เห็นข่าวเซเลนสกี้มาออกทีวีให้ลุงทรัมป์เชือดกลางสี่แยกแล้ว เพื่อนๆถามผมว่าคิดอย่างไร และนี่คือความคิดเห็นของผมครับ
คำตอบสั้นๆคือ ผมเห็นว่านายเซเลนสกี้คือผู้นำที่โง่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา ขอให้เราจำไว้ว่าอย่าได้เลือกคนที่โง่และหิวแสงแบบนี้ขึ้นมาปกครองบ้านเมืองเด็ดขาด
และต่อไปนี้คือคำตอบแบบยาว คือเหตุผลที่ทำให้ผมคิดแบบนี้ มันมีเรื่องทางประวัติศาสตร์ที่เราควรรู้ด้วยครับ
1 ยูเครนเป็นชาติที่แตกแยกกันด้วยประชากรที่มีปะปนกันอยู่สองเชื้อชาติอยู่แล้ว คือ คนเชื้อสายยูเครน กับคนเชื้อสายรัสเซีย ซึ่งคนทั้งสองกลุ่มนี้มีจำนวนใกล้เคียงกันครับ
2 ถ้าถามว่าทำไมเป็นเช่นนี้ คำตอบก็คือ รัสเซียและยูเครนเขาเคยเป็นประเทศเดียวกันคือโซเวียตมาก่อน เมื่อโซเวียตแตกออกมาเป็นหลายประเทศ ผู้คนหลากเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้ย้ายแยกหนีกันไปไหน บ้านอยู่ไหนก็ยังอยู่ที่เดิม
3 ผลการเลือกตั้งยูเครนแต่ละครั้ง ชนสองฝั่งก็ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะมาเรื่อยๆ ฝั่งไหนชนะก็จะได้ปธน.ฝั่งตัวเอง และปธน.ยูเครนแต่ละคนก็เอียงไปฝั่งอียูบ้าง ฝั่งรัสเซียบ้าง
4 ปี 2013 ปธน.ยูเครนชื่อยานูโควิช คนๆนี้อยู่ในช่วงเวลาสำคัญคือ อียูก็มาชวนไปเข้าอียู รัสเซียจึงเสนอเงินช่วยเหลือ 15,000 ล้านเหรียญแลกกับการไม่ไปเข้าอียู ในขณะที่อียูไม่ได้เสนออะไร แค่มาชวนเฉยๆ
5 ปธน.ยานูโควิชจึงรับข้อเสนอของรัสเซีย อเมริกาจึงไปสนับสนุนให้มีการก่อกบฏในยูเครนเพื่อโค่นล้มรัฐบาล จนนายยานูโควิชต้องลี้ภัยไปอยู่รัสเซีย
6 ปี 2014 รัฐมนตรียุโรปก็ชวนกันไปหว่านล้อมกับนายยานูโควิชว่า “ให้ลาออกซะ” เพื่อที่อเมริกาและยุโรปจะได้ตั้งปธน.ยูเครนที่โปรอียูขึ้นมาแทน
7 รัสเซียจึงเคลื่อนกำลังเข้ายึดแคว้นไครเมีย และสภาประชาชนของแคว้นนี้ก็ลงมติประกาศว่าฉันจะไปอยู่กับรัสเซีย เพราะผู้คนในแคว้นนี้คือคนรัสเซียเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว
8 ถ้าถามว่า “ทำไมรัสเซียจึงอะไรกับยูเครนนัก? ทำไมไม่ปล่อยๆไปเหมือนจอร์เจีย?”
9 คำตอบคือ “ภูมิรัฐศาสตร์ครับ” กล่าวคือ ภูมิประเทศของยูเครนและรัสเซียคือแผ่นดินผืนราบเรียบแผ่นเดียวกัน ไม่มีภูเขาขวางเลย รัสเซียจึงมองว่าถ้ามีกองกำลังหรือขีปนาวุธต่างชาติมาตั้งอยู่บนแผ่นดินยูเครน กองกำลังนั้นสามารถขึ้นรถถังวิ่งบุกตะลุยมาจนถึงรัสเซียได้ง่ายดายมาก
10 รัสเซียจึงถือว่ายูเครนเป็นหน้าบ้านของตนเอง เช่นเดียวกันกับที่อเมริกามองซีกโลกตะวันตกว่าคือสนามหลังบ้านของตนเอง
11 ทีนี้เมื่อนาโต้ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มทางทหารของอเมริกาและพันธมิตรยุโรป พยายามหว่านล้อมชวนยูเครนมาเข้านาโต้ รัสเซียจึงยอมไม่ได้และจะไม่มีวันยอมที่จะให้มีขีปนาวุธของสหรัฐมาตั้งประจัญอยู่ชายแดนตนเอง
12 รัสเซียจึงยอมที่จะทำลายยูเครนให้สิ้นเสียดีกว่าที่จะให้นาโต้มาประชิดพรมแดน
ทีนี้บางท่านอาจจะมีคำถามว่า “เอ้า ก็ยูเครนเขามีเอกราชของเขา เขาอยากจะไปอยู่กับใครมันก็เรื่องของเขาสิ“
คำตอบของผมคือ ”คนที่จะมาเป็นผู้นำของชาติอย่างยูเครน ควรจะต้องรู้อยู่แล้วว่าสถานะของยูเครนนั้นยืนอยู่บนคมหอกคมดาบครับ การเลือกเส้นทางที่จะแตกหักกับชาติมหาอำนาจข้างบ้านอย่างรัสเซียคือทางเลือกที่โง่ที่สุด“
ชาติเพื่อนบ้านนั้น ต่อให้ชั่วฟ้าดินสลายยังไงก็ต้องอยู่กันไปตลอดกาล สิ่งที่คนเป็นประธานาธิบดีต้องคิดคือ ทำยังไงให้คนในชาติตัวเองอยู่ได้โดยไม่เกิดปัญหารุนแรง
และต้องไม่โง่พอที่จะเอาประเทศตัวเองไปเป็นเบี้ย จนกระทั่งบ้านเมืองล่มสลาย ผู้คนลี้ภัยสงครามแบบนี้
และสุดท้ายเราก็ได้เห็นประธานาธิบดียูเครนต้องไปนั่งออกทีวีขอเงินจากทรัมป์ ให้ลุงทรัมป์และแวนซ์ด่าไลฟ์ออกทีวีจนเสียเกียรติภูมิชาติตัวเอง
นี่ละครับ ผลของการเลือกตัวตลก เลือกคนโง่และหิวแสงแบบเซเลนสกี้มาเป็นผู้นำประเทศ[/quote]
ก็ยังเป็นมุมมองที่โยนความผิดให้ผู้ถูกรุกรานอยู่ดีค่ะ โลกมันมีกฎระเบียบของมัน ทั้งรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ เป็นภาคีสมาชิกของสหประชาชาติด้วยกันทั้งนั้น จุดประสงค์หลักของทั้งสหประชาชาติและนาโต้คือการปกป้องสันติภาพโลก ลดการใช้อาวุธเพื่อห้ำหั่นกัน คนที่ออกมาเยาะเย้ยถากถางหรือตำหนิติเตียนผู้ถูกรุกรานว่าโง่เขลาเบาปัญญานี่เขาคงลืมไปกระมังว่า ที่ประเทศของเราเองสามารถดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุขมานานหลายทศวรรษนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะกฎระเบียบเหล่านี้ สิ่งที่ทั้งปูตินและทรัมป์ทำคือการพาโลกกลับไปสู่ยุคที่ใครมีกำลังมากกว่าก็สามารถไปยึดประเทศอื่นเข้ามาเป็นอาณานิคมของตัวเองได้ It's the law of the jungle. Not the rules-based international order. ไม่ว่าเราจะมีอคติต่ออเมริกาหรือยุโรปขนาดไหนเราก็ไม่ควรจะเพิกเฉยต่อความจริงข้อนี้และหันไปโยนความผิดให้เหยื่อ แทนที่จะเป็นผู้ใช้กำลังรุกรานผู้อื่นอย่างปูติน
สมัยหนูเด็กๆ ประเทศเรายังอยู่ในความเสี่ยงจากการแทรกแซงของคอมมิวนิสต์ เรามีเพลงปลุกใจที่เปิดกรอกหูกันทุกวันจนจำเนื้อได้ "ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส..." นั่นคือสิ่งที่ชาวยูเครนจำนวนมากรู้สึก และสาเหตุที่ยูเครนโอนเข้าหาอียูกับนาโต้ก็เพราะว่าเขาต้องการสร้างอนาคตที่ดีให้คนของเขา ต้องการรับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการรวมกลุ่มกับอียู และปกป้องตัวเองจากการรุกรานหลังจากที่รัสเซียเข้ามายึดไครเมียไปเมื่อปี 2014 คงเหมือนๆ กับไทยเราเมื่อเกือบ 50 ปีก่อนที่ไปร่วมกับอีกสี่ประเทศก่อตั้งอาเซียนเพราะเรากลัวไทยจะกลายเป็นโดมิโนหนึ่งในประวัติศาสตร์การแผ่ขยายอำนาจของฝ่ายคอมมิวนิสต์ ถ้าเราเองยังทำแบบนั้นได้แล้วเรามีสิทธิอะไรที่จะไปกะเกณฑ์ให้คนยูเครนคิดเป็นอย่างอื่น หรือด่าเขาว่าโง่เง่าที่คิดอย่างนั้น
อีกอย่างที่คุณคนนี้แกไม่ได้พูดถึงก็คือ มันมีการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ที่ชี้ว่า 2 ใน 3 ของยูเครเนี่ยนมีความมั่นใจในตัวผู้นำของเขาเอง (แต่ทรัมป์นี่คะแนนนิยมไม่เคยสูงเกิน 49% ส่วนปูตินนั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง อยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะกดให้คนกลัวเท่านั้น)
ต่อให้เซเลนสกี้ผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษาอุปนิสัยของทรัมป์และมองสถานการณ์ที่เขาตกอยู่ให้ถ้วนถี่ก่อนไปทำเนียบขาว (ซึ่งหนูก็ยอมรับว่าพลาดจริง) แต่เขาก็ยังไม่ใช่คนที่เราควรจะรุมด่า เพราะสามปีที่ผ่านมานี้เขาทุ่มเทมากในอันที่จะปกป้องอาณาเขตและคนของเขาเอง ขนาดสหรัฐฯ เคยเสนอให้ออกนอกประเทศตอนรัสเซียบุกใหม่ๆ ยังไม่ยอมไป คนที่ด่าเซเลนสกี้ว่าโง่เง่าโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงบริบท รวมทั้งเห็นดีเห็นงามกับการที่ทรัมป์และแวนซ์รุม bully เขาออกสื่อนี่ไม่ทราบเหมือนกันว่าจิตใจทำด้วยอะไรถึงได้ไร้ซึ่งมนุษยธรรมเช่นนี้