เปิดเนื้อหาอีเมลระหว่างเอปสตีนกับผู้ช่วยคนใกล้ชิด พูดถึงทรัมป์ว่าอย่างไรบ้างสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเอกสารมากกว่า 20,000 หน้า จากกองมรดกของนักการเงินผู้ฉาวโฉ่และยังเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศอย่าง เจฟฟรีย์ เอปสตีน ซึ่งนั่นรวมถึงเอกสารส่วนหนึ่งที่ระบุถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย
เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (12 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ พรรคเดโมแครตซึ่งนั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยอีเมลตอบโต้กัน 3 ฉบับ ซึ่งเป็นการสนทนากันระหว่างเอปสตรีน ซึ่งเสียชีวิตภายในเรือนจำในปี 2019 กับ กิสเลน แมกซ์เวลล์ ผู้ร่วมงานใกล้ชิดยาวนานของเขา ซึ่งปัจจุบันกำลังรับโทษจำคุก 20 ปีในข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศ
คณะกรรมาธิการฯ ยังได้เปิดเผยอีเมลระหว่างเอปสตีนกับนักเขียนอย่าง ไมเคิล วูล์ฟฟ์ ซึ่งเคยเขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับทรัมป์ด้วย
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สมาชิกรัฐสภาจากฝั่งพรรครีพับลิกันก็เผยแพร่เอกสารจำนวนมหาศาลเพื่อตอบโต้ และชี้ว่าฝั่งเดโมแครต "เลือกหยิบแค่" เอกสารบางส่วน "ที่ตัวเองได้ประโยชน์" พร้อมกล่าวหาต่อว่า นี่เป็นความพยายาม "ในการสร้างเรื่องเล่าเท็จเพื่อทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์เสื่อมเสีย"
โฆษกทำเนียบขาวอย่าง แคโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าวว่า อีเมลเหล่านั้นถูก "เลือกสรรมาปล่อย" โดยสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต ให้กับ "สื่อเสรีนิยม เพื่อสร้างเรื่องเท็จโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์"
"ข้อเท็จจริงก็คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ไล่ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ออกจากคลับของเขาเมื่อหลายสิบปีก่อน เพราะเอปสตีนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อพนักงานหญิง รวมไปถึง [เวอร์จิเนีย] จุฟเฟร ด้วย" เธอกล่าว
ทรัมป์เคยเป็นเพื่อนกับเอปสตีนมาหลายปี แต่ประธานาธิบดีระบุว่าพวกเขาแตกคอกันในช่วงต้นทศวรรษ 2000 สองปีก่อนที่เอปสตีนจะถูกจับครั้งแรก ทรัมป์ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยทำผิดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอปสตีน
"เรื่องที่ควรจะแดงแต่ยังไม่แดง คือเรื่องทรัมป์"ในอีเมลฉบับแรกที่ สส.จากพรรคเดโมแครตปล่อยออกมา เป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นในปี 2011 ระหว่างเอปสตีนและผู้ช่วยของเขาอย่างแมกซ์เวลล์
เนื้อหาในนั้นระบุว่า "ผมอยากให้คุณตระหนักว่าเรื่องที่ควรจะแดงแต่ยังไม่แดงคือเรื่องทรัมป์... [ชื่อเหยื่อซึ่งถูกคาดดำไว้] ใช้เวลาหลายชั่วโมงในบ้านของผมกับเขา"
เอปสตีนกล่าวต่อไปว่า ทรัมป์ "ไม่เคยถูกเอ่ยชื่อถึงเลยสักครั้งเดียว" และนั่นรวมถึงโดย "หัวหน้าตำรวจ" รายหนึ่งด้วย
แมกซ์เวลล์ตอบกลับว่า "ฉันก็กำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่พอดี..."
ชื่อของเหยื่อถูกปกปิดไว้ในอีเมลที่ฝั่งเดโมแครตเผยแพร่ออกมา อย่างไรก็ดี ในอีเมลฉบับที่ไม่มีการปกปิดจากฝั่งคณะกรรมาธิการฯ พบว่าชื่อนั้นคือ "เวอร์จิเนีย"
ทำเนียบขาวระบุว่า ชื่อนั้นหมายถึง เวอร์จิเนีย จุฟเฟร ผู้กล่าวหาเอปสตีนคนสำคัญที่เพิ่งจบชีวิตตัวเองลงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์ ทำเนียบขาวระบุว่า จุฟเฟร "กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดใด ๆ ทั้งนั้น และ 'เป็นมิตรอย่างถึงที่สุด' กับเธอในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์กัน"
จุฟเฟรเคยให้ปากคำไว้ในปี 2016 ว่า เธอไม่เคยเห็นทรัมป์มีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดใด ๆ และในหนังสือบันทึกเรื่องราวชีวิตของเธอที่เผยแพร่ในปีนี้ เธอไม่ได้กล่าวว่าทรัมป์ว่ากระทำความผิดใด ๆ
เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงปกปิดชื่อนี้ในตอนแรก สส.โรเบิร์ต การ์เซีย แกนนำพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า พรรคจะไม่เปิดเผยชื่อเหยื่อเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของครอบครัวผู้เสียหาย
เอปสตีนขอความเห็นจากวูล์ฟฟ์เรื่องทรัมป์ในการสนทนากับนักเขียนอย่าง ไมเคิล วูล์ฟฟ์ เอปสตีนพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์ ซึ่งตอนนั้นกำลังหาเสียงสำหรับการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
ในอีเมลฉบับที่สองที่พรรคเดโมแครตเป็นผู้เผยแพร่ออกมา วูล์ฟฟ์เขียนหาเอปสตีนในปี 2015 เพื่อแจ้งเตือนต่อเอปสตีนว่าสำนักข่าว CNN วางแผนที่จะถามทรัมป์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา "ถ้าไม่เป็นตอนออกอากาศ ก็เป็นในช่วงตอบคำถามสื่อหลังรายการ"
เอปสตีนตอบกลับว่า "ถ้าเราร่างคำตอบให้เขาได้ คุณคิดว่าคำตอบควรเป็นอย่างไร"
วูล์ฟฟ์เขียนตอบว่า "ผมคิดว่าคุณควรปล่อยให้เขา 'แขวนคอ' ตัวเอง ถ้าเขาพูดว่าเขาไม่เคยขึ้นเครื่องบินหรือไปบ้านหลังนั้น นั่นจะทำให้คุณมีแต้มต่อทางการเมืองและทางการประชาสัมพันธ์ คุณสามารถเล่นงานเขาในแบบที่สร้างประโยชน์ให้กับคุณได้ หรือหากมันดูเหมือนว่าเขาจะชนะได้ คุณก็อาจจะช่วยเขาได้ และนั่นจะทำให้เขาติดหนี้บุญคุณคุณ"
วูล์ฟฟ์เขียนต่อไปว่า "แน่นอนว่า เป็นไปได้เหมือนกัน ที่เมื่อถูกถาม เขาจะตอบว่า เจฟฟรีย์เป็นคนดีมาก และถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นเหยื่อของความถูกต้องทางการเมือง (political correctness) ซึ่งจะถูกทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมายภายใต้รัฐบาลทรัมป์"
ทั้งนี้ ความถูกต้องทางการเมือง (Political correctness - PC) หมายถึงทัศนคติ นโยบาย หรือพฤติกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ เพศ สติปัญญา ความบกพร่องทางร่างกาย ฯลฯ โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำที่อาจก่อให้เกิดความรู้สึกดังกล่าว
ในอีเมลอีกหนึ่งฉบับในเดือน ต.ค. 2016 ไม่กี่วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี วูล์ฟฟ์ยื่นข้อเสนอให้เอปสตีน ว่ามีโอกาสได้ออกรายการสัมภาษณ์ซึ่งอาจทำให้ทรัมป์ "จบสิ้น" ได้
"มีโอกาสเข้ามาในสัปดาห์นี้ และคุณจะได้พูดถึงทรัมป์ในแบบที่คุณอาจได้รับความเห็นใจอย่างมาก และช่วยให้คุณทำให้เขาจบสิ้นได้ สนใจไหม" วูล์ฟฟ์เขียนถึงเอปสตีน
อีเมลฉบับที่สามที่พรรคเดโมแครตปล่อยออกมาลงวันที่ในเดือน ม.ค. 2019 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก
ในอีเมลฉบับนี้ เอปสตีนบอกกับวูล์ฟฟ์ว่า "ทรัมป์บอกว่าเขาขอให้ผมลาออก" ซึ่งดูเหมือนจะหมายถึงการเป็นสมาชิกในสโมสรมาร์-อะ-ลาโก ของทรัมป์ โดยเอปสตีนเผยว่าเขา "ไม่เคยเป็นสมาชิกเลย"
เอปสตีนยังบอกอีกว่า "แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับเรื่องเด็กสาวต่าง ๆ เพราะเขาเป็นคนขอให้กิสเลนหยุดทำ"
ในวิดีโอที่วูล์ฟฟ์โพสต์บนอินสตาแกรมหลังอีเมลต่าง ๆ ถูกเปิดเผยออกมา เขากล่าวว่า "อีเมลบางฉบับเหล่านั้นเป็นเรื่องระหว่างเอปสตีนและผม โดยเอปสตีนพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับโดนัลด์ ทรัมป์"
"ผมพยายามจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว" เขาเสริม
"ผมทนกับเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว" อีเมลจากแอนดรูว์ ในปี 2011นอกจากทรัมป์แล้ว เอกสารฉบับหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ออกมายังระบุถึง แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์ หรืออดีตเจ้าชายแอนดรูว์ ด้วย
แอนดรูว์ตอบกลับอีเมลที่ กิสเลน แมกซ์เวลล์ ส่งต่อให้ผ่าน เจฟฟรีย์ เอปสตีน เมื่อเดือน มี.ค. 2011 ซึ่งเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าเขามีกิจกรรมทางเพศกับพนักงานนวดที่ทำงานให้เอปสตีน
แอนดรูว์ตอบว่า: "เฮ้ นี่มันอะไรกัน ผมไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณต้องออกมาพูดเรื่องนี้ด้วย ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยสักนิด ผมทนกับเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว"
แมกซ์เวลล์ได้ส่งต่ออีเมล "สิทธิในการชี้แจง" (right of reply) ซึ่งถูกส่งมาจากหนังพิมพ์ Mail on Sunday เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งระบุถึงข้อกล่าวหาหลายประการเกี่ยวกับแมกซ์เวลล์ เอปสตีน และแอนดรูว์ ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งเจ้าชาย
ในอีเมลสิทธิในการชี้แจงนั้นระบุว่า มีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเอกสารที่เผยแพร่ออกมาปกปิดชื่อเธอไว้ ถูกแนะนำให้รู้จักกับแอนดรูว์โดยนักการเงินที่ฉาวโฉ่ในปี 2001 ในบ้านของแมกซ์เวลล์ในกรุงลอนดอน ที่ซึ่งเธอคนนั้นมีเพศสัมพันธ์กับแอนดรูว์
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2011 หนังสือพิมพ์ Mail on Sunday เผยแพร่ข่าวที่มีรูปของเจ้าชายแอนดรูว์และเวอร์จิเนีย จุฟเฟร
แอนดรูว์ปฏิเสธการกระทำผิดใด ๆ ของตัวเองมาตลอด และยังไม่เคยถูกตั้งข้อหา
แมนเดลสันติดต่อเอปสตีนในปี 2016ลอร์ดปีเตอร์ แมนเดลสัน ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐฯ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับเอปสตีน ก็ถูกกล่าวถึงในเอกสารชุดใหม่เช่นกัน
เอกสารระบุว่า เขายังคงมีการติดต่อกับเอปสตีนจนถึงปี 2016
ก่อนหน้านี้ ข้อมูลการติดต่อครั้งล่าสุดที่เป็นข่าวของทั้งคู่ คือเหตุการณ์ในเดือน มี.ค. 2010 ตอนที่แมนเดลสัน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้านธุรกิจ ขอคำปรึกษาจากเอปสตีนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการธนาคาร เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่นักธุรกิจชาวอเมริกันรายนี้ได้รับการปล่อยตัวจากคุกในคดีความผิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ตามรายงานของ Daily Telegraph
อีเมลฉบับหนึ่งจากเอปสตีนถึงลอร์ดแมนเดลสัน เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2015 ซึ่งเป็นช่วงเวงลาไม่นานหลังวันเกิดของเขาระบุว่า "อายุ 63 ปี คุณทำมันได้แล้ว"
ลอร์ดแมนเดลสันตอบกลับภายในเวลาไม่ถึง 90 นาทีหลังจากนั้น ระบุว่า "แค่พอได้ ผมตัดสินใจที่จะยืดอายุตัวเองออกไปโดยการใช้เวลาให้มากขึ้นในสหรัฐฯ"
เอปสตีนตอบกลับว่า "ในทำเนียบขาวของโดนัลด์" ซึ่งหมายถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นั้น
เอปสตีนกล่าวต่อว่า "คุณพูดถูกเรื่องให้อยู่ห่าง ๆ จากแอนดรูว์ ส่วนผมก็ถูกที่ให้คุณอยู่กับรินัลโด" ซึ่งเป็นคำพูดที่หมายถึง สามีคนปัจจุบันของลอร์ดแมนเดลสันอย่าง เรย์นัลโด อาวิลดา ดา ซิลวา
ลอร์ดแมนเดลสันเคยระบุหลายครั้งว่าเขาเสียใจกับความสัมพันธ์ของเขากับเอปสตีน และปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับอีเมลเหล่านี้เมื่อบีบีซีสอบถาม
https://www.bbc.com/thai/articles/c797g3ld85qo