เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 2200 มหาเปารยะ
vilat
อสุรผัด
*
ตอบ: 31


 เมื่อ 19 มี.ค. 25, 12:35

ท่านใดทราบครับว่า นามสกุลพระราชทาน มหาเปารยะ มาจากรากคำว่าอย่างไร และ ท่านทับ มีบรรพบุรุษเป็นจีนไหมครับ หากใช่ เป็นจีนแซ่อะไร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 19 มี.ค. 25, 14:06

คำตอบนี้ยังไม่ยืนยันเรื่องที่มาของศัพท์ เพราะยังไม่ได้เรียนถามผู้เชี่ยวชาญทางบาลี  
ถ้าตอบผิด เดี๋ยวคงมีผู้เชี่ยวชาญทางบาลีสันสกฤตมาเฉลยเองค่ะ

แต่เท่าที่จำได้ถึงการแผลงศัพท์  เปารยะ น่าจะเป็นการแผลงศัพท์จาก ปุรย(ะ)  ภาษาสันสกฤต  ส่วนบาลีใช้ว่า ปุร(ะ)  แปลว่าเมือง
มหาเปารยะ Maha^paurya เป็นนามสกุลพระราชทานที่ 2278   โปรดเกล้าฯพระราชทาน อำมาตย์เอก พระยาประชากิจกรจักร (ทับ) ผู้ว่าราชการเมืองนครศรีธรรมราช ปู่ชื่อโต ทวดชื่อเมือง  
โต=มหา
เมือง = ปุระ-->  ปุรยะ--> เปารยะ
ส่วนที่ถามว่าท่านมีเชื้อจีนหรือไม่   ถ้าดูจากชื่อบรรพบุรุษฝ่ายบิดา เป็นคนไทยจนชั้นทวด      แต่ถ้าท่านมีเชื้อจีนจริง  ก็น่าจะเป็นสายมารดาค่ะ
บันทึกการเข้า
vilat
อสุรผัด
*
ตอบ: 31


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 10:23

เรียนตอบ ท่านเทาชมพู ขอขอบพระคุณมากนะครับ สำหรับคำตอบ รากศัพท์คำว่า เปารยะ แต่ก็ยังต้องทำการค้นคว้า ความหมายของคำที่ ร6 ใช้ตั้งนามสกุลนี้ ผมก็ยังสับสน ในความหมายของรากคำเล็กน้อย แต่ก็พอเห็นเคาลางของความหมาย
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 527


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 10:40

คำตอบนี้ยังไม่ยืนยันเรื่องที่มาของศัพท์ เพราะยังไม่ได้เรียนถามผู้เชี่ยวชาญทางบาลี  
ถ้าตอบผิด เดี๋ยวคงมีผู้เชี่ยวชาญทางบาลีสันสกฤตมาเฉลยเองค่ะ

แต่เท่าที่จำได้ถึงการแผลงศัพท์  เปารยะ น่าจะเป็นการแผลงศัพท์จาก ปุรย(ะ)  ภาษาสันสกฤต  ส่วนบาลีใช้ว่า ปุร(ะ)  แปลว่าเมือง
มหาเปารยะ Maha^paurya เป็นนามสกุลพระราชทานที่ 2278   โปรดเกล้าฯพระราชทาน อำมาตย์เอก พระยาประชากิจกรจักร (ทับ) ผู้ว่าราชการเมืองนครศรีธรรมราช ปู่ชื่อโต ทวดชื่อเมือง  
โต=มหา
เมือง = ปุระ-->  ปุรยะ--> เปารยะ
ส่วนที่ถามว่าท่านมีเชื้อจีนหรือไม่   ถ้าดูจากชื่อบรรพบุรุษฝ่ายบิดา เป็นคนไทยจนชั้นทวด      แต่ถ้าท่านมีเชื้อจีนจริง  ก็น่าจะเป็นสายมารดาค่ะ

เข้าเค้าครับอาจารย์ เมือง เป็นที่มาของเปารยะ โต เป็นที่มาของมหา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 11:05

เรียนตอบ ท่านเทาชมพู ขอขอบพระคุณมากนะครับ สำหรับคำตอบ รากศัพท์คำว่า เปารยะ แต่ก็ยังต้องทำการค้นคว้า ความหมายของคำที่ ร6 ใช้ตั้งนามสกุลนี้ ผมก็ยังสับสน ในความหมายของรากคำเล็กน้อย แต่ก็พอเห็นเคาลางของความหมาย
เม่ือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า พระราชทานนามสกุล   หลักการอย่างหนึ่งคือพิจารณาจากชื่อบรรพบุรุษที่ผู้ขอพระราชทานได้กราบบังคมทูลให้ทราบ  แล้วทรงแปลงชื่อนั้นเป็นบาลีสันสกฤต มาเป็นนามสกุลที่ไพเราะและได้ความหมาย
ถ้าบรรพบุรุษของผู่้ขอ เป็นขุนนาง ก็อาจจะพระราชทานจากบรรดาศักดิ์ของบรรพบุรุษ
บางสกุลก็ทรงพิจารณาจากอาชีพของผู้ขอ  หรืออาชีพบรรพบุรุษของผู้ขอ
นามสกุล มหาเปารยะ  มีหลักฐานว่าพระยาประชากิจกรจักร์นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอพระราชทานนามสกุล โดยระบุชื่อปู่ว่า โต และชื่อทวด ว่า เมือง    ไม่ได้บอกบรรดาศักดิ์ของท่าน   แสดงว่าท่านอาจไม่ได้รับราชการ 
ดิฉันแกะรอยจากคำว่า โต ซึ่งตรงกับ มหา  ดังนั้นจึงคิดว่า เปารยะ ตรงกับ เมือง
แต่ในเมื่อคุณ vilat ยังข้องใจ   เดี๋ยวจะเขียนไปขอความรู้จากนักปราชญ์ทางบาลีท่านหนึ่ง (ซึ่งแน่ว่าท่านรู้จักภาษาสันสกฤตด้วย)   ได้ความว่ายังไงจะกลับมาบอกนะคะ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16060



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 11:35

มีตัวอย่างนามสกุลพระราชทาน ซึ่งเป็นข้อยืนยันว่า "เปารยะ" มาจากชื่อของบรรพบุรุษซึ่งมีความหมายว่า "เมือง"

นนทะเปารยะ พระราชทานให้ พระโลกบาล (ช่วง)  นายอำเภอบางขุนเทียน  กรุงเทพฯ  ปู่ชื่อขุนศรีเสนา (ทิม)  กรมการเมืองนนทบุรี   บิดาชื่อพระยานนทบุรี (อิน)

ลวะเปารยะ พระราชทานให้ ขุนชำนาญอัคนีกิจ (ชั้น)  การไฟฟ้าหลวงสามเสน  กับนายร้อยเอก พระประจักษ์ยุทธชน (แช่ม) บิดา  บรรพบุรุษตั้งแต่ปู่ของปู่ทวดเป็นผู้รักษาเมืองลพบุรี

ศรีเปารยะ พระราชทานให้ ขุนรองเลขาประณีต (ชุ่ม)   จ่าจังหวัดนครศรีธรรมราช  ปู่ชื่อหมื่นศรีบุรี  บิดาชื่อหมื่นศรีบุรี (ศรีทอง)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 12:08

เปารยะ---->ปุรยะ---->ปุระ----> บุรี
นนทะเปารยะ------> นนทบุรี
ลวะเปารยะ ------> ลพบุรี
ศรีเปารยะ--------> ศรีบุรี
บันทึกการเข้า
vilat
อสุรผัด
*
ตอบ: 31


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 15:42

เรียนทุกท่าน ด้วยความเคารพ  ผมขอขอบพระคุณทุกท่าน สำหรับความรู้คำว่า เปารยะ นี้ โดยขอกล่าวความรู้สึกด้านภาษาว่า เป็นคำที่ไพเราะยิ่ง ครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 20 มี.ค. 25, 17:20

ได้คำตอบจากนักปราชญ์ทางบาลี ที่ดิฉันส่งคำถามไปแล้วค่ะ 
ขอขอบพระคุณพลเรือตรีทองย้อย แสงสินชัย อย่างสูง ไว้ ณ ที่นี้ค่ะ

ตอบคำถามคำว่า มหาเปารยะ
ตามรูปศัพท์ มหาเปารยะ แยกเป็น มหา + เปารยะ
มหา รูปคำเดิมในบาลีเป็น มหนฺต (มะหันตะ) แปลว่า มาก, ใหญ่ แปลง มหนฺต เป็น มหา

เปารยะ แปลงรูปเป็นบาลีคือ ปวฺรย
ปวฺรย รูปคำเดิมเป็น ปุรี แปลว่า เมือง
คำบาลีที่แปลว่า เมือง รูปคล้ายกันอีกคำหนึ่งคือ ปุร (ปุระ)
ในที่นี้เป็น ปุรี ไม่ใช่ ปุร

สูตรการแปลงรูปคือ แปลง อี ที่ -รี เป็น อย (อะยะ) หรือจะว่าแปลง อี เป็น ย ตรง ๆ ก็ได้
 ปุรี > ปุรฺย
แล้วแปลง อุ ที่ ปุ- เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (อะวะ)
 ปุรฺย > โปรฺย > ปวฺรย
 ปุรี > ปุรฺย > โปรฺย > ปวฺรย

รูปคำ ปวฺรย นั้น ถ้าอ่านเรียงตัวก็จะเป็น ปะ-วะ-ระ-ยะ
แต่ในที่นี้ วฺ มีจุดข้างใต้ บอกให้รู้ว่าเป็นตัวสะกดของ ป
ปวฺ จึงอ่านว่า ปะ-วะ ไม่ได้
ป ออกเสียง ปะ กึ่งเสียง ไม่ใช่ ปะ เต็ม ๆ
วฺ ทำหน้าที่เป็นตัวสะกด ไม่ออกเสียง
ปวฺ จึงอ่านคล้ายคำว่า เปา แต่ไม่ใช่ เปา ตรง ๆ เต็ม ๆ เพราะในบาลีไม่มีสระ เ-า
ลองออกเสียง ปะ กับ วะ ประสมกัน
ปะ เต็ม ๆ ก็ไม่ใช่
วะ เต็ม ๆ ก็ไม่ใช่
เป็นเสียงครึ่งต้นของ ปะ + ครึ่งท้ายของ วะ
จึงว่า-คล้ายคำว่า เปา

มหนฺต + ปุรี = มหาปุรี > มหาปุรฺย > มห...
มหนฺต + ปุรี = มหาปุรี > มหาปุรฺย > มหาโปรฺย > มหาปวฺรย
บาลี ปุร / ปุรี สันสกฤตเป็น เปาร
หนังสือ สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน ของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ (นายร้อยเอก หลวงบวรบรรณรักษ์ [นิยม รักไทย] เรียบเรียง) หน้า ๗๗๘ บอกไว้ว่า

สันสกฤต = เปาร
ไท = บุรี
อังกฤษ = a city

มหาปวฺรย เขียนอิงสันสกฤตเป็น มหาเปารย
เขียนแบบไทยเป็น มหาเปารยะ

แปลตามประวัติของผู้ขอพระราชทานนามสกุลที่ว่า “ปู่ชื่อโต ทวดชื่อเมือง”
มหา = โต
เปารยะ = เมือง

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๒๐ มีนาคม ๒๕๖๘
บันทึกการเข้า
CVT
องคต
*****
ตอบ: 527


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 21 มี.ค. 25, 10:00

ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูมากครับ
ที่ช่วยหาหลักฐานเชิงประจักษ์จากอาจารย์ทองย้อยที่เป็นผู้ที่มีความรู้ด้านนี้ครับ
บันทึกการเข้า
vilat
อสุรผัด
*
ตอบ: 31


ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 22 มี.ค. 25, 09:54

ตอบสู่ ความคิดเห็นที่8  ขอขอบพระคุณมากนะครับ สำหรับคำอธิบายภาษาบาลี คำอธิบายละเอียด และกระจ่างมาก และได้เห็นเจตนาของการใช้คำ ตั้งเป็นนามสกุลของ ร6 ที่มอบให้แด่สกุลนี้
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8425


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 23 มี.ค. 25, 12:55

               นึกย้อนถึง ความทรงจำวิชาหลักภาษาไทย, มัธยมปลาย ครับ

      ตอนเรียนเรื่อง คำสนธิ มีหลักการแปลงสระเป็นพยัญชนะ  
 
      อุ,อู เป็น ว   เช่น ธนู + อาคม  > ธันาคม

      อิ,อี เป็น ย   เช่น  สามัคคี  +  อาจารย์  >  สามัคาจารย์

ป.ล. ได้ยินนามสกุลจากสองนักเขียนในอดีต ครับ

        จำปูน   -   เทพ มหาเปารยะ    และ    พลายมลิวัลลิ์   -   ถนอม มหาเปารยะ   

        ท่านหลังนี้มีรูปวาดและเรื่องเล่า ในงานเขียนสุดท้ายของครู เหม เวชกร - จากย่ามความทรงจำ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 24 มี.ค. 25, 09:58

    ความรู้วิชาหลักภาษาไทยคืนอาจารย์ไปเกือบหมดแล้วค่ะ    แต่พอจำได้ว่า ไทยมีการแผลงสระ เช่น สระอุ เป็น สระโอ และสระเอา  เช่น อุฬาร แผลงเป็น โอฬาร และ เอาฬาร   คำหลังสุดยังไม่เคยเห็นใครชื่อนี้ 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.064 วินาที กับ 19 คำสั่ง