เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27 28 ... 32
  พิมพ์  
อ่าน: 66173 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 375  เมื่อ 15 ม.ค. 24, 18:34

กลับมาที่ Elvis Presleey  แม้จะไม่คุ้นกับเพลงของเธอ  อย่างไรก็ตามนอกจากเพลงดัง ๆ แล้วยังมีบางเพลงที่จำได้ว่าช้อบชอบ  เช่นเพลงเหล่านี้









และเพลงนี้ที่ได้ยินครั้งแรกเป็นเพลงไทยที่ไปเอาเพลงนี้มาแปลง  ตอนนั้นไม่่รู้  ยังชื่นชมว่าเพลงไทยเพลงนี้เพราะจัง



พอมาถึงยุคปลาย 60s  เป็นช่วงเวลาที่ผมโดนผีเพลงฝรั่งเข้าสิงแล้ว  พบว่าเพลงพวกนี้ของเธอเพราะสุดขีด











เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่ผมได้ยินทางวิทยุ



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 376  เมื่อ 16 ม.ค. 24, 18:43

เพลงใหม่ ๆ ของ Elvis Presley หายไปจากลำโพงวิทยุ  มันหมดยุคของเธอไปแล้ว  จนกระทั่งวันหนึ่งวิทยุก็เปิดเพลง ๆ หนึ่งของเธอให้ผมฟัง  มันเป็นเพลงเก่าที่ดังมาก  ใคร ๆ ก็รู้จัก  แต่ฉบับที่ผมได้ยินวันนั้นมีความแตกต่างอย่างชัดเจน



ผมละหูผึ่งกับเพลง Are you lonesome tonight ฉบับนี้  อย่างที่บอกว่าผมไม่ใช่แฟนเพลง  ตอนที่ได้ฟังจึงไม่ได้ตั้งตัว  อยากฟังอีกก็ไม่ได้แล้วเพราะไม่รู้จะไปหาฟังได้ที่ไหน  ผมเก็บความอยากเอาไว้หลายปี  จนกระทั่งถึงยุค youtube ผมรอจนกว่ามันจะเติบใหญ่ถึงลงมือค้นแล้วก็เจอ  พอถึงยุค Wikiฯ  ผมก็ได้ความรู้เกี่ยวที่มาที่ไปของเพลงฉบับนี้

Returning to music in 1968, Presley included the song on his playlist for the NBC special Elvis and performed it live the following year during his first Las Vegas engagement. A version of the song, recorded on August 26, 1969, and documenting Presley altering the words of the narration ("Do you gaze at your bald head and wish you had hair" – ประมาณ 0.54 ของ clip) and laughing through the rest of the bridge, was released in 1980 as part of the Elvis Aron Presley box set. In 1982 this "laughing version" was a radio hit in the United Kingdom and reached number 25 on the British Singles Chart.





ผมเจอเพลงของ Elvis Presley อีกเพลงที่เธอ ‘หลุด’  เป็นหนึ่งในเพลงยุคเก่าของเธอที่ผมชอบมาก



เพลง Wooden heart ของ EP นี้มีให้ได้เห็นได้ฟังในหนังของเธอเรื่อง G.I. Blues (1960)  เพลงนี้ตัดออกมาเป็น single เข้าถึงอันดับ 1 ในอังกฤษในปีรุ่งขึ้น

ส่วนที่อเมริกาเพลงนี้เข้าอันดับฯ โดยเสียงร้องของ Joe Dowell (1940 – 2016) และขึ้นถึงอันดับ 1ในปีเดียวกัน






เก็บตก



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 377  เมื่อ 17 ม.ค. 24, 16:58

    จำได้ว่าเพลง Are you lonesome tonight ถูกเปิดเป็นแบคกราวน์ข่าวการตายของเอลวิส   ที่ถ่ายทอดไปทั่วโลก  ทำเอาแฟนเพลงยุค 1960s  ช็อคกันไม่เลิก
    เอลวิสจากไปเมื่ออายุ 42 ปีเท่านั้นเอง
    เคยไปดูโชว์สดๆของเอลวิสที่ลาสเวกัส   ค่าบัตรแถวท้ายสุด (ไต่บันไดขึ้นไปชั้นสองอีกต่างหาก) ราคา 25 เหรียญ นับว่าแพงเอาการในยุค 1 ดอลล่าร์ = 20 บาท ก๋วยเตี๋ยวในไทยน่าจะชามละ 5-6 บาท  แต่ก็คุ้มค่าดู เพราะเขาร้องเพลงต่อเพลง ไม่ได้หยุดเลย  สิบกว่าเพลงได้   น่าสงสารปอดเอลวิสจริงๆ
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 378  เมื่อ 17 ม.ค. 24, 18:33

Little Richard เป็นหนึ่งในตำนานเพลง soul ที่บ้านเขา  ชื่อของเธอที่บ้านเราคงคุ้นเพียงแผ่ว  แต่เพลงของเธอคุ้นหูพวกเรามากกว่า  นั่นเป็นเพราะนักฟังเพลงฯ ส่วนใหญ่ไม่สนใจชื่อนักร้องหรือชื่อเพลง  สนใจแต่เพลง  ประมาณว่า ‘อ๋อ... เพลงนี้เคยได้ยิน ๆ’ ถ้าถามต่อว่าใครร้อง  คำตอบคือไม่รู้  หรือถามว่าชื่อเพลงอะไร ก็ไม่รู้อีก  รู้แต่เคยได้ยิน  








(2 เพลงดังที่สุดในบ้านเรา)



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 379  เมื่อ 18 ม.ค. 24, 18:54

Harry Nilsson มีเพลงดังหูแทบหนวกในบ้านเราในปี 1971 



ตอนนั้นผมนึกว่าเธอเป็นนักร้องประเภท One hit wonder  คือมีเพลงดังเพลงเดียวแล้วดับ  เพราะฟังเพลงมาก็ตั้งนานแต่เพิ่งเคยได้ยินชื่อนักร้องคนนี้  ต่อมาสั่งสมความรู้มากขึ้นก็รู้ว่า  เธอมีเพลงดังมาก่อนหน้านี้แล้ว  มันอยู่ในยุคปลาย 60s 

เพลงนี้บรรจุอยู่ในหนังรางวัล Oscar ชื่อ Midnight Cowboy  การคัดเลือกเพลงนำลงเป็น soundtrack ของหนังเรื่องนี้สนุกมาก  ผมเคยเล่าไปแล้วในกระทู้หนังต่างประเทศ  เอาย่อ ๆ คือ HN แต่งเพลงเสนอเข้าไป  แต่ผู้ผลิตไม่ถูกใจกลับไปสนใจเพลงเก่าของเธอแทน  คือเพลงข้างบน  ไหน ๆ ก็แต่ง/อัดออกมาเป็น demo แล้วเธอก็เลยเอาเพลงมาออกเป็น single เสียเลยคือเพลงนี้  ที่มีท่วงทำนองคล้ายกันเหมือนพี่น้องคลานตามกันมา



เพลงนี้เป็นอีกเพลงที่เข้า top 10  แต่ผมไม่เคยได้ยิน  ฟังแล้วงง ๆ ว่าควรชอบหรือไม่



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 380  เมื่อ 19 ม.ค. 24, 18:18

ก่อนหน้านี้ผมเคยเอ่ยถึงวงดนตรีที่เล่นเพลงประเภท surf music ไปแล้วคือ Jan & Dean

คราวนี้จะเอ่ยถึงวง surf music อีกวงที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นตอของเพลงแนวนี้คือ The Beach Boys  กิจกรรมของวงนี้ยังยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบันแม้สมาชิกดั้งเดิมจะตายไปบ้างเล่าเหลากันไปบ้าง แต่ก็ยังมีทายาทสืบทอดต่อ ๆ กันมา

บ้านเราเปิดเพลงของวงนี้มากกว่าเพลงของ Jan & Dean  น่าจะเป็นเพราะ single ของพวกเขามีเยอะกว่าและดัง ๆ ทั้งนั้น







มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 381  เมื่อ 20 ม.ค. 24, 18:05

นี่คือ 3 เพลงของวง The Beach Boys ที่ขึ้นถึงอันดับ 1 บนตาราง billboard  แต่ไม่ดังในบ้านเราเท่า 3 เพลงที่ลงไปก่อนหน้า







เพลงช้าที่ดังก็มี



เข้ามายุค 70s วิทยุบ้านเราก็ยังเปิดเพลงของวงนี้ถ้าเพลงนั้นดังในอันดับ billboard



ล่วงมาถึงยุค 80s วงนี้ซึ่งสมาชิกผลัดเปลี่ยนกันไปแล้วก็ยังผลิตงานออกมาอย่างสม่ำเสมอและสามารถนำเพลงขึ้นอัน 1 ได้อีกครั้งในปี 1988  วิทยุบ้านเราไม่ลืมนำมาเปิดให้ผมฟัง



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 382  เมื่อ 21 ม.ค. 24, 18:24

ไม่มีนักฟังเพลงฝรั่งร่วมยุคคนไหนไม่รู้จักเพลงนี้  อาจจะไม่รู้ชื่อเพลงหรือชื่อของศิลปิน  แต่ต้องรู้จัก ‘เพลง’



The Sandpipers เป็นวงประสานเสียง 3 คน  ทำนองเดียวกับวง The Ivy League จากอังกฤษที่เคยนำเสนอไปแล้ว  อีกวงที่ทำเพลง style เดียวกันคือ The Lettermen ดังที่เคยเล่าไปแล้วเช่นกันประมาณชาติเศษ  นักฟังเพลงฯ คุ้นเคยกับเพลงนี้เป็นอย่างดีเนื่องจากมันดังสนั่นกรุงเทพฯ  ถึงขนาดมีคนเอามาแปลงเป็นเพลงไทย
 


วงนี้ยังมีอีกเพลงที่วิทยุบ้านเราชอบเปิดแม้จะไม่ถี่เท่าเพลงแรก  ผมรู้จักมานานแต่เพิ่งรู้สิ่งปลีกย่อยว่าเพลงนี้เป็น soundtrack ของหนัง The sterile cuckoo ซึ่งผมไม่รู้จักและไม่รู้ว่ามาฉายบ้านเรารึเปล่า



เพลงนี้ก็มีเปิดให้ฟังเนือง ๆ



ส่วนเพลงนี้ผมได้ยินครั้งแรกจากเสียงของ Francis Yip



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 383  เมื่อ 22 ม.ค. 24, 18:35

นี่คือ single ต่อมาจากเพลง Guantanamera ทำอันดับได้ไม่ดีเลย  และผมก็ไม่เคยได้ยินทางวิทยุ



การประสานเสียงของวงนี้นุ่มหูมาก  จะขอเสนออีกหนึ่งกระบุง  บางเพลงอาจฟังคุ้นหู











บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 384  เมื่อ 23 ม.ค. 24, 18:15

เมื่อหลาย 10 ปีก่อนผมได้ดูหนังเรื่อง The Mambo Kings  มีฉากหนึ่งที่ใส่เพลง Guantanamera เข้าไปในฉาก  คนที่ร้องเพลงนี้คือ Celia Cruz 



เป็นฉากที่เด่นที่สุดในความคิดของผม  มันเป็นแรงผลักดันให้ผมออกไปหาซื้อ CD เพลงจากหนังเรื่องนี้เพื่อที่จะฟังเธอร้องเพลงนี้เต็ม ๆ โดยเฉพาะ

จนกระทั่งถึงการมาของ Wikiฯ ผมถึงได้รู้รายละเอียดของนักร้องคนนี้ว่าเธอเป็นชาว Cuba และ One of the most popular Latin artists of the 20th century.





(มั่วเอามาให้ฟัง  เพราะไม่เคยได้ยินเลย)




บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 385  เมื่อ 24 ม.ค. 24, 18:29

ในยุค 60s มีหนัง cowboys ที่ต่อมาเป็นหนังอมตะเกิดขึ้นมากมาย  แต่ละเรื่องยังสร้างความอมตะย่อยขึ้นด้วยนั่นคือเพลงประกอบเรื่อง  เพลงเหล่านี้เราจะได้ยินต่อเมื่อเข้าโรงฯ ดูหนัง  ไม่ก็ไปซื้อแผ่นเสียง soundtrack มาฟัง  ในช่วงดังกล่าวมีศิลปินคนหนึ่งทำเพลงจากหนังเหล่านี้ออกเป็นแผ่น single ไว้เปิดตามสถานีวิทยุ  เพลงเหล่านี้ที่เราเคยได้ยินทางวิทยุในสมัยโน้น ๆ ก็คือผลงานของเขา







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 386  เมื่อ 25 ม.ค. 24, 18:22

ข่าวใหญ่สำหรับคอนักฟังเพลงในยุคต้น 70s

การจากไปของ Melanie Safka (1947 – 23 Jan 2024) หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในนาม Melanie  ศิลปินที่โด่งดังในเรื่องการแต่งเพลง  จุดสูงสุดของเธออยู่ในต้น 70s  ด้วยเพลงนี้ที่ดังไปทั่วโลกที่ฟังเพลงฝรั่ง  ซึ่งรวมถึงบ้านเรา 



อีกเพลงหนึ่งที่วิทยุบ้านเราเปิดบ่อย  เพลงออกตลาดทีหลังแต่ผมได้ยินก่อนเพลงแรกและเพลงอื่น ๆ  เพราะตอนนั้นผมยังง่วนอยู่กับการหาจิ้งหรีด



แซมด้วยเพลงเหล่านี้ซึ่งถ้าอายุเท่าผมและไม่เป็นถึงผีเพลงฝรั่งเป็นไม่เคยได้ยิน … ขออุทิศความดีความชอบให้กับเหล่าดีเจ









สำหรับเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงดังระดับโลกแต่ผมไม่เคยได้ยินทางวิทยุ  มาได้ยินตอนซื้อแผ่นเสียง  ฟังแล้วเพราะจับใจโดยเฉพาะการร้องประสานเสียงของวง Edwin Hawkins ที่เคยนำเสนอไปแล้ว



เธอเป็นศิลปินหญิงจำนวนน้อยคนที่ได้เข้าร่วม concert ตำนานของโลกดนตรี Woodstock



หมายเหตุ – ผมรู้จักชื่อและเคยเห็นหน้า Melanie มานานจากหนังสือ Starpics และหนังสือเพลง 3 หัวก่อนเคยได้ยินเพลง (Bitter Bad)  หน้าตาเธอน่ารักมาก  พอมาได้ยินเสียงเธอร้องเพลง  อึ้งหน่อย ๆ นึกว่าเสียงจะหวานเหมือนใบหน้า

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 387  เมื่อ 26 ม.ค. 24, 18:14

'หนัง' ชุด  หลายตอนจบ

The Seekers เป็นวง folk-pop จาก Australia (ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าใครมาจากไหน  มีหน้าที่ฟัง  แล้วก็มีหน้าที่ตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบ)  เพลงที่ได้ยินมาตั้งแต่จำความได้คือเพลงนี้

เป็นเพลงเดียวที่ครองกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาหนึ่ง  จนกระทั่งผมโตแล้วถึงรู้ว่ามันเป็น soundtrack ของหนังอังกฤษที่มีชื่อเดียวกัน (ซึ่งสนุกมาก)
 
ต่อมาอีก  คลื่นของชาวต่างชาติ soft 105 ก็เปิดเพลงอื่นของวงนี้คือ



แค่ 2 เพลงผมก็ต้องมนตร์ของวงนี้  แล้วเผ่นโผนออกไปหา CD ของวงฯ มาฟัง  พอได้มาแล้วผมก็เอามาประกอบกับปูมอันดับเพลงของ Joel Whitburn ก็พบว่าผลงานของวงฯ ที่ดังยังมีอีกเพลงคือ



3 เพลงนี้เป็นเพลงดัง 2 ฝั่งฟ้าคือทั้งอังกฤษและอเมริกาและยังรวมไปถึง Australia บ้านเกิดของพวกเขา

ส่วนเพลงนี้ดังสนั่นที่อังกฤษและ Australia (แต่ไม่ดังในใจผม  ฟังแล้วง่วงนอน)



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 388  เมื่อ 27 ม.ค. 24, 18:05

เพลงของวง The Seekers นี้ล้วนเพราะและฟังง่ายทั้งนั้น  แต่ละเพลงสั้นกระจิ๋วหลิว











และเพลงโปรดของผม  เสียง piano เพราะมาก  เสียงของ Judith Durham กังวานเสียดแทงใจจริง ๆ



หลังจากวง The Seekers แตก (แบบสมานฉันท์) ในปลาย 60s สมาชิกคนหนึ่งของวงคือ Keith Potger (คนที่วางมือบนไหล่ของ Judith Durham) ก็กลับไปตั้งหลักที่อังกฤษแล้วตั้งวงใหม่ขึ้นโดยใช้ชื่อว่า The New Seekers  เริ่มแรกตัวเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิก  แต่ผลงานไม่ถูกใจตลาด  จึงมีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกซึ่งทำให้ KP หลุดจากโผ  แต่ยังคงได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ก่อตั้งวงฯ นี้
 
วง The New Seekers โฉมใหม่ทำเพลงออกสู่ตลาดแล้วติดหูผู้บริโภคทันที 


The Seekers



Keith Potger & the New Seekers


จบภาคแรก...

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2156


ความคิดเห็นที่ 389  เมื่อ 28 ม.ค. 24, 18:36

ตอนต้นยุค 70s ไม่มีนักฟังเพลงฝรั่งคนไหนไม่เคยได้ยินเพลงนี้



เพลงดังมากส่งผลให้วงดังไปด้วยคือ คณะ The New Seekers (นั่นเอง)  สำหรับใครที่ไม่รู้เบื้องหลังเพลงนี้ก็จะเล่าจิ๊ด  ๆ ว่า  ดั้งเดิมเป็นเพลงประกอบโฆษณาน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง



โฆษณาชิ้นนี้มาฉายที่บ้านเราด้วย  สังเกตดี ๆ จะเห็นสินค้าชื่อภาษาไทยด้วย  ผมเพิ่งเห็นนี่แหละ  ตอนดูทางทีวีนั้นเด็กมาก  จับภาพไม่ทัน

ความที่โฆษณาดังก็เลยมีการนำเพลงมาอัดใหม่เป็นครั้งที่สองออกเป็น single ขาย  ซึ่งก็ดังสนั่นทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทร  ความดังลามมาถึงญี่ปุ่น ฮ่องกง ก่อนจะเข้ามาเมืองไทยเพื่อถามผมว่าเพลงนี้ครองใจคนกรุงเทพฯ ได้มั้ย  ผมรีบตอบกลับไปว่า  ครองใจคนกรุงเทพฯ ไปเรียบร้อยแล้วพี่จ๋า  จงรีบเร่งส่งผลงานอื่น ๆ มาอีก

ตลาดเพลงฝรั่งที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือที่อเมริกา  วงนี้มีผลงานดังแค่เพลงนี้เพลงเดียว  จึงเข้าไปรวมในกลุ่มศิลปิน one hit wonder  แต่ที่อังกฤษชื่อเสียงของพวกเขาดังกว่า  และดังกว่าบ้านเดิมคือที่ Australia
 
ส่วนที่บ้านเรา  จากประสบการณ์  วงนี้นับว่าดังไม่น้อย  วิทยุเปิดเพลงของพวกเขาเยอะทีเดียว  ผมฟังมาตลอดและชอบทุกเพลง  ผมมีแผ่นเสียงและซีดีของวงฯ นี้อยู่จำนวนหนึ่ง  จำได้จากการอ่านบันทึกในแผ่นซีดีแผ่นหนึ่ง  สมาชิกคนหนึ่งเล่าว่า  ความจริงแล้ววง TNS นี้ไม่ใช่วงดังอะไรเลยแต่น่าแปลกใจว่าเมื่อถึงยุคซีดีครองตลาด  กลับมีคนทำแผ่นซีดีของวง ฯ ออกมาหลากหลายอย่างคาดไม่ถึง

ตอนนี้พบว่าสมาชิกหลักคนหนึ่งของวงฯ ชื่อ Peter Doyle เสียชีวิตแล้ว (1949 – 2001)  เธอส่งเสียงร้องนำฝ่ายชายในบางเพลง  รวมถึงเพลง I’d like ฯ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของเสียงสูงช่วง For peace throughout the land  สำหรับเพลงอื่น ๆ ที่ผมเคยได้ยินทางวิทยุ (แต่ไม่รู้ว่าเสียงผู้ชายเป็นเสียงของใคร) เช่น



เพลงนี้เข้าประกวดงาน Eurovision song contest เป็นตัวแทนจากประเทศอังกฤษ  ได้คะแนนมาเป็นที่ 2 

ในบ้านเรา  เพลงนี้ดังกว่าเพลงชนะที่ 1 คือ Come what may (เป็นชื่อของฉบับออกขายทั่วโลก  ต้นฉบับในการประกวดใช้ชื่อและเนื้อเพลงเป็นภาษาฝรั่งเศส) จากเสียงของ Vicky Leandros ตัวแทนประเทศ Luxemburg (รอเวลาที่จะนำเสนอเพลงจากการประกวดฯ ที่ฮิตในบ้านเราอยู่หลายปีทีเดียว  เพราะ ๆ ทั้งนั้น)

สำหรับเพลงนี้เป็นการนำเพลง rock หนัก ๆ ของวง The Who มาร้องใหม่  หนักแบบหวาน ๆ



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 24 25 [26] 27 28 ... 32
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 19 คำสั่ง