SILA
|
ความคิดเห็นที่ 765 เมื่อ 15 ธ.ค. 13, 09:36
|
|
ธง LIBERTAS นี้มีรูปแบบรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง แต่รูปแบบพื้นฐานคือ พื้นธงสีขาวขอบเหลือง ตรงกลางเป็นรูปธงสีแดงจารึกอักษรสีขาวคำว่า LI BER TAS ที่แยกออกเป็นสามบรรทัด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 766 เมื่อ 15 ธ.ค. 13, 10:35
|
|
แม้อำนาจการปกครองตกอยู่ในกำมือของกลุ่มคนส่วนน้อย แต่คณะผู้บริหาร บ้านเมืองกลุ่มนี้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น หนึ่งในองค์กรกลุ่มแรกที่'ปราชญ์เปรื่อง'ใน ประวัติศาสตร์ one of the first intelligence organizations in history (โดยนักวิชาการบางคน) ก็มีผลงานที่ก้าวล้ำนำยุค นำพาบ้านเมืองให้ก้าวหน้าพัฒนา ทั้งด้านเศรษฐกิจการค้า การสาธารณสุข นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวเมือง
ในปี 1272 ดูบรอฟนิคได้ตราบัญญัติ(Statue) 8 ฉบับ ขึ้นเป็นครั้งแรก และ กำหนดแผนผังเมือง บทบัญญัติฉบับที่ 7 นั้นเป็น กฎหมายพาณิชยนาวีซึ่งเป็นเอกสารทาง ด้านนี้ที่เก่าที่สุดในโลก กฎหมายนี้ได้ตราไว้ด้วยว่า หากมีทาสลงเรือของดูบรอฟนิคต้อง ถือว่าทาสผู้นั้นเป็นคนอิสระ
The Statute of Dubrovnik
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 767 เมื่อ 15 ธ.ค. 13, 10:39
|
|
ปี 1296 ดูบรอฟนิคจัดให้มีระบบการระบายของเสีย บริการทางการแพทย์เริ่มขึ้นในปี 1301 ร้านขายยาแห่งแรกของยุโรปเปิดขึ้นในปี 1317 และยังคงดำเนินกิจการต่อเนื่อง จนทุกวันนี้ (ในขณะที่บางเอกสารระบุว่าในโทรเจียร์มีร้านขายยาตั้งแต่ปี 1271) สถานพยาบาลแห่งแรกเปิดให้บริการในปี 1347 วุฒิสภาให้การยอมรับสถานะ โรงพยาบาลในปี 1540 และเปิดบ้านคนชราในปี 1347 เช่นกัน ปี 1377 จัดให้มีอาคารกักกันโรค (Lazaret) แห่งแรกในยุโรป
ภาพ Lazaret จากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 768 เมื่อ 15 ธ.ค. 13, 10:42
|
|
กฎหมายประกันของดูบรอฟนิคที่ตราเมื่อปี 1395 เป็น กฎหมายประกันที่เก่าที่สุด ในยุโรป การผลิตสบู่อย่างเป็นระบบแรกมีในปี 1417 ยกเลิกและห้ามการค้าทาสในปี 1418 เป็นรัฐแรกในยุโรป เปิดสถานดูแลเด็กกำพร้าในปี 1432 ก่อสร้างวางท่อน้ำใช้(ความยาวราว 20 กม.) ในปี 1436 Trsteno สวนรุกขชาติเก่าแก่ที่สุดของยุโรป เปิดขึ้นที่นี่ในปี 1498 เป็นที่ เก็บรักษาพันธุ์ไม้หายากหลากชนิด ในคราวสงครามปี 1991 สวนแห่งนี้และป่าไม้มีค่ารอบๆ เมืองได้ถูกเผาทำลายลง
ภาพ Trsteno จากเน็ท
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 769 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 10:20
|
|
เรือโดยสารยังคงมุ่งหน้าสู่ท่าเรือดูบรอฟนิค
George Bernard Shaw นักเขียนบทละครชาวไอริช เจ้าของรางวัลโนเบล ปี 1925 ผู้แต่งบทละครชื่อดัง Pygmalion กล่าวไว้เมื่อคราวมาเยือนดูบรอฟนิค ในปี 1929 ว่า "If you want to see heaven on earth, come to Dubrovnik." ทิวทัศน์คุ้นตาของชายฝั่งหินผาด้านขวามือ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 770 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 10:24
|
|
นั่งเรือจนเริ่มเบื่อ จึงย้ายไปยืนที่หัวเรือ ชะโงกออกประตูด้านข้างมอง ไปข้างหน้า ในที่สุดก็แลเห็นดูบรอฟนิคอยู่ลิบๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 771 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 10:27
|
|
ดูบรอฟนิคซึ่งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศโครเอเชียนี้ คือศูนย์กลางด้าน เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการศึกษาของแดลเมเชียตอนใต้ ทั้งยังเป็นที่ตั้งขององค์กร บริหารเขตมณฑลดูบรอฟนิค - เนเรทวา ซึ่งทอดยาวจากตอนเหนือ/ตะวันตกที่คาบสมุทร เปลีชัคลงมาตามแนวชายฝั่งจนถึงคาบสมุทร Prevlaka ใกล้ชายแดนมอนเตเนโกร ที่ปลายแหลม Point Ostro เป็นจุดใต้สุดของประเทศ-สุดเขตดูบรอฟนิค
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 772 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 10:30
|
|
ภาพ Cape Ostro ของคาบสมุทร Prevlaka จากวิกกี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 773 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 10:43
|
|
นอกชายฝั่งในทะเลเอดริแอติค เกาะใหญ่น้อยมากมายรายเรียงกันเป็นแถว โดยมีเกาะ Lokrum เป็นเกาะ(ค่อนข้าง)ใหญ่อยู่ทางตอนใต้/ตะวันออกตรงข้าม ท่าเรือย่านเมืองเก่าของดูบรอฟนิค ลักษณะภูมิอากาศที่นี่เป็นแบบเมดิเตอเรเนียนด้วยอุณหภูมิทั้งปีเฉลี่ย 17 องศา มีหน้าหนาวที่ไม่หนาวจัด(เฉลี่ย 10 องศา) ส่วนหน้าร้อนก็ไม่ร้อนแรงแต่แสงแดดจ้า และอากาศแห้ง(เฉลี่ย 26 องศา) โดยมีลม maestral พัดทางทิศเหนือ/ตะวันตก ช่วยให้ความสดชื่น นานๆ สักครั้งจึงจะมีหิมะตก ตัวเมืองได้ภูเขาเซิร์จช่วยกั้นลมหนาว(bura) ที่พัดมาจากทางเหนือ และ เกาะ Lokrum ช่วยกันลมชื้น(jugo) จากทางใต้
เกาะโลครุม Lokrum มองลงมาจากภูเขาเซิร์จ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 774 เมื่อ 16 ธ.ค. 13, 11:04
|
|
ด้วยลักษณะภูมิอากาศที่เอื้อกอปรกับภาคการเกษตร, การปลูกป่า, ปลูกสวน พืชพันธุ์แถบเมดิเตอเรเนียนของชาวเมือง รวมทั้งการนำพืชจากเขตร้อนเข้ามาโดย ชาวเรือส่งผลให้ดูบรอฟนิคเป็นพื้นที่สีเขียวที่เปรียบดั่งโอเอซิสแห่งเมดิเตอเรเนียน
ภาพจากวิกกี้ ดูบรอฟนิคเมื่อมองลงมาจากเบื้องบน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 775 เมื่อ 19 ธ.ค. 13, 09:13
|
|
ชัยภูมิที่ตั้งของดูบรอฟนิคเดิมเป็นเกาะใกล้ชายฝั่ง ที่ต่อมาช่องแคบได้ถูกถมลง เป็นผืนดินแล้วสร้างกำแพงโอบรอบชุมชนบนเกาะและชุมชนบนฝั่งชายเขาเซิร์จรวมเข้า เป็นเมืองเดียวกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 776 เมื่อ 19 ธ.ค. 13, 09:14
|
|
ภาพชายฝั่งหินผาด้านขวามือเปลี่ยนเป็นลาดเชิงเขา(เซิร์จ) ที่ดารดาษด้วยอาคาร ปลูกสร้างไล่เรียงลดหลั่นลงมาจนจรดชายฝั่งทะเล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 777 เมื่อ 19 ธ.ค. 13, 09:17
|
|
สิ่งก่อสร้างที่แลลิบ เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้เริ่มเห็นเป็นรูปร่างขยายชัดเจนขึ้น กำแพงแกร่งสูงใหญ่โตโอฬารโอบล้อมอาคารภายใน มองเห็นหลังคาและยอดโบสถ์ วิหารโผล่พ้นเหนือกำแพงบัง
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 778 เมื่อ 19 ธ.ค. 13, 09:19
|
|
หัวเรือบ่ายไปทางขวาเพื่อเข้าจอดที่ท่าเรือเก่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
SILA
|
ความคิดเห็นที่ 779 เมื่อ 19 ธ.ค. 13, 09:32
|
|
สิ่งก่อสร้างสำคัญทางฝั่งขวามือก่อนเข้าท่า คืออาคารที่สมัยก่อนนั้นผู้โดยสารเรือมา ต้องแวะผ่านก่อนเข้าเมือง ปัจจุบันอาคารนี้ก็มีความสำคัญด้วยคุณค่าระดับมรดกโลก นั่นคือ
อาคารกักกันโรค - Lazaret
ช่วงศตวรรษที่ 14 และ 15 ดูบรอฟนิคคือชุมทางการค้าทางทะเลระหว่างจักรวรรดิ ออตโตมานกับตะวันตกที่มีผู้คนผ่านเข้าออกมากมาย ส่งผลให้เมืองท่าค้าขายชายทะเลแห่งนี้ คือที่ตั้งต้นของการแพร่กระจายโรคซึ่งมากับผู้โดยสารทางเรือ ทางการตระหนักถึงการระบาดของโรคร้าย ได้แก่ กาฬโรค จึงได้จัดสร้างอาคารกักกัน นี้ขึ้นในปี 1627 ที่ด้านนอกประตู Ploce ห่างจากกำแพงไปประมาณ 300 ม. เพื่อแยกสังเกต อาการผู้มาเยือนจากดินแดนที่มีโรคระบาด ต่อมาได้มีการสร้างกำแพงขึ้นล้อมรอบอีกชั้นใน ศตวรรษที่ 18 เมื่อเกิดการระบาดของโรคร้ายในเวลานั้น
|
 คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|