ยินดีต้อนรับ
ท่านผู้มาเยือน
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
หน้าแรก
ตู้หนังสือ
ค้นหา
ข่าว
: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
เรือนไทย
>
General Category
>
หน้าต่างโลก
>
3 อาทิตย์แห่งฝันร้ายของทรัมป์
หน้า: [
1
]
พิมพ์
อ่าน: 2480
3 อาทิตย์แห่งฝันร้ายของทรัมป์
ปัญจมา
อสุรผัด
ตอบ: 247
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 12:19
นับตั้งแต่คุณปู่ไบเดนถอนตัวออกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อ 3 อาทิตย์ก่อน ทรัมป์ก็ดูเหมือนคนที่อยู่กับฝันร้าย
ถึงแม้ทีมงานและคนใกล้ตัวทรัมป์จะคาดการณ์มาก่อนแล้วล่วงหน้า แต่พอคุณปู่แกถอนตัวขึ้นมาจริงๆ ทรัมป์ก็ดูเหมือนจะไปต่อไม่ถูก ความมั่นใจที่สั่งสมมาหลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อกลางเดือนกค.ที่ทำให้ความนิยมของทรัมป์พุ่งกระฉูดในระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรคนั้นไม่รู้หายไปไหนหมด
สาเหตุก็มาจากปรากฎการณ์กมลา หรือ “Kamalanomenon” อันเป็นปรากฎการณ์ที่สื่อเกือบทุกสำนักระบุว่าไม่ได้เห็นในการเมืองอเมริกามาตั้งแต่สมัยโอบาม่าลงแข่งขันเมื่อปี 2008 แล้วนั่นเอง
เพียงชั่วเวลาข้ามคืน คุณกมลาก็สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนในพรรคมากพอที่จะได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้สมัครอย่างไม่เป็นทางการ
แค่ไม่ถึงเดือน แคมเปญของนางสามารถระดมทุนได้มากถึง 300 ล้านเหรียญ มากกว่าที่ทรัมปป์ระดมได้ในเดือนกค.ทั้งเดือนถึง 2 เท่า ที่สำคัญ 2 ใน 3 ของผู้บริจาคทั้งหมดคือคนที่เพิ่งบริจาคเป็นครั้งแรก แปลว่าถึงเศรษฐกิจไม่ดีแต่ยังไงก็ต้องเจียดเงินไปช่วยผู้สมัครที่ตัวเองชื่นชม คล้ายๆ กับสิ่งที่เกิดกับพรรคใหม่ในบ้านเราพรรคหนึ่ง
มีผู้สนับสนุนมากมายไปจัดตั้งกลุ่มก้อนกันขึ้นมาช่วยคุณกมลาระดมทุนหาเสียงและตั้งชื่อกลุ่มตามสำมโนประชากรของตัวเอง เช่น สาวผิวดำเพื่อกมลา สาวผิวขาวเพื่อกมลา ชายผิวดำเพื่อกมลา ลาติโน่ลาติน่าเพื่อกมลา แม้กระทั่ง White Dudes for Kamala (ชายผิวขาวเพื่อกมลา) ซึ่งมีดาราฮอลลีวู้ดดังๆ อย่างเจฟฟ์ บริดเจสและแบรดลี่ย์ วิทฟอร์ดเป็นสมาชิกก็ยังมี เวลาจัดประชุมออนไลน์ทีได้ข่าวว่าซูมแตกค่ะ คนมาแจมกันเป็นหมื่นเป็นแสนจนผู้จัดต้องขอให้ซูมขยายจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม
ที่สำคัญ ความกระตือรือร้นของโหวตเตอร์ทั้งในระดับชาติและระดับรัฐขณะนี้ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างเป็นปรากฎการณ์ เพราะคุณกมลาสามารถหลอมรวมฐานเสียงของพรรคเดโมแครตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แตกแยกเหมือนสมัยปู่ไบเดน แถมยังสร้างความตื่นตัวและสนอกสนใจในพรรคเดโมแครตให้แก่โหวตเตอร์ที่ไม่ใช่ฐานเสียงธรรมชาติของพรรคได้มากกว่าสมัยปู่อีกด้วย
ดังนั้น โพลแต่ละโพลที่ทำกันออกมาในช่วงหลังๆ นี้จึงชี้ให้เห็นว่าคุณกมลามารถตีตื้นขึ้นมาได้ในหลายๆรัฐที่เป็นสนามรบซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง ที่เขาเรียกว่า battleground states หรือ swing states ชนิดที่ว่าถ้าไม่สูสีกันมาก คุณกมลาก็เริ่มจะนำทรัมป์อยู่ 4-5 จุดแล้ว ไม่เหมือนสมัยปู่ไบเดนที่ทรัมป์ทิ้งห่างอยู่หลายขุม
เครดิตภาพ: CBS (NYT/Sienna College Poll early August 2024)
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
ตอบ: 247
ความคิดเห็นที่ 1
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 12:21
ที่แย่ไปกว่านั้นคือ คุณกมลาแย่งพื้นที่สื่อซึ่งถือเป็นเวทีหาเสียงแบบไม่ต้องจ่ายตังค์ไปจากทรัมป์จนหมด ตั้งแต่ 22 กค.เป็นต้นมาถนนทุกสายก็พุ่งไปที่คุณกมลา เปิดฟีดแต่ละทีจะมีแต่ข่าวว่าวันนี้นางจะไปไหน จะทำอะไร จะเลือกใครมาเป็น Running Mate หรือรองปธน. ไม่มีใครสนใจทรัมป์เหมือนเมื่อก่อน อันนี้คนใกล้ชิดบอกทรัมป์ทนไม่ด้ายยยย
นอกจากนี้ทางฝั่งคุณเจดีย์ (Running Mate ของทรัมป์) ก็เปิดตัวมาด้วยข่าวเสียๆหายๆ ไม่สร้างแรงจูงใจให้ swing voters ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด้เลย มีทั้งเหน็บนักการเมืองหญิงในพรรคเดโมแครตว่าเป็น childless cat ladies ทาสแมวที่ปราศจากทายาท ทั้งเสนอว่าคนที่มีลูกควรได้สิทธิโหวตในการเลือกตั้งมากกว่าคนที่ไม่มีลูก เป็นการด้อยค่าผู้หญิงทำงานยุคใหม่ที่ไม่ยึดติดกับขนบธรรมเนียมของการเป็นแม่เหมือนเมื่อก่อน ถึงสิ่งที่แกพูดนี่มันจะเป็นการเอาของเก่ามารีไซเคิล แต่คนใรพรรครีพับลิกันก็กังวลว่ามันจะทำให้พรรคเสียคะแนนเสียงจากโหวตเตอร์ที่เป็นสตรีในเขตเมืองไป ถึงขนาดมีการกระซิบกระซาบกันว่าเปลี่ยนตัวดีกว่ามั้ย
โดยธรรมชาติของทรัมป์เมื่อตกเป็นเบี้ยล่างก็ต้องชิงพื้นที่สื่อคืนมา พอดีกันกับที่ฮีได้รับเชิญไปให้สัมภาษณ์ในระหว่างการประชุมใหญ่ของสมาคมผู้สื่อข่าวผิวดำแห่งสหรัฐอเมริกาที่ชิคาโก ทีมงานเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่ทรัมป์จะได้ใช้เวทีดังกล่าวโน้มน้าวโหวตเตอร์ผิวดำให้หันมาเลือกเขา เพราะโพลในช่วงที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า หัวคะแนนธรรมชาติของพรรคเดโมแครตอย่างคนผิวดำ ลาติโน่ลาติน่า หรือคนเอเชีย เริ่มจะหันเหออกจากพรรคและโอนเอียงมาทางทรัมป์มากขึ้น
แต่ทรัมป์ก็คือทรัมป์ He can’t help himself. แทนที่จะไปท่องสคริปต์เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการสร้างงานและกีดกันคนต่างด้าวไม่ให้มาแย่งงานของคนอเมริกันไป ฮีก็ดันไปตั้งคำถามกลางงานว่าตกลงคุณกมลานี่แกเป็นคนอินเดียนหรือคนผิวดำกันแน่ แถมยังอ้างว่าสมัยก่อนนาง PR ตัวเองว่าเป็นอินเดียนจ๋า ไม่กี่ปีที่ผ่านมา อ้าว เป็นคนผิวดำไปซะแล้ว ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเฟคนิวส์ เพราะคุณกมลาบอกตั้งแต่มาเล่นการเมืองใหม่ๆ แล้วว่าแม่นางเลี้ยงมาให้เป็นคนผิวดำ พอจบมัธยมแล้วนางยังไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสำหรับนักเรียนผิวดำที่ตั้งอยู่ในดีซี ตอนนางขึ้นเป็นรองปธน. นางก็สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะรองปธน.คนแรกที่เป็นสตรีผิวดำ
ส่วนทีมงานทรัมป์ถึงจะเหงื่อตกอยู่บ้าง เพราะการโจมตีคู่แข่งที่ identified ว่าเป็นคนผิวดำชัดเจนนั่นทำให้ทรัมป์ดูแย่ในสายตาแบล็คโหวตเตอร์ แต่ใครล่ะจะกล้าบอกทรัมป์ว่าท่านผิด ผิดแล้วก็ต้องเชิดหน้าต่อเหมือนไม่ผิดสิคะ ทีมงานเลยไปควานหาวิดีโอเก่าที่คุณกมลาทำอาหารอินเดียกับมินดี้ คาลิง ดาราตลกหญิงเชื้อสายอินเดียนมาให้นายโพสต์เพื่อยืนยันว่า “นี่ไงๆ นาง PR ความเป็นอินเดียนออกสื่อ เห็นมั้ย”
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
ตอบ: 247
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 12:23
จากนั้นไม่กี่วัน ทรัมป์ก็ไปหาเสียงที่รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐที่จัดว่าเป็น swing state รัฐหนึ่ง เพราะนอกจากจอร์เจียจะมีคะแนนจากคณะเลือกตั้งสูงถึง 16 คะแนนแล้ว รัฐนี้ยังเป็นรัฐที่ทรัมป์ชนะขาดด้วยคะแนนเสียง 50.4% ต่อ 45.3% ของฮิลลารี่ คลินตันในปี 2016 แต่แพ้ไบเดนไปแบบเฉียดฉิวในปี 2020 ด้วยคะแนนเสียง 49.24% ต่อ 49.47% ของไบเดน เท่ากับว่าโหวตเตอร์แค่หมื่นหนึ่งพันกว่าคนในรัฐนี้สามารถตัดสินอนาคตการเลือกตั้งปธน.ของทั้งประเทศได้ (จำเรื่องที่ทรัมป์ยกหูโทรศัพท์คุยกับข้าราชการของรัฐจอร์เจียเพื่อกดดันให้คนที่นั่นช่วยหาคะแนนเสียงเพิ่มให้เขาอีกหมื่นกว่าคะแนนได้ไหมคะ คดีนั้นก็ยังค้างอยู่ในศาลมาจนทุกบัดนี้)
ด้วยความที่ทรัมป์เป็นคนที่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองและเจ้าคิดเจ้าแค้น ฮีก็เลยใช้เวลาในระหว่างการปราศรัยที่จอร์เจียโจมตีนายไบรอัน เคมพ์ ผู้ว่าการรัฐ ว่าเป็นคนไม่จงรักภักดี (เพราะไม่ยอมช่วยฮีโกงเลือกตั้ง) และกล่าวหาว่าผู้ว่าฯคนนี้ทำให้สถานการณ์ในรัฐแย่ลง ทั้งๆ ที่ตุณเคมพ์แกป๊อปมาก ได้รับการยอมรับจากนักการเมืองและคนในท้องถิ่นจากทั้งสองฟากฝั่ง ซึ่งหาได้ยากมากในปัจจุบัน แถมคะแนนนิยมแกก็สูงกว่าทรัมป์เยอะ เพราะอยู่ที่ 63%
ยังไม่จบเท่านั้น พอวันศุกร์ทรัมป์ก็จัดงานแถลงข่าวที่บ้านพักในรัฐฟลอริด้า พูดจาสะเปะสะปะตลอดการแถลงข่าว1 ชม. ทั้งโจมตีคู่ต่อสู้ ทั้งกระจายเฟคนิวส์ตามประสา แต่ที่สื่อหลายเจ้าขำหนักมากคือทรัมป์รำพึงรำพันกับตัวเองถึงไบเดนในบางช่วง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าฮียังตั้งหลักไม่ได้ที่ฝ่ายตรงข้ามเปลี่ยนตัวคู่ชก มีพูดว่าสงสารไบเดนนะ พรคคนี้มันโหดเหี้ยมอำมหิตกับปู่มาก นี่เดี๋ยวพอถึงงานประชุมใหญ่ของพรรคในกลางเดือนสค. ไบเดนจะกลับไปขึ้นเวทีทวงสถานะผู้สมัครคืนจากคุณกมลาแน่ๆ เอ๊ะ แล้วที่เขาทำกับไบเดนนี่มันผิดรัฐธรรมนูญรึเปล่าอ่ะ พอมีนักข่าวจี้ถามว่าผิดมาตรไหนทรัมป์ก็ทำเป็นกลับคำพูด (ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยโพสต์ลอยๆ ว่าพรรคเดโมแครตควรจะจ่ายเงินชดเชยให้กับฮี เพราะฮีทุ่มทั้งเวลา ทั้งเอเนอร์จี้ และเงินเป็นสิบๆ ล้านไปกับการรณรงค์โจมตีปู่ไบเดน จู่ๆ ก็มาเปลี่ยนคู่ชกกลางคันทำให้ฮีเสียหาย)
แค่ 3 อาทิตย์เท่านั้น เหตุการณ์มันกลับตาลปัตรมาก โอกาสที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งนั้นชักจะไม่แน่นอนเสียแล้ว จากที่เคยเป็นชนะแน่แต่จะชนะเท่าไหร่อีกเรื่องหนึ่ง ต้องจับตากันต่อค่ะว่าที่เหลืออีกไม่ถึง 3 เดือนถัดไปนี้จะเป็นอย่างไร
ที่แน่ๆ ทรัมป์แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าฮีเห็นคุณกมลาเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยฉลาด เก่งแต่พูดตามสคริปต์ ถ้าให้ออกไปรับมือกับสื่อแบบไม่มีสคริปต์คงเจ๊ง เลยท้านางไปดีเบตอีก 3 รอบ โดยยอมที่จะไปออกทีวีช่องที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับตัวเองถึง 2 ใน 3
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
ตอบ: 247
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 12:30
อันนี้เป็นโพลของ CNN ที่แสดงให้เห็นว่าคุณกมลาทั้งช่วยกระตุ้นให้โหวตเตอร์ที่ไม่ใช่ฐานเสียงดั้งเดิมหันมาสนใจพรรคมากขึ้น และหลอมรวมฐานเสียงพรรคเดโมแครตให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ (เพราะสมัยไบเดนนั้นความต้องการของฐานเสียงแต่ละกลุ่มมันขัดแย้งกันอย่างค่อนข้างมาก อันเนื่องมาจากนโยบายกาซ่าของไบเดน และปัจจัยเรื่องอายุของผู้สมัคร)
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
ปัญจมา
อสุรผัด
ตอบ: 247
ความคิดเห็นที่ 4
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 12:31
อันนี้เป็นโพลที่ไฟแนนเชียลไทม์สทำร่วมกับมหาวิทยาลัยในรัฐมิชิแกน แสดงให้เห็นว่าคนอเมริกันเชื่อว่าคุณกมลาสามารถดีลกับปัญหาปากท้องได้ดีพอๆ กับทรัมป์ และมากกว่าไบเดน
บันทึกการเข้า
ประกอบ
สุครีพ
ตอบ: 1414
ความคิดเห็นที่ 5
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 16:28
อ่านสนุกเลยครับ ชอบ ๆ
บันทึกการเข้า
วิรุศฑ์ษมาศร์ อัฐน์อังการจณ์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 41289
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
ความคิดเห็นที่ 6
เมื่อ 13 ส.ค. 24, 16:58
คั่นรายการด้วยเรื่องเบาๆ
เมื่อครั้งกมลา แฮร์ริส ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เธอมาเยือนประเทศไทย ตอนนั้นมีข่าวว่าเจ๊ควงสามี นายดักกลาส เอ็มฮอฟฟ์ไปเดินตลาด อ.ต.ก. เพื่อช็อป “พริกแกงเขียวหวาน” “พริกแกงแดง” พร้อมเครื่องปรุง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอบกลับอเมริกา
โดยมีสื่อไทยไปเจาะลึกถึงตัวสามีของนางกมลา แฮร์ริส ที่แยกมาเดินตลาดปากคลองตลาดด้วย โดยนายดักกลาสเล่าว่า เขาไม่พลาดที่จะกินผัดไทย ในการมาไทยหนนี้
พร้อมเล่าว่า วันที่คุกเข่าขอรองประธานาธิบดีสหรัฐฯแต่งงาน เขาไปร้านอาหารไทย เตรียมสั่งผัดไทยกินกัน นางกมลาถามเขาว่า จะกินผัดไทยกุ้งหรือผัดไทยไก่ นายดักลาสเลยคุกเข่า กล่าวว่า “แต่งงานกับผมนะ ผมชอบอาหารไทยทุกประเภทเลย”
จากผู้จัดการออนไลน์
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
พิมพ์
กระโดดไป:
เลือกกระทู้:
-----------------------------
General Category
-----------------------------
=> ศิลปะวัฒนธรรม
=> ภาษาวรรณคดี
=> ระเบียงกวี
=> ชั้นเรียนวรรณกรรม
=> หน้าต่างโลก
=> ประวัติศาสตร์โลก
=> ประวัติศาสตร์ไทย
=> ทันกระแส
=> วิเสทนิยม
=> ห้องหนังสือ
=> ชมรมอนุรักษ์ภาพจิตรกรรมไทย
Powered by SMF 1.1.21
|
SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder
XHTML
|
CSS
|
Aero79
design by
Bloc
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.035 วินาที กับ 20 คำสั่ง
Loading...