เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
อ่าน: 19897 ข้อสังเกตและเกร็ดบางประการ จาก "หนึ่งในร้อย" ของ ดอกไม้สด
SILA
หนุมาน
********
ตอบ: 8424


ความคิดเห็นที่ 45  เมื่อ 17 ต.ค. 24, 15:04

          ขอแวะเข้าซอยตื้นๆ อีกครั้ง

          สามสี่วันก่อนคุณหนุ่มรัตนะ ลงฟบ.

การไว้ทุกข์นุ่งขาว-นุ่งดำ

         การไว้ทุกข์ของไทยสมัยโบราณมีการไว้ทุกข์สำหรับคนในบ้านมีการนุ่งขาว นุ่งขาวลาย นุ่งดำ นุ่งน้ำเงิน นุ่งสีนกพิราบ
บางทีก็โกนหัว แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับจีนจะนุ่งขาวตลอดไป สีขาวใช้นุ่งในวันปลงศพตลอดจนนุ่งในการทำบุญ 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน
         ส่วนญาติและแขกผู้ใหญ่มักจะนุ่งดำ ส่วนคนอื่นจะนุ่งน้ำเงินหรือสีนกพิราบ ซึ่งการนุ่งน้ำเงินเห็นจะนิยมขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 6
เมื่อครั้งมีเครื่องแบบข้าราชการพลเรือนที่นุ่งผ้าม่วงสีน้ำเงิน การไปช่วยงานศพเมื่อผู้ไปไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ตาย แต่ประสงค์จะให้เป็น
เกียรติยศแก่งาน ก็นุ่งเครื่องแบบราชการพลเรือนนุ่งผ้าม่วงสีน้ำเงิน
         ส่วนผู้ไปงานศพที่แต่งชุดไม่เข้าในลักษณะทั้งหมดนี้ถ้าแต่งดำไปหรือไม่ดำล้วน ก็จะนุ่งดำติดปลอกดำพันที่แขนเสื้อ
การที่ไม่ใช่ญาติแล้วแต่งขาวไปงานศพ ก็จะถูกญาติผู้ตายมองค้อนเอาได้ ในทางฝ่ายจีนก็จะพันปลอกแขนดำแยกย่อยคือ
ติดปลอกแขนขวาว่าไว้ทุกข์ให้พ่อ ติดปลอกแขนซ้ายว่าไว้ทุกข์ให้แม่
         ในสมัยรัชกาลที่ 5 ตรงกับปีพุทธศักราช 2430 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งธรรมเนียมการนุ่งห่มขาวห่มดำ
สำหรับการไว้ทุกข์ขึ้นใหม่ให้เป็นระเบียบกว่าเดิมความตอนหนึ่งว่า
         “....แลถ้าผู้ไว้ทุกข์เปนญาติสนิทแลมีอายุอ่อนกว่าก็ดี ฤๅไม่ได้เปนญาติกันเลยแต่มีบันดาศักดิ์ต่ำกว่า
ฤๅจะแสดงความนับถืออย่างยิ่งก็ดี ให้แต่งตัวขาวล้วนเปนชั้น ๑ ตามอย่างธรรมเนียมบ้านเมืองที่ใช้กันสืบมาแต่โบราณ
          ถ้าผู้ไว้ทุกข์เปนญาติสนิทแลมีอายุแก่กว่าก็ดี ฤๅเปนญาติห่างแลมีอายุอ่อนกว่าก็ดี ฤๅไม่ได้เปนญาติกันเลยแต่มี
บันดาศักดิ์สูงกว่า จะไว้ทุกข์ให้เปนเกียรติยศก็ดี ให้แต่งตัวดำล้วนดังนี้ ให้เลิกธรรมเนียมไว้ทุกข์สำหรับงานศพอย่างแต่ก่อน
นั้นเสีย ให้ใช้ธรรมเนียมแบบที่ตั้งใหม่นี้ ตั้งแต่งานพระศพ สมเด็จพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาหา กรมสมเด็จพระบำราบ
ปรปักษ์ ครั้งนี้สืบไป....”
          สังคมไทยผ่านมาจนกระทั่งปีพุทธศักราช 2484 การไว้ทุกข์ของคนไทยมีความหลากหลาย ทางรัฐบาลจอมพล
ป. พิบูลสงครามจึงได้ทำการจัดระเบียบการแต่งกายไว้ทุกข์ขึ้นใหม่โดยประกาศให้
          ฝ่ายชายสวมเสื้อนุ่งกางเกงขาว ถุงเท้าดำ รองเท้าทำ พันปลอกแขนไว้ทุกข์ และสำหรับสุภาพสตรีให้แต่งกายดำล้วน
ส่วนจำนวนวันไว้ทุกข์นั้นทางประเพณีมีการไว้ทุกข์ 7 วัน 50 วัน 100 วัน 1 ปี แต่สำหรับในราชสำนักในสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น
กำหนดระเบียบวันไว้ทุกข์ตามลำดับฐานะศักดิ์ที่แตกต่างกัน เช่น 7 วัน 15 วัน 30 วัน 40 วัน เป็นต้น

ข้อมูล
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศนุ่งขาวนุ่งดำ 2430
ราชกิจจานุเบกษา ประกาศการแต่งกายไว้ทุกข์ในงานศพ 2484
ประเพณีเนื่องในการตาย- พระยาอนุมานราชธน


คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 46  เมื่อ 24 ต.ค. 24, 13:03

อนงค์กับคุณพระน่าจะอยู่กันได้ในชีวิตสมรสสมัยพ.ศ. 2477  แต่ถ้าเป็นยุคปัจจุบัน   ถ้าอนงค์เป็นลูกสาวดิฉัน  ดิฉันจะคัดค้านเต็มที่ไม่ให้แต่งงานกับผู้ชายอย่างพระอรรถคดีวิชัย   เพราะยังไงก็ไปไม่รอด 
   ยังไม่มีใครมาตอบอีก  ก็ขอตอบไม่ให้กระทู้ตกหน้าไปก่อนค่ะ
   ข้อบกพร่องที่สำคัญที่สุดของพระอรรถคดีวิชัย คือความเมตตากรุณาต่อคนรอบข้าง ไม่ว่าคนในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงคนรู้จัก  โดยไม่คิดว่ามนุษย์แต่ละคนมี "ธรรมชาติ" (หรือโบราณเรียกว่า 'สันดาน' )ผิดกัน  นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือเฉพาะในด้าน "วัตถุ" แต่ไม่ใช่ด้าน"จิตใจ"   
   ตัวอย่างแรกคือคุณนายชื่น  ผู้มีนิสัยเห็นแก่ตัว งกเงินและผลประโยชน์ ลำเอียงรักลูกไม่เท่ากัน   ปราศจากความเห็นใจผู้อาภัพแม้แต่ลูกสาวตัวเอง   เรียกว่าน่าตำหนิที่สุดเท่าที่ตัวละครตัวหนึ่งจะถูกสร้างขึ้นมาได้ วิชัยไม่ได้คำนึงเลยว่าจะช่วยให้แม่ตนเองลดความเห็นแก่ตัวเหล่านี้ลง  คงมอบแต่ทางวัตถุเช่นเงินเดือน   ของฝากของกินที่แม่ชอบ  ถึงกล้าดื้อดึงกับแม่ในเรื่องที่เห็นว่าไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่เคยอธิบายให้แม่เข้าใจได้ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร เรียกว่าเป็นลูกชายที่สปอยล์แม่ตั้งแต่ต้นจนจบ
   ตัวอย่างที่สองคือน้องชาย ร้อยตรีชัด   เป็นชายหนุ่มที่ถอดนิสัยแม่ด้านเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว  เมื่อชอบจันทรก็ไม่ได้คำนึงว่าพี่ชายชอบอยู่ก่อนหรือไม่   ถ้าวิชัยเป็นคนคำนึงถึงธรรมชาติของน้องชายอยู่บ้างก็น่าจะรู้ว่าผู้ชายแบบชัดได้ใครเป็นภรรยา ไม่ช้าก็เร็วเป็นต้องเบื่อ  แล้วก็มีคนที่สองที่สามตามมา  ภรรยาก็มีแต่อกไหม้ไส้ขม   วิชัยไม่คิดให้รอบคอบว่าถ้าจันทรเป็นน้องสาว   เขาควรยกให้น้องเขยนิสัยอย่างชัดหรือเปล่า    เขาคิดแต่เพียงว่าอะไรที่คนในครอบครัวเขาอยากได้ ถ้าเขาอยู่ในฐานะที่ให้ได้ ก็จะให้แบบไม่คิดอะไรมากกว่านั้น
   อนงค์แต่งงานไปกับวิชัย  คงจะรู้หลังแต่งว่าอันดับความสำคัญของสามีคือแม่และน้องๆ  ไม่ใช่เธอ   ถ้าแม่และน้องไม่มาเบียดเบียนเรื่องเงินๆทองๆ หรือเรียกร้องให้วิชัยช่วยเหลือสารพัดเรื่อง  เธอกับวิชัยก็คงอยู่กันปกติสุข      แต่ถ้าคนในบ้านของเขาก่อเรื่องขึ้นมา   วิชัยจะช่วยเหลือภรรยาไม่ได้ เพราะเขามีนิสัยยอมให้แม่และน้องเอาเปรียบอยู่แล้ว  อนงค์ก็ต้องทนคนเหล่านี้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง    ถ้าหากว่าอนงค์ไม่ยอม   เธอกับสามีก็จะมีปัญหากัน   ส่วนแม่และน้องๆของวิชัยก็ลอยตัว 
    เห็นอนาคตที่ "ดอกไม้สด" ไม่ได้เขียนไว้แล้ว   อยากจะเขียนภาค 2 เสียจริงๆ แลบลิ้น 
บันทึกการเข้า
พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่
มัจฉานุ
**
ตอบ: 74


ความคิดเห็นที่ 47  เมื่อ 24 ต.ค. 24, 22:30

น่าลุ้นเหมือนกันครับ ทำให้ผมขึ้นได้ว่าเคยอ่านเจอจากที่ไหนสักที่ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องความฝันครั้งที่สองอาจจะโต้กลับเรื่องความผิดครั้งแรก
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 41269

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 48  เมื่อ 25 ต.ค. 24, 08:10

น่าลุ้นเหมือนกันครับ ทำให้ผมขึ้นได้ว่าเคยอ่านเจอจากที่ไหนสักที่ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องความฝันครั้งที่สองอาจจะโต้กลับเรื่องความผิดครั้งแรก
มีคนอ่านคิดอย่างนี้ด้วยหรือ   ไม่เคยอ่านพบค่ะ
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.035 วินาที กับ 20 คำสั่ง