แย่กับแย่กว่า: เมื่อคุณปู่เชื่องช้าท้าชนคุณตาขี้จุ๊

[เทาชมพู]

    คลื่นลูกล่าสุดที่ซัดคุณปู่เข้าให้คือข่าวว่าคุณปู่ไบเดนป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease) อันเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของเซลล์สมอง โดยเฉพาะส่วนที่สร้างโดพามีน (dopamine) ทำให้โดพามีนมีปริมาณน้อยลง จึงส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการเคลื่อนไหว เช่น มือสั่น  พูดช้า เสียงค่อย เดินลำบาก หกล้มง่าย
   สาเหตุคือสื่อไปพบว่ามีแพทย์นักประสาทวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคพาร์กินสัน จากศูนย์การแพทย์ทหารวอลเตอร์ รีด ชื่อนายแพทย์เควิน แคนนาร์ด เดินทางมายังทำเนียบขาวบ่อยผิดปกติ  คือตั้ง  8 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้
    แต่อย่างไรก็ตาม เลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาวชื่อ คารีน ชอง ปิแยร์ ก็ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ทันควันว่าไม่เป็นความจริง   แต่ว่าคุณหมอมาทำไมตั้ง 8 ครั้งเธอไม่ได้ให้คำตอบ

[SILA]

ดูอยู่ห่างๆ อย่าง(ธรรม)สังเวชวังเวง
ทำไม,เหตุใด,กรรมไหนพาให้มาถึงจุดนี้
ศรีอุษา(USA) สิ้นคนดี

sun.com

[เทาชมพู]

[ภศุสรร อมร]

คงต้องรอดูกันต่อครับ จุดที่น่ากลัวสำหรับอเมริกายิ่งไปกว่าอาการป่วยของไบเด้นแล้วก็คือ ถ้าประธานธีบดีป่วยถึงขั้นที่ว่าไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่อันควรของตำแหน่งได้แล้ว แล้วผู้ใดเล่าที่เป็นคนเชิดหุ่นอยู่เบื้องหลัง? ซึ่งความเป็นไปได้นี้ถ้าหากวิเคราะห์ในระดับประเทศแล้ว ถือว่าน่ากลัวเอาเรื่องทีเดียว

[ภศุสรร อมร]

แต่ขอสันนิษฐานที่ไม่มีอ้างอิงก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ที่ปฎิเสธไม่ได้คืออาการเงอะงะของไบเด้นที่เราได้เห็นการมาหลายรอบ เรื่องนี้เป็นการทรมานสังขารคนชราคนหนึ่งเกินควรรึไม่ก็คงแล้วแต่ประชาชนอเมริกาเป็นผู้ตัดสิน

[เทาชมพู]

ถ้าประธานาธิบดีปฏิบัติงานไม่ได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม รองประธานาธิบดีก็จะปฏิบัติงานแทนในช่วงนั้นค่ะ
แต่ก็ต้องชั่วคราวเท่านั้น   ไม่ใช่ลาป่วยยาวเป็นปีแล้วมีคนแทน

คลิปข้างล่างนี้ เจาะมาเฉพาะอาการเคลื่อนไหวของไบเดน ตลอดจนกิริยาอาการอื่นๆที่ดูแปลกประหลาด เมื่อเทียบกับคนทั่วไปที่สุขภาพปกติ
ทำให้นึกห่วงคุณปู่   ถ้าเป็นปู่อื่นๆที่อยู่บ้านเล่นกับหลานหรือไถเครื่องตัดหญ้าที่สนาม ก็ต้องบอกว่าสุขภาพยังใช้ได้สำหรับคนวัยนี้   แต่ถ้าทำงานในหน้าที่ผู้นำประเทศ  เห็นทีจะน่าเป็นห่วงมากๆ

[ภศุสรร อมร]

ถ้าประธานาธิบดีปฏิบัติงานไม่ได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม รองประธานาธิบดีก็จะปฏิบัติงานแทนในช่วงนั้นค่ะ
แต่ก็ต้องชั่วคราวเท่านั้น   ไม่ใช่ลาป่วยยาวเป็นปีแล้วมีคนแทน

คลิปข้างล่างนี้ เจาะมาเฉพาะอาการเคลื่อนไหวของไบเดน ตลอดจนกิริยาอาการอื่นๆที่ดูแปลกประหลาด เมื่อเทียบกับคนทั่วไปที่สุขภาพปกติ
ทำให้นึกห่วงคุณปู่   ถ้าเป็นปู่อื่นๆที่อยู่บ้านเล่นกับหลานหรือไถเครื่องตัดหญ้าที่สนาม ก็ต้องบอกว่าสุขภาพยังใช้ได้สำหรับคนวัยนี้   แต่ถ้าทำงานในหน้าที่ผู้นำประเทศ  เห็นทีจะน่าเป็นห่วงมากๆ

เห็นทีคงจะเป็นเช่นนั้นครับ ถ้ารองประธานาธีบดีไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อีก ผู้ที่จะมาแทนที่ก็เป็นท่านประธานสภาฯ สหรัฐนั้นมีลำดับการสืบตำแหน่งนับตั้งแต่รองประธานาธีบดี ลงไปยันรัฐมนตรีต่างต่าง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เคยมีกรณีที่ประธานสภาต้องมาทำหน้าที่แทนสักครั้ง ถือเป็นเพียงแผนกรณีฉุกเฉิน กรณีรองประธานาธีบดีปฎิบัติแทนที่เห็นชัดที่สุดก็คือกรณีการลอบสังหาร จอน เอฟ เคนนาดี้ เมื่อกว่าหกสิบปีที่แล้ว
เชิญทุกท่านดูลำดับสืบตำแหน่งที่ว่าได้ตามนี้: https://www.usa.gov/presidential-succession

อาการแปลกประหลาดของปู่ไบเด้นนั้น ผมว่าหากเป็นคนธรรมดาคงจะอนุโลมว่าเป็นอาการของการชราภาพได้ แต่ตำแหน่งประธานาธิบดีนี้ทราบกันดีว่ามีความเครียดสูง รับผิดชอบแบกหามความเป็นอยู่ทั้งชาติไว้บนบ่าทั้งสอง อีกทั้งกระผมคิดว่า ปัจจัยในความคงอยู่คงร่างกายและจิตใจที่ดีนั้น สุขภาพกายควรเป็นอเนกกับสุขภาพใจ ถ้าหากอันใดอันหนึ่งเสียสมดุลไป ทั้งโครงสร้างก็ย่อมต้องค่อยค่อยทรุดลงตามกันดั่งโดมิโน้พังทลาย

[superboy]

นายกรัฐมนตรีอังกฤษสลับมาอยู่พรรคแรงงาน สหรัฐอเมริกาคงไม่แคล้วเปลี่ยนฝั่งตามกันเพราะตัวผู้สมัคร ท่าทางคุณปู่ซู่ซ่าคงจะซู่ซ่าไม่ไหวแล้ว

[ปัญจมา]

เสียงเรียกร้องให้คุณปู่ถอนตัวน่าจะเบาลงนิดในช่วงกลางถึงท้ายสัปดาห์  เพราะนักการเมืองในพรรคเดโมแครตต้องให้เกียรติท่านปธน.ในช่วงที่สหรัฐเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดของ NATO ในกรุงวอชิงตันดีซี  ไบเดนมีกำหนดที่จะแถลงข่าวหลังการประชุม NATO ในเย็นวันพฤหัสหรือเช้ามืดวันศุกร์ในเวลาบ้านเรา   สายตาของชาวโลกก็คงจะพุ่งไปที่คุณปู่แน่ๆ ค่ะอาจารย์ 

[เทาชมพู]

ตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณปู่จะต้องวางมือกับศึกคุณตาไปก่อนค่ะ   ยกแรกที่เจอคือทำศึกชนะสุขภาพตัวเองให้ได้ก่อน
มันกลายเป็นว่า ไม่ต้องคิดแล้วว่าจะเลือกไบเดนหรือทรัมป์  แต่มาคิดดีกว่าว่าเลือกไบเดนไหวไหม?

อดีตนักเขียนสุนทรพจน์ของจอร์จ ดับเบิลยู บุช เดวิด ฟรัม ออกโรงมาย้ำความกลัวของชาวเดโมแครตทั้งหลาย ว่าอันตรายคือประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ อาจแพ้การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน เพราะสุขภาพตัวเองเป็นเหตุ
ความผิดพลาดของคุณปู่ที่ไม่ประเมินกำลังกายของตัวเองมากพอ   ทำให้แสดงอะไรๆผิดพลาดออกไปหลายอย่างในการอภิปรายชิงตำแหน่งประธานาธิบดี  กลายเป็นกระแสไวรัลในทางลบอยู่ขณะนี้  เกิดเสียงเรียกร้องให้เขาถอนตัวจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยไม่ต้องดูว่าคู่แข่งคุณปู่ดีหรือไม่ดี
คุณตาแกก็คงนั่งเอกเขนก หัวเราะฟันโยก รอนับเวลาคืนกลับทำเนียบขาว

[ปัญจมา]

อัพเดทข่าวคราวกันสักนิดนะคะ

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สถานีโทรทัศน์  ABC ได้นำการสัมภาษณ์แบบเอ็กซ์คลูซีฟกับท่านปธน. โจ ไบเดนมาออกอากาศแบบเต็มๆ  จากที่ก่อนหน้านี้ประกาศว่าจะนำบางส่วนมาให้ชิมลางกันก่อนในวันศุกร์  แล้วจะนำที่เหลือไปออกในรายการ This Week ของนายจอร์จ สเตฟานอพูลอสในวันอาทิตย์ถัดไป   ใครที่ยังไม่ได้ดูก็กดลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ

[ปัญจมา]

คนในพรรคเดโมแครตที่แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย  คือฝ่ายที่รอดูว่าท่านจะสามารถแก้ต่างให้แก่ตัวเองได้อย่างขึงขังหรือไม่ในระหว่างการสัมภาษณ์ครั้งนี้   กับฝ่ายที่รอดูว่า performance ท่านจะยิ่งแย่ไปกว่าคืนดีเบตอีกหรือเปล่า  ต่างก็ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน   เพราะวิธีที่ท่านรับมือกับคำถามโหดๆ ของคุณจอร์จนั้นไม่ได้แย่จนขนาดที่คนรอสัญญาณลบจะได้ใจ  แต่ก็ไม่ได้ดีจนทำให้ฝ่ายที่สนับสนุนมีกำลังใจขึ้นกว่าเก่า  เลยทำให้สถานการณ์มันยังอยู่ในขั้นที่เรียกว่ากลับไม่ได้ไปไม่ถึงอยู่  ไม่มีอะไรที่มันชัดเจน เด็ดขาดเลย

พอวันจันทร์ ท่านปธน. ก็ส่งจดหมายถึงคนของพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรงสหรัฐ    ยืนยันว่ายังไงท่านก็จะไม่ถอนตัวเป็นแน่  เพราะท่านเชื่อว่าท่านเป็นคนเดียวที่จะสามารถเอาชนะทรัมป์ได้   แล้วก็อ้างถึงผลการเลือกตั้งขั้นต้นหรือไพรมารี่ที่ผ่านมาซึ่งท่านได้ชัยชนะอย่างขาดลอยว่า  ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้เลือกแล้วว่าจะให้ท่านเป็นผู้ลงแข่งขัน   เราต้องฟังเสียงของพวกเขา  รวมทั้งขอให้ทุกคนเลิกเถียงกันเรื่องนี้แล้วเอาเวลาไปโฟกัสกับงานประชุมใหญ่ของพรรคและกับการหาเสียงต่อดีกว่า เพราะถ้าเราแตกคอกันเองเราก็จะแพ้คู่แข่ง

นอกจากนั้น  ไบเดนยังได้โทร.เข้าไปในรายการข่าว Morning Joe ทางสถานีโทรทัศน์ MSNBC ซึ่งเป็นอะไรที่ปธน.คนอื่นไม่เคยทำมาก่อน   (ยกเว้นท่านปธน. ทรัมป์ที่ชอบโทร.เข้าไปคุยกับ Fox & Friends เป็นกิจวัตร  เพราะผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวของ Fox News นั้นต่างก็ชอบ brown nose ท่าน)  เพื่อย้ำให้คนดูทางบ้านฟังว่ายังไงตัวเองก็ไม่ถอย   แถมยังเหวี่ยงใส่คนในพรรคและ donors ที่ออกมาเรียกร้องให้ท่านถอนตัวด้วยว่าเป็นพวกหอคอยงาช้าง  ไม่เข้าใจความต้องการของคนเดินดินกินข้าวแกงตามท้องถนน 

ในขณะเดียวกัน   ทีมงานของท่านก็พยายามขายไอเดียให้สื่อกับนักการเมืองในพรรคซื้อว่า เลิกวงคุยได้แล้วน้า เรื่องนี้มันจบแล้วเพราะท่านปธน.ได้ตัดสินใจแล้วว่าอยู่ต่อจ้า   แล้วพอมีนักข่าวถามในระหว่างงานแถลงข่าวของทำเนียบขาว  เรื่องที่มีข่าวว่าแพทย์ผู้เชียวชาญโรคพาร์กินสันได้มาที่ทำเนียบขาว 8 ครั้งใน 8 เดือนที่ผ่านมา  โฆษกของท่านปธน.ก็เหวี่ยงใส่นักข่าวแบบไม่ยั้งจนนักข่าวงงไปตามๆ กัน  แถมเวลาตอบก็ตอบไม่ตรงคำถาม  ยิ่งทำให้คนลือกันหนักเข้าไปอีกว่าคุณปู่ต้องเป็นพาร์กินสันแน่ๆ   จนในที่สุดหน.แพทย์ประจำทำเนียบขาวต้องออกมาแถลงว่าหมอพาร์กินสันคนที่ว่าคือผู้เชี่ยวชาญโรคทางสมองที่ท่านปธน.เจอในระหว่างการตรวจร่างกายประจำปีที่ทำมาต่อเนื่องทุกปี   และเป็นหมอที่มาให้คำปรึกษาแก่บรรดาจนท.ทั้งพลเรือนและทหารที่ประจำการอยู่ในทำเนียบขาวมาเป็น 10  ปีแล้ว  รวมทั้งยืนยันว่า  คุณหมอตรวจท่านปธน. เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมค.ที่ผ่านมา  และทางทำเนียบขาวก็ได้เผยแพร่ผลการตรวจในครั้งนั้น (ซึ่งระบุว่าคุณปู่ไม่มีอาการทางประสาทหรือสมองให้ต้องกังวลแต่อย่างใด) ไปตั้งแต่เดือนกพ. 

[เทาชมพู]

เพราะผู้ดำเนินรายการและผู้ประกาศข่าวของ Fox News นั้นต่างก็ชอบ brown nose ท่าน) 

เชิญคุณปัญจมาอธิบายภาษาอเมริกันวันละคำ brown nose นะคะ  คำนี้ตอนได้ยินครั้งแรกงง ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร    เพราะชื่อกับความหมายของมันต่างกันสุดขอบฟ้า

[ปัญจมา]

พอวันพุธ ไบเดนก็ไปเป็นเจ้าภาพงานประชุมสุดยอดของ NATO และอ่านสุนทรพจน์ทางเทเลพรอมพ์เตอร์แบบใส่อารมณ์เสียงดังฟังชัดเพราะเป็นงานกลางวัน 555    แต่นั่นก็ไม่ได้กลบรายงานข่าวที่ว่าในระยะหลังๆ นี้คนในทำเนียบขาวดูเหมือนจะพยายามกลบเกลื่อนอาการเลอะเลือนแบบผู้ชราของท่านมากเป็นพิเศษ  เช่น มีการจัดให้ท่านไปแต่งานที่มีสคริปต์กับเทเลพรอมพ์เตอร์   ถ้าเป็นงานหาเสียงก็ให้ท่านพูดแพร้บเดียวไม่เกิน 10 นาทีแล้วกลับ  ซึ่งต่างจากท่านโจ ไบเดนในอดีตที่พูดเป็นต่อยหอยชนิดไล่แล้วยังไม่ยอมกลับ   เวลาไปพบ donors ก็จะให้ท่านพูดอย่างเดียวไม่ให้ตอบคำถาม   (ว่ากันว่ามีงานหนึ่งซึ่งเป็นงานเล็กๆ แบบ intimate จัดในห้องนั่งเล่น  แต่ก็ยังมีเทเลพรอมพ์เตอร์ให้ท่านอ่านสคริปต์อีก)    แน่นอนว่าข่าวแบบนี้มีแต่จะทำให้คุณปู่ดูแย่ลง  แต่ทีมงานของท่านก็สะบัดบ๊อบใส่ใครก็ตามที่ออกมาเรียกร้องให้ท่านถอยแบบโนสนโนแคร์เหมือนเดิม  

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันพุธนี่แหละค่ะที่ทำให้คุณปู่ต้องสะเทือน    เพราะคุณป้าแนนซี่ เปโลซี่  อดีตประธานสภาผู้แทนของพรรคเดโมแครต  เพื่อนรักคนหนึ่งของท่าน  ได้ออกมาพูดแบบเป็นนัยๆ ผ่านรายการเดียวกันกับที่ท่านโฟนอินว่า  เส้นตายที่ท่านจะตัดสินใจนั้นคือหลังจากที่ NATO Summit ได้สิ้นสุดลงแล้ว   (ว่ากันว่ารายการ Morning Joe นี้คือรายการที่ไบเดนชอบดู)  อันนี้คืออะไรที่นักข่าวฮือฮามาก  เพราะรู้ดีว่าคุณป้าเปโลซี่นั้นเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เยี่ยมยอด   ความเก๋าของเธอมาจากการที่เธออยู่มานานเกือบจะเท่าไบเดน  ในระหว่างรายการนี้  คุณป้าดูเหมือนจะกำลังพยายามโน้มน้าวคุณปู่ไบเดนในเวอร์ชั่นที่ทุกคนคุ้นเคย   คือเวอร์ชั่นที่ยอมถอยให้ฮิลลารี่ คลินตันเป็นผู้เข้าแข่งขันกับทรัมป์ในปี 2016 แทนที่จะเป็นท่านรองปธน.ไบเดนเหมือนที่ควรจะเป็น    เพราะไบเดนคนนั้นเป็นคนที่วางประโยชน์ของชาติและปชช. เหนืออีโก้ของตัวเอง โดยคุณป้าพูดว่า  “มันก็แล้วแต่ท่านปธน.แหละค่ะว่าท่านจะอยู่หรือไป   เราต่างก็พยายามโน้มน้าวท่านให้ตัดสินใจเพราะเวลามันเหลือน้อยลงทุกที”

ซึ่งถ้าจะนับว่าไบเดนได้ยืนยันในจดหมายถึงคองเกรสแล้วเมื่อวันจันทร์ว่ายังไงก็ไม่ไป๊ ไม่ไป อันนี้คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากว่า  “เรื่องนี้มันยังไม่จบนาจ๊า”  

นอกจากนั้น วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตซึ่งก่อนหน้านี้ยังเงียบอยู่  ปล่อยให้เพื่อนสส.เขาออกสื่อกันไป  ก็เริ่มมาแสดงความกังวลกันอย่างเปิดเผยแล้วว่าท่านจะพาพรรคแพ้ไปด้วย   เพราะผลสำรวจผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในรัฐที่เดโมแครตยังไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่านั้นชี้ว่า  ถ้าไบเดนยังเป็น nominee อยู่  โหวตเตอร์อาจจะหันไปเลือกฝั่งผู้แทนจากพรรครีพับลิกันแทน)

สรุปว่าสัปดาห์นี้ถึงแม้จะมีการขอร้องกันแล้วว่าอย่าทำให้ท่านปธน.ดูแย่ในระหว่าง NATO Summit นาจ๊า คุณปู่ก็ยังต้องรับศึกหนักอยู่ดีค่ะ   นี่ยังไม่นับบทความที่จอร์จ คลูนีย์เขียนลงนิวยอร์คไทมส์ที่เรียกร้องให้คุณปู่ถอยเพื่อชาตินะคะ  อันนั้นน่ะเหมือนตอกฝาโลงเลย  เพราะพี่จอร์จรูปหล่อเปิดเผยว่า  ตอนที่จัดงานระดมทุนให้คุณปู่ไบเดนเมื่อเดือนมิย.ที่ผ่านมาน่ะ   คุณปู่ก็เป็นเหมือนที่เราเห็นในคืนดีเบตเลย  
 
ขอจบการอัพเดทด้วยข้อความที่คุณราดัชชลอว์ ชิคอร์สกี้ รมว.ต่างประเทศของโปแลนด์โพสต์ทาง X ก่อนมาประชุม NATO  ที่วอชิงตันดีซีนะคะ

Marcus Aurelius was a great emperor but he screwed up his succession by passing the baton to his son Commodus (He, from the Gladiator).
Whose disastrous rule started Rome's decline.
It's important to manage one's ride into the sunset.



 

[ภศุสรร อมร]

พอวันพุธ ไบเดนก็ไปเป็นเจ้าภาพงานประชุมสุดยอดของ NATO และอ่านสุนทรพจน์ทางเทเลพรอมพ์เตอร์แบบใส่อารมณ์เสียงดังฟังชัดเพราะเป็นงานกลางวัน 555    แต่นั่นก็ไม่ได้กลบรายงานข่าวที่ว่าในระยะหลังๆ นี้คนในทำเนียบขาวดูเหมือนจะพยายามกลบเกลื่อนอาการเลอะเลือนแบบผู้ชราของท่านมากเป็นพิเศษ  เช่น มีการจัดให้ท่านไปแต่งานที่มีสคริปต์กับเทเลพรอมพ์เตอร์   ถ้าเป็นงานหาเสียงก็ให้ท่านพูดแพร้บเดียวไม่เกิน 10 นาทีแล้วกลับ  ซึ่งต่างจากท่านโจ ไบเดนในอดีตที่พูดเป็นต่อยหอยชนิดไล่แล้วยังไม่ยอมกลับ   เวลาไปพบ donors ก็จะให้ท่านพูดอย่างเดียวไม่ให้ตอบคำถาม   (ว่ากันว่ามีงานหนึ่งซึ่งเป็นงานเล็กๆ แบบ intimate จัดในห้องนั่งเล่น  แต่ก็ยังมีเทเลพรอมพ์เตอร์ให้ท่านอ่านสคริปต์อีก)    แน่นอนว่าข่าวแบบนี้มีแต่จะทำให้คุณปู่ดูแย่ลง  แต่ทีมงานของท่านก็สะบัดบ๊อบใส่ใครก็ตามที่ออกมาเรียกร้องให้ท่านถอยแบบโนสนโนแคร์เหมือนเดิม  

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันพุธนี่แหละค่ะที่ทำให้คุณปู่ต้องสะเทือน    เพราะคุณป้าแนนซี่ เปโลซี่  อดีตประธานสภาผู้แทนของพรรคเดโมแครต  เพื่อนรักคนหนึ่งของท่าน  ได้ออกมาพูดแบบเป็นนัยๆ ผ่านรายการเดียวกันกับที่ท่านโฟนอินว่า  เส้นตายที่ท่านจะตัดสินใจนั้นคือหลังจากที่ NATO Summit ได้สิ้นสุดลงแล้ว   (ว่ากันว่ารายการ Morning Joe นี้คือรายการที่ไบเดนชอบดู)  อันนี้คืออะไรที่นักข่าวฮือฮามาก  เพราะรู้ดีว่าคุณป้าเปโลซี่นั้นเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เยี่ยมยอด   ความเก๋าของเธอมาจากการที่เธออยู่มานานเกือบจะเท่าไบเดน  ในระหว่างรายการนี้  คุณป้าดูเหมือนจะกำลังพยายามโน้มน้าวคุณปู่ไบเดนในเวอร์ชั่นที่ทุกคนคุ้นเคย   คือเวอร์ชั่นที่ยอมถอยให้ฮิลลารี่ คลินตันเป็นผู้เข้าแข่งขันกับทรัมป์ในปี 2016 แทนที่จะเป็นท่านรองปธน.ไบเดนเหมือนที่ควรจะเป็น    เพราะไบเดนคนนั้นเป็นคนที่วางประโยชน์ของชาติและปชช. เหนืออีโก้ของตัวเอง โดยคุณป้าพูดว่า  “มันก็แล้วแต่ท่านปธน.แหละค่ะว่าท่านจะอยู่หรือไป   เราต่างก็พยายามโน้มน้าวท่านให้ตัดสินใจเพราะเวลามันเหลือน้อยลงทุกที”

ซึ่งถ้าจะนับว่าไบเดนได้ยืนยันในจดหมายถึงคองเกรสแล้วเมื่อวันจันทร์ว่ายังไงก็ไม่ไป๊ ไม่ไป อันนี้คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากว่า  “เรื่องนี้มันยังไม่จบนาจ๊า”  

นอกจากนั้น วุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตซึ่งก่อนหน้านี้ยังเงียบอยู่  ปล่อยให้เพื่อนสส.เขาออกสื่อกันไป  ก็เริ่มมาแสดงความกังวลกันอย่างเปิดเผยแล้วว่าท่านจะพาพรรคแพ้ไปด้วย   เพราะผลสำรวจผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในรัฐที่เดโมแครตยังไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่านั้นชี้ว่า  ถ้าไบเดนยังเป็น nominee อยู่  โหวตเตอร์อาจจะหันไปเลือกฝั่งผู้แทนจากพรรครีพับลิกันแทน)

สรุปว่าสัปดาห์นี้ถึงแม้จะมีการขอร้องกันแล้วว่าอย่าทำให้ท่านปธน.ดูแย่ในระหว่าง NATO Summit นาจ๊า คุณปู่ก็ยังต้องรับศึกหนักอยู่ดีค่ะ   นี่ยังไม่นับบทความที่จอร์จ คลูนีย์เขียนลงนิวยอร์คไทมส์ที่เรียกร้องให้คุณปู่ถอยเพื่อชาตินะคะ  อันนั้นน่ะเหมือนตอกฝาโลงเลย  เพราะพี่จอร์จรูปหล่อเปิดเผยว่า  ตอนที่จัดงานระดมทุนให้คุณปู่ไบเดนเมื่อเดือนมิย.ที่ผ่านมาน่ะ   คุณปู่ก็เป็นเหมือนที่เราเห็นในคืนดีเบตเลย  
 
ขอจบการอัพเดทด้วยข้อความที่คุณราดัชชลอว์ ชิคอร์สกี้ รมว.ต่างประเทศของโปแลนด์โพสต์ทาง X ก่อนมาประชุม NATO  ที่วอชิงตันดีซีนะคะ

Marcus Aurelius was a great emperor but he screwed up his succession by passing the baton to his son Commodus (He, from the Gladiator).
Whose disastrous rule started Rome's decline.
It's important to manage one's ride into the sunset.


น่าสงสารคุณปู่นัก กระผมพูดไปแล้วว่าไม่ควรทรมานสังขารคนชราเช่นนี้ ตอนโต้วาทีก็เห็นทีจะเงอะงะพอแล้ว ได้ยินให้สัมภาษณ์ nbc นี่บางตอนแทบไม่รู้ความ
สงสัยถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะถูกตรวจไปนานแล้ว ทางทำเนียบขาวมีการบันทึกถึงทุกคนที่มาเยี่ยม เรื่องหมอพาร์กินสันที่กล่าวกันไปแล้วก็รู้ได้จากตรงนี้ ที่ถ้ารวมการใช้คำผิด พูดไม่รู้ความ อาการแปลกประหลาดของไบเด้นในสามสี่ปีที่ผ่านมาจนครบ น่าจะมีอาการประหลาดเช่นนี้รวมกันไม่ต่ำกว่าสามสิบครั้ง ยังไม่รวมกรณีการพูดผิดอย่างมหันต์ที่ไบเด้นพูดว่าคุณลุงที่เสียไปจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในสงครามโลกครั้งที่สองที่ปาปัวนิวกินีนั้นอาจถูกมนุษย์กินคนจับกิน การพูดเช่นนี้คล้ายการเหยียด รัฐบาลปาปัวฯไม่พอใจจนเป็นกรณีพิพาทต่างชาติ ล้วนเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว มาจากวาทะประหลาดแลดูวิปลาสประโยคเดียว….

พิโธ่เอ่ย คุณปู่……..

https://youtu.be/PWCm7-y4jPc?si=rN-M_4UUczZ3H90h