Yesterday Once More...

[nathanielnong]

มายำเละกันต่อ...

เท้าความเดิมนิดนึง...  ค้างกันไว้ที่เพลงของ Patti LaBelle…  แล้ววันหนึ่งในปลายยุคบ้าเพลงของผม  รายการ Nite Spot ก็เสนอเพลงนี้ของเธอเป็นครั้งแรก  ดีเจไม่ต้องบอกชื่อผมก็รู้ว่าใคร  เสียงเธอมีเอกลักษณ์  กี่ปีก็จำได้



เพลง On My Own นี้ Patti LaBelle ร้องคู่กับ Michael McDonald

ในยุคผม MM เป็นจ่าฝูงของวง The Doobie Brothers เป็นวงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเพลงในยุค 70s  วงออกผลงานมาตามปกติแต่มีที่ฮิตน้อยมาก  วิทยุบ้านเราก็เลยไม่ค่อยนำเสนอเท่าไร  2 เพลงที่ผมได้ยินนี้  มาก่อนช่วงเวลาที่ MM เข้ามาร่วม (ก่อนปี 1975)



(หมายเหตุ – เพลงที่ 2 นี้คุ้นหูแค่ลาง ๆ  มาได้ยินชัด ๆ ในยุค youtube)


พอ MM เข้ามาร่วม  วงนี้เริ่มมีเพลงดังบ่อยขึ้น  แต่เพลงนี้ไม่ดังแต่บ้านเราชอบเปิด



วงมาดังสนั่นกับเพลงนี้  เป็นขาประจำของคลื่น Nite Spot



ตอกย้ำด้วย single ที่ 2



เมื่อ MM หันมาจับงานเดี่ยวในเวลาต่อมา  เพลงนี้เป็น single แรกและดังที่สุด



มีต่อ...

[nathanielnong]

Michael McDonald เป็นศิลปินที่ขยันมาก  นอกจากทำงานให้กับวงและงานส่วนตัวแล้ว  เธอยังไปเป็นนักร้องรับเชิญให้กับศิลปินมากมาย  ผลงานที่ดังที่สุดก็ On My Own ที่นำเสนอไปแล้ว  ผมจะนำเสนอผลงานที่เธอร้องร่วมที่วิทยุบ้านเราเปิดให้ฟัง  ที่อยู่ในช่วงเวลาของผม

กับ James Ingram (เล่าไปแล้ว)



กับ Christopher Cross (รอคิว)



กับ Nicolette Larson



ควันหลง - NL คนนี้ผมชอบมาก  เคยเล่าโดยละเอียดไปแล้วในกระทู้ก่อนของ อ. เทาชมพู  เธอเป็นศิลปินที่ผมประทับใจเลยอยากเล่าย่อ ๆ จิ๊ดนึง

เพลงแรกของเธอนั้นเพราะเด็ดขาดและติดอยู่ในใจ 



ตอนนั้นร้านแผ่นเสียงบ้านเราไม่มีใครสั่งแผ่นมาขาย  ผมรออย่างอดทนเป็นปี ๆ จนกระทั่งมีพี่ที่ทำงานไปอเมริกา  ผมไม่รอช้าที่จะฝากซื้อแผ่นของเธอ  album แผ่นแรกของเธอมีแต่เพลงสุดยอด เช่น







ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แม้จะมีเสียงที่เพราะมากแต่จะเป็นเพราะการบริหารไม่ดีหรืออย่างไรก็ไม่รู้  เธอดังอยู่เพลงเดียวและ album เดียว  ในเวลาต่อมาเธอก็ตายก่อนวัยอันควร

เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ผมได้ยินเสียงของเธอ  เธอร่วมร้องกับ Emmylou Harris หนึ่งในราชินีเพลง country ของ 70s ยุคหลัง

(เสียงคล้ายกันมาก  ตอนเด็ก ๆ แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร)


ผมว่าผมจบยำเละจานย่อยนี้ตรงนี้  ความจริงจะยำต่อก็สามารถทำได้เพราะ NL รวมถึง EH  นี่คือหัวเชื้อชั้นดี  ทั้ง 2 เป็นหนึ่งในศิลปินกลุ่ม west coast  อันมีฐานอยู่ที่เมือง Los Angeles  ศิลปินกลุ่มนี้ (พาดพิงถึงเฉพาะในยุคผมคือ 70s) มีความสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น  ใครเริ่มทำงาน (เข้าห้องอัดเพลง) จะต้องมีเพื่อน ๆ เฮโลกันไปช่วยคนละไม้ละมือ  ช่วยเล่นเครื่องดนตรีบ้าง ช่วยร้อง back up บ้าง ฯลฯ  ศิลปินที่ว่านี้ดัง ๆ ทั้งนั้น  แผ่นเสียงที่ผมซื้อก็เป็นของศิลปิน west coast เยอะแยะ 

ฉะนั้นถ้าจะเล่าต่อละก็  กู่ไม่กลับแน่  พักตรงนี้ดีกว่า  ตอนนี้ขอเดินกลับไปดูซิว่า  ไอ้ยำเละจานย่อยนี้มันแตกมาจากจานใหญ่ตรงไหน


ตกหล่นเกี่ยวกับ Patti LaBelle... ตอนผมรู้จักเพื่อนต่างชาติที่เป็นสิงห์เพลง soul เธอเคยเล่าว่า  ในยุคเริ่มแรกคือต้น 60s  PL อยู่ในวงชื่อ Patti Labelle & the Blue Belles เพลงนี้ดังที่บ้านเธอ

[nathanielnong]

คั่นรายการ ...

ถ้าสงสัยว่าไม่เห็นมีเพลงของนักร้องชาย... Hank Williams, Ricky Nelson, Elvis Presley, Johnny Horton, Perry Como   วิทยุบ้านเราไม่เปิดหรืออย่างไร  ลงไปเรียบร้อยแล้วครับ  ในกระทู้ก่อนของ อ.เทาชมพู   นักร้องที่กล่าวมามีเพลงดังในบ้านเราเป็นกะตั๊ก  ขี้เกียจยกเอามา
 
Guy Mitchell คนนี้ก็ลงแล้ว  แต่เพลงดังบ้านเรามีไม่มาก  เลยเอามาลงใหม่







Chris Montez





เพลงนี้เป็น spot โฆษณาตัวหนึ่ง



Dean Marin กับ 3 เพลงขาประจำ  โดยเฉพาะเพลงแรก

[nathanielnong]

เพิ่งอ่านเจอ  เลยลัดคิวขึ้นมา

บทความในนิตยสาร Rolling Stone (ตามวันที่ที่ลงไว้) นิตยสารเกี่ยวกับเพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุด



It’s America’s favorite greatest-hits album because it’s also the best, with CCR’s angriest (“Fortunate Son”), scariest (“Born on the Bayou”), sluttiest (“Sweet Hitch-Hiker”), screamiest (“Travelin’ Band”), dreamiest (“Long As I Can See the Light”), hippiest (“Up Around the Bend”), meanest (“Run Through the Jungle”), countriest (“Green River”), and funniest (“Lookin’ Out My Back Door”), with the finest three seconds of Fogerty’s (John Forgerty นักร้องนำ) vocal life, that “yeeeeah” into the final chorus of “Have You Ever Seen the Rain.”


วง Creedence Clearwater Revival เป็นที่รู้จักในบ้านเราในนาม CCR  ผมว่ามีไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าชื่อเต็ม ๆ คืออะไร  เรียกแต่ CCR  เพลงเหล่านี้เปิดแล้วเปิดเล่าในตอนผมเด็ก ๆ  เพราะพวกมันเข้ามาในบ้านเรากันหมดแล้วในตอนนั้น  จนบัดนี้ถ้าจะเปิดเพลงของพวกเขาก็เลือกเอาในนี้แหละเพราะวงล้มไปตั้งแต่ต้น 70s
 
เพลงนี้ดังที่สุด  พอมารู้ข้อมูลตอนโตแล้วประหลาดใจมาก  คือมันไม่ใช่ single



เพลงอื่น ๆ ดังพอ ๆ กันหมด  ร่ายยาวไปเลย






















และเพลงโปรดของผม



ผู้เขียนบทความยกย่องเพลงนี้ซึ่งไม่ใช่ต้นฉบับของวง

But my favorite isn’t even a Fogerty tune — “I Heard It Through the Grapevine” is their bash at a Marvin Gaye classic, not even getting the words right, just a headbang guitar jam riding Doug Clifford’s cowbell clunks, their most libidinal sex groove, building for a comically absurd 11 minutes (album track).



ต้นฉบับเป็นของคนนี้



ฉบับ rock หรือฉบับ soul ใครจะแน่กว่ากัน

เพลงพวกนี้ใน album รวมเพลงที่เอ่ยถึงเป็นที่น่าเสียดายมากว่าอัดออกมาเป็นระบบ mono เสียส่วนใหญ่  ฟังเครื่องเสียงดี ๆ แล้ว  ไร้ประโยชน์  รู้สึกว่าภายหลังจะมีการ remastered  แยกเสียงเป็น stereo (ยังไม่ได้ค้น)

หลังจากวงล้ม John Fogerty  ออกมาเป็นศิลปินเดี่ยว  เพลงนี้ได้ยินประจำ  ตอนนั้นจำได้แต่เพลง  ไอ้ท่อน ‘โน ๆ ๆ ๆ ...’ นี่ติดแน่นมานับสิบ ๆ ปี  แต่ไม่รู้ชื่อนักร้อง  จนกระทั่งมีปูมถึงหาชื่อได้

[nathanielnong]

ควันหลงนิ้ด...

เพลง Cotton Fields ฉบับของ CCR นี่ไม่ใช่ต้นฉบับ  ต้นฉบับนั้นร้องมาตั้งแต่ยุค 40s  แต่ศิลปินที่นำเพลงนี้มาดังในวงกว้างครั้งแรกคือวง Folk ชื่อ The Highwaymen ในยุคต้น 60s



ผมจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเพลงฉบับนี้ทางวิทยุ  วิทยุคงเอามาเปิดบ้างเพราะฉบับของ CCR  ดังโคตร  ดีเจต้องมีการนำคู่แข่งมาเสนอ  อย่างไรก็ตามเพลงนี้ของวงฯ  อันเป็น signature song เปิดบ่อยมากในรายการ golden oldies

การแสดงสดนี้มีการตัดทอน  ไม่รู้เพราะอะไร  เพลงเต็ม ๆ ก็ไม่ได้ยาวเท่าไรเลย



เป็นเพลงเดียวที่เคยได้ยินทางวิทยุ  เพราะวงฯ มีเพลงดังเพลงเดียว  จนกระทั่งผมซื้อแผ่น CD มาฟัง  ยังมีอีกหลายเพลงที่น่าฟัง







สำหรับเพลงนี้เป็นเพลงใหม่ออกในปี 1972  เนื้อเพลงเล่าเกี่ยวกับชะตาชีวิตของวง  ที่เริ่มต้นอย่างสวยหรูจากเพลงดังของพวกเขา คือ Michael ที่ดังมากเพราะขึ้นถึงอันดับ 1 และคว้าแผ่นเสียงทองคำ  ดังขนาดนี้ทำให้นึกว่ามันจะทำให้อนาคตของวงต้องรุ่งเรืองอย่างแน่นอน แต่แล้ว ‘what the hell went wrong?’



หมายเหตุ – Marvin Gaye ที่ร้อง I heard it throughฯ  เป็นตำนานของวงการเพลง soul  เรื่องการตายของเธอเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก  ผมนำเสนอผลงานของเขาไปแล้วในกระทู้ของ อ. เทาชมพู

เพลงนี้ออกต้นยุค 70s วิทยุเปิดมาตลอดจนถึงยุคผมโดนผีเพลงสิง  เป็นอีกเพลงนอกจาก I heardฯ  ที่เพราะเด็ดขาด  พอมีข้อมูลพร้อมได้รู้ว่าเนื้อเพลงเกี่ยวกับการเมือง  ตอนเด็ก ๆ แค่รู้สึกเพราะ  พอรู้เบื้องหลังแล้ว  ทั้งเพราะทั้งเข้มข้น

[nathanielnong]

กลับมายำเละกันต่อ  เพิ่งรู้ว่านี่ไม่ใช่จานหลัก  ยังเป็นจานย่อยอยู่

ย้อนกลับขึ้นไปที่ Barry Manilow อีกครั้ง …

Barry Manilow ออกเพลง Memory ในปี 1982 



ปีเดียวกันนั้นวิทยุก็เปิดเพลงเดียวกันแต่เป็นเสียงร้องของผู้หญิง  จะใครเสียอีก

(โดยส่วนตัวแล้วผมชอบฉบับของ BM มากกว่า)


Barbra Streisand เป็นศิลปินที่เรียกได้ว่าอันดับ 1 ของโลกดนตรี  ผมรู้มานานแล้วว่าเธอผงาดอยู่ในวงการมาตั้งแต่ต้น 60s  พอมีตำราของ Joel Whitburn ผมก็เปิดดูข้อมูลของเธอ  พบว่าในตอนนั้นเธอดังบนอันดับเพลงฝั่ง album มากกว่าฝั่ง single   แผ่น album ของเธอติด top 5 มาตลอดเป็นตับตั้งแต่แผ่นแรกเลย  ที่แผนกแผ่นเสียงของห้างเซ็นทรัลก็มีแผ่นเสียงในยุคแรกของเธอขายหลายแผ่น  ผมละอยากรู้ว่าเพลงของเธอเป็นอย่างไร  ทำไมคนถึงฮิตเพลงของเธออย่างที่เรียกว่าบ้าคลั่ง  แต่ก็ไม่กล้าซื้อ  แหมตอนนั้นเบี้ยกระจิ๋วหลิวหอยกระจิ๊ดริด  จะทำอะไรต้องคิดหน้าคิดหลัง  เกิดซื้อมาฟังแล้วไม่ถูกหูละก็  ต้องเอาแผ่นฯ ของเธอมากัดกินต่างข้าวกลางวัน  เพื่อทุ่นเงินซื้อข้าว

ส่วนเรื่องเพลงของเธอ  ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองชอบเพลงฝรั่งก็ไม่เคยได้ยินเพลงของ BS จากลำโพงวิทยุเลย  ตรงนี้เข้าใจ  เนื่องจากวิทยุบ้านเราเปิดเพลงอิงตารางเพลงฮิต  แต่เธอไม่มี single ดังในยุคแรก ๆ  วิทยุก็เลยไม่เปิด

ผมว่าเพลงแรกของเธอที่ได้ยินออกมาจากลำโพงวิทยุคือเพลงนี้  มันเป็นเพลงจากในหนังที่มาฉายในบ้านเราด้วย   ดังทั้งหนังและเพลง  ไม่ว่าจะหมุนคลื่นไปหยุดที่ความถี่ไหน  เดี๋ยวเพลงนี้ก็แพลมออกมา



จากเพลงนี้เสียงของเธอก็หายไปจากลำโพงวิทยุ  อีก 3 ปีต่อมา  เสียงร้องของเธอก็กลับมาอีก  เพลงนี้ก็ดังกระหน่ำ  เป็น soundtrack อีกเช่นกันของหนังที่มีชื่อไทยเลิศมาก  จำได้แม่น  ‘จะกู่ร้องปองรักให้ก้องโลก’  ถ้าจำไม่ผิด คุณจีระนันทร์ พิตรปรีชา เป็นคนตั้ง หนังฉายที่โรงสกาล่า



ท่าเพลงนี้จะไปจุดชนวนให้เหล่าดีเจ  เพราะผมว่าหลังจากเพลงนี้เหล่าดีเจเริ่มให้ความสนใจกับเพลงของ BS ทั้งที่ดังและไม่ดัง (ในบ้านเขา)



(นี่คือเพลงที่ผมชอบมากที่สุด)



(นี่ก็เป็น soundtrack ของหนังเรื่อง The eyes of Laura Mars หนังสั่นประสาทที่มาฉายในเมืองไทย  เพลงนี้ไม่ดังแต่มีพลังมาก)

มีต่อ...

[nathanielnong]

เพลงของ Barbra Streisand กลับมาขึ้นอันดับ 1 อีกครั้ง  เพลงดังจนไม่รู้จะดังอย่างไร  ดังจนผมเลี่ยนไปเลย



ในปีต่อมาซึ่งเข้ายุค disco ก็เพลงนี้เพื่อเข้ากับยุคสมัย  ใครจะนึกว่า BS จะร้องเพลง disco ได้



ในปี 1980 BS ก็ระเบิดตูมกับ album ที่ได้ Barry Gibbs มาอำนวยการผลิต  3 เพลงนี้ครองทุกคลื่นเพลงฝรั่งในช่วงนั้น














มีต่อ...

[nathanielnong]

เพลงที่เล่ามาล้วนเป็นเพลงในช่วง peak ของ Barbra Streisand  วิทยุเปิดกันตะพึดตะพือ  ถ้าเป็นการโชว์  ผมก็นั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่แถวหน้า  คราวนี้จะนำเสนอเพลงอื่น ๆ ที่ไม่ดัง  แต่ไม่ใช่ว่าวิทยุจะไม่เปิด







เกือบลืมเพลงดังระดับแผ่นเสียงทองคำอีกเพลงของเธอที่ออกมาในช่วง disco  เพลงนี้ผมไม่ชอบเลย  ก็เลยเพิ่งนึกได้  เป็น soundtrack จากหนังอีกหนึ่งเพลง



ในช่วงขาลง BS ฝาก 2 เพลงนี้ไว้ทางลำโพงวิทยุ





เป็นการจากลาของป้า Barb (เธอให้เรียกแบบนี้) ที่ประทับใจไม่น้อย


หมายเหตุ - ลืมไปอีกนิด...

ในปี 1983 BS เล่นหนังชื่อ Yentl  หนังมาฉายในบ้านเรา  เป็นหนังเพลง  ผมไม่ได้ไปดูเพราะไม่ชอบ (ก็เลยลืม)  วิทยุ (ถ้า timeline ถูก เป็นคลื่น Nite Spot) เปิดเพลงนี้


ส่วนเพลงนี้จำได้ว่าได้ยินทางโฆษณาตย. หนังทางทีวี



(เล่านิดว่า  งานผมเขียนแล้วเอาลงเลยไม่ได้  เพราะมันเป็นเรื่องของความทรงจำในอดีต  อันเป็นเรื่องปกติที่จะจำได้ไม่หมดในคราวเดียว  ต้องเขียนเก็บไว้  พอจะเอาชิ้นไหนมาลงก็อ่านทวนก่อน  ซึ่งจะมีการเพิ่มเติมเสมอ  คราวนี้ต้องเพิ่มเยอะ  เลยไม่ปะติดปะต่อ)

[nathanielnong]

คั่นรายการ...

พี่ ๆ เล่าว่า  ปลาย 60s นี่ข่าวของวงการเพลงฝรั่งที่ดังมากในบ้านเราก็ข่าว งานแสดงดนตรีสด Woodstock  ส่วนวงดนตรีที่ดังมากคือ The 5th Dimension  เธอเล่าว่าเพลงนี้ได้ยินแทบทุกวัน



กับเพลงนี้ที่ความดังของมันขึ้นถึงระดับสากล  ทำให้สายการบินหนึ่งซื้อลิขสิทธ์เพลงไปทำ spot โฆษณา





2 เพลงข้างต้นดังลากยาวมาจนถึงรุ่นผม  ตอนรุ่นผมนั้นเพลงนี้ซึ่งออกทีหลังกำลังอาละวาด  ballad ธรรมดา ๆ แต่เพราะจริง ๆ



หลังจากผมซื้อแผ่นเสียงของพวกเขา  มีอีกหลายเพลงที่ไม่ใช่แค่เพราะแต่ยอดขายล้วนแตะรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (3 เพลงแรก) พวกมันคงเปิดในบ้านเราอย่างแน่นอน  แต่นักฟังเพลงฯ อาจไม่นิยมเท่า 3 เพลงแรก











นานมาแล้ว  ผมจำได้จากสารคดีเล่าเรื่องเพลง soul  นักวิจารณ์เหน็บวงนี้ว่า style ของผลงาน ‘not black enough’  Marilyn McCoo หนึ่งในสมาชิกของวง  เหน็บกลับว่า ‘Can you color music?’


มีต่อ...

[nathanielnong]

มีควันหลงนิดหนึ่ง  มาจากการเพิ่งนึกได้เลยจะแทรกตรงนี้ละ

เมื่อพูดถึงเพลง Up, upฯ  ของวง The 5th Dimension ที่ต่อมาสายการบินหนึ่งซื้อลิขสิทธิ์ไปทำ spot โฆษณา ทำให้นึกได้ว่ายังมีเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในยุค 70s  กับเพลงนี้ของ Barry White (นำเสนอผลงานของเธอไปแล้วในกระทู้ของ อ. เทาชมพู  คือเธอตายแล้น)  หนึ่งในเพลงบรรเลงจำนวนน้อยนิดในยุค 70s ที่สามารถขึ้นถึงอันดับ 1 และได้แผ่นเสียงทองคำที่บ้านเรารวมถึงในบาร์ disco เปิดกันเป็นว่าเล่น

2 โฆษณานี้เข้ามาฉายในทีวีบ้านเรา  สงสัยจะมีผมจำได้คนเดียว


อ้ะ... กลับมาเข้าเรื่องเดิม

สมาชิกวงของ The 5th Dimension นี่  มีคู่เด่นชื่อว่า Billy Davis Jr. และ Marilyn McCoo ซึ่งต่อมาแต่งงานกัน  ในกลางยุค 70s คู่นี้ก็ออกเพลงนี้ที่เพราะและดังทุกฝั่งฟ้า  นักฟังเพลงฯ บ้านเราต้องจำได้

น่าเสียดายที่คู่นี้ดังอยู่เพลงเดียว (แต่ก็คุ้ม)

MM นี่ต่อมามาทำหน้าที่พิธีกรรายการ Solid Gold เป็นรายการที่เข้ามาฉายในบ้านเราเพลาหนึ่ง



สั้นไปหน่อย... แถมเพลงจากวง duo อีกนิด  ในยุค 70s  วง duo เกิดขึ้นมากมาย  ทั้งอย่างเป็นทางการและรวมการเฉพาะกิจ  3 วงนี้เป็นประเภทอย่างเป็นทางการและเป็น ‘one hit wonder’

Pratt & McClain

เป็นเพลงเปิดเรื่องหนังชุดตลกทางทีวีเรื่อง Happy Days  ใครจำได้บ้าง



Brewer & Shipley กับเพลงที่ฟังปั๊บแล้วนึกถึงเพลงไทยของวง ๆ หนึ่ง  ใช่แล้วเค้าเอาต้นฉบับนี้มาแปลง



LeBranc & Carr

(เพลงนี้ยิ่งเพราะและนุ่มนวลถ้าฟังฉบับอัดใน studio สมัยนี้ไม่มีใครทำเพลงแบบนี้กันแล้ว)

[nathanielnong]

ย้อนนนน... กลับไปที่หนังเรื่อง ‘จะกู่ร้องฯ’ อ้ะ... ชมอีกที  เพื่อความทรงจำอันสดใส



นักแสดงนำฝ่ายชายคือ Kris Kristofferson  คนนี้ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการเพลงอเมริกัน  นอกจากร้องเพลงแล้ว  เธอยังแสดงด้วย  เธออยู่ในวงการมาตั้งแต่ต้น 60s  KK เป็นคนที่ผมประหลาดใจมาก  จากประสบการณ์ที่รวบรวมมาจากการอ่าน  เธอไม่มีผลงานดังอะไรเลย  ไม่ว่าจะทางการร้องเพลงหรือการแสดง  แต่วงการบันเทิงให้การยกย่องอย่างท่วมท้น  เท่าที่รู้มา  เธอเป็นนักแต่งเพลงฝีมือฉกาจ

เธอมีผลงานด้าน single น้อยมาก  เพลงนี้ไม่ดัง  แต่ได้แผ่นเสียงทองคำ  เคยได้ยินครั้งเดียว  หลับสนิท



เพลงนี้ยังประทับใจกว่า (ต้องนำเสนอฉบับอัดใน studio ละเมียดละไมกว่า  โดยเฉพาะตอนท้ายของเพลงซึ่งเพราะมาก)



สำหรับเรื่องแต่งเพลง  เธอฝากฝีมือกับเพลงดังที่ดังทั้งในบ้านเขาและในบ้านเรา  โดยที่เราไม่เคยรู้ เช่น...







ต่อยอดด้วยเพลงจากเสียงร้องของเธอ





มีต่อ...

[เทาชมพู]

จำได้ว่าเพลง Up Up and Away ดังมากเพราะกลายมาเป็นเพลงโฆษณาสายการบิน     ทีวีบ้านเราฉายโฆษณาชิ้นนี้บ่อย  แต่ดิฉันหาไม่เจอในยูทูป  จำได้แต่วา่มีภาพสาวไฮโซก้าววิ่งจะขึ้นเครื่อง
เจอแต่เพลงนี้ประกอบสายการบิน PAN AM  ที่เลิกกิจการไปแล้วค่ะ

[nathanielnong]

จำได้ว่าเพลง Up Up and Away ดังมากเพราะกลายมาเป็นเพลงโฆษณาสายการบิน     ทีวีบ้านเราฉายโฆษณาชิ้นนี้บ่อย  แต่ดิฉันหาไม่เจอในยูทูป  จำได้แต่วา่มีภาพสาวไฮโซก้าววิ่งจะขึ้นเครื่อง
เจอแต่เพลงนี้ประกอบสายการบิน PAN AM  ที่เลิกกิจการไปแล้วค่ะ

แสดงว่ามี 2 สายการบินซีครับที่ใช้เพลงนี้  โหน่งจำได้แต่ TWA  ที่เค้าเอาเนื้อมาแปลง  ของ PAN AM นี่ใช้ต้นฉบับทั้งดุ้นเลย

[เทาชมพู]

[เทาชมพู]

หาเจอแล้วค่ะคุณโหน่ง  โฆษณาชิ้นนี้ละค่ะที่ดูในบ้านเราบ่อยมาก