วันที่ 13 กรกฎาคม 2462 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรกำหนดให้เป็นวันประกอบพิธีสวนสนามฉลองชัยชนะ กองรถยนต์ทหารบกแห่งประเทศไทยได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธี และเนื่องมาจากฝ่ายสัมพันธมิตรมีทหารจำนวนหลายชาติ จึงมีข้อกำหนดชาติไหนกำลังพลมากให้ส่งทหารเข้าร่วมหนึ่งกองพัน ชาติไหนกำลังพลน้อยให้ส่งทหารเข้าร่วมหนึ่งกองร้อย
ทหารไทยจำนวน 120 นายเข้าร่วมพิธีสวนสนามฉลองชัยชนะ
หนึ่งในนั้นก็คือนพ จรูญ และเพิ่มจากกองร้อยย่อยที่ 1


การจัดขบวนเริ่มจากกองบัญชาการกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร ทหารส่วนใหญ่เป็นทหารม้าฝรั่งเศส ต่อด้วยทหารสหรัฐอเมริกา ทหารเบลเยียม ทหารอังกฤษ ทหารอิตาลี คณะผู้แทนทหารญี่ปุ่นกับจีน ทหารกรีก ทหารโปแลนด์ ทหารโปรตุเกส ทหารรุมาเนีย ทหารแซร์เบีย ทหารไทย และทหารยุโกสลาเวียเป็นชาติสุดท้าย จอมพลเปแตงคือผู้บังคับควบคุมขบวน
พิธีสวนสนามฉลองชัยชนะเริ่มต้นตั้งแต่ 07.00 น.ใช้เส้นทางถนนอาร์ค เดอ ตรีออฟ เดอ เลตวล ถนนชางค์ เออ ลีเซย์ ถนนปราซ เดอลา คองคอร์ด ถนนปราซ เดอลา มาร์เดอแลนด์ ถนนกรางค์บูเลอร์วาร์ด และถนนปราซ เดอลา เรปูบริค ตามเส้นทางมีประชาชนชาวฝรั่งเศสจำนวนมาก ออกมายืนรอเตรียมเข้าร่วมพิธีสำคัญเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง
เมื่อทหารไทยเดินลอดประตูชัยแห่งกรุงปารีส แตรวงหยุดบรรเลงเพลงเดินให้ประชาชนชื่นชมความงามการเดินสวนสนาม พ้นจากประตูชัยมีอนุสาวรีย์สำหรับทหารเสียชีวิต กองทหารไทยหยุดเดินเพื่อทำความเคารพให้เกียรติเหล่าผู้กล้า เดินแถวต่อประมาณยี่สิบเมตรเห็นปะรำพิธีฝั่งขวามือ ประธานาธิบดีปวง คาเรย์แห่งประเทศฝรั่งเศส พระเจ้าแผ่นดิน เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เอกอัครราชทูต และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งทหารและพลเรือนจากชาติต่างๆ มาคอยต้อนรับกองทหารต่างชาติที่เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมหน้า
ประมาณเที่ยงวันพิธีสวนสนามได้สิ้นสุด กองทหารชาติสัมพันธมิตรพากันแยกย้ายกลับที่พัก กองทหารไทยย้ายมาอยู่ค่ายพักกรางค์ปาแลส์ชานกรุงปารีส ทุกคนจึงมีโอกาสเยี่ยมชมเมืองหลวงฝรั่งเศสยามราตรี ทหารกองร้อยย่อยที่ 1 ได้คนนำทางกิตติมศักดิ์เป็นถึงอดีตนักเรียนนอก
“ที่นี่สวยมาก” เพิ่มรู้สึกตื่นเต้นเรื่องได้มาเยือนกรุงปารีส เขาชวนชื่นกับชื้นแวะร้านข้างทางหวังซื้อของฝากคนในครอบครัว
“ห้ามเดินแตกแถว” จรูญพยายามเอ่ยปากห้าม
“ครู่เดียวน่าพี่หมู่”
“ถ้าพวกเอ็งหลงข้าไม่รู้ด้วยนะ”
ช่วงเวลาที่กำลังพูดจาข่มขู่ลูกน้อง จรูญเห็นสาวสวยผมทองเดินนวยนาดผ่านหน้า คนห่างเมียเผลอมองตามหลังจนตัวเองคอแทบหัก
“แม่เจ้าประคุณรุนช่อง อะไรมันจะขนาดนี้”
“ผมติดต่อให้ดีไหม” หม่อมหลวงอุดมรีบเสนอตัว
“อย่าเลยครับ…ผมกลัว กลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้”
“หมู่ชอบผู้หญิงตัวสูงปากแดง?”
“ผมชอบสาวไทยผมดำผิวคล้ำทำอาหารเก่ง”
“แล้วหมู่มองหล่อนทำไม”
“แหม่…คุณอุดมขอรับ ของสวยๆ งามๆ ใครกันจะกล้าเหลียวแล”
กลับจากเยอรมันทุกคนเลิกเรียกหม่อมหลวงอุดมตามยศ เนื่องจากรู้ดีหม่อมหลวงคนนี้กำลังจะลาจากเพื่อไปเรียนต่อ ช่วงเวลาได้ใช้ชีวิตร่วมกันหดสั้นลงอย่างน่าใจหาย หากวาสนาหนุนนำได้เจอกันอีกครั้งที่เมืองไทย ไม่แน่ใจว่าตัวเองกล้าเดินเข้าไปทักลูกเจ้านายระดับสูงหรือเปล่า
จรูญถือโอกาสใช้งานหม่อมหลวงนิสัยดีให้สมใจอยาก ได้ตะลุยปารีสยามราตรีร่วมกันบันทึกเป็นความทรงจำเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง
จบตอนที่ 29