เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 29
  พิมพ์  
อ่าน: 61769 Yesterday Once More...
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 10:34

หนังเล็กๆเรื่องนี้มีดารานักร้องประกับกัน 2 คนคือ Tommy Sands  และ Fabian
 
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 10:36

ในยุคที่หนังวัยรุ่นสไตล์ Beach Party กำลังมาแรง  คือเรื่องทั้งเรื่องมีแต่วัยรุ่นในชุดว่ายน้ำกับกีฬาวินเซิฟโต้คลื่น  เฟเบียนก็ได้เล่นหนังกับเขาด้วย

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 10:37

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 10:42

มีหนังที่ไม่ใช่หนังเพลงอยู่เรื่องหนึ่งที่เฟเบียนได้เล่นด้วย คือเรื่อง North to Alaska เป็นหนังใหญ่สไตล์คาวบอยแต่ฉากเป็นรัฐอลาสกา ไม่ใช่คาลิฟอร์เนีย   ดาราใหญ่อย่างจอห์น เวย์นแสดงนำ  พร้อมดาราใหญ่อีกหลายคนเช่นสจ๊วต แกรนเยอร์  เออร์นี่ โคแวค และสาวสวยคาปูซีน  มีเฟเบียนร้องเพลงประกอบในเรื่อง

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 18:28

เพลงดังของ Fabian ที่วัยรุ่นไทยยุคปู่ย่ารู้จักดี คือเพลง Hound Dog Man
คุณโหน่งลองฟังเสียงโดยไม่ต้องดูหน้าคนร้อง  จะพบว่าเพลงนี้ฟังดีขึ้นถ้ามีภาพของเฟเบียนประกอบด้วย




เอิ๊ก ๆ  ต้องเอาหน้ามาเรียกน้ำย่อย  เสียงเธอธรรมดามากเลยครับ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 50  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 18:29

หนังเล็กๆเรื่องนี้มีดารานักร้องประกับกัน 2 คนคือ Tommy Sands  และ Fabian
 


เตรียมเรื่องของ Tommy Sands ไว้แล้วครับ  ดีจังได้คู่สนทนาเรื่องเพลงเก่า ๆ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 51  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 18:55

มีหนังที่ไม่ใช่หนังเพลงอยู่เรื่องหนึ่งที่เฟเบียนได้เล่นด้วย คือเรื่อง North to Alaska เป็นหนังใหญ่สไตล์คาวบอยแต่ฉากเป็นรัฐอลาสกา ไม่ใช่คาลิฟอร์เนีย   ดาราใหญ่อย่างจอห์น เวย์นแสดงนำ  พร้อมดาราใหญ่อีกหลายคนเช่นสจ๊วต แกรนเยอร์  เออร์นี่ โคแวค และสาวสวยคาปูซีน  มีเฟเบียนร้องเพลงประกอบในเรื่อง


เพลงในหนังเรื่องนี้ที่ดังในบ้านเราร้องโดย Johnny Horton ครับ (ลงเรื่องไปนานแล้วในกระทู้ก่อน)



หนังดูน่าสนุกจังเลย  ไม่รู้มีให้โหลดรึเปล่า  หลงรัก Stewart Granger มาตั้งแต่ได้ดู Scaramouche คู่ปรับกับ Mel Ferrer  กับ Young Bess  เธอแมนมาก  หล่อเกินปลื้ม  เวลาคลั่งใครแล้วต้องหาประวัติอ่าน (สมัยนั้นมีแต่หนังสือ Starpics)  เธอเป็นคนอังกฤษมีชื่อจริงว่า James Stewart  เกิดในตระกูลสูง  ครอบครัวต้องการให้เป็นหมอ  แต่เธอหลงรักการแสดง  ตอนมาขุดทองที่อเมริกา  มีนักแสดงชื่อ James Stewart อยู่แล้ว  เธอเลยต้องเปลี่ยนชื่อ




บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 52  เมื่อ 11 ก.ค. 24, 19:02

เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงของนักร้องชายผิวดำในปลายยุค 60s นะ  มาตอนนี้นึกไม่ถึงว่าในสมัยนั้น สถน.วิทยุ ภาคเพลงฝรั่งในบ้านเราจะเปิดเพลงได้หลากหลาย
Aaron Neville

(เพลงนี้ในยุค 70s วง Heart เอากลับมาดังใหม่)


Arthur Conley

(ผมชอบเพลงนี้มากนะ  ตอนนั้นยังเด็กมาก  ไม่รู้จักคำว่า ‘ดิ้น’  แต่ฟังเพลงนี้แล้วขามันขยับไปเอง  ตัวโคลงไปโคลงมา  เหมือนต้องมนตร์... คงได้เชื้อมาจากเพลงนี้)


Clarence Carter (เพิ่งรู้เนี่ยว่าเธอตาบอด)





Desmond Dekker



Eddie Floyd

(เพลงนี้มาดังอีกครั้งในยุค disco ... รอคิว)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 53  เมื่อ 12 ก.ค. 24, 18:33

Eddie Holman

(เพลงนี้ก็กลับมาดังในยุค 70s)


Gene Chandler นี่ผมได้ยินเพลงของเธอมาตั้งแต่ยุค golden oldies  ในช่วงหลัง 60s เธอกลับมาดังกับเพลงนี้

(ไอ้ท่อน Can you dig it ๆ  นี่ติดหูมาตลอด  แล้วก็สงสัยตามภาษาเด็กที่ความรู้เรื่องภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ ว่า  ‘มันจะขุดหาอะไรของมันวะ’)


James Brown – เพลงดังเมื่อหลาย ๆ สิบปีก่อน  มันอยู่ในโฆษณาอะไรสักอย่าง  นายแบบผอม ๆ หล่อ ๆ ต่อมามาเล่นละคร  จำชื่อไม่ได้  ตอนนี้ไปไหนแล้วหนอ



ต่อยอดด้วย...



Jimi Hendrix – ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีเพลงที่ผมชอบ 



เคยอ่านใน Starpics  ในสมัยเด็ก ๆ  ว่า JH (ตอนนั้นตายแล้ว) ติดยาขนาดหนัก  ยา ‘เข้าไม่ถึง’ แล้วทำงานไม่ได้  และจำได้ถึงตอนหนึ่งที่อ่านมาว่าครั้งหนึ่งที่เธอออกแสดงสด  เธอเมายาขนาดเดินไป ‘f..k’ ตู้แอมป์ที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ บนเวทีหน้าตาเฉย  เรื่องแบบนี้รู้แล้วยากที่จะลืม  และอยากเห็นภาพชะมัด  จวบจน อตน. ถือกำเนิดมาจนบัดนี้  หาได้แต่ภาพนิ่ง



อีกหนึ่งความบ้าของเธอ  ฤทธิ์ของการเมายานี่ทำอะไรก็ได้นิ

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 54  เมื่อ 13 ก.ค. 24, 17:49

2 ศิลปิน (หลัก) นี่เคยเล่าแล้วในกระทู้ฯ ของ อ. เทาชมพู  นำมาปรับปรุงใหม่เพื่อความต่อเนื่อง  และจะเอาเชื้อมาทำ ‘ยำเละ’ ด้วย

ยังมีอีก 2 ตำนานที่โด่งดังด้วยผลของยาเสพติด  ตำนานแรกคือ Janis Joplin

ในตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า JJ ยิ่งใหญ่แค่ไหน  จนกระทั่ง อตน. ถือกำเนิดถึงได้รู้...

An American singer and musician. One of the most successful and widely known rock stars of her era, she was noted for her powerful mezzo-soprano vocals and "electric" stage presence.

เธอตายเร็วมาก  ผลงานจึงมีน้อย  คือดังปั๊บก็ตายเลย  ผมจำไม่ได้ว่าวิทยุบ้านเราเปิดเพลงของเธอกี่เพลง  แต่มีเพลงเดียวที่จำได้



การตายของเธอเป็นข่าวใหญ่มาก  ข่าวมาถึงเมืองไทยด้วย  ขนาดตอนนั้นผมยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกยังรู้เรื่องการตายของเธอ (แค่รู้ข่าวคร่าว ๆ จากการอ่านใน นส. Starpics น่ะ)

On Sunday evening, October 4, 1970, Joplin was found dead on the floor of her room at the Landmark Motor Hotel by her road manager and close friend John Byrne Cooke.  Los Angeles County coroner Thomas Noguchi had performed an autopsy on Joplin and determined the cause of death to be a heroin overdose, possibly compounded by alcohol.  Peggy Caserta, Joplin's close friend had insisted that Joplin's death was not an accidental overdose, but rather a result of a head gash suffered after the "hourglass heel" of her sling back sandal caught in the shag carpet, causing her to lose her balance. Caserta does concede, however, that drugs and/or alcohol may have played a role in hastening her death that night.




ต่อไปนี้จะเริ่มทำยำเละ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 55  เมื่อ 14 ก.ค. 24, 18:42

เริ่ม ยำเละ ละ...

ในปี 1979 มีการสร้างหนังอิงประวัติของ Janis Joplin ชื่อ The Rose  หนังดังมากแต่ไม่มาฉายที่บ้านเรา  หนังส่งนักร้องนักแสดงระดับปานกลางขึ้นเป็นดาวค้างฟ้า  คือ Bette Midler  เธอได้เข้าชิง Oscar เป็นครั้งแรกจากบทนี้  soundtrack ในหนังเป็นอีกหนึ่งที่ดังถล่มทลาย  แม้หนังไม่เข้ามาแต่เพลงเข้ามาอาละวาดอยู่ตามคลื่นเพลงฝรั่งของวิทยุ



BM ได้ชื่อว่าเป็น entertainer คือความสามารถของเธอรอบตัว ร้องก็ได้ แสดงก็ได้  ให้ความบันเทิงกับผู้ชมได้อย่างเต็มเปี่ยม  เขียนถึงตรงนี้แล้ว  คิดถึงบ้านเรา  ในยุคก่อนบ้านเราก็มี entertainer อยู่กลุ่มหนึ่ง  ก็เหล่าศิลปินค่ายช่อง 4 บางขุนพรหมไง  คุณอารีย์ฯ คุณกำธรฯ คุณเพลินพรรณฯ คุณนงลักษณ์ฯ คุณอรวรรณฯ และอื่น ๆ อีกมากมาย  พวกเธอร้องได้แสดงได้  บางทีก็ออกมาโฆษณาสินค้าที่อุปถัมภ์รายการด้วย

ผมขี้เกียจค้นว่า BM เริ่มต้นทางไหนก่อน  แต่เราคุยเรื่องเพลง  ก็เอาเรื่องเพลงเป็นหลัก  เพลงของเธอ (ตอนนั้นไม่รู้ว่าเธอเป็นนักแสดงด้วย) ที่ผมได้ยินทางวิทยุดังตอนผมเด็ก ๆ

(แน่นอนว่าเพลงอะไรก็ไม่รู้  ไม่ชอบเลย  แต่ตอนนี้แก่เกือบเข้าโลงมาฟังอีกที  แหม... เพราะจัง)

ในขณะที่วิทยุบ้านเราเปิดเพลงนี้เพลงเดียวแล้วหายเงียบ  แต่ที่โน่น  เธอออก single มาประปราย  มันไม่ดัง  บ้านเราอิงของดังก็เลยไม่เอามาเปิด

เพลงที่ 2 ที่ดังในบ้านเราก็คือเพลง The Rose ที่เปิดให้ฟังไปเมื่อกี้  อานิสงค์ของเพลงนี้ที่ว่าดังมากทำให้วิทยุบ้านเรามีควันหลงด้วยเพลงนี้  ผมเคยได้ยินเพียงครั้งเดียวและชอบมาก  แต่ตอนนั้นก่อนยุค อตน. หาข้อมูลไม่ได้  แผ่นเสียงของเธอก็ไม่มีมาขาย 



จากนั้นเสียงของเธอก็หายไปจากลำโพงวิทยุอีกหลายปี

ในปี 1989 BM กลับมาด้วยเพลงนี้อันเป็น soundtrack จากหนังเรื่อง Beaches  หนังดังมาก  แต่ไม่มาฉายในบ้านเรา (ใช่ปะ  จำไม่ได้แม่น  จำได้แต่ความคิดที่ว่า  ถ้ามันเข้ามาฉายก็จะไม่ไปดู  หนังของผู้หญิง  ผมเป็นผู้ชายก็ต้องดูหนังของผู้ชายเล่น เอิ๊ก ๆ)  ทำไมก็ไม่รู้  ทำนองเดียวกับหนัง The Rose เลย  มาแต่เพลงที่เปิดการกระหน่ำ



วิทยุต่อยอดด้วยเพลงนี้อันเป็นเพลงสุดท้ายที่ได้ยินทางวิทยุ



เริ่มรุกล้ำเข้ามาในยุค 70s แล้ว  ยุคต้น/ปลาย 60s ยังไม่หมดเลย 


มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 56  เมื่อ 15 ก.ค. 24, 18:32

เพิ่งนึกได้  เอามาแทรกตรงนี้แล้วกัน...

เมื่อวานเอาเพลงเอกของ Bette Midler ชื่อ The wind beneath my wings มาเปิดให้ฟัง  เพลงนี้เคยมีคนเอาร้องก่อนหน้า  ไม่รู้ว่าเป็นต้นฉบับรึเปล่า  มันเป็นเพลงดังทางฝั่ง country  ทำให้เพิ่งนึกได้ว่า  มี สถน. วิทยุบางคลื่นเปิดเพลงแนว country เหมือนกัน



ต่อยอดด้วยเพลงนี้ที่ผมชอบมาก

(ที่จริงฉบับอัดใน studio เพราะกว่า  แต่อยากให้เห็นนักร้อง country แท้ ๆ ที่มีชื่อเสียงตัวเป็น ๆ  เพราะนักฟังเพลงฝรั่งชาวไทยน้อยคนจะรู้จัก  พวกเขาก็มีสาวกอยู่ไม่น้อย)


เอาละกลับมาเข้าทางเดิม...

ผมว่า Bette Midler สนุกสนานกับการแสดงมากกว่า  ขณะที่ผลงานทางการร้องเพลงมีไม่มาก  แต่ผลงานทางการแสดงในรูปแบบต่าง ๆ เยอะแยะ  ที่ผมได้มีประสบการณ์ร่วมคือ

ในปี 1991 หนังที่เธอเล่นชื่อ For the boys มาฉายในบ้านเรา  ผมจำได้แม่นว่ามันฉายที่ Siam Center ที่ตอนนั้นยังไม่ปรับปรุง  มันสวยงามโดดเด่นและสงบไม่ลุกพล่าน  ผมเดินเป็นประจำตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน  จำร้านอยู่ 2-3 ร้านได้แม่น  ร้าน Jaspal กับร้าน Bangkok Booking ที่ขายกระเป๋ารองเท้าเข็มขัด ฯลฯ ของสตรีโดยใช้ tone สีเดียวกันตลอดคือสีขาว

ชั้นบนสุดมีร้านไอติมชื่อ sixteen  มันตั้งอยู่สุดตึกฝั่ง ถ.พญาไท  ความที่ชั้นบนไม่ค่อยมีคน  ร้านก็เลยเอาโต๊ะเก้าอี้ออกมาตั้งตรงบริเวณทางเดิน  บริเวณนี้จะพลุกพล่านด้วยเหล่านักเรียน/นักศึกษาวัยใสที่แสนจะทันสมัย  มานั่งสังสรรค์กันในร้านไอติมนี้  คุยกันจ้อกแจ้ก  ไม่มีใคร ‘จิ้มแล้วปัด’ เพราะอุปกรณ์มันยังมาไม่ถึงโลกนี้  ขาประจำของร้านก็เช่นเด็ก ‘วัฒนา’  เด็ก 'มาแตร์'  เด็ก ‘อัสสัมบางรัก’  แล้วก็เด็ก ‘ตอ.’  แล้วก็เด็ก ‘จุฬาฯ’  ไม่มีเด็กช่างกล  ไม่ว่า ‘ปทุมวัน’ หรือ ‘อุเทน’ 

แล้ววันหนึ่งผมก็เจอกลุ่มเด็ก ‘เตรียมทหาร’  มองไปมองมา  อ้าว... หนึ่งในนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องผมนั่นเอง

‘พี่โหน่ง  มาทำอะไรที่นี่’ เธอยิงคำถาม
ผมถามกลับ ‘นี่มันถิ่นชั้น  แกต่างหากมาทำอะไรที่นี่  ถิ่นแกอยู่สวนลุมฯ ไม่ใช่รึ’

สรุปแล้วเย็นนั้นเลยได้ควงเด็ก ‘เตรียมทหาร’ หัวเหน่ง (แต่หล่อไม่เป็นรองใคร) ผ่านโต๊ะเด็ก ‘มาแตร์’ ที่มองตาเป็นมัน  ออกจากร้านไปขึ้นรถเมล์กลับบ้าน 

เฮ้อ... Those good old days


ตอนนั้นโรงหนังประเภท mini theatre กำลังดัง  โรงหนังแบบนี้ผุดขึ้นทั่วใจกลางกรุงเทพฯ  โรงหนังระดับ stand alone บางโรงก็โดนหั่น  ผ่าครึ่งทำเป็นโรงหนังเล็ก 2 โรง  ที่ SC ก็มี 2 โรง  ขนาดกระจิ๋วหลิว
 
ผมไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้ดังในบ้านเราแค่ไหน  แต่ที่อเมริกามันดังมาก  จุดศูนย์กลางของความดังก็คือตัว BM นั่นเอง  เธอแสดงสุดฝีมือในเรื่องนี้  ผมว่าเนื้อเรื่องของหนังเข้าทางกับความสามารถของเธอ  จึงส่งผลให้ได้รับการเสนอเข้าชิง Oscar เป็นครั้ง 2 



ในเรื่องนี้เธอร้องหลายเพลง  ล้วนเป็นเพลงแนวถนัดของเธอทั้งนั้น  วิทยุบ้านเราก็นำมาเปิดเป็นบางเพลง (ไม่มีใครย่อย clip ฉากนั้น ๆ มาลงเลย)








(หมายเหตุ – ผมชอบรอยยิ้มของ BM   ที่ว่า ยิ้มหวาน น่าจะเป็นยิ้มลักษณะนี้)


ในปี 1994 เธอแสดงในหนังชุดพิเศษทางทีวีชื่อ Gypsy  ผมได้ดูทางทีวี I/UBC



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 57  เมื่อ 16 ก.ค. 24, 18:31

คั่นรายการ...

Caterina Valente เป็นนักร้องจากฝั่งยุโรป  เพลงเหล่านี้  ผมไม่รู้ว่ามันเป็น single รึเปล่า  แต่ไม่ใช่ที่อเมริกาอย่างแน่นอน  เพราะหาไม่เจอ  คนอเมริกันจึงรู้จักเพลงของเธอน้อยมาก  อย่างไรก็ตาม  พวกมันเป็น ‘single’ ดังสุดขีดของรายการ golden oldies







ความจริงเธอมีเพลงดังบนอันดับเพลงของอเมริกาด้วย 1 เพลง (top 10)  ผมไม่เคยได้ยินเลย  คาดว่ารายการ golden oldies ก็คงไม่เคยได้ยิน



Wikiฯ บอกว่าเธอเป็น entertainer ตัวเอกทางฝั่งยุโรป





ต่อยอด...



พรุ่งนี้มายำเละกันต่อ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 58  เมื่อ 16 ก.ค. 24, 18:50

    คาเทอรีน่า วาเลนเต้ เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นเบบี้บูมเมอร์อย่างดี  เพราะรายการวิทยุเปิดเพลงดัง 2 เพลงควบกันไปตลอด
ได้แก่ Tonight We Love กับ Full Moon and Empty Arms ที่สุดแสนจะโรแมนติกค่ะ  ทำนองมาจากเพลงคลาสสิคชื่ออะไรยังไม่ได้ไปค้นจากกูเกิ้ล
    ในยุคที่โลกยังมีพรมแดนห่างไกลกันมาก   ไม่รู้หรอกว่านักร้องเพลงฝรั่งทั้งหลายเป็นชาติอะไร  นึกว่าอเมริกันทั้งหมด  เพราะเขาร้องเพลงภาษาอังกฤษ(อเมริกัน)ก็ต้องเมกันน่ะซี     จึงไม่เคยสงสัยในตัวนักร้องคนนี้เลยว่าเธอเป็นคนประเทศไหน  มีความเป็นมาอย่างไร  สงสัยไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีค่ะ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 59  เมื่อ 17 ก.ค. 24, 18:29

    คาเทอรีน่า วาเลนเต้ เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นเบบี้บูมเมอร์อย่างดี  เพราะรายการวิทยุเปิดเพลงดัง 2 เพลงควบกันไปตลอด
ได้แก่ Tonight We Love กับ Full Moon and Empty Arms ที่สุดแสนจะโรแมนติกค่ะ  ทำนองมาจากเพลงคลาสสิคชื่ออะไรยังไม่ได้ไปค้นจากกูเกิ้ล
    ในยุคที่โลกยังมีพรมแดนห่างไกลกันมาก   ไม่รู้หรอกว่านักร้องเพลงฝรั่งทั้งหลายเป็นชาติอะไร  นึกว่าอเมริกันทั้งหมด  เพราะเขาร้องเพลงภาษาอังกฤษ(อเมริกัน)ก็ต้องเมกันน่ะซี     จึงไม่เคยสงสัยในตัวนักร้องคนนี้เลยว่าเธอเป็นคนประเทศไหน  มีความเป็นมาอย่างไร  สงสัยไปก็ไม่ได้คำตอบอยู่ดีค่ะ

เช่นกันครับ  มีหน้าที่ฟังแล้วก็จดจำ (มาฝอยต่อ) ครับ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 29
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.073 วินาที กับ 19 คำสั่ง