เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
อ่าน: 2325 อเมริกันวัยเกษียณตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพมากขึ้น
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


 เมื่อ 30 ก.ค. 24, 10:16

นิวยอร์คไทมส์เพิ่งเผยแพร่รายงานที่ชี้ให้เห็นว่า  คนอเมริกันอายุ 60 ขึ้นไปกำลังตกเป็นเหยื่ออันโอชะของบรรดามิจฉาชีพทางการเงินมากขึ้น  อาจเป็นเพราะคนเหล่านี้มีเงินเก็บสะสมมากกว่าคนวัยทำงาน  (และอาจจะหลงเชื่อคนง่าย)   แถมพี่มิจเองยิ่งนับวันก็ยิ่งฉลาดหลักแหลมท้าทายความสามารถรัฐ   

ตัวอย่างที่เขายกมาแสดงคือเรื่องของคุณแบร์รี่ ไฮทินหรือฮีททิน (Barry Heitin) ชาวอเมริกันอายุ 76 ปี ที่ต้องสูญเงินเก็บจำนวน 740,000 เหรียญจากการหลงเชื่อพี่มิจ

เรื่องของคุณแบร์รี่มันแย่ตรงที่ไม่ใช่แค่แกมีเท่าไหร่ก็โดนมิจดูดจนเกลี้ยง  แต่แกยังโดนสรรพากรอเมริกันเรียกเก็บภาษีจากเงินที่ถอนออกไปอีกด้วย  เรียกว่าซวยสองต่อเลยทีเดียว   

https://www.nytimes.com/2024/07/29/business/retirement-savings-scams.html
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 1  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 10:16

คอมพิวเตอร์โดนแฮค

เรื่องมันเกิดขึ้นในเดือนกันยาปีที่แล้ว  ตอนที่คุณแบร์รี่ไปลงชื่อเข้าใช้เว็บไซท์สำหรับทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสะสมวัยเกษียณของแกตามปกติ  ครั้งแรกแกเข้าไม่ได้   แกเลยลองใหม่อีกไม่กี่วันให้หลัง  คราวนี้เข้าได้ แต่หน้าจอเปลี่ยนไปจากเดิม  มีคำสั่งขึ้นหน้าจอให้แกโทร.ติดต่อศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของกองทุนที่แกเอาเงินสะสมวัยเกษียณไปแปะไว้  บนจอมีโลโก้ของกองทุนแปะอยู่

พอแกโทร.ไปที่เบอร์นั้น  ผู้ชายที่รับสายอ้างว่าตัวเองชื่อชาร์ลส์ ฮันท์ เป็นจนท.สืบสวนเหตุภัยทางการเงินของบ.ที่บริหารกองทุน   นายชาร์ลส์บอกคุณแบร์รี่ว่ามีมิจฉาชีพพยายามจะปลดรหัสเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของแก  อ้างชื่อธนาคารที่คุณแบร์รี่เปิดบัญชีกระแสรายวันและบัญชีออมทรัพย์ได้อย่างถูกต้อง   และโอนสายให้คุณแบร์รี่คุยกับผู้ชายที่อ้างว่าชื่อเฮย์เดน สมิธ  ซึ่งเป็นตัวแทนจากธนาคารดังกล่าว

ในระหว่างการพูดสายกับคุณเฮย์เดน  คุณแบร์รี่ถูกหลอกให้เชื่อว่ามีคนถอนเงินจากบัญชีแก 20,000 เหรียญไปซื้อภาพโป๊เด็กที่ถูกแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเว็บไซท์ที่จดทะเบียนในจีน  และถูกโอนสายไปคุยกับมิจคนที่สามซึ่งอ้างว่าเป็นจนท.สรรพากรอเมริกันชื่อนายฟินน์ วิทร็อค  

นายฟินน์หว่านล้อมให้คุณแบร์รี่เชื่อว่า  แกจะสามารถป้องกันไม่ให้มิจดูดเงินที่เหลือจากบัญชีแกได้  รวมทั้งมีส่วนร่วมในปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพครั้งใหญ่    ด้วยการโอนเงินไปยังบัญชีลับของทางการ   แถมยังอาจเรียกเงิน 20,000 เหรียญที่เสียไปคืนกลับมาได้อีกด้วย
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 2  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 10:24

เป็นผู้ช่วยมิจโดยไม่รู้ตัว

ที่เหลือก็อย่างที่เราๆ ท่านๆ พอจะเดาได้  คุณแบร์รี่ให้ข้อมูลส่วนตัวและรหัสเข้าบัญชีต่างๆ แก่มิจ  แถมยังช่วยพี่มิจอย่างเต็มที่ด้วยการถอนเงินออกจากบัญชีแกไปเข้าบัญชีลับ  สรุปคือแกสูญเงินเก็บที่มีทุกบัญชีรวมทั้งเงินในกองทุนหลังเกษียณไป 740,000 เหรียญ  คิดเป็นเงินไทยก็เกือบ 27 ล้านบาท

ที่สำคัญ ตอนนี้คุณแบร์รี่มีภาระภาษีที่ต้องจ่ายเนื่องจากการถอนเงินสะสมหลังเกษียณร่วม 285,000 เหรียญหรือ 10 กว่าล้านบาท

มิจเก่งจิตวิทยาและรู้ทันทางการ

รายงานของนิวยอร์คไทมส์ทำให้เราเห็นว่า  นอกจากมิจสมัยนี้จะเก่งเรื่องไอทีและจิตวิทยาแล้ว  ยังฉลาดเป็นกรด  รู้ทันทางการและหาทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า  ทำให้เหยื่อตกอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่มิจทำให้เหยื่อหลงเชื่อ  บางเรื่องก็มาจากรายงานของนิวยอร์คไทมส์  แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นมุมมองของผู้เขียนเองจากการเปรียบเทียบข่าวนี้กับข่าวเหยื่อคนอื่นๆ ที่สื่อในบ้านเราเคยรายงานมาแล้ว

มิจเก่งเรื่องไอที  อันนี้คงไม่ต้องพูดถึงมาก  ถ้ามิจสามารถล็อคเครื่องเราได้  ส่งข้อความลวงให้เราโทร.ไปหามันได้  แถมยังมีข้อมูลธนาคารที่เราฝากเงินอยู่ด้วย  มันต้องเก่งมากแน่ๆ 

มิจมากันเป็นกลุ่ม  การโอนสายให้คุณแบร์รี่คุยกับคนสามคน  โดยแต่ละคนอ้างว่าเป็นจนท.ทั้งนั้น คือการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่คำพูดโกหก  (ถ้าเพื่อนคนดียวบอกเราว่า “แกใส่ชุดนี้แล้วดูอ้วน” เราอาจจะไม่เชื่อ  แต่ถ้าเพื่อนสามคนพูดเหมือนกันเราจะไม่เชื่อก็ยังไงอยู่)   

มิจสร้างแรงจูงใจให้เหยื่อ  คุณแบร์รี่แกหลงเชื่ออย่างสนิทใจว่าสิ่งที่แกทำนั้นจะช่วยให้ปฏิบัติการสืบสวนครั้งใหญ่ประสบความสำเร็จ    แถมยังเชื่อว่าทุกอย่างที่แกทำจะช่วยให้แกไม่ต้องสูญเงิน 20,000 เหรียญที่มิจอ้างว่ามีคนมาแอบถอนไปก่อนหน้านี้

มิจกดดันให้เหยื่อรีบตัดสินใจ   อันนี้เป็นเรื่องที่เราได้ยินกันบ่อยมากทั้งในและนอกประเทศ  มิจเกือบทุกรายจะพยายามโน้มน้าวเหยื่อให้หลงเชื่อโดยใช้เงื่อนไขของเวลาเข้ามาเป็นแรงกดดัน  เช่น ถ้าไม่ทำวันนี้คุณจะโดนตำรวจออกหมายจับ  ถ้าไม่รีบทำตอนนี้เงินจะถูกดูดออกจากบัญชีจนเกลี้ยง  เป็นต้น

มิจสร้างพล็อตให้เหยื่อตื่นเต้นที่มีส่วนร่วม  มิจสั่งคุณแบร์รี่ไม่ให้บอกใครทั้งสิ้น  เพราะนี่คือปฏิบัติการลับ  แกเลยไม่บอกแม้แต่คนในครอบครัวหรือผู้จัดการการเงินส่วนตัว

คอมพ์คุณแบร์รี่โดนแฮคให้แสดงแผนที่โลกซึ่งมีไฟกระพริบที่โน่นที่นี่ตามจุดที่มิจหลอกแกให้เชื่อว่ากลุ่มคนที่ขโมยเงินแกโดนจับมั่งหรือไปแฝงตัวอยู่มั่ง   

พอแบงก์เริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการถอนเงินทีละมากๆ ของแก  มิจก็สั่งให้แกโอนเงินไปซื้อทองแท่งแทน  แล้วนัดแนะส่งมอบกันแบบเดียวกับที่เรามักจะเห็นในหนัง

มิจสร้างความสัมพันธ์กับเหยื่อจนไว้เนื้อเชื่อใจกัน   พี่มิจโทร.หาคุณแบร์รี่เช้าเย็นจนเหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อน   คุยไปสักพักก็เริ่มแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องรถรา เรื่องเข่าเสื่อม   

พี่มิจเข้าใจเรื่องการเงิน   แน่นอนว่าการโอนเงินจากบัญชีและถอนเงินสะสมหลังเกษียณทีละมากๆ นั้นมันต้องสร้างความสงสัยให้ธนาคารและผู้บริหารกองทุนแน่ๆ  มิจเลยแนะนำเหยื่อให้อ้างว่าจะถอนเงินไปซื้ออสังหาริมทรัพย์  ไม่ก็เป่าหูเหยื่อให้หลงเชื่อว่าที่ข้อมูลฝากเงินของแกรั่วไหลเพราะมีคนในมีเอี่ยวกับมิจด้วย  พอคุณแบร์รี่ไปถอนงินแล้วจนท.แบงก์พยายามขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือคัดค้าน  แกก็คิดว่าแบงก์มีส่วนร่วมในอาชญากรรมเลยไม่อยากให้แกถอนเงินออก เลยเถียงแบงก์คอเป็นเอ็นว่ายังไงแกก็จะถอน  (คงคล้ายๆ อาม่าคนหนึ่งในเมืองไทยที่ญาติเตือนยังไงก็ไม่ฟัง)

พอแกถอนเงินจากกองทุนสะสมหลังเกษียณกองเดิมไม่สำเร็จ   มิจก็แนะนำให้แกโยกเงินไปอยู่อีกกองทุนหนึ่ง ซึ่งจะโอนเงินออกได้ง่ายกว่ากองทุนเดิม    เวลาโอนเงินออก มิจก็สั่งให้คุณแบร์รี่โอนเข้าบัญชีบิทคอยน์ซึ่งยากต่อการติดตาม   
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
*
ตอบ: 247


ความคิดเห็นที่ 3  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 10:26

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

อย่างที่บอกไปแล้วว่า  นอกจากคุณแบร์รี่จะสูญเงินที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิตเกือบหมดแล้ว  แกยังต้องจ่ายภาษีอาน  โทษฐานที่ถอนเงินสะสมหลังเกษียณออกมาใช้ทีละเยอะๆ    ซึ่งตอนนี้คุณแบร์รี่แกกำลังยื่นเรื่องขอผ่อนผันต่อกรมสรรพากรอเมริกันอยู่

จริงๆ ก่อนหน้านี้  สหรัฐเคยมีมาตรการทางกม.สำหรับช่วยคนที่ตกเป็นเหยื่อจากอาญากรรมทำนองนี้ในรูปแบบของการลดหย่อนภาษี   แต่มาตรการดังกล่าวถูกพรรครีพับลิกันยกเลิกไปในปี 2018 หลังจากที่ทรัมป์เข้ามาเป็นปธน.   ตอนนี้พรรคเดโมแครตกำลังเสนอร่างกม.ที่จะเอามาตรการนี้กลับเข้ามาในพรบ.ภาษีเงินได้ของสหรัฐอยู่  แต่กว่าจะผ่านคงต้องใช้เวลาสักพัก  และก็ไม่แน่ชัดว่าพรรครีพับลิกันจะสนับสนุนไหม
บันทึกการเข้า
ภศุสรร อมร
พาลี
****
ตอบ: 216


ความคิดเห็นที่ 4  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 10:41

ส่วนนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ได้มีเฉพาะทางอเมริกา คนไทยเองก็มีผู้สูงอายุโดนหลอกอย่างนี้อีกมากมาย
ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ปรกติหากเราตรองด้วยตรรกะ โลกหมุนเปลี่ยน โทคโนโลยีใหม่ผุดขึ้นมารวดเร็วดั่งดอกเห็ด หลายครั้งที่คนหลายคนเปลี่ยนตามไม่ทัน บางคนไม่คิดที่จะเปลี่ยนตามด้วยซำ้ คนที่รู้จักใช้เครื่องมือเหล่านี้ ก็สามารถหลอกคนที่ไม่รู้ได้เป็นเรื่องธรรมดา ตกได้ว่าเป็นธรรมชาติของโลกฉะนี้ ทำได้เพียงให้ความรู้คนเพียงเท่านั้น
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 5  เมื่อ 30 ก.ค. 24, 11:13

    เคยเจอเหมือนกันแต่รอดมาได้  เพราะตอบกลับไปว่าจะไปติดต่อด้วยตัวเอง  นางยังบอกเสียอีกว่า ไปที่กรมบัญชีกลาง ชั้น 7  ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินคือนาง บอกชื่อนามสกุลมาเสร็จ
    มีสารพัดค่ะ จากธนาคาร  จากหน่วยงานราชการต่างๆ  จากไฟฟ้า  ฯลฯ  รู้ชื่อนามสกุล ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชนด้วย   
     วิิธีเอาตัวรอดพ้นมิจฉาชีพคือ
     1   ไม่รับโทรศัพท์เบอร์ที่ไม่รู้จัก
     2   ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะทำงานที่ต้องติดต่อกับคนจำนวนมาก    ถ้ามีคนโทรเข้ามา พูดอะไรก็ตาม ตั้งแต่เรื่องคอขาดบาดตายเช่นคุณพัวพันยาเสพติด จนถึงเรื่องได้ลาภอย่างถูกรางวัลแจกแถมต่างๆ    ให้บอกว่าติดประชุมเดี๋ยวจะโทรกลับ   แล้วกดวางสายเลย
      เบอร์พวกนี้เป็นประเภทติดต่อกลับไม่ได้ค่ะ   พวกนี้โทรออกมาหาเราได้อย่างเดียว  เราเช็คได้จากโทรกลับไปแล้วจะพบว่าสายไม่ว่าง หรือเบอร์ระงับการใช้
     3   ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องโทรหาหรือรับสายจากญาติหรือเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ (หมายถึงโทร.นะคะ  ไม่เกี่ยวกับ LINE )  ให้ระงับสายโทรจากต่างประเทศ ตามนี้ค่ะ

  วิธีบล็็อคเบอร์โทรมิจฉาชีีพ  (แหล่งพวกมันอยู่ต่างประเทศ ) เราสามารถบล็อคไม่ให้เบอร์โทรจากต่างประเทศเรียกมาถึงเราได้
     : กด *138*1# และกดโทรออก
❌วันไหนอยากยกเลิก อยากให้เพื่อนจากต่างประเทศโทรหาได้ ก็ : กด *138*2# และกดโทรออก
ระบบเดิมก็จะกลับมา

ป.ล. ยังใช้ไลน์ได้ตามปกติค่ะ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 6  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 08:49

       เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 รายงานประจำปี 2566 ของฮูสคอลล์ (Whoscall) แพลตฟอร์มระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก และป้องกันสแปม พบว่า คนไทยถูกมิจฉาชีพหลอกลวงผ่านการโทรศัพท์ และส่งข้อความ 79 ล้านครั้ง เพิ่มมาจากปี 2565 ที่มี 66.7 ล้านครั้ง หรือ ร้อยละ 18

          ซึ่งเป็นตัวเลขการถูกหลอกที่สูงเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย ส่วนอันดับ 2 คือ ฟิลิปปินส์ และ อันดับ 3 คือ ฮ่องกง
         ข้อมูลนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้นำมาเปิดเผยในเวทีสัมมนา "วันตรวจสอบข่าวลวงโลก ปี 2567" เพื่อสร้างความตระหนักให้กับประชาชน ที่อาจตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพได้ง่าย พร้อมร่วมมือกับภาคีโคแฟค (Cofact) และ กรุงเทพมหานคร เปิดช่องทางสร้างการรับรู้ และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ

          ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ให้ความสำคัญกับภัยคุกคามออนไลน์ทุกรูปแบบ จึงร่วมโครงการครั้งนี้ เพื่อเร่งสร้างการรับรู้ และแนวทางป้องกันให้ประชาชน ขณะที่เครือข่ายโคแฟค ที่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านสื่อออนไลน์ตั้งแต่ปี 2563 ช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ถูกหลอกกว่า 5,000 คน โดยให้คำแนะนำผ่านเว็บไซต์ Cofact.org เปิดเผยว่า

          การหลอกลวงผ่านสื่อออนไลน์เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็ว จากเดิมที่เป็นการหลอกลวงผ่านข่าวปลอม เป็นการหลอกลวงด้วยการโทร และส่งข้อความหลอกโอนเงินเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ประชาชนมักถูกหลอกให้ซื้อสินค้าหรือบริการ หลอกโอนเงินเพื่อทำงาน และหลอกให้กู้เงิน



บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41289

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 7  เมื่อ 02 ส.ค. 24, 08:53

  หนึ่งในหลายๆสาเหตุที่คนไทยถูกหลอกมากที่สุด น่าจะเป็นว่ามิจฉาชีพได้ข้อมูลของเหยื่อไปไว้ในมือมากกว่าในประเทศอื่นๆ     เหยื่อโดยเฉพาะผู้ชราที่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี พอได้ยินว่าอีกฝ่ายบอกชื่อ นามสกุล ที่อยู่ในบัตรประชาชนและเลขบัตรได้ถูกต้องก็เชื่อสนิทว่า โทรมาจากหน่วยราชการจริงๆ    ถ้าไม่ใช่หน่วยงานราชการใครภายนอกจะรู้ได้ล่ะ   
   นอกจากหน่วยงานราชการ ธนาคารก็เช่นกัน    แล้วก็รัฐวิสาหกิจเช่นไฟฟ้า    มิจฉาชีพรู้ข้อมูลหมด
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.05 วินาที กับ 20 คำสั่ง