Yesterday Once More...

[nathanielnong]

คั่นรายการหน่อย  พรุ่งนี้ไปจะยืดยาวตามเคย

Major Lance



O. C. Smith



R. B. Greaves



Robert Knight



Screaming Jay Hawkins



Otis Redding นี่มีเพลงดังเพลงเดียวเพราะเธอตายเร็วมาก  ที่บ้านเขาต่างสรรเสริญในความสามารถ



ต่อยอดด้วย เพลง soul ที่เพราะจับใจ...

[nathanielnong]

ขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อย  ขอคั่นรายการอีกวันครับ

Peter Sarstedt



Roger Miller – เคยเสนอไปแล้วในกระทู้ก่อน หลายเพลง  แต่ที่ได้ยินบ่อยทางวิทยุคือเพลงนี้



Tony Joe White



Tom Paxton



Miguel Rios



Len Barry



Joe South



Roy Head

[nathanielnong]

มาเข้าเรื่องกันต่อ...

นักร้องตาบอดสาขา country ยังมีอีกคน  ระดับเบิ้มด้วย  เธอคือ Ronnie Milsap  คนนี้ไม่ได้บอดสนิทแต่ almost completely blind from birth

ในช่วงขาขึ้น  เธอนำเพลงขึ้นอันดับ 1 ฝั่ง country chart  เป็นว่าเล่น  มีเพลงบางเพลงที่สามารถ ‘ข้ามฟาก’ มาฝั่ง pop ได้  เพลงที่ข้ามมาได้และไต่อันดับได้ดี  วิทยุบ้านเราก็จะเอามาเปิด  เพลงแรกที่ประทับใจหูผมคือ



เพลงนี้เพราะถูกใจมาก  ผมแล่นออกไปหาซื้อแผ่นเสียงจะได้ฟังเพลงนี้ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ  ได้แผ่นรวมเพลงของเธอ  ในนั้นเพลงเพราะ ๆ ทั้งนั้นเลย  ล้วนไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  เพราะมันดังอยู่ในฝั่งเพลง country









มีต่อ...

[nathanielnong]

ปีต่อมา (1981) เป็นปีพลุแตกของ Ronnie Milsap  แผ่นเสียงแผ่นนี้ดังมากในอันดับเพลง pop  เป็นผลพลอยได้จาก single นำร่องเพลงนี้  วิทยุบ้านเราเปิดกันแทบทุกคลื่นเพลงฝรั่ง

(Intro ทำให้ยืดยาวเพื่อให้สัมพันธ์กับภาพ  ของจริงสั้นนิดเดียวก็เริ่มเสียงร้องแล้ว)


single ที่ 2 ก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง



นั่นเป็นปีดังที่สุดของ RM  หลังจากนั้นอาณาเขตของเธอก็ค่อย ๆ หดกลับไปยังถิ่น country ของเธอ  single หลัง ๆ ยังคงได้ยินบ้าง







อีกหลายปีต่อมา  เพลงของ RM ก็แพลมออกมาให้ได้ยิน 1 เพลง  เธอร้องคู่กับ Kenny Rogers (ลงไปแล้วในกระทู้ก่อนจ้ะ)



พรุ่งนี้ขอแฉลบหน่อย...

[nathanielnong]

เพลง Make no mistake, she’s mine ที่ Ronnie Milsap ร้องคู่กับ Kenny Rogers นั้น  ไม่ใช่เพลงใหม่  หลายปีก่อนหน้านี้  ต้นฉบับเป็นเสียงของ Kim Carnes และ Barbra Streisand  ฉบับนี้ใช้ชื่อต่างกันนิดคือ Make no mistake, he’s mine (เพราะผู้หญิงร้อง  ถ้าเพลงชื่อนี้แล้วเป็นเสียงผู้ชายร้องคงสนุก  อยากเห็น MV) ต้นฉบับได้ยินบ่อยกว่านะผมว่า



ลงเรื่องของป้า Barb ไปแล้ว  ตานี้มาคุยเรื่อง KC

KC เป็นศิลปินอีกคนที่อยู่ในวงการฯ มานานตั้งแต่ปลาย 60s  ตอนแรกเธอเริ่มต้นอาชีพด้วยการแต่งเนื้อเพลง (เพลง Make no mistakeฯ นี่ก็เป็นผลงานแต่งของเธอ)  ต่อมาเธอลองขยายฝีมือมาเป็นนักร้องแต่ไม่ดังจนกระทั่งเพลงนี้ออกมา



นั่นแหละผมถึงรู้จักชื่อของเธอ  เพลงเปิดกันแพร่หลาย  ทั้งในบ้านเขาและบ้านเรา  ปีต่อมาก็ถึงคราวที่เธอจะดัง  ดังแบบระเบิดเถิดเถิงเสียด้วย  ทั้ง 2 ฝั่งฟ้า



แล้วก็ไม่ได้ดังเฉพาะเพลง single นี้อย่างเดียว  album ที่บรรจุเพลงนี้อยู่ด้วยก็ดังกระหน่ำ  ขึ้นอันดับ 1 ตาราง album  แม้ single ต่อมาที่ตัดออกมาจะไม่ดังเลยก็ตาม



เพลงนี้ไม่ใช่ single แต่ผมว่าน่าฟังกว่า



ทว่าความดังของเธอเป็นแบบพลุแตกคือดังแล้วดับ  ผลงานหลัง ๆ ของเธอที่ยังพอได้ยินบ้างก็ Make no mistakeฯ ที่เปิดให้ฟังแล้ว  อีกเพลงก็เป็นผลงานร้อง 3 คน  เธอร้องกับ James Ingram และ KR (ลงเพลงไปแล้วทั้ง 2 คนในกระทู้ก่อน)



เสนอเพลงในยุคแรก ๆ ของเธอ  ตอนนั้นเสียงยังไม่แตกพร่าเนอะ

[nathanielnong]

ยังแฉลบอยู่…

เพลง You’re a part of me นี้  เคยมีคนร้องมาก่อนหน้านี้แล้วคือ Susan Jacks



นักฟังเพลงฝรั่งชาวไทยต้องจำเธอได้จากเพลง You don’t know what love is ที่วิทยุบ้านเรากระหน่ำเปิดในช่วงต้น 70s

(เพลงนี้เป็น single ที่ไม่ติด top 100  ในขณะที่บ้านเรามันติดอันดับต้น ๆ เชียวแหละ)

ตอนนั้นผมนึกว่า SJ เป็นศิลปินเดี่ยว  จนกระทั่งถึงยุค อตน. ถึงรู้ว่า  เธอเป็นศิลปินที่คร่ำหวอดในวงการเพลงคนหนึ่ง  ชื่อเสียงของเธอเป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ปลาย 60s  ฐานะครึ่งหนึ่งของวง Duo ผัวเมียชาวฮิปปี้จากแดน Canada ในนาม The Poppy Family  วงนี้มี single ดังระดับแผ่นเสียงทองคำคือ Which way you goin’ Billy? ในปี 1970 



เพลง You don’t know what love is เป็น single หนึ่งในเวลาต่อมาของวงนี้ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Susan Jacks & the Poppy Family แต่บ้านเราเอามาเปิดโดยบอกชื่อคนร้องแค่ Susan Jacks แทนชื่อวงเต็ม ๆ ผมก็เลยนึกว่าเธอเป็นศิลปินเดี่ยว

กลับมาที่เพลง Which way you goin’ Billy? ในช่วงเวลานั้นผมไม่เคยได้ยินเพลงนี้  มาได้ยินหลังจากนั้นนานมากทางวิทยุในช่วง 2530s  จากรายการวิทยุที่จัดโดยกลุ่มชาวต่างชาติทางคลื่น 100 กว่า (soft 105 หรือ 107 นี่แหละผมว่า) มีดีเจหลายคนแต่จำชื่อได้คนเดียวคือ Jackie Russell  มีใครคุ้นรายการนี้บ้างหนอ

พอได้ยินเพลงนี้ครั้งแรก  โอ้โฮ... มันเหมือนเจอเพื่อนซี้เก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน  เพลงเพราะมาก  ให้บรรยากาศสมัยเด็ก ๆ  ทำไมตอนนั้นถึงไม่เคยผ่านหูก็ไม่รู้  ผมจำได้ว่าโทร. ไปขอเพลงนี้ฟังเป็นประจำ  จนมีครั้งหนึ่งที่พอดีเจรับสายผม  เธอก็หัวเราะแล้วแซวว่า ‘I’ve been waiting for you’ 

ฟังเพลงนี้ครั้งใดจะนึกถึงช่วงบ่าย  นั่นเป็นเพราะรายการเพลงที่ผมโทร. ไปขอฟังเพลงนี้เริ่มในเวลาบ่ายโมง

แล้ววันหนึ่งผมก็หาซื้อแผ่น CD ของวงนี้ได้  (ก็เลยเลิกโทร. ไปขอฟัง) พอฟังดูก็พบว่ามีบางเพลงที่เคยได้ยินมาก่อน (ทำไมเพลง “Which wayฯ” ไม่เคยได้ยินก็ไม่รู้  มันดังกว่าเพลงอื่น ๆ เสียอีก)







วงนี้มีอายุไม่ยืน  วงแตกในปี 1973 (มั้ง) เพราะผัวเมียแยกทางกัน  ต่างออกไปเป็นศิลปินเดี่ยว  ผัวคือ Terry Jacks ดังกว่าเมีย  ในปี 1974 เพลงอันดับ 1 แผ่นเสียงทองคำเพลงนี้ของเธอเข้ามาถล่มหูคนไทยเสียแทบหนวก



TJ เป็นศิลปิน one hit wonder  เพราะเธอไม่มีเพลงดังอีกเลย  แต่ single ที่ 2 ยังอุตส่าห์เล็ดลอดออกมาจากลำโพงวิทยุให้ผมได้ยิน 

[nathanielnong]

คั่นรายการจ้า...

Wilson Pickett กับ 3 เพลงดังในบ้านเรา







The Kingsmen



The Knickbockers



Mashmakan



The McCoys กับเพลงดังสนั่นฟ้าเมืองไทย



Mungo Jerry กับเพลงดังในบ้านเรา



The Moody Blues วงนี้ดังในเมืองไทยมาก  แต่แนวเพลงไม่ถูกหูเด็กอย่างผม  ถ้าเป็นสาวกซึ่งอายุมากกว่าผมคงแนะนำเพลงได้มากกว่านี้







นี่คือเพลงในยุคแรก ๆ  ก่อนมีการ 'ยกเครื่อง'  ผมได้ยินทาง ทีวี I/UBC ภาควิทยุ

[nathanielnong]

Eydie Gorme



Jane Morgan



Joan Weber



Joni James



Joanie Sommers



Linda Scott



Gogi Grant



ต่อยอดด้วย

[nathanielnong]

กลับมาที่หัวข้อนักร้องตาบอด

สาขาต่อไปคือ สาขา Soul  ศิลปินที่มีเพลงดังในอันดับเพลงฯ มี  3 คน  วิทยุบ้านเราเปิดเพลงของเธอครบทั้ง 3 คน  คนแรกคือ Ray Charles  คนนี้ผมทำเรื่องส่งไปแล้วในกระทู้ก่อน (อ. เทาชมพู)

คนต่อมาก็ Clarence Carter  บอกชื่อคงทำหน้า งง ๆ  ต้องให้ฟังเพลง





(ไอ้ท่อน ‘... อรรรรา...’ นี่จำได้ไม่ลืม)


ต่อยอด ...



เอาแต่นี้ก่อน  พรุ่งนี้งานใหญ่...

[nathanielnong]

นักร้องตาบอดสาขา soul  คนที่ 3 นี่นับเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของโลกดนตรีฝรั่ง  เธอคือ Stevie Wonder

ข้อมูลบอกว่า SW เข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 13  ตอนนั้นใช้ชื่อว่า Little Stevie Wonder  เข้ามาปั๊บเธอก็ดังเลยด้วยเพลงนี้

นั่นมันปี 1963  ไม่รู้เคยมีใครเคยได้ยินบ้าง  ผมยังนอนเล่นน้ำลายอยู่เลย


ผมมารู้จักและได้ยินเพลงของเธอ (ในภายหลัง  อย่างที่บอกตอนนั้นโลกหมุนช้า  ทุกอย่างอ้อยอิ่ง  เลยทันได้ยิน) ที่ล้วนออกมาในช่วงปลาย 60s  เพราะ ๆ ทั้งนั้น







(เพลงโปรดของผม  ต้องฟังกับเครื่องเสียงมืออาชีพ)



(หล่อไม่เบานะนี่)


หวังว่าคงเคยผ่านหูมาบ้างนะ  

มีต่อ...

[nathanielnong]

ต่อเข้ายุค 70s  เพลงของ Stevie Wonder ค่อย ๆ ทะยอยออกมาดังอบอวลอยู่ในบ้านผม 



(ผมเริ่มโตทันตั้งแต่เพลงนี้)





(สุด ๆ นะ 2 เพลงนี้  ฟังแล้วต้องโยกตัวด้วย  background vocal ของเพลงแรกเป็นของ วง Jackson 5 ที่ตอนนั้น Michael Jackson ยังเป็นน้องเล็ก  สังเกต (ฟัง) ท่อน chorus จะได้ยินเสียง SW ร้องเรียก Jackson 5, join along with me (1.47) )



(ผมว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้นักฟังเพลงฝรั่งทุกระดับรู้จักชื่อ SW  ดังมากในตอนนั้น)



(เพลงนี้ไม่ดังโฉ่งฉ่างในบ้านเรา  แต่ผมยังจำได้เพราะมันจื๊ดจืด)


มีต่อ...

[nathanielnong]

ในยุคหลัง ๆ เพลงของ Stevie Wonder ก็ยังคงกระจายออกมาจากลำโพงวิทยุอย่างไม่ขาดสาย   ส่วนตัวผมว่าแนวของเพลงของเธอฟังยากขึ้น  เข้าหูซ้ายออกหูขวา  ประมาณนั้น  นอกจาก...



(เพลงนี้ฟังง่ายหน่อย)



(อีกเพลงที่ดังมากในบ้านเรา)


แต่เพลงนี้แหละ  ใครไม่เคยได้ยินผมจะค้อนใส่



หนังเรื่อง The Woman in red มาฉายในบ้านเรา (1984) Kelly LeBrock เป็น sex symbol ในช่วงนั้น  ตอนนี้ไม่รู้ไปนั่งตบยุงอยู่ที่ไหน  ในหนังมีเพลงสอดแทรกอยู่หลายเพลง  นอกจากเพลงเอกที่ดังและกวาดรางวัลไปเกือบหมดทุกเวทีประกวดรวมถึงรางวัล Oscar แล้ว  เพลงที่ 2 นี้ก็ดังไม่เบาในบ้านเรา



มีต่อ...

[nathanielnong]

คั่นรายการ (อีกแล้ว)

Floyd Robinson



Frankie Laine



Freddy Cannon



ต่อยอดด้วย



Fun fact สำหรับเพลงต่อไปนี้…

"Look for a Star" is a song performed by Garry Mills for the 1960 UK horror movie titled Circus of Horrors. It reached #7 on the UK charts, and #26 on the US charts.

When the movie was released in the U.S. another version was recorded under the name of Garry Miles (real name is Buzz Cason) in order to capitalize on the success of Mills' UK original. The Garry Miles version reached #16 on the U.S. pop chart in 1960.

ตอนฟังทางวิทยุไม่รู้ว่าเคยได้ยินทั้ง 2 ฉบับรึเปล่า  ทำนองและเสียง  ผมว่าเมื่อออกมาจากลำโพงวิทยุเครื่องกระจิ๋ว ๆ  เหมือนกันดิก
Gary Mills



Gary Miles

[เทาชมพู]

หนังเรื่อง The Woman in red มาฉายในบ้านเรา (1984) Kelly LeBrock เป็น sex symbol ในช่วงนั้น  ตอนนี้ไม่รู้ไปนั่งตบยุงอยู่ที่ไหน

เคลลี่เป็นนางแบบที่สวยมาก  สวยจนน่าเสียดายที่ชีวิตส่วนตัวกับสตีเวน ซีกัล ทำให้อาชีพดาราจบสั้นไป ตอนนี้เธออายุ 64 แล้ว หันไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมแทนค่ะ

[nathanielnong]

หนังเรื่อง The Woman in red มาฉายในบ้านเรา (1984) Kelly LeBrock เป็น sex symbol ในช่วงนั้น  ตอนนี้ไม่รู้ไปนั่งตบยุงอยู่ที่ไหน

เคลลี่เป็นนางแบบที่สวยมาก  สวยจนน่าเสียดายที่ชีวิตส่วนตัวกับสตีเวน ซีกัล ทำให้อาชีพดาราจบสั้นไป ตอนนี้เธออายุ 64 แล้ว หันไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมแทนค่ะ

ว่าวววว...

ขอบคุณคร้าบ