เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
อ่าน: 34770 ทรัมป์กลับมาแล้ว!
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 150  เมื่อ 18 มิ.ย. 25, 10:30

     ศึกระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และแรงงานต่างด้าวยังไม่มีท่าทีว่าจะจบ  ลังเล
     เพราะคุณปู่กวาดล้างแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม    ต่อต้านได้ก็ต่อต้านไป
     ข่าวข้างล่างนี้ นำมาจาก FB SiamTownUS
 
    “ทรัมป์” สั่งไอซ์ขยายการจับกุมในแอลเอ

      “ทรัมป์” สั่ง “ไอซ์” ขยายการจับกุมและเนรเทศโรบินฮูดในเมืองของเดโมแครตให้แรงขึ้น เพื่อให้ได้ยอดจับกุมตามเป้าที่ตั้งเอาไว้ที่ “3,000 คนต่อวัน"
      เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่านโซเชียลมีเดีย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานบังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่นและศุลกากร (ไอซ์) ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับเมืองที่ผู้บริหารเป็นคนของพรรคเดโมแครต รวมถึงลอส แอนเจลิส ซึ่งเป็นเมืองที่มีการชุมนุมต่อต้านนโยบายเนรเทศขนานใหญ่ของทรัมป์ รุนแรงที่สุด
     โดยในโพสต์ดังกล่าว ทรัมป์ ได้เรียกร้องไอซ์ “ให้ใช้อำนาจทั้งหมดที่มี เพื่อให้บรรจุเป้าหมายที่สำคัญมาก นั้นคือการส่งมอบโครงการเนรเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
     และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว “เจ้าหน้าที่ไอซ์ จำเป็นต้องเพิ่มความพยายามในการกักตัวและเนรเทศต่างด้าวผิดกฎหมายในเมืองใหญ่สุดของอเมริกา เช่นลอส แอนเจลิส, ชิคาโก้ และนิวยอร์ก ที่ซึ่งมีต่างด้าวผิดกฎหมายพักพิงอยู่เป็นล้านล้านคน” ทรัมป์ระบุ
      ท่าทีล่าสุดของทรัมป์มีขึ้นหลังจากมีการบังคับใช้กฎหมายอิมมิเกรชั่น อย่างเข้มงวดมากขึ้นต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ จนเกิดกระแสเดินขบวนต่อต้านรุนแรงในหลายๆ เมือง รวมถึงลอส แอนเจลิส ด้วย
      ก่อนหน้านี้ สตีเฟน มิลเลอร์ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและผู้วางแผนปฏิบัติให้กับนโยบายอิมมิเกรชั่นของทรัมป์ ออกมากล่าวว่า ไอซ์ตั้งเป้าจับกุมผู้ต้องหาอย่างน้อย 3,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้นจากประมาณ 650 รายต่อวันในช่วงห้าเดือนแรกของรัฐบาลทรัมป์ 2
       อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ทรัมป์ได้สั่งให้ไอซ์ ระงับการบุกจับกุมแรงงานผิดกฎหมายในฟาร์ม ร้านอาหารและโรงแรม โดยให้เหตุผลว่าส่งผลกระทบรุนแรงกับอุตสาหกรรม ที่ต้องใช้แรงงานเป็นจำนวนมากเหล่านี้
ท่าทีที่แข็งกร้าวของรัฐบาลครั้งนี้ ทำให้เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยในสหรัฐฯ ให้ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่างต่อเนื่อง และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมประท้วง โดยบอกว่าการที่คนต่างด้าวเข้าร่วมการชุมนุม อาจทำให้ถูกเพ่งเล็งโดยทางการสหรัฐฯ และกระทบต่อการได้รับอนุญาตให้พำนักในสหรัฐฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 151  เมื่อ 02 ก.ค. 25, 11:49

โดนัลด์ ทรัมป์ และ อีลอน มัสก์ โหมกระพือความบาดหมางขึ้นมาอีกรอบในวันอังคาร(1ก.ค.) โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯขู่เนรเทศมหาเศรษฐีเทคโนโลยี และดึงเงินทุนของภาครัฐออกจากธุรกิจของเขา โทษฐานที่ยังคงส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายการใช้จ่ายอันเป็นเรือธงของผู้นำรายนี้

มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก คือผู้บริจาคทางการเมืองรายใหญ่ที่สุดของทรัมป์ในศึกเลือกตั้งปี 2024 และกลายเป็นพันธมิตรตัวแทบติดกันในช่วงเดือนแรกๆที่ ทรัมป์ กลับสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว ในฐานะหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล(DOGE)

อย่างไรก็ตามบอสใหญ่ของสเปซเอ็กซ์และเทสลา ขู่หันเอาความร่ำรวยของตนเองมาเล่นงานทรัมป์ ขบคิดถึงการจัดตั้งพรรคการเมืองคู่แข่งขึ้นมาท้าทายบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ที่โหวตสนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณ ที่ทางประธานธิบดีให้คำจำกัดความว่าเป็น "หนึ่งในร่างกฎหมายที่งดงามที่สุด"

ทรัมป์ วัย 79 ปีแสดงปฏิกิริยาตอบสนองด้วยความพยาบาทในวันอังคาร(1ก.ค.) ในระหว่างที่เขามุ่งหน้าไปร่วมพิธีเปิดศูนย์กักกันพวกผู้ลี้ภัยแห่งใหม่ในฟลอริดา "เราอาจจะพิจารณาทบทวนดู" เขาบอกกับพวกผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามว่าเขาจะพิจารณาเนรเทศมัสก์หรือไม่ ในขณะที่มหาเศรษฐีเทคโนโลยีรายนี้ได้สัญชาติสหรัฐฯมาตั้งแต่ปี 2002

นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังส่งสัญญาณว่าเขาอาจเล่นงานสัญญาณจ้างและการอุดหนุนมูลค่ามหาศาล ที่ทางธุรกิจจรวดสเปซเอ็กซ์และดาวเทียมสตาร์ลิงค์ของมัสก์ ได้รับจากรัฐบาลสหรัฐฯ "เราอาจใช้ DOGE ตรวจสอบอีลอน คุณรู้ไหมว่า DOGE คืออะไร DOGE คือปีศาจที่อาจย้อนกลับไปไล่ล่า อีลอน" ทรัมป์ระบุ ก่อนต่อมาเขากล่าวในฟลอริดาว่า "ผมไม่คิดว่าเขาควรเล่นเกมกับผม"

หุ้นของเทสลาดิ่งลงราวๆ 5% ในวันอังคาร(1ก.ค.) หลังมีคำขู่จากทรัมป์

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันจันทร์(30มิ.ย.) อ้างว่า มัสก์ โจมตีร่างกฎหมายฉบับนี้ เพราะว่าหัวเสียที่ร่างกฎหมายถอดมาตรการต่างๆที่สนับสนุนอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า(อีวี) "หากราปศจากการอุดหนุน บางทีอีลอนอาจต้องปิดศูนย์และกลับไปบ้านเกิดแอฟริกาใต้" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล

ความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับมัสก์ระเบิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม หลัง มัสก์วิพากษ์วิจารณ์ร่างกฎหมายงบประมาณและจากนั้นก็ออกจากรัฐบาล ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มัสก์ เก็บตัวเงียบ แต่กลับมาเปิดศึกอีกรอบ หลังร่างกฎหมายฉบับนี้เริ่มต้นเส้นทางที่ยากลำบากในการผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรส

นับตั้งแต่นั้นเขาก็เริ่มโพสต์ข้อความเป็นชุดๆต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ สื่อมวลชนของเขาเอง โดยประเด็นหนักที่เขาส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์คือ ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ พร้อมกับกล่าวหาพรรครีพับลิกันละทิ้งความพยายามที่จะนำพาอเมริกาอยู่ในแถวหน้าด้านอีวีและการปฏิวัติพลังงานสะอาด

สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าสำหรับทรัมป์ก็คือ มัสก์ กำลังหาทางเล่นงานสมาชิกรีพับลิกันที่อ่อนแอ ก่อนถึงศึกเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯในปี 2026 ในขณะที่ มัสก์ เผยว่าเขาจะจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวทางการเมืองของตนเองขึ้นมา เรียกว่า "พรรคอเมริกา" ถ้า ทรัมป์ ผ่านร่างกฎหมายนี้

นอกจากนี้แล้ว มัสก์ ยังประกาศมอบเงินสนับสนุนแก่คนอื่นๆที่ท้าทายบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพัยลิกัน ที่ก่อนหน้านี้เคยรณรงค์หาเสียงจะลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง แต่กลับโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายของทรัมป์

(ที่มา:เอเอฟพี)

https://sondhitalk.com/detail/9680000062106?fbclid=IwY2xjawLRmQtleHRuA2FlbQIxMABicmlkETF0RnAyU3RoM0ZlQUo0Ujl3AR5Rdmre-UJf_cPExrFFBu3P95geY-GL5LCPdMxs7FAxhS0yIrtPP8XXi_o5jw_aem_zxsrs012kJl0HkXEmwh5Mw


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 152  เมื่อ 08 ก.ค. 25, 10:40

  เป็นอันว่าการส่งออกของไทย เจอหมัดของทรัมป์เข้าไปเต็มๆ 
  การส่งออกของไทยไปอเมริกาน่าจะตายสนิท    ยังไม่มีข่าวว่ารัฐบาลแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างที่เคยบอกไว้
https://www.bangkokbiznews.com/world/1188436


บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 832


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 153  เมื่อ 08 ก.ค. 25, 11:52

จดหมายจากทรัมป์ส่งถึงคุณสุริยะ รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี

https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/252203

“เนื่องจากจดหมายฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของความสัมพันธ์ทางการค้าของเรา และความจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้ว่าจะมีการขาดดุลการค้ากับประเทศไทยอย่างมากก็ตาม”

“อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปกับท่าน แต่จะต้องทำการค้าที่สมดุลและยุติธรรมมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น เราจึงขอเชิญท่านเข้าร่วมในเศรษฐกิจที่ไม่ธรรมดาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลก เราใช้เวลาหลายปีในการหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเรากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่า เราต้องเลิกขาดดุลการค้าในระยะยาวและต่อเนื่องนี้ ซึ่งเกิดจากภาษีศุลกากร นโยบายที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และอุปสรรคทางการค้าของประเทศไทย ความสัมพันธ์ของเรานั้นน่าเสียดายที่ห่างไกลจากความสัมพันธ์แบบตอบแทนกัน” “ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2025 เป็นต้นไป เราจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากประเทศไทยเพียง 36% สำหรับผลิตภัณฑ์ไทยทั้งหมดที่ส่งไปยังสหรัฐอเมริกา โดยแยกจากภาษีศุลกากรตามหมวดหมู่สินค้าทั้งหมด สินค้าที่ขนส่งเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจะต้องเสียภาษีศุลกากรที่สูงขึ้น

“โปรดเข้าใจว่า ตัวเลข 36% นั้นน้อยกว่าที่จำเป็นในการขจัดความไม่สมดุลของการขาดดุลการค้าที่เรามีกับประเทศของท่านมาก ดังที่ท่านทราบ จะไม่มีภาษีศุลกากรหากประเทศไทยหรือบริษัทต่าง ๆ ในประเทศของท่านตัดสินใจสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐอเมริกา และในความเป็นจริง เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว เป็นมืออาชีพ และเป็นปกติ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ จะอนุมัติภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์”


ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจขึ้นภาษีศุลกากรด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตัวเลขที่ท่านเลือกจะถูกเพิ่มเข้าไปใน 36% ที่เราเรียกเก็บ โปรดเข้าใจว่า ภาษีศุลกากรเหล่านี้มีความจำเป็นในการแก้ไขนโยบายภาษีศุลกากร นโยบายที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าของไทยที่ดำเนินมายาวนานหลายปี ซึ่งส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าที่ไม่ยั่งยืนต่อสหรัฐอเมริกา นับเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อเศรษฐกิจของเรา และแน่นอนว่ารวมถึงความมั่นคงของชาติด้วย!”

“เราหวังว่าจะได้ร่วมงานกับท่านในฐานะหุ้นส่วนทางการค้าไปอีกหลายปีข้างหน้า หากท่านต้องการเปิดตลาดการค้าที่ปิดไปแล้วให้กับสหรัฐอเมริกา และยกเลิกนโยบายด้านภาษีศุลกากรและไม่ใช่ภาษีศุลกากร รวมถึงอุปสรรคทางการค้า เราอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนจดหมายฉบับนี้ ภาษีศุลกากรเหล่านี้อาจมีการปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของเรากับประเทศของท่าน ท่านจะไม่มีวันผิดหวังกับสหรัฐอเมริกา”

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 832


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 154  เมื่อ 08 ก.ค. 25, 11:52

นอกจากประเทศไทยแล้ว อีก 13 ประเทศที่ได้รับจดหมาย ได้แก่ ลาว และเมียนมา โดนเรียกเก็บภาษี 40% ส่วนกัมพูชาโดน 36% เท่ากับไทย

ขณะที่บังกลาเทศ กับเซอร์เบีย จะถูกเรียกเก็บ 35% ด้านอินโดนีเซียถูกเรียกเก็บ 32% ส่วนบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา กับแอฟริกาใต้ เจออัตราภาษี 30%

ส่วนประเทศที่เหลือ ได้แก่ ญี่ปุ่น คาซัคสถาน มาเลเซีย เกาหลีใต้ และตูนิเซีย จะถูกเรียกเก็บภาษี 25%

อัตราภาษีศุลกากรใหม่นี้เข้ามาแทนที่อัตราภาษีนำเข้าสูงลิ่วที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศในวันปลดแอกเมื่อเดือน เม.ย. โดยในขณะนั้น ทรัมป์ได้ระงับการจัดเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วัน เพื่อให้รัฐบาลของเขาสามารถเจรจาข้อตกลงการค้าที่เอื้อประโยชน์ต่อทั่วโลกได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 155  เมื่อ 01 ส.ค. 25, 10:27

วันที่ 1 ส.ค. 68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป


บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 156  เมื่อ 01 ส.ค. 25, 22:07

วันที่ 1 ส.ค. 68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19% ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป

ปกติเราจะเห็นการใช้คำว่า reciprocal เวลาพูดถึงข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์หรือ reciprocal agreement  เช่น  ถ้าเราเป็นสมาชิกของสโมสรแบบปิดในเมืองไทยที่มี reciprocal agreement กับสโมสรแบบเดียวกันในต่างประเทศ  พอเราไปที่ประเทศนั้นเราก็จะมีสิทธิไปใช้สถานที่ของเขาเหมือนเราเป็นสมาชิกคนหนึงของที่นั่น  เวลาคนของเขามาเมืองไทยก็จะได้รับสิทธิในการใช้สถานที่ของเราในแบบเดียวกับที่เขาให้เรา  แต่ reciprocal tariff นี่มันคือการขึ้นอัตราภาษีที่เราคิดกับประเทศอื่นให้เท่ากับที่เขาคิดกับเรา  หนูจึงเห็นว่าเราน่าจะเรียกมันว่าภาษีศุลกากรตอบโต้มากกว่าภาษีต่างตอบแทน แต่อันนี้คือความเห็นส่วนตัวของหนูค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 157  เมื่อ 12 ก.ย. 25, 10:34

   ล่าสุด ข่าวที่กระทบกระเทือนทรัมป์ แม้ว่าปู่แกไม่ได้เจอด้วยตัวเอง คือ ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา คนสนิททรัมป์ ถูกยิงเสียชีวิต กลางมหาวิทยาลัยในรัฐยูท่าห์
   ชาร์ลี เคิร์ก (Charlie Kirk)เป็นใคร
   เขาเป็นนักเคลื่อนไหวอนุรักษ์นิยม วัย 31 ปี หัวหน้ากลุ่ม Turning Point USA ที่เขาก่อตั้งขึ้นเมื่ออายุ 18 ปี  เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่สนับสนุนสายอนุรักษ์นิยม    ต่อมาได้กลายเป็นดาวรุ่งในพรรครีพับลิกันยุคทรัมป์ 
    ชาร์ลีกระตุ้นพลังคนรุ่นใหม่สายอนุรักษ์นิยมให้หันมาแสดงพลังของตน และก้าวขึ้นสู่ความโด่งดังในระดับนานาชาติ  เน้นไปที่ประเด็นเรื่องเชื้อชาติ เพศ และการย้ายถิ่นฐาน
    เคิร์กเพิ่งเดินทางกลับจากญี่ปุ่น  เขาขึ้นเวทีในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 7 กันยายน ตามคำเชิญของพรรคขวาจัด Sanseito ที่เพิ่งกวาดคะแนนเสียงได้มากในการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่นเมื่อเดือนกรกฎาคม และเคิร์กยังเพิ่งไปปราศรัยที่เกาหลีใต้ไม่นานก่อนหน้านี้
    เคิร์กมีผู้ติดตามในบัญชี X มากถึง 5.3 ล้านคน และมีผู้ฟังพอดแคสต์รายการวิทยุ “The Charlie Kirk Show” มากกว่า 500,000 คนต่อเดือน เขายังเป็นผู้เขียนหรือมีส่วนร่วมในหนังสือหลายเล่ม รวมถึง “Time for a Turning Point” และ “The College Scam”
   เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 12.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น (23.20 น. ตามเวลาประเทศไทย) ที่มหาวิทยาลัยในเมืองโอเรม รัฐยูท่าห์  เคิร์กกำลังปราศรัยต่อฝูงชนจำนวนกว่า 3,000 คนกลางแจ้ง
    จู่ๆมีเสียงปืนดังขึ้น เคิร์กยกมือขึ้นแตะคอ แล้วล้มลงจากเก้าอี้  กระสุนของมือปืนเจาะเข้าที่ลำคอ  เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ
    หลังจากมีรายงานการเสียชีวิตของชาร์ลี เคิร์ก ทรัมป์ได้กล่าวว่า “ไม่มีใครเข้าใจหรือมีหัวใจของเยาวชนในสหรัฐอเมริกาได้ดีไปกว่าชาร์ลี เขาเป็นที่รัก และเป็นที่ชื่นชมจากทุกคน โดยเฉพาะผม”


บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 158  เมื่อ 13 ก.ย. 25, 19:24

https://www.bbc.com/thai/articles/cgrq2ldpjzpo

บทความจากบีบีซีเรื่องมือสังหารค่ะ   เชื่อว่าในไม่กี่วันข้างหน้าเราคงจะได้ทราบกันว่าอะไรคือแรงจูงใจของเขา

ติดใจนิดนึงตรงที่บีบีซีไทยระบุว่า  สมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวของเขาได้ให้การกับเจ้าหน้าทีว่านายโรบินสันมี "บทบาททางการเมืองมากขึ้น" ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้   เลยไปค้นดูข้อความต้นทางในภาษาอังกฤษว่าเขาเขียนว่าอะไร   

สรุปว่าข้อความต้นทางคือ ”…a family member interviewed by investigators stated that Robinson had become "more political" in recent years.”    ซึ่งถ้าเป็นตัวเอง   ก็จะอธิบายเป็นภาษาไทยให้ข้าใจง่ายๆ ว่า  นายโรบินสันดูเหมือนจะหมกมุ่นกับการเมือง (หรือให้ความสนอกสนใจในการเมือง) มากขึ้นในช่วงหลังๆ


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 159  เมื่อ 13 ก.ย. 25, 19:53

  มันคงเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก  ถ้าหากว่าตำรวจเผยผลการสอบสวนว่า  มือปืนรายนี้ยิงเคิร์กตาย แค่ไม่เห็นด้วยกับความคิดทางการเมืองของเขา
  แต่มันก็น่าคิดนะคะว่า นายคนนี้ยิงปืนแม่นมาก  นัดเดียวเจาะทะลุคอ   ต่อให้เป็นปืนชนิดติดกล้องเล็งก็เถอะค่ะ
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 278


ความคิดเห็นที่ 160  เมื่อ 14 ก.ย. 25, 10:20

กาลเทศะมักจะบังคับให้เราต้องลดละหรือผ่อนปรนข้อครหาที่เรามีต่อบุคคลซึ่งได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วเสมอ   โดยเฉพาะในกรณีที่การจากไปของบุคคลผู้นั้นเป็นผลจากการกระทำอันอำมหิตและกระชากความรู้สึกของคนในสังคมอย่างรุนแรง  เช่นในกรณีของชาร์ลี เคิร์ก เป็นต้น  

นอกจากนั้น การที่เคิร์กเดินสายไปปราศรัยและพูดจากแลกเปลี่ยนกับคนรุ่นใหม่ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็ทำให้คนจำนวนมากยกย่องเขาว่าเป็นแบบอย่างของพลเมืองดีตามระบอบประชาธิปไตย  เพราะมองเผินๆ ก็จะดูเหมือนว่าเคิร์กสมัครใจที่จะถกเถียงกับผู้เห็นต่างอย่างศิวิไลซ์มากกว่าที่จะใช้ความรุนแรง    

แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเราไม่อาจมองข้ามได้ก็คือพฤติกรรมที่ทำให้เคิร์กกลายมาเป็นขวัญใจฝ่ายอนุรักษ์นิยมขวาจัดตั้งแต่อายุยังน้อย   นั่นก็คือการจัดเก็บและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคณาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งเขาเห็นว่าสนับสนุนแนวคิดเสรีนิยมจนทำให้คนที่อยู่ฝั่งขวาแบบเขารู้สึกว่าเสรีภาพในการแสดงออกของตัวเองกำลังถูกบั่นทอน   รวมทั้งการสนับสนุนให้ผู้ติดตามไปร้องเรียนกับหน่วยงานต้นสังกัด  หรือไปเผชิญหน้าและข่มขู่ให้คณาจารย์เหล่านั้นต้องหวาดกลัว   อันเป็นพฤติกรรมแบบเดียวกับหรือแย่ยิ่งกว่าแคนเซิลคัลเจอร์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมักจะโจมตีและต่อต้าน    รวมทั้งเป็นการวางรากฐานให้ทรัมป์นำไปใช้เป็นแบบอย่างในการข่มขู่สถาบันอุดมศึกษาที่ไม่อ่อนข้อให้แก่เขาเมื่อกลับเข้ามารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สองอีกด้วย  

ความรุนแรงเป็นเรื่องที่เราไม่อาจยอมรับได้   แต่ในกรณีของชาร์ลี เคิร์ก  เขาคือผู้หนึ่งซึ่งมีส่วนส่งเสริมความรุนแรงให้แพร่หลายอย่างไม่ต้องสงสัย  เมื่อไม่นานมานี้เคิร์กเคยพูดถึงปัญหาการกราดยิงหมู่ในอเมริกาว่าเป็นสิ่งซึ่งเราจำต้องปล่อยให้เกิดขึ้น เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิในการถือครองอาวุธปืนเป็นสำคัญ   
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 161  เมื่อ 17 ก.ย. 25, 13:22

ข่าวคืบหน้า

อัยการสหรัฐฯ ยื่นฟ้องคดีสังหาร ‘ชาร์ลี เคิร์ก’ เตรียมขอศาลสั่งลงโทษประหารชีวิตผู้ต้องหา


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อัยการเขตยูทาห์เคาน์ตี ยื่นฟ้อง ไทเลอร์ โรบินสัน วัย 22 ปี ผู้ต้องหาคดีลอบสังหาร ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวการเมืองสายอนุรักษ์นิยมชื่อดัง พร้อมประกาศจะเดินหน้าขอโทษประหารชีวิต หลังเกิดเหตุยิงสังหารเคิร์กระหว่างเข้าร่วมงานเสวนาที่มหาวิทยาลัยยูทาห์ วัลเลย์ เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา

ในเอกสารฟ้อง อัยการระบุว่า ผู้ต้องหาจงใจเล็งเป้าไปที่เคิร์ก เนื่องจากไม่พอใจการแสดงออกทางการเมือง โดยโรบินสันเคยบอกกับเพื่อนร่วมห้องและครอบครัวว่า เคิร์ก “เผยแพร่ความเกลียดชังมากเกินไป” และเขา “ทนไม่ไหวกับความเกลียดชังนั้น”

โดยอัยการพบหลักฐาน เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของมหาวิทยาลัยเผยให้เห็นว่าโรบินสันเดินเข้ามาพร้อมท่าทางกะเผลกเหมือนซ่อนปืนในกางเกง ก่อนปีนขึ้นไปบนหลังคาและเข้าท่าซุ่มยิง ห่างจากจุดที่เคิร์กนั่งประมาณ 160 หลา แล้วใช้ปืนไรเฟิลติดกล้องเล็ง ลั่นกระสุนสังหารเคิร์ก จากนั้นได้ปืนลงจากหลังคาวิ่งหลบหนี โดยทิ้งปืนที่ห่อด้วยผ้าเช็ดตัวไว้ในป่าข้างมหาวิทยาลัย

ผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันดีเอ็นเอตรงกับโรบินสันทั้งบนปืน กล้องเล็ง กระสุน และผ้าเช็ดตัว ขณะที่ข้อความที่ส่งถึงเพื่อนร่วมห้องและโน้ตที่เขียนทิ้งไว้ระบุว่าได้วางแผนโจมตีนานกว่าหนึ่งสัปดาห์

โรบินสันเข้ามอบตัวต่อสำนักงานนายอำเภอ วอชิงตัน เคาน์ตี หลังเกิดเหตุราว 33 ชั่วโมง โดยมีพ่อแม่และเพื่อนของครอบครัวที่เป็นอดีตรองนายอำเภอช่วยเกลี้ยกล่อม จนเขายอมรับกับครอบครัวว่าเป็นผู้ก่อเหตุและอ้างว่า “มีความชั่วร้ายมากเกินไป และเคิร์กเผยแพร่ความเกลียดชังมากเกินไป”

พยานหลักฐานทั้งหมดที่พบ ทำให้อัยการตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา พร้อมข้อหาอื่นอีก 6 กระทง รวมถึงการขัดขวางกระบวนการยุติธรรมจากการทำลายปืนและเสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ ยิงปืนโดยมิชอบ กระทำความรุนแรงต่อหน้าเด็ก และพยายามชักจูงพยานด้วยการสั่งให้เพื่อนร่วมห้องลบข้อความและไม่ให้การกับตำรวจ โดยอัยการประกาศชัดเจนว่าจะผลักดันให้โรบินสันรับโทษประหารชีวิตในชั้นศาล

จาก FB สำนักข่าว TODAY


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 162  เมื่อ 22 ก.ย. 25, 14:31

ใครคือ Tyler Robinson?
•   ชายหนุ่มอายุ 22 ปี มีแนวคิดฝั่งซ้าย สนับสนุนสิทธิ LGBTQ+
•   มีแฟนเป็นผู้หญิง(กำลังจะ)ข้ามเพศ  คือยังไม่ได้ผ่าตัด
เกิดอะไรขึ้น?
•   โรบินสันถูกตั้งข้อหาสังหาร Charlie Kirk นักพูดอนุรักษนิยมเสียชีวิตที่มหาวิทยาลัย Utah Valley
•   หลักฐานคือข้อความที่เขาส่งให้แฟน สั่งให้ลบข้อความเดิมๆที่เขาพูดถึงเคิร์ก  แต่เธอกลับส่งให้ตำรวจ, ปลอกกระสุนที่มีข้อความแกะสลัก, และปืนที่พบในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ
ข้อความสำคัญ
•   Robinson เขียนถึงแฟนว่า "ผมมีโอกาสที่จะกำจัดชาร์ลี เคิร์ก และผมจะทำ"
•   เขายังกล่าวว่า “บางความเกลียดมันไม่สามารถประนีประนอมได้”
ข้อความบนปลอกกระสุน
•   ข้อความตลกเสียดสี เช่น
o   "Hey fascist! Catch!" (จับนี่สิ พวกฟาสซิสต์!)
o   "If you read this, you are GAY lmao"
o   เนื้อเพลงจากเพลงต่อต้านนาซี "Bella Ciao"
o   อ้างอิงจากเกม Helldivers 2 และมุกจากวัฒนธรรม "furry"
•   Robinson อธิบายว่าเป็น "แค่มุกขำๆ"
ยังมีอะไรที่ไม่รู้?
•   ยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่แท้จริง
•   เขาอาจไม่มีอุดมการณ์ชัดเจน แต่อาจมีแรงผลักดันจากความโกรธหรือความสับสนในใจ
•   FBI กำลังศึกษาว่าเขาเข้าข่ายแนวคิด "นิฮิลลิสต์หัวรุนแรง" (Nihilistic Violent Extremism) หรือไม่ คือ การใช้ความรุนแรงแบบไร้เหตุผลเพื่อก่อความวุ่นวาย
     อ่านแล้วก็เกิดคำถามขึ้นมาว่า
      เป็นไปได้ไหม ว่า ผู้ชายอายุแค่ 22 ปี ที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องปืน (คือไม่ใช่ทหารแม่นปืนหรือนักยิงปืนอาชีพ)ไม่เคยประกอบอาชญากรรมมาก่อน สามารถเอาปืนที่ติดกล้อง หลบหลีกผู้คนนับพันๆคน ขึ้นไปบนหลังคาโดยไม่มีใครเห็น   
    เขาสามารถเล็งยิงเป้าหมายในระยะไกล ให้กระสุนเจาะลำคอ นัดเดียวตาย ไม่ได้เล็งยิงศีรษะ หรือแผ่นอก ซึ่งเป็นเป้าที่เห็นชัดกว่า   
    เขาสามารถหลบหลีกผู้คนนับพันๆคน  หลบเร้นสายตาเจ้าหน้าที่ หนีไปได้อย่างลอยนวล   ทั้งๆไม่เคยทำอะไรเช่นนี้มาก่อน
    เขาไม่เคยรู้จักเคิร์กมาก่อน    แรงบันดาลใจไม่ชัดเจนว่าเขามีความโกรธแค้นอาฆาตเคิร์กมากขนาดไหนและทำไมจึงเสี่ยงอนาคต เสี่ยงชีวิตตนเอง วางแผนฆ่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรให้เขาเสียหายเป็นส่วนตัวแม้แต่ครั้งเดียว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 163  เมื่อ 23 ก.ย. 25, 11:02

  เมื่อชาร์ลี เคิร์กถูกยิงล้มลง   ฝูงชนที่มาฟังการปราศรัยเริ่มแตกฮือเมื่อรู้ว่าเกิดเหตุร้าย    อยู่ๆก็มีคุณตาวัย 71 ในกลุ่มคน ตะโกนบอกตำรวจว่า
   "ฉันยิงเขาเอง  ยิงฉันเลยง"
   แกก็เลยถูกตำรวจรวบตัวใส่กุญแจมือ ลากถูลู่ถูกังออกไป ท่ามกลางผู้คนที่ตะโกนด่าเพราะเข้าใจว่าแกคือฆาตกรสังหารชาร์ลี เคิร์ก
   คุณตาคนนี้ชื่อจอร์ช ซิน (George Zin) แกให้การกับตำรวจว่า จริงๆแล้วแกไม่ได้ยิงชาร์ลี เคิร์ก หรอก  แต่แกตะโกนเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจมาที่แก   เพื่อให้คนยิงตัวจริงหนีรอดไปได้
   ตำรวจตรวจสอบประวัติแล้ว  พบว่าแกเป็นคนประเภท 'ตัวป่วน' ชอบไปปรากฏตัวในที่ชุมนุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวน ประท้วง หรืองานชุมนุมที่ไหนก็ตาม แล้วไปป่วนผู้คนเขา   แต่ก็ไม่ปรากฏว่าแกเคยเกี่ยวข้องกับไทเลอร์ โรบินสัน ฆาตกรตัวจริง
   ตำรวจเกือบจะปล่อยตัวคุณตาไปแล้ว   ถ้าแกไม่ดันไปสารภาพว่าแกครอบครองภาพลามกของเด็กเข้า  ก็เลยถูกค้นโทรศัพท์มือถือ ทำให้เจอภาพดังกล่าวเข้าจริงๆ   นับเป็นเรื่องผิดกฎหมายอย่างแรง   แกก็เลยถูกตั้งข้อหาใหม่ หลังจากข้อหาเก่าพ้นไปแล้ว


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41636

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 164  เมื่อ 23 ก.ย. 25, 11:03

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.074 วินาที กับ 19 คำสั่ง