เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 12
  พิมพ์  
อ่าน: 23062 ทหารอาสาแห่งกรุงสยาม
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
 เมื่อ 02 ส.ค. 24, 10:20

               
                    ‘อันเราเป็นชาติเชื้อ    ชาวไทย
                     ตัวเล็กก็มีใจ   ใหญ่ป้า
                    ไม่ยอมระยอบใคร   ในโลก เลยพ่อ
                     ถึงอริราญห้า   ห่อน แสยง ฯ’



   พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
   
สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกและอาจารย์ทุกคน วันนี้ผมมาตั้งกระทู้ ‘ทหารอาสาแห่งกรุงสยาม’ และลงบทนำทิ้งไว้เป็นน้ำจิ้ม จากนั้นจะทยอยลงเนื้อหารายละเอียดตามที่ตัวเองสามารถหาเวลาได้

ขออธิบายเล็กน้อย…การเขียนบทความผมจะบรรยายในลักษณะนิยาย ถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านตัวละครสมมุติบวกบุคคลผู้มีชีวิตในเหตุการณ์นั้นๆ เหตุผลที่เลือกเส้นทางนี้เนื่องจากเนื้อหาเรื่องราวประเทศไทยกับสงครามครั้งที่หนึ่งค่อนข้างเป็นเส้นตรง ผมอ่านหนังสือหาข้อมูลหลายเล่มผมหลับคาหนังสือทุกเล่ม จึงอยากทำอะไรที่ดูแตกต่างซึ่งอาจมีประโยชน์มากกว่าการย่อเนื้อหาจากหนังสือ

บทความนี้มีจุดอ่อนมากมาย อาทิเช่นปัจจุบันผมยังไม่มีพล็อตเรื่องทั้งหมด ผมยังอ่านหนังสือไม่ครบทุกเล่ม ผมยังรับรู้ข้อมูลทั้งหมดอย่างไม่แตกฉาน ผมไม่ถนัดพิมพ์เลขไทย ผมเขียนค่อนข้างช้า ผมหาข้อมูลไปเขียนไป รวมทั้งผมไม่เคยเขียนบทความย้อนกลับไปถึงยุครัชกาลที่ 6 ฉะนั้นถ้ามีอะไรผิดพลาดรบกวนเพื่อนๆ สมาชิกและอาจารย์ทุกคนว่ากล่าวตักเตือน

เนื่องจากเรื่องราวเกิดขึ้นในรัชกาลที่ 6 ฉะนั้นการสะกดคำอาจแตกต่างจากปัจจุบัน ผมจะพยายามปรับปรุงเท่าที่เห็นสมควรโดยไม่ให้เสียอรรถรส ยังนึกอยู่เลยว่าตัวเองหาเรื่องหรือเปล่า บังเอิญผมอยากเขียนผมก็เลยเขียนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

กระทู้นี้น่าจะยาวในระดับหนึ่ง แต่ที่แน่นอนก็คือกว่าจะจบใช้เวลานานพอสมควร
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 10:23

บทนำ

วันที่ 22 มิถุนายน 2460 พระยาสฤษดิการบรรจงนายช่างแขวงบำรุงการรถไฟประจำนครราชสีมา เดินทางมาพบพระยาปรีชานุสาสน์ซึ่งรับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ ผู้บังคับการโรงเรียนมหาดเล็กหลวงที่เชียงใหม่ เพื่อหยุดพักผ่อนประจำปีตามที่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้างาน

ระหว่างอยู่บนรถไฟพระยาสฤษดิการบรรจงนึกได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีลายพระหัตถ์ถึงตัวเองกำหนดให้เปิดซองวันนี้ พระยาสฤษดิการบรรจงรีบตามแล้วพาลตกใจหน้าตาเลิ่กลั่ก เนื่องจากในซองระบุให้ตัวเองเข้าร่วมปฏิบัติการยึดรถไฟสายเหนือจากนายช่างชาวเยอรมัน

นายช่างแขวงบำรุงการรถไฟรีบเดินมาพบคนขับรถไฟ เพื่อสั่งการด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแทบคุมสติไม่อยู่ “พาฉันไปส่งถ้ำขุนตาลเดี๋ยวนี้!"

คำสั่งการสร้างความงุนงงสงสัยต่อคนขับรถไฟ

พระยาสฤษดิการบรรจงจำเป็นต้องสั่งการอีกครั้ง “เร่งความเร็วเต็มที่ พาฉันไปส่งถ้ำขุนตาลให้เร็วที่สุด ห้ามจอดทุกสถานีนี่คือคำสั่ง!”

“ผู้โดยสารที่จะลงกลางทางล่ะขอรับ” คนขับรถไฟสอบถาม

“ให้พวกเขานั่งรถไฟย้อนกลับทีหลัง”

“ขอรับ”

ขณะเดินทางพระยาสฤษดิการบรรจงแสดงอาการร้อนรนกระวนกระวาย

ถ้ำขุนตาลอยู่ระหว่างการเจาะอุโมงค์สร้างเส้นทางรถไฟ ผู้ควบคุมการทำงานคือพระอำนวยรถกิจหรือมิสเตอร์เอฟ ชะแนร์ กับมิสเตอร์แอวิน มูลเลอร์ซึ่งได้รับพระราชทานนามสกุลเวลานนท์ วันนี้ชาวเยอรมันทุกคนในประเทศต้องถูกควบคุมตัว พระเจ้าน้องยาเธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินได้รับคำสั่งให้ควบคุมตัวนายช่างชาวเยอรมันที่ดูแลเส้นทางรถไฟสายเหนือ พระยาสฤษดิการบรรจงจึงรีบเดินทางตามไปสมทบเพื่อให้ความช่วยเหลือ

ทำไมชาวเยอรมันทุกคนต้องถูกควบคุมตัว?

นายช่างแขวงบำรุงการรถไฟใช้ความคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในที่สุดตัวเองก็ได้รับคำตอบที่มันสุดแสนเหลือเชื่อ

ประเทศไทยจะประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 ส.ค. 24, 17:53 โดย เทาชมพู » บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 11:54

 
  ตอนที่ 1 พบกันครั้งแรก

วันที่ 28 มิถุนายน 2457 อาร์ชดุ๊ก ฟรานซ์ เฟอร์ดินัน รัชทายาทออสเตรีย-ฮังการีและพระชายา ถูกชาวสลาฟคนหนึ่งลอบปลงพระชนม์ที่เมืองซาราเจโวแคว้นบอสเนียใกล้ชายแดนออสเตรีย-ฮังการี



วันที่ 28 กรกฎาคม 2457 ออสเตรีย-ฮังการีประกาศสงครามกับเซอร์เบีย เนื่องจากไม่พอใจท่าทีเซอร์เบียจากคดีลอบปลงพระชนม์ รัสเซียจึงประกาศสงครามกับออสเตรียฮังการีเพื่อคุ้มครองชาวสลาฟ เยอรมันเห็นดังนั้นรีบประกาศสงครามกับรัสเซียเพื่อปกป้องประเทศในเครือพันธมิตร

ความขัดแย้งในยุโรปที่คุกรุ่นมานานพุ่งปะทุทันควัน แล้วเริ่มลุกลามทั่วทั้งทวีปจนกลายเป็นมหาสงครามโลกในวันที่ 1 สิงหาคม 2457
ฝ่ายหนึ่งคือประเทศฝรั่งเศส อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย และประเทศในกลุ่มสัมพันธมิตร อีกฝ่ายคือประเทศเยอรมัน ออสเตรีย-ฮังการี ตุรกี และประเทศในกลุ่มมหาอำนาจกลาง ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างดุเดือดในสมรภูมิที่มีการนองเลือดมากที่สุดในโลก ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่สงครามเสียชีวิตรวมกันกว่า 16 ล้านคน

ช่วงแรกของสงครามประเทศไทยซึ่งอยู่ห่างจากสมรภูมิหลายพันกิโลเมตร ยังยึดมั่นกับความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด และในระยะแห่งความเป็นกลางล้นเกล้าล้นกระหม่อมรัชกาลที่ 6 ได้ทรงศึกษาความเคลื่อนไหวทั้งสองฝ่าย พระองค์ทรงทนต่อความทารุณโหดร้ายที่ฝ่ายเยอรมันแสดงออกไม่ได้ จึงทรงทำเรื่องประท้วงอย่างเป็นทางการส่งถึงประเทศเยอรมัน ทว่าเยอรมันไม่ตอบกลับและเพิกเฉยต่อคำประท้วงรัฐบาลไทย อาจเป็นเพราะเล็งเห็นว่าไทยเป็นชาติเล็กไม่มีความหมายกับตัวเอง

เที่ยงคืนวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2460 ประเทศไทยประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมันและเข้าร่วมทำศึกกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อพระองค์ทรงประกาศสงครามให้คนทั่วโลกรับรู้อย่างเป็นทางการ ต่อมาพระองค์ได้ทรงประกาศเรียกพลอาสา เพื่อส่งไปทำราชการสงครามในทวีปยุโรปฝั่งตะวันตก โดยมีพระราชประสงค์แบ่งทหารอาสาออกเป็น 2 กองด้วยกัน ประกอบไปด้วยกองบินทหารบกและกองรถยนต์ทหารบก

และด้วยเหตุนี้ 'เพิ่ม' จึงขอลางานมาสมัครทหารอาสา

ชายหนุ่มวัยสิบแปดตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างเพื่อไปยุโรป



บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 12:26

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ช่วงเวลานั้นประเทศไทยมีรถไฟจำนวน 2 สายประกอบไปด้วย

1.รถไฟสายเหนือดำเนินกิจการโดยนายช่างชาวเยอรมัน ใช้รางรถไฟกว้าง 1.435 เมตรตามมาตรฐานเยอรมัน

2.รถไฟสายใต้ดำเนินกิจการโดยคนไทย ใช้รางรถไฟกว้าง 1 เมตรเพราะมีโครงการเชื่อมต่อกับทางรถไฟสายมลายูของอังกฤษ

การควบคุมกิจการรถไฟสายเหนือจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 14:48

อาจารย์ครับ ข้อความที่โพสไปแล้วแก้ไขไม่ได้ใช่ไหมครับ ผมก็หาปุ่มกดอยู่ตั้งนานทำไมไม่เจอเสียที  ร้องไห้


ผมพิมพ์ชื่อพระยาสฤษดิการบรรจงไม่ครบหลายจุดเลยเพิ่งสังเกตเห็น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 15:20

สมาชิกแก้ไขไม่ได้ค่ะ มีแต่ผู้ดูแลเว็บที่แก้ไขเพิ่มเติมได้
คุณ Superboy จะให้ดิฉันเติมบรรดาศักดิ์ท่านให้ครบไหมล่ะคะ
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 17:50

รบกวนอาจารย์ด้วยครับ
บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 21:13

น่าติดตามมากครับ ปรกติหลายคนอาจไม่ค่อยได้ยินบทบาททหารไทยในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเท่าไหร่ เป็นที่น่าเสียดาย
บทบาทกองทัพไทยในสงครามเกาหลีถ้าไม่ถูกยิบขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้งก็อาจถูกลืมเลือนไปมากเหมือนกัน
ทหารคนสุดท้ายซึ่งได้รบในสงครามโลกครั้งสุดท้าย นาย ยอด สังข์รุ่งเรือง ก็เพิ่งเสียชีวิตไปในปี 2546 นี่เอง รวมอายุได้ถึง 106 ปี
หลายๆคนในที่นี่ เรียกว่าเกือบทุกคน ก็น่าจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ประวัติศาสน์ ไม่ไกลจากเราเหมือนที่บางคนคิด บางที่อยู่ไกล้เพียงความทรงจำ
บันทึกการเข้า
CrazyHOrse
แขกเรือน
นิลพัท
*******
ตอบ: 2055



เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 22:46

                    ‘อันเราเป็นชาติเชื้อ    ชาวไทย
                     ตัวเล็กก็มีใจ   ใหญ่ป้า
                    ไม่ยอมระยอบใคร   ในโลก เลยพ่อ
                     ถึงอริราญห้า   ห่อน แสยง ฯ’


น่าจะเป็น ตัวเล็กก็มีใจ ใหญ่ป้ำ กับ ถึงอริราญห้ำ ห่อนแสยง นะครับ
บันทึกการเข้า

"Postel's Law": "be conservative in what you do, be liberal in what you accept from others"
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 10:16

ต้องเป็นป้ำกับห้ำแหละครับ ตัวอักษรในหนังสือค่อนข้างจางผมอ่านผิดเอง
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 10:30

เพิ่มรับราชการเป็นเสมียนอยู่ที่กรมยุทธโยธาทหารเรือ มีโอกาสรับใช้นายทหารระดับสูงในงานเลี้ยงหลายครั้ง เมื่อรู้ว่ามีการเปิดรับทหารอาสาเขารีบใบสมัครยื่นต่อกรมเสนาธิการทหารบก ถึงวันคัดเลือกจึงเดินทางมาที่กองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยทหารบก

ถึงที่หมายเพิ่มนำคำสั่งจากกรมเสนาธิการทหารบกส่งให้เจ้าหน้าที่ เด็กหนุ่มได้รับบัตรหนึ่งใบเพื่อกรอกรายละเอียดส่วนตัวอาทิเช่น ชื่อ ที่อยู่ อายุ ตำแหน่งงาน เสร็จเรียบร้อยเดินมาต่อแถวรอตรวจร่างกายตามเต็นท์ต่างๆ ระหว่างนั้นบังเอิญเห็นพันเอกพระเฉลิมอากาศผู้บังคับการกองบินทหารบก กับนายแพทย์โรเบิร์ตจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เดินคุยกันผ่านแถวผู้สมัครทหารอาสามุ่งตรงเข้าสู่เต็นท์สนาม

ทั้งคู่คือหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกทหารอาสา แต่งตั้งโดยเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ถ้าเพิ่มอยากไปร่วมรบสงครามโลกตามความตั้งใจ เขาต้องผ่านด่านพันเอกพระเฉลิมอากาศกับหมอโรเบิร์ตให้ได้เสียก่อน

ระหว่างยืนต่อแถวรอตรวจร่างกายในเต็นท์สนาม เพิ่มได้ยินเสียงพูดคุยจากเด็กหนุ่มหุ่นมะขามข้อเดียวซึ่งอยู่ถัดไปประมาณสี่ห้าคน

“วันนั้นฉันกับแม่ไปหาญาติแถวศาลาเฉลิมกรุง เดินผ่านห้างโรเบิตเลนส์เห็นทหารสองคน คุมตัวนายห้างกับลูกชายออกมาข้างนอก ทหารอีกสามสี่คนช่วยกันแบกกล้องถ่ายรูปออกจากร้าน”

เหตุวุ่นวายในวันที่ 22 มิถุนายน 2460 ทำให้ทุกคนตกตะลึง

“ห้างกอดาตที่ถนนเจริญกรุงตื่นเต้นกว่า” เด็กหนุ่มเล่าเรื่องราวต่อ “นายห้างไม่พอใจเรื่องถูกควบคุมตัว แกโวยวายเสียงดังคนเข้ามามุงดูเต็มถนน พี่ชายฉันบอกว่าต้องใช้ทหารสามคนช่วยกันจับนายห้าง”

“ทหารจับคนเยอรมันไปขังที่ไหน” ใครคนหนึ่งสอบถาม

“พี่ชายฉันบอกว่าโรงพยาบาลกลาง ส่วนชาวเยอรมันที่มีครอบครัวอยู่สโมสรชาวเยอรมันที่ถนนสุรวงศ์”

เพิ่มยืนฟังเรื่องราวและแอบคิดถึงเรื่องราวสมัยเยาว์วัย เด็กหนุ่มหุ่นมะขามข้อเดียวที่กำลังเจื้อยแจ้วเจรจาชื่อเชิด เรียนหนังสือที่เดียวกันหลายปีเคยมีเรื่องกันหลายครั้ง เชิดโตเร็วกว่าเด็กทั่วไปอายุสิบสองปีก็มีร่างกายสูงใหญ่ เพิ่มถูกมันรังแกหลายปีกระทั่งตัวเองตัวสูงกว่าจึงเอาคืนบ้าง จากนั้นเป็นต้นมาเชิดไม่กล้าเข้ามาตอแยทำได้เพียงเห่าหอนไปวันๆ

ใจจริงเพิ่มไม่อยากหาเรื่องหรือทักทายคู่ปรับเก่า บังเอิญเชิดดันเล่าเรื่องราวเลยเถิดไปไกลอาจเป็นเพราะความคึกคะนอง

“ใจจริงฉันไม่อยากสมัครทหารอาสา” เชิดเกริ่นนำเรียกความสนใจ

“ทำไมเอ็งไม่อยากสมัคร” ใครคนหนึ่งสอบถามอีกครั้ง

“ฉันไม่ชอบฝรั่งเศส พวกมันรังแกคนไทยหลายครั้ง อังกฤษฉันก็ไม่ชอบ ถ้าพวกมันชนะสงครามคงเหิมเกริมมากกว่านี้”

“เอ็งไม่ชอบฝรั่งเศสแล้วมาที่นี่ทำไม?” เพิ่มพูดสวนโดยไม่รีรอ

เขาทนฟังคู่ปรับเก่าคุยโวโอ้อวดต่อไปไม่ไหว

เด็กหนุ่มหุ่นมะขามข้อเดียวเหลียวมองสีหน้าไม่พอใจ “ไอ้เพิ่ม!”


บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 11:28

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

ปฏิบัติการลับสุดยอดวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2460 ทางการไทยสามารถควบคุมชาวเยอรมันอายุมากกว่า 17 ปีในกรุงเทพ กรมรถไฟ และกรมไปรษณีย์จำนวน 178 คน เด็กและผู้หญิงจำนวน 161 คน รวมทั้งชาวออสเตรีย-ฮังการีจำนวน 17 คน การจับกุมและควบคุมเชลยเป็นไปอย่างละมุนละม่อม เชลยทุกคนพอใจและเต็มใจถูกควบคุมตัวอยู่ในประเทศไทย

ต่อมาเมื่อรัฐบาลไทยถูกหลายชาติในฝ่ายสัมพันธมิตรกดดัน จึงตัดสินใจส่งมอบเชลยทั้งหมดให้กับอังกฤษที่สิงคโปร์ อังกฤษจะใช้เรือลำเลียงเชลยมาควบคุมตัวในประเทศอินเดีย แต่แล้วอังกฤษกลับเปลี่ยนใจให้ไทยนำเชลยมาส่งที่อินเดียด้วยตัวเอง กองทัพเรือจึงใช้เรือเชลยจำนวน 2 ลำชื่อเด่นสมุทร (ชื่อเก่าเดลี) กับปิ่นสมุทร (ชื่อเก่าสามเสน) ควบคุมเชลยทั้งหมดมาส่งมอบที่เมือง มัทราส
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 11:38

“เออ…ข้าเอง”

“เอ็งมาสมัครทหารอาสาเหมือนกันรึ”

“ไม่สมัครเอ็งคงไม่เห็นข้าที่นี่”

“ทำเป็นปากดีไปเถอะ อย่างเอ็งไม่มีทางผ่านการคัดเลือก”

“ผ่านไม่ผ่านมันเรื่องของข้า” เพิ่มวนกลับมาเรื่องเดิม “พูดเรื่องเอ็งดีกว่า เอ็งไม่ชอบฝรั่งเศสแล้วมาที่นี่ทำไม”

ทันใดนั้นทุกคนได้ยินเสียงบุคคลที่สามดังสอดแทรก

“ข้าชวนไอ้เชิดมาเอง”

เจ้าของเสียงคือชายไทยผิวคล้ำหน้าดุปราศจากรอยยิ้ม

เขาเดินออกมาจากเต็นท์หลังสุดท้ายพร้อมรอยยิ้ม “ข้าอยากพาไอ้เชิดไปฝรั่งเศส อยากแก้แค้นเรื่องพวกมันเคยทำกับชาติเราในอดีต”

“พี่พูดแบบนี้ไม่ถูก” เพิ่มอธิบาย “ตอนนี้เราอยู่ฝ่ายเดียวกับฝรั่งเศส เรื่องในอดีตควรลืมไปก่อน สิ่งสำคัญคือการรบกับฝ่ายเยอรมัน”

“ทำไมข้าต้องรบกับเยอรมัน”

“เพราะพี่เป็นทหารอาสากองทัพไทย”

“ทหารอาสาแล้วยังไง”

“ทหารอาสาพร้อมพลีชีพเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”

“ไอ้หนุ่ม…พวกเราไม่ใช่ทหาร เราสู้กับทหารเยอรมันไม่ไหวดอก”

“ไหวไม่ไหวก็ต้องสู้ ฉันยอมให้ชาติไทยขายขี้หน้าไม่ได้”

ทันใดนั้นทุกคนได้ยินเสียงบุคคลที่สี่ดังสอดแทรก

“ไอ้หนุ่ม…เอ็งพูดถูกใจข้าเหลือเกิน”

เจ้าของเสียงคือชายไทยรูปร่างสันทัดหน้าแดงตัวแดง ยืนต่อแถวอยู่ด้านหลังเพิ่มจึงพลอยได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเต็มสองหู

ผู้ชายผิวคล้ำใบหน้าดุมองผู้มาใหม่ด้วยหางตา “ไอ้จรูญ!”

“เออ…ข้าเอง”
 
ชายไทยสองคนจ้องตากันเงียบๆ ท่ามกลางสายตาทุกคู่ จากนั้นไม่นานผู้ชายหน้าดุสะบัดหน้ากลับก่อนก้าวเท้าจากไป กองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยทหารบกกลับมาเงียบสงบไม่มีเสียงเอะอะโวยวาย

เพิ่มทักทายบุคคลที่อยู่ด้านหลัง “สวัสดีจ้ะ…ฉันชื่อเพิ่ม”

“ข้าชื่อจรูญ” ชายไทยรูปร่างสันทัดพูดไปยิ้มไป “ส่วนคนปากเสียชื่อเฉลิม ฉันกับมันทำงานกรมตำราทหารบกที่เดียวกัน”

“ฉันเป็นเสมียนกรมยุทธโยธาทหารเรือ”

“ทหารบกเจอทหารเรือเสียแล้ว”

“ทำไมพี่จรูญสมัครทหารอาสา”

“ข้าอยากเปลี่ยนตัวเอง” จรูญถอนหายใจ “ทุกวันหลังเลิกงานข้าเอาแต่เมาหัวราน้ำ คลานเหมือนหมากลับบ้านเมียด่าจนเมียเลิกด่าไปแล้ว”

คุณสมบัติผู้สมัครทหารอาสาที่กระทรวงกลาโหมกำหนด ผู้อาสาต้องมีสัญชาติไทย ไม่เคยรับราชการทหาร เป็นทหารกองหนุน หรือคนกองเกินอัตรา เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการใช้เครื่องยนต์ มีความรู้ความสามารถในการแพทย์ หรือมีความชำนาญในการพยาบาล จรูญอยากใช้โอกาสนี้เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นจรูญคนใหม่

ทุกวันเขาเมาหยำเปจนญาติพี่น้องเอือมระอา ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากนอนร้องไห้เสียใจ ไปที่ไหนมีแต่คนรังเกียจบ่นว่าเหม็นกลิ่นเหล้า หน้าแดงตัวแดงตาแดงผมเผ้ายุ่งเหยิงสุขภาพเริ่มมีปัญหาเรื่องโน้นเรื่องนี้
ทหารอาสาคือความหวังเดียวที่จรูญต้องคว้าให้ได้

“เอ็งล่ะ…ทำไมสมัครทหารอาสา” จรูญถามกลับ

“ฉันไม่รู้จ้ะพี่” เพิ่มหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้

“อ้าว…แล้วนี่ทางบ้านไม่ว่าเอารึ”

“ฉันยังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใครสักคน”

ชายหนุ่มวัยสิบแปดกับชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดสบตากัน

ตอนนั้นเองถึงคิวที่เพิ่มต้องตรวจร่างกายในเต็นท์ที่หนึ่ง

เขาเดินจากไปเงียบๆ แสดงอาการตื่นเต้นเล็กน้อยผ่านแววตา

จบตอนที่หนึ่ง
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 11:42

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

โรเบิต เลนซ์ เป็นช่างถ่ายรูปชาวเยอรมัน เคยตั้งร้านถ่ายรูปขึ้นที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า และประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางเข้ามารับหน้าที่ช่างภาพหลวงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยในปี พ.ศ.2437 นายเลนซ์เคยพาคณะช่างภาพเข้ามารับจากถ่ายรูปในเมืองไทยเป็นการชั่วคราว มีสำนักอยู่แถวโรงแรมโอเรียนเต็ล ย่านบางรัก ต่อมาในปี พ.ศ.2439 นายเลนซ์และบริษัทของเขาจึงได้เข้าตั้งร้านถ่ายรูปถาวรขึ้น ณ บริเวณหัวมุมถนนเจริญกรุงตัดกับถนนตีทอง



สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงที่คนไทยกำลังนิยมเล่นกล้องถ่ายรูปกันอย่างแพร่หลาย เมื่อนายโรเบิต เลนซ์ ผู้มีฝีมือในการถ่ายรูปและมีฐานะเป็นถึงช่างภาพหลวงมาเปิดร้านให้บริการ จึงมีผู้นิยมและเชื่อถือในฝีมือของเขาค่อนข้างมาก

กระทั่งในปี พ.ศ.2449 นายเลนซ์จึงได้ขายกิจการร้านถ่ายรูปให้แก่นายอีมิล กรูต (Emil Groote) และนายซี ปรุส (C. Pruss) แต่เข้าใจว่านายเลนซ์เองยังคงช่วยงานและเป็นช่างภาพที่ร้านต่อไป และร้านถ่ายรูปแห่งนี้ก็ดำเนินกิจการเรื่อยมาจนเมื่อปี พ.ศ.2460 เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ร้านถ่ายรูปโรเบิตเลนซ์จึงถูกรัฐบาลสยามยึดเอาไว้ ด้วยเหตุว่าเป็นร้านของคนเยอรมัน จากนั้นรัฐบาลก็เข้าไปบริหารกิจการต่อในปี พ.ศ.2461 แล้วเป็นชื่อเสียใหม่ว่า ร้านฉายานรสิงห์
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 10:05

ตอนที่ 2 การคัดเลือกทหารอาสา

เพิ่มเดินเข้าเต็นท์สนามอันเปรียบเสมือนด่านตรวจโรค ด่านแรกมีคุณหมอชาวไทยใบหน้าอวบอิ่มทำหน้าที่รับแขก คุณหมอตรวจสอบดวงตาสองข้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน เสร็จเรียบร้อยจึงบันทึกข้อมูลในบัตรประจำตัวผู้สมัคร แล้วส่งกลับคืนพร้อมพูดอวยพรให้เพิ่มสมความปรารถนา

ด่านที่สองคุณหมอชาวไทยสั่งเพิ่มเปลื้องเสื้อผ้าเพื่อตรวจของสำคัญ ป้องกันผู้ป่วยโรคร้ายเล็ดลอดเข้าสู่กองทหาร ชายหนุ่มวัยสิบแปดมีอาการขัดเขินอยากวิ่งหนีจากไป บังเอิญขาแข้งดันสั่งสะท้านทำตามความต้องการไม่ได้ และนับว่าโชคดีที่เพิ่มไม่วิ่งหนีกลับบ้านเสียก่อน ผลการตรวจปรากฏว่าเขาสุขภาพสมบูรณ์ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บจากเพศสัมพันธ์

ด่านที่สามคือด่านสุดท้ายตัดสินว่าจะได้เป็นทหารอาสาหรือไม่ คุณหมอโรเบิร์ตสั่งเพิ่มถอดเสื้อตัวนอกโดยไม่ต้องเปลื้องผ้าม่วง แกใช้เครื่องฟังสัมผัสบริเวณหน้าอกและแผ่นหลังครู่หนึ่งแล้วพาลส่ายหัวไปมา
นายแพทย์ชาวฝรั่งเศสอธิบายด้วยภาษาไทย “คุณเป็นปอดพรุน”

“ปอดพรุน!” เพิ่มตกใจใบหน้าเปลี่ยนสี

เขาเพิ่งอายุสิบแปดร่างกายแข็งแรงเหมือนคนทั่วไป ไม่เคยเป็นโรคไม่เคยไอไม่เคยมีอาการเจ็บป่วย ปู่ย่าตายายและครอบครัวไม่เคยเป็นพระญาติของเสด็จในกรมฯ แล้วเหตุอันใดเล่าตัวเองถึงเป็นโรคปอดพรุน

“คุณเป็นปอดพรุนไปเมืองนอกไม่ได้” คุณหมอโรเบิร์ตพูดย้ำอีกครั้ง

เพิ่มอายุยังน้อยเพิ่งผ่านโลกแค่เพียงสิบแปดหนาว แค่รับรู้ข่าวร้ายสะเทือนใจเขาแทบทรงตัวไม่ไหว ไม่มีปัญญาโต้เถียงหรือหาทางแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วง ชายหนุ่มทำได้เพียงรับบัตรประจำตัวก่อนก้าวเท้าจากไป

ทันทีที่รู้ข่าวจากต้นสังกัดเรื่องประกาศรับทหารอาสา เพิ่มตัดสินใจยื่นใบสมัครโดยไม่ปรึกษาคนในครอบครัว การมาคัดเลือกวันนี้คนที่รู้เรื่องมีเพียงที่หน่วยงาน เขาตั้งใจปกปิดเรื่องสมัครทหารอาสาจนกว่าจะผ่านการคัดเลือก แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของตัวเองจะแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี

จริงอยู่การคัดเลือกทหารอาสาไปยุโรปมีรอบเก็บตก บังเอิญตัวเองเป็นปอดพรุนทำอย่างไรก็ไม่ผ่านการคัดเลือก รวมทั้งเย็นนี้พ่อแม่พี่น้องต้องรู้เรื่องที่ตัวเองตั้งใจปิดบัง มีหวังถูกห้ามไม่ให้มาคัดเลือกอย่างแน่นอน

ชายหนุ่มวัยสิบแปดเดินคอตกกลับกรมยุทธโยธาทหารเรือ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 20 คำสั่ง