สืบจากกระทู้ บางกลางหาวกับทางช้างเผือก ทำให้พบกับบทความนี้
สอบสวนชื่อย่านในกรุงเทพฯ ที่เป็นภาษามลายู ฤๅคำ “บางกอก” ก็มาจากภาษามลายู?ป.ศรีนาค, บางคอแหลม กรุงเทพฯ
https://www.silpa-mag.com/culture/article_6028#google_vignette ชื่อบ้านนามเมืองจำนวนหนึ่งในปริมณฑลของกรุงเทพมหานครปัจจุบัน หรือรอบเมืองบางกอกโบราณ
เมื่อสอบสวนอย่างละเอียดมีความหมายในภาษามลายูและเข้ารูปกับสถานที่ ดังชื่อบ้านนามเมืองดังต่อไปนี้
บางคอแหลม มาจากภาษามลายูว่า kolam ออกเสียงตาม Bahasa Melayu หรือภาษามลายูปัจจุบันที่ใช้ในมาเลเซียว่า
โกลัม แปลว่า สระ, อ่างเก็บน้ำ (จืด)
บางโคล่ มาจากภาษามลายูว่า koléh ออกเสียงตามภาษามลายูปัจจุบันว่า โกและฮ์ แปลว่า แป้งสาคู ด้วยริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณนี้เคยมีการทำแป้งสาคู เพราะมีต้นสาคูมาก
บุคคโล จากภาษามลายูสองคำ คือ bukat ออกเสียงว่า บูกัต แปลว่า (กระแสน้ำ) วน กับ lolok ออกเสียงว่า โลโลก แปลว่า (กระแสน้ำ) วน
เป็นคำคู่ด้วยทั้งสองคำมีความหมายเดียวกัน bukatlolok ซึ่งออกเสียงว่า บูกัตโลโลก กร่อนเสียงเป็น บุคคโล ชื่อที่มีความหมายว่า เป็นที่มี
กระแสน้ำวน ด้วยบริเวณนี้มีวัดบางน้ำชนกับคลองบางน้ำชนอยู่ให้เป็นประจักษ์พยาน
จระเข้บัว จากคำคู่ภาษาไทยกับภาษามลายู จระเข้สายพันธุ์บัวไม่มีในโลก แต่คำว่าบัวกร่อนมาจากคำว่า buaya ออกเสียงว่า บัวยา ในภาษามลายู
คำเรียกจระเข้ว่า buaya และ baya ในภาษามลายู ยังอาจเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะคำว่า jayabaya ซึ่งออกเสียงว่า จายาบายา
แปลว่า ชนะจระเข้ (jaya แปลว่าชัย, ชนะ) ชื่อบ้านนามเมืองของชาติพันธุ์มลายูที่เกี่ยวข้องกับคำเรียกจระเข้มีจำนวนมาก เช่น เมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่
ปากแม่น้ำใหญ่ ชื่อเดียวกันบนเกาะชวากลาง ชื่อว่า surabaya ออกเสียงว่าสุราบายา แปลว่า ไม่กลัวจระเข้ (sura แปลว่า กล้าหาญ, ไม่กลัว)
หัวลำโพง จากคำผสมระหว่างคำว่า ขัว ในภาษาไทย ซึ่งแปลว่า สะพาน กับคำว่า lampung ในภาษามลายูออกเสียงว่าลำพุง แปลว่า ชั่วคราว, ลอย
ขัวลำพุงคือสะพานชั่วคราว (ทอดข้ามหรือลอยในลำน้ำ) กลายเป็นหัวลำโพง ใกล้กับหัวลำโพงขึ้นไปทางทิศเหนือ มีชื่อถนนคลองลำปัก ซึ่งน่าจะชื่อว่า
ถนนคลองลำบัก เพราะลำบักมาจากภาษามลายูว่า lambak แปลว่า กอง (สิ่งของต่างๆ ฯลฯ) ส่วนคำว่าลำปักไม่มีในภาษามลายู
บางพลัด จากภาษามลายูว่า palas ออกเสียงว่า ปาลัส คือ ต้นกะพ้อ เป็นพืชในสกุลปาล์ม ชอบขึ้นในที่ลุ่ม ใบใช้ทำขนมต้ม
ใกล้ๆ กับบางพลัดมีชื่อบางบำหรุ คำว่าบำหรุมาจากภาษามลายูว่า baruh ออกเสียงว่า บารุฮ์ แปลว่า ที่ลุ่มใกล้แม่น้ำหรือทะเล
สามเสน*ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบางพลัด มีที่มาจากภาษามลายูเช่นกัน
* ฟบ. สุบรรณสยาม บอกว่า ตำนานเล่าว่า หลวงพ่อโต พระพุทธรูปมาจากวัดบางพลีใหญ่ในลอยน้ำลงมาจากทางเหนือ ผู้คนช่วยกันฉุด
ลากขึ้นจากน้ำ แต่ก็ไม่ขึ้น มีคนช่วยกันถึงสามแสนคนก็ยังไม่สำเร็จ เลยเรียกตำบลนั้นว่า "สามแสน" ต่อมาก็เพี้ยนเป็น "สามเสน" และ
ยังปรากฏอยู่ในนิราศพระบาทของสุนทรภู่ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2350 ด้วยดังว่า
๏ ถึงสามเสนแจ้งความตามสำเนียก
เมื่อแรกเรียกสามแสนทั้งกรุงศรี
ประชุมฉุดพุทธรูปในวารี
ไม่เคลื่อนที่ชลธารบาดาลดิน
จึงสาปนามสามแสนเป็นชื่อคุ้ง
เออชาวกรุงกลับเรียกสามเสนสิ้น
นี่หรือรักจะมิน่าเป็นราคิน
แต่ชื่อดินเจียวยังกลายเป็นหลายคำ
แต่จากหลักฐานแผนที่ในจดหมายเหตุหมอแกมป์เฟอร์ ที่ได้เดินทางมากรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2233 ได้ระบุตำแหน่งที่ชื่อว่า Ban Samsel
ซึ่งชื่อดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับคำว่า "บ้านสามเสน" อีกทั้งตำแหน่ง Ban Samsel ก็ตั้งอยู่ระหว่างป้อมที่บางกอก (ฝั่งธนบุรี) กับตลาดแก้ว ตลาดขวัญ
(จังหวัดนนทบุรี)
มีการสันนิษฐานไปต่าง ๆ นานา เช่น คำว่า "เสน" เป็นภาษาบาลีหมายถึง โคตรวงศ์, เหล่า แต่เดิมบริเวณพื้นที่แถบนี้น่าจะมีชาวอินเดียที่ชื่อว่า "สาม"
อาศัยอยู่ หรืออธิบายว่า โบสถ์ทอมาสเดอะเซนต์ ที่เคยอยู่แถบนี้ ซึ่งสร้างขึ้นโดย นายทอมาส นับถือกันว่าเป็นนักบุญ หรือเซนต์ จึงมีคำว่า เซนต์ ต่อท้ายนาม
แต่คนทั่วไปมักเรียกว่า "ทามเสน" ต่อมาจึงกลายเป็น "สามเสน" หรือ
*มีนักภาษาศาสตร์เสนอไว้ว่า น่ามาจะจากภาษามลายูว่า "สุไหงซัมซัม" (Su–ngai Samsam) หมายถึง "คลองชาวมุสลิม" หรืออาจจะมาจากคำว่า
"สุไหงซามซิง" (Su–ngai Samsing) หมายถึง "คลองคนดุร้าย" เป็นต้น.
แม้แต่ชื่อบางกอก อาจมาจากคำในภาษามลายู beléngkok ออกเสียงว่า เบอแลงกอก แปลว่า คุ้งน้ำ ทั้งอาจเป็นที่มาของชื่อบางปะกอกได้ด้วย