไม่ระแวงระวังดังหนึ่งเคย เรียกกุมารทองเอ๋ยตามบิดา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ชมตลาด</sub> | ||
+ | เดือนเอยเดือนหงาย นอกชานทำสบายเทียวนักหนา | ||
+ | ต้นไม้ใส่กระถางวางบนม้า เอนชายหลายท่าป่าทำนอง | ||
+ | มีภูเขาก่อกองด้วยฟองน้ำ ชะโงกง้ำถ้ำเหวเปลวปล่อง | ||
+ | ไม้พุ่มโกรนเกรียนเขียนเป็นรอง มีบึงหนองคลองน้ำลำธาร | ||
+ | ทำเป็นดงละเมาะเหมาะหนักหนา ปั้นกระทิงมหิงสาฝูงช้างสาร | ||
+ | ทั้งอาศรมฤาษีมีเหล่าพราน สวมหัวล่อไล่ทะยานเข้าแทงเนื้อ | ||
+ | ตุ๊กตาแบกเพนียดต่อนกเขา เที่ยวซนเข้าในรกตกใจเสือ | ||
+ | ในห้วยหนองคลองน้ำทำเป็นเรือ น้อยน้อยลอยดูไม่เบื่ออุตส่าห์ทำ | ||
+ | บ้างเทียบเป็นบ้านป่าไร่กะเหรี่ยง ชมรมเรียงแทรกโพนคล้องช้างคล่ำ | ||
+ | มันทำล่อวันทองแล้วเจ้ากรรม ปลูกกระจับไหหลำน้อยฤาเจียว | ||
+ | มียี่หุบจำปาแขกไฝ่ฝ้า จูหลันชาโบตั๋นห่ำเสี้ยว | ||
+ | กุหลาบขาวกุหลายแดงแรงทีเดียว ปลูกใส่อ่างเขียวดกดอกทราม | ||
+ | บัวก็มีแห้วก็มีอุตส่าห์ปลูก เปลือกมันใหญ่โตกว่าลูกเท่าตุ่มหาม | ||
+ | ได้ไม้จีนมาแต่ไหนไอ้บ้ากาม เห็นมันตามประจบปลัดจัน | ||
+ | กรงกินดินสีชมพูก็มีด้วย เก้าอี้ถ้วยตั้งไว้ด้วยรวยขยัน | ||
+ | อ่างเรียงเลี้ยงปลาฟักพืชพันธุ์ เดือนแจ้งดังกลางวันเห็นตัวปลา | ||
+ | เอานิ้วมือดีดน้ำลงต้ำจิบ ว่ายกระดิบกระดิบเข้ามาหา | ||
+ | ทั้งเหลืองแดงด่างดีมีนานา ปุ่มหลังปุ่มหน้าหมุนน่าดู | ||
+ | ลางตัวปลั้วเปลี้ยดั่งเบี้ยตุ่ม ตะลุมปุ้มกระดิกหางกระทั่งหู | ||
+ | บ้างแหวกว่ายลอยล่องฟ่องฟู หน้าเอ็นดูขุดขุ้มเป็นปุ่มโป | ||
+ | เหย้าเรือนเหมือนขุนนางมันช่างทำ ตรงรางน้ำนั้นวางอ่างเสียโผ | ||
+ | มันได้มาแต่ไหนใบโตโต โยโสสุงสิงหยิ่งเหลือตัว | ||
+ | ติดกระจกตั้งเก้าอี้ที่บนหอ ราวกับพ่อมันเป็นเจ้าสัว | ||
+ | วันทองจึ่งปลดปลงหลงเมามัว จะเที่ยวไปให้ทั่วกลัวจะช้า | ||
+ | แลเห็นนกบ้าระบุ่นโนรี สารพันจะมีทีเดียวหวา | ||
+ | สัตตวรรณกระตั้วสาลิกา พูดได้ทักมาว่าเสียงคน | ||
+ | จึงบังคับแก่ฝูงโหงพราย ให้ทำลายเขาไม้ให้ปี้ป่น | ||
+ | วันทองจะได้หายวายกังวล สั่งแล้วจรดลไคลคลา | ||
+ | ฯ ๒๘ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เข้าเอยเข้าไป ถึงชายเรือนชั้นในไขว่เที่ยวหา | ||
+ | บ่าวไพร่นอนกลาดดาษดา มองดูหน้าตาไม่สมประดี | ||
+ | ที่นอนร้ายผ้าผ่อนล่อนหลุด ถ่มน้ำลายถุยทุดอีบัดสี | ||
+ | ถีบซ้ำก็ไม่ตื่นฟื้นอินทรีย์ นอนแผ่แบบี้อยู่กลางกั๊ก | ||
+ | ขุนช้างวันทองอยู่ห้องไหน ทำไมจึงจะรู้แจ้งประจักษ์ | ||
+ | จะดูหน้าวันทองน้องรัก ขุนช้างมันฟูมฟักมาหลายเดือน | ||
+ | แก้มก้อยมิช้ำระยำฤา รอยมือจะขยำคลำเสียเปื้อน | ||
+ | คิดคิดดังหนึ่งใคร่ไล่ต่อยเตือน และเห็นประตูเรือนงับแง | ||
+ | ชวาลาสว่างดังกลางวัน หมายสำคัญว่าอยู่ที่นี่แน่ | ||
+ | เปิดเยี่ยมชะโงกเห็นลับแล รีบแร่เข้าไปไม่รอเลย | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ ชมโฉม | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เห็นนางหนึ่งจ้อยร่อยนอนบนเตียง กำดัดกำเดาะเนื้อเกลี้ยงเหมาะแม่เอ๋ย | ||
+ | รูปร่างขาวขาวน่าชมเชย หลับสนิทนี่ใครเหวยนอนแนบเนียน | ||
+ | รุ่นราวสาวแส้แน่สนัด อุระรัดดังกมุทผุดจากเกษียร | ||
+ | ทั้งขอบคิ้วลำคอพอพึงเพียน แม้นเขียนเจียนกันกับวันทอง | ||
+ | นี่พี่น้องขุนช้างฤาไฉน ทรวดทรงอย่างในไม่เศร้าหมอง | ||
+ | แล้วขึ้นนั่งบนเตียงเคียงประคอง เอามือต้องสไบไม่ให้ครือ | ||
+ | สารพัดครัดเคร่งเปล่งปลั่ง รีรอขอรั้งเอาเถิดฤา | ||
+ | หันหวนป่วนปั่นคันไม้มือ จะปลุกขึ้นถามชื่อเกี้ยวลอง | ||
+ | พยักเรียกกุมารทองเข้ามาใกล้ แก้เครื่องส่งสั่งให้ไปเสียนอกห้อง | ||
+ | เห็นผ้าห่มนวลนางวางกอง เอาขึ้นป้องบังไฟซ่อนฟ้าฟื้น | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น กุมารทองหัวเราะว่าอย่าให้ตื่น | ||
+ | อดไม่ได้เข้าไปเล่นกลางคืน ปลูกขึ้นรู้เข้าหูอื่นสิเสียงาน | ||
+ | รับเอาเครื่องออกมาขมีขมัน พ่อขุนแผนเธอขันเจียวจ้าน | ||
+ | เดิมทีคิดมาจะทำการ มาลอบรับสมัครสมานเกี้ยวชู้แข | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนฟังพรายพริ้มยิ้มแต้ | ||
+ | ลูกกูแสนเฉลียวดีแท้ จะเข้าไปมิใช่แม่กุมารทอง | ||
+ | ว่าแล้วร่ายเวทคลายสะกด แล้วขยดปรามาสจับต้อง | ||
+ | สั่นปลุกลุกขึ้นเถิดน้อง อุตส่าห์มาถึงห้องมืดค่ำคืน | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | </tpoem> | ||
+ | ==== ==== | ||
+ | <tpoem> | ||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น นางแก้วกิริยาผวาตื่น | ||
+ | กำลังมนตร์มึนมัวไม่ใคร่ฟื้น ดึกดื่นปลุกทำไมใครเข้ามา | ||
+ | เพ่งดูก็ยังไม่รู้จัก อกใจทึกทักพรั่นหนักหนา | ||
+ | สั่นรัวทั่วทั้งกายา จะร้องขึ้นประหม่าด้วยความกลัว | ||
+ | ป้องปิดบิดเบือนเชือนหนี ขุนแผนเสน่ห์ดีเข้าเย้ายั่ว | ||
+ | ชายตาตาต่อกันพันพัว ใครหนอช่างไม่กลัวประหลาดนัก | ||
+ | ดูจริตผิดโจรใช่ผู้ร้าย เป็นเป็นชายผู้ดีมียศศักดิ์ | ||
+ | มหาละลวยดลจิตให้คิดรัก ทำพลิกผลักกรพลางทางถามไป | ||
+ | เที่ยวนางกลางคืนไม่เกรงกลัว หลงตัวหลับตามาแต่ไหน | ||
+ | ซ้ำทำข่มเหงไม่เกรงใจ ราวกับใครแนะนัดให้นายมา | ||
+ | ยังไม่กลับออกไปเสียจากห้อง เดี๋ยวนี้น้องร้องบอกเขาดอกหนา | ||
+ | คนจนดอกเจ้าไม่เข้ายา ในเรือนข้าห้องนี้ไม่มีอะไร | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โลม</sub> | ||
+ | วาเอยวาจา พี่อายหน้าน้องอย่างสงสัย | ||
+ | ใช่สะดมย่องเบาข้าวของใคร เสียมีได้ก็รักลักชมเชย | ||
+ | พี่ชื่อขุนแผนแกว่นสงคราม จะมาตามภรรยาดอกน้องเอ๋ย | ||
+ | วันทองอยู่ห้องไหนยังไม่เคย จึ่งหลงเลยเข้ามาในห้องนี้ | ||
+ | เจ้าหลับอยู่ดูแม้นเหมือนวันทอง จึงหลงต้องจิตคิดว่าเมียพี่ | ||
+ | อย่าถือโทษโกรธไปทำไมมี จะหยิกตีก็ตามแต่ความคิด | ||
+ | ได้มาหาน้องถึงห้องใน ขออภัยเถิดพี่นี้รับผิด | ||
+ | ชะรอยกุศลดลใจชักให้ชิด ขอถามนิดหนึ่งน้องอย่าถือเลย | ||
+ | เจ้าเป็นญาติขุนช้างฤาวันทอง นี่นามน้องชื่อใดอะไรเอ๋ย | ||
+ | อย่าอำยวนควรแล้วจะคุ้นเคย ชายได้เชยจับต้องน้องถึงตัว | ||
+ | กระไรกันก็กระไรเถิดน้องพี่ เลือกนักผิดดีมีแต่ชั่ว | ||
+ | คนอื่นต้องเป็นสองจะหมองมัว พี่นี้ผัวผูกรักภักดีจริง | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น แก้วกิริยาตริตรึกนึกนิ่ง | ||
+ | คิดขึ้นได้หวาดหวั่นพรั่นประวิง ขุนแผนแท้แน่นิ่งร้อนแรงรึง | ||
+ | เอะเกิดเหตุแล้วกระมังครั้งนี้ น่าที่ความผิดจะมาถึง | ||
+ | จะรบราฆ่าฟันกันอื้ออึง น้อยหนึ่งจะว่าเราคบค้า | ||
+ | จำจะเร่งบอกความที่ถามไถ่ ให้ออกไปเร็วเร็วเสียดีกว่า | ||
+ | ตัวข้าชื่อแก้วกิริยา บิดาเป็นเจ้าเมืองสุโขทัย | ||
+ | เขาร้องฟ้องต้องปรับยับเยิน ยังค้างเกินเงินสิบห้าหาไม่ได้ | ||
+ | จึงเอาข้ามาขายฝากไว้ ลำบากยากไร้มาหลายปี | ||
+ | เชิญไปเถิดฉันจะปิดประตู อย่ามาเซ้าซี้อยู่จู้จี้ | ||
+ | ข้าคนเข็ญใจใช่ผู้ดี ไม่ควรที่ลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โลม</sub> | ||
+ | ได้เอยได้ฟังว่า แก้วกิริยาเจ้าช่างว่าขาน | ||
+ | รสถ้อยน้อยฤาฉ่ำดังน้ำตาล กินหวานเล่ห์ลิ้นประโลมใจ | ||
+ | ทรวดทรงท่วงทีไม่แกล้งว่า ถึงเป็นเมียเจ้าพระยาก็เป็นได้ | ||
+ | เงินนิดเท่านั้นพรั่นทำไม จะช่วยใช้รับทุกข์ธุระน้อง | ||
+ | ว่าพลางทางขยับจับข้อมือ ดูดู๋อึดอัดตะปัดตะป่อง | ||
+ | แม้นสลัดตัดอาลัยไม่ปรองดอง พี่ไม่ออกจากห้องแล้ววันนี้ | ||
+ | จะนอนนิ่งกลิ้งทูตอยู่ในมุ้ง จนรุ่งให้เขาจับได้กับพี่ | ||
+ | จะเป็นถ้อยร้อยความสามสี่ปี กอดกันตายอยู่ที่นี่ไม่หนีไกล | ||
+ | แล้วซ้ำเป่าอาคมสมสวาท พิงพาดลองดูรู้ทีใคร่ | ||
+ | อุ้มขึ้นใส่ตักสะพักไว้ ลูบไล้โลมเล้าเคล้าคลึงนาง | ||
+ | อัศจรรย์มืดมนเป็นฝนฟ้า นาฬิกากลฝรั่งดังเหง่งหง่าง | ||
+ | เมฆเกลื่อนเดือนส่องแสงรางราง อาบน้ำค้างหนาวแนบแอบอิงกัน | ||
+ | เสนาะสำเนียงเสียงจักจั่นแจ้ว กอดแก้วกิริยาแล้วรับขวัญ | ||
+ | ถ้อยทีมีอาลัยใจผูกพัน เกษมสันต์สังวาสสวาทอร | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ โลม | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โลม</sub> | ||
+ | เจ้าเอ๋ยเจ้าพี่ ธุระมีเพลาจวนจะด่วนก่อน | ||
+ | ใช่ไม่รักจักสลัดตัดรอน จำจรสุดใจแล้วนะแก้วตา | ||
+ | จึงถอดแหวนเพชรน้อยจากนิ้วมือ พี่ซื้อหลวงนรินทรไว้สิบห้า | ||
+ | ส่งให้พอได้กับราคา ดั่งจำเพาะเจาะมาช่วยทุกข์น้อง | ||
+ | จงขายเขาเอาเงินให้ขุนช้าง จวนสว่างแล้วเจ้าอย่าเศร้าหมอง | ||
+ | เอ็นดูพี่เถิดช่วยชี้ห้องวันทอง พลางประคองลูบไล้อาลัยลา | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เป็นเอยเป็นหญิง ยากนักทุกสิ่งไม่แกล้งว่า | ||
+ | เคืองขัดกลัดกลุ้มในวิญญาณ์ สุชลฟูมนัยนาเข้าตาจน | ||
+ | จะแข็งขัดทัดทานก็ไม่ได้ เสียน้ำใจผินหลังแล้วนั่งบ่น | ||
+ | นิจจาเอ๋ยงวยงงหลงเล่ห์กล แยบยลชายซื่ออือดีจริง | ||
+ | สมใจได้เชยเฉยฉาก เกิดเป็นคนนี้ยากหนอผู้หญิง | ||
+ | มิทันไรก็สลัดซัดเททิ้ง ทอดตัวกลิ้งร่ำร้องแต่เบาเบา | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โลม</sub> | ||
+ | น้องเอยน้องพี่ ธุระมีก็ย่อมแจ้งกับใจเจ้า | ||
+ | จะใคร่อยู่สู่สมชมเคล้า เรือนเขาเจ้าจะให้อยู่อย่างไร | ||
+ | ค่อยค่อยช้าช้าจะมารับ ไม่สับปลับมารยาดอกหาไม่ | ||
+ | จับมือนางวางประทับอุระไว้ นี่มิใช่ฤาใจอาลัยรัว | ||
+ | ทึกทักจะร้างรักจนอกสั่น เป็นอย่างนั้นจริงเจ้าเห็นใจผัว | ||
+ | ใช่บ้านเมืองกลางป่าข้าไม่กลัว ถึงจะนัวอยู่ด้วยกันตะวันแดง | ||
+ | ขุนช้างจะทำไมกับเราได้ จะใส่ให้วิ่งล้มตะแคงแก้ง | ||
+ | จะได้แต่ตาปรอยหงอยเป็นแร้ง จนใจกลัวระแวงราชทัณฑ์ | ||
+ | ทำเอามือซับหน้าน้ำตาไหล ไว้เยื่อใยเอาใจให้วายกระสัน | ||
+ | แม้นข้ามคืนวันนี้เสียทีครัน ขุนช้างมันก็เป็นมิตรแต่คิดคด | ||
+ | จะแก้แค้นแทนทำให้ถึงใจ ความจริงพี่มิได้โป้ปด | ||
+ | ออกไปข้างนอกด้วยกันเพียงชั้นลด บอกกำหนดแนะตำแหน่งเรือนวันทอง | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ ทยอย | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ว่าเอยว่าพลาง ประจงจูงมือนางออกจากห้อง | ||
+ | แสงเดือนแจ่มจำรัสผ่องพักตร์น้อง ขุนแผนมองหล่อนฉ่องละอองลออ | ||
+ | ยลหน้าดังหน้าจะแข่งแข จะจำแหห่างไฉนฉะนี้หนอ | ||
+ | ทรุดนั่งชั่วใจใคร่รั้งรอ น้ำตาคลอจนใจจำไคลคลา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ ร่าย | ||
+ | |||
+ | |||
+ | บัดนั้น ฝ่ายแก้วกิริยาเสน่หา | ||
+ | อิดเอื้อนมิใคร่บอกออกวาจา คิดในใจแล้วว่าวิงวอน | ||
+ | นึกกริ่งจริงจริงไม่เสกสรร จะเห็นอะไรกับฉันแต่ร่อนร่อน | ||
+ | เด็ดเดี่ยวยากไร้อนาทร ท่านได้พบเมียก่อนหาไหนเลย | ||
+ | ความชอบถึงจะบอกห้องให้ แต่พอได้ก็เบือนเชือนเฉย | ||
+ | จำจนจะต้องทนอยู่ตามเคย ลึกแล้วเอ๋ยเมื่อใดจะได้พบ | ||
+ | จริงเจียวเหมือนหนึ่งเคี้ยวยันสลา ไม่ทันจืดนิจจาพอปูนสบ | ||
+ | บอกแล้วว่าอย่าอย่าไม่ควรคบ เวนใดมาประจบให้จำเป็น | ||
+ | จนใจใช้กรรมเสียเถิดนะ นั่นแน่คะห้องวันทองที่ทำเข็ญ | ||
+ | ยังกระไรฤาข้าไม่ว่าเล่น ฉันเห็นกับนายฉันเข้าพันพัว | ||
+ | ดูสนิทสนมกันนักหนา ไหนจะผันหน้ามาหาท่านเจ้าผัว | ||
+ | ชั่งใครเป็นไรไม่เปียปัว คิดถึงตัวดีกว่าโศกาลัย | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนเช็ดน้ำตาอย่าร้องไห้ | ||
+ | หยิบโน่นฉวยนี่ทีเอาใจ ถึงจะไปคงจะกลับมารับน้อง | ||
+ | ตายเสียเมื่อไรไม่ได้มา ฟังคำพี่ว่าอย่าหม่นหมอง | ||
+ | .... .... | ||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองร้องว่ากระไรเอ๋ย | ||
+ | หม่อมทำนายฝันนี้ผิดทีเคย จะว่าเลยเล่นฤาจริงก็กริ่งใจ | ||
+ | ฟังฟังยิ่งหวั่นพรั่นจิต สำเนียงผิดขุนช้างนางสงสัย | ||
+ | เอามือคลำเนื้อตัวทั่วไป ขนอกขนใจก็ไม่มี | ||
+ | ลูบดูคอคางก็ว่างเปล่า หนวดเคราหมดไปเสียไหนนี่ | ||
+ | ผิดกายชายเกรงเพลงผิดที ผิดแล้วสินี่ใครดูแบบบาง | ||
+ | ลุกขึ้นเขม้นเห็นขุนแผน ยิ่งแสนแค้นขุ่นข้องหมองหมาง | ||
+ | แลเหลียวมาเห็นขุนช้าง กลิ้งอยู่ข้างเตียวอนาถใจ | ||
+ | ถลามากอดผัวตัวสั่น คิดว่าขุนแผนฟันเสียตักษัย | ||
+ | ผลักพลิกดูแผลแลทั่วไป เห็นยังผ่อนหายใจค่อยคลายกลัว | ||
+ | สั่นปลุกลุกขึ้นเร็วเร็วเจ้า ขโมยขึ้นเรือนเราแล้วหม่อมผัว | ||
+ | จะหยิกตีเท่าใดไม่รู้ตัว ชั่งชั่วนี่กระไรไม่ลืมตา | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนแค้นขัดสหัสา | ||
+ | ว่าแก่วันทองดีแล้ววา ไม่คิดน้ำหน้ากันมั่งเลย | ||
+ | เช่นหน้าข้ากระนี้ฤาผู้ร้าย สมบัติชู้มากมายเจียวฤาเหวย | ||
+ | เห็นกูลักของใครมือไม้เคย ทำเฉยราวกับไม่รู้จักกัน | ||
+ | นางเมียเศรษฐีดีหนอ ทำตัวสั่นตัวงอปลุกชู้ขัน | ||
+ | ปลุกขึ้นเร็วเร็วจะไม่ทัน ชู้เองกูพรั่นกลัวฝีมือ | ||
+ | ดูหน้าข้าก่อนก็เป็นไร องค์เธอฤาใช่หาไม่ฤา | ||
+ | แผดเสียงขึ้นไปเถิดให้เขาลือ กอดชู้ร้องอื้อไม่มีอาย | ||
+ | วันทองเอ๋ยเก้อละเมอเพ้อหลง ผัวมึงมั่นคงฤาคนง่าย | ||
+ | มั่งมีเงินทองเต็มสบาย คงได้กอดชู้ตายแล้ววันนี้ | ||
+ | ทำกึกกักคึกคักชักดาบ ฟันให้เลือดไหลอาบอยู่กับที่ | ||
+ | เร็วเร็วปลุกชู้ขึ้นดูดี ให้มันสู้กูซีปลุกให้ลุก | ||
+ | เอออะไรไม่คิดถึงคราวยาก ทำห้ำหั่นบั่นบากชิงสุก | ||
+ | สนุกนักมันมักได้ทุกข์ ไล่ลุกกูจะฟันทั้งผัวเมีย | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | หวีดเอยหวีดหวาด ใจจะขาดกลัวจะฆ่าขุนช้างเสีย | ||
+ | กลัวก็กลัวปลุกก็ปลุกคลุกเคลีย น้ำตาเรี่ยไม่รู้สึกก็นึกแค้น | ||
+ | ตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง ข้าไม่พึ่งใบบุญเจ้าขุนแผน | ||
+ | พยาบาทมาดหมายทดแทน ใจพรั่นปากแปร้นท้าทาย | ||
+ | จะทำอย่างไรก็เร่งทำเข้า ฤาแผ่นดินของเจ้าพูดง่ายง่าย | ||
+ | แม้นข้ากับขุนช้างนี้วอดวาย ถึงตายก็คงกระดูกร้อง | ||
+ | รู้แล้วว่าทหารมีฝีมือ เชิดชื่อในอยุธยาไม่มีสอง | ||
+ | ป่านนี้จะมากลับคิดตริตรอง ถึงคราวยากนั้นไม่ต้องกับทำระยำ | ||
+ | คนชั่วข้าก็อยู่ประสาชั่ว สุดที่กลัวแล้วเจ้าเคราแดงก่ำ | ||
+ | สารพัดแสร้งใส่ใจยังจำ จะมาลำเลิกนั้นด้วยอันใด | ||
+ | ข้าเถียงฤาว่าไม่ได้เป็นเมีย แต่เจ้าทอดทิ้งเสียไม่รักใคร่ | ||
+ | ขุนช้างเขาจึงขอข้ามาไว้ แกล้งลอยช้อนตักอะไรเจ้าคนพาล | ||
+ | ครั้งหนึ่งพาอีลาวมาให้ด่า ถึงตีนท่าหน้าเรือนตะพานบ้าน | ||
+ | ประเดี๋ยวประเดี๋ยวแกล้งกลับมาประจาน จะว่าอะไรก็โรงศาลของท่านมี | ||
+ | จะมาค่อนด่าใครว่ามีชู้ นึกดูก่อนเป็นไรกระนี้นี่ | ||
+ | สับปลับปลับปลิ้นสิ้นที ว่าวันทองไม่ดีชั่วตัดรอน | ||
+ | เจ้าทิ้งไว้ไปมีเมียจึงมีผัว ใครบั่นบากนี่ตัวออกหากก่อน | ||
+ | เพื่อนรั้วหัวบ้านรู้ขจร ขึ้นเรือนเขาคนพลอนฤาใช่โจร | ||
+ | ฯ ๑๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | น้ำเอยน้ำคำ น้อยฤาแปลกเปลี่ยนน้ำกระทั่งโขน | ||
+ | หากผุดมุดลงแก่งเชี่ยวโชน หินผาจะสู้โดนไม่ย่อท้อ | ||
+ | ท้าทายจะให้กลับไปร้องฟ้อง มั่งมีเงินทองแล้วขันก้อ | ||
+ | ขุนช้างมันเคยเกลี่ยไกล่ไปป้อยอ อ้ายพ่อไกรศรีทุกทีความ | ||
+ | เชื่อดีไกรศรีไปเถิดวะ ถ้อยความจะชนะไม่พักถาม | ||
+ | เป็นไรไม่เข้าไปช่วยกันติดตาม ลามปามฝืนฝ่าค้าอัปรีย์ | ||
+ | ห้ามเหล็กลักเหล็กประทุกเรือ ฉ้อเขาเป็นเบือเขาฟ้องมี่ | ||
+ | ชิงเชือดคอตายอ้ายอัปรีย์ ชวนขึ้นศาลเชื่อดีซิน่ากลัว | ||
+ | อย่ายาวความเหวยจะถามวันทองน้อย ค่อยค่อยคิดบ้างฟังคำผัว | ||
+ | ได้ผิดแล้วอย่าถือดื้อเมามัว แม่เอ่ยชั่วสละได้ก็คงดี | ||
+ | การเกินแต่หลังไม่ถือแล้ว วันทองน้องแก้วจงเชื่อพี่ | ||
+ | จะมารับกลับไปประเดี๋ยวนี้ ใช่ที่จะมาล่อลวงน้อง | ||
+ | จริงจริงจะสบถก็เจียนได้ ตั้งแต่จากเจ้าไปแต่เดือนสิบสอง | ||
+ | ไม่วายว่างคะนึงถึงวันทอง ขึ้นสวรรค์อย่าพ้องปดเลย | ||
+ | วิงวอนโดยดีนี่คิดไฉน จะไปฤามิไปแม่คุณเอ๋ย | ||
+ | อย่าซบซอนช้อนคางขึ้นให้เงย จะบู้บี้ไม่เสบยไม่เข้ายา | ||
+ | เจ้าก็คนปัญญาดีทีฉลาด พิเคราะห์ดูลำมากเขากับข้า | ||
+ | ขุนช้างสู้ได้ฤาแก้วตา รูปร่างวาจาทีท่าทาง | ||
+ | สองเอาหนึ่งสามเอาหนึ่งก็ต่อได้ มีไข่ไก่อย่าเล่นเลยกับไก่ล่าง | ||
+ | ขุนช้างเหมือนระตูตามกวาง อิเหนาร้างปลอมแปลงก็มีฤทธิ์ | ||
+ | แม้นมิปลงใจไปด้วยกับพี่ จะผูกมือเข้าตีเอาความผิด | ||
+ | จะละลดกันนั้นอย่าพึงคิด จ้อยร่อยจิริดคร่าเอาไป | ||
+ | คนทั้งเรือนอย่าเข้าใจว่าใครตื่น ไม่คลายสะกดฟื้นตื่นไม่ได้ | ||
+ | จะเฝ้าปลุกขุนช้างอยู่เมื่อไร ชั่งจิตชั่งใจแล้วบอกมา | ||
+ | ฯ ๒๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น วันทองได้ฟังขุนแผนว่า | ||
+ | วนเวียนเปลี่ยนใจไขว่ปัญญา โลเลเสน่หาเล่ห์ลมลิว | ||
+ | กริ่งจะจริงฤาหนอยังรอรัก เห็นหาญหักมุมุ่นทำฉุนฉิว | ||
+ | หม่อมขุนแผนนี้น้ำใจมักไหวปลิว โยเยเผลพลิ้วไม่ยั่งยืน | ||
+ | พ่อขุนช้างรูปโพล่โง่จริงอยู่ สิ่งดีใครไม่รู้อยู่หาอื่น | ||
+ | หม่อมเอ๋ยรักแล้วจะกลับกลืน เคยขื่นขมเผ็ดฉันเข็ดแล้ว | ||
+ | ลาวทองต้องติดเป็นชาวสะดึง นั่นแลจึงกลับมารับฤาหม่อมแก้ว | ||
+ | หาไม่ไหนจะได้มาวี่แวว น่าเสียดายจัดแจ้วจำนรรจา | ||
+ | รูปร่างอีลาวราวรังสรรค์ เต็มขยันหน้าหนอไม่แกล้งว่า | ||
+ | สุดที่จะคาดค่าว่าราคา สองสลึงแล้วอย่ามาต่อเลย | ||
+ | จริงฤาไม่ลาวทองนี้ยอดรัก นี้ทอดดวดตกคลักฤาหม่อมเอ๋ย | ||
+ | ไม่ติดตามมาให้ได้ไว้แชเชย ไม่ขันเลยนี่ใครจูงจมูกนาย | ||
+ | แล้วพาโลว่าชอบกับไกรศรี โกรธเขาแล้วซีต้นกฎหมาย | ||
+ | เขาวางบทอีลาวต้องติดตาย เป็นชาวสะดึงไม่วายว่างเย็บ | ||
+ | จะเอาไปแก้ขัดผลัดอีลาว แม่เจ้าเอ๋ยใครจะไม่เจ็บ | ||
+ | คราวจะเป็นไม่เห็นดีเท่าขี้เล็บ ชั่วที่ไหนไล่เก็บใส่ความคน | ||
+ | ฉันเชื่อแล้วหม่อมจ๋าอย่าสบถ จะสะบัดเสียให้หมดลิ้นสิ้นขน | ||
+ | แม้นใคร่ได้ลาวทองคืนอย่าร้อนรน จะช่วยเดินเหินบนคุณในวัง | ||
+ | ฯ ๑๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | วันเอยวันทอง สำนวนน้องราวกับเหล็กดีตั้ง | ||
+ | ไม่รู้เท่าเหมือนภูเขาเส้นผมบัง ว่ากันแต่จริงจังอย่าแชเชือน | ||
+ | ขุนช้างนั้นระตูจรกา วันทองบุษบาแม้นเหมือน | ||
+ | อันอิเหนานี้พี่เป็นเจ้าเรือน อย่าบิดเบือนเลยเรานึกว่าสึกชี | ||
+ | หนกระหายหมายมาคว้าสัมผัส รวบรัดไยปัดมือพี่ | ||
+ | ใช่ว่าไม่เคยเมื่อไรมี ท่วงทีสันทัดอยู่ด้วยกัน | ||
+ | บทอิเหนาในเรื่องเผาเมืองก่อน จึงได้ผ่อนพานางผายผัน | ||
+ | นี่จะให้เผาบ้างเหมือนอย่างนั้น ฤาจึ่งวันทองพี่จะลีลา | ||
+ | หยิบเอาไต้ไปจุดที่ตะเกียง เดินเมียงจะไปเผาเอาริมฝา | ||
+ | ขุนช้างขุนช่อยช่างมันวา ได้แต่เมียของข้าจะพาไป | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | พ่อเอยพ่อคุณ อย่ามุมุ่นอย่างนี้หาดีไม่ | ||
+ | ปากว่าใจพรั่นหวั่นอกใจ วิ่งเขาไปดับไฟยึดไม้มือ | ||
+ | กลัวว่าขุนช้างจะวอดวาย อุบายว่าของของฉันมิไหม้ฤา | ||
+ | ฉุดบั้นเอวกะแหย่งแย่งยื้อ เอ็นดูน้องน้อยอย่าดื้อจะบาปกรรม | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนเห็นเป็นที่ขยี้ขยำ | ||
+ | คาดคั้นข่มขู่เอาถ้อยคำ ห้ามแล้วก็ไม่ทำจะตามใจ | ||
+ | ว่ากันแต่จริงอย่าแชเชือน เหย้าเรือนก็หาเผาจุดไม่ | ||
+ | ขุนช้างก็จะให้ชีวิตไว้ แต่มาไปด้วยกันแต่โดยดี | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองหลีกเลี่ยงเบี่ยงหนี | ||
+ | กลัวขุนแผนจะราฆ่าตี ยอมแต่ปากว่าไปซีแต่วาจา | ||
+ | ยังอาลัยผัวใหม่ใจอึดอัด การสัมผัสร่วมรสเสน่หา | ||
+ | ไม่เอื้อเฟื้อกระไรนักรักระอา แต่ทว่าเงินทองของพัวพัน | ||
+ | เคหาโอฬารึกนึกเสียดาย ใจหายว้าเหว่เหหัน | ||
+ | หม่อมขาจะมาพากลับไปนั้น อัศจรรย์ฉันคิดไม่เห็นเลย | ||
+ | ชื่อว่าชั่วก็มีผัวใหม่แล้ว พ่อพลายแก้วทำอย่างไรนี่หม่อมเอ๋ย | ||
+ | เคี้ยวคายคายแล้วยังไม่เคย ชอบแต่เลยไปบางกอกดอกจะดี | ||
+ | ติดตามอีลาวชาวจอมทอง มาประคองเคียงพักตร์จักถูกที่ | ||
+ | จะต้องการฉันไปทำไมมี คนเช่นนี้หม่อมฤาจะรื้อรัก | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ลิ้นเอยลิ้นลม เจ้าคารี้สีคารมคมคายหนัก | ||
+ | เหม่อุแหม่แล้วแลชวนแขชัก ยิ่งกว่าใครไม่รู้จักทำนองเจียว | ||
+ | จะว่าอะไรไม่พอใจได้ยินหมด อย่าเลี้ยวลดให้ช้าว่าแก้เกี้ยว | ||
+ | ไปไม่ไปอย่าบิดบูดพูดคำเดียว จะหน่วงเหนี่ยวใจข้าเร็วก็ย่อมรู้ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | หม่อมเอยหม่อมขา ข้าวของน้องหนักหนายังมีอยู่ | ||
+ | ไม่ขืนขัดน้ำใจได้เอ็นดู งดสักครู่พอได้เก็บติดตัวไป | ||
+ | แก้วแหวนเงินทองของละเอียด จักแทรกเสียดพอกำลังเอาไปได้ | ||
+ | จริงจริงหนาครั้งนี้ไม่ไว้ใจ หม่อมทิ้งเสียเมื่อไรได้เลี้ยงตัว | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | แสนเอยแสนงอน สาระวอนล้วนแต่ไม่ไว้ใจผัว | ||
+ | กระนั้นแหละจริงไขว่เปลี่ยนนัว ของอยู่ไหนค้นให้ทั่วแล้วอย่าช้า | ||
+ | อะไรอร่อยจะเอาไปก็ตามที แต่ลูกจิงจ้อของดีนั้นแลอย่า | ||
+ | แม้นไม่ฟังขืนเอาไปได้โกรธา ฟ้าผ่าผิดทีตีให้ตาย | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ค้อนเอยค้อนให้ เสียน้ำใจจำจนต้องขวนขวาย | ||
+ | ลุกขึ้นเที่ยวหาคว้ากระทาย ฟูมฟายน้ำตาเข้าห้องพลัน | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ เพลงเร็ว | ||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนเยื้องย่องตามมา นึกในใจว่าเมียข้ามันน่าขัน | ||
+ | ปิดปากหัวร่ององัน จะไปเอาอะไรนั่นที่ห้องใน | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองหม่นหมองร้องไห้ | ||
+ | ฝันเห็นตรงแท้แน่แก่ใจ จะผ่อนผันฉันใดก็เต็มที | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | </tpoem> | ||
+ | ==== ==== | ||
+ | <tpoem> | ||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | โอ้เหมือนว่าคราววสันต์พันดักเดี้ย ชอบแต่ตายเสียไปเป็นผี | ||
+ | วันทองเอ๋ยสุดคิดแล้วครั้งนี้ น่าที่จะมีแต่อัประมาณ | ||
+ | ผัวใหม่พึ่งไม่ได้ปลุกไม่ลุก ผัวเก่าบุกรุกหักหาญ | ||
+ | จะขืนขัดก็จะวอดวายปราณ เข้าเงื้อมมือมัจจุการต้องจำจน | ||
+ | เข้าเข่นขู่มีแต่ถูกลากกระชาก เนื้อวิบากกรรมเวรไม่เป็นผล | ||
+ | พะว้าพะวังสิ้นทีทำวี่ทำวน เหมือนหนึ่งนกต้องมนตร์จนน้ำใจ | ||
+ | ขุนช้างถึงรู้ชั่วน้ำใจดี ชู้เมียก็หามีที่ไหนไม่ | ||
+ | สารพัดมั่งมีทุกสิ่งไป เหย้าเรือนทำให้สนุกนัก | ||
+ | จะทำอะไรตามใจไม่ฝ่าฝืน ยายนอนแล้วจำขืนสมานสมัคร | ||
+ | ซุ่มซ่ามนี่กระไรไม่น่ารัก ชาติผู้ดีมีศักดิ์สลึงเฟื้อง | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ รวิราย | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ครวญพลางทางตริไปมา หม่อมขุนแผนยศถาเธอฟุ้งเฟื่อง | ||
+ | เป็นแม่ทัพมีชัยได้บ้านเมือง กรุงกระเดื่องยอดทหารชาญณรงค์ | ||
+ | แต่รุ่นราวคราวหนุ่มจนป่านนี้ ยั่งยืนเต็มดีท่วงทีระหง | ||
+ | งามจริตกิริยาทรวดทรง หยิบหย่งสมุนไพรไม่เป็นเลย | ||
+ | ถึงกับลูกเจ้าพระยาสู้กันได้ ตาดีสุดใจพ่อคุณเอ๋ย | ||
+ | คมกริบดังจะหยิบออกชูเชย ชวนเสวยรสร่วมฤดีดาล | ||
+ | ชายใดจะเสมอไม่มีสอง เสน่ห์น้องจริงจิตยังคิดสมาน | ||
+ | แต่ทว่าจนใจได้เกินการ จะทนทานเชิดหน้าระอาอาย | ||
+ | บ่นพลางทางค้นข้าวของ เงินทองรูปพรรณมากหลาย | ||
+ | สายสะอิ้งสร้อยอ่อนใส่กระทาย แหวนรังเรือนรายเนื่องยักกะตรา | ||
+ | เอาผ้าผ่อนดีดีปิดข้างบน นึกอะไรได้ค้นใส่ใต้ผ้า | ||
+ | หยิบโน่นเสียดายนี่เช็ดยีตา สุชลอาบพักตราคราบหมองมัว | ||
+ | จนแล้วสู้ฟันกันอีกหน เชิงชนย่อมรู้อยู่หม่อมผัว | ||
+ | อีลาวนั้นก็ไม่อยู่ยังแต่ตัว ดีกับชั่วนั้นย่อมแจ้งกับโลกีย์ | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนแฝงฟังสิ้นถ้วนถี่ | ||
+ | วันทองไปไหนเล่าเจ้าตัวดี ทำไมเห็นเอ๊ะหนีกันฤาไร | ||
+ | ว่าจะมาเก็บของสักประเดี๋ยว หายไปเที่ยวหาหาเห็นไม่ | ||
+ | ชะรอยจะแพลงพลิกชุกชิกใจ เมื่อกี้ใครนั่งบ่นเพ้อพก | ||
+ | นินทาว่าร้ายกันลับหลัง ดีบ้างชั่วบ้างทำคับอก | ||
+ | คนสองใจมันมักไพล่ไปนรก เพราะหม่อมผมดกจะตกลึก | ||
+ | แอแหนี่แน่นั่งอยู่นี่ ไหนจะดีเล่าน้องเฝ้าตรองตรึก | ||
+ | เท่านั้นเถิดอย่าเปลี่ยนใจให้ไขว่นึก ป่วยการดึกดื่นแล้วอย่าเรรวน | ||
+ | ก้มมองดูหน้าน้ำตาคล่ำ ร้องว่ากรรมจะมาซ้ำด้วยคำสรวล | ||
+ | ไม่พอที่เลยจะให้หน้าหายนวล เออไม่ควรจะมอมเป็นแมวคราว | ||
+ | วันทองเอ๋ยดูรูปขุนแผนเล่น พี่นี้เห็นอาจอ้อพอเกี้ยวสาว | ||
+ | แม้นว่าจะเล่นข้างเต้นกราว เป็นรองเจ้าบ่าวใหม่อ้ายทรยศ | ||
+ | ดีแล้วที่น้องจะฟันสู้ มันพันตูกันอีกหนดูทนอด | ||
+ | อย่าทำเก้ออ่อนคอท้อระทด เก็บของเสียให้หมดเร็วอย่าช้า | ||
+ | ก้มลงมองค้นของให้กระทาย แหวนเก่าจำด้ายนี่ของข้า | ||
+ | ขุนวิเชียรขาหักไปยักกะตรา เขาซื้อมาข้าขอปันไว้ | ||
+ | เมื่อครั้งสมสู่อยู่กับเจ้า จริงฤาไม่เล่านี่เราให้ | ||
+ | ไม่ลำเลิกดอกน้องอย่างหมองใจ กลัวจะลืมไปจึงตักเตือน | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | อายเอยอายใจ แสแยแล้วใครไม่มีเหมือน | ||
+ | ได้เกินเก้อพูดเร่อแชเชือน กลบเกลื่อนเขินค้างหมางระอา | ||
+ | เร่งกระไรหายใจไม่ใคร่จะทัน มือสั่นหยิบไม่ถูกแล้วหม่อมขา | ||
+ | ค้นถุงเงินปลีกที่เปลี่ยนมา จากคุณย่าท่านท้าวเทพอากร | ||
+ | ใส่ลงในกระทายยกกระแทก ประชดประชันดันแดนไม่หยุดหย่อน | ||
+ | จะพาหนีไปข้างไหนให้พ้นร้อน ซุ่มซ่อนจะมิให้ใครเขารู้ | ||
+ | แล้วจะเหมือนอ้ายอนุอีคำปล้อง เที่ยวจองคร่องหันเหเซซังอยู่ | ||
+ | พาไปพามาน่าเอ็นดู ทำเล่นเช่นลักชู้ให้ได้อาย | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนร้องว่าอุแม่เอ๋ย กระไรเลยพึ่งรู้สึกว่าเดือนหงาย | ||
+ | คราวมืดมัวไม่กลัวเขายินร้าย มาคิดอายต่อทีหลังกระทั่งโกร่ง | ||
+ | มันไม่เหมือนอ้ายอนุอีคำปล้อง ไม่ควรน้องจะไปเปรียบคนตายโหง | ||
+ | อ้ายคนต้นขบถคดโกง เป็นบ้าลำโพงมุทะลุ | ||
+ | เชื่อฟังถ้อยคำอ้ายราชวงศ์ มันยุยงพ่อมันอ้ายอนุ | ||
+ | อ้ายปาศักดิ์สุทธิสารพลอยเสี้ยมยุ พากันติดเรือนตรุต้องเวรจำ | ||
+ | จะชักยาวสาวยืดไปไยเล่า ไปก็ไปเถิดเจ้าอย่าครวญคร่ำ | ||
+ | ทอดอาลัยเสียเถิดตัวเจ้ากรรม อ้ายหมาเน่าลอยน้ำท้องพึงพอง | ||
+ | ฤาไม่ไปจะให้พี่อยู่ที่นี่ เออก็ดีอยู่มิดชิดเป็นหับห้อง | ||
+ | มาเข้าหอใหม่กันเถิดวันทอง นอนที่นี่ก็ตามน้องคะนองโลม | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ช้า</sub> | ||
+ | เจ้าเอยเจ้าพี่ มาย่าดีใหม่น้องประคองโฉม | ||
+ | เอนอิงพิงแอบแนบตระโบม จ้วงกระโจมโน่นนี่รู้ทีกัน | ||
+ | ปิดป้องโดยทำนองเชิงสัมผัส อะไรเจ้าเฝ้าปัดสลัดผัน | ||
+ | อุแม่เอ๋ยจากมาไม่ช้าวัน แก่หัดครันครันขยันเจียว | ||
+ | ปรานีผัวเก่าบ้างอย่างหมางสวาท พี่เต็มอาจคึกก้อจ่อใจเสียว | ||
+ | เคยเลี่ยมอ๋อปันกันเป็นทุนเดียว มาทำตาขุ่นเขียวค่อนพิไร | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | น้อยเอยน้อยฤา ดูดู๋ดื้อบัดสีสิเป็นได้ | ||
+ | ไม่เคยเห็นเช่นนี้เลยผิดใจ อีลาวมันหัดใหม่จนตะกลาม | ||
+ | น่าอับอายราวกับตายไส้ขาด ดูประหลาดฤาแสร้งแกล้งหยาบหยาม | ||
+ | ไปไหนก็ไปจะไปตาม จะว่าที่พระรามเดินไพร | ||
+ | ลุกขึ้นปัดปัดสะบัดสะบิ้ง ไยยังนิ่งหยุดยั้งนั่งไถล | ||
+ | คว้ากระทายได้เดินตรงไป ทำอะไรอยู่เล่าเจ้าจอมพลาย | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | ขุนแผนว่าแม่เอ๋ยนางถั่วขัด เอาแต่ตามถนัดไม่เบี่ยงบ่าย | ||
+ | กระหายห่างร้างมาแต่ปีกลาย จึงได้ตายไส้ขาดแกนตะกลาม | ||
+ | ดูเยี่ยงวันทองเล่าเจ้าพี่ คู่ผลัดมีตีทุกวันประจันสนาม | ||
+ | ลาวสอนใหม่ไม่เหมือนไทยจึงได้ตาม รูปงามเชื่อได้เป็นไรมี | ||
+ | ไหนไหนก็คงไม่ว่างผัว นี่แลตัวตัวดอกสร้อยเกศี | ||
+ | จะว่ากล่าวยาวยืดจะช้าที เออกระนี้แล้วจะให้เป็นพระราม | ||
+ | ก็จะพาเอาสีดานงลักษณ์ ไปให้พ้นทศพักตร์ยักษ์ซุ่มซ่าม | ||
+ | ถ้าน้อยหนึ่งเถิดเจ้าโฉมงาม ลุกขึ้นเดินตามเมียงออกมา | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | มาถึงหน้าเตียงห้องนอก เย้าหยอกวันทองทำป้องหน้า | ||
+ | ชี้ว่านี่แน่อสุรา ที่มันลักสีดามาเชยชม | ||
+ | นอนนิ่งกลิ้งทูตอ้ายอูฐอัด มาดูเสียให้สนัดจะร้างสม | ||
+ | ทศกัณฐ์ตัวนี้หัวเกลี้ยงกลม ปั้นยากกว่าขนมต้มรามัญ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เจ็บเอยเจ็บจิต วันทองคิดอายใจไหวหวั่น | ||
+ | รื้ออาลัยผัวใหม่ดาลแดยัน ชำเลืองแลแปรผันแก้วตาพราย | ||
+ | กระดากเก้อเดินเร่อเกินพ้น จำจนจะกลับก็ไม่ได้ | ||
+ | กลัวอาญาขุนแผนจะวอดวาย นัยน์ตาลายสะดุดประตูเซ | ||
+ | กระทายหกของตกก้นกระแทก เก้อตะกายเล็บแกรกแล้วกล่าวเส | ||
+ | เคราะห์รื้อน้อยใหญ่ให้โยเย แหวนทองกลาดดาษชะเอเก็บชุลมุน | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ร้องเอยร้องว่า กบที่ไหนเล่ามาจึงจับวุ่น | ||
+ | ปล่อยมันเสียเถิดเจ้าเอาบุญ แต่อย่าให้ต้นทุนขาดลอย | ||
+ | เก้อเกาเล็บเล่นไม่เห็นขัน ทำไมนั่นยังนั่งทอดละห้อย | ||
+ | เข้าช่วยเก็บของให้อย่าตะบอย ช้าอีกหน่อยจะรุ่งโพลงขึ้นโด่งแดง | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น กุมารทองเมียงมองประตูแฝง | ||
+ | เห็นวันทองพลั้งพลาดล้มตะแคง ทำเป็นแกล้งร้องว่าอย่าพ่อพลาย | ||
+ | แม่แกผิดทีเดียวเท่านั้นดอก อย่าตีก้นให้ชอกช้ำถลาย | ||
+ | ทำคลับคล้ายมิให้เห็นกาย ว่าแม่จ๋าฉันไม่วายคิดถึงเลย | ||
+ | จากมาอยู่ที่นี่นี้สบาย ฤาซังตายด้วยโกรธพิโรธเอ๋ย | ||
+ | กำพร้าแม่อดกล้วยไม่เสบย แม่คิดถึงบ้างฤาเฉยลืมลูกไป | ||
+ | ฉันเตือนพ่อบ่อยบ่อยให้มารับ ลาวทองเขากำกับไม่มาได้ | ||
+ | ขึ้นชื่อลาวนี้ฉันชังมันสุดใจ รักแม่ไทยมากกว่าหนาว่าจริง | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เสียงเอยเสียงแจ้ว แว่วแว่วไม่ถนัดคะนึงนิ่ง | ||
+ | นี่เสียงใครคิดระแวงแคลงประวิง ตรึกกริ่งจำได้เหมือนจะรู้ | ||
+ | นึกได้คล้ายเสียงกุมารทอง ขมุกขมัวพิศมองอยู่เป็นครู่ | ||
+ | กุมารทองสำแดงกายออกให้ดู ไม่ได้อยู่ด้วยกันกี่วันมี | ||
+ | แปลกฉันไปฤาหม่อมแม่ขา วันทองว่าพ่อมาด้วยฤานี่ | ||
+ | คิดถึงความเก่าเศร้าโศกี ไม่พอที่เป็นทั้งนี้เพราะอีลาว | ||
+ | ออกชื่อลาวทองกระทั่งหู ดังเพลิงพลามวามวู่โชนฉาว | ||
+ | ตั้งคอก่อแคะแกะเรื่องราว พ่อจ้าวเถิดจงเห็นที่จริงใจ | ||
+ | นี่ไม่กลัวผู้กำกับเขาดอกฤา พ่อกุมารหม่อมจึงดื้อมาได้ | ||
+ | น้อยจิตคิดคิดไม่ใคร่ไป เจ็บใจชอกช้ำคำคุณเมีย | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนได้ยินผินมาว่า ลูกข้าจะยั่วลมล่มเรือเสีย | ||
+ | กุมารทองแกล้งแล้วให้ปัวเปีย พ่อไกล่เกลี่ยเรียบร้อยอยู่ถ้อยคำ | ||
+ | เอาลาวทองมาออกชื่อจนอื้ออึง รื้อตะบอยตะบึงพิไรร่ำ | ||
+ | ดูเถิดไม่ว่าเล่นเลยเจ้ากรรม จ่อจุดลุกแล้วหาน้ำมาดับไฟ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น กุมารหัวร่อร่าว่าแก้ไข | ||
+ | โทโสมาแขกแปลกเปลี่ยนใจ ไม่เป็นไรดอกพ่ออย่าโกรธา | ||
+ | ที่หม่อมแม่วันทองท้อถอยหลัง รอรั้งไม่ไปไว้งานข้า | ||
+ | จะวิงวอนผ่อนผันให้เต็มประดา ว่าแม่จ๋าอย่าถือพ่อฉันเลย | ||
+ | ครั้นนั้นลาวทองมันให้กินมด หลงละเมอเยอยศไปแม่เอ๋ย | ||
+ | รู้สึกผิดได้คิดไม่มีเสบย มาไปเถิดแม่เอ๋ยอย่าเฉยเชือน | ||
+ | ตั้งแต่นี้ฉันจะเป็นนายประกัน มิให้พ่อเป็นอย่างนั้นเปรอะเปื้อน | ||
+ | ลาวทองไม่ให้กลับมาขึ้นเรือน เขาไปเสียหลายเดือนแล้วจริงจริง | ||
+ | แล้วผินหน้ามาว่าแน่ะคุณพ่อ แม่ฉันขอความสัตย์ไว้อีกสิ่ง | ||
+ | ลาวทองนั้นให้สลัดซัดเททิ้ง ให้สมกับมันหยิ่งสาระดอง | ||
+ | ฝ่ายแม่ฉันจะแก้ประกันด้วย กับขุนช้างรูปรวยจองคร่อง | ||
+ | ไม่ให้มีเยื่อใยกลับใจปอง จะผ่าสองเสียให้เสร็จเด็ดรัก | ||
+ | ขุนแผนวันทองจึ่งว่า ตามใจลูกยาไม่หาญหัก | ||
+ | กุมารทองหัวร่อก้อกั๊ก ดีใจนักอย่าช้าเลยมาไป | ||
+ | วิ่งเข้ามาหยิบยกเอากระทาย หนักจะตายฉันจะช่วยเอาไปให้ | ||
+ | ทั้งสามก็ตามกันคลาไคล ออกประตูเรือนใหญ่ถึงนอกชาน | ||
+ | ฯ ๑๖ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | แผ้วเอยแผ้วหล้า จันทราแจ้งกระจ่างสว่างบ้าน | ||
+ | ดังจะจับมดได้ก็ไม่ปาน บ่ายหน่อยคล้อยบรรณสารดารินเรือง | ||
+ | ดาวจระเข้ผกผันหันเศียรกลับ ซ้อนสลับดาวรุ่งขึ้นฟุ้งเฟื่อง | ||
+ | ประกายพรึกสุกฉ่ำประจำเมือง ขึ้นค้างเบื้องบูรพทิศตามฤดู | ||
+ | สำคัญตระหนักว่าจักจวนรุ่ง ขุนแผนไม่ดาลสะดุ้งเชื่อมืออยู่ | ||
+ | ถึงสว่างเพื่อนบ้านใครจะรู้ ตามมาก็จะสู้กูไม่ลด | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | วันทองเห็นของที่นอกชาน รอยต่อยแตกฉานระยำหมด | ||
+ | จึงกล่าววาจาว่าประชด นี่คนคดที่ไหนทำรังแก | ||
+ | ถอนต้นไม้รื้อเขาเราเสียด้วย มอดม้วยข่มเหงเล่นทีเดียวแหล | ||
+ | ตุ่มอ่างกระถางโอ่งแอ ทุบเสียนี่แท้พาลพาโล | ||
+ | ของทั้งนี้มันทำไมอะไรเล่า หนักเบาใครแบกไว้ได้โมโห | ||
+ | ทำกระไรได้รู้จักคนเฉโก อวดดีฤาโง่ทำเช่นนี้ | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น กุมารทองร้องว่าอย่าจู้จี้ | ||
+ | ถึงอาลัยก็ไม่กลับคืนดี ของเช่นนี้ใช่ที่ไม่ต้องการ | ||
+ | ใครเล่าทุบต่อยแตกย่อยยับ คุณพ่อกับฉันเองทำเพ่นพ่าน | ||
+ | หาเอาใหม่ก็จะได้อย่ารำคาญ ทำสิ้นอาลัยบ้านจะได้ไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนหัวร่อร่าว่าแก้ไข | ||
+ | โอ่งอ่างกระถางใส่ต้นไม้ เขาห้วยของใครข้าไม่รู้ | ||
+ | คิดว่าของขุนช้างก็ต่อยเล่น กลับเป็นของวันทองน่าอดสู | ||
+ | พี่ขอโทษอย่าโกรธได้เอ็นดู ไม่ได้อยู่แล้วอย่าอาลัยเลย | ||
+ | ขุนแผนพาวันทองรีบไคลคลา ถึงเรือนแก้วกิริยาหักใจเฉย | ||
+ | รื้อถอนใจอาลัยไม่เสบย ทำเป็นเปรยถามวันทองว่าห้องใคร | ||
+ | วันทองว่าห้องแก้วกิริยา ขุนแผนว่าหน้าตาเป็นไฉน | ||
+ | สาวแก่แม่ม่ายเมียผู้ใด ลูกเต้าเหล่าไหนจะใคร่รู้ | ||
+ | ยินชื่อมีความกรุณา ใคร่แวะดูหน้าตาอย่างไรอยู่ | ||
+ | ไฉนน้องวันทองโฉมตรู ให้แวะดูหรือไม่น้ำใจเรา | ||
+ | จะไปแต่หญิงเดียวเปลี่ยวนัก ลักเอาไปใช้สอยเป็นไรเล่า | ||
+ | พอเป็นเพื่อนได้ใช้การหนักเบา เอาฤาเจ้าเห็นเป็นทีพี่หารือ | ||
+ | ฯ ๑๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ได้เอยได้สดับ หวั่นใจไหววับกระไรหรือ | ||
+ | นี่มาแวะแทะเล็มเล่นหัวมือ ดอกกระมังทำไขสือสวนรอย | ||
+ | แล้วกิริยากุมารทองคะนองแย้ม ทำกระแอมแกมสรวลสำรวลบ่อย | ||
+ | จะทำตกกระไดโจนโผนลอย หม่อมจะแวะจะว่อยก็ตามใจ | ||
+ | แก้วกิริยารูปเล่าเขาไม่ชั่ว จะเอาไปแทนตัวฉันฤาไฉน | ||
+ | ตบมือได้กันเถิดเป็นไร ฉันดีใจจะได้กลับไปหลับนอน | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น นวลแก้วกิริยาโฉมสมร | ||
+ | แต่ขุนแผนจากไปใจอาวรณ์ ทุรนร้อนแรงรุมกลุ้มรัก | ||
+ | ด้วยไม่เคยร่วมชมสมสังวาส ปะประหลาดประเดี๋ยวใจอาลัยหนัก | ||
+ | นอนนั่งตั้งวิตกอกทึกทัก ชมประวิชต่างพักตร์พิไรครวญ | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โอ้</sub> | ||
+ | โอ้เหมือนฟ้าแลบแปลบตา มาได้แต่เวทนาฟูมกำสรวล | ||
+ | กลิ่นอายยังตรลบอบรัญจวน นี่เนื้อกรรมมาประมวญประมาททำ | ||
+ | พรากสัตว์ให้พลัดคู่ร้าง จึ่งเจาะจังหวังบ้างไม่ข้ามค่ำ | ||
+ | ชื่นประเดี๋ยวเปลี่ยวลำบากจากระยำ ก้มหน้าใช้กรรมร่ำโศกา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ครั้นวายกำสรดแว่วเสียง สดับสำเนียงเอียงหูฟังรู้ว่า | ||
+ | ชะรอยหม่อมจะพาวันทองมา เสียงจ้าดังฉอเลาะเกาะแกะกัน | ||
+ | จึงลุกรีบมาแอบแง้มประตู เปิดออกมองดูขมีขมัน | ||
+ | เห็นหม่อมขุนวันทองสองพัลวัน กับเด็กคนหนึ่งนั้นน่าเอ็นดู | ||
+ | ลูกใครมาแต่ไหนไม่รู้จัก ไม่ถามทักเมียงมองฟังอยู่ | ||
+ | นี่เอาลับออกมาไขให้กันรู้ ฤาจึงแว่วเข้าหูออกชื่อเรา | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนว่าแก่วันทองนี่แน่เจ้า | ||
+ | อะไรนี่มีแต่จะโดนเดา ใครบอกเจ้าเปล่าเปล่าว่าเราแวะ | ||
+ | ฉิฉะจะให้ไปเปลี่ยนตัว ยังรักผัวหัวล้านอยู่นั่นแหละ | ||
+ | แต่กุมารหัวร่อพอข้อแคะ ชวนฉอเลาะเขาะแกะจะไม่ไป | ||
+ | กุมารทองลูกข้าหน้าทะเล้น เคยเป็นเช่นนี้มาแต่ไหน | ||
+ | ทำไมนั่นข้าจะได้ตกกระได ถ้าตกจริงไม่ไว้วันทอง | ||
+ | คงจะถูลู่ลากลงไปด้วย เจ็บป่วยมอดม้วยคงเป็นสอง | ||
+ | ข้าหารือโดยซื่อปรองดอง น้อยฤาน้องจิตใจเออเช่นนี้ | ||
+ | เชิงข้างหึงแล้วว่องไวดังไฟจุด แว่วสักนิดอุตลุดเหมือนบ้าจี้ | ||
+ | มันร่อยหรอสึกไปเมื่อไรมี ไปคนเดียวก็ตามทีช่างเป็นไร | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองร้องว่าขันนั่นมิใช่ | ||
+ | ว่าข้าชั่วแล้วอย่าพาเอาข้าไป รังกะตุ๋ยถุยอะไรเป็นเช่นนี้ | ||
+ | ที่ข้างแระแวะค่างแล้วปรากฏ ดีชั่วไม่เลือกหมดไม่บัดสี | ||
+ | เว้นเสียไม่เห็นเล่นแต่หางมี วิฬารีแลไม่ได้เป็นภรรยา | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น กุมารทองเห็นอึงจึงร้องว่า | ||
+ | รำคาญหูดูดู๋แหกขี้ตา เพื่อนบ้านเขาว่าเขาจะนอน | ||
+ | อะไรมาหึงลมระงมอื้อ จริงแล้วฤาแม่ขาฟังข้าก่อน | ||
+ | พ่อแกแวะซื้อพลูดูละคร หน่อยหนึ่งดอกไม่ยอกย้อนอย่าร้อนใจ | ||
+ | ฉันเป็นพยานรู้อยู่ทั้งคน เธอรีบร้นมาตามแม่แลข้อใหญ่ | ||
+ | จริงหนาแม่พอแกไม่แชไช ห้องนี้หลงเข้าไปดอกจริงจริง | ||
+ | สักประเดี๋ยวก็กลับออกมา เร็วนักหนาไม่ทันสมภิรมย์หญิง | ||
+ | เห็นหน้าตากันฤาไม่ใจประวิง ฉันก็กริ่งเห็นพ่อจะพอใจ | ||
+ | คะนองหัวยั่วล้อทั้งพ่อแม่ แอแฮแต่ละน้อยพลอยกันไขว่ | ||
+ | ขอเสียเถิดจะช้าเรามาไป เข้าผลักไสฉุดคร่าพาดำเนิน | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น แก้วกิริยามองแลชะแง้เหิน | ||
+ | ลับตาเขาพากันเดินเกิน ใคร่ตามไปคิดเขินน้ำใจนัก | ||
+ | เห็นท่วงทีวันทองนี่นักหนา เขายาวระฟ้าขวิดเกกกัก | ||
+ | แว้งข้างแว้งคูดูเค็กคัก ชะรอยจักขี้หึงเต็มที | ||
+ | ตามไปก็จะไปเป็นเมียน้อย ไม่รักไปรักป้อยแล้วจู้จี้ | ||
+ | ปิดประตูรีบจรผ่อนสมประดี น้ำตาปรี่อาลัยถอนใจฮือ | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | </tpoem> | ||
+ | ==== ==== | ||
+ | <tpoem> | ||
+ | <sub>โอ้</sub> | ||
+ | ถึงที่นอนเปิดมุ้งไล่ยุงริ้น รวยรวยกลิ่นยังไม่สิ้นน้อยไปฤา | ||
+ | ทอดตัววางตาค้างนอนหาวปรือ อ้าปากหวอดกอดมือระทมทุกข์ | ||
+ | ผุดลุกผุดนั่งไม่หลับใหล ได้ยินเสียงอะไรแกรกกรุก | ||
+ | ร้อนร่านรำคาญพล่านพลุก เป็นตุ๊กตาล้มลุกม่อยหลับไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนวันทองกับกุมาร ออกมาถึงนอกชานหน้าหอใหญ่ | ||
+ | บ้าระบุ่นสัตวาที่เล่นไว้ ทักอึงคะนึงไขว่อลวน | ||
+ | ว่าใครนี้มาลักพาแม่วันทอง เพรียกพร้องจอแจแซ่สับสน | ||
+ | ขุนแผนสำคัญว่าเสียงคน ชักดาบออกประจญประจัญรับ | ||
+ | กุมารทองร้องบอกนกดอกพ่อ วันทองหัวร่อว่าไม่ฟังศัพท์ | ||
+ | แท้ทหารชำนาญในการทัพ นกน่อยคอยขยับไหวพริบ | ||
+ | ขุนแผนเดินเร่อเก้อสักหน่อย บ่นค่อยค่อยในคอกระอุบกระอิบ | ||
+ | วันทองว่าพูดดังดังอย่างุบงิบ ขุนแผนว่าจะหยิบผิดกันอีกแล้ว | ||
+ | ถึงประตูชานเรือนลงกระได สกุณไก่มี่สนั่นขันแจ้ว | ||
+ | ฤกษ์ปลอดตลอดคลาศแคล้ว ดุเหว่าแว่วจวนรุ่งมุ่งไคลคลา | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงเร็ว | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น ม้าหมอกหม่นรนร่านทะยานท่า | ||
+ | ครั้นเห็นขุนแผนลงมา จากเรือนเริงร่าเรียงราย | ||
+ | เหลือบมาประสบพบวันทอง แรงร้องทีทักด้วยจำด้าย | ||
+ | เท้าหน้าเขี่ยคุ้ยตะกุยตะกาย วุ่นวายแลบลิ้นเลียพลาม | ||
+ | วันทองเคยป้อนกล้วยอ้อยให้กิน จึงจำกลิ่นได้ไม่ระคางขาม | ||
+ | วันทองทักว่ายังพ่วงพีงาม นึกถึงความหลังนั่งโศกี | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ โอด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น กุมารทองร้องเรียกฝูงผี | ||
+ | สำแดงกายเป็นหมู่อสุรี อึงมี่มาประชุมเป็นโกลา | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนประโลมวันทองว่า | ||
+ | เท่านั้นเถิดอย่าเศร้าโศกา มาขึ้นม้าเถิดพี่จะพาไป | ||
+ | จึงกระสันรัดอกเข้าให้ตึง แล้วจึงมาแต่งตัววันทองให้ | ||
+ | เสื้อหนังไก่ที่ปิดปากกระทายไว้ หยิบเอามาให้ใส่นุ่งจีบโจง | ||
+ | แพรห่มปากเถาเพลาะตะเบงมาน โพกหัวดอกพุดตานโอ่โถง | ||
+ | สอนว่าถึงม้าจะเผ่นโผนตะโพง ยึดสายถือรั้งโยงอย่าวางมือ | ||
+ | แล้วส่งเมียให้ขึ้นขี่ข้างหน้า ผัวขี่หลังประคองมาชักสายถือ | ||
+ | กุมารทองหัวร่อร้องอออือ แฝดติดกันมีฤาฉันพึ่งพบ | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนว่าแสนแล้วเจ้ากุมาร ท่วงทีดีจ้านเชิงประจบ | ||
+ | แย้มพรายไม่ให้ใครทวนทบ มาคบเด็กสร้างบ้านต้องตำรา | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โทน</sub> | ||
+ | ม้าเอยม้าแซม หมอกแกมมรกตเต็มหา | ||
+ | รอบรู้ดั่งมนุษย์สุดปัญญา วางหูหางไว้หน้าดั่งม้ายนตร์ | ||
+ | เริงร่าออกมาถึงนอกบ้าน เผ่นทะยานผ่านตามแนวถนน | ||
+ | บันเทิงร้องหฤหรรษ์ร่านรน สะเทินถูกดั่งม้าต้นไม่สะเทือน | ||
+ | ระวังคนบนหลังไม่พลั้งพลาด ม้าใดไม่ฉลาดเสมอเหมือน | ||
+ | จะให้เร็วก็เร็วไม่พักเตือน เดินไกลเป็นม้าเรือนดำเนินทาง | ||
+ | อมนุษย์นำหน้าม้าสะพรั่ง กุมารแบกกระทายรั้งยึดหาง | ||
+ | กำบังไว้มิให้วันทองระคาง จะตกใจผีสางคร้ามกลัว | ||
+ | ให้เห็นกันแต่สามสี่ทั้งม้า คะนองเล่นเจรจาเย้ายั่ว | ||
+ | ดีใจประชิดจนติดตัว เห็นใจผัวบ้างฤาไม่อาลัยรัก | ||
+ | ฯ ๑๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองร้องว่าฉันคันมือนัก | ||
+ | จะใคร่ลองเล็บเล่นดูสักพัก นานแล้วต่อจักลืมฝีมือ | ||
+ | ขุนแผนร้องตอบคำว่า อย่าอย่ามิตกม้าลงไปฤา | ||
+ | ข้ามิใช่หมื่นทนคนฦฦา เช่นอ้ายตื้อหัวล้านมันทานทน | ||
+ | ถึงหน้าเรือนพี่ขุนช้างสอนพญา โรงนางม้ามีอยู่ริมถนน | ||
+ | พอสีหมอกร้องร่านรน นางม้ายินสับสนรนร้อง | ||
+ | คราวสัดสำเนียงอัสดรผู้ หื่นคู่กระทืบโรงตะโกรงก้อง | ||
+ | ขุนแผนจึงถามวันทอง ม้าผู้เมียของใครน้องเลี้ยงไว้ | ||
+ | วันทองบอกนางม้าสอนพญา เขาแลกมาม้าพาลบ้านผักไห่ | ||
+ | กระบือถอนบ้านเชี่ยนเปลี่ยนกันไป ขุนแผนดีใจหยุดรอรั้ง | ||
+ | ว่าแก่วันทองน้องพี่ หยุดที่นี่สักประเดี๋ยวอย่าหักหลัง | ||
+ | ให้กุมารทองอยู่ระไวระวัง พอสมหวังดั่งคิดที่จิตจง | ||
+ | ขมีขมันโดดลงจากอาชา รีบมาหมายได้เหมือนใจประสงค์ | ||
+ | กำหนดเสียงม้าร้องมั่นคง เดินตรงมุ่งไปด้วยปรีดา | ||
+ | ฯ ๑๔ คำ ฯ กราวรำ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ถึงเอยถึงรั้ว ขัดแตะทึบทำยังชั่วแน่นหนา | ||
+ | เอาฟ้าฟื้นฟาดฟอนรอนรา แตะพังออกไม่ช้าก็เข้าไป | ||
+ | ถึงโรงม้ามองเมียงฟังดู กองเพลิงสุมอยู่ยังสงสัย | ||
+ | คนเลี้ยงหลับฤาตื่นฉันใด ไม่ไว้ใจก็สะกดเสียฉับพลัน | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | บัดนั้น อ้ายอึ่งควาญม้าข่าคำมั่น | ||
+ | เทศกาลลมว่าวหนาวงกงัน คืนนั้นนอนไม่หลับจับหืดงอ | ||
+ | ผิงไฟเอาตุ้งก่ามาชัก ดังคลอกคลักดื่มดูดปากผลอ | ||
+ | บังหวนควันซูดซืดฝืดคอ ต้องสะกดกรนฝอล้มหลับไป | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนสังเกตว่าคนหลับใหล | ||
+ | เข้าไปในโรงม้าทันใจ ฟางไฟริบหรี่มอซอ | ||
+ | จึงนั่งโก้งโค้งกระโพงเป่า เอาฟืนฝอยใส่เข้าเร่งก่อ | ||
+ | ลุกโพลงสว่างกระจ่างพอ เห็นอ้ายข่างอนหง่อคุดคู้ | ||
+ | เหลือบซ้ายแลขวาทั่วไป เบาะบางแขวนไว้ก็มีอยู่ | ||
+ | เข้าไปปลดเอามาพินิจดู ก็รู้ว่าเบาะโคราชได้ไหนมา | ||
+ | แล้ววางไว้พบก้นไต้ไปจุดส่อง อ้ายสอนพญาจองคร่องเกลียดน้ำหน้า | ||
+ | ทำโพงโสงน้อยฤาเกินหน้าตา ชาติข้าจองหองเหมือนน้องชาย | ||
+ | คิดว่ามีม้ามากปลูกโรงโกง ตัวเดียวโป้งโหยงก็เป็นได้ | ||
+ | เลี้ยงม้าตัวเมียขี่ไม่มีอาย แต่รูปดีแซมทรายสูงใหญ่ยาว | ||
+ | ท่วงทีเดินทางจะทนอด ปะทัดหลังดำหมดชาติปากขาว | ||
+ | นัยน์ตาก็ไม่กาววาว ข้อเท้ากลมกล่อมกีบฝักบัว | ||
+ | จึงถอดขลุมเอาบังเหียนใส่เข้า ดูหน้าตาสอดเปลายังชั่ว | ||
+ | เอาเบาะบางพาดผูกเครื่องตัว หยิบเอาสุ่มครอบหัวอ้ายข่าไว้ | ||
+ | แล้วจูงเอานางม้ามานอกบ้าน โดดทะยานขึ้นหลังลองขับใหญ่ | ||
+ | สะเทินเรียบสนิทสนมก็ดีใจ วันทองพอจะขี่ได้ก็ขับม้า | ||
+ | ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | มาเอยมาถึง ที่วันทองกับกุมารคอยท่า | ||
+ | ที่ต้นทองโหลงใหญ่เยื้องบ้านมา บอกว่าไปหาม้ามาได้ดี | ||
+ | ตั้งใจเอามาให้วันทอง สนิทดีจริงน้องน่าขับขี่ | ||
+ | ต่างคนต่างลงจากพาชี สุขเกษมเปรมปรีดิ์กันสองคน | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | ขุนแผนดำริตริว่า จำจะด่าขุนช้างเล่นให้ปี้ป่น | ||
+ | ลูกอีเถ้าเทพทองสาละวน เก่นก่นเสียให้หมดเหล่าปราณ | ||
+ | จึงว่าวันทองน้องพี่ หยุดประเดี๋ยวธุระมีจะแต่งสาร | ||
+ | ไว้ให้หม่อมสหายหัวล้าน ป่าววงศ์วานไปตามอย่ารั้งรอ | ||
+ | จึงเอาดาบถากเปลือกทองโหลงใหญ่ เอาถ่านไฟเขียนใช้ต่างดินสอ | ||
+ | จะเล่นลิ้นว่าเล่นให้พอพอ ลวงล่อล้อให้มันเดือดดาล | ||
+ | ครั้นเขียนสำเร็จเสร็จแล้ว พลายแก้วอวดโอ้ด้วยโวหาร | ||
+ | อ่านให้วันทองพรายกุมาร ศุภสารของเราเสนาะดี | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ช้า</sub> | ||
+ | ในลักษณ์ว่านายพลายแก้ว เลิศแล้วถึงตามไปไม่มีหนี | ||
+ | เจ้านายชุบเลี้ยงโปรดเต็มที่ วิชาการมนตร์มีขลังนัก | ||
+ | ได้เป็นขุนแผนแสนณรงค์ อาจทะนงสมกันกับยศศักดิ์ | ||
+ | ลูกอีเถ้าเทพทองทำคึกคัก หมายจะหักเอาด้วยทรัพย์เชื่อดี | ||
+ | คบมิตรทำลายมิตรไม่คิดบาป นิยมหยาบเอออะไรเช่นนี้นี่ | ||
+ | ภรรยาของเขาเจ้าผัวมี ไม่คิดที่จะเป็นเวรากรรม | ||
+ | ไม่ส่องกระจกดูหน้าตาหัวหู เศษบาปกินยังจะรู้อ้ายหัวหำ | ||
+ | ผมเผ้าไฟนรกเลียระยำ ไม่นึกคลำดูบ้างหาไม่เลย | ||
+ | คอยลอดตอดขบกันลับลับ โกหกสับปลับสุดแล้วเหวย | ||
+ | จนลาวทองต้องพรากจากเชย มึงเอ๋ยทำแค้นกูแสนทวี | ||
+ | ความสัตย์ไม่รักษาสัตย์ สบถแล้วก็สะบัดเสียกับที่ | ||
+ | กูมาแก้แค้นมึงวันนี้ ตลุนตุ๋นกลิ้งขี้นอนกรน | ||
+ | จะห้ำหั่นบั่นเสียก็จะได้ ตายแล้วเกิดใหม่สักร้อยหน | ||
+ | เสียดายดาบฆ่าอ้ายมิใช่คน กูขึ้นเรือนใช่ทำวนข้าวของใคร | ||
+ | ใช่ผู้ร้ายสะกดปล้นค้นสมบัติ สารพัดหาปรารถนาไม่ | ||
+ | ทุบต่อยเล่นตามสบายใจ พาแต่เมียกูไปเร่งไปตาม | ||
+ | ขุดอ้ายศรีวิชัยเอาไปด้วย ป่าวพวกพ้องไปช่วยก็ไม่ขาม | ||
+ | อ้ายราชพญาสอนพญาฝูงบ้ากาม ซุ่มซ่ามให้หมดสิ้นเหล่ากอ | ||
+ | คนเดียวแลจะสู้ให้ดูเล่น ครั้งนี้แลจะเห็นฝีมือพ่อ | ||
+ | ไม่อวดตัวสรรแสร้งแกล้งยกยอ คูฆอเขียนเสือให้วัวกลัว | ||
+ | จะไปคอยอยู่ที่กลางป่า อย่านอนใจให้ช้ามุดหัว | ||
+ | มึงก็เป็นคนดีมิใช่ชั่ว เป็นทหารต้มถั่วซนไฟ | ||
+ | เขาเลื่องชื่อลือขลาดเองนักหนา อ้ายขี้ข้าพญาศรีใส | ||
+ | อย่าไปมือเปล่าตามโคมไป จะเอาบุหรี่ไปคอยไว้อย่าปรารมภ์ | ||
+ | มึงไปถึงเมื่อไรจ่อจุด จะสูบให้อุตลุดควันกระหม | ||
+ | อ้ายสองหน้าชาติข้ามิใช่พรหม หน้ากลมกลมข้างท้ายทอยตาไม่มี | ||
+ | ฯ ๒๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ถอนร่าย</sub> | ||
+ | วันทองขวยเขินค้อนให้ กุมารทองชอบใจว่าถูกที่ | ||
+ | ชวนกันสุขเกษมเปรมปรีดี ขึ้นพาชีรีบเร่งขับไป | ||
+ | ให้นางม้าวันทองขี่ไปหน้า ม้าหมอกรอรามาเคียงใกล้ | ||
+ | ขุนแผนคอยประคองไม่ไว้ใจ กุมารทองระวังระไวม้าวันทอง | ||
+ | ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เดือนเอยเดือนดับ แสงเงินจับนภดลหับหนห้อง | ||
+ | เวหาสน์เรื่อเรื่อสุวรรณเรืองรอง โอภาสส่องพื้นฟ้านภาดล | ||
+ | อรุณรุ่งพุ่งดวงสุริเยศ เสด็จประเวศเผ่นผยองล่องเวหน | ||
+ | ขุนแผนวันทองพากันจรดล พอรุ่งขึ้นถึงตำบลตำหนักเย็น | ||
+ | ที่ประทับท้าวพญามาแต่ก่อน ร่มกาหลงไม่มีร้อนน่านอนเล่น | ||
+ | รวยรวยกลิ่นอ่อนอ่อนขจรรำเพ็ญ ที่ทางเห็นสนุกสนานนัก | ||
+ | ใกล้พระแท่นดงรังหนองขาว ระยะยาวสักกึ่งร้อยรอยกรุยปัก | ||
+ | ลับลี้ควรที่จะหยุดพัก ค่ำจึงจักไปด้วยกับแสงจันทร์ | ||
+ | คิดแล้วจึงว่าแก่วันทอง หยุดที่นี่ก่อนน้องผ่อนผัน | ||
+ | พักร้อนนอนเสียเถิดกลางวัน คืนนี้เราเคี่ยวกันรุ่งกับตา | ||
+ | เดินมาเที่ยวเลาะเราะหาที่ ใต้กาหลงต้นนี้เตียนนักหนา | ||
+ | ขุนแผนวันทองลงจากม้า แก้เครื่องอาชาเสียทันใจ | ||
+ | จึงเรียกกุมารทองมาสั่ง พ่อจงไประวังริมทางใหญ่ | ||
+ | ใครมาตามให้รู้แต่ไกลไกล โหงพรายนั้นให้ไปล้อมวง | ||
+ | ให้เอาม้าไปอาบน้ำกินหญ้า แล้วไปหาผลไม้เอามาส่ง | ||
+ | เอาเบาะม้าแผงข้างวางปูลง ร้อนแสงสุริยงทับหลังตา | ||
+ | คิดกำจัดอมนุษย์ให้ไปหมด ทอดรันทดลงที่ใต้พฤกษา | ||
+ | สัพยอกหยอกเย้าภรรยา แก้กันชีพหลังมาออกแบ่งปัน | ||
+ | ของกินพ่อม่ายไร้เมีย มันชั่วประดาเสียไม่น่าฉัน | ||
+ | มากินเถิดตามแกนด้วยกัน อย่าถือเชิงถือชั้นจะแสบท้อง | ||
+ | ฯ ๒๐ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองสำรวลสรวลสนอง | ||
+ | ท่านผู้หญิงแต่ละคนเนื้อเป็นทอง แต่ล้วนเหล่าเผ่าพ้องผู้ครองเมือง | ||
+ | ไม่ควรเลยหนอท่านคุณผู้ชาย จะมาว่าเป็นม่ายเคี้ยวเอื้อง | ||
+ | คราวชาตาเฟื้องฟุ้งรุ่งเรือง กำลังเปรื่องแล้วเป็นไรเล่าหม่อมพลาย | ||
+ | ฉันอีกเป็นคนชั่วช้า ระอาหน้าดำมอมหมึกหมาย | ||
+ | หม่อมจะพลอยขายหน้าได้อาย มันไม่เป็นโล้พายดอกพ่อคุณ | ||
+ | บ่นพลางทางเสพผลาหาร สองสมานผูกพันเป็นควันกรุ่น | ||
+ | เป็นไก่เก่าไม่ให้หลวมกรวมประทุน แต่ละน้อยคอยตลุ่นในเชิงชั้น | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น ขุนแผนสำรวลสรวลสันต์ | ||
+ | ชั่วดีน้องพี่ไม่อย่างนั้น คำบุราณกล่าวมั่นแต่ก่อนมี | ||
+ | ท่าน้ำศาลานทีหญิง สามสี่สิ่งจะว่าแดนของใครนี่ | ||
+ | ธรรมดาเคราะห์ร้ายเคราะห์ดี ปรปวาทใครที่จะหนีพ้น | ||
+ | สุดแต่ใจน้ำใจเจ้ากับข้า ถ่มน้ำลายรดฟ้าเวหน | ||
+ | ใครถ่มก็จะล่นลงต้องตน ทำวนบ่นเพ้อเออรำคาญ | ||
+ | แต่เราจำจากพรากกันมา อย่าเนิ่นนักชักช้าหน่วงสมาน | ||
+ | เขยื้อนขยดเข้าใกล้เกือบได้การ ตะกวดควานเข้ามาชิดคิดว่างู | ||
+ | วันทองโลดขุนแผนโดดตกใจ เห็นตะกวดทุดจัญไรแกล้งจู่ลู่ | ||
+ | มาชิงพลบเมื่อจะสบปูนกับพลู อีกสักครู่จะแผ่แบกิน | ||
+ | เบี้ยหน่วยจนพลิกไพล่ไปเป็นครบ น่าตีให้บัดซบสลบดิ้น | ||
+ | ให้วันทองน้องข้าพลอยตื่นบิน เจ้าเอยผินมาข้างนี้มิใช่งู | ||
+ | มามาน้องลองเล่นเห็นถิ่นแปลก กับอันแรกจะผิดบ้างอย่างไรอยู่ | ||
+ | หยิบเอาเล็ดกระเบาเข้ามองดู ประหลาดหนอไม่รู้จักเลย | ||
+ | ร้องกระโวยกระวายเข้ามาว่านี่ เราได้ของดีน้องพี่เอ๋ย | ||
+ | นั่งลงทำพินิจพิศชูเชย ของไม่เคยได้เห็นทำเล่นล้อ | ||
+ | ฯ ๑๖ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | เมื่อนั้น วันทองอมสรวลสันต์กลั้นหัวร่อ | ||
+ | เอามือปิดปากไว้ไอในคอ กระแอมข้อระคนปนจาม | ||
+ | เมียงเข้ามาครั้นใกล้ทรุดไพล่นั่ง ขอดูมั่งเป็นไรทำไถ่ถาม | ||
+ | ลวงหลอกดอกกระมังพ่อโฉมงาม เพลงข้างล่อต่อความขยันนัก | ||
+ | ขุนแผนทำกมุดกมิดปิดป้อง เอาขึ้นส่องร้องว่าพึ่งรู้จัก | ||
+ | ดูสิเจ้าเห็นจะพราววาวน่ารัก นี่ยังหมกอยู่ในฝักจึ่งมอยอ | ||
+ | ว่าพลางทางขยดเข้าไปใกล้ แบมือออกพี่จะให้ไม่ให้ขอ | ||
+ | ขมับมือแบกำทำแลล้อ ดีดดังหวอร้องปร๋อปรื๋อบินไป | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>ร่าย</sub> | ||
+ | วันทองว่าหม่อมแล้วเป็นเช่นนี้ มีแต่ลวงสับปลี้น่าหมั่นไส้ | ||
+ | ค้อนขวับทีขยับเขยื้อนไกล ขุนแผนทับตักไว้มิให้ลุก | ||
+ | ฯ ๒ คำ ฯ | ||
+ | |||
+ | |||
+ | <sub>โอ้โลม</sub> | ||
+ | แน่เอยแน่เจ้า พี่จะเล่านิยายให้สนุก | ||
+ | ธรรมดาสัตว์ในวัฎทุกข์ ลูกกบเป็นปลาดุกไปก็มี | ||
+ | ผลกระเบางอกปีกบินไปได้ น่าอัศจรรย์ใจนักน้องพี่ | ||
+ | เจ้าจะว่าโป้ปดก็ตามที เหมือนกรวดสำโรงโด่งหนีไปกับมือ | ||
+ | ทางภิรมย์เกลียวกลมสมสวาท เอนอิงพิงพาดสัมผัสถือ | ||
+ | ประโลมประเล่าเบาเบามิให้ครือ เป็นตัวสืออยู่ด้วยกันรู้ชั้นเชิง | ||
+ | วันทองท่วงทีดีป้องปิด ขุนแผนสะกิดล่อล้อให้หลงเหลิง | ||
+ | ไว้ทีหนีทีไล่ให้กระเจิง ต่างสำเริงเชิงสนิทชิดกลมเกลียว | ||
+ | ฯ ๘ คำ ฯ โลม | ||
+ | |||
+ | |||
+ | อัศจรรย์ในอรัญถิ่นประเทศ โดยสังเกตแปลกเปลี่ยนกระเสียนเสียว | ||
+ | สองเกษมเปรมปริ่มกระหยิ่มเจียว ลัดาเกี้ยวเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกัน | ||
+ | แฝกคาหญ้าระบัดในภูมิประเทศ บันดาลเหตุทั่วทำเลพลอยป่วนปั่น | ||
+ | จัตุบาททวิบาทที่เหล่านั้น ก็ผกผันตื่นเต้นเล่นประลอง | ||
+ | สัตว์ใดที่พอใจคะนองน้ำ ก็เวียนผุดเวียนดำประจำหนอง | ||
+ | วารีขุ่นข้นระคนฟอง สองกระกองปองสวาทสมมาตรครัน | ||
+ | ฯ ๖ คำ ฯ | ||
+ | </tpoem> | ||
== เชิงอรรถ == | == เชิงอรรถ == | ||
== ที่มา == | == ที่มา == |
รุ่นปัจจุบันของ 10:51, 26 สิงหาคม 2553
เนื้อหา |
ข้อมูลเบื้องต้น
แม่แบบ:เรียงลำดับ พระบวรราชนิพนธ์: กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ
บทประพันธ์
ตอน ๑ ตั้งแต่ขุนแผนกลับจากการทัพมาบ้านนางวันทอง นางวันทองกับนางลาวทองหึงกัน จนขุนแผนกลับบ้านเดิม
ช้า | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเชี่ยวชาญหาญกล้า | ||
ตีเชียงทองได้แล้วกลับมา | เฝ้าจอมอิศราปิ่มโมลี | ||
ได้พระราชทานรางวัลครัน | เกษมสันต์ผ่องพักตร์เป็นศักดิ์ศรี | ||
จะกลับไปสุพรรณบุรี | ลงนาวีใหญ่ไร่เพียบพราย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โล้ | |||
จำปาทองเทศ | |||
ขุนแผนคลอเคล้าลาวทอง | พี่เลี้ยงสองชม้อยเมียงม่าย | ||
หม่อมขุนเย้าหยอกตามสบาย | ลาวทองร้องไฮ้อายชาวเรือ | ||
ขุนแผนว่าเมียใครที่ไหนมา | เสน่หาเต็มทนจนล้นเหลือ | ||
ต้องนอกผ้าดังว่าเขาถูกเนื้อ | ร้องเผื่อเสียก่อนว่างอนจริง | ||
หยอกแหย่แอ๋แหน้อยฤาน้อย | เชิงชั้นเกือบจะเป็นท่านผู้หญิง | ||
สะดุ้งพดสามคดระทวยทิ้ง | มันเพราพริ้งยิ่งชื่อฤาลาวตาย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองขวยเขินสะเทินม่าย | ||
เหตุว่าหม่อมขุนเป็นผู้ชาย | ไม่มีอายทำได้ก็ทำเอา | ||
ลาวไทยถ้าเป็นหญิงก็เหมือนกัน | อย่าเสกสรรรำพันเพ้อเลยพ่อเจ้า | ||
เผอิญหม่อมเห็นว่าข้าพริ้งเพรา | บุญเราจะได้เป็นหม่อมแม่เรือน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนสรวลเสชวนกลบเกลื่อน | ||
ไม่สะบิ้งสะบัดแชเชือน | อย่าพักเตือนเลยจะเลี้ยงให้เต็มโต | ||
พลพายพายระดมรีบรัด | สามเล่มจัดร่ายราวกราวโห่ | ||
เมียผัวตัวขย้อนคลอนยอกโย้ | พลาดขยับร้องโอ๋ซวดเซทับ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ช้าปี่ | |||
สิ้นเอยสิ้นแสง | จรูญแจรงเมฆเกลื้อนเลื่อนสลับ | ||
รวิวรรณผายผันโพยมพยับ | ไถงดับอับแสงรวิวร | ||
บุหลันเลื่อนล่องฟ้าโพยมมาศ | โอภาสแจ่มจำรัสประภัสสร | ||
แผ้วหล้าดาดาษศศิธร | พิศเดือนเหมือนจะวอนให้อ่อนใจ | ||
แส้งตรัจปรัดผิวลาวทองน้อย | งามขม้อยนวลหน้าหน้าแข่งไข | ||
สัพยอกหยอกเยียเคลียกันไป | ตามแนวในชลมารคไม่คลาศคลา | ||
เพลาดึกลมพัดมาเย็นเฉื่อย | หนาวเรื่อยน้ำฟ้าต้องหน้า | ||
ชื่นชุ่มเยือกเย็นทั่วกายา | สะพักผ้าไม่อุ่นเหมือนเบียดกัน | ||
มืดราตรีผินข้างนี้เถิดนะเจ้า | มาคลึงเคล้าเสียให้หายคลางคางสั่น | ||
ทำเอนอิงพิงพาดพัวพัน | พูดล้อเล่นขันขันมากลางเรือ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ โอ้ | |||
แล้วถอนจิตคิดถวิลถึงพิมพี่ | โอ้ป่านนี้จะละห้อยคอยเหลือ | ||
เพลานอนจะโอดอ่อนน้ำตาเจือ | เออน่าเบื่อเรือพายไม่ไหวเลย | ||
เขม่นตาข้างขวาให้หวั่นหวาด | เอ๊ะประหลาดผิดใจอะไรเหวย | ||
เมียงามละไว้ให้ห่างเชย | อกเอ๋ยนานหนักมักมีภัย | ||
ฝากไว้กับแม่ยายแก่ชายเปื้อน | ทำอะไรไหลเลื่อนไม่เอาได้ | ||
อ้ายขุนช้างทุจริตอิจฉาใจ | มันคิดปลงอยู่มิได้วายวัน | ||
คะนึงพลางทางเร่งนาวาคลา | พอเรื่อฟ้าจวนแจ้งแสงฉัน | ||
ภาณุมาศโอภาสรพีพรรณ | กับบุหลันเด่นดวงอรุโณทัย | ||
ถึงสุพรรณพลันประทับกับหน้าบ้าน | ยิ่งรำคาญร้อนรนหม่นไหม้ | ||
ยลบ้านพิศเรือนนี่เรือนใคร | หวั่นใจทวีทุเรศอารมณ์รัว | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงตื่นขมุกขมัว | ||
ลงมาท่าน้ำชำระตัว | หมอกมัวเห็นเรือใครรอรา | ||
ดูดูรู้ว่าเรือขุนแผน | ก็กลับแล่นคืนขึ้นบนเคหา | ||
บอกวันทองพลันว่าหม่อมมา | จอดอยู่หน้าท่าถึงเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองมัวหมองไม่ใสศรี | ||
แจ้งว่าผัวมาก็ยินดี | แย้มหน้าต่างม่านมู่ลี่แลดู | ||
เห็นเรือจอดอยู่หน้าตะพานใหญ่ | มีความใคร่มิได้อดสู | ||
ยินดีปรีดาน้ำตาพรู | วางวู่วิ่งสลดกำสรดจร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
ถึงเอยถึงท่า | ระอาหน้าร้อนรุ่มดั่งสุมขอน | ||
ย่างยาวก้าวลงเรือที่นอน | สะท้อนถอนซบพักตร์โศกาลัย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเห็นพิมน้องหมองไหม้ | ||
กำสรดโศกวิโยคยิ่งสิ่งใด | เป็นไฉนฉะนี้นะน้องรัก | ||
ผิวช้ำคล้ำกลั้วมัวมลทิน | ผันผินมาบอกพี่ให้ตระหนัก | ||
ผัวมาชอบแต่ว่าจะทายทัก | ซบพักตร์ร้องร่ำทำไมน้อง | ||
ฤาอาดูรพูนเทวษโรคาไข้ | เจ็บช้ำน้ำใจหม่นหมอง | ||
พิมเอ๋ยไยฟูมหน้าน้ำตานอง | เข้าประคองปลอบเช็ดชลนา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองโศกแสนสหัสา | ||
กราบลงแทบเท้าภัสดา | มิใคร่จะเงยพักตราระทมใจ | ||
อึดอัดสะอื้นจะออกความ | คิดขามอิดเอื้อนไม่บอกได้ | ||
ตั้งแต่หม่อนบำราศคลาศไป | รักษาตัวกลัวภัยเป็นพ้นคิด | ||
อกุศลตามผลาญประหารพลัน | ขุนช้างมันคิดคดทุจริต | ||
มารดาข้าถือว่าเป็นมิตร | เชื่อสนิทมิได้คิดสงกา | ||
เอากระดูกห่อผ้ามาให้ | ว่าหม่อมม้วยบรรลัยสิ้นสังขาร์ | ||
เสียทัพยับย่อยชัยปรา | ลาวฆ่าแทงตายวายชีวัน | ||
บอกมาแต่งเมืองกำแพงเพชร | คดีทูลสิ้นเสร็จเป็นคำมั่น | ||
มันทำร่ำร้องไห้รำพัน | ข้างบ้านสำคัญว่าความจริง | ||
ชวนกันร่ำระงมซมทั้งเรือน | กลาดเกลื่อนสิ้นเสือกเกลือกกลิ้ง | ||
น้องก็เขลาไม่ระแวงแคลงประวิง | ร้องให้นิ่งจนสลบซบซอน | ||
มิได้วายว่างเว้นเทวษ | กับสายทองนองเนตรสยดสยอน | ||
ราตรีนองน้ำสุชลนอน | ระบมค่อนอกช้ำระยำทรวง | ||
จึงพากันไปดูโพธิ์สามต้น | ก็เหลืองหล่นใบกลาดดาษร่วง | ||
ยิ่งทวีทุกข์เพิ่มเติมตวง | มาหลงกลเขาลวงนี้เนื้อกรรม | ||
ก็ตั้งใจแต่สร้างการกุศล | แผ่ผลไปให้หม่อมทุกเช้าค่ำ | ||
บุญใดที่มิได้เคยทำ | ทำแล้วตรวจน้ำอุทิศไป | ||
เสพอาหารตรวจน้ำทุกค่ำเช้า | จะนอนเล่าก็ไม่หลับใหล | ||
จนไผ่ผอมตรอมซูบระยำใจ | น้องล้มไข้ปาปิ้มจะวายปราณ | ||
ท่านมารดาหาแพทย์มารักษา | หมอใดมาว่าโรคนี้หนักท่าน | ||
เหลือมือจะเยียวยาแล้วอาการ | ได้แต่หมอกลางบ้านประทังมา | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
จึงไปนิมนต์ท่านวัดป่าเลไลยก์ | ดูเคราะห์ว่าฆาตใหญ่ไขว่นักหนา | ||
มิจากผัวตัวจะตายวายชีวา | เธอจึงเปลี่ยนชื่อข้าเรียกวันทอง | ||
ให้นามต้องชาตาจะซาเคราะห์ | จะค่อยเลาะกว่าเก่าจากเศร้าหมอง | ||
อยู่มินานมีพระกาลประหารน้อง | อ้ายขุนช้างจองหองบังอาจใจ | ||
แต่งเถ้าแก่มาขอต่อมารดร | พูดจาหลอกหลอนตะคอกใหญ่ | ||
ว่ากฎหมายผัวตายณรงค์ชัย | กรมวังท่านจะให้ตำรวจมา | ||
เก็บเอาภรรยาเป็นม่ายหลวง | ตามกระทรวงพระสุรัสซ้ายขวา | ||
แม่แก่ตกใจไม่ไตร่ตรา | เขาขอข้ายอมยกให้ขุนช้าง | ||
เร่งรัดมัดให้มาปลูกหอ | ไม่รั้งรอหารือน้อยหนึ่งบ้าง | ||
รื้อหอเก่าไปปลูกเสียวัดกลาง | ปลูกหอใหม่ไม่ระคางคร่อมลง | ||
บ่ายหน่อยขันหมากมาถึงบ้าน | ทั้งสมภารมากลุ้มประชุมสงฆ์ | ||
อ้ายหัวล้านป๋อหลอออทะนง | กับเผ่าพงศ์เพื่อนบ่าวมาหลายลำ | ||
ทุนสินสอดผ้าไหว้มากหนักหนา | แม่ข้าโลภเผลอพูดเพ้อพร่ำ | ||
จะให้ข้าแต่งตัวไปซัดน้ำ | ฉุดปล้ำลากข้าไม่ปรานี | ||
น้องขืนขัดมิได้ไคลคลา | แม่ข้าต่อยตบน่าบัดสี | ||
อยู่มาอีกเจ็ดราตรี | จะส่งตัวให้อ้ายผีเข้าหอกัน | ||
น้องไม่ลงปลงใจแข็งขัด | แม่ผูกมัดเฆี่ยนตีไม่ผ่อนผัน | ||
ขอดค่อนด่าว่าไม่เว้นวัน | ไม่เสกสรรความจริงยิ่งเหลือทน | ||
หม่อมมิเชื่อเมียว่าแกล้งว่า | เลิกผ้าให้ดูแผลแน่ปี้ป่น | ||
ไม่สิ้นแหนงระแวงน้องต้องจำจน | ไม่เป็นคนสู่สู้เวราไป | ||
คิดคิดจะใคร่ตายเสียดีกว่า | จะดูหน้าต่อตาผู้ใดได้ | ||
กอดเท้าหม่อมขุนเข้าร่ำไร | สะอื้นไห้จะสิ้นสมประดี | ||
ฯ ๒๒ คำ ฯ โอด | |||
โลม | |||
เมียเอยเมียรัก | อย่าร่ำนักผิวพักตร์จะหมองศรี | ||
เดือดอึดอัดฮึดฮัดเต็มที่ | ดังอัคคีจุดจ่อรื้อรอคิด | ||
ประโลมปลอบเอาใจภรรยา | นี่หากว่าเจ้าเป็นคนสุจริต | ||
แม้นชั่วไม่รักผัวมัวมืดมิด | จะเชยชิดชอบชู้สำราญครัน | ||
หนึ่งว่าน้อยฤาแน่แม่สหาย | ไม่ทันตายฤามาแสร้งแซงสรร | ||
เมียกูรู้อยู่สิ้นทั้งสุพรรณ | เหลือที่กลั้นสุดอดจะลดรา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
อ้ายหัวล้านเล่นกันเถิดวันนี้ | อีเถ้าแก่แม่พี่ที่ปรึกษา | ||
บรรดาคนสนิทคิดกันมา | ห้ำหั่นบั่นฆ่าให้ม้วยมุด | ||
เจ้านายไม่เลี้ยงก็สู้ตาย | ถึงแม่ยายก็ฟันเสียให้สิ้นสุด | ||
จับฟ้าฟื้นกวัดแกว่งแต่งตัวยุทธ์ | เรียกบ่าวไพร่อุตลุดอึงคะนึง | ||
แต่ต้นโพธิ์ปลูกไว้เสี่ยงทาย | ตัดรากทำอุบายใครรู้ถึง | ||
ค้นอาวุธในท้องเรือดังตังตึง | บอกกันอึงนายให้ไปล้อมเรือน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้องห้ามความจะเปื้อน | ||
อย่ามุมุ่นหุนหันฟั่นเฟือน | ไม่เหมือนกลางป่าค่าไม้ | ||
หม่อมขาฟังเมียก่อนพ่อเจ้า | ถ้อยความมันจะเน่าไปไหน | ||
เมืองมีขื่ออย่างถือชะล่าใจ | ฟังข้าวเดียวยังกระไรฤาหม่อมพลาย | ||
ใช่คอเขาเป็นทั่งสันหลังเหล็ก | ไม่ใช่เด็กเขาจะทำเอาแต่ด้าย | ||
จะกระไรบ้างกระมังข้างเรานาย | บุราณว่าหญิงร้ายชายทรชน | ||
ท่านแม่ยายมิปลงใจไฉนฤา | เขาจึงรื้อหอห้างเสียจนป่น | ||
หม่อมมีความชอบมาเหลือล้น | ทูลยุบลแล้วแต่จะโปรดปราน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองยินคำร่ำขาน | ||
เหลียวดูวู่โกรธพิโรธดาล | ดั่งประหารสับเสี่ยงเยี่ยงกัน | ||
นี่เมียหม่อมฤาใครที่ไหนมา | จึ่งลอยหน้าห้ามผัวจนตัวสั่น | ||
เท็จจริงสิ่งรู้สารพัน | ชะช่างกลั่นรูปคารมสมเชลย | ||
แน่ะนางลาวอย่าน้าววาจาคม | ข้ากับเจ้ามันไม่สมกันแม่เอ๋ย | ||
เซซัดหัวพลัดข้าไม่เคย | รู้ว่าเหวยว่าหลงเข้าดงรัก | ||
ก็ตามทีชอบอยู่ประสีประสา | ความเขาว่าการอะไรมาสลัก | ||
มาจ่อไต้ตำตอเข้าต้ำฮัก | ชอบฤาหม่อมไม่ทันทักนางเมียงาม | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
โลม | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนร้องฮาฟังพี่ห้าม | ||
อย่าโมโหโยก่อนจะเล่าความ | ไม่ไต่ถามเลยอะไรมาอึงคะนึง | ||
นางคนนี้ลูกเจ้าเมืองจอมทอง | ปึกแผ่นพวกพ้องก็เกือบขึง | ||
ทำคุณกับบิดาเขาพอพึง | เขาจึงยกลาวทองให้มาเป็นเมีย | ||
พี่พามาหวังจะให้คำนับเจ้า | อะไรเล่าพอจ่อจอดเรือจะเสีย | ||
ยังฟังความเมียข้างบ้านอยู่ปัวเปีย | ไม่ทันเล่าเรื่องเมียใหม่ได้มา | ||
เท่านั้นเถิดน้องพี่อย่าวีวุ่น | รกคนเป็นทุกดีกว่ารกหญ้า | ||
หนึ่งก่อนสองตามลำดับมา | ลาวทองอย่าช้าไว้วันทอง | ||
วันทองเล่าเจ้าหวงหึง | โกรธขึ้งขอเถิดเจ้าทั้งสอง | ||
จงสมัครสมานปรองดอง | มาตรึกตรองเรื่องความมันหยามเรา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
โลม | |||
ร้องเอยร้องว่า | มันไม่น่าแล้วอย่าเลยเจ้า | ||
ชั่วดีช่างข้าเถิดทำเนา | นางเมียเบ่าแล้วฤาน้อยฤาแน | ||
จริงอยู่แต่พอจอดทั้งตอดขบ | ชวนกันเกลื่อนเลื่อนกลบลบแผล | ||
ย่อมว่าผัวเป็นประทัดซื่อสัตย์แท้ | ทีนี้มันแปรเป็นธนูชะดูตรง | ||
ไม่พักพร้องว่าพวกพ้องมั่งคั่ง | ถึงเซซังไม่สูญประยูรหงส์ | ||
ข้าดอกคะมันประดาษชาติเผ่าพงศ์ | จึงได้หลงตามหม่อมสู้เสียตัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โลม | |||
วันเอยวันทอง | ให้ปรองดองเอออะไรไม่ฟังผัว | ||
ก่อนไม่เคยเลยว่ารู้เกรงกลัว | ฤาแกล้งยั่วจะให้โกรธา | ||
เอ็นดูข้าหน่อยเถิดแม่คุณ | ถึงไม่คิดบาปบุญเห็นแก่หน้า | ||
เออยิ่งห้ามฤายิ่งหยามไม่ลดรา | อย่าจัดจ้าไปเลยนักจะหักค้าน | ||
ธรรมดากระเบื้องร้อนจะรานร้าว | มันจะฉาวอึงอายเขาชาวบ้าน | ||
ลุกยืนเผลไผล้ไม่เป็นการ | จะรำคาญสองซ้ำระยำมัว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้อนเร่านั่งเกาหัว | ||
นึกในใจกูจะให้มันสั่นรัว | สบตาผัวทำกลัวชำเลืองแล | ||
ผัวเมินปากขยิบกระซิบด่า | ไว้กิริยาว่าผัวรักขึ้นเคียงแค่ | ||
แอบหลังผัวเล่นตัวระทวยแท้ | ทำปากแบ้ยั่ววันทองค้อนควัก | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ดูเอยดูดู๋ | ยิ่งกว่าใครไม่รู้เลยทำหนัก | ||
สมแล้วหม่อมพร้อมเพรียงจะเคียงพักตร์ | มันค้อนควักอยู่ข้างหวังนั่งด่า | ||
รู้ฤาไม่แอบกระซิบพิไรบ่น | หม่อมเคยทนอย่าให้ล่วงมาถึงข้า | ||
ว่าให้เมียไหว้แต่วาจา | มันเล่นหน้าเล่นตัวรู้กลัวใคร | ||
ชกศีรษะแล้วจะให้มาลูบหลัง | พี่น้องเอยใครชั่งจะอดได้ | ||
ไม่หย่อนหยุดกระซิบว่าฤาด่าใคร | เป็นอะไรก็เป็นไปเถิดวันทอง | ||
ถึงจะไหว้กูก็ไม่ปรารถนา | พามาคุมเหงถึงบ้านช่อง | ||
หม่อมขาหม่อมถึงจะไม่เลี้ยงน้อง | ฆ่าเสียเถิดอย่าให้ต้องกินระกำ | ||
ทีนี้อีลาวนุ่งซิ่นจะบินร่อน | หม่อมเตว็ดลงนอนให้เหยียบย่ำ | ||
นิ่งอยู่ไยมิเล่นเต้นรำ | มายืนก้มหน้าคว่ำอยู่ทำไม | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
สุดเอยสุดกลั้น | ลาวทองเคี้ยวฟันหมั่นไส้ | ||
มารยาบีบน้ำตาต่อไป | ข้าเป็นลาวชาวไพรดอกแม่คุณ | ||
ไม่ได้ว่าอะไรหน่อยหนึ่งเลย | อกเอ๋ยเธอเป็นใครจึงเฉียวฉุน | ||
พลอยว่าข้าน้อยคิดจะเอาบุญ | เห็นหม่อมหมุนมุโกรธวุ่นวาย | ||
จะไปรอนฟอนฟันเขาทั้งบ้าน | ใช่การจะพากันฉิบหาย | ||
อย่างอื่นไหนคุณใหญ่ท่านแม่ยาย | รอดตายเพราะใครห้ามไม่ลามปาม | ||
คิดอยู่จะฝากตัวคุณเมียหลวง | มิใช่จะจ้วงล่วงเกินไม่เข็ดขาม | ||
ไม่พอที่เลยจะก่อข้อความ | ไหว้ไม่เอาก็ตามเถิดเจ้าคะ | ||
ฉันมิได้ถือเนื้อถือตัว | สุดแต่จอมหม่อมผัวไม่เกะกะ | ||
ไม่รู้ว่าจะไขว้ไล่รานระ | เหยียบย่ำผัวเปะปะพันธุ์ไม่เคย | ||
แม้นรู้กระนั้นจะสรรหา | ไม้ขอนสักนองามาแม่เอ๋ย | ||
มากำนัลกันไขว้ให้เสบย | ไม่มีสิ่งใดเลยติดมือมา | ||
เมื่อหม่อมผัวจะพาข้ามานี้ | ไม่บอกว่าเมียมีคุณเจ้าขา | ||
ชอบผิดจงคิดกรุณา | ไม่เมตตาสักคราวลาวชาวดง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ถ้อยเอยถ้อยคำ | ซ่อนเงื่อนเกลื่อนทำให้ผัวหลง | ||
ต้องเสน่ห์ถูกสนัดแล้วมั่นคง | จึงงวยงงงมงายว่ากันดี | ||
ผัวข้าฝ้าขึ้นเห็นฤาไม่ | นวลที่หน้านี้มิใช่ฤาหม่อมพี่ | ||
แต่กลับทัพก็ยับมาเต็มที | น่าบัดสีมันให้กินสิ้นแล้วเคอะ | ||
ให้อีลาวชาวดอนมาร่อนร่า | เชิดชูหน้าราคีเปื้อนเปรอะ | ||
เอียงคว่ำไปแล้วเจ้าจอมเลอะ | เท่านั้นเถอะพอรู้เท่าทัน | ||
เหม่อีลาวปากยาวว่าเมื่อกี้ | แสร้งเสกสีนองาสูงสรร | ||
เมื่อไรเล่าจึงจะเอามากำนัล | กู่จะกลั่นช้างงาไปร่ารับ | ||
โฉมนางวางมาแต่จอมทอง | กว้างขวางพวกพ้องให้ขึ้นขับ | ||
คดคมคารมเชลยทัพ | รู้แล้วเจ้าเขานับว่าใจบุญ | ||
ถ้าไม่ห้ามผัวไหนจะหยุดโย | จะเที่ยวพาโลแกว่งหอกออกวุ่น | ||
ไล่แยงแทงทิ่มจิ้มเป็นจุณ | นี่ไม่หมุนไปได้เงือดงด | ||
มารดาจึงได้รอดวอดวาย | เพราะนางลาวระงับพลายหายหด | ||
ชนะผัวผัวกลัวจึ่งละลด | เคยข่มกดกันมาถูกท่าทาง | ||
ดีจริงยิ่งหญิงในแผ่นภพ | จะเชิดชื่อลือจบว่าคู่สร้าง | ||
หม่อมผัวกอดไว้อย่าได้วาง | มันยอดนางใต้หล้าไม่มีใคร | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | ได้ยินคุณภรรยาฤาหาไม่ | ||
ยืนลืมตากะปริบพริบอยู่ไย | ทนไม่ได้แล้วคะไม่ละกัน | ||
เอออะไรกระนี้ท่านผู้หญิง | ขยันยิ่งสั่นรัวตัวสั่น | ||
เห็นอดอ่อนยิ่งรอนศีรษะชัน | ปากคันคอยอยู่กี่เวลา | ||
พอผัวถึงกระทั่งปึ่งตะบึงบอน | ข้าฉะอ้อนบรรยายขายน้ำหน้า | ||
ทำเคละคละปะเปอะเปรอะรา | ไว้คอยท่าท่านผัวไม่มีอาย | ||
ชอบแต่ล้างบ้านเรือนหายเปื้อนก่อน | จึงขอดค่อนคนอื่นนางตื่นม่าย | ||
ผัวไปทัพไม่ทันกลับรู้ข่าวตาย | ช่างเชื่อง่ายปักเลนโอนเอนรัว | ||
กลับว่าข้อนี้นี่กว้างขวาง | จริงคะเลี้ยงช้างไว้ท่าผัว | ||
ช้างคนช้างพลายมากหลายตัว | จึ่งรื้อเรือนทลายรั้วแคบไม่พอ | ||
ขอบใจพี่จะให้ไปรับข้า | สุดปัญญาที่จะขี่ไม่มีขอ | ||
อย่าให้ไปเลยเอาไว้กันตอ | เตาหม้อทอถอนไม่สิ้นปักดินลึก | ||
ต้องเสนียดถูกสนัดกลัดมัน | ดีฉันจึงทำเสน่ห์มากลางศึก | ||
ป่วยไข้ไผ่ผอมแต่ลำนึก | จริงอยู่คะยิ่งกว่าหมึกเขม่ามอม | ||
จะขยำน้ำแช่ก็ไม่หาย | ถึงส่ายน้ำดอกไม้ก็ไม่หอม | ||
สบู่ฟอกปอกเปื้อนเปรอะปอม | อย่าพักย้อมเลยยังมัวกลั้วมลทิน | ||
ชามแตกบัดกรีไม่สนิท | ต่อไม่ติดแล้วแผลไม่อยากสิ้น | ||
ซ้ำว่าข้าเอาสิ่งชั่วให้ผัวกิน | ยังแต่จะบินขี้คร้านตบมือ | ||
หมอทายว่าเคราะห์ร้ายไม่ยั้งหยุด | เสาร์อุจลัคน์จมไม่รู้ฤา | ||
ทั้งสุพรรณมันสนั่นออกระบือ | อย่าพักอื้อมันไม่กลบลบรอย | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
แค้นเอยแค้นนัก | อีผัวรักน้อยฤาไม่ราถอย | ||
เข้าแฝงหลังเมียงเคียงตะบอย | คารมราวกับทองย้อยเจียวขันคู | ||
ดีแล้วจะได้เห็นฝีมือกัน | เรียกสายทองอี่จันอี่ปอยหนู | ||
นิ่งไยลงมาหวามาช่วยกู | ตบให้รู้จักสำเหนียกมันฮึกดี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สายทองพี่เลี้ยงกับทาสี | ||
อยู่บนตะพานเตรียมคอยที | ก็โจนลงนาวีพร้อมกัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
สายเอยสายทอง | ชอบแต่ห้ามปรามน้องผ่อนผัน | ||
ไยจึงพากันเป็นบ้าดุดัน | นี่สำคัญอย่างไรจึงวุ่นวาย | ||
ว่าพลางกั้นกางขวางหน้า | ร้องอย่าอย่าทำมันไม่ได้ | ||
เหลืออดกูไม่ลดทั้งบ่าวนาย | มิเกือบตายอย่าประมาทฝีมือกู | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ไม่เอยไม่ฟัง | ปลอบก็ช่างห้ามก็ช่างอย่าพักขู่ | ||
เอาวาก็รากันวิ่งพรู | บ่าวนายจู่ลู่ไล่ลาวทอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
กล้าเอยกล้าดี | จะสู้ตายที่นี่ลงเป็นสอง | ||
กอดผัวไว้ไม่วางทางร้อง | ข่มเหงน้องจริงจริงพ่อคุณ | ||
คนเดียวช่วยกันเป็นสามสี่ | ราวกับฝูงยักขินีเจียวนี่วุ่น | ||
ทำอะไรก็ทำเถิดตามบุญ | โทโสหมุนกึกกักหักฮึก | ||
แม้นทำข้าไม่ได้ก็ใช่คน | ใจพรั่นปากบ่นเก่งกึก | ||
เนื้อเต้นเอ็นขึ้นคารมคึก | ครั้งนี้แลจะทำศึกกับนางยักษ์ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงสาววันพรั่นหนัก | ||
พี่เลี้ยงคอยเคียงใจทึกทัก | เข้ามาใกล้หมายจะผลักให้ตกน้ำ | ||
ถึงสี่เราสามก็ไม่กลัว | คาดเรี่ยวแรงตัวเห็นพอปล้ำ | ||
ผิดนักย่อยยับเยินระยำ | สิ้นบุญสิ้นกรรมกันวันนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ศัพท์ไทย | |||
อีเอยอีลาวทอง | อย่าพักจองหองเสียดสี | ||
มึงท้ากูดี | ดีให้หนำใจ | ||
สายทองพี่เลี้ยง | ก้าวเฉียงเลี่ยงไล่ | ||
สองข้างวิ่งไขว่ | ที่ในนาวา | ||
กลัวคุณผู้ชาย | ตายแล้วขี้ข้า | ||
คุณนายโกรธา | พะว้าพะวัง | ||
ช่วยกันพรึบพร้อม | ล้อมหน้าล้อมหลัง | ||
ห้ามผัวไม่ฟัง | ตึงตังโลดโจน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
รื้อ | |||
พิมเอยพิมพี่ | ทำไมนี่จะมาเต้นเป็นเล่นโขน | ||
กั้นไว้ไล่โดน | เผ่นโผนดึงดัน | ||
ดูเอาเถิดฤา | เท้ามือเหลือคัน | ||
พลัดไปข้างนั้น | กลับหันเวียนวง | ||
เรือเกลือกเสือกพลาด | อีทาสล้มลง | ||
ขุนแผนถีบส่ง | จมพงชายเฟือย | ||
พี่เลี้ยงลาวทอง | ปัดป้องจนเหนื่อย | ||
ผ้าพลิ้วปลิวเปลือย | มึนเมื่อยทุบตี | ||
นางไทยไล่ตบ | ลาวหลบหลีกหนี | ||
ว่องไวเต็มที่ | ต่างดีด้วยกัน | ||
ผัวไล่เปะปะ | ปะทะพัลวัน | ||
ผลักนี่ตีนั่น | ขยันจริงเจียว | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ เชิด | |||
รื้อ | |||
คุณเอยคุณชาย | คุณหญิงแสนร้ายตาเขียว | ||
รุมข้าข้างเดียว | กราดเกรี้ยวโกรธา | ||
ทั้งข้าทั้งไทย | มาไล่ตีด่า | ||
พาลเอาผิดข้า | ต่อหน้าพ่อคุณ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
พ่อเอยพ่อเจ้า | เห็นฤาไม่ใครเล่าก่อวุ่น | ||
อย่าเข้าใครออกใครเถิดเอาบุญ | น้องก็ใช่ชาติสถุลเซซัด | ||
บิดามารดายอยกให้ | ใช่เกิดในกระบอกไม้ได้สลัด | ||
ฉันมิใช่แตกตื่นเชลยพลัด | ไม่เคยพบจ้านจัดเช่นนี้เลย | ||
อยู่บ้านข้าแต่น้อยมาจนใหญ่ | ไม่มีใครได้ข่มเหงกระนี้เหย | ||
จะดื้อด้านไปไม่ได้ด้วยไม่เคย | อกเอ๋ยกรรมกรรมมาจำเมือ | ||
กอดเท้าผัวโอดอ้อนฉะอ้อนไห้ | นี่อะไรจะให้เนื้อมาสู่เสือ | ||
ตายจริงแล้วไม่ทันขึ้นจากเรือ | จะเป็นเหยื่อนางไทยใจยักษ์ | ||
แสร้งทำกำสรดโศกา | มารยาไม่ชั่วเล่นตัวหนัก | ||
พิไรร่ำน้ำเนตรนองพักตร์ | จะลาหม่อมทั้งรักแล้วจำตาย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
วันเอยวันทอง | เอออะไรจองหองใจหาย | ||
จะพาลคิดหยิบผิดด้วยอุบาย | แยบคายหญิงร้ายแสนกล | ||
พอถึงอ้อนตะบึงตะบอนบอก | ทำย้อนยอกน้อยฤาสับสน | ||
รู้สิ้นแล้วลิ้นลาวน | สายทองมึงก็คนร่วมคิด | ||
จะป้องปิดมิดควันกระนั้นฤา | จะอึงอื้อฉอเลาะลบกลบเอาผิด | ||
ไม่ทันรู้เลยเจ้าเหล่างูพิษ | เชื่อสนิทคิดจะตอดไม่รอดตัว | ||
แหมแม้นี่แน่นางคนดี | เขี้ยวมีขนได้ทั้งก้นหัว | ||
ปลอบโดยดีไม่มีความเกรงกลัว | แกล้งเย้ายั่วผัวให้หมางใจ | ||
กูรู้เท่ามึงแล้วพิมเอ๋ย | จะให้เลยตามเลยหาผัวใหม่ | ||
ลงมาค้อนตีปลาหน้าไซ | ไม่ให้ขึ้นไปฤาที่บนเรือน | ||
จักพบอ้ายขุนช้างมากางกั้น | เออกระนั้นแล้วซีอีคนเปื้อน | ||
ชอบชู้แล้วมิหนำทำบิดเบือน | ชั่วกระไรหนอช่างเหมือนกากี | ||
ตายเสียเถิดจะอยู่ดูหน้าใคร | เลี้ยงเจ้าไม่ได้แล้วบัดสี | ||
พระสมุทรเจ้าเอยลึกเต็มที่ | ก็ไม่เหมือนนางนี้เลยลึกซึ้ง | ||
กว้างขวางปากอ่าวแล่นล่องเสียด | ก้าวกระเดียดสุดดิ่งจะทิ้งถึง | ||
จะฝ่าคลื่นฝืนละลอกข้ามตะบึง | กูกลัวลมเพชรหึงจะรุมร้อน | ||
โบราณว่าได้คิดไม่ผิดดอก | แต่ด้ามหอกไม่ทันพ้นรั้วก่อน | ||
หญิงชั่วน้ำกลั้วใบตองบอน | จะราร่อนคบชู้มาสู่เชย | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
หนักเอยหนักหนา | อีลาวฉะอ้อนเป็นบ้าไปแล้วเหวย | ||
พล่ามน้ำลายตะกายเปล่าเดาเลย | อกเอ๋ยไม่ชั่วเป็นตัวเป็น | ||
เจ้าลิ้นทองหกหันผูกพันพัว | ปั้นน้ำเป็นตัวใครบอกเห็น | ||
ยิ่งแค้นหนักแสนสาน้ำตากระเด็น | ว่ากันเล่นเปล่าเปล่าเจียวเจ้าพลาย | ||
รู้แล้วว่าสางจะร้างที่ | ก็บอกแต่โดยดีจะหนีหน่าย | ||
เจ้าเศษราชสีห์ทำตะกาย | จะกัดหินให้ทลายถ้ำพัง | ||
แม้นพ้นมือวันทองไปไม่ช้า | หม่อมข้าจะเชิดหน้าเป็นพระงั่ง | ||
จะเป็นเอี่ยวพญาโด่งดัง | เพราะอีลาวเซซังมันชุบเลี้ยง | ||
สมน้ำหน้าหม่อมผัวหัวแดง | นางกระเหว่าระดูแล้วจะส่งเสียง | ||
วาสนาข้าสิ้นแล้วไม่ควรเคียง | เท่านั้นเถิดข้าไม่เถียงแล้วตามที | ||
จึงว่าแก่สายทองจองจ้าน | ล้างตะพานบ้านเรือนเอาตีนสี | ||
ได้ตรวจน้ำคว่ำกะลากันวันนี้ | อันจะกลับคืนดีอย่าสงกา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ศัพท์ไทย | |||
น้อยเอยน้อยฤา | กล้าปากกล้ามือสิเอาสิหวา | ||
ชักดาบแกว่งมา | เงื้อง่าจะฟัน | ||
ลาวทองทำกลัว | ห้ามผัวตัวสั่น | ||
เข้าขวางกางกั้น | ตัวขยันซ่อนกล | ||
ในใจไม่ละ | เอานะแยบยล | ||
ทำดีทีชน | สายสนวิงวอน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
พ่อเอยพ่อคุณ | อดใจได้บุญจงงดก่อน | ||
สุภาษิตพะพาลอย่างราญรอน | สุนัขร้ายเห่าหอนจำหนีตัว | ||
สิ่งชั่วเหลวไหลอย่าไล่ราน | จะกระเด็นเซ็นซ่านระคายกลั้ว | ||
จะพลอยเปรอะเลอะละมอมตัว | น้องจะเป็นคนชั่วยุยง | ||
ถึงเธอด่าว่าไม่ถือเธอ | ด้วยเป็นคนมะเมอลุ่มหลง | ||
ถือว่าเป็นเมียเดิมเหิมทะนง | ไม่คิดเลยว่าหงส์หลงลงเลน | ||
ชิงดาบที่มือมาใส่ฝัก | เอ็นดูอย่ารั้งหยักถกเขมร | ||
เข้ายื้อแย่งเปลื้องสดปลดกระเบน | อย่าให้น้องมีเวรเวราไป | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ได้เอยได้ฟัง | วันทองไม่ยั้งอดได้ | ||
ยิ่งกว่าโกร่งโพลงพลุ่งดังเปลวไฟ | ร้อนกลุ้มสุมไหม้อุระรุม | ||
ร้องว่าอีเกรงเวรบำบัดบาป | มึงซ่อนหยาบมิให้ใครเข้าหลุม | ||
ชิงผัวเขาไปได้ไว้กำกุม | รอดนรกหลายขุมแล้วอีลาว | ||
ผัวมึงจะได้พลอยขึ้นสวรรค์ | เหาะด้วยกันเถิดเชิดฉิ่งฉาว | ||
กูจะคอยชมบุญมึงสักคราว | ผัวอีลาวเจ้าจะเลี้ยงเป็นออกญา | ||
ได้ความชอบตีเมืองเชียงทองถวาย | ได้ย่ายายมาประดังพรั่งหน้า | ||
คิดบ้างเป็นไรแต่หลังมา | ชอบมิดปิดตาเสียแรงเรา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
วาเอยวาจา | หยาบช้าน้อยฤาฟังดูเจ้า | ||
อย่าห้ามเลยตามทีเถิดทำเนา | มันแกล้งเย้าเขี่ยฝอยให้ไฟฮือ | ||
ชิงดาบมาไม่ได้จากลาวทอง | ฉวยได้ไม้ตีฆ้องขว้างดังหวือ | ||
วันทองหลบล้อล่อตบมือ | ไล่ตีกันอึงอื้อพัลวัน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
หวาดเอยหวาดจิต | ร้องกรีดวิ่งหนีตัวสั่น | ||
กับสายทองโดดขึ้นจากเรือพลัน | กระทืบตะพานลั่นสนั่นไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลง | |||
มาเอยมาถึง | ขึ้นเรือนรำพึงถอนใจใหญ่ | ||
ทุ่มทอดตัวนอนเร่งร้อนใจ | ฉุกคิดขึ้นได้สิได้เกิน | ||
โทโสเจ้ากรรมทำแค้นเข็ญ | ไม่ควรเป็นฤาเป็นจึงค้างเขิน | ||
ผัวมาดีใจไปเชื้อเชิญ | กรรมเผอิญทำให้ตัดรอน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
โอ้พ่อพลายแก้วของเมียเอ๋ย | ใครเลยจะช่วยห้ามไว้ก่อน | ||
ให้งดโกรธขอโทษวิงวอน | โอดอ่อนรำพันร่ำไร | ||
วันทองเอ๋ยทำชั่วผัวได้ห้าม | วู่วามไม่ลดอดได้ | ||
จนเธอเคลือบแคลงแหนงใจ | สิ่งดีทำไว้ไพล่พลิกแพลง | ||
ไม่ชั่วก็ชั่วแล้วครั้งนี้ | เหมือนจันทรอับศรีสิ้นแสง | ||
วลาหกตกสิ้นระดูแล้ง | นับวันแต่จะแห้งร้อนแรงรุม | ||
ผลไม้เคยงอกใบระบัดช่อ | ผลิผลเน่าฝ่อจะหล่นสุม | ||
สกุณชาติจตุบาทร้องประชุม | จะแย่งเหยียบจิกกลุ้มระยำเยิน | ||
แสนซื่อสุจริตไว้ท่าผัว | มิได้ปนระคนชั่วระหกระเหิน | ||
หมอทายทัดไม่ประหยัดระมัดเกิน | เพราะเผอิญใจเร็วไม่รั้งรา | ||
ถึงผัวรักก็คงเป็นเมียน้อย | ค่อยค่อยช้าช้าจะดีกว่า | ||
เหยียบเต่าให้เต็มบาทา | คั้นลูกสกุณาไว้ในมือ | ||
มิวันนี้วันโน้นจะโดนปะ | คงมีวันพระไปไหนฤา | ||
ด่านได้ทำใจฮึดฮือ | อึงอื้อรีบโกรธจะโทษใคร | ||
อึดอัดตัดรอนกันเสร็จสิ้น | จนให้มันชิงบินเอาไปได้ | ||
อกเอ๋ยจะคิดฉันใด | จนใจโอ้ไห้พิไรครวญ | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
แค้นเอยแค้นจิต | สุดคิดฟูมฟองนองกำสรวล | ||
เป็นสตรีสามีร้างเรรวน | ชายจะลวนหยามย่ำระกำเยา | ||
แล้วขุนช้างจ่อร่อรออยู่นี่ | จะได้ทีมันแล้วทีนี้เจ้า | ||
ท่านแม่ก็โลภมิใช่เบา | จะสมคะเนเต้นเรายงยุ | ||
เมื่อรูปทรงไม่น่าเสน่หา | ราวหนึ่งว่ากากเก้อมะเมอดุ | ||
กิริยาหยาบคายมุทะลุ | หัวหูดังสุลูกตาลยี | ||
สุ้มเสียงคลื่นไส้น่าอาเจียน | ผัวงามจะเปลี่ยนอ้ายผัวผี | ||
พิมเอ๋ยจนใจแล้วเต็มที | ตายเสียเถิดเห็นดีกว่าเป็นคน | ||
จะดูหน้าใครได้ย่านสุพรรณ | แต่เขาแลตากันแสยงขน | ||
สุดที่จะดื้อด้านทานทน | ผัวสองเปลี่ยนปนยังลืมตา | ||
จะซ่อนปิดมิดมุดไว้ที่ไหน | ปะเข้าเมื่อไรเหมือนแก้ผ้า | ||
จะได้แต่ความอายอิดระอา | โอ้ว่าพ่อพลายของเมีย | ||
แต่ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงน้อง | เกินน้อยมิได้พร้องสู้นิ่งเสีย | ||
ไม่ว่างสมชมเคล้าเย้าหยอกเยีย | หนักเบาไกล่เกลี่ยอดลด | ||
ครั้งนี้พิมผิดจริงจริงพ่อ | หม่อมก็รออยู่เหลือที่จะอด | ||
น้องก็ไม่นอกในน้ำใจคด | เพราะกฎกรรมซ้ำระยำแล้ว | ||
ทำไฉนผีสาวเทวดา | เชิญช่วยไปลาหม่อมพลายแก้ว | ||
จะจำตายห้อยห่วงด้วยบ่วงแร้ว | มาเผาเถิดจะแพ้วอสภคอย | ||
สุดสิ้นชีวิตแลจะเห็น | ดีร้ายตัวเป็นชั่วถ่อย | ||
ชาติโน้นอย่าขอพบกลบรอย | อ้ายขุนช้างแต่ชื่อหน่อยอย่าได้ยิน | ||
จะขอคอยพบแต่หม่อมพลายแก้ว | แสนเสน่ห์สุดแล้วไม่สูญสิ้น | ||
กว่าจะล่มแผ่นฟ้าแดนดิน | เทพเจ้าอมรินทร์เป็นพยาน | ||
แค้นคิดพยาบาทลาวทอง | ถึงตายแล้วคงจะปองมาประหาร | ||
หักคอให้ม้วยวายปราณ | โมหะดาลเดือดใจมันไส้พุง | ||
แล้วชักผ้ามาตะบิดผูกคอ | ไม่ย่อท้อถอยหลังเหมือนอย่างกุ้ง | ||
รวบรัดกระหวัดเข้ากับราวมุ้ง | กระโดดผลุงลงไปจะให้ตาย | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ | |||
เชิดฉิ่ง | |||
พลัดตกจากเตียงเสียงต้ำตึง | เงื่อนหลุดลุกทะลึ่งคะมำหงาย | ||
ผีตายโหงเข้าซ้ำประจำกาย | แทบจะตายวายวอดมอดม้วย | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ลาวทองวิ่งถลาเข้ามาช่วย | ||
เห็นวันทองหอบหายใจรวย | นั่งระทวยร้องบอกกันออกอึง | ||
บ่าวไพร่ตกใจไขว่นักหนา | วางวิ่งวุ่นมาโดนฝาผึง | ||
ตกล่องล้มปะทะกันดังตึง | ใครถึงขยำขยับจับเทพจร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ศรีประจันนอนสายไม่ตื่นก่อน | ||
เสียงอึงทะลึ่งมาถอดกลอน | มัวนอนหัวหกตกกระได | ||
เมื่อยมึนขัดขาหน้าตะโพก | ยืนโขยกขืนเขย่งไปไม่ได้ | ||
เก่นตะโกนโวยเหวยมันทำไม | ลูกกูเป็นไรเร่งบอกมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนช้างนอนหอรอคอยท่า | ||
กลางคืนรื่นรมย์ชมนึกมา | หลายราตรีตากตาแก้วตาแพรว | ||
คืนวันจวนรุ่งเคลิ้มหลับใหล | จนตะวันโด่งไกลเขาฉ่าฉาว | ||
ตกใจตื่นไม่รู้เรื่องราว | โดดจากหอพุ่งยาวลงมาดิน | ||
ประจวบคร่อมเท้าศรีประจัน | หกหันกลับหงายพลิกกายผิน | ||
ขอโทษแม่เถิดกลัวผีพลอยกิน | จึงชิงบินข้ามเสียให้สิ้นแคลง | ||
จะลุกต่อไปอีกก็ไม่ได้ | ขัดสะบักยอกไหล่ตัวแข็ง | ||
ทำช่วยนวดศรีประจันฟั้นแรงแรง | แม่ด่าว่าเกินแกงไปแล้ววะ | ||
ขุนช้างว่าฉันตะบันฟั้นหาเส้น | ปะแต่เอ็นกับกระดูกเกะกะ | ||
เส้นจมเสียหมดหดเคะคะ | ขยำกันเปะปะอยู่สองคน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สายทองแยบคายสายสน | ||
แก้วันทองน้องคลายไม่วายชนม์ | วิ่งด้นรีบมาที่ท่าน้ำ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ชุบ | |||
ถึงเอยถึงท่า | มายาแกล้งพิไรร้องร่ำ | ||
จะลงไปในเรือกลัวระยำ | หม่อมพลายจะตีซ้ำหวั่นหวาดใจ | ||
อยู่แต่บนตะพานร้องว่า | ใครอยู่หน้ากัญญาเรียนให้ได้ | ||
ว่าแม่วันทองจะบรรลัย | กลับขึ้นไปบนเรือนผูกคอตาย | ||
อุตลุดพัลวันช่วยกันแก้ | นิ่งแน่นวดฟั้นยังไม่หาย | ||
ไปดูใจน้องน้อยเถิดคุณชาย | จะวอดวายเสียแล้วครั้งนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแว่วสดับตรับถ้วนถี่ | ||
จำเสียงได้สายทองมันตัวดี | เอ๊ะอีนี่มารยาฤาว่าจริง | ||
ยังอาลัยถอนใจรื้อดาลโกรธ | รุมพิโรธตริตรึกนึกนิ่ง | ||
เปลี่ยนใจไปมาหวั่นประวิง | ดีก็มีหลายสิ่งน้ำตาเล็ด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองร้องว่าฉาไม่เข็ด | ||
หม่อมร้องไห้ฤาไรเอามือเช็ด | จะกลับกินบอระเพ็ดฤาคุณชาย | ||
ขมสะเดามะระพอกลืนบ้าง | บอระเพ็ดพุงช้างขมฉิบหาย | ||
หม่อมจะขืนเลี้ยงคนแสนร้าย | ข้อยจะโดดน้ำตายเสียแล้วคะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนพริบไหวไม่ดอกหนะ | ||
ผงเข้าตาระคายเคืองจริงวะ | นี่ขยะอะไรปลิวมา | ||
ชิชะจะโดดน้ำตาย | ไม่วอดวายกลับคืนมาหาข้า | ||
แล้วจึงค่อยทำใหม่ให้เต็มประดา | เมื่อไรเล่าจะท้ากูดำน้ำ | ||
แล้วร้องว่าแน่ะนางสายทอง | หญิงชั่วกูไม่ปองอย่าพักร่ำ | ||
ช่างใครตามบุญตามกรรม | มันตัดรอนตรวจน้ำคว่ำกะลา | ||
มาบอกกูไยอีคนพล่อย | น้อยฤาเมื่อตะกี้ไยมิว่า | ||
แต่เดิมเสริมส่งกันลงมา | ฝูงอีกาดำปลอดตลอดใจ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าแล้ว | พลายแก้วจึงสั่งบ่าวไพร่ | ||
ผูกช้างมาเร็วเร็วกูจะไป | บ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | นายหมวดบ่าวไพร่อึงมี่ | ||
ผูกช้างม้าวุ่นวิ่งเป็นสิงคลี | ของดีดีบรรทุกสัปคับ | ||
ที่คอนหาบใส่หาบจัดยุ่ง | ไถ้ถุงคาดเอวเสร็จสรรพ | ||
เตือนกันว่าอย่าให้อะไรยับ | ได้มาแต่ทัพฝากภรรยา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแสร้งชื่นฝืนหรรษา | ||
ชวนลาวทองให้เสพโภชนา | แล้วชำระกายาเยือกเย็นใจ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ชมตลาด | |||
ขุนแผนนุ่งยกทองเจ็ดสี | พื้นเขียวอย่างดีระกำไหม | ||
ลาวทองนุ่งหิ่งห้อยชมไพร | แต่งตัวอย่างไทยวิไลวรรณ | ||
ขุนแผนรัดรัดประคดหนามขนุน | คาดเข็มขัดลายดุนดวงกุดั่น | ||
ลาวทองใส่เสื้อหงอนไก่งามครัน | ขลิบคั่นสีฟ้าดวงพุดตาน | ||
ขุนแผนใส่เสื้อเข้มขาบอย่างดี | พื้นแดงเกล็ดถี่เกี้ยวส่าน | ||
ดิ่งตะกรุดประคำทองของประทาน | ใส่อวดชาวบ้านโพกขลิบครุย | ||
ลาวทองห่มแพรสีน้ำเงินเพลาะ | ดวงเหมาะหลินปากเถาดูพราวฉุย | ||
มุ่นมวยห้อยพวงดอกไม้กรุย | ปักปิ่นกันลุ่ยเรือนรังแตน | ||
ช้องหูลานคำสำหรับใส่ | สอดกำไลเกลียวสุวรรณพันปลายแขน | ||
มิเสียทีพามาแต่ต่างแดน | เมขลาก็จะแม้นละกลกัน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ครั้นแล้วขึ้นจากนาวี | จะมาขึ้นกิริณีขมีขมัน | ||
พี่เลี้ยงสาวเวียงสาววัน | ก็ผายผันตามมาทั้งสองคน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เสมอ | |||
ครั้นเอยครั้นถึง | ริมบึงนอกรั้วแนวถนน | ||
ที่ประชุมช้างม้าไพร่พล | ต่อถนนหลังบ้านจะผ่านไป | ||
ขุนแผนลาวทองร่วมช้างกัน | สาวเวียงสาววันจัดช้างให้ | ||
พังละว้าได้มาแต่อุไทย | สั่งคนขี่ขับให้ทันช้างกู | ||
ยืนช้างจัดแจงหาบคอน | ตรงกับเรือนที่นอนวันทองอยู่ | ||
ถอนใจอาลัยเหลียวแลดู | สายทองบอกจัดใคร่รู้ว่าจริงเท็จ | ||
คิดในใจใคร่ให้ไปไถ่ถาม | หักใจตามแต่ถนัดมันตัดเสร็จ | ||
ชลนัยน์ไม่ฟังหลั่งไหลเล็ด | ลอบเช็ดมิให้เห็นอายลาวทอง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | วันทองกำสรดอยู่ในห้อง | ||
ผูกคอตายไม่วายดังใจปอง | บ่าวไพร่พวกพ้องแก้ไว้ฟื้น | ||
ยิ่งระบมระทมทุกข์แสนทวี | ทั้งเจ็บอายสุดที่จะฝ่าฝืน | ||
ตัวกูไม่อยู่แล้วให้ยาวยืน | ตริพลางทางสะอื้นโศกา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
บัดนั้น | สายทองขึ้นมาแต่ตีนท่า | ||
ร้องไห้ฟูมฟายน้ำตา | ตรงมาสู่ห้องวันทอง | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
ชุบ | |||
มาเอยมาถึง | วางตะบึงเข้าไปในห้อง | ||
สวมกอดพิมเข้าเร่าร้อง | กรรมของน้องจริงจริงยิ่งรัญจวน | ||
เล่าความที่ลงไปหาคุณชาย | บรรยายให้ฟังถี่ถ้วน | ||
ดังหนึ่งล่องน้ำเชี่ยวไม่เหลียวหวน | สั่งกันด่วนรีบรัดจัดจะไป | ||
ผูกช้างม้าหาบคอนผ่อนบรรทุก | เกษมสุขเห็นหาเอื้อเฟื้อไม่ | ||
เหมือนเด็ดก้านบุษมาลย์ไม่ไว้ใย | จะไปบ้านเขาชนไก่ประเดี๋ยวนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
สายเอยสายทอง | เคราะห์น้องเป็นได้ไม่พอที่ | ||
อัดอั้นตันใจไม่สมประดี | สองนารีร่ำไห้ไปมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
สร่างเอยสร่างไห้ | เสียงอะไรนอกบ้านอึงนักหนา | ||
เสียงคนเสียงช้างเสียงม้า | แว่วผวาสำเนียงเสียงหม่อมพลาย | ||
ดำรงยืนเยี่ยมหน้าต่างแลดู | สำคัญรู้ผัวจะไปใจหาย | ||
พ่อทิ้งเมียได้ให้จำตาย | นึกเสียดายตะลึงแลชะแง้งง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ทยอย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเหลือบเห็นยังพิศวง | ||
รอรักเมียเสียดายรูปทรง | อาลัยหลงทักแน่แอ้เจ้าพิม | ||
พิมเอ๋ยยังงามนักหนา | อื่นได้เห็นมาไม่ปานปิ้ม | ||
เคลิ้มทำแยบคายพรายพริ้ม | แย้มยิ้มให้คิดขวยใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองสรวลร่าว่ามันไส้ | ||
ได้ยินบ้างฤาไม่ใครว่าไว้ | ว่าไม่อาลัยตัดรอน | ||
ปากใจหนอไม่เหมือนกัน | ผีจึงแสร้งแหล่งสำคัญให้สังหรณ์ | ||
ไม่รู้ว่าชาวใต้ใฝ่สาระวอน | แม้นรู้แล้วชาวดอนไม่มาเลย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ปีนตลิ่ง | |||
ได้เอยได้ยิน | ใครนินทาข้าต่อหน้าเหวย | ||
จริงฤาหยอกบอกมาอย่าเยาะเย้ย | มือข้าเคยหยิกปากคนคารม | ||
เราก็เชื่อรูปเราว่าเพราพริ้ง | ปะแม่หญิงคงจะตามมาสู่สม | ||
จับคางสั่นนี่ใครเราได้ชม | กูบจะล้มนะต้องตีอย่าหนีมือ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
อย่าเอยอย่าว่า | ขอไปทีเถอะขาหาไม่ฤา | ||
เชื่อดีรูปงามเลื่องลือ | เมียจึงอื้ออยู่ข้างบ้านแต่งงานการ | ||
หม่อมตัวงามทรงเมียจงรัก | จึงไปสมัครหาอื่นมาสมาน | ||
ชมกันเถิดเมียเยี่ยมหน้าต่างทะยาน | ช่างไม่อายชาวบ้านเลยคุณชาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนกลบเกลื่อนเสียให้หาย | ||
เท่านั้นเถิดอย่าว่าวุ่นวาย | มันสายแดดจะร้อนอ่อนแรงคน | ||
ว่าพลางทางให้เดินผ่อน | ไปก่อนไปหลังอย่าสับสน | ||
แล้วขับช้างไคลคลามากลางพล | จรดลออกทุ่งตัดตรงไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ กราวนอก | |||
โทน | |||
พังเอยพังอาจ | แสนฉลาดหลังดีไม่มีไหน | ||
บัดย่างคลาดคล่องว่องไว | ขับใหญ่สะเทินดีมีฝีท้าว | ||
กิริยาไว้หน้าปรบหูหาง | วิ่งวางถูกทำนองทุกฝีก้าว | ||
เทริดเสาตัวกลมสมยาว | หางดอกตาขาวกระกลาย | ||
เล็บผ่องไม่แซมเสี้ยนโตนด | เม้มโอษฐ์ขันขบงามขนาย | ||
งามรูปแต่ละอย่างกว่าช้างพลาย | สีกายดำขลับหม่นมัน | ||
พังละว้าตามติดชิดมา | ล้อเล่นเจรจากันขันขัน | ||
ตัดทุ่งมุ่งไม้พุ่มไพรวัน | หยอกกันมาในสัปคับ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ เชิด | |||
เมื่อนั้น | พิมเห็นผัวไปลมจับ | ||
ซบลงกับหน้าต่างคอพับ | จะคืนกลับมาที่นอนเต็มที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ โอด | |||
บัดนั้น | สายทองเข้าประคองนางโฉมศรี | ||
พามาที่นอนผ่อนสมประดี | พูดเอาใจน้องพี่รั้งรอดู | ||
ฉันคาดน้ำใจหม่อมพลายแก้ว | เห็นแล้วคงจะกลับมาอยู่ | ||
ไม่ช้าดอกแม่คงจะได้รู้ | ปลอบกันบ้างทางขู่กันสองคน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนป่วนจิตคิดสับสน | ||
เปลี่ยนใจนึกไขว่อลวน | เหลียวมายลดูบ้านรำคาญครัน | ||
พิศดูเมียใหม่ที่ได้มา | ทรวดทรงขนงหน้าดูคมสัน | ||
ปรนนิบัติอื่นอื่นดีทั้งนั้น | แต่สำคัญทรลักษณ์ด้วยการกิน | ||
อึ่งตะกวดตุ๊ดตู่งูเงี้ยว | ช่างกระไรเลยเคี้ยวกินเสียสิ้น | ||
อาหารหยาบคายเป็นอาจิณ | มลทินรังเกียจเกลียดระอา | ||
พิมเอ๋ยพี่ยังอาลัยอยู่ | การกินรู้สารพัดจัดหา | ||
ไม่เปื้อนเปรอะเหมือนลาวชาวพนา | น้ำมือโอชาอร่อยรส | ||
จะเพราพริ้งก็ไม่ยิ่งหย่อนแก่กัน | สิ่งสำคัญลับลี้ล้วนดีหมด | ||
ไทยงอนลาวอ่อนระทวยทด | กัลเม็ดปรากฏทั้งสองนาง | ||
บูราณว่าอย่าให้มีเมียสอง | ทีนี้ต้องตำราไขว่ใจหมาง | ||
แสนคำนึงรำพึงมาตามทาง | หน้าเผือดเลือดจางพลางถอนใจ | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ลาวทองถามว่าหม่อมเป็นไร | ||
ทำผะอืดจืดจางหมางอันใด | ถอนใจใหญ่คอแห้งกลืนเขฬะ | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผงตอบว่าไม่ดอกหนะ | ||
ช้างคลอนขย่อนโยกโรคปะทะ | ประหนึ่งจะอาเจียนเวียนมึนมัว | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | รู้ท่าแล้วคะเจ้าคุณผัว | ||
จะกลับไปหาเมียไปแต่ตัว | ฉันนี้กลัวมันนักไม่มักเมีย | ||
ส่งเสียจากช้างไว้กลางป่า | จะยอมม้วยมรณาเป็นเหยื่อเสือ | ||
มารยาแสร้งบีบน้ำตาเจือ | บ่นว่าโอ้เนื้อกรรมทำร่ำไร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ โอด | |||
จึงเอยจึงว่า | อะไรนี่มันไม่น่าร้องไห้ | ||
ฟ้าผ่าพี่เถิดให้ผิดไป | ช้าไม่ได้คิดคะนึงถึงวันทอง | ||
ลาวทองน้องข้าอย่าร่ำ | มองดูแล้วทำเอามือป้อง | ||
นี่จริงฤาเล่นลองลอง | เสือสมิงเมียงมองจะกินลาว | ||
เนื้ออื่นมันไม่ปรารถนา | เห็นว่าลาวทองกำเดาะสาว | ||
ชุ่มมันไว้ฉันได้ยืดยาว | ตั้งเต่งเคร่งราวกับเปล่งปลี | ||
ว่าพลางสัพยอกหยอกเย้า | ต้องเต้าใครบอกจะหน่ายหนี | ||
หนูผีขี้แยเต็มที | เอามือจี้ที่แก้มกระแอมล้อ | ||
คนเก้อเอ้อเร้อนี้ดูขัน | ลาวทองเหลือกลั้นก็หัวร่อ | ||
จะสิ้นงามเสียแล้วเจ้ามอลอ | คราบน้ำตาเป็นต่อหม่อมแมวคราว | ||
ร้องไห้ปนสรวลสำรวลร่า | ผัดหน้าเสียใหม่เถิดให้ขาว | ||
ระยะทางที่จะไปยังยืดยาว | ข้าอายแก่ชาวบ้านรำคาญครัน | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ชมดง | |||
ว่าเอยว่าพลาง | ชวนนางให้ชมพนาสัณฑ์ | ||
พิศพรรณมิ่งไม้ในไพรวัน | แจงจันทน์กระเจี้ยงจิกจวง | ||
กาหลงแกแลกาลา | มูกมันโมกลามูกหลวง | ||
พลวงหนูพลวงใหญ่พลับพลวง | มะไฟพวงห้อยระย้าริมทาง | ||
ปริงปรางปริกเปราะปรูปรง | มหาหงส์เหียงหาดเสลาสล้าง | ||
ตะแบกตะบากเต็งรังหูกวาง | ตะเคียงข่อยเค็ดคางทั้งแคแตร | ||
ไข่เน่าขนุนสนุ่นเสนียด | สีเสียดสีสนหวายแล้ | ||
โกงกางตุมกาตุมแก | หว้าแหว้วายเว้ผาวัง | ||
ช้องนางช้างน้าวรอยหัก | สีสุกสักศรีสิทธิแซมมะสัง | ||
กระแตไต่กระทั่งติดตรังตัง | มะตาดต้องต้นสะพรั่งกะตังบาย | ||
กุ่มบกพรมคดตีนเต่า | นกเขาเงากระทิงมหิงส์หาย | ||
แม่ยายปกต้นลูกเขยตาย | กระลำพักผีพ่ายพุงดอ | ||
มะเดื่อดินลำดวนดงราชดัด | กำจัดกำจายจิงจ้อ | ||
ประยงค์แยงแย้ยางยอ | สมีสมอเสม็ดซ้องแมว | ||
เหลาหลกลางลิงลานเสลา | แมลงเม่าหมากมาดแต่งแต้ว | ||
ไผ่ผากโพบายพัดแพว | เกดแก้วพิกุลกรรณิการ์ | ||
ขี้เหล็กเลือดเหมือดคนร้อยคุณ | เข็มยี่สุ่นคางแดงมะค่า | ||
ลักกระจั่นพุงจาบจันทนา | เถาสะบ้าลำบิดขมิ้นเครือ | ||
สนสร้อยสนแกลบสนทะเล | ตีนจระเข้ย่างทรายตาเสือ | ||
ขี้อ้ายหางกรายมะเกลือ | เห็นมะเดื่อสุกดกดาษแดง | ||
ผลมะเดื่องามดังปัทมราช | ข้างในล้วนกิมิชาติบ่อนแสลง | ||
นารีชั่วสุดที่ระวังระแวง | บุราณว่ามิได้แกล้งกล่าวเลย | ||
เสียดายเมียเสียน้ำใจน้ำตาปรอย | รูปงามใจถ่อยนักพิมเอ๋ย | ||
รำพึงพลางมิได้มีความเสบย | ทำเป็นเฉยชมไม้แกนแกน | ||
ฯ ๒๔ คำ ฯ เชิด | |||
ตะวันเอยตะวันเที่ยง | แดดเปรี้ยงร้อนนักเหลือแสน | ||
ถึงบึงหนึ่งใหญ่เป็นแว่นแคว้น | ขอบหนองแน่นสะตือชื้อชิด | ||
น่าสนุกสนานนักหนา | ถามบ่าวบอกว่าน้ำสนิท | ||
ใสเย็นดังว่าสุรามฤต | ลูกกุ้งปลานิดนิดก็เห็นตัว | ||
จึงชวนลาวทองภรรยา | จะหยุดอาบน้ำท่าแก้ปวดหัว | ||
ระงับกายให้สบายหายมึนมัว | ลมตกจึงผัวจะพาไป | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
แล้วปลงช้างม้าหาบคอน | เหนื่อยมาบ้างนอนเดินไขว่ | ||
บ้างหาฟืนจะหุงข้าวสีไฟ | เก็บผักที่กินได้บ้างอาบน้ำ | ||
สบายใจเต้นรำทำเพลง | โฉงเฉงชกต่อยปะเตะปล้ำ | ||
บ้างโจนลงในหนองคะนองดำ | เอาโคลนมอมกันระยำเปื้อนเลอะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อเอยเมื่อนั้น | ขุนแผนชวนลาวทองว่ามาเถอะ | ||
โยนางพี่เลี้ยงยังนั่งเคอะ | เรียกแล้วยังเซอะไม่ใคร่ลุก | ||
เร็วเร็วไปอาบน้ำชำระกาย | ล้างเหงื่อเสียให้สบายจะได้สุข | ||
แรงร้อนจะได้ผ่อนบรรเทาทุกข์ | แลดูหนองฤาสนุกเป็นพ้นใจ | ||
ลาวทองพี่เลี้ยงตามมา | หยิบผ้าอาบพาดบ่าเอามาให้ | ||
ถึงท่าน้ำว่ามาถึงถิ่นไทย | แก้ผ้าอาบมันไม่ได้เหมือนเมืองลาว | ||
ที่เขาไม่เคยเห็นจะชวนกัน | แยกเขี้ยวยิงฟันสนั่นฉาว | ||
จะระบือลือเล่าเป็นเรื่องราว | ว่าหญิงลาวหาวได้ใต้สะดือ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | เสกสรรแสร้งว่าน้อยไปฤา | ||
โกรธาถลาเข้าแย่งยื้อ | ทำฮึดหือจะใคร่หยิกให้ยับเยิน | ||
ยิ่งกว่าเป็นเบื้อไม่มีอาย | คมค้อนเมียงม่ายระคางเขิน | ||
ขุนแผนขออภัยได้ว่าเกิน | ล้อหลอกหยอกเอินกันไปมา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
น้ำเอยน้ำใส | อาบเล่นเย็นใจหรรษา | ||
ขุนแผนลาวทองภรรยา | พี่เลี้ยงเสน่หาสองนารี | ||
สี่คนบันเทิงเริงรื่น | ชุ่มชื่นชำระกายขัดสี | ||
เห็นบัวหลวงเผื่อนขมบรรดามี | ยินดีจะใคร่ได้กลัวน้ำลึก | ||
อ้อนวอนหม่อนผัวช่วยเก็บให้ | ขุนแผนว่าไปไม่ได้กลัวปลาบึก | ||
ลาวทองว่าหม่อมเป็นทหารฮึก | จะทำศึกอย่างไรกลัวเต่าปลา | ||
ขุนแผนว่าในน้ำไม่เห็นตัว | บนบกยังชั่วดีกว่า | ||
ถึงอย่างไรก็ให้เห็นหน้าตา | สู้กันได้หลายท่าด้วยไม้มือ | ||
อย่าประมาทสัตว์น้ำปลาเต่า | ขบสำคัญเข้ามิชวดฤา | ||
จะเอ้อเร้อเก้อเปล่าฮึดฮือ | ก็จะเป็นแต่ชื่อว่าตากุญ | ||
ลาวทองว่าไฮ้อะไรนี่ | ไม่พอที่จะว่าก็ว่าวุ่น | ||
เก็บให้น้องหน่อยเถิดเจ้าคุณ | ถวายพระเอาบุญด้วยกัน | ||
ขุนแผนว่ายแหวกแทรกเก็บบัว | แล้วทำกลัวประดักน้ำทำตัวสั่น | ||
ลาวทองมาช่วยพี่ซีให้ทัน | ปลาบึกมันจะกินพี่เสียแล้ว | ||
ลาวทองพี่เลี้ยงร้องหวีดหวาด | เอาน้ำสาดเป็นไรจึงดิ้นแด่ว | ||
ไหนปลาเล่าเปล่าเปล่าไม่วี่แวว | หม่อมพลายแก้วลวงน้อยให้ตกใจ | ||
ขุนแผนผุดทะลึ่งจึงว่า | นี่หากข้าชิงชกปลาก่อนได้ | ||
ฟันมันหักเขี้ยวหลุดมุดหนีไป | แม้นหาไม่ไหนจะรอดนะจริงจัง | ||
แล้วแหวกว่ายร่ายเก็บสัตตบงก์ | เลือกจงแต่ที่แดงตูมตั้ง | ||
สองดอกส่งให้ไม่รอรั้ง | เหมือนมังสังของใครเติบเต็มมือ | ||
จริงเจ้าลาวทองไม่ว่าเล่น | น่าใคร่เคล้นคลึงคลำขยำถือ | ||
ถูกของข้าแล้วคะอย่าแออือ | ไม่เหมือนจริงฤาจึงค้อนควัก | ||
แน่เจ้าลาวทองน้องพี่ | มาเล่นเรื่องเถิดดีสนุกหนัก | ||
หนองนี้ดีแล้วแก้วเมียรัก | นงลักษณ์สามนางเป็นกินนร | ||
อุณรุทต้องที่พี่จะเป็น | ไล่กันเล่นในน้ำสโมสร | ||
ร้องบทเชิดฉิ่งกลอนละคร | ตั้งท่าเหาะร่อนไล่สามนาง | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ เชิด | |||
คลาเอยคลาไคล | เลี้ยวไล่ยื้อยุดกั้นกาง | ||
ขุนแผนมิได้ขวยระคาง | แข่งเคียงมิได้ห่างราญรุก | ||
น้ำแหวกแตกฟองละอองฉ่า | คลื่นเป็นบ้าเต่าปลาตื่นสนุก | ||
ละลอกแซะแระฝั่งแฉะชุก | อุกคลุกอลหม่านทั้งบึงบัว | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | เป็นบ้าเมื่อไรนี่หม่อมผัว | ||
เล่นอะไรเช่นนี้ไม่รู้ตัว | ยิ่งกว่ามัวลำโพงตระโกรงไป | ||
เอออะไรไม่อายเขาบ้างฤา | คนอื้อแต่ล้วนบ่าวไพร่ | ||
เขาจะหัวเราะในใจ | เล่นด้วยไม่ได้อย่างนี้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เป็นเอยเป็นไร | ชู้เมียของใครเมียของพี่ | ||
พี่เลี้ยงเล่าก็เปล่ากับสามี | การกี้ของใครทำไมเรา | ||
บุราณว่ามีเหล็กก็เหมือนพร้า | ต้องกฎเขาว่าไว้แล้วเจ้า | ||
เพียงนี้ไม่พอจะหนักเบา | อย่าขืนขัดเปล่าเปล่าหน่อยหนึ่งเลย | ||
พลางไล่ไขว่คว้าสองสาวศรี | จับลองใครจะดีกว่ากันเอ๋ย | ||
สาวเวียงวัดปัดป้องทำนองเคย | สาววันเฉยแฉะช้าระกำกุม | ||
เต่งโตเหลวไหลละลาดพาด | สมกับลำมาดเกือบคับตุ่ม | ||
สองนางวิ่งโครมโรมรุม | ตกหลุมในน้ำคะมำเซ | ||
ทำเป็นพิโรธโกรธขึ้ง | เกรงลาวทองจะหึงจึงหันเห | ||
จริงใจนึกใคร่อยู่ลังเล | โดยคะเนให้ทีทั้งสองคน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ลาวทองว่าเอออะไรไขว่สับสน | ||
ทำเช่นนี้สุดที่จะทานทน | สัปดนเล่นเล่ห์จะเทครัว | ||
เหตุว่าฉันมาแต่ผู้หญิงสาม | ลวนลามคุมเหงฤาคุณผัว | ||
ไม่เล่นแล้วลมพานไส้ใจสั่นรัว | แม้นเกิดกลั้วแน่นคอจะขอล้วง | ||
สำรอกรากอาเจียนเสียให้หาย | เป็นตายสิ้นท้องน้องสิ้นห่วง | ||
เล่นกันเถิดตามถนัดไม่ทักท้วง | ทำดังว่าตักบ่วงกันได้มา | ||
ลาวทองขึ้นเสียจากหนองน้ำ | เพ้อพร่ำรำพันบ่นบ้า | ||
ผลัดผ้าเสียพลันผันไคลคลา | สู่ฉายาชมรมร่มไทย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงสาววันรู้อัชฌาสัย | ||
ชวนกันจะตามลาวทองไป | ขุนแผนยุดมือไว้ทั้งสองคน | ||
นางเบี่ยงบิดปลิดแกะไม้มือ | แย่งยื้อชุลมุนวุ่นสับสน | ||
สาวเวียงว่าแต่ไหนมาได้ทน | แต่พอจนถึงบ้านหน่อยเป็นไร | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
จึงเอยจึงว่า | ไม่สมหน้าตาฤาไฉน | ||
นางโรงอุณรุทเมืองไทย | จะเป็นไรเจียวเจ้าลาวกินนร | ||
สองตัวสามตัวมันพัวพัน | ปล่อยกินนรวันไปเสียก่อน | ||
ทรวดทรงระเหิดระเหินเหินชามช้อน | จะบินร่อนไปข้างไหนก็ตามที | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาววันน้อยจิตคิดบัดสี | ||
เสียใจด้วยหม่อมไม่ไยดี | ขวยเขินสะเทินทีค้อนควัก | ||
ไม่ช้าจะได้เห็นกัน | พยาบาทคาดคั้นเดือดอึดอัก | ||
หมายใจจะไปบอกน้องรัก | ยุลาวทองให้อักหลักด้วยโกรธา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ขุนแผนครั้นสาววันไป | ยึดสาวเวียงไว้แล้วจึงว่า | ||
สมจิตคิดแล้วนะแก้วตา | มุ่งมาดมาแต่หน้าเมืองกำแพง | ||
รู้บ้างฤาไม่น้ำใจเรา | นี่แน่เจ้ามิได้เสกสรรแสร้ง | ||
จริงจริงอย่ากริ่งหวั่นระแวง | อย่าพลิกแพลงหนีมือดื้อดึง | ||
จงจิตคิดมาจะปลูกฝัง | ถวิลหวังจนกระทั่งบุญถึง | ||
มากลางทางพยาบาทไม่ขาดคะนึง | กีดเกะกะจึงได้ละเลยมา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าพลาง | สัพยอกหยอกนางทางหรรษา | ||
ไม่คลุกคลีทีถนอมด้วยกรุณา | ฉวยคว้าจับต้องแต่ปลายมือ | ||
พาชมดวงบุษบันเล่น | แทรกเร้นมาให้พ้นคนอยู่อื้อ | ||
เร่ร่ายชายแฝงเข้าดงปรือ | รกชื้อบื้อชักกลัดกอบัว | ||
ได้ท่วงทีที่ในเชิงสังวาส | ก็แอบอิงพิงพาดเข้าเย้ายั่ว | ||
เบี่ยงบ่ายพอให้รู้สึกตัว | เหน็บแนมแกมกลั่วระคนรัก | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | สาวเวียงอกสั่นพรั่นหนัก | ||
คิดใคร่อยู่แต่ใจให้ทึกทัก | ทำพลิกผลักแล้วกล่าววาจา | ||
อะไรจะเลียมเล่นเช่นนี้ | มันไม่ดีหนานายพ่อคุณขา | ||
ฉันนี้ประดาษชาติช้า | เลี้ยงเป็นทาสข้าจึงจะควร | ||
ไม่อาจเอื้อมเลยล่วงให้เกินศักดิ์ | พิศพักตร์อยู่เช้าเย็นเห็นน่าสรวล | ||
ไม่รอดชั่วกลับเขาจะสำรวล | อย่ายียวนหยอกเย้าเลยเอาบุญ | ||
แล้วสาววันคงจะรันไปยงยุ | ลาวทองหล่อนจะดุหันหุน | ||
จะก่อเกิดวิวาทชุลมุน | หม่อมจะรำคาญขุ่นระคายเคือง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
สาวเอยสาวเวียง | อย่างหลีกเลี่ยงข้อนั้นจะปลดเปลื้อง | ||
ข้าห่อหิ้วพามาแต่บ้านเมือง | จะกระด้างกระเดื่องนั้นผิดไป | ||
ลาวทองมิใช่ง่องจะโง่โง่ | จะทำแต่โมโหหาเป็นไม่ | ||
เราขืนแข็งแรงเรี่ยวคงตามใจ | ไว้อัชฌาอาศัยไม่ดุดึง | ||
ทำไมกับนางเลอะเคอะสาววัน | มันไม่ขันที่จะเข้ามาหวงหึง | ||
จะยุยงอย่างไรอย่าพรั่นพรึง | ข้อที่ซึ่งพิศพักตร์อยู่เช้าเย็น | ||
กลัวเสียสรวลถ่อมควรแต่ช่วงใช้ | ยศศักดิ์ทำไม่ได้ไม่ว่าเล่น | ||
สุดแต่ใจต่อใจเอาเป็น | นัยน์ตาเห็นว่าดีไม่หนีตา | ||
หน้านี้ไม่ชั่วอย่ากลัวร้าง | ต้องส่วนนางลักษณะดีนักหนา | ||
ฉะนี้แล้วไม่เพี้ยนผิดตำรา | จะเป็นหม้ายผัวหย่าอย่าพึงคิด | ||
นี่แน่อุแม่เอ๋ยนางพี่นาง | ถึงจะแก่อ่อนอย่าหมางระคางจิต | ||
เหย้าเรือนเฝืองฝาทำมิดชิด | ไม้อ่อนดอกตะบิดผูกมัด | ||
ถึงแก่ก็แต่กับลาวทอง | เรียกพี่นางตามทำนองด้วยปากถนัด | ||
อย่าทำแชห่างแหระแคระคัด | ไผ่ใบขิงจะรึงรัดไม้สองน้อง | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ว่าเอยว่าแล้ว | พ่อพลายแก้วชิดชมประสมสอง | ||
แปลกเปลี่ยนเหียนหันผันประลอง | เคล้าคล่องว่องไวไปมา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ตอน ๒ ตั้งแต่ขุนแผนครวญถึงนางลาวทอง แล้วกลับคิดถึงนางวันทอง จนถึงลักพานางวันทองไปอยู่ป่า
ช้า | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนกำสรวลเศร้าหมอง | ||
ให้ง่วงเหงาถึงเจ้าลาวทอง | เขาร้องฟ้องต้องติดอยู่ในวัง | ||
ไปเป็นชาวสะดึงเวทนา | โอ้อนิจจาการปักมักเจ็บหลัง | ||
เคยเป็นสุขเช้าค่ำแต่ลำพัง | จะต้องนั่งตรากตรำทำสะดึง | ||
เช่นลูกเมียอ้ายอนุเหมือนอย่างนั้น | ผัวมันคิดขบถโทษควรถึง | ||
ป่านนี้น้องของพี่จะรำพึง | เคยหยอกเย้าเคล้าคลึงผัวเมีย | ||
เคราะห์กรรมจำพรากจากไกล | ดั่งเด็ดดวงใจเอาไปเสีย | ||
ร้อนเหมือนได้ตามลามเลีย | เสียเมียเก่าใหม่ทั้งสองคน | ||
ไม่มีความสุขเฝ้าทุกข์ร้อน | ยามนอนโหยไห้ระเหระหน | ||
แต่ฟูมฟองนองคร่ำน้ำสุชล | คิดแต่จนอยู่ด้วยกันกับวันทอง | ||
ยิ่งน้อยจิตคิดแค้นขุนช้าง | มาผ่ากลางวางเข้าเป็นเจ้าของ | ||
เพียงนี้มิหนำยังซ้ำฟ้อง | จนลาวทองต้องติดเป็นคนวัง | ||
อิจฉาริษยาประดาเสีย | มันไม่ให้มีเมียด้วยเขามั่ง | ||
เป็นมิตรคิดร้ายมาหลายครั้ง | เออจะนั่งน้อยหน้ามันว่าไร | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมียเอยเมียเรา | มันชิงเข้ามาเป็นเจ้าผัวได้ | ||
ขี้เกียจเกลียดความยิ่งย่ามไป | ทะนงใจจองหองว่ามีทรัพย์ | ||
มันก่อกรรมจำกูจะแก้แค้น | ทดแทนล้วงไส้ให้ถึงตับ | ||
ลักวันทองพาหนีให้ลี้ลับ | มันจะปรับเอาใครอ้ายเฉโก | ||
ถึงจะติดตามไปก็ไม่พรั่น | จะขับม้าฝ่าฟันให้วิ่งโร่ | ||
ให้มันสามสมใจร้องไห้โฮ | โยโสว่ามีทรัพย์นับกระบุง | ||
จะได้เล่นเห็นกันวันพรุ่งนี้ | เอาสิ้นสมประดีตีอกผลุง | ||
งุ่นง่านดาลเดือดอยู่ในมุ้ง | ไม่หลับเลยจนรุ่งขึ้นแก่ตา | ||
ลุกจากที่นอนถอนใจใหญ่ | ออกไปหน้าต่างล้างหน้า | ||
เปิดประตูลงเรือนรีบคลา | เดินก้าวยาวมาด้วยขัดใจ | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เสมอ | |||
มาเอยมาถึง | เปิดมุ้งปลุกท่านคุณผู้ใหญ่ | ||
เล่าความให้ฟังแต่หลังไป | จะจำไกลอำลาไปสุพรรณ | ||
น้อยจิตคิดแค้นขุนช้างนัก | ลูกรักเหลือที่จะอดกลั้น | ||
มันร้องฟ้องกล่าวโทษโรธทัณฑ์ | เสียแรงเป็นเกลอกันมันคิดคด | ||
ปองผิดคิดร้ายมาหลายหน | เมียลูกสองคนก็จนหมด | ||
ตั้งใจเสียดส่อทรยศ | โป้ปดร่ำไปอ้ายคนเท็จ | ||
ลูกจะลักพาวันทองหนี | ทำให้ถึงที่แก้เผ็ด | ||
ให้มันนั่งก้มหน้าน้ำตาเล็ด | นั่นแหละจึงจะเข็ดฝีมือกัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ทองประศรีห้ามลูกตัวสั่น | ||
แม่ก็แก่กกงกงัน | วันทองมันก็ชั่วแล้วอย่าเลย | ||
เจ็บไข้เจ้าจะได้อยู่รักษา | ฟังคำมารดาเถิดลูกเอ๋ย | ||
เสียได้ใช่ว่าเจ้าไม่เคย | อย่าสืบพันธุ์มันเลยแสนอัปรีย์ | ||
หาเอาใหม่ลูกสาวชาวบางกอก | ที่งามดีมีดอกอย่าจู้จี้ | ||
เจ้านายชุบเลี้ยงถึงเพียงนี้ | ไม่พอที่จะให้เคืองบทมาลย์ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนตอบคำร่ำว่าขาน | ||
มิใช่ลูกไม่ได้ทำราชการ | เป็นทหารเลื่องชื่อลือยศ | ||
ขุนช้างมั่งมีแต่เงินทอง | มันจองหองทำให้ได้อัปยศ | ||
อย่าห้ามลูกเลยแม่ไม่ละลด | จะแก้แค้นแทนทดให้ถึงใจ | ||
มันเอาเมียของลูกไปเป็นเมีย | จะนอนกลิ้งนิ่งเสียกระไรได้ | ||
กราบเท้ามารดาแล้วว่าไป | วันเป็นวันธงชัยฤกษ์ดี | ||
ฉันขอกราบลาคุณแม่ | อย่าครั่นคร้ามว่าจะแพ้แก่อ้ายผี | ||
ช่วยอวยชัยขอให้สวัสดี | คุณแม่อยู่อย่าได้มีโรคา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ทองประศรีอ้อนวอนไม่ผ่อนหา | ||
จนใจอวยชัยให้ลูกยา | อันไพรีบีฑาให้แพ้ฤทธิ์ | ||
เวทมนตร์คาถาวิชาการ | ที่ศึกษาอาจารย์จงประสิทธิ์ | ||
พ่อจะคิดสิ่งใดให้สมคิด | ราชทัณฑ์ความผิดอย่าพะพาน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนผ่องแผ้วเกษมศานต์ | ||
โดยด่วนร้อนใจไปจัดการ | ให้ทันฤกษ์ศุภวารจะได้ไป | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ | |||
มาเอยมาถึง | ปลูกศาลหนึ่งเพียงตาโตใหญ่ | ||
เอาย่ามเครื่องกับดาบขึ้นพาดไว้ | จุดเทียนชัยร่ายเวทองครักษ์ | ||
มหาทมิฬโอมอ่านปลุกอาวุธ | ฟ้าฟื้นฝักหลุกเห็นประจักษ์ | ||
ลงยันต์ปถมังเป็นรูปยักษ์ | ภควัมกระลำพักสำหรับตัว | ||
เสกน้ำมันด้วยขันสัมฤทธิ์น้อย | มะกรูดส้มป่อยสะหัว | ||
บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่หมองมัว | ยกเมฆดีชั่วอ้ายขุนช้าง | ||
อ้ายจัญไรเมฆไขว่วิปริต | แขนขาต่อไม่ติดกันสักอย่าง | ||
รู้ตระหนักประจักษ์ไม่ระคาง | เกลอเกลือจืดจางจะได้ดู | ||
ฯ ๘ คำ ฯ ชมตลาด | |||
ขุนแผนจัดแจงแต่งกาย | ใส่กางเกงริ้วลายมัสรู่ | ||
กำลังวันเรียนไว้ใช้ตามครู | นุ่งปูมเคยคู่ออกชิงชัย | ||
รัดประคดหนามขนุนคาดรัด | เข็มขัดมั่นเหมาะสายไหม | ||
สลัปตุ่นยกเป็นอักษรใน | สรรใส่อาวุธศรีมีศักดา | ||
ลูกสะกดคดเขี้ยวหมูตัน | นอเต่าเขาสำคัญกระต่ายป่า | ||
ซังแซวตายซากกรากยา | โขมดฟ้าฝ่าโหงพราย | ||
พระไสกระเต่นประรางควาน | สรรพว่านร้อยแปดทองถักสาย | ||
คาดเอวเสกซ้ำประจำกาย | อับจนมากมายได้ทดลอง | ||
ใส่เสื้อสีแสดย้อมว่าน | พระอาจารย์ให้ใหม่เมื่อเดือนสิบสอง | ||
แล้วสวมสอดตะกรุดประคำทอง | เครื่องของพระราชท่านบำเหน็จลือ | ||
เมื่อครั้งไปตีเชียงทองได้ | นิ้วชี้ใส่พิรอดเคยนับถือ | ||
ก้อยซ้ายแหวนเพชรที่พึ่งซื้อ | ติดมือชมเล่นสองสามวัน | ||
แล้วโพกผ้าประเจียดพันมงคล | ของท่านวัดสับประดนไม่มีพรั่น | ||
ประจงจับฟ้าฟื้นยืนยัน | ร่ายเวทสำคัญภาวนา | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ ตระ | |||
เดชะคาถามหามนตร์ | โหงพรายกุมารกล่นมากนักหนา | ||
เป็นยักษ์ยัดอัดดึงกันเข้ามา | ขุนแผนแหงนดูฟ้าฤกษ์บน | ||
องศาผ่องแผ้วแจ่มจำรัส | หมอกเมฆมิได้กลัดโพยมหน | ||
ตามเกล็ดนาคาจรดล | หลีกพ้นผีหลวงกาเลไท | ||
แล้วตรงเข้าไปโรงสีหมอก | ถอดขลุมออกแล้วเอาบังเหียนใส่ | ||
กาววาวดาวเงินอร่ามไป | ใบโพธิ๋หน้าก้าไหล่พู่พราย | ||
อานปรุฉลุลายกระหนก | รัดอกคาดมั่นกระสันสาย | ||
เบาะอานพานหน้าพานท้าย | หนังข้างขวาซ้ายลายพื้นแดง | ||
เหยียบโกลนโผนเผ่นขึ้นหลัง | เหนี่ยวรั้งสายถือกระทืบแผง | ||
สีหมอกเผ่นลำพองคะนองแรง | ออกกลางแปลงหน้าบ้านร่านรน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิดฉิ่ง | |||
ม้าเอยม้าหมอก | มีขวัญพาดหอกแซมขน | ||
หูกระหนกยกหน้าย่างยนตร์ | อกใหญ่ทานทนตัวดี | ||
ขับควบพริบไหวไวว่อง | ขี่น้อยย่างย่องอยู่กับที่ | ||
เยื้องเท้าย่อท้ายเตือนตี | แต่เต้นถูกถี่มีพยศ | ||
แท้ไทยเทียมเทศลาประสม | ดังหมึกพรมหม่นมัวมรกต | ||
สันทัดทีทวนเลี้ยวลด | เหี้ยมห้าวทรหดปืนไฟ | ||
ออกสู่สู้ศึกหลายหน | ประจัญประจญรู้ทีหนีไล่ | ||
อัสดรของเราตัวนี้ไซร้ | สองเมียมาเปลี่ยนให้ไม่เอาเลย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขับม้ารีบร้นมาพ้นบ้าน | สั่งกุมารว่าจะไปเร็วเร็วเหวย | ||
ทางตัดลัดป่าพ่อไม่เคย | เจ้ากุมารทองเอ๋ยนำหน้าไป | ||
กุมารทองพาเข้าป่าระหง | ดั้นดงข้ามทุ่งเลียบไศล | ||
ไม่เดินตามทางเกวียนเคยครรไล | บัดเดี๋ยวใจพ้นย่านกาญจน์บุรี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ชมดง | |||
ดงดึกดูพิลึกน่าแสยง | ไม่แจ่มแจ้งเลยชอุ่มอับสี | ||
คลุ่มคลุ้มพุ่มมืดดังราตรี | แต่พื้นเลี่ยนเล่ห์วิถีหนทางทำ | ||
ใช่ทางมนุษย์เคยสัญจร | ทางอมรปู่โป่งโขมดคล่ำ | ||
กู่เพรียกเรียกกระหึมงึมงำ | เยือกอย่างถ้ำเย็นอย่างเถื่อนเปล่าเปลี่ยวจริง | ||
เทศกาลดูสุมาลย์นี้นักหนา | ย้อยระย้าเหลือหลากมากหลายสิ่ง | ||
บ้างหล่นดาษกลาดเห็นดังเททิ้ง | หอมยิ่งตรลบอบเรณู | ||
คิดใคร่เด็ดดมชมเล่น | ป่านี้เป็นกระไรมิรู้อยู่ | ||
กับพังเหยพญาไฟก็พอดู | ไม่นานนักสักครู่ออกปากดง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ ร้องกราว | |||
รีบเอยรีบมา | แคว้นสุพรรณไม่ช้าสมประสงค์ | ||
พันกันดารเลียบละเมาะจำเพาะตรง | ป่าระหงเลี่ยนตะลิบดังทรายโปรย | ||
มิ่งไม้นานาดอกระบัด | พระพายพัดพวงพะยอมหอมโหย | ||
รวยรินกลิ่นสุกรมยมโดย | ที่ร่วงโรยโอ้แม้นเหมือนวันทอง | ||
แสนเสียดายลืมอายไม่รักตัว | คบขุนช้างคนชั่วให้มัวหมอง | ||
ดั่งดอกไม้สิ้นกลิ่นอายละออง | ชะรอยกรรมนำน้องค้ำจุนจูง | ||
คิดรัญจวนครวญให้อาลัยหา | พลางขับม้าเลียบเดินตามเนินสูง | ||
พอลมชายบ่ายเย็นเห็นนกยูง | เป็นฝูงฝูงฟ้อนหางอยู่กลางเตียน | ||
ถวิลถึงสองเมียเสียน้ำใจ | พิศชอุ่มพุ่มไผ่เหมือนไม้เขียน | ||
ที่ไฟป่าไหม้ซอจนตอเกรียน | แลตะโล่งตลอดเลี่ยนเตียนตะลุย | ||
หนามคาหญ้าแพรกพึ่งแตกหน่อ | ระกะกอรวยกรายบ้างตายขุย | ||
ไก่ป่าพาเมียมาเขี่ยคุ้ย | ดินฟุ้งฝุ่นกระจุยกระจัดกระจาย | ||
วันทองเอ๋ยพี่ยังไม่วายรัก | แค้นนักนึกเดือดไม่เหือดหาย | ||
เร่งรีบขับม้าจนตาลาย | กำหนดหมายหนองตะเข้คะเนมา | ||
ห้วยโรงตะพานบ้านกะเหรี่ยง | เฉลียงเลี่ยงลัดออกชายป่า | ||
ไม่หย่อนหยุดรุดตะบึงถึงโรงนา | ยังไม่สนธยาเพลาวัน | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด | |||
หยุดเอยหยุดอยู่ | อีกสักครู่ก็จะดับพระสุริยฉัน | ||
ระยะทางยามเศษอีกเท่านั้น | พอดีกันกับเพลาคนหลับนอน | ||
จึงขยายรัดอกสีหมอก | ถอดบังเหียนออกทิ้งหญ้าป้อน | ||
รวิวันสิ้นสีรวีวร | จัดแจงอัสดรขึ้นขับไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
มาเอยมาถึง | น้อยฤามึงอ้ายขุนช้างทำบ้านใหญ่ | ||
สิงเมียเขาเกษมเปรมปรีดิ์ใจ | เป็นสิทธิฤาไรจะเต้นโกรง | ||
ถือแต่ว่ามั่งมีเงินทอง | ทำทำนองเป็นพระยาอ่าโถง | ||
รั้วทึบทำใหม่ใหม่ไม้โปลง | โรงโกงกล่นเกลื่อนเรือนช้าไทย | ||
บ่าวหนุ่มหนุ่มคะนองร้องพาดควาย | บ้างเมามายลุกขึ้นเล่นเต้นปรบไก่ | ||
บนเรือนนั่งยามตามไฟ | ปั่นฝ้ายกรอไหมไนออกเกรียว | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ขุนช้างเขม่นตาขวาเสียวเสียว | ||
เรียกวันทองเข้าห้องเสียทีเดียว | กอดเกี้ยวหยุกหยิกซิกซี้ | ||
แล้วร้องโอ้โลมชมโฉม | จี้ลองต้องกระโจมจับโน่นนี่ | ||
ทำทีล่อกอดคอรอดูที | หัวเราะรี่ระริกทนหยิกเอา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
จึงเอยจึงว่า | ทุดไม่น่าเลยอะไรกระนี้เล่า | ||
ตะกรามตะกรี้เช่นนี้เด็กขี้เมา | ฉีอ้ายเถ้าหัวงูดูดู๋เป็น | ||
ชกเอาเขกหนึ่งแต่ไม่หนัก | โกรธระคนปนรักประจักษ์เห็น | ||
ข้าไม่สบายมาแต่ตะวันเย็น | วานอย่าเล่นงุ่นง่านรำคาญใจ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | ขุนช้างเสว่าแก้ไข | ||
เป็นไรน้องเจ้าจึงหมองหฤทัย | เล่านิยายเล่นเสียให้คลายทุกข์ | ||
เรื่องหนึ่งยังมียายกับตา | ไปทำนาบนเขากับส้มจุก | ||
แล้วขี้ใส่สำเภาเน่าหนอกพลุก | พวกคนนั่งฟังสนุกเลอะเทอะ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | วันทองร้องเอาอะไรมาว่าเปรอะ | ||
หยาบคายร้ายกาจชาติคนเคอะ | มีแต่หยำเยอะสมทรวดทรง | ||
ขุนช้างว่าอย่าอย่าฮ่าอย่าโกรธ | ขอโทษเถิดหยอกน้องคะนองหลง | ||
หาวนอนหวอดกอดประคองต้องประจง | กระแอมไอหวัดลงจมูกคัด | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแอบฟังดูให้ถนัด | ||
ได้ยินเสียงวิ่งไวเข้าใจชัด | ร่ายมนตร์อัดมหาอุดมุดปิดตา | ||
แล้วกลั้นใจหยิบดินสามก้อนเสก | ลงเลขประจำซ้ำคาถา | ||
ทิ้งด้วยกำลังข้ามหลังคา | คนบนเรือนดังว่าอดนอนนาน | ||
งุยง่วงโงกเหงาเงียบระงับ | ล้มทับหลับแงบไปทั้งบ้าน | ||
ขุนแผนจึงสั่งพรายกุมาร | ให้ดาลใจอย่าให้ไหวติง | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | กุมารทองแรงฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สิง | ||
รับคำทำได้ดังใจจริง | ปิศาจวิ่งเข้าบ้านบันดาลดล | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
คืนเอยคืนนั้น | ขุนช้างวันทองสยองขน | ||
หายใจผ็อยม่อนมิดปิดตากรน | ตั้งท่าง่าชนจับลิงเตียว | ||
ประตูชานตอนลิ่มใส่กลอนไว้ | ผีไขว่ไล่เปิดเสียประเดี๋ยว | ||
แมวหมาซอนซอนพลอนเกรียว | อะไรอร่อยค้นเคี้ยวหกตกตึง | ||
สำรับกับข้าวปูปลา | วางไว้บนม้าหมาค้นถึง | ||
หม้อข้าวหม้อแกงแหลกแตกอึง | บ้างหอนเห่าอึงคะนึงเคี้ยวคำราม | ||
คนทั้งเรือนหลับใหลไม่ไหวติง | ดั่งเขียงขอนท่อนทิ้งเขาเหยียบข้าม | ||
น้ำลายไหลปากอ้าหมาเลียพลาม | กะโล่กระทายถุงย่ามยื้อแย่งกัน | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนชำนาญมนตร์คนขยัน | ||
เอาสีหมอกผูกไว้บันไดพลัน | ให้โหงนั้นอยู่ระวังแล้วล่วงเลย | ||
ถือฟ้าฟื้นกวัดแกว่งองอาจ | ขึ้นบนเรือนน้อยนาดเดินเฉยเฉย | ||
ไม่ระแวงระวังดังหนึ่งเคย | เรียกกุมารทองเอ๋ยตามบิดา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เพลง | |||
ชมตลาด | |||
เดือนเอยเดือนหงาย | นอกชานทำสบายเทียวนักหนา | ||
ต้นไม้ใส่กระถางวางบนม้า | เอนชายหลายท่าป่าทำนอง | ||
มีภูเขาก่อกองด้วยฟองน้ำ | ชะโงกง้ำถ้ำเหวเปลวปล่อง | ||
ไม้พุ่มโกรนเกรียนเขียนเป็นรอง | มีบึงหนองคลองน้ำลำธาร | ||
ทำเป็นดงละเมาะเหมาะหนักหนา | ปั้นกระทิงมหิงสาฝูงช้างสาร | ||
ทั้งอาศรมฤาษีมีเหล่าพราน | สวมหัวล่อไล่ทะยานเข้าแทงเนื้อ | ||
ตุ๊กตาแบกเพนียดต่อนกเขา | เที่ยวซนเข้าในรกตกใจเสือ | ||
ในห้วยหนองคลองน้ำทำเป็นเรือ | น้อยน้อยลอยดูไม่เบื่ออุตส่าห์ทำ | ||
บ้างเทียบเป็นบ้านป่าไร่กะเหรี่ยง | ชมรมเรียงแทรกโพนคล้องช้างคล่ำ | ||
มันทำล่อวันทองแล้วเจ้ากรรม | ปลูกกระจับไหหลำน้อยฤาเจียว | ||
มียี่หุบจำปาแขกไฝ่ฝ้า | จูหลันชาโบตั๋นห่ำเสี้ยว | ||
กุหลาบขาวกุหลายแดงแรงทีเดียว | ปลูกใส่อ่างเขียวดกดอกทราม | ||
บัวก็มีแห้วก็มีอุตส่าห์ปลูก | เปลือกมันใหญ่โตกว่าลูกเท่าตุ่มหาม | ||
ได้ไม้จีนมาแต่ไหนไอ้บ้ากาม | เห็นมันตามประจบปลัดจัน | ||
กรงกินดินสีชมพูก็มีด้วย | เก้าอี้ถ้วยตั้งไว้ด้วยรวยขยัน | ||
อ่างเรียงเลี้ยงปลาฟักพืชพันธุ์ | เดือนแจ้งดังกลางวันเห็นตัวปลา | ||
เอานิ้วมือดีดน้ำลงต้ำจิบ | ว่ายกระดิบกระดิบเข้ามาหา | ||
ทั้งเหลืองแดงด่างดีมีนานา | ปุ่มหลังปุ่มหน้าหมุนน่าดู | ||
ลางตัวปลั้วเปลี้ยดั่งเบี้ยตุ่ม | ตะลุมปุ้มกระดิกหางกระทั่งหู | ||
บ้างแหวกว่ายลอยล่องฟ่องฟู | หน้าเอ็นดูขุดขุ้มเป็นปุ่มโป | ||
เหย้าเรือนเหมือนขุนนางมันช่างทำ | ตรงรางน้ำนั้นวางอ่างเสียโผ | ||
มันได้มาแต่ไหนใบโตโต | โยโสสุงสิงหยิ่งเหลือตัว | ||
ติดกระจกตั้งเก้าอี้ที่บนหอ | ราวกับพ่อมันเป็นเจ้าสัว | ||
วันทองจึ่งปลดปลงหลงเมามัว | จะเที่ยวไปให้ทั่วกลัวจะช้า | ||
แลเห็นนกบ้าระบุ่นโนรี | สารพันจะมีทีเดียวหวา | ||
สัตตวรรณกระตั้วสาลิกา | พูดได้ทักมาว่าเสียงคน | ||
จึงบังคับแก่ฝูงโหงพราย | ให้ทำลายเขาไม้ให้ปี้ป่น | ||
วันทองจะได้หายวายกังวล | สั่งแล้วจรดลไคลคลา | ||
ฯ ๒๘ คำ ฯ เพลง | |||
เข้าเอยเข้าไป | ถึงชายเรือนชั้นในไขว่เที่ยวหา | ||
บ่าวไพร่นอนกลาดดาษดา | มองดูหน้าตาไม่สมประดี | ||
ที่นอนร้ายผ้าผ่อนล่อนหลุด | ถ่มน้ำลายถุยทุดอีบัดสี | ||
ถีบซ้ำก็ไม่ตื่นฟื้นอินทรีย์ | นอนแผ่แบบี้อยู่กลางกั๊ก | ||
ขุนช้างวันทองอยู่ห้องไหน | ทำไมจึงจะรู้แจ้งประจักษ์ | ||
จะดูหน้าวันทองน้องรัก | ขุนช้างมันฟูมฟักมาหลายเดือน | ||
แก้มก้อยมิช้ำระยำฤา | รอยมือจะขยำคลำเสียเปื้อน | ||
คิดคิดดังหนึ่งใคร่ไล่ต่อยเตือน | และเห็นประตูเรือนงับแง | ||
ชวาลาสว่างดังกลางวัน | หมายสำคัญว่าอยู่ที่นี่แน่ | ||
เปิดเยี่ยมชะโงกเห็นลับแล | รีบแร่เข้าไปไม่รอเลย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ ชมโฉม | |||
เห็นนางหนึ่งจ้อยร่อยนอนบนเตียง | กำดัดกำเดาะเนื้อเกลี้ยงเหมาะแม่เอ๋ย | ||
รูปร่างขาวขาวน่าชมเชย | หลับสนิทนี่ใครเหวยนอนแนบเนียน | ||
รุ่นราวสาวแส้แน่สนัด | อุระรัดดังกมุทผุดจากเกษียร | ||
ทั้งขอบคิ้วลำคอพอพึงเพียน | แม้นเขียนเจียนกันกับวันทอง | ||
นี่พี่น้องขุนช้างฤาไฉน | ทรวดทรงอย่างในไม่เศร้าหมอง | ||
แล้วขึ้นนั่งบนเตียงเคียงประคอง | เอามือต้องสไบไม่ให้ครือ | ||
สารพัดครัดเคร่งเปล่งปลั่ง | รีรอขอรั้งเอาเถิดฤา | ||
หันหวนป่วนปั่นคันไม้มือ | จะปลุกขึ้นถามชื่อเกี้ยวลอง | ||
พยักเรียกกุมารทองเข้ามาใกล้ | แก้เครื่องส่งสั่งให้ไปเสียนอกห้อง | ||
เห็นผ้าห่มนวลนางวางกอง | เอาขึ้นป้องบังไฟซ่อนฟ้าฟื้น | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | กุมารทองหัวเราะว่าอย่าให้ตื่น | ||
อดไม่ได้เข้าไปเล่นกลางคืน | ปลูกขึ้นรู้เข้าหูอื่นสิเสียงาน | ||
รับเอาเครื่องออกมาขมีขมัน | พ่อขุนแผนเธอขันเจียวจ้าน | ||
เดิมทีคิดมาจะทำการ | มาลอบรับสมัครสมานเกี้ยวชู้แข | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนฟังพรายพริ้มยิ้มแต้ | ||
ลูกกูแสนเฉลียวดีแท้ | จะเข้าไปมิใช่แม่กุมารทอง | ||
ว่าแล้วร่ายเวทคลายสะกด | แล้วขยดปรามาสจับต้อง | ||
สั่นปลุกลุกขึ้นเถิดน้อง | อุตส่าห์มาถึงห้องมืดค่ำคืน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | นางแก้วกิริยาผวาตื่น | ||
กำลังมนตร์มึนมัวไม่ใคร่ฟื้น | ดึกดื่นปลุกทำไมใครเข้ามา | ||
เพ่งดูก็ยังไม่รู้จัก | อกใจทึกทักพรั่นหนักหนา | ||
สั่นรัวทั่วทั้งกายา | จะร้องขึ้นประหม่าด้วยความกลัว | ||
ป้องปิดบิดเบือนเชือนหนี | ขุนแผนเสน่ห์ดีเข้าเย้ายั่ว | ||
ชายตาตาต่อกันพันพัว | ใครหนอช่างไม่กลัวประหลาดนัก | ||
ดูจริตผิดโจรใช่ผู้ร้าย | เป็นเป็นชายผู้ดีมียศศักดิ์ | ||
มหาละลวยดลจิตให้คิดรัก | ทำพลิกผลักกรพลางทางถามไป | ||
เที่ยวนางกลางคืนไม่เกรงกลัว | หลงตัวหลับตามาแต่ไหน | ||
ซ้ำทำข่มเหงไม่เกรงใจ | ราวกับใครแนะนัดให้นายมา | ||
ยังไม่กลับออกไปเสียจากห้อง | เดี๋ยวนี้น้องร้องบอกเขาดอกหนา | ||
คนจนดอกเจ้าไม่เข้ายา | ในเรือนข้าห้องนี้ไม่มีอะไร | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
โลม | |||
วาเอยวาจา | พี่อายหน้าน้องอย่างสงสัย | ||
ใช่สะดมย่องเบาข้าวของใคร | เสียมีได้ก็รักลักชมเชย | ||
พี่ชื่อขุนแผนแกว่นสงคราม | จะมาตามภรรยาดอกน้องเอ๋ย | ||
วันทองอยู่ห้องไหนยังไม่เคย | จึ่งหลงเลยเข้ามาในห้องนี้ | ||
เจ้าหลับอยู่ดูแม้นเหมือนวันทอง | จึงหลงต้องจิตคิดว่าเมียพี่ | ||
อย่าถือโทษโกรธไปทำไมมี | จะหยิกตีก็ตามแต่ความคิด | ||
ได้มาหาน้องถึงห้องใน | ขออภัยเถิดพี่นี้รับผิด | ||
ชะรอยกุศลดลใจชักให้ชิด | ขอถามนิดหนึ่งน้องอย่าถือเลย | ||
เจ้าเป็นญาติขุนช้างฤาวันทอง | นี่นามน้องชื่อใดอะไรเอ๋ย | ||
อย่าอำยวนควรแล้วจะคุ้นเคย | ชายได้เชยจับต้องน้องถึงตัว | ||
กระไรกันก็กระไรเถิดน้องพี่ | เลือกนักผิดดีมีแต่ชั่ว | ||
คนอื่นต้องเป็นสองจะหมองมัว | พี่นี้ผัวผูกรักภักดีจริง | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
บัดนั้น | แก้วกิริยาตริตรึกนึกนิ่ง | ||
คิดขึ้นได้หวาดหวั่นพรั่นประวิง | ขุนแผนแท้แน่นิ่งร้อนแรงรึง | ||
เอะเกิดเหตุแล้วกระมังครั้งนี้ | น่าที่ความผิดจะมาถึง | ||
จะรบราฆ่าฟันกันอื้ออึง | น้อยหนึ่งจะว่าเราคบค้า | ||
จำจะเร่งบอกความที่ถามไถ่ | ให้ออกไปเร็วเร็วเสียดีกว่า | ||
ตัวข้าชื่อแก้วกิริยา | บิดาเป็นเจ้าเมืองสุโขทัย | ||
เขาร้องฟ้องต้องปรับยับเยิน | ยังค้างเกินเงินสิบห้าหาไม่ได้ | ||
จึงเอาข้ามาขายฝากไว้ | ลำบากยากไร้มาหลายปี | ||
เชิญไปเถิดฉันจะปิดประตู | อย่ามาเซ้าซี้อยู่จู้จี้ | ||
ข้าคนเข็ญใจใช่ผู้ดี | ไม่ควรที่ลดเลี้ยวเกี้ยวพาน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
โลม | |||
ได้เอยได้ฟังว่า | แก้วกิริยาเจ้าช่างว่าขาน | ||
รสถ้อยน้อยฤาฉ่ำดังน้ำตาล | กินหวานเล่ห์ลิ้นประโลมใจ | ||
ทรวดทรงท่วงทีไม่แกล้งว่า | ถึงเป็นเมียเจ้าพระยาก็เป็นได้ | ||
เงินนิดเท่านั้นพรั่นทำไม | จะช่วยใช้รับทุกข์ธุระน้อง | ||
ว่าพลางทางขยับจับข้อมือ | ดูดู๋อึดอัดตะปัดตะป่อง | ||
แม้นสลัดตัดอาลัยไม่ปรองดอง | พี่ไม่ออกจากห้องแล้ววันนี้ | ||
จะนอนนิ่งกลิ้งทูตอยู่ในมุ้ง | จนรุ่งให้เขาจับได้กับพี่ | ||
จะเป็นถ้อยร้อยความสามสี่ปี | กอดกันตายอยู่ที่นี่ไม่หนีไกล | ||
แล้วซ้ำเป่าอาคมสมสวาท | พิงพาดลองดูรู้ทีใคร่ | ||
อุ้มขึ้นใส่ตักสะพักไว้ | ลูบไล้โลมเล้าเคล้าคลึงนาง | ||
อัศจรรย์มืดมนเป็นฝนฟ้า | นาฬิกากลฝรั่งดังเหง่งหง่าง | ||
เมฆเกลื่อนเดือนส่องแสงรางราง | อาบน้ำค้างหนาวแนบแอบอิงกัน | ||
เสนาะสำเนียงเสียงจักจั่นแจ้ว | กอดแก้วกิริยาแล้วรับขวัญ | ||
ถ้อยทีมีอาลัยใจผูกพัน | เกษมสันต์สังวาสสวาทอร | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ โลม | |||
โลม | |||
เจ้าเอ๋ยเจ้าพี่ | ธุระมีเพลาจวนจะด่วนก่อน | ||
ใช่ไม่รักจักสลัดตัดรอน | จำจรสุดใจแล้วนะแก้วตา | ||
จึงถอดแหวนเพชรน้อยจากนิ้วมือ | พี่ซื้อหลวงนรินทรไว้สิบห้า | ||
ส่งให้พอได้กับราคา | ดั่งจำเพาะเจาะมาช่วยทุกข์น้อง | ||
จงขายเขาเอาเงินให้ขุนช้าง | จวนสว่างแล้วเจ้าอย่าเศร้าหมอง | ||
เอ็นดูพี่เถิดช่วยชี้ห้องวันทอง | พลางประคองลูบไล้อาลัยลา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เป็นเอยเป็นหญิง | ยากนักทุกสิ่งไม่แกล้งว่า | ||
เคืองขัดกลัดกลุ้มในวิญญาณ์ | สุชลฟูมนัยนาเข้าตาจน | ||
จะแข็งขัดทัดทานก็ไม่ได้ | เสียน้ำใจผินหลังแล้วนั่งบ่น | ||
นิจจาเอ๋ยงวยงงหลงเล่ห์กล | แยบยลชายซื่ออือดีจริง | ||
สมใจได้เชยเฉยฉาก | เกิดเป็นคนนี้ยากหนอผู้หญิง | ||
มิทันไรก็สลัดซัดเททิ้ง | ทอดตัวกลิ้งร่ำร้องแต่เบาเบา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โลม | |||
น้องเอยน้องพี่ | ธุระมีก็ย่อมแจ้งกับใจเจ้า | ||
จะใคร่อยู่สู่สมชมเคล้า | เรือนเขาเจ้าจะให้อยู่อย่างไร | ||
ค่อยค่อยช้าช้าจะมารับ | ไม่สับปลับมารยาดอกหาไม่ | ||
จับมือนางวางประทับอุระไว้ | นี่มิใช่ฤาใจอาลัยรัว | ||
ทึกทักจะร้างรักจนอกสั่น | เป็นอย่างนั้นจริงเจ้าเห็นใจผัว | ||
ใช่บ้านเมืองกลางป่าข้าไม่กลัว | ถึงจะนัวอยู่ด้วยกันตะวันแดง | ||
ขุนช้างจะทำไมกับเราได้ | จะใส่ให้วิ่งล้มตะแคงแก้ง | ||
จะได้แต่ตาปรอยหงอยเป็นแร้ง | จนใจกลัวระแวงราชทัณฑ์ | ||
ทำเอามือซับหน้าน้ำตาไหล | ไว้เยื่อใยเอาใจให้วายกระสัน | ||
แม้นข้ามคืนวันนี้เสียทีครัน | ขุนช้างมันก็เป็นมิตรแต่คิดคด | ||
จะแก้แค้นแทนทำให้ถึงใจ | ความจริงพี่มิได้โป้ปด | ||
ออกไปข้างนอกด้วยกันเพียงชั้นลด | บอกกำหนดแนะตำแหน่งเรือนวันทอง | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ ทยอย | |||
ว่าเอยว่าพลาง | ประจงจูงมือนางออกจากห้อง | ||
แสงเดือนแจ่มจำรัสผ่องพักตร์น้อง | ขุนแผนมองหล่อนฉ่องละอองลออ | ||
ยลหน้าดังหน้าจะแข่งแข | จะจำแหห่างไฉนฉะนี้หนอ | ||
ทรุดนั่งชั่วใจใคร่รั้งรอ | น้ำตาคลอจนใจจำไคลคลา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ ร่าย | |||
บัดนั้น | ฝ่ายแก้วกิริยาเสน่หา | ||
อิดเอื้อนมิใคร่บอกออกวาจา | คิดในใจแล้วว่าวิงวอน | ||
นึกกริ่งจริงจริงไม่เสกสรร | จะเห็นอะไรกับฉันแต่ร่อนร่อน | ||
เด็ดเดี่ยวยากไร้อนาทร | ท่านได้พบเมียก่อนหาไหนเลย | ||
ความชอบถึงจะบอกห้องให้ | แต่พอได้ก็เบือนเชือนเฉย | ||
จำจนจะต้องทนอยู่ตามเคย | ลึกแล้วเอ๋ยเมื่อใดจะได้พบ | ||
จริงเจียวเหมือนหนึ่งเคี้ยวยันสลา | ไม่ทันจืดนิจจาพอปูนสบ | ||
บอกแล้วว่าอย่าอย่าไม่ควรคบ | เวนใดมาประจบให้จำเป็น | ||
จนใจใช้กรรมเสียเถิดนะ | นั่นแน่คะห้องวันทองที่ทำเข็ญ | ||
ยังกระไรฤาข้าไม่ว่าเล่น | ฉันเห็นกับนายฉันเข้าพันพัว | ||
ดูสนิทสนมกันนักหนา | ไหนจะผันหน้ามาหาท่านเจ้าผัว | ||
ชั่งใครเป็นไรไม่เปียปัว | คิดถึงตัวดีกว่าโศกาลัย | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ โอด | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเช็ดน้ำตาอย่าร้องไห้ | ||
หยิบโน่นฉวยนี่ทีเอาใจ | ถึงจะไปคงจะกลับมารับน้อง | ||
ตายเสียเมื่อไรไม่ได้มา | ฟังคำพี่ว่าอย่าหม่นหมอง | ||
.... | .... | ||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองร้องว่ากระไรเอ๋ย | ||
หม่อมทำนายฝันนี้ผิดทีเคย | จะว่าเลยเล่นฤาจริงก็กริ่งใจ | ||
ฟังฟังยิ่งหวั่นพรั่นจิต | สำเนียงผิดขุนช้างนางสงสัย | ||
เอามือคลำเนื้อตัวทั่วไป | ขนอกขนใจก็ไม่มี | ||
ลูบดูคอคางก็ว่างเปล่า | หนวดเคราหมดไปเสียไหนนี่ | ||
ผิดกายชายเกรงเพลงผิดที | ผิดแล้วสินี่ใครดูแบบบาง | ||
ลุกขึ้นเขม้นเห็นขุนแผน | ยิ่งแสนแค้นขุ่นข้องหมองหมาง | ||
แลเหลียวมาเห็นขุนช้าง | กลิ้งอยู่ข้างเตียวอนาถใจ | ||
ถลามากอดผัวตัวสั่น | คิดว่าขุนแผนฟันเสียตักษัย | ||
ผลักพลิกดูแผลแลทั่วไป | เห็นยังผ่อนหายใจค่อยคลายกลัว | ||
สั่นปลุกลุกขึ้นเร็วเร็วเจ้า | ขโมยขึ้นเรือนเราแล้วหม่อมผัว | ||
จะหยิกตีเท่าใดไม่รู้ตัว | ชั่งชั่วนี่กระไรไม่ลืมตา | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแค้นขัดสหัสา | ||
ว่าแก่วันทองดีแล้ววา | ไม่คิดน้ำหน้ากันมั่งเลย | ||
เช่นหน้าข้ากระนี้ฤาผู้ร้าย | สมบัติชู้มากมายเจียวฤาเหวย | ||
เห็นกูลักของใครมือไม้เคย | ทำเฉยราวกับไม่รู้จักกัน | ||
นางเมียเศรษฐีดีหนอ | ทำตัวสั่นตัวงอปลุกชู้ขัน | ||
ปลุกขึ้นเร็วเร็วจะไม่ทัน | ชู้เองกูพรั่นกลัวฝีมือ | ||
ดูหน้าข้าก่อนก็เป็นไร | องค์เธอฤาใช่หาไม่ฤา | ||
แผดเสียงขึ้นไปเถิดให้เขาลือ | กอดชู้ร้องอื้อไม่มีอาย | ||
วันทองเอ๋ยเก้อละเมอเพ้อหลง | ผัวมึงมั่นคงฤาคนง่าย | ||
มั่งมีเงินทองเต็มสบาย | คงได้กอดชู้ตายแล้ววันนี้ | ||
ทำกึกกักคึกคักชักดาบ | ฟันให้เลือดไหลอาบอยู่กับที่ | ||
เร็วเร็วปลุกชู้ขึ้นดูดี | ให้มันสู้กูซีปลุกให้ลุก | ||
เอออะไรไม่คิดถึงคราวยาก | ทำห้ำหั่นบั่นบากชิงสุก | ||
สนุกนักมันมักได้ทุกข์ | ไล่ลุกกูจะฟันทั้งผัวเมีย | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
หวีดเอยหวีดหวาด | ใจจะขาดกลัวจะฆ่าขุนช้างเสีย | ||
กลัวก็กลัวปลุกก็ปลุกคลุกเคลีย | น้ำตาเรี่ยไม่รู้สึกก็นึกแค้น | ||
ตายร้ายตายดีก็ทีหนึ่ง | ข้าไม่พึ่งใบบุญเจ้าขุนแผน | ||
พยาบาทมาดหมายทดแทน | ใจพรั่นปากแปร้นท้าทาย | ||
จะทำอย่างไรก็เร่งทำเข้า | ฤาแผ่นดินของเจ้าพูดง่ายง่าย | ||
แม้นข้ากับขุนช้างนี้วอดวาย | ถึงตายก็คงกระดูกร้อง | ||
รู้แล้วว่าทหารมีฝีมือ | เชิดชื่อในอยุธยาไม่มีสอง | ||
ป่านนี้จะมากลับคิดตริตรอง | ถึงคราวยากนั้นไม่ต้องกับทำระยำ | ||
คนชั่วข้าก็อยู่ประสาชั่ว | สุดที่กลัวแล้วเจ้าเคราแดงก่ำ | ||
สารพัดแสร้งใส่ใจยังจำ | จะมาลำเลิกนั้นด้วยอันใด | ||
ข้าเถียงฤาว่าไม่ได้เป็นเมีย | แต่เจ้าทอดทิ้งเสียไม่รักใคร่ | ||
ขุนช้างเขาจึงขอข้ามาไว้ | แกล้งลอยช้อนตักอะไรเจ้าคนพาล | ||
ครั้งหนึ่งพาอีลาวมาให้ด่า | ถึงตีนท่าหน้าเรือนตะพานบ้าน | ||
ประเดี๋ยวประเดี๋ยวแกล้งกลับมาประจาน | จะว่าอะไรก็โรงศาลของท่านมี | ||
จะมาค่อนด่าใครว่ามีชู้ | นึกดูก่อนเป็นไรกระนี้นี่ | ||
สับปลับปลับปลิ้นสิ้นที | ว่าวันทองไม่ดีชั่วตัดรอน | ||
เจ้าทิ้งไว้ไปมีเมียจึงมีผัว | ใครบั่นบากนี่ตัวออกหากก่อน | ||
เพื่อนรั้วหัวบ้านรู้ขจร | ขึ้นเรือนเขาคนพลอนฤาใช่โจร | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
น้ำเอยน้ำคำ | น้อยฤาแปลกเปลี่ยนน้ำกระทั่งโขน | ||
หากผุดมุดลงแก่งเชี่ยวโชน | หินผาจะสู้โดนไม่ย่อท้อ | ||
ท้าทายจะให้กลับไปร้องฟ้อง | มั่งมีเงินทองแล้วขันก้อ | ||
ขุนช้างมันเคยเกลี่ยไกล่ไปป้อยอ | อ้ายพ่อไกรศรีทุกทีความ | ||
เชื่อดีไกรศรีไปเถิดวะ | ถ้อยความจะชนะไม่พักถาม | ||
เป็นไรไม่เข้าไปช่วยกันติดตาม | ลามปามฝืนฝ่าค้าอัปรีย์ | ||
ห้ามเหล็กลักเหล็กประทุกเรือ | ฉ้อเขาเป็นเบือเขาฟ้องมี่ | ||
ชิงเชือดคอตายอ้ายอัปรีย์ | ชวนขึ้นศาลเชื่อดีซิน่ากลัว | ||
อย่ายาวความเหวยจะถามวันทองน้อย | ค่อยค่อยคิดบ้างฟังคำผัว | ||
ได้ผิดแล้วอย่าถือดื้อเมามัว | แม่เอ่ยชั่วสละได้ก็คงดี | ||
การเกินแต่หลังไม่ถือแล้ว | วันทองน้องแก้วจงเชื่อพี่ | ||
จะมารับกลับไปประเดี๋ยวนี้ | ใช่ที่จะมาล่อลวงน้อง | ||
จริงจริงจะสบถก็เจียนได้ | ตั้งแต่จากเจ้าไปแต่เดือนสิบสอง | ||
ไม่วายว่างคะนึงถึงวันทอง | ขึ้นสวรรค์อย่าพ้องปดเลย | ||
วิงวอนโดยดีนี่คิดไฉน | จะไปฤามิไปแม่คุณเอ๋ย | ||
อย่าซบซอนช้อนคางขึ้นให้เงย | จะบู้บี้ไม่เสบยไม่เข้ายา | ||
เจ้าก็คนปัญญาดีทีฉลาด | พิเคราะห์ดูลำมากเขากับข้า | ||
ขุนช้างสู้ได้ฤาแก้วตา | รูปร่างวาจาทีท่าทาง | ||
สองเอาหนึ่งสามเอาหนึ่งก็ต่อได้ | มีไข่ไก่อย่าเล่นเลยกับไก่ล่าง | ||
ขุนช้างเหมือนระตูตามกวาง | อิเหนาร้างปลอมแปลงก็มีฤทธิ์ | ||
แม้นมิปลงใจไปด้วยกับพี่ | จะผูกมือเข้าตีเอาความผิด | ||
จะละลดกันนั้นอย่าพึงคิด | จ้อยร่อยจิริดคร่าเอาไป | ||
คนทั้งเรือนอย่าเข้าใจว่าใครตื่น | ไม่คลายสะกดฟื้นตื่นไม่ได้ | ||
จะเฝ้าปลุกขุนช้างอยู่เมื่อไร | ชั่งจิตชั่งใจแล้วบอกมา | ||
ฯ ๒๔ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | วันทองได้ฟังขุนแผนว่า | ||
วนเวียนเปลี่ยนใจไขว่ปัญญา | โลเลเสน่หาเล่ห์ลมลิว | ||
กริ่งจะจริงฤาหนอยังรอรัก | เห็นหาญหักมุมุ่นทำฉุนฉิว | ||
หม่อมขุนแผนนี้น้ำใจมักไหวปลิว | โยเยเผลพลิ้วไม่ยั่งยืน | ||
พ่อขุนช้างรูปโพล่โง่จริงอยู่ | สิ่งดีใครไม่รู้อยู่หาอื่น | ||
หม่อมเอ๋ยรักแล้วจะกลับกลืน | เคยขื่นขมเผ็ดฉันเข็ดแล้ว | ||
ลาวทองต้องติดเป็นชาวสะดึง | นั่นแลจึงกลับมารับฤาหม่อมแก้ว | ||
หาไม่ไหนจะได้มาวี่แวว | น่าเสียดายจัดแจ้วจำนรรจา | ||
รูปร่างอีลาวราวรังสรรค์ | เต็มขยันหน้าหนอไม่แกล้งว่า | ||
สุดที่จะคาดค่าว่าราคา | สองสลึงแล้วอย่ามาต่อเลย | ||
จริงฤาไม่ลาวทองนี้ยอดรัก | นี้ทอดดวดตกคลักฤาหม่อมเอ๋ย | ||
ไม่ติดตามมาให้ได้ไว้แชเชย | ไม่ขันเลยนี่ใครจูงจมูกนาย | ||
แล้วพาโลว่าชอบกับไกรศรี | โกรธเขาแล้วซีต้นกฎหมาย | ||
เขาวางบทอีลาวต้องติดตาย | เป็นชาวสะดึงไม่วายว่างเย็บ | ||
จะเอาไปแก้ขัดผลัดอีลาว | แม่เจ้าเอ๋ยใครจะไม่เจ็บ | ||
คราวจะเป็นไม่เห็นดีเท่าขี้เล็บ | ชั่วที่ไหนไล่เก็บใส่ความคน | ||
ฉันเชื่อแล้วหม่อมจ๋าอย่าสบถ | จะสะบัดเสียให้หมดลิ้นสิ้นขน | ||
แม้นใคร่ได้ลาวทองคืนอย่าร้อนรน | จะช่วยเดินเหินบนคุณในวัง | ||
ฯ ๑๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
วันเอยวันทอง | สำนวนน้องราวกับเหล็กดีตั้ง | ||
ไม่รู้เท่าเหมือนภูเขาเส้นผมบัง | ว่ากันแต่จริงจังอย่าแชเชือน | ||
ขุนช้างนั้นระตูจรกา | วันทองบุษบาแม้นเหมือน | ||
อันอิเหนานี้พี่เป็นเจ้าเรือน | อย่าบิดเบือนเลยเรานึกว่าสึกชี | ||
หนกระหายหมายมาคว้าสัมผัส | รวบรัดไยปัดมือพี่ | ||
ใช่ว่าไม่เคยเมื่อไรมี | ท่วงทีสันทัดอยู่ด้วยกัน | ||
บทอิเหนาในเรื่องเผาเมืองก่อน | จึงได้ผ่อนพานางผายผัน | ||
นี่จะให้เผาบ้างเหมือนอย่างนั้น | ฤาจึ่งวันทองพี่จะลีลา | ||
หยิบเอาไต้ไปจุดที่ตะเกียง | เดินเมียงจะไปเผาเอาริมฝา | ||
ขุนช้างขุนช่อยช่างมันวา | ได้แต่เมียของข้าจะพาไป | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
พ่อเอยพ่อคุณ | อย่ามุมุ่นอย่างนี้หาดีไม่ | ||
ปากว่าใจพรั่นหวั่นอกใจ | วิ่งเขาไปดับไฟยึดไม้มือ | ||
กลัวว่าขุนช้างจะวอดวาย | อุบายว่าของของฉันมิไหม้ฤา | ||
ฉุดบั้นเอวกะแหย่งแย่งยื้อ | เอ็นดูน้องน้อยอย่าดื้อจะบาปกรรม | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนเห็นเป็นที่ขยี้ขยำ | ||
คาดคั้นข่มขู่เอาถ้อยคำ | ห้ามแล้วก็ไม่ทำจะตามใจ | ||
ว่ากันแต่จริงอย่าแชเชือน | เหย้าเรือนก็หาเผาจุดไม่ | ||
ขุนช้างก็จะให้ชีวิตไว้ | แต่มาไปด้วยกันแต่โดยดี | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองหลีกเลี่ยงเบี่ยงหนี | ||
กลัวขุนแผนจะราฆ่าตี | ยอมแต่ปากว่าไปซีแต่วาจา | ||
ยังอาลัยผัวใหม่ใจอึดอัด | การสัมผัสร่วมรสเสน่หา | ||
ไม่เอื้อเฟื้อกระไรนักรักระอา | แต่ทว่าเงินทองของพัวพัน | ||
เคหาโอฬารึกนึกเสียดาย | ใจหายว้าเหว่เหหัน | ||
หม่อมขาจะมาพากลับไปนั้น | อัศจรรย์ฉันคิดไม่เห็นเลย | ||
ชื่อว่าชั่วก็มีผัวใหม่แล้ว | พ่อพลายแก้วทำอย่างไรนี่หม่อมเอ๋ย | ||
เคี้ยวคายคายแล้วยังไม่เคย | ชอบแต่เลยไปบางกอกดอกจะดี | ||
ติดตามอีลาวชาวจอมทอง | มาประคองเคียงพักตร์จักถูกที่ | ||
จะต้องการฉันไปทำไมมี | คนเช่นนี้หม่อมฤาจะรื้อรัก | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ลิ้นเอยลิ้นลม | เจ้าคารี้สีคารมคมคายหนัก | ||
เหม่อุแหม่แล้วแลชวนแขชัก | ยิ่งกว่าใครไม่รู้จักทำนองเจียว | ||
จะว่าอะไรไม่พอใจได้ยินหมด | อย่าเลี้ยวลดให้ช้าว่าแก้เกี้ยว | ||
ไปไม่ไปอย่าบิดบูดพูดคำเดียว | จะหน่วงเหนี่ยวใจข้าเร็วก็ย่อมรู้ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
หม่อมเอยหม่อมขา | ข้าวของน้องหนักหนายังมีอยู่ | ||
ไม่ขืนขัดน้ำใจได้เอ็นดู | งดสักครู่พอได้เก็บติดตัวไป | ||
แก้วแหวนเงินทองของละเอียด | จักแทรกเสียดพอกำลังเอาไปได้ | ||
จริงจริงหนาครั้งนี้ไม่ไว้ใจ | หม่อมทิ้งเสียเมื่อไรได้เลี้ยงตัว | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
แสนเอยแสนงอน | สาระวอนล้วนแต่ไม่ไว้ใจผัว | ||
กระนั้นแหละจริงไขว่เปลี่ยนนัว | ของอยู่ไหนค้นให้ทั่วแล้วอย่าช้า | ||
อะไรอร่อยจะเอาไปก็ตามที | แต่ลูกจิงจ้อของดีนั้นแลอย่า | ||
แม้นไม่ฟังขืนเอาไปได้โกรธา | ฟ้าผ่าผิดทีตีให้ตาย | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ค้อนเอยค้อนให้ | เสียน้ำใจจำจนต้องขวนขวาย | ||
ลุกขึ้นเที่ยวหาคว้ากระทาย | ฟูมฟายน้ำตาเข้าห้องพลัน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนเยื้องย่องตามมา | นึกในใจว่าเมียข้ามันน่าขัน | ||
ปิดปากหัวร่ององัน | จะไปเอาอะไรนั่นที่ห้องใน | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองหม่นหมองร้องไห้ | ||
ฝันเห็นตรงแท้แน่แก่ใจ | จะผ่อนผันฉันใดก็เต็มที | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
โอ้เหมือนว่าคราววสันต์พันดักเดี้ย | ชอบแต่ตายเสียไปเป็นผี | ||
วันทองเอ๋ยสุดคิดแล้วครั้งนี้ | น่าที่จะมีแต่อัประมาณ | ||
ผัวใหม่พึ่งไม่ได้ปลุกไม่ลุก | ผัวเก่าบุกรุกหักหาญ | ||
จะขืนขัดก็จะวอดวายปราณ | เข้าเงื้อมมือมัจจุการต้องจำจน | ||
เข้าเข่นขู่มีแต่ถูกลากกระชาก | เนื้อวิบากกรรมเวรไม่เป็นผล | ||
พะว้าพะวังสิ้นทีทำวี่ทำวน | เหมือนหนึ่งนกต้องมนตร์จนน้ำใจ | ||
ขุนช้างถึงรู้ชั่วน้ำใจดี | ชู้เมียก็หามีที่ไหนไม่ | ||
สารพัดมั่งมีทุกสิ่งไป | เหย้าเรือนทำให้สนุกนัก | ||
จะทำอะไรตามใจไม่ฝ่าฝืน | ยายนอนแล้วจำขืนสมานสมัคร | ||
ซุ่มซ่ามนี่กระไรไม่น่ารัก | ชาติผู้ดีมีศักดิ์สลึงเฟื้อง | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ รวิราย | |||
ร่าย | |||
ครวญพลางทางตริไปมา | หม่อมขุนแผนยศถาเธอฟุ้งเฟื่อง | ||
เป็นแม่ทัพมีชัยได้บ้านเมือง | กรุงกระเดื่องยอดทหารชาญณรงค์ | ||
แต่รุ่นราวคราวหนุ่มจนป่านนี้ | ยั่งยืนเต็มดีท่วงทีระหง | ||
งามจริตกิริยาทรวดทรง | หยิบหย่งสมุนไพรไม่เป็นเลย | ||
ถึงกับลูกเจ้าพระยาสู้กันได้ | ตาดีสุดใจพ่อคุณเอ๋ย | ||
คมกริบดังจะหยิบออกชูเชย | ชวนเสวยรสร่วมฤดีดาล | ||
ชายใดจะเสมอไม่มีสอง | เสน่ห์น้องจริงจิตยังคิดสมาน | ||
แต่ทว่าจนใจได้เกินการ | จะทนทานเชิดหน้าระอาอาย | ||
บ่นพลางทางค้นข้าวของ | เงินทองรูปพรรณมากหลาย | ||
สายสะอิ้งสร้อยอ่อนใส่กระทาย | แหวนรังเรือนรายเนื่องยักกะตรา | ||
เอาผ้าผ่อนดีดีปิดข้างบน | นึกอะไรได้ค้นใส่ใต้ผ้า | ||
หยิบโน่นเสียดายนี่เช็ดยีตา | สุชลอาบพักตราคราบหมองมัว | ||
จนแล้วสู้ฟันกันอีกหน | เชิงชนย่อมรู้อยู่หม่อมผัว | ||
อีลาวนั้นก็ไม่อยู่ยังแต่ตัว | ดีกับชั่วนั้นย่อมแจ้งกับโลกีย์ | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนแฝงฟังสิ้นถ้วนถี่ | ||
วันทองไปไหนเล่าเจ้าตัวดี | ทำไมเห็นเอ๊ะหนีกันฤาไร | ||
ว่าจะมาเก็บของสักประเดี๋ยว | หายไปเที่ยวหาหาเห็นไม่ | ||
ชะรอยจะแพลงพลิกชุกชิกใจ | เมื่อกี้ใครนั่งบ่นเพ้อพก | ||
นินทาว่าร้ายกันลับหลัง | ดีบ้างชั่วบ้างทำคับอก | ||
คนสองใจมันมักไพล่ไปนรก | เพราะหม่อมผมดกจะตกลึก | ||
แอแหนี่แน่นั่งอยู่นี่ | ไหนจะดีเล่าน้องเฝ้าตรองตรึก | ||
เท่านั้นเถิดอย่าเปลี่ยนใจให้ไขว่นึก | ป่วยการดึกดื่นแล้วอย่าเรรวน | ||
ก้มมองดูหน้าน้ำตาคล่ำ | ร้องว่ากรรมจะมาซ้ำด้วยคำสรวล | ||
ไม่พอที่เลยจะให้หน้าหายนวล | เออไม่ควรจะมอมเป็นแมวคราว | ||
วันทองเอ๋ยดูรูปขุนแผนเล่น | พี่นี้เห็นอาจอ้อพอเกี้ยวสาว | ||
แม้นว่าจะเล่นข้างเต้นกราว | เป็นรองเจ้าบ่าวใหม่อ้ายทรยศ | ||
ดีแล้วที่น้องจะฟันสู้ | มันพันตูกันอีกหนดูทนอด | ||
อย่าทำเก้ออ่อนคอท้อระทด | เก็บของเสียให้หมดเร็วอย่าช้า | ||
ก้มลงมองค้นของให้กระทาย | แหวนเก่าจำด้ายนี่ของข้า | ||
ขุนวิเชียรขาหักไปยักกะตรา | เขาซื้อมาข้าขอปันไว้ | ||
เมื่อครั้งสมสู่อยู่กับเจ้า | จริงฤาไม่เล่านี่เราให้ | ||
ไม่ลำเลิกดอกน้องอย่างหมองใจ | กลัวจะลืมไปจึงตักเตือน | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
อายเอยอายใจ | แสแยแล้วใครไม่มีเหมือน | ||
ได้เกินเก้อพูดเร่อแชเชือน | กลบเกลื่อนเขินค้างหมางระอา | ||
เร่งกระไรหายใจไม่ใคร่จะทัน | มือสั่นหยิบไม่ถูกแล้วหม่อมขา | ||
ค้นถุงเงินปลีกที่เปลี่ยนมา | จากคุณย่าท่านท้าวเทพอากร | ||
ใส่ลงในกระทายยกกระแทก | ประชดประชันดันแดนไม่หยุดหย่อน | ||
จะพาหนีไปข้างไหนให้พ้นร้อน | ซุ่มซ่อนจะมิให้ใครเขารู้ | ||
แล้วจะเหมือนอ้ายอนุอีคำปล้อง | เที่ยวจองคร่องหันเหเซซังอยู่ | ||
พาไปพามาน่าเอ็นดู | ทำเล่นเช่นลักชู้ให้ได้อาย | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนร้องว่าอุแม่เอ๋ย | กระไรเลยพึ่งรู้สึกว่าเดือนหงาย | ||
คราวมืดมัวไม่กลัวเขายินร้าย | มาคิดอายต่อทีหลังกระทั่งโกร่ง | ||
มันไม่เหมือนอ้ายอนุอีคำปล้อง | ไม่ควรน้องจะไปเปรียบคนตายโหง | ||
อ้ายคนต้นขบถคดโกง | เป็นบ้าลำโพงมุทะลุ | ||
เชื่อฟังถ้อยคำอ้ายราชวงศ์ | มันยุยงพ่อมันอ้ายอนุ | ||
อ้ายปาศักดิ์สุทธิสารพลอยเสี้ยมยุ | พากันติดเรือนตรุต้องเวรจำ | ||
จะชักยาวสาวยืดไปไยเล่า | ไปก็ไปเถิดเจ้าอย่าครวญคร่ำ | ||
ทอดอาลัยเสียเถิดตัวเจ้ากรรม | อ้ายหมาเน่าลอยน้ำท้องพึงพอง | ||
ฤาไม่ไปจะให้พี่อยู่ที่นี่ | เออก็ดีอยู่มิดชิดเป็นหับห้อง | ||
มาเข้าหอใหม่กันเถิดวันทอง | นอนที่นี่ก็ตามน้องคะนองโลม | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
เจ้าเอยเจ้าพี่ | มาย่าดีใหม่น้องประคองโฉม | ||
เอนอิงพิงแอบแนบตระโบม | จ้วงกระโจมโน่นนี่รู้ทีกัน | ||
ปิดป้องโดยทำนองเชิงสัมผัส | อะไรเจ้าเฝ้าปัดสลัดผัน | ||
อุแม่เอ๋ยจากมาไม่ช้าวัน | แก่หัดครันครันขยันเจียว | ||
ปรานีผัวเก่าบ้างอย่างหมางสวาท | พี่เต็มอาจคึกก้อจ่อใจเสียว | ||
เคยเลี่ยมอ๋อปันกันเป็นทุนเดียว | มาทำตาขุ่นเขียวค่อนพิไร | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
น้อยเอยน้อยฤา | ดูดู๋ดื้อบัดสีสิเป็นได้ | ||
ไม่เคยเห็นเช่นนี้เลยผิดใจ | อีลาวมันหัดใหม่จนตะกลาม | ||
น่าอับอายราวกับตายไส้ขาด | ดูประหลาดฤาแสร้งแกล้งหยาบหยาม | ||
ไปไหนก็ไปจะไปตาม | จะว่าที่พระรามเดินไพร | ||
ลุกขึ้นปัดปัดสะบัดสะบิ้ง | ไยยังนิ่งหยุดยั้งนั่งไถล | ||
คว้ากระทายได้เดินตรงไป | ทำอะไรอยู่เล่าเจ้าจอมพลาย | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ขุนแผนว่าแม่เอ๋ยนางถั่วขัด | เอาแต่ตามถนัดไม่เบี่ยงบ่าย | ||
กระหายห่างร้างมาแต่ปีกลาย | จึงได้ตายไส้ขาดแกนตะกลาม | ||
ดูเยี่ยงวันทองเล่าเจ้าพี่ | คู่ผลัดมีตีทุกวันประจันสนาม | ||
ลาวสอนใหม่ไม่เหมือนไทยจึงได้ตาม | รูปงามเชื่อได้เป็นไรมี | ||
ไหนไหนก็คงไม่ว่างผัว | นี่แลตัวตัวดอกสร้อยเกศี | ||
จะว่ากล่าวยาวยืดจะช้าที | เออกระนี้แล้วจะให้เป็นพระราม | ||
ก็จะพาเอาสีดานงลักษณ์ | ไปให้พ้นทศพักตร์ยักษ์ซุ่มซ่าม | ||
ถ้าน้อยหนึ่งเถิดเจ้าโฉมงาม | ลุกขึ้นเดินตามเมียงออกมา | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
มาถึงหน้าเตียงห้องนอก | เย้าหยอกวันทองทำป้องหน้า | ||
ชี้ว่านี่แน่อสุรา | ที่มันลักสีดามาเชยชม | ||
นอนนิ่งกลิ้งทูตอ้ายอูฐอัด | มาดูเสียให้สนัดจะร้างสม | ||
ทศกัณฐ์ตัวนี้หัวเกลี้ยงกลม | ปั้นยากกว่าขนมต้มรามัญ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เจ็บเอยเจ็บจิต | วันทองคิดอายใจไหวหวั่น | ||
รื้ออาลัยผัวใหม่ดาลแดยัน | ชำเลืองแลแปรผันแก้วตาพราย | ||
กระดากเก้อเดินเร่อเกินพ้น | จำจนจะกลับก็ไม่ได้ | ||
กลัวอาญาขุนแผนจะวอดวาย | นัยน์ตาลายสะดุดประตูเซ | ||
กระทายหกของตกก้นกระแทก | เก้อตะกายเล็บแกรกแล้วกล่าวเส | ||
เคราะห์รื้อน้อยใหญ่ให้โยเย | แหวนทองกลาดดาษชะเอเก็บชุลมุน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ร้องเอยร้องว่า | กบที่ไหนเล่ามาจึงจับวุ่น | ||
ปล่อยมันเสียเถิดเจ้าเอาบุญ | แต่อย่าให้ต้นทุนขาดลอย | ||
เก้อเกาเล็บเล่นไม่เห็นขัน | ทำไมนั่นยังนั่งทอดละห้อย | ||
เข้าช่วยเก็บของให้อย่าตะบอย | ช้าอีกหน่อยจะรุ่งโพลงขึ้นโด่งแดง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | กุมารทองเมียงมองประตูแฝง | ||
เห็นวันทองพลั้งพลาดล้มตะแคง | ทำเป็นแกล้งร้องว่าอย่าพ่อพลาย | ||
แม่แกผิดทีเดียวเท่านั้นดอก | อย่าตีก้นให้ชอกช้ำถลาย | ||
ทำคลับคล้ายมิให้เห็นกาย | ว่าแม่จ๋าฉันไม่วายคิดถึงเลย | ||
จากมาอยู่ที่นี่นี้สบาย | ฤาซังตายด้วยโกรธพิโรธเอ๋ย | ||
กำพร้าแม่อดกล้วยไม่เสบย | แม่คิดถึงบ้างฤาเฉยลืมลูกไป | ||
ฉันเตือนพ่อบ่อยบ่อยให้มารับ | ลาวทองเขากำกับไม่มาได้ | ||
ขึ้นชื่อลาวนี้ฉันชังมันสุดใจ | รักแม่ไทยมากกว่าหนาว่าจริง | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เสียงเอยเสียงแจ้ว | แว่วแว่วไม่ถนัดคะนึงนิ่ง | ||
นี่เสียงใครคิดระแวงแคลงประวิง | ตรึกกริ่งจำได้เหมือนจะรู้ | ||
นึกได้คล้ายเสียงกุมารทอง | ขมุกขมัวพิศมองอยู่เป็นครู่ | ||
กุมารทองสำแดงกายออกให้ดู | ไม่ได้อยู่ด้วยกันกี่วันมี | ||
แปลกฉันไปฤาหม่อมแม่ขา | วันทองว่าพ่อมาด้วยฤานี่ | ||
คิดถึงความเก่าเศร้าโศกี | ไม่พอที่เป็นทั้งนี้เพราะอีลาว | ||
ออกชื่อลาวทองกระทั่งหู | ดังเพลิงพลามวามวู่โชนฉาว | ||
ตั้งคอก่อแคะแกะเรื่องราว | พ่อจ้าวเถิดจงเห็นที่จริงใจ | ||
นี่ไม่กลัวผู้กำกับเขาดอกฤา | พ่อกุมารหม่อมจึงดื้อมาได้ | ||
น้อยจิตคิดคิดไม่ใคร่ไป | เจ็บใจชอกช้ำคำคุณเมีย | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนได้ยินผินมาว่า | ลูกข้าจะยั่วลมล่มเรือเสีย | ||
กุมารทองแกล้งแล้วให้ปัวเปีย | พ่อไกล่เกลี่ยเรียบร้อยอยู่ถ้อยคำ | ||
เอาลาวทองมาออกชื่อจนอื้ออึง | รื้อตะบอยตะบึงพิไรร่ำ | ||
ดูเถิดไม่ว่าเล่นเลยเจ้ากรรม | จ่อจุดลุกแล้วหาน้ำมาดับไฟ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | กุมารหัวร่อร่าว่าแก้ไข | ||
โทโสมาแขกแปลกเปลี่ยนใจ | ไม่เป็นไรดอกพ่ออย่าโกรธา | ||
ที่หม่อมแม่วันทองท้อถอยหลัง | รอรั้งไม่ไปไว้งานข้า | ||
จะวิงวอนผ่อนผันให้เต็มประดา | ว่าแม่จ๋าอย่าถือพ่อฉันเลย | ||
ครั้นนั้นลาวทองมันให้กินมด | หลงละเมอเยอยศไปแม่เอ๋ย | ||
รู้สึกผิดได้คิดไม่มีเสบย | มาไปเถิดแม่เอ๋ยอย่าเฉยเชือน | ||
ตั้งแต่นี้ฉันจะเป็นนายประกัน | มิให้พ่อเป็นอย่างนั้นเปรอะเปื้อน | ||
ลาวทองไม่ให้กลับมาขึ้นเรือน | เขาไปเสียหลายเดือนแล้วจริงจริง | ||
แล้วผินหน้ามาว่าแน่ะคุณพ่อ | แม่ฉันขอความสัตย์ไว้อีกสิ่ง | ||
ลาวทองนั้นให้สลัดซัดเททิ้ง | ให้สมกับมันหยิ่งสาระดอง | ||
ฝ่ายแม่ฉันจะแก้ประกันด้วย | กับขุนช้างรูปรวยจองคร่อง | ||
ไม่ให้มีเยื่อใยกลับใจปอง | จะผ่าสองเสียให้เสร็จเด็ดรัก | ||
ขุนแผนวันทองจึ่งว่า | ตามใจลูกยาไม่หาญหัก | ||
กุมารทองหัวร่อก้อกั๊ก | ดีใจนักอย่าช้าเลยมาไป | ||
วิ่งเข้ามาหยิบยกเอากระทาย | หนักจะตายฉันจะช่วยเอาไปให้ | ||
ทั้งสามก็ตามกันคลาไคล | ออกประตูเรือนใหญ่ถึงนอกชาน | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ เพลง | |||
แผ้วเอยแผ้วหล้า | จันทราแจ้งกระจ่างสว่างบ้าน | ||
ดังจะจับมดได้ก็ไม่ปาน | บ่ายหน่อยคล้อยบรรณสารดารินเรือง | ||
ดาวจระเข้ผกผันหันเศียรกลับ | ซ้อนสลับดาวรุ่งขึ้นฟุ้งเฟื่อง | ||
ประกายพรึกสุกฉ่ำประจำเมือง | ขึ้นค้างเบื้องบูรพทิศตามฤดู | ||
สำคัญตระหนักว่าจักจวนรุ่ง | ขุนแผนไม่ดาลสะดุ้งเชื่อมืออยู่ | ||
ถึงสว่างเพื่อนบ้านใครจะรู้ | ตามมาก็จะสู้กูไม่ลด | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
วันทองเห็นของที่นอกชาน | รอยต่อยแตกฉานระยำหมด | ||
จึงกล่าววาจาว่าประชด | นี่คนคดที่ไหนทำรังแก | ||
ถอนต้นไม้รื้อเขาเราเสียด้วย | มอดม้วยข่มเหงเล่นทีเดียวแหล | ||
ตุ่มอ่างกระถางโอ่งแอ | ทุบเสียนี่แท้พาลพาโล | ||
ของทั้งนี้มันทำไมอะไรเล่า | หนักเบาใครแบกไว้ได้โมโห | ||
ทำกระไรได้รู้จักคนเฉโก | อวดดีฤาโง่ทำเช่นนี้ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | กุมารทองร้องว่าอย่าจู้จี้ | ||
ถึงอาลัยก็ไม่กลับคืนดี | ของเช่นนี้ใช่ที่ไม่ต้องการ | ||
ใครเล่าทุบต่อยแตกย่อยยับ | คุณพ่อกับฉันเองทำเพ่นพ่าน | ||
หาเอาใหม่ก็จะได้อย่ารำคาญ | ทำสิ้นอาลัยบ้านจะได้ไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนหัวร่อร่าว่าแก้ไข | ||
โอ่งอ่างกระถางใส่ต้นไม้ | เขาห้วยของใครข้าไม่รู้ | ||
คิดว่าของขุนช้างก็ต่อยเล่น | กลับเป็นของวันทองน่าอดสู | ||
พี่ขอโทษอย่าโกรธได้เอ็นดู | ไม่ได้อยู่แล้วอย่าอาลัยเลย | ||
ขุนแผนพาวันทองรีบไคลคลา | ถึงเรือนแก้วกิริยาหักใจเฉย | ||
รื้อถอนใจอาลัยไม่เสบย | ทำเป็นเปรยถามวันทองว่าห้องใคร | ||
วันทองว่าห้องแก้วกิริยา | ขุนแผนว่าหน้าตาเป็นไฉน | ||
สาวแก่แม่ม่ายเมียผู้ใด | ลูกเต้าเหล่าไหนจะใคร่รู้ | ||
ยินชื่อมีความกรุณา | ใคร่แวะดูหน้าตาอย่างไรอยู่ | ||
ไฉนน้องวันทองโฉมตรู | ให้แวะดูหรือไม่น้ำใจเรา | ||
จะไปแต่หญิงเดียวเปลี่ยวนัก | ลักเอาไปใช้สอยเป็นไรเล่า | ||
พอเป็นเพื่อนได้ใช้การหนักเบา | เอาฤาเจ้าเห็นเป็นทีพี่หารือ | ||
ฯ ๑๒ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ได้เอยได้สดับ | หวั่นใจไหววับกระไรหรือ | ||
นี่มาแวะแทะเล็มเล่นหัวมือ | ดอกกระมังทำไขสือสวนรอย | ||
แล้วกิริยากุมารทองคะนองแย้ม | ทำกระแอมแกมสรวลสำรวลบ่อย | ||
จะทำตกกระไดโจนโผนลอย | หม่อมจะแวะจะว่อยก็ตามใจ | ||
แก้วกิริยารูปเล่าเขาไม่ชั่ว | จะเอาไปแทนตัวฉันฤาไฉน | ||
ตบมือได้กันเถิดเป็นไร | ฉันดีใจจะได้กลับไปหลับนอน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | นวลแก้วกิริยาโฉมสมร | ||
แต่ขุนแผนจากไปใจอาวรณ์ | ทุรนร้อนแรงรุมกลุ้มรัก | ||
ด้วยไม่เคยร่วมชมสมสังวาส | ปะประหลาดประเดี๋ยวใจอาลัยหนัก | ||
นอนนั่งตั้งวิตกอกทึกทัก | ชมประวิชต่างพักตร์พิไรครวญ | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
โอ้เหมือนฟ้าแลบแปลบตา | มาได้แต่เวทนาฟูมกำสรวล | ||
กลิ่นอายยังตรลบอบรัญจวน | นี่เนื้อกรรมมาประมวญประมาททำ | ||
พรากสัตว์ให้พลัดคู่ร้าง | จึ่งเจาะจังหวังบ้างไม่ข้ามค่ำ | ||
ชื่นประเดี๋ยวเปลี่ยวลำบากจากระยำ | ก้มหน้าใช้กรรมร่ำโศกา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ครั้นวายกำสรดแว่วเสียง | สดับสำเนียงเอียงหูฟังรู้ว่า | ||
ชะรอยหม่อมจะพาวันทองมา | เสียงจ้าดังฉอเลาะเกาะแกะกัน | ||
จึงลุกรีบมาแอบแง้มประตู | เปิดออกมองดูขมีขมัน | ||
เห็นหม่อมขุนวันทองสองพัลวัน | กับเด็กคนหนึ่งนั้นน่าเอ็นดู | ||
ลูกใครมาแต่ไหนไม่รู้จัก | ไม่ถามทักเมียงมองฟังอยู่ | ||
นี่เอาลับออกมาไขให้กันรู้ | ฤาจึงแว่วเข้าหูออกชื่อเรา | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนว่าแก่วันทองนี่แน่เจ้า | ||
อะไรนี่มีแต่จะโดนเดา | ใครบอกเจ้าเปล่าเปล่าว่าเราแวะ | ||
ฉิฉะจะให้ไปเปลี่ยนตัว | ยังรักผัวหัวล้านอยู่นั่นแหละ | ||
แต่กุมารหัวร่อพอข้อแคะ | ชวนฉอเลาะเขาะแกะจะไม่ไป | ||
กุมารทองลูกข้าหน้าทะเล้น | เคยเป็นเช่นนี้มาแต่ไหน | ||
ทำไมนั่นข้าจะได้ตกกระได | ถ้าตกจริงไม่ไว้วันทอง | ||
คงจะถูลู่ลากลงไปด้วย | เจ็บป่วยมอดม้วยคงเป็นสอง | ||
ข้าหารือโดยซื่อปรองดอง | น้อยฤาน้องจิตใจเออเช่นนี้ | ||
เชิงข้างหึงแล้วว่องไวดังไฟจุด | แว่วสักนิดอุตลุดเหมือนบ้าจี้ | ||
มันร่อยหรอสึกไปเมื่อไรมี | ไปคนเดียวก็ตามทีช่างเป็นไร | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองร้องว่าขันนั่นมิใช่ | ||
ว่าข้าชั่วแล้วอย่าพาเอาข้าไป | รังกะตุ๋ยถุยอะไรเป็นเช่นนี้ | ||
ที่ข้างแระแวะค่างแล้วปรากฏ | ดีชั่วไม่เลือกหมดไม่บัดสี | ||
เว้นเสียไม่เห็นเล่นแต่หางมี | วิฬารีแลไม่ได้เป็นภรรยา | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | กุมารทองเห็นอึงจึงร้องว่า | ||
รำคาญหูดูดู๋แหกขี้ตา | เพื่อนบ้านเขาว่าเขาจะนอน | ||
อะไรมาหึงลมระงมอื้อ | จริงแล้วฤาแม่ขาฟังข้าก่อน | ||
พ่อแกแวะซื้อพลูดูละคร | หน่อยหนึ่งดอกไม่ยอกย้อนอย่าร้อนใจ | ||
ฉันเป็นพยานรู้อยู่ทั้งคน | เธอรีบร้นมาตามแม่แลข้อใหญ่ | ||
จริงหนาแม่พอแกไม่แชไช | ห้องนี้หลงเข้าไปดอกจริงจริง | ||
สักประเดี๋ยวก็กลับออกมา | เร็วนักหนาไม่ทันสมภิรมย์หญิง | ||
เห็นหน้าตากันฤาไม่ใจประวิง | ฉันก็กริ่งเห็นพ่อจะพอใจ | ||
คะนองหัวยั่วล้อทั้งพ่อแม่ | แอแฮแต่ละน้อยพลอยกันไขว่ | ||
ขอเสียเถิดจะช้าเรามาไป | เข้าผลักไสฉุดคร่าพาดำเนิน | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | แก้วกิริยามองแลชะแง้เหิน | ||
ลับตาเขาพากันเดินเกิน | ใคร่ตามไปคิดเขินน้ำใจนัก | ||
เห็นท่วงทีวันทองนี่นักหนา | เขายาวระฟ้าขวิดเกกกัก | ||
แว้งข้างแว้งคูดูเค็กคัก | ชะรอยจักขี้หึงเต็มที | ||
ตามไปก็จะไปเป็นเมียน้อย | ไม่รักไปรักป้อยแล้วจู้จี้ | ||
ปิดประตูรีบจรผ่อนสมประดี | น้ำตาปรี่อาลัยถอนใจฮือ | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||
โอ้ | |||
ถึงที่นอนเปิดมุ้งไล่ยุงริ้น | รวยรวยกลิ่นยังไม่สิ้นน้อยไปฤา | ||
ทอดตัววางตาค้างนอนหาวปรือ | อ้าปากหวอดกอดมือระทมทุกข์ | ||
ผุดลุกผุดนั่งไม่หลับใหล | ได้ยินเสียงอะไรแกรกกรุก | ||
ร้อนร่านรำคาญพล่านพลุก | เป็นตุ๊กตาล้มลุกม่อยหลับไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนวันทองกับกุมาร | ออกมาถึงนอกชานหน้าหอใหญ่ | ||
บ้าระบุ่นสัตวาที่เล่นไว้ | ทักอึงคะนึงไขว่อลวน | ||
ว่าใครนี้มาลักพาแม่วันทอง | เพรียกพร้องจอแจแซ่สับสน | ||
ขุนแผนสำคัญว่าเสียงคน | ชักดาบออกประจญประจัญรับ | ||
กุมารทองร้องบอกนกดอกพ่อ | วันทองหัวร่อว่าไม่ฟังศัพท์ | ||
แท้ทหารชำนาญในการทัพ | นกน่อยคอยขยับไหวพริบ | ||
ขุนแผนเดินเร่อเก้อสักหน่อย | บ่นค่อยค่อยในคอกระอุบกระอิบ | ||
วันทองว่าพูดดังดังอย่างุบงิบ | ขุนแผนว่าจะหยิบผิดกันอีกแล้ว | ||
ถึงประตูชานเรือนลงกระได | สกุณไก่มี่สนั่นขันแจ้ว | ||
ฤกษ์ปลอดตลอดคลาศแคล้ว | ดุเหว่าแว่วจวนรุ่งมุ่งไคลคลา | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลงเร็ว | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | ม้าหมอกหม่นรนร่านทะยานท่า | ||
ครั้นเห็นขุนแผนลงมา | จากเรือนเริงร่าเรียงราย | ||
เหลือบมาประสบพบวันทอง | แรงร้องทีทักด้วยจำด้าย | ||
เท้าหน้าเขี่ยคุ้ยตะกุยตะกาย | วุ่นวายแลบลิ้นเลียพลาม | ||
วันทองเคยป้อนกล้วยอ้อยให้กิน | จึงจำกลิ่นได้ไม่ระคางขาม | ||
วันทองทักว่ายังพ่วงพีงาม | นึกถึงความหลังนั่งโศกี | ||
ฯ ๖ คำ ฯ โอด | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | กุมารทองร้องเรียกฝูงผี | ||
สำแดงกายเป็นหมู่อสุรี | อึงมี่มาประชุมเป็นโกลา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนประโลมวันทองว่า | ||
เท่านั้นเถิดอย่าเศร้าโศกา | มาขึ้นม้าเถิดพี่จะพาไป | ||
จึงกระสันรัดอกเข้าให้ตึง | แล้วจึงมาแต่งตัววันทองให้ | ||
เสื้อหนังไก่ที่ปิดปากกระทายไว้ | หยิบเอามาให้ใส่นุ่งจีบโจง | ||
แพรห่มปากเถาเพลาะตะเบงมาน | โพกหัวดอกพุดตานโอ่โถง | ||
สอนว่าถึงม้าจะเผ่นโผนตะโพง | ยึดสายถือรั้งโยงอย่าวางมือ | ||
แล้วส่งเมียให้ขึ้นขี่ข้างหน้า | ผัวขี่หลังประคองมาชักสายถือ | ||
กุมารทองหัวร่อร้องอออือ | แฝดติดกันมีฤาฉันพึ่งพบ | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนว่าแสนแล้วเจ้ากุมาร | ท่วงทีดีจ้านเชิงประจบ | ||
แย้มพรายไม่ให้ใครทวนทบ | มาคบเด็กสร้างบ้านต้องตำรา | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โทน | |||
ม้าเอยม้าแซม | หมอกแกมมรกตเต็มหา | ||
รอบรู้ดั่งมนุษย์สุดปัญญา | วางหูหางไว้หน้าดั่งม้ายนตร์ | ||
เริงร่าออกมาถึงนอกบ้าน | เผ่นทะยานผ่านตามแนวถนน | ||
บันเทิงร้องหฤหรรษ์ร่านรน | สะเทินถูกดั่งม้าต้นไม่สะเทือน | ||
ระวังคนบนหลังไม่พลั้งพลาด | ม้าใดไม่ฉลาดเสมอเหมือน | ||
จะให้เร็วก็เร็วไม่พักเตือน | เดินไกลเป็นม้าเรือนดำเนินทาง | ||
อมนุษย์นำหน้าม้าสะพรั่ง | กุมารแบกกระทายรั้งยึดหาง | ||
กำบังไว้มิให้วันทองระคาง | จะตกใจผีสางคร้ามกลัว | ||
ให้เห็นกันแต่สามสี่ทั้งม้า | คะนองเล่นเจรจาเย้ายั่ว | ||
ดีใจประชิดจนติดตัว | เห็นใจผัวบ้างฤาไม่อาลัยรัก | ||
ฯ ๑๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองร้องว่าฉันคันมือนัก | ||
จะใคร่ลองเล็บเล่นดูสักพัก | นานแล้วต่อจักลืมฝีมือ | ||
ขุนแผนร้องตอบคำว่า | อย่าอย่ามิตกม้าลงไปฤา | ||
ข้ามิใช่หมื่นทนคนฦฦา | เช่นอ้ายตื้อหัวล้านมันทานทน | ||
ถึงหน้าเรือนพี่ขุนช้างสอนพญา | โรงนางม้ามีอยู่ริมถนน | ||
พอสีหมอกร้องร่านรน | นางม้ายินสับสนรนร้อง | ||
คราวสัดสำเนียงอัสดรผู้ | หื่นคู่กระทืบโรงตะโกรงก้อง | ||
ขุนแผนจึงถามวันทอง | ม้าผู้เมียของใครน้องเลี้ยงไว้ | ||
วันทองบอกนางม้าสอนพญา | เขาแลกมาม้าพาลบ้านผักไห่ | ||
กระบือถอนบ้านเชี่ยนเปลี่ยนกันไป | ขุนแผนดีใจหยุดรอรั้ง | ||
ว่าแก่วันทองน้องพี่ | หยุดที่นี่สักประเดี๋ยวอย่าหักหลัง | ||
ให้กุมารทองอยู่ระไวระวัง | พอสมหวังดั่งคิดที่จิตจง | ||
ขมีขมันโดดลงจากอาชา | รีบมาหมายได้เหมือนใจประสงค์ | ||
กำหนดเสียงม้าร้องมั่นคง | เดินตรงมุ่งไปด้วยปรีดา | ||
ฯ ๑๔ คำ ฯ กราวรำ | |||
ร่าย | |||
ถึงเอยถึงรั้ว | ขัดแตะทึบทำยังชั่วแน่นหนา | ||
เอาฟ้าฟื้นฟาดฟอนรอนรา | แตะพังออกไม่ช้าก็เข้าไป | ||
ถึงโรงม้ามองเมียงฟังดู | กองเพลิงสุมอยู่ยังสงสัย | ||
คนเลี้ยงหลับฤาตื่นฉันใด | ไม่ไว้ใจก็สะกดเสียฉับพลัน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ ตระ | |||
ร่าย | |||
บัดนั้น | อ้ายอึ่งควาญม้าข่าคำมั่น | ||
เทศกาลลมว่าวหนาวงกงัน | คืนนั้นนอนไม่หลับจับหืดงอ | ||
ผิงไฟเอาตุ้งก่ามาชัก | ดังคลอกคลักดื่มดูดปากผลอ | ||
บังหวนควันซูดซืดฝืดคอ | ต้องสะกดกรนฝอล้มหลับไป | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนสังเกตว่าคนหลับใหล | ||
เข้าไปในโรงม้าทันใจ | ฟางไฟริบหรี่มอซอ | ||
จึงนั่งโก้งโค้งกระโพงเป่า | เอาฟืนฝอยใส่เข้าเร่งก่อ | ||
ลุกโพลงสว่างกระจ่างพอ | เห็นอ้ายข่างอนหง่อคุดคู้ | ||
เหลือบซ้ายแลขวาทั่วไป | เบาะบางแขวนไว้ก็มีอยู่ | ||
เข้าไปปลดเอามาพินิจดู | ก็รู้ว่าเบาะโคราชได้ไหนมา | ||
แล้ววางไว้พบก้นไต้ไปจุดส่อง | อ้ายสอนพญาจองคร่องเกลียดน้ำหน้า | ||
ทำโพงโสงน้อยฤาเกินหน้าตา | ชาติข้าจองหองเหมือนน้องชาย | ||
คิดว่ามีม้ามากปลูกโรงโกง | ตัวเดียวโป้งโหยงก็เป็นได้ | ||
เลี้ยงม้าตัวเมียขี่ไม่มีอาย | แต่รูปดีแซมทรายสูงใหญ่ยาว | ||
ท่วงทีเดินทางจะทนอด | ปะทัดหลังดำหมดชาติปากขาว | ||
นัยน์ตาก็ไม่กาววาว | ข้อเท้ากลมกล่อมกีบฝักบัว | ||
จึงถอดขลุมเอาบังเหียนใส่เข้า | ดูหน้าตาสอดเปลายังชั่ว | ||
เอาเบาะบางพาดผูกเครื่องตัว | หยิบเอาสุ่มครอบหัวอ้ายข่าไว้ | ||
แล้วจูงเอานางม้ามานอกบ้าน | โดดทะยานขึ้นหลังลองขับใหญ่ | ||
สะเทินเรียบสนิทสนมก็ดีใจ | วันทองพอจะขี่ได้ก็ขับม้า | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ เชิด | |||
ร่าย | |||
มาเอยมาถึง | ที่วันทองกับกุมารคอยท่า | ||
ที่ต้นทองโหลงใหญ่เยื้องบ้านมา | บอกว่าไปหาม้ามาได้ดี | ||
ตั้งใจเอามาให้วันทอง | สนิทดีจริงน้องน่าขับขี่ | ||
ต่างคนต่างลงจากพาชี | สุขเกษมเปรมปรีดิ์กันสองคน | ||
ฯ ๔ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
ขุนแผนดำริตริว่า | จำจะด่าขุนช้างเล่นให้ปี้ป่น | ||
ลูกอีเถ้าเทพทองสาละวน | เก่นก่นเสียให้หมดเหล่าปราณ | ||
จึงว่าวันทองน้องพี่ | หยุดประเดี๋ยวธุระมีจะแต่งสาร | ||
ไว้ให้หม่อมสหายหัวล้าน | ป่าววงศ์วานไปตามอย่ารั้งรอ | ||
จึงเอาดาบถากเปลือกทองโหลงใหญ่ | เอาถ่านไฟเขียนใช้ต่างดินสอ | ||
จะเล่นลิ้นว่าเล่นให้พอพอ | ลวงล่อล้อให้มันเดือดดาล | ||
ครั้นเขียนสำเร็จเสร็จแล้ว | พลายแก้วอวดโอ้ด้วยโวหาร | ||
อ่านให้วันทองพรายกุมาร | ศุภสารของเราเสนาะดี | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ช้า | |||
ในลักษณ์ว่านายพลายแก้ว | เลิศแล้วถึงตามไปไม่มีหนี | ||
เจ้านายชุบเลี้ยงโปรดเต็มที่ | วิชาการมนตร์มีขลังนัก | ||
ได้เป็นขุนแผนแสนณรงค์ | อาจทะนงสมกันกับยศศักดิ์ | ||
ลูกอีเถ้าเทพทองทำคึกคัก | หมายจะหักเอาด้วยทรัพย์เชื่อดี | ||
คบมิตรทำลายมิตรไม่คิดบาป | นิยมหยาบเอออะไรเช่นนี้นี่ | ||
ภรรยาของเขาเจ้าผัวมี | ไม่คิดที่จะเป็นเวรากรรม | ||
ไม่ส่องกระจกดูหน้าตาหัวหู | เศษบาปกินยังจะรู้อ้ายหัวหำ | ||
ผมเผ้าไฟนรกเลียระยำ | ไม่นึกคลำดูบ้างหาไม่เลย | ||
คอยลอดตอดขบกันลับลับ | โกหกสับปลับสุดแล้วเหวย | ||
จนลาวทองต้องพรากจากเชย | มึงเอ๋ยทำแค้นกูแสนทวี | ||
ความสัตย์ไม่รักษาสัตย์ | สบถแล้วก็สะบัดเสียกับที่ | ||
กูมาแก้แค้นมึงวันนี้ | ตลุนตุ๋นกลิ้งขี้นอนกรน | ||
จะห้ำหั่นบั่นเสียก็จะได้ | ตายแล้วเกิดใหม่สักร้อยหน | ||
เสียดายดาบฆ่าอ้ายมิใช่คน | กูขึ้นเรือนใช่ทำวนข้าวของใคร | ||
ใช่ผู้ร้ายสะกดปล้นค้นสมบัติ | สารพัดหาปรารถนาไม่ | ||
ทุบต่อยเล่นตามสบายใจ | พาแต่เมียกูไปเร่งไปตาม | ||
ขุดอ้ายศรีวิชัยเอาไปด้วย | ป่าวพวกพ้องไปช่วยก็ไม่ขาม | ||
อ้ายราชพญาสอนพญาฝูงบ้ากาม | ซุ่มซ่ามให้หมดสิ้นเหล่ากอ | ||
คนเดียวแลจะสู้ให้ดูเล่น | ครั้งนี้แลจะเห็นฝีมือพ่อ | ||
ไม่อวดตัวสรรแสร้งแกล้งยกยอ | คูฆอเขียนเสือให้วัวกลัว | ||
จะไปคอยอยู่ที่กลางป่า | อย่านอนใจให้ช้ามุดหัว | ||
มึงก็เป็นคนดีมิใช่ชั่ว | เป็นทหารต้มถั่วซนไฟ | ||
เขาเลื่องชื่อลือขลาดเองนักหนา | อ้ายขี้ข้าพญาศรีใส | ||
อย่าไปมือเปล่าตามโคมไป | จะเอาบุหรี่ไปคอยไว้อย่าปรารมภ์ | ||
มึงไปถึงเมื่อไรจ่อจุด | จะสูบให้อุตลุดควันกระหม | ||
อ้ายสองหน้าชาติข้ามิใช่พรหม | หน้ากลมกลมข้างท้ายทอยตาไม่มี | ||
ฯ ๒๖ คำ ฯ | |||
ถอนร่าย | |||
วันทองขวยเขินค้อนให้ | กุมารทองชอบใจว่าถูกที่ | ||
ชวนกันสุขเกษมเปรมปรีดี | ขึ้นพาชีรีบเร่งขับไป | ||
ให้นางม้าวันทองขี่ไปหน้า | ม้าหมอกรอรามาเคียงใกล้ | ||
ขุนแผนคอยประคองไม่ไว้ใจ | กุมารทองระวังระไวม้าวันทอง | ||
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด | |||
ร่าย | |||
เดือนเอยเดือนดับ | แสงเงินจับนภดลหับหนห้อง | ||
เวหาสน์เรื่อเรื่อสุวรรณเรืองรอง | โอภาสส่องพื้นฟ้านภาดล | ||
อรุณรุ่งพุ่งดวงสุริเยศ | เสด็จประเวศเผ่นผยองล่องเวหน | ||
ขุนแผนวันทองพากันจรดล | พอรุ่งขึ้นถึงตำบลตำหนักเย็น | ||
ที่ประทับท้าวพญามาแต่ก่อน | ร่มกาหลงไม่มีร้อนน่านอนเล่น | ||
รวยรวยกลิ่นอ่อนอ่อนขจรรำเพ็ญ | ที่ทางเห็นสนุกสนานนัก | ||
ใกล้พระแท่นดงรังหนองขาว | ระยะยาวสักกึ่งร้อยรอยกรุยปัก | ||
ลับลี้ควรที่จะหยุดพัก | ค่ำจึงจักไปด้วยกับแสงจันทร์ | ||
คิดแล้วจึงว่าแก่วันทอง | หยุดที่นี่ก่อนน้องผ่อนผัน | ||
พักร้อนนอนเสียเถิดกลางวัน | คืนนี้เราเคี่ยวกันรุ่งกับตา | ||
เดินมาเที่ยวเลาะเราะหาที่ | ใต้กาหลงต้นนี้เตียนนักหนา | ||
ขุนแผนวันทองลงจากม้า | แก้เครื่องอาชาเสียทันใจ | ||
จึงเรียกกุมารทองมาสั่ง | พ่อจงไประวังริมทางใหญ่ | ||
ใครมาตามให้รู้แต่ไกลไกล | โหงพรายนั้นให้ไปล้อมวง | ||
ให้เอาม้าไปอาบน้ำกินหญ้า | แล้วไปหาผลไม้เอามาส่ง | ||
เอาเบาะม้าแผงข้างวางปูลง | ร้อนแสงสุริยงทับหลังตา | ||
คิดกำจัดอมนุษย์ให้ไปหมด | ทอดรันทดลงที่ใต้พฤกษา | ||
สัพยอกหยอกเย้าภรรยา | แก้กันชีพหลังมาออกแบ่งปัน | ||
ของกินพ่อม่ายไร้เมีย | มันชั่วประดาเสียไม่น่าฉัน | ||
มากินเถิดตามแกนด้วยกัน | อย่าถือเชิงถือชั้นจะแสบท้อง | ||
ฯ ๒๐ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองสำรวลสรวลสนอง | ||
ท่านผู้หญิงแต่ละคนเนื้อเป็นทอง | แต่ล้วนเหล่าเผ่าพ้องผู้ครองเมือง | ||
ไม่ควรเลยหนอท่านคุณผู้ชาย | จะมาว่าเป็นม่ายเคี้ยวเอื้อง | ||
คราวชาตาเฟื้องฟุ้งรุ่งเรือง | กำลังเปรื่องแล้วเป็นไรเล่าหม่อมพลาย | ||
ฉันอีกเป็นคนชั่วช้า | ระอาหน้าดำมอมหมึกหมาย | ||
หม่อมจะพลอยขายหน้าได้อาย | มันไม่เป็นโล้พายดอกพ่อคุณ | ||
บ่นพลางทางเสพผลาหาร | สองสมานผูกพันเป็นควันกรุ่น | ||
เป็นไก่เก่าไม่ให้หลวมกรวมประทุน | แต่ละน้อยคอยตลุ่นในเชิงชั้น | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | ขุนแผนสำรวลสรวลสันต์ | ||
ชั่วดีน้องพี่ไม่อย่างนั้น | คำบุราณกล่าวมั่นแต่ก่อนมี | ||
ท่าน้ำศาลานทีหญิง | สามสี่สิ่งจะว่าแดนของใครนี่ | ||
ธรรมดาเคราะห์ร้ายเคราะห์ดี | ปรปวาทใครที่จะหนีพ้น | ||
สุดแต่ใจน้ำใจเจ้ากับข้า | ถ่มน้ำลายรดฟ้าเวหน | ||
ใครถ่มก็จะล่นลงต้องตน | ทำวนบ่นเพ้อเออรำคาญ | ||
แต่เราจำจากพรากกันมา | อย่าเนิ่นนักชักช้าหน่วงสมาน | ||
เขยื้อนขยดเข้าใกล้เกือบได้การ | ตะกวดควานเข้ามาชิดคิดว่างู | ||
วันทองโลดขุนแผนโดดตกใจ | เห็นตะกวดทุดจัญไรแกล้งจู่ลู่ | ||
มาชิงพลบเมื่อจะสบปูนกับพลู | อีกสักครู่จะแผ่แบกิน | ||
เบี้ยหน่วยจนพลิกไพล่ไปเป็นครบ | น่าตีให้บัดซบสลบดิ้น | ||
ให้วันทองน้องข้าพลอยตื่นบิน | เจ้าเอยผินมาข้างนี้มิใช่งู | ||
มามาน้องลองเล่นเห็นถิ่นแปลก | กับอันแรกจะผิดบ้างอย่างไรอยู่ | ||
หยิบเอาเล็ดกระเบาเข้ามองดู | ประหลาดหนอไม่รู้จักเลย | ||
ร้องกระโวยกระวายเข้ามาว่านี่ | เราได้ของดีน้องพี่เอ๋ย | ||
นั่งลงทำพินิจพิศชูเชย | ของไม่เคยได้เห็นทำเล่นล้อ | ||
ฯ ๑๖ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
เมื่อนั้น | วันทองอมสรวลสันต์กลั้นหัวร่อ | ||
เอามือปิดปากไว้ไอในคอ | กระแอมข้อระคนปนจาม | ||
เมียงเข้ามาครั้นใกล้ทรุดไพล่นั่ง | ขอดูมั่งเป็นไรทำไถ่ถาม | ||
ลวงหลอกดอกกระมังพ่อโฉมงาม | เพลงข้างล่อต่อความขยันนัก | ||
ขุนแผนทำกมุดกมิดปิดป้อง | เอาขึ้นส่องร้องว่าพึ่งรู้จัก | ||
ดูสิเจ้าเห็นจะพราววาวน่ารัก | นี่ยังหมกอยู่ในฝักจึ่งมอยอ | ||
ว่าพลางทางขยดเข้าไปใกล้ | แบมือออกพี่จะให้ไม่ให้ขอ | ||
ขมับมือแบกำทำแลล้อ | ดีดดังหวอร้องปร๋อปรื๋อบินไป | ||
ฯ ๘ คำ ฯ | |||
ร่าย | |||
วันทองว่าหม่อมแล้วเป็นเช่นนี้ | มีแต่ลวงสับปลี้น่าหมั่นไส้ | ||
ค้อนขวับทีขยับเขยื้อนไกล | ขุนแผนทับตักไว้มิให้ลุก | ||
ฯ ๒ คำ ฯ | |||
โอ้โลม | |||
แน่เอยแน่เจ้า | พี่จะเล่านิยายให้สนุก | ||
ธรรมดาสัตว์ในวัฎทุกข์ | ลูกกบเป็นปลาดุกไปก็มี | ||
ผลกระเบางอกปีกบินไปได้ | น่าอัศจรรย์ใจนักน้องพี่ | ||
เจ้าจะว่าโป้ปดก็ตามที | เหมือนกรวดสำโรงโด่งหนีไปกับมือ | ||
ทางภิรมย์เกลียวกลมสมสวาท | เอนอิงพิงพาดสัมผัสถือ | ||
ประโลมประเล่าเบาเบามิให้ครือ | เป็นตัวสืออยู่ด้วยกันรู้ชั้นเชิง | ||
วันทองท่วงทีดีป้องปิด | ขุนแผนสะกิดล่อล้อให้หลงเหลิง | ||
ไว้ทีหนีทีไล่ให้กระเจิง | ต่างสำเริงเชิงสนิทชิดกลมเกลียว | ||
ฯ ๘ คำ ฯ โลม | |||
อัศจรรย์ในอรัญถิ่นประเทศ | โดยสังเกตแปลกเปลี่ยนกระเสียนเสียว | ||
สองเกษมเปรมปริ่มกระหยิ่มเจียว | ลัดาเกี้ยวเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกัน | ||
แฝกคาหญ้าระบัดในภูมิประเทศ | บันดาลเหตุทั่วทำเลพลอยป่วนปั่น | ||
จัตุบาททวิบาทที่เหล่านั้น | ก็ผกผันตื่นเต้นเล่นประลอง | ||
สัตว์ใดที่พอใจคะนองน้ำ | ก็เวียนผุดเวียนดำประจำหนอง | ||
วารีขุ่นข้นระคนฟอง | สองกระกองปองสวาทสมมาตรครัน | ||
ฯ ๖ คำ ฯ | |||