เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
อ่าน: 7071 The Epstein Files -- แฟ้มลับที่ (ไม่) มีจริง
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41828

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 02 พ.ย. 25, 12:31

   สื่ออังกฤษยังตามเปิดโปงไม่หยุดยั้ง   ล่าสุดไทยแลนด์แดนพักผ่อนของแอนดรูว์  ก็เข้าไปมีส่วนเอี่ยวในหนังสือ   ชื่อ "The Rise and Fall of the House of York" ซึ่งเป็นเล่มล่าสุดของนายแอนดรูว์ โลว์นีย์ นักเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชสำนัก
    นายโลว์นีย์ ระบุว่าย้อนหลังไปเมื่อค.ศ. 2001 ตอนที่อดีตเจ้าชายแอนดรูว์วัย 41 ปี ทำหน้าที่ทูตการค้าของสหราชอาณาจักร    ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศไทย เขาเลือกพักในโรงแรมหรู 5 ดาวแทนที่จะพักในบ้านพักของสถานทูต 
    แม้ว่ามาอย่างทางการ  แต่โลว์นีย์บอกว่าในกำหนดการ  เว้นให้บางช่วงเป็น "เวลาส่วนตัว" ด้วย  ในหนังสือระบุว่า
    "ในช่วงเวลาแค่ 4 วัน แอนดรูว์เรียกโสเภณีมาถึง 40 คน" โลว์นีย์ว่ายังงั้น  "สิ่งที่เราเห็นคือเขาเดินทางด้วยเงินภาษีของประชาชน  แต่เอาไปใช้ในความบันเทิงส่วนตัว"
     รัฐบาลสหราชอาณาจักรและฝ่ายข่าวของราชสำนักปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเจาะจงลงไปว่า เรื่องในหนังสือจริงหรือไม่จริงกันแน่  แต่ตอบว่าทางสำนักพระราชวัง "ถือเป็นเรื่องพิจารณาจริงจังกับทุกคำกล่าวหาในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะควรของเหล่าพระราชวงศ์"
     เรื่องนี้อดีตเจ้าชายแอนดรูว์เงียบอย่างเดียว  ไม่ได้ออกมารับหรือปฏิเสธ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16234



ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 02 พ.ย. 25, 14:35

วันที่จันทร์ที่ผ่านมา (๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๘) ระหว่าง พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ ๓ เสด็จเยือนมหาวิหารลิชฟิลด์ ผู้ประท้วงคนหนึ่งตะโกนเกี่ยวกับกรณีเจ้าชายแอนดรูว์ ว่า "พระองค์รู้เรื่องของแอนดรูว์และเอปสตีนมานานแค่ไหนแล้ว" (How long have you known about Andrew and Epstein?)

"พระองค์ได้ขอให้ตำรวจปกปิดเรื่องของแอนดรูว์หรือเปล่า?  สส. ควรได้รับอนุญาตให้อภิปรายเรื่องราชวงศ์ในสภาสามัญชนหรือไม่?" (Have you asked the police to cover up for Andrew? Should the MPs be allowed to debate the royals in the House of Commons?)

มีรายงานว่า ชายคนดังกล่าวถูกพาตัวออกไป ส่วนพระเจ้าชาร์ลส์ก็เดินเลี่ยงไปหาผู้คนที่เฝ้ารอรับเสด็จอีกด้าน แยกย้ายกันด้วยดี

บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 02 พ.ย. 25, 21:13

มีข่าวน่าสนใจข่าวหนึ่งออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว  ยังไม่มีเวลาแปลเรียบเรียงทั้งหมด อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษไปพลางๆ ก่อนนะคะ แต่สรุปสั้นๆ ก็คือหลังจากที่เอปสตีนตายในปี 2019 ธนาคารเจพีมอร์แกนได้รายงานต่อทางการว่ามีธุรกรรมการเงินที่น่าสงสัยหลายพันธุรกรรมที่เข้าออกบัญชีของเอปสตีนและลูกค้าบางรายซึ่งอาจจะเป็นการฟอกเงิน  มูลค่าของธุรกรรมเหล่านั้นรวมกันแล้วมันมากมายมหาศาลถึงหนึ่งพันล้านเหรียญ  แต่ไม่เคยปรากฎว่ามีการสอบสวนเรื่องนี้หรือรายงานเพิ่มเติม  (หรือหากมีรายงาน มันก็คงถูกหมกอยู่ที่ไหนสักแห่งเพราะสื่อมวลชนที่ตามติดข่าวเอปสตีนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน)

JP Morgan Warned US of $1bn in Epstein Transactions Possibly Related to Human Trafficking

Bank says it alerted US of ‘suspicious’ transactions just weeks after pedophile was found dead in New York jail cell
[/i]
Emine Sinmaz

The Guardian

31 Oct 2025

JP Morgan warned the US government about more than $1bn in transactions linked to Jeffrey Epstein that were possibly related to reports of human trafficking, new documents confirm.

The largest bank in the US filed a suspicious activity report (SAR) in 2019, just weeks after Epstein was found dead in a New York jail cell, about transactions linked to the pedophile financier and prominent business figures. It also flagged wire transfers made by Epstein to Russian banks.

JP Morgan’s report said it had flagged about 4,700 transactions, totaling more than $1bn, that were potentially related to reports of human trafficking involving Epstein, the New York Times reported. The report, filed during the last Trump administration, also flagged sensitivities around Epstein’s “relationships with two U.S. presidents”.

The report was included in a release of previously sealed court records that were made public on Thursday after requests from the New York Times and the Wall Street Journal. The documents included other SARs that JPMorgan filed in the years before Epstein’s 2019 arrest about large cash withdrawals, the New York Times reported.

The 2019 report did not detail the nature of the transactions or why they were suspicious. But it identified transactions with Leon Black, the co-founder of the private equity firm Apollo Global Management who left the company in 2021; the hedge fund manager Glenn Dubin; the lawyer Alan Dershowitz; and trusts controlled by the retail tycoon Leslie Wexner.

The report identified $65m of wire transfers from the mid-2000s that appeared to move between multiple banks linked to Wexner’s trusts but it did not provide details about the transactions involving Black, Dubin or Dershowitz.

None of the individuals named in the report have been charged with crimes in relation to Epstein.

JP Morgan’s 15-year relationship with Epstein, a convicted sex offender, has become a source of major legal and political scrutiny.

The unsealed documents were part of a 2023 litigation filed by the US Virgin Islands, where Epstein owned a private island and conducted most of his financial affairs, and on behalf of his victims. JP Morgan settled the cases without admitting liability.

Patricia Wexler, a spokesperson for JPMorgan, said the release of the SARs showed that the bank had alerted regulators about Epstein.

She said: “The SARs do confirm what’s been inferred all along: the bank filed SARs about Epstein early on, and specifically when it exited Epstein from the bank in 2013 – and repeatedly between 2013 and 2019, as required.

“It does not appear that anyone in the government or law enforcement acted on those SARs for years.”

Devon Spurgeon, a spokesperson for Dubin, said the transactions in question were unrelated to Epstein’s crimes, and Dershowitz, who was one of Epstein’s lawyers, said the only funds he received from Epstein were payments for legal services, according to the New York Times.

A representative for Black did not want to comment. The Guardian has also contacted Wexner.
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16234



ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 03 พ.ย. 25, 09:35

JP Morgan Warned US of $1bn in Epstein Transactions Possibly Related to Human Trafficking

Bank says it alerted US of ‘suspicious’ transactions just weeks after pedophile was found dead in New York jail cell

เจพีมอร์แกนเตือนสหรัฐฯ ว่าธุรกรรมของเอปสเตนมูลค่า ๑ พันล้านดอลลาร์อาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์

ธนาคารระบุว่าได้แจ้งเตือนสหรัฐฯ เกี่ยวกับธุรกรรมที่ "น่าสงสัย" เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากพบศพผู้ล่วงละเมิดทางเพศในเรือนจำนิวยอร์ก

รายละเอียดข่าวจาก เดอะการ์เดียน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41828

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 03 พ.ย. 25, 10:37

ผ่านมา 6 ปีเรื่องยังเงียบ  แสดงว่าขยะใต้พรมยังมีอยู่
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 10 พ.ย. 25, 16:13

ผ่านมา 6 ปีเรื่องยังเงียบ  แสดงว่าขยะใต้พรมยังมีอยู่

จริงๆ มันนานกว่านั้นค่ะ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กไปได้หลักฐานเป็นอีเมลส่วนตัวที่เอปสตีนส่งออกและได้รับในช่วงที่เขากำลังต่อสู้คดีแรกในฟลอริดา เป็นจำนวนกว่า 18,000 ฉบับ  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเอกสารที่ไม่เคยได้รับการเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน   ทำให้เราได้ทราบว่าในขณะที่ทางการรัฐฟลอริดากำลังสืบสวนนายเอปสตีนในคดีละเมิดทางเพศแก่ผู้เยาว์ในช่วงปี 2006-2007 นั้น  จนท.ก็ได้ทำการสืบสวนเขาในข้อหาฟอกเงินไปพร้อมๆ กัน  

สาเหตุที่มีการพุ่งเป้าไปที่เรื่องนี้ก็เพราะในระหว่างที่กำลังสืบสวนคดีละเมิดเด็กนั้นจนท.พบว่า    ผู้ช่วยของนายเอปสตีนมักจะถอนเงินสดคราวละมากๆ เอาไปจ่ายเป็นค่าปิดปากเด็กสาวๆ ทั่วโลกที่เจ้านายล่วงละเมิด   เมื่อมีหลักฐานเพียงพออัยการผู้ทำคดีนี้จึงได้ร่างสำนวนฟ้องเอาไว้เรียบร้อย  แต่สุดท้ายเอปสตีนก็เจอแค่คดีละเมิดเด็กจิ๊บจ๊อย 2 กระทง แถมได้รับข้อเสนอที่คนในวงการกฎหมายของอเมริกาต่างก็เรียกว่า the sweetheart deal (ดีลที่เยี่ยมยิ่งกว่าเยี่ยม) ด้วย  ทำให้ได้ติดคุกเหมือนไม่ได้ติดไปแค่ปีกว่าๆ ก็ออกมาทำผิดต่อ  ส่วนคนที่ร่วมกันกระทำผิดก็ยังได้รับความคุ้มครองจากการสืบสวนในอนาคตโดยเอฟบีไออีก  แต่เอกสารส่งฟ้องคดีฟอกเงินนั้นกลับถูกเก็บไว้บนหิ้งมาตั้งแต่ปี 2008 ไม่เคยถูกนำออกมาใช้  

แค่มีนักข่าวไปสืบเสาะมาได้ว่าทางการสอบสวนเคยเอปสตีนในเรื่องที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินแต่ไม่เคยฟ้องเขาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวนั้นมันก็แย่อยู่แล้ว  ที่แย่ไปกว่านั้นคือนายอเล็กซ์ อคอสตา อัยการรัฐคนที่เซ็นอนุมัติ the sweetheart deal ให้เอปสตีนยังอาจจะให้การเท็จต่อกรรมาธิการรัฐสภาเพื่อปกปิดเรื่องนี้อีกด้วย   ทั้งนี้ก็เพราะในระหว่างที่นายอคอสตากำลังให้การแก่กมธ. Oversight and Government Reform เกี่ยวกับ the Epstein Files เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น   มี  กรรมาธิการท่านหนึ่งถามว่านายอคอสตาเคยคิดว่าจะดำเนินคดีกับเอปสตีนในข้อหาที่เกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินบ้างไหม  นายอคอสตาตอบว่าเท่าที่จำได้ไม่เคยมีการพูดถึงคดีอื่นๆ นอกจากคดีอาญาเรื่องละเมิดทางเพศกับเด็ก   อย่างไรก็ดี หลักฐานที่บลูมเบิร์กได้มานั้นบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าลูกน้องของนายอคอสตาได้อ้างถึงการสืบสวนนายเอปสตีนในข้อหาฟอกเงินในอีเมล    แถมตัวนายอคอสตาเองก็ยังอยู่ใน CC ด้วย    จะมาบอกว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้ได้อย่างไร

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41828

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 10 พ.ย. 25, 16:22

  เดาว่าเอกสารลับเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อไหร่   เก้าอี้ของบุคคลสำคัญๆในหลายประเทศไม่เฉพาะแต่ในอเมริกาคงจะว่างกันแทบไม่เหลือใครทำงาน   จึงต้องปกปิดเอาไว้สุดแรงเกิด  เพราะ "เป็นผลเสียต่อสาธารณะมากกว่าเป็นผลดี"
  เมื่อนายเอปสตีนไปรับโทษในนรกแล้ว   เอกสารลับที่แพลมๆออกมาเป็นครั้งคราว อย่างที่คุณปัญจมานำเสนอ  ก็คงเปิดแวบๆให้เห็นบ้าง  แต่ยังเปิดไม่หมดอยู่ดี อาจจะไม่มีวันหมดนะคะ
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 14 พ.ย. 25, 08:21

เปิดเนื้อหาอีเมลระหว่างเอปสตีนกับผู้ช่วยคนใกล้ชิด พูดถึงทรัมป์ว่าอย่างไรบ้าง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเอกสารมากกว่า 20,000 หน้า จากกองมรดกของนักการเงินผู้ฉาวโฉ่และยังเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศอย่าง เจฟฟรีย์ เอปสตีน ซึ่งนั่นรวมถึงเอกสารส่วนหนึ่งที่ระบุถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วย

เมื่อช่วงเช้าวันพุธ (12 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ พรรคเดโมแครตซึ่งนั่งอยู่ในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยอีเมลตอบโต้กัน 3 ฉบับ ซึ่งเป็นการสนทนากันระหว่างเอปสตรีน ซึ่งเสียชีวิตภายในเรือนจำในปี 2019 กับ กิสเลน แมกซ์เวลล์ ผู้ร่วมงานใกล้ชิดยาวนานของเขา ซึ่งปัจจุบันกำลังรับโทษจำคุก 20 ปีในข้อหาค้ามนุษย์ทางเพศ

คณะกรรมาธิการฯ ยังได้เปิดเผยอีเมลระหว่างเอปสตีนกับนักเขียนอย่าง ไมเคิล วูล์ฟฟ์ ซึ่งเคยเขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับทรัมป์ด้วย

ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น สมาชิกรัฐสภาจากฝั่งพรรครีพับลิกันก็เผยแพร่เอกสารจำนวนมหาศาลเพื่อตอบโต้ และชี้ว่าฝั่งเดโมแครต "เลือกหยิบแค่" เอกสารบางส่วน "ที่ตัวเองได้ประโยชน์" พร้อมกล่าวหาต่อว่า นี่เป็นความพยายาม "ในการสร้างเรื่องเล่าเท็จเพื่อทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์เสื่อมเสีย"

โฆษกทำเนียบขาวอย่าง แคโรไลน์ ลีวิตต์ กล่าวว่า อีเมลเหล่านั้นถูก "เลือกสรรมาปล่อย" โดยสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครต ให้กับ "สื่อเสรีนิยม เพื่อสร้างเรื่องเท็จโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์"

"ข้อเท็จจริงก็คือ ประธานาธิบดีทรัมป์ไล่ เจฟฟรีย์ เอปสตีน ออกจากคลับของเขาเมื่อหลายสิบปีก่อน เพราะเอปสตีนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อพนักงานหญิง รวมไปถึง [เวอร์จิเนีย] จุฟเฟร ด้วย" เธอกล่าว

ทรัมป์เคยเป็นเพื่อนกับเอปสตีนมาหลายปี แต่ประธานาธิบดีระบุว่าพวกเขาแตกคอกันในช่วงต้นทศวรรษ 2000 สองปีก่อนที่เอปสตีนจะถูกจับครั้งแรก ทรัมป์ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่เคยทำผิดใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเอปสตีน

"เรื่องที่ควรจะแดงแต่ยังไม่แดง คือเรื่องทรัมป์"

ในอีเมลฉบับแรกที่ สส.จากพรรคเดโมแครตปล่อยออกมา เป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นในปี 2011 ระหว่างเอปสตีนและผู้ช่วยของเขาอย่างแมกซ์เวลล์

เนื้อหาในนั้นระบุว่า "ผมอยากให้คุณตระหนักว่าเรื่องที่ควรจะแดงแต่ยังไม่แดงคือเรื่องทรัมป์... [ชื่อเหยื่อซึ่งถูกคาดดำไว้] ใช้เวลาหลายชั่วโมงในบ้านของผมกับเขา"

เอปสตีนกล่าวต่อไปว่า ทรัมป์ "ไม่เคยถูกเอ่ยชื่อถึงเลยสักครั้งเดียว" และนั่นรวมถึงโดย "หัวหน้าตำรวจ" รายหนึ่งด้วย

แมกซ์เวลล์ตอบกลับว่า "ฉันก็กำลังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่พอดี..."

ชื่อของเหยื่อถูกปกปิดไว้ในอีเมลที่ฝั่งเดโมแครตเผยแพร่ออกมา อย่างไรก็ดี ในอีเมลฉบับที่ไม่มีการปกปิดจากฝั่งคณะกรรมาธิการฯ พบว่าชื่อนั้นคือ "เวอร์จิเนีย"

ทำเนียบขาวระบุว่า ชื่อนั้นหมายถึง เวอร์จิเนีย จุฟเฟร ผู้กล่าวหาเอปสตีนคนสำคัญที่เพิ่งจบชีวิตตัวเองลงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ในแถลงการณ์ ทำเนียบขาวระบุว่า จุฟเฟร "กล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดใด ๆ ทั้งนั้น และ 'เป็นมิตรอย่างถึงที่สุด' กับเธอในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์กัน"

จุฟเฟรเคยให้ปากคำไว้ในปี 2016 ว่า เธอไม่เคยเห็นทรัมป์มีส่วนร่วมในการล่วงละเมิดใด ๆ และในหนังสือบันทึกเรื่องราวชีวิตของเธอที่เผยแพร่ในปีนี้ เธอไม่ได้กล่าวว่าทรัมป์ว่ากระทำความผิดใด ๆ

เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงปกปิดชื่อนี้ในตอนแรก สส.โรเบิร์ต การ์เซีย แกนนำพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการกำกับดูแลสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่า พรรคจะไม่เปิดเผยชื่อเหยื่อเด็ดขาด เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของครอบครัวผู้เสียหาย

เอปสตีนขอความเห็นจากวูล์ฟฟ์เรื่องทรัมป์

ในการสนทนากับนักเขียนอย่าง ไมเคิล วูล์ฟฟ์ เอปสตีนพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับทรัมป์ ซึ่งตอนนั้นกำลังหาเสียงสำหรับการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก

ในอีเมลฉบับที่สองที่พรรคเดโมแครตเป็นผู้เผยแพร่ออกมา วูล์ฟฟ์เขียนหาเอปสตีนในปี 2015 เพื่อแจ้งเตือนต่อเอปสตีนว่าสำนักข่าว CNN วางแผนที่จะถามทรัมป์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเขา "ถ้าไม่เป็นตอนออกอากาศ ก็เป็นในช่วงตอบคำถามสื่อหลังรายการ"

เอปสตีนตอบกลับว่า "ถ้าเราร่างคำตอบให้เขาได้ คุณคิดว่าคำตอบควรเป็นอย่างไร"

วูล์ฟฟ์เขียนตอบว่า "ผมคิดว่าคุณควรปล่อยให้เขา 'แขวนคอ' ตัวเอง ถ้าเขาพูดว่าเขาไม่เคยขึ้นเครื่องบินหรือไปบ้านหลังนั้น นั่นจะทำให้คุณมีแต้มต่อทางการเมืองและทางการประชาสัมพันธ์ คุณสามารถเล่นงานเขาในแบบที่สร้างประโยชน์ให้กับคุณได้ หรือหากมันดูเหมือนว่าเขาจะชนะได้ คุณก็อาจจะช่วยเขาได้ และนั่นจะทำให้เขาติดหนี้บุญคุณคุณ"

วูล์ฟฟ์เขียนต่อไปว่า "แน่นอนว่า เป็นไปได้เหมือนกัน ที่เมื่อถูกถาม เขาจะตอบว่า เจฟฟรีย์เป็นคนดีมาก และถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นเหยื่อของความถูกต้องทางการเมือง (political correctness) ซึ่งจะถูกทำให้เป็นเรื่องผิดกฎหมายภายใต้รัฐบาลทรัมป์"

ทั้งนี้ ความถูกต้องทางการเมือง (Political correctness - PC) หมายถึงทัศนคติ นโยบาย หรือพฤติกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ เพศ สติปัญญา ความบกพร่องทางร่างกาย ฯลฯ โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำที่อาจก่อให้เกิดความรู้สึกดังกล่าว

ในอีเมลอีกหนึ่งฉบับในเดือน ต.ค. 2016 ไม่กี่วันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี วูล์ฟฟ์ยื่นข้อเสนอให้เอปสตีน ว่ามีโอกาสได้ออกรายการสัมภาษณ์ซึ่งอาจทำให้ทรัมป์ "จบสิ้น" ได้

"มีโอกาสเข้ามาในสัปดาห์นี้ และคุณจะได้พูดถึงทรัมป์ในแบบที่คุณอาจได้รับความเห็นใจอย่างมาก และช่วยให้คุณทำให้เขาจบสิ้นได้ สนใจไหม" วูล์ฟฟ์เขียนถึงเอปสตีน

อีเมลฉบับที่สามที่พรรคเดโมแครตปล่อยออกมาลงวันที่ในเดือน ม.ค. 2019 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก

ในอีเมลฉบับนี้ เอปสตีนบอกกับวูล์ฟฟ์ว่า "ทรัมป์บอกว่าเขาขอให้ผมลาออก" ซึ่งดูเหมือนจะหมายถึงการเป็นสมาชิกในสโมสรมาร์-อะ-ลาโก ของทรัมป์ โดยเอปสตีนเผยว่าเขา "ไม่เคยเป็นสมาชิกเลย"

เอปสตีนยังบอกอีกว่า "แน่นอนว่าเขารู้เกี่ยวกับเรื่องเด็กสาวต่าง ๆ เพราะเขาเป็นคนขอให้กิสเลนหยุดทำ"

ในวิดีโอที่วูล์ฟฟ์โพสต์บนอินสตาแกรมหลังอีเมลต่าง ๆ ถูกเปิดเผยออกมา เขากล่าวว่า "อีเมลบางฉบับเหล่านั้นเป็นเรื่องระหว่างเอปสตีนและผม โดยเอปสตีนพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับโดนัลด์ ทรัมป์"

"ผมพยายามจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็นเวลานานแล้ว" เขาเสริม

"ผมทนกับเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว" อีเมลจากแอนดรูว์ ในปี 2011

นอกจากทรัมป์แล้ว เอกสารฉบับหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ออกมายังระบุถึง แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์ หรืออดีตเจ้าชายแอนดรูว์ ด้วย

แอนดรูว์ตอบกลับอีเมลที่ กิสเลน แมกซ์เวลล์ ส่งต่อให้ผ่าน เจฟฟรีย์ เอปสตีน เมื่อเดือน มี.ค. 2011 ซึ่งเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่าเขามีกิจกรรมทางเพศกับพนักงานนวดที่ทำงานให้เอปสตีน

แอนดรูว์ตอบว่า: "เฮ้ นี่มันอะไรกัน ผมไม่รู้อะไรสักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณต้องออกมาพูดเรื่องนี้ด้วย ผมไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยสักนิด ผมทนกับเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว"

แมกซ์เวลล์ได้ส่งต่ออีเมล "สิทธิในการชี้แจง" (right of reply) ซึ่งถูกส่งมาจากหนังพิมพ์ Mail on Sunday เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งระบุถึงข้อกล่าวหาหลายประการเกี่ยวกับแมกซ์เวลล์ เอปสตีน และแอนดรูว์ ซึ่งขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งเจ้าชาย

ในอีเมลสิทธิในการชี้แจงนั้นระบุว่า มีหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเอกสารที่เผยแพร่ออกมาปกปิดชื่อเธอไว้ ถูกแนะนำให้รู้จักกับแอนดรูว์โดยนักการเงินที่ฉาวโฉ่ในปี 2001 ในบ้านของแมกซ์เวลล์ในกรุงลอนดอน ที่ซึ่งเธอคนนั้นมีเพศสัมพันธ์กับแอนดรูว์

เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2011 หนังสือพิมพ์ Mail on Sunday เผยแพร่ข่าวที่มีรูปของเจ้าชายแอนดรูว์และเวอร์จิเนีย จุฟเฟร

แอนดรูว์ปฏิเสธการกระทำผิดใด ๆ ของตัวเองมาตลอด และยังไม่เคยถูกตั้งข้อหา

แมนเดลสันติดต่อเอปสตีนในปี 2016

ลอร์ดปีเตอร์ แมนเดลสัน ซึ่งถูกปลดจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำสหรัฐฯ เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกับเอปสตีน ก็ถูกกล่าวถึงในเอกสารชุดใหม่เช่นกัน

เอกสารระบุว่า เขายังคงมีการติดต่อกับเอปสตีนจนถึงปี 2016

ก่อนหน้านี้ ข้อมูลการติดต่อครั้งล่าสุดที่เป็นข่าวของทั้งคู่ คือเหตุการณ์ในเดือน มี.ค. 2010 ตอนที่แมนเดลสัน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้านธุรกิจ ขอคำปรึกษาจากเอปสตีนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงเกี่ยวกับการธนาคาร เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่นักธุรกิจชาวอเมริกันรายนี้ได้รับการปล่อยตัวจากคุกในคดีความผิดทางเพศต่อผู้เยาว์ ตามรายงานของ Daily Telegraph

อีเมลฉบับหนึ่งจากเอปสตีนถึงลอร์ดแมนเดลสัน เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2015 ซึ่งเป็นช่วงเวงลาไม่นานหลังวันเกิดของเขาระบุว่า "อายุ 63 ปี คุณทำมันได้แล้ว"

ลอร์ดแมนเดลสันตอบกลับภายในเวลาไม่ถึง 90 นาทีหลังจากนั้น ระบุว่า "แค่พอได้ ผมตัดสินใจที่จะยืดอายุตัวเองออกไปโดยการใช้เวลาให้มากขึ้นในสหรัฐฯ"

เอปสตีนตอบกลับว่า "ในทำเนียบขาวของโดนัลด์" ซึ่งหมายถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นั้น

เอปสตีนกล่าวต่อว่า "คุณพูดถูกเรื่องให้อยู่ห่าง ๆ จากแอนดรูว์ ส่วนผมก็ถูกที่ให้คุณอยู่กับรินัลโด" ซึ่งเป็นคำพูดที่หมายถึง สามีคนปัจจุบันของลอร์ดแมนเดลสันอย่าง เรย์นัลโด อาวิลดา ดา ซิลวา

ลอร์ดแมนเดลสันเคยระบุหลายครั้งว่าเขาเสียใจกับความสัมพันธ์ของเขากับเอปสตีน และปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับอีเมลเหล่านี้เมื่อบีบีซีสอบถาม

https://www.bbc.com/thai/articles/c797g3ld85qo

บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 14 พ.ย. 25, 08:39

The dog that hasn't barked เป็นสำนวนจากนิยายสืบสวนเชอร์ล็อค โฮล์มส์  สาเหตุที่หมาไม่เห่าเวลาขโมยขึ้นบ้านก็เพราะหมารู้จักขโมยดี ถ้าแปลตรงตัวก็เหมือนเอปสตีนกำลังบอกว่าทรัมป์รู้ดีว่าเขาทำอะไรมาบ้างแต่ไม่เคยกระโตกกระตาก   แต่พอเอามารวมกับประโยคที่สองแล้วอาจจะงงเล็กน้อย  เพราะเอปสตีนบอกว่าทรัมป์เคยอยู่ที่บ้านเขานานหลายชม.กับเหยื่อ แต่ he's never been mentioned. ไม่เคยมีใครเอ่ยถึงเขามาก่อน (ในระหว่างให้การกับตำรวจ)  เหมือนจะบอกว่าทรัมป์มีส่วนในอาชญากรรมด้วยแต่ไม่เคยมีเหยื่อคนไหนพูดถึงเขา  นี่น่าจะเป็นสาเหตุให้บีบีซีแปลประโยคแรกว่า "เรื่องที่ควรจะแดงแต่ยังไม่แดง"

อย่างไรก็ดี  ทั้งหมดนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าทรัมป์มีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหนในอาชญากรรม  เพราะเป็นแค่คำพูดของเอปสตีนข้างเดียว  และเอปสตีนนั้นเราก็รู้กันว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ ฉ้อฉล สามารถใช้คำพูดโอ้โลมเหยื่อได้นานเป็นสิบๆ ปี  แต่สิ่งหนึ่งที่อีเมลเหล่านี้บอกเราคือเอปสตีนดูจะหมกมุ่นกับทรัมป์มากหลังจากที่ออกจากคุก  และพยายามกล่าวอ้างว่าเขารู้ความลับของทรัมป์มากพอที่จะล้มฝ่ายหลังได้ในขณะที่ดาวการเมืองของทรัมป์กำลังรุ่งโรจน์   


บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 14 พ.ย. 25, 09:17

ในสัปดาห์หน้า  สภาล่างของสหรัฐฯ ก็จะมีการพิจารณากฎหมายที่จะบังคับให้กระทรวงยุติธรรมต้องนำเอกสารที่เกี่ยวกับเอปสตีนในครอบครองทั้งหมดมาเผยแพร่   หลังจากที่มีสส.จากทั้งสองพรรคครบ  218 คนมาร่วมลงนามใน Discharge Petition หรือคำร้องให้นำกฎหมายที่ถูกประธานกมธ.แช่แข็งไว้มาเข้าสู่สภาได้โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการปกติ     เชื่อกันว่าเมื่อถึงเวลาโหวตจะมีสส.จากพรรครีพับลิกันหลายคนที่ไม่ได้ร่วมลงนามใน Discharge Petition มาโหวตให้กม.ฉบับนี้ผ่าน  เพราะไม่สามารถต้านแรงกดดันจากฐานเสียงในพื้นที่ที่มองว่ารัฐบาลกำลังปกป้องอาชญากรละเมิดเด็กได้  อย่างไรก็ดีก็มีการคาดหมายด้วยว่ากม.ฉบับดังกล่าวจะถูกตีตกไปในชั้นวุฒิสภา (เพราะต้องใช้เสียงวุฒิสมาชิก 60 เสียง ขณะที่พรรคเดโมแครตมีแค่ 47 เสียง)  หรือถ้าผ่านได้ก็คงจะถูกทรัมป์วีโต้อยู่ดี   กระนั้น  แค่การที่กม.ฉบับนี้ได่รับเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรมากพอที่จะทำให้กระบวนการยื่นขอ discharge petition ประสบความสำเร็จได้นั้นก็บอกอะไรได้มากพอสมควรแล้ว  คนที่จะต้องตอบคำถามว่าทำไมกม.ฉบับนี้ถึงถูกตีตกในวุฒิสภาหรือวีโต้โดยปธน.คือตัวทรัมป์เอง     
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41828

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 14 พ.ย. 25, 09:33

  ถ้าเปิดเผยออกมาแล้วเขย่าเก้าอี้ของทรัมป์    เขาก็คงไม่อยากให้เปิดเผยละค่ะ
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 283


ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ วันนี้ เวลา 07:19

https://www.thairath.co.th/news/foreign/2896423

ข้อสังเกต:

-ในฐานะประมุขของฝ่ายบริหาร  ทรัมป์สามารถขอให้กระทรวงยุติธรรมเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้โดยไม่ต้องรอให้คองเกรสผ่านกม.มาบังคับ

- ทรัมป์พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนในเรื่อง the Epstein files มาตลอดด้วยการเรียกมันว่า hoax  เรื่องที่ฝั่งซ้ายกุขึ้น   แต่หลังจากกมธ. เอาอีเมลที่เอปสตีนพูดถึงทรัมป์และสื่อสารกับคนอื่นๆ มาเผยแพร่  ทรีมป์ก็สั่งให้เอฟบีไอสอบสวนบรรดาผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับเอปสตีนจากฝั่งเดโมแครต ไม่ว่าจะเป็นบิล คลินตัน หรืออดีตรมว.คลังและ President of Harvard นายลาร์รี่ ซัมเมอร์ส  (คนหลังนี่แย่มาก  อ่านอีเมลที่เขากับเอปสตีนส่งถึงกันแล้วอ้าปากค้าง  ไม่นึกเลยว่าคนระดับนี้จะสิ้นคิดถึงขนาดต้องไปขอคำแนะนำจากเอปสตีนเรื่องผู้หญิง)

- การสอบสวนที่จะเกิดขึ้นนั้นน่าจะเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว  เพราะนอกจากมันจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจไปยังคนที่ทรัมป์ถือว่าเป็นศัตรูแล้ว  ยังช่วยให้รัฐบาลสามารถชะลอการเผยแพร่ข้อมูลใน the Epstein files ของตัวเองออกไปได้อีกด้วยข้ออ้างง่ายๆ ว่ากระทรวงยุติธรรมไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ ongoing investigation ได้
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.09 วินาที กับ 19 คำสั่ง