เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 61877 Yesterday Once More...
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 60  เมื่อ 17 ก.ค. 24, 18:45

มา ยำเละ กันต่อนะจ๊ะ

ในฉากนี้ของหนังเรื่อง For the boys (ยังจำชื่อหนังได้เนอะ)

(ไม่มีใครนำ clip ฉากในหนังเรื่องนี้ที่ชัด ๆ มาปล่อยเลย)

ตอนที่นั่งดูอยู่ในโรงฯ  ในฉาก 3 หญิง  หญิงคนกลางนี่สะดุดตาผมมาก  ในใจบอกว่านั่นต้องเป็น Melissa Manchester แน่นอน  แต่ตอนนั้นหาข้อมูลยืนยันไม่ได้  เพราะความทรงจำมีแค่รูปภาพจากปกแผ่นเสียงของเธอ  ข้อมูลที่มีมาตอนท้ายหลังจบหนังเรื่องนี้ก็โดนตัด  เป็นอย่างนี้ประจำสำหรับโรงหนังในบ้านเรา  ไม่ให้ความสำคัญกับข้อมูล  ผมมาพบในยุค อตน. ว่าเป็นจริงอย่างที่คาดไว้ 

MM เป็นนักร้องมีความดังระดับกลาง  ถ้าวัดกันด้วยผลงาน  เพลงของเธอไม่เคยขึ้นถึงอันดับ 1 เธอไม่เคยได้ single ทองคำ (แต่ได้ album ทองคำ  หนึ่งแผ่นหรือสองแผ่นไม่แน่ใจ)  แต่ผมว่านักฟังเพลงฯ บ้านเรารู้จักเธอดีพอ ๆ กับที่บ้านของเธอ  ในยุคต้น 70s  วิทยุบ้านเราเปิดเพลงของเธอเนือง ๆ  ถ้าไม่ใช่ผีเพลงแบบผม  คงจำชื่อเธอไม่ได้  แต่อาจจำเพลงได้

เพลงแรกของเธอที่ผมได้ยินคือ



นี่เป็นเพลงเปิดความสำเร็จในวงการฯ ของเธอในปี 1975  ความสำเร็จแผ่มาถึงบ้านเราด้วย  ตามด้วยเพลงนี้ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเลย  ผมเคยได้ยินครั้งเดียว  แต่ติดใจ  ความที่เคยได้ยินครั้งเดียว  แล้วไม่เคยได้ยินอีกเลยจนกระทั่งถึงยุค youtube  กี่สิบปีละนี่  ทำให้ความที่อยากฟังมากมานาน  พอได้ยินแล้วก็ช้อบชอบ



ความจริงระหว่างเพลงแรกกับเพลงที่ 2  ยังมี single อื่นอีก 2 เพลง  แต่ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  มาได้ยินตอนซื้อแผ่นเสียงรวมเพลงของเธอ

เพลงของ MM หายไปจากลำโพงวิทยุบ้านเรา 2-3 ปี  จนมาปี 1978-79 สองเพลงนี้ก็โผล่ออกมา  ถูกใจเหล่าดีเจมาก  เพราะเปิดบ่อย  แต่เพลงแรกไม่บ่อยเท่าเพลงที่ 2  เพลงนี้ดังสนั่น  ในขณะที่บ้านเธอมันไม่ดังเลย  เป็นเพลงจากในหนัง Ice Castles ที่มาฉายในบ้านเราด้วย

(เพลงนี้ถือเป็น signature song ของเธอ  เธอร้องสุดฝีมือ  ความสามารถต้องตาคณะกรรมการถึงขนาดได้รับเลือกเข้าชิงรางวัล Grammy)




มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 61  เมื่อ 18 ก.ค. 24, 18:36

ขอแฉลบหน่อย...

สืบเนื่องจากหนัง Ice castles (1979) ที่ฉายไปเมื่อวาน  ตัวละครเอกฝ่ายชายเล่นโดย Robby Benson  ก่อนหน้าหนังเรื่องนี้เธอเคยเป็นขวัญใจวัยรุ่น  หนังที่เธอเล่นเรื่องหนึ่งในยุคนั้นชื่อ Jeremy (1973) เคยมาฉายที่บ้านเรา  ผมไม่รู้หนังดังรึเปล่าเพราะไม่ได้ดู  มาดูในภายหลัง  แต่ที่แน่ ๆ เพลงในหนังดังมากถึงมากที่สุด  วิทยุพร้อมใจกันเปิด



ตอนนั้นไม่รู้ชื่อเพลง/คนร้อง  แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพลงในหนัง  เนื่องจากไม่เคยหมุนคลื่นมาทันดีเจประกาศ  มันเป็นเพลงปริศนามาหลายสิบปี  จนผมเข้าทำงานแล้ว  วันหนึ่งเพื่อนสาวก็เอาเทป cassettes มาเปิดในห้อง  พอมาถึงเพลงนี้  ผมถึงกับพุ่งหลาวไปหา  เกือบจะนั่งตักเธอ  แล้วละล่ำละลักถามว่าชื่อเพลงอะไร  จากนั้นผมก็หน้าด้านขอเทปม้วนนั้น  พร้อมบอกว่านี่เป็นเพลงโปรดของผม  แต่หาข้อมูลอะไรไม่ได้เลย  อยากได้มาหลายสิบปีแล้ว  ขอเหอะนะ  จะให้ไปหาซื้อใหม่คงไม่มีทางหาได้  ในสมัยนั้นเทปผีนี่มีวางเกลื่อนยิ่งกว่าเศษขยะเสียอีก
 
พอมายุค อตน. ก็ได้รู้ว่า  มันเป็นเพลงที่ไม่ดังเอาเลย  ไม่ติดอันดับใด ๆ  ผมเอาให้เพื่อนฝรั่งฟัง  มันก็บอกว่าไม่เคยได้ยิน  แม้แต่หนังมันก็จำไม่ได้  ข้อมูลบอกว่า RB ร้องเพลงอีก 2-3 เพลง ล้วนไม่ดัง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น (น่าจะหลังจากนั้นไม่นาน) วิทยุก็เปิดเพลงเดียวกันนี้แต่จากเสียงของนักร้องฮ่องกง  ผมก็เลยได้ฟังเพลงนี้นานเป็นปี  แต่ต้นฉบับเพราะกว่าอยู่แล้ว



อีกเพลงหนึ่งของ Sam Hui ที่วิทยุเปิด 



ต้นฉบับอยู่ในยุค 60s เป็นของนักร้องจากอังกฤษชื่อ Manfred Mann  ให้ฟังเพลงเดียว  เพราะจะนำเสนอเพลงของเธอในหัวข้อ British Invasion  เตรียมไว้แล้ว  แต่ไม่รู้คิว 



แฉลบออกมาแค่นี้...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 62  เมื่อ 19 ก.ค. 24, 18:34

ควันหลงจิ๊ด...

นี่ถ้ารู้ว่าในอนาคตจะได้มาเขียนเรื่องเพลง  ผมคงกัดฟันครอบครองแผ่นเสียงต่อไป  ผมมีแผ่นเสียงอยู่ราว 400+/- แผ่น ด้วยความจำเป็นจึงต้องขายพวกมันไป  เก็บไว้เฉพาะแผ่นของนักร้องคนโปรดหรือปกสวยหรือเป็นเครื่องเตือนใจถึงความหลัง  ตอนนั้นไม่เสียใจหรือเสียดายเพราะกำลังบ้าแผ่น CD  ชอบตรงที่ไม่ต้องมาผุดลุกผุดนั่งยกเข็มขึ้นวางเข็มลง  วางเข็มลงแล้วก็ต้องรีบกระวีกระวาดกลับมานั่ง  ไม่งั้นไม่ทันตอนต้นของเพลง  บางแผ่นอยากฟังเพลงเดียว  นั่งก้นยังไม่ทันร้อนก็ต้องลุกอีกแล้ว  บางแผ่นสภาพเก่าฝนตกทั้งเพลง ฯลฯ  แต่กับเครื่องเล่น CD นี่ชอบตรงที่เสียงใสสะอาด  แล้วยังตั้งโปรแกรมได้  จะฟังร่องโน้นร่องนี้ก็ตั้งโปรแกรมเอา  มาบัดนี้ได้ข่าวว่า CD กำลังจะสูญพันธุ์  แผ่นเสียงกำลังจะกลับมา  แหม... เริ่มเสียดาย



นี่คือ soundtrack album ของหนัง Jeremy  ตอนหน้าด้านขอเทปเพื่อนสาว  ยังอยู่ในยุคแผ่นเสียง  อตน. ยังไม่เกิด  พอมีข้อมูล  ผมก็ไปเดินหาทั่วกรุงเทพฯ ก็ไม่มี  ก็มันหลายสิบปีมาแล้ว  และหนังก็ (คาดว่า) ไม่ได้ดังอะไร  คงไม่มีใครสั่งมาขาย  แผ่นเสียงของนักร้องยังหากันไม่ค่อยได้แล้วนับประสาอะไรกับแผ่น soundtrack  สรุปแล้วต้องไปหาที่ต้นตอคืออเมริกา  ได้มาจากร้านขายแผ่นเสียงมือสอง  ตอนเจอ  ดีใจชิบเป๋ง  รีบคว้าเอามาหนีบใต้จั๊กแร้  กลัวคนคว้าไป  เพื่อนบอกว่า  มึงเอาไปวางข้างถนน  ก็ไม่มีใครเค้าหยิบหรอก หลังจากกลับมาบ้าน  ตอนได้ฟังเสียงเพลงจากอุปกรณ์ชั้นดี  คือชุดเครื่องเสียง  แหม...  มันเพราะมากกกก  แม้จะชอบอยู่เพลงเดียว  แต่ไม่เสียดายเงินเลย (yesterday once more จริงๆ)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 63  เมื่อ 19 ก.ค. 24, 18:40

กลับมาที่ Melissa Manchester…

ปี 1979  MM ออก album เดี่ยวพร้อม single 2 เพลงตามมาตรฐาน  ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จทั้งคู่  ผมว่าจากอานิสงค์ของเพลง Through the eyes of love  ทำให้เหล่าดีเจยังคงเปิดเพลงของเธออยู่





ส่วนตัวผม  ผมว่าเพราะทั้งคู่  เพลงแรกได้ยินแค่ครั้งเดียว  จำได้แค่จังหวะมัน  ส่วนเพลงที่ 2  ฟังครั้งแรกก็ติดใจ  ผมว่าเสียงเธอเหมาะกับเพลง ballad  วิทยุเปิดเพลงที่ 2 บ่อยกว่าเพลงแรก  แต่ไม่ถี่  แป๊บเดียวก็หาย  เพราะมันไม่ดัง

ในยุคนั้นบรรดาหนังสือเกี่ยวกับเพลงฝรั่งที่วางขายตามแผง  จะออกเป็นรายเดือน  ทุกเล่ม/ฉบับจะแนบอันดับเพลง billboard งวดล่าสุดให้ดู  เนื่องจากมันออกเดือนละครั้ง  ขณะที่ นิตยสาร billboard ออกทุกอาทิตย์  แสดงว่าตารางที่แนบมาในเล่ม/ฉบับไม่ทันสมัย  แต่ก็ดีกว่าไม่รู้เรื่องเลย

ตอนที่เพลง Fire in the morning ออก  ผมติดตามการไต่อันดับบนตารางเพลง bb ในบรรดาหนังสือที่บอก (ถ้าเป็น starpics จะซื้อเลย  แต่ถ้าเป็นหัวอื่นก็จะหน้าด้านยืนพลิกหาหน้าที่แสดงอันดับเพลงอยู่หน้าแผงขายนั่นแหละ ดูเสร็จก็วางคืนบนแผงอย่างเรียบร้อยแล้วค่อย ๆ เลื้อยจากไป)

ผมพบว่าเพลงเข้าอันดับครั้งแรกโน่น 90 กว่าจาก 100  แล้วก็ไม่มีดาว (จริง ๆ สีแดง) แสดงว่า  คนไม่นิยม  มีสิทธิตกกระป๋อง  หายไปจาก bb ในสัปดาห์ต่อไป 

แต่ปรากฏในหนังสือฯ เล่มที่ออกวางตลาดต่อ ๆ มา  มันก็ยังตื้ออยู่  ป้วนเปี้ยนอยู่แถวที่ 90 กว่าอยู่นั่น  ไม่หล่นหาย  ผมเห็นแล้วก็ลุ้น  จนครั้งหนึ่งมันเริ่มมีดาวแดง  แสดงว่าเริ่มติดลมบน  คนเริ่มนิยม  ช่วงนี้ผมทนไม่ไหว  ไม่มีคลื่นไหนเปิดเพลงนี้อีกเลย  ผมก็เลยควักตังค์ซื้อแผ่นเสียงมาฟัง  ระหว่างนี้ก็ติดตามการไต่อันดับไปพลาง ๆ  ลุ้นว่ามันจะไต่ขึ้นไปได้ถึงไหน  มันต้วมเตี้ยม ๆ ขึ้นไปจนถึงอันดับที่ 32 ก็หมดแรง  ดาวแดงหายไปแล้ว  ช่างมัน  ผมมีเพลงฟังตามความต้องการของผมแล้ว  มาบัดนี้เพลง FITM ยังเป็นเพลงโปรดของผมอยู่

เขียนถึงเรื่องเก่า ๆ แล้วสนุกดี  มีความสุขด้วย  มันเกี่ยวกับความเพียรพยายามทั้งนั้น  สมัยนี้ประสบการณ์แบบนี้สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้แล้ว

มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 64  เมื่อ 20 ก.ค. 24, 17:57

เพลงของ Melissa Manchester หายไปจากลำโพงวิทยุอีกหนึ่งเพลิน  จนถึงปี 1982  เพลงนี้เริ่มออกกระจายเสียง  และเปิดบ่อยขึ้นจนกลายเป็นอีกหนึ่งเพลงดังของเธอในบ้านเรา



คราวนี้เพลงนี้นำโชคให้เธอเลยละ  นอกจากมันจะดังบนตารางเพลงฯ แล้ว  มันทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Grammy อันเปรียบเสมือนรางวัล Oscar ของวงการเพลง  และคว้ามันมาได้  นั่นเป็นจุดสูงสุดของเธอ  หลังจากนั้นชื่อเสียงเธอก็เริ่มเสื่อมถอย  ผมว่าเธอคงไม่แคร์เท่าไรเพราะได้ Grammy มานอนกอดแล้ว

หลังจากได้รับความสำเร็จมากแล้วเธอก็ออกแผ่นรวมเพลง  ซึ่งผมก็แจ้นไปซื้อมาฟัง  พบว่ายังมีอีกหลายเพลงในยุคก่อน ๆ ที่เพราะมาก ๆ  อย่างที่บอกผมว่าเสียงเธอเหมาะกับเพลงแนว ballad









หมายเหตุ - เพลงของเธอออกแนวอลังการ  คือเครื่องดนตรีเยอะแยะ  แถมมีวง orchestra เป็น backup  ซึ่งผมว่าต้องฟังฉบับอัดใน studio เพราะกว่าแสดงสดมาก

มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 65  เมื่อ 21 ก.ค. 24, 18:06

คั่นรายการแป๊บ...

ศิลปินประเภทกลุ่มในปลาย 60s  มีเยอะแยะดาษดา  วงละเพลง 2 เพลงแล้วก็หายไปจากลำโพงวิทยุ  มีหลายรายที่เคยลงไปแล้วในกระทู้ของ อ. เทาชมพู  บางวงก็เอามาทำ ‘ยำ’  ตานี้ก็มาเก็บตก

The Band



Blue Mink



(เพิ่งรู้นี่แหละว่าเป็นวงที่มีผู้หญิงด้วย  ตอนนั้นนึกว่าผู้ชายดัดเสียง)


Buffalo Springfield วงที่เรียกกว่า super group คือต่อมาสมาชิกแยกตัวไป  ล้วนดัง ๆ ทั้งนั้น



Checkmates


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 66  เมื่อ 22 ก.ค. 24, 18:12

มายำเละกันต่อ...

ประวัติของ Melissa Manchester น่าสนใจมาก  สามารถเอาข้อมูลมาทำยำเละย่อย ๆ (ตอนนี้ก็กำลังทำยำเละอยู่นะ  ยังไม่ลืมเนอะ) ได้ 1 จานใหญ่สบาย ๆ

She studied songwriting at New York University with Paul Simon when she was 19. Manchester played the Manhattan club scene, where Barry Manilow, a friend and fellow singer of jingles, introduced her to Bette Midler ('ยำ' ไปแล้ว). In 1971, she became a member of the Harlettes, the back-up singers for Midler, which she co-created with Manilow...

เอาใครก่อนดี Barry Manilow  ก็แล้วกัน  BM อยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่ปลาย 60s  Wikiฯ บอกว่าเป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นร้องเพลงประกอบโฆษณา ฯลฯ  เธอเพิ่งมาระเบิดเอาในต้น 70s กับเพลงนี้



คาดว่าเป็นเพลงที่นักฟังเพลงฯ ต้องรู้จักดี  มันดังกระหึ่มในบ้านเรา  เป็น ballad ที่เพราะมาก

เนื่องจาก BM มาระเบิดในช่วงดังกล่าวอันเป็นช่วงที่ผีเพลงเข้าสิงผมอย่างแนบแน่น  หารอยเหลื่อมไม่เจอ  ผมจึงได้ยิน single ทุกเพลงของเธอที่วิทยุนำมาเปิดให้ฟัง  บางเพลงก็ฮิต (เพราะมันฮิตมาจากต้นตอ)  หาฟังได้ง่าย ๆ









3 เพลงนี้ดังสนั่น  ทำให้ album นี้ดังไปด้วย ผมเห็น album นี้วางขายทุกร้านแผ่นเสียง







มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 67  เมื่อ 23 ก.ค. 24, 18:14

มาฟังบางเพลงของ Barry Manilow ที่โผล่มาเงียบ ๆ  แต่ไม่รอดหูผม





ในปี 1978 มีหนังเรื่อง Foul Play เข้ามาฉาย  ในหนังมีเพลงที่ BM ร้องไว้เพราะมาก



เพลงนี้ไม่รวมอยู่ใน album เดี่ยวของเธอ  หมายความว่าถ้าอยากได้ต้องซื้อแผ่น soundtrack  ผมเลยคอตก  จ่ายตั้งหลายร้อย  เพื่อเพลง ๆ เดียว  อย่างไรก็ตาม  ในที่สุดผมก็ซื้อแผ่นเสียงของเธอ  มันเป็นแผ่นรวมเพลงฮิต  เป็นแผ่นคู่ราคาแพงระยับ  แต่บรรจุเพลงที่ผมรู้จักทุกเพลง  ตั้งแต่เพลง Mandy มาเลย

ตานี้ก็มีควันหลงที่อยากเล่า

ช่วงเวลานั้นผีเพลงผีหนังเข้าสิงผมแบบหารอยเหลื่อมไม่เจอ  ก่อนการมาถึงของ I/UBC  ผมร่อนออกไปดูหนังโรงทุกอาทิตย์  อาทิตย์ละ 1 เรื่องเป็นอย่างน้อย  ดูเสร็จก็ไปห้างเซ็นทรัลสีลม/ชิดลม  ไปสำรวจตลาดแผ่นเสียง

แผนกแผ่นเสียงของที่ห้างทั้ง 2 สาขานี้ใหญ่มาก  แต่แผ่นก็งั้น ๆ   หนักไปทางแนวคลาสสิกและแจ๊ส ฯลฯ  แนวแบบอมตะไม่ตามกระแส  วางขายได้ตลอดกาล

อย่างไรก็ตามที่แผนกแผ่นเสียง ฯ นี้ก็มีแผ่นตามกระแสอยู่ไม่น้อย  แต่มันแค่ ‘ตาม’ กระแส  ไม่ใช่ ‘ทันต่อ’ กระแส  การไปเดินของผมจึงไปเดินเล่นเอาแอร์เย็น ๆ

ผมนิยมเพลงทันต่อกระแสจึงหาอะไรที่ต้องการจากที่นี่ไม่ค่อยได้  ถ้าเวลานั้นมาถึงผมจะไปที่ร้านแผ่นเสียงรามาย่านบางรัก  ร้านเน่า ๆ มีห้องเดียว  แต่แผ่นเด็ดดวงทั้งนั้น  ส่วนใหญ่เป็นแผ่น ‘ร้อน’ คือ  เป็นแผ่นที่ลูกค้าสั่งไว้  ถ้าเกิดไปเห็นแล้วอยากได้  เป็นซื้อไม่ได้เพราะคนจองหรือสั่งไว้แล้ว  ถ้าอยากได้ต้องสั่งใหม่

ยุคนั้นงานอดิเรกหารำไพ่พิเศษของเหล่าพนักงานสายการบินชาวไทยก็คือไปหาซื้อแผ่นเสียงจากต่างประเทศเอามาขายต่อหรือตามร้านที่ตัวเองมี ‘connection’ สั่งมา  นักสะสมแผ่นเสียงจึงนิยมร้านแผ่นเสียงเล็ก ๆ แบบนี้มากกว่าตามห้าง  ได้แผ่นที่ต้องการและรวดเร็วกว่า  สั่งไป 3-4 วันก็มาแล้ว  ราคาก็ไม่ต่างกันมาก

กลับมาที่ควันหลง...

วันหนึ่งขณะเดินเล่นในห้างเซ็นทรัล  ในแผนกแผ่นเสียงของห้างผมเห็นแผ่นเสียงซึ่งเป็นแผ่นแรกของ BM  ผมดูหน้าปกที่เป็นภาพถ่ายของเธอ (เพิ่งเห็นหน้าเป็นครั้งแรก  เคยได้ยินแต่เสียงทางวิทยุ) แล้วคิดในใจว่า  'อ้อ... หน้าตาอย่างนี้เอง  ไม่หล่อเล้ย'  ความคิดแว่บนึงโผล่ขึ้นมาทันทีว่า  นึกถึงหน้าหมาพันธุ์นึงแฮะ




กาลเวลาผ่านไปหวือ ๆ  ระหว่างนั้น BM ก็ออกเพลงใหม่เรื่อย ๆ  วิทยุบ้านเราก็เอามาเปิดให้ฟังเป็นประจำ Could it be magic, I write the songs (อันดับ 1 เป็นเพลงที่ 2) แล้วก็  Trying to get the feeling again (เพราะหูผมสุดขีด)

อีกวันหนึ่งในเวลาต่อมา ผมเดินสำรวจแผ่นเสียงที่ห้างเซ็นทรัลตามปกติก็เห็นแผ่นเสียงออกใหม่ของ BM วางอยู่ในช่องเก็บ (เป็นแผ่นที่ 3 ของเธอ)  มันชื่อแผ่น  Trying to get the feeling  คราวนี้หน้าปกไม่ได้เป็นรูปของเธอ  มันเป็นรูปวาด  (ตามปกติหน้าปกแผ่นเสียง (ในที่นี้เน้นที่ศิลปินเดี่ยว) จะเป็นรูปของตัวนักร้องเองเสมอ) ผมก็หยิบแผ่นขึ้นมาพิจารณาจากนั้นก็พลิกดูปกหลังก็เห็นภาพนี้




เห็นแล้วอดขำไม่ได้  เธอหน้าเหมือนหมาพันธุ์นี้นี่เอง

หมายเหตุ – แก่จนถึงบัดนี้  รู้จักพันธุ์หมาต่าง ๆ มากขึ้น  ผมว่าหน้าเธอไม่เหมือนหมาพันธุ์นี้เท่าไรนะ ยังมีพันธุ์อื่นที่หน้าเหมือนกว่า

มีต่อ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 68  เมื่อ 23 ก.ค. 24, 19:11

จำBarry Manilow ได้จากเพลงเดียวคือ เพลงข้างล่างนี้ค่ะ   คลิปข้างล่างนี้ก็ดูเหมือนจะใช่มิวสิควิดีโอที่เคยดู
ชอบเพลงนี้ตรงที่เนื้อร้องมันเป็นเรื่องเล่า  และเป็นเรื่องชีวิตรันทดเสียด้วย
 
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 69  เมื่อ 24 ก.ค. 24, 18:13

ทุกอย่างมีขึ้นก็ต้องมีลง หลังจากสนุกสนานกับความสำเร็จมาเกือบ 10 ปี  ในที่สุดขาลงของ Barry Manilow ก็มาถึง  ความดังของ single ของเธอเริ่มแผ่ว  ผมว่าคนคงเริ่มเบื่อกับแนว pop จ๋าแบบนี้แล้ว  แต่วิทยุบ้านเรายังคงจงรักภักดีต่อเธอ







นี่เป็นเพลงสุดท้ายของเธอที่ผมให้ความสนใจ

(เก็บเชื้อไว้ยำเละจานต่อไป)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 70  เมื่อ 25 ก.ค. 24, 18:15

คั่นรายการ...

มานักร้องชายเดี่ยวกันอีกนิด

Bob Lind



เพลงของเธอเพราะฟังแล้วเหมือนนั่งอยู่กลางทุ่งมีลมโชย  ขอต่อยอดอีก 2 เพลง





Leapy lee



Oliver กับ 2 เพลงดังในบ้านเรา

(เป็นเพลงจากในหนัง The prime of Miss Jean Brodie (1969) ไม่ทราบว่าใครเคยดูบ้าง)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 71  เมื่อ 26 ก.ค. 24, 08:40

ไปแสวงหาหนังเรื่อง The Prime of Miss Jean Brodie มาดูจนเจอ สืบเนื่องมาจากหลงรักเพลง Jean ที่ได้ยินทางยูทูปเป็นครั้งแรก     แต่ผิดหวังกับหนัง ดูหนเดียวพอค่ะ
Jean เป็นเพลงที่ประทับใจทั้งทำนองและเนื้อร้อง   แต่ไม่เคยชอบวิิธีร้องของ Oliver   สำเนียงลูกทุ่งของเขาไม่เข้ากับเนื้อเพลง    แถมบางตอนก็ยังโหยหวนแบบดัดเสียงมากไป
คนที่ร้องเพลงนี้ได้ถูกใจที่สุดเป็นนักร้องที่คุณโหน่งไม่มีวันได้ยินชื่อ  Tom Netherton  เขาร้องประจำใน The Lawrence Welk Show  เสียงแบริโทนของทอมและวิธีร้องนุ่มๆของเขาเข้ากับกลิ่นอายความฝันของเนื้อเพลงได้ลงตัว
ดิฉันยังหาคลิปของทอมไม่เจอ   เจอแล้วจะเอามาลง   คุณโหน่งคงเห็นว่าร้องยืดยาดเหมือนคนแก่  แต่นั่นแหละมันเหมาะกับจุดมุ่งหมายของเพลง
เสียดายเพลงนี้เข้าชิงออสการ์แล้วพ่ายแพ้ The Days of Wine and Roses   แต่ถ้าร้องแบบลูกทุ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่แพ้
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 72  เมื่อ 26 ก.ค. 24, 18:39

ไปแสวงหาหนังเรื่อง The Prime of Miss Jean Brodie มาดูจนเจอ สืบเนื่องมาจากหลงรักเพลง Jean ที่ได้ยินทางยูทูปเป็นครั้งแรก     แต่ผิดหวังกับหนัง ดูหนเดียวพอค่ะ
Jean เป็นเพลงที่ประทับใจทั้งทำนองและเนื้อร้อง   แต่ไม่เคยชอบวิิธีร้องของ Oliver   สำเนียงลูกทุ่งของเขาไม่เข้ากับเนื้อเพลง    แถมบางตอนก็ยังโหยหวนแบบดัดเสียงมากไป
คนที่ร้องเพลงนี้ได้ถูกใจที่สุดเป็นนักร้องที่คุณโหน่งไม่มีวันได้ยินชื่อ  Tom Netherton  เขาร้องประจำใน The Lawrence Welk Show  เสียงแบริโทนของทอมและวิธีร้องนุ่มๆของเขาเข้ากับกลิ่นอายความฝันของเนื้อเพลงได้ลงตัว
ดิฉันยังหาคลิปของทอมไม่เจอ   เจอแล้วจะเอามาลง   คุณโหน่งคงเห็นว่าร้องยืดยาดเหมือนคนแก่  แต่นั่นแหละมันเหมาะกับจุดมุ่งหมายของเพลง
เสียดายเพลงนี้เข้าชิงออสการ์แล้วพ่ายแพ้ The Days of Wine and Roses   แต่ถ้าร้องแบบลูกทุ่งก็ไม่น่าแปลกใจที่แพ้

อีกหน่อยคงมีคนเอามาลงนะครับ  'จารได้ยินทางไหนครับ  โชว์ทางทีวีเหรอครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 73  เมื่อ 26 ก.ค. 24, 18:42

ยำเละกันต่อ...

ย้อนกลับไปปี 1976  Barry Manilow ไปอำนวยการผลิตแผ่นเสียงให้กับ Dionne Warwick  ที่ตอนนั้นอับแสงแล้ว  เธอมีวิสัยทัศน์  แผ่นเสียงแผ่นนี้จึงติดตลาด  อานิสงค์มาจาก single นี้  วิทยุบ้านเราพร้อมใจกันเปิด



DW เป็นนักร้องที่มีช่วงรุ่งโรจน์อยู่ครึ่งหลังของยุค 60s  เท่าที่นึกได้  ในปลายยุค 60s  นักร้องหญิงผิวดำที่มีเพลงดังในบ้านเรามีไม่มาก  ดังที่สุดมี 2 คนคือ Aretha Franklin ซึ่งผมเสนอเพลงไปแล้วพะเรอเกวียน  อีกคนก็คือ Dionne Warwick  2 เพลงนี้นักฟังเพลงฯ คนไหนไม่เคยได้ยินเป็นเชยสนิท





ผมว่าเพลงของเธอมีความเป็น ‘soul’ น้อยมากเมื่อเทียบกับเพลงของ AF  เพราะอย่างนี้มั้ง Queen of Soul จึงตกเป็นของ AF













และอีกหนึ่งเพลงดังนี้ที่อยู่ในหนังเรื่อง Valley of the dolls  มันเคยเป็นหนังโรงเข้ามาฉายในบ้านเรา  ถ้าจำไม่ผิดทีวีเคยเอามาฉายด้วย  ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ อยู่เลย  จำได้ว่าตอนนั้น Barbara Parkins กำลังดังจากหนังทีวีเรื่อง เวทีชีวิต



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 74  เมื่อ 26 ก.ค. 24, 19:07

อ้างถึง
อีกหน่อยคงมีคนเอามาลงนะครับ  'จารได้ยินทางไหนครับ  โชว์ทางทีวีเหรอครับ
ชื่อ Lawrence Welk Show ค่ะ   แต่คงไม่มีใครรู้จักแล้ว  เป็นรายการดนตรีบิ๊กแบนด์ สำหรับคนดูรุ่นปู่ย่าตายาย    ดิฉันรู้จักเพราะตอนไปเรียนใหม่ๆ ขึ้นไปดูทีวีกับคุณยายเจ้าของบ้าน  คุณยายเป็นแฟนประจำ  ก็เลยได้ดูด้วย
รายการนี้เลิกไปเมื่อ 1982  Tom Netherton ถึงแก่กรรมไปหลายปีแล้วค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.092 วินาที กับ 20 คำสั่ง