เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
อ่าน: 16167 ฝีดาษลิง : พึงตระหนักแต่อย่าตระหนก
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 04 ก.ย. 23, 10:05

ฝีดาษลิง เดือนนี้เห็นทีจะต้องตระหนกแล้ว   หลังจากโค(วิด)ถอนทัพไป   ลิงก็เริ่มเข้ามาแทน

วันนี้ (3 ก.ย.2566) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดของโรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิง ในประเทศไทย ล่าสุด มีรายงานผู้ป่วยรวม 316 คน (ข้อมูล 31 ส.ค.66) เสียชีวิต 1 คนเป็นผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง) เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมากถึง 271 คน หรือ ร้อยละ 85.8 และมีผู้ติดเชื้อ เอชไอวี 143 คน หรือร้อยละ 45.3 มีสัญชาติไทย 277 คน ชาวต่างชาติ 36 คน ไม่ระบุ 3 คน

ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร 198 คน จังหวัดชลบุรี 22 คน นนทบุรี 17 คน และสมุทรปราการ 12 คน ผู้ป่วย ส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี จำนวน 152 คน รองลงมาอายุ 20-29 ปี จำนวน 85 คน กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี จำนวน 28 คน

กลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลังพบการระบาด อย่างต่อเนื่อง ในเดือนพ.ค.นี้ ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 คน มิ.ย.48 คน ส่วนก.ค.ขยับเป็น 80 คน และส.ค.เพิ่มอีก 145 คน เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย และรับเชื้อภายในประเทศ ในจำนวนนี้มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 คนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการรุนแรงและติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อน

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat (ชื่อการค้า TPOXX) จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น

มีรายงานจากทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค กองระบาดวิทยา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีและหน่วยงานในพื้นที่ สอบสวนผู้ป่วยยืนยันฝีดาษลิง

พบหนึ่งคนเป็นนักเรียนชาย อายุ 16 ปี เริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 ส.ค.นี้  เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในเมื่อ14 ส.ค.นี้ ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย ร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษลิง
ประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน ดำเนินการติดตามอาการของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน จนครบ 21 วันนับตั้งแต่วันสัมผัสผู้ป่วยวันสุดท้าย ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 04 ก.ย. 23, 10:05

 ตกใจ


บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16060



ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 04 ก.ย. 23, 10:35

กลุ่มเยาวชนมีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลังพบการระบาด อย่างต่อเนื่อง ในเดือนพ.ค.นี้ ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 คน มิ.ย.48 คน ส่วนก.ค.ขยับเป็น 80 คน และส.ค.เพิ่มอีก 145 คน เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย และรับเชื้อภายในประเทศ

ฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ (Mpox) ยังระบาดอยู่และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามควรตระหนัก อย่าเพิ่งตระหนกจนเกินเหตุ ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 19 ส.ค. 24, 15:48

   เมื่อวันที่ 19 ส.ค.67 นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง “ฝีดาษวานร MPOX สายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง” ความว่า
   เดิมการระบาดของฝีดาษวานร ใน 2 ปีที่ผ่านมา ระบาดมากนอกทวีปแอฟริกา เป็นสายพันธุ์กลุ่ม 2 Clade 2b   รวมทั้งที่พบในประเทศไทยมากกว่า 400 ราย สายพันธุ์นี้ไม่รุนแรง พบในผู้ใหญ่ เพศชาย ส่วนใหญ่จะเป็นการสัมผัสจากเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในชายรักชาย 98% จึงเป็นเพศชาย
สายพันธุ์ที่ระบาดในประเทศคองโกในปีนี้มีผู้ป่วยนับหมื่นราย และแพร่กระจายไปหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อยู่ในกลุ่มที่ 1 Clade 1 และเปลี่ยนแปลงเป็น Clade 1b สายพันธุ์นี้พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ชายและหญิง

และที่เสียชีวิตมากส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงกว่า สายพันธุ์กลุ่ม 2 การติดต่อนอกจากสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังพบว่าฝอยละอองทางการหายใจ ก็สามารถทำให้ติดได้ สายพันธุ์นี้จึงเป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจจะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ได้ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย ทุกรายของฝีดาษวานร จะต้องมีการเฝ้าระวัง ตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว และแยกสายพันธุ์ให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมาตรการการป้องกันไม่ให้แพร่กระจายของสายพันธุ์กลุ่มที่ 2 ในประเทศไทย

https://readnews.site/?p=127&fbclid=IwY2xjawEv5JhleHRuA2FlbQIxMAABHdXD8yoBz6rpFDPP3e4yzVGMgdfEfIn0VCZWjZYBI6xlAVSe6X2XJgLV6A_aem_Sw2oaBEEZJGszIFfH3OCLA


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41293

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 49  เมื่อ 24 ส.ค. 24, 09:10

ไทยพบผู้ป่วยสงสัย “ฝีดาษวานร” สายพันธุ์รุนแรงจากแอฟริกา clade 1 b รายแรกในไทย

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่กรมควบคุมโรค(คร.)  นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวพบผู้ต้องสงสัยป่วยโรคฝีดาษวานรสายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B)  ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ภายหลังองค์การอนามัยโลกประกาศเป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ"  ว่า ขณะนี้ไทยพบผู้ป่วยฝีดาษวานร สงสัยสายพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B)  1 ราย  เป็นชายชาวยุโรป อายุ 66 ปี เดินทางมาจากประเทศกลุ่มแอฟริกาอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า  ผู้ป่วยสงสัยรายนี้ เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 18.00 น. มาจากประเทศแถบแอฟริกา ซึ่งมีการระบาดของฝีดาษวานรเคลด 1 บี โดยมีการต่อเครื่องที่ตะวันออกกลาง ก่อนเข้าประเทศไทย  หลังจากนั้นวันที่ 15 ส.ค.ช่วงเช้า ผู้ป่วยเริ่มมีไข้ และเริ่มมีตุ่มขึ้นมาเล็กน้อย จึงไปที่โรงพยาบาล ซักประวัติสงสัยเข้าได้กับฝีดาษวานร  จึงตรวจหาสายพันธุ์เคลด 2 แต่ผลเป็นลบ พอตรวจสายพันธุ์เคลด 1 บี ก็ให้ผลไม่ชัดเจน จึงตรวจยืนยันด้วยวิธี Rt-PCR ยืนยันว่าเป็นฝีดาษวานร ส่วนสายพันธุ์อยู่ระหว่างรอยืนยัน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.055 วินาที กับ 19 คำสั่ง