ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
ศิลปะวัฒนธรรม
>
สุนทราภรณ์
หน้า:
1
...
6
7
[
8
]
9
10
...
19
พิมพ์
อ่าน: 44768
สุนทราภรณ์
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 2156
ความคิดเห็นที่ 105
เมื่อ 16 ธ.ค. 23, 12:02
สำหรับเพลงที่เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกก็ติดใจเลยเช่น
และเพลงนี้ที่กลายเป็นเพลงโปรดมาก ๆ อีกหนึ่งเพลง ballad เรียบ ๆ แต่เพราะหูเหลือหลาย
ส่วนเพลงร้องคู่ที่ผมติดใจมาตลอด
พอรู้ว่าชอบเพลงของคุณวรนุช อารีย์ เธอก็เข้ามาเป็นนักร้องคนโปรด ตามอุปนิสัยส่วนตัวที่พอชอบใครก็อยากทำความรู้จักตัวเป็น ๆ ผมจำที่มาที่ไปไม่ได้ จำได้ว่าวันหนึ่งผมก็ได้รับรู้เบอร์โทรศัพท์บ้านของคุณวรนุช ต้องรวบรวมความกล้าอยู่หนึ่งเพลา กลัวโพล่งโทรฯ เข้าไปแล้วโดนเธอด่าว่าล่วงล้ำเวลาส่วนตัว ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ โดนก็โดน ไม่ได้เห็นหน้ากัน ช่างมัน
ทางปลายสายเป็นเสียงหญิงสาว ผมรีบแจ้งความประสงค์ในการโทร. ต้องรีบทำตัวให้สะอาด ปลายสายบอกว่าเป็นลูกสาว และยินดีต้อนรับ เธอบอกว่าคุณแม่ต้องดีใจมาก แล้วเราก็นัดกัน เธอก็บอกเส้นทางไปบ้านให้ ผมฟังแล้วใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง
วันที่ไปเป็นวันทำงาน แสดงว่าหนีงานไป ผมลากเพื่อนรุ่นพี่ไปด้วยคนหนึ่ง เธอรู้จักเส้นทาง เราดั้นด้นไปหาจนเจอ คุณวรนุชออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส บุคลิกแบบป้าใจดี เธอพูดเพราะมากเสียงอ่อนหวาน เธอเรียกตัวเองว่าป้า เราคุยกันแต่เรื่องในแวดวงของคณะสุนทราภรณ์ ผมถามถึงนักร้องคนอื่น ๆ เช่น คุณบุษยาฯ คุณชวลีย์ฯ รวมถึงนักร้องคนโปรดอีกคนคือ คุณโสมอุษา ซึ่งป้านุชบอกว่าจำได้น้อยมากเพราะเธออยู่ในวงฯ ได้ไม่นาน อีกทั้งเวลาผ่านไปนานมากแล้ว
ท่าทางว่าบุคลิกของผมส่อถึงความบริสุทธิ์ใจ ป้านุชเลยเล่าเบื้องหลังมากมายล้วนสนุก ๆ ทั้งนั้น ถ้าเธอเขียนหนังสือคนคงซื้ออ่านกันเพียบเพราะตัวละครล้วนแต่ดัง ๆ ที่พวกเรารู้จักกันดีซึ่งต่างก็ตายกันไปเกือบจะหมดแล้ว (เธอเล่าติดตลกว่า ครูเอื้อคงรอป้าอยู่) ในวันนั้น ผมเพิ่งรู้ว่าป้านุชเป็นพี่สาวของคุณนริศ อารีย์ นี่ก็เป็นชื่อที่ผมเคยได้ยินมาตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก เคยดูเธอร้องเพลงในรายการทางทีวีบ่อย ๆ แต่นึกไม่ถึงว่าเป็นพี่น้องกัน
พอใกล้เที่ยงเราก็ขยับตัวทำท่าจะกลับแต่ป้านุชรั้งไว้ เธอบอกว่าเตรียมอาหารกลางวันไว้ให้ ยังกลับไม่ได้ การเจอป้านุชในวันนั้นสร้างความประทับอย่างที่สุด เสียดายที่ในเวลานั้นมือถือแบบอัจฉริยะยังไม่แพร่หลาย เลยไม่มีโอกาสได้ชักรูปกับป้านุช
ตั้งแต่วันนั้น เมื่อใดที่เอ่ยถึงสมาชิกของคณะสุนทราภรณ์ผมจะเรียกชื่อของคนคนนั้น ยกเว้นคุณวรนุชฯ ที่ผมจะเรียกด้วยความสนิทสนม (เพราะไปหวัดดีกับตัวมาแล้ว) ว่าป้านุช
มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 2156
ความคิดเห็นที่ 106
เมื่อ 17 ธ.ค. 23, 12:23
สมัยยังทำงานอยู่ ผมมีเพื่อนสนิทมาก ๆ เป็นรุ่นพี่แก่กว่า 7 ปี เธอเป็นสาวอักษรฯ ทำหน้าที่เป็นเลขารองผู้ว่าการฯ ตำแหน่งนี้ใหญ่โตระดับหนึ่งซึ่งปกติแล้วไม่มีโอกาสที่เธอกับผมเด็กกะโปโลจะมาสุงสิงกันได้ เผอิญตอนนั้นผมเกิดผีเข้าเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่ง แล้วเธอก็ได้ซื้อมาอ่านและโปรดปราน ต่อมาเธอรู้ว่าคนเขียน (คือผม) ทำงานอยู่ที่เดียวกัน เธอก็เสาะหาจนเจอ นี่คือต้นกำเนิดความสัมพันธ์ของเราทั้ง 2
พี่นิดเป็นสาวเฮ้ว เอะอะโวยวาย ส่วนผมก็ปากหมาพูดตรงด่าเป็นไฟ เราก็เลยเข้ากันได้ดี ยิ่งต่อมาเมื่อรู้ว่าผมเป็นผีเพลงสุนทราภรณ์แนวเพลงโปรดของเธอ เรายิ่งสนิทกัน หลังเลิกงานผมมักเดินไปหาเธอที่ตึกใหญ่ระดับผู้บริหาร ไปนั่งเล่นนั่งคุย หลังเลิกงานพี่นิดยังไม่กลับบ้านแต่จะอยู่สะสางงานเพราะแต่ละวันงานเยอะ
วันหนึ่งผมเอาเทปใหม่ที่เพิ่งซื้อไปเปิดที่ห้องพี่นิด มันเป็นเทปตลับทองของ บ. เมโทร (ตอนนั้น บ.ฯ ยังไม่ทำซีดีออกขาย) นำเสนอเพลงของป้านุชทั้งหมด ผมพล่ามอยู่เสมอเรื่องป้านุชเป็นนักร้องคนโปรดจนพี่นิดพาลชอบไปด้วย เราเปิดเพลงป้านุชฟังเป็น background ขณะคุยโน่นนี่ มาถึงช่วงเวลาหนึ่งที่พี่นิดกำลังสะสางงาน ส่วนผมก็นั่งเล่นเกมส์ไป สักพักผมได้ยินพี่นิดทำเสียงแปลก ๆ พอเงยหน้าจากจอคอมพ์ฯ ขึ้นมองก็พบพี่นิดกำลังสะอึกสะอื้น
ผมตกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่นิดบอกว่าเพลงนี้เพราะมาก เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน มันทั้งเพราะและซึ้งจนบอกไม่ถูก มันทำให้เธอเหงาและคิดถึงพ่อที่ตายไปนานแล้ว แล้วเธอก็ร้องไห้โฮ ๆ เป็นภาพของพี่นิดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมเคยเห็นแต่ แกหัวเราะไรวะไอ้โหน่ง ทำนองนี้
พอจบเพลงพี่นิดก็กรอกลับแล้วเริ่มตั้งต้นฟังใหม่ วันนั้นเรา (ผมจำใจ) นั่งฟังเพลงนี้ 4-5 รอบได้ละมัง จากวันนั้นเธอก็ไปหาซื้อเทปตลับนี้มาเป็นของตัวเอง เธอฟังเพลงนี้จนเทปยืดพันกันยุ่งขิงอยู่ในช่องเล่นเทปของวิทยุ ผมต้องไปนั่งเขี่ย ๆ เส้นเทปออกมา พอสำเร็จ เธอก็เปิดฟังใหม่
ผมเพิ่งเคยเห็นอิทธิพลของเพลงต่ออารมณ์มนุษย์ก็คราวนี้
มีต่อ...
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 107
เมื่อ 18 ธ.ค. 23, 10:00
ทศวรรษล่วงผ่านไป นักร้องสุนทราภรณ์หน้าใหม่ๆเข้ามาร่วมวง เพิ่มเติมจากคนเก่า เกิดคำเรียกกลุ่มนักร้องแต่ละรุ่นแตกต่างกันไป ภาพที่นำมาลงคือส่วนหนึ่งของ "ดาวรุ่งพรุ่งนี้" กลุ่มนักร้องใหม่ในช่วงทศวรรษ 2510 -20 จากเพจ ชาวคณะสุนทราภรณ์
บรรยายภาพว่า จากหนังสือเพลงกล่อมจิต ปีพ.ศ.2512
แถวยืน:อโศก สุขศิริพรฤทธิ์/พรเทพ สุขขะ/สมคิด เกษมศรี
แถวนั่ง:จินตนา สุวรรณศิลป์/จั่นทิพย์ สุถินบุตร/อภิชา พูนสวัสดิ์/
อรณี กานต์โกศล/รัตนสุดา วสุวัต
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 108
เมื่อ 18 ธ.ค. 23, 10:03
รัตนสุดา วสุวัต ร้องเพลงของรวงทอง ด้วยเสียงคล้ายกันมาก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 109
เมื่อ 18 ธ.ค. 23, 10:05
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 2156
ความคิดเห็นที่ 110
เมื่อ 18 ธ.ค. 23, 12:24
ผมรู้จักเพลง กล้วยไม้ มานานนมจากเสียงของคุณอารีย์ นักดนตรี
ในต้นยุค 2530s ผมได้ชมรายการดนตรีทางทีวี เห็นป้านุชออกมาร้องเพลงนี้ เพราะถูกใจ คาดว่าเป็นการร้องในยุคนั้น เพราะผมไม่เคยได้ยินป้านุชร้องเพลงฉบับนี้มาก่อน อยากได้เพลงก็หาไม่ได้ ไม่มีเทปที่มีเพลงนี้ มาถึงยุคซีดี ก็หาไม่มีอีก
วันหนึ่งหลังจากนั้นนานน้านนาน ขณะเดินย่อยอาหารกลางวันอยู่ในตลาดนัดหลังที่ทำงาน ผมก็เจอแผ่นซีดีรวมเพลงป้านุชออกใหม่ เป็นแผ่นคู่ ผมหยิบขึ้นมาดูโดยไม่รอช้า พอกวาดตาดูรายชื่อเพลงก็พบเพลงกล้วยไม้นี้ เนื่องจากผมมีเพลงของป้านุชเกือบทั้งหมดแล้ว จึงไม่อยากเสียตังค์ซื้อ ก็เลยยุเพื่อนให้ซื้อแทนแล้วผมก็ขอยืมเอามาแกะบางเพลงโดยเฉพาะเพลงนี้ออกมาเป็น file เสียง
ผมว่าเพลงฉบับนี้มีช่วงท้ายที่เท่มาก จากประสบการณ์อันน้อยนิดเกี่ยวเพลงไทย ผมนึกไม่ออกว่า ในยุคเก่าก่อน อย่างน้อยก็ก่อนที่ป้านุชจะร้องเพลงนี้ในวันนั้น มีเพลงไหนอื่น ที่จบแบบนี้ แต่เพลงฝรั่งมีเยอะมาก เช่น Goodbye to love (The Carpenters), Wuthering Heights (Kate Bush), We're all alone (Rita Coolidge) หรือ Superbird (Neil Sedaka)
จบเรื่องป้านุชกับผม
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
ตอบ: 2156
ความคิดเห็นที่ 111
เมื่อ 18 ธ.ค. 23, 12:35
อ้างจาก: เทาชมพู ที่ 18 ธ.ค. 23, 10:05
ขอนอกเรื่องนิดว่า คุณรวงทองฯ ร้องเพลง เก็บรัก ได้เด็ดขาดมากครับ น่าจะอัดเสียงหลังจากออกจากวงสุนทราภรณ์แล้ว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 112
เมื่อ 19 ธ.ค. 23, 16:11
ีรอคำรัก เป็นเพลงที่ึครูเอื้อแต่ง แต่มีนักร้องหญิงของสุนทราภรณ์ร้องถึง 3 คนด้วยกัน
คือคุณรวงทอง คุณอ้อย อัจฉรา และคุณมาริษา อมาตยกุล
มีคำบอกเล่า 2 ทางคือ
1 เพลงนี้คุณรวงทองอัดแผ่นเสียงเมื่อได้ลาออกจากวงฯไปแล้ว ผู้ที่ร้องออกงานคือคุณอ้อย อัจฉรา แต่ตอนลงแผ่น คุณครูเอื้อให้คุณพี่รวงทองร้องแทน
2 คุณมาริษา อมาตยกุล เล่าว่า เพลง "รอคำรัก" ครูเอื้อได้แต่งให้คุณมาริษาขับร้องไว้เป็นคนแรก ภายหลังคุณรวงทองกลับมาร้องให้กับสุนทราภรณ์อีก ครูเอื้อจึงมอบเพลงนี้ให้คุณรวงทองขับร้องบันทึกแผ่นเสียง เพลง "รอคำรัก" นี้ มีฉบับที่คุณมาริษาขับร้องไว้กับเปียโนด้วย
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 113
เมื่อ 20 ธ.ค. 23, 10:55
นพดฬ ชาวไร่เงิน เป็นนักร้องสุนทราภรณ์ที่โด่งดังขึ้นมาจากเพลง ลาทีปากน้ำ และ สาวอัมพวา ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ชัดถ้อยชัดคำ ร้องคีย์สูงได้ชัดเจน
ณพดฬ ชาวไร่เงิน” มีชื่อเล่นว่า “หมู” เป็นชาวกรุงเทพฯ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2478 ด้วยความที่อยากจะเป็นนักร้องเป็นอย่างมาก หลังจบจากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษดิ์ เจ้าตัวจึงได้สมัครเข้าร่วมวงดนตรี “ฉัตรฟ้า” ของพลร่มป่าหวาย ก่อนที่ พ.อ.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะเห็นแวว และได้แนะนำให้ไปเป็นศิษย์ “ครูเอื้อ สุนทรสนาน”
จากนั้นเจ้าตัวจึงได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกคือ “ลาทีปากน้ำ” แต่งโดย ครูศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ซึ่งเดิมทีเพลงนี้ครูเอื้อตั้งใจจะให้ “ยรรยงค์ เสลานนท์” นักร้องดาวรุ่งอีกคนของกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้ขับร้อง แต่เนื่องจากครูเอื้อเห็นว่า ยรรยงค์ยังเข้าใจในความหมายของเนื้อเพลงได้ไม่ดีนัก จึงให้นพดฬมาเป็นผู้ขับร้องแทน
ผลปรากฏว่าเพลง “ลาทีปากน้ำ” ที่ขับร้องโดยนพดฬ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และทำให้เจ้าตัวแจ้งเกิดทันที ก่อนจะมีผลงานตามออกมาอีกมากมาย โดยผลงานที่เป็นที่รู้จักกันดี อาทิ สาวอัมพวา, เข็ดแล้วลพบุรี, ปากลัด, คลองมอญ, นิทราสวาท, อกเอยมันแค้น, กังวลรัก, ช้ำรักจากลพบุรี ฯลฯ
นพดฬ ถึงแก่กรรมเมื่อพ.ศ. 2561 หลังจากป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์มาหลายปี สิริอายุ 83 ปี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 114
เมื่อ 20 ธ.ค. 23, 11:06
เพลง ลาทีปากน้ำ เป็นเพลงที่โชว์ฝีมือครูศรีสวัสดิ์ว่า แต่งเนื้อระดับเซียนเหยียบเมฆ นักร้องร้องตามได้ยากมาก เพราะครูชอบเล่นคำ ร ล และเสียงควบกล้ำ ร ล
นี่ยังไม่รวมว่าเนื้อเพลงยาวมากๆๆ
ปัจจุบัน หนุ่มสาวชาวไทยจำนวนมากรวมทั้งนักร้องรุ่นใหม่ด้วย เวลาพูดภาษาไทยในชีวิตประจำวัน ออกเสียง ร เป็นล และออกเสียงคำควบกล้ำไม่ได้
เพลงนี้จึงเป็นเพลงปราบเซียนเพลงหนึ่ง ที่นักร้องสมัครเล่นไม่ควรท้าประลอง
ตัวมาปากน้ำ
น้ำตาเจ้ากรรม
พรำ
ร่วง
มัน
ริน
ล้น
ทรวง
รด
แด
ร้อน
ดวง
ร่วง
พรำจนช้ำเลือด
ตรม
อยาก
ผลัก
ชีวิต
ผลอยคล้อย
ลอย
น้ำไปตาม
คลื่น
ลม
ระ
ทวย
ระ
ทมแล้วจม
ร่าง
ตาม
ความ
รักร้าง
ไป
เธอคนปากน้ำ
น้ำคงขึ้นลงตรงหน้า
จะลอยน้ำมา
หาเธอทุกคราคลื่นครวญ
รัญจวนป่วนใจ
จะพร่ำคำเพ้อ
ละเมอมนต์รักมาตามฝั่งไกล
ร้องเพลงผีพราย
พิไรขอรักเธอไว้โลมฝั่ง
ฝันฝัน เพ้อเพ้อ
เธอก็คงคร่ำครวญ
ปากน้ำคงซึ้งโศกชวน
ทบทวนหวนไปยังเบื้องหลัง
เราฝากสัมพันธ์
น้อยหรือนั่นมันรักหรือชัง
เพราะเธอว่าจะรักจริงจัง
ฉันจึงหวังคลั่งไคล้มิคลาย
ลาทีปากน้ำ
น้ำจงจบกรรม จำเศร้า
วิญญาณรักเราน้ำจงรับเอา
เฝ้าธารอันพล่านภูติพราย
อนาถใจหนา
ขอลาดินฟ้าอาวรณ์ก่อนตาย
โถยังเสียดาย
เสียดาย นิยายสวรรค์สวาท
ฝันฝัน เพ้อเพ้อ
เธอก็คง คร่ำครวญ
ปากน้ำคงซึ้งโศกชวน
ทบทวนหวนไปยังเบื้องหลัง
เราฝากสัมพันธ์
น้อยหรือนั่นมันรักหรือชัง
เพราะเธอว่าจะรักจริงจัง
ฉันจึงหวังคลั่งไคล้มิคลาย
.ลาทีปากน้ำ
น้ำจงจบกรรมจำเศร้า
วิญญาณรักเราน้ำจงรับเอา
เฝ้าธารอันพล่านภูติพราย
อนาถใจหนา
ขอลาดินฟ้าอาวรณ์ก่อนตาย
โถยังเสียดาย
เสียดาย นิยายสวรรค์สวาท
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 115
เมื่อ 20 ธ.ค. 23, 11:07
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 116
เมื่อ 20 ธ.ค. 23, 11:53
นักร้องชายในกลุ่ม "ดาวรุ่งพรุ่งนี้" อีกคนหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง มีเพลงประจำตัวที่ไพเราะออกมาให้แฟนเพลงได้ติดตาม คือยรรยงค์ เสลานนท์
ยรรยงค์ เสลานนท์ เป็นคนกรุงเทพมหานคร มารดาคือ ศิริ คุ้มอยู่ นักร้องนักแสดงละครวิทยุชื่อดัง จึงมีโอกาสติดตามมารดาไปตามสถานีวิทยุ และชอบร้องเพลงคลอตามแผ่นเสียง หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนวัดบวรนิเวศน์ เมื่อปี พ.ศ. 2501 ไปสมัครเข้าสอบรับราชการ แผนกบันเทิง กรมประชาสัมพันธ์ เงื่อนไขหนึ่งของผู้สมัครสอบจะต้องมีผู้รับรองการเข้าสอบ ยรรยงค์นึกไม่ออกว่าจะให้ใครรับรอง รู้จักเพียงชื่อครูเอื้อ สุนทรสนาน จึงตัดสินใจไปพบวินัย จุลละบุษปะ เพื่อให้พาไปพบครูเอื้อ ครูเอื้อ สุนทรสนาน กำลังยืนคุยอยู่กับวินัย จุลละบุษปะ ณ ตรงนั้น ยรรยงค์จึงได้เข้าแสดงตน และโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาได้ยื่นกระดาษให้ครูเอื้อ เซ็นชื่อรับรอง หลังไถ่ถามจนรู้ความ ครูเอื้อก็ยินดีเซ็นรับรองให้ แต่ผลการสอบคัดเลือก รับเพียง 3 คน ยรรยงค์ไม่ผ่านการสอบบรรจุ
ครูเอื้อเห็นว่า ยรรยงค์มีแวว จึงรับเข้าไว้ในโครงการดาวรุ่งพรุ่งนี้ รุ่นเดียวกับศรวณี โพธิเทศ และรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส ยรรยงค์ ฝึกฝนร้องเพลง ก่อนจะได้มีโอกาสติดตามวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ไปออกรายการโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม เพลงที่ร้องคือเพลงลาวดวงเดือน
ต่อมา ในปี 2503 ยรรยงค์ เสลานนท์ สอบบรรจุรับราชการ ประจำแผนกดนตรีสากล กรมประชาสัมพันธ์ได้ ครูเอื้อ สุนทรสนาน จึงมอบเพลงฝากน้ำใจ ให้ร้องอัดแผ่นเสียงเป็นเพลงแรก
ต่อมา ก็มีผลงานเพลงทยอยออกมา อาทิ ทรัพย์ทรวง, กรรมรัก, เงา, ไม่รัก-ไม่รู้, คอยลม, ร้อนนี้พี่ยังหนาว, คมตา, ใบไม้ร่วง, พลิ้วลมวอน, ฉันรักเธอ, ราตรีประดับดาว, ยอดปรารถนา, เกาะลอย, คิดถึง, ยากยิ่งสิ่งเดียว, ชีวิตกับสังคม, ฉันไม่งาม และนิมิตสวรรค์
และเพลงคู่ทาษ ที่เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้ยรรยงค์ เสลานนท์ เป็นที่รู้จัก รวมถึงเพลงกลิ่นราตรี ของมัณฑนา โมรากุล ที่ยรรยงค์ เสลานนท์ นำมาร้องอัดแผ่นใหม่
เมื่อบริษัท เมโทรแผ่นเสียง ได้รับพระบรมราชานุญาตบันทึกแผ่นเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด โดยมีวงสุนทราภรณ์ บรรเลง ครูเอื้อ สุนทรสนานก็ได้มอบหมายให้ยรรยงค์ เสลานนท์ ขับร้องบันทึกแผ่นเสียง แผ่นชุดนี้ มีเพลงความฝันอันสูงสุด เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพียงเพลงเดียว นอกเหนือจากนั้นเป็นเพลงปลุกใจของวงสุนทราภรณ์
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2512 ครูเอื้อ สุนทรสนาน ตั้งโรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี จึงชวนยรรยงค์ เสลานนท์ ไปร่วมฝึกสอนขับร้องอยู่ที่โรงเรียน ยรรยงค์ก็ยังได้รับความไว้ใจจากครูเอื้อ ให้อัดแผ่นร้องเพลงประจำของมหาวิทยาลัยรามคำแหง คือ เพลง รามแห่งความหลัง และดาวราม รวมถึงเพลงประจำจังหวัดปราจีนบุรี เพลงรอเธอที่ปราจีน และ ถิ่นเราเขาใหญ่ รวมถึงอัดแผ่นเพลง คืนสู่เหย้า คู่กับ บรรจงจิตต์ พัฒนาสันต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นลูกศิษย์ ที่เรียนร้องเพลงกับยรรยงค์ เสลานนท์ ซึ่งต่อมาเพลงคืนสู่เหย้า กลายเป็นเพลงเอกประจำงานคืนสู่เหย้าของทุกสถาบัน
ยรรยงค์ได้รับเกียรติอย่างสูงจากครูเอื้อ ก่อนท่านสิ้นบุญ ได้สั่งเสียไว้ว่าเพลงที่ครูเอื้อเคยร้องอัดไว้ทั้งหมดต่อไปให้ยรรยงค์เป็นผู้ร้องต่อ
นอกจากเป็นครูสอนร้องเพลงที่โรงเรียนสุนทราภรณ์การดนตรี ยรรยงค์ยังมีผลงานเพลงออกมา คือ อัลบั้มกล่อมรัก ที่ร่วมงานกับบริษัท โรต้า ด้านงาน รับราชการที่กรมประชาสัมพันธ์จนเกษียณอายุ เมื่อปีพ.ศ. 2544 รวมเวลา 40 ปี ....
ยรรค์ยงค์ เสลานนท์ ถึงแก่กรรม เมื่ิอวันที่ 28 มีนาคม 2556 เวลาประมาณ 14.00 น. ในวัย 76 ปี
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 117
เมื่อ 21 ธ.ค. 23, 10:41
ดาวรุ่งพรุ่งนี้อีกคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพ คือคุณรุ่งฤดี แพ่งผ่องใส
เธอได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล-ขับร้อง) ประจำปี พ.ศ. 2563
รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส เกิดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2489 เป็นชาวตำบลคลองตาคต อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี มีใจรักเรื่องการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ทางครอบครัวสนับสนุนให้ร้องประกวดตามงานวัด และที่ สถานีวิทยุ ปณ.ใต้สะพานพุทธ และเป็นนักร้องประจำโรงเรียนอีกด้วย
ต่อมาเธอเข้ากรุงเทพมาศึกษาที่โรงเรียนดุสิตพณิชยการ เธอมีความฝันอยากจะเป็นนักร้องประจำวงดนตรีสุนทราภรณ์ ครูมนัส รามโยธิน ผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือจึงพาไปฝากครูเอื้อ สุนทรสนาน เพื่อสมัครเข้าเป็นนักร้องประจำวงดนตรีสุนทราภรณ์ ที่กรมประชาสัมพันธ์ ในปี พ.ศ. 2508 แม้ยังเรียนอยู่ก็ตาม
ครูเอื้อ สุนทรสนาน ให้เธอเลือกเพลงที่คิดว่าร้องได้ดีที่สุดเพื่อทดสอบตัวเอง เธอเลือกร้องเพลง "ภูกระดึง" ของ มัณฑนา โมรากุล ให้ครูเอื้อฟัง ปรากฏว่าสอบผ่าน ครูเอื้อจึงได้ให้เธอเรียนวิชาการขับร้องกับครูสริ ยงยุทธ ซึ่งเป็นมือเปียโนประจำวงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
จากนั้นเธอได้มีโอกาสร้องเพลงภูกระดึงอีกครั้งโดยร้องสดบนเวทีเป็นครั้งแรกในรายการสถานีวิทยุ อ.ส. พระราชวังสวนดุสิต ซึ่งเธอได้ยอมรับว่ามีความประหม่าและตื่นเต้นมาก ต่อมาได้บันทึกแผ่นเสียงเพลง "พัทยาลาก่อน" ของครูศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ เป็นเพลงแรก ตามด้วยเพลง "ร้ายกว่าผี" ซึ่งได้รับความนิยมจากแฟนเพลงมากมายเกินความคาดหมาย
รุ่งฤดีอยู่กับวงดนตรีสุนทราภรณ์ ได้เพียง 3 ปี ก็ลาออกไปใช้ชีวิตเป็นนักร้องตามไนท์คลับที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในตอนนั้น เช่น สีดาไนท์คลับ ถนนราชดำเนิน ทำให้มีโอกาสได้ร้องเพลงของครูเพลงคนสำคัญอื่น ๆ อีกหลายคน เช่น พยงค์ มุกดา, เปรื่อง ชื่นประโยชน์, ทวีพงษ์ มณีนิล, สง่า อารัมภีร และ ไพบูลย์ บุตรขัน
เพลงที่สำคัญก็คือ "เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง" ซึ่งเพลงนี้ครูพยงค์ มุกดา ตั้งใจประพันธ์ให้เธอร้องโดยเฉพาะ เมื่อได้ฟังเธอขับร้องเพลงที่ไนท์คลับ ตามความแนะนำของสุเทพ วงศ์กำแหง เลยเป็นที่มาของบทเพลงประจำตัวของเธอจนกระทั่งปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2519 เธอได้บอกกับบริษัทเมโทรต้องการร้องเพลงญี่ปุ่น ทางบริษัทเมโทรจึงได้ติดต่อครูพยงค์ให้มาใส่คำร้องให้ จึงออกมาเป็นเพลงดัง "โจโจ้ซัง" โดยมีเนื้อร้องภาษาไทยและเนื้อร้องภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเธอได้หัดเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่นานหลายเดือนก่อนจะได้บันทึกแผ่นเสียง
ต่อมา ครูเอื้อ สุนทรสนาน ได้เรียกให้เธอกลับมาบันทึกแผ่นเสียงเพลงคู่ชุด "ดำเนินทราย" ของห้างเมโทรเทปและแผ่นเสียง ของ วรชัย ธรรมสังคีติ ในปี พ.ศ. 2522 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นเดิม
รุ่งฤดีมีผลงานบันทึกแผ่นเสียงมากกว่า 2,000 เพลง และมีเพลงที่ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากอาทิ "หลานย่าโม", "เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง", "กังหันสวาท", "แม่สอดสะอื้น", "แฟนซีชีวิต", "คนหน้าเดิม", "เธอคือดวงใจ", "ช่างเขาเถิดนะหัวใจ", "ชีวิตคนเศร้า", "สตรีที่โลกลืม", "วาสนาคนจน", "เฉือนหัวใจ", "โจโจ้ซัง", "นักรบชายแดน", "ใจหวนครวญรำพัน", "ยากจะหักใจลืม" เป็นต้น ปัจจุบันเธอยังคงร้องเพลงให้กับงานคอนเสิร์ตการกุศลต่าง ๆ และยังทำงานให้กับสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทย สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และองค์กรสำคัญต่าง ๆ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 118
เมื่อ 21 ธ.ค. 23, 10:43
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41291
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 119
เมื่อ 22 ธ.ค. 23, 10:26
ดาวรุ่งพรุ่งนี้คนต่อไปคือ ศรวณี โพธิเทศ (ชื่อจริงสารนิตย์ โพธิเทศ) เกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2486 จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนสุรินทรศึกษา จากนั้นศึกษาที่ต่อที่โรงเรียนการช่างสตรีพระนครใต้ (ปัจจุบันคือคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ พระนครใต้)
ศรวณีเป็นคนชอบและสนใจการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันจะฝึกร้องเพลง และประกวดร้องเพลงตามเวทีต่าง ๆ ซึ่งเธอเองก็ได้รับชัยชนะแทบทุกครั้ง
ปีพ.ศ. 2504 ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ เธอสมัครเป็น “นักร้องดาวรุ่งพรุ่งนี้ของสุนทราภรณ์ ศรวณี” ต้องใช้เวลาถึง 7 ปี กว่าที่จะได้รับบรรจุตำแหน่งศิลปินจัตวาสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ กินเงินเดือน 450 บาทโดยได้บันทึกแผ่นเสียงเพลงแรก คือ “เธอเท่านั้น” ทำนอง ครูเอื้อ สุนทรสนาน คำร้อง ครูศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ครูชอุ่ม ปัญจพรรค์ เป็นคนตั้งชื่อให้ว่าศรวณี แปลว่า หญิงผู้มีน้ำเสียงคมดั่งคมศร
เธออยู่สังกัดกรมประชาสัมพันธ์และวงสุนทราภรณ์หลังจากรับราชการเพียง 4 ปี พอถึง พ.ศ. 2515 เธอก็ต้องลาออกจากกรมประชาสัมพันธ์ เพราะภาระทางครอบครัว
จากนั้น ศรวณีประสบความสำเร็จจากหลายเพลง เช่น “น้ำตาหรือจะแก้ปัญหาใจ” เมื่อปี พ.ศ.2519 ต่อมาปี พ.ศ.2520 ก็ได้บันทึกเสียงเพลง “ตะแลงแกงแทงใจ”(ผลงานเพลงของวราห์ วรเวช)
ศรวณีได้รับรางวัลพระราชทานเสาอากาศทองคำต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน ในปี 2519 เพลง น้ำตาหรือจะแก้ปัญหาใจ, ปี 2520 เพลง ตะแลงแกงแทงใจ และปี 2521 เพลง พะวงรัก
ในปีพ.ศ. 2521 ทางประเทศเกาหลีได้เชิญประเทศไทยให้ส่งนักร้องไปประกวดร้องเพลง ณ ประเทศเกาหลี ศรวณี ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปร่วมการแข่งขัน โดยใช้บทเพลงที่มีชื่อว่า “พะวงรัก” และได้รับ “รางวัลอารีรังอวอร์ด” (รางวัลนักร้องยอดเยี่ยม)นับเป็นนักร้องจากประเทศไทยคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
บันทึกการเข้า
หน้า:
1
...
6
7
[
8
]
9
10
...
19
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.092 วินาที กับ 20 คำสั่ง
Loading...