เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
อ่าน: 12633 เมื่อดาราร่วงจากฟากฟ้านภาสยาม
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41291

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 30  เมื่อ 04 มิ.ย. 25, 14:58

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16059



ความคิดเห็นที่ 31  เมื่อ 05 มิ.ย. 25, 15:35

จดหมายถึงพี่ตั้ม

ถึงพี่ตั้ม ที่เคยเดินอยู่ในฟิล์ม และยังเดินอยู่ในความทรงจำของใครอีกมากมาย

ผมไม่รู้จะเริ่มต้นจดหมายนี้อย่างไรดี เพราะไม่ใช่ทุกวันที่ใครสักคนจากไป แล้วทำให้หัวใจทั้งรุ่นสะอื้นอย่างสุภาพ

ผมอยากบอกพี่ว่า สำหรับพวกเราที่เคยเป็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่นั่งถือกระเป๋านักเรียนบนเก้าอี้ในโรงหนัง พี่คือพระเอกที่ไม่ต้องกล้ามใหญ่ที่สุด พี่โผล่มาแบบที่พระเอกเมืองไทยไม่เคยมี ไม่ต้องชนะทุกฉาก แต่ จริงใจที่สุดในจอ

พี่คือพี่ชายที่เราหลงรักตั้งแต่ยังไม่รู้จักคำว่าโรลโมเดล เด็กบ้านนอกอย่างพี่ ที่มาต่อสู้อย่างซื่อ ๆ ในเมืองใหญ่ ไม่ได้สอนให้เราสู้แบบเกรี้ยวกราด

แต่สอนให้เราสู้ด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงจริงใจ พี่ขี้เล่นแต่ไม่ขี้โกง พี่ขำขันแต่ไม่ขำความถูกต้อง เพลงสุขาอยู่หนใดที่พี่ร้องจีบน้องโอ๋ไปด้วยระหว่างพายเรือในคลอง เป็นฉากที่เด็กผู้ชายวัยกำลังจะโตอยากเลียนแบบ

ในยุคที่วัยรุ่นเริ่มตั้งคำถามกับชีวิต เริ่มอยากเป็น "ตัวเอง" มากกว่า "ลูกที่ดีของพ่อแม่" พี่ตั้มกลายเป็นแบบอย่างของคนที่กล้าฝัน กล้าเดินทางจากต่างจังหวัดเพื่อไปไล่ตามอนาคต แต่ไม่ทิ้งความดี ความกตัญญู และความรักที่เรียบง่าย

และเมื่อหนังจบลง พี่ตั้มก็ไม่ได้จางหาย แต่กลายเป็น "พิมพ์เขียวของผู้ใหญ่ที่ดี" ให้เด็กผู้ชายรุ่นน้องอีกหลายรุ่นเดินตามโดยไม่รู้ตัว

ผมเชื่อว่าคนรุ่นผมที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ได้ซึมซับอะไรดี ๆ มาหลายอย่างจากตัวละครที่ชื่อตั้ม ที่พี่ไพโรจน์และอาเปี๊ยก โปสเตอร์ ร่วมกันสร้างขึ้นมา

พี่ไพโรจน์ที่รัก

ผมเชื่อว่าแม้วันนี้พี่จะปิดม่านเวทีชีวิตลงอย่างเงียบ ๆ แต่ในหัวใจของพวกเรา เสียงหัวเราะของพี่ แววตาจริงจังในความขี้เล่นของพี่ ยังคงเปิดฉายอยู่ในโรงหนังของความทรงจำทุกคืน

ขอบคุณที่เคยเป็นพี่ชายของเรา ขอบคุณที่เคยทำให้เราอยากโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม เป็นผู้ใหญ่ที่ยังยิ้มได้ในวันที่โลกไม่ง่ายเหมือนเดิม

หลับให้สบายนะพี่ "วัยอลวน" ยังฉายต่อในใจพวกเราทุกคน

รักและเคารพเสมอ
น้องชายจากอีกฝั่งของจอ

จากเฟซบุ๊ก คุณประภาส ชลศรานนท์


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16059



ความคิดเห็นที่ 32  เมื่อ 08 มิ.ย. 25, 09:35

วัยอลวนแท้จริง
อาลัยไพโรจน์ สังวริบุตร

ข่าวดารา "อลวน" คนวัยหนุ่ม
เคยชื่นชุ่มหัวใจในวัยสาว
เมื่ออายุยืนกาลมานานยาว
ก็ถึงคราววัยใหม่วัยชรา
วัยนี้แหละ "อลวน" อย่างแท้จริง
วุ่นอย่างยิ่งอลวนอย่างคนบ้า
กินอะไรก็ต้องห้ามตามตำรา
ต้องกินก็แต่ยาน้ำตาริน
ยามกินข้าวกินปลาต้องปล่อยวาง
ประเดี๋ยวก้างติดคอจะดับดิ้น
จะเดินทางทำอะไรต้องปฏิทิน
เพราะลืมแล้วหมดสิ้นทุกวันนัด
โอ้ละหนอวัยอลวนคนชรา
ได้เวลาทำอะไรก็ไม่ถนัด
ตาไม่เห็นมือไม่จับลงหล่นพลัด
ให้อึดอัดคับข้องแต่ต้องทน

ขอบคุณเอ๋มาเตือนสติเรา
ให้มองเห็นวัยเยาว์ที่ตั้งต้น
และให้เห็นวัยปลายไปทุกคน
ขอบุญล้นส่งเอ๋นั้นสู่สวรรยา

ชมัยภร แสงกระจ่าง
๗ มิถุนายน ๒๕๖๘
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41291

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 33  เมื่อ 19 มิ.ย. 25, 13:19

ดาวครูเพลงลาลับฟ้าไปอีกดวงหนึ่ง
สุรพล โทณะวณิก ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ประพันธ์) จากไปในวัย 98 ปี
พิธีรดน้ำศพจัดขึ้นในวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 16.00 น. และสวดพระอภิธรรม 19-25 มิ.ย. เวลา 18.30 น. ณ ศาลา 4 วัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ส่วนพิธีฌาปนกิจ คือ 26 มิ.ย.


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41291

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 34  เมื่อ 19 มิ.ย. 25, 13:31

     สุรพล โทณะวณิก เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 ที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของอัยการ ขุนประทนต์คดี (หลี โทณะวณิก) และนางน้อย โทณะวณิก ชีวิตช่วงแรกอยู่กับยาย  ยายนำมาฝากให้อยู่กับพระจนอายุ 6 ขวบ มารดาจึงพากลับไปอยู่ด้วย  อยู่กับมารดาได้ 2 ปี  ก็มีปัญหากับพ่อเล้ียง จึงหนีออกมาเป็นเด็กเร่ร่อน จนอายุ 13 ปี ได้ติดตามพระครูคุณรสศิริขันธ์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ไปอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์จนเรียนจบชั้น ม.3 แล้วย้ายไปอยู่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะย้ายกลับมากรุงเทพมหานคร

      ในปี พ.ศ. 2492 สุรพล โทณะวณิก ทำงานที่โรงละครเวิ้งนาครเขษม ได้รู้จักครูเพลง นักดนตรี และนักแสดงในวงการหลายท่านก่อนจะได้ไปช่วยงานกับ สุวัฒน์ วรดิลก และ ศักดิ์เกษม หุตาคม และได้ทำงานเขียนเรื่องสั้นให้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสารหลายยี่ห้อ เช่น "เพลินจิต", "แสนสุข", "วันอาทิตย์", "ชาวกรุง" เป็นนักข่าวอาชญากรรม และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์
      สุรพล โทณะวณิก เริ่มประพันธ์เพลงครั้งแรกราวปี พ.ศ. 2495 มีผลงานเพลงบันทึกแผ่นเสียงที่มีชื่อเสียงเช่น เพลง "ใครขโมยกางเกง" และ "ใครขโมยกระโปรง" ขับร้องโดย วิเชียร ภู่โชติ - ประชุม พุ่มศิริ "ลาแล้วแก้วตา", "บัวน้อยคอยรัก" และ "ในโลกแห่งความฝัน" ขับร้องโดย สุเทพ วงศ์กำแหง "ใครหนอ", "ฟ้ามิอาจกั้น" และ "รักไม่รู้ดับ" ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์ "ยามรัก" (ประพันธ์ร่วมกับ เอื้อ สุนทรสนาน) และ "แม่เนื้ออุ่น" ขับร้องโดย หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ "ท่าเตียน", "กลัวทำไมจน" และ "แตกดังโพละ" ขับร้องโดย มีศักดิ์ นาครัตน์
       ผลงานเพลงในยุคหลัง เช่นเพลง "ลมรัก" และ "อยากลืมกลับจำ" ในปี พ.ศ. 2524 ขับร้องโดย เดอะฮอตเปปเปอร์ซิงเกอร์ (ผุสดี เอื้อเฟื้อ และ รุ่งพิรุณ เมธารมณ์) ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ประจำปี พ.ศ. 2526
       สุรพล โทณะวณิก เคยมีผลงานกำกับภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2515 - 2516 เรื่อง ไอ้แกละเพื่อนรัก (2515) นำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี นัยนา ชีวานันท์ และ อีหนู หรือ 13 สาว 11 บริสุทธิ์ (2516) นำแสดงโดย กรุง ศรีวิไล
       สุรพล โทณะวณิก ได้รับพระราชทานรางวัลแผ่นเสียงทองคำ ประเภทคำร้อง และ ทำนองชนะเลิศ จากเพลง "ใครหนอ" ในปี พ.ศ. 2507 และเพลง "เพชรตัดเพชร" ในปี พ.ศ. 2509 จากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้รับการเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล - ประพันธ์) ประจำปี พ.ศ. 2540 และ ในปี พ.ศ. 2553 สุรพล โทณะวณิก ได้รับรางวัลเกียรติยศผู้ประพันธ์เพลงดีเด่นในอดีต จากในโครงการเพชรในเพลง กรมศิลปากร ครั้งที่ 7 จากเพลง ใครหนอ ขับร้องโดย สวลี ผกาพันธุ์ ได้รับในวันภาษาไทยแห่งชาติ วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
    ด้านครอบครัว  สุรพลมีภรรยาชื่อนางรายาสุรีย์ โทณะวณิก มีบุตรชาย 1 คนชื่อ สุรพลน้อย โทณะวณิก


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41291

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 35  เมื่อ 19 มิ.ย. 25, 13:32

บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16059



ความคิดเห็นที่ 36  เมื่อ 19 มิ.ย. 25, 17:35

คารวตาลัย  แด่  ครูพี่น้อย  สุรพล  โทณะวณิก
ศิลปินแห่งชาติ  สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ประพันธ์) ประจำปี ๒๕๔๐

 ใครหนอ ทำให้เราต้องร้องไห้
 อยากลืมกลับจำ ทำไม่ได้ให้ไหวหวั่น
 เพชรตัดเพชร  เด็ดขาดองอาจพลัน
 ยามรัก นั้นทำอย่างไรไม่อยากลา
 ขอ ลมรัก พัดพามาอีกครั้ง
 ลาแล้วแก้วตา ดังยังซ่านซ่า
 รักไม่รู้ดับ  แต่กลับมาลับตา
 ฟ้ามิอาจกั้น  แต่ทว่าก็กั้นแล้ว
 ครูแต่งเพลงด้วยหัวใจหลากหลายรส
 คำหมดจดใจหมดคำงามเป็นแก้ว
 ทั้งสนุกทั้งเศร้างามพราวแพรว
 เพลงทุกแนวสะท้อนภาพจนซาบใจ

 ลาแล้วครูขอให้ได้พบเพื่อน
 ได้ลอยเลื่อนโล้ดาวที่วาวใส
 ขอบุญจาดเพลงงามที่ทำไว้
 ส่งครูเปรมเอมในภพใหม่เทอญ

 ชมัยภร  บางคมบาง
 ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี ๒๕๕๗
 ๑๙  มิถุนายน ๒๕๖๘
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 37  เมื่อ วันนี้ เวลา 10:55

                ใจหายอีกแล้ว วันก่อนเพิ่งนึกถึงบรมครูสุรพล
       เรื่องราวชีวิตต้องสู้ของครูประทับใจจำ
       ชีวิตวัยเด็กบ้านแตก เร่ร่อน คืนหนาวนอนกอดสุนัข มาอยู่วัด ในวันที่ว้าเหว่,ถามหลวงพ่อผู้เมตตาว่า
พ่ออยู่ไหน ท่านก็ชี้ที่ตัวท่านเอง, ไหนแม่ ท่านก็ชี้ที่สบง ซึ่งมีลักษณะเหมือนผ้านุ่งผู้หญิง
       รักข้างเดียวเป็นไปได้เพียงในโลกแห่งความฝันของครูที่มีต่อคุณสวลี ผกาพันธ์ ผู้มีใจอารี เป็นที่มาของเพลงดัง
ทั้ง ใครหนอ ในโลกแห่งความฝัน รักไม่รู้ดับ
       ครูสุรพลเคยครองคู่กับคุณนงลักษณ์ โรจนพรรณ(เสียชีวิตหลายปีแล้ว) ศิลปินมากฝีมือแห่งไทยทีวีช่องสี่ บางขุนพรหม 



ทำนองอิงเพลง On the Sunny Side of the Street

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41291

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 38  เมื่อ วันนี้ เวลา 18:50

   สุรพล โทณะวณิก เขียนถึงสวลี ผกาพันธุ์  เมื่อพบว่าเธอถึงแก่กรรม
    "แด่คุณเชอรี่ สวลี ผกาพันธ์ ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง
           จากคนที่เคยรักข้างเดียว เสมอมา
    สุรพลหลงรักเด็กนักเรียนหญิงชื่อเชอรี่ ฮอฟแมนน์  ลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก ใน ร.ร.สตรีมหาพฤฒาราม ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรก  ตอนนั้นเขาเป็นเด็กลูกมือแม่ค้าขายน้ำในโรงเรียน   เมื่อทางโรงเรียนทราบเรื่องก็ไล่เขาออก   แต่ความรักที่มีต่อสวลีไม่เคยเปลี่ยนแปลง
     ทั้งคู่ มาเจอกันอีกตอนโตเป็นหนุ่มสาว วัยทำงาน สวลีเป็นนักร้อง สุรพลเป็นนักแต่งเพลง สุรพลยังเป็นโสด ส่วนสวลีมีคนรักช่ื่ออดิศักดิ์ เศวตนันทน์  ต่อมาได้แต่งงานกัน มีบุตร 3 คน   ส่วนสุรพลรักษาความโสดอีกนาน ก่อนแต่งงานกับ “นงลักษณ์ โรจนพรรณ” ดาราโทรทัศน์ช่อง 4  ไม่นานชีวิตคู่ของเขาก็จบลง
      มีคนเคยเขียนถึงสาเหตุการหย่าร้างครั้งนี้
ิิิ    “คุณนงลักษณ์ แต่งงานกับ คุณ สุรพล โทณวนิก ศิลปินแห่งชาติเพราะเธอหลงใหลในความงามของบทเพลงที่ คุณสุรพล แต่ง แต่คุณสุรพลเองมิได้มีที่ว่างใดๆ ในหัวใจเหลืออยู่ ด้วยเธอมอบความรักทั้งหมดให้กับ คุณสวลี ผกาพันธ์ นักร้องที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุด แม้ว่าเธอจะแต่งงานและมีครอบครัวมานานแล้ว เมื่อเป็นดังนี้ชีวิตสมรสจึงดำเนินไประยะหนึ่ง แล้วก็สิ้นสุดลง”
     สุรพลไปดูมวยที่สนามมวยราชดำเนิน คิดถึงสวลี จึงนั่งริมฟุตบาตแล้วแต่งเพลง “ใครหนอ” เอามาให้สวลีร้อง สวลีไม่ยอมร้องเพราะรู้เป็นเพลงจีบ สุรพลเลยเติมคำว่า “คุณพ่อคุณแม่” สวลียอมร้อง เลยได้เป็นนักร้องแผ่นเสียงทองคำ” สุรพลได้แต่งเพลงให้คุณสวลีร้องหลายเพลง โดยยอมรับว่า ฝ่ายหญิงเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงและเนื้อเพลงก็สอดแทรกความในใจของตัวเองลงไปทุกเพลง ย้ำความรู้สึกของตัวเองเป็นรักข้างเดียวมาตลอด เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ได้หวังจะครอบครอง
     เมื่อสวลีถึงแก่กรรม  สุรพลเขียนไว้อาลัยเธอตามข้อความข้างบนนี้    


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 19 คำสั่ง