เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 61874 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 75  เมื่อ 27 ก.ค. 24, 17:54

อ้างถึง
อีกหน่อยคงมีคนเอามาลงนะครับ  'จารได้ยินทางไหนครับ  โชว์ทางทีวีเหรอครับ
ชื่อ Lawrence Welk Show ค่ะ   แต่คงไม่มีใครรู้จักแล้ว  เป็นรายการดนตรีบิ๊กแบนด์ สำหรับคนดูรุ่นปู่ย่าตายาย    ดิฉันรู้จักเพราะตอนไปเรียนใหม่ๆ ขึ้นไปดูทีวีกับคุณยายเจ้าของบ้าน  คุณยายเป็นแฟนประจำ  ก็เลยได้ดูด้วย
รายการนี้เลิกไปเมื่อ 1982  Tom Netherton ถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้วค่ะ

ที่อเมริกาเหรอครับ

ตอนเด็ก ๆ เพลงนี้ของ LW ได้ยินจนจำทำนองได้ไม่ลืมครับ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 76  เมื่อ 27 ก.ค. 24, 18:02

พาดพิงถึง Aretha Franklin ไปนิดนึงเมื่อวาน  เล่าต่อหน่อยว่า  เธอดังสนั่นโลก  ได้ครองแผ่นเสียงทองคำเป็นกะตั๊ก  เพลง soul ของเธอแม้จะ soul จ๋า  แต่ก็เรียงแถวข้ามฟากจากแดน soul มาดังในฝั่ง pop  กันมากมาย  แต่แปลกที่วิทยุบ้านเราเปิดเพลงอิงกับอันดับเพลง pop กลับไม่เปิดเพลงของเธอมากเท่ากับเพลงของ Dionne Warwick  บ้านเราก็นึกว่า DW ดังมาก  แต่ไม่ใช่

เท่าที่จำได้เพลงที่เปิดบ่อยที่สุดก็คือเพลง signature ของเธอ คือเพลงนี้



ที่เปิดให้ฟังในกระทู้ของ อ. เทาชมพูเป็นตับเป็นเพลงที่ออกตลาดในช่วงที่ดังที่สุดของเธอคือปลาย 60s  ผมว่า single ช่วงนี้เพราะมาก ๆ  ฟังแล้วขาขยับตัวโยกโดยอัตโนมัติ

(อยากฟังมากกว่านี้อีกต้องกลับไปที่กระทู้ อ. เทาชมพู)


ความจริงเธอยังดังต่อเนื่อง  ข้ามมายุค 70s  แล้วก็เลยมาถึงยุค 80s  แต่บ้านเราก็ไม่เปิดเพลงของเธอเท่าไรอยู่ดี  มีบางเพลงในต้นยุค 70s  ที่ได้ยินบ้างก็เช่น






ว่าจะเอาให้จบ  แต่ยาวไป  ไม่อยากยัดเยียด  เดี๋ยวไม่ได้อรรถรสของเพลงดี ๆ   พรุ่งนี้มาฟังต่อนะ





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 77  เมื่อ 28 ก.ค. 24, 18:03

จากนั้นเพลงของ Aretha Franklin หายไปจากลำโพงวิทยุบ้านเราไปนาน  มาโผล่อีกทีในกลางยุค 80s  จากรายการในเครือ Nite Spot





(เป็นเพลงจากในหนังชื่อเดียวกัน  หนังมาฉายบ้านเรา  วิทยุก็เลยเอาเพลงมาเปิด  ต้นฉบับเป็นของวง The Rolling Stones ในยุค 60s  จำได้ว่าตอนนั้น Whoopi Goldberg กำลังดังจากบทนำใน The Color Purple  บ้านเราใช้ชื่อไทยเรียกเธอว่า นางสาวเฉาก๊วย  พอหนังใหม่ของเธอเข้ามาไม่ว่าเธอจะสวมบทไหน  ฝ่ายโฆษณาก็จะเอาชื่อนี้เข้ามาใส่ในชื่อหนังเพื่อเรียกคนดู)


นี่เป็นเพลงที่รายการ ฯ เปิดบ่อยที่สุด

(เพลงนี้เธอเป็นนักร้องรับเชิญให้กับวง Eurythmics  เป็นเพลง dance music สุดฮิต)


วง E นี้มีผลงานฮิตที่อเมริกา/อังกฤษมากมาย (มาจากอังกฤษ) แต่ผมไม่สนใจงานของพวกเขา  เพลงดังเพลงเดียวในบ้านเราที่ผมสนใจคือ single แรก  ดังจนลืมชื่อไม่ลง



อีกไม่นาน AF ก็ดังในลำโพงวิทยุอีกกับงานร่วมร้องกับ George Michael (คนนี้ก็ลงผลงานไปแล้ว)

เพลงนี้ก็เปิดบ่อย  แต่ไม่เข้าหูผม  จำได้แต่ชื่อเธอร้องกับ GM


จบยำเละจานย่อย  พรุ่งนี้กลับมายำเละจานหลัก...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 78  เมื่อ 29 ก.ค. 24, 18:30

ย้อนกลับไปปี 1967 Dionne Warwick อัดเพลงนี้ออกสู่ตลาดและกลายเป็น singnature song ของเธอ



ในปีต่อมา  Aretha Franklin ก็อัดเพลงเดียวกันนี้ออกสู่ตลาดเช่นกัน  แนวเพลงแตกต่างกัน  เป็น soul จ๋าแบบที่เธอถนัด  ลองฟังเปรียบเทียบดู  ส่วนตัวผมว่าฉบับของ AF เพราะกว่าอย่างมากมาย 



ทั้ง 2 เพลงดังระดับแผ่นเสียงทองคำทั้งคู่  แต่บ้านเราเปิดฉบับของ DW มากกว่า


ในปี 1968  วิทยุเปิดเพลงนี้ของ Dionne Warwick



อีกไม่นานภายในปีเดียวกัน (จากข้อมูล  ตอนโน้นจำไม่ได้แม่นขนาดนี้หรอก  ทางกลับบ้านตัวเองยังจำผิดจำถูกเลย)  วิทยุก็เปิดเพลงเดียวกันนี้แต่เป็นเสียงของนักร้องผู้ชาย

(ทั้ง 2 เพลงผมมาได้ยินในภายหลังจากเหตุการณ์จริง  ซึ่งวิทยุยังคงเปิดออกลำโพงอยู่ทั้งคู่  สมัยดั้งเดิมผมยังสนุกกับการเล่นลูกหิน)


นั่นเป็นเสียงของ Herb Alpert  เธอเป็นศิลปินเพลงที่ดังสาขาบรรเลง  นี่เป็นเพลงจากเสียงร้องของเธอซึ่งมีไม่มากนัก  เพราะคนชอบเหน็บว่าเป่า sax อยู่แต่เดิมดีกว่า  มีเพลงนี้เพลงเดียวดังระเบิด
 
พรุ่งนี้ต่อ  เป็นยำเละจานขนาดไหนก็ไม่รู้แล้ว  มั่วไปหมด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 79  เมื่อ 29 ก.ค. 24, 18:50

ไม่มีใครร้องเพลง I  Say a Little Prayer for You  ได้มุก ได้ฟิลลิ่ง  ได้เท่  ได้กวนประสาท  เท่ากับ Rupert Everett ในฉากเด็ดของ My Best Friend's Wedding

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 80  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 18:13

ไม่มีใครร้องเพลง I  Say a Little Prayer for You  ได้มุก ได้ฟิลลิ่ง  ได้เท่  ได้กวนประสาท  เท่ากับ Rupert Everett ในฉากเด็ดของ My Best Friend's Wedding


หูยยยย... ถ้า ‘จาร ได้เจอเธอ อย่าเอ่ยบทนี้กับเธอนะครับ  เธอเป็นต้องฟูมฟาย  เพราะเป็นบทเด่นที่สุด  นักวิจารณ์ชมกันเปาะว่าแสดงได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติมาก  เป็นตัวโขมยฉากทุกครั้งที่โผล่เข้ามา  ซึ่งก็แน่นอนเพราะในชีวิตจริงเธอเป็นเกย์  นักฯ ต่างบอกว่าเธอต้องเป็นหนึ่งใน Oscar nominees สาขานักแสดงประกอบชาย  แต่เอาเข้าจริงหลุดโผ  เรื่องนี้ดังมาก (ข่าวจาก นส. Starpics รายงานให้ฟัง(อ่าน))

ติดใจเธอมาตั้งแต่ได้ดู Another Country (1984) หนังอิงประวัติบุคคลสำคัญ  ยามปกติเธอดูเหมือนหนุ่มขบถ  แต่พอยิ้มปั๊บ  หวานเจี๊ยบ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 81  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 18:19

กลับมาเม้าท์เรื่องเพลงต่อ...

เพลงบรรเลงของ Herb Alpert เข้ามาดังในบ้านเราทางหลายรูปแบบ  ทั้งทางลำโพงวิทยุและลำโพงทีวี  คือ เป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาหรือเปิดยามเกิดเทคนิคขัดข้อง หรือก่อนเปิด/ปิดสถานี ฯลฯ





และ 2 เพลงที่พวกเราคุ้นหูที่สุด






แต่เพลงนี้ไม่ใช่ฝีมือของ HA นะ  แนวเพลงออกมาสไตล์เดียวกันเด๊ะ



HA เป็นศิลปินในยุค 60s  เธอกลับมาดังบนอันดับเพลงอีกครั้งในยุค 70s  เพลงดังมากถือเป็นการสั่งลาที่เยี่ยมยอด

(เปลี่ยนแนวไปเลย  เธอปรับตัวได้ดีมาก)


HA นอกจากจะเป็นหัวหน้าวง The Tijuana Brass แล้วเธอยังเป็นหุ้นส่วนของบริษัทแผ่นเสียง A&M Records ด้วย  บริษัทฯ นี้เป็นเจ้าของศิลปินดังๆ มากมาย  ถ้าจะเอามาเอ่ยก็สามารถทำยำเละจานมหึมาได้  เพราะ บ. ดังสุดขีดในยุค 70s  อันเป็นยุคที่ผมบ้าเพลงฝรั่งอย่างน่าขนหัวลุก  แถมยังบ้าเล่นแผ่นเสียงด้วย

เอาเป็นว่าศิลปินที่มีชื่อเสียงที่สุดของบริษัทฯ แถมยังเป็นเด็กปั้นของ HA ด้วยคือ วง The Carpenters (นำเสนอไปแล้วเช่นกัน)



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 82  เมื่อ 31 ก.ค. 24, 18:20

คั่นรายการ...

Sandy Posey เธอเพิ่งตายไปเมื่อ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ถ้าตายตอนกำลังรุ่ง  เป็นข่าวใหญ่แน่เพราะเธอดังไม่หยอก  แม้จะด้วยเพลงเดียว  นี่เป็นเพลงดังในบ้านเรา



ต่อยอดอีกเพลง



Patty Duke



ต่อยอดอีกเพลง



Shelley Fabares



Julie Rogers – นี่เป็นเพลงโปรดของผมอีกหนึ่งเพลง  โปรดมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายเอาหูแนบกับลำโพงวิทยุ  ฟังรายการ golden oldies  ผมตามหามาโดยตลอด  พอมายุค cassettes หาไม่มี (คงมีแต่หาไม่เจอ สมัยโน้น cassette tapes มีเยอะยิ่งกว่ามด)  มาเจอในยุค CD  กี่ปีละนี่  ร่วม 30 ปีละมัง  ไปเจอที่ญี่ปุ่น  อยู่ในแผ่นรวมเพลง 

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 83  เมื่อ 01 ส.ค. 24, 18:27

ย้อนกลับขึ้นไปที่ Dionne Warwick  หวังว่ายังจำได้ว่าค้างไว้ ...

เส้นทางในวงการบันเทิงของ Dionne Warwick ยืนยาวมาก  ผมได้ยินชื่อเธอมาตามทาง (หมายถึงปีแล้วปีเล่า  มีชื่อและเรื่องราวเกี่ยวกับงานของเธอปรากฏขึ้นให้ได้ยิน/ได้อ่านเนือง ๆ)  เธอเคยเป็นพิธีกรให้กับรายการเพลง Solid Gold ที่เข้ามาฉายทางทีวีในบ้านเราอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง

(Andy Gibb นี่ก็เคยเสนอผลงานไปแล้ว  เธอเป็นน้องคนเล็กของพี่ ๆ The Bee Gees  เธอร้องเพลงเพราะมาก  ทุก single ของเธอครองหน้าปัดวิทยุอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง  เสียดายที่เธอตายเร็วมาก)


กลางยุค 70s  วิทยุก็เปิดเพลงนี้ของเธอซึ่งร้องคู่กับคณะ Spinners เป็นเพลงอันดับ 1 เพลงแรกของเธอ  ผมฟังเท่าไรก็ไม่ติดใจ


แทรกตรงนี้นิดว่า วง The Spinners (จากข้อมูลที่ผมได้ครอบครองในเวลาต่อมา) เป็นวง soul ที่ดังมากในบ้านเขา  ในบ้านเรานั้น  ผมจำเพลงของพวกเขาได้น้อยมาก  อาจเป็นเพราะวง soul มีเยอะแยะ  แนวเพลงก็คล้าย ๆ กันเลยจำมั่วไปหมด  มาเช็คชื่อเพลงแล้ว  มีบางเพลงที่จำได้เช่น



(2 เพลงนี้จำได้แม่น  มันดังในบาร์ disco  ฟังปั๊บขาขยับทันที)





กลับมาที่ DW...

อีกไม่กี่ปีต่อมาเธอก็ดังระเบิดอีกครั้ง  ทั้งในบ้านเธอและบ้านเรา  มันดังมากจนผมต้องซื้อแผ่นเสียงแผ่นนี้มาฟัง





มีต่อ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 84  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 18:19

จากนี้ไป Dionne Warwick ก็แตะลมบน  วิทยุนำเสนอเพลงของเธอมากมาย  แต่ผมว่าผมชอบเพลงของเธอในยุค 60s มากกว่า





นี่คือเพลงดังที่ผลิตโดย คณะ Bee Gees





กลางยุค 80s เธอชวนเพื่อน ๆ (จำใครได้บ้าง) มาช่วยกันร้องเพลงนี้  วิทยุบ้านเราเปิดกันครึกโครม  เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางวิทยุ



เพลงของเธอยังคงดังออกมาจากวิทยุอีกแต่ตอนนั้นผมเลิกตามเพลงไปแล้ว


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 85  เมื่อ 03 ส.ค. 24, 18:03

ควันหลง …

นักฟังเพลงฯ ระดับเดอะจะรู้ว่าเพลง That’s What Friends Are For ของ Dionne Warwick นี้ไม่ใช่เพลงใหม่  ต้นฉบับนั้นร้องโดย



ใช่แล้น... ชื่อ Rod Stewart นี้เป็นที่รู้จักดีของนักฟังเพลงฯ  เธอมีเพลงฮิตที่ฮิตมากจนไม่ต้องแนะนำให้เสียเวลาหลายเพลง  ผมจะพูดถึงเพลงในยุคแรก ๆ ที่เธอร้องหลังออกจากวงมาเป็นศิลปินเดี่ยว  2 เพลงนี้ดังก่อนยุคผมแป๊บนึง  พอมายุคผมก็ยังคงดังอยู่และชอบที่สุดในบรรดาเพลงฮิตทั้งหลายของเธอ (หมายถึงเพลงแรก)





จาก 2 เพลงนี้ RS หายไปจากหน้าปัดวิทยุหลายปี  เธอกลับมาอีกครั้งกับเพลงนี้ที่ดังสนั่นไปเลย

(หลังจากมีข้อมูลแล้วผมถึงรู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงดังในอังกฤษ  เพลงไม่ข้ามมาที่อเมริกา  บ้านเรารับความนิยมจากทั้ง 2 ฝั่งก็ดีอย่างนี้แหละ)


ต่อมาก็ 3 เพลง ballad ที่ทั้งดังทั้งเพราะ







เพลงดังต่อมาเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนเพลงดังของเธอที่นักฟังเพลงฯ ทุกคนรู้จักดี



นำทางมาถึงแค่นี้  จากนี้ไปเพลงของ RS ไม่ต้องได้รับการแนะนำแล้ว

มีต่อ...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 86  เมื่อ 04 ส.ค. 24, 18:17

ควันหลงยังอยู่ …

เมื่อวานเป็นควันหลงเรื่องเพลง That’s What Friends Are For  วันนี้เป็นควันหลงเกี่ยวกับเหล่านักร้องในเพลงนี้  นอกจาก Dionne Warwick ซึ่งเป็นเจ้าภาพแล้ว  เพื่อน ๆ ของเธอก็มี Elton John, Stevie Wonder  2 คนนี้จะนำเสนอในยำเละจานต่อ ๆ ไป  ส่วนคนที่ 3 บ้านเราคงมีน้อยคนที่รู้จัก  เธอคือ Gladys Knight  ในยุค 60s ต่อต้น 70s  เธอเป็นจ่าฝูงของวง Gladys Knight and the Pips  เพลงของวงนี้ที่บ้านเราเปิดและผมได้ยินบ่อยอยู่ในช่วงต้น 70s  ล้วนเป็น ballad ที่เพราะเกินบรรยาย









ส่วนเพลงมีจังหวะเพลงนี้ก็ไม่เลว  ผมมาได้ยินตอนซื้อ CD



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 87  เมื่อ 05 ส.ค. 24, 18:33

ถึงมันจะเลยยุคผมไปแล้วแต่ไม่ใช่ว่าผมจะเลิกฟังเพลงใหม่ ๆ  ผมยังคงฟังอยู่แต่เป็นแบบฆ่าเวลาซึ่งจะเป็นช่วงเวลาขับรถ  ไม่ได้ตามติดอย่างสมัยก่อน  ยุคนั้นวิทยุยังเป็นเจ้าถิ่นอยู่  ในเวลาไล่เลี่ยกันผมก็ได้ยิน 2 เพลงนี้





อุ๊แม่เจ้า... มันเพราะมาก ๆ ๆ  ผมต้องจอดรถเข้าข้างทางและฟังเพลงอย่างใจจดใจจ่อ  เหมือนสมัยผีเพลงเข้าสิง  เพลงแรกร้องกัน 3 คน  ตอนนั่งฟังจำเสียงได้ 2 คน  จำเสียง Gladys Knight ไม่ได้  วิทยุไม่ได้เปิดเพลงของเธอมาหลายสิบปี  เพลงที่ 2 ซึ่งเพราะสุดบรรยาย  ร้องกัน 2 คน  ขาด Dionne Warwick  คนหนึ่งรู้จักดีไปแล้วเมื่อวานคือ Gladys Knight  อีกคนคือ Patti LaBelle

ชื่อ PL นี้นักฟังเพลง ฯ บ้านเราคงไม่คุ้นหู (เช่นเคย)  แต่ถ้าเปิดเพลงนี้ละก็  หลายคน อ๋อ... ทันที



เพลงครองทุกคลื่นเพลงฝรั่งในบ้านเราในยุคของมัน 

นี่เป็นเรื่องที่อยู่เกินความเข้าใจของผม  จากข้อมูลใน Wikiฯ  PL ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมากในวงการเพลง  แต่เธอมีเพลงฮิตในอันดับเพลงฯ น้อยมาก  นอกจากเพลง Lady Marmalade แล้ว  เธอยังออกเพลงมาเรื่อย ๆ แต่ไม่ดัง  เมื่อเพลงไม่ดังนักฟังเพลงฯ บ้านเราก็หมดโอกาสได้ยิน  ผมไม่ได้ยินเพลงของเธอร่วม/กว่า 20 ปี  แล้ววันหนึ่งรายการ Nite Spot ก็เสนอเพลงนี้ของเธอเป็นครั้งแรก  ดีเจไม่ต้องบอกชื่อผมก็รู้ว่าใคร  เสียงเธอมีเอกลักษณ์  กี่ปีก็จำได้

มีต่อ ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 88  เมื่อ 05 ส.ค. 24, 19:16

     เคยได้ยินเพลงนี้ ว่าเป็นเพลงยอดฮิท มีมาตั้งแต่ปี 1974  แต่ว่าไม่ชอบเนื้อเพลง  เพราะมันโจ่งแจ้งเกินไปจนขาดศิลปะนำเสนอค่ะ  แต่ก็อย่างว่าละนะ   หนุ่มสาวเขาอาจชอบอะไรตรงไปตรงมาก็ได้
    ท่อนดังของเพลง ที่ร้องกันเป็นวรรคเป็นเวร คือท่อนภาษาฝรั่งเศสว่า "Voulez-vous coucher avec moi ce soir?"   แปลเป็นอังกฤษว่า "Do you want to sleep with me tonight?"  เคยเห็นนักร้องไทย สาวๆหน้าใสออกมาร้องเพลงนี้เต็มปากเต็มคำ  ไม่ทราบว่าเธอรู้หรือเปล่าว่า เพลง  "Lady Marmalade" คือเพลงที่โสเภณีอ่อยลูกค้า 
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 89  เมื่อ 06 ส.ค. 24, 18:45

ขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อยครับ 

คั่นรายการไปก่อน ...

เพลง soft rock ที่เพราะมาก ๆ  ติดใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ
Rene & Rene



Gene & Debbe



The Critters



New Colony Six



Left Banks


ต่อยอดด้วย




บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 4 5 [6] 7 8 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.054 วินาที กับ 20 คำสั่ง