เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25
  พิมพ์  
อ่าน: 238471 คำไทยที่ไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้ว
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16058



ความคิดเห็นที่ 345  เมื่อ 01 ม.ค. 25, 19:35

มีคำ ๆ หนึ่งซึ่งเราได้ยินบ่อยในปัจจุบัน คือคำว่า "รามา" คนไทยทั่วไปได้ยินไม่นึกถึงชื่อโรงพยาบาล ก็ต้องนึกถึงชื่อสะพาน หรือ ชื่อถนน อันมีที่มาจากพระนามของพระราม อันเป็นองค์อวตารของพระนารายณ์ จากเรื่องรามายณะของอินเดีย หรือ รามเกียรติ์ของไทย

แต่หากถ้าเราเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ อาจจะแปลกใจว่าคำนี้ไม่มีความหมายเกี่ยวข้องกับพระรามตามที่เราเข้าใจเลย พจนานุกรมให้ความหมายว่า  "รามา เป็นภาษาพูด (ปาก) หมายถึง ข่มเหง, รบกวน, เช่น พอเมาเหล้าก็ชอบรามาชาวบ้าน"

เดี๋ยวนี้คงไม่มีการใช้คำนี้ในความหมายตามพจนานุกรมแล้วหนอ ยิงฟันยิ้ม


บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 346  เมื่อ 02 ม.ค. 25, 14:53

รามาในที่นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับคำว่า ราวี นะครับ ความหมายใกล้เคียงนัก ดีไม่ดีอาจเพี้ยนมาจากคำว่าราวี ก็เป็นได้
บันทึกการเข้า
Namplaeng
ชมพูพาน
***
ตอบ: 211


ความคิดเห็นที่ 347  เมื่อ 03 ม.ค. 25, 14:20

ห่วย ๆ หรือ ของไม่ดี.

ห่วย มาจากคำจีนถิ่นทางใต้ของจีน ที่เค้าใช้ว่า ฮวยห่วยครับ ( 灰货 / huī huò )

คำว่า ฮวยห่วย เป็นคำเก่าที่ผมได้ยินท่านใช้เมื่อวัยเด็กในย่านจีนเยาวราช แต่ปัจจุบันคงหาคนที่เคยได้ยินได้ฟังน้อยมากแล้วกระมัง

ฮวย ( 灰 ) ท่านหมายถึงเถ้าที่เหลือหลังการเผาไหม้   และห่วย ( 货 ) ท่านหมายถึงสินค้า

ฮวยห่วย จึงหมายถึง ของไร้ราคา หยิบจับอะไรไม่ได้ คนจีนแต่เดิมใช้เป็นคำปรามาสอย่างสุดๆ เลยครับ.

เรากร่อนคำว่า ฮวยห่วย เหลือเพียง ห่วย....

อ้าง

https://www.zdic.net/hans/灰货

实用方言词典(韩品夫) , 天津人民出版社, 1996  หน้า 115
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41287

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 348  เมื่อ 07 ม.ค. 25, 10:29

จักแหล่น, จั๊กแหล่น  ว. จาก พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ให้ความหมายว่า   จวนเจียน, เกือบ, หวุดหวิด, เช่น จักแหล่นจะไม่ทันรถไฟ.
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16058



ความคิดเห็นที่ 349  เมื่อ 07 ม.ค. 25, 12:35

คำว่า จั๊กเดียม ก็ไม่ใคร่มีใครใช้พูดแล้ว ยิงฟันยิ้ม

จั๊กเดียม = กระดาก, เขินอาย, อาการของคนที่รู้สึกเมื่อถูกจั๊กจี้, มักใช้เข้าคู่กับคำ จั๊กจี้ เป็น จั๊กจี้จั๊กเดียม

จั๊กเดียม อ่านว่า จั๊ก-กะ-เดียม เช่นเดียวกับ จั๊กจี้ (จั๊ก-กะ-จี้), จักแหล่น (จัก-กะ-แหล่น) และ จั๊กแหล่น (จั๊ก-กะ-แหล่น)


บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41287

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 350  เมื่อ 08 ม.ค. 25, 09:54

ออเซาะ      ก. ฉอเลาะ, ประจบประแจง. พร่ำพลอด (-พฺลอด) ก. พูดออดอ้อนออเซาะ.
บันทึกการเข้า
unicorn9u
มัจฉานุ
**
ตอบ: 99


ความคิดเห็นที่ 351  เมื่อ 13 ม.ค. 25, 10:02

คำว่า "ฉัน" คำเดิม แต่ทุกวันนี้ ออกเสียงเป็น "ชั้น" กันหมด
เคยออกเสียง ให้ถูก กลายเป็นหาว่าเราพูดเหน่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41287

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 352  เมื่อ 13 ม.ค. 25, 11:28

กเฬวราก 
เคยเจอว่าสะกดเป็น กะเลวกะราด   กะเลกะลาด  ก็มี
 คำว่า กเฬวราก หมายถึง คนไร้ประโยชน์ คนชั่ว คนเลว คนที่ชั่วและเลวจนคนทั่วไปรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงเหมือนที่ขยะแขยงซากศพ เช่น ตำรวจควรลากคอพวกกเฬวรากที่ปลุกปั่นให้คนไทยเกลียดชังกันไปเข้าคุกเข้าตะรางให้หมด. สังคมจะน่าอยู่ขึ้นมาก ถ้ากเฬวรากพวกนี้หมดสิ้นไป
http://legacy.orst.go.th/?knowledges=%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AC%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B9%96-%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%95%E0%B9%93
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16058



ความคิดเห็นที่ 353  เมื่อ 13 ม.ค. 25, 11:35

คำว่า "ฉัน" คำเดิม แต่ทุกวันนี้ ออกเสียงเป็น "ชั้น" กันหมด
เคยออกเสียง ให้ถูก กลายเป็นหาว่าเราพูดเหน่อ

พูดถึง ฉัน-ชั้น แล้วนึกถึง เขา-เค้า

เดี๋ยวนี้ ฉัน-เขา ค่อย ๆ กลายเป็นภาษาเขียน โดยในภาษาพูดใช้ ชั้น-เค้า แทน ตัวอย่างเช่น

"ชั้นรักเค้า"

"เค้า" นอกจากจะเป็นสรรพนามบุรุษที่ ๓ แล้ว เวลาพูดกับคู่สนทนาเชิง "ออเซาะ" ยังใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ ด้วย ตัวอย่างเช่น

"เค้ารักตัวเองนะ" ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
unicorn9u
มัจฉานุ
**
ตอบ: 99


ความคิดเห็นที่ 354  เมื่อ 13 ม.ค. 25, 14:03



"เค้ารักตัวเองนะ" ยิงฟันยิ้ม

อันนี้ Google บอกว่า " He loves himself."  ยิงฟันยิ้ม
บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 355  เมื่อ 18 ม.ค. 25, 06:52

ขอเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่ง ผมเคนอ่านเอกสารเก่าสมัยยุค 2480
พบว่ามีการใช้คำว่า ‘นักพรต‘ เรียกขานพระสงฆ์
ซึ่งโดยตามหลักนั้นก็ไม่ผิด คำนีสามารถใช้เรียกนักบวชได้หมด
เพียงแต่ปัจจุบัน ผมเองไม่ใคร่เห็นใครที่ไหนเรียกพระสงฆ์ว่านักพรตอีกแล้ว
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41287

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 356  เมื่อ 19 ม.ค. 25, 10:20

" เจ้ากู" หมายถึงพระสงฆ์
เป็นคำที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เรียกพระสงฆ์ในรัชสมัยของพระองค์ท่านค่ะ
เดี๋ยวนี้เป็นคำที่ไม่มีใครรู้จักแล้ว
บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 357  เมื่อ 19 ม.ค. 25, 11:00

" เจ้ากู" หมายถึงพระสงฆ์
เป็นคำที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เรียกพระสงฆ์ในรัชสมัยของพระองค์ท่านค่ะ
เดี๋ยวนี้เป็นคำที่ไม่มีใครรู้จักแล้ว


เคยได้ยินผู้สูงอายุในภาคอีสานบางพื้นที่ เรียกขานพระสงฆ์ว่า ‘เจ้าหัว‘ ครับ
น่าจะเป็นลักษณะเดียวกัน เคยทราบมาว่าประเทศลาวแถบหลวงพระบาง ก็ยังใช้คำนี้อยู่ครับ
บันทึกการเข้า
เพ็ญชมพู
หนุมาน
********
ตอบ: 16058



ความคิดเห็นที่ 358  เมื่อ 19 ม.ค. 25, 11:35

คำเรียกพระสงฆ์อีกคำหนึ่งซึ่งไม่ใช้กันแล้วคือคำว่า ขรัว ใช้เรียกพระสงฆ์ที่มีอายุมาก บวชมานาน หรือบวชเมื่อแก่ มักเรียกกันว่า ขรัวตา ขรัวปู่ หรือเรียกนำหน้าชื่อ เช่น ขรัวโต ขรัวอินโข่ง

คำว่า ขรัว ยังมีอีก ๒ ความหมาย คือ ใช้เรียกผู้ที่เป็นตาหรือยายของพระราชโอรส พระราชธิดาชั้นพระองค์เจ้า คือเป็นคำเรียกคนธรรมดาที่มีลูกสาวได้เป็นเจ้าจอม พระชายา หรือหม่อมของพระราชวงศ์พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง และลูกสาวคนนั้นให้กำเนิดบุตรซึ่งมีฐานันดรศักดิ์ตั้งแต่พระองค์เจ้าขึ้นไป ตาและยายของพระองค์เจ้านั้นก็ได้เป็นขรัวตาและขรัวยาย เช่น พระยาอัพภันตริกามาตย์ (ดิศ) เป็นขรัวตาของพระเจ้าลูกเธอในรัชกาลที่สี่ ๑๐ พระองค์

และความหมายสุดท้าย ขรัว เป็นคำเรียกคนที่มั่งมีว่า เจ้าขรัว  แต่ปัจจุบันไม่มีผู้ใช้ มีใช้แต่คำว่า เจ้าสัว ในความหมายเดียวกัน

จาก รายการวิทยุ"รู้ รัก ภาษาไทย" ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41287

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 359  เมื่อ 20 ม.ค. 25, 09:33

โอละพ่อ  หมายถึง กลับตรงกันข้าม, กลับกันไปหมด, ผิดความคาดหมาย.
ราชบัณฑิตฯ อธิบายว่า
 โอละพ่อ เป็นสำนวน หมายความว่า กลับเป็นตรงกันข้าม เป็นสำนวนที่มักใช้กับเรื่องที่มีการเข้าใจผิดกัน เช่น เรื่องที่พ่อให้ข่าวว่าลูกพามาทิ้งไว้ ผู้คนจึงประณามลูกว่าใจร้าย แต่ข้อเท็จจริงกลับกลายเป็นเรื่องโอละพ่อว่าพ่อหนีออกจากบ้านแต่พออยากกลับบ้านก็กลับไม่ถูก.

          นอกจากนี้ คำว่า โอละพ่อ ยังเป็นคําขึ้นต้นบทร้องและรําในการละเล่นระเบ็งซึ่งเป็นมหรสพของหลวง เช่นบทที่ร้องว่า โอละพ่อขอถวายบังคม โอละพ่อเทวันมาบอก โอละพ่อยกออกจากเมือง โอละพ่อจะไปไกรลาศ.
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.04 วินาที กับ 19 คำสั่ง