เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
อ่าน: 3729 บทกวี "วาย" ของวิลเลียม เชกสเปียร์ มีจริงหรือไม่จริง?
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 28 เม.ย. 25, 12:38

     ต้องขออธิบายเพิ่มเติมว่า  โคลงซอนเนททั้งหมดแต่ดั้งเดิมไม่มีใครรู้ว่า เชกสเปียร์แต่งบทไหนก่อน บทไหนหลัง  เพราะแต่ละบทสามารถจบในตัวเองได้  อาจมีบางบทที่มีเนื้อความต่อเนื่องกันเป็นช่วงสั้นๆ    เมื่อพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ คนที่จัดเรียงบทก่อนหลังคือตัวนาย Thomas Thrope ผู้จัดพิมพ์ คนส่วนมากจึงเข้าใจว่า บทที่ 1 คือบทแรก และลำดับต่อๆไปตามที่เรียงไว้ในหนังสือ   
    แต่ในความเป็นจริง   เป็นไปได้ว่าบทที่เรียงไว้ลำดับหลัง อาจแต่งก่อนก็ได้
    ความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือซอนเนทเหล่านี้แต่งขึ้นต่างกรรมต่างวาระ   แต่งขึ้นสำหรับชายหนุ่มคนเดียว หรือสำหรับคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ก็เป็นได้    เพราะไม่มีบทไหนเลยที่เอ่ยชื่อบุคคลออกมาตรงๆ  มีแต่ใช้คำว่า Thee, Thou (ตรงกับ you ในภาษาปัจจุบัน)    นอจากนี้ ไม่มีการเอ่ยถึงกิจกรรมส่วนตัว  เช่น เราไปโบสถ์ด้วยกัน(แสดงว่าเป็นคนในหมู่บ้าน หรือในเมืองเดียวกัน)  หรือ เพื่อนของเราพูดว่า (แสดงว่าอยู่ในกลุ่มสังคมเดียวกัน) หรือ  งานเลี้ยงที่บา้นของเธอ (แสดงว่าไปมาหาสู่กันเสมอ) 
   สิ่งที่เน้นก็คืออารมณ์ผูกพันอย่างแรงกล้าที่มีต่อ Thee  มีทั้งรัก  ชื่นชมบูชา  ผิดหวัง  หึงหวง  แต่ในโอกาสอะไร และมีเนื้อเรื่องอะไร - ไม่ระบุเลยสักอย่าง
   สมมุติว่า เชกสเปียร์เขียนถึงคนหลายคน  ต่างกรรมต่างวาระ ก็เป็นได้เช่นกัน

         
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 28 เม.ย. 25, 12:55

    ความคิดของเทาชมพูเมื่ออ่านซอนเนทเหล่านี้ คือ เป็นไปได้ไหมว่าเชกสเปียร์แต่งโคลงเหล่านี้  ถึงคนมากกว่า 1 คน  ไม่ได้เกิดจากอารมณ์รัก หลง หึง แค้น ส่วนตัวของกวี  แต่เป็นการแต่งแบบเดียวกับแต่งบทละคร คือได้รับการว่าจ้างให้แต่ง  โดยนาย W.H. ผู้มีชื่อหราอยู่ในหน้าแรก ระบุว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดซอนเนทเหล่านี้(To the onlie begetter of these insuing sonnets   Mr. W.H.)
   begetter แปลว่า ผู้ให้กำเนิด ก็ได้    หรือจะแปลว่า ผู้ก่อให้เกิด ก็ได้   แปลแบบขยายความก็คือ เพราะมี Mr.W.H. คนนี้แหละ   ซอนเนทเหล่านี้จึงมีขึ้นมาได้   หมายความว่าเขาอาจจะเป็นคนสั่งให้กวีแต่ง  หรือเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กวีเขียนถึง ก็ได้ทั้งสองอย่าง
   ถ้าหากว่า W.H. เป็นตัวกลาง รับงานมาจากลูกค้าที่อยากจะได้โคลงกลอนเพราะๆ แต่ตัวเองไม่มีฝีมือพอจะเขียนได้  ก็เลยมาจ้างนักเขียนบทละครอาชีพที่ขึ้นชื่อลือชาว่าแต่งภาษาได้ไพเราะมาก ให้เขียนแทนตัวลูกค้า ที่อยากจะส่งอะไรเพราะๆให้คนรัก   หรืออยากจะระบายอารมณ์อัดอั้นตันใจของตัวเอง หรืออยากแต่งอะไรเก๋ๆไว้อ่านอวดเพื่อนฝูง
   ข้อนี้เป็นไปได้ไหม?
   พรุ่งนี้จะมาบอกเหตุผลว่าทำไมคิดเช่นนั้นนะคะ
   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 29 เม.ย. 25, 12:12

    เริ่มด้วยภูมิหลังของสังคมสมัยนั้นก่อนนะคะ
    ยุคนั้นคือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ   ค่านิยมอย่างหนึ่งคือชนชั้นสูงของอังกฤษจะต้องมีความรู้ดี สามารถแต่งโคลงกลอนซึ่งถือกันว่าเป็นงานเชิดหน้าชูตาทั้งตัวเองและวงศ์ตระกูลได้   หนุ่มตระกูลสูงในสมัยนั้นจึงนิยมโชว์ฝีมือด้านนี้กันมาก  รวมทั้งจีบสาวด้วยบทกวีก็จะดูโก้กว่าเขียนจดหมายรักธรรมดาๆ 
    เสียแต่ว่าหนุ่มตระกูลสูงจำนวนมาก ไม่มีฝีมือด้านนี้  พัฒนาไม่ไหว   ดังนั้นถ้าอยากโชว์ฝีมืออวดสาวหรืออวดเพื่อนฝูงขึ้นมา ก็ทำได้ด้วยการว่าจ้างมืออาชีพทางนี้ให้เขียนแทนตัว    สมัยนั้น คณะละครทั้งหลายอยู่ในอุปถัมภ์ของขุนนางดังๆอยู่แล้ว  อุปถัมป์ในที่นี้หมายความว่าเป็นคนในสังกัด  ไม่ให้ใครภายนอกมาข่มเหงได้   เวลาผู้อุปถัมภ์มีงานก็เรียกพวกนี้ไปให้ความบันเทิง หรืออยากจะให้เขียนโน่นเขียนนี่สรรเสริญเยินยอ ก็สั่งได้
   จึงเป็นได้ว่าเชกสเปียร์ ในฐานะมืออาชีพที่เลื่องลือว่าเขียนภาษาได้ไพเราะนัก ถูกว่าจ้างจากหนุ่มตระกูลสูงเหล่านี้ให้เขียนโคลงกลอนตามประสงค์ของผู้จ้าง    โดยมีตัวกลาง คือ Mr. W.H. คนนี้ทำหน้าที่คนเดินสาร เอาคำสั่งจากนายมาให้กวี  เอาคำตอบจากกวีไปให้นาย   
   เมื่อนายผู้หนึ่งถูกใจ กระซิบบอกเพื่อนฝูง   ก็จะมีนายอีกคน หรือนางสาวอีกคนที่อยากเขียนตอบหนุ่ม หรืออยากอ่านอะไรไพเราะเพราะพริ้ง   มาว่าจ้างผ่านตัวกลางคนเดิม   
   ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นคำตอบว่า ทำไมซอนเนทเหล่านี้จึงมีแต่ถ้อยคำพรรณนาอารมณ์รัก  แต่ไม่มีการเอ่ยอ้างถึงชื่อคน  เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง หรือข้อมูลรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับตัว "เขา" และ" นาง"    คำตอบคือ กวีถูกว่าจ้างให้เขียนบรรยายอารมณ์รักตามความประสงค์ของผู้ว่าจ้าง   กวีไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ส่วนตัวในชีวิตผู้ว่าจ้าง จึงเว้นไม่เอ่ยถึงให้ผิดพลาดเปล่าๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 30 เม.ย. 25, 14:39

  ปกติถ้ากวีเอ่ยถึงคนรักที่มีตัวตนจริง มักจะเอ่ยถึงการกระทำเล็กๆน้อยๆระหว่างกัน ไม่ว่าเป็นการปรนนิบัติเอาใจ หรืองอนกันตามประสาคนรัก  เช่นสุนทรภู่รำพึงถึงแม่จันทร์ใน "นิราศพระบาท" ว่า
  เจ้าคุมแค้นแสนโกรธพิโรธพี่      แต่เดือนยี่จนย่างเข้าเดือนสาม.
  หรือในพระราชนิพนธ์ กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน ก็ระบุว่า
  หมากปรางนางปอกแล้ว          ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสง
  แต่ในซอทเนทของเชกสเปียร ไม่มีการเอ่ยถึงกิจกรรมของคนรัก   ไม่มีชื่อคนรัก ไม่บอกถิ่นที่อยู่  มีแต่พรรณนาอารมณ์   ซึ่งถ้าใครลอกเอาไปเฉพาะบท เอาไปส่งให้แฟนตัวเอง ก็จะสวมเข้าไปได้เลย ไม่ต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลง
  ในเมื่อลักษณะเนื้อความกว้างแบบนี้  ซ้ำๆในแนวเดียวกันอยู่เกินหนึ่งร้อยกว่าบท     โดยไม่มีคำตอบจากอีกฝ่ายหนึ่งว่าเขา(หรือเธอ) คิดอย่างไร ตอบมาอย่างไร   ก็เลยทำให้สงสัยว่าถ้าเป็นเรื่องจริง ใครจะตะบี้ตะบันแต่งความในใจอยู่ได้เป็นร้อยสองร้อยบท  แบบไม่มีเท้าความเลยว่าอีกฝ่ายเขาตอบมาบ้างไหม หรือเขาตอบว่าอะไร  ก็เลยสงสัยว่าจะเป็นการแต่งเพื่อจุดประสงค์อื่น นอกเหนือจากบรรยายความรักความหลงของตนเอง
  คำตอบก็เลยมาในรูปที่ว่า  ถูกจ้างให้แต่ง    แบบเดียวกับสุนทรภู่เป็น "อาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว  เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนคร" คือแต่งเพลงยาวให้ลูกค้าเอาไปใช้เกี้ยวผู้หญิงมาเสียนักต่อนัก
  ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้   Thee หรือ Thou ที่ว่านี้ก็ต้องมีหลายคน  แล้วแต่ใครจะจ้างมาให้แต่งส่งให้ใคร  แทนเจ้าตัวซึ่งไม่มีฝีมือพอจะแต่งเองได้
  หากเป็นตามนั้น  เชกสเปียร์ก็ไม่ใช่เกย์  แต่เป็นมือรับจ้าง
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 01 พ.ค. 25, 11:41

   แนวคิดนี้ช่วยให้คำตอบแก่ข้อข้องใจหลายอย่าง ที่บรรดานักวิชาการสังเกตเห็นในซอนเนทหนึ่งร้อยกว่าบทนี้
   1   มีแต่อารมณ์และการพร่ำพรรณนา ไม่มีเหตุการณ์ใดเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษ ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างกวีกับคนที่เขารัก
   2   ไม่มีการอ้างอิงถึงการตอบรับจากอีกฝ่าย
   3   มีความหลากหลายทางอารมณ์มาก   มีทั้งบทรัก  บทโศก  บทหึงหวง  บทเจ็บแค้น  ราวกับไม่ได้เขียนถึงใครคนหนึ่งเพียงคนเดียว
   4   เมื่อนำออกมาตีพิมพ์จำหน่าย  ก็ไม่ปรากฏว่ามีปฏิกิริยาจากคนอ่าน ว่ามีคนใดคนหนึ่งออกมาเดือดร้อนโวยวายว่า บทกวีเหล่านี้เป็นเรื่องส่วนตัว   ไม่มีแม้แต่เสียงซุบซิบสะท้อนมาจากวงการละครว่า เชกสเปียร์เอาเรื่องส่วนตัวมาตีพิมพ์เผยแพร่   ทุกอย่างเงียบสนิท
   5  Mr. W.H. ที่ถูกอ้างชื่อว่าเป็น "ผู้ก่อให้เกิดบทกวีเหล่านี้"  ก็ไม่เคยปรากฏตัวออกมายืนยันหรือปฏิเสธจนแล้วจนรอด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 02 พ.ค. 25, 16:26

     พวกที่เชื่อว่าเชกสเปียร์เป็นเกย์ หรือเรียกให้ถูกคือไบเซกซวล (เพราะมีลูกมีเมียด้วย) ใช้หลักฐานบทกวีที่พร่ำพรรณนาถึงหนุ่มน้อยรูปหล่อ ว่าเต็มไปด้วยความหลงใหลแรงกล้า เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีต่ออีกคนหนึ่ง    ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่านับร้อยบทในหนังสือรวมโคลงกลอนนี้ รำพันถึงความรักใคร่ หึงหวง อกหัก มีตัวเอกเป็นชายหนุ่ม ไม่ยักใช่หญิงสาว   
     แต่ก็ไม่มีใครตอบได้ว่า เหตุใดผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย เช่นเชกสเปียร์เจ้าของผลงาน  หนุ่มน้อย ซึ่งจะเป็นคนเดียวกับ Mr. W.H. หรือไม่ใช่ก็ไม่แน่   ตัวเจ้าของสำนักพิมพ์  จึงอยู่รอดปลอดภัย  ไม่มีเสียงเอ๊ะออกมาสักนิด ในสังคมที่ถือว่ารักร่วมเพศเป็นความผิดอุกฉกรรจ์ มีโทษถึงจำคุกและประหารชีวิต
     จะว่าพวกนี้มีอิทธิพลสั่งปิดปากชาวบ้านได้สำเร็จ     ถ้าอย่างนั้นหลังจากเชกสเปียร์ตายไปแล้ว  ก็ไม่เห็นมีบันทึก หรือจดหมายเหตุ หรือแม้แต่จดหมายส่วนตัวของเพื่อนฝูงและคู่แข่ง แย้มออกมาสักนิดถึงเพศสภาพของเขา
     ทั้งหมดก็ยังเป็นความอึมครึมหาคำตอบไม่ได้  เช่นเดียวกับชีวิตส่วนตัวด้านอ่ื่นของคุณปู่ของเรา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 05 พ.ค. 25, 11:47

สรุปได้  3 ข้อ 3 ทาง
1  บทกวีซอนเนทที่ว่านี้  เป็นการพร่ำพรรณนาของชายรักชายจริงๆ ไม่ใช่ชายรักหญิง
2  แม้เป็นการพรรณนาความรู้สึกแรงกล้าของรักต้องห้าม (ระหว่างชายกับชาย) ก็ไม่มีหลักฐานว่าเชกสเปียร์แต่งขึ้นจากความรู้สึกส่วนตัว
3  ไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากสังคมร่วมสมัย ที่แสดงว่าพวกเขาร้อง"เอ๊ะ" หรือแม้แต่มีเสียงซุบซิบนินทา  เมื่อบทกวีเหล่านี้ถูกตีพิมพ์ออกมา  ทั้งที่ตอนนั้นเชกสเปียร์ก็ยังมีชีวิตอยู่    แม้เมื่อเขาถึงแก่กรรมไปแล้ว  ก็ไม่มีใครย้อนเอาประเด็นรักต้องห้ามมาตั้งแง่สังเกต
ก็ยังเป็นเรื่องอีมครึมให้ผู้ศึกษาชีวิตของเชกสเปียร์มีงานทำกันไม่จบจนบัดนี้
ขอจบกระทู้เพียงแค่นี้ค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ 05 พ.ค. 25, 19:00

ขอส่งท้ายด้วยภาพวาดของเฮนรี ริสลีย์ เอิร์ลแห่งเซาท์แธมป์ตันคนที่ 3   ซึ่งว่ากันว่าเป็นตัวจริงของ The Fair Youth
เพราะตอนหนุ่มๆท่านหล่อมาก
ภาพซ้ายมาจากภาพวาดขนาดจิ๋ว (miniature)  ส่วนภาพขวา AI สร้างขึ้นตามคำบอกเล่าและแบบบุคคลในภาพวาด


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ 07 พ.ค. 25, 09:57

ยังไม่วาง(กระทู้)วาย

ความ(เห็น) เดิม

         สมัยท่านเชก, ผู้คนคุ้นเคยกับมิตรสัมพันธ์ bromance ช-ช, บทละครที่พร่ำพรรณนาถ้อยคำโรแมนติคช-ช,
ยังไม่มีนิยามคำ LGBTQ, ความผิดจะดูจากที่การกระทำผิดประเวณี แต่ก็ไม่ค่อยมีเคสลงโทษ (แปลความได้ทั้ง
กระทำกันแล้วจับไม่ได้, ไม่มีใครคอยจะแจ้งจับ, ไม่ค่อยมีการกระทำกัน ฯ ) บทกวีวายของท่านเชกเมื่อนำมาพิมพ์เผยแพร่
ก็ไม่ได้เกิดปฏิกิริยา, กระแสปุจฉาวิสัชนาวิพากษ์วิจารณ์.

         งานละครของท่านเชกนั้นเหมือนละครนอกของไทยที่ ผู้ชายจะรับบทเป็นหญิงและบางเรื่องมีบทข้ามเพศ -
หญิงปลอมเป็นชาย (ที่โดดเด่นที่สุด - ปอร์เชีย ใน เวนิสวานิช)
         ส่วนงานบทละครของท่านเชก ที่พูดถึง ช รัก ช อย่างชัดเจนคือเรื่อง Troilus and Cressida
         ตอนที่นักรบกรีกในสงครามกรุงทรอย Thersites คุยกับ Patroclus(คู่รักนักรบของ Archilles) 

คห. 115 Patroclus -  https://www.reurnthai.com/index.php?topic=3578.msg75718#msg75718
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 39  เมื่อ 07 พ.ค. 25, 10:05

THERSITES  -  Prithee, be silent, boy; I profit not by thy talk: thou art thought to be
                      Achilles’ male varlet.

PATROCLUS - Male varlet, you rogue! what’s that?

THERSITES  เอ่ยประณามมาเป็นชุดใหญ่ว่า -
                  Why, his masculine whore. Now, the rotten diseases of the south, the guts-griping,
ruptures, catarrhs, loads o’ gravel i’ the back, lethargies, cold palsies, raw eyes, dirt-rotten livers,
wheezing lungs, bladders full of imposthume, sciaticas, limekilns i’ the palm, incurable bone-ache,
and the rivelled fee-simple of the tetter, take and take again such preposterous discoveries!

         คำพูดเหล่านี้, แม้ว่ามาจากปากตัวละครที่ถูกวางให้มีความหยาบคายและทื่อทึ่ม และ แม้ว่าท่านเชก
จะจงใจเขียนให้ออกมาแรงๆ เพื่อให้ถูกใจคอละคร (บทละครท่านเชกยังมีบทตลก และตลกระดับ dirty joke
ที่สูญหายไป เพราะถูกตัดออกไปไม่ได้คัดลอกต่อๆ กันมา) แต่ก็ดูจะเข้าขั้นเล่นใหญ่มาก, ท่านเชกช่างสามารถ
สรรค์คำนานา "ด่าชุดใหญ่ไฟกระพริบ" ได้เกินเบอร์ให้ความรู้สึกเหมือนบทพูดของตัวละครหลังข่าวยุคนี้
         ครั้นหากจะมองว่านี้เป็นแนวคิดของผู้ประพันธ์เองก็ค่อนข้างมากเกินวิสัยชายแท้รังเกียจเกย์(homophobes)
ทั้งนี้นักเขียนบางคนตั้งข้อสังเกตว่า พวกที่ตะโกนปาวๆ ประณามเกย์นั้น, มีไม่น้อยทำไปเพื่อปกปิดตัวเองที่เป็น

Gavin Hamilton - Archilles lamenting the death of Patrocus


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 40  เมื่อ 07 พ.ค. 25, 10:55

  เรื่องเพศสภาพแท้จริงของคุณปู่ เป็นเรื่องที่กำ้กึ่งกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายค้าน  ที่ดำเนินมานานกว่า 4 ศตวรรษ และยังคงดำเนินต่อไป  คือฝ่ายที่บอกว่าไม่ได้เป็น ก็มีน้ำหนักพอๆกันกับฝ่ายที่บอกว่าเป็น
   สาเหตุที่คุณปู่เขียนพรรณนาอารมณ์รักหลงของกวีถึงหนุ่มน้อยรูปหล่อ แล้วไม่ยักมีใครในสังคมร้องเอ๊ะอ๊ะขึ้นมา หรือแม้แต่นำไปกล่าวหาให้คุณปู่ต้องเขา้คุก  ฝ่ายเชื่อว่าคุณปู่เป็นชายแท้บอกว่านี่ไง ก็เพราะสังคมที่แวดล้อมตัวท่าน รู้กันทั้งนั้นว่าท่านเป็นชายแท้   ลูกเมียก็มีอยู่ทางบ้าน แถมอยู่ในลอนดอนก็ยังไปกุ๊กกิ๊กกับสาวๆตอนท่านยังหนุ่ม   ก็เลยไม่มีใครกล่าวหาว่าเพศสภาพของท่านน่าสงสัย
   ส่วนพวกที่เชื่อตรงกันข้ามว่าคุณปู่เป็นพวกแอบจิต เช่นเดียวกับหนุ่มน้อยรูปหล่อที่เขียนถึง   ก็บอกว่า...ไม่ช่าย  พวกคุณรุ่นหลังไม่รู้หรือว่าสังคมสมัยคุณปู่ก็เช่นเดียวกับสังคมปัจจุบันในบางประเทศ  คือคนจนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ติดคุก   คนรวยหรือขุนนางต่อให้ทำผิด  กฎหมายก็พร้อมจะหลับตาข้างหนึ่ง หรือสองข้างแบบไม่รู้ไม่เห็นอยู่ดี    
   คุณรู้ไหมว่าพระราชาบางองค์อย่างพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ผู้สืบบัลลังก์ต่อจากพระนางเอลิซาเบธที่ 1  ก็ทรงมี "ลูกป๋า" หล่อๆอยู่หลายคน อย่างเปิดเผยเสียด้วย    ไม่เห็นมีใครถูกลงโทษแถมได้ดิบได้ดีเป็นขุนนางชั้นสูงเสียอีก     ถ้าหากว่า W.H. คือขุนนางหนุ่มจริงๆ   ยังไงก็ไม่มีใครเอาเรื่องเขา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 41  เมื่อ 07 พ.ค. 25, 11:11

    ฝ่ายกล่าวหากว่าเชกสเปียร์ไม่แท้ เอาเหตุผลมาสนับสนุนต่อไปว่า  นี่ไงคือเหตุผลที่คุณปู่ทิ้งลูกเมียมาอยู่ลอนดอนเกือบ 30 ปี ไม่เคยหวนกลับไป  ดำเนินชีวิตอย่างชายโสดไร้ห่วงผูกคอ    แกจะอยากอยู่บ้านเดิมกับลูกเมียไปทำไม ในเมื่อแกรู้ตัวแล้วว่าเมียหนึ่งลูกสามไม่ใช่ชีวิตอันแท้จริงของแก     แกจึงหนีมาอยู่ลอนดอน
    นอกจากนี้   โรงละครเป็นสวรรค์ของพวกไม่เปิดเผยตัวตน   เพราะเต็มไปด้วยเด็กหนุ่มหน้าอ่อนๆ จิ้มลิ้มเหมือนผู้หญิง สมัครกันเข้ามารับบทนางเอกนางรองในละคร    คุณปู่ถึงอยู่มาได้อย่างเป็นสุข  มีพลังจะสร้างสรรค์งานบันลือโลกออกมาให้เราได้อ่านกันจนบัดนี้    ส่วนลูกเมียทางบ้านเมื่อพ่อบ้านส่งเงินมาให้สม่ำเสมอ ก็อยู่กันไปไม่มีใครกล้าขัดขืน
   ส่วนที่ยังยืนยันว่าแท้ ก็มีเหตุผลว่า แล้วไง..เขามาหางานทำในเมืองใหญ่  แสวงโชคจนพบโชคลาภในอาชีพแล้ว  พอถึงเวลาสะสมเงินทองได้พอ  เขาก็กลับไปหาลูกเมีย   นี่คือลักษณะของชายธรรมดาๆทั่วไป    ระหว่างอยู่ในอาชีพก็ไม่เห็นมีข่าวระแคะระคายหรือแม้แต่ซุบซิบ   ทั้งๆความสำเร็จของเขาทำให้เกิดคนอิจฉาไม่น้อย  บางคนถึงกับเขียนด่าเอาโต้งๆ แต่ในคำด่าก็ไม่เห็นเลี้ยวไปทางว่าเขาเป็นพวกไม่แท้  ทั้งๆโทษทางด้านนี้อาจทำให้เขาตกงานหมดอนาคตได้  ถ้าศัตรูเขาระแวงแม้แต่นิดเดียว น่าจะหาเรื่องทางด้านนี้เสียนานแล้ว
   ส่วนเรื่องเขียนรำพันรักถึงชายหนุ่ม หรือเขียนถึงบทในละครแสดงถึงชายรักชาย วาจาจัดจ้านรุนแรง   แล้วจะเหมาว่ามาจากเพศสภาพของคนเขียน  ก็มีข้อเถียงที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า นักเขียนคือผู้ที่สวมรอยเป็นอะไรก็ได้ในงานเขียน โดยไม่เกี่ยวกับตัวตนจริง
   นักเขียนสามารถเขียนถึงการสืบสวนอย่างช่ำช่อง ทั้งๆตัวจริงไม่เคยสืบสวนอะไรได้แม้แต่สตางค์ในกระเป๋าหายไปไหน    หนังสือที่บรรยายการฆ่าอย่างสยดสยอง ก็หาได้หมายความว่าคนเขียนต้องไปฆ่าคนเสียก่อนไม่ ถึงจะบรรยายได้ถูก   เช่นเดียวกับคนแต่งเรื่องท่านเคานต์แดรกคิวล่าขึ้นมา แกก็ไม่ใช่ผี และไม่เคยเจอผีดิบสักตัวในชีวิต
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.065 วินาที กับ 19 คำสั่ง