เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 33
  พิมพ์  
อ่าน: 79106 รำลึกถึงดาวเสียงต่างชาติต่างภาษาที่ดับแสงไปแล้ว [2]
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 225  เมื่อ 23 ก.ย. 23, 14:22

Del Shannon ร้องเพลงที่ผมได้ยินทางลำโพงวิทยุอยู่ 2 เพลงคือ



กระหึ่มหูพวกเราเลยละ 


นำเสนอเพลงอื่น ๆ ของเธอที่ดังในอันดับ ฯ









อ่านรายละเอียดได้ว่าเธอตายตั้งแต่วัยกลางคน คือยิงตัวตายด้วยสาเหตุจากโรคซึมเศร้า  โถ... พ่อคุณ


(หมายเหตุ – ผมว่าตัวเธอเป็น ๆ หล่อกว่ารูปนิ่งนะ)

บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 226  เมื่อ 24 ก.ย. 23, 14:15

James Brown เป็นชื่อของศิลปินที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของวงการเพลง (ฝรั่ง)  Wikiฯ ให้นิยามเธอไว้ว่า...

“An American singer, record producer, bandleader and actor. The central progenitor of funk music and a major figure of the 20th century, he is referred to by various honorific nicknames, some of which include "the Hardest Working Man in Show Business", "Godfather of Soul", "Mr. Dynamite", and "Soul Brother No. 1". In a career that lasted more than 50 years, he influenced the development of several music genres. Brown was one of the first 10 inductees into the Rock and Roll Hall of Fame at its inaugural induction in New York on January 23, 1986”

ตอนนั้นนักฟังเพลงฯ บ้านเรารวมถึงผมและน่าจะรวมไปถึงดีเจที่เปิดเพลงของ JB ให้ฟัง  ไม่รู้กิตติศัพท์พวกนี้หรอก  เพราะเราอยู่ไกลมากกกกก  ได้มีโอกาสฟังเพลงของเธอก็เพียงพอแล้ว




ท่า moonwalk มีมาตั้งแต่ปี 1965 แล้ว

JB ออก singles มาเยอะมากกกกก  ผมไล่ดูแล้ว  นอกจาก 2 เพลงข้างบน  ไม่เคยได้ยินเลยสักเพลง  ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเพลงของเธอ  ‘too soul’  สำหรับหูพวกเรา  เลยไม่มีดีเจคนไหนเอามาเปิดให้ฟัง  เป็นต้นว่าเพลง ‘สุดจะ’ soul เพลงนี้



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 227  เมื่อ 25 ก.ย. 23, 18:46

ในปี 1972 ดีเจกระจายเสียงเพลงนี้ของ Johnny Nash ออกให้พวกเราฟัง



จำได้ว่าเพลงดังสนั่นเชียวละ  ตอนนั้นนึกว่าเป็นนักร้องหน้าใหม่  แต่หาใช่ไม่  จนกระทั่งผมมีปูมเพลงของ Joel Whitburn  จากความสอดรู้สอดเห็นผมก็พบว่าเธอเคยออกเพลงดังมาก่อนในปี 1968

ผมเคยได้ยินเพลงนี้มาก่อนจากเสียงร้องของ Anne Murray  นึกว่าเสียงของเธอเป็นต้นฉบับเสียอีก

ข้อมูลจาก Wikiฯ บอกว่า  JN เป็นศิลปินรุ่นแรก ๆ ที่นำจังหวะ reggae มาทำเพลงออกกระจายเสียงให้คนฟังในวงกว้าง







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 228  เมื่อ 26 ก.ย. 23, 14:27

งานชิ้นนี้เขียนด้วยความรู้สึกโหยหา...

สำหรับนักฟังเพลงฝรั่งรุ่นพวกเราและแก่กว่า (เพราะผมแก่แดด)  ถ้าใครไม่เคยได้ยินเพลง Carry on till tomorrow (1969) ของคณะ Badfinger ละก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเป็นนักฟังเพลงฝรั่งอย่างแท้จริง

เพลงนี้ดังจนจุกในเมืองไทย  ทุกสถานีวิทยุ (ยุคนั้นมีแต่ภาค AM) ล้วนเปิดเพลงนี้กันทุกวี่ทุกวัน  ตอนนั้นอายุผมยังไม่ถึง 10 ขวบยังรู้จักเพลงนี้เลย (หมายถึงจำทำนองได้)

ต่อมาเมื่อหนังสือ Starpics ถือกำเนิด  ก็มีคนเอาเบื้องหลังเพลงนี้มาเล่า  ผมถึงรู้ว่าเป็นเพลงประกอบหนังเรื่อง The Magic Christian เล่าเรื่องเศรษฐีเงินล้านชาวอังกฤษ (Peter Sellers) ไปอุปการะเด็กหนุ่มข้างถนน (Ringo Star)  จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกันพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า  เงินสามารถซื้อได้ทุกอย่าง

ใน SP มีแต่ภาพนิ่งขาวดำให้เห็นซึ่งก็ไม่ชัดเพราะอัดสำเนามา  ผมไม่รู้ว่าหนังเป็นอย่างไร  แล้วหนังก็ไม่ได้มาเมืองไทย  ผมก็ได้แต่อยากดู  อยากเห็นว่าเพลงประกอบเพลงนี้อยู่ที่ฉากไหน

พอถึงยุคจรวด  ข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มีโผล่ขึ้นมาให้เสพย์มากขึ้น  ก็ได้ความรู้ว่าเป็นหนัง ‘งั้น ๆ’  นักวิจารณ์ด่าด้วยซ้ำ  ผมก็เลยเลิกอยากดูทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเริ่มหาวิดีโอได้แล้ว (เปลืองเงิน)  แล้วเปลี่ยนเป็นแค่อยากเห็นอยากฟังเพลงนี้ในหนังเท่านั้น  ซึ่งก็หาเจอใน youtube ในเวลาต่อมา



ความจริงเพลงนี้ไม่ใช่ single แต่มันออกอากาศบ่อยจนคิด (ในเวลาต่อมาเมื่อรู้จักความหมายของคำว่า single) ว่าเป็น single  มันเป็นเพลงแห่งความหลังเพลงหนึ่งของผม  อยู่ในอันดับ top 5    เลยละ  ถ้าฮัมเพลงนี้ในใจแม้แค่ 2-3 chords แรก  จิตมันแว้บกลับไปหาความสุขในสมัยเด็ก ๆ ทันที



ตามมาติด ๆ ด้วยเพลงนี้



จนกระทั่งผมโตเป็นหนุ่มและ CD ถือกำเนิด  ผมก็ตามล่าผลงานของศิลปินที่ผมเคยได้ยินเพลงของพวกเขาในสมัยเด็ก ๆ มาสะสม  แผ่นของ Badfinger ก็เป็นหนึ่งในนั้น  พอนั่งลงฟังเพลงของพวกเขาก็ปรากฏว่ายังมีเพลงที่ผมเคยได้ยินทางวิทยุอีก  แต่ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนร้อง







ส่วนเพลงนี้พวกเราคุ้นหูกับฉบับของ Harry Nilsson มากกว่า  ต้นฉบับคือวงนี้สมาชิกของวงเป็นผู้แต่งด้วย



อุทิศความดีให้กับ อตน.  ผมเพิ่งได้อ่านรายละเอียดของวงนี้จาก website เจ้าหนึ่ง  เล่าถึงชะตากรรมของวงว่า  เล่นดีเพลงดีแต่โอกาสไม่ดี  ไม่นานนักชื่อเสียงของวงก็จาง  สมาชิกต่างช่วยกันกู้ชื่อเสียงกลับมาแต่ไม่เป็นผล  การตลาดที่ผิดพลาดรวมถึงฐานะการเงินของวงที่สั่นคลอนทำให้สมาชิกต่างเครียด  ผลสุดท้ายสมาชิก 2 คน (Pete Ham และ Tom Evans) ซึ่งเผอิญเป็นต้นเสียงของเพลงส่วนใหญ่ต่างปลิดชีวิตของตัวเอง (1975 และ 1983 ตามลำดับ) ส่วนสมาชิกคนที่ 3 (Mike Gibbins) เพิ่งตายในปี 2005


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 229  เมื่อ 26 ก.ย. 23, 15:16

ขี้เกียจค้นกระทู้เฉพาะ  เลยขออนุญาต 'จาร ลงความอาลัยตรงนี้ครับ

นี่เป็นอีกหนึ่งของความโหยหา  'พยัคฆ์ร้าย 707' สนุกอย่าบอกใคร


Robert Vaughn (1932 - 2016) และล่าสุด
David McCallum (1933 - 25 Sept. 2023)
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 230  เมื่อ 27 ก.ย. 23, 14:24

เอ่ยถึงวง Badfinger แล้วต้องตามด้วยวง The Marmalade  ทั้ง 2 วงมีเชื้อชาติอังกฤษเหมือนกัน เพลงจาก 2 วงนี้ออกอาวาดตามคลื่นวิทยุในบ้านเราในเวลาเดียวกัน  นับกันเฉพาะที่อังกฤษบ้านเกิด  วงนี้ออกเพลงดังไม่น้อยกว่ากัน

ผมเพิ่งรู้จาก Wikiฯ ว่าประวัติของวงนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ต้นยุค 60s  แล้วเปลี่ยนชื่อและสมาชิกมาเรื่อย ๆ จนมาถึงชื่อ The Marmalade ในยุคปลาย 60s  อันเป็นช่วงที่ผมรู้จัก

เพลงนี้เป็นเพลงแห่งความหลังให้อารมณ์โหยหาเช่นเดียวกับเพลง Carry onฯ ของวง Badfinger  แค่ 2-3 chords แรกผมก็หวือกลับไปหาอดีตแล้ว



เพลงข้างบนดังสนั่นในบ้านเราและอเมริกา  แต่ที่บ้านเขา (คือที่อังกฤษ) เพลงข้างล่างนี้เป็นเพลงอันดับ 1 ของพวกเขา  มันเป็นเพลงที่พวกเราคุ้นหูจากเสียงของ The Beatles มากกว่า



นี่เป็นเพลงสุดท้ายที่วิทยุบ้านเราพร้อมใจกันเปิด  นักร้องนำเปลี่ยนไปแล้ว



นำเสนอ







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 231  เมื่อ 28 ก.ย. 23, 14:30

อาจสงสัยว่า  ผมชอบพูดถึงความสุขในวัยเด็ก  ตอนนี้ผมไม่มีความสุขหรืออย่างไร  คำตอบคือ  ตอนนี้ผมก็มีความสุข  เป็นความสุขที่เข้ามาจากทุกทิศทุกทางด้วยซ้ำ  เพียงแต่มันเป็นความสุขที่แปดเปื้อนไปด้วยความเป็นผู้ใหญ่  เช่น  ความมากด้วยประสบการณ์  ความรับผิดชอบ ความปวดเมื่อย  ความเจ็บป่วย  ความเพลีย ฯลฯ

ความสุขในวัยเด็กไม่ได้แปดเปื้อนด้วยสิ่งเหล่านี้  เป็นความสุขแบบบริสุทธิ์  นี่คือสิ่งที่ผมโหยหา

นำเสนอไปแล้ว 2 วง  ในความทรงจำอันแสนสุขของผมยังมีวงที่ 3 อีกวง  แต่บัดนี้สมาชิกวงยังอยู่ดีกินดีกันถ้วนหน้า  จำต้องนำไปเสนอในกระทู้ที่จะตั้งขึ้นในอนาคต

ก็มาถึงวง Procol Harum วงร่วมยุคร่วมความโหยหาอีกวง

เท่าที่สังเกตวงร็อค classic  ล้วนมีแหล่งมาจากอังกฤษทั้งนั้น  วงนี้ก็เช่นกัน ฝีมือเป็นที่ยอมรับนับถือกันถ้วนหน้า  Wiki ฯ บอกวงเริ่มลงวงการมาตั้งแต่ปี 1966  จนบัดนี้ก็ยังเล่นกันอยู่  และเป็นที่แน่นอนว่าสมาชิกย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อวงจะได้ดำเนินต่อไป  เพลงนี้เป็นเพลงเอกของวงและเป็นหนึ่งในเพลงอมตะของโลกดนตรีฝรั่ง  ถ้าฟังแล้วต้องนึกถึงรายการเพลงรายการหนึ่งอย่างอดไม่ได้เพราะ  เจ้าของรายการใช้เพลงนี้เป็นเพลงเปิดรายการ  ได้ยินทุกวันยกเว้นเสาร์อาทิตย์ (ถ้าจำไม่ผิด)



แล้วก็สังเกตได้อีกว่า  เพลงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงอมตะนั้น  ไม่จำเป็นต้องขึ้นถึงอันดับ 1 หรือได้แผ่นเสียงทองคำเสมอไป (นับเฉพาะแหล่งวงการเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลกคืออเมริกา)

นำเสนอ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 232  เมื่อ 29 ก.ย. 23, 14:13

จำได้ว่าเคยเล่าไว้  ตรงไหนก็ลืมไปแล้วว่า  การเสาะหาเพลงบรรเลงในอดีต (ทั้งชื่อเพลงและผู้บรรเลง) นี่ยากพอ ๆ กับงมเข็มในมหาสมุทร
 
หาชื่อเพลงที่มีเสียงร้องนั้นง่าย  เพราะมีเนื้อให้ตามแกะ  ทำให้พอมั่วได้  แม้ตอนนั้นยังไม่มี อตน.  ก็ยังคงง่ายอยู่  ร้องมั่ว ๆ ไปให้ชาวบ้านฟังถ้าเค้าเดาออกก็ได้คำตอบ  เดาไม่ออก (เพราะร้องเพี้ยนไปมา) ก็ไปบากหน้าถามคนอื่นต่อ

ส่วนการตามหาชื่อเพลงบรรเลงนี่  อึ้งไปเลย  เพราะไม่มีเนื้อให้จำมาร้องให้ชาวบ้านฟัง  เพลงบรรเลงเหล่านี้แรก ๆ ผมรู้แบบฟลุ้ค  บางทีทันดีเจกล่าวไว้ก็รีบจด  บางทีไปได้ยินจากแหล่งอื่นก็รีบตรงไปถามรายละเอียด  บางทีไปฮัมให้ฟังเผอิญไม่หลงและเค้ารู้จักก็ได้รายละเอียดมา 

หลัง ๆ ที่ผมมีปูมอันดับเพลงของ Joel Whitburn  ก็ยังไม่ช่วยอะไรเพราะ  แค่รู้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงแต่ไม่รู้ว่าทำนองเป็นยังไง  ในที่สุด youtube ก็ถือกำเนิด  คราวนี้การค้นหาก็ง่ายขึ้น  แค่นั่งพลิก ๆ ปูม  เพลงไหนเป็นเพลงบรรเลงก็เปิด youtube ฟัง  ถ้าคุ้นเคยและชอบมาแต่เด็กก็ไปหา file เสียงมาเก็บไว้

นี่เป็นเพลงบรรเลงที่พวกเรานักฟังเพลงฝรั่งรู้จักกันดี



เพลง Pipeline (1962) นี้ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นหัวหอกของเพลง surf music ซึ่งได้รับความนิยมมากในเวลาต่อมาจากการนำทีมของวง The Beach Boys และ ฯลฯ
 
รายละเอียดบอกว่า  หนุ่ม ๆ เหล่านี้ (แสนจะสุภาพ  แสดงว่าได้รับการอบรมมาดี) ยังเป็นเด็กมัธยมฯ กันอยู่เลย (พระเจ้า... น้า Brian Carman หล่อจนอึ้ง  น้าเป็นคน (ร่วม) แต่งเพลงดังนี้ด้วย))

เพลงฝาแฝด (เพิ่งเคยได้ยิน)



ในปี 1997 สมาชิกวงฯ นำเพลงดัง Pipeline (1962) มาปรับปรุงเป็นฉบับ unplugged



เมื่อเทียบกับฉบับดั้งเดิม



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 233  เมื่อ 30 ก.ย. 23, 14:20

Sandy Nelson กับงานเดี่ยวกลองที่โด่งดัง

นี่เป็นเพลงเดียวที่วิทยุเปิดให้ผมฟัง







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 234  เมื่อ 30 ก.ย. 23, 14:22

Johnny & the Hurricane หัวหน้าวงคือ Johnny Paris เกิด 1940 ตาย 2006 กับเพลงที่คุ้นหูเป็นอย่างดี

นี่เป็นเพลงเดียวที่วิทยุเปิดให้ผมฟัง







บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 235  เมื่อ 01 ต.ค. 23, 14:25

Wikiฯ นิยามไว้ว่า Edwin Reuben Hawkins (August 19, 1943 – January 15, 2018) หรือรู้จักกันในวงการเพลงฝรั่งว่า Edwin Hawkins คือ An American gospel musician, pianist, choir master, composer, and arranger  เธอเป็นหัวหน้าทีมของวงประสานเสียงชื่อ Edwin Hawkins Singers ส่งเพลงดังที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสู่หูพวกเราเพลงนี้



ตรงที่นักร้องร้อง When Jesus wwww…  ผมติดใจอยู่นานตั้งแต่เริ่มเคยฟังเป็นครั้งแรก  สงสัยมาตลอดว่า Jesus ทำอะไรวะ  ทุกครั้งที่เพลงนี้ออกอากาศ  ผมพยายามเงี่ยแล้วเงี่ยอีก  เหมือนเธอร้องว่า wore  ซึ่งแปลว่าสวมใส่ (ภาคอดีต)  แต่เธอไม่ได้บอกต่อว่า ‘สวมใส่’ อะไร  แล้วก็ต่อด้วย my sins away  ฟังแล้วก็ให้ง้งงง  จนกระทั่ง อตน. ถือกำเนิด  ถึงได้รู้เนื้อร้อง  ว่าคำนั้นคือ washed  แล้วผมก็กลับมาฟังเสียงร้องอีก  เธอออกเสียงไม่เหมือนคำว่า washed เลย  แม้ตอนดู MV ตัวนี้  ปากของนักร้อง (Dorothy Combs Morrison) ก็แทบไม่ได้ขยับเหมือนคำว่า washed เลย  ต้องจ้องดี ๆ ตอนท้ายเพลงถึงเห็น

ในเวลาไล่เลี่ยกัน  วิทยุก็เปิดเพลงของ Melanie (ยังไม่ตาย... เสียดายจัง) เพลงหนึ่งซึ่งเพราะถูกใจ เพลงเหมือนร้องในโบสถ์  มีนักร้องประสานเสียงกระหึ่ม

กาลเวลาผ่านไป… หวือ ... หวือ... ผมได้มีโอกาสซื้อแผ่นเสียงของ Melanie  ที่มีเพลงนี้รวมอยู่ด้วย  อ่านรายละอียดแล้วพบว่ากลุ่มนักร้องประสานเสียงนั้นเป็นวงของ Edwin Hawkins Singers นั่นเอง  สมัยฟังทางวิทยุดีเจบอกแค่เป็นเสียงของ Melanie

(youtube นี่ชั้นหนึ่งเลย  หาอะไรเป็นได้หมด  ผมเพิ่งเคยเห็นศิลปินเหล่านี้ in action ก็ตอนนี้เอง)





เพลงประเภทนี้ที่บ้านเกิดเค้าเรียก Gospel  มีทั้งแบบผิวดำและแบบผิวขาว 

ในยุคของผมมีเพลง Gospel ที่ดังติดอันดับสูง 3 เพลง  สองเพลงแรกที่นำเสนอติดอันดับ 4/69 (ได้แผ่นเสียงทองคำ) และ 6/70 ตามลำดับ  ส่วนเพลงที่ 3 เป็น Gospel ผิวขาว  ติดอันดับ 13/72  ทั้ง 3 เพลงหาฟังได้ง่ายในบ้านเรา

(จากหนังเพลงเรื่อง Godspell (1973) เสียงร้องนำคือ Robin Lamont)

โดยส่วนตัวผมชอบฟัง Gospel แบบผิวดำ โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะและเสียงตบมือ  ส่วนน้ำเสียงก็ให้พลังกว่า

(จากหนังเรื่อง The Ladykillers – 2004 – สนุกมากกกกกกก)





Godspel ผิวขาวฉบับที่เพราะที่สุดสำหรับหูผม


บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 236  เมื่อ 02 ต.ค. 23, 14:27

Dennis Yost & the Classics IV เป็นอีกวงหนึ่งที่ปล่อยเพลงออกมาทางวิทยุให้ผมฟังอย่างสม่ำเสมอ เพลงของพวกเขานุ่มนวลต่างจากวงอื่น ๆ จึงทำให้ผมจำผลงานของพวกเขาได้ดี

นี่คือเพลงแรกที่ผมรู้จัก (แต่ไม่รู้ว่าใครร้อง)  ถ้าเป็นคนฟังเพลงฝรั่งเหมือนผมต้องจำได้

เพลงเพราะแต่น่าแปลกที่ไม่ดังในบ้านเขาเลยแม้แต่น้อย  เพลงนี้ออกมาในช่วงขาลงของวงฯ

ก่อนหน้านี้วงส่ง singles ดังออกมาหลายเพลง ล้วนอยู่ในยุคผมเด็ก ๆ  คือ 60s  แต่พอผมเข้าวงการฯ  วิทยุก็ยังคงนำเสนออยู่  นี่เป็นเพลงที่ดังที่สุดของวง



นำเสนอเพลงอื่น ๆ ที่เปิดในบ้านเรา







นำเสนอ



บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 237  เมื่อ 03 ต.ค. 23, 14:18

เมื่อวานเปิดเพลง Spooky ของวง Dennis Yost ฯ  เพลงมีทำนองเพราะนุ่มนวล  เป็นหนึ่งในเพลงโปรดของผม  ฉบับของวงนี้ออกมาในยุคปลาย 60s  ตอนนั้นผมยังเบ๊าะแบ๊ะอยู่  เข้ากลางยุค 70s ก็มีวงดนตรีวงหนึ่งส่งเพลงนี้มาให้วิทยุเปิดให้ผมฟัง  เพลงในฉบับของวงนี้มีทำนองหนักกว่าหน่อยแต่ก็เพราะไม่แพ้กัน...

ช่วง 70s เป็นช่วงที่ผีเพลงเข้าสิงผมอย่างเหนียวแน่น ชื่อวง Atlanta rhythm section นั้นเป็นชื่อที่คุ้นหู  ผมเคยได้ยินเพลงของพวกเขามาตั้งแต่เมื่อไรก็จำไม่ได้  แต่มาวันหนึ่งหูผมก็ได้ยินเพลงนี้



ผมได้ฟังแผล็บเดียวก็สรุปว่าเพราะมาก ๆ  พอจบเพลง ดีเจ ก็ประกาศว่าเป็นเสียงร้องของวง ARS  ตั้งแต่นั้นชื่อวงนี้เข้าไปอยู่ในสมอง  สั่งให้คอยฟังเพลงอื่น ๆ ของพวกเขา  วงนี้ส่งเพลงมาให้ผมฟังอยู่ชั่วเวลาหนึ่ง  ล้วนเพราะ ๆ ทั้งนั้น







และเพลงโปรดเพลงที่สองของผมอันเป็นเพลงสุดท้ายที่เคยได้ยินทางวิทยุ



ผมไม่เคยซื้อแผ่นเสียงของวงนี้  เคยฟังแต่ singles   พบว่าแต่ละเพลงมีจังหวะ ‘กลางๆ’  ผลคือชอบได้ง่าย  ลองสุ่มเพลงอื่น ๆ ดูก็ไม่เลว





บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 238  เมื่อ 04 ต.ค. 23, 14:20

วง The Lettermen มีประวัติย้อนกลับไปนานมาก  แต่ในยุคที่ผมบ้าเพลงฝรั่ง  วงประกอบด้วยสมาชิก 3 คนร่วมร้องประสานเสียงกันซึ่งตอนนี้ตายไป 2 ที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็เกษียณอายุจากงานร้องเพลงไปแล้ว

ในยุคผมคือต้น 70s มี 2 เพลงของพวกเขาที่เพราะและโรแมนติกและเป็นเพลงแห่งความหลัง





ขณะที่ 2 เพลงซิง ๆ (ออกปี 1971) นี้กำลังออกอาละวาดบนหน้าปัดวิทยุ  ผมก็ได้ยินเพลงยุคก่อนของเธอประปรายล่องลอยออกมา





นำเสนอ

เพลงแรกของพวกเขาที่ออกในปี 1961











free image hosting
บันทึกการเข้า
nathanielnong
อสุรผัด
*
ตอบ: 2226


ความคิดเห็นที่ 239  เมื่อ 05 ต.ค. 23, 19:52

Peter, Paul and Mary เป็นวง folk ที่ดังที่สุดในโลกก็ว่าได้  ในยุคผมผลงานใหม่ ๆ ของวงนี้ไม่มีอีกแล้วเพราะอยู่ในช่วงวงแตก (ชั่วคราว)  มีแต่ผลงานเก่า ๆ แต่ classic กระจายเสียงออกมามากมายไม่รู้กี่เพลงต่อกี่เพลง  ผมจะไม่นำเสนอเพลงที่ว่า  แต่จะนำเสนอเพลงที่วิทยุไม่ค่อยหรือไม่เคยเปิดให้ฟัง  ซึ่งผมมาได้ยินจากที่อื่น  จากฉบับชาวบ้านนำมาร้องใหม่บ้างหรือได้ยินจากแผ่นเสียงที่ซื้อเก็บไว้ฟังบ้าง

แต่ก่อนอื่นนี่เป็นเพลงแรกของวงที่ผมเคยได้ยิน



ส่วนเพลงนี้ผมได้ยินครั้งแรกจากเสียงของคุณ วีจี  ชอบมาก (แต่ไม่มากพอที่จะควักเงินออกซื้อแผ่นเสียงของเธอ)  พอมารู้ในภายหลังว่าต้นฉบับเป็นเสียงร้องของวง PP&M  ผมก็ไปขวนขวายหาซื้อ CD มาฟัง  เทียบกันไม่ติดเลย



อีก 2 เพลงที่ผมได้ยินครั้งแรกอันมาจากเสียงของคุณ วีจี





แล้วก็เพลงนี้  ซึ่งฉบับของคุณ วีจี ดังมากทางวิทยุนะ



มีต่อ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 14 15 [16] 17 18 ... 33
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.091 วินาที กับ 19 คำสั่ง