เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 22
  พิมพ์  
อ่าน: 23439 คุยกันเรื่องวิลเลียม เชกสเปียร์
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 28 ม.ค. 25, 11:24


จากหนังสือ ตามใจท่าน พระราชนิพนธ์แปลในล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ครับ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 28 ม.ค. 25, 11:35

เรื่องราวของเชกสเปียร์และผลงานของเขา ถูกเล่าในรายการ People You May Know (PYMK) ของคุณฟาโรส โดยมีคุณชวัตถ์วิช เมืองแก้ว  ศิษย์เก่าสาขาวิชาศิลปะการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นวิทยากร

วิลเลียม เช็กสเปียร์ มหากวีเอกของอังกฤษในยุคเอลิซาเบธ (Elizabethan era) เป็นนักการละครที่ผลิตผลงานที่ถูกตีพิมพ์ ถูกตีความใหม่ มากที่สุดในโลก และจากภาษาอังกฤษถูกแปลออกไปแล้วมากกว่าร้อยภาษา ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งละครเวที เป็นภาพยนตร์และเป็นซีรีส์ รวมถึงเป็นผู้มีคุณูปการต่อภาษาอังกฤษ เพราะเป็นคนที่คิดคำใหม่ในภาษาอังกฤษหลายร้อยคำ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 28 ม.ค. 25, 13:53

     ต่อมา  มีการสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงเขาบนกำแพงทางด้านเหนือของโบสถ์  เป็นรูปปั้นครึ่งตัว  มือหนึ่งอยู่ในท่าจับปากกาขนนกเพื่อเขียนหนังสือ  อีกมือจับแผ่นหินที่สลักเป็นรูปแผ่นกระดาษ   หมายถึงผลงาน
  


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 28 ม.ค. 25, 13:58

  รูปปั้น  และอนุสาวรีย์เชกสเปียร์มีมากมายหลายแห่งด้วยกันในอังกฤษ  รวมทั้งที่เมืองเกิด สแตรตฟอร์ด อะพอน เอวอน  มีอนุสาวรีย์ที่มีมุม 4 มุม ตั้งรูปปั้นจากตัวละครลือชื่อของเขา


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 28 ม.ค. 25, 13:59

ต่อไปจะได้เข้าเรื่องเสียทีค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 09:01

      สำหรับคนที่เคยได้ยินแต่ชื่อเชกสเปียร์ แต่ไม่เคยอ่านงาน   ขออธิบายว่าเชกสเปียร์ไม่ได้แต่งนวนิยาย  เรื่องสั้น  หรือบทความ (สมัยนั้นนวนิยายยังไม่ถือกำเนิด) งานหลักคือเขียนบทละครเวที   และมีโคลงประเภท sonnet อีกเล็กน้อย    คำประพันธ์ที่ใช้ในการเขียนบทละคร เรียกว่า blank verse  หรือกลอนเปล่า  เป็นกลอนที่ไม่มีสัมผัส แต่มีจังหวะคำ
      ผลงานของเชกสเปียร์แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ โศกนาฏกรรม (tragedy)  สุขนาฏกรรม หรือหัสนาฏกรรม (comedy)  และเรื่องอิงประวัติศาสตร์ (historical plays)  เรื่องที่เข้าไปอยู่ในหลักสูตรนักเรียนอังกฤษมากที่สุดคือ tragedy และ comedy  ส่วน historical นั้นมีเอาไว้สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอกที่เรียนเจาะลึก   ไม่ค่อยได้เอามาเรียนกันในระดับทั่วไป  
      คนไทยรู้จักงานของเชกสเปียร์มาตั้งแต่รัชกาลที่ 6   พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าทรงแปลไว้ 3 เรื่อง เป็น comedy  คือ  As You Like It  ชื่อไทยว่า "ตามใจฉัน" Romeo and Juliet ชื่อไทยว่า โรมิโอและจูเลียต  และ The Merchants of Venice (ชื่อไทยว่า เวนิสวานิช)  และทรงดัดแปลงเรื่อง Othello  เป็นบทละครเรื่อง "พระยาราชวังสัน"   แต่เรื่องนี้ไม่เคยนำออกแสดง  ในยุคหลังจากนั้น ท่านผู้หญิงดุษฎีมาลา มาลากุล ณ อยุธยา  แปลเรื่อง A Midsummer Night's Dream
     วงวรรณคดียกย่องว่า โศกนาฏกรรมเป็นเรื่องเหนือกว่าสุขนาฏกรรม   เพราะมีความลึกซึ้งกินใจมากกว่า  สามารถยกระดับจิตใจคนดูให้สูงขึ้นได้จากการเรียนรู้ธรรมชาติมนุษย์ที่นำเสนอในละคร    ในบรรดาโศกนาฏกรรมทั้งหมดที่เชกสเปียร์แต่ง  มี 4 เรื่องที่ได้รับการยกย่องว่ายิ่งใหญ่  เรียกรวมกันว่า The Four Great Tragedies  คือ  Hamlet, Macbeth, King Lear และ Othello
    (โปรดสังเกตว่า ไม่มีเรื่อง Romeo and Juliet ซึ่งเป็นเรื่องที่โด่งดังที่สุดของเชกสเปียร์)
    


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 09:52

          ทรงแปลเรื่อง โรเมโอและจูเลียต และใช้คำว่า "ลครสลดใจ" (Tragedy)

จากคำนำหนังสือพระราชนิพนธ์  โรเมโอและจูเลียต


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 10:09

     เรื่องแรกคือ Hamlet, Prince of Denmark เปิดฉากขึ้นที่กำแพงเชิงเทินของปราสาทเมืองเดนมาร์ก ในยามดึก   นักศึกษาหนุ่มชื่อฮเรชิโอ (Horatio) ขึ้นไปเจอทหารยามที่กำลังตื่นตระหนกว่า ได้เห็นปีศาจมาปรากฏตัวซ้ำอีกครั้งแล้ว  รูปร่างหน้าตาเหมือนกษัตริย์องค์เก่าที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ไป    ฮเรชิโอตัดสินใจจะนำความไปบอกเจ้าชายแฮมเล็ต โอรสกษัตริย์องค์เก่าซึ่งเป็นเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน  
      ตอนนี้แฮมเล็ตเพิ่งกลับจากมหาวิทยาลัยมาเยี่ยมบ้าน  กำลังเศร้าโศกเสียใจมากเมื่อพบว่าพระบิดาสิ้นพระชนม์กะทันหัน   ยิ่งกว่านั้นคือพระราชินีเกอร์ทรูดผู้มารดาก็แต่งงานใหม่กับเจ้าชายคลอเดียสผู้เป็นน้องชายของสามี ทั้งๆสามีเพิ่งตายไปหยกๆ     คลอเดียส ได้สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นกษัตริย์อีกด้วย
    เมื่อเพื่อนเล่าให้ฟังเรื่องปีศาจ  แฮมเล็ตก็ตัดสินใจจะไปดูด้วยตาตนเอง
    ปีศาจปรากฏตัวอีกครั้งกับแฮมเล็ต  เล่าว่าถูกคลอเดียสลอบสังหาร ด้วยการเอายาพิษกรอกหูขณะเขากำลังหลับ   ขอให้ลูกชายช่วยแก้แค้นให้ด้วย    แฮมเล็ตสาบานว่าหากค้นพบว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เขาจะล้างแค้นให้บิดา    ที่ลังเลแทนที่จะปลงใจเชื่อ เพราะแฮมเล็ตเกรงว่าปีศาจมาได้หลายรูปแบบ  อาจจะสวมรอยมาล่อลวงก็เป็นได้   จึงวางแผนที่จะสืบหาเรื่องราวทั้งหมด โดยแกล้งทำเป็นวิกลจริต  เพื่อไม่ให้ใครสงสัยว่าแท้จริงเขาสืบหาอะไรอยู่
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16057



ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 10:35

Tales from Shakespeare เขียนโดยสองพี่น้อง Charles และ Marie Lamb ใน ค.ศ. ๑๘๐๗ (พ.ศ. ๒๓๕๐) โดยมีจุดประสงค์ให้เยาวชนรู้จักงานของเชกสเปียร์ โดยยังคงรักษาภาษาของเชกสเปียร์เอาไว้

ป. อนุกระทานนท์ แปลและเรียบเรียง ในชื่อ รวมเรื่องเอกของเชกสเปียร์ มีทั้งหมด ๒๓ เรื่อง พิมพ์ใน พ.ศ. ๒๕๑๑


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 10:48

Hamlet, Horatio, Marcellus and the Ghost (Shakespeare, Hamlet, Act 1, Scene 4)

Engraver: Robert Thew (British, Patrington 1758–1802 Stevenage)

Artist: After Henry Fuseli (Swiss, Zürich 1741–1825 London)
 
youtube มีหลากหลายคลิป แฮมเล็ท นำแสดงโดยศิลปินอังกฤษชื่อดังหลายนามตั้งแต่ Lord Laurence Olivier
จนรุ่นหลังที่ยังมีชีวิตอยู่


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 12:48

     ตัวละครอื่นๆในเรื่องคือขุนนางชื่อโพโลเนียส เป็นที่ปรึกษาและมือขวาของคลอเดียส ทำให้เขากุมอำนาจในราชสำนัก  มีลูกชายชื่อเลอาร์ทีส ซึ่งกำลังจะเดินทางกลับไปเรียนต่อฝรั่งเศส กับน้องสาวชื่อโอฟีเลีย  เป็นคนรักของแฮมเล็ต  ทั้งพ่อและพี่่ชายไม่อยากให้โอฟีเลียสานสัมพันธ์กับแฮมเล็ตต่อไป  โอฟีเลียเป็นทุกข์ใจมาก   เพราะตั้งแต่แฮมเล็ตแสร้งทำเป็นวิกลจริต เขาก็ผลักไสเธอออกไปห่างเช่นกัน
     คลอเดียสสงสัยว่าจู้่ๆลูกเลี้ยงซึ่งเคยปกติทุกอย่าง กลับมีอาการแปลกๆเหมือนวิกลจริต   จึงสั่งให้โพโลเนียส คอยสอดแนมแฮมเล็ต
     แฮมเล็ตทราบข่าวว่ามีคณะละครเร่เดินทางมาแสดงในวัง จึงคิดอุบายใช้ละครเป็นเครื่องมือพิสูจน์ความจริงเรื่องฆาตกรรม ด้วยการวางแผนให้คณะละครสอดแทรกฉากวางยาพิษเข้าไปด้วย  เพื่อเวลาแสดง เขาจะเฝ้าดูปฏิกิริยาของคลอเดียส  เพื่อจะได้รู้ว่าได้คลอเดียสสังหารบิดาจริงหรือไม่ 
      พอถึงวันแสดงละคร  คลอเดียสก็ทนดูละครไม่ได้ เขาลุุกหนีออกไปก่อนที่ละครจะจบ   ทำให้แฮมเล็ตมั่นใจว่า คลอเดียสสังหารบิดาของเขาจริงๆ   แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำอะไร ยังคงเล่นบทวิกลจริตต่อไป
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 13:01

     โพโลเนียสเสนอให้ราชินีเกอร์ทรูดได้คุยกับลูกชายกันตามลำพังฉันแม่กับลูก จะได้รู้ถึงสาเหตุของอาการวิกลจริต   ส่วนตัวเขาแอบฟังอยู่หลังม่าน   เขาอ้างกับเกอร์ทรูดว่าจะได้วิเคราะห์ว่าเกิดจากเรื่องใดกันแน่
      ก่อนที่แฮมเล็ตจะเดินไปหาแม่  เขาเห็นคลอเดียสคุกเข่าภาวนาอยู่ตามลำพัง เหมือนกำลังสวดมนตร์อธิษฐานต่อพระเจ้า   เป็นโอกาสดีที่สุดที่จะเข้าไปสังหารคลอเดียส แต่แฮมเล็ตตัดสินใจไม่ทำ  เพราะเห็นว่าฆ่าคลอเดียสในขณะที่กำลังสวดมนตร์ จะทำให้วิญญาณได้โอกาสไปสู่สวรรค์     แฮมเล็ตไม่ต้องการเช่นนั้น เขาอยากให้ฆาตกรตายแล้วลงนรก จึงปล่อยโอกาสให้ผ่านไป
     เมื่อแฮมเล็ตไปพบแม่ โพโลเนียสแอบซ่อนตัวอยู่ในห้องหลังม่าน คอยฟังว่าแม่ลูกพูดอะไรกัน   แฮมเล็ตต่อว่าแม่อย่างเผ็ดร้อนที่แต่งงานใหม่กับน้องชายพ่อ   พอดีเห็นม่านไหว ก็เลยนึกว่าคลอเดียสแอบฟังอยู่ จึงแทงเข้าไปในม่าน โพโลเนียสล้มลงตาย ทำให้แฮมเล็ตตระหนักว่าเขาพลาดไปแล้ว  แทนที่จะสร้างความยุติธรรมให้พ่อ  เขากลับตกลงไปในวังวนแห่งความยุ่งยาก   หาทางออกไม่ได้   ปีศาจปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อเร่งให้แฮมเล็ตแก้แค้นเสียที
      คลอเดียสจำต้องซ่อนศพโพโลเนียสไว้ไม่ให้เรื่องฆาตกรรมอื้อฉาวออกไป   เขาเนรเทศแฮมเล็ตไปอังกฤษ เหมือนให้พ้นจากเรื่องนี้  แต่จริงๆแล้วเพื่อวางแผนกำจัดแฮมเล็ตให้ไปโดนประหารที่นั่น   แต่แฮมเล็ตก็เอาตัวรอดมาได้
      ระหว่างที่แฮมเล็ตไม่อยู่ โอฟีเลียเริ่มเสียสติเอาจริงๆ   เพราะแบกรับความทุกข์ไม่ไหว   พ่อเสียชีวิต  คนรักก็เสียจริต พี่ชายก็จากไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส    วันๆเธอได้แต่เดินกระเซอะกระเซิงไปตามที่ต่างๆ จนกระทั่งจมน้ำตายในลำธาร  ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งอุบัติเหตุ และฆ่าตัวตาย

    ภาพนี้วาดขึ้นในยุคหลัง โดยจิตรกรชื่อ  Sir John Everett Millais


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 14:22

          ภาพวาดลือชื่อที่สุดจาก แฮมเล็ท รับบทโอฟีเลียโดย muse - นางบันดาลใจ ชื่อดัง   Elizabeth Siddal
นางแบบตัวแม่ของ Pre-Raphaelite Brotherhood
          Sir Millais วาดภาพนี้ในหน้าหนาว จัดท่าให้นางนอนแช่น้ำในอ่างอาบน้ำอุ่นด้วยตะเกียงลนใต้อ่าง จนตะเกียงดับไป
ก็ไม่ทันสังเกต ส่วนนางแบบก็อึดทนจนล้มป่วยด้วยไข้หวัดรุนแรงหรือปอดติดเชื้อ โดยมีท่านเซอร์เป็นผู้รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล

https://www.thecollector.com/who-was-elizabeth-siddal-pre-raphaelite-muse/


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 30 ม.ค. 25, 09:09

     เลอาร์ทีสพี่ชายของโอฟีเลีย กลับจากฝรั่งเศสด้วยอารมณ์คั่งแค้น เมื่อรู้ข่าวว่าพ่อถูกฆ่าตาย น้องสาวเสียสติแล้วตายจากไปอีกคน   เขานำไพร่พลบุกมาที่ท้องพระโรง เพื่อบีบคั้นพระราชาหาคำตอบให้ได้  แต่คลอเดียสใช้วิธีเกลี้ยกล่อมให้สงบ ด้วยการป้ายความผิดไปให้แฮมเล็ตคนเดียว  เลอาร์ทีสยอมสงบศึกกับคลอเดียส   แต่พุ่งความแค้นไปที่แฮมเล็ตแทน
     แฮมเล็ตกลับมาที่เดนมาร์ก    เมื่อไปที่สุสานก็พบว่าพ่อเลี้ยง แม่  เลอาร์ทีส, บาทหลวง และเหล่าผู้ติดตาม แบกโลงศพของโอฟีเลียมาที่สุสานเพื่อทำพิธี แฮมเล็ตเผชิญหน้ากับเลอาร์ทีส ซึ่งคิดอย่างเดียวว่าต้องการแก้แค้นแทนพ่อให้ได้  ทั้งสองจึงกลายเป็นศัตรูกันนับแต่นั้น ทั้งๆที่แฮมเล็ตไม่เคยต้องการเช่นนั้นเลย
      คลอเดียสแต่งตั้งเลอาร์ทีสเข้ารับตำแหน่งแทนพ่อของเขาที่ราชสำนัก แล้วกำหนดให้มีการดวลดาบระหว่างสองหนุ่ม แฮมเล็ต กับเลอาร์ทีส     คลอเดียสวางแผนให้แฮมเล็ตต้องตาย ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ   โดยทายาพิษเอาไว้ที่ดาบ และใส่ยาพิษลงไปในไวน์ที่จะให้แฮมเล็ตดื่มระหว่างการดวล
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 30 ม.ค. 25, 09:17

     แผนเกิดผิดพลาด  เมื่อดวลดาบกัน  แฮมเล็ตชนะในยกแรกและยกที่สอง  แต่เขาปฏิเสธไม่ดื่มไวน์ใส่ยาพิษสำหรับฉลองชัยชนะ   คลอเดียสใส่ไข่มุกลงไปเพื่อเพิ่มการเดิมพัน แฮมเล็ตตัดสินใจดวลต่อในยกที่สาม  ราชินีเกอร์ทรูดเข้ามาซับเหงื่อให้แฮมเล็ต แล้วดื่มไวน์อาบยาพิษแก้วนั้นเสียเอง โดยไม่ฟังคำห้ามปรามของคลอเดียส
      ระหว่างการดวล ฮัมเล็ตถูกเลอร์ทีสฟันโดยดาบอาบยาพิษ  ในการชุลมุน ดาบของทั้งคู่เกิดสลับกัน และฮัมเล็ตใช้ดาบที่มีพิษแทงเลอาร์ทีส เมื่อรู้ว่าตัวเองใกล้ตายและตระหนักว่าคลอเดียสเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด เลอาร์ทีสจึงสารภาพความจริง    ให้อภัยแฮมเล็ต แล้วสิ้นใจ
      เมื่อยาพิษเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วตัว    แฮมเล็ตรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย จึงตัดสินใจทำตามคำสั่งของปีศาจบิดา เขาบังคับให้คลอเดียสดื่มไวน์ยาพิษที่ยังเหลือในถ้วย  ยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว คลอเดียสก็ขาดใจตาย  เหลือแต่แฮมเล็ตเพียงผู้เดียวในท้องพระโรง
      ก่อนหมดลมหายใจ  เขาขอให้ฮโรชิโอเพื่อนรักเปิดเผยเรื่องราวตามความจริงต่อกษัตริย์องค์ใหม่–ฟอร์ทินบราส แห่งนอร์เวย์ ผู้กำลังยกทัพมาถึงเดนมาร์ก  บัดนี้บัลลังก์ไม่เหลือใครแล้ว   ฉากสุดท้ายคือตัวละครสำคัญทุกตัวสิ้นชีวิต   มีแต่ศพเกลื่อนกลาดในท้องพระโรงอย่างน่าสลดใจ

  ภาพ The Last Scene of Hamlet โดย  Salvador Sanchez Barbudo


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 22
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.048 วินาที กับ 19 คำสั่ง