เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22
  พิมพ์  
อ่าน: 23402 คุยกันเรื่องวิลเลียม เชกสเปียร์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 285  เมื่อ 05 เม.ย. 25, 13:32

   3   The lunatic, the lover, and the poet  are of imagination all compact.”
   คนบ้า ผู้ที่อยู่ในห้วงรัก และกวี ล้วนแล้วแต่ดำรงตนอยู่ในภาพลวงตาทั้งสิ้น
   คนบ้าคือคนที่ไม่เห็นความจริงอย่างคนในโลกเห็นกัน  แต่ไปเห็นภาพหลอน ภาพลวง สิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
   ผู้อยู่ในห้วงรัก ก็จะเห็นด้วยสายตาแห่งความรัก ไม่ใช่ความจริง เช่นเห็นคนที่ตัวรักดีเลิศประเสริฐศรี ทั้งที่คนอื่นๆเห็นตรงข้าม
   กวี  ใช้จินตนาการสร้างโลกของตนเองขึ้นมา   สามารถจะพรรณนาถึงอะไรต่อมิอะไรได้เห็นภาพ ราวกับเป็นชีวิตจริง
 ทั้งๆไม่ใช่เรื่องจริง
   สรุปแล้ว  3 กลุ่มนี้คือพวกเดียวกัน  ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล  ใช้ความคิดคำนึงมากกว่ามองจากข้อเท็จจริง
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 286  เมื่อ 08 เม.ย. 25, 09:35

   ขอส่งท้ายงานของเชกสเปียร์ด้วยสุขนาฏกรรมอีกเรื่องหนึ่ง คือ The Tempest   เรื่องนี้ 'ว่ากันว่า' เป็นงานช้ินสุดท้ายของคุณปู่ก่อนเกษียณตัวเองจากวงการละคร  กลับไปบ้านเดิม    หรือถ้าไม่ใช่งานสุดท้ายก็อยู่ในกลุ่มลำดับท้ายๆ  เพราะเราไม่รู้ว่าคุณปู่แต่งขึ้นในค.ศ. ไหนกันแน่   แต่ที่รู้คือเป็นงานที่แต่งขึ้นเมื่อกวีมีอายุมากแล้ว  ผ่านโลกผ่านชีวิตมาพอสมควร  ทัศนะของตัวเอกในเรื่องจึงแสดงความเจนจัดชีวิต และสะท้อนสังคมบางส่วน  ในตอนจบ ปัจฉิมพจน์ของพรอสเพอโรตัวเอกของเรื่อง ถูกตีความว่าเป็นถ้อยคำของเชกสเปียร์เอง กล่าวอำลาอาชีพละคร
   ส่วนตัวเนื้อเรื่องก็มีความดาร์คพอสมควรแอบแฝงอยู่  ไม่ได้เบาอย่าง A Midsummer Night's Dream
   นักวิชาการบางคนถึงกับออกปากว่า จัดเรื่องนี้เข้าประเภท comedy เพราะจบลงท้ายด้วยความสุขสมหวังให้อภัย ตามแบบ salvation ของสุขนาฏกรรม  แต่ในท่อนต้นและท่อนกลางของเรื่อง มีทั้งเรื่องทรยศหักหลัง  ชิงอำนาจความเป็นใหญ่   ระบบเจ้าอาณานิคม  การล่วงละเมิดทางเพศ  ระบบทาส  เรียกว่าถ้าบิดตอนจบให้ตัวเอกตายเสียอย่างเดียว ก็เป็น tragedy ได้อีกเรื่องหนึ่ง


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 287  เมื่อ 09 เม.ย. 25, 08:15

    The Tempest เปิดฉากแรกด้วยพายุใหญ่กลางทะเล สมกับชื่อละคร    พายุกำลังซัดเรือลำหนึ่งจวนเจียนจะล่ม       คนบนเรือที่กำลังอลหม่านหนีตายมีคนสำคัญประกอบด้วยอันโตนิโย ดยุคแห่งมิลานคนปัจจุบัน   อลองโซ พระราชาแห่งเนเปิลส์ผู้เป็นสหายสนิท และเจ้าชายเฟอร์ดินานด์โอรสของพระราชา
    คนที่กล่าวนี้รอดตายไปขึ้นฝั่งบนเกาะกลางทะเลที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน    ผู้ครองเกาะนั้นคือผู้วิเศษพรอสเพอโร ชายผู้มีคาถาอาคมขลัง   บนเกาะนอกจากเขาก็มีมิแรนดา ธิดาสาว   ภูตตัวหนึ่งช่ื่อแอเรียล เป็นข้ารับใช้ของพรอสเพอโร  กับอสูรชื่อคาลิบันที่เคยอาศัยอยู่บนเกาะนี้มาแต่เดิม   แต่ถูกพรอสเพอโรบังคับไว้ด้วยเวทมนตร์ให้เป็นทาสรับใช้ของเขาเช่นกัน
     เรื่องราวค่อยๆคลี่คลายออกมาว่า แท้จริงพรอสเพอโรคือผู้บันดาลให้เกิดพายุใหญ่ขึ้นมาเอง   เพื่อให้คนบนเรือผู้เป็นศัตรูเก่าต้องมาตกอยู่ในเงื้อมมือเขาบนเกาะนี้    ย้อนหลังไป 12 ปีก่อน พรอสเพอโรคือดยุคแห่งมิลานคนก่อน แต่ถูกน้องชายร่วมมือกับพระราชาโค่นอำนาจ วางแผนลอบสังหารเขาเพื่อชิงตำแหน่ง  แต่พรอสเพอโรรอดมาได้ มาขึ้นฝั่งที่เกาะพร้อมกับธิดา

(ภาพวาด  Prospero and Miranda  ฝีมือจิตรกร  Frederick Richard Pickersgill)


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 288  เมื่อ 09 เม.ย. 25, 11:31

         ท่านเชกย้ายโล(เคชั่น) จากป่า(ตามใจท่าน) มาเป็นติดเกาะ ผู้ประสบภัยดีใจรอดชีวิตจากลม,น้ำ
แต่แล้วต้องมาลุ้นต่อบนดินแดนไฟแค้น
         พล็อตติดเกาะมีในนิยายดังหลายเรื่อง เช่น แนวชีวิตต้องรอดใน Robinson Crusoe ของ Daniel Defoe,
คุณย่า Agatha Christie ใช้เขียนนิยายสืบสวนฆาตกรรม Evil Under the Sun และ And Then There Were None
และ เด็กวัยใสติดเกาะเผชิญภาวะชีวิตต้องสู้สู่ความรุนแรงใน เรื่อง Lord of the Flies โดย William Golding
         ท่านเชกเปิดฉากพายุโหมน่ากลัวจนชวนให้นึกถึงความรุนแรงสูญเสียแต่กลับพลิกพล็อตคาดหมายกลาย
เป็นเรื่องสุขนาฏกรรมไปได้

เวอร์ชั่นนี้ดัดแปลงให้ "The Queen" - Helen Mirren รับบทเป็น Prosperoa

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 289  เมื่อ 09 เม.ย. 25, 13:11

  บนเกาะที่พรอสเพอโรพำนักอยู่พร้อมกับลูกสาว  มีตัวละครอีก 2 ตัว ซึ่งไม่ใช่มนุษย์ แต่มีบทบาทสำคัญตลอดเรื่อง    คือแอเรียล(Ariel) และคาลิบัน (Caliban)
   ในเรื่องเรียกแอเรียลว่า Spirit  แต่ดูจากบทบาทแล้วไม่ใช่วิญญาณคนตาย  ถ้าจะแปลว่า "ภูต" ก็น่าจะถูกต้องกว่า  แอเรียลเคยอยู่บนเกาะนี้มาก่อนพรอสเพอโร   เป็นภูตที่มีฤทธิ์  เหาะเหินเดินอากาศ ล่องหนหายตัว ดลบันดาลพายุ ฯลฯได้  เรื่องไม่ได้บอกชัดว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าเป็นเพศชาย   ไม่มีนิสัยร้ายกาจ   หน้าที่ของแอเรียลคือรับใข้พรอสเพอโร ทำทุกอย่างที่เขาสั่ง  
   ส่วนอีกตัว คือคาลิบัน ตัวนี้ในเรื่องเรียกว่า monster ขอแปลว่าอสูร   จากคำพูดของตัวละครในเรื่องบอกอีกว่ามีร่างกายพิกลพิการ  น่าเกลียดชัง  ดูเหมือนครึ่งมนุุษย์ครึ่งสัตว์ร้าย  นิสัยใจคอก็เหมือนเป็นตัวโกงประจำเรื่อง
   คาลิบันเป็นลูกของแม่มดชื่อซิโครักซ์ ผู้เป็นเจ้าของเกาะนี้มาก่อน  เกิดจากพ่อที่เป็นปีศาจ    แม่มดจับแอเรียลขังไว้ในต้นไม้ต้นหนึ่งเป็นการลงโทษที่ไม่ยอมรับใช้นางไปทำความชั่วต่างๆ  ต่อมาแม่มดตาย   พรอสเพอโรมาขึ้นที่เกาะนี้ ก็ปล่อยแอเรียลออกจากต้นไม้ แต่ไม่ได้ปล่อยเป็นอิิสระ คงให้เป็นข้ารับใช้เขาแทน
   (ภาพซ้าย คาลิบัน  ภาพขวา แอเรียล)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 290  เมื่อ 09 เม.ย. 25, 19:27

  ตอนแรกที่พรอสเพอโรมาถึงเกาะนี้   แม่มดตายแล้วเหลือแต่คาลิบันครอบครองเกาะอยู่ตามลำพัง   ในตอนแรก พรอสเพอโรก็ผูกมิตรกับคาลิบันด้วยดี  ช่วยสอนให้พูดภาษาคน  พยายามจะทำให้อยู่อย่างมนุษย์ที่เจริญแล้ว แต่ปรากฏว่าคาลิบันเกิดถูกตาถูกใจมิแรนดา ก็เลยพยายามล่วงละเมิดนาง แต่พรอสเพอโรช่วยลูกสาวไว้ทัน   หลังจากนั้นก็เล่นงานคาลิบันด้วยการไล่ออกไป ไม่คบค้าด้วยอีก  ส่งไปจำกัดเขตไว้อีกมุมหนึ่งของเกาะ
  กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน   พวกบนเรือรอดตายขึ้นมาที่เกาะได้ แต่ต่างคนต่างไม่รู้ว่าคนอื่นๆก็รอดตายเช่นกัน   หนึ่งในนั้นคือเจ้าชายเฟอร์ดินานด์ที่ถูกแอเรียลบันดาลให้หลงอยู่ตามลำพัง  จากนั้นก็นำทางเฟอร์ดินานด์มาพบพรอสเพอโรและมิแรนดา    มิแรนดาประหลาดใจมากที่พบหน้ามนุษย์อื่นเป็นครั้งแรก  ส่วนเฟอร์ดินานด์ก็หลงรักมิแรนดาแต่แรกพบ  แม้ว่าพรอสเพอโรแกล้งใช้งานหนัก จนเจ้าชายกลายเป็นกุลี   เฟอร์ดินานด์ก็ยอมทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่ใกล้มิแรนดา

(ภาพ  Ferdinand courting Miranda  จิตรกร William Hogarth)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 291  เมื่อ 10 เม.ย. 25, 19:21

     ทั้งหมดนี้ พรอสเพอโรทำเพื่อลองใจเจ้าชาย  เพราะใจจริงก็อยากให้มิแรนดาได้แต่งงานกับเจ้าชายแห่งเนเปิลส์    ตัวเขาเองก็อยากออกจากเกาะกลับคืนไปสู่มิลานเช่นกัน
     คาลิบันเกลียดชังและเคียดแค้นพรอสเพอโรมาตลอด   แต่จำใจต้องอยู่ในอำนาจ   เมื่อไปพบบ่าวและกลาสีขี้เมาที่รอดจากเรือมาขึ้นฝั่ง  เข้าใจว่าสองคนนี้สามารถช่วยเหลือตัวเองให้พ้นจากพรอสเพอโรได้ก็เลยยกย่องให้เป็น "เจ้านาย"
    ทางฝ่ายอันโตนิโยน้องชายของพรอสเพอโร อลองโซพ่อของเฟอร์ดินานด์ขึ้นฝั่งมาได้พร้อมด้วยบริวารอีก 2-3 คน  อลองโซเข้าใจว่าลูกชายจมน้ำตายแล้วก็เศร้าโศกเสียใจมาก   
    ในที่สุด พรอสเพอโรใช้แอเรียลให้ไปจัดการให้ทุกคนได้มาพบกัน     อลองโซดีใจมากที่เฟอร์ดินานด์ยังไม่ตาย  ก็เลยสำนึกผิดได้ที่เคยร่วมมือกับอันโตนิโยโค่นพรอสเพอโร   ในฉากท้าย  เฟอร์ดินานด์กับมิแรนดาแต่งงานกัน เพื่อจะได้ครองมิลานและเนเปิลส์ต่อไปในอนาคต    แอเรียลได้รับการปล่อยเป็นอิสระ   พรอสเพอโรอำลาเกาะเพื่อเดินทางกลับไปอิตาลี   ส่วนคาลิบันอยู่บนเกาะตามเดิม
     
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 292  เมื่อ 11 เม.ย. 25, 10:13

           งานบทละครชิ้นสุดท้ายของท่านเชกนี้ ดูเหมือนจะเป็นงานที่ท่านเชกเขียนเพื่อแก้ไข,ลบเลือนงานโศกนาฏกรรม
ในอดีตที่รันทดถึงเลือดสู่สุขนาฏกรรม
          จาก โรเมโอ และ จูเลียต คู่รักต้องห้ามเพราะความขัดแย้งระหว่างสองครอบครัวจบลงด้วยความตายกลายเป็น
ความรักที่สมหวังได้ครองคู่กัน, ความแค้นในแฮมเลทที่นำไปสู่การตายหมู่สู่การให้อภัย ไม่มีใครตายเลยสักคน และ
ความเห็นผิด,มั่นรั้นจนชีวิตตกต่ำของคิง เลียร์ เปลี่ยนเสียใหม่ให้ได้คิดชีวิตดีงามจบสวย ส่วนความโลภทะเยอทะยาน
(ใฝ่วิชาการเวทย์มนต์,ละเลยหน้าที่จนเสียการปกครองแล้วต้องถูกเนรเทศ) ก็น้อยกว่าแมคเบธและไม่มีฆาตกรรมต่อเนื่อง

ฉบับมังงะก็มากับคลื่นของ Hokusai


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 293  เมื่อ 16 เม.ย. 25, 20:00

     เป็นธรรมดาอยู่เอง เมื่อคนเราอายุมากขึ้น  ความเข้มข้นในความคิดและอารมณ์ก็มักจะจางลง กลายเป็นความเยือกเย็นหรือไม่ก็ปลงตก   ถ้ายังเข้มข้นเหมือนสมัยเป็นหนุ่ม จะกลายเป็นฝืนสังขาร
    เราจึงเห็นว่าในเรื่อง The Tempest  ในตอนจบ  พรอสเพอโรก็ให้อภัยศัตรูของเขาทั้งหมด   ไม่เลือกที่รักมักที่ชังว่าจะอภัยเฉพาะคนที่กลับใจได้   แม้แต่อันโตนิโยน้องชายตัวแสบที่ชิงเก้าอี้ของเขาไปแท้ๆ  แถมยังไม่สำนึกจนแล้วจนรอด  พรอสเพอโรก็ไม่ว่าอะไร   แกไม่รู้สึกผิดก็เรื่องของแก  แต่ฉันให้อภัยแกแล้ว   
    ส่วนมิแรนดากับเฟอร์ดินานด์ ก็คือโรเมโอกับจูเลียตเวอร์ชั่นสมหวัง    น่ารักน่าเอ็นดูทั้งคู่    เลยไม่มีอะไรจะให้พูดถึงมาก
    ตัวละครที่มีอะไรให้พูดถึงมากที่สุดมี 2  ตัวคือคาลิบันกับแอเรียล   แอเรียลเป็นผู้ช่วยพรอสเพอโร  เป็นตัวประกอบฝ่ายดี    ส่วนคาลิบันเป็นตัวร้าย ที่จะว่าไปก็ทั้งน่าเกลียดและน่าสมเพช
   ที่น่าเกลียดก็อย่างที่ว่า คือรูปร่างหน้าตาเป็นสัตว์ประหลาดมากกว่าคน   นิสัยก็แย่  คิดร้ายต่อพรอสเพอโรอยู่ทุกขณะจิต แถมยังคิดจะรวบหัวรวบหางมิแรนดาอีกด้วย    แต่ที่น่าสมเพชเป็นฝีมือเชกสเปียร์ที่สร้างคาลิบันให้พูดได้จากมุมของเขา  ทำให้ตัวละครตัวนี้อยู่ในฐานะคล้ายไชล็อค  คือร้ายก็ร้าย แต่น่าสงสารก็น่าสงสาร
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 294  เมื่อ 17 เม.ย. 25, 21:26

  ถ้ามองจากมุมของพรอสเพอโร   คาลิบันคืออสูรกึ่งสัตว์ป่าที่ดุร้าย   แม้พยายามสอนให้รู้จักความเจริญอย่างมนุษย์แล้วก็ยังมีสัญชาตญาณดิบ  เลี้ยงไม่เชื่อง  เผลอไม่ได้ต้องแว้งกัด  จึงถูกสะกดด้วยอำนาจคาถาของพรอสเพอโรให้กลายเป็นทาสรับใช้อยู่บนเกาะ
  แต่ถ้ามองจากมุมของคาลิบัน   เขาอยู่บนเกาะนี้มาก่อน เมื่อนางแม่มดผู้เป็นแม่ตาย  เขาก็อยู่บนดินแดนนี้เรื่อยมา จนพรอสเพอโรกับลูกสาวมาขึ้นบนเกาะทีหลัง    ในตอนแรก พรอสเพอโรบอกว่าจะสอนเขาให้เหมือนมนุษย์  แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ยักใช่มนุษย์เท่าเทียมกัน แต่เป็นมนุษย์นายกับทาส     พรอสเพอโรไม่เคยยอมรับเขาว่าเป็นผู้ที่มีเลือดเนื้อ มีชีวิตจิตใจ  มีความรู้สึกและอารมณ์ต่างๆอย่างมนุษย์   เมื่อเขาทำไม่ถูกใจ  พรอสเพอโรก็ "กดหัว" เขาลงเป็นทาส
  คำที่คาลิบันเยาะหยันตัวละครมนุษย์อย่างเจ็บแสบคือ
  “You taught me language, and my profit on’t is, I know how to curse.”
  ท่านสอนให้ข้าพูดภาษามนุษย์  ข้าจึงได้รู้จักการด่าทอท่าน
  หมายความว่า ความศิวิไลซ์ที่มนุษย์สอนคาลิบัน เป็นเรื่องไร้ประโยขน์สำหรับผู้ถูกสอน  แต่กลับทำให้รู้จักบ่มเพาะความเกลียดชังต่อผู้สอน(ซึ่งกดเขาลงเป็นทาส)
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 295  เมื่อ 17 เม.ย. 25, 21:33

  มองให้ลึกลงไป เชกสเปียร์เหมือนจะสะท้อนความจริงที่ชนชาติผู้ถือตัวว่าเจริญแล้วทำกับคนพื้นเมือง    ถึงแม้ว่ายุคของเชกสเปียร์เกิดก่อนยุคล่าอาณานิคมหลายร้อยปี  แต่ยุคเขาก็มีการไปตั้งนิคมในอเมริกาแล้ว โดยเซอร์วอลเตอร์ ราเล่ห์ ที่พยายามไปตั้งอยู่แห่งหนึ่งในโลกใหม่ คือรัฐเวอร์จิเนียในสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
  พวกชาวยุโรปเดินทางไปสู่ดินแดนใหม่กันหลายแห่ง  รวมสเปนที่เดินทางไปอเมริกาใต้ด้วย    ไปที่ไหนก็ถือตัวว่าเป็นผู้เจริญ และเหยียดคนพื้นเมืองเจ้าของถิ่นว่าเป็นคนป่าคนดง คนเถื่อนไร้ความเจริญ    ความพยายามจะสร้างความศิวิไลซ์ให้พวกเขาที่จริงก็คือกดเจ้าของถิ่นลงเป็นทาส  แล้วก็เข้ายึดครองดินแดนมาเป็นของตน
  คาลิบันสะท้อนความจริงที่เจ็บปวดของชาวพื้นเมืองในหลายๆดินแดน ออกมาในคำพูดเหล่านี้
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 296  เมื่อ 18 เม.ย. 25, 15:26

           บทละครเรื่องนี้ของท่านเชกมีตัวละครเด่นที่เป็น "คนนอก" อีกคน ตามหลัง ไชล็อก(ยิว) โอเธลโล และ แอรอน(Titus Andronicus)
      สองคนหลังเป็นชายผิวสี ส่วนคาลิบันรูปลักษณ์ไม่มีคำบรรยายชัดเจนแต่น่าจะคล้ำ ทุกคนต่างเข้าข่ายแบดกาย
      โอเทลโล เป็นพระเอกแต่เขลาหูเบาขาดสติรุนแรงถึงกับฆ่าคนรัก
      คาลิบัน เรียกได้ว่า ต้อยต่ำที่สุดทั้งรูปลักษณ์และสถานะถึงระดับทาส,ปีศาจ,ตัวประหลาด ไม่ใช่คน
(แต่อยู่บนเกาะมาก่อนจะถูกรุกรานจากพรอสเพอโรที่เป็นคนนอกต่างหาก)
      ไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าท่านเชกมีทัศนคติต่อคนผิวสีและการค้าทาสที่แท้จริงอย่างไร
      ค้นดูเขาว่า ในช่วงกลางศตวรรษที่ ๑๖ ชาวลอนดอนได้รู้จักคนผิวสีดำ และการค้าทาสได้เริ่มขึ้นมาแล้วเมื่อท่านเชกแต่ง
บทละคร คนเรือค้าทาสที่แวะผ่านลอนดอนอาจมาพำนักชั่วคราวที่ย่านโสเภณีใกล้โรงละครและได้พานพบท่านเชก
      และ ในขณะที่เมื่อปี ๑๖๐๐ ราชสำนักควีนอลิซเบธได้ต้อนรับท่านทูตชาวมัวร์ผู้งามสง่าจาก(ปัจจุบันคือ) มอร็อคโค มีบางคน
ตั้งข้อสันนิษฐานว่าท่านเชกอาจได้ยินคำร่ำลือแล้วนึกนำมาดัดแปลงเป็นโอเธลโลในเวลาต่อมา(ราวปี ๑๖๐๓)

ท่านทูต คาลิบัน


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 297  เมื่อ 18 เม.ย. 25, 18:31

     ก่อนยุคของเชกสเปียร์ หลายสิบปี  สเปนเคยรุกรานอาณาจักรแอซเท็ก (คือเม็กซิโกในปัจจุบัน) เรื่องที่ชาวยุโรปบันทึกเอาไว้คือชาวพื้นเมืองออกมาต้อนรับกองทัพเรือสเปนด้วยดี   เพราะกษัตริย์ของแอชเท็กและพลเมืองเชื่อว่าคนแปลกหน้าผิวขาวที่นั่งเรือมาถึงคือเทพเจ้าในตำนานปรัมปราของเขา  ลงมาเยือน  จึงต้อนรับอย่างเต็มใจ
    ผลก็คือชาวสเปนมองชาวพื้นเมืองว่าเป็นคนป่าเถื่อน นอกศาสนา   สมควรจะถูกยึดเป็นอาณานิคมของผู้ที่เจริญกว่า (คือผู้นับถือคริสตศาสนา) หลังสงครามระหว่างสเปนกับชาวเมือง  สเปนก็ปราบอาณาจักรแอชเท็กลงได้ราบคาบ
    เรื่องนี้น่าจะรู้กันแพร่หลายในอังกฤษ ซึ่งเป็นทั้งอาณาจักรใกล้เคียงและคู่แข่งทางกำลังทัพ   
    ถ้าเอาคาลิบันมาวางไว้ในฐานะคนพื้นเมือง   พรอสเพอโรคือผู้วิเศษที่มาจากทะเล มาขึ้นที่เกาะ  ในตอนแรกคาลิบันก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร  คงปล่อยให้พรอสเพอโรสั่งสอนเขาให้ดำเนินชีวิตอย่างมนุษย์  แต่สักพักก็เกิดขัดแย้งกัน  เมื่อคาลิบันคิดจะเป็นมนุษย์เท่าพรอสเพอโรขึ้นมาจริง     คืออยากจะเป็นลูกเขย(ทั้งที่มิแรนดาไม่ได้เอออวยด้วย)   พรอสเพอโรใช้อำนาจที่เหนือกว่ากดคาลิบันลงเป็นทาสรับคำสั่ง   เพราะถือว่าเป็นอันตรายต่อมิแรนดาและตัวเขาเอง
    ความขมขื่นและเคียดแค้นของคาลิบันถ้ามองจากมุมของเขาเอง ก็เป็นที่เข้าใจได้     ข้าอยู่ของข้าๆดีในดินแดนของข้า   ท่านมาจากดินแดนอื่น เข้ามายึดพื้นที่ในดินแดนข้า    ท่านบอกว่าท่านจะพัฒนาข้าให้เป็นผู้เจริญเหมือนท่าน   แต่เมื่อข้าอยากเป็นลูกเขยท่าน  ท่านก็กริ้วโกรธว่าข้าเป็นตัวอันตราย เอาพลังที่เหนือว่ากักกันข้าไว้ในดินแดนของข้า   กดหัวข้าลงเป็นทาส  ให้รับใช้และถูกกลั่นแกล้งจากบริวารอีกคนของท่านทุกอย่างตามใจชอบ
   เชกสเปียร์ทิ้งคำถามที่ไม่ได้เอ่ยถามออกมาดังๆว่า  คำว่า ผู้เจริญ และ ป่าเถื่อน ในกรณีนี้ มีคำจำกัดความว่าอะไรดี   และควรเป็นฝ่ายไหนกันแน่
   
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 298  เมื่อ 18 เม.ย. 25, 18:55

    ขอแยกเข้าซอยหน่อยนะคะ
     เชกสเปียร์เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จท้ังในด้านผลิตงานศิลปะที่วงการยกย่อง และในขณะเดียวกันก็เป็นมืออาชีพที่รู้ดีว่าควรจะรักษาดุลย์ระหว่างศิลปะกับธุรกิจไว้ตรงกึ่งกลาง    คือเนื้อเรื่องไม่ว่าโศกหรือสุขนาฏกรรมจะต้องตอบสนองรสนิยมคนดู(และคนอ่าน) ได้  แต่ขณะเดียวกันศิลปะที่แฝงอยู่ มากพอจะเป็นที่ชื่นชมของวงการวรรณศิลป์
    ดังนั้น สำหรับคนดูที่ดูแบบไม่คิดอะไรมาก  พรอสเพอโรก็คือตัวเอกฝ่ายดีของเรื่อง เป็นผู้วิเศษที่งามสง่า มีอำนาจน่าเลื่อมใส  มีมิแรนดาและเจ้าชายเฟอร์ดินานด์เป็นน้ำจิ้มหวานๆให้เนื้อเรื่องไม่เครียด   ส่วนคาลิบันก็ถูกสร้างมาให้เป็นอมนุษย์น่าเกลียด  คิดปองร้ายพรอสเพอโรอยู่ตลอดเวลา    แบบนี้คนดูเข้าใจได้ว่าละครต้องมีพระเอกผู้รา้ย
    แต่การสร้างตัวตนของคาลิบันที่มีบางอย่างลึกซึ้งอยู่ใต้รูปลักษณ์น่าเกลียดชัง ชวนให้คนดูที่ต้องการใช้สมองมากกว่าดูอะไรเพลินๆได้ขบคิด  ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่า เออเนอะ ละครมีอะไรให้คิดให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม    หากไม่คิดก็ไม่ว่ากัน  ยังดูได้เพลินอยู่ดี
    นี่ก็คือศิลปะที่ทำให้ท่านเชกอยู่เหนือกวีอื่นๆในยุคเดียวกัน
   แต่ถ้าจะสร้างให้ซับซ้อน(และสับสน)  ไปอีกแบบ เช่นให้คาลิบันเป็นเจ้าชายพื้นเมืองรูปงาม ที่ต้อนรับพรอสเพอโรด้วยดี  แต่พอสมัครจะเป็นลูกเขย ก็โดยกดหัวลงเป็นทาส ประสบชะตากรรมเลวร้ายไปจนจบเรื่อง   ส่วนเฟอร์ดินานด์ไม่ใช่เจ้าชาย แต่เป็นกลาสีห่วยๆคนหนึ่งที่เผอิญขึ้นฝั่งมาเจอมิแรนดา แล้วเกิดถูกใจไปสู่ขอกับพ่อ  พ่อก็ใจดีเหลือหลาย ยกให้ทั้งๆ ไม่เหมาะกันเลย     แบบนี้คนดูสมัยนั้นก็รับไม่ไหว  แม้จะพยายามแทรก "สาร" ที่ลึกซึ้งลงไปในเรื่อง ก็ชวนสับสนงงงวย   จนตีความเท่าไหร่ก็ยังฟังไม่เข้าท่าอยู่นั่นเอง
   อย่างนี้ท่านปู่ก็ย่อมจะดับไปทั้งๆยังไม่ทันตาย   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 299  เมื่อ 20 เม.ย. 25, 17:19

   คาลิบันเป็นตัวละครที่มีอะไรหลายอย่างทำให้นึกถึงไชล็อก ใน เวนิสวาณิช   
   อย่างแรกคือเป็นตัวละครฝ่ายร้าย    ถูกสร้างมาเพื่อให้คนดู(และคนอ่าน)ชิงชัง   ไม่มีใครรักได้ลง  แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามของไชล็อกได้ ว่าเขาเองก็ไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันอย่างตัวละครฝ่ายดีคนอื่นๆหรือ 
   I am a Jew. Hath not a Jew eyes? Hath not a Jew hands, organs, dimensions, senses, affections, passions?
    ในเมื่อเป็นมนุษย์ด้วยกัน เหตุใดจึงข่มเหงรังแกกัน?   
   เช่นเดียวกับคาลิบัน ไชล็อกเป็นผลผลิตจากโลกที่ไม่เคยให้ศักดิ์ศรีแก่เขา   ตัวละครอื่นๆถูกมองว่าเป็นฝ่ายดี  ทั้งที่ตัวละครเหล่านั้นกดขี่ข่มเหงเขา  เมื่อเขาลุกขึ้นมาตอบโต้ ก็ยิ่งถูกประณามและลงโทษ
   คาลิบันคิดขบถต่อพรอสเพอโร ไม่ใช่เพราะเขาเป็นคนเลว คนในข้องอในกระดูกอย่างอันโตนิโย น้องชายของพรอสเพอโรที่แย่งตำแหน่งพี่ชาย   แต่พรอสเพอโรกลับให้อภัยอันโตนิโย ทั้งๆน้องชายก็ไม่ได้แสดงออกมาสักนิด หรือพูดสักคำว่ากลับใจ   ผิดกับคาลิบันที่พรอสเพอโรไม่เคยพูดว่าให้อภัย   เพียงแต่ละทิ้งไปในตอนจบ  คือเดินทางออกจากกลับไปมิลานพร้อมลูกสาวและลูกเขย   ไม่มีการเอ่ยถึงคาลิบันในตอนจบว่าเป็นอย่างไร   
  คนดูก็ได้แต่สรุปเอาเองว่า เมื่อพรอสเพอโรจากเกาะไปพร้อมลูกและเครือญาติ   คาลิบันก็ถูกทิ้งไว้บนเกาะเพียงลำพังเหมือนตอนมนุษย์จะมาถึง    ส่วนจะทุกข์จะสุขอย่างไรก็ทิ้งให้คนดูตัดสินกันเอง
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 18 19 [20] 21 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง