เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 29 30 [31]
  พิมพ์  
อ่าน: 65217 ศึกนางพญานอกบัลลังก์
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 450  เมื่อ 15 ก.ย. 24, 07:49

ส่วนนีต้องพิจารณาถึงความแข้มแขงของเจ้าหญิงเคทด้วย ที่ทรงผ่านการรักษามาได้ ส่วนชะตากรรมของแฮรรี่นั้น หากว่ากันตามเนื้อความ ก็เกรงว่าคงไม่ไหนได้ไม่ไกลนัก ด้วยมีความรั้นเป็นเหตุ ส่งให้เกิดผลต่างๆอเนกอนันต์ ทั้งนี้ถ้าหากแฮรรี่ลดทิฐิลงได้แม้เพียงชั่วคณะ ก็คงไม่ต้องเดียวดายเช่นนี้
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 451  เมื่อ 16 ก.ย. 24, 11:10

          เจ้าชายแฮรี่ ฉลองวันเกิด 40 ชันษา, 15 กันยา กับครอบครัวและเพื่อนสนิทในเมกา
          ก่อนหน้านี้ มีข่าวดีจากอีกฟากมหาสมุทรว่า คิงชาร์ลส และเจ้าชายวิลเลียม จะทรงส่งคำอวยพรมาให้
          เท่านั้นยังไม่พอ,ยังมีข่าวดีอีกว่า เจ้าชายแฮรี่จะได้รับมรดกพระราชทานจากสมเด็จทวด เป็นเงินประมาณ 8.5 ล้านเหรียญอเมริกัน

           


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 452  เมื่อ 09 พ.ย. 24, 10:38

                  เจ้าชายวิลเลียมตรัสว่า “ปีนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของข้าพเจ้า”   

https://www.bbc.com/thai/articles/c5y5p224yn1o

         สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่สามแห่งสหราชอาณาจักร ทรงพระประชวรด้วยโรคมะเร็ง จากนั้นเพียง 6 สัปดาห์ มีแถลงการณ์
สำนักพระราชวังเคนซิงตันระบุว่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงอยู่ในช่วงต้นของการรักษาโรคมะเร็งด้วยการถวายพระโอสถเคมีบำบัด (คีโม)
         จากนั้นกษัตริย์ชาร์ลส์ทรงกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจอีกครั้ง ขณะที่เจ้าหญิงเคททรงรับการรักษาด้วยพระโอสถเคมีบำบัดเสร็จสิ้นลงแล้ว

          "ข้าพเจ้าภูมิใจในตัวพระชายาและพระราชบิดาเป็นอย่างมากที่สามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้ลุล่วงไปได้”
          "แต่จากมุมมองการเป็นครอบครัวแล้ว มันโหดร้ายมาก"

          เจ้าชายแห่งเวลส์ทรงไว้เคราครึ้มตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน นำมาซึ่งความเห็นที่แตกต่างแม้กระทั่งในหมู่คนที่ใกล้ชิดพระองค์ รวมถึงเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์
พระธิดาของพระองค์ด้วย
          “ตอนแรกชาร์ล็อตต์ไม่ชอบเคราเลย เธอร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร ข้าพเจ้าเลยต้องโกนมันออก แล้วก็กลับมาไว้เคราอีกครั้ง ข้าพเจ้าคิดว่า
เดี๋ยวก่อน และข้าพเจ้าโน้มน้าวใจเธอได้ว่ามันจะดีเอง”


บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 453  เมื่อ 09 พ.ย. 24, 11:24

เจ้าชายวิลเลี่ยมประสบเหตุการณ์หนักหนามามากแล้วในปีนี้ ต้องนับถือความแขงแกร่งของท่านเหมือนกัน อย่าว่าแต่เชื้อพระวงษ์ สามัญชนผู้ใดประสบเหตุเช่นนี้ ก็คงต้องวิตกเหมือนกัน
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 454  เมื่อ 09 พ.ย. 24, 15:38

จากส่วนหนึ่งของ FB คุณ Kiccha Buranond

แต่นึกไปนึกมาแล้วเสียดาย 
เพราะหากสามี/ภรรยาไม่ลาออกให้วุ่นวายเพราะ”สีผิว”และ”บูลลี่” …ป่านนี้ทั้งคู่จะเป็นเจ้าในระดับซุเปอร์สตาร์ของอังกฤษ เพราะจะเป็นหน้าตาให้แก่สถาบัน แทนวิลเลียมและเคท เคทซึ่งยังแทบออกงานไม่ได้เลย …สังเกตุไหมครับว่าระยะหลัง ๆ นี้ ข่าวเจ้าของอังกฤษหายไปหมดจากสื่อ ทั้งธรรมดาและโซเชียล …เป็นต้นว่าคิงและควีนเสด็จไปออสเตรเลียอย่างเป็นทางการ ขากลับเสด็จไปพักผ่อนต่อแบบลึกลับที่สปาแห่งหนึ่งที่อินเดียอีกต่างหาก …แต่ไม่เป็นข่าว ไม่มีใครสนใจ
หรือโซฟี ดัชเชสส์แห่งเอดินเบอเรอเสด็จแอฟริกาแบบเป็นทางการเช่นกันแล้วไม่เป็นข่าว ฉะนั้นจึงเสียดายที่ว่าในขณะนี้แฮร์รี่และเมแกนควรประเสริฐ/เฉิดฉายเด่นที่สุดของอังกฤษ เพราะยิ่งนานคามิลลายิ่งตกอันดับ ในขณะที่เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ทรงงานบางวัน/สามงาน แต่ไม่เป็นข่าว
...ฉะนั้นแฮร์รี่และเมแกนจะเด่นกันจริง ๆ  แทนที่จะตกกระป๋องเช่นทุกวันนี้
จึงแปลกที่ว่า ...หลังจากเป็นข่าวว่าทรัมป์จะหาเรื่องขุดคุ้ยเรื่องวีซ่าของแฮร์รี่เช่นที่เห็นพาดหัวใน The Daily Beast (ในภาพสอง)  ...ว่าแฮร์รี่คงกระเด็นออกจากอเมริกา
...วันสองวันนี้เมแกนและแฮร์รี่จึงออกวิดีโออย่างเป็นทางการเพื่อสนับสนุนองค์การต้อต้านการทำร้ายเด็ก(ในภาพที่สาม) ...แล้วข่าวเล่าว่าเมแกนในชุดสูทเรียบร้อย ติดดอกป๊อปปี้เชียร์ทหารผ่านศึก หรือดูเป็นเจ้ามากกว่าเป็นเซเล็บ ...เสมือนกำลังอยู่ในโหมดปูทาง หาวิธีกลับไปเป็นเจ้าที่อังกฤษหรือไร? ว่านางวางตัวทึมกว่าปรกติ  ...ว่าในที่นี้นางเงียบ ไม่แย่งแฮร์รี่พูด และแต่งกายแบบมีจรรยาบรรณ
***จะลำบากมากนะครับ เพราะทรัมป์”หาเสียง”เกี่ยวกับเรื่องคนเถื่อนเข้าเมืองโดยเฉพาะ และแฮร์รี่มีปัญหาแก้ไขไม่ตกจริง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ในขณะที่อีกข่าวเล่าว่า ...ในขณะนี้ แฮร์รี่ถืออย่างแรงว่าอเมริกา/มอนเตซีโต/แคลิฟอร์เนียเป็นบ้านของเขา ของลูกของเขา เขาจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ว่าเขาไม่เกรงกลัวนายทรัมป์
แต่ทุกอย่างเป็นเรื่อง”ไม่น่าเลย”
ไม่น่าเลยนะครับ ...ที่แฮร์รี่และเมแกนจะหนีกันออกมาจากอังกฤษ
และไม่น่าเลยที่ทรัมป์กำลังจะเป็นประธานาธิบดี

https://www.facebook.com/kiccha.buranond
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 455  เมื่อ 15 ม.ค. 25, 13:58

ข่าวดีรับปีใหม่ของราชสำนักคือ เจ้าหญิงเคทหายจากโรคมะเร็งแล้ว

บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 456  เมื่อ 18 ม.ค. 25, 06:56

เป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง ถ้าผมเองจำไม่ผิด ผมนั้นมิใช่แพทย์ ถ้าเกล่าผิดไปก็จำต้องขออภัย
คำว่า remission แปลว่าไม่มีการตรวจพบเชื้อมะเร็งในร่างกาย ไม่ว่าในส่วนใด ไม่มีการพบมะเร็งปรากฏ
แต่ก็ต้องรอไปอีก ถ้าภายในอีกห้าปีหลังจากนี้ก็ยังไม่มีการพบเชื้อมะเร็งเลย ก็ถือว่าหายขาด ( cured)
บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 457  เมื่อ 19 ม.ค. 25, 11:02

         มะเร็งหายไป ไม่มีอาการบ่งชี้, หาไม่พบด้วยการตรวจต่างๆ เช่น ตรวจเลือดดูระดับ Tumor Marker, การตรวจภาพ PET Scan
         รอติดตามต่อไป 5 ปี ถ้าตรวจไม่พบอีก - หายขาด
 
cancercenter.com -

         In a complete remission, all symptoms and signs of cancer go away and there's no detectable cancer in the body
—based on scans, blood work and/or other tests, such as a biopsy.
         If you are considered in complete remission for more than five years, some doctors may say that you are cured.
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 458  เมื่อ 22 ม.ค. 25, 13:35

   หันมาทางฝั่งมอนเตซิโตบ้าง     แม้ว่าบ้านของเจ้าชายแฮรี่และเมแกนไม่โดนไฟป่า  แต่สองผัวเมียก็เป็นข่าวจนได้ เมื่อสื่อทำข่าวออกมาว่า เขาและเธอติดตามนายกเทศมนตรีวิกเตอร์ กอร์โดเข้าไปดูซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน  ทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง     หนำซ้ำยังเชิญสื่อไปทำข่าวด้วยอีก
    ดังนั้น ก็ไม่แปลกอะไรที่ปฏิกิริยาสะท้อนกลับคือตำหนิติเตียน มากกว่าชื่นชม     คนจำนวนมากวิจารณ์ว่าเมแกนเอาอีกแล้ว  โหนกระแสความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยไฟป่า เพื่อสร้างข่าวให้ตัวเองอีกแล้ส  ก็ไหนทิ้งอังกฤษมาเพราะกล่าวหาว่าอยู่นั่นสื่อรบกวนจนไม่มีชีวิตส่วนตัวยังไงเล่า  ทำไมถึงต้องวิ่งเข้าไปหาแสงทุกครั้งที่จะทำได้   ทั้งๆเป็นเรื่องวิกฤตของผู้คนแท้ๆ

บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 459  เมื่อ 29 ม.ค. 25, 11:58

  คงจะจำกันได้ว่า มีมูลนิธิชื่อ Heritage Foundation ไปยื่นคำร้องต่อศาลให้เปิดเผยวีซ่าของเจ้าชายแฮรี่  ว่าตอนเข้าอเมริกาได้ติ๊กข้อความเรื่องการเสพยาในวีซ่าไว้ว่ายังไง    เพราะตามกฎหมาย อย่าว่าแต่พกยาเข้ามาเลย  แม้มีประวัติว่าเสพยาก็จะไม่ได้รับอนุญาตเข้าประเทศ
  จึงเป็นที่อึมครึมว่า แฮรี่ได้เปิดโปงตัวเองไว้สุดขั้วว่าเคยเสพยาหลายประเภทหลายวาระ ในหนังสือ Spare  แล้วงั้นหลุดเข้าประเทศมาได้ยังไง    แปลว่าต้องโกหกในวีซ่าว่าไม่เคยเสพ  ถ้าจับเท็จได้ต้องถูกเนรเทศ
  รัฐบาลไบเดนทำไม่รู้ไม่ชี้ ดึงเรื่องนี้ลากยาวมาหลายปี   ทรัมป์เองอดรนทนไม่ได้เคยประกาศว่าถ้าได้รับเลือกตั้ง จะเอาเรื่อง   เรียกว่าไม่เลี้ยงเจ้าชายพลัดถิ่นองค์นี้ละ    ตอนนี้ก็มีข่าวว่าจะมีการรื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาจริงจังตามที่รับปากไว้   เพราะ HF  ตามกัดไม่ปล่อย
   ถ้าหากว่าทรัมป์เอาจริงตามที่เคยพูด   ศาลก็ตัดสินไปตามเนื้อผ้า    แฮรี่คงได้ย้ายถิ่นอีกละคราวนี้    แต่ถ้ากลับอังกฤษเพราะไม่มีที่ไป   ก็คงต้องหาที่อยู่ข้างนอก   ประตูวังไม่มีท่าทีว่าจะเปิดให้กลับเข้าไปอยู่     ที่สำคัญเมแกนจะยอมกลืนเลือดกลับไปอยู่อย่างเจ้าไม่มีศาลด้วยหรือไม่


บันทึกการเข้า
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 460  เมื่อ 05 พ.ค. 25, 10:52

           กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง

สรุป 6 ประเด็นสำคัญจากการประทานสัมภาษณ์ของ 'เจ้าชายแฮร์รี' ล่าสุดกับบีบีซี

https://www.bbc.com/thai/articles/cn5xv376nqqo

ฌอน เซดดอน บีบีซีนิวส์
4 พฤษภาคม 2025

แบบตัดต่อย่อย่น

เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์ประทานสัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี  หลังจากที่แพ้คดีสิทธิการอารักขาของพระองค์
ที่เป็นข้อพิพาทกับรัฐบาล โดยพระองค์ทรงเข้าใจว่า การตัดสินดังกล่าวจะทำให้พระองค์ทรงมีความเสี่ยงจากการถูกคุกคามต่อชีวิต

          เจ้าชายแฮร์รี ตรัสกับบีบีซีว่า "เป็นไปไม่ได้" ที่จะมีโอกาสใด ๆ ในการเสด็จกลับสหราชอาณาจักรสำหรับพระองค์ เมแกน และ
พระโอรส  และพระธิดา หลังจากคำตัดสินของศาลอุทธรณ์
          "ข้าพเจ้ารักประเทศ ข้าพเจ้าก็รักมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าจะมีบางเรื่องที่คนในประเทศนี้ทำไว้กับข้าพเจ้า...
          "ข้าพเจ้าจึงคิดถึงสหราชอาณาจักร ... และข้าพเจ้าคิดว่ามันค่อนข้างเศร้าที่ไม่สามารถพาลูก ๆ ไปเห็นบ้านเกิดของข้าพเจ้าได้"

           ที่ผ่านมาเคยมี "ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันมากมาย" ภายในราชวงศ์ แต่ "สิ่งเดียวที่ยังหลงเหลือ" คือเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ของพระองค์ ซึ่งพระองค์เคยตรัสว่า "เป็นจุดที่ยากที่จะเห็นตรงกันอยู่เสมอ"
           "มันไม่มีประโยชน์ที่จะสู้กันต่อไปอีก ชีวิตมีค่านะ" พระองค์ตรัสต่อ

            เจ้าชายตรัสถึง พระพลานามัยของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม ซึ่งทรงเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งในขณะที่มีพระชนมายุ 76 พรรษา ว่า
            "ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพระบิดาทรงเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ พระองค์ไม่ตรัสกับข้าพเจ้า เพราะเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่ว่ามันคงจะดีที่
จะประนีประนอมกัน"
            "สมาชิกบางคนในราชวงศ์ไม่มีวันจะให้อภัยข้าพเจ้า" สำหรับการเขียนหนังสือชื่อ สแปร์ "Spare" และ "มันจะดีถ้าเราสามารถ
ประนีประนอมกันได้ในตอนนี้"
            "ถ้าพวกเขาไม่ต้องการสิ่งนั้น มันก็เป็นเรื่องของพวกเขาแล้ว"
             ว่า คำตัดสินของศาลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ระบุว่าวิธีการที่พระองค์ทรงถูกถอดถอนการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างถูกต้อง
ตามกฎหมายนั้น ได้ "สร้างบรรทัดฐานใหม่ว่าความปลอดภัยสามารถถูกใช้เพื่อควบคุมได้" และจะเป็นการ "กักขังสมาชิกราชวงศ์คนอื่น ๆ
ไม่ให้สามารถเลือกชีวิตแบบอื่นได้"....
             ว่า การถอดถอนการรักษาความปลอดภัยเป็นความพยายามที่จะกันไม่ให้พระองค์และเมแกนออกจากราชวงศ์ โดยตรัสว่า
"เรื่องนี้ โดยแก่นแท้ของมันแล้ว คือความขัดแย้งในครอบครัว"
             "และมันทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้า ...การตัดสินนี้มีขึ้นเพื่อเก็บเราไว้ใต้ชายคา"
              'ข้าพเจ้าหลีกหนีจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ไม่ได้'

              คณะกรรมการอารักขาสมาชิกราชวงศ์และบุคคลสำคัญ (Protection of Royalty and Public Figures) หรือ 'Ravec'
ตัดสินใจในนามของรัฐบาลว่า เจ้าชายแฮร์รี่จะทรงไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยอย่างครอบคลุมโดยอัตโนมัติเมื่ออยู่ในสหราชอาณาจักร
เนื่องจากพระองค์ทรงลาออกจากการเป็นสมาชิกระดับสูงของราชวงศ์อังกฤษเมื่อ 2020
              พระองค์จะทรงไม่ดำเนินการทางกฎหมายกับรัฐบาลต่อในชั้นศาลสูงสุด คำตัดสินดังกล่าวได้ "พิสูจน์แล้วว่าไม่มีทางที่จะชนะ
เรื่องนี้ในชั้นศาล"
              อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซงโดยตรง เรื่องการตัดสินใจโดยคณะกรรมการ Ravec
              "ข้าพเจ้าจะขอให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาพิจารณา และข้าพเจ้าจะขอให้ อีเวตต์ คูเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้ามาดูเรื่องนี้"

และ
              สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ให้ความเห็นหลังการสัมภาษณ์ของบีบีซี โดยระบุว่า "ศาลได้พิจารณาประเด็นทั้งหมดเหล่านี้อย่างละเอียด
ถี่ถ้วนและซ้ำแล้วซ้ำอีก และได้ข้อสรุปเหมือนกันในแต่ละครั้ง"


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 461  เมื่อ 05 พ.ค. 25, 11:41

    ข่าวนี้ครึกโครม เผยแพร่กันในโซเชียลมิเดียจนอ่านไม่หวัดไม่ไหวค่ะ
   สรุปว่าน้องเล็กงอแงอยากกลับบ้านแล้วละ  อ้างว่าปาป๊าป่วย จะเหลือเวลาอีกกี่วันให้ดูใจกันก็ไม่รู้  แต่ก็ไม่วายงอนว่าพี่น้องเครือญาติก็คงไม่อยากให้กลับ  เพราะยังรังเกียจเมียอยู่
    ส่วนเรื่องรักษาความปลอดภัยที่แพ้คดีในศาลต้องจ่ายเงินก้อนมหึมานั่น   ก็ตัวเองลาออกจากการเป็นเจ้านายเอง จะให้กองกำลังอารักขาเจ้ามาแห่ห้อมเหมือนเดิมได้ไง     เหมือนผู้จัดการลาออกจากบริิษัทไปแล้ว ยังเรียกร้องรถประจำตำแหน่งให้มารับมาส่งเหมือนเดิม ใครเขาจะยอม
   อดคิดไม่ได้ว่ากรรมมีจริง   ถ้าชาร์ลส์หักห้ามความสัมพันธ์กับแฟนเก่า  รู้จักหน้าที่รัชทายาท และทำหน้าที่สามีที่ดีกับไดอาน่า  เธอก็จะไม่ตาย  ลูกสองคนก็มีแม่ดูแลใกล้ชิดจนโต     รอยร้าวในครอบครัวอาจไม่ขยายใหญ่โตจนอื้อฉาวที่สุดในศตวรรษก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 462  เมื่อ 02 มิ.ย. 25, 14:45

     อาการ" เหวี่ยง" และ "วีน"  ของเจ้าชายแฮรี่ยังมีให้เห็นในหน้าส่ื่อเป็นระยะ   ไม่ได้สงบลง
     หนึ่งในนั้นคือมีรายงานจากสื่อหลายแห่ง  ระบุว่าเจ้าชายแฮรีทรงพิจารณาเปลี่ยนนามสกุลจาก Mountbatten-Windsor เป็น Spencer โดยอ้างว่าเพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงไดอาน่า พระมารดาที่ล่วงลับไปแล้ว  เพราะชื่อและสกุลเดิมของไดอาน่า คือเลดี้ไดอาน่า สเปนเซอร์  ธิดาของเอิร์ลแห่งสเปนเซอร์คนก่อน 
     เมื่อเจ้าชายหารือเกี่ยวกับแนวคิดนี้กับน้าชาย คือเอิร์ล สเปนเซอร์คนปัจจุบัน   แต่สเปนเซอร์กลับคัดไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น   เนื่องจากอาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และเป็นการประกาศตัดขาดสัมพันธ์กับทางราชวงศ์ในเชิงสัญลักษณ์
     นับว่าท่านเอิร์ลคนปัจจุบันก็ยังมีสติดีอยู่ จึงห้ามหลานชายไม่ให้โผงผางประกาศตัวเช่นนั้น     ไม่มีใครเขาทำกันหรอก  อยู่ๆก็เลิกใช้นามสกุลทางฝ่ายปู่(Mountbatten) และย่า(Windsor) ไปใช้นามสกุลตา ( Spencer)  เสียเฉยๆ   เท่ากับประกาศตัวเองว่าไม่ใช่เชื้อสายปู่ย่าอีกต่อไป   ส่วนทางตาเขาก็ไม่ได้เต็มใจสักนิด
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 463  เมื่อ 02 มิ.ย. 25, 15:06

    ส่วนเมแกน ตอนนี้ก็วางมือเรื่องโจมตีราชวงศ์อังกฤษ  ผันตัวเองมาทำธุรกิจด้วยการสร้างแบรนด์ใหม่ ชื่อ  As Ever ซึ่งพัฒนามาจากแบรนด์เก่า  American Riviera Orchard ในอดีต
   แบรนด์เก่า ARO  จำหน่ายผลิตภัณฑ์ เช่น แยม ชา และของใช้ในบ้าน แต่พอริเริ่มจะวางตลาดก็เจอมรสุมใหญ่ทั้งด้านเครื่องหมายการค้าและการตอบรับจากสาธารณชนในทางลบมากกว่าบวก  ต้องถอยหลังมาเปลี่ยนแบรนด์ใหม่
    จู่ๆ นางก็รำพันออกมาในพอดแคสต์ของตัวเอง ชื่อ  Confessions of a Female Founder ถึงความโดดเดี่ยวที่ประสบในการทำธุรกิจ    ใช้คำว่า "โดดเดี่ยวอย่างไม่น่าเชื่อ"  เหมือนบอกเป็นนัยๆว่าธุรกิจนี้ฉันทำคนเดียวนะคะ  ลงทุนเอง เหนื่อยเอง คิดวางแผนเอง   แฮรี่ไม่เกี่ยวค่ะ
    พอออกมาพูดแบบนี้  สื่อก็หูผึ่ง เพราะจุดชนวนการตีความว่าทั้งสอง บัดนี้ "แยกทางกันด้านอาชีพการงาน"(professional independence)  ตามมาด้วยรายงานข่าวยืนยันว่า บัดนี้ ทั้งคู่มีโครงการแยกกันบริหารงานแบบของใครของมัน   ไม่ใช่ร่วมมือกันอย่างเมื่อก่อน
    ขอแถมท้ายว่า  เป็นที่รู้กันว่ายุคปัจจุบัน เวลาคู่สมรสเซเล็บทั้งหลายใกล้จะหย่ากัน มักจะเริ่มด้วยคำว่า "แยกกันด้านอาชีพการงาน"  แปลง่ายๆคือผัวไปทาง เมียไปอีกทาง  เงินคนละกระเป๋า   จากนั้นอีกพักหนึ่งก็จะต่อด้วยคำว่า " มีความแตกต่างจนไม่อาจปรองดองกันได้" (irreconcilable differences)  คือหย่า แยกทางกันแบบทางใครทางมัน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 29 30 [31]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.042 วินาที กับ 19 คำสั่ง