เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
อ่าน: 10681 แย่กับแย่กว่า: เมื่อคุณปู่เชื่องช้าท้าชนคุณตาขี้จุ๊
Punjama_U
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


 เมื่อ 04 ก.ค. 24, 06:37

โจ ไบเดนประกาศลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่สองเพราะเขาต้องการปกป้องอเมริกาและประชาธิปไตยจากโดนัลด์ ทรัมป์  แต่ดูเหมือนในตอนนี้  เขากำลังจะเป็นผู้หยิบยื่นอนาคตของและเสถียรภาพของโลกให้ทรัมป์เอาไปปู้ยี่ปู้ยำเสียเอง 

นี่คือความวิตกกังวลของคนอเมริกันจำนวนมากหลังจากที่ได้ชมการดีเบตสดระหว่างทั้งสองฝ่ายทาง CNN  เมื่อคืนวันพฤหัสที่ 27 มิย. ที่ผ่านมา    ถึงขนาดที่มีสื่อใหญ่ระดับโลกหลายค่ายออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวออกจากการแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สมัครที่จะสามารถต่อกรกับทรัมป์ได้ดีกว่ามาลงแข่งแทน 

ทั้งไบเดนและทรัมป์ต่างก็ยังไม่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครเลือกตั้งปธน.อย่างเป็นทางการทั้งคู่    แต่ณ จุดนี้มันก็ชัวร์เกินชัวร์แล้วว่ายังไงเสียมันก็ต้องเป็นการรีแมทช์หรือมวยคู่เดิมแน่ๆ    ถ้าไบเดนชนะเลือกตั้ง  เขาก็จะทำลายสถิติที่ตัวเองทำไว้เมื่อปี 2020 ด้วยการเป็นปธน.สหรัฐที่อายุมากที่สุดที่เคยมีมา  (ตอนนี้ไบเดนอายุหย่อน 82 ไปแค่ 5เดือน)  ถ้าทรัมป์ชนะ  เขาจะเป็นปธน.สหรัฐคนแรกที่เข้ารับตำแหน่งหลังจากที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีอาญา   นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ร้อยละ 67 ของคนอเมริกันที่ตอบแบบสอบถามในโพลเมื่อต้นปี 2024 ระบุว่าเขาไม่อยากให้สองคนนี้กลับมาลงเลือกตั้งเป็นปธน.อีก   

แต่ก็ยังมีผู้ที่จงรักภักดีต่อไบเดนและฐานเสียงที่สนับสนุนทรัมป์อย่างไม่ลืมหูลืมตาจำนวนมากพอที่จะทำให้พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยินยอมเสนอชื่อทั้งคู่เข้าแข่งขันกันอีกรอบ   ถึงแม้ว่าทรัมป์จะมีคดีติดตัวมากมาย   ฐานเสียงของเขาก็ไม่เคยยี่หระ  แถมยังช่วยทรัมป์กระจายเฟคนิวส์อีกด้วยว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นความพยายามของฝ่ายตรงข้ามที่จะขัดขวางไม่ให้เขากลับมาทำงานเพื่อประชาชน   ส่วนไบเดนนั้นเมื่อประกาศว่าจะลงสมัครเป็นสมัยที่สอง  ผู้นำคนอื่นๆ ในพรรคเดโมแครตก็ต้องเกรงใจไม่เสนอตัวแข่งขันประกบ  ทำให้เขาชนะการสรรหาในรอบไพรมารี่ (การเลือกตั้งขั้นต้น) มาได้อย่างฉลุย   หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งสองคนจะได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการในที่ประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในกลางเดือนกค.และปลายเดือนสค.ที่จะถึงนี้   

ตามธรรมเนียมแล้ว  Commission on Presidential Debates (CPD) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1987 เพื่อจัดดีเบตสำหรับปธน.สหรัฐโดยเฉพาะ  จะกาปฏิทินดีเบตไว้ในช่วงเดือนกย. หรือตค.ของปีที่จะมีการเลือกตั้ง  ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าเขาต้องรอให้พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันทำการเสนอชื่อผู้สมัครอย่างเป็นทางการเสียก่อน   

ด้วยความที่เรตติ้งของทั้งคู่สูสีกันมาก คะแนนเสียงทุกคะแนนจึงมีความหมายต่อการแข่งขันในครั้งนี้เป็นพิเศษ   ทั้งไบเดนและทรัมป์เองต่างก็หวังที่จะ “ว้าว” ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกใคร (independent & undecided voters)  แต่เพราะไบเดนนั้นกังวลว่า กว่าจะถึงงานดีเบตของ CPD ในเดือนกย.หรือตค. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใหญ่ก็อาจจะส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์กันไปหมดแล้ว  แถมยังมีผู้สนับสนุนพรรคจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยมั่นใจในความสามารถของเขาที่จะนำรัฐนาวาต่อไปอีก 4 ปี  ดังนั้นไบเดนจึงรีบออกมาท้าทรัมป์ดีเบตสดออก CNN  ตั้งแต่เนิ่นๆ  เพราะหวังจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ชมว่าถึงชั้นจะแก่แต่ก็ยังปึ๊งปั๊งนาจ๊า    จะได้มีแรงหนุนคะแนนนิยมในขณะที่วันเลือกตั้งมันก็งวดเข้ามาทุกที     

ตอนแรกไม่มีใครเชื่อว่าทรัมป์จะรับคำท้า  เพราะ CNN ตั้งกฎของการดีเบตครั้งนี้ไว้ค่อนข้างเข้มงวด  เพื่อป้องกันไม่ให้ทรัมป์ไปก่อกวนคู่ต่อสู้ด้วยการพูดขัดพูดแทรกเหมือนที่เขาชอบทำในอดีต  (กฎคือไม่มีคนดูในห้องส่ง  แต่ละฝ่ายได้เวลาพูดรอบละสองนาที  หมดเวลาสองนาทีแล้วไมโครโฟนของฝ่ายที่พูดอยู่จะถูกตัดโดยอัตโนมัติเพื่อให้อีกฝ่ายได้พูดบ้าง  เมื่อฝ่ายหลังพูดจบนั่นแหละฝ่ายแรกถึงจะได้ไมค์คืนเพราะเจ้าภาพเขาจะให้เวลาโต้ตอบสิ่งที่ฝ่ายหลังพูดได้อีกหนึ่งนาที)     
ก่อนดีเบตใครๆ ก็นึกว่าทรัมป์จะเป็นทรัมป์แบบที่ทุกคนคุ้นชิน   คือไม่เคารพกฎ  พูดลอยๆ ไม่มีตรรกะ ทำตัวเป็นบุลลี่เหมือนที่เขาเคยทำกับคู่แข่งคนอื่นๆ ในอดีต  นอกจากนี้ทรัมป์ก็ยังมีประวัติการปราศรัยที่ทำให้พิธีกรรายการทอล์กโชว์ช่วงดึกเอามาล้อกันบ่อยๆ   บางทีก็พึมพำอะไรฟังไม่ได้ศัพท์  เรียกชื่อคนกับเมืองที่ไปปราศรัยอยู่ผิดๆ ถูกๆ   บางทีก็ปั้นเรื่องมาเล่าให้คนฟังที่มีสติสัมปชัญญะดีๆ ต้องขมวดคิ้ว  (ทรัมป์เคยถามผู้สนับสนุนในรัฐที่มีแต่ทะเลทรายอย่างเนวาด้าว่าจะเลือกอะไร  ระหว่างยืนเสี่ยงให้ไฟช็อตอยู่บนเรือไฟฟ้าที่กำลังจะจมทะเล  กับกระโจนหนีลงไปในน้ำที่มีฉลามรออยู่) 
   
พอถึงวันจริง  คนที่แย่กว่ากลับกลายเป็นไบเดน  เพราะเขาทำให้คนอเมริกันจำนวนมากตระหนักว่าเขาคือคนแก่อายุ 81 ที่เหมาะจะเลี้ยงหลานอยู่บ้านมากกว่าที่จะเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจ  โดยเฉพาะในสภาวะที่โลกยังระส่ำระสายด้วยไฟสงคราม  ความขัดแย้งทางอุดมการณ์  และเศรษฐกิจอันซึมเซื่องแบบนี้    (จริงๆ เราเห็นว่าสัญญาณมันไม่ดีมาตั้งแต่ตอนไบเดนเดินไปที่โพเดียมแล้วแหละ  เพราะกล้องเผยให้เห็นคุณปู่ตัวผอมๆ ก้าวเนิบๆ ออกมาจากหลังเวทีเหมือนคนไม่มีแรง  ในขณะที่ทรัมป์เดินอาดๆ มาที่โพเดียมตามสไตล์คนขี้โอ่)   

ตลอด 90 นาทีของการดีเบตนั้น  ไบเดนดูเป็นคนแก่งกๆ เงิ่นๆ  ไม่ใช่คนวัย 81ที่สมองยัง “เฉียบคม” เหมือนที่คนใกล้ชิดพยายามโน้นน้าวสื่อ   มีทั้งพูดพึมพำจับใจความไม่ค่อยได้  บางทีพูดไปสักพักก็ลืมว่าตัวเองพูดอะไรอยู่  ต้องก้มลงดูโพยแต่ก็ยังหาทางไปต่อไม่เจอ  บางทีก็หยิบเรื่องที่ไม่ควรพูดขึ้นมาพูดให้ตัวเองจนมุมเองทั้งๆ ที่คู่ต่อสู้ไม่ได้เอ่ยถึงก่อน (เช่น เรื่องการถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถานอย่างไม่มียุทธศาสตร์  ทำให้สถานการณ์เละตุ้มเป๊ะ  และทำให้ตาลีบันกลับไปยึดครองประเทศได้อีกครั้งอย่างง่ายดาย)   บางครั้งพิธีกรก็ต้องขัดจังหวะเพราะสองนาทีแล้วเขาก็ยังวกไปเวียนมาหาที่ลงไม่ได้สักที 

เวลาที่ถูกทรัมป์โจมตีด้วยข้อมูลเท็จ  ไบเดนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรมากนอกจากด่ากลับในช่วงที่เขาได้ไมค์คืนว่า “โกหกทั้งเพ”   (นี่ถ้าคู่ต่อสู้เป็นอดีตปธน.บารัค โอบาม่าหรือรัฐมนตรีคมนาคมคนปัจจุบันพีท บุตติเจช   ทรัมป์คงเจอสวนกลับด้วย facts แบบเจ็บๆ แสบๆ แน่  เพราะทั้งสองคนนี้ต่างก็ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มีฝีปากคมด้วยกันทั้งคู่)  แถมพอดีเบตจบแล้ว กล้องยังจับไปที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ดร. จิล ไบเดน  ค่อยๆ พยุงคุณสามีลงจากเวทีเหมือนพยาบาลพี่เลี้ยงกำลังจูงผู้ชราไปเข้านอน 

แล้วใครเลยจะคิดว่าทรัมป์จะกลายเป็นคนนิ่งๆ  ไม่โหวกเหวกโวยวาย และสามารถควบคุมการดีเบตของตัวเองให้อยู่ในเวลาที่กำหนดได้ตลอดรายการ    พอถึงตาเขากล่าวโจมตีคู่ต่อสู้  ทรัมป์ก็สามารถใช้คำสั้นๆ และกระชับถูกใจฐานเสียงทางบ้าน (ถึงทุกอย่างที่พูดจะเป็นคำโกหกก็เถอะ)     ความเป็นเซลส์แมนขายอสังหาริมทรัพย์เก่านั้นมันช่วยทรัมป์ได้มากในการดีเบตครั้งนี้   

เวลาของการจัดดีเบต (2 ทุ่มถึง 3 ทุ่มครึ่งตามเวลาในวอชิงตัน ดีซี) ก็อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพของผู้สมัครด้วย   ในขณะที่ไบเดนนั้นดูเหมือนคนแก่ที่ต้องอยู่จนเลยเวลานอน   (มีข้อกล่าวหาว่าไบเดนเผลอหลับในระหว่างดีเบต)   ทรัมป์ (ซึ่งมีประวัติชอบส่งทวีตโน่นนี่ตั้งแต่ตีหนึ่งยันตีสาม)  ก็ดูเหมือนจะกระปรี้กะเปร่าตามประสาคนนอนดึก   คนใกล้ชิดของไบเดนคนหนึ่งบอกนักข่าวว่า  เวลาที่ไบเดนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือระหว่างสิบโมงเช้ากับสี่โมงเย็น  แต่สาเหตุที่ผู้จัดต้องเลือกเวลาค่ำๆ ก็เพราะว่ามันเป็นไพรม์ไทม์  หรือช่วงเวลาที่มีคนดูทีวีมากเป็นพิเศษนั่นเอง   
บันทึกการเข้า
Punjama_U
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 06:38

ปฏิกิริยาที่ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตและสื่อมีต่อการดีเบตครั้งนี้นับว่าเป็นปฏิกิริยาลบสุดลบแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน   คณะนักหนังสือพิมพ์อาวุโสและสมาชิกของ Editorial Board  ซึ่งมีหน้าที่เขียนบทบรรณาธิการให้แก่นสพ.ทรงอิทธิพลอย่างนิวยอร์คไทมส์  ได้ออกมาเรียกร้องให้ไบเดนถอนตัวจากการแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสให้นักการเมืองในพรรคคนอื่นๆ ที่สามารถสู้ทรัมป์ได้ดีกว่ามาลงสมัคร  คอลัมนิสต์ดังๆ ในนสพ.ระดับชาติรวมทั้งอดีตทีมงานของปธน.จากพรรคเดโมแครตในอดีตต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  หากไบเดนจะฝืนอยู่ต่อ  เขาก็กำลังเอาเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศชาติและของโลกไปเสี่ยง   และถ้าผู้นำพรรคเดโมแครตในปัจจุบันหรือคนรอบตัวของไบเดนไม่กล้าพอที่จะบอกไบเดนตรงๆ ล่ะก็ ให้เตรียมยื่นชัยชนะให้ทรัมป์ได้เลย  ส่วนดิ อิโคโนมิสต์  สื่อใหญ่ของฝั่งยุโรปนั้นก็ให้ความเห็นสอดคล้องกันว่า “ถ้าปธน.ไบเดนอยากจะทำคุณประโยชน์เพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง  เขาควรจะถอนตัวออกจากการแข่งขัน”  

หลังวันดีเบต สถานีโทรทัศน์ CBS ก็ไปทำการสำรวจความคิดเห็นของผุ้ชมทางบ้าน  ปรากฏว่า  ร้อยละ 72 ของคนอเมริกันเชื่อว่าไบเดนไม่มีสุขภาวะทางปัญญา (cognitive health) มากพอที่จะเป็นผู้นำประเทศ ซึ่งสูงกว่าร้อยละ 49 ของฝั่งที่เชื่อว่าทรัมป์ไม่มีสุขภาวะทางปัญญาพอที่จะเป็นปธน. มากจนน่าตกใจ (แต่จะว่าไปแล้วก็สูงเกินกว่าจะรับได้ทั้งคู่นั่นแหละ)

ในขณะเดียวกัน  ร้อยละ 72ของคนอเมริกันโดยทั่วไปก็เห็นว่าไบเดนไม่ควรลงเลือกตั้งอีก เทียบกับร้อยละ 63 ที่เห็นเช่นนั้นก่อนการดีเบต   และเมื่อไปดูความเห็นของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งในฝั่งเดโมแครตก็จะพบว่า ร้อยละ 46 เห็นว่าไบเดนไม่ควรลงเลือกตั้งอีก  (ก่อนการดีเบตร้อยละ 36 บอกว่าไม่ควรลง)  โดยร้อยละ 86  ของคนเหล่านี้เลือกอายุเป็นเหตุผลหลัก

นอกจากนี้  เมื่อเอาคะแนนที่ผู้ชมทางบ้านให้คู่ต่อสู้ทั้งสองมาเทียบกัน  ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสามารถในการนำเสนอแนวคิดหรือนโยบายได้อย่างกระจ่างชัด  การสร้างความมั่นใจแก่คนดู  และการปรากฏตัวอย่างสมศักดิ์ศรีและฐานะของปธน.  ก็ปรากฎว่าทรัมป์แซงหน้าไบเดนไปทุกหัวข้อ   โดยเฉพาะด้านการสร้างความมั่นใจแก่คนดูซึ่งไบเดนได้คะแนนต่ำเตี้ยติดดิน   (แต่พอถึงคำถามที่ว่าผู้สมัครพูดความจริงหรือไม่ในระหว่างการดีเบต  ก็ปรากฎว่าไบเดนนำทรัมป์ไปหลายช่วงตัว  เพราะร้อยละ 40 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเชื่อว่าไบเดนพูดความจริง  ในขณะที่แค่ร้อยละ 32 เท่านั้นที่เชื่อทรัมป์)

พอเห็นท่าทีของสื่อใหญ่ๆ และผลโพลแบบนี้  ตัวตึงในพรรคเดโมแครตและผู้สนับสนุนทางการเงินหรือ donors ของพรรคบางกลุ่มก็เริ่มหนาว   แต่ด้วยความที่ไบเดนยังมีศักดิ์เป็นปธน.คนปัจจุบัน  ทุกฝ่ายเลยยังต้องให้เกียรติเขาตัดสินใจเอง   ในสองสามวันแรกหลังดีเบต  ผู้นำพรรคและ donors รายใหญ่ๆ จึงออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันผ่านสื่อว่าถึงดีเบตจะแย่แต่ก็ยังมีโอกาสชนะแหละน่า   อย่างไรก็ดี  หลายคนแอบตั้งความหวังว่าครอบครัวไบเดนจะตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้มากพอที่จะโน้มน้าวเขาให้ถอนตัวในท้ายที่สุด     มีรายงานข่าวว่า donors จำนวนหนึ่งได้โทร. หรือส่งอีเมลและข้อความถามกันหลังไมค์ว่าจะทำอย่างไรดีในสถานการณ์แบบนี้   มีใครบ้างที่สนิทสนมกับสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งมากพอที่จะไปล็อบบี้นางให้โน้มน้าวท่านปธน.ให้ถอนตัวได้  และเราควรจะขอให้อดีตปธน.คลินตันหรือโอบาม่าไปล็อบบี้นางดีมั้ย   หรือว่าเราควรจะจัดรณรงค์ออกสื่อเพื่อกดดันท่านปธน. ดี  

มีข่าวว่าโอบาม่าต่อสายตรงถึงไบเดนหลังดีเบต   แต่ทีมโฆษกก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเขาคุยอะไรกัน  นอกจากจะบอกว่าไบเดนรู้สึกขอบคุณที่โอบาม่าให้การสนับสนุนด้วยดีเสมอมา   เมื่อเป็นอย่างนี้  สิ่งเดียวที่โอบาม่าทำได้ก็คือโพสต์สนับสนุนผู้สมัครของพรรคออกสื่อ   “ดีเบตมันแย่ได้  แต่ทางเลือกของเราในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็ยังเป็นทางเลือกระหว่างผู้สมัครที่พูดความจริง กับผู้สมัครที่โกหกอย่างไร้ความละอายเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์  สิ่งที่เกิดขึ้น [ในระหว่างการดีเบต] เมื่อคืนนี้มันไม่ได้ทำให้ความจริงในข้อนี้เปลี่ยนไป  นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเดิมพันในเดือนพย.นี้ถึงสูงมาก”  

แน่นอนว่าพอนายไม่ดีลูกน้องก็พลอยแย่ไปด้วย  มี donors ของพรรคบางคนเริ่มโทษทีมยุทธศาสตร์ของไบเดนว่าทำงานห่วย  สมควรถูกไล่ออก  ส่วนไบเดนเองนั้นได้ออกมายอมรับว่ามีแอบง่วงบ้างในระหว่างดีเบต  เพราะ 2 สัปดาห์ก่อนงานดีเบตนั้นตารางเดินทางไปต่างประเทศแน่นมาก  ทำให้เกิดอาการเจ็ตแล็ก  แต่ยังตบท้ายว่าชั้นยังไหวน่า เชื่อเหอะ  (ก่อนหน้านี้ทีมงานของไบเดนได้แก้ตัวว่าท่านปธน.ติดหวัดเลยทำให้คุณภาพของการดีเบตไม่ค่อยดีเท่าที่ควร)  

ถึงตอนนี้  ใครที่หวังให้ครอบครัวท่านปธน.เข้ามาช่วยก็คงจะผิดหวังกันยกใหญ่   เพราะคนในครอบครัวนั่นแหละที่คะยั้นคะยอให้ไบเดนอยู่ต่อ  “ล้มแล้วก็ต้องลุกขึ้นสู้ใหม่สิ”  คนใกล้ชิดคนหนึ่งบอกสื่อ   หลังดีเบตหนึ่งวัน  ดร.จิล ที่ไม่ใช่เจ้าของครีมชะลอความแก่ก็ไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์ให้แก่คุณสามีบนเวทีปราศรัยที่เมืองรอลี่ในรัฐนอร์ธ แคโรไลน่า แถมยังปรบมือให้กำลังใจผู้สนับสนุนที่ตะโกนเชียร์ไบเดนให้ “อยู่ต่ออีกสี่ปี อยู่ต่ออีกสี่ปี” อีกด้วย  ไม่กี่วันถัดจากนั้น นิตยสารโว้กของอเมริกาก็ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของนางที่บอกว่า  ครอบครัวไบเดนจะไม่ยอมให้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่ 90 นาทีมาเป็นตัวตัดสินสิ่งที่เขาทำตลอดระยะเวลา 4 ปีของการเป็นปธน.เป็นอันขาด   ทำให้สื่อบางฉบับตำหนิเธอว่าเห็นแก่ตัว  ติดแสงและอยากยื้ออำนาจ  ขณะเดียวกันในระหว่างงานระดมทุนสนับสนุนท่านปธน. ที่นิวยอร์คเมื่อต้นอาทิตย์  ดร.จิลก็ยังย้ำกับบรรดา donors ด้วยว่า  “โจไม่ได้เป็นแค่ผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งปธน.เท่านั้น   แต่เขายังเป็นผู้สมัครคนเดียวที่เหมาะสมที่สุดอีกด้วย”  

ส่วนตัวไบเดนเอง  นอกจากเชื่อเมียแล้วก็ยังเชื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวน  ฮันเตอร์ ไบเดน เป็นอย่างมาก   ทั้งๆ ที่ฮันเตอร์  ไบเดนคนนี้แหละคือคนที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้พ่อตลอด   ไม่ว่าจะเรื่องมีประวัติติดยา   เรื่องที่ต้องสู้คดีถือครองปืนอย่างผิดกฎหมาย  เรื่องใช้อิทธิพลพ่อเพื่อประโยชน์ทางการเงินของตัวเอง ฯลฯ   (ถึงฮันเตอร์จะไม่แย่เท่าจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยทรัมป์ที่เอาตำแหน่งในทำเนียบขาวไปหากินกับต่างชาติอย่างโจ๋งครึ่ม  แต่ก็สร้างรอยด่างพอสมควรให้แก่ไบเดน ซึ่งได้ชื่อว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตมาตลอดระยะเวลา 50 ปีของอาชีพนักการเมืองของเขา  และทำให้พ่อต้องกลายเป็นเป้าของการโจมตีโดยฝ่ายตรงข้ามตลอด 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง)  ฮันเตอร์บอกให้พ่อสู้ต่อเพราะอยากให้คนอเมริกันเห็นพ่อแบบที่เขาเห็น   แต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ  ถ้าพ่อลงจากตำแหน่งฮันเตอร์เองก็อาาจจะลำบากไปด้วย

จริงๆ แล้วการที่ไบเดนประกาศตัวว่าจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองนี้ก็เสมือนเป็นการกลับคำพูดว่าจะเป็นปธน.แค่เทอมเดียว  ซึ่งเป็นสัญญาเขาให้ไว้แก่ประชาชนเมื่อตอนที่เขาลงสมัครครั้งแรก  เพื่อบรรเทาความกังวลของคนที่คิดว่าเขาแก่เกินกว่าที่จะเป็นผู้นำประเทศได้ในตอนนั้น
 
เมื่อมันค่อนข้างชัดแล้วว่าไบเดนคงไม่ถอยแน่ๆ   ก็เลยมีคนในพรรคเดโมแครต 2-3 คนที่กล้าลุกขึ้นมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ท่านปธน.  ถอนตัวเสียแต่เนิ่นๆ  เพื่อให้เวลาคนอื่นมากพอที่จะเตรียมตัวลงแข่ง  นั่นก็คือวุฒิสมาชิกจากรัฐโร้ด ไอส์แลนด์และเวอร์มอนท์ และสส.จากรัฐเท็กซัส   แต่คนเหล่านี้ก็ไม่ใช่ผู้เล่นหลักในพรรค   เสียงจึงอาจจะไม่ดังพอ  ส่วนผู้เล่นหลักในพรรคและผู้สนับสนุนทางการเงินนั้นก็คงถอดใจแล้วว่าถ้าเขาไม่ถอยเราก็ต้องช่วยกันแบก  เลยพยายามหาวิธีช่วยให้ท่านปธน.สามารถตีตื้นขึ้นมาได้ในเวลาอีก 4 เดือนที่เหลือ  แทนที่จะช่วยกันควานหาผู้สมัครคนใหม่  

นี่เป็นสาเหตุให้หลายคนเริ่มถอดใจว่ายังไงเสียทรัมป์ก็มาแน่   ที่แย่ไปกว่านั้นคือ  ถ้าผู้สมัครปธน.ไม่เป็นที่ถูกใจของประชาชน พรรคเดโมแครตเองก็อาจจะเสียที่นั่งในการเลือกตั้งกลางเทอมไปอีกด้วย  ยิ่งทำให้การผลักดันกฎหมายหรือนโยบายที่สำคัญต่อประเทศและประชาคมโลกเป็นไปได้ยากกว่าเดิม  

มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า โจ ไบเดน ผู้อุทิศตนรับใช้สังคมอเมริกันอย่างซื่อสัตย์มานาน 5 ทศวรรษ  จะกลายเป็นผู้ที่ทำลายอนาคตของประเทศและผลักโลกให้เข้าสู่ความมืดมนเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเขาหรือเปล่า  
บันทึกการเข้า
Punjama_U
อสุรผัด
*
ตอบ: 3


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 06:44

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.cbsnews.com/news/poll-debate-should-biden-be-running-mental-abilities/
https://www.economist.com/leaders/2024/06/28/joe-biden-should-now-give-way-to-an-alternative-candidate
https://www.axios.com/2024/06/29/two-bidens-trump-debate-2024-president
https://www.forbes.com/sites/saradorn/2024/07/02/heres-who-is-calling-on-joe-biden-to-drop-out-a-democratic-lawmaker-pundits-and-a-former-staffer/
https://www.washingtonpost.com/politics/2024/07/02/biden-obama-debate/
https://www.nytimes.com/2024/07/02/us/politics/democrats-panic-biden-electoral-debacle.html
https://abcnews.go.com/Politics/biden-blames-international-travel-poor-debate-performance-fell/story?id=111627857
https://www.vogue.com/article/first-lady-jill-biden-august-2024-cover-interview
https://thehill.com/homenews/ap/ap-politics/ap-after-presidents-debate-debacle-jill-biden-delivering-the-message-that-theyre-still-all-in/

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 10:22

ขอต้อนรับคุณปัญจมากลับมาเยี่ยมเรือนไทยอีกครั้งค่ะ
เอาคลิปมาเสริม ว่าสื่อวิจารณ์ปู่ไบเดนว่ายังไงบ้างนะคะ
กำลังสังหรณ์ว่าเราจะได้ลุงทรัมเปตกลับมาอีกหนแล้ว   อย่างหนึ่งที่ลุงแกพูดไว้คือจะจัดการกับเจ้าชายแฮรี่ ที่มีประวัติเสพยาแล้วยังผ่านเข้ามาอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้      ไม่รู้แกจะทำตามพูดมากน้อยแค่ไหน

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 13:55

      ถ้าเทียบความแข็งขันในการทำงานแล้ว  ทรัมป์มีไฟแรงกว่ามาก   ตั้งหลักมาดี พยายามระงับอารมณ์เอาไว้ ไม่ออกงิ้วออกโขนเหมือนเมื่อก่อน   จะหลุดสีหน้ากวนประสาทออกมาก็เฉพาะตอนอีกฝ่ายพูด   แต่เวลาพูดก็ได้เนื้อถ้อยกระทงความดี แบบซักซ้อมมาก่อน    ส่วนเนื้อหาที่พูดเชื่อได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่อง
    ส่วนคุณปู่ใจดีของชาวเมกันก็ยังดูใจดีน่านับถือเหมือนเดิม  แต่คุณปู่เงอะๆงะๆ งกๆเงิ่นๆ  เสียจนน่าสงสาร    ใจคงสู้ แต่ร่างกายไม่ไหวแล้ว  สมองของคุณปู่จะอยู่ฝ่ายใจหรือฝ่ายร่างกายก็น่าสงสัยอยู่
     ถ้าตัวเองเป็นพลเมืองอเมริกัน คงนึกเทียบกับบ้าน 2 หลังว่าจะเช่าหลังไหนดี ทำสัญญา 4 ปี  หลังหนึ่งเจ้าของบ้านใจดีเหมือนซานตาคลอส  แต่บ้านคร่ำคร่าหลังคาจวนพัง  คนอาศัยจะกินจะนอนต้องระวังอยู่เรื่อยว่าจะถล่มลงมาตอนไหนก็ไม่รู้   เพราะเจ้าของบ้านซ่อมไม่ไหวแล้ว     ส่วนบ้านอีกหลังแข็งแรงเป็นคฤหาสน์ แต่ค่าเช่าแพงมหาโหดแถมยังตุกติก จะหาเรื่องไล่คนเช่าออกด้วยวิธีการสารพัด
    มีแค่ 2 หลังให้เลือก ทำไงดี  หรือรอปาฏิหาริย์เจอหลังที่ 3  

    ลงคลิปให้ดูตลอดต้นจนจบค่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=qqG96G8YdcE&t=2849s
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16058



ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 14:35

ลงคลิปให้ดูตลอดต้นจนจบค่ะ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 04 ก.ค. 24, 19:07

คำทำนายของ  Niall Ferguson ว่าชาวอเมริกันจะได้ทรัมป์กลับมาอยู่ทำเนียบขาวอีกครั้ง  คงจะทำให้เดโมแครตหนาวไปตามๆกัน

บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 05 ก.ค. 24, 17:43

ตอนนี้ความสนใจของคนส่วนใหญ่พุ่งไปที่การสัมภาษณ์ปธน.ไบเดนแบบเอ็กซ์คลูซีฟ  โดยนายจอร์จ สเตฟานอพอลัส  อดีตทีมงานของปธน. บิล คลินตันซึ่งผันตัวมาเป็นผู้ประกาศและผู้ดำเนินรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ ABC   ที่จะออกอากาศในคืนวันศุกร์ตอนสองทุ่มตามเวลามาตรฐานตะวันออกหรือ Eastern Standard Time  ซึ่งจะตรงกับ 7 โมงเช้าวันเสาร์ในบ้านเราค่ะอาจารย์  นัยว่าไบเดนตกลงให้สัมภาษณ์ครั้งนี้เพื่อกอบกู้คะแนนนิยมให้ฟื้นคืนมา    แต่คนก็ยังไม่เชื่ออีกนั่นแหละว่ามันจะช่วยให้อะไรดีขึ้น  เพราะมันคือการสัมภาษณ์แบบอัดเทปล่วงหน้า  แถมผู้สัมภาษณ์ยังเป็นคนของเดโมแครตอีก (ก่อนหน้านี้นายเจค แท็ปเปอร์ ผู้ดำเนินรายการขื่อดังของ CNN ได้แนะนำว่า  ไบเดนควรจะเปิดการแถลงข่าวสดๆ  ให้บรรดานักข่าวเสือ สิงห์ กระทิง แรดทั้งหลายรัวคำถามใส่แบบไม่มีสคริปต์  เพื่อพิสูจน์ว่าเขายังมีกำลังวังชาและมันสมองมากพอที่จะนำรัฐนาวาต่อไปอีก 4 ปี  ซึ่งเป็นคำแนะนำที่ดีแต่ไบเดนคงไม่ทำตามแน่ๆ)

ถ้าไบเดนทำคะแนนได้ดีในการสัมภาษณ์ครั้งนี้  เขาก็คงจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างที่จะอยู่ต่อ แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าคนอเมริกันจะหายกังวลไหมเรื่องสุขภาพและพละกำลังของท่านปธน. ตลอด 4 ปีข้างหน้า   ที่แน่ๆ คือเวลาของไบเดนดูเหมือนจะเหลือน้อยลงทุกที  เพราะตอนนี้นักการเมืองจากพรรคเดโมแครตทั้งที่ยังดำรงตำแหน่งอยู่ตอนนี้และที่เคยใหญ่ในอดีต  ต่างก็พากันออกมาเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ท่านปธน.ยอมถอย  เพื่อให้ท่านรองปธน. นางคามาล่า แฮร์ริส (ซึ่งจากนี้จะขอเรียกว่าคุณกมลาก็แล้วกันนะคะ)ได้เข้าเสียบแทน  จนถึงขนาดมีรายงานข่าวว่าตอนนี้ทั้ง donors  และคนวงในของพรรคจำนวนหนึ่งต่างก็เริ่มควานหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็นรองปธน.ของคุณกมลากันแล้ว   เพราะเชื่อว่าต่อให้ไบเดนยืนกรานยังไงว่าเขายังไหวผู้มีสิทธิเลือกตั้งก็คงไม่ฟังแน่ๆ  และก็มีนักการเมืองในพรรคจำนวนไม่น้อยเลยซึ่งจะต้องลงแข่งขันอีกในการเลือกตั้งกลางเทอมปีนี้  ที่กลัวแสนกลัวว่าไบเดนจะลากคะแนนของพวกเขาให้ดิ่งเหวไปด้วย
  
แต่ทีนี้มันก็ยังมี donors  และคนในพรรคจำนวนหนี่งที่ยังจงรักภักดีกับไบเดน  เพราะคุณปู่แกอยู่ในอาชีพนี้มายาวนานก็ย่อมมีเพื่อนและผู้ทรงอิทธิพลสนับสนุนอยู่ไม่ใช่น้อย  คนเหล่านี้ก็เถียงว่าคุณกมลาน่ะคะแนนนิยมก่อนหน้านี้แย่กว่าไบเดนอีก   ที่ผ่านมาก็เป็นเหมือนเงาไม่ค่อยมีคนรู้จัก  เหลือเวลาอีกแค่ 4 เดือนมันไม่พอสำหรับการเดินสายอธิบายให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศเข้าใจหรอกว่านางเป็นใคร ทำอะไรมาบ้าง   อันนี้ก็มีส่วนถูก   เพราะมีผลสำรวจเมื่อเดือนมีค.อันหนึ่งที่ชี้ว่า เรตติ้งของคุณกมลาอยู่ที่ 39%  ซึ่งต่ำกว่าของปู่ที่ว่าต่ำแล้วคือ 41%  เสียอีก  แถม 54% ของคนที่ตอบแบบสอบถามยังรู้สึกด้วยว่านางไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นปธน.

แต่นั่นมันก่อนหน้าที่คุณปู่จะไปฆ่าตัวตายออกสื่อในเดือนมิย.หลายเดือน  ตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้ว   มีนักข่าว PBS คนหนึ่งซึ่งได้ไปคุยกับสส.พรรคเดโมแครตในสภาและสัมภาษณ์ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ รายงานว่า  ผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝั่งเดโมแครตนั้นกำลังปวดใจกับปู่มากและอยากให้หาคนมาแทน    เพราะมองไม่เห็นโอกาสชนะเลยหลังจากดีเบตเมื่อพฤหัสที่แล้ว  แถมตอนนี้ฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ก็เริ่มทำคลิปตัดต่อที่แสดงให้เห็นว่าไบเดนกำลังนั่งหลับหรืองกๆ เงิ่นๆ เอาไปแชร์สร้างกระแส   ใครๆ ก็รู้ว่าอะไรที่มันอยู่ในอินเตอร์เน็ตนี่มันลบยาก  คนดูคลิปแล้วก็ตัดสินจากที่เห็นไม่สนคำชี้แจงใดใดทั้งสิ้น   มันยิ่งจะทำให้คะแนนปู่แย่กว่าเดิมเมื่อถึงวันเลือกตั้ง   (แม้หลายคนก็บอกว่า  ถ้าถึงเวลาจริงๆ ปู่ยังไม่ยอมถอยก็คงต้องลากกันต่อไป  แต่คนในพรรคก็กังวลว่าปู่จะทำให้คนจำนวนหนึ่งเนือยๆ กับการเลือกตั้งแล้วนอนหลับทับสิทธิ  ซึ่งจะไม่ดีกับพรรคในขณะที่คะแนนเสียงทุกคะแนนมีความหมายมากขนาดนี้)  
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 8  เมื่อ 05 ก.ค. 24, 17:46

ทีนี้พอแสงเริ่มส่องไปทางคุณกมลามากๆ เข้า ทั้งรอยเตอร์ ทั้ง CNN ก็ไปทำโพลสำรวจคะแนนนิยมของคนที่ชาวบ้านอยากให้เป็นปธน.   ปรากฏว่าตอนนี้นางสูสีกับทรัมป์มาก คือในโพลของรอยเตอร์นั้นนางอยู่ที่ 42% ต่อ 43%  ส่วนของ CNN  นั้นชี้ว่า  ถ้าเป็นมวยระหว่างทรัมป์กับไบเดน  ทรัมป์นำไบเดนอยู่ที่ 49% ต่อ 43%    แต่ถ้าเป็นทรัมป์กับคุณกมลาคะแนนจะอยู่ที่ 47% ต่อ 45%     ซึ่งแม้จะยังด้อยกว่าคู่ต่อสู้แต่ก็ยังดูดีกว่าของท่านปธน.เยอะ  (แต่ที่มาแรงแซงทางโค้งก็คือคุณมิเชลล์ โอบาม่า  อดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง  โพลมากกว่า 1สำนักชี้ว่า  กว่าครึ่งของคนอเมริกันอยากให้คนนี้เป็นปธน.  ทั้งๆ ที่เจ้าตัวปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกว่าไม่สนใจการเมืองจ้า)

และเนื่องจากคุณกมลานั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์จากเงินบริจาคทั้งหมดที่ Biden-Harris campaign ระดมมาได้  donors บางคนก็บอกว่ามันเหมาะที่สุดแล้วที่จะเป็นนาง  เพราะตามกฎหมายเลือกตั้งของอเมริกานั้น  คนที่ไม่มีชื่ออยู่ในแคมเปญไม่สามารถจะถอนเงินบริจาคไปใช้ในการหาเสียงได้   ถ้าไม่ใช่คุณกมลา  เงิน 90 กว่าล้านเหรียญที่ฝั่งไบเดนระดมมาได้ถึงตอนนี้ก็จะต้องถูกส่งคืนให้ผู้บริจาค   คนอื่นเอาไปใช้ไม่ได้  

คนเดียวที่อยู่นิ่งๆไม่ออกความเห็นเลยว่าไบเดนควรอยู่หรือไปก็คือตาทรัมป์  เพราะแกเองก็คงกลัวเหมือนกันว่าถ้าคนอื่นมาเสียบแทนปู่โอกาสชนะของแกก็จะน้อยลง   ทีนี้พอแสงเริ่มส่องไปทางคุณกมลามากๆ เข้า ทีมทรัมป์ก็เริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีนางแทนสิคะ  มีตั้งแต่ปล่อยคลิปที่ทรัมป์พูดถึงนางในระหว่างการเล่นกอล์ฟว่า แย่ที่สุดมั่ง  โหลยโท่ยมั่ง  แถมทรัมป์ยังโพสต์ข้อความเหน็บนางอีกว่าตอนนางสู้กับไบเดนยังต้องถอนตัวเพราะได้เป็นแค่ที่ 2 ในการแข่งขันภายในของพรรค  แล้วจะมาเป็นผู้ท้าชิงกับเขาเนี่ยนะ    แสดงให้เห็นว่าฝั่งโน้นก็กลัวนางอยู่เหมือนกัน  
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 9  เมื่อ 05 ก.ค. 24, 18:08

ลืมพูดถึงไปเรื่องหนึ่ง  ที่มีเสียงครหาว่าสัมซีฟ 1 สัมทึ่อัดเทปไว้ล่วงหน้ามันจะไม่ช่วยไบเดนให้ตืตื้นขึ้นมาได้นั้น  ส่วนหนึ่งอาจเพราะมีข่าวว่า  พอแกกระเสือกกระสนในระหว่างดีเบตจนมีเสียงเรียกร้องให้แกถอนตัว   ไบเดนก็ไปสั่งทีมงานว่าต่อไปนี้ห้ามรับอีเว้นต์หลัง 2 ทุ่ม  ยังกับว่าปัญหาประเทศและภัยคุกคามโลกมันเลือกจะมาแต่ช่วงกลางวันอย่างนั้นแหละ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 10  เมื่อ 06 ก.ค. 24, 09:47

มีข่าวแพร่ออกเหมือนกันว่า ถ้าปู่ไบเดนไปไม่ไหวจริงๆ   ก็จะมีการดันนางกมลา แฮริส รองประธานาธิบดีขึ้นมาแทน
แต่แหล่งสื่อหลายแหล่งก็บอกว่า  บารมีของกมลายังไปไม่ถึงขั้นนั้น


บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 11  เมื่อ 06 ก.ค. 24, 10:10

ขอแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอธิบายเพิ่มเติมนิดนะคะ

ตอนนี้แคมเปญ Biden-Harris ระดมทุนมาได้แล้ว 240 ล้าน   เข้าใจว่า 90 ล้านที่พูดถึงตอนแรกนั่นนับจากต้นปี 2024 ถึงเดือนพค. ค่ะ

ตอนที่โพสต์ครั้งแรกนั้น นักการเมืองพรรคเดโมแครตจากเวอร์มอนท์และโร้ดไอส์แลนด์นั้นยังไม่ได้เรียกร้องให้ท่านปธน.ถอนตัว  แค่ส่งสัญญาณเฉยๆว่ากังวลเมื่อเห็นสภาพของคุณปู่ในระหว่างดีเบต  แต่ตอนนี้จำนวนสส. ผู้ว่าการรัฐ และคนในพรรคที่ออกมาเรียกร้องให้คุณปู่ถอยหรือออกมาส่งสัญญาณผ่านสื่อถึงความกังวลว่าท่านจะพาพรรคลงเหวไปด้วยนั้นมีมากขึ้นแล้ว   ผู้เล่นที่สำคัญมากท่านหนึ่งคือวุฒิสมาชิกมาร์ค วอร์เนอร์จากรัฐเวอร์จิเนียซึ่งยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมาธิการด้านข่าวกรองและความมั่นคงของวุฒิสภาด้วย  ตอนนี้ถึงวุฒิสมาชิกวอร์เนอร์จะยังไม่ได้พูดอะไรออกสื่อ   แต่วอชิงตันโพสต์รายงานว่าท่านกำลังรวบรวมวุฒิสมาชิกจากพรรคเดียวกันจำนวนหนึ่งให้ไปร่วมประชุมกับท่านปธน.เพื่อแสดงความคิดเห็นกันอย่างเปิดอก     
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 12  เมื่อ 06 ก.ค. 24, 10:21

มีข่าวแพร่ออกเหมือนกันว่า ถ้าปู่ไบเดนไปไม่ไหวจริงๆ   ก็จะมีการดันนางกมลา แฮริส รองประธานาธิบดีขึ้นมาแทน
แต่แหล่งสื่อหลายแหล่งก็บอกว่า  บารมีของกมลายังไปไม่ถึงขั้นนั้น

บารมียังไม่ถึงอย่างที่อ.บอกจริงค่ะ  แต่อย่างที่ว่าไว้ข้างบน  เรื่องเงินบริจาคนั้นสำคัญมาก  และด้วยตำแหน่งรองปธน.นั้นก็ทำให้เธอเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ณ ขณะนี้   คือเหมือนกับว่าผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งกำลังส่งสัญญาณว่า  นางอาจจะไม่ใช่คนที่เราชอบนัก  แต่ตอนนี้มีนางคนเดียวที่จะเข้ามาเสียบได้โดยให้ทุกอย่างมันเละเทะน้อยที่สุด  และก็มีความหวังว่านางจะดึงดูดใจผู้ชมฝั่งผิวสีทั้งสีดำ สีเหลือง  สีน้ำตาล  ฝั่งผู้หญิง และฝั่งที่มองว่าปธน.ต้องแข็งเรื่องปราบอาชญากรรม  เพราะนางเคยดำรงตำแหน่งอัยการรัฐแคลิฟอร์เนียมาก่อน   สำหรับหนูแล้ว  ถ้าได้คุณกมลาเป็นเบอร์หนึ่งแล้วได้คุณพีท บู๊ตเดเจ็ชเป็น running mate ก็คงจะเหมาะค่ะ  จะได้ใช้ผลงานที่ปธน.ไบเดนทำไว้เป็นเครื่องมือหาเสียงได้ง่าย  ไม่ต้องไปเริ่มตั้งไข่จากศูนย์    ถ้าเป็นคนอื่นจะหาเสียงยากหน่อย 

แต่ประเด็นคือ  ตอนนี้กุญแจสำคัญของการรณรงค์หาเสียงไม่ได้เป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่พิสูจน์แล้วว่าเข้ามารับใช้ชาติอย่างแท้จริง  กับคนที่โกหกหน้าตายเและเข้ามาปู้ยี่ปู้ยำประเทศชาติเพื่อประโยชน์ส่วนตนอีกต่อไปแล้ว  แต่กลายเป็น "ไบเดนแก่เกินไปหรือเปล่า"    ยิ่งนานวันมันจะยิ่งไม่ส่งผลดีต่อไบเดน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 13  เมื่อ 07 ก.ค. 24, 16:35

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 14  เมื่อ 07 ก.ค. 24, 16:36

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2 3 ... 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.066 วินาที กับ 20 คำสั่ง