The Epstein Files -- แฟ้มลับที่ (ไม่) มีจริง

[ปัญจมา]

    เห็นเวอร์จิเนีย จุฟเฟรในคลิปที่คุณปัญจมาทำลิ้งค์ให้ดูแล้วค่ะ    เธอเป็นผู้หญิงที่จุดไฟเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นคนแรก  ทำเอาขบวนการเอปสตีนพังพินาศ จนถึงความตายแบบมีเงื่อนงำของพ่อเล้าใหญ่
    แต่พออ่านข่าวว่าจู่ๆเธอก็ฆ่าตัวตาย   ทั้งๆคดีทั้งหลายที่เธอสู้ก็(น่าจะ)จบไปนานพอควรแล้ว ชีวิตเธอก็น่าจะเข้าสู่ความสงบได้แล้ว     เลยสงสัยว่าเธอถูกปิดปากจากใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้ของเธอหรือเปล่า

หนูคิดว่าถ้าใครสักคนจะฆ่าปิดปากเวอร์จิเนีย จุฟเฟรแล้วล่ะก็  เขาคงทำไปตั้งแต่ก่อนเธอจะเอาเรื่องไปขายให้แท็บลอยด์อังกฤษแล้วละมั้งคะ  คงไม่ปล่อยให้เธอมีชีวิตมาบอกเล่าเรื่องราวหรือกล่าวหาทั้งอดีตปธน.สหรัฐและสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์อังกฤษให้เสียหายหรอก

แต่สำหรับคำถามว่าทำไมเหยื่อของเอปสตีนถึงฆ่าตัวตายนั้น   หนูคิดว่าถ้าใครได้ดูคลิปสัมภาษณ์ข้างบนก็น่าจะเข้าใจ   ส่วนหนึ่งคงเพราะเขาใช้โปรยหัวว่า “the lasting impact of sexual abuse"  รวมทั้งเริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยการสัมภาษณ์นักจิตวิทยาเกี่ยวกับบาดแผลทางจิตใจของผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมาก่อน 

สิ่งหนึ่งซึ่งผลักดันให้นักข่าวของไมอามี เฮรัลด์ชื่อจูลี่ บราวน์ไปดั้นด้นค้นหาเหยื่อเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพวกเธอให้สังคมได้รับรู้  ก็คือการที่เอปสตีนสามารถกลับไปใช้ชีวิตหรูๆ แวดล้อมด้วยนักธุรกิจผู้ร่ำรวยและคนในสังคมชั้นสูงได้เหมือนเดิมหลังจากที่พ้นโทษในปี 2009   มีเงิน มีบริวาร มีบ้านใหญ่โตโอ่อ่า และเดินทางไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินส่วนตัวเหมือนก่อนจะถูกดำเนินคดีไม่มีผิด
 
แต่ชีวิตของผู้หญิงจำนวนมากที่เคยตกเป็นเหยื่อของเขานั้นอาจเปลี่ยนไปโดยไม่มีวันหวนกลับ   บางคนต้องติดยา ติดคุก ที่เคยเป็นเด็กแถวหน้าในห้องก็กลายเป็นเด็กซึมเศร้า เกเร  โดยที่พ่อแม่ไม่เคยรู้สาเหตุที่แท้จริงเพราะพวกเธออับอายเกินกว่าจะบอกใคร

เราคงจะไม่สามารถจะเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่าเหยื่อเหล่านั้นรู้สึกอย่างไร  แต่ถ้าเราลองเอาตัวเองไปใส่ในสถานการณ์ที่พวกเธอต้องเผชิญและพยายาม “ฟัง” สิ่งที่พวกเธอบอกเล่าให้มากขึ้น  งดเว้นที่จะตัดสินพวกเธอจากมุมมองของคนที่ไม่เคยพบเจออะไรร้ายๆ เหมือนที่พวกเธอต้องประสบ  เราอาจจะหมดข้อสงสัยว่าเพราะอะไรเหยื่อของการล่วงละเมิดทางเพศบางคนถึงรู้สึกอับจนและฆ่าตัวตายในท้ายที่สุด 

[เทาชมพู]

      ถ้าเวอร์จิเนีย จุฟเฟรรู้สึกกดดันมากกับเรื่องราวนี้  จนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง  ก็น่าเห็นใจมาก   ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ   แสดงว่าตลอดเวลาเธอต้องรับแรงกดดันอย่างหนักเมื่อออกมาเปิดเผยเรื่องราว     
      แต่ที่ถามคุณปัญจมา เพราะคิดไปอย่างหนังนักสืบค่ะ ว่าเธออาจมีผู้อยู่เบื้องหลังที่ผลักดันให้เธอออกมาแฉ ในฐานะพยานปากเอก  พอหมดประโยชน์ และอาจกลัวว่าจะแฉถึงเบื้องหลัง  ก็เลยกำจัดเสีย

[เทาชมพู]

    ถึงแม้ว่าเอปสตีนผูกคอตาย(อย่างมีเงื่อนงำ)ไปหลายปีแล้ว  เวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ พยานสาวคนสำคัญผู้เขย่าเรื่องเบื้องหลังจนอื้อฉาวไปทั่วโลกก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว    แต่อิทธิฤทธิ์ของเรื่องนี้ก็ยังแผลงฤทธิ์ไม่รู้จบ
    ข่าวล่ามาเร็ววันนี้    วันที่ 17 ตุลาคม 2568 สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์ว่า "เจ้าชายแอนดรูว์" พระราชโอรสในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงตัดสินพระทัย สละพระอิสริยยศและเลิกใช้ตำแหน่งดยุกแห่งยอร์ก (Duke of York) รวมถึงสละเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด โดยมีผลบังคับใช้ทันที หลังการหารือร่วมกับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมาชิกราชวงศ์
    ในแถลงการณ์ เจ้าชายแอนดรูว์ระบุว่า ภายหลังการหารือกับพระมหากษัตริย์และสมาชิกครอบครัวโดยรอบ เกิดความเห็นร่วมกันว่าข้อกล่าวหาที่ยังคงดำเนินอยู่เกี่ยวกับพระองค์นั้น ก่อให้เกิดการเบี่ยงเบนความสนใจจากภารกิจของพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ ขณะที่สำนักพระราชวังยืนยันว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มีผลในทันที
    รายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุเพิ่มเติมว่า พระองค์จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสของราชวงศ์อีกต่อไป แต่จะยังคงพำนักอยู่ที่ทำเนียบรอยัลลอดจ์ เมืองวินด์เซอร์ ภายใต้สัญญาเช่าระยะยาว และยังคงดำรงพระอิสริยยศเจ้าชายเเนื่องจากเป็นพระโอรสของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
    ส่วน ซาราห์ เฟอร์กูสัน พระชายาเดิมของเจ้าชายแอนดรูว์ จะกลับมาใช้พระนามว่า “ซาราห์ เฟอร์กูสัน” ขณะที่พระธิดาทั้งสองคือ เจ้าหญิงบีทริซ  และ เจ้าหญิงยูจีนี จะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้
    รายงานระบุว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันอย่างหนักเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูกับ เจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจสหรัฐผู้ล่วงลับที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานค้ามนุษย์ทางเพศ รวมถึงความเชื่อมโยงกับ หยาง เถิงปั๋ว  ชาวจีนซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับและเคยทำงานติดต่อธุรกิจแทนเจ้าชายในอังกฤษ
     ทั้งนี้ พระองค์ได้ถอนตัวจากการปฏิบัติภารกิจสาธารณะตั้งแต่ปี 2562 หลังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเอปสตีน ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนัก โดยในครั้งนั้น พระองค์ถูกถอดจากตำแหน่งทางทหารและองค์กรการกุศลหลายแห่ง
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2889747
   

[ปัญจมา]

สำหรับเราๆ ท่านๆ นั้น  การที่เจ้าชายแอนดรูว์ทรง “สละ” พระอิสริยยศ Duke of York นี้อาจจะไม่มีความหมายสักเท่าไหร่   แต่สำหรับเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งเป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธผู้ยิ่งใหญ่ มันคือการสูญเสียสถานภาพและเกียรติยศอย่างมีนัยสำคัญ  ทั้งนี้ก็เพราะพระยศ Duke of York นั้นเป็นพระยศเดียวกันกับที่สมเด็จพระอัยกาถือครองก่อนจะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์จอร์จ ที่ 6    การที่พระมารดาพระราชทานพระยศนี้ให้เป็นของขวัญในวันที่เจ้าชายทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับนางสาวซาร่าห์ เฟอร์กูสันเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนจึงแสดงให้เห็นถึงความรักความผูกพันที่สมเด็จพระราชินีมีให้แก่พระโอรสองค์โปรดองค์นี้เป็นอย่างยิ่ง

[เทาชมพู]

     คุณปัญจมาแวะเข้ามาแล้ว   
     ตามข่าวนี้อยู่ค่ะ   พยายามหารายละเอียดแต่ก็มีหลายแหล่งหลายความเห็น  จนงงเอาการอยู่เหมือนกัน
     เท่าที่เข้าใจ
     1  เจ้าชายยังได้ชื่อว่า เจ้าชายแอนดรูว์  ไม่ได้กลายเป็นนายแอนดรูว์  เพราะโดยชาติกำเนิดยังเป็นพระโอรสกษัตริย์อยู่
     2  ยังมีสิทธิ์พำนักในตำหนัก Royal Lodge แต่ต้องเสียค่าเช่า  ไม่ได้อยู่ฟรี   และเรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกให้ย้ายออกในอนาคตหรือไม่
     3  ไม่ได้รับเงินที่รัฐจ่ายให้ในฐานะพระราชวงศ์ที่ทรงงานเพื่อประเทศ    จะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ฟรีอีกแล้ว 
     4   ยังไม่ได้ถูกถอดออกจากการสืบราชบัลลังก์ คือยังอยู่ในอันดับ 8 เหมือนเก่า   แต่อันดับนี้ก็ถือว่าไกลจากบัลลังก์มากแล้ว
     5  ไม่ได้เข้าร่วมในพระราชพิธีใดๆ    ถ้าจะเข้าร่วมกับพระราชวงศ์ได้ก็อาจเป็นงานเล็กๆ ภายใน   ที่ไม่เกี่ยวกับสาธารณะ
     ถ้าถามว่า เจ้าชายจะมีรายได้จากอะไร คำตอบคือจากบำนาญกองทัพในฐานะเคยเป็นทหารมาก่อน   กับรายได้ส่วนพระองค์
     พระราชมรดกจากควีนส่วนใหญ่ตกทอดมายังพระเจ้าชาร์ลส์  แล้วท่านก็ทรงแบ่งให้พระขนิษฐาและอนุชาตามสมควร   ข้อนี้อาจจะยังมีสิทธิ์ได้อยู่ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของควีน

[ปัญจมา]

เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแอนดรูว์กับเอปสตีนนี่ไม่ใช่เรื่องใหม่   ที่ใหม่คือมีนักข่าวไปค้นพบอีเมลที่เจ้าชายส่งถึงเอปสตีนหนึ่งวันหลังจากที่สื่ออังกฤษตีพิมพ์ภาพแอนดรูว์ยืนโอบเอวเด็กสาวชาวอเมริกันชื่อเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตสจนเป็นข่าวอื้อฉาว  (เพราะเวอร์จิเนียตอนที่ถ่ายรูปนั้นอายุแค่ 17)  โดยในตอนหนึ่งของอีเมลนั้นเจ้าชายบอกเอปสตีนว่า “เราลงเรือลำเดียวกัน” (We are in this together)    อีกทั้งอีเมลดังกล่าวยังเป็นอีเมลที่แอนดรูว์ส่งถึงเอปสตีนในช่วงต้นปี 2011  ทั้งๆ ที่เคยให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าได้ตัดขาดกับเอปสตีนไปตั้งแต่ปลายปี 2010 แล้ว   เป็นการตอกย้ำว่าอะไรที่เคยปฏิเสธไปในอดีตนั่นคือการโกหกทั้งเพ

ขณะเดียวกัน  หนังสืออัตชีวประวัติที่เวอร์จิเนียเขียนไว้ก่อนเสียชีวิตในชื่อ ว่า  Nobody's Girl  ก็มีกำหนดที่จะวางแผงในสัปดาห์หน้า  แน่นอนว่ามันต้องมีชื่อของแอนดรูว์อยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย    ในหนังสือเล่มนี้เวอร์จิเนียระบุว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับแอนดรูว์ถึง 3 ครั้ง   และบอกว่าแอนดรูว์เองก็รู้ว่าเธอยังเป็นผู้เยาว์อยู่ แต่ปฏิบัติตนราวกับว่าการได้นอนกับผู้เยาว์อย่างเธอนั้นคือสิทธิพึงมีพึงได้(ของผู้มีสถานะสูงส่งอย่างเขา)

[ปัญจมา]

    เท่าที่เข้าใจ
     1  เจ้าชายยังได้ชื่อว่า เจ้าชายแอนดรูว์  ไม่ได้กลายเป็นนายแอนดรูว์  เพราะโดยชาติกำเนิดยังเป็นพระโอรสกษัตริย์อยู่
     2  ยังมีสิทธิ์พำนักในตำหนัก Royal Lodge แต่ต้องเสียค่าเช่า  ไม่ได้อยู่ฟรี   และเรื่องนี้ก็ไม่แน่ว่าจะถูกให้ย้ายออกในอนาคตหรือไม่
     3  ไม่ได้รับเงินที่รัฐจ่ายให้ในฐานะพระราชวงศ์ที่ทรงงานเพื่อประเทศ    จะเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ฟรีอีกแล้ว  
     4   ยังไม่ได้ถูกถอดออกจากการสืบราชบัลลังก์ คือยังอยู่ในอันดับ 8 เหมือนเก่า   แต่อันดับนี้ก็ถือว่าไกลจากบัลลังก์มากแล้ว
     5  ไม่ได้เข้าร่วมในพระราชพิธีใดๆ    ถ้าจะเข้าร่วมกับพระราชวงศ์ได้ก็อาจเป็นงานเล็กๆ ภายใน   ที่ไม่เกี่ยวกับสาธารณะ
     ถ้าถามว่า เจ้าชายจะมีรายได้จากอะไร คำตอบคือจากบำนาญกองทัพในฐานะเคยเป็นทหารมาก่อน   กับรายได้ส่วนพระองค์
     พระราชมรดกจากควีนส่วนใหญ่ตกทอดมายังพระเจ้าชาร์ลส์  แล้วท่านก็ทรงแบ่งให้พระขนิษฐาและอนุชาตามสมควร   ข้อนี้อาจจะยังมีสิทธิ์ได้อยู่ในฐานะลูกชายคนหนึ่งของควีน

แค่ข้อ 2, 3 และ 5 นี่ก็น่าจะพอแล้วมั้งคะอาจารย์   He used to have all those privileges. Now it's taken away from him. Imagine how we'd feel if we woke up in his shoes one day, having lost all that was important in HIS world.   ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าชายมาแต่กำเนิดคงไม่รู้สึกอะไรที่ต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้ไป  แต่นี่เป็น  แถมยังเป็นลูกคนโปรดด้วย  ส่วนเรื่องรายได้น่ะคงไม่ขาดเหลืออะไรเท่าไหร่มั้งคะตอนนี้  ได้ข่าวว่าเพิ่งขายมรดกได้เงินไป 15 ล้านปอนด์  ตอนจ่ายค่าเสียหาย 10 ล้านปอนด์ในคดีเวอร์จิเนียนั่นแม่ก็จ่ายให้  แต่ที่หนักกว่าเงินคือเรื่องศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ   อันนั้นมันตีค่าเป็นเงินไม่ได้สำหรับคนที่ born into privileges and has lived his whole life with such privileges.  

[ปัญจมา]

อีกเรื่องที่ร้ายแรงมากสำหรับราชวงศ์อังกฤษก็คือข้อกล่าวหาที่ว่าแอนดรูว์ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอารักขาไปสืบประวัติเวอร์จิเนียมาให้  1 วันก่อนที่สื่ออังกฤษจะตีพิมพ์ภาพโอบเอวอันเลืองลื่อในปี 2011   

ทั้งนี้  นสพ. Sunday Telegraph ได้รายงานว่า  แอนดรูว์ได้ให้ข้อมูลที่ส่วนตัวมากๆ ของเวอร์จิเนียแก่จนท.ตำรวจ อันประกอบไปด้วยวดป.เกิด และเลขหมายประจำตัวผู้เสียภาษีหรือ SSN  ของเธอ  พร้อมกับสั่งว่าให้ “ขุดคุ้ยความลับ“ หรือเรื่องอะไรก็ตามที่มันอื้อฉาว (dig up dirt) ของเวอร์จิเนียมาให้หน่อย   ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ที่จะโจมตีความน่าเชื่อถือของเธอ   รวมทั้งชี้ว่าที่แอนดรูว์บอกนักข่าว BBC ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ออกรายการ Newsnight ในปี 2019 ว่าไม่เคยรู้จักหรือเคยพบกับเวอร์จิเนียมาก่อนนั้นน่าจะเป็นการโกหก

นี่น่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้วสำหรับวิลเลี่ยม  เพราะถ้าไม่กันแอนดรูว์ออกไปให้ห่างไกลจากราชวงศ์เสียแต่ตอนนี้  ท่านอาก็จะทรงเป็น the gift that keeps on giving หรือปัญหาคาราคาซังไม่จบไม่สิ้น  (นักข่าวคนหนึ่งเปรียบแอนดรูว์ได้อย่างเห็นภาพชัดเจนมากว่าเป็นเหมือนผจก.สโมสรฟุตบอลที่ตัดสินใจผิดพลาดจนทำให้ทีมพ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า  จนคนดูเองก็เบื่อหน่าย  แต่ไม่เคยมีใครไล่เขาออกได้เพราะพี่ชายเป็นประธานสโมสร)

[เทาชมพู]

      เห็นด้วยกับคุณปัญจมาว่า การดิ่งลงเป็นดาวตกครั้งนี้คงเป็นเรื่องอัปยศและเจ็บปวดที่สุดสำหรับเจ้าชายแอนดรูว์  เพราะท่านไม่เหมือนมนุษย์เดินดินอย่างเราๆ ที่อาจเกิดดวงตกต้องขายรถยนต์ไปนั่งรถเมล์แทน   ชาวบ้านธรรมดาๆถึงลำบากหน่อยก็พอทนกันได้   ตราบใดยังพอหาใส่ปากใส่ท้อง   ส่วนองค์ชายท่านนี้พูดถึงจนก็ไม่มีทางจนหรอกค่ะ อย่างคุณปัญจมาว่านั่นละ  คือสมบัติท่านก็มีให้กินไปจนตาย  แต่ความลำบากใจนี่สิมัน "ทุกข์เท่าภูเขาหลวง" อย่างสุนทรภู่เคยเปรียบเทียบ
     ต่อไปเจ้าชายแอนดรูว์ก็คงจะต้องใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ    ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน    ไม่ออกงานหลวงใดๆ ส่วนงานราษฎร์ก็ยังน่าสงสัยว่าจะมีใครเชิญหรือไม่     ข่าวคราวก็ค่อยๆเงียบหายไปจากสื่อ  เหมือนไม่มีตัวตนอีก    มันก็เป็นความเจ็บปวดไม่มีอะไรเทียบสำหรับคนที่เกิดมาอยู่กลางสปอตไลต์มาตลอด
    แม้ว่าพระธิดาทั้งสองคือเจ้าหญิงเบียทริสและยูเจนี  ไม่ได้ถูกถอดยศ  ยังดำรงเกียรติยศทุกอย่างเหมือนเดิม  แต่ก็มีข่าวว่าทรงงดออกงานใหญ่ Pink Ball จัดที่บริติชมิวเซียม  ซึ่งถือเป็นงานกาลาระดับอภิมหาของอังกฤษ  มีแต่ไฮโซไปประชันกัน  ทั้งๆตอนแรกมีข่าวว่าจะไปร่วม แต่ก็งดกะทันหันแบบไม่มีคำอธิบายใดๆ
   ก็น่าเห็นใจว่าเจ้าหญิงคงไม่มีกะจิตกะใจ หรือไม่อยากไปตากหน้าเป็นเป้าสายตาผู้คนในงาน  ด้วยเรื่องที่ทั้งสองไม่ได้ทำเลยแม้แต่น้อย
   ภาพประกอบคือบรรดาสาวบรรดาศักดิ์ที่ไปร่วมงานค่ะ
   Lady Kitty Spencer (คนนี้หลานสาวของเจ้าหญิงไดอาน่า), Natasha Poonawalla, Emma Thynn, Marchioness of Bath, Lady Eliza Spencer and Lady Amelia Spencer

[เทาชมพู]

     นอกจากเจ้าชายแอนดรูว์ อดีตดยุคแห่งยอร์คแล้ว  คนที่โดนหางมรสุมกวาดตกเวทีไปอีกคนคือเฟอร์กี้  ซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตพระชายา ที่ยังควงคู่และอยู่โดยพฤตินัยอย่างเปิดเผยกับเจ้าชาย แม้ว่าหย่ากันตามนิตินัยไปหลายสิบปีแล้ว
     ทั้งนี้เพราะมีหลักฐานอีเมลที่สื่ออังกฤษเอามาแฉว่า ไม่ใช่แค่เจ้าชายเท่านั้นหรอกที่สนิทสนมกับนายนักค้ามนุษย์เอปสตีน  แต่เฟอร์กี้เองก็เช่นกัน   เห็นได้จากสามารถขอยืมเงินจำนวนมากๆ จากพ่อเล้าระดับอินเตอร์รายนี้เช่นกัน
    ย้อนหลังไปค.ศ.  2010 เฟอร์กี้  ส่งอีเมลด้ไปขอยืมเงินจากเอปสตีน  ว่า
.   “ ดิฉันใคร่จะขอยืมเงินราว สัก 50,000 ดอลลาร์ – 100,000 ดอลลาร์ จะได้ไหม  ตอนนี้มีภาระค่าใช้จ่ายจิปาถะที่เป็นปัญหาหนักอยู่ตอนนี้"
     แต่เอปสตีนปฏิเสธ   เขาส่งอีเมลไปหาเพื่อน บ่นเรื่องเฟอร์กี้ว่า เขาต้องให้ผู้หญิงคนนี้ยืมเงินมาเรื่อยไม่หยุดหย่อนเป็นเวลาร่วม 15 ปี
     เอปเคยให้เฟอร์กี้ยืมเงิน 15000 ดอลล่าร์ จ่ายเงินเดือนให้ลูกน้องของนาง  แต่ปรากฏว่าเฟอร์กี้เอาไปไหนก็ไม่รู้   ลูกน้องยังไม่ได้เงิน   ในที่สุดเอปสตีนก็ทนไม่ไหวต้องเปิดหมวกอำลานางไป
     เรื่องอื้อฉาวยังมีอีก   ตอนที่เอปสตีนถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำครั้งแรก    เฟอร์กี้พาพระธิดาทั้ง 2 องค์ได้แก่เจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหญิงยูเชนีซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กสาว บินจากอังกฤษไปฉลองงานเลี้ยงให้เอปสตีนที่นิวยอร์ค
     นอกจากนี้ยังมีจดหมายที่เขียนยกย่องเทิดทูนเอปสตีนว่าเป็นเพื่อนรัก เพื่อนที่ดีที่สุด    ทั้งๆต่อหน้าสาธารณชนเธอพูดตรงกันข้าม จนต้องเขียนไปขอโทษขอโพยเขา
     ถ้าใครเช็คประวัติเฟอร์กี้ย้อนหลัง จะพบว่าเธอมีปัญหาหนี้สินรุงรังมาตลอด  เคยเอาเกียรติยศของสามีไปขายด้วยการเปิดระบบใต้โต๊ะ ให้ใครก็ได้ที่อยากพบเจ้าชายแอนดรูว์ ต้องจ่ายเงินผ่านทางนาง   จนถูกสื่อปลอมเป็นนักธุรกิจจับพฤติกรรมได้คาหนังคาเขา
     ถึงกระนั้น    เฟอร์กี้ก็ยังตากหน้าอยู่ในสังคมอย่างไม่สะทกสะท้าน ไปร่วมงานของพระราชวงศ์เหมือนเป็นสะใภ้หลวง    โชว์ตัวทางทีวี    เป็นผู้อุปถัมภ์องค์กรการกุศลหลายแห่ง   แต่วันนี้พอข่าวลับรั่วออกมา  องค์กร 7 แห่งปลดนางออกไปเรียบร้อยแล้ว

[เทาชมพู]

   มรสุมลูกใหญ่สุดที่เจ้าชายแอนดรูว์เจอ หลังจากออกมาประกาศว่าจะไม่ทรงใช้บรรดาศักดิ์ "ดยุคแห่งยอร์ค" และคืนเครื่องราชฯ ทั้งหมด   คือ แค่ที่เจ้าชายทำยังไม่พอ   บัดนี้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระเชษฐาทรงถอดพระอิสริยยศ "เจ้าชายแอนดรูว์" ออก  เหลือเพียงพระนามว่า แอนดรูว์ เมาท์แบ็ทเทน วินด์เซอร์
   นอกจากนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ยังให้พระอนุชาต้องย้ายออกจากพระตำหนักรอยัล ลอดจ์ที่อยู่มานานหลายปี   ออกไปอยู่นอกวัง  ทางราชสำนักออกหนังสือแจ้งเจ้าชายแอนดรูว์ให้ส่งคืนสิทธิการเช่าแล้วและให้ย้ายไปพำนักในที่ประทับแห่งใหม่
   แถลงการณ์ของราชสำนักระบุด้วยว่า มาตรการดังกล่าวจำเป็น แม้ว่าเจ้าชายแอนดรูว์จะยังทรงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อพระองค์ โดยทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา ทรงมีพระราชประสงค์จะให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกันว่า ทรงมีพระราชดำริและความห่วงใยอย่างสุดพระราชหฤทัยต่อผู้เสียหายและผู้รอดพ้นจากการล่วงละเมิดทุกรูปแบบ ทั้งในอดีต ปัจจุบันและต่อไปในอนาคต
    เจ้าชายแอนดรูว์ จะทรงเป็นที่รู้จักในนาม นายแอนดรูว์ เมาท์แบ็ทเทน วินด์เซอร์ หลังถูกถอดถอนพระอิสริยยศ พระราชฐานะและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งหมด
     ก่อนหน้านี้ เจ้าชายแอนดรูว์ออกมาสละบรรดาศักดิ์และเครื่องราชฯ  แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ลาออกยังไม่พอ   ถูกไล่ออกจากวังด้วย

[เทาชมพู]

     สาเหตุของการถอดยศ คนที่ติดตามข่าวคงรู้กันแล้วว่า มาจากพฤติกรรมอันไม่สมควรยิ่งของเจ้าชาย ที่มีหลักฐานเกี่ยวข้องกับพ่อเล้าใหญ่ระดับอินเตอร์ และเด็กสาวอายุต่ำว่า 18 ปี    สื่อยิ่งขุดก็ยิ่งเจอเรื่องเสียหายหนักเข้าทุกที     เพราะปี 2006 แอนดรูว์เปิดตำหนักรอยัล ลอดจ์ ต้อนรับเจฟฟรีย์ เอปสตีน, กิสเลน แม็กซ์เวลล์ และฮาร์วีย์ ไวน์สตีน  ทั้งสามคนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นอาชญากรระดับนานาชาติ  ในขบวนการค้ามนุษย์ทางเพศ   ทั้งสามได้รับเชิญมาร่วมงานฉลองวันประสูติครบรอบ 18 ปีของเจ้าหญิงเบียทริซ พระธิดาของแอนดรูว์
       ปัญหาคือสองเดือนก่อนหน้า  ทางการสหรัฐฯ   (รัฐฟลอริดา) ได้ออกหมายจับเจฟฟรีย์ เอปสตีน ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ต่อมาถูกจับกุมตัว เมื่อเดินทางกลับเข้าประเทศ
       เรื่องนี้  แอนดรูว์เคยแก้ตัวไว้ในเมื่อให้สัมภาษณ์ใน 2019 ว่า ไม่ทราบว่าข่าวคราวที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ 
       “ผมไม่ทราบเรื่องนี้จนกระทั่งสื่อรายงาน เพราะเขา (เจฟฟรีย์ เอปสตีน) ก็ไม่เคยพูดเรื่องกับผม"
       เป็นการแก้ตัวน้ำขุ่นๆ  เพราะเป็นที่รู้กันว่าจะต้องมีการกลั่นกรองตรวจสอบ ถึงรายชื่อแขกที่ได้รับเชิญเข้าเฝ้าเจ้านาย   แม้ว่าเป็นการส่วนพระองค์ก็ตาม     ไม่ใช่อยากเชิญใครก็เชิญ   นอกจากนี้เมื่อนายเอปสตีนพ้นโทษครั้งนั้น  เฟอร์กี้ หรือซาร่าห์ เฟอร์กูสัน  ชายาที่หย่าร้างกันแล้วแต่ยังอยู่กินกันของแอนดรูว์ก็ยังพาพระธิดาสองคนไปแสดงความยินดีด้วยถึงนิวยอร์ค
      เห็นชัดว่าแอนดรูว์และเฟอร์กี้ไม่สะทกสะท้านที่ผูกมิตรแน่นแฟ้นต่ออาชญากรระดับอินเตอร์  แถมยังลากลูกสาวทั้งสองเข้าไปสนิทด้วย   ทำให้สื่อออกมาเปิดโปงครั้งแล้วครั้งเล่า  จนประชาชนอังกฤษไม่พอใจอย่างหนัก    หนังสือชีวประวัติของจุฟเฟรย์ เหยื่อรายหนึ่งของเอปสตีนก็ทำให้ราชสำนักมาถึงฟางเส้นสุดท้าย   
      กลุ่ม Republic ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านสถาบันกษัตริย์ ยกป้ายไปถือประท้วงหน้าตำหนักรอยัลลอดจ์  ประชาชนเองก็เริ่มตั้งคำถามว่า ทำไมต้องจ่ายภาษีเลี้ยงดูคนที่เจอข้อกล่าวหาละเมิดทางเพศและคบหาสนิทสนมกับอาชญากรด้านนี้    ถูกกล่าวหาว่ามีเพศสัมพันธ์กับเด็ก คนที่ข้องเกี่ยวกับผู้ที่ละเมิดทางเพศกับเด็กด้วย
      ล่าสุด หลังจากยื้อที่อยู่ในรอยัล ลอดจ์มานาน โดยจ่ายค่าเช่าไม่กี่สตางค์  แอนดรูว์กับเฟอร์กี้ก็จำต้องย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่  เรื่องเงินทองคงพอมีจ่าย  เพราะยังได้ส่วนแบ่งมรดกจากควีน   แต่ก็คงไม่อู้ฟู่เหมือนเมื่อก่อน

[เทาชมพู]

     ข่าวล่าสุดคือ  แอนดรูว์ยอมยกเลิกสัญญาเช่า และย้ายออกจากตำหนักรอยัลลอดจ์    เป็นที่คาดกันว่าเขาจะย้ายไปอยู่บ้านหลังเล็กหลังใดหลังหนึ่งในบริเวณวังแซนดริงแฮมในนอร์โฟล์ค     ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆของบ้าน  พระเจ้าชาร์ลส์จะทรงออกเงินให้เอง
     ข้างล่างนี้  ภาพบนคือภาพวังซานดริงแฮม    หลังใหญ่นั้นแอนดรูว์ไม่ได้อยู่แน่นอน   อาจจะอยู่ในบ้านหลังใดหลังหนึ่งใน 4 หลังในภาพล่าง
     

[SILA]

BBCThai  https://www.bbc.com/thai/articles/cd0478jl22do

เจ้าชายแอนดรูว์ถูกถอดฐานันดร "เจ้าฟ้า" และต้องย้ายออกจากพระราชวังวินด์เซอร์

       ถอดถอนฐานันดรศักดิ์ "เจ้าฟ้า" ซึ่งเป็นสกุลยศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ทำให้ต่อไปนี้จะไม่สามารถใช้คำนำหน้าพระนาม
ว่า "เจ้าชาย" ได้อีกต่อไป รวมทั้งต้องย้ายออกจากพระตำหนักในพระราชวังวินด์เซอร์ด้วย
       แถลงการณ์ถอดฐานันดรศักดิ์เจ้าฟ้าของเจ้าชายแอนดรูว์ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า นับตั้งแต่นี้
เจ้าชายแอนดรูว์จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อสกุลแบบสามัญชนว่า "แอนดรูว์ เมาท์แบตเทน วินด์เซอร์" (Andrew Mountbatten Windsor)
        มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ เพื่อยุติสัญญาเช่าพระตำหนักรอยัลลอดจ์ (Royal Lodge)" ซึ่งหมายความว่าเจ้าชายแอนดรูว์
จะต้องย้ายออกจากที่พำนักปัจจุบันในพระราชวังวินด์เซอร์ ไปยังที่พักส่วนตัวแห่งใหม่ในพระตำหนักซานดริงแฮม โดยคาดกันว่า
สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สาม จะทรงเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยเงินส่วนพระองค์
        พระธิดาทั้งสองของเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งก็คือเจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหญิงยูเชนี จะยังคงมีฐานันดรศักดิ์เจ้าหญิงอยู่ต่อไป
ส่วนเจ้าชายแอนดรูว์ก็ยังคงมีสิทธิในการสืบสันตติวงศ์ โดยถือเป็นรัชทายาทในลำดับที่ 8

       "มาตรการลงโทษเหล่านี้ถือเป็นสิ่งจำเป็น แม้ข้อเท็จจริงจะมีอยู่ว่า เจ้าชายแอนดรูว์ยังคงปฏิเสธไม่ยอมรับข้อกล่าวหาที่มี
ต่อตนเอง"
        สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ทรงแสดงการสนับสนุนและให้กำลังใจแก่ "เหยื่อของการล่วงละเมิดในทุกกรณีและ
ทุกรูปแบบ"
      
       หลังจากได้ทราบข่าวการถอดฐานันดรศักดิ์ ครอบครัวของจุฟเฟรได้กล่าวถึงบุตรสาว ที่จากไปหลังทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อเดือนเม.ย.
ของปีนี้ว่า "เธอได้โค่นล้มถอดถอนเจ้าชายอังกฤษ ด้วยความจริงและความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาสามัญของเธอเอง"      

---------------------------

       ก่อนหน้านี้ คาดว่าจะยังคงคำนำหน้า เจ้าชาย ในฐานะโอรสแห่งควีนอลิซเบธที่สอง แต่สื่อนอกบอกว่า

       .. it was believed that, as a son of Queen Elizabeth II, he would retain his title of “Prince.”
However, the king’s most recent update confirms Andrew will now officially be known as Andrew Mountbatten Windsor.

        เรื่องเงินๆ ทองๆ CNN บอกว่า

        Andrew was thought to receive an annual allowance of about £1 million ($1.3 million) from the late Queen,
according to British media reports.
       Those payments initially continued under Charles, the reports said, but it is understood that the King had stopped
providing the allowance.
        Despite now being stripped of his prince title, CNN understands that Andrew will still receive an income from Charles.

and   There is a process to formally remove him from the line of succession by legislation, but it would take time
         as it requires the consent of Commonwealth nations around the world.
        The last time this protocol was invoked was in 1936 with the abdication of Edward VIII.        

[เทาชมพู]

    ผู้ที่ประชาชนพากันถามเป็นลำดับต่อมาคือ  "เฟอร์กี้จะไปอยู่ที่ไหน?"
    อดีตชายาตามกฎหมายของเจ้าชายแอนดรูว์ และปัจจุบันกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยแต่ไม่ได้แต่งงานกัน  เป็นผู้ที่ก่อความอัปยศให้พระราชวงศ์อยู่หลายครั้ง  นับแต่คบชู้จนต้องหย่า    เป็นหนี้สินรุงรัง  พึ่งพาเงินทองจากพ่อเล้า   เป็นนายหน้ารับเงินใต้โต๊ะเพื่อพาคนเข้าพบเจ้าชาย  พาลูกสาวไปร่วมงานสังคมอาชญากรระดับนานาชาติ ฯลฯ นี่คือเท่าที่เปิดเผยออกมา
    เมื่อแอนดรูว์ถูกถอดยศ ถูกขับออกจากพระราชวัง   ทีแรกมีข่าวว่าขอบ้านแห่งใหม่ 2 หลังเพื่อจะย้ายไปอยู่   ก็พอเดาได้ว่าขอเผื่อเฟอร์กี้ด้วย  แต่ตอนนี้แน่นอนแล้วว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงอนุญาตแค่หลังเดียว   ทรงออกค่าใช้จ่ายให้ (ก็แปลว่าจ่ายให้น้องชายคนเดียว)   เฟอร์กี้จึงต้องระเห็จออกไปหาที่อยู่ใหม่ตามลำพัง    ไม่สามารถพึ่งพาสามีได้อีก
    เราคงได้รู้ข่าวเธออีก   เพราะสื่อคงไม่ปล่อยให้เงียบหายไปง่ายๆ   เดาว่าแม่นางก็คงไม่ลำบากนัก  เพราะลูกสาวสองคนคงจะช่วยเหลือแม่บ้างตามสมควร   แต่จะทำตัวหรูหรา  เข้าไปร่วมในพิธีการต่างๆของราชสำนักเหมือนเมื่อก่อนอีกไม่ได้แล้ว