Yesterday Once More...

[nathanielnong]

เอ่ยถึง วง The Kinks  ต้องตามด้วย The Troggs  ผมว่าเพลงของพวกเขาฟังคล้ายกันดิก  สมัยโน้นแยกไม่ออก  แล้วก็ไม่รู้ว่าใครร้องเพลงไหน  นึกว่าร้องโดย ศิลปิน เดียวกัน







เพลงที่ 3 นี้ฟื้นชีพกลับมาดังกระหึ่มในปี 1994  มันเป็นเพลงจากหนังดังที่ไม่มาฉายในเมืองไทยเรื่อง Four weddings and a funeral  (ผมดูทางวิดีโอ) หนังที่ส่ง Hugh (อ่านว่า ฮิว  ไม่ใช่  ฮิ้วเชอะ  นั่นต้องเขียนแบบนี้... huge) Grant (จะ แกร๊น (เถอะ) หรือจะ กร๊าน (เถอะ) ต้องถามเจ้าตัว) เป็นหนุ่มเนื้อหอมของโลกบันเทิง  เพลงไม่ดังเท่าต้นฉบับ  แต่ในบ้านเราผมว่าดังกว่าต้นฉบับนะ



วง Them  ก็เป็นหนึ่งใน British Invasion  ผมเคยเสนอผลงาน (single) ของวงนี้ไปหลายหนแล้ว  ใครที่ไม่คุ้นป่านนี้คงคุ้นและอาจชอบเพลงของพวกเขาแล้ว





นักร้องนำคือ Van Morrison ในเวลาต่อมาเป็นศิลปินเดี่ยวมีเพลงดังเพลงนี้



มีต่อ...

[nathanielnong]

Manfred Mann ก็เป็นหนึ่งใน British Invasion  มีเพลงดังสนั่นในบ้านเรา  ที่นักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคทุกคนต้องเคยได้ยิน  แต่คงไม่รู้ว่าใครร้อง


(จำได้แล้วใช่ปะ)


เพลงของวงยังมีให้ได้ยินอีก  ทุกเพลงดังในบ้านเรา











สมัยโน้นผมรวมถึงนักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคทุกคนต้องรู้จักเพลงเหล่านี้ในนาม Manfred Mann’s Earth Band   ผมเพิ่งรู้จาก Wikiฯ  ว่าเป็นการเข้าใจผิด  นั่นเป็นชื่อที่ใช้ในเวลาต่อมา
  
ยุค British Invasion  เพลงทั้งหมดที่เสนอไปนี้อยู่ภายใต้ชื่อวง Manfred Mann เท่านั้น ตั้งชื่อตามชื่อผู้ก่อตั้งที่ทำหน้าที่เล่น Keyboard

ในยุค 70s Manfred Mann (หัวหน้าวง) ล้มวงเดิมแล้วตั้งวงใหม่ชื่อ Manfred Mann’s Earth Band  เล่นเพลงที่เปลี่ยนแนวไปเลย  นี่เป็นเพลงดังที่สุดของวง  ระดับแผ่นเสียงทองคำ  ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน  ถึงเคยได้ยินก็จำไม่ได้



วง The Zombies กับเพลงแรกที่ฮิตในบ้านเราจนจุก  ขนาดตอนนั้นผีเพลงยังหาผมไม่เจอ  ยังจำทำนองได้  ส่วนชื่อวงนั้นรู้จักก่อนจะรู้ว่ามันแปลว่าอะไร

(ผู้รู้บอกว่า  single นี้ออกมาหลังจากวงยุบตัวแล้ว  MV ตัวนี้จึงมีแค่นักร้อง Colin Blunstone)


นี่คือเพลงดังที่ออกมาก่อนหน้า  แต่ในยุคผมพวกมันเข้ามาผสมปนเปกันหมดแล้ว





เพลงนี้กลับมาคืนชีพอีกครั้งในยุค 70s  โดยวง Santana  สาวกฮือฮากันใหญ่ เจ๋ง ๆ  



มีต่อ...

[nathanielnong]

The Marmalade กับเพลงดังสุดโต่งเพลงหนึ่งในยุคนั้น



3 เพลงนี้เป็นเพลงดังในบ้านของเขา 

(ต้นฉบับเป็นของ The Beatles  วงนี้นำมาร้องแบบเดียวกันเด๊ะ  เลยไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินมาก่อน)



(Lulu (อีกแป๊บ) กับ Mama Cass จากวง The Mamas and the Papas พาดพิงไปหลายรอบแล้ว)



เพลงนี้บ้านเราเล่นฉบับของวง Flying Machine



กลางยุค 70s  วงมีการเปลี่ยนโน่นนี่นั่น  นี่คือเพลงดังที่บ้านอังกฤษและเข้ามาดังในบ้านเราด้วย   ผมได้ยินเพลงนี้มาตั้งแต่ต้นแต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นวงเดียวกับที่เล่นเพลง Reflections of my life  เพลงสุดโปรดเพลงหนึ่ง



ท่ามกลางเพลงจากวง British Invasion มากมายที่วิทยุตะลุยเปิดในยุคนั้น  ถ้าสังเกตจะพบว่ามีเพลงจากวงอังกฤษอีก 1 วงปะปนอยู่ด้วย  ผมแปลกใจว่า วงนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในขบวนการ British Invasion  หรืออย่างไร  เลยลองถามอากู๋ดู...
 
Vanity Fare was not part of the initial British Invasion, which is defined as the mid-1960s period from 1964 to roughly 1967. While the band was English and had significant international hits, their success came slightly later.

ผมเพิ่งลงผลงานของวงนี้ไปเต็มที่เมื่อไม่นาน  ครานี้จะลงแค่ 2 เพลงดังสนั่นในบ้านเรา





มีต่อ...

[nathanielnong]

British Invasion ระดับย่อย ๆ

The Small Faces



วง The Honeycombs  มีมือกลองเป็นผู้หญิง  ซึ่งหาได้ยากมาก  ผมรู้มาจากที่ไหนสักแห่งว่า  มีความสามารถเป็นที่ยกย่องด้วย



วง The Ivy Leagues





The Animals  ที่ฝั่งตะวันตก  วงนี้ดังมากนะ  ผมได้ยินคนพาดพิงถึงตลอดมาเลย  แต่ที่บ้านเรา  ดังอยู่เพลงเดียว





The Spencer Davis Group กับเพลงที่หาฟังได้ง่าย ๆ ในตอนนั้น





หมายเหตุตรงนี้ - นักร้องนำชื่อ Steve Winwood  มาต่อมาแยกเป็นศิลปินเดี่ยว  เธอดังมากในยุคต้น 80s  มีเพลงฮิตมากมาย  แต่ผมคุ้นแค่ 2 เพลง  เพลงที่ 2 ดังสนั่น





แล้วก็อีกหนึ่งหมายเหตุตรงนี้ - สาวผิวสีที่ดิ้นคลอเคลียอยู่กับ SW  ถ้าเป็นนักฟังเพลงฝรั่งชั้นเบิ้มหน่อย  จะต้องคุ้นหน้า  เธอคือ Chaka Khan  เธอดังมาตั้งแต่ต้น 70s  โดยอยู่กับวง Rufus  มีเพลงนี้ที่ดังในบ้านเรา



ตอนเธอออกมาเป็นศิลปืนเดี่ยวนั้นอยู่ปลายยุค 70s  หมายความว่า  ผมเริ่ม 'ถอยห่าง' แล้ว  อย่างไรก็ตาม 2 เพลงนี้  ดังจริง ๆ   โดยเฉพาะเพลงแรก





พรุ่งนี้เปลี่ยนบรรยากาศหน่อย...

[nathanielnong]

จิปาถะ...

Whigfield จากอังกฤษ  บ้านเราเปิด 2 เพลง  เพลง ballad เพราะมาก





Emilia กับเพลงที่จู่ ๆ ทุกคลื่นวิทยุเพลงฝรั่งก็พร้อมใจกันเปิด



Beverley Craven ... คนนี้คลื่น Nite Spots เชียร์มาก  ผมเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนอังกฤษ



คนสุดท้าย...

Lyn Paul เป็นสมาชิกคนหนึ่งของวงดังจากอังกฤษชื่อ The New Seekers  จากประสบการณ์ผลงานของวงนี้ดังในบ้านเรามากพอ ๆ กับที่อังกฤษ  ในขณะที่อเมริการู้จักอยู่เพลงเดียว



ผมเคยเสนอผลงานของวงนี้ไปเป็นกะตั๊กในกระทู้นักร้องตายของ อ. เทาชมพู  คราวนี้จะเสนอผลงานร้องเดียวของ LP  เป็นเพลงในหนังเรื่อง The Dove (1974) หนังมาฉายที่บ้านเราที่โรงฮอลลีวู้ด  ส่วนเพลงดังพอประมาณทางวิทยุ  แต่อาจจะดังกว่าที่อังกฤษและอเมริกาเสียด้วยซ้ำ  แล้วก็อดทึ่งเหล่าดีเจบ้านเราไม่ได้ที่หูตาเป็นสับปะรด  ช่างสรรหาเพลงมาเปิดให้พวกเราฟัง



ตัวอย่างหนัง

[nathanielnong]

[nathanielnong]

British Invasion ยังส่งวง soft rock ที่ผลิตเพลงนุ่มนวล 2 วงมาอาละวาดที่อเมริกาคือ Peter & Gordon  และ Chad & Jeremy นักฟังเพลงฝรั่งบ้านเราก็พลอยได้อานิสงค์ไปด้วย

ในสมัยเด็ก ๆ รายการเพลงฝรั่งทางวิทยุมีมากมาย  แต่ละคลื่นก็มีเอกลักษณ์ของตัวเอง  คลื่นที่เสนอเพลง hard rock ก็มี (รายการโปรดของ ขาโจ๋ ของผม  เคยนินทาไปยัง  จำไม่ได้) แต่คลื่นที่เสนอเพลง pop ทั่วไปตามความนิยมในอันดับเพลงของทางฝั่งตะวันตก (อเมริกาและอังกฤษ) ก็มีและมีมากที่สุด  สถานีที่เล่นเพลง golden oldies ก็มี  และสถานีที่เสนอเพลงกลางเก่ากลางใหม่คือบางทีก็เปิดเพลงในยุคปัจจุบัน  บางทีก็เปิดเพลงยุคเก่าสลับกัน  แต่ไม่เก่าขนาด golden oldies  เก่าย้อนไปประมาณช่วงปลายของยุค 1960s

นี่เป็นคลื่นที่ผมชอบฟัง  เราฟังเพลง golden oldies บ่อย ๆ ก็เลี่ยน  มาฟังเพลง rock ในยุค ‘แสวงหา’ เปลี่ยนบรรยากาศ

คลื่นวิทยุแนวนี้จะเปิดเพลงดังของเหล่าศิลปินที่โลดแล่นอยู่ก่อนที่ผมจะรู้ประสา   มีอยู่วงหนึ่งที่ได้ยินเพลงของพวกเขาเป็นประจำ  เพลงของพวกเขาเพราะมาก  ไม่มีความ rock เลย  ฟังแล้วถูกหูเด็กน้อยอย่างผม  คือวงคู่ Peter & Gordon เพลงแรกนี้ดังสนั่น















ก่อนเข้ายุค 70s ชื่อเสียงของวงซบเซา  Peter Asher ยังคงอยู่ต่อไปในวงการเพลง เธอประสบความสำเร็จในตำแหน่ง producer แผ่นเสียงให้กับ Linda Ronstadt (และคนอื่น ๆ)  เป็น producer คู่บุญของ LR มาตลอด




มีต่อ...

[nathanielnong]

ในความรู้สึกส่วนตัว  ถ้าได้ฟัง A World Without Love จาก Peter & Gordon แล้ว มั่นใจได้ว่าดีเจจะต้องเปิดเพลงนี้ของวงนี้เป็นเพลงต่อมา

(เพราะมากนะ)


Chad & Jeremy เป็นวงคู่จากอังกฤษเช่นกันกับ Peter & Gordon  ทั้งคู่เข้ามาในวงการในช่วงเวลาเดียวกันด้วยคือ 1963/64  ต่อมาเมื่อมีปูมของ Joel Whitburn แล้วค้นพบว่า วงนี้เป็นวงเชื้อชาติอังกฤษแต่ไปดังที่อเมริกา  มากกว่าที่อังกฤษบ้านเกิด  นับเป็นเรื่องแปลก 

ตอนซื้อ CD ของวงนี้มาฟัง  ผมรู้จักอยู่แค่ 2 เพลง  คือเพลง A Summer Song  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ผมควักตังค์ซื้อ CD  เพราะเพลงเพราะมาก  อยากเป็นเจ้าของ  จะได้ฟังได้เรื่อย ๆ

อีกเพลงที่รู้ก็จักก็คือเพลงนี้  ที่มารู้จักในยุคผีเพลงเข้าสิงแล้ว (กลาง 70s)  คือวันหนึ่ง จู่ ๆ ทุกคลื่นเพลงฝรั่งต่างก็ระดมเปิดเพลง Donna Donna  ไม่รู้ใครเป็นคนเริ่ม  ดีเจต่างก็สรรหาเพลงนี้ที่ร้องโดยนักร้องต่าง ๆ มาเปิดให้ฟัง  นอกจากเสียงของวง C&J แล้วก็มีเสียงของ Joan Baez, Felicia, Wee Gee ฯลฯ  จากทั้งหมด  ผมว่าฉบับของ C&J เพราะที่สุดนะ



พอได้เริ่มฟัง CD  ปรากฏว่ายังมีเพลงอื่นอีกที่พอได้ยินปั๊บผมก็ฮัมตามได้ทันที  แสดงว่าต้องเคยได้ยินเพลงเหล่านี้มาก่อนแล้ว  ก็จากวิทยุนั่นแหละ









ควันหลงนิด... ฟังเพลง From a Window นี้แล้ว  นึกถึงเพลงดัง (2 ฝั่งฟ้า) อีกเพลง  ทั้ง 2 เพลงมีจุดเริ่มต้นที่ ‘ไฟในห้อง’  เหมือนกัน  ต่างกันตรงที่เพลง From a window นั้น เป็นไฟในห้องของเธอ  แต่เพลง Last Song ของ Edward Bear เป็นไฟในห้องของฉัน



อ้ะ... กลับมาต่อยอด

วงมาเป็นดารารับเชิญในหนังทีวีชุด Batman  จำไม่ได้ว่าตอนนี้มาฉายในบ้านเรารึเปล่า







มีต่อ...

[nathanielnong]

ที่เอ่ยมาจะสังเกตได้ว่าเป็นศิลปิน British Invasion ประเภท ‘วง’  ศิลปินเดี่ยวก็มี  ที่นำโด่งมาคือ Dusty Springfield

ผลงานของเธอที่ผมจำได้จากการฟังทางวิทยุมี 5 เพลง  เริ่มด้วยเพลงดังระดับ signature ของเธอ



แล้วก็มาเพลงเหล่านี้







และเพลงโปรด  มันไม่ใช่ single  แต่คงเตะหูดีเจพอที่จะเอามาเปิดออกทางวิทยุ



ต่อมาผมซื้อ CD รวมเพลงของเธอ  พบว่าหลายเพลงเพราะ  ถูกใจหูมาก  แต่ละเพลงแสนอลังการ  ทำให้นึกถึงนักร้องหญิงอีกคนที่มาทีหลังคือยุค 70s  ผลงานของเธอใช้เครื่องดนตรีมากมายมีความอลังการปานกัน  คือ Melissa Manchester  









เพลงนี้มีคนนำมาร้องใหม่มากมาย  ผมว่าฉบับของเธอเพราะมากที่สุด  โดยเฉพาะช่วงท้าย  สุดกระหึ่ม



แม้ใน DS จะไม่มีผลงานขึ้นถึงอันดับ 1 (บน billboard) ไม่เคยได้แผ่นเสียงทองคำ  แต่เธอเป็นศิลปินหญิงจากอังกฤษที่วงการเพลงอเมริกาพร้อมใจกันให้เกียรติและความชื่นชมอย่างมาก  ได้รับการขนานนามว่าเป็น blue eyed soul  และได้รับการเสนอชื่อเข้าทำเนียบ Rock and Roll Hall of Fame  การประกาศจัดขึ้นหลังจากที่เธอตายแล้ว  วันที่เธอตาย (มี.ค. 1999) วงการเพลงทั้ง 2 ฝั่งฟ้าลงข่าวของเธอกันครึกโครม



ผลงานในยุคหลังของเธอ  บ้านเรา (Nite Spot) เปิดเพลงนี้   แต่ผมนิยมผลงานในยุค 60s มากกว่า



ผมจำได้ว่า Nite Spot ชอบวง Pet Shop Boys มาก  วงนี้มีเพลงดังในบ้านเราคือเพลงนี้



มีต่อ...

[nathanielnong]

คั่นรายการสำหรับวันนี้

เพลงต่อไปนี้เป็นเพลงยุค golden oldies  แต่ผมเพิ่งมาเคยได้ยินทาง ทีวี I/UBC ภาควิทยุ  พบว่าเพราะดี  หลังจากน้ำท่วมประเทศไทย  ผมก็ยกเลิก  แล้วเลิกการดูทีวีไปด้วยตั้งแต่บัดนั้น

Cathy jeans & Roomates



The Chantels



The Charmaines



The Dixiebelles



Raindrops

[nathanielnong]

British Invasion ที่คู่กันมา (ผลงานในบ้านเรานะ) คือคนนี้ Petula Clark อายุยืนมาก  ตอนนี้ก็ยังอยู่  ผ่าน 90 ไปแล้ว  ผมเช็คดู ชื่อเสียงของเธอเริ่มมาตั้งแต่ยุค 50s  แต่เพลงที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักของคนที่รักเสียงเพลง (ฝรั่ง) ทั่วโลกอันรวมถึงบ้านเราคือเพลงนี้ที่ออกมาในปี 1964



เพลงดังในบ้านเราขนาดที่มีศิลปินไทย คณะสามศักดิ์ นำมาทำเป็นเพลงแปลงชื่อ เท้าดำ  จนป่านนี้ผมยังหาฉบับเพลงแปลงไม่เจอ

จากประสบการณ์  เพลงดังของเธอในบ้านเราเพลงที่ 2 คือ



เพลงดังพอ ๆ กับเพลง Downtown เลยละ  แต่ที่อเมริกานั้นไม่ดังเท่าไรเลย

PC เป็น British Invasion ฝ่ายหญิงคนเดียวที่มีเพลงดังอันดับ 1 บน billboard ถึง 2 เพลง  เพลงที่สอง คือ



นี่คือเพลงที่รวมกลุ่มอยู่ในเพลงที่บ้านเราเปิดอยู่เนือง ๆ  เอาเป็นว่าตลอดร่วมสิบปี  ผ่านมาจนถึงยุคของผม  วิทยุไม่เคยลืมเพลงของเธอ















ความสำเร็จของเธอที่อเมริกาทำให้ได้รับการยกย่องว่า "The First Lady of the British Invasion"

[nathanielnong]

British Invasion ต่อมามี 2 คน  โดยส่วนตัวผมว่า 2 คนนี้  มีอะไรคล้าย ๆ กัน  อย่างแรกคือทั้ง 2 ดังในช่วงเวลาเดียวกัน  และดังมากที่บ้านเกิด  แต่ที่อเมริกา  คนกลับไม่นิยมผลงานของพวกเธอ

คนแรกคือ Sandy Shaw   คนนี้ผมเพิ่งเสนอผลงานไป  อยู่ในหัวข้อ Eurovision Song Contest  เพลงนี้เป็น signature song ของเธอ  ดังที่บ้านเรามากกว่าที่อเมริกา



คนที่สองคือ Cilla Black  แม้เธอจะนักร้องระดับแนวหน้าของชาวอังกฤษ  แต่ผมว่าคนไทยรู้จักเธอน้อยมาก  น้อยกว่า Sandy Shaw ด้วยซ้ำ  เธอมีเพลงดังเป็นกะตั๊ก ๆ (เช่นเดียวกับ Sandy Shaw) แต่หาที่ดีเจไทยเอามาเปิดแทบไม่มีเลย (เท่าที่จำได้)  ทั้ง ๆ ที่วิทยุบ้านเราเปิดเพลงอิงกับอันดับเพลงไม่เฉพาะทางฝั่งอเมริกาคือ ตาราง Billboard หรือ ตาราง Cashbox  แต่ยังฝั่งอังกฤษด้วย คือตาราง Melody Maker

อย่างไรก็ตาม CB เธอเคยส่งเพลงข้ามมาลงในตารางเพลงฝั่งอเมริกาด้วยแต่ไม่ดัง  ที่ดังที่สุดก็แค่เข้าไปใน top 30  แค่เพลงเดียว  และก็เป็นเพลงเดียวที่ดีเจบ้านเราเอามาเปิดให้ฟัง  ผมรู้จักเธอดีจากเพลงนี้



นั่นเป็นเพลงเดียวของเธอที่ผมรู้จักตอนเด็ก ๆ  ต่อมาแฟนสาวของผม Helen Reddy นำมาร้องใหม่  แบบถอดกันมา  ซึ่งก็ได้รับความนิยมมากกว่า



ในกาลเวลาต่อมาอีกน้านนานจนผมโตเลยความเป็นหนุ่มแล้ว  วันหนึ่งก็ได้ยินเพลงเพลงหนึ่ง  ฟังเสียงแล้ว  แทงไปเลยว่าเป็นเสียงของ Olivia Newton John  แล้วก็คิดต่อว่าเพลงอะไรหว่า  ทำไมข้าพลาดไปวะ  ข้ารู้จักเพลงของ ONJ ทุกเพลง  สถน. นั้นที่ผมฟังเป็นประจำเปิดเพลงที่ว่านี้อยู่เนือง ๆ แต่ไม่เคยประกาศชื่อเพลงเลย  ผมละแสนจะหงุดหงิด

ตอนนั้น อตน. ยังไม่เติบโต  แล้วก็มีแต่ yahoo ถามอะไรก็ทำหน้าบ้องแบ๊ว  ส่วนอากู๋ยังไม่เกิด  หลังอากู๋เกิดแล้ว  ผมก็ลองหาชื่อเพลงนี้ดู  เผอิญเสียงของเธอฟังชัดผมก็เลยจำเนื้อเพลงได้บ้าง  ก็เอาเนื้อเพลงมาถาม  ก็ได้คำตอบ  ไม่ใช่เสียงของ ONJ แฮะ   หน้าแตก  แต่ช่วงนั้น youtube กำลังตั้งไข่  ยังหาอะไรไม่ค่อยได้  ผมก็เก็บข้อมูลไว้จนกระทั่ง youtube  แก่กล้า… เห็นความเพียรของผมมั้ย  ถ้าตั้งใจในเรื่องอะไรสักอย่าง (ยกเว้นเรื่องเรียน)  ผมเป็นเกาะไม่ปล่อย

นี่คือเพลงที่ผมตามหาชื่อคนร้องมานาน  มันเป็นเพลงเก่าตั้งแต่ปี 1971  ตอนที่ได้ยินมันร่วม 30 ปีหลังจากนั้นแล้ว  ไม่รู้ดีเจไปเอามาจากไหน

ฟังจากลำโพงวิทยุ  เสียงคล้าย ONJ จริง ๆ


นำเสนอเพลงดัง ๆ ของ CB ที่บ้านเกิด









2 เพลงนี้ที่ทางฝั่งอเมริกาดังจากเสียงร้องของ Dionne Warwick






Cilla Black, Petula Clark และ Sandy Shaw 3 (ใน 4) หัวหอกของ British Invasion ฝ่ายหญิง

[nathanielnong]

British Invasion ฝ่ายหญิงอีกคนที่ดังกระหน่ำทั้ง 2 ฝั่งฟ้า (ฟ้าฝั่งตะวันตกและฟ้าบ้านเรา) คือ Lulu  เพลงนี้ของเธอผมได้ยินมาตั้งแต่ยังไม่ประสากับเพลงฝรั่ง  จนกระทั่งผีเพลงฝรั่งเข้าสิงก็ยังได้ยินอยู่เนือง ๆ  มันเพราะมาก ๆ  แค่ขึ้น intro ก็หวือกลับไปหาบรรยากาศเก่า ๆ



มันอยู่ในหนังที่เธอร่วมแสดงด้วย  มีชื่อเดียวกันกับชื่อเพลง  พี่ ๆ บอกว่ามาฉายที่โรงเฉลิมไทย  ใช้ชื่อไทยว่า แด่คุณครูด้วยดวงใจ  หนังดัง  เพลงก็ดัง  ผมได้ดูทางทีวี I/UBC



น่าเสียดายที่ Lulu ไม่สามารถรักษาความดังไว้ได้นาน  หลังจากเพลงนี้เธอไม่มีเพลงดังอีกเลย (ในอเมริกา)  เธอจึงเข้าไปอยู่ในสาขา One hit wonder  อย่างไรก็ตามความดังของเพลงนี้ขนาดขึ้นทำเนียบเพลงอมตะ  ชื่อของเธอก็เลยติดลมบนมาตลอด

วิทยุในบ้านเราเปิดเพลงดังจากทั้ง 2 ฝั่งคือ อเมริกา และ อังกฤษ  เลยยังได้ยินเพลงอื่น ๆ ของเธอที่ดังในฝั่งอังกฤษ  2 เพลงนี้ดังระดับหนึ่งในบ้านเราเลยละ



เพลงนี้เป็นเพลงโปรดของผมมาตั้งแต่เด็ก ๆ  เวลาหมุนเข็มวิทยุมาทันได้ยินเพลงนี้  จำได้ว่ามีความสุขเหลือล้น  แม้จะไม่เคยได้ยินแบบเต็ม ๆ เพลงสักที   มีภาพในความทรงจำเกี่ยวกับเพลงนี้ที่ยังเด่นชัดมาถึงเดี๋ยวนี้

วันนั้นผมไปเดินดูแผ่นเสียงที่ห้างเซ็นทรัลสีลม  เดินสำรวจเสร็จก็ออกมายืนคอยรถเมล์กลับบ้านที่ป้ายหน้าห้าง (เยื้องไปหน่อย)  จำได้ว่าห้องแถวห้องแรกตรงนั้นเป็นร้านขายอะไรบางอย่าง  หน้าร้านมีตู้ใส่เทป cassettes  สำหรับขาย  ระหว่างนั้นคนขายก็เปิดเพลง (ฝรั่ง) จากเทปไปเรื่อย ๆ  ผมก็ยืนคอยรถเมล์ไปฟังเพลงไป

แล้วผมก็เห็นหัวรถเมล์คันที่ผ่านบ้านผมใกล้เข้ามาในสายตา  ขณะกำลังก้าวออกไปยืนคอย  พลันหูก็ไปได้ยินเพลง Let’s Pretend ดังขึ้น  ผมเริ่มลังเล  เอาไงดีวะ  เสียดายคิวรถ  ไม่รู้เมื่อไรจะมาอีก  รถเมล์บ้านเราเอาแน่ได้ที่ไหน

ในที่สุด  ผมก็ตัดสินใจเลิกล้มความตั้งใจที่จะขึ้นรถเมล์คันนั้นกลับบ้าน  แล้วเดินกลับไปยืนฟังเพลงแทน  เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเพลง ๆ นี้แบบเต็มเพลง  เพราะจริง ๆ  พอเพลงจบผมก็ควักตังค์ซื้อเทปตลับนั้นกลับไปฟังซ้ำฟังซากที่บ้าน 

ใครที่ร่วมยุคกับผมจะพบว่าการหาเพลงใดเพลงหนึ่งที่ไม่ได้ดังอะไรมากมายอย่างเจาะจง  จากเทป cassettes ที่มีวางขายเกลื่อนกลาดทั้งในร้านหรือตามทางเท้าทั่วกรุงเทพฯ นั้นยากพอ ๆ กับการงมเข็มในมหาสมุทร วันนั้นจึงเป็นวันโชคดีของผม


มาเพลงนี้ที่ส่งเข้าประกวด Eurovision Song Contest ในปี 1969  วิทยุบ้านเราเปิดกันอย่างสนุกสนาน  เปิดมาถึงต้น 70s  เลยละ



ส่วนนี่ก็เป็นเพลงโปรดของผม  ผมจำ MV ของเพลงติดตามาตั้งแต่ยังใส่ขาสั้นเรียนหนังสือ  ไม่รู้ว่าหลงเข้ามาในทีวีได้อย่างไร  ตอนนั้นทีวีขาวดำ  ความทรงจำเหลือติดสมองมาถึงตอนแก่ว่าเป็นภาพเธอวิ่งเข้าหากล้อง  จนกระทั่งถึงยุค youtube  ผมก็ตามหาได้

ฉบับอัดจากห้องส่งเพราะกว่านี้  ให้บรรยากาศเก่า ๆ มาก



เพลงนี้เป็น single ที่ 2 ในอเมริกาต่อจาก TSWL  มันไม่ดังเอาเลย  ผมรู้ข้อมูลนี้มานานแล้วตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ม. ปลาย  อยากฟั้งอยากฟัง  ว่าทำไมมันไม่เพราะหรืออย่างไร  ไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  ในเทป cassette แบบรวมเพลงที่มีขายเกร่อก็ไม่มี   จนกระทั่งมีคนทำเทป cassette รวมเพลงของเธอโดยเฉพาะออกขายนั่นแหละ  ผมถึงมีโอกาสได้ฟัง  คนละรูปแบบกับ TSWL แต่ก็น่าฟัง



มีต่อ...

[เทาชมพู]

  เคยต้องมนต์ To Sir with Love เหมือนกันค่ะ เมื่อมาฉายในไทย   คนดูแน่นโรงหนังเฉลิมไทย  ก็เลยดีใจที่มีภาค 2  ออกมาให้ดูเมื่อปี 1996    เหมือนเจอเพื่อนเก่า
   บรรดานักเรียนวัยรุ่นจอมเฮ้วเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัวลูกเต้าโตๆกันไปหมดแล้ว    แต่ก็ยังหวนกลับมาต้อนรับคุณครูคนเดิม  รวมทั้ง Lulu และเพลงอมตะของเธอด้วย

[nathanielnong]

 เคยต้องมนต์ To Sir with Love เหมือนกันค่ะ เมื่อมาฉายในไทย   คนดูแน่นโรงหนังเฉลิมไทย  ก็เลยดีใจที่มีภาค 2  ออกมาให้ดูเมื่อปี 1996    เหมือนเจอเพื่อนเก่า
   บรรดานักเรียนวัยรุ่นจอมเฮ้วเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัวลูกเต้าโตๆกันไปหมดแล้ว    แต่ก็ยังหวนกลับมาต้อนรับคุณครูคนเดิม  รวมทั้ง Lulu และเพลงอมตะของเธอด้วย