อีกเพลงหนึ่งที่นึกได้ที่มีเนื้อพาดพิงถึงดาราในยุคทองของ Hollywood คือเพลงนี้ของวง America (คงไม่ค่อยคุ้นเพราะเป็นเพลงท้าย ๆ ของวงก่อนจะหายไปจากลำโพงวิทยุ)
ดาราคนแรกคือ Rudolph Valentino (1895 – 1926) เป็นดาราในยุคหนังเงียบที่ดังที่สุดในยุค เธอได้ชื่อว่าเป็น sex symbol การตายของเธอในวัยเพียง 31 ทำให้บรรดาแฟน ๆ ใจสลาย ข่าวว่ามีหลายคนที่ฆ่าตัวตายตามเพราะไม่รู้จะอยู่ต่อไปทำไม

(ผมไม่เคยดูหนังของเธอแบบเต็ม ๆ เรื่อง)
ดาราคนที่ 2 ในเนื้อเพลง Right before your eyes คือ Greta Garbo (1905 – 1990)
โอ้... คนนี้ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ดังจนไม่รู้จะดังยังไง ผมว่าเธอดังที่สุดในโลกบันเทิงก็แล้วกัน เธอเริ่มต้นในวงการแสดงมาตั้งแต่ยุคหนังเงียบ พอเริ่มยุคหนังเสียง (talkies) เธอเป็นนักแสดงตัวนำหนึ่งในจำนวนน้อยคนในยุคหนังเงียบที่ผ่านอุปสรรคข้ามมายุคหนังเสียงได้ นั่นเป็นเพราะการทำงานในหนังเงียบต่างกับในหนังเสียง หนังเงียบเน้นการแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง ส่วนหนังเสียง สิ่งที่นำโด่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 คือการใช้เสียง
เมื่อหมดยุคหนังเงียบ และยุคหนังเสียงเข้ามาแทน นักแสดงในหนังเงียบทุกคนต้องผ่านการฝึกฝนเรื่องจังหวะจะโคนในการใช้เสียงซึ่งต่างก็ไม่เคยทำมาก่อน ทำให้ส่วนใหญ่ไปไม่รอด ต้องเลิกการแสดงไปในที่สุด
จากหนังเรื่อง Singing in the rain (1952) เป็นหนังเพลงชั้นเยี่ยมและสนุกมาก เล่าเรื่องอุปสรรคที่เกิดขึ้นในการสร้างหนัง เมื่อจบยุคหนังเงียบแล้วข้ามเข้าสู่ยุคหนังเสียง
อย่างไรก็ตาม Greta Garbo ผ่านมาได้ ความที่เธอเป็นชาวสวีเดน ตอนเล่นหนังเงียบไม่มีใครเดาออก พอมาถึงหนังใช้เสียง ผู้คนถึงได้รู้ความจริงว่าสำเนียงของเธอไม่ใช่สำเนียงของคนอเมริกัน และรู้ว่าเสียงของเธอทุ้มและเซ็กซี่มาก นี่ไม่เพียงแต่ทำให้เธอรอดตายเท่านั้น แต่ยังทำให้เธอโด่งดังมากกว่าเดิมด้วย
ผมได้ดูหนังของ Greta Garbo หลายเรื่องทีเดียว แต่ไม่ได้ชอบทุกเรื่องไป เพราะเธอชอบรับบทเครียด ๆ ซึ่งพอถ่ายทำเป็นหนังขาวดำแล้ว ผมผู้เป็นคนดูพลอยเครียดไปด้วย หนังดีมากของเธอเรื่อง Camille (1936) ผมก็เฝ้าดูเธอได้ไม่ตลอดรอดฝั่งเพราะมัวแต่ไปอ้าปากค้างกับความหล่อของ Robert Taylor ที่กลบความสวยของเธอเสียมิดชิด
(7.36 - 8.20 ... ตอนเปิดตัว)
แต่พอมาเรื่อง Ninotchka (1939) นี่สิ แหม... สนุกจริง ๆ
มาดูหนังเรื่องนี้กัน
ท้องเรื่องเกิดขึ้นที่ฝรั่งเศสเมื่อรัสเซียส่งเจ้าหน้าที่บ้องตื้น 3 คนมาทำเรื่องขายทอดตลาดเครื่องเพชรที่ยึดมาได้จากราชวงศ์รัสเซียเมื่อครั้งปฏิวัติใหญ่ปี 1917 แต่งานไม่สำเร็จเพราะโดน Count Leon d'Algout หรือ พระเอก ของเรา (Melvyn Douglas, 2 รางวัล Oscar) เข้ามาขัดขวางเพราะต้องการให้เครื่องเพชรกลับไปสู่มือเจ้าของเดิม ทางราชการรัสเซียเลยต้องส่ง a special envoy นามว่า Ninotchka มาเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ Ninotchka เป็นสาวหลังม่านเหล็กที่เย็นชาและไม่ใส่ใจกับความหรูหราของโลกภายนอก รวมถึงเรื่องโรมานซ์ แต่แล้วก็ต้องมาตกหลุมรักพระเอกเจ้าเสน่ห์ของเรา
ฉากแรก ๆ ที่ Ninotchka มาถึงกรุงปารีส จนท. บ้องตื้นทั้ง 3 มาคอยรับแต่ งง ๆ กับชื่อ Ninotchka ว่าเป็นชื่อผู้หญิงหรือผู้ชาย
(ฉากหมวกในตู้โชว์ (1.45 - ออกแบบโดย Adrian นักออกแบบเสื้อผ้าที่โด่งดังในยุคนั้น) ซึ่งต่อมา Ninotchka ก็ซื้อมาใส่อย่างเก๋ไก๋)
That must be the one
Yes, he looks like a comrade!
BEARDED MAN AND GIRL
Heil Hitler!
KOPALSKI
No, that's not him...
BULJANOFF
Positively not!
NINOTCHKA
(to Iranoff)
I am looking for Michael Simonovitch Iranoff.
IRANOFF
I am Michael Simonovitch Iranoff.
NINOTCHKA
I am Nina Ivanovna Yakushova, Envoy Extraordinary, acting under direct orders of Comrade Commissar Razinin. Present me to your colleagues.
IRANOFF
Comrade Buljanoff...
NINOTCHKA
Comrade.
IRANOFF
Comrade Kopalski...
NINOTCHKA
Comrade.
IRANOFF
What a charming idea for Moscow to surprise us with a lady comrade.
KOPALSKI
If we had known we would have greeted you with flowers.
NINOTCHKA
(sternly)
Don't make an issue of my womanhood. We are here for work... all of us. Let's not waste time. Shall we go?
IRANOFF
Porter!
PORTER
Here, please...
NINOTCHKA
What do you want?
PORTER
May I have your bags, madame?
NINOTCHKA
Why?
KOPALSKI
He is a porter. He wants to carry them.
NINOTCHKA
Why?... Why should you carry other people's bags?
PORTER
Well... that's my business, madame.
NINOTCHKA
That's no business... that's a social injustice.
PORTER
That depends on the tip.
KOPALSKI
Allow me, Comrade.
NINOTCHKA
No, thank you.
BULJANOFF
How are things in Moscow?
NINOTCHKA
Very good. The last mass trials were a great success. There are going to be fewer but better Russians.
NINOTCHKA
What's that?
KOPALSKI
It's a hat, Comrade, a woman's hat.
NINOTCHKA
Tsk, tsk, tsk, how can such a civilization survive which permits women to put things like that on their heads. It won't be long now, Comrades.
ฉากพระเอก (MD) กับนางเอกเจอกัน โดยที่ยังไม่รู้รายละเอียดว่าต่างเป็นใคร
(ผมขำตอนที่พระเอกถามว่ากำลังหาอะไร นางเอกตอบว่า Eiffel Tower แล้วพระเอกอุทานว่า ‘ตายจริง (Eiffel Tower) หายอีกแล้วเหรอนี่’ มุกตลกที่ทันสมัยนะผมว่า)
ปัญหาของคนจากประเทศหลังม่านเหล็กเมื่อมาถึงดินแดนหรูหรา
แล้วโดนผู้ชายเกี้ยว
แล้วก็ไม่ตลกกับมุกไม่ว่าเจ้าของมุกจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ตาม
(ผมว่าฉากนี้ตลกมาก ผมไม่เคยเห็น GG เอิ๊ก ๆ แบบนี้มาก่อน)
ฉากจำลองแบบขำ ๆ ของที่พักใน apartment ในรัสเซีย
ผมว่า Ninotchka เป็นหนังตลกที่ตลกแบบใสสะอาดน่ารัก แม้จะสร้างมากว่า 80 ปีแล้ว แต่มุขตลกยังคมอยู่ GG ไปได้คล่องกับบทตลกนี้และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Oscar (ในจำนวน 4 ครั้ง) ด้วย
ตอนหนังออกฉายสื่อและแผ่นปิดโฆษณาหนังประโคมกันว่า “Garbo laughs!” ย้อนกลับไปเมื่อครั้งวงการหนังพัฒนาจากหนังเงียบมาเป็นหนังเสียง GG เล่นเรื่อง Anna Christie (1930) เป็นหนังเสียงเรื่องแรก ตอนนั้นสื่อก็ประโคมข่าวกันว่า “Garbo talks!” ตัวหนังสือคำโปรยของเธอเด่นกว่าชื่อหนัง ยิ่งใหญ่แค่ไหนล่ะ

มีบทพูดตอนหนึ่งที่ GG พูดไว้ในหนัง Grand Hotel (1932) มันกลายเป็นคำพูดคลาสสิกที่เป็นอมตะมาจนถึงปัจจุบันนี้
ประโยคนี้ต่อมาเป็นคำพูดประจำตัวของ GG และสื่อก็ประโคมข่าวว่าเป็นคำพูดอาถรรพ์เพราะมันทำให้เธออยู่เป็นโสดจนสิ้นอายุขัย (เว่อร์กันเข้าไป)
‘I want to be alone’ … placed number 30 in AFI's 100 Years...100 Movie Quotes in 2005
Greta Garbo เล่นหนังอีกเรื่องเดียวในปี 1941 หลังจากนั้นสัญญาที่เธอเซ็นไว้กับ studio ต้นสังกัดก็หมดลง เธอไม่ต่อสัญญา แต่บินกลับบ้านที่ Sweden เธอเคยบอกว่าหลังสงครามสงบแล้วอาจจะกลับมาใหม่
เธอกลับมาจริงในช่วงต้น 1950s แต่ไม่ได้มาเล่นหนัง หากมาซื้อ apartment ขนาดย่อมแล้วอยู่เฉย ๆ เงียบ ๆ จนกระทั่งตาย ระหว่างนั้นมีคนเสนอบทหนังดี ๆ มากมายแต่เธอบอกปัดหมดเพราะเลิกเล่นหนังแล้ว
GG เป็นนักแสดงที่มีวินัยเป็นอย่างมาก เมื่อถึงเวลาถ่ายทำเธอจะปรากฏตัวขึ้นที่ฉากโดยไม่ต้องให้ใครเดินไปเชิญ ในทำนองเดียวกัน ถ้าตอนนั้นกำลังเข้ากล้องอยู่ ถ้าตาเหลือบไปเห็นเข็มนาฬิกาบ่งบอกว่าหมดเวลาสำหรับงานวันนี้แล้ว เธอจะชี้ไปที่หน้าปัดนาฬิกาแล้วยิ้มในทำนองว่า ‘หมดเวลาแล้วอ้ะ’ แล้วก็เดินออกไปจากฉากโดยทันที โดยไม่สนใจว่ากล้องกำลังทำงานอยู่ ทุกคนในโรงถ่ายต่างคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้
ครั้งใดที่เกิดการคัดง้างกับ studio เธอจะใช้ไม้ตายด้วยประโยคว่า ‘I think I’ll go back to Sweden’ ได้ยินประโยคนี้ทีไรผู้บริหาร studio เป็นเหงื่อแตกและยกธงขาวยอมตามเงื่อนไขของเธอทุกอย่าง เพราะบุคลิกของเธอเป็นคนเอาจริงเอาจังกับงาน แถมยังเป็นตัวทำเงินด้วย
ตลอดชีวิตของการเป็นนักแสดงนอกเหนือจากตอนที่เข้าวงการใหม่ ๆ จนกระทั่งถึงวันตาย เธอไม่เคยให้สัมภาษณ์แบบทางการไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ไม่เคยแจกลายเซ็นใคร ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนังหรือดาราด้วยกัน แล้วก็ไม่เคยตอบจดหมายแฟน
เธอไม่เคยไปร่วมงานแจกรางวัลใด ไม่ไปแม้แต่งานปฐมฤกษ์หนังของตัวเอง แต่จะแอบไปดูคนเดียวโดยพลางหน้าด้วยแว่นกันแดด
คนเล่าว่าเธอกับ Clark Gable ไม่ชอบขี้หน้ากัน เหตุผลคือ She thought his acting was wooden while he considered her a snob ในขณะเดียวกันคนก็เล่าว่าเธอชอบ Gary Cooper มากและเคยเสนอขอให้เล่นหนังด้วยกันแต่โอกาสที่ว่าไม่เกิดขึ้น
แม้จะครองตัวเป็นโสดจนวันตาย แต่ในครั้งหนึ่งเธอเกือบได้เป็นเจ้าสาวของเจ้าบ่าวนักแสดงดังในยุคหนังเงียบ John Gilbert แต่แล้วเกิดปอดแหกแล้วสวมบท ‘Runaway bride’
นี่เป็นเกร็ดเล็ก ๆ น้อยของดาราที่ได้ชื่อว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

หมายเหตุ – เมื่อกี้พาดพิงถึง Gary Cooper ความหล่อของเธอนั้นสุดขีด Robert Taylor ข่มไม่ลง
(จากเรื่อง Morocco (1930) ดู 2 รอบ รอบแรกมัวแต่อ้าปากค้างกับความหล่อของเธอ)
พอละ ด้นสด เหนื่อย...