แฮร์ริสกับทรัมป์: ใครจะแย่น้อยกว่ากันสำหรับจีน

[ปัญจมา]

ไม่ว่าคามาล่า แฮร์ริสหรือโดนัลด์ ทรัมป์จะเป็นผู้ชนะการแข่งขันประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรอบนี้ก็เป็นเสมือน “ยาพิษ” สำหรับจีนด้วยกันทั้งสิ้น  
_ _ _ _

จีนให้ความสนใจกับการเลือกตั้งปธน.ครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะมันจะเป็นตัวตัดสินสัมพันธภาพระหว่างจีนกับสหรัฐฯ (ซึ่งทุกวันนี้ก็ง่อนแง่นอยู่แล้ว) ในอีก 4 ปีข้างหน้า

ถ้าดูเผินๆ ก็เหมือนว่าคุณกมลาจะดีกว่าสำหรับจีน  เพราะเธอน่าจะคาดเดาได้ง่ายกว่าทรัมป์   คนที่จะเข้ามาทำงานในรัฐบาลเธอก็น่าจะมีความรู้ความสามารถและเข้าใจประเด็นอ่อนไหวในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผิดกับทรัมป์ที่จะเลือกแต่คนที่จงรักภักดีต่อแกเท่านั้น  

ถึงกระนั้นเราก็ยังฟันธงไม่ได้ 100% ว่าคุณกมลาจะไม่แย่สำหรับจีนมากเท่าทรัมป์  เพราะจนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจุดยืนที่แท้จริงของเธอต่อนโยบายต่างประเทศอยู่ตรงไหน  ตั้งแต่เริ่มหาเสียงมาคุณกมลาก็ไม่ค่อยได้พูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ คงเพราะนโยบายต่างประเทศไม่ค่อยมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีสิทธิออกเสียงมากนัก (ยกเว้นเรื่องสงครามในกาซ่าสำหรับการเลือกตั้งรอบนี้)  

ในสุนทรพจน์ตอบรับการเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งปธน.  คุณกมลาใช้เวลาแค่กระจึ๋งเดียวพูดถึงนโยบายต่างประเทศ  แถมครึ่งหนึ่งของกระจึ๋งที่ว่าก็เป็นการโจมตีทรัมป์เรื่องหันหลังให้พันธมิตรแต่ไปอี๋อ๋อกับเผด็จการอีก   ในขณะที่ทรัมป์พูดถึงจีนตั้ง 14 ครั้งในสุนทรพจน์ตอบรับของแก คุณกมลาพูดถึงจีนสั้นๆ หนเดียว  พอไปให้สัมภาษณ์ CNN ในอาทิตย์ถัดไป   เรื่องต่างประเทศเรื่องเดียวที่เธอพูดถึงก็คือสถานการณ์ในกาซ่า  

ประสบการณ์ทรัมป์ 1.0 ทำให้จีนพอจะเดาได้คร่าวๆ ว่าทรัมป์ 2.0 จะส่งผลยังไงกับตัวเองบ้าง  แต่กมลา 1.0 จะเป็นยังไงไม่มีใครบอกได้   การจะเตรียมตัวรับมือกับปธน.หญิงกมลาจึงต้องอาศัยการคาดเดาจากประวัติการทำงานของเธอในอดีตเป็นหลัก    

มีการคาดว่าเธอจะแข็งกร้าวกับจีนในเรื่องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย   ขณะที่ทรัมป์จะดีกว่าสำหรับจีนตรงที่แกไม่สนใจเรื่องแบบนี้

แต่แผนการของทรัมป์ที่จะคิดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60% และคิดภาษีสินค้านำเข้าทุกชนิดอย่างน้อย 10% นั้นจะทำให้เศรษฐกิจโลกปั่นป่วนไปหมด     ไม่ใช่แค่จีนเท่านั้น  

การเป็นผู้รักษากฎหมายในอดีตจะมีอิทธิพลมากต่อวิสัยทัศน์ด้านต่างประเทศของคุณกมลา  ทำให้เธอเน้นการยึดถือกฎเกณฑ์และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสำคัญ  ซึ่งคงจะไม่เป็นผลดีต่อจีนเท่าไหร่  

ที่ผ่านมานั้นคุณกมลาถูกสื่อมองว่าอ่อนประสบการณ์ด้านการต่างประเทศ   แต่คนในวงการกลับเห็นว่าเธอมีโอกาสได้เรียนงานจากปธน.ที่มีความรอบรู้เรื่องต่างประเทศดีที่สุดคนหนึ่งอย่างไบเดนมานานถึง 4 ปี     แถมผ่านการ “ฝึกงาน” ในเอเชียมาแล้วอย่างเข้มข้น   ปธน.กมลาจึงน่าจะให้ความสนใจกับภูมิภาคนี้มากกว่าไบเดนหรือทรัมป์  

ทรัมป์มองทุกอย่างเป็นธุรกิจที่ต้องมีการแลกเปลี่ยน  ไม่เว้นแม้แต่การทูต   คิดแต่ว่าตัวเองจะได้อะไรจากเรื่องนั้นๆ     มีแนวโน้มสูงว่าทรัมป์ 2.0 จะทำให้อเมริกาหันหลังให้นาโต้และไต้หวัน  รวมทั้งหยุดการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน

อีโกัและความหิวแสงทำให้ทรัมป์มักจะตัดสินใจอะไรที่ตัวเองได้หน้าแต่นานาชาติลำบาก  จึงเป็นไปได้ที่แกจะไปทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือที่ไม่เป็นผลดีต่อภูมิภาค   และปิดดีลกับรัสเซียในแบบที่เป็นผลเสียต่อยูเครนและนาโต้

ความคลั่งไคล้ผู้นำอย่างสีจิ้นผิง ปูติน และคิมจองอึนของทรัมป์เป็นผลดีสำหรับจีน   เพราะมันทำให้ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในเวทีโลกถดถอย   ยิ่งอเมริกาตกต่ำมากเท่าไหร่  จีนก็จะยิ่งดูดีมากขึ้นเท่านั้นในสายตาของประเทศที่ต้องพึ่งพาจีน  

ที่ผ่านมานั้นคุณกมลาถูกสื่อมองว่าอ่อนประสบการณ์ด้านการต่างประเทศ   แต่คนในวงการกลับเห็นว่าเธอพิเศษกว่ารองปธน.คนอื่นๆ ตรงที่ได้เรียนงานจากปธน.ที่มีความรอบรู้เรื่องต่างประเทศดีที่สุดคนหนึ่งอย่างไบเดนมานานถึง 4 ปี

ประสบการณ์ในเอเชียทำให้เธอเข้าใจดีว่าเสถียรภาพของภูมิภาคนี้คือกุญแจสู่ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของอเมริกา ปธน.กมลาจึงน่าจะให้ความสนใจกับเอเชเอเชียมากกว่าไบเดนหรือทรัมป์  

[ปัญจมา]

ถ้าสนใจไปหาอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่นะคะ   https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0oLyQ1Va6g5Vr8XRsopXMNwn699B3q6EanRKkWezDJGPwp6CEe9Y7JuHVLuD3UFw3l&id=61564539505812

[เพ็ญชมพู]

ถ้าสนใจไปหาอ่านฉบับเต็มได้ที่นี่นะคะ   https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0oLyQ1Va6g5Vr8XRsopXMNwn699B3q6EanRKkWezDJGPwp6CEe9Y7JuHVLuD3UFw3l&id=61564539505812

ที่เดียวกัน https://www.facebook.com/share/tAGYkBnUUeWQzgZy

[ปัญจมา]

ที่เดียวกัน https://www.facebook.com/share/tAGYkBnUUeWQzgZy
[/quote]  ขอบคุณค่ะ