การรบที่แวร์เดิงค่อนข้างผิดแปลกไปจากที่อื่น ทหารทั้งสองฝ่ายอยู่ในป้อมที่ตัวเองเป็นผู้ยึดครอง การรบหลักคือการระดมยิงปืนใหญ่ไม่ใช่การรบระยะประชิด ต่างจากสมรภูมิแห่งอื่นที่สนามเพลาะมักอยู่ห่างกันไม่เกินสามสิบเมตร เวลาพักรบทหารสองฝ่ายตะโกนโต้ตอบกันได้ ที่นี่ฝนตกหนัก หมอกหนาทึบ ลมกรรโชกแรง กระสุนปืนเล็กยาวแทบไม่มีประโยชน์ใดๆ
ทหารเยอรมันใช้กระสุนปืนใหญ่วันละเจ็ดหมื่นนัด กระสุนจำนวนมากพลัดตกบ้านเรือนแถวนั้นจนพังพินาศ พื้นที่โดยรอบเปรียบเสมือนลูกคลื่นไกลลิบลับสุดลูกหูลูกตา เนื้อดินถูกเผาซ้ำแล้วซ้ำอีกจนดูเหมือนขี้บุหรี่ พลเอกมกุฎราชกุมารของเยอรมันเป็นผู้บัญชาการเข้าตีป้อมแวร์เดิง ว่ากันว่าถ้าเขาสำเร็จจะได้เลื่อนยศจากไกเซอร์เป็นจอมพล ทหารเยอรมันห้าแสนนายถูกส่งมาที่แวร์เดิง สมรภูมิด้านอื่นจึงพลอยอ่อนด้อยตกเป็นรอง
เยอรมันเปลี่ยนมาใช้กำลังทหารราบบุกทะลวง ได้รับการสนับสนุนจากปืนใหญ่นับร้อยกระบอก สามารถทะลุแนวป้องกันยึดป้อมปืนสำคัญสมความตั้งใจ ฝรั่งเศสรีบหันปากกระบอกปืนใหญ่ใส่ป้อมที่ตัวเองเคยยึดครอง ทหารเยอรมันต้องถอยร่นมารวมตัวอยู่ในป้อมหลบหนีไม่ได้ ติดต่อกับเพื่อนตัวเองก็ไม่ได้ เมื่อถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรโต้กลับต้องยกธงชาวยอมแพ้

การรบครั้งสุดท้ายที่แวร์เดิงฝรั่งเศสใช้ปืนใหญ่แปดร้อยกว่ากระบอกยิงถล่มติดกันหกวัน ใช้กระสุนปืนใหญ่รวมกันมากกว่าหนึ่งล้านหนึ่งแสนนัด กำลังเสริมของเยอรมันเดินทางมาช่วยช้าเกินไป แนวต้านซึ่งมีกำลังพลน้อยกว่าพังทลายราบคาบ ทหารเยอรมันหลักหมื่นคนถูกจับเป็นเชลย”
เหตุผลที่การรบที่แวร์เดิงเกิดความสูญเสียอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมกุฎราชกุมารเยอรมันไม่ต้องการเสียหน้า เขาสั่งทหารบุกเข้าตีอย่างหนักเพื่อยึดป้อมกลับ กำลังพลอันแสนเกรียงไกรเริ่มอ่อนล้าไร้ประสิทธิภาพ มีการเจรจาพักรบหลายครั้งเพื่อเก็บศพเพื่อนทหารฝ่ายตัวเอง
พลตรีพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ปิดท้ายด้วยคำพูดชวนเศร้าใจ
“เวลาสามร้อยสามวันมีผู้เสียชีวิตมากกว่าสามแสนคน ฝรั่งเศสอาจได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดที่แวร์เดิง แต่ต้องสูญเสียทหารในการรบมากกว่าฝ่ายเยอรมัน ส่งผลให้กองทัพฝรั่งเศสที่กำลังเหนื่อยล้าใกล้ล่มสลาย เหตุผลที่ฝรั่งเศสยังไม่แพ้พ่ายในสงคราม เนื่องจากแนวรบด้านตะวันตกเป็นแนวสนามเพลาะความยาวมากกว่าเก้าพันหกร้อยกิโลเมตร”
ความใหญ่โตของสงครามคือสิ่งหยุดยั้งไม่ให้เยอรมันได้รับชัยชนะ
สงครามโลกสร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ต่อทุกชาติในยุโรป
ชีวิตมนุษย์ถูกสังเวยโดยเปล่าประโยชน์ ไม่มีรางวัลใดๆ ที่จะได้รับหรือสูญเสีย มีแต่การฆ่ามนุษย์และเกียรติศักดิ์แห่งการได้ชัยชนะเท่านั้น
จบตอนที่ 23
ภาพล่างคือสภาพป้อมดูโอมองค์หลังสิ้นสุดสงคราม มองเห็นร่องรอยกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากรอบตัวป้อม สถานที่แห่งนี้คือการรบครั้งสำคัญลำดับต้นๆ ของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
