เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 12
  พิมพ์  
อ่าน: 23054 ทหารอาสาแห่งกรุงสยาม
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 15  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 10:16

จรูญเดินเข้าเต็นท์สนามอันเปรียบเสมือนด่านตรวจโรค ด่านแรกมีคุณหมอชาวไทยใบหน้าอวบอิ่มทำหน้าที่รับแขก คุณหมอตรวจสอบดวงตาสองข้างอย่างละเอียดถี่ถ้วน เสร็จเรียบร้อยจึงบันทึกข้อมูลในบัตรประจำตัวผู้สมัคร แล้วส่งกลับคืนโดยไม่ได้อวยพรให้จรูญสมความปรารถนา

ด่านที่สองคุณหมอชาวไทยสั่งจรูญเปลื้องเสื้อผ้าเพื่อตรวจของสำคัญ ป้องกันผู้ป่วยโรคร้ายเล็ดลอดเข้าสู่กองทหาร ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดมีอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด บางทีคุณหมออาจเข้าใจว่าเขาต้องไปรบกับศัตรูที่เป็นหญิง ผลการตรวจปรากฏว่าจรูญสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง คุณหมอจดบันทึกหลังบัตรประจำตัวผู้สมัครคำว่า ‘กามโรคไม่ปรากฏแต่อย่างใด’

ด่านที่สามคือด่านสุดท้ายตัดสินว่าจะได้เป็นทหารอาสาหรือไม่ คุณหมอโรเบิร์ตสั่งเพิ่มถอดเสื้อตัวนอกโดยไม่ต้องเปลื้องผ้าม่วง แกใช้เครื่องฟังสัมผัสบริเวณหน้าอกและแผ่นหลังครู่หนึ่งแล้วพาลยิ้มร่า สักพักเดียวรอยยิ้มอบอุ่นได้พลันเลือนหายเมื่อเห็นบันทึกในบัตรประจำตัวผู้สมัคร

นายแพทย์ชาวฝรั่งเศสอธิบายด้วยภาษาไทย “คุณเป็นทราโคม่า”

“ทราโคม่า?” จรูญพูดตามใบหน้าแสดงอาการสงสัย

“คุณเป็นทราโคม่าไปเมืองนอกไม่ได้” คุณหมอโรเบิร์ตพูดย้ำอีกครั้ง

“คุณหมอเข้าใจผิดหรือเปล่า ผมแค่ดื่มเหล้าหนักเกินไป”

“ไม่ผิดแน่นอน คุณเป็นทราโคม่า”

“คุณหมอตรวจอีกครั้งได้ไหมครับ”

การโต้เถียงระหว่างนายแพทย์ชาวฝรั่งเศสกับชาวหนุ่มชาวไทย ดังเล็ดลอดเข้าสู่พื้นที่ภายในเต็นท์สนามหลังสุดท้าย พันตรีหลวงศักดาพลรักษ์นายแพทย์ใหญ่ทหารบกจึงเดินออกมาตรวจสอบเหตุการณ์

“เกิดอะไรขึ้น”

“มองซิเออร์คุณหมอท่านนี้บอกว่าผมเป็นทราโคม่า” จรูญอธิบาย

“ขอฉันดูหน่อย” นายแพทย์ใหญ่ตรวจสอบบัตรประจำตัวผู้สมัคร มีการจดบันทึกหลังบัตรคำว่า ‘Trachoma’ จากด่านตรวจที่หนึ่ง

“เป็นยังไงบ้างครับ”

“คุณเป็นทราโคม่าไปยุโรปไม่ได้ดอก”

เสร็จสิ้นการวินิจฉัยพันตรีหลวงศักดาพลรักษ์ขอตัวกลับไปทำงาน

จรูญเดินคอตกกลับคืนสู่ด่านตรวจที่หนึ่ง เขาอยากสอบถามอาการเจ็บป่วยของตัวเอง “คุณหมอครับ…ผมป่วยเป็นโรคอะไรครับ”

“คุณเป็นริดสีดวงตา” คุณหมอชาวไทยใบหน้าอวบอิ่มให้คำอธิบาย “หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตาแดงเรื้อรัง ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ตาอาจบอด”

“ตาบอด!” ชายไทยรูปร่างสันทัดตกใจใบหน้าเปลี่ยนสี

จรูญสังเกตเหมือนกันตัวเองตาแดงตั้งแต่สัปดาห์ก่อน บังเอิญนึกว่าเป็นผลข้างเคียงจากการดื่มเหล้าค่อนข้างหนัก จึงไม่ใส่เป็นได้ก็หายได้อย่าคิดมาก บังเอิญอีกครั้งความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ตั้งใจ กลับทำให้ตัวเองหมดสิทธิ์เป็นทหารอาสาไม่อาจเริ่มต้นชีวิตใหม่

ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดเดินคอตกกลับกรมตำราทหารบก

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 16  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 12:21

เย็นวันนั้นจรูญกลับถึงบ้านไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาหยิบขวดเหล้าทั้งหมดในห้องครัวเททิ้งคลองแสบแสน รวมทั้งอุปกรณ์เล่นการพนันในยามว่างกับเพื่อนบ้าน ต่อด้วยสาบานต่อหน้าไฟหากชาตินี้ลูกช้างดื่มเหล้าอีกครั้ง ขอให้ลูกช้างตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดภายในสามวันเจ็ด

“พี่จรูญอย่าพูดแบบนี้!” ภรรยาสาวพยายามทัดทานสุดกำลัง

หล่อนทำใจได้นานแล้วเรื่องสามีตัวเองขี้เหล้าเมายา

แต่หล่อนทำใจไม่ได้หากสามีขี้เมาต้องตายจากเพราะคำสาบาน

“น้อยอย่าห้ามพี่” จรูญใบหน้าแดงก่ำคล้ายดวงตาข้างขวา “พี่อดเป็นทหารอาสาเพราะเอาแต่ดื่มเหล้า พี่เมาหัวราน้ำทุกวันไม่เคยสนใจเมีย”

“อาทิตย์หน้ามีการคัดเลือกรอบพิเศษนะจ๊ะพี่”

“แต่พี่เป็นริดสีดวงตา”

“เป็นได้ก็หายได้ พี่จรูญไปหาหมอเถอะ”

“พี่กลัวหายไม่ทัน น้อยจะให้พี่ทำยังไง”

“ไม่ทันก็ช่าง…แต่พี่ต้องไปหาหมอ” ภรรยาสาวพยายามพูดปลุกใจ

หล่อนรู้ดีเต็มอกสามีอยากเป็นทหารอาสา หล่อนไม่ขัดขวางเพราะดีกว่าใช้ชีวิตไปวันๆ พี่จรูญอาจกลายเป็นพี่จรูญคนใหม่เมื่อกลับจากราชการ โชคร้ายการคัดเลือกประสบปัญหาอาการเจ็บป่วย แต่ถึงกระนั้นเธออยากให้เขาพยายามอีกครั้ง ดีกว่ามานั่งจมปลักกับความทุกข์ระทมตลอดไป

การคัดเลือกรอบพิเศษคือความหวังสุดท้ายของเราสองคน

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 17  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 12:22

สองวันถัดมาจรูญลางานมาตรวจตาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หมอเวรแผนกตาคือคุณหมอหลุยนายแพทย์ชาวไทย คุณหมอใช้สโนว์หยอดตารักษาอาการตาแดงเรื้อรัง พร้อมกำชับให้คนป่วยมาพบคุณหมอไฮเอ็ดในอีกสองวันข้างหน้า

“ทำไมต้องมาอีกครั้งล่ะครับ” จรูญเกิดคำถาม

“คุณหมอไฮเอ็ดเป็นหัวหน้าแผนกตา” คุณหมอหลุยอธิบาย

“คุณหมอจัดการเองไม่ได้เหรอครับ”

“ผมเป็นแค่แพทย์ผู้ช่วย”

“คุณหมอเพิ่งผมบอกว่ารักษาได้”

“ผมรักษาคุณได้…แต่ผมทำให้คุณไปยุโรปไม่ได้”

คำเฉลยช่วยเผยความกระจ่างในใจชายหนุ่มวัยยี่สิบแปด

สองวันถัดมาจรูญมาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกครั้ง คุณหมอหลุยพามาพบหัวหน้าแผนกในห้องตรวจถัดไป คุณหมอไฮเอ็ดตรวจสอบดวงตาผู้ป่วยอย่างละเอียด ก่อนหัวเราะเฮฮาตบหลังผู้ป่วยเบาๆ เป็นการหยอกเอิน

“อาการดีขึ้นมาก หมอหลุยรักษาได้อย่างถูกต้อง”

“ผมจะหายใช่ไหมครับ” จรูญแสดงความตื่นเต้นยินดีผ่านแววตา

“อีกหนึ่งเดือนหายขาด” คุณหมอไฮเอ็ดหนวดงามสั่งการนายแพทย์ผู้ช่วย “คุณช่วยเขียนใบรับรองเดี๋ยวฉันเซ็นชื่อให้”

คุณหมอหลุยหยิบบัตรลาป่วยสำหรับข้าราชการ มากรอกเป็นบัตรรับรองให้ผู้ป่วยลาหยุดราชการเป็นเวลาหนึ่งเดือน และกำชับให้นำบัตรใบนี้ไปส่งมอบเจ้าหน้าที่ในการคัดเลือกทหารอาสารอบพิเศษ

“ขอบคุณคุณหมอมากครับ” จรูญยกมือไหว้นายแพทย์แผนกตาทั้งสองคน ความหวังที่แสนเลือนรางกลับมาสว่างเพราะความใจดีของคุณหมอ

เขาจะรักษาโรคทราโคม่าให้หายขาดเพื่อไปยุโรป

เขาจะทำทุกอย่างเพื่ออนาคตตัวเองและภรรยาสุดที่รัก

จบตอนที่สอง

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 18  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 12:41

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

จักษุแพทย์คนแรกของประเทศไทย



คุณหมอหลุยหรือศาสตราจารย์พันโทนายแพทย์หลวงประจักษ์เวชสิทธิ์ เกิดวันที่ 27 เดือนสิงหาคม 2436 ณ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เรียนจบแพทย์หลักสูตร 4 ปี ในปีพ.ศ. 2458 นับเป็นรุ่นที่ 21 ของโรงเรียนราชแพทยาลัย แล้วมาปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในตำแหน่งจักษุแพทย์ผู้ช่วย ตรงกับช่วงเวลาที่จรูญเข้ามารับการรักษาอาการริดสีดวงตาให้หายขาดก่อนไปยุโรป

หลวงประจักษ์เวชสิทธิ์เขียนบทความเรื่อง ‘การรักษาริดสีดวงตา’ ลงในวารสารทางการแพทย์เล่มแรกของประเทศไทย คือ ‘หนังสือจดหมายเหตุการแพทย์ของสภากาชาดสยาม’ เล่มที่ 1 เดือนเมษายน ต่อมาในปีพ.ศ. 2461 ท่านไปศึกษาต่อต่างประเทศและกลับมาบุกเบิกแผนกจักษุกรรมโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ในปีพ.ศ. 2467 นับได้ว่าเป็นแผนกจักษุกรรมแห่งแรกของไทย และเป็นจักษุแพทย์คนแรกของประเทศไทย

บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 606


ความคิดเห็นที่ 19  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 19:20

ตอนที่ 2 การคัดเลือกทหารอาสา


ด่านที่สามคือด่านสุดท้ายตัดสินว่าจะได้เป็นทหารอาสาหรือไม่ คุณหมอโรเบิร์ตสั่งเพิ่มถอดเสื้อตัวนอกโดยไม่ต้องเปลื้องผ้าม่วง แกใช้เครื่องฟังสัมผัสบริเวณหน้าอกและแผ่นหลังครู่หนึ่งแล้วพาลส่ายหัวไปมา
นายแพทย์ชาวฝรั่งเศสอธิบายด้วยภาษาไทย “คุณเป็นปอดพรุน”

“ปอดพรุน!” เพิ่มตกใจใบหน้าเปลี่ยนสี

เขาเพิ่งอายุสิบแปดร่างกายแข็งแรงเหมือนคนทั่วไป ไม่เคยเป็นโรคไม่เคยไอไม่เคยมีอาการเจ็บป่วย ปู่ย่าตายายและครอบครัวไม่เคยเป็นพระญาติของเสด็จในกรมฯ แล้วเหตุอันใดเล่าตัวเองถึงเป็นโรคปอดพรุน

รบกวนขยายความตรงนี้หน่อยค่ะ "ไม่เคยเป็นพระญาติของเสด็จในกรมฯ" เกี่ยวอะไรกับโรคปอดพรุนของเพิ่มคะ

“คุณเป็นปอดพรุนไปเมืองนอกไม่ได้” คุณหมอโรเบิร์ตพูดย้ำอีกครั้ง

เพิ่มอายุยังน้อยเพิ่งผ่านโลกแค่เพียงสิบแปดหนาว แค่รับรู้ข่าวร้ายสะเทือนใจเขาแทบทรงตัวไม่ไหว ไม่มีปัญญาโต้เถียงหรือหาทางแก้ไขปัญหาให้สำเร็จลุล่วง ชายหนุ่มทำได้เพียงรับบัตรประจำตัวก่อนก้าวเท้าจากไป

ทันทีที่รู้ข่าวจากต้นสังกัดเรื่องประกาศรับทหารอาสา เพิ่มตัดสินใจยื่นใบสมัครโดยไม่ปรึกษาคนในครอบครัว การมาคัดเลือกวันนี้คนที่รู้เรื่องมีเพียงที่หน่วยงาน เขาตั้งใจปกปิดเรื่องสมัครทหารอาสาจนกว่าจะผ่านการคัดเลือก แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของตัวเองจะแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี

จริงอยู่การคัดเลือกทหารอาสาไปยุโรปมีรอบเก็บตก บังเอิญตัวเองเป็นปอดพรุนทำอย่างไรก็ไม่ผ่านการคัดเลือก รวมทั้งเย็นนี้พ่อแม่พี่น้องต้องรู้เรื่องที่ตัวเองตั้งใจปิดบัง มีหวังถูกห้ามไม่ให้มาคัดเลือกอย่างแน่นอน

ชายหนุ่มวัยสิบแปดเดินคอตกกลับกรมยุทธโยธาทหารเรือ


บันทึกการเข้า
Anna
องคต
*****
ตอบ: 606


ความคิดเห็นที่ 20  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 19:26

ขอโทษค่ะ ที่ถามข้างบนนั่นมันพิมพ์ผิดพลาดแทรกเข้าไปในตัวเรื่อง

คือจะถามว่า

"ไม่เคยเป็นพระญาติของเสด็จในกรมฯ" เกี่ยวอะไรกับโรคปอดพรุนของเพิ่มคะ

ต้องกราบขอโทษจริงๆค่ะ ส่งเสร็จแล้วถึงรู้ว่าผิดพลาด แก้ไขเองก็ไม่ได้ด้วย ร้องไห้ ร้องไห้
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 21  เมื่อ 05 ส.ค. 24, 08:17

ผมเข้าใจว่าหนังสือต้นฉบับพูดถึงเสด็จในกรมบางพระองค์ประชวรโรคปอด แต่ยังหาไม่เจอว่าช่วงเวลานั้นคือพระองค์ไหน และเข้าใจว่าคนสมัยนั้นคิดว่าโรคปอดติดต่อทางสายเลือด

หมายเหตุ : เนื่องจากหนังสือต้นฉบับเขียนขึ้นในปี 2497 (เพิ่งเดินไปเปิดอ่าน) ฉะนั้นเสด็จในกรมน่าจะหมายถึงกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

หมายเหตุ 2 : แก้ไขข้อความได้นะครับแต่ภายในระยะเวลาจำกัด
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 22  เมื่อ 05 ส.ค. 24, 09:43

ตอนที่ 3 การคัดเลือกรอบพิเศษ

สัปดาห์ถัดมามีการคัดเลือกทหารอาสารอบพิเศษ เปิดโอกาสให้ผู้สมัครซึ่งมีปัญหาไม่ร้ายแรงได้แก้ตัว จรูญเดินทางออกจากบ้านพักเวลาเก้าโมงห้าสิบเก้านาทีห้าสิบเก้าวินาที เหตุผลที่ค่อนข้างล่าช้าเนื่องจากภรรยาพาไปตรวจดวงชะตา หลวงพ่อตู่เกจิชื่อดังวัดแถวบ้านช่วยหาฤกษ์งามยามดีให้ และกำชับแน่นหนาต้องก้าวขาขวาข้ามธรณีประตูก่อนขาซ้าย

กองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยทหารบกตั้งเต็นท์สนามเรียงกันสามตัว ชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดก้าวเท้าเข้าสู่ด่านแรกอย่างทระนงองอาจ พร้อมบัตรลาป่วยมีลายเซ็นคุณหมอไฮเอ็ดจักษุแพทย์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ในบัตรคุณหมอหลุยระบุว่าผู้ป่วยจะหายเป็นโรคทราโคม่าภายในหนึ่งเดือน

นี่คือใบเบิกทางช่วยให้จรูญได้เป็นทหารอาสา

พันเอกพระเฉลิมอากาศคือปราการด่านสุดท้าย จรูญต้องเดินมาพบในเต็นท์ที่สามเพื่อตามล่าลายเซ็น ผู้บังคับการกองบินทหารบกอ่านข้อมูลผู้สมัครเพียงครู่เดียว แล้วอดีตขี้เมาแห่งกรมตำราทหารบกก็ได้ไปยุโรป

ก่อนกลับบ้านจรูญให้เจ้าหน้าที่วัดสัดส่วนร่างกาย ถึงเวลาเข้ารับการฝึกเบื้องต้นจะได้มีเครื่องแบบสวมใส่ ผ่านไปประมาณสิบนาทีชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดเดินตัวปลิวออกมายืนริมถนน แล้วพาลประหลาดใจเมื่อได้พบเพื่อนเก่าสมัยเข้าร่วมกับคัดเลือกทหารอาสารอบแรก

“พี่จรูญ” เพิ่มยกมือไหว้ทว่าใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม

จรูญไม่รีรอรีบสอบถาม “นี่เอ็งยังไม่ผ่านการคัดเลือกรึ”

“ติดปัญหานิดหน่อยจ้ะ” เด็กหนุ่มอายุสิบแปดตอบคำถามสั้นๆ

ดูเหมือนคำตอบกลับทำให้จรูญงุนงงสงสัยหนักกว่าเดิม บังเอิญเขาไม่อยากละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวคนอื่นเหมือนที่ตัวเองเคยถูกกระทำ

“วันนี้การคัดเลือกค่อนข้างง่าย ข้าขอให้เอ็งโชคดี”

“ขอบใจจ้ะพี่ ฉันไปก่อนนะ” เพิ่มขอตัวเดินเข้าเต็นท์สนามหลังแรก

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 23  เมื่อ 05 ส.ค. 24, 09:46

เด็กหนุ่มอายุสิบแปดเดินทางมาคัดเลือกคนสุดท้าย เนื่องจากตัวเองทะเลาะกับทางบ้านค่อนข้างรุนแรง แต่ด้วยความมุ่งมั่นบวกต้องการปกป้องแผ่นดินบ้านเกิด เพิ่มลางานเดินทางมาที่กองบัญชาการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เพื่อทำการคัดเลือกทหารอาสารอบพิเศษสมดั่งความตั้งใจ

อีกหนึ่งเหตุผลที่เพิ่มจงใจมาถึงเป็นคนสุดท้าย รุ่นพี่ที่ทำงานเล่าให้ฟังว่าจำนวนทหารอาสายังไม่เพียงพอ คณะกรรมการต้องสรรหากำล้งพลให้ครบจำนวน ฉะนั้นมาทีหลังโอกาสได้รับการคัดเลือกย่อมมากกว่าเดิม

จำนวนผู้สมัครอาจมากกว่าจำนวนทหารอาสาที่รัฐบาลต้องการ แต่ผู้สมัครจำนวนหนึ่งไม่ผ่านการคัดเลือกด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เพิ่มมีปัญหาแค่เพียงคุณหมอระบุว่าตัวเองเป็นโรคปอดพรุน ถ้าผ่านการตรวจปอดเขาย่อมมีโอกาสเป็นทหารอาสามากกว่าคนอื่น

การตรวจสอบด่านแรกและด่านที่สองผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เหลือเพียงด่านสุดท้ายซึ่งในวันนี้ผู้ตรวจคือนายแพทย์ใหญ่ทหารบก พันตรีหลวงศักดาพลรักษ์ใช้เครื่องฟังสัมผัสหน้าอกและแผ่นหลังครู่หนึ่ง แล้วหันมาแจ้งข้อมูลกับปรึกษาพันเอกพระเฉลิมอากาศซึ่งเปรียบเสมือนผู้ชี้เป็นชี้ตาย

“สุขภาพปอดค่อนข้างดี ทำไมครั้งก่อนถึงตรวจไม่ผ่าน” ผู้บังคับการกองบินทหารบกสอบถาม “มีโรคประจำตัวหรือเปล่า”

“ไม่มีครับท่าน”

“แน่ใจว่าอยากเป็นทหารอาสา?”

“แน่ใจครับท่าน” เพิ่มยืนยันน้ำเสียงเต็มเปี่ยมความมั่นใจ

“ไปวัดตัว” รอยยิ้มเบาบางถูกส่งให้กับทหารอาสาคนสุดท้าย

“ขอบคุณมากครับ” เพิ่มยกมือไหว้สองคณะกรรมการคัดเลือก

ความดีใจแสดงออกผ่านสีหน้าแววตาและการกระทำ เมื่อตัวเองไม่ผ่านการคัดเลือกเพิ่มรีบปรับปรุงตัว หลังเลิกงานเขามักออกกำลังกายเรียกเหงื่อครึ่งค่อนชั่วโมง อยู่ห่างจากวงเหล้าทั้งรุ่นพี่ที่ทำงานและเพื่อนแถวบ้าน นอนมากกว่าเดิมหวังให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงเต็มร้อยดังเดิม

ครั้งก่อนอาจเป็นเพราะเขาตื่นเต้นเกินไปจนนอนไม่หลับ ร่างกายไม่แข็งแรงนายแพทย์ฝรั่งเศสระบุว่าเป็นปอดพรุน ครั้งนี้เขาทำสำเร็จได้เป็นทหารอาสาของในหลวง ออกไปทำหน้าที่สำคัญเพื่อชาติถึงในดินแดนยุโรป

เมื่อแม่เห็นเขาสวมชุดทหารอาสาแม่คงเลิกบ่นไปเอง

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 24  เมื่อ 06 ส.ค. 24, 08:26

เช้าวันรุ่งขึ้นเพิ่มทำงานตัวเองตามปรกติ ยังไม่มีกำหนดเรียกตัวทหารอาสาเข้ารับการฝึกเบื้องต้น กระทรวงกลาโหมต้องจัดเตรียมสถานที่และงบประมาณให้เสร็จเสียก่อน การจัดหาเครื่องแบบกับอาวุธประจำกายใช้เวลาอีกสองเดือน จากนั้นถึงเรียกระดมพลเพื่อกำหนดยศกับตำแหน่ง แล้วแบ่งหมวดหมู่เป็นกองร้อยย่อยคล้ายคลึงทหารประจำการ

เนื่องจากเพิ่มความรู้ค่อนข้างสูงกว่าเพื่อนร่วมงาน แตกฉานการอ่านชำนาญการเขียนลายมือสะสวยเหนือใคร เขามักถูกหัวหน้ามอบหมายให้ทำงานด้านเอกสารค่อนข้างบ่อย และมีส่วนร่วมกับรายงานสำคัญเกี่ยวข้องกับภารกิจลับสุดยอดกองทัพเรือในวันที่ 22 มิถุนายน 2460

การจับกุมและยึดทรัพย์เชลยทางน้ำรวมทั้งการตรวจตราทะเลไทยทั้งหมด หน้าที่ความรับผิดชอบตกเป็นของกระทรวงการทหารเรือ เนื่องจากน่านน้ำรอบประเทศไทยเป็นของประเทศเมืองขึ้นอังกฤษกับฝรั่งเศส เรือสินค้าเยอรมันทุกลำแล่นมาหลบภัยสงครามในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้เรือเชลยที่ทหารเรือบุกเข้ายึดครองมีจำนวนค่อนข้างมาก

ประเภทเรือกลไฟขนาดใหญ่ประกอบไปด้วย

เรือเดลี เรือพิษณุโลก เรือแลนเดรตไชฟฟ์ เรือเกาะสีชัง เรือเตราเตนเฟลส์ เรือเชียงใหม่ เรือเพชรบุรี เรือสามเสน และเรือปัตตานี

ประเภทเรือกลไฟขนาดเล็กประกอบไปด้วย

เรือแปดริ้ว เรือแม่น้ำ เรืออันไดน์ เรือไซคลอป เรือจันทบูรณ์ เรือท่าจีน และเรือบางปะกง

ประเภทเรือลำเลียงประกอบไปด้วย

เรือลีฮี เรือปรีเมน เรือเบิก เรือคิสมันดี เรือลีซัม เรือปริเมอร์ฮาเวน และเรือเวกแซก

ประเภทเรือบรรทุกถ่านหินประกอบไปด้วย

เรือกิลเดท์และเรือแอลติบาเรน

รวมเป็นเรือทั้งหมดจำนวน 25 ลำ

ระวางขับน้ำรวมกันเท่ากับ 232,808 ตัน

“เยอะมาก” เด็กหนุ่มอายุสิบแปดแทบไม่อยากเชื่อสายตา

“กว่าจะยึดหมดทุกลำปาเข้าไปบ่ายโมง” เหมซึ่งอยู่ในเหตุการณ์เล่าเรื่องราวให้เพื่อนร่วมงานทุกคนฟัง

“พี่เหมฉันอยากรู้ ทำไมเรือเยอรมันชื่อไทย” เพิ่มมีคำถาม

“พูดเรื่องนี้แล้วข้าสงสาร คนเยอรมันที่ข้ามทะเลมาหากินในไทย พากันเรียนรู้ภาษาไทยจนพอสื่อสารได้ ขนาดชื่อเรือยังเปลี่ยนเป็นชื่อไทย ตอนถูกยึดเรือพวกเขาไม่ขัดขืนสักคน เหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองดี”

 
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 25  เมื่อ 06 ส.ค. 24, 08:39

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

นี่คือภาพเรือหลวงเจนทะเลแห่งราชนาวีไทย อดีตเป็นเรือกลไฟขนาดเล็กของเยอรมันชื่อเรือท่าจีนก่อนถูกยึดเป็นเรือเชลยในปฎิบัติการลับสุดยอด เป็นเรือเชิญพระศพพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ จากจังหวัดชุมพรเข้ามายังกรุงเทพ ต่อมาในปี 2478 เรือถูกเปลี่ยนชื่อเป็นเรือหลวงคราม

ทีแรกผมหาข้อมูลไม่ได้เรือลำนี้ชื่ออะไรกันแน่ คิดไปคิดมาเราเคยเขียนบทความในเว็บเพจนี่นา...แก่แล้วก็แบบนี้แหละ  ลังเล


 
บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 26  เมื่อ 06 ส.ค. 24, 17:06

เหมก็เป็นอีกหนึ่งคนที่เข้าข้างเยอรมัน รู้ตัวว่าต้องเข้าร่วมปฏิบัติการลับเขาตกใจมาก คนเยอรมันทุกคนนิสัยดีไม่เคยสร้างปัญหาวุ่นวาย ทำไมประเทศไทยประกาศสงครามกับเยอรมันแทนที่จะเป็นฝรั่งเศส

“เอ็งต้องไปยุโรปวันไหน” เหมชวนรุ่นน้องพูดคุย

“ยังไม่รู้เลยพี่ แต่คิดว่าเป็นปีหน้า”

“พ่อแม่รู้เรื่องแล้วใช่ไหม”

“จ๊ะพี่…ตีกันบ้านเกือบแตก”

“ก็เอ็งมันหาเรื่องเอง อยู่ดีไม่ว่าดีดันอยากรบกับทหารเยอรมัน”

“ฉันไม่ได้อยากรบกับทหารเยอรมัน ฉันแค่อยาก…เอ่อ…ฉัน”

ตกลงตัวเองอยากทำอะไรถึงสมัครทหารอาสา

เพิ่มนั่งคิดนอนคิดมาหลายคืนแต่หาคำตอบไม่ได้เสียที

“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน งานที่ข้าสั่งเสร็จแล้วใช่ไหม”

“เสร็จแล้วจ้ะ พี่เหมฉันอยากรู้” เพิ่มมีคำถามใหม่

“เอ็งอยากรู้เรื่องอะไร”

“เราจะทำยังไงกับเรือเชลยพวกนี้”

“เรื่องนี้ข้าไม่รู้ดอก”

“แล้วคนเยอรมันล่ะพี่ ต้องส่งไปยุโรปหรือเปล่า”

“บอกแล้วไงข้าไม่รู้ อยากรู้ไปถามคนบนตึกโน่น” ถูกเซ้าซี้บ่อยครั้งเหมชักเริ่มรำคาญพาลเดินหนีเข้าห้องน้ำ

กระทรวงการทหารเรือวางแผนการบุกยึดเรือเชลยอย่างรอบคอบ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต กับพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยให้ช่วยกันดูแล การบุกยึดเรือเชลยจึงเป็นระเบียบแบบแผนไม่มีความสูญเสีย

การบุกยึดเรือเชลยยังเป็นการประกาศให้คนทั่วโลกรับรู้ว่า ประเทศไทยประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมันและเข้าร่วมฝ่ายสัมพันธมิตร

บังเอิญคนไทยในพระนครได้ยินแต่ข่าวฝรั่งเศสกำลังย่ำแย่ เยอรมันเปิดฉากบุกและประกาศชัยชนะในทุกสมรภูมิ จึงพลอยเกิดความไม่สบายใจกลัวประเทศไทยเลือกข้างผิด ถ้าเปิดโอกาสให้ลงคะแนนคนส่วนใหญ่ซึ่งรู้จักห้างบีกริม คงเลือกเป็นมิตรกับฝ่ายเยอรมันมากกว่าฝ่ายสัมพันธมิตร

การประกาศสงครามเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เพิ่มหาคำตอบไม่ได้

จบตอนที่สาม

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 27  เมื่อ 06 ส.ค. 24, 17:07

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย

คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกทหารอาสาแต่งตั้งโดยเสนาบดีกระทรวงกลาโหมประกอบไปด้วย

1.พันเอกพระยาสุรเสนา ปลัดกรมเสนาธิการทหารบก

2.พันเอกพระเฉลิมอากาศ ผู้บังคับการกองบินทหารบก

3.พันเอกพระยาอุปเทศทวยหาร เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก

4.พันตรีหลวงรามภักดี นายทหารคนสนิทเสนาธิการทหารบก

5.พันตรีหลวงศักดาพลรักษ์ แพทย์ใหญ่ทหารบก

6.นายแพทย์โรเบิร์ต

ปล.ภาพประกอบมีค่อนข้างน้อยนะครับ

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 28  เมื่อ 07 ส.ค. 24, 09:51

ตอนที่ 4 พ่อนพกับแม่ช้อย

วันที่ 28 สิงหาคม 2460 พันโทพระทรงสุรเดชเสนาธิการกองพลทหารบกที่ 4 เดินทางมาที่บ้านหลังใหญ่ติดคลองบางรักของนายล้วน พร้อมชายหนุ่มรูปร่างสะโอดสะองสวมเครื่องแบบทหารบกไทย

ชายหนุ่มคนนี้ชื่อร้อยตรีนพ นายทหารคนสนิทพันโทพระทรงสุรเดช

เขากับเจ้านายเดินทางมาที่นี่เพราะมีเรื่องสำคัญต้องการจัดการ

และดูเหมือนว่าเจ้าของบ้านหลังใหญ่ริมคลองจะรู้ตัวล่วงหน้า

“คุณพระเชิญดื่มน้ำขอรับ” ล้วนให้การต้อนรับขับสู้

“ขอบใจ” เสนาธิการกองพลทหารบกที่ 4 พูดเข้าเรื่องทันที “ฉันมาสู่ขอแม่ช้อยให้พ่อนพ เด็กสองคนนี้ผูกสมัครรักใคร่นานหลายปี ฉันคิดว่าถึงเวลาที่สองครอบครัวจะได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน”

คหบดีคนดังสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี “ไม่เร็วไปหน่อยเหรอขอรับ”

“ไม่หรอก…อีกไม่กี่เดือนฉันกับพ่อนพต้องเดินทางไปยุโรป ในหลวงมีพระราชโองการจัดตั้งคณะทูตทหารพิเศษ พ่อนพได้รับตำแหน่งนายทหารติดต่อประจำสถานทูตไทยในยุโรป เมื่อแม่ช้อยแต่งงานกับพ่อนพให้ไปอยู่ที่นั่นด้วยกัน จะได้เปิดหูเปิดตากลับมาช่วยงานทางบ้านอีกแรง”

ล้วนทำกิจการเกี่ยวข้องกับร้านปรุงยาตำรับตะวันตก เป็นคู่ค้าร้านปรุงยาสยามดิสเป็นซารี่ของเจ้าของห้าบีกริม ส่งผลให้ตัวเองร่ำรวยกว่าเดิมภายในเวลาไม่กี่ปี รวมทั้งทำให้นิสัยใจคอเปลี่ยนแปลงไปราวฟ้ากับเหว

“คุณพระขอรับ” ล้วนให้เหตุผลทัดทาน “ตอนนี้ยุโรปกำลังลุกเป็นไฟ เยอรมันใกล้เอาชนะฝรั่งเศส กระผมไม่อยากให้ลูกสาวตกระกำลำบาก”

“พ่อนพไม่ได้อยู่แนวหน้า ฉันกล้ารับประกันความปลอดภัย”

“ผมไม่ไว้วางใจอยู่ดี”

“อีกไม่นานฝ่ายเยอรมันต้องแพ้พ่ายเชื่อฉัน”

“ผมยิ่งไม่ไว้มากกว่าเดิม”

“นายล้วนติดขัดตรงไหนรึ”

“กระผมกลัวฝรั่งเศสขอรับ ถ้าพวกมันชนะทหารเยอรมันอย่างที่คุณพระพูด พวกมันไม่รุกรานบ้านเมืองเราเหมือนที่แล้วมาหรือขอรับ กระผมเองอายุมากขึ้นทุกปี อยากได้ลูกเขยที่สามารถดูแลแม่ช้อยได้”

พันโทพระทรงสุรเดชแอบถอนหายใจเสียงดัง

ครั้งแรกบอกว่าเยอรมันจะชนะฝรั่งเศส

ต่อมาบอกว่าฝรั่งเศสจะรุกรานประเทศไทย

ท่าทางนายล้วนคงไม่อยากเกี่ยวดองกับพ่อนพ

การทำหน้าที่พ่อสื่อครั้งแรกของตัวเองกำลังจะล้มเหลว

เวลาเดียวกันเจ้าของบ้านแอบสังเกตสีหน้าผู้มาเยือน ล้วนเข้าใจดีตัวเองแสดงกิริยามารยาทไม่เหมาะสม เปิดเผยชัดเจนเกินไปเรื่องไม่อยากได้ลูกเขย จำเป็นต้องหาทางปะนีปะนอมไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินงาม

“คุณพระขอรับ ถ้าพ่อนพกลับจากราชการสงครามแบบมีหน้ามีตา กระผมยินดียกลูกสาวให้พร้อมทรัพย์สินจำนวนหนึ่ง”

บันทึกการเข้า
superboy
สุครีพ
******
ตอบ: 818


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 29  เมื่อ 07 ส.ค. 24, 09:53

ตัวละครหลักมาครบแล้วครับ แค่สามคนพอประเดี๋ยวเนื้อเรื่องออกทะเลมากเกินไป  เจ๋ง

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 12
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.046 วินาที กับ 19 คำสั่ง