#ตำนานรัก " ทหารญี่ปุ่นกับสาวนครนายก "
จากตำนานรัก "สาวบ้านนา กับหนุ่มทหารหมอ กองทัพญี่ปุ่น" ที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2482 – 2488 จนกลายเป็นที่มาของขนมโมจิ สูตรสงครามโลกครั้งที่ 2

สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐานทัพในจังหวัดนครนายก ที่อำเภอบ้านนา ต.ป่าขะ , ต.ศรีกระอาง , ต.พิกุลออก ส่วนอำเภอเมือง ต.พราห์มณี , ต.เขาพระ และ ต.สาริกา ซึ่งต่อมาชาวบ้านในบริเวณดังกล่าว ได้นำสินค้าพื้นเมืองประเภทผัก ผลไม้ กล้วย และขนมไข่เหี้ย มาค้าขายให้ทหารญี่ปุ่นทุกวัน
ส่วนแม่ค้าในตำนานคือ นางสาวพันนา ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ขณะนั้นอายุเธอประมาณ 18 ปี ได้ทำขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมไข่เหี้ย กล้วยทอด ซาลาเปาทอด มาขายเป็นประจำ จนได้รู้จักกับทหารหมอรูปหล่อชาวญี่ปุ่นชื่อ "ซาโต้"
วันหนึ่งทหารหมอญี่ปุ่นต้องโยกย้ายไปค่ายอื่น ก่อนจากไปนั้น "ซาโต้" ได้สอนสาวพันนาทำขนมโมจิ และบอกกับเธอว่า ขนมนี้จะเป็นตัวแทนของซาโต้ และเป็นตัวแทนของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นซาโต้ก็สอนสาวพันนาทำขนมโมจิ เมื่อซาโต้ลองกินขนมถึงกับบอกว่าสาวพันนาทำขนมญี่ปุ่นโมจิได้อร่อยที่สุด
เมื่อถึงเวลาทหารญี่ปุ่นต้องจากไป ซาโต้บอกกับสาวพันนาว่า หากวันใดที่คิดถึงเขาให้ทำขนมโมจิ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่จะขอกลับมาหาเธอให้จงได้ แต่ถ้าจะคิดทำขายก็ทำได้ เพราะมีทหารญี่ปุ่นที่คิดถึงบ้านมักจะชอบกินขนมญี่ปุ่น เช่น ขนมโมจิเสมอๆ
และแล้วซาโต้ก็จากไป โดยที่สาวพันนาก็ยังคงทำอาชีพหาบของขาย รวมทั้งขนมโมจิให้กับกองทัพทหารญี่ปุ่นและรอการกลับมาของซาโต้ทุกเช้าค่ำ
ต่อมาญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นต้องกลับประเทศทั้งหมด แต่สาวพันนาก็ไม่มีโอกาสได้พบกับซาโต้อีกเลย จากนั้นเธอก็ยังทำขนมโมจิขายให้กับผู้คนในเมืองนครนายกเรื่อยมา
จนวันหนึ่งทหารไทยมาแจ้งกับสาวพันนาว่า ขนมที่เธอทำอยู่นั้น ทางราชการประกาศห้ามกิน ห้ามทำ ห้ามขาย เพราะเป็นขนมของญี่ปุ่น ขนมโมจิมันคือ "ขนมกบฏ"
สาวพันนาจึงยุติทำขนมโมจิออกขาย แต่ทุกๆครั้งที่คิดถึงซาโต้ สาวพันนาก็จะแอบทำขนมโมจิ เพื่อแทนความคิดถึงหนุ่มญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่รัก
และทุกครั้งที่เธอทำขนมโมจิสาวพันนาจะตั้งจิตอธิษฐาน สวดมนต์ภาวนา ให้ซาโต้กลับมากินขนมของตัวเอง วันแล้ววันเล่าที่เธอเฝ้ารอ จนผ่านไปเนิ่นนานหลายสิบปี และในที่สุดทุกๆคนต่างก็ลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปตามกาลเวลา
#จนกระทั่ง พ.ศ. 2547 พระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทราบประวัติเรื่องขนมโมจิ จึงให้ทหารคนสนิทไปสืบหาที่มาขนมโมจิสูตรดังกล่าว ซึ่งได้ไปค้นหาอยู่หลายที่และนำมาให้เสวย แต่พระเทพทรงตรัสว่าไม่ใช่ขนมโมจิสูตรที่พระองค์ตามหา
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก(ในสมัยนั้น) ได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครนายก ประกาศประชาสัมพันธ์และสืบหาจนได้ทราบว่านายมานพ ศรีอร่าม ข้าราชการพัฒนาชุมชนจังหวัดนครนายก เป็นบุตรชายของผู้ที่ทำขนมโมจิดังกล่าว
แต่ในขณะนี้เธอมีอายุมากแล้วแต่ความทรงจำยังดี สามารถเล่าเรื่องราวต่างๆในอดีตได้เป็นอย่างดี พร้อมได้สอนให้บุตรและลูกสะใภ้ฝึกหัดทำขนมเพื่อถวายสมเด็จพระเทพฯ
ซึ่งเป็นวันที่คุณยายพันนา รอคอยวันนี้มานานแสนนาน วันที่ขนมโมจิของแกจะถูกเผยแพร่อีกครั้ง เหมือนได้บอกกับซาโต้ ว่ายังมีสาวบ้านนาคนนี้รออยู่ที่เมืองไทย
ปัจจุบัน คุณยายพันนาได้จากไปแล้ว โดยได้รับพระราชทานเพลิงศพจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และปัจจุบันขนมโมจิสูตรดังกล่าวได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
จากตำนานรัก " สาวบ้านนา กับหนุ่มทหารหมอ กองทัพญี่ปุ่น " จนกลายมาเป็นขนมกบฏ หรือขนมโมจิ สูตรสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีชื่อประจำเมืองนครนายกครับ
#ขอบคุณผู้รวบรวมข้อมูลไว้ครับ
https://web.facebook.com/photo/?fbid=2032387970355119&set=a.1381369428790313