เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
อ่าน: 5536 The Epstein Files -- แฟ้มลับที่ (ไม่) มีจริง
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 13 ส.ค. 25, 10:03

    เห็นเวอร์จิเนีย จุฟเฟรในคลิปที่คุณปัญจมาทำลิ้งค์ให้ดูแล้วค่ะ    เธอเป็นผู้หญิงที่จุดไฟเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นคนแรก  ทำเอาขบวนการเอปสตีนพังพินาศ จนถึงความตายแบบมีเงื่อนงำของพ่อเล้าใหญ่
    แต่พออ่านข่าวว่าจู่ๆเธอก็ฆ่าตัวตาย   ทั้งๆคดีทั้งหลายที่เธอสู้ก็(น่าจะ)จบไปนานพอควรแล้ว ชีวิตเธอก็น่าจะเข้าสู่ความสงบได้แล้ว     เลยสงสัยว่าเธอถูกปิดปากจากใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของเธอหรือเปล่า

หนูคิดว่าถ้าใครสักคนจะฆ่าปิดปากเวอร์จิเนีย จุฟเฟรแล้วล่ะก็  เขาคงทำไปตั้งแต่ก่อนเธอจะเอาเรื่องไปขายให้แท็บลอยด์อังกฤษแล้วละมั้งคะ  คงไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตมาบอกเล่าเรื่องราวหรือกล่าวหาทั้งอดีตปธน.สหรัฐและสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์อังกฤษให้เสียหายหรอก

แต่สำหรับคำถามว่าทำไมเหยื่อของเอปสตีนถึงฆ่าตัวตายนั้น   หนูคิดว่าถ้าใครได้ดูคลิปสัมภาษณ์ข้างบนก็น่าจะเข้าใจ   ส่วนหนึ่งคงเพราะเขาใช้โปรยหัวว่า “the lasting impact of sexual abuse"  รวมทั้งเริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยการสัมภาษณ์นักจิตวิทยาเกี่ยวกับบาดแผลทางจิตใจของผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาก่อน 

สิ่งหนึ่งซึ่งผลักดันให้นักข่าวของไมอามี เฮรัลด์ชื่อจูลี่ บราวน์ไปดั้นด้นค้นหาเหยื่อเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพวกเธอให้สังคมได้รับรู้  ก็คือการที่เอปสตีนสามารถกลับไปใช้ชีวิตหรูๆ แวดล้อมด้วยนักธุรกิจผู้ร่ำรวยและคนในสังคมชั้นสูงได้เหมือนเดิมหลังจากที่พ้นโทษในปี 2009   มีเงิน มีบริวาร มีบ้านใหญ่โตโอ่อ่า และเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินส่วนตัวเหมือนก่อนจะถูกดำเนินคดีไม่มีผิด
 
แต่ชีวิตของผู้หญิงจำนวนมากที่เคยตกเป็นเหยื่อของเขานั้นอาจเปลี่ยนไปโดยไม่มีวันหวนกลับ   บางคนต้องติดยา ติดคุก ที่เคยเป็นเด็กแถวหน้าในห้องก็กลายเป็นเด็กซึมเศร้า เกเร  โดยที่พ่อแม่ไม่เคยรู้สาเหตุที่แท้จริงเพราะพวกเธออับอายเกินกว่าจะบอกใคร

เราคงจะไม่สามารถจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าเหยื่อเหล่านั้นรู้สึกอย่างไร  แต่ถ้าเราลองเอาตัวเองไปใส่ในสถานการณ์ที่พวกเธอต้องเผชิญและพยายาม “ฟัง” สิ่งที่พวกเธอบอกเล่าให้มากขึ้น  งดเว้นที่จะตัดสินพวกเธอจากมุมมองของคนที่ไม่เคยพบเจออะไรร้ายๆ เหมือนที่พวกเธอต้องประสบ  เราอาจจะหมดข้อสงสัยว่าเพราะอะไรเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศบางคนถึงรู้สึกอับจนและฆ่าตัวตายในท้ายที่สุด 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41640

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 13 ส.ค. 25, 10:34

      ถ้าเวอร์จิเนีย จุฟเฟรรู้สึกกดดันมากกับเรื่องราวนี้  จนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง  ก็น่าเห็นใจมาก   ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ   แสดงว่าตลอดเวลาเธอต้องรับแรงกดดันอย่างหนักเมื่อออกมาเปิดเผยเรื่องราว     
      แต่ที่ถามคุณปัญจมา เพราะคิดไปอย่างหนังนักสืบค่ะ ว่าเธออาจมีผู้อยู่เบื้องหลังที่ผลักดันให้เธอออกมาแฉ ในฐานะพยานปากเอก  พอหมดประโยชน์ และอาจกลัวว่าจะแฉถึงเบื้องหลัง  ก็เลยกำจัดเสีย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41640

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 18 ต.ค. 25, 10:16

    ถึงแม้ว่าเอปสตีนผูกคอตาย(อย่างมีเงื่อนงำ)ไปหลายปีแล้ว  เวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ พยานสาวคนสำคัญผู้เขย่าเรื่องเบื้องหลังจนอื้อฉาวไปทั่วโลกก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว    แต่อิทธิฤทธิ์ของเรื่องนี้ก็ยังแผลงฤทธิ์ไม่รู้จบ
    ข่าวล่ามาเร็ววันนี้    วันที่ 17 ตุลาคม 2568 สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ว่า "เจ้าชายแอนดรูว์" พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงตัดสินพระทัย สละพระอิสริยยศและเลิกใช้ตำแหน่งดยุกแห่งยอร์ก (Duke of York) รวมถึงสละเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด โดยมีผลบังคับใช้ทันที หลังการหารือร่วมกับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมาชิกราชวงศ์
    ในแถลงการณ์ เจ้าชายแอนดรูว์ระบุว่า ภายหลังการหารือกับพระมหากษัตริย์และสมาชิกครอบครัวโดยรอบ เกิดความเห็นร่วมกันว่าข้อกล่าวหาที่ยังคงดำเนินอยู่เกี่ยวกับพระองค์นั้น ก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนความสนใจจากภารกิจของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ขณะที่สำนักพระราชวังยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลในทันที
    รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุเพิ่มเติมว่า พระองค์จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสของราชวงศ์อีกต่อไป แต่จะยังคงพำนักอยู่ที่ทำเนียบรอยัลลอดจ์ เมืองวินด์เซอร์ ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว และยังคงดำรงพระอิสริยยศเจ้าชายเเนื่องจากเป็นพระโอรสของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
    ส่วน ซาราห์ เฟอร์กูสัน พระชายาเดิมของเจ้าชายแอนดรูว์ จะกลับมาใช้พระนามว่า “ซาราห์ เฟอร์กูสัน” ขณะที่พระธิดาทั้งสองคือ เจ้าหญิงบีทริซ  และ เจ้าหญิงยูจีนี จะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้
    รายงานระบุว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูกับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจสหรัฐผู้ล่วงลับที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานค้ามนุษย์ทางเพศ รวมถึงความเชื่อมโยงกับ หยาง เถิงปั๋ว  ชาวจีนซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับและเคยทำงานติดต่อธุรกิจแทนเจ้าชายในอังกฤษ
     ทั้งนี้ พระองค์ได้ถอนตัวจากการปฏิบัติภารกิจสาธารณะตั้งแต่ปี 2562 หลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเอปสตีน ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยในครั้งนั้น พระองค์ถูกถอดจากตำแหน่งทางทหารและองค์กรการกุศลหลายแห่ง
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2889747
   


บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 19 ต.ค. 25, 20:20

สำหรับเราๆ ท่านๆ นั้น  การที่เจ้าชายแอนดรูว์ทรง “สละ” พระอิสริยยศ Duke of York นี้อาจจะไม่มีความหมายสักเท่าไหร่   แต่สำหรับเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งเป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธผู้ยิ่งใหญ่ มันคือการสูญเสียสถานภาพและเกียรติยศอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งนี้ก็เพราะพระยศ Duke of York นั้นเป็นพระยศเดียวกันกับที่สมเด็จพระอัยกาถือครองก่อนจะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์จอร์จ ที่ 6    การที่พระมารดาพระราชทานพระยศนี้ให้เป็นของขวัญในวันที่เจ้าชายทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับนางสาวซาร่าห์ เฟอร์กูสันเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนจึงแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันที่สมเด็จพระราชินีมีให้แก่พระโอรสองค์โปรดองค์นี้เป็นอย่างยิ่ง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41640

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 19 ต.ค. 25, 20:37

     คุณปัญจมาแวะเข้ามาแล้ว   ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม ยิงฟันยิ้ม
     ตามข่าวนี้อยู่ค่ะ   พยายามหารายละเอียดแต่ก็มีหลายแหล่งหลายความเห็น  จนงงเอาการอยู่เหมือนกัน
     เท่าที่เข้าใจ
     1  เจ้าชายยังได้ชื่อว่า เจ้าชายแอนดรูว์  ไม่ได้กลายเป็นนายแอนดรูว์  เพราะโดยชาติกำเนิดยังเป็นพระโอรสกษัตริย์อยู่
     2  ยังมีสิทธิ์พำนักในตำหนัก Royal Lodge แต่ต้องเสียค่าเช่า  ไม่ได้อยู่ฟรี   และเรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกให้ย้ายออกในอนาคตหรือไม่
     3  ไม่ได้รับเงินที่รัฐจ่ายให้ในฐานะพระราชวงศ์ที่ทรงงานเพื่อประเทศ    จะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ฟรีอีกแล้ว 
     4   ยังไม่ได้ถูกถอดออกจากการสืบราชบัลลังก์ คือยังอยู่ในอันดับ 8 เหมือนเก่า   แต่อันดับนี้ก็ถือว่าไกลจากบัลลังก์มากแล้ว
     5  ไม่ได้เข้าร่วมในพระราชพิธีใดๆ    ถ้าจะเข้าร่วมกับพระราชวงศ์ได้ก็อาจเป็นงานเล็กๆ ภายใน   ที่ไม่เกี่ยวกับสาธารณะ
     ถ้าถามว่า เจ้าชายจะมีรายได้จากอะไร คำตอบคือจากบำนาญกองทัพในฐานะเคยเป็นทหารมาก่อน   กับรายได้ส่วนพระองค์
     พระราชมรดกจากควีนส่วนใหญ่ตกทอดมายังพระเจ้าชาร์ลส์  แล้วท่านก็ทรงแบ่งให้พระขนิษฐาและอนุชาตามสมควร   ข้อนี้อาจจะยังมีสิทธิ์ได้อยู่ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของควีน
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 19 ต.ค. 25, 21:12

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูว์กับเอปสตีนนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่   ที่ใหม่คือมีนักข่าวไปค้นพบอีเมลที่เจ้าชายส่งถึงเอปสตีนหนึ่งวันหลังจากที่สื่ออังกฤษตีพิมพ์ภาพแอนดรูว์ยืนโอบเอวเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตสจนเป็นข่าวอื้อฉาว  (เพราะเวอร์จิเนียตอนที่ถ่ายรูปนั้นอายุแค่ 17)  โดยในตอนหนึ่งของอีเมลนั้นเจ้าชายบอกเอปสตีนว่า “เราลงเรือลำเดียวกัน” (We are in this together)    อีกทั้งอีเมลดังกล่าวยังเป็นอีเมลที่แอนดรูว์ส่งถึงเอปสตีนในช่วงต้นปี 2011  ทั้งๆ ที่เคยให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าได้ตัดขาดกับเอปสตีนไปตั้งแต่ปลายปี 2010 แล้ว   เป็นการตอกย้ำว่าอะไรที่เคยปฏิเสธไปในอดีตนั่นคือการโกหกทั้งเพ

ขณะเดียวกัน  หนังสืออัตชีวประวัติที่เวอร์จิเนียเขียนไว้ก่อนเสียชีวิตในชื่อ ว่า  Nobody's Girl  ก็มีกำหนดที่จะวางแผงในสัปดาห์หน้า  แน่นอนว่ามันต้องมีชื่อของแอนดรูว์อยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย    ในหนังสือเล่มนี้เวอร์จิเนียระบุว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับแอนดรูว์ถึง 3 ครั้ง   และบอกว่าแอนดรูว์เองก็รู้ว่าเธอยังเป็นผู้เยาว์อยู่ แต่ปฏิบัติตนราวกับว่าการได้นอนกับผู้เยาว์อย่างเธอนั้นคือสิทธิพึงมีพึงได้(ของผู้มีสถานะสูงส่งอย่างเขา)
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 19 ต.ค. 25, 21:36

    เท่าที่เข้าใจ
     1  เจ้าชายยังได้ชื่อว่า เจ้าชายแอนดรูว์  ไม่ได้กลายเป็นนายแอนดรูว์  เพราะโดยชาติกำเนิดยังเป็นพระโอรสกษัตริย์อยู่
     2  ยังมีสิทธิ์พำนักในตำหนัก Royal Lodge แต่ต้องเสียค่าเช่า  ไม่ได้อยู่ฟรี   และเรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกให้ย้ายออกในอนาคตหรือไม่
     3  ไม่ได้รับเงินที่รัฐจ่ายให้ในฐานะพระราชวงศ์ที่ทรงงานเพื่อประเทศ    จะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ฟรีอีกแล้ว  
     4   ยังไม่ได้ถูกถอดออกจากการสืบราชบัลลังก์ คือยังอยู่ในอันดับ 8 เหมือนเก่า   แต่อันดับนี้ก็ถือว่าไกลจากบัลลังก์มากแล้ว
     5  ไม่ได้เข้าร่วมในพระราชพิธีใดๆ    ถ้าจะเข้าร่วมกับพระราชวงศ์ได้ก็อาจเป็นงานเล็กๆ ภายใน   ที่ไม่เกี่ยวกับสาธารณะ
     ถ้าถามว่า เจ้าชายจะมีรายได้จากอะไร คำตอบคือจากบำนาญกองทัพในฐานะเคยเป็นทหารมาก่อน   กับรายได้ส่วนพระองค์
     พระราชมรดกจากควีนส่วนใหญ่ตกทอดมายังพระเจ้าชาร์ลส์  แล้วท่านก็ทรงแบ่งให้พระขนิษฐาและอนุชาตามสมควร   ข้อนี้อาจจะยังมีสิทธิ์ได้อยู่ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของควีน

แค่ข้อ 2, 3 และ 5 นี่ก็น่าจะพอแล้วมั้งคะอาจารย์   He used to have all those privileges. Now it's taken away from him. Imagine how we'd feel if we woke up in his shoes one day, having lost all that was important in HIS world.   ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าชายมาแต่กำเนิดคงไม่รู้สึกอะไรที่ต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป  แต่นี่เป็น  แถมยังเป็นลูกคนโปรดด้วย  ส่วนเรื่องรายได้น่ะคงไม่ขาดเหลืออะไรเท่าไหร่มั้งคะตอนนี้  ได้ข่าวว่าเพิ่งขายมรดกได้เงินไป 15 ล้านปอนด์  ตอนจ่ายค่าเสียหาย 10 ล้านปอนด์ในคดีเวอร์จิเนียนั่นแม่ก็จ่ายให้  แต่ที่หนักกว่าเงินคือเรื่องศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ   อันนั้นมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้สำหรับคนที่ born into privileges and has lived his whole life with such privileges.  
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ วันนี้ เวลา 06:04

อีกเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับราชวงศ์อังกฤษก็คือข้อกล่าวหาที่ว่าแอนดรูว์ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาไปสืบประวัติเวอร์จิเนียมาให้  1 วันก่อนที่สื่ออังกฤษจะตีพิมพ์ภาพโอบเอวอันเลืองลื่อในปี 2011   

ทั้งนี้  นสพ. Sunday Telegraph ได้รายงานว่า  แอนดรูว์ได้ให้ข้อมูลที่ส่วนตัวมากๆ ของเวอร์จิเนียแก่จนท.ตำรวจ อันประกอบไปด้วยวดป.เกิด และเลขหมายประจำตัวผู้เสียภาษีหรือ SSN  ของเธอ  พร้อมกับสั่งว่าให้ “ขุดคุ้ยความลับ“ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่มันอื้อฉาว (dig up dirt) ของเวอร์จิเนียมาให้หน่อย   ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ที่จะโจมตีความน่าเชื่อถือของเธอ   รวมทั้งชี้ว่าที่แอนดรูว์บอกนักข่าว BBC ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ออกรายการ Newsnight ในปี 2019 ว่าไม่เคยรู้จักหรือเคยพบกับเวอร์จิเนียมาก่อนนั้นน่าจะเป็นการโกหก

นี่น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วสำหรับวิลเลี่ยม  เพราะถ้าไม่กันแอนดรูว์ออกไปให้ห่างไกลจากราชวงศ์เสียแต่ตอนนี้  ท่านอาก็จะทรงเป็น the gift that keeps on giving หรือปัญหาคาราคาซังไม่จบไม่สิ้น  (นักข่าวคนหนึ่งเปรียบแอนดรูว์ได้อย่างเห็นภาพชัดเจนมากว่าเป็นเหมือนผจก.สโมสรฟุตบอลที่ตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้ทีมพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า  จนคนดูเองก็เบื่อหน่าย  แต่ไม่เคยมีใครไล่เขาออกได้เพราะพี่ชายเป็นประธานสโมสร)
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.049 วินาที กับ 20 คำสั่ง