สุขุมาลนิพนธ์
จาก ตู้หนังสือเรือนไทย
 (→โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง)  | 
		 (→ที่มา)  | 
		||
| (การแก้ไข 8 รุ่นระหว่างรุ่นที่เปรียบเทียบไม่แสดงผล) | |||
| แถว 280: | แถว 280: | ||
===ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ===  | ===ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ===  | ||
ทรงนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒  | ทรงนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ขษณพระพุทธศก   ตกสองพันสี่ร้อย  | ||
| + | ห้อยเศษหกสิบสองปี   วีสะดิถีมิถุนายน  | ||
| + | ดลอภิลักขิตสมัย   ในพระเจ้าบรมวงศ์  | ||
| + | กรมพระยาดำรงราชานุภาพ   คาบพระชนม์คำณวน  | ||
| + | ประมวลกึ่งสตพรรษ   อีกเศษอัฐฉนำกาล  | ||
| + | มานพระหฤทัยจำนง   ประสงค์กอปกุศลอุทิศ  | ||
| + | เปนนิรามิสราชพลี   แด่ภูวบดีปิยมหาราช  | ||
| + | ทั้งพระบาทบรมอัยกา   ราชปิตุลาบวรอิศเรศ  | ||
| + | เหตุสมภาคมายุสม์   ลุอำนวยทานสงฆ์  | ||
| + | ปลงธนสารบำรุง   ผดุงสภากาชาดสยาม  | ||
| + | พยาบาลพระนามบัญญัติ   ข้อยมีมนัสปราโมทย์  | ||
| + | มาโนชในพระกุศล   จึงนิพนธ์ถวายชัย  | ||
| + | ด้วยน้ำใจสุทธิ์สอาด   สรวมอำนาจพระรัตนตรัย  | ||
| + | อีกไทยเทพทรงมหิทธิศักดิ์   ซึ่งพิทักษ์สยามณาเขต  | ||
| + | สรวมพระเดชนฤบดินทร์   เจ้าสยามินทร์ห้าพระองค์  | ||
| + | ทรงแผ่พระเดชานุภาพ   ปราบปวงอุปัทวภัย  | ||
| + | ไกลอุปสัคไกลโศก   นิราสโรคนิราสทุกข์  | ||
| + | เนืองนิตย์ยุกต์สุขารมณ์   อุดมพระปรีชาเชาวน์  | ||
| + | เนาประมุขโบราณคดี   ทวีพระยศฦาเลื่อง  | ||
| + | เฟื่องกิตติคุณฦาเลวง   ล้ำยิ่งเพรงบันดาล  | ||
| + | พระชนมานยืนยง   ธำรงวังวรดิศ  | ||
| + | พิพิธสุขพิศาล   กอปศฤงคารไพบูลย์  | ||
| + | วงศ์ประยูรพรั่งพร้อม   น้อมมนัธยาศัย  | ||
| + | ในพระเมตตาคุณ   การุญรักษ์ดิเรก  | ||
| + | เฉกโพธิพฤกษ์ฉายา   ร่มบริจาร์แลดนัย  | ||
| + | เหล่าข้าไทยทั้งผอง   ใดธปองจงประสบ  | ||
| + | ใดธปรารภจงสัมฤทธิ์   สิทธิดังมโนหวัง  | ||
| + | ดังข้อยผู้ภคินี   อื้นวจีพจน์สุนทร  | ||
| + | อำนวยพระพรถวายฉนี้   สรวมเทพช่วยชี้  | ||
| + | ช่องให้คงเขษม   โสตถิ เทอญ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===โคลงตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ===  | ===โคลงตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ===  | ||
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒  | ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | '''โคลงของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ'''  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ฝาตลับรูปไข่ถ้วย   ทูลถวาย  | ||
| + | เฉกเช่นไข่ขวัญหมาย   อรรถชี้  | ||
| + | นิพนธ์พจนแทนบาย   ศรีปาก ชามแฮ  | ||
| + | สมโภชวันเฉลิมนี้   เพิ่มพร้อมพรถวาย ฯ  | ||
| + | |||
| + | ๏ สมเด็จพระพี่เจ้า   จอมสยาม  | ||
| + | จงโปร่งปราศพยาธิความ   ขุ่นไข้  | ||
| + | เสวยสุขสวัสดิ์งาม   วรรณผ่อง เพ็ญเทอญ  | ||
| + | เจริญพละพระชนม์ให้   ร่วมร้อยปีประมาณ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | '''โคลงทรงตอบแทนทูลกระหม่อมหญิง'''  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ไข่ถ้วยแทนไข่เข้า   เฉลิมขวัญ  | ||
| + | อีกพจนประพันธ์อวย   สวัสดิ์พร้อม  | ||
| + | ประทานลูกสมัยวัน   อุปัติศก นี้นา  | ||
| + | ลูกธมาโนชน้อม   นบน้อมขอบพระคุณ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===กาพย์ตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ===  | ===กาพย์ตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ===  | ||
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓  | ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | '''กาพย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ'''  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | <sub>๑๖</sub>  | ||
| + | ๏ สถิติสถานบ้านแป้งแหล่งตำบล   จวบกันยายน  | ||
| + | สิบสี่ประสบครบดิถี  | ||
| + | ๏ เฉลิมชนม์พระเชฏฐภคินี   สมเด็จกษัตรี  | ||
| + | ศรีรัตนโกสินทร์สมร  | ||
| + | ๏ อยู่ไกลใคร่จะถวายพร   จึงเพียรเขียนกลอน  | ||
| + | จำทูลถวายอย่างต่างตน  | ||
| + | ๏ ลูกหลานว่านเครือหลายคน   ก็บอกยุบล  | ||
| + | ให้กราบบาทมูลทูลผสม  | ||
| + | ๏ ร่วมใจปรีดาสารภิรมย์   ยอกรบังคม  | ||
| + | ถวายพรพิพัฒน์สวัสดี  | ||
| + | ๏ ให้ทรงสุขเกษมเปรมปรีดิ์   ทุกทิวาราตรี  | ||
| + | อย่ารู้นิราสคลาดคลาย  | ||
| + | ๏ ผ่องพระฉวีพรรณราย   ดุจเดือนเด่นฉาย  | ||
| + | มลทินพยาธิขาดสูญ  | ||
| + | ๏ เจริญพละพระกำลังเพิ่มพูน   สมบุรณบริบูรณ  | ||
| + | ทุกสิ่งทรงมาทปรารถนา  | ||
| + | ๏ ขอให้เจริญพระชันษา   ยั่งยืนวัฒนา  | ||
| + | การเกิดประโยชน์โพธิผล  | ||
| + | ๏ ได้ทรงสมาทานการกุศล   ปรฏิบัติพระชน  | ||
| + | นีแลเลี้ยงเหล่าประยูร  | ||
| + | ๏ อุปการ์ข้าไทเอาธูร   โอบเอื้อเกื้อกูล  | ||
| + | ตลอดจนเหล่าชาวประชา  | ||
| + | ๏ จิรฐิติกาลนานช้า   เรือนร้อยพรรษา  | ||
| + | ให้สมดังสัจอธิฐาน ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | '''ทรงตอบแทนทูลกระหม่อมหญิง'''  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | <sub>๑๖</sub>  | ||
| + | ๏ จวบวันอุบัติกาล   ณวารที่สิบสี่กันย์  | ||
| + | ได้รับลายพระหัตถ์อัน   ไพเราะห์พจนพาที  | ||
| + | ๏ ข้อยมีมนัสนึก   รฦกในพระอารี  | ||
| + | แก่ภาคินัยมี   ประจำมั่นนิรันดร  | ||
| + | ๏ ขอโอนศิโรดม   บังคมรับบวรพร  | ||
| + | ด้วยกาพย์ลำเนากลอน   อันแต่งโดยพระมารดา  | ||
| + | ๏ อนึ่งปวงประยูรวงศ์   ทุกองค์ร่วมพระหัทยา  | ||
| + | แด่ปิตุลปิตา   อำนวยศุภมงคล  | ||
| + | ๏ ขอเธอทั้งหลายจง   ธำรงสุขสถาผล  | ||
| + | โรคภัยอันใดดล   พลันบำราศประลาตไกล  | ||
| + | ๏ สรวมพรชมัยพร   จงประสิทธิ์ทุกสิ่งไกษย  | ||
| + | อำนาจสัจวจีใจ   ประจวบปองสนองเสนอ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===โคลงแลกลอนสำหรับสอดในชักเปี๊ยะพร้อมกับแหวน===  | ===โคลงแลกลอนสำหรับสอดในชักเปี๊ยะพร้อมกับแหวน===  | ||
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔  | ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | '''คำอธิบาย'''  | ||
| + | |||
| + | เมื่อปีระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ เจริญพระชันษาครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์  ในงานฉลองพระชันษาได้ทรงเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระบรมวงศ์ทั้งพระองค์ชายและพระองค์หญิงไปเสวยเวลาค่ำ ณ วังบางขุนพรหม  เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคมเนื่องในของซึ่งแจกชำร่วยที่โต๊ะเสวยนั้น  สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ ทรงพระดำริห์ให้สร้างพระธำมรงค์ลงยาสีตามวันประสูติของเจ้านายที่ประทับเสวยทุกพระองค์  แล้วทรงพระนิพนธ์กลอนต่างๆ ซึ่งพิมพ์ต่อไปนี้บทหนึ่ง สำหรับกำกับพระธำมรงค์วงหนึ่ง  หมายจะซ่อนไว้ด้วยกันในห่อชักเปี๊ยะวางไว้ตรงที่ประทับทุกพระองค์  สำหรับจะได้ทรงชักเปี๊ยะได้ธำมรงค์แลทรงอ่านบทกลอนเปนของฉลากประกอบความรื่นเริง แต่ต่อมาเปลี่ยน กระแสพระดำริห์ งดบทกลอนเหล่านี้ มาได้พิมพ์ห่อพระธำมรงค์แจกไม่  | ||
| + | |||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ประวิชวรรณประจำวาร   ประสูติท่านทุกองค์มา  | ||
| + | ประชุมเลี้ยงกระยาพา   หทัยเริงสราญรมย์  | ||
| + | ๏ ผิทรงจับฉลากได้   มิตรงสีประสูติสม  | ||
| + | พระหัตถ์สอดมิชวนชม   นิยมใช้บมีดี  | ||
| + | ๏ ประทานส่งพระวงศ์ใด   ประสบวรรณประสูติมี  | ||
| + | ประสงค์เสาะฉเพาะสี   ประสูติทรงจะส่งสวย  | ||
| + | ๏ เจริญอายุวรรณ   สุขเพิ่มพลังรวย  | ||
| + | พระยศยิ่งภิยโยพวย   พพุ่งเกียรติกำจร ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ สียาในประวิชนี้   สำหรับ วันแฮ  | ||
| + | ท่านอุบัติวันใดจับ   ฉลากได้  | ||
| + | ไป่เหมาะจุ่งเปลี่ยนสับ   กันแหละ กันนา  | ||
| + | ให้สบวันท่านใช้   สอดนิ้วในงาร ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ประวิชน้อยห้อย ส.ม.   มีสีพอครบเจ็ดวัน  | ||
| + | ชักเปี๊ยะฉลากอัน   บรรจงห่อมาวางถวาย  | ||
| + | ๏ แม้สีมิต้องวาร   ประสูติท่านจงขวนขวาย  | ||
| + | แลกเปลี่ยนอย่าดูดาย   ให้สีตรงจึงทรงงาม ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ธำมรงค์วงน้อยในฉลาก  | ||
| + | มีสีมากเบ็จเสร็จครบเจ็ดสี  | ||
| + | ผิดสีวันประสูติใช้ไม่เข้าที  | ||
| + | ทรงเปลี่ยนกันสรรที่สีตรงวัน ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ฉลากแหวนก้านพลูน้อย   สีต่างห้อยนามสุขุมาล  | ||
| + | เสร็จเสวยพระอาหาร   โปรดสรรทรงให้ตรงวัน ฯ  | ||
| + | ๏ สีแหวนแผกมิพ้องวาร   อุบัติท่านจงแปรผัน  | ||
| + | เปลี่ยนผัดซึ่งกันแลกัน   คงได้เหมาะฉเพาะสี ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ฉลากแหวนแทนขอบพระคุณเหลือ  | ||
| + | ที่ทรงเอื้อเสด็จมาเลี้ยงอาหาร  | ||
| + | สีน้ำยานี้ประสงค์ให้ตรงวาร  | ||
| + | ประสูติท่านทุกพระองค์ที่ทรงรับ  | ||
| + | แม้นสีไม่เหมาะส่งพระวงศ์แลก  | ||
| + | ถ้ายังแผกสีเวียนเที่ยวเปลี่ยนสับ  | ||
| + | คงสบเหมาะเพราะได้คิดพินิจนับ  | ||
| + | ได้ตรงกับวันพระวงศ์ทุกองค์ เอย ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ธำมรงค์ที่ทรงจับฉลากได้  | ||
| + | ถ้าสีไม่เหมาะวันพระชันษา  | ||
| + | โปรดส่งสับกับองค์ที่มีสียา  | ||
| + | ตามตำรานามวันฉนั้น เทอญฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ธำมรงค์ไร้มณีสียาต่าง  | ||
| + | ถ้วนเจ็ดอย่างตามวันพระชันษา  | ||
| + | สีไม่ถูกวันอุบัติขัดตำรา  | ||
| + | ทรงไปไหนขายหน้าท่าไม่ดี  | ||
| + | จงเปลี่ยนกันกับพระวงศ์ที่ทรงรับ  | ||
| + | คงจะจับได้วงที่ตรงสี  | ||
| + | สวมพระหัตถ์วัฒนสวัสดี  | ||
| + | ทุกเมื่อมีสุขเกษมเปรมกมล ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ สีแสงแดงโลหิต   คู่วันอาทิตย์พิศตาตรู  | ||
| + | สีด่อนจันทรหรู   สีชมพูคู่วันอังคาร  | ||
| + | ๏ พุธเขียวพฤหัสเหลือง   ศุกร์เรืองน้ำเงินสอ้าน  | ||
| + | เสาร์ดำคล้ำสคราน   ถ้วนเจ็ดวารสีธำมรงค์  | ||
| + | ๏ ท่านได้ไม่ถูกวัน   เชิญเปลี่ยนกันตามประสงค์  | ||
| + | เลือกสรรให้สีตรง   ทรงสวมหัตถ์เพิ่มสวัสดี ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ แหวนสีแดงท่านให้แต่งวันอาทิตย์  | ||
| + | ฉลากผิดวันพระองค์จงหาใหม่  | ||
| + | แลกเจ้าน้องหรือเจ้าพี่มีถมไป  | ||
| + | ได้สวมใส่นิ้วพระหัตถ์ชัดตำรา ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ พระจันทรจรกระจ่างในกลางหาว  | ||
| + | แหวนสกาวเทียบสีดีหนักหนา  | ||
| + | ถ้าไม่พ้องวันพระองค์จงทรงพา  | ||
| + | แหวนที่ได้ไปหาแลกมาทรง ฯ  | ||
| + | ประวิชสีที่ทรงจับฉลากได้  | ||
| + | ถ้ามีไม่เหมาะวันพระชันษา  | ||
| + | จงเปลี่ยนสับกับท่านทุกองค์มา  | ||
| + | เสวยอาหารด้วยกันวันนี้ เทอญ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ วันใดท่านสมภพ   สบสีใดในประวิชน้อย  | ||
| + | จุ่งท่านสรรสอดก้อย   เพื่อต้องตามวัน ท่านนา ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ถ้าแหวนผิดวันพระองค์ทรงสมภพ  | ||
| + | จงปรารภแลกลองพี่น้องท่าน  | ||
| + | แม้ประสบพบสีที่ตรงวาร  | ||
| + | ขอประทานเปลี่ยนมาอย่าช้าที ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ประวิชวงที่ทรงหัตถ์   ถ้าสีซัดมิต้องวัน  | ||
| + | ใครเห็นจะเย้ยหยัน   จงแลกกันให้ตรงวาร ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ อังคารคู่ชมพูสีที่ประวิช  | ||
| + | ถ้าแม้ผิดวันพระองค์จงเปลี่ยนผลัด  | ||
| + | ให้ต้องสีเหมาะตรงไม่หลงพลัด  | ||
| + | สวมพระหัตถ์วัฒนสถาพร ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ ถ้าได้แหวนผิดวันจงหันเหียน  | ||
| + | เวียนถามตามพี่น้องท่าน  | ||
| + | คงสมใจได้สีที่ต้องการ  | ||
| + | ขอประทานเปลี่ยนวงสมทรงงาม ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ แหวนเอยแหวนลงยา  | ||
| + | สีสัปดาห์ครบวันท่านอุบัติ  | ||
| + | ดูจงดีอย่าให้สีมันจับพลัด  | ||
| + | ทรงสวมหัตถ์จะได้งามตามบุราณ ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ แหวนสีสัปดาหะ   กะถ้วนวันประสูติแล้ว  | ||
| + | ผิวท่านได้ฉลากแคล้ว   คลาดพ้องเชิญเปลี่ยน กันนา ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===โคลงสุภาสิต===  | ===โคลงสุภาสิต===  | ||
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ และ ๒๔๖๘  | ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ และ ๒๔๖๘  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | ๏ นฤบดีเสื่อมเพราะใช้   มนตรี ชั่วแฮ  | ||
| + | เสื่อมพรตเพราะกลี   คลุกเคล้า  | ||
| + | ลูกเสื่อมเพราะปล่อยฟรี   ฟุ้งเฟิสต์ เคยแล  | ||
| + | พราห์มณเสื่อมเพราะค่ำเช้า   ครุ่นคร้านเรียนมนต์ ฯ  | ||
| + | |||
| + | ๏ ลูกชั่วชักให้เสื่อม   สกุลตน  | ||
| + | ศีลเสื่อมเพราะปนพาล   เพาะมล้าง  | ||
| + | อายเสื่อมเพราะโม่ห์มนท์   เมาดื่ม  | ||
| + | เพาะปลูกเสื่อมทรามร้าง   เพราะคร้านดูแล ฯ  | ||
| + | |||
| + | ๏ เสื่อมสิเน่ห์เพราะเริศร้าง   แรมไกล  | ||
| + | เสื่อมมิตรเพราะเอื้อใน   มิตรน้อย  | ||
| + | เสื่อมทรัพย์เพราะรั่วไหล   จ่ายมาก  | ||
| + | เสื่อมสัจตนต่ำต้อย   เสื่อมผู้บูชา ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
===เพลงยาวกลบท===  | ===เพลงยาวกลบท===  | ||
| + | |||
| + | เพลงยาวกลบท  | ||
| + | |||
| + | '''ปรารภ'''  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | <sub>ตะเข็บไต่ขอน</sub>  | ||
| + | ๏ หทัยประสงค์ผจงลิขิตประดิษฐ์สนอง  | ||
| + | เสนอขนิษฐ์พินิจยุบลนุสนธิ์คนอง  | ||
| + | ขณสมองฟฟุ้งฟเฟื่องวิชากวี  | ||
| + | สถิตณเรือนเสมือนธุระบพะบพ้อง  | ||
| + | จะตฤกจะตรองก็คล่องอุราประสาประสี  | ||
| + | ผิบทลบองมิต้องระบอบระเบียบวิธี  | ||
| + | ก็หวังธมีพระทัยนุเคราะห์เฉพาะกรุณย์  | ||
| + | ฤาเขินฤาขวางณทางอักษรแลกลอนสำผัส  | ||
| + | ก็คงจะตัดจะเติมประดับสนับสนุน  | ||
| + | ผสานผสมนุกรมลำนำช่วยค้ำช่วยจุน  | ||
| + | จะขอบพระคุณมิรู้จะเบื่อละเมื่อละคราว  | ||
| + | ณกลอนขบวรเชิงชวนสังวาสนิราสแลภ้อ  | ||
| + | จะเรียบจะเรียงมิเพียงมิพอจะกล้อจะกล่าว  | ||
| + | เพราะมิใช่นิสัยหทัยสัตรีมีเรื่องมีราว  | ||
| + | ข้างชู้ข้างสาวเสมือนนักเลงมิเกรงมิคร้าม  | ||
| + | คะโลงสุภาสิตานุสรไว้ก่อนไว้เก่า  | ||
| + | ลล้วนสำเนาสำนวนสุภาพมิหยาบมิหยาม  | ||
| + | มิเยาะมิแยงแสดงคติพึงตริพึงตาม  | ||
| + | จะต่ำจะทรามก็พอจะกลั้วรรัวราง ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | '''โทษฉิบหาย ๖ ประการ'''  | ||
| + | <sub>โตเล่นหาง</sub>  | ||
| + | ๏ ดำเนิรความตามทำนองปองลิขิต  | ||
| + | เปิดภาสิตวรรณพฤติยึดที่อ้าง  | ||
| + | ธิบายเหตุฉิบหายหกยกมาวาง  | ||
| + | ไว้เปนทางเดิรขบวรสำนวนกลอน  | ||
| + | |||
| + | (๑) สุราเมรยบานชาญฉกาจ  | ||
| + | ผรุสวาทพาลประทุษไม่หยุดหย่อน  | ||
| + | เส้นประสาทอาจพิกลทุรนร้อน  | ||
| + | ทรัพย์จะล่อนหมดตัวอย่ามัวมนท์  | ||
| + | (๒) ลับไถงอย่าครรไลไถลเที่ยว  | ||
| + | ทางตรอกเปลี่ยวปลอดฉวางกลางถนน  | ||
| + | คนเดียวเดิรเมินประมาทขาดผู้คน  | ||
| + | ศัตรูพบหลบไม่พ้นภัยศัตรู  | ||
| + | (๓) สัมมัชชาก็อย่าทัศนานัก  | ||
| + | ไร้ประโยชน์โทษหนักข้างลักขู  | ||
| + | มหรศพสารพันแม้หมั่นดู  | ||
| + | มีเงินอู๋ก็คงเลี่ยนด้วยลายละเลิง  | ||
| + | (๔) การพนันทุกทุกพรรค์พลันพินาศ  | ||
| + | มาทสนุกขุกพลาดสิเลยเหลิง  | ||
| + | แรกเล่นนึกว่านิดหน่อยค่อยประเทิง  | ||
| + | เลยเปิดเปิงถึงจำนำระยำยับ  | ||
| + | (๕) อนึ่งอย่าปณิธานสมานจิต  | ||
| + | เสวนาลามกมิตรจิตสับปลับ  | ||
| + | ยามเรามีตีสนิธหวังปลิดทรัพย์  | ||
| + | เราซวยกลับหลีกละสละเมิน  | ||
| + | (๖) จงคนึงถึงโทษจิตโหดคร้าน  | ||
| + | ธุระงารคฤหาอย่างห่างเหิน  | ||
| + | พึงสะสมธนไว้เจริญ  | ||
| + | มุ่งดำเนิรพิริยจรรยา  | ||
| + | |||
| + | เหตุพินาศอนุสาสนแสดงอรรถ  | ||
| + | ฉัพพิธจัดแจงประมวญล้วนโทษา  | ||
| + | นรชาติปราชญ์ละดังพรรณา  | ||
| + | เพื่อสถาพรพิพัฒน์สวัสดี  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | ----  | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | '''โทษสุรา ๖ ประการ'''  | ||
| + | <sub>กระแตไต่ไม้</sub>  | ||
| + | ๏ โทษสุราพรรณาสุราโทษ  | ||
| + | ศรีเฉลิมเพิ่มประโยชน์เฉลิมศรี  | ||
| + | คดีธรรมเลิศล้ำธรรมคดี  | ||
| + | นานมามีในบาฬีมีมานาน  | ||
| + | สาสนูสัพพัญญูอนุสาสน์  | ||
| + | สารแก่นแท้แผ่โอวาทเปนแก่นสาร  | ||
| + | ชาญปรีชานรชนปรีชาชาญ  | ||
| + | แรงร้ายรู้มัชบานฤทธิ์ร้ายแรง  | ||
| + | ฉพิธเภทภีตเหตุเภทฉพิธ  | ||
| + | แจ้งประจักษ์ตระหนักจิตประจักษ์แจ้ง  | ||
| + | แสดงความตามเมธีชึ้ความแสดง  | ||
| + | โลกาแจงแจกไว้ในโลกา  | ||
| + | (๑) คือสิ้นสูญทุนทรัพย์ยับสูญสิ้น  | ||
| + | ค่าเสียซื้อเหล้ากินสิ้นเสียค่า  | ||
| + | เวลาคุ้นเคยอาตม์ผิขาดเวลา  | ||
| + | รทมใจไม่มีผาสุกใจรทม  | ||
| + | (๒) หากลเหตุมุ่งร้ายหมายกลหา  | ||
| + | ขรมเสียงเถียงท้าส่งเสียงขรม  | ||
| + | ตะบมตีต่อยปะเตะต่อยตีตะบม  | ||
| + | มัวเมามุดุรดมด้วยเมามัว  | ||
| + | (๓) พยาธิ์ภัยสรรพไข้เกิดภัยพยาธิ์  | ||
| + | หัวหูสั่นหวั่นหวาดสั่นหูหัว  | ||
| + | ตัวรูปบวมบ้างก็ซูบผิดรูปตัว  | ||
| + | เมาน้ำกลืนกล้ำกลั้วมัวน้ำเมา  | ||
| + | (๔) ร้ายยินบ่นดำเนียนเบียนยินร้าย  | ||
| + | เฉาโฉดชั่วทั่วหญิงชายว่าโฉดเฉา  | ||
| + | เบาสติริแต่ฟู้<sup>(๑)</sup>คนดูเบา  | ||
| + | ยศศักดิ์เศร้าเสื่อมสลายวายศักดิ์ยศ  | ||
| + | (๕) ขาดความอายเว้นกายสังวรขาด  | ||
| + | หมดกลัวขลาดความนินทากล้าทำหมด  | ||
| + | ลดเกรงบาปหยาบช้าไม่ลาลด  | ||
| + | กรรมเพราะซดน้ำเหล้าเฝ้าก่อกรรม  | ||
| + | (๖) เสื่อมกำลังทั้งปัญญาก็พาเสื่อม  | ||
| + | ถลำเหลื่อมชอบผิดความคิดถลำ  | ||
| + | ทำลายบุญหนุนบาปห่อนทราบธรรม  | ||
| + | งงงมโง่โมหะซ้ำให้งำงง  | ||
| + | |||
| + | โทษสุราหกประการบรรหารโทษ  | ||
| + | หลงมาโนชก็ล่มด้วยแรงหลง  | ||
| + | คงเสื่อมสิ้นสินทรัพย์ไม่กลับคง  | ||
| + | อบายกรรมนำส่งตรงอบาย  | ||
| + | |||
| + | บัณฑิตชนยลธรรมล้ำบัณฑิต  | ||
| + | หมายจดจำคำภาสิตจิตจงหมาย  | ||
| + | วายว่างเว้นเสพย์สุราทุกทิวาวาย  | ||
| + | ดลความสุขทุกพายวายทุกข์ดล ฯ  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | <sup>(๑) “ฟู้” เปนคำแผลง เดิมหมายว่าความรู้สึกเหมือนอย่างกับวาโยธาตุเป่าออก มาทางปากแลจมูก  ทำให้อารมณ์ไม่ปรกติ ภายหลังมาใช้หมายความแต่ว่าสติอารมณ์ไม่ปรกติ</sup>  | ||
===พระโอวาทประทานทูลกระหม่อมพระองค์ชาย เมื่อจะเสด็จไปทรงศึกษาในยุโรป===  | ===พระโอวาทประทานทูลกระหม่อมพระองค์ชาย เมื่อจะเสด็จไปทรงศึกษาในยุโรป===  | ||
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗  | เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ขอให้โอวาทแก่พ่อผู้เปนลูกยอดรักของแม่  ในสมัยที่พ่อจะจากแม่ไปยุโรป ดังนี้  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๑.	การที่พ่อต้องไปเล่าเรียนถึงประเทศยุโรปนั้น  ขอให้พึงเข้าใจว่า     ทูลหม่อมท่านสู้เสียพระราชทรัพย์เปนอันมาก  เพราะท่านทรงพระเมตตากรุณาแก่พ่อซึ่งนับว่าเปน ลูก  เพื่อให้ได้รับวิชาความรู้อันสุขุมละเอียด อันจะเปนสเบียงเลี้ยงตัวไปในภายหน้า  ขอให้พ่อตั้งใจอุสาหะเล่าเรียนให้สมดังพระราชประสงค์ อย่าให้ต้องเปนอันสูญเสียเปล่าแห่งพระราชทรัพย์ กลับมาจะได้รับราชการฉลองราชการฉลองพระเดชพระคุณเปนชื่อเปนหน้าแล เปนคุณเปนประโยชน์แก่ตัวสืบไป  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๒.	ในเวลาตั้งแต่ได้ออกจากกรุงเทพฯ ไปจนถึงอยู่ในประเทศยุโรป  ต้องรู้สึกว่าตัวอยู่ในที่อันมิใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตัว แลห่างไกลจากฝ่าพระบาททูลหม่อม แลไกลจากผู้ที่เคยบำรุงรักษา  พ่อจงอุตส่าห์ฝากตัวกลัวเกรงเสด็จอาว์ <sup>(๑)</sup>  แลแสดงกิริยาอ่อนน้อม (มิใช่ถึงไหว้กราบ)  ต่อพวกข้าราชการที่เขาเปนใหญ่ ที่สุดจนมองซิเออร์ยัคมิน <sup>(๒)</sup> ซึ่งเปนผู้กำกับไป  เมื่อเขาจะว่ากล่าวตักเตือนประการใด ก็ต้องเชื่อฟังเขาตามสมควร อย่าทำให้เปนที่รังเกียจเกลียดชังแก่เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้  เผื่อว่าจะมีทุกข์ขุกไข้หรือขัดข้องอย่างไร  เขาจะได้ช่วยแนะนำแก้ไขให้โดยความกรุณา  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๓.	ทูลหม่อมพระองค์โต <sup>(๓)</sup> นั้น พ่อย่อมทราบอยู่แล้วว่าท่านจะเปนอย่างไร  พ่อจงนับถือรักใคร่ฝากตัวท่านให้จงมาก  ในเวลานี้ก็ต้องเปนผู้ที่พลัดบ้านเมืองไปด้วยกัน  มีทุกข์สุขประการใดก็ได้เห็นหน้ากันตามประสาพี่น้องดียิ่งกว่าผู้อื่น  แม้ถ้าได้รักใคร่สนิธสนมกันเสียแต่ยังเล็กๆด้วยกันเช่นนี้แล้ว  เมื่อต่อไปภายหน้าก็จะได้ไม่เปนที่รังกียจกินแหนง  ซึ่งเปนหนทางอันตรายในตัวพ่อเมื่อเวลาที่โตขึ้นด้วยกันนั้นด้วย  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๔.	เจ้านายพี่น้องทั้งปวงบันดาที่อยู่นอกด้วยกันนั้น  พ่อต้องคิดว่าทุกๆองค์แต่ล้วนเปนลูกของทูลหม่อมเหมือนกันกับตัวพ่อทั้งนั้น  พ่ออย่าแสดงกิริยาหรือกล่าววาจาอันเปนการหมิ่นประมาทต่อเธอโดยถือว่าสูงกว่าเธอ จงนบนอบเล่นหัวตามฉันพี่น้องที่เสมอกัน  ถึงกับคนอื่นก็เหมือนกัน  เมื่อเจ้านายเหล่านั้นเธอไว้วางตัวเธอเพียงชั้นใดสถานใด  พ่อจงวางตัวให้เสมอกับเจ้านายเหล่านั้น จะได้ไม่เปนที่รังเกียจในเจ้านายพี่น้อง  แลไม่กีดตาผู้ด้วย  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๕.สรรพหนังสือ แลวิชาทั้งปวงอันได้เรียนรู้แล้วนั้น ถ้าจะมีผู้ไล่เลียงไต่ถาม ก็จงแสดงแต่ที่แม่นยำชำนาญ อย่าอวดรู้ให้เกินกับภูมิความรู้ สิ่งใดข้อใดที่ยังไม่รู้หรือรู้แล้วแต่ไม่แม่นยำ  ถึงแม้จะบอกว่ายังมิได้รู้ก็ไม่เปนที่เสียหายอันใด  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ๖.ส่วนความรู้สึกในใจอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สมควรจะแสดงกิริยาหรือกล่าววาจาให้คนทั้งหลายรู้ คือให้รู้สึกแต่ในใจของตัวว่าตัวเกิดมาในชาติตระกูลอันสูง จำเปนที่จะต้องรักษาตัวให้สมกับที่ตัวเปนผู้สูงชาติ จงตั้งหน้าเล่าเรียนให้เต็มกำลังแลสติปัญญาของตัว อย่าเพลิดเพลินในการเล่นสนุกให้เกินไป ให้ได้รู้จริงทุกอย่างทุกประการ  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | พระบรมราโชวาทของทูลหม่อมแลถ้อยคำของแม่ที่ได้พรรณามาครั้งนี้ แลจะได้ว่าต่อไปนั้น พ่อจงหมั่นดำริห์ตริตรองแล้วแลประพฤติตามจงทุกประการ  เมื่อพ่อเจริญขึ้นโดยลำดับแล้ว  จะได้เปนที่พึ่งของแม่ในภายหน้า ในที่สุดโอวาทของแม่ฉบับนี้ แม่ขอบอกแก่พ่อผู้เปนลูกที่รักแลที่หวังความสุขของแม่ให้ทราบว่าตัวแม่นี้เปนมนุษย์ที่อาภัพ มักจะได้รับแต่ความทุกข์อยู่เปนเนืองนิจ แม่มิได้มีอันใดซึ่งจะเปนเครื่องเจริญตาเจริญใจอันจะดับทุกข์ได้ นอกจากลูก เมื่อเวลาที่พ่ออยู่กับแม่แต่เล็กๆมา ถึงหากว่าแม่จะมีความทุกข์มาสักเท่าใดๆ เมื่อแม่ได้เห็นหน้าลูกแล้วก็อาจจะรงับดับเสียได้ด้วยความรักแลความยินดีของแม่ในตัวลูก ก็ในเวลาซึ่งพ่อไปเล่าเรียนในประเทศยุโรปนี้ พ่อจงรู้เถิดว่า ข่าวความงามความดีของพ่อนั้นแลจะเปนเครื่องดับความทุกข์ของแม่ ถ้าพ่อรักแม่ก็จงสงสารแม่ อย่าทำให้เสียความรักของแม่  แลอย่าประพฤติชั่วนอกคำสั่งสอนของแม่ จงตั้งหน้าเล่าเรียนให้ได้รับความรู้โดยเร็ว จะได้กลับมาหาแม่โดยไม่นานปี  | ||
| + | ----  | ||
| + | <sup>  | ||
| + | (๑) คือสมเด็จกรมพระสวัสดิ์วัตนวิศิษฎ  | ||
| + | |||
| + | (๒) เปนที่ปรึกษาราชการ  ต่อมาได้เปนเจ้าพระยาอภัยราชา  ครั้งนั้นทูลลากลับไปเยี่ยมบ้านเมือง  จึงโปรดฯ ให้เปนผู้ดูแลทูลกระหม่อมแลนักเรียนไทยไปในเวลาเดิรทาง  | ||
| + | |||
| + | (๓) คือพระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลานั้นเสด็จดำรงพระยศเปนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ยังทรงศึกษาอยู่ในยุโรป  | ||
| + | </sup>  | ||
===พระนิพนธ์ที่สุด ลายพระหัตถ์ประทานพระพรในวันประสูติกรมพระยาดำราชานุภาพ===  | ===พระนิพนธ์ที่สุด ลายพระหัตถ์ประทานพระพรในวันประสูติกรมพระยาดำราชานุภาพ===  | ||
| + | วังบางขุนพรหม  | ||
| + | |||
| + | วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๐  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | ทูลกรมพระดำรง  | ||
| + | |||
| + | |||
| + | วันประสูติของเธอฉันรู้สึกว่าได้ผ่านพ้นไปโดยไม่ได้มาถวายพรด้วยตนเองถึงสองสามคราวมาแล้ว แต่เมื่อจวนจะถึงวันประสูติเข้าเมื่อใดก็เตรียมตัวเสมอที่จะได้มาถวายพรด้วยตนเองหรือด้วยหนังสือ แต่ปีนี้รู้สึกว่ายินดีมาก เพราะคิดว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ทัน เมื่อมาถึงเข้าในวันนี้จึงขอถวายพร  ตามที่สมองเปนนุ่นอยู่เท่าที่นึกได้ว่า   | ||
| + | <tpoem>  | ||
| + | โส อตฺถลทฺโธ สุขิโต   วิรุฬฺโห พุทธฺสาสเน  | ||
| + | อโรโค สุขิโต โหหิ   สุโข ทีฆายุโก ภว  | ||
| + | </tpoem>  | ||
| + | สุขุมาล.  | ||
== เชิงอรรถ ==  | == เชิงอรรถ ==  | ||
| แถว 304: | แถว 727: | ||
สุขุมาลนิพนธ์ พระนิพนธ์กาพย์กลอนแลร้อยแก้วของ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต โปรดให้พิมพ์เนื่องในการทรงบำเพ็ญพระกุศลสนองพระคุณสมเด็จพระชนนี เมื่อพระศพครบปัญญาสมวาร ณ วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๐ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร  | สุขุมาลนิพนธ์ พระนิพนธ์กาพย์กลอนแลร้อยแก้วของ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต โปรดให้พิมพ์เนื่องในการทรงบำเพ็ญพระกุศลสนองพระคุณสมเด็จพระชนนี เมื่อพระศพครบปัญญาสมวาร ณ วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๐ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร  | ||
| - | (ขอขอบคุณ   | + | (ขอขอบคุณ คุณหญิง.มะ ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)  | 
รุ่นปัจจุบันของ 07:58, 24 กุมภาพันธ์ 2553
ข้อมูลเบื้องต้น
พระนิพนธ์: สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
บทประพันธ์
โคลงดั้นสุภาสิตวชิรญาณ
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑
| ๏ คราวเข็ญจะเฝ้าแต่ | โศกศัลย์ | ||
| โศกจะดับขุ่นเข็ญ | ห่อนได้ | ||
| ยิ่งโศกยิ่งจักพลัน | รอญชีพ | ||
| ควรปลดควรเปลื้องให้ | โศกคลาย ฯ | ||
| ๏ ละโศกเร่งตริรู้ | สึกเข็ญ ตนนา | ||
| รู้เข็ดเข็ญคงวาย | ว่างบ้าง | ||
| ทิ้งชั่วยึดที่เปน | ทางชอบ | ||
| จึงจักเริศร้างพ้น | เหตุภัย ฯ | ||
โคลงสุภาสิต
เริ่มทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑
คำอธิบาย
โคลงสุภาษิตนี้ทรงแต่งตามเค้าโครงสุภาสิตใหม่ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์กับเจ้านายที่บางปอิน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๐ (ฉบับพิมพ์เรียกว่า “โคลงสุภาษิตใหม่” ) สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ ทรงพระนิพนธ์โคลงสุภาสิตนี้ทรงกับเจ้านายผู้หญิงอีกหลายพระองค์ด้วยกัน คัดเอามาพิมพ์ในสมุดนี้แต่โคลงพระนิพนธ์ของสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ
| ๏ รักเรียนต้องกอปด้วย | วิริยะ | ||
| รักยศควรอุสาหะ | กิจไท้ | ||
| รักทรัพย์อย่าพึงสละ | ทรัพย์จ่าย เฝือนา | ||
| รักชอบกอบกิจให้ | ถ่องแท้ยุติธรรม ฯ | ||
| ๏ รักตนประพฤติล้วน | สุจริต | ||
| รักลูกเพียรดัดจิต | ลูกไว้ | ||
| รักมิตรมากที่มิตร | รักตอบ | ||
| รักบ่าวเมื่อคราวใช้ | ไป่ลี้หนีงาร ฯ | ||
| ๏ ชังพูดเปนเล่ห์เลี้ยว | หลอกหลอน | ||
| ชังชาตินิรคุณบอน | บ่อนไส้ | ||
| ชังโจรเที่ยวซอกซอน | ลักทรัพย์ ท่านนา | ||
| ชังมากบอยากใกล้ | เผ่าพ้องอสัทธรรม ฯ | ||
| ๏ กล้าคิดเพราะเหตุด้วย | ใจมาน | ||
| กล้าเชื่อเพื่อปฏิญาณ | สัตย์ไว้ | ||
| กล้าพูดเพราะเชื่อชาญ | เชาวน์ว่อง | ||
| กล้ารักชักกล้าให้ | สู่สู้ริปูแทน ฯ | ||
| ๏ อาญาไทธิราชเผ้า | แผ่นสยาม | |||
| เกรงไป่มีโมงยาม | ว่างน้อ | |||
| ภัยพิบัติมัจจุราชตาม | ฉกชีพ | |||
| กลัวบ่เว้นทุ่มท้อ | จิตลี้หนีไฉน ฯ | |||
| ๏ กลัวบาปบส่อให้ | โทษถึง ท่านนา | |||
| กลัวท่านผูกเวรตรึง | ติดติ้ว | |||
| กลัวกรรมจักตามดึง | ตนสู้ อบายพ่อ | |||
| กลัวชอบบุญหอบหิ้ว | อาตม์ขึ้นสุขภูมิ์ ฯ | |||
| ๏ เพียรประพฤติสุจริตอ้าง | อวยผล | ||
| เพียรประพฤติยุติธรรมดล | ดับไร้ | ||
| เพียรประพฤติกอปกุศล | บุญส่ง สุขนา | ||
| เพียรประพฤติเมตตจิตได้ | ห่างพ้นคนชัง ฯ | ||
| ๏ เพียรประพฤติทุจริตร้อน | แรงไฟ นรกพ่อ | ||
| เพียรประพฤติฉ้อฉกภัย | จักพ้อง | ||
| เพียรประพฤติบาปบไกล | ทุกข์ถับ ถึงนา | ||
| เพียรประพฤติเหี้ยมโหดต้อง | ตกข้างคนฉิน ฯ | ||
| ๏ หมั่นเขียนหมั่นอ่านอ้าง | อักษร | ||
| เพียรแต่งโคลงลิลิตกลอน | ดอกสร้อย | ||
| กลบทอีกบทละคอน | ฉันท์กาพย์ | ||
| เพียรดั่งนี้ฤาคล้อย | คลาดผู้ชาญกวี ฯ | ||
| ๏ โกสัชชัดเชิดอ้าง | โทษา | ||
| ฉัพพรรคอรรถกถา | กล่าวแจ้ง | ||
| นรชาติปราศวิริยา | นฤสุข | ||
| จักสฤษดิกิจใดแสร้ง | ผัดเพี้ยนผ่อนตน ฯ | ||
| ๏ หนาวหนักจักกอปเกื้อ | การใด ได้พ่อ | ||
| บางผ่อนร้อนจัดใจ | จักหวิ้น | ||
| บางคาบก็ขานไข | ยลย่ำ แล้วนา | ||
| กอปกิจบควรสิ้น | รติแผ้วควรทำ ฯ | ||
| ๏ ยามพรุกพร่ำผัดเพี้ยน | ทำงน มากนา | ||
| งายหน่อยจึงจักขวน | กิจไซร้ | ||
| บางผ่อนอุทรรน | ร้อนภักษ์ ภุญช์พ่อ | ||
| บางผัดอิ่มหนักให้ | หย่อนน้อยค่อยทำ ฯ | ||
| ๏ สันดานประกอบด้วย | โกสัช | ||
| ผิสฤษดิ์กิจใดผัด | พรุ่งเพล้ | ||
| เพี้ยนหนาวผัดร้อนจัด | อิ่มพร่อง อุทรนา | ||
| กว่าจะเสร็จประสงค์เอ้ | อูดพ้นพันทวี ฯ | ||
| ๏ พุทธรัตน์ธรรมรัตน์ทั้ง | สงฆ์สรรพ์ พิสุทธิ์แฮ | ||
| อีกชนกชนนีอัน | เกิดเกล้า | ||
| สยามรัฐดิลกธรร | มิกแห่ง ตนฤา | ||
| ควรซื่อสุจริตเช้า | ค่ำน้อมนมัสการ ฯ | ||
| ๏ โกงคิดทรยศผู้ | บำรุง ตนแฮ | ||
| หมายลาภเปิดลับจุง | โทษให้ | ||
| ความชั่วติดตัวนุง | เหนียวเหนอะ | ||
| สบลาภก็พลันไร้ | เพื่อร้อนแรงกรรม ฯ | ||
| ๏ อาลัยลูกจักเมื้อ | ยุรเปียน ทวีปแฮ | ||
| ใจคิดเปนนิจเวียน | วาบว้ำ | ||
| อาลัยเพื่อเคยเสถียร | สถิตสุข เสมอนา | ||
| ใจห่วงเหลือจักปล้ำ | ปลิดให้อาลัยสูญ ฯ | ||
| ๏ เบื่อโลกเห็นโลกล้วน | อนิจจัง | ||
| เบื่อทุกข์ทุกวันประดัง | รุกเร้า | ||
| เบื่อเคราะห์เบื่อกรรมฝัง | รกราก | ||
| เบื่อหน่ายตายเกิดเฝ้า | รับท้นทุกข์ทวี ฯ | ||
| ๏ ราชภัยพิบัติแม้ | หลีกหนี | ||
| อัคนิภัยพิบัติลี | ลาศแคล้ว | ||
| โจรภัยพิบัติมี | หลบรอด โจรนา | ||
| สามสิ่งโสมนัสแผ้ว | ผ่องชื้นกมลเปรม ฯ | ||
| ๏ ยินดีได้ลาภล้น | มูลมอง | ||
| ยินลาภยศศักดิ์ปอง | ศักดิ์ได้ | ||
| ยินดีอนี้ตรอง | ตรึกรงับ บ้างพ่อ | ||
| ยินลาภนักมักให้ | ช่องให้ชนหยัน ฯ | ||
| ๏ กลางประชุมแม้ว่าต้อง | ถูกทัก | ||
| โดยเท็จหรือจริงประจักษ์ | สุดพื้น | ||
| เก่าเหลือที่จะหัก | ใจกลับ ใหม่แม่ | ||
| โทมนัสขัดจิตตื้น | อกน้ำตาคลอ(๑) ฯ | ||
| ๏ คิดเห็นประโยชน์แล้ว | จึ่งทำ | ||
| กลายกลับเปนผิดนำ | โทษพ้อง | ||
| เสียใจที่ใจสำ | คัญผิด | ||
| โทษอื่นบได้ต้อง | โทษแท้ตนเอง ฯ | ||
| ๏ ริษยาเกิดขึ้นเพราะด้วย | เสียจิต ก่อนนา | ||
| เสียจิตเพาะริษยา | กอปสร้าง | ||
| สองอย่างต่างประชันปิด | ประชันส่อ กันแฮ | ||
| ปวงปราชญ์อาจมละล้าง | คู่ข้อมลายสูญ ฯ | ||
| ๏ พยาบาทนี่นี้ขาด | ทางธรรม นะพ่อ | ||
| ผิเกิดไป่คนึงรำ | งับแล้ว | ||
| ดังฤาจักดลสำ | ราญสุข พ่อเอย | ||
| ไปปรโลกฤาจักแคล้ว | คลาดพ้นเวรจอง ฯ | ||
| ๏ ปราชญ์มองเห็นโทษแท้ | จึ่งประหาร ขาดนา | ||
| เวรรงับดับเวรผลาญ | หมดเชื้อ | ||
| อาฆาฏขาดจิตสราญ | รมย์ยิ่ง ยงแฮ | ||
| เขษมสุขประจวบเมื้อ | สู่ยั้งนฤพาน ฯ | ||
| ๏ ประสงค์ศิลปศาสตรต้อง | เติมเพียร | ||
| ประสงค์มั่งมีทรัพย์เรียน | เรื่องค้า | ||
| ประสงค์ยศจุ่งหมั่นเวียน | เฝ้าบพิตร เสมอนา | ||
| ประสงค์สุขหน่วงจิตคว้า | สัตย์ไว้นิจกาล ฯ | ||
| ๏ หยิ่งยศถือยศก้ำ | เกินคน | ||
| หยิ่งศักดิ์หวังศักดิ์ตน | ใหญ่กว้าง | ||
| หยิ่งทรัพย์ส่ายทรัพย์กล | ดั่งทรัพย์ จักรฤา | ||
| สามหยิ่งจักพาค้าง | ขาดสิ้นนิจผล ฯ | ||
โคลงทรงตอบพระราชนิพนธ์ เมื่อสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทรงประชวร
ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๖ กับ พ.ศ. ๒๔๓๗
| ๏ เจ็บนานหนักอกผู้ | บริรักษ์ ปวงแฮ | ||
| คิดใคร่ลาลาญทัก | ปลดเปลื้อง | ||
| ความเหนื่อยแห่งสูจัก | พลันเสื่อม | ||
| ตูจะสู่ภพเบื้อง | น่านั้นพลันเขษม | ||
| ๏ สรวมชีพข้าบาท | ภักดี | ||
| พระราชเทวีทรง | สฤษดิ์ให้ | ||
| สุขุมาลมารศรี | เสนอยศ นี้นา | ||
| ขอกราบทูลท่านไท้ | ธิราชเจ้าจอมสยาม ฯ | ||
| ๏ ประชวรนานหนักอกข้า | ทั้งหลาย ยิ่งแล | ||
| ทุกทิวาวันบวาย | คิดแก้ | ||
| สิ่งใดซึ่งจักมลาย | พระโรค เร็วแฮ | ||
| สุดยากเท่าใดแม้ | มาทม้วยควรแสวง ฯ | ||
| ๏ หนักแรงกายเจ็บเพี้ยง | เท่าใด ก็ดี | ||
| ยังบหย่อนหฤทัย | สักน้อย | ||
| แม้พระจะด่วนไกล | ข้าบาท ปวงแฮ | ||
| อกจะพองหนองย้อย | ทั่วหน้าสนมนาง ฯ | ||
โคลงสุภาสิตเบ็ดเตล็ด
ความลอาย| ๏ มีอายอาจสกัดกั้น | กันทาง ชั่วแฮ | ||
| จักประพฤติชั่วอายขวาง | ขัดไว้ | ||
| ผู้มีหฤทัยจาง | จืดต่อ หิรินา | ||
| จึงประพฤติความชั่วได้ | แน่แท้เทียวเธอ ฯ | ||
| ๏ อุด(๑)นานแรกออกนั้น | แสนอาย | ||
| ลมล่อยพลอยจับกาย | รริกเริ้ม | ||
| หน้ามือจักษุลาย | แลพร่าง | ||
| เหงื่อหยดขาสั่นเทิ้ม | อุทัจด้วยคนดู ฯ | ||
| ๏ เพ็ญบูรณ์เกียรติยศทั้ง | บริวาร | ||
| งามเลิศใดบปาน | เปรียบได้ | ||
| เพ็ญทรัพย์อีกคำขาน | สัตย์ทุก เมื่อนา | ||
| งามยิ่งงามแท้ให้ | ทั่วผู้สรรเสริญ ฯ | ||
| ๏ ผู้หาญราญเศิกสู้ | ไป่หนี | ||
| หนึ่งเหล่าคณะเมธี | ทั่วหน้า | ||
| อีกสงฆ์พิสุทธิ์ศี | ลวัตยิ่ง ยงเฮย | ||
| หญิงซื่อสุจริตกล้า | สี่นี้ควรชม ฯ | ||
โคลงสุภาสิต ทรงถอดความจากวชิรญาณสุภาสิต
| ๏ บุญมากหากกอปเกื้อ | ปัญญา มากนา | |||
| โดยป่วยก็พลันหาย | ห่างไข้ | |||
| มากคนรักไปมา | เช้าค่ำ | |||
| เคยเกลียดกลับรักได้ | เพราะบุญ ฯ | |||
| ๏ บุญต่ำนำชักให้ | หมดความ คิดนา | |||
| กำเริบไข้แรงรุน | โรคร้าย | |||
| มิตรญาติขาดรักยาม | บุญอับ | |||
| พบปะก็คล้ายคล้าย | แขกเมิน ฯ | |||
| ๏ ความรู้มีมากล้น | เพียงใด ก็ดี | |||
| แต่ขาดความเพียรใจ | เกียจคร้าน | |||
| เฉกผู้มากทรัพย์ใน | เรือนฟุ่ม เฟือยนา | |||
| ตระหนี่เก็บไว้แต่บ้าน | ห่างใช้ไฉนเติม ฯ | |||
| ๏ วิชาเดิมมีน้อยแต่ | มีเพียร มากฮา | |||
| ยังบ่ทราบใดเรียน | มากไว้ | |||
| ผู้น้อยทรัพย์ค่อยเบียน | ทรัพย์จ่าย เสมอนอ | |||
| ทรัพย์จะเสริมเติมได้ | มากด้วยแรงเพียร ฯ | |||
โคลงสุภาสิตทรงแต่งเล่นกับเจ้านายผู้หญิง
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓
| ๏ ความเพลินมีทั่วทั้ง | ฝ่ายดี ทรามเฮย | ||
| สุดแต่ผู้เพลินมี | สติค้น | ||
| เพลินชอบก็พลันทวี | ลาภยศ ปวงแฮ | ||
| เพลินผิดก็ไป่พ้น | ภาคร้ายเร็วถึง ฯ | ||
| ๏ รูปต่ำซ้ำศิระงุ้ม | ปานปม เปรอะนา | ||
| รสพลับแช่ฝาดขุย | เกาะลิ้น | ||
| กลิ่นสาบมนุษย์ระดม | กลิ่นอุต พิษแฮ | ||
| เสียงพูดปลอกปลิ้นปลี้ | เปล่าความ ฯ | ||
| ๏ งามโฉมแต่หยุดอ้า | อาตม์โฉม | ||
| ฤาแต่งเกินพองาม | เงื่อนหน้า | ||
| มารยาทลุกลนโครม | ครามเตะ ต่อยเฮย | ||
| ปวงกล่าวทั้งนี้ข้า | สุดรำคาญ ฯ | ||
| ๏ ปรารถนาของมนุษย์นั้น | หมดไฉน ท่านเฮย | ||
| แม้จักพรรณาไป | ไป่สิ้น | ||
| แต่ผู้ว่องวุฒิไวย | รู้เลือก สรรแฮ | ||
| ควรดับฤาควรดิ้น | โดดยั้งตามควร ฯ | ||
ร่ายประทานพระพรกรมพระดำรงในวันประสูติ
ทรงนิพนธ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒
| ๏ ขษณพระพุทธศก | ตกสองพันสี่ร้อย | ||
| ห้อยเศษหกสิบสองปี | วีสะดิถีมิถุนายน | ||
| ดลอภิลักขิตสมัย | ในพระเจ้าบรมวงศ์ | ||
| กรมพระยาดำรงราชานุภาพ | คาบพระชนม์คำณวน | ||
| ประมวลกึ่งสตพรรษ | อีกเศษอัฐฉนำกาล | ||
| มานพระหฤทัยจำนง | ประสงค์กอปกุศลอุทิศ | ||
| เปนนิรามิสราชพลี | แด่ภูวบดีปิยมหาราช | ||
| ทั้งพระบาทบรมอัยกา | ราชปิตุลาบวรอิศเรศ | ||
| เหตุสมภาคมายุสม์ | ลุอำนวยทานสงฆ์ | ||
| ปลงธนสารบำรุง | ผดุงสภากาชาดสยาม | ||
| พยาบาลพระนามบัญญัติ | ข้อยมีมนัสปราโมทย์ | ||
| มาโนชในพระกุศล | จึงนิพนธ์ถวายชัย | ||
| ด้วยน้ำใจสุทธิ์สอาด | สรวมอำนาจพระรัตนตรัย | ||
| อีกไทยเทพทรงมหิทธิศักดิ์ | ซึ่งพิทักษ์สยามณาเขต | ||
| สรวมพระเดชนฤบดินทร์ | เจ้าสยามินทร์ห้าพระองค์ | ||
| ทรงแผ่พระเดชานุภาพ | ปราบปวงอุปัทวภัย | ||
| ไกลอุปสัคไกลโศก | นิราสโรคนิราสทุกข์ | ||
| เนืองนิตย์ยุกต์สุขารมณ์ | อุดมพระปรีชาเชาวน์ | ||
| เนาประมุขโบราณคดี | ทวีพระยศฦาเลื่อง | ||
| เฟื่องกิตติคุณฦาเลวง | ล้ำยิ่งเพรงบันดาล | ||
| พระชนมานยืนยง | ธำรงวังวรดิศ | ||
| พิพิธสุขพิศาล | กอปศฤงคารไพบูลย์ | ||
| วงศ์ประยูรพรั่งพร้อม | น้อมมนัธยาศัย | ||
| ในพระเมตตาคุณ | การุญรักษ์ดิเรก | ||
| เฉกโพธิพฤกษ์ฉายา | ร่มบริจาร์แลดนัย | ||
| เหล่าข้าไทยทั้งผอง | ใดธปองจงประสบ | ||
| ใดธปรารภจงสัมฤทธิ์ | สิทธิดังมโนหวัง | ||
| ดังข้อยผู้ภคินี | อื้นวจีพจน์สุนทร | ||
| อำนวยพระพรถวายฉนี้ | สรวมเทพช่วยชี้ | ||
| ช่องให้คงเขษม | โสตถิ เทอญ ฯ | ||
โคลงตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒
โคลงของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
| ๏ ฝาตลับรูปไข่ถ้วย | ทูลถวาย | ||
| เฉกเช่นไข่ขวัญหมาย | อรรถชี้ | ||
| นิพนธ์พจนแทนบาย | ศรีปาก ชามแฮ | ||
| สมโภชวันเฉลิมนี้ | เพิ่มพร้อมพรถวาย ฯ | ||
| ๏ สมเด็จพระพี่เจ้า | จอมสยาม | ||
| จงโปร่งปราศพยาธิความ | ขุ่นไข้ | ||
| เสวยสุขสวัสดิ์งาม | วรรณผ่อง เพ็ญเทอญ | ||
| เจริญพละพระชนม์ให้ | ร่วมร้อยปีประมาณ ฯ | ||
โคลงทรงตอบแทนทูลกระหม่อมหญิง
| ๏ ไข่ถ้วยแทนไข่เข้า | เฉลิมขวัญ | ||
| อีกพจนประพันธ์อวย | สวัสดิ์พร้อม | ||
| ประทานลูกสมัยวัน | อุปัติศก นี้นา | ||
| ลูกธมาโนชน้อม | นบน้อมขอบพระคุณ ฯ | ||
กาพย์ตอบกรมพระดำรงฯ ถวายพระพรสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ในวันประสูติ
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๓
กาพย์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
| ๑๖ | |||
| ๏ สถิติสถานบ้านแป้งแหล่งตำบล | จวบกันยายน | ||
| สิบสี่ประสบครบดิถี | |||
| ๏ เฉลิมชนม์พระเชฏฐภคินี | สมเด็จกษัตรี | ||
| ศรีรัตนโกสินทร์สมร | |||
| ๏ อยู่ไกลใคร่จะถวายพร | จึงเพียรเขียนกลอน | ||
| จำทูลถวายอย่างต่างตน | |||
| ๏ ลูกหลานว่านเครือหลายคน | ก็บอกยุบล | ||
| ให้กราบบาทมูลทูลผสม | |||
| ๏ ร่วมใจปรีดาสารภิรมย์ | ยอกรบังคม | ||
| ถวายพรพิพัฒน์สวัสดี | |||
| ๏ ให้ทรงสุขเกษมเปรมปรีดิ์ | ทุกทิวาราตรี | ||
| อย่ารู้นิราสคลาดคลาย | |||
| ๏ ผ่องพระฉวีพรรณราย | ดุจเดือนเด่นฉาย | ||
| มลทินพยาธิขาดสูญ | |||
| ๏ เจริญพละพระกำลังเพิ่มพูน | สมบุรณบริบูรณ | ||
| ทุกสิ่งทรงมาทปรารถนา | |||
| ๏ ขอให้เจริญพระชันษา | ยั่งยืนวัฒนา | ||
| การเกิดประโยชน์โพธิผล | |||
| ๏ ได้ทรงสมาทานการกุศล | ปรฏิบัติพระชน | ||
| นีแลเลี้ยงเหล่าประยูร | |||
| ๏ อุปการ์ข้าไทเอาธูร | โอบเอื้อเกื้อกูล | ||
| ตลอดจนเหล่าชาวประชา | |||
| ๏ จิรฐิติกาลนานช้า | เรือนร้อยพรรษา | ||
| ให้สมดังสัจอธิฐาน ฯ | |||
ทรงตอบแทนทูลกระหม่อมหญิง
| ๑๖ | |||
| ๏ จวบวันอุบัติกาล | ณวารที่สิบสี่กันย์ | ||
| ได้รับลายพระหัตถ์อัน | ไพเราะห์พจนพาที | ||
| ๏ ข้อยมีมนัสนึก | รฦกในพระอารี | ||
| แก่ภาคินัยมี | ประจำมั่นนิรันดร | ||
| ๏ ขอโอนศิโรดม | บังคมรับบวรพร | ||
| ด้วยกาพย์ลำเนากลอน | อันแต่งโดยพระมารดา | ||
| ๏ อนึ่งปวงประยูรวงศ์ | ทุกองค์ร่วมพระหัทยา | ||
| แด่ปิตุลปิตา | อำนวยศุภมงคล | ||
| ๏ ขอเธอทั้งหลายจง | ธำรงสุขสถาผล | ||
| โรคภัยอันใดดล | พลันบำราศประลาตไกล | ||
| ๏ สรวมพรชมัยพร | จงประสิทธิ์ทุกสิ่งไกษย | ||
| อำนาจสัจวจีใจ | ประจวบปองสนองเสนอ ฯ | ||
โคลงแลกลอนสำหรับสอดในชักเปี๊ยะพร้อมกับแหวน
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๔
คำอธิบาย
เมื่อปีระกา พ.ศ. ๒๔๖๔ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ เจริญพระชันษาครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์ ในงานฉลองพระชันษาได้ทรงเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวกับพระบรมวงศ์ทั้งพระองค์ชายและพระองค์หญิงไปเสวยเวลาค่ำ ณ วังบางขุนพรหม เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคมเนื่องในของซึ่งแจกชำร่วยที่โต๊ะเสวยนั้น สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า ฯ ทรงพระดำริห์ให้สร้างพระธำมรงค์ลงยาสีตามวันประสูติของเจ้านายที่ประทับเสวยทุกพระองค์ แล้วทรงพระนิพนธ์กลอนต่างๆ ซึ่งพิมพ์ต่อไปนี้บทหนึ่ง สำหรับกำกับพระธำมรงค์วงหนึ่ง หมายจะซ่อนไว้ด้วยกันในห่อชักเปี๊ยะวางไว้ตรงที่ประทับทุกพระองค์ สำหรับจะได้ทรงชักเปี๊ยะได้ธำมรงค์แลทรงอ่านบทกลอนเปนของฉลากประกอบความรื่นเริง แต่ต่อมาเปลี่ยน กระแสพระดำริห์ งดบทกลอนเหล่านี้ มาได้พิมพ์ห่อพระธำมรงค์แจกไม่
| ๏ ประวิชวรรณประจำวาร | ประสูติท่านทุกองค์มา | ||
| ประชุมเลี้ยงกระยาพา | หทัยเริงสราญรมย์ | ||
| ๏ ผิทรงจับฉลากได้ | มิตรงสีประสูติสม | ||
| พระหัตถ์สอดมิชวนชม | นิยมใช้บมีดี | ||
| ๏ ประทานส่งพระวงศ์ใด | ประสบวรรณประสูติมี | ||
| ประสงค์เสาะฉเพาะสี | ประสูติทรงจะส่งสวย | ||
| ๏ เจริญอายุวรรณ | สุขเพิ่มพลังรวย | ||
| พระยศยิ่งภิยโยพวย | พพุ่งเกียรติกำจร ฯ | ||
| ๏ สียาในประวิชนี้ | สำหรับ วันแฮ | ||
| ท่านอุบัติวันใดจับ | ฉลากได้ | ||
| ไป่เหมาะจุ่งเปลี่ยนสับ | กันแหละ กันนา | ||
| ให้สบวันท่านใช้ | สอดนิ้วในงาร ฯ | ||
| ๏ ประวิชน้อยห้อย ส.ม. | มีสีพอครบเจ็ดวัน | ||
| ชักเปี๊ยะฉลากอัน | บรรจงห่อมาวางถวาย | ||
| ๏ แม้สีมิต้องวาร | ประสูติท่านจงขวนขวาย | ||
| แลกเปลี่ยนอย่าดูดาย | ให้สีตรงจึงทรงงาม ฯ | ||
| ๏ ธำมรงค์วงน้อยในฉลาก | |||
| มีสีมากเบ็จเสร็จครบเจ็ดสี | |||
| ผิดสีวันประสูติใช้ไม่เข้าที | |||
| ทรงเปลี่ยนกันสรรที่สีตรงวัน ฯ | |||
| ๏ ฉลากแหวนก้านพลูน้อย | สีต่างห้อยนามสุขุมาล | ||
| เสร็จเสวยพระอาหาร | โปรดสรรทรงให้ตรงวัน ฯ | ||
| ๏ สีแหวนแผกมิพ้องวาร | อุบัติท่านจงแปรผัน | ||
| เปลี่ยนผัดซึ่งกันแลกัน | คงได้เหมาะฉเพาะสี ฯ | ||
| ๏ ฉลากแหวนแทนขอบพระคุณเหลือ | |||
| ที่ทรงเอื้อเสด็จมาเลี้ยงอาหาร | |||
| สีน้ำยานี้ประสงค์ให้ตรงวาร | |||
| ประสูติท่านทุกพระองค์ที่ทรงรับ | |||
| แม้นสีไม่เหมาะส่งพระวงศ์แลก | |||
| ถ้ายังแผกสีเวียนเที่ยวเปลี่ยนสับ | |||
| คงสบเหมาะเพราะได้คิดพินิจนับ | |||
| ได้ตรงกับวันพระวงศ์ทุกองค์ เอย ฯ | |||
| ๏ ธำมรงค์ที่ทรงจับฉลากได้ | |||
| ถ้าสีไม่เหมาะวันพระชันษา | |||
| โปรดส่งสับกับองค์ที่มีสียา | |||
| ตามตำรานามวันฉนั้น เทอญฯ | |||
| ๏ ธำมรงค์ไร้มณีสียาต่าง | |||
| ถ้วนเจ็ดอย่างตามวันพระชันษา | |||
| สีไม่ถูกวันอุบัติขัดตำรา | |||
| ทรงไปไหนขายหน้าท่าไม่ดี | |||
| จงเปลี่ยนกันกับพระวงศ์ที่ทรงรับ | |||
| คงจะจับได้วงที่ตรงสี | |||
| สวมพระหัตถ์วัฒนสวัสดี | |||
| ทุกเมื่อมีสุขเกษมเปรมกมล ฯ | |||
| ๏ สีแสงแดงโลหิต | คู่วันอาทิตย์พิศตาตรู | ||
| สีด่อนจันทรหรู | สีชมพูคู่วันอังคาร | ||
| ๏ พุธเขียวพฤหัสเหลือง | ศุกร์เรืองน้ำเงินสอ้าน | ||
| เสาร์ดำคล้ำสคราน | ถ้วนเจ็ดวารสีธำมรงค์ | ||
| ๏ ท่านได้ไม่ถูกวัน | เชิญเปลี่ยนกันตามประสงค์ | ||
| เลือกสรรให้สีตรง | ทรงสวมหัตถ์เพิ่มสวัสดี ฯ | ||
| ๏ แหวนสีแดงท่านให้แต่งวันอาทิตย์ | |||
| ฉลากผิดวันพระองค์จงหาใหม่ | |||
| แลกเจ้าน้องหรือเจ้าพี่มีถมไป | |||
| ได้สวมใส่นิ้วพระหัตถ์ชัดตำรา ฯ | |||
| ๏ พระจันทรจรกระจ่างในกลางหาว | |||
| แหวนสกาวเทียบสีดีหนักหนา | |||
| ถ้าไม่พ้องวันพระองค์จงทรงพา | |||
| แหวนที่ได้ไปหาแลกมาทรง ฯ | |||
| ประวิชสีที่ทรงจับฉลากได้ | |||
| ถ้ามีไม่เหมาะวันพระชันษา | |||
| จงเปลี่ยนสับกับท่านทุกองค์มา | |||
| เสวยอาหารด้วยกันวันนี้ เทอญ ฯ | |||
| ๏ วันใดท่านสมภพ | สบสีใดในประวิชน้อย | ||
| จุ่งท่านสรรสอดก้อย | เพื่อต้องตามวัน ท่านนา ฯ | ||
| ๏ ถ้าแหวนผิดวันพระองค์ทรงสมภพ | |||
| จงปรารภแลกลองพี่น้องท่าน | |||
| แม้ประสบพบสีที่ตรงวาร | |||
| ขอประทานเปลี่ยนมาอย่าช้าที ฯ | |||
| ๏ ประวิชวงที่ทรงหัตถ์ | ถ้าสีซัดมิต้องวัน | ||
| ใครเห็นจะเย้ยหยัน | จงแลกกันให้ตรงวาร ฯ | ||
| ๏ อังคารคู่ชมพูสีที่ประวิช | |||
| ถ้าแม้ผิดวันพระองค์จงเปลี่ยนผลัด | |||
| ให้ต้องสีเหมาะตรงไม่หลงพลัด | |||
| สวมพระหัตถ์วัฒนสถาพร ฯ | |||
| ๏ ถ้าได้แหวนผิดวันจงหันเหียน | |||
| เวียนถามตามพี่น้องท่าน | |||
| คงสมใจได้สีที่ต้องการ | |||
| ขอประทานเปลี่ยนวงสมทรงงาม ฯ | |||
| ๏ แหวนเอยแหวนลงยา | |||
| สีสัปดาห์ครบวันท่านอุบัติ | |||
| ดูจงดีอย่าให้สีมันจับพลัด | |||
| ทรงสวมหัตถ์จะได้งามตามบุราณ ฯ | |||
| ๏ แหวนสีสัปดาหะ | กะถ้วนวันประสูติแล้ว | ||
| ผิวท่านได้ฉลากแคล้ว | คลาดพ้องเชิญเปลี่ยน กันนา ฯ | ||
โคลงสุภาสิต
ทรงพระนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ และ ๒๔๖๘
| ๏ นฤบดีเสื่อมเพราะใช้ | มนตรี ชั่วแฮ | ||
| เสื่อมพรตเพราะกลี | คลุกเคล้า | ||
| ลูกเสื่อมเพราะปล่อยฟรี | ฟุ้งเฟิสต์ เคยแล | ||
| พราห์มณเสื่อมเพราะค่ำเช้า | ครุ่นคร้านเรียนมนต์ ฯ | ||
| ๏ ลูกชั่วชักให้เสื่อม | สกุลตน | ||
| ศีลเสื่อมเพราะปนพาล | เพาะมล้าง | ||
| อายเสื่อมเพราะโม่ห์มนท์ | เมาดื่ม | ||
| เพาะปลูกเสื่อมทรามร้าง | เพราะคร้านดูแล ฯ | ||
| ๏ เสื่อมสิเน่ห์เพราะเริศร้าง | แรมไกล | ||
| เสื่อมมิตรเพราะเอื้อใน | มิตรน้อย | ||
| เสื่อมทรัพย์เพราะรั่วไหล | จ่ายมาก | ||
| เสื่อมสัจตนต่ำต้อย | เสื่อมผู้บูชา ฯ | ||
เพลงยาวกลบท
เพลงยาวกลบท
ปรารภ
| ตะเข็บไต่ขอน | |||
| ๏ หทัยประสงค์ผจงลิขิตประดิษฐ์สนอง | |||
| เสนอขนิษฐ์พินิจยุบลนุสนธิ์คนอง | |||
| ขณสมองฟฟุ้งฟเฟื่องวิชากวี | |||
| สถิตณเรือนเสมือนธุระบพะบพ้อง | |||
| จะตฤกจะตรองก็คล่องอุราประสาประสี | |||
| ผิบทลบองมิต้องระบอบระเบียบวิธี | |||
| ก็หวังธมีพระทัยนุเคราะห์เฉพาะกรุณย์ | |||
| ฤาเขินฤาขวางณทางอักษรแลกลอนสำผัส | |||
| ก็คงจะตัดจะเติมประดับสนับสนุน | |||
| ผสานผสมนุกรมลำนำช่วยค้ำช่วยจุน | |||
| จะขอบพระคุณมิรู้จะเบื่อละเมื่อละคราว | |||
| ณกลอนขบวรเชิงชวนสังวาสนิราสแลภ้อ | |||
| จะเรียบจะเรียงมิเพียงมิพอจะกล้อจะกล่าว | |||
| เพราะมิใช่นิสัยหทัยสัตรีมีเรื่องมีราว | |||
| ข้างชู้ข้างสาวเสมือนนักเลงมิเกรงมิคร้าม | |||
| คะโลงสุภาสิตานุสรไว้ก่อนไว้เก่า | |||
| ลล้วนสำเนาสำนวนสุภาพมิหยาบมิหยาม | |||
| มิเยาะมิแยงแสดงคติพึงตริพึงตาม | |||
| จะต่ำจะทรามก็พอจะกลั้วรรัวราง ฯ | |||
| โทษฉิบหาย ๖ ประการ | |||
| โตเล่นหาง | |||
| ๏ ดำเนิรความตามทำนองปองลิขิต | |||
| เปิดภาสิตวรรณพฤติยึดที่อ้าง | |||
| ธิบายเหตุฉิบหายหกยกมาวาง | |||
| ไว้เปนทางเดิรขบวรสำนวนกลอน | |||
| (๑) สุราเมรยบานชาญฉกาจ | |||
| ผรุสวาทพาลประทุษไม่หยุดหย่อน | |||
| เส้นประสาทอาจพิกลทุรนร้อน | |||
| ทรัพย์จะล่อนหมดตัวอย่ามัวมนท์ | |||
| (๒) ลับไถงอย่าครรไลไถลเที่ยว | |||
| ทางตรอกเปลี่ยวปลอดฉวางกลางถนน | |||
| คนเดียวเดิรเมินประมาทขาดผู้คน | |||
| ศัตรูพบหลบไม่พ้นภัยศัตรู | |||
| (๓) สัมมัชชาก็อย่าทัศนานัก | |||
| ไร้ประโยชน์โทษหนักข้างลักขู | |||
| มหรศพสารพันแม้หมั่นดู | |||
| มีเงินอู๋ก็คงเลี่ยนด้วยลายละเลิง | |||
| (๔) การพนันทุกทุกพรรค์พลันพินาศ | |||
| มาทสนุกขุกพลาดสิเลยเหลิง | |||
| แรกเล่นนึกว่านิดหน่อยค่อยประเทิง | |||
| เลยเปิดเปิงถึงจำนำระยำยับ | |||
| (๕) อนึ่งอย่าปณิธานสมานจิต | |||
| เสวนาลามกมิตรจิตสับปลับ | |||
| ยามเรามีตีสนิธหวังปลิดทรัพย์ | |||
| เราซวยกลับหลีกละสละเมิน | |||
| (๖) จงคนึงถึงโทษจิตโหดคร้าน | |||
| ธุระงารคฤหาอย่างห่างเหิน | |||
| พึงสะสมธนไว้เจริญ | |||
| มุ่งดำเนิรพิริยจรรยา | |||
| เหตุพินาศอนุสาสนแสดงอรรถ | |||
| ฉัพพิธจัดแจงประมวญล้วนโทษา | |||
| นรชาติปราชญ์ละดังพรรณา | |||
| เพื่อสถาพรพิพัฒน์สวัสดี | |||
| โทษสุรา ๖ ประการ | |||
| กระแตไต่ไม้ | |||
| ๏ โทษสุราพรรณาสุราโทษ | |||
| ศรีเฉลิมเพิ่มประโยชน์เฉลิมศรี | |||
| คดีธรรมเลิศล้ำธรรมคดี | |||
| นานมามีในบาฬีมีมานาน | |||
| สาสนูสัพพัญญูอนุสาสน์ | |||
| สารแก่นแท้แผ่โอวาทเปนแก่นสาร | |||
| ชาญปรีชานรชนปรีชาชาญ | |||
| แรงร้ายรู้มัชบานฤทธิ์ร้ายแรง | |||
| ฉพิธเภทภีตเหตุเภทฉพิธ | |||
| แจ้งประจักษ์ตระหนักจิตประจักษ์แจ้ง | |||
| แสดงความตามเมธีชึ้ความแสดง | |||
| โลกาแจงแจกไว้ในโลกา | |||
| (๑) คือสิ้นสูญทุนทรัพย์ยับสูญสิ้น | |||
| ค่าเสียซื้อเหล้ากินสิ้นเสียค่า | |||
| เวลาคุ้นเคยอาตม์ผิขาดเวลา | |||
| รทมใจไม่มีผาสุกใจรทม | |||
| (๒) หากลเหตุมุ่งร้ายหมายกลหา | |||
| ขรมเสียงเถียงท้าส่งเสียงขรม | |||
| ตะบมตีต่อยปะเตะต่อยตีตะบม | |||
| มัวเมามุดุรดมด้วยเมามัว | |||
| (๓) พยาธิ์ภัยสรรพไข้เกิดภัยพยาธิ์ | |||
| หัวหูสั่นหวั่นหวาดสั่นหูหัว | |||
| ตัวรูปบวมบ้างก็ซูบผิดรูปตัว | |||
| เมาน้ำกลืนกล้ำกลั้วมัวน้ำเมา | |||
| (๔) ร้ายยินบ่นดำเนียนเบียนยินร้าย | |||
| เฉาโฉดชั่วทั่วหญิงชายว่าโฉดเฉา | |||
| เบาสติริแต่ฟู้(๑)คนดูเบา | |||
| ยศศักดิ์เศร้าเสื่อมสลายวายศักดิ์ยศ | |||
| (๕) ขาดความอายเว้นกายสังวรขาด | |||
| หมดกลัวขลาดความนินทากล้าทำหมด | |||
| ลดเกรงบาปหยาบช้าไม่ลาลด | |||
| กรรมเพราะซดน้ำเหล้าเฝ้าก่อกรรม | |||
| (๖) เสื่อมกำลังทั้งปัญญาก็พาเสื่อม | |||
| ถลำเหลื่อมชอบผิดความคิดถลำ | |||
| ทำลายบุญหนุนบาปห่อนทราบธรรม | |||
| งงงมโง่โมหะซ้ำให้งำงง | |||
| โทษสุราหกประการบรรหารโทษ | |||
| หลงมาโนชก็ล่มด้วยแรงหลง | |||
| คงเสื่อมสิ้นสินทรัพย์ไม่กลับคง | |||
| อบายกรรมนำส่งตรงอบาย | |||
| บัณฑิตชนยลธรรมล้ำบัณฑิต | |||
| หมายจดจำคำภาสิตจิตจงหมาย | |||
| วายว่างเว้นเสพย์สุราทุกทิวาวาย | |||
| ดลความสุขทุกพายวายทุกข์ดล ฯ | |||
(๑) “ฟู้” เปนคำแผลง เดิมหมายว่าความรู้สึกเหมือนอย่างกับวาโยธาตุเป่าออก มาทางปากแลจมูก ทำให้อารมณ์ไม่ปรกติ ภายหลังมาใช้หมายความแต่ว่าสติอารมณ์ไม่ปรกติ
พระโอวาทประทานทูลกระหม่อมพระองค์ชาย เมื่อจะเสด็จไปทรงศึกษาในยุโรป
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๗
ขอให้โอวาทแก่พ่อผู้เปนลูกยอดรักของแม่  ในสมัยที่พ่อจะจากแม่ไปยุโรป ดังนี้
๑.	การที่พ่อต้องไปเล่าเรียนถึงประเทศยุโรปนั้น  ขอให้พึงเข้าใจว่า     ทูลหม่อมท่านสู้เสียพระราชทรัพย์เปนอันมาก  เพราะท่านทรงพระเมตตากรุณาแก่พ่อซึ่งนับว่าเปน ลูก  เพื่อให้ได้รับวิชาความรู้อันสุขุมละเอียด อันจะเปนสเบียงเลี้ยงตัวไปในภายหน้า  ขอให้พ่อตั้งใจอุสาหะเล่าเรียนให้สมดังพระราชประสงค์ อย่าให้ต้องเปนอันสูญเสียเปล่าแห่งพระราชทรัพย์ กลับมาจะได้รับราชการฉลองราชการฉลองพระเดชพระคุณเปนชื่อเปนหน้าแล เปนคุณเปนประโยชน์แก่ตัวสืบไป
๒.	ในเวลาตั้งแต่ได้ออกจากกรุงเทพฯ ไปจนถึงอยู่ในประเทศยุโรป  ต้องรู้สึกว่าตัวอยู่ในที่อันมิใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตัว แลห่างไกลจากฝ่าพระบาททูลหม่อม แลไกลจากผู้ที่เคยบำรุงรักษา  พ่อจงอุตส่าห์ฝากตัวกลัวเกรงเสด็จอาว์ (๑)  แลแสดงกิริยาอ่อนน้อม (มิใช่ถึงไหว้กราบ)  ต่อพวกข้าราชการที่เขาเปนใหญ่ ที่สุดจนมองซิเออร์ยัคมิน (๒) ซึ่งเปนผู้กำกับไป  เมื่อเขาจะว่ากล่าวตักเตือนประการใด ก็ต้องเชื่อฟังเขาตามสมควร อย่าทำให้เปนที่รังเกียจเกลียดชังแก่เขาทั้งหลายเหล่านั้นได้  เผื่อว่าจะมีทุกข์ขุกไข้หรือขัดข้องอย่างไร  เขาจะได้ช่วยแนะนำแก้ไขให้โดยความกรุณา
๓.	ทูลหม่อมพระองค์โต (๓) นั้น พ่อย่อมทราบอยู่แล้วว่าท่านจะเปนอย่างไร  พ่อจงนับถือรักใคร่ฝากตัวท่านให้จงมาก  ในเวลานี้ก็ต้องเปนผู้ที่พลัดบ้านเมืองไปด้วยกัน  มีทุกข์สุขประการใดก็ได้เห็นหน้ากันตามประสาพี่น้องดียิ่งกว่าผู้อื่น  แม้ถ้าได้รักใคร่สนิธสนมกันเสียแต่ยังเล็กๆด้วยกันเช่นนี้แล้ว  เมื่อต่อไปภายหน้าก็จะได้ไม่เปนที่รังกียจกินแหนง  ซึ่งเปนหนทางอันตรายในตัวพ่อเมื่อเวลาที่โตขึ้นด้วยกันนั้นด้วย
๔.	เจ้านายพี่น้องทั้งปวงบันดาที่อยู่นอกด้วยกันนั้น  พ่อต้องคิดว่าทุกๆองค์แต่ล้วนเปนลูกของทูลหม่อมเหมือนกันกับตัวพ่อทั้งนั้น  พ่ออย่าแสดงกิริยาหรือกล่าววาจาอันเปนการหมิ่นประมาทต่อเธอโดยถือว่าสูงกว่าเธอ จงนบนอบเล่นหัวตามฉันพี่น้องที่เสมอกัน  ถึงกับคนอื่นก็เหมือนกัน  เมื่อเจ้านายเหล่านั้นเธอไว้วางตัวเธอเพียงชั้นใดสถานใด  พ่อจงวางตัวให้เสมอกับเจ้านายเหล่านั้น จะได้ไม่เปนที่รังเกียจในเจ้านายพี่น้อง  แลไม่กีดตาผู้ด้วย
๕.สรรพหนังสือ แลวิชาทั้งปวงอันได้เรียนรู้แล้วนั้น ถ้าจะมีผู้ไล่เลียงไต่ถาม ก็จงแสดงแต่ที่แม่นยำชำนาญ อย่าอวดรู้ให้เกินกับภูมิความรู้ สิ่งใดข้อใดที่ยังไม่รู้หรือรู้แล้วแต่ไม่แม่นยำ  ถึงแม้จะบอกว่ายังมิได้รู้ก็ไม่เปนที่เสียหายอันใด
๖.ส่วนความรู้สึกในใจอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สมควรจะแสดงกิริยาหรือกล่าววาจาให้คนทั้งหลายรู้ คือให้รู้สึกแต่ในใจของตัวว่าตัวเกิดมาในชาติตระกูลอันสูง จำเปนที่จะต้องรักษาตัวให้สมกับที่ตัวเปนผู้สูงชาติ จงตั้งหน้าเล่าเรียนให้เต็มกำลังแลสติปัญญาของตัว อย่าเพลิดเพลินในการเล่นสนุกให้เกินไป ให้ได้รู้จริงทุกอย่างทุกประการ
พระบรมราโชวาทของทูลหม่อมแลถ้อยคำของแม่ที่ได้พรรณามาครั้งนี้ แลจะได้ว่าต่อไปนั้น พ่อจงหมั่นดำริห์ตริตรองแล้วแลประพฤติตามจงทุกประการ  เมื่อพ่อเจริญขึ้นโดยลำดับแล้ว  จะได้เปนที่พึ่งของแม่ในภายหน้า ในที่สุดโอวาทของแม่ฉบับนี้ แม่ขอบอกแก่พ่อผู้เปนลูกที่รักแลที่หวังความสุขของแม่ให้ทราบว่าตัวแม่นี้เปนมนุษย์ที่อาภัพ มักจะได้รับแต่ความทุกข์อยู่เปนเนืองนิจ แม่มิได้มีอันใดซึ่งจะเปนเครื่องเจริญตาเจริญใจอันจะดับทุกข์ได้ นอกจากลูก เมื่อเวลาที่พ่ออยู่กับแม่แต่เล็กๆมา ถึงหากว่าแม่จะมีความทุกข์มาสักเท่าใดๆ เมื่อแม่ได้เห็นหน้าลูกแล้วก็อาจจะรงับดับเสียได้ด้วยความรักแลความยินดีของแม่ในตัวลูก ก็ในเวลาซึ่งพ่อไปเล่าเรียนในประเทศยุโรปนี้ พ่อจงรู้เถิดว่า ข่าวความงามความดีของพ่อนั้นแลจะเปนเครื่องดับความทุกข์ของแม่ ถ้าพ่อรักแม่ก็จงสงสารแม่ อย่าทำให้เสียความรักของแม่  แลอย่าประพฤติชั่วนอกคำสั่งสอนของแม่ จงตั้งหน้าเล่าเรียนให้ได้รับความรู้โดยเร็ว จะได้กลับมาหาแม่โดยไม่นานปี
(๑) คือสมเด็จกรมพระสวัสดิ์วัตนวิศิษฎ
(๒) เปนที่ปรึกษาราชการ ต่อมาได้เปนเจ้าพระยาอภัยราชา ครั้งนั้นทูลลากลับไปเยี่ยมบ้านเมือง จึงโปรดฯ ให้เปนผู้ดูแลทูลกระหม่อมแลนักเรียนไทยไปในเวลาเดิรทาง
(๓) คือพระบาทสมเด็จฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลานั้นเสด็จดำรงพระยศเปนสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ยังทรงศึกษาอยู่ในยุโรป
พระนิพนธ์ที่สุด ลายพระหัตถ์ประทานพระพรในวันประสูติกรมพระยาดำราชานุภาพ
วังบางขุนพรหม
วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๐
ทูลกรมพระดำรง
วันประสูติของเธอฉันรู้สึกว่าได้ผ่านพ้นไปโดยไม่ได้มาถวายพรด้วยตนเองถึงสองสามคราวมาแล้ว แต่เมื่อจวนจะถึงวันประสูติเข้าเมื่อใดก็เตรียมตัวเสมอที่จะได้มาถวายพรด้วยตนเองหรือด้วยหนังสือ แต่ปีนี้รู้สึกว่ายินดีมาก เพราะคิดว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ทัน เมื่อมาถึงเข้าในวันนี้จึงขอถวายพร  ตามที่สมองเปนนุ่นอยู่เท่าที่นึกได้ว่า 
| โส อตฺถลทฺโธ สุขิโต | วิรุฬฺโห พุทธฺสาสเน | ||
| อโรโค สุขิโต โหหิ | สุโข ทีฆายุโก ภว | ||
สุขุมาล.
เชิงอรรถ
ที่มา
สุขุมาลนิพนธ์ พระนิพนธ์กาพย์กลอนแลร้อยแก้วของ สมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต โปรดให้พิมพ์เนื่องในการทรงบำเพ็ญพระกุศลสนองพระคุณสมเด็จพระชนนี เมื่อพระศพครบปัญญาสมวาร ณ วันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๐ โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
(ขอขอบคุณ คุณหญิง.มะ ผู้พิมพ์เป็นวิทยาทาน)
